บทที่ 6 : ใจแลกใจ (4)
โคลด์มีผ้าพันแผลบนศีรษะ ต้องนอนคว่ำเพราะแผลที่หลังและไหล่ สองมือถูกมัดด้วยเงื่อนตาย เขามีสติครึ่งๆ กำลังคุยกับอิลมาเร เธอดูแลให้เขานอนหลับและคอยปลุกตามเวลาเปลี่ยนผ้าพันแผล เพื่อไม่ให้เขาหลับแล้วตายไปเลย
สีหน้าดีใจของดวอร์ฟสาวปิดไม่มิด
ท่านมาลแกธฟื้นแล้ว! เธอแทบอยากโผเข้าไปกอด แค่เขาปรากฏตัว หินแห่งความกังวลใจก้อนมหึมาก็ถูกยกออกไป
“เกิด…” มาลแกธสูดลมหายใจ เขาฝืนพูดต่อแม้แผลจะกระเทือน “เกิดอะไรขึ้น เนอร์ดาเนล”
เนอร์ดาเนลสัมผัสได้สักพักแล้วว่าหัวหน้ากับดาร์กเอลฟ์ตนนี้อาจมีความสัมพันธ์กันบางอย่าง วิธีที่หัวหน้าปฏิบัติกับมันทำให้เขามั่นใจว่าตนคิดถูก
อิลมาเรจ้องเนอร์ดาเนลเขม็งว่าจะพูดความจริงหรือไม่ เธอแทบไม่รู้จักชื่อของเอลฟ์ในหน่วยนี้นอกจากเดเนธอร์ แต่จำหน้าทุกคนได้แม่นยำ
“อสรพิษขอรับ” เนอร์ดาเนลรายงานตามจริงว่าเดเนธอร์สั่งให้หน่วยลวงอสรพิษวางมือ เพื่อมาสนับสนุนหน่วยหลักที่เสียทหารไปสองนายและหัวหน้าถูกทำร้ายบาดเจ็บ
“มันเลยตามมา” เลือดสีเข้มซึมออกจากผ้าพันแผลที่คอของมาลแกธ
อิลมาเรจะเสริมว่า ‘พวกเขาจงใจปล่อยนักฆ่าเข้ามา!’ แต่โคลด์พึมพำเรียก เธอเอาหูไปฟังใกล้ๆ แล้วเม้มปาก...สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร
“ออกไปก่อน” มาลแกธเอ่ยเสียงเฉียบ แม้ลูกน้องทำท่าจะไม่ฟังคำสั่ง เขาพูดอะไรมากไม่ได้ สิ่งที่โคลด์ทำลงไป เขาไม่อาจพูดหรือแสดงออกว่าจะปกป้องโคลด์ได้ตรงๆ
เนอร์ดาเนลมองตาหัวหน้า แววตาหนักแน่นยังเชื่อมั่น เขาเชื่อว่าหัวหน้าของตนจะยุติธรรมเพียงพอ
อิลมาเรเดินออกไปก่อน เธอจงใจชนไหล่เนอร์ดาเนล แต่ศีรษะของเธอสูงได้แค่ชนตัวเขา
ในที่สุดมาลแกธก็ได้อยู่กับโคลด์ตามลำพัง
โคลด์นอนนิ่ง ไม่พูดจา ไม่มองมาลแกธ แต่เห็นจากปลายหางตาเมื่อสักครู่แล้วว่ามาลแกธยังมีชีวิตอยู่
ยังมีชีวิตอยู่… เขาทวนในใจ
มาลแกธนั่งลงข้างๆ มือใหญ่วางบนศีรษะของอีกฝ่าย
“ไม่ว่าใช่ไหมถ้าข้าจะพูดน้อย มันค่อนข้างเจ็บ” เอลฟ์ยิ้ม ชี้ไปที่คอของตัวเองแม้อีกฝ่ายจะไม่มอง เขาตัดเชือกมัดมือออกให้โคลด์
โคลด์ตัวแข็งกับสัมผัสอ่อนโยนบนศีรษะ
“ตระกูลข้ามีเวทบทหนึ่ง เป็นเวทมหัศจรรย์ ข้าอยากใช้มันรักษาแผลให้เจ้า แต่มันจะขโมยเอาร่างกายที่แข็งแรงในอนาคตของเจ้ามาใช้ เจ้าจะอนุญาตไหม”
“ไม่ ข้าต้องการแค่ยาชา ขวดสีแดง”
“ข้าก็ไม่ชอบเวทบทนั้น” มาลแกธตอบรับไปคนละทาง “ข้าขอใช้ยาชาด้วยได้หรือเปล่า มันเจ็บจริงๆ นะ” เขาเรียกให้เนอร์ดาเนลนำสมบัติของโคลด์เข้ามา
มาลแกธดูบรรดายาสมุนไพรหลากสีในขวดแก้ว “ขวดสีแดง...ขวดสีแดง”
โคลด์ข่มใจอย่างมากที่จะไม่พูดกับมาลแกธ เขาไม่ทราบว่าความหวั่นไหวนี้คืออะไร เขาไม่คาดว่าอีกฝ่ายจะให้ตามที่ขอด้วยซ้ำ...หลังจากเกือบถูกเขาฆ่า
“กินหรือทา”
“เทลงมา” โคลด์ตอบ เสียงสั่นน้อยๆ
มาลแกธส่งเสียงอืม…
เขาค่อยๆ ดึงผ้าห่มออกอย่างเบามือ จากนั้นก็ถอดเสื้อคลุมกันหนาวที่อิลมาเรน่าจะเป็นคนจัดการทั้งหมด
อิลมาเรดูแลโคลด์ดีมาก ดีกว่าปล่อยให้คนในหน่วยกาลาฮานทำแน่ๆ
“ไม่เบาเลยนะ” มาลแกธถอนหายใจ เขาตัดผ้าพันแผลออกช้าๆ มือเบาอย่างไม่น่าเชื่อ พอเห็นแผลซ้ำซ้อนที่ไหล่กับแผลบนหลังก็เอ่ยชมฝีมือการเย็บแผลของอิลมาเร ไม่ทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องหนักหนา ยังเย้าด้วยซ้ำว่าสงสัยเพราะโคลด์ทำร้ายตัวเองบ่อย อิลมาเรเลยได้ฝึกฝีมือจนเชี่ยวชาญ
มาลแกธเรียกหาผ้าพันแผลและน้ำสะอาด พอเช็ดทำความสะอาดเสร็จ เขาก็ใช้ผ้าชุบยาชากดซับบนแผล อาการเจ็บทุเลาลง จนในที่สุดก็ชา
“ความใจดีก็เป็นความร้ายกาจอย่างหนึ่งที่เอลฟ์ใช้ลวงให้เจ้าตายใจ”เสียงจากอดีตผุดขึ้นมาในความคิดโคลด์ เมื่อนึกถึงเสียงนี้...คำสอนนี้ โคลด์กลั้นน้ำตาไม่ไหว เขาชังมันจับใจ!
มาลแกธปล่อยให้โคลด์ร้องไห้ เขาทำแผลให้อีกฝ่ายเสร็จก็แกะผ้าพันคอชุ่มเลือดของตัวเอง มาลแกธชำนาญทั้งการฆ่าและการรักษาพยาบาลเบื้องต้น อยู่ในสนามรบก็ต้องรู้จักเอาตัวรอดในทุกรูปแบบ เขาลองใช้ยาชาของโคลด์ และพบว่ามันเป็นยาชาชั้นเยี่ยม
“เจ้าปรุงยาชาขายได้เลยนะนี่ รวยกว่าเป็นแอสซาสซินเสียอีก”
“ขวดสีเขียว แก้ไข้” โคลด์พูดเมื่อปรับเสียงให้ไม่สั่นมากได้แล้ว เขาตัวร้อนเหมือนไฟ จึงต้องใช้อันนั้นด้วย
“หืม” มาลแกธหยิบขึ้นมาส่องดู “อย่างนั้นหรือ”
เขากรอกมันลงปาก...
“เจ้าจะป้อนยาด้วยปากอีกหรือไง” รอยยิ้มผุดบนใบหน้าดาร์กเอลฟ์ทั้งที่น้ำตายังไม่แห้งจากหางตา มันเป็นรอยยิ้ม ‘ร้ายกาจยั่วเย้า’ อย่างที่มาลแกธไม่เคยเห็นมาก่อน
มาลแกธยิ้มด้วยตา ขณะมองโคลด์ที่เขาจัดให้นอนคว่ำอิงศีรษะอยู่บนตักของตน
ใช่ เขาป้อนยาให้โคลด์ด้วยปาก
ยาขมร้อน...แต่รสจูบกลับหวานฉ่ำ
โคลด์เปิดปากอย่างว่าง่าย ยอมให้ลิ้นของพวกเขาแตะกัน หยอกล้อดูดดื่ม ยอมให้มันเป็น ‘จูบ’ มากกว่าการป้อนยา
มาลแกธก้มลงไปชิมรสจากโคลด์จนทั้งสองฝ่ายแทบหมดลมหายใจ ในอกหวามจนสั่น ตลอดชีวิตอันยาวนาน แม้จะมีคู่นอนมากมายแต่ไม่มีใครทำให้เขารู้สึกเช่นนี้
“ดูเหมือนเจ้าจะชอบข้าคนใหม่” โคลด์กระซิบ
“ข้ารักเจ้าอย่างสิ้นหวังมานานแล้ว” มาลแกธเอ่ยทีเล่นทีจริง “เจ้าชอบข้าบ้างหรือไม่เล่า”
“ข้าจะฆ่าเจ้า เจ้ารอดเพราะลูกน้องของเจ้า ไม่ใช่เพราะข้าลังเล” คำพูดเย็นชา ดวงตาสีม่วงไม่มีความสำนึกเสียใจ
“ข้ามั่นใจว่าต้องเป็นอย่างนั้น” มาลแกธไซ้จมูกกับข้างแก้มโคลด์ และโคลด์ก็ไซ้ตอบ...นั่นแปลกอย่างมาก
‘โคลด์ สตาร์’ แท้จริงแล้วเป็นคนเช่นไร น่าแปลกใจและอันตรายที่จะค้นหาความจริง
“แต่อย่างไรข้าก็ต้องส่งเจ้ากลับเอวา เธมาร์” มาลแกธหลับตาขณะสูดกลิ่นผิวเนื้อ
“ถ้าเจ้าอยากนอนกับข้า ข้าให้ เจ้าไปจัดการอธิบายกับลูกน้องเอาเองแล้วกัน” โคลด์ยิ้มแบบที่ดาร์กเอลฟ์พึงยิ้ม หยอกแบบที่ดาร์กเอลฟ์พึงหยอก
มาลแกธหัวเราะหึๆ “ไม่ละ ข้าอยากนอนกับเจ้าในสถานที่ที่ดีกว่านี้” เขากดนิ้วคลึงริมฝีปากสีม่วงอ่อนเบาๆ
“เอียงหน้ามา”
“ขอรับ” เอลฟ์ตะวันออกทำตาม แม้จะสงสัยหน่อยๆ
โคลด์จูบที่กกหูของเอลฟ์ ดูดเบาๆ ไม่รีบร้อน ไม่ลังเลใจ นอกจากซิกฟรีดแล้ว นี่เป็นคนที่สองที่เขาแสดงความรักเช่นนี้ให้
ใจของมาลแกธกระตุก เขาเบิกตากว้าง บริเวณหูเป็นที่ที่ให้คนรักแตะต้องเท่านั้น แม้แต่คนเจ้าชู้อย่างเขายังไม่ใช้ริมฝีปากสัมผัสใบหูของคู่นอนเลย มันมีความหมายมาก—มากเกินไป
“ข้าจะฆ่าเจ้าจริงๆ แล้วข้าก็อยากชิมรสใบหูเจ้าจริงๆ” โคลด์กระซิบ
“เจ้าเป็นใคร” มาลแกธมองโคลด์ชัดๆ
“โคลด์ สตาร์” แววตาแพรวพราวมากพิษสงมองตอบ “คนที่เจ้าไม่รู้จัก ข้าแสดงได้ดีใช่ไหม ตั้งสิบปี”
เอลฟ์ตะวันออกวางมือบนแก้มของอีกฝ่าย นิ้วโป้งเกลี่ยเบาๆ ดวงตาของเขามีแววเศร้าลึก “อา...เจ้ามีอดีตอย่างไรกันแน่” เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ มาลแกธจูบหน้าผากโคลด์ สตาร์ที่เขาเพิ่งรู้จัก
“ข้าไม่กลับเอวา เธมาร์” โคลด์เปลี่ยนสีหน้ามากล่าวเรียบเฉย รอยยิ้มหายไป “ทรยศซิกฟรีด ไปกับข้า” แน่ว่าข้อตกลงนี้ต้องรวมการพาอิลมาเรไปด้วย
หากโคลด์ตั้งใจมองเข้ามายังนัยน์ตาของมาลแกธจริงๆ เขาจะทราบว่าไม่ได้มีเพียงตัวเขาเองที่ไร้อิสระ
“ข้าไปไม่ได้”
“อ้อ ไม่เป็นไร” โคลด์ตอบเหมือนคาดไว้อยู่แล้ว “เจ้ามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ข้าเข้าใจ เหมือนตอนซิกฟรีดข้าก็เข้าใจว่าเขาต้องไปทำเรื่องของเขา ข้าเองก็ต้องไปทำเรื่องของข้า ข้าจึงทิ้งเขา”
“อา...” มาลแกธยิ้มอ่อนใจ “เจ้าพูดถึงเขาอีกแล้ว เราจะไม่พูดถึงเขาไม่ได้เลยหรือ”
“ถ้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดีขึ้น ข้าไม่เคยชวนเขาให้ทรยศตัวเองเพื่อข้า แต่ข้าชวนเจ้า”
ป่านนี้แล้ว ไม่ทราบว่ามาลแกธรู้ไหมว่าโคลด์บอกลาซิกฟรีดได้สำเร็จด้วยเหตุผลใด เขาเอ่ยถึงเกวนโดลินกับซิกฟรีด แต่ไม่เอ่ยกับมาลแกธ บางทีดาร์กเอลฟ์อาจใช้วาจาโน้มน้าวไปเรื่อยเพื่อให้ได้สิ่งที่อยากได้
มาลแกธจูบโคลด์ที่เปลือกตา “ข้าไปไม่ได้ที่รัก ข้าให้สัตย์สาบานไว้กับตระกูลล็องธูแล้ว การมีรูเมเรียร์ทำให้ฐานอำนาจของเราแข็งแกร่ง”
“งั้นก็จบการเจรจา” โคลด์สรุปง่ายๆ แต่ในใจเด็ดขาดว่าอย่างไรก็ไม่กลับไป อิลมาเรบอกเขาเรื่องที่เธอแอบได้ยินมา ว่าพระราชาส่งคนมาเพิ่มอีก ด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ก็หนียากอยู่แล้ว เขาต้องคิดอย่างหนักว่าจะพาตัวเองกับอิลมาเรให้พ้นจากเอลฟ์สวะพวกนี้ได้อย่างไรก่อนกำลังเสริมมา
กริ๊ก…เกิดเสียงเบาๆ คล้ายเสียงแก้วร้าวดังขึ้นใกล้ๆ มาลแกธมองหาที่มา เห็นลูกแก้วขนาดจิ๋วที่ตนร้อยเข้ากับสร้อยข้อมือเกิดรอยร้าวทั่วทั้งใบ
“เดเนธอร์...” เอลฟ์ตะวันออกรำพึง
ภายในลูกแก้วบรรจุลมหายใจของลูกน้องคนสนิทอยู่ เดเนธอร์ทำให้เขานึกถึงน้องชายต่างมารดา มันเคร่งเครียดจริงจังกับทุกเรื่อง แถมยังซื่อตรงจนไม่นึกว่าจะมีเอลฟ์แบบนี้อยู่บนโลก ซื่อเกินไป...เขากลัวว่ามันจะซื่อจนตายเหมือนน้องชายของตน
มาลแกธจึงให้เดเนธอร์ใส่ลมหายใจไว้ในลูกแก้ว มันเป็นที่รักของเทพแห่งลม (หรือบิดาแห่งวายุตามความเชื่อของรูเมเรียร์) เขาเคยได้ยินพระองค์กระซิบเล่าสิ่งต่างๆ อยู่รอบตัวมัน เพียงแต่มันไม่รู้ความหมาย เขาจึงสนทนากับพระองค์แทนว่าจะช่วยดูแลเด็กโง่คนนี้อีกแรง...เขานึกเอ็นดูมันจริงๆ
และขณะนี้เทพแห่งลมส่งสารผ่านลมหายใจ
เดเนธอร์ตกอยู่ในอันตราย“เอาไว้เรามาคุยกันใหม่ที่รัก” สีหน้าของมาลแกธเคร่งเครียด
—————————————————————————
A/N ตอนนี้ทอลก์สั้นๆ ง่ายๆ "เจ้าจะสนใจคนอื่นมากกว่าข้าทำไม มาลแกธ" by โคลด์
ป.ล. เหมือนเราเคยตอบในคอมเมนต์ของบางท่านไปแล้ว แต่อยากเอามาบอกไว้ตรงนี้ ตอนวางเรื่อง คุณ FOULSOUL (คนเขียนมาลแกธ) กรุณาเฉลยให้เราว่าสเป็กของมาลแกธคือ 'คนที่ทำให้หัวใจเขาเจ็บเจียนตายได้' 'อยากเป็นทาสรักราชินี'
เราก็...โอเค จัดให้ จัดไปค่ะ โคลด์แบบนี้เจ็บพอมั้ย? อยากเป็นทาส (รัก) ของโคลด์รึยัง? XDI would destroy myself to fix you.
Show me the most damaged part of your soul.
ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz