。◕‿◕。❤ เอื้อมใจให้รัก ❤ 。◕‿◕。 >>>UP side story:เรื่องราวของโจม (จบแล้ว) 10/06/10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 。◕‿◕。❤ เอื้อมใจให้รัก ❤ 。◕‿◕。 >>>UP side story:เรื่องราวของโจม (จบแล้ว) 10/06/10  (อ่าน 77133 ครั้ง)

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
แผนป่ะเนี่ยพี่เอื้อ อิอิ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เกรซ ก็เลิกแล้ว
มิ้ม ก็เลิกแล้ว
แล้วเมื่อไหร่พี่เอื้อจะเลิกทำตัวไม่ชัดเจนซะที

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
พี่เอื้อนี่ยังไงกับน้องปูนครับ จะทำอะไรยังไงกับน้องก็บอกน้องไปหน่อยนะ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
อร้ายย สนุกอะ

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 8
เมื่อน้องปูนหกล้ม


สุดท้ายผมก็โดนมันลากไปด้วยกันจนได้ครับ โอ๊ยพี่ปูนล่ะปวดหัวกับตัวเอง ทำไมผมไม่เคยชนะอะไรเอื้อมันเลยอ่ะ อะไรก็เหมือนจะแพ้ทางมันตลอดเลย แค่มันทำหน้าดุๆ เสียงเข้มๆ ผมก็ยอมมันหมดแล้ว พี่ปูนไม่เข้าจายยยยยยย

แต่การมาเดินเที่ยว (แบบไม่เต็มใจ) กับมันก็ทำให้ผมรู้ว่า...เอื้อมันเป็นผู้ชายประหลาด...สิ่งที่มันชอบแต่ละอย่างแม่งก็ประหลาดๆ ทั้งนั้น ไม่เข้ากับหน้าหล่อๆ ของมึงเลยสักนิด!

“มึงจะซื้อจริงเหรอไอ้เอื้อ”

“เออดิ ออกจะน่ารัก”

“ตรงไหนวะ”

“ก็ตรงที่มันมีเสียงไง”

แอบบบ แอบบบ แอบบบบบบ

ไอ้เอื้อมันลูบไม้ท่อนเล็กๆ ไปตามตัวของกบไม้พลางทำหน้าเคลิ้มๆ ไปด้วย

“เสียงแม่งเพราะว่ะ”

ตรงไหนเนี่ย!!

แล้วไม่ว่าใครจะพูดอะไร มันก็ซื้อมาอยู่ในครอบครองเป็นที่เรียบร้อบแล้วครับ

“นี่มึงหมดเงินไปกับอะไรแบบนี้เท่าไหร่แล้วเนี่ย”

“แคร์ทำไม บ้านกูรวยมาก” ผมอดจะเบ้ปากไม่ได้จริงๆ เชื่อเถอะ พี่ปูนพยายามที่จะไม่หมั่นไส้มันแล้ว เชิญมึงดูของต่อไปอย่างมีความสุขเถอะครับ

“รวยมากทำไมไม่ไปเที่ยวต่างประเทศอะไรแบบนี้อ่ะ มาเที่ยวที่นี่ทำไม”

“จังหวัดนี้เป็นของมึงเหรอ” มันมองผมกวนๆ “อีกอย่างมึงไม่คิดหรือไงว่าที่เราเจอกันอาจจะเป็นพรหมลิขิต”

“ไม่!” อย่างผมกับมันก็ต้องกรรมลิขิตเท่านั้นแหละ!

“ได้ไกด์พาเที่ยวแล้วลืมพวกกูเลยนะไอ้เอื้อ”

ถ้าเปรียบพี่ฟิ้งเหมือนไอ้ฟ้า (ชื่อแม่งคล้ายกันจังวะ) พี่เดียวก็คงเปรียบเป็นไอ้กล้านั่นแหละครับ อะไรคือการที่พี่มันแซะไอ้เอื้อกับผมได้ทุกเวลาทุกนาที

“ก็พวกมึงมันไม่ได้เรื่อง แค่บอกทางให้กูยังหลงเลย” ไอ้เอื้อตอบทั้งที่ดวงตาคู่สวยของมันก็กำลังมองสอดส่องหาของแปลกๆ ต่อไป “ไอ้ตัวนี้น่ารักดีวะ”

ผมมองตามนิ้มเรียวยาวที่ชี้ไปยังตุ๊กตาไม้ตัวหนึ่ง มันคล้ายๆ พีนอคคีโอ้เลยครับแต่หัวมันกลมๆ แล้ววาดเครื่องหน้าเอา น่ารักดี ตัวเล็กเท่าฝ่ามือนี่เอง

“มีเป็นครอบครัวเลย”  จากการที่เดินกับมันมานะ ผมว่าไอ้เอื้อนอกจากจะชอบของแปลกๆ แล้ว มันยังชอบของเก่า และของทำมืออีกด้วย

“มึงดูหน้าพ่อดิ แม่งอย่างฮาอ่ะ” ผมชี้หน้าหุ่นไม้ตัวที่สูงที่สุด มีหนวดและอ้าปากกว้าง

“เออ หน้าเหมือนมึงเลย” อ้าวไอ้เชี่ยนี่ จะบอกว่าหน้ากูตลกเหรอ

นิ้วใหญ่ๆ ของมันจิ้มไปที่ตุ๊กตา ดวงตาสวยเป็นประกายระยิบระยับเมื่อเจอสิ่งของที่เจ้าตัวถูกใจ ดูมันจะชอบตุ๊กตาไม้เซ็ตนี้เอามาก

“พี่ครับ เอาเซ็ตนี้”

หือ นี่มึงจะซื้อแบบไม่คิดเลยเหรอ

ผมกำลังเอ่ยปากจะถามมันอยู่แล้ว แต่ถึงได้ว่า ‘มันรวยมากกก’ งั้นมึงก็ซื้อไปเหอะ ซื้อให้เงินมึงหมดกระเป๋าไปเลย

“ไปไหนต่อดี” มันหันไปถามเพื่อนอีกสองคน

ผมโคตรสงสารพี่ฟิ้งกับพี่เดียวเลย พี่เขาสองคนเดินตามความต้องการของไอ้เอื้อตลอดเลยครับ แดดก็ร้อน ของตัวเองก็ไม่ได้ซื้อ ยังต้องคอยมาตามใจไอ้ผู้ชายบ้าอำนาจนี่อีก

จะว่าไปผมก็เหมือนกันนี่หว่า -*-

“มึงซื้อของพอใจยังไอ้เอื้อ”

“เออ พอแล้ว”

มึง ‘ควร’ พอได้แล้วถึงจะถูกนะ มือมึงไม่มีที่จะถือแล้วเว้ย

“ของได้แล้วค่ะ”

“ไอ้ปูนมึงถือดิ มือกูเต็มแล้วเนี่ย ประคองลูกๆ กูดีๆ นะอย่าให้ตก”

ลำบากกูอีกนะมึง!!

ผมรับกล่องที่ภายในบรรจุ ‘ลูกๆ ของไอ้เอื้อ’ (กระกาดปากว่ะ พาลคิดไปถึงอย่างอื่นเลย) เอาไว้อย่างระมัดระวัง เมื่อกี้ผมบอกว่ามันน่ารักดี แต่ตอนนี้เริ่มจะเกลียดมันแล้วครับ

“ต่อไปกูขอไปร้านช็อกโกแลตนะมึง กูจะเหมามันให้หมดเลย!!” หน้าตาพี่ฟิ้งมุ่งมันมากเลยครับ “น้องปูนนำไปเลยครับ”

ผมอยากจะหันไปบอกว่าผมก็ไม่รู้ทางหรอกนะ แต่พี่ฟิ้งแม่งเดินเข้ามากอดคอผมแล้วลากไปเลย แบบเดียวกับที่ไอ้เอื้อมันทำกับผมเป๊ะ
รู้แล้วทำไมพวกมึงถึงเป็นเพื่อนกันได้!

“เฮ้ยไอ้ฟิ้งเบาๆ หน่อย เดี๋ยวลูกกูตก!”

นี่มึงไม่ห่วงกูเลยใช่ม้ายยย!!

ปึก!!

“โอ๊ะ!/ขอโทษครับ”

สามเสียงข้างต้นเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน เมื่อพี่ฟิ้งดันเดินไม่ดูทาง ทำให้เราชนกับนักท่องเที่ยวที่เดินสวนมาจนเซไปทางด้านหลัง แรงปะทะทำให้กล่องตุ๊กตาไม้ของไอ้เอื้อที่ผมถืออยู่กระเด็นออกจากมือลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศ

“อ๊ะ! ตุ๊กตา!”

ร่างกายของผมไปเร็วกว่าความคิด ผมกระโจนออกไปข้างหน้าเพื่อรองรับกล่องที่มันกำลังร่วงลงมา และในจังหวะที่มันจะตกถึงพื้นนั้น…

เซฟ!!!

ผมรับได้ครับ!

ตุ้บ!! ปึก!!

“โอ๊ย!!”

โอยยย หัวกู กระแทกขอบน้ำพุเต็มๆ เลย ฮือออ พี่ปูนเจ็บบบ

“ไอ้ปูน!! / น้องปูน /ปูน!”

เอื้อและเพื่อนๆ ร้องเรียกชื่อผมอย่างพร้อมเพียงก่อนที่พี่ฟิ้งซึ่งอยู่ใกล้สุดจะถึงตัวผมเป็นคนแรก

“เป็นไงบ้างปูน” มือนิ่มๆ ของพี่ฟิ้งจับไปทั่วตัวของผม “อ่า...แขนถลอกเป็นทางเลย หัวก็โนด้วย”

จริงดิ หัวโนน่ะคาดไว้อยู่แล้วแต่ไม่คิดว่าแขนมันจะถลอก สงสัยตอนที่พุ่งตัวไปรับกล่องตุ๊กตาเมื่อกี้แน่ๆ เลย ซี๊ดดด พอพูดแล้วก็แสบขึ้นมาทันควัน เข่าถลอกด้วยนี่หว่า นี่จะไม่เหลือส่วนไหนให้กูปกติเลยใช่ป่ะ

แต่ก็ช่างมันเถอะ ลูกผู้ชายต้องคลุกฝุ่นกันบ้าง

“ไม่เจ็บมากหรอกครับ”

ผมโกหก ที่จริงตอนนี้เจ็บหัวที่โขกกับน้ำพุสุดๆ เลยอ่ะ น้ำตาจะไหลแล้วเนี่ย ส่วนเรื่องหัวเขากับแขนก็ถือเป็นโชคร้ายของผมแล้วกัน เพราะผมดันใส่กาเกงขาสั้นกับเสื้อแขนสั้นมา ถ้าใส่ให้ยาวๆ ก็คงไม่เป็นแบบนี้

“ลุกไหวมั้ยปูน” พี่เดียวเดินเข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้นนั่งที่ขอบน้ำพุ ไม่นานไอ้เอื้อก็เดินเข้ามาครับ หน้ามันบอกบุญไม่รับเลย สงสัยมันคงโกรธที่ผมเกือบทำของมันพัง

ผมยื่นกล่องตุ๊กตาให้มัน

“เอาไปเลยมึง กูไม่ถือแล้ว เดี๋ยวทำตกอีก”

ไอ้เอื้อเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มันก็เงียบปากไปก่อนจะยื่นมือมารับกล่อองตุ๊กตาที่ผมยื่นให้

“ฝากดูมันด้วย” พูดจบมันก็เดินออกไปเลย

มัน...โกรธผมขนาดนั้นเลยเหรอ

ผมลุกขึ้นยืน อ่า...ตึงเข่าชะมัด แต่ไม่เป็นอะไรครับ ตอนนี้ผมอยากตามไปขอโทษไอ้เอื้อก่อน มันรู้สึกไม่ค่อยดีเลยครับ มันด่ามาสักคำก็ยังดี ดีกว่าเงียบแล้วเดินหนีแบบนี้

“จะไปไหนน้องปูน”

“เดี๋ยวผมมา”

ผมเดินกระหย่องกระแหย่งตามมันไป ไอ้เอื้อนี่ก็เดินไวจัง ขายาวแล้วยังเสือกเดินไวอีกนะมึง สงสารคนตามมึงบ้างเถอะเว้ย แล้วนี่มึงจะเดินไปถึงไหนวะ กูเจ็บขาเว้ย!

ทุกครั้งที่ผมจะตะโกนเรียกมัน มันก็เดินเลยระยะได้ยินตลอด ไม่ก็เดินเลี้ยวไปอีกทางทำให้ผมไม่สามารถจะเรียกให้มันหยุดได้

อ่า...มันหยุดเดินแล้วครับ มันหยุดอยู่หน้าถังขยะใหญ่ๆ แต่มันกำลังทำอะไรอ่ะ หรือว่า…

“หยุดนะไอ้เอื้อ!”

ร่างสูงที่กำลังจะทิ้งหล่อตุ๊กตาลงถังขยะชะงักก่อนที่คิ้วเข้มจะขมวดเข้านากันแล้วหันมามองผมที่ฝืนตัวเองวิ่งเข้าไปแย่งกล่องตุ๊กตานั่นมาถือไว้

“มึงจะทิ้งเหรอ! ไม่ได้นะเว้ย!”  ผมอุตส่าห์สละตัวเองเพื่อปกป้องมันเลยนะ!!

“เอาคืนมา!”

“ไม่ให้ แม่งมึงบ้าเปล่าเนี่ย จะทิ้งทำไมเพิ่งซื้อมา”

“กูไม่อยากได้มันแล้ว”

“ทำไมเล่า มึงก็ชอบมันไม่ใช่หรือไง อีกอย่างกูอุตส่าห์ปกป้องมันเลยนะ ดูสภาพกูนี่ กูทุ่มเทขนาดไหน” ผมกอดกล่องตุ๊กตาแน่นขึ้นไปอีกเท่าตัว อื้อหือ ร้านนี้บรรจุภัณฒ์เขามีคุณภาพจริงๆ ครับ ขนาดกอดแรงแบบนี้กล่องยังไม่ยุบบุบสลายเลย

“เอามาไอ้ปูน”

“ไม่ให้!”

“เอามา!!”

“ไม่ให้!! มึงจะทิ้งมันทำไมเล่า! แม่งไม่มีเหตุผลเลย”

“ที่กูทิ้งก็เพราะมันทำมึงเจ็บไง!”

“...”

“มึงนี่แม่ง บ้าหรือเปล่าวะ ห่วงแต่ตุ๊กตาแทนที่จะห่วงตัวเอง ตุ๊กตาน่ะพังมันก็ซื้อใหม่ได้ แต่ถ้ามึงเป็นอะไรไปจะทำยังไง”

“...ก็กู…”

“อะไร!” เสียงแม่งโคตรโหดเลย อย่ามองแบบนั้นพี่ปูนกลัววว

ผมหลุบตาลงมองกล่องตุ๊กตาในอ้อมแขน

“กูไม่ได้ห่วงตุ๊กตาหรอก...แค่เห็นว่ามึงชอบมันมากก็เลยไม่อยากให้มันพังก็เท่านั้นเอง”

ถ้าคุณได้เห็นสายตาของเอื้อตอนมองตุ๊กตานะ คุณจะต้องทำแบบผมแน่ๆ เชื่อผมเถอะ

“กูแม่ง...หมดคำพูดเลย มานี่ดิ” เอื้อมองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก มันถอนหายใจ มองไปทางอื่น แล้วกลับมามองผมอีกครั้ง พร้อมกวกมือเรียก

“ไม่ให้ทิ้งนะ”

“ไม่ได้จะทิ้ง แต่จะพาไปทำแผลที่รถ”

เอื้อไม่ได้รอให้ผมเข้าไปหาอย่างที่ปากมันพูดหรอก มันเข้ามาคว้าแขนผมแล้วดึงให้เดินตามมันไปเลย อ่า...หน้ามันแดงๆ นะ เมาแดดหรือเปล่าวะ

“เบาๆ เอื้อ กูเจ็บ”

“นี่มึงเดินตามกูมาเลยเหรอ”

“ก็เออสิวะ จะให้กูบินมาหรือไง” ผมเถียงกลับ ตอนเดินมามันยังไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่พอหยุดเดินเท่านั้นแหละ โคตรแสบแผลเลย

“...” เอื้อเงียบครับ หน้ามันเพิ่มดีกรีความโหดขึ้นอีกสิบแปดเปอร์เซ็นต์ เง้อออ ผมต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ก่อนที่มันจะพาผมไปฆ่าปาดคอ

งั้นเอางี้แล้วกัน ใช้กับตาทีไรได้ผลทุกที

“กูกลัวว่ามึงจะโกรธที่กูเกือบทำตุ๊กตามึงพังเลยตามมาขอโทษ”

“มึงว่าไงนะ”

“กูขอโทษที่เกือบทำมันพังนะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

“...”

“ไม่โกรธกูนะเอื้อ” ผมส่งยิ้มอ้อนๆ ให้มัน พร้อมกับมือที่กระตุกชายเสื้อมันไปด้วย “นะๆๆๆ ไม่โกรธนะ”

มุกนี้แหละครับ อ้อนตาร้อยครั้งก็สำเร็จร้อยครั้ง แต่ทำไมไอ้เอื้อแม่งนิ่งไปเลยวะ หรือว่ามันจะไม่ได้ผล แล้วผมจะทำยังไง

“นะๆๆๆ หายโกรธกูเถอะนะ”

เอื้อเงียบไปนานจนผมเริ่มใจเสีย แล้วสุดท้ายมันก็พูดออกมาจนได้

“...ใครจะไปโกรธลงวะ”

ผมจะถือว่าได้ผลก็แล้วกันนะ อิอิ

..
.
“โอ๊ยเอื้อ บอกว่าเบาๆ ไง!”

“ทนหน่อย นี่ก็เบาไม่รู้จะเบายังไงแล้ว”

นี่เบาของมึงแล้วใช่มั้ย แม่งแรงคนหรือแรงควายวะ

เอื้อมันกำลังทำความสะอาดแผลให้ผมอยู่ครับ มันลงทุนใช้ผ้าเช็ดหน้าของมันซับน้ำเปล่าแล้วค่อยๆ เช็ดแผลผมเลย ตอนแรกผมก็ไม่ยอมหรอก ผ้าเช็ดหน้ามันก็ไม่ใช่ถูกๆ ด้วย แถมยังเป็นสีขาวอีก มาเปื้อนเลือดแบบนี้ก็ต้องทิ้งอย่างเดียว

แต่ก็นั่นแหละ คิดว่าคนอย่างมันจะยอมหรือเปล่าล่ะ

“เสร็จล่ะ เอาแขนมึงมา”

ผมยื่นแขนไปให้มันทำความสะอาดต่อ แผลผมมีแต่ฝุ่นดินทั้งนั้นเลย เลอะเต็มผ้าเช็ดหน้าของอีกฝ่ายจากสีขาวกลายเป็นน้ำตาลเลย

“เดี๋ยวกูซื้อผ้าใช้ให้นะ”

“ไม่ต้องอ่ะ”

“เห้ย ไม่ได้ๆ เดี๋ยวกูซื้อให้”

“บอกว่าไม่ต้องไง” มันหันมาดุผมทางสายตาด้วยอ่ะ “เฮ้อ เอาเป็นว่าเป็นค่าน้ำหอมที่กูทำของมึงหกแล้วกัน”

“ได้ไง มันคนละเรื่องกันเว้ย” ไม่ครับผมจะไม่ยอมเรื่องน้ำหอมเด็ดขาด เพราะถือว่ามันได้พรากหัวใจอีกเสี่ยวหนึ่งของผมตั้งแต่มันทำน้ำหอมผมร่วงพื้น

“งั้นกูซื้อให้ใหม่ แต่ขอเลือกกลิ่นให้ได้มั้ย กลิ่นเก่ามันไม่เข้ากับมึงเท่าไหร่”

“ยังไงก็ได้ แล้วแต่มึงเลย” ผมพยักหน้าเออออไป “แต่ผ้าเช็ดหน้ามึงก็ต้องให้กูซื้อด้วยนะ”

“มึงนี่มันดื้อจริงๆ” ร่างสูงส่ายหน้าไปมา ก่อนจะบรรจงเช็ดแผลผมอย่างตั้งอกตั้งใจ คราวนี้ผมไม่เจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่รู้ว่าเพราะแผลมันไม่ได้ใหญ่โต หรือเพราะเอื้อทำเบาๆ อบ่างที่ผมบอกไปแต่ต้นกันแน่

“เรียบร้อย เพี้ยง...หายเร็วๆ นะครับน้องปูน”

พูดจบมันก็ก้มหน้าเป่าลมที่แผลผมเบาๆ ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ผม ยิ้มแบบที่ไม่ใช่การแสยะยิ้มแบบที่มันชอบทำ แต่เป็นยิ้มที่ยิ้มจริงๆ ยิ้มที่ทำให้ใบหน้าหล่อๆ นั่นอ่อนโยนลงหลายเท่าตัว

“เป็นอะไรหน้าแดงๆ”

“มันร้อนไงมึง” ผมยกมืออีกข้างที่ไม่ได้เป็นแผลถลอกมาพัดๆ ที่หน้า แม่งอยู่ๆ ก็ร้อนขึ้นมาเองเฉย

“เดี๋ยวกูมานะ รออยู่นี้อย่าหายไปไหน กูไปทิ้งขยะแปบ”

“เออ ไม่หายไปไหนหรอกเดี้ยงขนาดนี้”

“เถียงกูตลอด” มันวางมือลงบนหัวผมก่อนจะขยี้เบาๆ

โอยยย ผมกูเสียทรงแล้ว

ผมโบกมือไล่เอื้อให้ไปๆ สักที หน้ามันที่มองผมเมื่อกี้มันเจ้าเล่ห์ยังไงก็ไม่รู้ เอ้อ ผมจะบอกว่าต่อไปนี้ผมจะพยายามไม่เรียกมันว่า ‘ไอ้เอื้อ’ แล้วนะ เพราะไหนๆ ผมก็ไม่อยากจะเกลียดมันแล้ว ยกเว้ยถ้ามันกวนตีนผม (ซึ่งมันทำเป็นบ่อยๆ)

Rrrrr

ผมล้วงหยิบโทรศัพท์ที่แผดเสียงดังลั่นขึ้นมาดู ก่อนจะกดรับ “นึกว่าลืมผมไปแล้วซะอีก”

ลุงคณิตเองครับ หายไปนานพอสมควรเลย

[“พอดีต้องฉีดยาเจ้าหมาน่ะ แล้วมันก็เกเรมาก ไม่ยอมให้จับเลยนานไปหน่อย”] ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ [“อยู่ไหนล่ะเรา เดี๋ยวลุงไปหา”]

“อยู่ตรงที่จอดรถครับ ลุงเดินมาก็เห็นเลย”

[“โอเค รอลุงแปบนะเดี๋ยวไป”]

“ครับลุง”

ผมวางสายจากลุงสักพักเดียวร่างสูงที่เริ่มจะคุ้นตาบ้างแล้วในตอนนี้ก็โผล่เข้ามา ข้างหลังมีพี่เดียวที่เดินคู่กับพี่ฟิ้งผู้ซึ่งสองมือเต็มไปด้วยช้อกโกแลต

เชื่อแล้วว่าพี่มาเพื่อช็อกโกแลตจริงๆ

“น้องปูน เป็นไงบ้างเนี่ยเด็กน้อย” พี่ฟิ้งเห็นผมก็รีบวิ่งเข้ามาหา ผมเสียวว่าพี่แกจะหกล้มจริงๆ

“ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกครับ”

“เป็นเด็กหัดโกหกผู้ใหญ่เหรอมึง”

“ไม่ได้โกหกเว้ย ก็มันไม่เจ็บแล้วอ่ะ” ผมหันไปเถียงไอ้เอื้อ

“พี่ตกใจแทบแย่ตอนเราวิ่งตามไอ้เอื้อออกมา พอจะตามเราไปก็คลาดกันแล้ว ไม่รู้ว่าปูนไปทางไหน”

“ขอโทษครับพี่” ผมส่งยิ้มแห้งๆ ให้พี่ฟิ้ง พี่แกก็ยิ้มกลับมาด้วยรอยยิ้มน่ารักๆ

ผมเป็นคนแพ้รอยยิ้มครับ ถ้าใครส่งยิ้มจริงใจมาให้ผมก็จะชอบคนนั้นเป็นพิเศษ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับไอ้เอื้อเลย

“ปูน ไปโดนอะไรมา!”

พวกเราทั้งหมดหันไปทางต้นเสียง ลุงคณิตตาโตวิ่งมาหาผมก่อนจะหยุดลงข้างหน้าแล้วยกมือจับตัวผมหันไปมาเพื่อสำรวจบาดแผล

“หกล้มครับ”

“ทำไมไม่ระวัง! ไอ้แสบนี่คลาดสายตาไม่ได้เลย” ลุงส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะหันไปหาบุคคลทั้งสามที่ยืนอยู่ด้านหลัง “แล้วนี่…”
“อ๋อ รุ่นพี่ที่มหา’ลัยครับลุง นี่พี่เดียว พี่ฟิ้ง แล้วก็เอื้อ พี่ๆ นี่ลุงของผม ลุงคณิต”

พวกพี่ๆ ยกมือไหว้ลุงของผมอย่างนอบน้อม

“น้องปูนโกหกหรือเปล่าครับ นี่ลุงแน่เหรอทำไมยังไม่แก่เลย พี่ก็นึกว่าพี่ชายน้องปูนนะเนี่ย” แหมะ ปากหวานมากครับพี่เดียว

“ไอ้นี่พูดเข้าหูดีว่ะ” ลุงยิ้มขำแล้วตบไหล่พี่เดียวดัง ปาบ! สองครั้งติดๆ เห็นเลยว่าพี่มันแทบทรุด “แล้วนี่มาเที่ยวเหรอ”

“ครับ ว่าจะอยู่ที่นี่สักคืนแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ” พี่ฟิ้งเป็นคนตอบ

“แล้วพักที่ไหนกันล่ะเนี่ย”

“ยังไม่มีที่พักเลยครับ”

ผมเริ่มเห็นเคล้ารางของความเลวร้ายอะไรบางอย่างล่ะครับ…

“ดีเลยงั้นไปนอนบ้านปูนสิ”

นั่นไง! ผมเดาไม่ผิดจริงๆ ด้วย

ลุงนะลุง ทำกับผมได้!! คือถ้าเป็นพี่เดียวกับพี่ฟิ้งก็ไม่อะไรมากหรอก แต่นี่มีไอ้เอื้อไง ถึงผมจะพยายามไม่เกลียดมันแต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดว่าจะหายเกลียดภายในชั่วโมงกว่าๆ นะ

“ไงปูน ให้พี่เขาไปค้างที่ไร่ด้วยสิ จำได้พาพี่ๆ เขาเที่ยวด้วย”

“ปูนมีไร่ด้วยเหรอ!” หน้าพี่เดียวตื่นตาตื่นใจมาก

“ไร่ดอกไม้เล็กๆ น่ะครับ ไม่ใหญ่หรอก ไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยวด้วย” ผมพูดเสียงอ่อยๆ กำลังเซ็งชีวิตอยู่ครับ ไม่เอาไอ้เอื้อไปได้ป่ะวะ

“ใหญ่ไม่ใหญ่เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองแหละ” ลุงคณิตบอกยิ้มๆ ก่อนจะหันมาหาผม “ปูนพาพี่ๆ เขาไปก่อนเลยนะ ลุงต้องไปดูวัวที่ฟาร์มเสี่ยกิต เดี๋ยวตอนเย็นลุงเข้าไป วันนี้ลุงจะเตรียมของดีไว้แล้วกัน”

‘ของดี’ ของลุงคณิตไม่ใช่อะไรอย่างอื่นครับ มันเป็นเหล้าเถื่อนที่คนในหมู่บ้านหมักไว้กินกันเอง ดีกรีแรงเลย ผมเคยกินไปแค่สามแก้วก็จอดล่ะครับ

“เอ่อ…”

“ไปล่ะปูน ไปแล้วนะเด็กๆ”

ลุงอ่ะ ไม่ฟังปูนเลย!

“เราก็ไปกันเถอะเนาะ” พี่ฟิ้งส่งยิ้มมาให้ผม ก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะขึ้นรถ แต่มันก็เกิดปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ครับ…

“เฮ้ยๆๆๆ ทำอะไร!!!”  ผมโวยวายเสียงดังเมื่ออยู่ๆ ตัวเองก็ถูกอุ้มจนตัวลอย “เอื้อปล่อย! กูเดินเองได้”

“มึงเดินไม่ไหวหรอก เข่ามึงจะตึงขยับขาลำบาก”

“แต่…”

“เงียบ!!”

ทำไมจ้องดุด้วยเล่า!!

ผมเกร็งไปทั้งตัว คิดว่าไม่น่าไปนั่งฝั่งคนขับเลย รู้งี้เลือกนั่งที่นั่งข้างๆ เสียก็ดี จะได้ไม่โดยมันอุ้มแบบนี้ เกิดเป็นชาติชาย แต่โดยผู้ชายอุ้มท่าเจ้าหญิงมันไม่คูลเลย! พี่ปูนปวดร้าว!!

“ก็แค่นี้” มันค่อยๆ ว่างผมลงที่เบาะ ตอนแรกคิดว่ามันคงโยนแบบแรงๆ ซะแล้ว “มึงนี่เบากว่าที่คิดนะ ตัวมีแต่กระดูก”

“กูผอมจริงดิ มีคนพูดแบบนี้หลายคนแล้ว”

“เออ กระดูกมึงทิ่มกูแล้วเนี่ย แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูขุนเอง” มันยิ้มมุมปากแบบกวนๆ

“ไม่ต้อง กูขุนตัวกูเองได้เว้ย”

“หึหึหึ”

บทเรียนทั้งหลายสอนไว้ว่าอย่าอยู่ใกล้มันมากดีที่สุด!

===============================================
=====================================
ซาหวัดดีค่าาาาาา
ทักทายคนอ่านอีกครั้งและอย่าเกลียดพี่เอื้อเลยนะะะ
ต่อไปนี้พี่เขาจะเป็นคนดีแย้วว (หราา) จะไม่ทำให้ปูนเสียใจ (แน่นะ?)
ให้โอกาสหนุ่มเภสัชคนนี้สักครั้งเถอะค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
พี่เอื้อเอาไงดี ชัดเจนหน่อยจ้า

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ปล.ทิ้งท้ายได้แบบ สมควรเกลียดพี่เอื้อต่อไป

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:
ไอ้พี่เอื้ออออออออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หึหึหึ

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ตอนหน้าจะเสียตัวเพราะเหล้าเถื่อนไหมนะ  :hao6:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
พอไปบ้านก็เข้าทางตากับยายเลยใช่ไหมล่ะพี่เอื้อออ

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 9
เมื่อน้องปูนผ่อนคลาย


“เลี้ยวซ้ายข้างหน้าแล้วตรงไปอีกนิดก็ถึงแล้ว”

“แถวนี้มีแต่ไร่ทั้งนั้นเลยเนาะ” พี่ฟิ้งเกาะกระจกแน่นเลย สงสัยจะชอบอะไรแบบนี้ “ไร่โน้นมีม้าด้วยๆ มึงดูๆ ไอ้เดียว”

“เออว่ะ แม่งอยากขี่เลย กูจะเท่เหมือนในหนังหรือเปล่าวะ”

“หน้ามึงไม่หล่อมึงก็ไม่เท่นะ”

“เดี๋ยวเถอะมึงๆ”

ฮาๆ สองคนนี้เหมือนไอ้กล้ากับไอ้ฟ้าจริงๆ ครับ แต่ผิดกันที่พี่ฟิ้งดูจะทันคนมากกว่า แล้วสองคนนี้ก็ไม่ได้ชอบยิงมุกจีบกันเหมือนคู่นั้นด้วย

“ถึงแล้วๆ” ผมบอกเมื่อเห็นป้าย ‘ไร่มะลิวัลย์’ ไร่นี้ตั้งตามชื่อของย่าทวดผมเอง ตาทวดตั้งใจสร้างไร่นี้เพื่อเป็นของสู่ขอของยายทวด

“โห ไหนบอกไร่เล็กๆ ไงปูน”

“ก็เล็กกว่าไร่เมื่อกี้ตั้งเยอะ”

“นี่มันไม่เล็กแล้วครับน้อง อย่างใหญ่อ่ะ เฮ้ย นั่นมีคอกม้าด้วย! ไอ้ฟิ้งไปขี่ม้ากับกูนะๆ น้องปูนพี่ขอขี่ได้มั้ย”

“ได้ครับ เดี๋ยวเย็นๆ พาไปดูรอบๆ ไร่นะ” ผมหันไปยิ้มให้พี่ๆ ทั้งสอง

“หึ บ้านก็รวยนี่หว่า น้ำหอมขวดเดียวทำมาเป็นงกกับกูนะ”

“เขาเรียกว่าคนรู้คุณค่าเงินเว้ย”

ก็ทำไมอ่ะ น้ำหอมขวดนั้นผมอุตส่าห์เก็บตังค์ซื้อเองเลยนะ แล้วอีกอย่างผมก็คิดเสมอว่าผมไม่ได้รวยอะไร เพราะทั้งหมดนี่มันไม่ใช่ของผม มันคือของตากับยาย ผมเลยไม่อยากจะใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย

“จอดตรงโรงรถเลย” ผมชี้ไปด้านซ้ายมือของตัวเองที่เป็นโรงรถขนาดใหญ่ ไว้ใช้เก็บยานพาหนะทุกชนิดที่ต้องใช้ในไร่

“มีรถกอล์ฟด้วยเหรอวะ”

“อื้อ ยายบ่นว่าเดินแล้วเมื่อยตาก็เลยซื้อไว้ให้อ่ะ จอดที่นี่แหละมึง”

ไอ้เอื้อดับเครื่องยนต์ ก่อนที่พวกเราทั้งหมดจะเปิดประตูออกมา ไอร้อนด้านนอกปะทะเต็มๆ กับผิวกายทำให้ผมต้องยู่หน้า

“แดดร้อนว่ะ แต่ที่นี่ต้นไม่ใหญ่เยอะนะ” พี่เดียวกับพี่ฟิ้งบอกแล้วพากันเดินไปดูไร่ข้างนอก

“หยุดเลยครับพวกมึง” เสียงโหดๆ ดังขึ้นไล่หลัง ให้ทายว่าเสียงใคร..ไอ้เอื้อไงจะใครล่ะ นี่มันชอบทำเสียงดุๆ เป็นชีวิตจิตใจเลยใช่ป่ะวะ “มาเอากระเป๋าภาระของพวกมึงไปด้วยเว้ย”

“เขาเรียกว่า ‘สัมภาระ’ ครับเพื่อน ตกภาษาไทยเหรอ ไอ้เดียวมึงไปเอาดิ”

“เอ้า ทำไมต้องกู”

“ก็กูขี้เกียจ”

“มึงนี่เเม่ง” แล้วพี่เดียวก็ต้องเป็นคนเดินมาเอากระเป๋าเป้ทั้งของพี่มันและของพี่ฟิ้งอย่างช่วยไม่ได้

“มึงเอาของกูไปด้วยไอ้เดียว”

“เอ้า ทำไมอ่ะ”

“กูมี ‘ภาระ’ ต้องดูแล” พูดจบมันก็ปรายตามามองผม อะไร มันหมายถึงผมเหรอ เอื้อเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผม “มึงจะขี่หลังกูหรือให้กูอุ้ม”

“กูจะเดิน”

“โอเคงั้นอุ้ม” มันทำท่าจะช้อนผมขึ้นจริงๆ ด้วย แค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว!

“ไม่ๆๆๆ โอเค ขี่หลังมึงก็ได้”

“แต่กูเลือกอุ้มไปแล้วว่ะ”

“ไอ้เอื้อออออ”

แม่ง มันอุ้มผมจริงๆ ด้วย!! อุ้มได้ก็ใช้เท้าปิดประตูรถ คิดว่าเท่ไงวะ จากนั้นมันก็เดินออกมาหาพี่ๆ ที่ยืนรออยู่ พี่เดียวหันมายิ้มแซวๆ สายตาพี่มันเจ้าเล่ห์มาก

“อ๋อ นี่เหรอ ‘ภาระ’ มึง อือออ เป็น ‘ภาระ’ ที่หนักเอาการนะ”

“เออ...หนัก” ร่างสูงตอบพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ดูเจ้าเล่ห์ไม่แพ้เพื่อนมันเลย

เอ้า ไหนว่าเมื่อกี้ตัวกูเบาไง

“หนักก็วางเลยมึง กูเดินเอง”

“ไม่เป็นไร กูไหว” พูดจบมันก็เดินนำเพื่อนๆ ไปที่ตัวบ้าน ระยะทางจากโรงจอดรถถึงบ้านก็ไม่ได้ไกลนักหรอก แต่ถ้าให้เดินเองผมว่าผมคงใช้เวลานานมากแน่ๆ

“มึงเดินช้าๆ กูจะตก”

“ไม่อยากตกก็กอดคอกูไว้ดิ”

“ไม่เอาอ่ะ แค่นี้กูก็...เหวอ!! กอดแล้วๆๆ”

รู้มั้ยมันทำอะไร มันบังคับให้ผมกอดคอมันโดยการทำเหมือนจะโยนผมลงที่พื้น! ไอ้เอื้อไอ้เลว นี่กูหลานเจ้าของไร่นะ เดี๋ยวแม่งให้ตาเอาปืนมาไล่ยืนเลย

“มึงก็ไปแกล้งน้องมัน” ใช่เลยพี่ฟิ้ง ต่อว่ามันเยอะๆ ครับ

“ก็ไอ้นี่มันดื้อ”

“กูเปล่า!”

“มึงอ่ะแม่งโคตรดื้อเลย ดื้อตาใส” มันก้มลงมาพูดกับผม และเพราะมันทำแบบนี้ ใบหน้าของมันเลยห่างจากผมแค่คืบเดียว


เอื้อหล่อจริงๆ ครับ… หน้าใสไร้สิว รูขุมขนกระชับ ผิวเนียนสวยแบบที่ผู้หญิงยังต้องอาย มันมีตาที่คมสวยเหมือนเหยี่ยวเลย ถึงจะเป็นตาชั้นเดียว แต่ผมว่ามันดูดีมาก คิ้วก็รับกับรูปตาอย่างเหมาะเจาะ แต่มันชอบทำผมปรกหน้าเลยไม่ค่อยเห็นใบหน้าเต็มๆ ของมัน

อยากเห็นจัง…

ผมปล่อยมือที่กอดคอมันออกข้างหนึ่งก่อนจะค่อยๆ เลื่อนไปเสยผมที่ปรกหน้าเอื้อขึ้น

หล่อทุกมุมเลย…

“ทำอะไร”

“กะ กูแค่สงสัยว่ามึงจะไม่มีคิ้ว” ผมตอบกลับแบบแถๆ ให้สีข้างถลอกอีกครั้ง

เมื่อกี้กู-ทำ-อะไร-ลงปายยยยย

คราวหน้ามันจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ผมจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก นี่ผมเป็นอารายยยย

“ประสาทว่ะ อยากมองก็ขอดีๆ ดิ อยู่ๆ มาเปิดเหม่งแบบนี้กูตกใจ”

“ไม่เห็นเหม่งเลย หน้าผากมึงออกจะสวย”

เหี้ยยย นี่ผมไปชมมันเพื่ออะไร!

“มะ มึงเขินเหรอ” ผมถามเบาๆ เมื่อเห็นแก้มของไอ้เอื้อมันขึ้นสีจางๆ

“แล้วมึงไม่เขินเลยมั้ง หน้าแดงเป็นลูกตำลึง”

“กูไม่ได้เขิน แดดมันร้อนเว้ย เดินไวๆ ดิจะไหม้อยู่แล้ว”

“เหรออออ”

สรุปว่าเอื้อมันเขินที่ผมชมเมื่อกี้หรือเปล่าวะ แต่ช่างเถอะ ผมก็ไม่ได้อยากรู้อยู่แล้ว

“ไอ้ฟิ้ง”

“ว่าไงครับเพื่อนเดียว”

“มึงว่าเพราะเราอยู่ในทุ่งดอกไม้หรือเพราะไอ้สองคนนั้นกันแน่วะ ทำไมกูรู้สึกถึงบรรยากาศมุ้งมิ้งๆ ยังไงไม่รู้”

เพราะพี่อยู่ในทุ่งดอกไม้ไงครับไม่ต้องสงสัย!!

♣♣♣♣♣

ตอนเย็นนิดๆ (อะไรของมัน)

เมื่อกลางวันพอหมดช่วงประสาทแดกของผมแล้วพวกเราก็เข้าไปในบ้านกันอย่างรวดเร็วเพราะไม่ไหวจะเคลียร์กับแดดที่แผดเผาผมเหลือเกิน ผมแนะนำพวกไอ้เอื้อกับตาและยาย ยายนี่ดีใจใหญ่เลยที่มีเพื่อนจากมหา’ลัยของผมมาที่บ้าน ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะ ผมยังไม่เคยพาเพื่อนมาบ้าน เอื้อกับเพื่อนๆ นี่ถือว่าเปิดซิงเลย และที่ยายดีใจมากไม่ใช่เหตุผลอื่นใด แต่เพราะยายจะได้แสดงฝีไม้ลายมือในการทำอาหาร ตอนเย็นกับข้าวเลยจะเยอะเป็นพิเศษ แล้ววันนี้ยายก็ได้ลูกมีเพิ่มด้วยนะ ทายสิว่าใคร…

พี่เดียวครับ พี่เดียวทำอาหารได้ แล้วก็โคตรเก่งเลย!


บุคลิคพี่เขาไม่น่าจะทำอาหารเป็นอ่ะ (เอาจริงๆ ไม่คิดด้วยว่าจะเรียนเภสัชฯ) ถ้าเป็นพี่ฟิ้งก็ว่าไปอย่าง แต่กลับกัน พี่ฟิ้งทำอะไรไม่เป็นเลยครับ แค่เจียวไข่ยังไม่อร่อย (อันนี้เอื้อกับพี่เดียวคอนเฟิร์ม)

แต่ข่าวร้ายมันก็เกิดขึ้นกับผมอีกจนได้ เรื่องนั้นก็คือ…

เรื่องที่นอนครับ

บ้านผมนั้นไม่ใหญ่มาก มีห้องนอนสามห้องบนบ้าน คือห้องของตากับยาย ห้องผม และห้องนอนแขก และอีกหนึ่งห้องข้างล่างที่เป็นของลุงคณิต แล้วปัญหาก็คือว่า…

แขกมีกันสามคน

ดูเหมือนจะง่ายใช่มั้ย ก็ให้มันนอนรวมกันไปเลยสิ

แต่นั่นไม่ใช่กับยายครับ ยายของผมอยากจะดูแลแขกของไร่ทุกคนให้ได้รับความสะดวกสบายและรู้สึกประทับใจมากที่สุด

‘เอาอย่างนี้สิลูก คนนึงก็ไปนอนกับเจ้าปูน จะได้ไม่เบียดกันไง ดูสิตัวใหญ่ๆ กันทั้งนั้น’

‘เดี๋ยวพวกผมนอนพื้นกันก็ได้ครับยาย’ พี่เดียวผู้ที่ตัวสูงที่สุดเอ่ยขึ้น

‘ได้ยังไงกัน ปูนลูกให้พี่เขานอนด้วยนะ แค่คืนเดียวเอง’

‘ได้ครับยาย’ ผมยิ้มตอบยาย ถ้าเป็นพี่เดียวหรือพี่ฟิ้งผมยอมครับ ยังไงก็ได้ สบายๆ อยู่แล้ว
‘กูนอนกับปูนเอง’ พี่ฟิ้งยกมือ เยส เทวดาของผมม
 
‘ไม่ต้องเลยมึงไอ้ฟิ้ง มึงนอนกับกูเนี่ยแหละ มึงดูตัวกูกับไอ้เอื้อดิ นอนทับกับตายแน่’

ไอ้พี่เดียวกูเกลียดมึงงงงง

นั่นแหละ สุดท้ายผมก็ต้องนอนกับไอ้เอื้อไง บอกแล้วพระเจ้าไม่เคยเข้าข้างผมถ้าเป็นเรื่องมัน แล้วรู้ป่ะว่าพอมันเข้าไปในห้องผมมันพูดว่าไร

‘เออ ค่อยดูเป็นเหมือนห้องคนหน่อย ไม่เหมือนรังหนูที่หอมึง’

ไอ้เชี่ยยยยย กวนตีนกูตลอดอ่ะแม่ง!

ช่างเรื่องนั้นไปเถอะ เดี๋ยวผมจะหาทางไล่มันออกไปนอนนอกห้องเอง

พอแดดเริ่มร่ม พวกผมสี่คนก็ออกมานอกบ้าน พี่เดียวมันอยากขี่ม้าชมไร่มาก ถ้าไม่ได้ขี่วันนี้พี่มันคงนอนไม่หลับ อ้อ อาการเข่าถลอกของผมดีขึ้นนิดๆ แล้วนะ ถึงแม้เวลาเดินมันจะตึงๆ แต่ผม็พยายามไม่ลงน้ำหนักมาก

ผมพาพวกพี่ๆ มาที่คอกม้าของไร่ ตอนเดินออกจากบ้านไอ้บ้าเอื้อมันจะอุ้มผมด้วยแต่มันไม่ได้ทำหรอก มันแค่กวนตีนผมครับ มันเป็นคนทำแผลที่เข่าให้ผมเอง แล้วก็บอกด้วยว่าผมเดินเองได้แล้ว

“ม้าปูนโคตรเท่อ่ะ” พี่เดียวชมด้วยสายตาแวววาว “พี่จองตัวสีดำนะ เหมาะกับคนเท่ๆ อย่างพี่ดี”

“มันชื่อสมปองครับ พี่ขี่ตัวนี้ได้ มันเชื่องไม่ค่อยตื่นคน” ผมเดินเข้าไปลูบหัวสมปอง

ม้าทั้งคอกนี้ผมเป็นคนตั้งชื่อเอง มีสมใจม้าตัวเก่งของตา สมปอง สมหวัง และสมคิดม้าที่เด็กที่สุด ปกติแล้วผมชอบขี่สมปองเพราะมันเชื่อง แต่ถ้าพี่เดียวไม่เคยขี่มาก่อนก็ต้องให้พี่แกขี่ตัวนี้ ขืนให้ขี่สมหวังคงตกม้าแน่ๆ

“พี่เดียวมาลองจับมันสิ”

“ไหนๆ มาๆๆ” ฮ่าๆ พี่มันเหมือนเด็กได้ของเล่นเลยครับ “ไอ้ฟิ้งมาเล่นกับสมปองมึง มันเชื่องจริงๆ ว่ะ”

“แล้วตัวนี้อ่ะชื่ออะไร” ไอ้เอื้อถามถึงม้าสีน้ำตาลปนขาว

“สมหวัง มันหยิ่งหน่อยนะมึง ไม่ค่อยชอบให้ใครขี่เท่าไหร่” ผมหยิบถั่วแล้วเดินไปป้อนมัน สมหวังถ้าไม่มีของกินมาล่อมันจะไม่มีทางแลตามอง

“แล้วตัวที่อยู่เดี่ยวๆ นั่นอ่ะ”

“นั่นสมใจ ม้าของตา สวยป่ะ”

“สวย...รูปร่างดีเลย กูขี่ได้ป่ะวะ”

“ไม่ได้ สมใจป่วยอยู่ อีกอย่างตาหวง”

“งั้นกูขี่ไอ้ตัวเล็กก็ได้”

“ฮ่าๆ สมคิดยังเด็กอยู่เลยมึง”

หน้าเอื้อมันผิดหวังมากครับ ผมว่าที่จริงมันอยากจะขี่ม้าแหละ แต่ฟอร์มมันเยอะไง เลยไม่ได้พวกผมบอกเหมือนอย่างที่พี่เดียวทำ

“ถ้าอยากขี่เดี๋ยวขี่สมหวังก็ได้”

“อะไร กูไม่ได้อยากขี่สักหน่อย”

“เหรอออ”

“แม่ง...เออก็อยากนิดๆ แหละ ที่บ้านไม่มีม้านี่หว่า” มันเกาแก้มเองแก้เก้อด้วยครับ ตลกดี เพิ่งเคยเห็นมันอายก็ตอนนี้

“พี่จุ้มๆ เดี๋ยวเอาสมปองกับสมหวังออกมานะ ผมจะพามันไปเดินเล่น พี่จุ้มสอนพวกพี่ๆ เขาหน่อยนะครับ พาเดินไปก่อนสักพักก็ได้ค่อยปล่อย”

“ไม่ต้องหรอก ไอ้ฟิ้งมันขี่เป็น”

หือ พี่ฟิ้งอ่ะเหรอ พี่ฟิ้งขี่ม้าเป็นในขณะที่พี่เดียวทำอาหารได้ สองคนนี้สลับกันแบบแปลกๆ ป่ะวะ
“งั้นไม่ต้องแล้วครับ แค่ปล่อยให้พี่ๆ เขาเอาไปขี่พอ”

“ครับน้องปูน” พี่จุ้มพยักหน้าก่อนจะเดินไปพาสมปองส่งให้ถึงมือพี่ฟื้ง

“แหม...เป็นน้องปูนซะะด้วย”

ผมมองค้อนไอ้เชี่ยเอื้อ (อัพเวลอีกแล้ว) มันจะมีสักนาทีมั้ยที่มึงจะไม่กวนตีนกูเนี่ย

ผมรับเชือกสมหวังมาจากพี่จุ้มแล้วพามันออกเดินมาด้านนอก ในมืออีกข้างผมมีของกินเล่นให้มันด้วย เผื่อเกิดมันดื้อขั้นมาจะได้เอาไว้ล่อมัน พอเดินมาได้สักพักก็หันไปหาไอ้เอื้อที่ตามมาติดๆ

“มึงขึ้นม้าเลย เห็นแบบที่พี่ฟิ้งทำมั้ย” ผมชี้ไปยังพี่ฟิ้งกับพี่เดียว พี่ฟิ้งยกตัวแล้วตวัดขาขึ้นไปนั่งบนม้าแล้ว ท่าสวยมาก ดูก็รู้ว่าขี่เป็น “มึงเอาเท้าเหยียบตรงนี้นะ จับตรงนั้นแน่นๆ แล้วก็ขึ้นไปเลย โน่นดูพี่เดียวทำ”

พี่เดียวขึ้นไปนั่งซ้อนหลังพี่ฟิ้ง พี่มันขึ้นม้าอย่างเก้ๆ กังๆ แต่ก็สามารถไปนั่งข้างบนได้ พอเห็นว่าเพื่อนพร้อม พี่ฟิ้งก็เริ่มควบให้ม้าเดินออกไปอย่างช้าๆ

“แล้วมึงไม่ขี่เหรอวะ”

“ไม่อ่ะ กูอยู่ข้างล่างเนี่ยแหละ เดี๋ยวคอยดูให้” ผมก็อ้างไปงั้นแหละ จริงๆ ผมแคาไม่อยากมีโมเม้นต์แบบในละครอย่างพี่เดียวพี่ฟื้ง กับไอ้เอื้อ

ไอ้เอื้อสอดขาเข้ากับที่วางเท้า มือมันก็จับตำแหน่งที่ผมบอกไว้แน่น แล้วยกตัว ก่อนตวัดขายาวๆ ของมันขึ้นไปนั่งด้านบน

“ฮี่~!”

นั่นไง เอาเลยนะมึงไอ้สมหวัง

ผมตบๆ ไอ้สมหวังเป็นการบอกให้มันใจเย็นก่อนจะป้อนถั่วให้มันไป พอม้าเริ่มสงบผมก็เงยหน้ามองไอ้เอื้อ หน้ามันเสียเลยครับ ซีดเผือดไร้สีเลือด มืองี้กำเชือกไว้แน่น คงกลัวจะตก

“กูขี่มันได้จริงๆ นะ”

“เออน่า เริ่มเดินเถอะ แต่ค่อยๆ นะ”

“ทำไมวะ มันจะพยศอีกเหรอ”

“เปล่าอ่ะ ขากูเจ็บ”

“ไอ้เวร”

ฮาๆๆ ได้กวนตีนมันคืนแค่นี้ผมก็สบายใจล่ะ

ผมกับไอ้เอื้อเดินเลาะไร่ตามทางไปเรื่อยๆ ส่วนพี่ฟิ้งกับพี่เดียวเขาไปกันไกลแล้วครับ พากันเดินไปอีกฝากของไร่เป็นที่เรียบร้อย พี่เดียวดูชอบการขี่ม้ามาก สีหน้าพี่มันเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลาเลย

“กูว่า...มันน่าจะสลับกันป่ะวะ มึงควรขึ้นมานั่งข้างบน แล้วกูต้องเป็นคนจูง”

“เอาตรรกกะอะไรมาคิด” ผมเดินดูดอกไม้ไปพลาง คุยกับมันไปพลาง ตาให้คงหาดอกไม้แปลกๆ มาลองปลูกหลายชนิดเลย บ้างก็ตาย บ้างก็เป็น

“ก็ในละครพระเอกเขาก็จูงม้าให้นางเองนั่งนี่”

“กูไม่ใช่นางเอกเว้ย!”

“ฮี่~!” สงสัยสมหวังจะตกใจเสียงผมครับ แฮะๆ

“ไอ้เชี่ยปูน มึงจะฆ่ากันเหรอ”

“ก็มึงอยากกวนตีนกูทำไมล่ะ อย่านะมึง...มีอีกครั้งกูให้สมหวังจัดการเลย”

เท่านั้นแหละ มันก็ไม่กวนผมอีกเลย ฮ่าๆ กูหาวิธีเอาชนะมึได้ล่ะแม้มันจะเป็นช่วงสั้นๆ ก็ตามที โธ่ชีวิตกู T_T

“กูไม่เห็นพ่อแม่มึงเลย”  เอื้อถามหลังจากที่เราเงียบกันมานาน ตอนนี้ผมชักเริ่มเมื่อยล่ะ เจ็บเข่าด้วย เลยบอกให้มันหยุดม้าใต้ต้นไม้ก่อน

“พ่อกับแม่กูตายไปนานแล้ว”

ผมนั่งลงที่พื้นหญ้า เอื้อลงจากม้ามานั่งข้างๆ กัน ผมก็ปล่อยให้สมหวังเล็มหญ้าไป แต่ผูกมันไว้กับต้นไม้แล้ว ม้าตัวนี้มันดื้อครับ ถ้าหลุดไปนี่แย่เลย

“ขอโทษว่ะ กูไม่รู้”

“ถ้ารู้มึงก็เทพไปล่ะ”

“กวนตีน”

“ก็เหมือนที่มึงชอบทำไง” ผมยักคิ้วให้มันสองจึก เอื้อเลยตอบแทนด้วยการวางมือลงบนหัวผมแล้วขยี้แรงๆ “ไอ้เอื้อ ผมกูเสียทรง”

“ต่อให้มันเป็นทรงมึงก็หล่อสู้กูไม่ได้หรอก”

แหวะ มึงหล่อตายล่ะไอ้เวร

แล้วร่างสูงก็เอนหลังลงนอนกับพื้นหญ้าทั้งตัว ผมแอบทึ่งนะ นึกว่ามันจะสำอางกว่านี้เสียอีก ดูดิ นั่นเสื้อโปโลของไอ้เข้ตัวเขียวนะครับ มันไม่กลัวเปื้อนเลย

“อากาศโคตรดี เหมือนได้ฟอกปอดเลย” ใบหน้าหล่อที่มีรอยยิ้มประดับอยู่หันมาหาผม มันเป็นยิ้มจางๆ ให้ความรู้สึกสบายๆ “กูนอนสักแปบได้ป่ะวะ”

“เอาดิ เดี๋ยวกูทิ้งมึงไว้ตรงนี้เอง”

“มึงนี่แม่ง”

“เฮ้ยทำอะไร!” ผมตาโตเลยครับ อยู่ๆ ไอ้เอื้อมันก็เอาหัวมาไว้บนตักผม พอผมจะพลักหัวมันออกมือใหญ่เท่าใบลาน (เวอร์ไป) ของมันก็คว้ามือผมไว้เสียงทั้งสองข้าง “ไอ้เอื้อลุกกก”

“ไม่อ่ะ เมื่อกี้มึงบอกจะทิ้งกู ถ้าทำแบบนี้มึงก็ทิ้งกูไว้คนเดียวไม่ได้”

“แต่มัน…” ผมมองซ้ายมองขวา ไม่อยากให้ใครมาเห็นภาพนี้เลยโดยเฉพาะตา

“ไม่มีใครมองหรอกน่า เรามาไกลตั้งขนาดนี้ กูนอนแปบเดียวเดี๋ยวก็ตื่น”

“ไม่เอา! ไอ้เอื้อลืมตามาก่อน” มันไม่ยอมลืมตาอ่ะครับ มันกวนตีนผมมม แล้วดูนั่น มึงหลับประสาอะไรหน้ามึงยังยิ้มอยู่เลยเนี่ย!

ว่าแต่...ปล่อยมือกูก่อนสิวะ!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2017 00:17:57 โดย Maitre »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ฟอร์มพ่อพระเอก

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
น่าจะแอบรักมานาน
กับมิ้มนี่ก็น่าจะจีบตัดหน้า แหม่รักเค้าไม่บอกเค้า  :katai3:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ดูท่าจะมีอะไร ๆ ในใจมานานนะ มาเร็วเคลมเร็ว ดีไม่ดีแอบสืบว่าเขาอยู่ที่นี่เลยแอบตามมาแน่ ๆ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :ling1: พี่เอื้อคนกวนนนนนน

 :L2: :L1: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ไร่นี้ตั้งตามชื่อของย่าทวด (ยายทวด)ผมเอง ตาทวดตั้งใจสร้างไร่นี้เพื่อเป็นของสู่ขอของยายทวด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2017 15:00:26 โดย sirin_chadada »

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เพลินๆ

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 10
เมื่อน้องปูนนับดาว

“เมื่อหลวงควันและฝุ่นมากมาย
พี่สูดดมเข้าไป ร่างกายก็เป็นภูมิแพ้
ผู้หญิงที่กรุงเทพก็อันตราย
เพราะพวกเธอหลายใจหัวใจพี่เองก็แพ้
ตั้งแต่มาเจอเธอเท่านั้นช่างสุขใจเหลือเกิน
ขอร้องเธออย่าเมินช่วยรักษาใจ”

พี่ฟิ้งร้องจบก็ส่งไมค์ต่อให้พี่เดียวร้องในท่อนถัดไป

“พี่จ๋าถ้าพูดจริงน้องก็คงรักได้
พี่ไม่ได้มาหลอกน้องก็เต็มใจจะรักกัน”

อะไรคือการที่พี่เดียวทำท่าเอียงอายตอนพี่ฟิ้งเดินเข้ามาเชยคางวะ ฮาๆๆๆ

“พี่ไม่ได้มาหลอก  รักของเราจะคงอยู่แสนนาน~”

ภูมิแพ้กรุงเทพ : ป้าง

ฮาๆๆๆ พี่ฟิ้งแม่งเล่นโอบพี่เดียวทั้งตัวเลย ติดที่ว่าที่เดียวตัวใหญ่กว่าพี่ฟิ้งเลยโอบไม่มิด แต่พี่แกก็ยังพยายามส่งสายตาหวานๆ ให้พี่เดียว แล้วนั่น...แล้วนั่น...พี่เดียวครับมึงจะเขินทำไม!

สองคนนี้จะว่าไปก็รั่วๆ ดีเหมือนกัน

“กูจะอ้วก” ไอ้เอื้อมันบ่นพึมพำระหว่างที่พี่สองคนนั้นกำลังร้องท่อนต่อไป


หลังจากพวกเรากินข้าวเย็นกันเสร็จ ลุงคณิตก็พากันตั้งวง นอกจากพวกผมแล้วยังมีลุงๆ น้าๆ ในไร่อีกด้วยครับ ลุงบอกถือเป็นการผ่อนคลายให้คนงานภายในไร่ ซึ่งตาก็อนุญาต แล้วเมื่อกี้ตาก็เพิ่งจะขึ้นไปนอนเอง

เรื่องกับแกล้มอะไรก็พร้อม (ฝีมือพี่เดียวแหละ บอกแล้วพี่แกเก่งจริง) และที่ขาดไม่ได้ก็คือเครื่องดื่ม แต่เครื่องดื่มของลุงคณิตไม่ธรรมดาครับ ผมบอกแล้วไงว่ามันคือเหล้าเถื่อนที่ดีกรีแรงไม่แพ้เหล้าขาว พอพี่ฟิ้งกับพี่เดียวกินไปได้ไม่กี่แก้ว พี่มันก็ออกอาการรั่วกันแล้ว เอื้อก็กินนะ แต่มันไม่ยักเป็นอะไร สงสัยจะคอแข็ง

ส่วนผมอ่ะเหรอ...หึ ถูกไอ้เอื้อสั่งห้ามครับ!!

มึงเป็นพ่อกูหรือไงวะ!

ไม่ได้ครับ ผมจะต้องกินให้ได้วันนี้ เพราะลุงไม่ได้เอามาให้ลองบ่อยๆ

“หยุดเลยนะมึง!” เสียงเข้มดังขึ้นเมื่อผมพยายามจะเอื้อมหยิบแก้วหน้าที่อยู่ข้างๆ ของใครก็ไม่รู้แหละมันถูกวางทิ้งไว้

“อะไรเล่า กูจะกินอ่ะ”

“มึงเป็นแผลกินไม่ได้”

“นิดเดียวเอง จิบเดียวพอเลย” ผมคว้าหมับเข้าที่แก้วเลยครับ แล้วทำไมผมต้องไปต่อรองมันด้วย ผมนี่หลานเจ้าของไร่เลยนะ ใครๆ ก็ฟังผม!

“เอาแก้วคืนกูมาเลย”

นี่แก้วเอื้อเหรอ ถึงว่ามันไม่ยอมให้ดื่ม งั้นผมไปหาแก้วอื่นก็ได้

“ไอ้ขี้งก” ผมพูดเสร็จก็เตรียมจะลุกออกไปหาเป้าหมายใหม่ครับ แต่ติดอยู่ที่แขนท่อนซุงของเอื้อพาดลงมาแล้วล็อกคอผมเอาไว้ก่อน “ไอ้เอื้อปล่อย!”

ผมดิ้นๆๆๆ มันก็กดแรงลงผมแล้วลากผมเข้าไปใกล้ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจผมเลยสักคน ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาหัวเราะกับดูโอ้คู่ใหม่ของเมืองไทยที่กำลังแสดงอยู่ตรงลานกว้าง

ใครก็ได้ช่วยผมด้วยยย

“แล้วมึงจะไปไหนล่ะ”

“ก็มึงไม่ให้กูกินเหล้าแก้วมึง กูจะไปหาของคนอื่นกิน”

“แก้วใครก็ไม่ให้เว้ย นี่กูพูดอะไรมึงฟังบ้างป่ะ มึงเป็นแผลอยู่ห้ามกิน”

“นิดเดียวเอง...”

“นิดเดียวก็ไม่ได้!”

โอเค ต่อไปจะเรียกมันว่าพ่อแล้ว!

“ทำไมมึงชอบบังคับกูจังเลยวะ” ผมเลิกดิ้นแล้ว มันอยากจะกอดก็ตามใจมึงเลย เอาให้พอแล้วก็ไม่ต้องมากอดกูอีก!

“ก็มึงมันดื้อ พูดไม่ค่อยฟังก็ต้องบังคับดิ”

“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย อยู่บ้านกูเป็นเด็กดีจะตาย”

“เหรอออ งั้นเป็นให้กูเห็นหน่อยดิ เริ่มจากห้ามดื่มเหล้าวันนี้อ่ะ ทำได้มั้ยคุณน้องปูน”

“มันไม่เกี่ยวกันเว้ย”

“หึหึหึ กินอย่างอื่นไปมึง อ่ะนี่กูป้อน” มันพูดจนก็ตักยำวุ้นเส้นมาจ่อที่ปาก พอผมหันหน้าหนีมันก็ยื่นช้อนตามมาจนต้องกินที่มันตักให้อย่างเสียไม่ได้ “ว่าง่ายอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย”

“อย่างกูนี่ต้องหล่อ” ใช่ ผมอ่ะมันระดับรองเดือนคณะเลยนะ

“เออออ หล่อมากครับ” มันขยี้หัวผมอีกแล้ว แล้วเมื่อกี้มือมันเพิ่งจับแก้วมายังเปียกอยู่เลยอ่ะ!

“โสโครกว่ะไอ้เอื้อ นี่มึงเรียนเภสัชฯ ได้ไงวะสกปกจริงๆ” ผมปัดๆ หัวตัวเอง “อย่างนี้ใครจะกล้ากินยาที่มึงทำ”

“ตอนทำกูก็สะอาดไง อีกอย่างถ้าไม่มีใครกล้ากินเดี๋ยวกูจับกรอกปากมึงเอง” มันยิ้มร้ายๆ ส่งมาให้ หน้าเหมือนวางแผนจะฆาตกรรมผมยังไงอย่างนั้น

“ไม่เอาอ่ะ กลัวตาย”

“ไม่ตายหรอก ไอ้ฟิ้งกับไอ้เดียวลองชิมแล้ว”

“มึงทำยาแล้วจริงดิ เป็นไงๆ สนุกมั้ย” ผมเงยหน้าถามไอ้เอื้อที่ก็ก้มหน้าลงมามองผมอยู่เหมือนกัน มันยังไม่ยอมปล่อยแขนที่ล็อกคอผมอยู่ออกครับ

“อือ ก็...ไม่ว่ะ วุ่นวายฉิยหายเลยอาจารย์ก็โคตรโหด ทำผิดไปนิดเดียวก็เดินมาด่าซะกูเสียคน อย่างอาทิตย์ที่แล้วกูทำพาราน้ำของเด็กป่ะ โคตรวุ่นวาย แม่งทำยังไงก็ไม่ใสสักที กูเลยเลิกทำแม่ง แล้วให้ไอ้ฟิ้งทำแทน สรุปว่ากูลืมใส่สารไปตัวนึง โคตรเวรอ่ะ เลิกแลปเลทเลย”

เอื้อมันเล่าด้วยความเซ็งจริงๆ ครับ ตอนนี้มันไม่ได้มองหน้าผมแล้ว ตามันกวาดมองไปรอบๆ ไร่ มืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็ยกแก้วหน้าขึ้นมาจิบ

“อ่า...ของแม่งแรงจริงๆ”

เอื้อมันดีอย่างคือมันไม่สูบบุหรี่ แม้ว่ามันจะเป็นพวกคอทองแดง (จิบไปเยอะแล้วแม่งยังไม่เมาเลย) แต่ไม่แตะบุหรี่เลย ปากมันจึงดูอมชมพูแลดูสุขภาพดี

ปากนี้ไงที่ใช้จูบมิ้ม แม่งหมั่นไส้!

ไม่รอช้าผมยื่นมือไปบีบปากมันอย่างแรง นี่แน่ะๆๆๆ ปากนี้ใช่มั้ยที่ซุกคอมิ้ม ปากนี้ใช่มั้ยที่ใช้จีบมิ้ม มึงเสร็จกูแน่!

“อื้อๆๆๆๆ” เอื้อมันโวยวายแล้วดิ้นไปดิ้นมา

หึหึหึ อย่าคิดว่ากูจะปล่อยง่ายๆ นะมึง...อ๊ะ! มันบีบจมูกผม!!

“กูหายใจไม่ออก” เสียงผมตอนนี้แม่งโคตรตลกอ่ะ แต่ไม่มีเวลามานั่งขำหรอก ผมต้องเอาคืน!!

หมับ!

“เลิกเล่นไร้สาระได้แล้วมึง”

เอื้อมันอาศัยจังหวะทีเผลอปล่อยคอผมแล้วรวบมือที่บีบปากมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ผมก็ยิ่งดิ้นๆ ให้หลุดสิครับ ใครมันอยากจะไปถูกจับไว้แบบนี้ล่ะ

“ปล่อยนะเว้ย”

“ไม่ เอ้ย!”

ตุบ!!

ผลสุดท้ายเราก็ตกจากแคร่ไม้ที่นั่งอยู่ลงมากองบนพื้นหญ้า แต่ผมไม่เจ็บเลยสักนิด เพราะร่างสูงใหญ่ของอีกคนกลายเป็นเบาะรับแรงกระแทกของผม กลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนผมนอนนิ่งๆ ให้มันกอด

โมเม้นต์นิยายแบบนี้มันอะไรกัน! แล้วนี่จะไม่มีใครสนผมจริงๆ ใช่มั้ย!

ไล่ออก! อย่างนี้ต้องให้ตากับยายไล่ออก!!

ผมล้อเล่นครับ ไม่ทำหรอก แหะๆ

“ไงล่ะ เล่นจนได้เรื่องเลยนะมึง” เสียงจากไอ้คนข้างใต้ตัวผมครับ ดูมันนอนหงายหลังสบายใจเฉิบเลย มันไม่ได้กักตัวผมไว้แล้ว กลับเอามือทั้งสองข้างไปหนุนหัว

“เพราะมึงแหละแม่ง”

ผมลงจากตัวเอื้อแล้วเตรียมจะลุกขึ้น แต่ถ้ามันยอมให้ผมลุกไปได้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่ไอ้เอื้อใช่ป่ะ มันดึงผมให้ลงมานอนด้วยกันข้างๆ ครับ

แม่ง ขี้บังคับสุดๆ

“อะไรของมึงเนี่ย”

“มึงดูดาวดิ โคตรสวยเลย ที่บ้านกูไม่มีแบบนี้นะ” ว่าแล้วมันก็ชี้ไปที่ดวงดาวนับแสนล้านดวงบนท้องฟ้า มันก็สวยจริงนะ แต่ผมชินแล้ว ผมเห็นมาตั้งแต่เล็กๆ

“มึงก็ย้ายบ้านมาอยู่นี่ดิ” ผมพูดขำๆ ไม่ได้จะให้มันมาจริง แต่…

“เออ มาอยู่กับมึงเนี่ยแหละ” อีกคนดันตอบรับเสียอย่างนั้น

“เอาดิ จะให้ไปนอนกับไอ้สมหวังเลย”

“มันคงกระทืบกูตาย”

“ไม่หรอก ถ้ามึงไม่ไปยุ่งกับสมปองของมันนะ”

แล้วผมกับมันก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนที่เราทั้งคู่จะเงียบเสียงตัวเองลง ฟังเสียงเพลงที่ถูกเปลี่ยนเป็นเพลงเบาๆ สบายๆ ขับร้องโดยพี่จุ้ม พร้อมกับนอนนับดวงดาวบนท้องฟ้าไปด้วย

ผมนะที่นับ ไม่รู้ว่าไอ้เอื้อมันคิดอะไรของมัน

คุณเคยมีความคิดที่อยากจะนับดวงดาวบนท้องฟ้าให้ครบมั้ย ผมมีนะ แล้วเวลานอนดูดาวเนี่ยผมก็นับมันตลอดเลย แต่พอนับไปสักพักก็รู้เริ่มงงๆ ว่าผมนับซ้ำหรือเปล่า แล้วก็กลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ ประสาทดีนะว่ามั้ยที่ผมมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้

“เอ๊ะ กูนับดวงนี้ไปหรือยังวะ” เสียงบ่นพึมพำดังมาจากคนข้างๆ

มันก็นับดาวเหมือนผมเหรอ

“มึงนับได้กี่ดวงแล้ว” มันหันมาถามด้วยเสียงทุ้มๆ พร้อมรอยยิ้มจางๆ วันนี้มึงยิ้มบ่อยจังวะ ไอ้เอื้อหน้าโหดเมื่อตอนก่อนๆ หายไปไหนแล้ว ทำไมเหลือแต่ไอ้เอื้อที่กวนตีน แล้วก็ยิ้มง่าย

“ยี่สิบหก มึงอ่ะ”

“สามสิบเอ็ด”

เชี่ยยย ขนาดนับดาวมันยังนับได้มากกว่าผมอ่ะ ไม่ยอมๆ ผมจะไม่เเพ้มัน!

“มึงนับผิดเปล่า อาจจะนับซ้ำก็ได้ จริงๆ แล้วได้แค่สิบกว่าดวง”

“ขนาดเรื่องแค่นี้ยังไม่ยอมกูนะมึง” มันพูดจบก็ผลักหัวผมเบาๆ ด้วย หึย! เห็นว่าอายุมากกว่าหรอกเลยไม่อยากทำคืน ผมเป็นคนมีมารยาทครับ “ปูน…”

“อะไร”

“ทำไมมึงถึงชอบมิ้มวะ”

คำถามของมันทำให้ผมนิ่งเงียบ ตอนนี้อยู่ในช่วงตัดใจไง ถ้าทำได้อย่าเอ่ยชื่อนี้ครับ ถึงมันจะไม่ได้เจ็บปวดแต่พอนึกถึงทีไรก็ไม่ค่อยปกติ แต่น่าขำตรงที่คนถามผมดันเป็นศัตรูหัวใจ แล้วก็มันไม่ใช่เหรอเป็นคนที่ทำให้ผมต้องตัดใจจากมิ้ม

“กูชอบรอยยิ้มของมิ้ม…” ผมพูดพร้อมนึกถึงรอยยิ้มของเธอไปด้วย ก่อนมันจะแทนที่ด้วยภาพเธอเดินไปกับคนอื่นซึ่งไม่ใช่ผม

ไอ้คนที่นอนข้างๆ ผมอยู่ตอนนี้อย่างไรล่ะ

“มึงอาจจะแค่ประทับใจเขาเฉยๆ ไม่ได้ชอบก็ได้” มันเสนอความเห็นที่ผมไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ ผมแยกไม่ออกว่าประทับใจกับชอบมันแตกต่างกันอย่างไร เพราะสุดท้ายมิ้มก็เป็นคนทำให้ผมมองหาอยู่เรื่อยไป “แล้วที่มึงไม่จีบมิ้มสักทีนี่เพราะกูเหรอ”

“เปล่าหรอก จริงๆ กูตัดใจจากมิ้มแล้ว”

“ง่ายขนาดนั้น”

“ก็นะ ถ้ามึงรู้ตัวว่าต่อให้ทำยังไงเขาก็ไม่มีทางเลือกมึงอ่ะ มึงก็ต้องตัดใจง่ายๆ อยู่แล้ว”

“มึงลองแล้วหรือไง”

“ที่พูดนี่คือจะให้กูไปจีบมิ้ม?” ผมว่าความรู้สึกของผมมันเลยจุดนั้นมาแล้ว ให้กลับไปอะไรๆ กับเธออีกคงไม่ ในเมื่ออย่างไรเธอก็มองผมแค่เพื่อนคนหนึ่ง

ถ้าผมยังรู้สึกกับมิ้มแบบนั้นอยู่ผมไม่มานอนคุยกับเอื้อมันแบบนี้หรอกครับ แค่เหยียบในไร่ผมก็ไม่มีทาง

“เปล่า มึงตัดใจน่ะดีแล้วล่ะ...ดีแล้ว”

“ที่มึงบอกว่าดี เพราะต่อไปกูจะได้ไม่ต้องไปกวนใจมึงใช่ป่ะ”

“กูจะได้เลิกกับเขาเสียที” เสียงเอื้อแผ่วเบา แต่ผมก็ยังได้ยินชัดเจน

“ทำไม...เอ๊ะ?”

อีกคนไม่ตอบคำถามของผม เอื้อกันหน้ามาหา ก่อนที่มือใหญ่จะเลื่อนเข้ามาใกล้หน้าผมแล้ววางทับบนดวงตาทั้งสองข้าง ทำให้ด้านหน้าของผมมืดสนิท ไม่นานนักผมก็รู้สึกถึงลมหายใจร้อนผ่าวจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่บริเวณข้างแก้ม ตัวผมเกร็งโดยอัตโนมัติ

“กูไม่อยากมองตาเศร้าๆ ของมึงเลยว่ะ”

“...”  มันใกล้มาก...เสียงของไอ้เอื้อทุ้มต่ำ ชิดกับใบหูของผม ความรู้สึกประหลาดก่อนตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

“หน้ามึงเหมือนคนจะร้องไห้” ไม่เห็นรู้ตัวเลย ผมว่าผมก็ปกตินะ “อย่าเสียใจเพราะมิ้มเลย ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่มึงคิดถึงเขาได้หรือเปล่า”

“...”

“อย่าไปนึกถึง อย่าไปคิด อย่าไปเสียใจ”

ผม...

“สักวันก็ต้องเจอคนของมึง”

“...”

“คนที่มึงรักเขา และเขาก็รักมึง…”

น่าแปลกที่พอเอื้อพูดแบบนั้น ผมกลับรู้สึกว่าผมจะทำได้ ผมจะไม่คิดถึงมิ้ม ไม่เสียใจ และลบความรู้สึกที่มีต่อเธอได้ในทันที

♣♣♣♣♣
สายๆ ของวันถัดมา

วันนี้ผมต้องกลับแล้ว ไม่อยากไปเลย

ฮืออออออ

“ปูนทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยลูก” ยายลูบหัวผมเบาๆ

“ก็ไม่อยากกลับ อยากอยู่กับยาย”

“แหมะไอ้นี่ อ้อนเมียกูอีกล่ะ!”

“ตาจะไปเข้าใจอะไรเล่า ตาได้อยู่กับยายทุกวันตาจะรู้สึกเหมือนปูนได้ไง” ผมหันไปตอบตาก่อนจะซุกตัวกอดยายแน่น “ยายจ๋า ทิ้งตาแล้วไปอยู่กับปูนที่หอเถอะ”

“บร๊ะไอ้นี่! ชวนเมียข้าหนีตามเหรอฮะ” ตาท้าวเอวตวาดลั่นบ้าน เรื่องปกติครับไม่ต้องตกใจ แต่แขนที่มาเยื่อนอาจจะไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เพราะ…

“ใครมันจะช่วยแฟนพี่เพิ่มหนีตามครับ!!” พี่เดียวรีบวิ่งลงบันไดมาเลยครับ หัวนี่ยังฟูๆ อยู่เลย โคตรฮา พวกพี่เดียวก็ช่างเอาใจคนแก่นะ เรียกตาผมว่า ‘พี่เพิ่ม’ ทุกคำเลยอ่ะตานี่ยิ้มหน้าบานเลย

“ก็ไอ้หลานตัวดีนี่สิวะ! จะเอาเมียข้าไปอยู่ด้วย” ตาชี้นิ้วมาทางผม

“โธ่ ผมก็นึกว่าใคร” พี่มันทำหน้าโล่งใจแล้วเดินลงมาข้างล่าง ในมือถือกระเป๋าเป้ใส่ของมาด้วย พี่เดียวหยุดยืนอยู่ข้างผมแล้วตบไหล่ “ถ้าเหงามาหาพี่ก็ได้นะ คืนพี่กลิ่นให้พี่เพิ่มเถอะ”

พี่กลิ่นของพี่เดียวก็คือยายผมเองครับ

“ไอ้นี่พูดดีๆ คืนเมียข้ามาเลยเว้ย!”

“ไม่ให้ ยายเป็นของปูนนับจากตอนนี้จนกว่าปูนจะกลับ นะๆๆ ตานะๆๆ”

“เออ ข้าเห็นแก่ไอ้สมใจหรอกนะเว้ย” ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยตา

เอ้อ มีอะไรจะบอกกกก เมื่อคืนผมได้นอนคนเดียวด้วยล่ะ เย้ๆ ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณลุงคณิตที่น่ารักของผม อยู่ๆ ลุงก็เข้ามาบอกกับเอื้อว่าให้ไปนอนกับแกเมื่อคืน เอื้อมันก็งงๆ นะครับแต่มันก็ยอมไม่ไปนอนกับลุงคณิตที่ห้องข้างล่าง ผมก็เลยได้นอนสบายบนเตียงกว้างงงง แต่มันก็ต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องผมอยู่ดี เพราะกระเป๋ามันอยู่ที่นั่น

นั่นไง นึกถึงก็ลงมาพอดี ตายยากชะมัด

เอื้อเดินลงบันไดมาพร้อมพี่ฟิ้งที่สภาพย่ำแย่มากไม่ต่างจากพี่เดียว หน้าพวกพี่ๆ โคตรโทรม เมื่อคืนนักร้องดูโอ้ของเราเป็นขวัญใจคนในไร่ ก็เลยโดนมอมไปเยอะเหมือนกัน ตื่นมาได้ผมนี่แอบทึ่งนะ พวกพี่มันเก่งจริงๆ คนที่ดูดีที่สุดก็คือเอื้อครับ มันดื่มไปหลายแก้วแต่ก็ไม่เมาสักมี ผมเลยถามว่าทำไมเมื่องานวันเกิดพี่บุ๊คถึงได้เมาขนาดนั้น มันบอกพี่บุ๊คแกล้งให้มันกินเหล้ากับเบียร์สลับกัน นั่นแหละ เป็นใครก็น็อค

“ลงกันมาแล้วหนุ่มๆ มากินข้าวเช้ากันก่อนมาเร็ว จะได้สร่างเมา”

ยายลุกไปเตรียมอาหารเช้าให้ทั้งสามคนรวมทั้งผมด้วย มื้อเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ ครับ พี่ฟิ้งเป็นคนเดินไปช่วยยายตักแล้วทยอยเอาออกมาเสิร์ฟ ของพี่เดียวกับไอ้เอื้อนี่เยอะพอๆ กัน

“จะกินหมดเหรอมึง” ผมถามเอื้อที่นั่งฝั่งตรงข้าม

“มันจะลุกไปเติมด้วยซ้ำปูนดูไว้เถอะ” พี่ฟิ้งที่นั่งข้างมันเป็นคนตอบ ส่วนข้างผมเป็นพี่เดียว “เอื้อมึงเอากาแฟมั้ย”

“เออ ก็ดีว่ะ”

“มึงขับรถกลับไหวป่ะวะ”

“สบาย ไม่ไหวก็ให้ไอ้ปูนขับให้ มึงไม่ต้องห่วงหรอก”

พี่ฟิ้งเหมือนจะไม่เห็นด้วย สุดท้ายพยักหน้ารับก่อนจะหันไปกินของตัวเองต่อ แต่ก็คอยถามโน่นถามนี่ไอ้เอื้ออยู่เรื่อยว่าจะเอาอะไรมั้ย เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ บริการดีมาก ถ้าพี่ฟิ้งดูแลเอื้อแล้วผมต้องดูแลพี่เดียวบ้าง ผมชอบพี่เดียวนะ ฮาดี อยู่กับไอ้กล้าคงไอ้ขำกันทั้งวัน

“พี่เดียวเพิ่มข้าวต้มมั้ยพี่”

“เออเอาดิ แต่เดี๋ยวพี่ไปตักเองก็ได้”

“ไม่เป็นไรๆ ผมตักให้เอง” ขืนปล่อยให้พี่มันตักข้าวต้มคงหกรดตัวพี่มันอ่ะครับ หน้าพี่เดียวยังไม่ค่อยตื่นดีเลย

“เอื้อมึงเอาเพิ่มมั้ย”

“เดี๋ยวกูไปตักเองฟิ้ง”

เสียงแว่วๆ จากทางด้านหลังดังได้ไม่กี่นาทีร่างสูงก็มายืนข้างผมที่หน้าหม้อข้าวต้ม มันยื่นชามข้าวต้มมาให้ แล้วออกเสียงสั่ง

“เอาข้าวเยอะๆ น้ำน้อยๆ”

สั่ง...สั่งกูตลอดอ่ะ

“แปบนึง ตักให้พี่เดียวก่อน”

“ให้กูก่อนดิ กูยังหิว”

“อะไร กินไปตั้งเยอะแล้วนะ”

“ไม่ได้ครึ่งกระเพาะกูอ่ะ” ถ้าจะจริงครับ เพราะมื้อเย็นเมื่อวานมันกินเยอะมากกกก มันกับพี่เดียวแทบเปิดงานแข่งกินจุกันเลยทีเดียว

“อ่ะ อยากได้แค่ไหนยังไงมึงตักเองเลย กูไปล่ะ” ผมส่งทัพพีให้มันแล้วเดินกลับเอาข้ามต้มมาให้พี่เดียวที่โต๊ะ

“ขอบใจครับปูน”

“ไม่เป็นไร พี่เดียวเอาน้ำส้มมั้ย”

“เอาๆๆ อะไรก็เอาหมด พี่เป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย” พี่มันยิ้มแป้นให้ผม เหมือนไอ้กล้าจริงๆ

ในขณะที่ทำกำลังเทน้ำส้มให้พี่เดียว ไอ้หน้าโหดก็เดินออกมาจากครัว มันออกเสียงสั่งทันที

“ขอกูด้วย” อะไร เป็นอะไรของมันอีกอ่ะ

“เออๆๆๆ” เอาใจมันหน่อยครับ วันนี้มันเป็นคนขับรถ รถก็รถมันด้วย เดี๋ยวเกิดมันไล่ผมลงจากรถกลางทางนี่แย่เลย

“หึ ไอ้เอื้อไอ้เด็กขี้อิจฉา”

“เรื่องของกูเว้ย”

======================================================
============================================
ฮัลโหลลลลค่ะทุกคนนนน
ตอนนี้ก็เรื่อยๆ เนอะะ ไม่มีไรมากก แค่เขากำลังเริ่มๆ จะจีบกันหรือเปล่า  :z2:
ขอบคุณที่ตรวจคำผิดให้นะคะ เดี๋ยวจะตามไปแก้ค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
ร๊ากกกกก ทุกคนนะคะ :)

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
แสดงว่า พี่เอื้อน่าจะชอบน้องปูนมานานแล้วนะ
ที่คบกับมิ้มนี่เพื่อกันท่าปูนใช่ไหม

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ขี้อิจฉานะพี่เอื้อ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
น้องปูน น่ารักมาก

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ยังไงครับพี่เอื้อ บอกน้องปูนไปได้แล้ว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เอะ ยังไงๆอยู่นะเอื้อ

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ปูนน่ารัก คือ พี่เอื้อนี่ดูท่าจะชอบน้องปูนมานานแล้วสินะ

ส่วนลุง ไปเห็นฉากมะวานเข้าหรือเปล่า เลยให้ไปนอนกะลุง

แล้วเขาจะจีบกันยังไง มิ้ม นี่จะไม่ตามมาตบหรอ ถ้าพี่เอื้อ มาคบกับปูน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด