【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35  (อ่าน 231471 ครั้ง)

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
เชื่อว่าคุ้มค่าจิดตามอ่านและรอค่ะ จะติดตามและรออ่านไปเรื่อยๆนะคะ
คนอต่อัพถี่มาก 555555 o13

งง ความรักของสองคนนี้ มันดูซับซ้อนเหลือเกิน
ไม่เข้าใจว่าชอบกันได้ไง ถึงทุกวันนี้จะดูแค้นกันมากกว่าก็เถอะ แต่ดูออกว่าเคยมีความรู้สึกดีๆ (ได้ไง นั่นสิเนอะ555)
//คู่หมั้นราชาเอลฟ์ดูร้ายเงียบๆ น่ากลัวจัง 555

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
เจ๋งเลยโคลด์ ตอนแรกก็งงอยู่ว่าทำไมให้ไปง่ายๆ ซิกฟรีดคงแทบคลั่ง55
จริงๆ เขาก็ร้ายละเนอะ ที่เงียบๆ มาแต่ต้นคือเงียบๆ ให้ตายใจไงคะ *0*

สมน้ำหน้าค่ะคิง เกลียดคิงค่ะ ยังทีมมาลเหมือนเดิม 55555 เบื่อผู้ชายสายซึน  :laugh: :laugh: :laugh:
มาค่ะ พาล่องเรือ

ซิกฟริดใช้มุกทำเป็นเอ่ยปากว่าให้อิสระอีกแน่นวล  แต่คราวนี้อาจจะตลบหลังแนบเนียนกว่าเดิม ก้อเป็นล่าย

ติดใจแล้ว จะปล่อยไปไม่ใช่นิสัยซิกแน่ๆ
 :katai2-1:
เดี๋ยวตอนหน้ารู้กันค่ะว่าซิกฟรีดจะตอบว่ายังไง *0*
แต่ปล่อยไปไม่ใช่นิสัยซิกฟรีดแน่นอนค่ะ ไม่งั้นปล่อยไปนานละเนอะ
  :mc4:

เชื่อว่าคุ้มค่าจิดตามอ่านและรอค่ะ จะติดตามและรออ่านไปเรื่อยๆนะคะ
คนอต่อัพถี่มาก 555555 o13

งง ความรักของสองคนนี้ มันดูซับซ้อนเหลือเกิน
ไม่เข้าใจว่าชอบกันได้ไง ถึงทุกวันนี้จะดูแค้นกันมากกว่าก็เถอะ แต่ดูออกว่าเคยมีความรู้สึกดีๆ (ได้ไง นั่นสิเนอะ555)
//คู่หมั้นราชาเอลฟ์ดูร้ายเงียบๆ น่ากลัวจัง 555
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ยังอยู่กันยาวๆ เนอะ ;) เราจะอัพทุก 1-2 วัน จนกว่าจะจบเรื่องนะคะ
เรื่องในอดีตของซิกฟรีดกับโคลด์มีแน่ค่ะ รออ่านกันต่อไปจ๊ะ
ป.ล. นางร้ายเรื่องนี้ฉลาดค่ะ เหี้ยมด้วย

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 4 : รางวัลของนักฆ่า (4)


ราชาเงียบ

ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์เยือกเย็นจนน่ากลัว มีเพียงคนสนิทอย่างมาลแกธ หรือพระคู่หมั้นจากอาณาจักรอิซิลดาร์เท่านั้นที่ทราบว่าใจของพระองค์ร้อนเหมือนไฟกัลป์ ดวงตาสีลาวาหลอมเหล็กกำลังหลอมหัวหน้ากองกำลังรักษาพระราชวังที่กำลังรายงานเหตุอย่างช้าๆ

“ให้มันรอ”

ราชาเอ่ยง่ายๆ

วันที่หนึ่งถึงวันที่เจ็ด ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากในราชวังรูเมเรียร์

จนล่วงเข้าวันที่แปด ซิกฟรีดเรียกหามาลแกธเป็นการส่วนตัว และสั่งให้นำตัวโคลด์กลับมารับโทษ

“เข้าใจสิ่งที่เราต้องการใช่หรือไม่” ราชาจ้องทหารองครักษ์คนสนิท

มาลแกธจุดยิ้มบางๆ “ข้าพระองค์ทราบ องค์ราชาเล่า เข้าใจสิ่งที่ข้าพระองค์ต้องการใช่หรือไม่”

คราวนี้ซิกฟรีดเป็นฝ่ายเหยียดรอยยิ้ม

ทั้งคู่ทราบว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

ฝ่ายหนึ่งอยากดึงปลอกคอดาร์กเอลฟ์ให้มั่นในกำมือ

อีกฝ่ายหนึ่งอยากปล่อยให้ทะยานสู่อิสระหากสบโอกาส

“เราไม่ได้ส่งไปแค่เจ้า เอลฟ์ตะวันออก”

มาลแกธผิวปาก “ทรงรอบคอบ ว่าแต่...ทำไมถึงรอให้ครบเจ็ดวันก่อน”

“เจ้าว่าทำไมล่ะ”

“ถ้าเป็นข้า คงรอให้เขาหนี แต่คิดดูอีกที เนื้อความในจดหมายบ่งชัดว่าเขาคิดว่าตนถือไพ่เหนือกว่า ดังนั้นไม่มีทางที่เขาจะหนีเหมือนหนูดาร์กเอลฟ์” มาลแกธกอดอก “และตามนิสัยของเจ้า ซิกฟรีดแห่งรูเมเรียร์ ถึงเจ้าจะใจร้อน แต่หากเป็นเรื่องแก้แค้นหรือทรมานผู้อื่นละก็ เจ้าสามารถใจเย็นและอดทนรอได้อย่างน่ากลัว”

“อาจจริงที่เราต้องการให้เขากระวนกระวาย”

“มัน ‘จริง’ ต่างหากเล่า” เอลฟ์ตะวันออกยกมือสองข้างอย่างหน่ายๆ “เวทพันธะใช้บังคับผู้รับพันธะได้เพียงครั้งเดียว หากเจ้าเรียกใช้เขา เขาจะมา แล้วตรานั้นจะหายไปด้วย เจ้าติดมันบนอกของโคลด์มาสามปีโดยไม่เคยเรียกใช้ ซิกฟรีด เจ้ากำลังทรมานเขาไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่จะสิ้นสุด”

“คำถามของเจ้าต้องการคำตอบหรือเพียงแค่ต้องการตำหนิ”

“เจ้าไม่รู้จักเลี้ยง สุนัขกัดเจ้าแล้ว”

“อย่าเปรียบเทียบตัวเองอย่างนั้นสิ มาลแกธ ล็องธู”

ไอ้เด็กเอลฟ์...มาลแกธขบฟันขณะแย้มยิ้ม

“ข้าพระองค์ทูลลา” เอลฟ์ตะวันออกเลิกต่อความ ทว่าก่อนที่จะก้าวออกจากธรณีประตู เขาหันกลับมา “เจ้าไม่ควรทำให้ข้าหมดความอดทน ซิกฟรีด ข้าอาจเบื่อเจ้าแล้วไปซบอกอิซิลดาร์ก็ได้”

“กับเรื่องนี้ เจ้าจะซบอกข้า”

ซิกฟรีดเอ่ยอย่างมั่นใจ

กับเรื่องโคลด์ มาลแกธไม่มีวันร้องหาเอริแอดเน่

ไม่มีวัน

เพราะจุดร่วมเดียวกันของพวกเขาคือ ‘อย่าให้โคลด์ตกถึงมือผู้อื่นโดยเฉพาะท่านหญิงเอริแอดเน่’

——————————————————————-

“ผ่านไปเจ็ดวันแล้ว” อิลมาเรที่หลบอยู่ในถ้ำลับกับโคลด์เอ่ยเสียงเบา “ตราทาสของเจ้าหายไปหรือยัง”

โคลด์เอามือวางบนหน้าอก ส่ายหน้า

“แล้วเจ้าจะทำยังไงต่อไป”

เมื่อเจ็ดวันก่อน อยู่ๆ โคลด์ก็รีบร้อนกลับมากลางดึก ตรงเข้ามาอุ้มอิลมาเรที่ยังงัวเงียกับสัมภาระขึ้นหลังหมาป่ายักษ์—พาหนะยอดฮิตสำหรับดวอร์ฟในการขนสินค้า แล้วบอกว่า ‘เราจะหนี’

เมื่อมาถึงถ้ำลับที่เตรียมไว้หลบซ่อนตัวนอกเมืองเอวา เธมาร์ โคลด์จึงเล่าความจริงให้อิลมาเรฟังว่าเขาเคยเป็นทาสของพระราชา และตอนนี้ยังถูกประทับตราทาสอยู่

โคลด์ต้องการเอาตราทาสออกจึงขโมยหัวใจมังกรศิลากลับมาเพื่อใช้ต่อรอง ตอนแรกในถ้ำมังกร เขาลองใจมาลแกธว่าจะนำหัวใจมังกรศิลากลับไปให้ซิกฟรีดเองหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาจะสลัดมาลแกธหลุดได้ไวขึ้น แล้วอิลมาเรก็ไม่ต้องมาเมืองหลวง แต่เพราะมาลแกธปฏิเสธ เขาจึงต้องนำของมาเองโดยเสี่ยงให้อิลมาเรตามมาด้วย แต่นั่นก็ช่วยให้เขาสบโอกาสหลอกถามมาลแกธจนแน่ใจว่าหัวใจมังกรศิลามีค่าพอให้เขาดำเนินแผนการต่อ

โคลด์ใช้หีบสั่งทำพิเศษบรรจุหัวใจมังกร หีบใบนี้สร้างคู่กับเข็มทิศน้ำแข็ง ซึ่งเข็มจะชี้ไปยังทิศที่ตั้งของหีบเสมอ โคลด์ตามทิศทางโดยแข่งกับเวลา เพราะไม่แน่ใจว่าหัวใจมังกรจะถูกนำออกจากหีบไวแค่ไหน

ด้วยความที่เขาเคยอาศัยอยู่ในพระราชวังในฐานะทาสของซิกฟรีด ซ้ำยังเคยกลับมาอีกรอบเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เขาทราบเส้นทางหลบหลีกทหารยาม และเข้าไปขโมยของในตำหนักปรุงยาได้สำเร็จ

 

“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าเดือดร้อนไปด้วย ต่อไปเจ้าคงค้าขายในรูเมเรียร์ไม่ได้แล้ว”

โคลด์พูดจาเหมือนไร้ความรับผิดชอบ แต่เขารู้สึกผิดต่ออิลมาเรจากใจจริง “เจ้าเป็นสหายหนึ่งเดียวของข้าในแผ่นดินนี้ ข้าเป็นห่วงเจ้า อิลมาเร ข้ายอมรับว่าเห็นแก่ตัวที่ทำไปแล้วค่อยมาบอก”

อิลมาเรตัวสั่น ก้มหน้า แล้วก็ทุบอกโคลด์ปั้กๆๆ “เจ้าบ้า!”

“ขอโทษที่ทำให้เจ้าโดนตามล่าไปด้วย” โคลด์ย้ำอย่างเสียใจอีกรอบ ปล่อยให้ดวอร์ฟสาวทุบเอาๆ

“ไม่ต้องขอโทษเรื่องนั้น!” อิลมาเรเงยหน้า ตาแดงก่ำ “เจ้าขอโทษที่ไม่เคยบอกความจริงกับข้าดีกว่า สามปีที่เราคบกันมา ข้าเชื่อใจเจ้า ไว้ใจเจ้า บอกเจ้าทุกเรื่อง แต่เจ้ากลับปิดบังข้า เจ้าทุกข์ใจขนาดนี้ทำไมไม่เคยบอกข้า ข้าโกรธที่เจ้าไม่ไว้ใจข้ามากกว่า!”

“เจ้าไว้ใจคนง่ายเกินไป” โคลด์เจ็บแปลบกับคำต่อว่า เขาไม่เคยไว้ใจใครจริงๆ กระทั่งคนที่เขาเรียกว่าสหายหนึ่งเดียวอย่างอิลมาเร

“ข้าไม่ได้ไว้ใจคนง่าย! ข้ามีสายตาแม่ค้า ข้าไม่เคยประเมินค่าอะไรพลาด”

“เจ้าก็พูดแบบนั้นวันแรกที่เจ้าเก็บข้ามา” โคลด์ยิ้ม

“เจ้ามาของานทำแล้วไม่มีใครให้ทำต่างหาก” อิลมาเรโต้ ตอนนั้นไม่มีใครอยากให้งานแก่ดาร์กเอลฟ์ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ยกเว้นเธอ

โคลด์ย่อตัวลง ให้สายตาของเขาอยู่ระดับเดียวกับสายตาของอิลมาเร “ข้าสัญญาว่าเจ้าจะปลอดภัย ข้าจะไปส่งเจ้าถึงใกล้เมืองของกิลด์พ่อค้าใต้ดิน แล้วเราค่อยแยกกัน”

“ข้าเป็นห่วงเจ้า โคลด์” อิลมาเรกลั้นน้ำตา หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนหน้าตายู่ยี่

โคลด์ยิ้มเหนื่อยอ่อน เขาดึงอิลมาเรเข้ามากอด

“ขอบคุณมาก ไม่มีใครเป็นห่วงข้าอย่างจริงใจมานานแล้ว...เจ้าทำให้ข้านึกถึงเกวนโดลิน”


 

เมื่อเห็นว่าการเจรจาไม่เป็นผล อิลมาเรจึงลองโน้มน้าวให้โคลด์ส่งหัวใจมังกรศิลาคืนไป แต่เขากลับแทงบีฟอร์ซลงกลางหัวใจดวงนั้นพร้อมร่ายเวทเยือกแข็งโดยไม่ลังเล ดาร์กเอลฟ์บิดใบมีดทีหนึ่ง หัวใจที่กลายเป็นก้อนน้ำแข็งก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เหลือเพียงเกล็ดน้ำแข็งไร้ค่า

ความพยายามของเจ้าสูญเปล่า ซิกฟรีด แต่ไม่ใช่สำหรับข้า...

โคลด์ทราบจุดหมายที่ตนตามหาแล้วจากการหลอกถามมังกรศิลา การรั้งอยู่เมืองนี้จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป และเขาไม่คิดกลับมาอีก

การต่อรองกับซิกฟรีดคือการเอาเปรียบ เขาจงใจผิดสัญญา เอาคืนให้สาสมกับที่ถูกบังคับให้เป็นทาส

ข้าเกลียดเอลฟ์ทุกตน ไม่เว้นแม้แต่ซิกฟรีดหรือมาลแกธ

โคลด์หัวเราะเสียงต่ำเมื่อคิดถึงความจริงข้อนี้ ความจริงที่เขาซ่อนไว้ใต้หน้ากากดาร์กเอลฟ์เอื่อยเฉื่อยโง่เง่ามาเป็นสิบปี

เสียงหัวเราะของโคลด์ทำให้อิลมาเรกลืนน้ำลายเอื้อก

เธอไม่ชอบโคลด์ที่เป็นแบบนี้ เขาเหมือนกำลังฝืนตัวเองอยู่ แต่ก็คิดว่าไม่ใช่เวลาทัก จึงขึ้นไปนั่งบนหลังหมาป่าด้านหลังโคลด์ กอดเอวเขาไว้อย่างเงียบๆ

โคลด์ออกเดินทางกับอิลมาเร เขาตั้งใจเอาตราทาสออกให้ได้โดยไม่พึ่งพาพวกเอลฟ์อีก บางที...ชาแมนที่เชี่ยวชาญเวททมิฬสายคำสาปที่บ้านเกิดอาจช่วยทำลายตราทาสนี้ได้

เป็นครั้งแรกในรอบสิบสามปีที่โคลด์คิดกลับบ้านเกิด กลับสู่ดินแดนของชนเผ่าที่ล่มสลายไปแล้วและตกอยู่ในกำมือของผู้ชนะ—ทรราชย์ผู้ปกครองอย่างกดขี่

แต่ก่อนอื่น...

เขาต้องตามหากวินีเวียร์

หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนาม ‘เกวนโดลิน’

——————————————————————-

เจ็ดวันก่อนหน้านี้

 

“ทรงประสงค์ให้ข้าพระองค์ตามไปหรือไม่”

ซิกฟรีดลูบข้อนิ้วกับปาก “ท่านเห็นว่าอย่างไร”

“ข้าพระองค์เห็นตามกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์”

“ก่อนอื่น ท่านปล่อยให้เขาลอบเข้ามาเขตราชวังด้านในหรือ”

เกิดความเงียบขึ้นชั่วครู่

“ไม่เคยมีใครลอดกับดักของข้าพระองค์ได้ แต่ในเมื่อข้าพระองค์พลาดไปแล้ว ทรงโปรดลงโทษข้าพระองค์เถิด”

ข้อนิ้วกดริมฝีปากจนช้ำ “ท่านตามรอยเขาได้หรือไม่”

“ถึงจะลอดกับดักมาได้ แต่ผู้บุกรุกทิ้งร่องรอยไว้เสมอ”

“อา…” ซิกฟรีดหลุบตาลง “ตาม แต่ห้ามจับกุม เรามีสิ่งที่ต้องการมากกว่าตัวของเขา”

ราชาเอลฟ์กระซิบเป็นภาษาควาร์

“เราต้องการ ‘หัวใจ’ ของเขา”


——————————————————————-

 ในขณะที่พระราชาและนักฆ่าต่างทำตามใจตน สตรีสูงศักดิ์ผู้หนึ่งที่เฝ้ามองเรื่องทั้งหมดอย่างเงียบเชียบก็เริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน

 นางกำลังเล่นกับนกสีฟ้าตัวเล็กในเรือนกระจกอันสดชื่นสบายตาด้วยพรรณไม้สีเขียวนานาชนิด ฟังข้ารับใช้ถวายรายงาน

 เรือนร่างแบบบางยืนหันหลังย้อนแสง เส้นผมสีทองสุกปลั่งกับชุดขาววิจิตรขับให้นางงามเป็นเอกแม้เห็นเพียงด้านหลัง มือขาวผ่องยกขึ้น ให้นกน้อยตัวเบาหวิวบินมาเกาะ

 “หาตัวให้เจอก่อนคนขององค์ราชาแล้วฆ่าเสีย ก่อนที่มันจะนำความยุ่งยากมาสู่พระองค์ในอนาคต”

ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเมตตา นกน้อยยังคงเกาะอยู่บนนิ้วอย่างรักใคร่ในตัวนาง


—————————————————————————

A/N เอริแอดเน่ออกโรงบ้างแล้วค่ะ จริงๆ เอริแอดเน่เป็นตัวละครที่เราชอบมากนะคะ (และตัวละครที่เราชอบมากมักมีชะตาชีวิตโหดร้ายเสมอ /ซับน้ำตา)
ป.ล. เราเข้าใจว่านี่เป็นนิยาย BL นักอ่านบางท่านอาจไม่ค่อยชอบให้ผู้หญิงมีบทเยอะ แต่เราอยากนำเสนอว่าจริงๆ แล้วตัวละครแต่ละตัวมีบทบาทของตัวเองที่ทำให้เรื่องดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนานได้ และบทบาทของเอริแอดเน่กับอิลมาเรจะช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่องนี้ค่ะ :)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


อ่านละถูกใจให้เป็ดได้นะคะ อยากมีเป็ดหลายๆ ตัวกะเค้าบ้าง *0*

ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อยากเอาซิกไปโบกปูน

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
+1 อยากเอาซิกไปโบกปูน

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
กระทู้นิยายเลอค่า

สำนวนชวนให้ติดตามและมีชีวิตชีวามาก

ไม่ได้อ่านอะไรแบบนี้มานาน ดีต่อใจเหลือเกิน

มาถึงเนื้อเรื่อง....
ชิชะ! นังหญิงสามผัว! หน้าสวยแต่ใจคอโหดเหี้ยมที่สุด! อ่านแล้วอยาก  :z6:

หลงรักโคลด์กับอิลมาเร สองตนนี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมาก

ว่าแต่...เคมีของซิกกับมาลดูเข้ากั๊น..เข้ากันเน๊าะ!

 

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
สนุกดีค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 5 : หากมีรัก (1)



หลังวันที่แปดไม่นานนัก อิลราลานก็พากวีชรามาเข้าเฝ้าคิงซิกฟรีด

กวีชราผู้นี้นามว่าบาค เป็นเซ็นทอร์ เผ่าพันธุ์ที่ตระกูลแยกออกเป็นสองสาย หนึ่งเกิดมาเพื่อเป็นนักรบ อีกหนึ่งรักสงบจึงเลือกเป็นกวี

มันมาจากตระกูลแรก เคยอยู่ชายแดนเมื่อครั้งจอมทัพทมิฬยกทัพมาทำสงครามกับรูเมเรียร์ทั้งสองครั้ง เกราะเหล็กของมันชโลมเลือดทุกวันจนจับตัวแข็งหนา กลายเป็นสีแดงซึ่งแสดงถึงความทารุณ กระทั่งวันหนึ่งเซ็นทอร์ผู้มาจากตระกูลนักรบก็นึกถึงความสงบสันติจับใจ

หากสงครามจบมันจะถอดเกราะและทิ้งดาบ หันมาจับปากกาเขียนกวี บอกเล่าตำนานความกล้าหาญ การเสียสละ ความขลาดเขลา ความผิดพลาด และความสูญเสียอันเกิดจากสงคราม

เวลาผ่านไป เซ็นทอร์ได้ลาออกจากราชการสมที่ตั้งใจ แต่มันยินดีได้ไม่นานนัก ข่าวคิงเฟรธูริน อาร์ธีออน รูเมเรียร์ สิ้นพระชนม์เพราะกบฏดาร์กเอลฟ์ก็ลอยมาถึงหมู่บ้านชายแดนที่มันอยู่ มันนั่งลงเขียนกวีไว้อาลัย เขียนจดหมายหาเพื่อนร่วมรบที่ยังรับราชการ ข่าวลือสะพัดมหาศาลในช่วงเวลานั้น จนมันตัดสินใจเลิกเปิดรับข่าวการเมือง—มันเป็นกวีมิใช่หรือ

ไม่กี่ปีถัดจากนั้น สำนักพระราชวังประกาศว่าคิงริวอร์นอร์ อาห์นดีร์ รูเมเรียร์สิ้นพระชนม์ด้วยเหตุกบฏดาร์กเอลฟ์เช่นกัน พระอนุชาซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์จึงได้ขึ้นเป็นคิงโดยชอบธรรม ทว่าข่าวลือลอยลมที่มาพร้อมกันคือ ‘น้องชายฆ่าพี่ชายเพื่อบัลลังก์และท่านหญิงโฉมงาม’

ทว่าหูของเซ็นทอร์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวหาได้เบาหวิว มันไม่ปักใจเชื่อทั้งประกาศทางการและข่าวลือแสลงหู มันเพียงเฝ้ามองจากชายแดนห่างไกล รับฟังข่าวคราวด้วยใจเป็นกลาง

กระทั่งมันพบเอลฟ์ผมสีทองเกือบขาวตนหนึ่งในบ้านของตัวเองทั้งที่ไม่ได้รับเชิญ

 

“ข้าเป็นข้ารับใช้ของกษัตริย์แห่งรูเมเรียร์ พระองค์ทรงโปรดให้เจ้าเข้าเฝ้า ทรงประสงค์ที่จะถามไถ่เรื่องราวของดาร์กเอลฟ์นาม ‘โคลด์ สตาร์’ ”

กวีชราหัวเราะสุภาพ ตอบไปว่า “ข้าชรามากแล้ว ดาร์กเอลฟ์นามโคลด์ สตาร์ช่างไม่คุ้นหู”

ดวงตาของเอลฟ์ตนนี้ชาด้าน บอกชัดว่าแม้ต้องหักกระดูกเซ็นทอร์เพื่อบังคับให้ไปก็พร้อมทำ

แต่คำขู่ฟังนุ่มหูถูกยกมาใช้ก่อน

“หากเจ้าปฏิเสธ พระองค์ทรงฝากสารสั้นๆ มาให้ว่า

‘ทั้งแผ่นดินมีผู้ตามหาดาร์กเอลฟ์นาม ‘โคลด์ สตาร์’’ อยู่สองฝ่าย

ฝ่ายแรกคือข้า ผู้ไม่ประสงค์ให้อันตรายใดๆ เกิดขึ้นแก่เขา

ส่วนฝ่ายที่สองอยู่ตรงข้ามกับข้า

ใครจะพบเขาก่อนขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว’ ”

เซ็นทอร์สุขุมขึ้น “ข้าควรเชื่อราชาแค่ไหนหรือ” คำพูดและแววตาเป็นการยอมรับกลายๆ ว่ารู้จักโคลด์

เอลฟ์ตนนั้นตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อ จะเข้าฝั่งไหนหรือไม่เข้าก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ท่านจะรอให้ไฟลุกไหม้ก่อนสนใจต้นไฟก็ย่อมได้

แต่เรื่องใดที่เกิดขึ้นแล้วไม่เคยหวนกลับ

ข้าหวังว่าท่านจะไม่เสียใจในภายหลัง”

“เช่นนั้นข้าคงไม่มีทางเลือก”


 

บาคจึงตัดสินใจเดินทางมายังเอวา เธมาร์ โดยมีเอลฟ์ตนนั้นมาส่งเพียงครึ่งทาง ก่อนแยกกัน เอลฟ์กล่าวว่าจะมีผู้มารับที่ปลายทางอีกทอดหนึ่ง กวีชรากำลังจะถามข้อมูลเพิ่ม ทว่าเอลฟ์ตนนั้นได้จากไปเสียแล้ว

ยังไม่ถึงประตูเมืองหลวง เอลฟ์สาวรูปโฉมงดงามในชุดนางกำนัลหลวงก็เข้ามาต้อนรับ นางไถ่ถามความเหนื่อยยากในการเดินทางด้วยไมตรีระหว่างพาเข้าส่วนพระราชวัง ทุกสิ่งเป็นไปอย่างนุ่มนวล แต่สัญชาตญาณของเซ็นทอร์สะกิดให้ระมัดระวังตัว มีบางสิ่งแปลกประหลาด แต่ยังไม่ทราบว่าคืออะไร

กวีชราได้พำนักในส่วนรับรองโอ่อ่าถึงหนึ่งวันครึ่ง แม้จะอยู่ในฐานะแขก แต่กลับรู้สึกไม่สบายตัว คล้ายเป็นนักโทษรอถูกรีดความลับ

ที่กล่าวเช่นนี้เป็นเพราะมันไม่ได้รับอนุญาตให้พักอย่างแท้จริง นางกำนัลคนเดิมคอยเข้ามา ‘ตะล่อม’ ถามธุระที่ทำให้มันต้องเดินทางมาเอวา เธมาร์อยู่เนืองๆ ซ้ำบางครายังมีดวงตาทรงอำนาจคู่หนึ่งจ้องมองมันจากสถานที่ซ่อนเร้น กดดันให้มันเหนื่อยล้าถึงที่สุด

และธุระที่ว่า...ย่อมเป็นธุระที่ชื่อ ‘โคลด์ สตาร์’

บาคไม่ปริปากแม้ถูกกดดัน ใจพิจารณาว่า ดวงตาคู่นั้นเป็นของใคร หากเป็นของราชา ท่านทำเพื่ออะไร ราชาจะส่งข้ารับใช้มาถามธุระที่พระองค์ทรงทราบดีอยู่แล้วหรือ

จนเมื่อได้รับเชิญให้ไปยังโถงว่าราชการ สายตาฝ้าฟางเหลือบเห็นพระคู่หมั้นแห่งอิซิลดาร์ประทับอยู่เคียงข้างราชาแห่งรูเมเรียร์ มันระลึกได้ทันทีว่า บรรยากาศกดดันในส่วนรับรองเกิดขึ้นด้วยดวงตาทรงอำนาจของใคร

ไม่ใช่ขององค์ราชา

เซ็นทอร์ทราบตอนนั้นเองว่าตนถูกลากให้เข้ามาชมการเมืองภายในเสียแล้ว

 

“เงยหน้าขึ้นเถอะ การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง”

แม้เป็นราชา แต่ซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์กลับเอ่ยทักเซ็นทอร์ชราอย่างเป็นกันเอง

บาคทำความเคารพก่อนเงยหน้าขึ้นอย่างองอาจ ไม่เสียลายทหารเก่า แม้จะซูบผอมไปมากก็ตาม

มันจำเจ้าชายน้อยได้ พระองค์เคยมาชายแดนสมัยยังเยาว์ แต่บัดนี้เจ้าชายเติบใหญ่เป็นบุรุษองอาจแล้ว ใบหน้าคล้ายพระเชษฐาเฟรธูริน แต่แววตาไปทางพระเชษฐาริวอร์นอร์

กวีชราอดเหลือบมองบัลลังก์ไม่ได้ สมัยคิงเฟรธูริน บัลลังก์ทำจากแร่เงิน จนถึงสมัยคิงริวอร์นอร์ได้ยินว่าบัลลังก์หลอมจากเหล็กดำ พระนามของคิงริวอร์นอร์แปลว่าราชาเหล็กดำ แร่ธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดในรูเมเรียร์ แต่บัดนี้คิงซิกฟรีด อาเลธ รูเมเรียร์ได้ประทับแทน…

แม้แข็งแกร่งก็ยังจำนนให้ความตาย

“ท่านคงรู้จักคู่หมั้นของเราแล้ว ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ นางส่งคนไปรับท่านในเมืองแทนเราเมื่อวันก่อน”

ซิกฟรีดแย้มยิ้ม “อันที่จริง ผู้ที่ต้องไปรับท่านคืออิลราลาน แต่เขาหาท่านไม่พบ กว่าจะทราบว่าท่านมาถึงแล้วก็ผ่านมาเป็นวัน ให้อภัยเราด้วย”

คำพูดของราชาเชือดเฉือน แฝงนัยต่อว่าคู่หมั้น และส่งความนัยถึงกวีชราว่า ‘นี่ไงละ ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับข้า’

ซิกฟรีดทราบว่าไม่มีอะไรเล็ดลอดหูตาของเอริแอดเน่ไปได้ และถึงมี สิ่งนั้นก็ต้องวางแผนอย่างเงียบเชียบที่สุด อย่างที่เรียกว่าไฟไร้ควัน เพราะฉะนั้น หากปิดบังควันจากนางไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้ควันโขมงจนหาไฟไม่เจอ

ยกตัวอย่างเช่น ก่อนส่งมาลแกธไปตามหาโคลด์ เขาสั่งให้กอห์นดีเอน—หรือเงาสังหารไปตามสืบเรื่องเกี่ยวกับโคลด์ จนในที่สุดได้พบเซ็นทอร์ตนหนึ่ง ซึ่งรู้จักโคลด์ในแง่มุมที่น่าสนใจ จากนั้นเขาก็สั่งให้กอห์นดีเอนพาตัวมา โดยแฝงมากับกลุ่มเซ็นทอร์ที่เป็นตัวหลอกด้วย

นี่เป็นเซ็นทอร์ตนที่ ‘เก้า’ ซึ่งเขาสั่งให้เข้ามาพบในโถงว่าราชการ

นี่เป็นเซ็นทอร์ตนที่ ‘เก้า’ ใน ‘สิบสอง’ ซึ่งเอริแอดเน่ต้องจับไปรีดหาความจริงภายในระยะเวลาหนึ่งวันครึ่ง

ท่านหญิงได้ฟังคำราชาก็เพียงยกยิ้มมุมปาก เอียงคอน้อยๆ อย่างอ่อนหวาน

 

ก่อนหน้านั้นไม่นานนัก ซิกฟรีดเข้ามาหาเอริแอดเน่ที่ตำหนักปรุงยา นางกำลังปรุงตัวยาซึ่งสามารถทุเลาอาการเจ็บบริเวณใบหน้าซีกซ้ายของเขาได้

"ท่านหญิง" ซิกฟรีดเรียก

เอริแอดเน่ไม่อาจละมือได้นาน แต่นางก็วางมือจากทัพพีคนยาแล้วถอนสายบัว

"เราได้ยินเรื่องไร้สาระเรื่องหนึ่ง"

"เพคะ" เอริแอดเน่ยิ้มรับ

ซิกฟรีดยิ้มตอบ "เราได้ยินว่าท่านมีความลับกับเรา"

แม้จะยิ้มและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลให้เกียรติ ทว่าดวงตาของซิกฟรีดจริงจัง

"ข้าไม่มีความลับกับท่าน" เอริแอดเน่ไม่หลบตา "ท่านอยากทราบอะไรย่อมได้ทราบ ราชาของข้า"

"เขาว่ากันว่าราชาเป็นเพียงแมลงโง่ในหมู่แมลง ราชินีสิฉลาดล้ำ" ซิกฟรีดแตะผิวข้างแก้มของอีกฝ่าย มันอุ่นด้วยไฟใต้หม้อปรุงยา

"ราชินีเป็นเพียงผึ้งราชินีของท่านเท่านั้น" เอริแอดเน่ตอบอย่างสงบ

ผึ้งราชินี แม้จะได้รับเกียรติยศ แต่มีหน้าที่อะไรเล่านอกจากสร้างทายาท รับใช้ราชวงศ์รูเมเรียร์อย่างซื่อสัตย์ สร้างความรุ่งโรจน์แก่อนาคต

"ท่านเป็นมากกว่านั้น พี่หญิง" ซิกฟรีดละนิ้วที่แตะแก้มนางออก

"กวีชราที่อิลราลานสมควรเป็นคนพามา...อยู่ที่ใดหรือ"

เอริแอดเน่วางมือบนอกซิกฟรีดคล้ายปลอบโยน "ข้าแค่อยากพบมันก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดใดๆ อีก"

ความผิดพลาดใดๆ ที่ว่าย่อมหมายถึงดาร์กเอลฟ์หัวขโมย แม้ไม่พูดออกมา ก็เป็นที่ทราบดี

"แต่ข้าก็จำต้องทราบว่าพี่หญิงทราบอะไรมา" ซิกฟรีดจุมพิตหน้าผากมนของนาง แบบที่น้องชายพึงกระทำแก่พี่สาว

“เราไม่ใช่ศัตรูกัน”

ดวงตาด้านขวาของซิกฟรีดอ้อนวอน

ขณะที่ดวงตาด้านซ้ายใต้หน้ากากกำลังกลอกกลิ้งอย่างบ้าคลั่ง

“เราย่อมไม่ใช่ศัตรูกัน” นางเอ่ย มอบจุมพิตคืนที่แก้มขวา “เพราะข้ารักท่าน ซิกฟรีด ท่านเป็นของรักสิ่งสุดท้ายของข้า”



—————————————————————————

A/N ปมของเรื่องเผยออกมาเรื่อยๆ แล้วค่ะ เอริแอดเน่ก็มีบทมากขึ้น เธอเป็นตัวละครที่เรารักเพราะความซับซ้อนในจิตใจของเธอ ตอนที่เอริแอดเน่พูดกับซิกฟรีดว่า "ท่านเป็นของรักสิ่งสุดท้ายของข้า" เธอหมายความตามนั้นจริงๆ นะคะ อนึ่ง เราเขียนเรื่องนี้โดยไม่เกี่ยงเพศ เพราะความรักไม่มีเพศ มีแค่คนที่รัก คนที่ผิดหวัง และคนที่สมหวัง
ป.ล. มีใครไม่รู้จักเซ็นทอร์ไหมคะ? บอกได้นะคะ เราจะได้รู้ว่าต้องมีเชิงอรรถหรือเขียนขยายความมากแค่ไหน


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


อัพเดททุกวัน ถูกใจให้เป็ดได้จ้า (ขอกันตรงๆ อิอิ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-01-2017 15:49:03 โดย ILLREI »

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
อยากเอาซิกไปโบกปูน
ราชาใจร้ายเนอะ...

+1 อยากเอาซิกไปโบกปูน
= ได้ซิกฟรีดโบกปูน x 2 ค่ะ  :laugh:

กระทู้นิยายเลอค่า

สำนวนชวนให้ติดตามและมีชีวิตชีวามาก

ไม่ได้อ่านอะไรแบบนี้มานาน ดีต่อใจเหลือเกิน

มาถึงเนื้อเรื่อง....
ชิชะ! นังหญิงสามผัว! หน้าสวยแต่ใจคอโหดเหี้ยมที่สุด! อ่านแล้วอยาก  :z6:

หลงรักโคลด์กับอิลมาเร สองตนนี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมาก

ว่าแต่...เคมีของซิกกับมาลดูเข้ากั๊น..เข้ากันเน๊าะ!
ชมเสียเขินเลยค่ะ รับขนม น้ำชา บีบนวดเนื้อตัวไหมคะ
เอรี่โหดจริงค่ะ รอดูนางไปค่ะ ความโหดยังไม่หมดแค่นี้ แต่ก็เป็นตัวละครที่โดนเราทำร้ายเยอะค่ะ
โคลด์กับอิลมาเรนี่น่ารักเหมือนเพื่อนสาว /โดนโคลด์เอามีดแทง อั่ก ข้าตายแล้ว!
ส่วนมาลแกธกับซิกฟรีดทำหน้าเซย์โนว์ใส่กันทั้งคู่ค่ะ
  :mc4:

สนุกดีค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
ยินดีค่ะ ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ อัพเดททุกวันจนจบเลยจ้ะ -3-

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เห็นภาพซิกกับเอรี่หันหน้าเข้าหากัน
ต่างมือซ้ายลูบแก้ม มือขวาถือมีดแทง

ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ขมเสียนี่กระไร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
บางครั้งจิตใจคนเราก็เข้าใจย๊ากยากกก  :mew5: :mew5:

ปล.ถ้านี่ไม่ใช่ BL สงสัยท่านหญิงก็คงเป็นนาง(ร้าย)เอกอะค่ะ 55555  :pig4:

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
เห็นภาพซิกกับเอรี่หันหน้าเข้าหากัน
ต่างมือซ้ายลูบแก้ม มือขวาถือมีดแทง

ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ขมเสียนี่กระไร
ขมจริงค่ะ ถ้าเป็นคู่ชาย-ชายจะรวดร้าวกว่านี้อีกค่ะ และเอรี่เมะ (555555)

บางครั้งจิตใจคนเราก็เข้าใจย๊ากยากกก  :mew5: :mew5:

ปล.ถ้านี่ไม่ใช่ BL สงสัยท่านหญิงก็คงเป็นนาง(ร้าย)เอกอะค่ะ 55555  :pig4:
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน (หรือเอลฟ์)
เสียดายเรื่องนี้เป็น BL เอรี่จึงเป็นนางร้าย (แต่ถึงไม่ใช่ BL เธอก็ร้ายอยู่แล้วค่ะ เป็นไทป์ราชินีแม่มด ไม่ใช่เจ้าหญิง)
อนึ่ง คนที่พระเอกรักถึงจะได้เป็นนาย (นาง) เอกค่ะ ;)
คนที่เขาไม่รัก ยังไงก็ไม่รัก ;w; (เศร้านิดๆ)

ออฟไลน์ princeofdark

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ซิกฟริดกำลังทำอะไรอยู่ ซับซ้อนเกินไปแล้ว อ้ากกก ซึนอย่างนี้ไม่ดีนะ เดี๋ยวมาลแกธทำแต้มนำนะ55 #ชูธงมาแกล
ท่านหญิงก็อีกคน ร้ายมากอ่ะ ปล่อยโคลด์เค้าน้า โคลด์เลือดขึ้นหน้าเลยน่ากลัวจัง แต่ก็ชอบที่โคลด์แทงหัวใจมังกรทิ้งอ่ะ แบบคลูๆดี ในเมื่อไม่ให้ตามคำยองก็ทำลายทิ้ง ชอบๆมากเลย เรื่องนี้เขียนความสัมพันธ์ตีวละครดีมากเลยค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ คนเขียนขยันอัะพมากเลยชอบๆ จะได้อ่านติดๆกัน ไม่คาดีค่ะ  :mc4:

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 5 : หากมีรัก (2)

“ท่านทราบหรือไม่ว่าเหตุใดเราจึงเรียกพบ” ซิกฟรีดเอ่ยถามเซ็นทอร์

บาคน้อมศีรษะ “ข้าพระองค์ได้ยินว่าองค์ราชาทรงตามหาดาร์กเอลฟ์ตนหนึ่ง ข้าพระองค์เป็นครูชายแดน คลุกคลีกับเผ่าทมิฬ จึงน่าจะทราบข่าวคราวของดาร์กเอลฟ์ตนนั้นกระมัง”

“ ‘โคลด์ สตาร์’ ” ซิกฟรีดเอ่ยชื่อ “เคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่”

เซ็นทอร์ครุ่นคิดแล้วส่ายหน้าปฏิเสธ “ชื่อแปลกสำหรับดาร์กเอลฟ์ หากข้าพระองค์เคยพบคนผู้นี้จริง ต้องไม่มีทางลืม”

ซิกฟรีดมองเซ็นทอร์นิ่งๆ ชั่วอึดใจ ก่อนจะโน้มไปกระซิบกับเอริแอดเน่

“ให้เวลาข้าคุยกับเซ็นทอร์โดยลำพังได้หรือไม่ พี่หญิง” เขาเอ่ยขออย่างสุภาพ

“เพคะ” เอริแอดเน่ตอบรับง่ายเกินคาด คล้ายนางได้ฟังสิ่งที่ต้องการฟังแล้ว จึงลุกขึ้นโดยมีนางกำนัลช่วยจัดชายกระโปรง ก่อนเยื้องกรายออกไป

อิลราลานซึ่งรู้หน้าที่ดีก็เดินออกไปเช่นกัน

เมื่ออยู่ตามลำพัง ซิกฟรีดก็เอ่ยทักทายเซ็นทอร์อีกครั้ง

“ไม่พบกันนานเลย บาค จำข้าได้หรือไม่”

เซ็นทอร์รีบย่อขาหน้า คุกเข่าทำความเคารพ รู้สึกปลื้มปีติในใจ “ข้าพระองค์ย่อมจำได้ขอรับ”

“ผ่านมากี่ปีแล้วนะ...โอ สิบสามปีแล้ว ข้าจำได้ พี่เฟรธูรินแนะนำว่าท่านเป็นผู้มีใจกว้างดุจทะเลตะวันออก”

อันที่จริงซิกฟรีดจำเซ็นทอร์ตรงหน้าแทบไม่ได้ ตอนนั้นเขาอายุเพียงเก้าขวบปี ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้เขาสนใจนอกจากเสียงกระซิบของมังกรและคำทำนายของบิดานภา แต่การแสดงออกว่าเขาใส่ใจย่อมทำให้บทสนทนาลื่นไหลขึ้น

เมื่อคิดเช่นนี้ คำสาปที่ใบหน้าซีกซ้ายก็กรีดเสียงหัวเราะ

“แกมันจอมสับปลับ ลิ้นแกพ่นแต่คำโกหก สองหน้า...เจ้าคนสองหน้า!”

“ไม่ว่าท่านจะรู้จักโคลด์หรือไม่ ซึ่งข้ารู้ว่าท่านรู้ ข้าก็จะไม่ปิดบังท่าน” ซิกฟรีดขยับยิ้มที่มุมปากขวา ขณะที่ยกนิ้วกดใบหน้าซีกซ้ายอย่างแนบเนียน “โคลด์ สตาร์กระทำความผิดแบบที่...แม้แต่ข้าก็คงปกป้องเขาได้ยาก”

ซิกฟรีดเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับโคลด์ ก่อนจะเล่าเรื่องโคลด์และหัวใจมังกร ทว่าส่วนที่เกี่ยวกับเวทพันธะ เนื้อหาในจดหมายของโคลด์ รวมไปถึงรายละเอียดที่จะทำให้เซ็นทอร์ ‘ไขว้เขว’ ไม่อยากยื่นมือช่วยเหลือ เขาตัดออกทั้งหมด ให้เหลือเพียงใจความว่า

“ข้าเป็นราชา บาค ข้ามีอำนาจที่จะให้อภัยใครก็ได้ หรือสั่งลงโทษใครก็ได้ แต่มันไม่ใช่อำนาจเบ็ดเสร็จ ประชาชนต่างหากที่มีอำนาจมากกว่าข้า พวกเขารู้เห็นว่าโคลด์ทำอะไรลงไป ในสายตาของพวกเขา โคลด์หักหลังข้า หากข้าให้อภัยเขาโดยง่าย อำนาจในการลงโทษของข้า อำนาจในกฎหมาย จะไม่ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป”

ซิกฟรีดกดใบหน้าซีกซ้ายแรงขึ้น

“ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน การที่จะหาเขาให้พบไม่ยาก และไม่ว่าใครจะหาเขาพบ เขาต้องสู้จนตัวตายแน่ เชื่อข้าเถิด...ไม่มีเอลฟ์ตนใดสนความเป็นความตายของเขามากไปกว่าข้าแล้ว ดังนั้นข้าจึงต้องการสิ่งที่สามารถต่อรองให้เขาหยุด แล้วยอมเจรจาได้ ข้าจำต้องรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาให้มากขึ้น บาค”

เซ็นทอร์คิด เขาจะปิดปากเงียบก็ย่อมได้ แต่หากเหตุการณ์เป็นไปอย่างที่ว่า เด็กหนุ่มดาร์กเอลฟ์ที่เขาเคยดูแลในอดีตคนนั้น...มีโอกาสสูงมากที่จะไม่รอด ยิ่งปล่อยให้เรื้อรังยิ่งแย่ ไม่เพียงแค่ทางการหรอกที่จะตามล่า แต่ยังมีเอลฟ์หัวรุนแรงที่พร้อมฆ่าเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของราชวงศ์รูเมเรียร์ด้วย

ทางไหนที่เสี่ยงน้อยที่สุดเล่า

“ข้าพระองค์...ไม่มั่นใจเลย...ว่าเรื่องที่จะกราบทูลจะช่วยเขาได้หรือไม่ แต่ข้าพระองค์ติดหนี้ชีวิตอยู่...คงได้เวลาใช้หนี้แล้ว”

ซิกฟรีดยิ้ม “ท่านได้สัจจะจากข้า เขาจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับข้า”

"โคลด์กับเกวนโดลิน ข้าพระองค์ตั้งชื่อให้พวกเขา"

“เกวนโดลิน?”

"เป็นพี่น้องกันพ่ะย่ะค่ะ พี่สาวกับน้องชาย เป็นดาร์กเอลฟ์ที่ดี"

กวีเอ่ย น้ำเสียงไพเราะดึงให้ผู้ที่ได้ฟังหวนสู่เหตุการณ์ในอดีต

 

วันนั้นเป็นอีกวันหนึ่งที่มังกรออกอาละวาด

งวงไฟสูงเทียมฟ้าพุ่งขึ้นมาจากฝั่งดินแดนทมิฬ บาคเห็นมันได้แต่ไกลจากบนป้อมชายแดนที่ตนประจำการอยู่ เสียงสัตว์ร้ายคำรามดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ กัมปนาทประสานเสียงกรีดร้องชุลมุน

เวลาแบบนี้มักมีผู้อพยพจากแดนทมิฬหนีตายเข้ามายังแดนเอลฟ์ เซ็นทอร์นักรบยืนอยู่บนระเบียงกำแพงหิน ชะตาทำให้เขาได้พบกับเด็กสาวดาร์กเอลฟ์นางหนึ่ง

เด็กสาวอายุราวสิบเจ็ดสิบแปด เส้นผมสีเงิน ผิวสีม่วงอ่อนอมเทาเหมือนดอกไลแลคยามราตรี นางแบกเด็กหนุ่มร่างเล็กไว้บนหลัง วิ่งอย่างทุลักทุเลตรงมายังจุดที่เขาประจำการอยู่

สภาพมอมแมมเต็มไปด้วยบาดแผลของนางทำให้บาคเวทนากระทั่งไม่ยกธนูง้างศร

นางพยายามเข้ามาใกล้กำแพง แต่ถูกทหารเอลฟ์ร้องเตือน

“จงถอยกลับไป ดาร์กเอลฟ์!” ทหารเฝ้ากำแพงตะคอกแล้วยิงธนูสกัด “ค่ายนี้มีพวกเจ้าแทบล้นแล้ว”

ลูกธนูเฉียดขานางไปพอดี นางเซเล็กน้อยแล้วหยุดยืนกลางทุ่งร้างแห้งแล้งอันเต็มไปด้วยซากจากสงคราม ทั้งรอยลากซากศพ เกวียนร้างเปื้อนโลหิต โล่และอาวุธหักพังจมโคลนสกปรก

เด็กสาวดาร์กเอลฟ์ตะโกนจากตรงนั้น—ด้านหน้ากำแพงปันเขต “พวกเราไม่มีที่ไปแล้ว ได้โปรดเถิด!” นางวิงวอนอย่างใจเด็ด

ทหารเอลฟ์ใต้บังคับบัญชาของบาคปฏิเสธอีกรอบ

“งั้นแค่น้องชายข้า! เขาเป็นแค่เด็กคนเดียว ไม่ขอปันเสบียงมาก ขอแค่ที่พักให้เขา ข้าอยู่ข้างนอกได้ แต่เขาบาดเจ็บ ได้โปรดรับเขาเข้าไปด้วยเถิด”

บาคมองเห็นหายนะไล่หลังนางมา ทว่าทหารเอลฟ์ไม่อาจปรานี ค่ายนี้ล้นแล้วจริงดังว่า จึงต้องทำตามกฎอย่างเคร่งครัด

เอลฟ์ไม่ถูกกับดาร์กเอลฟ์ ดาร์กเอลฟ์ก็ไม่ถูกกับเอลฟ์ นางบากหน้ามาขอร้องศัตรูซ้ำยังดื้อด้านอยู่ต่อ คงสิ้นหนทางแล้วจริงๆ ชนเผ่าอื่นอย่างบาคเห็นแล้วให้รู้สึกสงสาร จึงใช้อำนาจที่พอมีช่วยเจรจา

“บิดาแห่งนภาย่อมเมตตาบุตรผู้เกิดใต้ฟากฟ้าเดียวกัน ให้พวกเขาทำแผลก่อนเถิด เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”

สองพี่น้องได้รับอนุญาตให้อยู่ตรงประตูเล็กข้างกำแพง มีหมอยามาช่วยทำแผล ระหว่างห้ามเลือดให้พี่สาว น้องชายที่ดูเหมือนอดอาหารมานานและอิดโรยอย่างมากก็ดื่มน้ำจากถุงหนังอั๊กๆ ขาของเด็กหนุ่มดาร์กเอลฟ์มีบาดแผลโดนฟัน เนื้อเริ่มเน่ากลัดหนองแล้ว

บาคดูแววตาของทั้งคู่ก็รู้ว่าอายุยังน้อย—น้อยเกินไปที่จะเผชิญความโหดร้ายของโลก เขาตัดสินใจเอ่ยปากอยากรับคนน้องไว้ โดยยินดีปันเสบียงส่วนของตนให้ แต่ในใจก็กลัดกลุ้มว่าหากรับมาแค่คนน้อง คนพี่จะอยู่อีกฟากของกำแพงอย่างไร

เด็กหนุ่มพอได้ยินเช่นนั้นก็ปฏิเสธเสียงแข็ง “ข้าจะอยู่กับพี่”

พี่สาวจับมือเขา ลูบหน้าลูบตา นางพูดช้าๆ เหมือนกำลังคุมโทนเสียงไม่ให้สั่นเครือ

“ข้างนอกนั่น พี่ดูแลเจ้าให้ปลอดภัยตลอดไปไม่ได้ แต่เจ้าอยู่ในค่ายจะได้มีที่นอน มีอาหาร หนีไปให้ไกลจากชายแดน...”

“ข้าไม่ไปไหน ข้าไม่อยากปลอดภัยอยู่คนเดียว ข้าอยากอยู่กับท่าน!”

บาคไม่ทราบว่าสองพี่น้องผ่านอะไรมาบ้าง แต่คงทรหดเกินเด็กทีเดียว

“เข้าไปในนั้นข้าก็ต้องกลายเป็นทาส ข้าไม่เป็นทาสของใครอีกแล้ว ได้โปรดเถอะ กวิเนเวียร์”


 

บาคนึกออกจนได้...

ชื่อของพี่สาวที่เด็กหนุ่มหลุดปากเรียก

"ใช่แล้ว...นางชื่อกวิเนเวียร์ แปลว่าสีขาว แต่นางปฏิเสธไม่อยากให้เรียกนามนั้น มันทำให้นางคิดถึงบ้านเกิดมากเกินไป ข้าจึงตั้งชื่อให้นางใหม่ว่าเกวนโดลิน ส่วนโคลด์ เขาไม่ยอมเอ่ยชื่อตัวเอง แต่ดวงตาของเขาทำให้ข้านึกถึงดวงดาวนิ่งสงบเหนือฟากฟ้าแห่งสงคราม ข้าจึงตั้งนามให้เขาว่าโคลด์ สตาร์"

บาคเล่าต่อว่าหลังจากรักษาบาดแผลให้สองพี่น้องเสร็จแล้ว น้องชายยังยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ทิ้งพี่สาว เขาจึงมอบเสบียงอาหารให้ทั้งคู่พอประทังชีวิตอยู่นอกกำแพงไปได้ ยามนั้นมีผู้อพยพมากจริงๆ จะเลือกปฏิบัติมากกว่านั้นก็ลำบาก

ดาร์กเอลฟ์สองพี่น้องเร่ร่อนอยู่ด้านนอกกำแพง แต่บางครั้งก็กลับมา โดยที่กลับมาคือคนพี่ ทุกครั้งก็พาน้องชายซึ่งดูไม่เต็มใจนักมาด้วย

นางขอร้องจนทหารเอลฟ์ยังใจอ่อน พวกเขาไม่เคยพบดาร์กเอลฟ์นิสัยอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน ในที่สุดเมื่อพอมีที่ว่างหลังจากการอพยพคนระลอกแรกเข้าสู่รูเมเรียร์ สองพี่น้องก็ถูกรับเข้ามาในค่าย

หลังจากนั้นเองที่บาคได้รู้จักสองพี่น้องมากขึ้น

และเป็นหนี้ชีวิตในเวลาต่อมา


—————————————————————————

A/N เปิดเผยเรื่องของเกวนโดลินผู้ลึกลับและถูกเอ่ยถึงมาตั้งแต่บทแรกๆ แล้วค่ะ มีใครคาดไว้แนวนี้บ้างไหมคะ?
ป.ล. บทต่อไปจับตาดูมังกรให้ดี มังกรหล่อค่ะ บอกเลย -3-


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


อัพเดททุกวัน พบกันพรุ่งนี้ค่ะ!

ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หล่อจนได้เข้าชิงนุ้งโคลมั้ยคะ
 :hao7:

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
ซิกฟริดกำลังทำอะไรอยู่ ซับซ้อนเกินไปแล้ว อ้ากกก ซึนอย่างนี้ไม่ดีนะ เดี๋ยวมาลแกธทำแต้มนำนะ55 #ชูธงมาแกล
ท่านหญิงก็อีกคน ร้ายมากอ่ะ ปล่อยโคลด์เค้าน้า โคลด์เลือดขึ้นหน้าเลยน่ากลัวจัง แต่ก็ชอบที่โคลด์แทงหัวใจมังกรทิ้งอ่ะ แบบคลูๆดี ในเมื่อไม่ให้ตามคำยองก็ทำลายทิ้ง ชอบๆมากเลย เรื่องนี้เขียนความสัมพันธ์ตีวละครดีมากเลยค่ะ  เป็นกำลังใจให้นะคะ คนเขียนขยันอัะพมากเลยชอบๆ จะได้อ่านติดๆกัน ไม่คาดีค่ะ  :mc4:
ตอนนี้เรือมาลแกธฉิวมากค่ะ บอกเลย แต่ซิกฟรีดต้องไม่น้อยหน้าสิ ไม่งั้นเสียทีได้ออกตัวกะบทแรก
เอรี่ก็เป็นเอรี่อะค่ะ ถ้าชอบผู้หญิงฉลาด ไม่วี้ดๆ กรี้ดๆ จะชอบเธอค่ะ
ส่วน Dark Side ของโคลด์...เร้าใจเนอะ *0*
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ อัพทุกวันนะ จุ๊บ -3-



หล่อจนได้เข้าชิงนุ้งโคลมั้ยคะ
 :hao7:
ไม่สปอยๆๆๆ ไม่สปอยเนอะ รออ่านเองได้อรรถรสกว่าเนอะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-01-2017 23:02:37 โดย ILLREI »

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
สนุกมากค่ะ หาแนวนี้อ่านยากพอสมควรเลย
ไม่รู้จะเม้นอะไรเพิ่มดีเลย 55555555

// แอบกระซิบว่า จริงๆเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยชอบฉาก(เฉพาะ*แบบนั้น*) ของ ช-ญ เท่าไหร่ ปกติก็มักจะเลื่อนไปไม่อ่าน แต่นี่อาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ยอมอ่าน(ถึงจะต้องเลื่อนไปเร็วๆหน่อยก็ตาม) แล้วก็คิดไม่ผิด ถ้าเราไม่อ่านคงพลาดอะไรไปแล้วแน่ๆ

*แม้จะอยากตบนังเอรี่ก็ตาม*


พระ-นายเรื่องนี้ใจเด็ดกันทั้งคู่เลย // ปาดเหงื่อ

แต่ชอบตรงความสัมพันธ์ระหว่างโคลด์กับอิล เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก

รอติดตามโคลด์ ตอนต่อไปนะคะ  :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2017 12:23:11 โดย Kamidere »

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
พอบอกมังกรหล่อนี่นึกถึงมังกรเรื่องฮอบบิทที่ป๋าเบนพากษ์เสียง 5555 จำได้ตอนนั้นไปดูเพราะมังกรเลย
อยากรู้ว่าราชาคิดจะทำอะไรต่อไปกะโคล์ด เป็นคนเดียวรึเปล่าที่ยังเชียร์ ซิกกะโคล์ดอยู่
เกลียดและหมั่นไส้ซิกมาก แต่ก็ยังเชียร์ งงๆตัวเอง55555
 :z3:

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 5 : หากมีรัก (3)

ซิกฟรีดฟังจนจบ

“บาค…” ราชาเอลฟ์ระบายลมหายใจ “ท่านช่วยข้าได้มาก...มากจริงๆ”

โคลด์ไม่เคยพูดถึงพี่สาวเลยตลอดระยะเวลาสิบปีที่อยู่ด้วยกันในอาศรม แต่ก็ไม่แปลก...โคลด์ไม่เคยพูดเรื่องของตัวเอง และอันที่จริง...แม้เคยนอนร่วมเตียง เขาทั้งคู่ก็ไม่เคยพูดคุยหรือถามไถ่เรื่องของกันและกันแม้สักครั้ง

“แล้วเกวนโดลินตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนเสียละ”

“เรื่องนั้น...เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองเข้ามาอยู่ในค่ายผู้อพยพได้ไม่นาน” บาคมีท่าทางลังเล คล้ายไม่แน่ใจว่าควรเล่าต่อหรือไม่

"ข้าพบโคลด์ตอนที่ข้าอายุได้เก้าขวบปี” ซิกฟรีดเปิดเผยก่อน “เขาช่วยข้าจากปากสุนัขป่า ตอนนี้ข้าต้องการช่วยเขาจากตัวเอง หรือบางที...พี่สาวของเขาอาจช่วยเจรจาให้สถานการณ์ดีขึ้นได้”

บาคสลดลง มันยังคุกเข่า “ข้าไม่แน่ใจนักว่าหากเล่าไปแล้วจะเกิดผลเช่นไรต่อพวกเขาพี่น้อง แต่ข้าชรามากแล้ว กวีชราอยู่เพื่อบอกเล่าความงดงามของโลก” แววตาของเซ็นทอร์ใสเหมือนเด็กแรกเกิด “ทว่าสิ่งที่ข้าจะเล่า...นั้นทั้งอัปลักษณ์และงดงาม”

ซิกฟรีดผายมือให้เล่าต่อ

“โคลด์เป็นเด็กเงียบขรึม ตอนเข้ามาอยู่ในค่ายเขาอายุราวสิบสอง ส่วนเกวนโดลินอายุสิบแปด ยังเด็กตามที่ข้าคาด ช่วงแรกโคลด์แทบไม่แตะอาหาร โดยเฉพาะอาหารปันส่วนจากเอลฟ์ เขาจึงผอมแทบเหลือแต่กระดูก ถ้าพี่สาวไม่บังคับก็ไม่กิน” มีความชื่นชมเกวนโดลินแฝงในน้ำเสียงของเซ็นทอร์

ซิกฟรีดหัวเราะในลำคอ “ขออภัย โคลด์ที่ข้ารู้จักต่างจากที่ท่านเล่า เขาช่างพูด ข้าใช้สายตาปรามให้เขาหยุดพูดบ่อยๆ แต่เขาไม่หยุด เขาก็ชอบกวนประสาทข้า”

“เวลาอาจทำให้เขาเปลี่ยนไป” เซ็นทอร์รำพึง

“ไม่” ซิกฟรีดทิ้งมุมปากลงเล็กน้อย ก่อนพูดเสียงเบาเหมือนพูดกับตัวเอง “เขาแค่โกหกเก่ง”

บาคมีสีหน้าหนักใจ “นอกจากเข้าถึงยากแล้วเขาก็เป็นเด็กดี แต่คงเพราะเสียพี่สาวไป...ซึ่งนั่นถือเป็นความรับผิดชอบของข้าที่ไม่อาจปกป้องนาง”

"โคลด์เสียเกวนโดลินไปได้อย่างไร"

บาคห่อไหล่ อดีตนักรบห่อไหล่ บอกถึงน้ำหนักความรู้สึกผิดในใจมัน “เพราะมีมังกรมาบุกค่าย...ไม่ใช่มังกรธรรมดาที่เคยปรากฏตัวมาก่อน ขนาดของมังกรตัวนั้นใหญ่มหึมามหาศาล เกล็ดทั่วร่างเหมือนเกราะเหล็กดำของนักรบ ดั่งเกราะชั้นสูงอันประณีตเป็นเอกสำหรับผู้ยิ่งใหญ่ในสงคราม แรงลมจากปีกแผ่กว้างกวาดหินก้อนใหญ่ปลิวได้เหมือนเป็นแค่เศษดิน เขาคู่ยาวของมันใหญ่โต ใบหน้าน่าเกรงขาม มันพ่นไฟสีฟ้าอมม่วงสวยราวอัญมณีผ่านฟันซี่คมเต็มปาก ไฟของมันทรงพลังอย่างไม่มีผู้ใดเคยพบเห็น ขนาดทำให้ร่างทหารที่ถูกเผากลายเป็นเถ้าในพริบตาเดียว จนถึงตอนนี้ข้าพระองค์ยังจำภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นได้ มันมาแค่ตัวเดียวแต่ถล่มป้อมพังราบคาบ จุดทุกอย่างลุกโชนในกองเพลิง”

บาคกำหมัด

“ทว่ามันไม่ได้มาทำลายป้อมหรือฆ่าอย่างเกรี้ยวกราดเพียงอย่างเดียว มันเหมือนกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่ด้วย ตอนนั้นข้ากำลังพาเกวนโดลินกับโคลด์หนี จู่ๆ มันก็หันมาทางพวกเราโดยไม่สนใจผู้คนหนีตายกลุ่มอื่น ข้าสบตามัน ดวงตาสีทองเยือกเย็นอย่างนักปราชญ์ แต่ก็ขาดความเมตตาอย่างยิ่งยวด

มันตรงเข้ามาหาพวกเรา ข้าตัวแข็ง ก้าวขาไม่ออก คิดว่าคงกลายเป็นเถ้าเมื่อมันอ้าปาก...เป็นเกวนโดลินที่เตือนสติข้า นางให้ข้าอุ้มโคลด์แยกกันหนีไปคนละทาง ข้าที่เป็นนักรบได้แต่กลัวหัวหด วิ่งหนีมาโดยไม่กล้าหันกลับไปมอง แต่เสียงลมหายใจสัตว์ร้ายที่ค่อยๆ ห่างออกไปทำให้ข้าทราบว่ามันไล่ตามเกวนโดลิน นางวิ่งล่อมันให้ห่างจากโคลด์และข้า...และนางก็ไม่ได้กลับมาอีก”

เซ็นทอร์น้ำตาไหล ยกสองแขนอย่างขออภัยโทษ

“นี่คือความอัปยศของข้าและความเสียสละของนาง เด็กสาวคนหนึ่งสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยชีวิตข้าและน้องชายของนาง ข้ายังจำแรงดิ้นของโคลด์ที่ร้องหาพี่สาวอย่างบ้าคลั่งได้ไม่มีวันลืม เมื่อมังกรจากไป เขาก็เอาแต่พลิกซากค่ายตามหานาง จนหมดแรงก็นั่งเหม่อลอย ไม่พูดจา”

ซิกฟรีดเงียบไปนานทีเดียว เขาเอาข้อนิ้วกดริมฝีปาก ครุ่นคิด “เขาตามหานางงั้นหรือ”

ตอนนั้นโคลด์อายุสิบสองปี…

ดาร์กเอลฟ์อายุสิบสองปีหนีตายกับพี่สาว

หลังจากนั้นพี่สาวก็หายไปไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

ท่ามกลางไฟสงครามและความโศกเศร้า

โคลด์ สตาร์...ไม่น่าจะมี ‘คนรัก’ อย่างที่เคยอ้างกับเขาได้เลย แต่ก็ยังไม่อาจตัดความเป็นไปได้ว่าทั้งสองอาจไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ...

อย่างไรก็เถอะ กอห์นดีเอนทำงานได้ดี ไม่นึกเลยว่าเขาจะพบ ‘หัวใจ’ ของโคลด์ได้เร็วถึงเพียงนี้

“หลังจากนั้นโคลด์ก็ได้พบท่าน ติดตามท่านไปเมืองหลวง ข้าคิดว่านั่นเป็นโชคดีของเขาแล้ว มาได้ข่าวอีกทีเขากลับกลายเป็นนักโทษความผิดอุกฉกรรจ์...” บาคหมอบกราน “ข้าพระองค์หวังว่าท่านจักทรงเมตตาเขาอย่างที่บอก ข้าไม่อาจข่มตานอนหลับโดยรู้สึกผิดต่อเกวนโดลินมากไปกว่านี้”

“ถ้าตัดเรื่องหนีความผิด โคลด์ก็สบายดี แข็งแรงขนาดที่ล้มมังกรศิลาและทหารของเราได้สบายๆ” ราชาเอลฟ์เอ่ย “มีอะไรที่ข้าพอจะตอบแทนท่านได้บ้าง”

"ข้าเพียงอยากกลับไปชายแดน ยังมีลูกศิษย์อีกมากรอข้ากลับไปสั่งสอนวิชาให้พวกเขา” บาคไม่เพียงสอนลูกมนุษย์หรือเซ็นทอร์ เขายังสอนเด็กๆ เผ่าดาร์กเอลฟ์...ซึ่งล้วนเป็นลูกหลานทาส อุทิศตนเพื่อผู้อพยพอย่างอุตสาหะ

เซ็นทอร์เองก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่หยิ่งในศักดิ์ศรี เขาอาจทำทั้งหมดเพื่อให้ความผิดในใจเบาบางลง

ซิกฟรีดไม่ประหลาดใจนัก "ไม่มากไปกว่านี้หรือ"

บาคส่ายศีรษะ

“อืม” ราชาเคาะนิ้วกับพนักวางแขนเบาๆ “ข้าจะให้คนเตรียมเสบียง เสื้อผ้า ยารักษาโรคและน้ำสะอาดสักหลายคันรถให้แก่ท่านก็แล้วกัน ให้เอากลับไปฝากที่ชายแดน ถือเสียว่าเป็นสินน้ำใจที่ท่านอุตส่าห์เดินทางไกลมายังเอวา เธมาร์”

"เป็นพระกรุณาอย่างหาที่เปรียบมิได้"

ซิกฟรีดยังเอ่ยถึงเรื่องอื่นเหนือจากความคาดหมายของบาค “ค่ายเป็นอย่างไรบ้าง บาค รองรับผู้อพยพได้อยู่ไหม”

“เมืองที่ข้าอาศัยอยู่ห่างจากค่ายผู้อพยพไปไม่เท่าไหร่ มีพื้นที่กว้างขวางปลอดภัยให้ขยายเมืองออกไปได้อีก หากสามารถขยายเมือง ทุกคนรวมถึงผู้อพยพก็จะอยู่สบายขึ้น แต่พื้นที่นั้นขาดระบบชลประทานที่ดี เราพยายามสร้าง ทว่ายังเกินกำลังไปมากโข”

ซิกฟรีดพยักหน้า “ข้าจะจัดการให้”

“ขอบพระทัย ท่านช่างเมตตาเหมือนอดีตราชาเฟรธูริน—พระเชษฐาของท่านมากทีเดียว”

ใบหน้าของราชาเอลฟ์ดูโศกเมื่อได้ยินชื่อของพระเชษฐาองค์โต

“ถ้าพี่ของข้ายังอยู่ เขาจะช่วยเหลือพวกเจ้าได้มากกว่านี้”

ซิกฟรีดยืนขึ้น “ขอบใจสำหรับความช่วยเหลือ บาค” เขาเดินลงจากบัลลังก์ หวังจะออกไปสูดอากาศสักครู่ หลังจากนี้เขาต้องชิงเวลา เรื่องที่เขาทราบ เอริแอดเน่ย่อมทราบ

พี่หญิงยอมถอยออกไปโดยง่าย อาจเพราะหาข่าวจากทางอื่นได้แล้วกระมัง...ซิกฟรีดคิด อย่างไรนางก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นสตรีชาญฉลาดผู้เหมาะสมกับตำแหน่งราชินีมากที่สุด...ไม่ใช่แค่เหมาะสมกับราชาองค์เดียว แต่กับราชาถึงสามองค์ด้วยกัน

นางอาจลงมือล่วงหน้าไปก่อนแล้วเสียด้วยซ้ำ

"ข้าต้องบอกความจริงกับท่านข้อหนึ่ง” คิงซิกฟรีดที่อยู่ต่อหน้าบาคผู้นี้ดูราวกับเป็นคนละคน ดวงตาเย็นชาในขณะเดียวกันก็แข็งกร้าว มุมปากทั้งสองข้างเหยียดออก “ข้าไม่เหมือนคิงเฟรธูริน หัวใจดีงามเสี้ยวสุดท้ายของข้า...ถูกดาร์กเอลฟ์ที่ท่านเอ็นดูคนหนึ่งขโมยไปเสียแล้ว"

บาคยิ่งหมอบอย่างหวาดเกรง

——————————————————

โคลด์พาอิลมาเรเดินทางไปทางตะวันตก มุ่งสู่ทิศที่ตั้งดินแดนทมิฬ

สำหรับอิลมาเร ทุกวันผ่านไปด้วยความกังวล เธอเป็นห่วงโคลด์ เพราะเขามีแต่เงียบลงๆ จนบางวันไม่เปิดปาก

เช้ามืดวันที่ห้า ดวอร์ฟสาวตื่นไวกว่าปกติ เธอมุดตัวออกจากถุงนอนหนังสัตว์พลางหาวหวอด เห็นกองไฟซึ่งมอดดับไปแล้ว เมื่อคืนนี้โคลด์เป็นเวรเฝ้ายามช่วงเช้า เขาคงเป็นคนดับไฟ

อิลมาเรตั้งใจจะไปล้างหน้าล้างตา เธอเดินงัวเงียนำซิการ์—หมาป่ายักษ์ไปด้วยเพื่อให้มันได้กินน้ำ แคมป์อยู่ไม่ไกลจากลำธาร เดินครู่หนึ่งก็ถึงริมฝั่งน้ำ

ที่นั่น อิลมาเรพบโคลด์ทำเรื่องน่าตกใจอยู่

"อย่า!"

เธอเข้าไปดึงแขน ห้ามไม่ให้เขาใช้มีดกรีดหน้าอกตัวเอง โคลด์เปลือยอกอยู่ เขากรีดผิวเนื้อบริเวณรอบตราทาสเสร็จแล้ว บนผิวสีเข้มมีเลือดผุดตามรอยกรีดเป็นเส้นคมกริบ

"ไม่เป็นไร" โคลด์เทยาชาใส่แผลแล้วกระชากผิวหนังส่วนนั้นออกโดยไม่ฟังเสียงห้าม ตรากริชประทับอยู่บนแผ่นหนังสีม่วงอมเทาชุ่มเลือด

โคลด์ถลกหนังตัวเอง


—————————————————————————

A/N จะว่าไงดี ความเกลียดเอลฟ์ของโคลด์มีมานานแล้วนะคะ เขาแค่กดมันไว้นานมาก แล้วก็ไม่เปิดเผยความรู้สึกของตัวเองเป็นสิบปี พอได้เปิดเผยมันเลยระเบิดไม่หยุด รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ป.ล. ถามว่าเกลียดถึงขั้นไหน...ก็...ขั้นถลกตราทาสออกเองแบบข้างบนน่ะค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


อัพเดททุกวัน! ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์นะคะ <3  :mew1:

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
สนุกมากค่ะ หาแนวนี้อ่านยากพอสมควรเลย
ไม่รู้จะเม้นอะไรเพิ่มดีเลย 55555555

// แอบกระซิบว่า จริงๆเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยชอบฉาก(เฉพาะ*แบบนั้น*) ของ ช-ญ เท่าไหร่ ปกติก็มักจะเลื่อนไปไม่อ่าน แต่นี่อาจจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ยอมอ่าน(ถึงจะต้องเลื่อนไปเร็วๆหน่อยก็ตาม) แล้วก็คิดไม่ผิด ถ้าเราไม่อ่านคงพลาดอะไรไปแล้วแน่ๆ

*แม้จะอยากตบนังเอรี่ก็ตาม*


พระ-นายเรื่องนี้ใจเด็ดกันทั้งคู่เลย // ปาดเหงื่อ

แต่ชอบตรงความสัมพันธ์ระหว่างโคลด์กับอิล เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก

รอติดตามโคลด์ ตอนต่อไปนะคะ  :bye2:
โคลด์เอ่ยขอบคุณที่เข้าใจเขา "ข้าก็คิดว่าแนวนี้ไม่ค่อยมีคนอ่านเหมือนกัน
แต่คนเขียนของข้านางอยากเขียน ก็หวังว่านางจะไม่จนเหมือนข้า" แอสซาสซินพูดหน้านิ่ง
ป.ล. ข้ารักอิลมาเร นางเป็นเพื่อนที่ดี


พอบอกมังกรหล่อนี่นึกถึงมังกรเรื่องฮอบบิทที่ป๋าเบนพากษ์เสียง 5555 จำได้ตอนนั้นไปดูเพราะมังกรเลย
อยากรู้ว่าราชาคิดจะทำอะไรต่อไปกะโคล์ด เป็นคนเดียวรึเปล่าที่ยังเชียร์ ซิกกะโคล์ดอยู่
เกลียดและหมั่นไส้ซิกมาก แต่ก็ยังเชียร์ งงๆตัวเอง55555
 :z3:
อื้อหือ มังกรพี่เบนเราก็รักค่ะ มังกรอะไรเสียงหล่อ ละลาย ยิ่งดูคลิปที่แกแสดงแคปเจอร์โมชั่นแล้ว สุดยอดมากกกก
กลับๆ ไปไกลละ...ติ่งแตกค่ะ
ซิกฟรีดมีคนเชียร์อยู่น้า แต่นิสัยเขากับโคลด์ทำให้แล่นเรือยากจริงค่ะ ได้ยากๆ บางทีก็ลุ้นดีนะคะ ;)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 5 : หากมีรัก (4)

อิลมาเรพูดต่อไม่ออก หน้าชาไปหมด เธอมองภาพนั้นด้วยความเศร้า หวาดกลัว แต่ความรู้สึกรุนแรงที่สุดคือความเสียใจ

โคลด์โยนแผ่นหนังที่เพิ่งดึงออกมาลงพื้นเหมือนมันเป็นขยะชิ้นหนึ่ง เขาใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดรอบบาดแผลอย่างไม่เร่งรีบ ทว่าเมื่อพันแผลเสร็จ รอยเลือดที่ผุดซึมขึ้นมาจากผ้าพันแผลสีขาว...กลับเป็นรอยตราทาสรูปกริชดังเดิม

อิลมาเรน้ำตาร่วงผล็อยๆ ซึ่งก็สมควรร้อง เธอเห็นเพื่อนถลกหนังตัวเองต่อหน้าโดยที่เข้าใจว่าทำไปเพราะอะไร แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

อิลมาเรก็คงเต็มกลืน

โคลด์นิ่งอีกสักพักจึงเรียก "มานี่มา...อย่าร้อง" เขาวางมือบนหัวดวอร์ฟสาว แขนอีกข้างวางพักไว้เพราะยกไม่ขึ้น

"เราเป็นคู่หูกัน” เขาบอก

อิลมาเรพยักหน้า

“ข้าไม่อยากมีมันติดตัวแล้ว”

อิลมาเรพยักหน้าอีก

“แต่ดูเหมือนมันไม่หายไปง่ายๆ แค่ลอกเนื้อออก”

อิลมาเรระเบิดเสียงร้องไห้โฮ

“ข้าขอโทษ…” โคลด์เสียใจ ทว่าในใจยังเต็มไปด้วยความเกลียดชังตราทาส ยิ่งท่าทางภายนอกของเขานิ่งสงบมากเท่าไหร่ พายุแห่งความชังภายในใจยิ่งพัดโหม

ตั้งแต่ทำลายหัวใจมังกรศิลาแล้วหนีมา เขามั่นใจว่าจะถูกตามล่า แต่เขาจะไม่ยอมตายหรือยอมโดนจับกลับไปลงโทษ

เขาพบคนที่เขาตามหาแล้ว

เกวนโดลิน...เขากำลังจะไปหาเธอ

หากเอลฟ์กล้าขัดขวาง เขาจะล่าพวกมัน

————————————————————————-

มาลแกธขยับนิ้วเล่นกับผีเสื้อไฟตัวน้อย มันบินล้อขึ้นลงไปตามการเคลื่อนไหว ปีกปัดผ่านผิวเนื้อ อ่อนโยนเท่าที่ไฟจะอ่อนโยนได้ วูบเดียว...ผีเสื้อก็พลิ้วปีกไป ก่อนที่จะเกิดอันตรายใดๆ แก่เจ้านายผู้สร้างมันขึ้นมา

“ท่านมาลแกธ เช้านี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ขอรับ” เอลฟ์ตะวันออกฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิท เขาตามโคลด์เจอในที่สุด ความจริงแล้วเขาควรออกคำสั่งให้จับโคลด์กลับเอวา เธมาร์เดี๋ยวนั้น แต่สิ่งที่เขาทำคือให้ตามห่างๆ

และไม่มีการส่งสารบอกความคืบหน้าถึงซิกฟรีดแต่อย่างใด

เดเนธอร์—ลูกน้องคนสนิทพูดรายงานไป ลอบสังเกตหัวหน้าไป

ท่านมาลแกธไม่ฟังข้าเลย...

เดเนธอร์เป็นหนึ่งในหน่วย ‘กาลาฮาน’ หรือหน่วยชำนาญการพิเศษที่มาลแกธตั้งขึ้น นอกจากนี้ เขายังเป็นรุ่นแรกที่เข้ารับการฝึก และเป็นคนแรกที่ผ่านด่านฝึกโหดหินมาได้ มาลแกธจึงคล้ายเอ็นดูเป็นพิเศษ เวลามีอะไรก็จะมาถามความเห็นบ้าง ซึ่งเดเนธอร์ไม่เคยแน่ใจเลยว่ามาลแกธถามจริงๆ หรือถามทดสอบ...หรืออาจถามไปอย่างนั้นเอง

ตอนที่ได้รับคำสั่งจากคิงซิกฟรีดให้จับดาร์กเอลฟ์ หัวหน้าถามเขาว่า ควรทำอย่างไรกับหน่วยอสรพิษจากอิซิลดาร์ของท่านหญิงเอริแอดเน่ดี

 

“ควรทำอย่างไรน่ะหรือขอรับ” เดเนธอร์อยู่ในลานฝึกอาวุธ เขาได้เป็นครูฝึกอาวุธลับให้หน่วยชำนาญการพิเศษ

“หน่วยอสรพิษตามเราไปแน่ๆ” มาลแกธลูบปาก พูดเสียงต่ำเหมือนคุยกับตัวเองมากกว่า “เจ้าคิดว่าอย่างไร”

“อา…” เขาคิดว่าคงดีไม่น้อย อย่างไรจุดมุ่งหมายก็คือจัดการดาร์กเอลฟ์ เรื่องแบบนี้ไม่ควรคิดมากว่าจะถูกขโมยผลงาน

แต่ระดับท่านมาลแกธกลัวถูกขโมยผลงานหรือ...ไร้สาระน่า เดเนธอร์

เขากำลังจะอ้าปาก แต่มาลแกธขัดเสียก่อน “แยกเป็นสองกลุ่ม หน่วยจริงกับหน่วยหลอก ไว้ล่ออสรพิษไปทางอื่น เจ้าคัดมาสักคนที่รูปร่างพอๆ กับข้าให้เป็นหัวหน้าหน่วยหลอก เจ้าตามข้าทันใช่ไหม”

“ขอรับ” เดเนอร์พยักหน้า

...แต่ท่านมาลแกธทำไปเพื่ออะไรขอรับ

ยังไม่ทันเอ่ยถาม หัวหน้าก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนอีกครั้ง “ดี ข้าขอหน่วยละห้าคน หน่วยจริงมีข้า มีเจ้า ที่เหลืออีกสามคนเจ้าคิดจะเสนอใคร”

เดเนธอร์เอ่ยชื่อมือดีไปสี่ห้าชื่อ

“เอาที่ว่าไปอยู่หน่วยหลอก” มาลแกธตัดสินใจรวดเร็ว “ส่วนหน่วยของข้า...อืม”

แล้วท่านมาลแกธก็เลือกทหารในหน่วยเองโดยที่เขาแอบคิดในใจว่า

ท่านมาลแกธไม่ฟังข้าเลย...


 

“ขอบใจสำหรับรายงาน เดเนธอร์”

ลูกน้องคนสนิทน้อมศีรษะรับ “หน่วยล่ออสรพิษยังไม่ตอบกลับมาขอรับ”

“เงียบไว้ก่อน อย่าทำให้อสรพิษตื่น” มาลแกธขังผีเสื้อไฟไว้ในกรงนิ้วทั้งห้า ปีกของมันขยับช้าๆ เขากำมือเพื่อดับไฟ

“ขอรับ” เดเนธอร์เอ่ยก่อนถอยออกมา เขารู้สึกว่าตั้งแต่เกิดเหตุชิงหัวใจมังกรศิลา หัวหน้าดูเงียบขรึมผิดปกติ อาจเป็นเพราะโดนเจ้าดาร์กเอลฟ์นั่นหักหลัง หัวหน้าไม่เพียงช่วยมันล่ามังกรศิลา แต่ยังเป็นผู้รับรองให้มันเข้ามาในราชวัง เป็นใครก็เจ็บใจทั้งนั้น

ยิ่งคิดยิ่งทำให้เดเนธอร์ไม่พอใจเจ้าดาร์กเอลฟ์ตนนี้ โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่ได้เหยียดชาติพันธุ์ แต่เพราะเรื่องชิงหัวใจมังกรนี่ละ ที่ทำให้เดเนธอร์เริ่มคิดว่าสันดานดาร์กเอลฟ์คงเป็นอย่างใครเขาว่าจริงๆ

ขนาดสัตว์ยังรู้คุณเลย...ดาร์กเอลฟ์

เดเนธอร์ส่ายหน้าเหนื่อยหน่าย เขากลับไปซุ่มดูดาร์กเอลฟ์ ดวอร์ฟ และสุนัขป่าจากที่ไกลๆ ตามเดิม

———————————————————————————-

เมื่อใกล้ถึงจุดหมาย โคลด์บอกแยกทางกับอิลมาเร

“เจ้าไปตามถนนนี้อีกหน่อยก็ถึงเมือง คนในกิลด์พ่อค้าใต้ดินมารออยู่แล้วใช่ไหม”

“อืม...” อิลมาเรอยู่บนหลังซิการ์ กำขนหมาป่าสีเทาเงิน ดีที่ไม่ดึงขนมันหลุดเป็นกระจุกเหมือนช่วงวันแรกๆ “ต้องแยกกันจริงสิ”

“เจ้าไปกับข้าไม่ได้ ข้าเป็นนักโทษของทางการ เส้นทางหลังจากนี้ก็อันตราย เจ้าคงต้องค้าขายอยู่ใต้ดินไปสักพัก” โคลด์มอบทรัพย์สินในธนาคารใต้ดินทั้งหมดของเขาให้อิลมาเร และนั่นไม่มีปัญหาในการเบิกถอนเลย เพราะธนาคารใต้ดินของเขาก็คือตัวอิลมาเรเองนั่นแหละ

"ข้าขอโทษอีกรอบ เจ้าทำการค้าลำบากแล้ว"

"พูดมากน่า" ดวอร์ฟสาวชูไม้ชูมือ “ข้า ท่านอิลมาเร! ไม่สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดมีตลาดขายของได้แค่แห่งเดียว ที่จริงข้าก็เบื่อค้าขายในเมืองเอลฟ์แล้ว ข้าจะไปรีดเงินจากเมืองอื่นบ้าง"

ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่อิลมาเรก็รั้งรอ ไม่ยอมแยกไปเสียที ซ้ำยังพยายามชวนโคลด์ให้ไปด้วยกันแม้รู้ว่าเขาจะไม่ไป

"เจ้าเข้าเมืองไปเถิด เราต้องแยกกันตรงนี้แล้วจริงๆ" โคลด์กอดเพื่อนรักของเขา

“ข้าจะได้เจอเจ้าอีกมั้ย…” อิลมาเรกอดตอบ โคลด์บอกแค่ว่าเขาจะไปตามหาคนที่ชื่อเกวนโดลิน แต่ไม่บอกรายละเอียดอื่นๆ อีกตามเคย

“ถ้าข้ายังรอด ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ข้าจะหาทางติดต่อเจ้าเอง”

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะหาข้าเจออยู่แล้ว ก็เราเป็นคู่หูกันมาตั้งนาน” อิลมาเรน้ำตาซึม เธอให้ซิการ์ออกเดิน แต่ก็หันกลับมามองโคลด์เป็นระยะ

“ถ้าข้ายังรอด...เราจะได้เจอกันอีก”

โคลด์รำพึงเหมือนย้ำกับตัวเอง เมื่ออิลมาเรขี่หมาป่ายักษ์ลับสายตาไป เขาเองก็หายตัวไปจากจุดที่ยืนอยู่เช่นกัน

——————————————————————

"ท่านมาลแกธขอรับ..."

มาลแกธกำหมัดยกขึ้น หมายความว่า ‘ไม่ต้องพูดอะไร ข้าเห็นแล้ว’

หน่วยของเขาซุ่มดูโคลด์มาหลายวันแล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่เป้าหมายมีการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ โคลด์แยกกับอิลมาเร การที่โคลด์ตัดสินใจเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร

อาจเป็นต้องการพาดวอร์ฟหนี จนมั่นใจว่าพ้นหูพ้นตาเอลฟ์แล้วค่อยแยกกัน

หรือโคลด์รู้ตัวว่าถูกตาม จึงแยกทางกันเพื่อให้อิลมาเรมีโอกาสหนีมากขึ้น

อย่างไรเป้าหมายก็คือโคลด์ ไม่ใช่อิลมาเร

มาลแกธพยายามเข้าใจความคิดของโคลด์ สตาร์

"เจ้าตามดวอร์ฟ” เขาสั่งเดเนธอร์ “ที่เหลือจงมากับข้าสองคน...เจ้ากับเจ้าก็แล้วกัน" มาลแกธเลือกลูกน้องที่เชี่ยวชาญการยิงธนูคนหนึ่ง กับเชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิดอีกคนหนึ่ง

เดเนธอร์สังหรณ์ไม่ดี แต่จะใช้มันเป็นเหตุผลรั้งหัวหน้าคงแปลก สุดท้ายจึงทำตามคำสั่ง

จะว่าไป กลุ่มที่รับหน้าที่ล่อหน่วยอสรพิษของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ก็เงียบหาย...

บิดาแห่งนภาโปรดอวยชัย อย่าให้เกิดเหตุเลวร้ายขึ้นเลย เดเนธอร์เหลือบมองเบื้องบน

แสงอาทิตย์คล้ายจะย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีเลือด

 

โคลด์วิ่งขึ้นเขา เขามั่นใจแล้วว่ามีคนตามมาจริงๆ ในการหลบหนีตลอดหลายวันมานี้เขาจับสัมผัสได้บางเบา และระวังตัวอยู่ตลอดเวลา กระทั่งเมื่อสักครู่ยิ่งจับสัมผัสได้ชัดเจน

มาจับกลับไปลงโทษงั้นเหรอ โคลด์คิด...ยิ้มแย้มอยู่ใต้ฮู้ด ริมฝีปากสีม่วงอ่อนบิดเบี้ยวเพราะกลั้นเสียงหัวเราะ ก็ดี...ข้าเองก็เบื่อพวกเอลฟ์เต็มที

ใจจริง โคลด์นึกเป็นห่วงอิลมาเร แต่คิดอีกทีเขาย้อนกลับไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ทางนั้นน่าจะตามล่าตัวเขาเป็นหลักมากกว่า

ดังนั้น…แค่ทำให้พวกมันตามต่ออีกไม่ได้เสียก็สิ้นเรื่อง

โคลด์ใช้ยาชาอีกสองขวดราดแผลเพื่อให้เคลื่อนไหวคล่องตัว แผลที่เพิ่งถลกหนังตัวเองมีแต่เลือดซึมออกมา เขาเทยาชาไปก็พึมพำว่า "แผลแค่นี้จะอะไรนักหนา"

เมื่อไม่มีอิลมาเร โคลด์ก็ยิ่งเย็นชา


—————————————————————————

A/N ตอนนี้แนะนำหน่วยของมาลแกธกับพวกลูกน้อง ซึ่งเอลฟ์แต่ละคนฝีมือดีนะคะ และเคารพรักมาลแกธมาก ถ้าเรื่องไม่เครียดคงมีบทแซวละว่า มาลแกธเปลี่ยนฮาเร็มจากอาศรมควาร์มาเป็นหน่วยกาลาฮาน XD
ป.ล. ตอนหน้ามาลแกธปะทะโคลด์แล้วค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


วันนี้อัพ 2 ตอนเพราะกิจกรรมโบนัสวันหยุดในเพจ FB ค่ะ ;) กิจกรรมยังไม่จบนะคะ ทุกๆ 100 Likes ลงเพิ่ม 1 ตอนจ้า

>> หน้ากิจกรรม-คลิก <<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2017 20:10:44 โดย ILLREI »

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 5 : หากมีรัก (5)

อยู่ๆ ร่องรอยของดาร์กเอลฟ์ก็หายไป ผู้ติดตามทราบเช่นกันว่าแอสซาสซินหยุดเคลื่อนไหวเพื่อหลบซ่อนตัว

มาลแกธหรี่ตา ส่งรหัสมือเพื่อออกคำสั่งให้แยกกันอย่างเงียบเชียบแล้วดึงผ้าคลุมหน้าลง

มาลแกธหรือ...

โคลด์ซ่อนอยู่บนที่สูง เขาเห็นมาลแกธสั่งให้ทหารเอลฟ์สองคนแยกกันตามหา ดวงตาสีม่วงเข้มหรี่ลงอย่างปรีดา ในใจคิดแค่ว่า

‘ซ้าย’ หรือ ‘ขวา’ ดี

 

สัมผัสของอีกฝ่ายที่เขาจับได้ขณะนี้ เป็นสัมผัสเยียบเย็นของ ‘นักฆ่า’

ไม่ใช่โคลด์

ไม่มีโคลด์ที่เขาคิดว่าตัวเองรู้จัก

มาลแกธดึงผ้าคลุมหน้าขึ้นตามเดิม โคลด์เห็นเขาแล้ว เขาค่อนข้างแน่ใจ แต่ดูเหมือนใบหน้านี้จะใช้เจรจาไม่ได้

อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ข้าจะถือว่าเราไม่รู้จักกันชั่วคราว

 

จะทำให้นักล่าเลิกตามได้อย่างไร วิธีง่ายที่สุดอยู่ตรงหน้า โคลด์เลือกนักธนูเป็นเป้าหมายแรก เพราะถ้าเลือกนักดาบก่อน อาจถูกนักธนูยิงใส่ระหว่างประมือ

เมื่อเห็นว่าทั้งสามคนแยกกันมาคนละทางได้พอสมควร อาวุธลับไร้ที่มาก็ถูกซัดใส่นักธนูอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทำให้เกิดเสียงดังไปกว่าเสียงใบไม้แห้งหลุดจากขั้ว ร่วงสัมผัสผืนป่า

ที่ดังคือเสียงร่างนักธนูยามร่วงลงไปกองกับพื้น

ความอำมหิตของดาร์กเอลฟ์ปักเข้ากลางหน้าผากเอลฟ์ เล็งจุดตายอย่างไร้ความลังเล

ในที่สุด โคลด์ สตาร์ แอสซาสซินผู้ถือคติว่า ‘จะไม่ทำงานที่ไม่ได้เงิน’ ก็ฆ่าคนโดยไม่ได้เงินเป็นครั้งแรกนับแต่ประกอบอาชีพมา เพราะเขามีสิ่งที่สำคัญกว่า

และจะไม่ให้เอลฟ์หน้าไหนมาขัดขวาง!

เสียงร่วงของนักธนูทำให้นักดาบที่อยู่ใกล้กว่าตรงเข้ามา โคลด์ยืนเหนือร่างไร้ชีวิตของเพื่อนมันเพื่อให้เห็นว่าเขาเป็นคนฆ่า เขายิ้มให้นักดาบแล้วก้าวถอยหลัง ใช้ต้นไม้กำบังก่อนนักดาบที่โกรธจัดจะพุ่งเข้ามาถึงตัว

นักดาบคล้ายสู้กับเงาที่เคลื่อนไหวรวดเร็วจนมองตามไม่ทัน มันรู้สึกถึงอันตรายจากด้านหลัง จึงหันไปใช้ดาบรับมีดของแอสซาสซินได้ทัน

ทว่านั่นเป็นแค่ตัวล่อ จังหวะเดียวกับที่มันรับมีด ก็ถูกมีดอีกเล่มปักเข้าที่คอ

ระดับมันต่างกัน แอสซาสซินตนนี้ถนัดกระทั่งการใช้มีดสองมือ

โคลด์เก็บมีดสั้นในมือขวา แล้วดึงบีฟอร์ซในมือซ้ายออกโดยไม่ใช้เวทเยือกแข็ง เลือดจากคอของทหารเอลฟ์จึงพุ่งเป็นสายใส่หน้าเขา

ระหว่างที่ร่างของมันล้มลงไปชักกระตุก โคลด์เอาฮู้ดลง ใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดออกจากหน้า ไม่ให้เลือดเข้าตา เขาเล็งจุดตายอีกครั้งด้วยความเกลียดชังอันเหมือนลูกธนูพุ่งจากคันธนู

ยิงออกไปแล้วไม่มีเอาคืน

โคลด์เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรอยู่ การฆ่าของเขาไม่มีความรีบร้อนเจือปน ทว่าเยือกเย็นถึงขีดสุด

เหลืออีกคนเดียว...

โคลด์เก็บมาลแกธไว้เป็นคนสุดท้ายเพราะสู้ด้วยยากที่สุด เขาหลบเร้น ไม่ออกมาปะทะซึ่งๆ หน้า

 

ขณะที่แอสซาสซินกำบังตนในเงาไม้ หัวหน้าหน่วยกาลาฮานกลับออกมาที่แจ้ง

มาลแกธกระชับดาบวงพระจันทร์เตรียมพร้อม มันเป็นดาบคู่ ใบดาบโค้งเหมือนจันทร์เสี้ยว มีตัวอักษรที่คล้ายอักขระสลักอยู่เต็มไปหมด หากเพ่งดูใกล้ๆ จะพบว่าเป็นรายชื่อ

 

“นี่ๆ ทำไมดาบของท่านมาลแกลถึงมีตัวอักษรยึกยือเขียนเต็มไปหมดเลยเจ้าคะ” อิลมาเรถามระหว่างมาลแกธทำความสะอาดดาบวงพระจันทร์ เธอพอรู้จักตัวอักษรของเอลฟ์รูเมเรียร์ แต่ตัวอักษรบนดาบแค่คล้ายกัน ไม่ใช่แบบภาคกลางเสียทีเดียว

“รายชื่อที่มันได้ดื่มเลือดกินวิญญาณอย่างไรละ นี่...เอ็ดราฮิล ล็องธู ญาติข้าที่ได้รับเกียรติให้เป็นรายชื่อแรก ส่วนนี่ฟินดิส ยาห์ดีร์ ตระกูลที่เก่งแต่ปาก...”

มาลแกธร่ายไปเรื่อยๆ ส่วนอิลมาเรก็หน้าซีดลงๆ แม้จะพยายามยิ้มแจ่มใส

“เชื่อหรือ ข้าล้อเล่นน่า”


 

มาลแกธเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหว ตั้งแต่เขาสั่งให้ลูกน้องแยกกัน เขารับความเสี่ยงว่าจะต้องเสียทั้งคู่ไป แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้

อันที่จริง เขายังหวังลึกๆ ว่าโคลด์จะไม่ลงมือฆ่า...

“อิลมาเรอยู่กับข้า”

เอลฟ์ตะวันออกเอ่ยเสียงดังพอที่อีกฝ่ายจะได้ยิน เขาสั่งให้เดเนธอร์ตามล่าอิลมาเรแล้วคุมตัวไว้ โดยให้เหตุผลกับลูกน้องคนสนิทว่า ‘เผื่อใช้งานได้’

ซึ่งน่าจะได้ใช้งานจริงๆ

“เจ้าสังหารลูกน้องสองคนของข้า ข้าขอเรียกคืนเพียงขาสองข้างของดวอร์ฟ”

“อ้อ…” โคลด์ที่เงียบมาตลอดเอ่ยปาก “พวกเอลฟ์มันเลวเหมือนกันหมดจริงๆ” เสียงของดาร์กเอลฟ์ดังก้องไปก้องมา ยังจับทิศทางที่มาของเสียงไม่ได้

มาลแกธกระตุกยิ้มเมื่อทำให้โคลด์เปิดปากได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจา...ไม่หรอก เขาพูดในสิ่งที่ทำให้โคลด์เดือด ใครจะอยากเจรจากับคนที่ขู่ว่าจะตัดขาเพื่อนของตนกัน

“พวกเจ้าตามล่า ข้าสู้กลับ พอสู้ข้าไม่ได้เลยรังแกผู้หญิง” โคลด์เอ่ยเยือกเย็น

“เจ้าจะว่าอย่างไรก็ได้ ข้าหน้าทน”

“เจ้าไม่ได้หน้าทน เจ้ามันกลับกลอก ไม่มีหัวใจ สุนัขรับใช้พระราชา” โคลด์ไม่ปิดบังความในใจอีก เขาขาดกับซิกฟรีดและมาลแกธตั้งแต่ขโมยหัวใจมังกรศิลา

“เจ้าคิดอย่างนี้มาโดยตลอดหรือนี่ แต่ก็อีก สุดท้ายเจ้าก็วกไปหาเขา แม้กระทั่งเวลาที่ด่าข้า”

“ในอาศรมมีควาร์กี่คนมายืนร้องไห้หน้าห้องเจ้า มาตามดูเจ้าตอนสอนวิชาข้า เจ้าเคยเช็ดน้ำตาให้พวกเขาไหม ไม่ เจ้าแค่ยิ้มให้ แล้วควาร์หน้าโง่พวกนั้นก็ยิ้มร่า”

มาลแกธคิดว่าสถานการณ์เช่นนี้ตนไม่ควรยิ้ม แม้คำพูดของโคลด์จะชวนให้คิดว่ากำลังตัดพ้อเพราะหึงหวงก็ตาม

“เราจะไม่ขุดสันดานข้ามาขายเวลานี้ เจ้าออกมาเถอะ มาคุยกัน หรือหากต้องการเชือดคอข้าก็ให้ออกมา”

“คิดว่าข้าไม่ทราบหรือว่าเจ้าเก่งกว่า” โคลด์ตอบ แปลว่าเขาไม่คิดออกไปให้เสียเปรียบ “ซิกฟรีดส่งเจ้ามาตามจับข้า เขาให้เอาหัวกลับไป หรือเอาตัวกลับไปแยกหัวออกทีหลังล่ะ”

“ข้าตั้งใจว่าจะให้เจ้าหนีหากมีโอกาสเหมาะ” มาลแกธย่อตัวลง แล้ววางดาบวงพระจันทร์ช้าๆ

“งั้นก็ออกจากป่าไปสิ โอ ไม่สิ ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้หรอก เจ้าจับอิลมาเรไว้และตั้งใจจะตัดขาของนาง ข้ายังไม่ลืมที่เจ้าพูดเมื่อสักครู่” วิธีการพูดจาของโคลด์ก็เปลี่ยนไป มันเสียดสี ประชดประชันทุกถ้อยคำ

“ข้าไม่อาจปล่อยเจ้าไปโดยที่ไม่ได้คุยกัน” มาลแกธยืนขึ้นอ้าแขนออก ในมือปราศจากอาวุธ “ข้ายอมตัดขาดวอร์ฟเพื่อให้ได้คุยเลยเอ้า”

แม้นิสัยจะชอบพูดล้อเล่น ทว่าตั้งแต่รู้จักกันมา (หรือ ‘คิด’ ว่ารู้จักกันมา) นี่เป็นครั้งแรกที่มาลแกธล้อเล่นรุนแรง

เขาลองขยี้จุดอ่อนของโคลด์ซ้ำอีก โคลด์เจ็บ และอาจโกรธ ซึ่งมันจะนำไปสู่ความมุทะลุ ไม่รอบคอบเวลาต่อสู้

มีเสียงหัวเราะก้องไปทั่วป่า มาลแกธไม่เคยได้ยินโคลด์ สตาร์ หัวเราะแบบนี้มาก่อน มันเต็มไปด้วยความชิงชัง

ดาร์กเอลฟ์เดินออกมาจากหลังต้นไม้ในระยะคุมเชิง เขายืนตรง สองมือกระชับมีดสั้นไขว้กันในท่าพร้อมโจมตี เล่มหนึ่งในนั้นคืออันที่มาลแกธเอาไปซ่อมให้ด้วยซ้ำ

“งั้นข้าจะจับเจ้า ตัดขาเจ้า ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” สันดานดาร์กเอลฟ์เป็นเช่นนี้

“ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือ”

“ไม่มี” ท่าทางของโคลด์แสดงให้เห็นว่าเขาไม่เชื่อคำพูดของมาลแกธ “เจ้าใช้เสน่ห์ของเจ้ากับดาร์กเอลฟ์ไม่ได้หรอก เอลฟ์ สิ่งที่ข้าทำไปร้ายแรงแค่ไหน ข้าทราบ หากคิดว่าทั้งที่ทราบแล้วข้ายังเพ้อฝันเชื่อคำหวานหูของเจ้า เจ้าก็ดูถูกข้า”

ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาหลายวันที่อยู่กับมาลแกธ แต่เป็นช่วงเวลาหลายปีที่อยู่กับซิกฟรีด เขาปิดบังตัวตนและนิสัยที่แท้จริงมาตลอด ยอมเป็นลาโง่ให้พวกเอลฟ์ตายใจ แต่เวลานี้เขาใกล้หาเกวนโดลินเจอแล้ว เบื่อจะเสแสร้งเต็มที

“ข้าตามเจ้ามาหลายวันที่รัก” มาลแกธเอ่ย “แต่ข้าไม่ลงมือ ทั้งๆ ที่หากอิลมาเรอยู่กับเจ้า ข้าจะลงมือได้ง่ายกว่า เจ้าจะอ่อนกำลังเพราะเสียเวลาปกป้องดวอร์ฟ พะวงหน้าพะวงหลังว่านางจะรอดหรือไม่ แต่ข้ารอให้เจ้าแยกกัน...ทำไมล่ะ โคลด์ สตาร์”

“เจ้าจะโกหกเรื่องนี้ด้วยก็ได้” โคลด์ตอบเฉยชา “ชายที่เลี้ยงดูข้าก่อนจะมาที่นี่สอนให้ข้ารู้จักความร้ายกาจทุกรูปแบบมาแล้ว รวมถึงความร้ายกาจที่แสร้งเป็น ‘ความใจดี’ ”

“เพราะข้าจัดการทำให้เจ้า ‘หนี’ อย่างแนบเนียนได้” มาลแกธพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ได้โน้มน้าวเป็นพิเศษ “ข้าสั่งลูกน้องที่ภักดีกับซิกฟรีดให้แยกไปตามอิลมาเรสามคน อีกสองคนข้าจะทำให้มันไขว้เขวจนเปิดช่องให้เจ้า แต่ไม่นึกเลยว่า...เจ้าจะเหี้ยมขนาดนี้ ข้าชมนะ”

มาลแกธดูมือทั้งสองข้างของโคลด์กระชับมีดแบบไม่ผ่อนแรง “แต่สงสัยว่าข้าต้องทุบเจ้าให้สลบแล้วมัดไว้ จะได้คุยหาทางออกกันดีๆ กระมัง”

“สุดท้ายเจ้าก็วกกลับมาเรื่องจับข้าไว้อยู่ดี”


—————————————————————————

A/N ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างทำร้ายหัวใจอีกฝ่าย มาลแกธหวังให้โคลด์เป็นเหมือนเดิมมาตลอด แต่โคลด์คนเดิมที่เขาเคยหลงรักนั้น...เหมือนจะไม่มี
ป.ล. มาลแกธใช้กำลังพาโคลด์กลับไปก็ได้ค่ะ อย่างที่บอก ในเรื่องการต่อสู้ จริงๆ มาลแกธเก่งกว่าโคลด์มาก


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


กิจกรรม 'โบนัสวันหยุด' ในเพจ FB ครบ 200 Likes จึงอัพ 3 ตอนใน 1 วันค่ะ!
กิจกรรมยังไม่จบนะคะ สถานีต่อไป 300 Likes! ถ้าทำได้อัพเพิ่มอีกตอน กระซิบว่าเป็นตอนจบของบทนี้ค่ะ
เราจะนอนเที่ยงคืน เพราะงั้นถ้าเลยเที่ยงคืนของวันนี้ไปแล้วไม่นับ Likes แล้วน้า <3


>> หน้ากิจกรรม-คลิก <<

อิมเมจมาลแกธคงราวๆ นี้มังคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2017 01:14:06 โดย ILLREI »

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
มาปักหมุดติดตามนิยายด้วยอีกคน

รายชื่อตัวละครทำเอาคิดถึงลอร์ดออฟเดอะริงส์ขึ้นมายิกๆ

คำว่า "ของรัก" ทำเอาคิดว่านางเป็นกอลลัมเลย  :laugh: แต่กอลลัมน่าจะนิสัยดีกว่านางนะ อ่านมาหลายตอนแล้ว ไม่หลงกลว่านางดีแน่ๆ ชะนี 3 ผัว

สนับสนุนให้เอาซิกไปโบกปูนซะอีก 1 เสียง ตัวละครทุกตัวเหมือนจะมีมุมมืดเป็นของตัวเอง ดูมีมิติดี

ยังไงนี่ก็ชุมชนของนิยาย BL การมีตัวละครเพศชายเพศหญิงเป็นตัวละครเด่นมันเป็นเรื่องปกติค่ะ แต่เนื้อหาก็ควรจะเด่นที่ BL ค่ะ คู่ปกติอย่าให้เด่นมากนักค่ะ


ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เป็นรักที่ดูซาดิสเหลือเกิน :hao7:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โคลด์ดูน่ากลัวมาก
และน่าสงสารมากด้วยเช่นกัน

ทุกความสัมพันธ์ในเรื่องนี้ทำให้รู้สึกถึงรสชาติขมปร่าอยู่ในปาก

หวังว่าเอรี่จะไม่ทำร้ายบาคนะ

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 5 : หากมีรัก (6)

มาลแกธยิ้มบางๆ เมื่อได้ยินโคลด์โต้กลับ เขาไม่ได้ตั้งการ์ดหรือตั้งท่าสู้ แต่บรรยากาศรอบตัวกลับไว้ใจไม่ได้

แม้จะเสียลูกน้องฝีมือดี ทว่าเลือดในกายของมาลแกธกลับระอุขึ้นด้วยความตื่นเต้น เขาสัมผัสได้ว่าเทพีแห่งสงครามทรงยินดีที่บุตรชายไม่ลืมพระองค์

เอลฟ์ตะวันออกมักจะอายุสั้น เนื่องจากมีสงครามในตระกูลและระหว่างตระกูลเสมอ สำหรับพวกเขา สันติมีไว้สำหรับผู้ที่หมดอาลัยตายอยากในชีวิตเท่านั้น

ทว่ามาลแกธอยู่รอดมาได้ถึง 279 ปี ลือกันในตระกูลล็องธูว่าเขาสมควรตายตั้งแต่อยู่ในท้องมารดา เนื่องจากบิดาบังคับให้เธอกลืนพิษเพื่อขับทารกนอกสมรสออก แต่เขาไม่ยอมให้เทพแห่งความตายพาตัวไป ลือกันอีกว่าเสียงร้องแรกของเขาคือเสียงสาปแช่งบิดาให้สิ้นลมอย่างไร้เกียรติ

หลายปีต่อมา มาลแกธ ล็องธูสังหารบิดา เหนือซากศพเขาประกาศว่า “ข้าคือบุตรของเทพแห่งความตายและเทพีแห่งสงคราม”

“ข้าตั้งใจจะช่วยเจ้าจริงๆ” มาลแกธย้ำ

“อุตส่าห์วางแผนช่วยข้าขนาดนี้ ฟังเหมือนเจ้าหลงรักข้าอยู่จริงๆ เลยนะ” โคลด์เยาะ

“กฎข้อแรกของแอสซาสซินที่อยากมีชีวิตอยู่นานๆ คือ ‘อย่าไว้ใจใคร’ ” มาลแกธยิ้ม “ส่วนกฎข้อแรกของเอลฟ์ตะวันออกที่อยากตายเร็วก็...เอาเป็นว่า ข้าจะเฉลยให้เจ้าฟังทีหลัง”

โคลด์หัวเราะ แต่ที่ต้องจับตาดูให้ดีคือภาษาร่างกายของเขา หัวไหล่เกร็ง หลังเท้ายกขึ้น พริบตาเดียวก็พุ่งเข้ามา เขาเตะอาวุธของมาลแกธออกไปก่อน ไม่ให้อีกฝ่ายมีโอกาสหยิบขึ้นมา

มาลแกธคิดว่าโคลด์ต้องรอบคอบ

โคลด์รอบคอบเสมอ เขาไม่อยากนึกในเวลานี้ แต่ภาพโคลด์บ่นอุบอิบข้างสนามประลองในอาศรมกลับผุดขึ้นมา เขาโน้มลงไปฟัง ได้ยินว่า

 

“ทำไมบุกเข้าไปเล่า เขาเปิดช่องว่างชัดขนาดนี้ต้องเป็นกับดักแน่ๆ ควาร์วางแผนไม่เป็นหรือ”

“อย่างนั้นหรือ แต่ข้ากลับชอบที่เขากล้าเสี่ยงนะ”

มาลแกธออกความเห็น

“เจ้าจงระวังพลาดพลั้งเพราะรอบคอบเกินไปละ”


 

ทันทีที่โคลด์เข้าประชิดตัว มาลแกธใช้ ‘จังหวะรอบคอบ’ ของโคลด์บุกกลับ เขาหลอกโคลด์ด้วยการขยับร่างกายด้านซ้าย คล้ายจะเอื้อมหยิบอาวุธ แต่กลับตอบโต้ด้วยอาวุธในมือขวา

มีดสนับมือเล่มเล็กเล็งเข้าที่ชายโครง

โคลด์หลบทันฉิวเฉียด แต่เขาได้เลือด เสื้อเนื้อหนาขาดพร้อมเนื้อบางส่วน ประมาทมาลแกธไม่ได้จริงๆ

"พวกเอลฟ์มันมดทหาร ถ้าข้าฆ่าเจ้าก่อนส่งสาร ก็ไม่มีใครสั่งการพวกมันตัดขาอิลมาเร" ดวงตาสีม่วงของโคลด์ซีดลงและใสเหมือนน้ำแข็งเย็นเฉียบ

มาลแกธยิ้ม "ถ้าเจ้าพูดจริงทำจริง ข้าคงสองใจระหว่างดีใจที่เจ้าเป็นแอสซาสซินที่ดี กับเสียใจที่มองเจ้าพลาดไป"

"ดาร์กเอลฟ์กลับกลอก เป็นหนูสกปรก เจ้าควรฟังที่เอลฟ์ตนอื่นพูด"

ในอดีต ควาร์หลายคนเตือนมาลแกธว่าดาร์กเอลฟ์เชื่อใจไม่ได้ อย่าสอนวิชาให้ แต่มาลแกธไม่สนใจ ซ้ำยังงัดเอาอาวุธแปลกๆ มาสอนโคลด์เป็นประจำ

"ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าเป็นแบบที่คนอื่นว่า"

"ไม่" โคลด์แทงมีดไม่ยั้ง เขายิ้มกว้างขึ้นและกว้างขึ้นอีก ทั่วร่างอาบรังสีสังหารดุเดือด "ข้าเป็นยิ่งกว่าที่พวกมันว่า!"

มาลแกธตั้งรับ เขาทราบว่าตัวเองใจไม่แข็งพอที่จะแทงโคลด์ ทุกครั้งที่สบโอกาส เขากลับชะงักไปหนึ่งจังหวะ

ทว่าโคลด์ไม่ทันสังเกตจุดนั้น เขาแบ่งสมาธิระวังไฟของมาลแกธพร้อมๆ กับอาวุธชิ้นอื่นที่อาจซ่อนอยู่

ความเกลียดชังเอลฟ์มากมายขนาดนี้ของโคลด์มีที่มาจากไหนกัน จากการเป็นทาส หรือมีมาก่อนหน้านั้นอีก

โคลด์หลุดปากพูดถึงชายที่เคยเลี้ยงดูเขามา คำพูดสั้นๆ ประโยคนั้นอาจเกี่ยวข้องกับความเกลียดชังนี้

มาลแกธรู้สึกเหมือนตนเป็นที่ระบายความเกลียดชัง เขาเลิกบุก และกลายเป็นฝ่ายตั้งรับโดยสมบูรณ์เมื่อเห็นว่าโคลด์กลายเป็นหมาบ้า

“เอาละ ข้าจะเฉลยให้ว่ากฎข้อแรกของเอลฟ์ตะวันออกที่อยากตายเร็วคืออะไร”

มาลแกธยกสนับแขนขึ้นกันมีดที่หวังแทงลงมา เขาโยกตัวหลบมีดอีกเล่มที่ตวัดจะแทงลำตัว ก่อนจะฉวยโอกาสเตะ ทว่าโคลด์ไม่รอบคอบอีกต่อไปแล้ว ดาร์กเอลฟ์ยอมรับลูกเตะนั้น พร้อมกระโจนเข้าใส่

โคลด์ขึ้นคร่อมมาลแกธ กดแขนเข้าที่คอ อีกมือยกมีดค้างไว้ เขาหอบหายใจแรง ซี่โครงที่โดนเตะอย่างจังเมื่อสักครู่น่าจะหักสักท่อนสองท่อน

มาลแกธประมาทโคลด์ เขานึกทบทวนว่าทำไม เพราะเขาดูถูกฝีมือของโคลด์หรือ—ไม่

แต่เพราะเขาคิดว่าโคลด์จะ ‘เชื่อใจ’ ตนต่างหาก

เขาประมาทอย่างให้อภัยไม่ได้ เพราะหลงนึกไปว่าโคลด์ สตาร์ ผู้เกลียดชังเอลฟ์จะยกให้เขาเป็นข้อยกเว้น

เห็นได้ชัดว่าไม่

“ก่อนมารดาข้าหมดลม นางเพียรขอบิดาข้า ให้ข้าได้พบนางเป็นครั้งสุดท้าย แต่บิดาข้าไม่อนุญาต ความจริงข้าอยู่ในคฤหาสน์นั่นละ แต่ถูกขัง ออกไปไม่ได้”

มาลแกธต้านแรงโคลด์ที่อยากฆ่าเขาใจแทบขาด

“นางจึงฝากคำสอนผ่านข้ารับใช้ เป็นกฎข้อแรกและข้อเดียวของเอลฟ์ตะวันออกที่ข้าจำมาปฏิบัติตามจนทุกวันนี้”

ลูกเอย

“ลูกเอย”

กฎข้อแรกของเอลฟ์ตะวันออกที่อยากทิ้งชีวิต

“กฎข้อแรกของเอลฟ์ตะวันออกที่อยากทิ้งชีวิต”

คือ…

“จงมีความรัก”

แล้วมาลแกธก็ได้เห็นโคลด์คนเดิมยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ

“ถ้าเจ้ารักข้าจริง...” โคลด์ก้มลง ใช้ปากเคลียปากมาลแกธโดยไม่ผ่อนแรงกดที่แขน นี่เป็นจูบแรกที่เขาตั้งใจมอบให้กับมาลแกธ...เป็นการทำความรู้จักกันผ่านริมฝีปาก โคลด์จูบด้วยความอาลัยอาวรณ์กว่าที่ตัวเองคาด และเมื่อจูบเสร็จ เขาเงยหน้า จ้องตา

มือของมาลแกธอ่อนแรงเมื่อได้รับสัมผัสที่หวามในอก หูอื้อไปชั่วขณะ เขาไม่ได้ยินคำพูดของโคลด์ด้วยซ้ำ...เป็นเช่นนี้เองหรือมารดา

“ถ้าเจ้ารักข้าจริง จงตายเสียเถิด”

สีหน้าของโคลด์กลับมาเย็นชา เขาแทงมีดเข้าที่คอของมาลแกธ ทว่าอีกฝ่ายยังไม่ตายทันที

โคลด์ตัดสินใจฆ่ามาลแกธ...เพื่อเกวนโดลิน เขาต้องไปหาเธอ จะให้ใครมาขัดขวางหรือรู้ว่าเขากับเกวนโดลินอยู่ที่ไหนไม่ได้...ที่เขาทิ้งซิกฟรีดตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน ก็เพื่อเกวนโดลินเช่นกัน

น้ำตาหยดหนึ่งไหลจากหางตาของมาลแกธ เขาสำลักเลือด คำพูดต่อไปจึงออกมาอย่างยากลำบาก

“ซิกฟรีด...เชื่อ...ในสันติ”

"ด้วยการกดขี่สร้างทาสหรือ กฎหมายใหม่อะไรกัน ก็แค่เรื่องเดิมๆ ที่เปลี่ยนวิธีการเรียก" โคลด์ลุกยืน ให้เวลาอดีตอาจารย์พูด

“เขา...ถูก...สาป นี่ไม่ใช่...ซิกฟรีด ถ้าข้าตาย มันจะหวนกลับมาไม่ได้แล้วโคลด์ สตาร์"

"ข้าจะไม่ฝังศพให้เจ้า" โคลด์บอก ดวงตาไร้แววจ้องนิ่งไปที่มาลแกธ

มาลแกธท่องเวทของควาร์ พยายามเร่งให้เลือดแข็งตัว เขาจะตายไม่ได้ ไม่ใช่เพื่อซิกฟรีดแต่เพื่อโคลด์ และเพื่อบ้านเกิดของตน

ทว่าภาพตรงหน้ากลับพร่าเลือน เสียงทุกเสียงค่อยๆ เบาลงจนในที่สุดก็เงียบสนิท ริมฝีปากของมาลแกธหยุดขยับ เวทของควาร์สิ้นฤทธิ์

ความมืดกดให้เขาจมดิ่ง ลึกลงไป...ลึกลงไป จากนั้นก็หยุด เขายืนอยู่กลางความมืดเวิ้งว้าง ตาบอดสนิท ทว่าเขาไม่หวาดกลัว

ใครเล่าจะหวาดกลัวบิดาตน

เทพแห่งความตาย

‘ลูกยังไม่อยากตาย’
มาลแกธกระซิบ รู้สึกถึงมือที่ลูบศีรษะอยู่ เขาทราบว่าตัวเองถูกห่มคลุมด้วยปีกสองข้างของเทพแห่งความตาย

โดยไร้คำตอบ ริมฝีปากเย็นเยียบจุมพิตหน้าผากเอลฟ์ตะวันออกอย่างแผ่วเบา

เขาหลับตาอย่างสงบ

 

โคลด์มองมาลแกธที่แน่นิ่งไปแล้ว เขามองมีดที่ยังปักคาอยู่บนคอมาลแกธ จุดที่เขาแทงคือบริเวณช่องว่างระหว่างคอกับไหปลาร้า ที่จริงเขาควรแทงทะลุเส้นเลือดใหญ่กลางลำคอ อาจเพราะซี่โครงที่หักทำให้เขาแทงพลาด ไม่ก็แทงได้ไม่เต็มแรง…

ข้าอยากซื้อเวลาตายให้มาลแกธหรือ? อยากสนทนาเป็นครั้งสุดท้ายหรือ? มีเหตุผลอะไรที่ข้าไม่อยากลงมือสังหารในดาบเดียว…

โคลด์นึกถึงตอนที่เขายอมเปิดปากบอกเรื่องตัวเองกับมาลแกธ

“ข้าไม่อยากคิดอีกแล้ว!” โคลด์ตะโกนลั่นป่า เขาระบายความอึดอัดออกมาเป็นเสียง

โคลด์จะดึงมีดออก ถ้าดึงออกมาลแกธจะเสียเลือดปริมาณมหาศาล ไปพบบิดาแห่งความตายไวขึ้นอีก

แกว๊ก!

จู่ๆ ป่าที่เคยเงียบก็เต็มไปด้วยเสียงร้องอันสับสน เสียงนกแตกฮือจากทุกทิศดังประสานกับเสียงสุนัขป่าหอน ฝูงกาขานรับเสียงฟ้าร้อง ขณะที่แร้งพร้อมใจกันสะบัดปีกพั่บเพราะได้กลิ่นของความตาย

เสียงเหล่านั้นทำให้โคลด์ตัวแข็งไปชั่วขณะ กว่าจะรู้ตัวว่ามีเสียงแซ่กๆๆ เข้ามาใกล้ เขาก็หันไปเห็นประกายสีเงินพุ่งเข้าสู่สายตา

ลูกธนูเอลฟ์หมายจุดตายของโคลด์ มันรุนแรง เกรี้ยวกราด ไร้หัวใจ...เช่นเดียวกับที่โคลด์ลงมือกับมาลแกธ

โคลด์ได้ยินเสียงนกร้องอีกรอบ...


—————————————————————————

A/N บทนี้เป็นบทที่เราเขียนโคลด์ไปก็พูดไม่ออก คุณ FOULSOUL เขียนมาลแกธไปก็พูดไม่ออก มันบีบคั้นหัวใจ แงงงงงงงงงงงงงงงงง แงๆๆๆๆๆๆ
ป.ล. 1 อย่าลืมว่าในโลกนี้ เอลฟ์และดาร์กเอลฟ์เกลียดกันแบบไม่เผาผี โคลด์ฆ่ามาลแกธและเอลฟ์อีก 2 คน หน่วยกาลาฮานที่เหลือไม่ปรานีโคลด์เท่าซิกฟรีดกับมาลแกธแน่นอนค่ะ
ป.ล. 2 อย่าเพิ่งตีคนเขียนที่เขียนออกมาแบบนี้น้า รออ่านบทต่อไปก่อนจ้า


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz


กิจกรรม 'โบนัสวันหยุด' จบลงแล้ว คุณทำได้ค่ะ! ครบ 300 Likes แล้ว!!! เย้ๆๆๆ
(อัพ 4 ตอนรวดเลย แงๆๆ สต๊อกนิยายของเค้า)
นิยายจะมาอัพต่อวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. นะคะ
ส่วนคอมเมนต์ต่างๆ อ่านหมด แต่ขอมาทยอยตอบนะคะ งานเยอะจริงๆ ค่ะช่วงนี้ ฮือๆ
ป.ล. อีกรอบ อย่าเพิ่งตีเราน้าาาาาา



แล้วเจอกันตอนต่อไปค่ะ :)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-01-2017 00:15:33 โดย ILLREI »

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อื้อหือออ บทนี้นี่สะเทือนหัวใจจริงงจริงงงง มาลลลแกธธ เธอจะไม่ตายใช่ไหมม เพราะเธอเป็นตัวเอกก เธอจะตายก่อนไม่ได้นะ (ต้องอยู่ลวนลามโคลด์ต่อนะ T_T)

ปล.ไหนๆก็เขียนให้นุ้งโคลด์โหดขนาดนี้แล้วเขียนให้บุกไปฆ่าอิคิงกับท่านหญิงด้วยได้เปล่าคะ (ความแค้นส่วนตัว 5555555)

ปล.2 ขอบคุณมากค่ะที่จัดกิจกรรมให้เราได้อ่านเรื่องนี้เพิ่มขึ้น ^^

ออฟไลน์ lovetogether

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไรต์ ถ้ามาลแกธตาย เลิกอ่านนนนนจริงด้วย
เตรียมย้ายของกลับบ้านนนนนนนนนน  :ling1:
ไม่เอายังงี้นะ เค้าไม่เอาอ่ะ ไม่ชอบเลย :hao5: :ling3:

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
อ่านบทนี้แล้วรักมาลแกธเลย จากตอนแรกที่เฉยๆมาตลอด กลายเป็นตัวละครที่โคตรมีมิติ
ตอนแรกรู้สึกว่าโคล์ดฆ่ามาลแกธไปก็ไม่เป็นไร ดูโคล์ดนางก็กล้าทำอยูแล้ว แล้วตามสไตล์ก็เป็นคนใจเด็ด ทำจริงๆก็ไม่ผิดคาด

แต่พอมาลแกธจะตายก็เสียดายเลย สมมติถ้าตายจริงๆ อุตส่าห์เล่าเกริ่นปูเรื่องตัวละครมาขนาดนี้ ไม่น่าจะมาสังเวยชีวิตกับอะไรเล็กๆแบบนี้เลย
แถมลุ้นอีก เพราะตอนตายมาแกธมันยังไม่อยากตายอะ พูดเหมือนตัวเองไปต่อได้อีก มีบทบาท แล้วความสำคัญยังไม่จบ
กลายเป็นว่าฉากสั้นๆแค่นั้นทำให้เราชอบแล้วก็เชียร์มาลแกธไปซะแล้ว อยากรู้ว่าตัวละครนี้จะทำอะไรอีกต่อไป
แต่เสียดายอย่างเดียว มาลไม่น่ารักโคล์ดมากขนาดนี้เลย เหมือนทั้งชีวิตนี้นางจะบูชาถวายให้โคล์ดเลย เหตุผลที่ไม่อยากตายก็เพราะ "โคล์ด" ดันมาชอบคนที่เอามีดมาปักคอตัวเองซะงั้น โธ่..... มาลแกธ ฉันอยากเห็นเส้นทางที่สดใสของเธอมากกว่านี้ :o12:

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
โคลด์เป็นคนใจเด็ดจริงๆด้วย พร้อมแอบเหี้ยมเล็กๆ
ชอบตอนที่มาลแกธค้นพบว่าความรักเป็นยังไงมาก
เขาพบความรัก แต่นั่นก็คือจุดจบของเขาเช่นกัน

แต่แอบคิดว่าน่าจะมีเซอร์ไพรส์ รึเปล่า?

#ทีมมาลแกธ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด