MBK❤lover || ตอนที่ ๔๗ : ความรักชนะทุกสิ่ง || ๑๕ || ๑๗/๑๑/๖๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: MBK❤lover || ตอนที่ ๔๗ : ความรักชนะทุกสิ่ง || ๑๕ || ๑๗/๑๑/๖๐  (อ่าน 137875 ครั้ง)

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
โหหหห ต้นข้าว ทำไงอะทีนี้ จิวรออยู่ที่มาบุญครองรึป่าว ยังไม่เห็นไปโรงเรียนเลย วันนี้ต้นข้าวก็ไม่สนใจจิวด้วย 555

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
 :m26:
ไปเสม็ดเสร็จทั้งวัน

เอ๊ยยยย..เสร็จทุกราย

 :oo1:
ต้นข้าวเอ๊ยยยยย..ได้ข่าวว่า
จิวน้อยไม่น้อยนะ ใหญ่เป้งงงงง เลย

มีคนเคยบอกมา
 :eiei1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เราเริ่มจิ้นตอนไปเที่ยวละ :hao5:
อัลไรรรรคืิเป็นคู่ๆ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
แพลนเที่ยว สองคู่ชู้ชื่น

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
จะโกรธจิว ตอนนี้จิวคงโกรธมากกว่าแล้วน่ะต้นข้าว

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
   โหยยยยยยยย ค้างมากกกกก จิวอย่าใจร้ายยยดิ
= ตอนนี้คงได้รับคำตอบแล้วเนอะ ว่าใครร้ายกว่าใครนะคะ 555+


โอ๊..โย้...โหยว....พออ่านเจอ "มเหสีขี้หึงประหนึ่งเสือ"
นึกว่าเข้าเรื่องจักรๆวงศ์ๆ ซะแล้ว
นั่นง้าย......ว่าแล้ว จิวรักต้นข้าวออก
ก้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำ เอ๊ย....ยังไม่เคย.....กันเลย
จู่จะแอบมามีกิ๊ก มันแปลกๆอยู่นะ
สรุป พลิกล็อก กันน่าดู.... ถล่มทลาย....♩ ♭ ♪ 
พลิกล็อกกันมากมาย แบบเทกระเป๋า.... ♫ ♬ ♪
ต้นข้าวนอนไม่หลับทั้งคืน ต้องเอาคืนจิวละ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
= ต้นข้าวคงคิดว่า ควรจะเขกหัวตัวเองสักหนึ่งโป๊กเนาะ  :ling1:


โหจิวจะเป็นไงบ้างล่ะเนี่ย
= ป่านนี้ไม่รอจนเหงือกแห้งไปแล้วหรือคะ  :hao7:


โหหหห ต้นข้าว ทำไงอะทีนี้ จิวรออยู่ที่มาบุญครองรึป่าว ยังไม่เห็นไปโรงเรียนเลย วันนี้ต้นข้าวก็ไม่สนใจจิวด้วย 555
= เห็นที จิวจะแย่แน่เลย ไม่กล้ากลับบ้านเลยมั้งคะ นั่งอยู่นั่น 555+  :katai1:


:m26:
ไปเสม็ดเสร็จทั้งวัน

เอ๊ยยยย..เสร็จทุกราย

 :oo1:
ต้นข้าวเอ๊ยยยยย..ได้ข่าวว่า
จิวน้อยไม่น้อยนะ ใหญ่เป้งงงงง เลย

มีคนเคยบอกมา
 :eiei1:
= ไม่แน่ ต้นข้าวอาจรอวันนั้นอย่างใจจดใจจ่อก็ได้นะ 555+


เราเริ่มจิ้นตอนไปเที่ยวละ :hao5:
อัลไรรรรคืิเป็นคู่ๆ
= น่าสนุกแน่ๆ เลยค่ะ  :hao6:


แพลนเที่ยว สองคู่ชู้ชื่น
= น่ามีความสุขดีเนอะคะ  :katai2-1:


จะโกรธจิว ตอนนี้จิวคงโกรธมากกว่าแล้วน่ะต้นข้าว
= ต้นข้างคงต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้วเนอะคะ  :hao7:

..........................

 :mew1: และขอบคุณทุกๆ ท่านนะคะ ที่แวะเวียนเข้ามาอ่านจิวและต้นข้าวกันค่ะ


ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๑๔ : ไม่เห็นหน้า เห็นหลังคาก็ยังดี


         ช่วงนาทีต่อจากนั้น ต้นข้าวมีความรู้สึกว่าตัวเองคือต้นแบบของประโยคที่ว่า "มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่คิดไปเอง" จริงๆ

         ต้นข้าวยิ้มแห้งๆ แห่ะๆ ให้เอก

         "ไปสิ ทำไมจะไม่ไปล่ะเกาะเสม็ด"

         แล้วต้นข้าวจู่ๆ ก็หันหลังแล้วเดินอย่างไวออกไป ทิ้งให้เอกมองตาม และยืนงง "มันอยากไปเที่ยวจนเพี้ยนแล้วเหรอนั่น"

         ................

         ต้นข้าวรีบเดินออกมา เพราะไม่อยากให้เอกเห็นว่าตนเองมีขอบตาที่เริ่มจะแดงๆ แล้ว น้ำตาเริ่มจะรื้นออกมา --กูบ้าป่าววะเนี่ย--

         หากแม้ต้นข้าวใจเย็นกว่านั้นอีกสักนิด คิดในทางที่ดีกว่านั้นหน่อย แล้วเดินเข้าไปหาจิวที่โต๊ะตามที่นัดไว้ เรื่องเข้าใจผิดบ้าๆ นี้คงไม่เกิดขึ้น ป่านนี้คงนั่งปรึกษากันอย่างครื้นเครงเรื่องที่จะไปเที่ยวแล้ว

         แล้วนี่จิวไปไหน ทำไมไม่มาโรงเรียน อย่าบอกนะว่ายังนั่งรอต้นข้าวอยู่ที่ศูนย์อาหารมาบุญครองอยู่จนถึงเดี๋ยวนี้ ไม่นั่งรอจนแห้งตายไปแล้วหรือ

         --บ้า-- ใครจะทำอย่างนั้น

         เอาไงดีหว่า ชักจะร้อนใจแล้ว ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจิวหรือเปล่า หรืออย่างน้อยๆ เพราะต้นข้าวไม่ไปหาจิวเมื่อวาน จิวจะน้อยใจต้นข้าวหรือเปล่า จิวจะคิดว่าต้นข้าวไม่ได้ให้ความสำคัญกับจิวไหม ป่านนี้จะขังตัวอยู่ในห้องไหม ถึงไม่ยอมมาเรียน จะประท้วงอดข้าวอดน้ำไหม จะคิดสั้นผูกคอตายหรือเปล่า

         ---ไอ้บ้า เวรเอ้ย...ใครจะไปทำ---

         ต้นข้าวคิดไปอีกร้อยแปดอย่าง ทั้งเป็นห่วง ทั้งกังวล ทั้งคิดถึง อยากเจอ อยากไปบอกความจริง

         ต้นข้าวเข้าใจอยู่เต็มอก ว่าถ้าต้นข้าวไปเจอจิวเมื่อเย็นวานและกลับบ้านพร้อมกัน จิวก็ต้องบอกต้นข้าวล่ะว่าวันนี้จะหยุดเรียนอย่างนั้นอย่างนี้นะ เพราะต้นข้าวคิดว่าจิวไม่มีความลับกับต้นข้าว

         เดินเพ้อเหม่อลอยมาถึงมุมตึกใกล้ห้องน้ำ ราชา เพื่อนอีกคนก็โผล่มาพอดี ทำหน้าเหมือนปวดท้องเบาหรือหนักไม่รู้ ต้นข้าวนึกอะไรออกก็เลยดึงมือราชาไว้

         "ไอ้แขก ถามอะไรหน่อยสิ"

         "อะไรมึง แป็บนึงได้ไหม กูปวดท้องขี้" ราชาเอามือกุมตูด

         "แป็บเดียวน่า" ต้นข้าวยังดึงมือรั้งไว้ "บ้านมึงกับบ้านจิวน่ะ อยู่ใกล้กันใช่ไหม"

         "ใช่" ราชากระโดดตัวขึ้นๆ ลงๆ เบาๆ หน้าเบ้

         "แล้วมึงเคยไปบ้านจิวไหม รู้ไหมว่าอยู่ตรงไหน" ต้นข้าวมองตามการกระโดดของราชา ที่กำลังโดดเหยงๆ

         "ไม่เคยไป" ราชาตอบ พร้อมเอามือลูบขนลุกที่แขน "แต่กูก็พอรู้คร่าวๆ เพราะมันเคยบอกกู"

         "ถ้างั้น เอ่อ..." ต้นข้าวทำท่าคิด

         "มึงอย่าพึ่งคิด คิดเหี้ยไร ให้กูขี้ก่อนไหม" ราชางอตัวลง เอามือกุมท้อง ขนยังไม่หายลุก

         "เอางี้นะ เย็นนี้มึงพากูไปแถวบ้านจิวหน่อยนะ กูจะไปหามันที่บ้านน่ะ มีธุระ" ต้นข้าวจับแขนราชาแน่น

         "เออ เออ เออ เอาไงก็เอา ปล่อยกู๊ ก่อนนน..."

         ต้นข้าวเอามือตบหลังราชา "ไปเหอะมึง ขอบใจนะ เย็นนี้เจอกัน"

         "สัส" ราชาพูดลอยมาตามลม ส่วนเจ้าตัวน่ะเผ่นแน่บไปแล้ว


--------------------------------


         เย็นวันนั้น เด็กชายวัยรุ่นสองคน สองเชื้อชาติ ก็มาเดินอยู่ริมถนนสี่แยกบ้านแขก ทั้งสองมาเริ่มต้นที่หน้าร้านสเต็กสอาด ตรงใกล้สี่แยก

         "เอาไงมึง" ราชามองไปมองมา

         "จุดนี้หรือ ที่เวลามึงลงรถแยกกับจิวป้ายสุดท้ายน่ะ" ต้นข้าวแหงนมองป้ายรถเมล์ที่จะล้มมิล้มแหล่

         "ใช่ มันลงตรงนี้แหล่ะ มันเคยชี้ให้ดูว่าบ้านมันอยู่ในซอยฝั่งโน้น" ราชาชี้ไปซอยฝั่งตรงข้าม

         "ไปสิ ข้ามถนนเลยมึง" ต้นข้าวลากราชาตามมาอย่างไว

         "นี่ ไอ้ต้นข้าว มึงทำไมไม่หาตู้หยอดเหรียญ แล้วโทรถามมันที่บ้านวะ มาลำบากลำบนเดินหาทำไม"

         "กูโทรแล้ว ก่อนออกจากโรงเรียนมาเนี่ย บ้านมันไม่มีคนรับสาย"

         "วุ่นวายจริงคู่นี้เนี่ย" ราชาบ่นเบาๆ "เอ้า ซอยนี้แหล่ะ"

         ซอยที่ต้นข้าวและราชามายืนอยู่นี่ เป็นซอยเล็กๆ แยกจากถนนหลักเข้ามา มีต้นไม้ครึ้มตลอดซอย ข้างในค่อนข้างจะเป็นที่โล่งๆ เหมือนเป็นที่ตั้งของโกดังเก่าๆ มากกว่าเป็นซอยบ้านเรือนสำหรับอยู่อาศัย

         "กูว่ามึงถามเค้าดีกว่ามะ" ราชาเริ่มไม่แน่ใจ

         "ถามว่าอะไรอ่ะ" ต้นข้าวบทจะมึนขึ้นมา ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

         "ถามชื่อพ่อง มันไง สัส นี่บ้านพ่อมัน หรือจะถามชื่อพ่อมึง" ราชาเริ่มจะหงุดหงิด

         "แห่ะๆๆ" ต้นข้าวเกาหัวแกรกๆ สายตามองหาชาวบ้านที่จะถาม

         "ป้าครับป้า บ้านของเฮียจิว อยู่ในซอยนี้ไหมครับ" ต้นข้าวถามป้าคนหนึ่งแถวนั้น พร้อมยกมือขึ้นไหว้

         "อ่อ เฮียจิวขี้เมาน่ะเหรอ นั่นไง เลี้ยวขวาข้างหน้า ที่เป็นตึกสีซีดๆ มีผ้าใบสีฟ้าอยู่บนหลังคาน่ะ แต่เฮียไม่อยู่นะ เห็นเดินผ่านบ้านป้า ออกไปไหนไม่รู้จ้ะ" ป้าใจดีชี้มือให้

         "ขอบคุณครับป้า" ต้นข้าวยกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้ง

         "ไอ้ต้นข้าว มึงถามชื่อพ่อมัน แล้วทำไมมึงเรียกชื่อไอ้จิววะ แถมเรียกฮงเรียกเฮีย ตกลงใครเป็นพ่อใคร" ราชาทำหน้างงๆ สะกิดถาม

         "โห ไอ้แขกนี่ มึงเป็นแขกตี้-ขี้แตก มึงจะรู้อะไร สมนึกมันแซ่จิว พ่อมันก็แซ่จิว ใครๆ เค้าก็เรียกชื่อเล่นด้วยแซ่ทั้งนั้นแหล่ะมึง ปู่มัน ยันถึงรุ่นหลานมัน ก็คงถูกเรียกชื่อว่าจิวหมดแหล่ะ" ต้นข้าวอธิบาย แต่ตามองหาผ้าใบสีฟ้า

         "อ้อเหรอ" ราชาทำหน้าครุ่นคิดไปทางต้นข้าว

         "มึงนี่คิดถึงไอ้จิวมันมากขนาดนี้เลยหรือวะ วันจันทร์ก็ได้เจอกันแล้ว ต้องถ่อมาถึงบ้านมัน"

         "อืม กูคิดถึงมัน..."

         ราชามองหน้าต้นข้าวนิ่งๆ เห็นหน้าหล่อๆ ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อพราว แต่มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยม ก็อดที่จะเห็นใจไม่ได้ และนึกในใจว่า

         ---นี่ล่ะนะ เข้าตำรา เพราะความคิดถึงจึงมาหา ไม่เห็นหน้า เห็นหลังคาบ้านคนรักก็ยังดี---

         "ไอ้ราชา" จู่ๆ ต้นข้าวก็หันมาเรียก "มึงรีบกลับบ้านหรือเปล่า มึงกลับไปก่อนเลยก็ได้นะ"

         --อ้าวไอ่สัส!!-- ราชานึกในใจ

         "เออ เออ กูกลับก่อนนะเว้ย มึงก็หาดีๆ ล่ะ เอาใจช่วยเว้ยมึง" แล้วราชาก็นึกต่อ --สัส เจอบ้านแล้วทิ้งกูเลยเนาะ--


--------------------------------


         ตอนนี้ต้นข้าวมายืนอยู่หน้าบ้าน หรือโรงงานย่อมๆ แล้ว มันเป็นตึกเล็กๆ สองชั้น ก่อด้วยอิฐบล็อคที่ไม่ได้ฉาบและทาสี ข้างบนดาดฟ้าชั้นสองมีผ้าใบคลุมอะไรสักอย่างบนนั้น มองเห็นแต่ไกล

         หน้าตึกมีประตูไม้บานเฟี้ยม คล้องกุญแจดอกโตเอาไว้ ต้นข้าวส่องไปตามร่องประตู ไม่เห็นอะไรในนั้น นอกจากความมืด

         --ไม่มีคนอยู่จริงๆ ด้วย--

         ต้นข้าวเดินถอยออกมา ก็ชนกับใครคนหนึ่งพอดี หันกลับไปมอง พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ

         ตอนยกมือไหว้แล้วมองหน้า ต้นข้าวก็เห็นพ่อของจิวล่ะ แน่ใจว่าใช่ เพราะหน้าตาประพิมประพายคล้ายกันมาก พ่อของจิวมีแววว่าหน้าตาคงจะดีมากในสมัยหนุ่มๆ เหมือนจิวตอนนี้ เสียแต่ดูโรยๆ และดูกรึ่มๆ เมาๆ ตลอดเวลา หากแต่ดูจิตใจดี

         "มาหาใครหนู"

         "สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนกับจิว...เอ่อ...สมนึกครับ มาหาสมนึกครับ เห็นไม่ไปโรงเรียน" ต้นข้าวเริ่มสับสนเองล่ะ ว่าจะเรียกชื่อจิวกับคนไหนดี

         เฮียจิวหัวเราะอารมณ์ดีนำมาก่อน "อ้าวเหรอ ดีๆ นี่สนิทกันเหรอ ดีนะ ไอ้นึกมีเพื่อนหน้าตาดีอย่างนี้ด้วย"

         ต้นข้าวชำเลืองมองหน้าพ่อของจิว แล้วนึกในใจ --คุณพ่อกับคุณลูกชายก็มีดีไม่ต่างกันเลยนะ--

         "ครับผม แล้วจิว...เอ้ยสมนึกไม่อยู่เหรอครับ"

         "ไม่อยู่หร๊อก ไอ้นึกมันคงไม่ทันบอกใครล่ะนะ ว่าวันนี้มันหยุดเรียน มันต้องขนรองเท้าฟองน้ำไปส่งเอเย่นต์ที่ อ.แก่งคอย สระบุรี ให้พ่อน่ะ เค้าสั่งด่วนมาแต่เช้ามืดตีห้าเลย"

         ---แก่งคอย!!--- ไปถึงนั่น! "อ่อ แล้วจะกลับเมื่อไหร่ครับ" ต้นข้าว งงกับที่ๆ จิวไป

         "พรึ่งนี้ มันจะกลับมาพรึ่งนี้ นั่งรถไฟมาลงที่หัวลำโพงเที่ยวเช้าน่ะ เห็นว่าน่าจะถึงสักเก้าโมงนะ"

         "ครับ ขอบคุณนะครับพ่อ เดี๋ยวผมอาจไปรอเจอจิวที่สถานีพรุ่งนี้เช้าก็ได้ฮะ ผมลาล่ะครับ ไว้ผมจะมาใหม่" ต้นข้าวยกมือไหว้

         .................

         พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ ที่หัวลำโพง ต้นข้าวอยากไปรอรับจิว ต้นข้าวอยากให้จิวเห็นต้นข้าวเป็นคนแรกในทันทีที่ถึงกรุงเทพฯ พรุ่งนี้เช้าต้นข้าวจะไปรับจิวแน่ๆ

         ก่อนออกจากซอย ต้นข้าวมองกลับไปที่บ้านจิว มองแล้วอมยิ้มอยู่คนเดียว และมองเลยขึ้นไปถึงหลังคาดาดฟ้าที่มีผ้าใบคลุม ---ด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ


--------------------------------


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 02:28:11 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ไม่ค่อยจะชอบอะไรที่เป็นเซอร์ไพซ์เลย
เพราะส่วนใหญ่คนนั้นมักจะโดนเซอร์ไพซ์กลับทุกที

..โป๊ะแตก..อ่ะ
เจอซะบ่อยๆ

ลุ้นอย่าให้ต้นข้าวต้องเจออะไรแบบนั้นเลยนะ
..มันไม่ไหวจริงๆ..

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
จำตอนที่ไม่มีมือถือ หรืออินเตอร์เน็ท ได้ว่า ความคิดถึงมันมีมากแค่ไหน
ตอนนี้ ทุกอย่างดูเร็วไปหมด แต่อ่ายไลน์ไม่ตอบก็หงุดหงิดกันจะแย่แล้วเนาะ

คิดถึง ความคิดถึง

 :L2: :L1: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
ไล่อ่านสามบทรวดที่ไม่ได้อ่าน

นายเอกเราคิดไปเองจริง ๆ ส่วนพระเอกเรา ลงรถไฟมา คงโดนนายเอกจัดหนักให้หายคิดถึง

ติดตามต่อไปครับ^^

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 เหมือนได้ย้อนไปในความทรงจำจริงๆค่ะ :katai5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไรท์ สวดยอดดดดด
บรรยายราชาอั้นขี้ได้เหมือนเปี๊ยบเลย
มีตบตูด กระโดดเหย็งๆ ด้วย
นี่ถ้าต้นข้าวฉุดไว้ถามอีกหน่อย
ราชาคงขี้แตกตรงนั้น  :ling1: :ling1: :ling1:
ต้นข้าว ไม่เห็นหน้า เห็นหลังคาบ้านจิวก็ยังดี
กลับมาสบายใจ นอนหลับได้แล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
ไม่ค่อยจะชอบอะไรที่เป็นเซอร์ไพซ์เลย
เพราะส่วนใหญ่คนนั้นมักจะโดนเซอร์ไพซ์กลับทุกที

..โป๊ะแตก..อ่ะ
เจอซะบ่อยๆ

ลุ้นอย่าให้ต้นข้าวต้องเจออะไรแบบนั้นเลยนะ
..มันไม่ไหวจริงๆ..

= ความจริงก็คือความจริง เราต้องยอมรับมัน เอาใจช่วยต้นข้าวด้วยนะคะ ภาวนาอย่าให้เจอในสิ่งนั้น


:mew1: :mew1: :mew1:

 :mew2: :mew2: :mew2:


จำตอนที่ไม่มีมือถือ หรืออินเตอร์เน็ท ได้ว่า ความคิดถึงมันมีมากแค่ไหน
ตอนนี้ ทุกอย่างดูเร็วไปหมด แต่อ่ายไลน์ไม่ตอบก็หงุดหงิดกันจะแย่แล้วเนาะ

คิดถึง ความคิดถึง

 :L2: :L1: :pig4:

= ใช่ค่ะ เดี๋ยวนี้โลกกว้างก็เหมือนแคบนิดเดียว ซึ่งความคิดถึง มันก็คู่กับการไกลห่างซะด้วยซิคะ //คิดถึง ความคิดถึงเช่นกันค่ะ


ไล่อ่านสามบทรวดที่ไม่ได้อ่าน

นายเอกเราคิดไปเองจริง ๆ ส่วนพระเอกเรา ลงรถไฟมา คงโดนนายเอกจัดหนักให้หายคิดถึง

ติดตามต่อไปครับ^^

= ถึงว่า ว่าหายไปไหน ไม่ได้มาอ่าน 555+  //ลุ้นให้จัดหนักเลยค่ะ


เหมือนได้ย้อนไปในความทรงจำจริงๆค่ะ :katai5:

= ขอบคุณมากๆ นะคะ


ไรท์ สวดยอดดดดด
บรรยายราชาอั้นขี้ได้เหมือนเปี๊ยบเลย
มีตบตูด กระโดดเหย็งๆ ด้วย
นี่ถ้าต้นข้าวฉุดไว้ถามอีกหน่อย
ราชาคงขี้แตกตรงนั้น  :ling1: :ling1: :ling1:
ต้นข้าว ไม่เห็นหน้า เห็นหลังคาบ้านจิวก็ยังดี
กลับมาสบายใจ นอนหลับได้แล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

= สงสัยตอนเขียนเรื่อง คงจะอั้นอยู่เหมือนกันมั้งคะ เลยเขียนได้เนียนๆ 555+ //ขอบคุณนะคะ


---------------------

และขอบคุณท่านอื่นๆ ทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ   :mew1:


ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๑๕ : รถไฟผีสิง!!!


สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)
วันเสาร์ ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๙


         เช้าวันนี้ ๐๘.๓๐ น. มีคนผู้คนหนาแน่นเต็มหัวลำโพง เพราะเป็นวันหยุดที่มีทั้งคนจะออกนอกกรุงเทพฯ และคนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาในตอนเช้า

         ต้นข้าวนั่งรถเมล์สาย ๗ มาลงสุดสายที่หัวลำโพง วันนี้ต้นข้าวตั้งใจแต่งตัวดีเป็นพิเศษ หน้าตาดูมีความสุข หล่อและสดใส

         ต้นข้าวคิดว่าเรื่องเมื่อสองวันก่อนจริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรสักหน่อย จิวเองยังไม่รู้เรื่องที่ต้นข้าวไปแอบดูจิวที่มาบุญครองด้วยซ้ำ ต้นข้าวคิดเองเออเองไปคนเดียว แต่เพราะต้นข้าวรู้สึกผิดในใจ จึงอยากมารอรับจิวกลับบ้านเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดนั้น

         ต้นข้าวเดินเข้าไปในสถานีหัวลำโพง ยืนงงหันรีหันขวางอยู่กลางอาคารพักผู้โดยสารสักครู่ หันไปทางไหนก็มีแต่คนเต็มไปหมด แล้วจะเจอจิวยังไงล่ะ ซึ่งมีวิธีเดียวที่จะไม่หลงกัน คือต้องเข้าไปรับที่ชานชาลารถไฟเลย

         ต้นข้าวเดินไปที่ช่องขายตั๋ว

         "พี่ครับ รถไฟจากแก่งคอย สระบุรี จะเข้ามาถึงตอนไหนครับ"

         พนักงานก้มดูตารางเดินรถ "๙ โมงครึ่ง น้อง ที่ชานชาลา ๔"

         "ขอบคุณครับ ผมเดินไปรับคนที่ชานชาลาได้เลยใช่ไหมครับ"

         "ไม่ได้น้อง เข้าข้างในชานชาลาต้องซื้อตั๋วเดินทางก่อน ซื้อตั๋วถูกสุดก็ได้ อ้าวนี่..." พนักงานยื่นตั๋วมาให้ "สองบาท ตั๋วถูกสุดไปสถานียมราช ใช้แทนบัตรผ่านเข้าข้างในชานชาลาได้"

         ต้นข้าวรับตั๋วมา และมองหาทางเข้าชานชาลาหมายเลข ๔ ซึ่งอยู่ข้างในสุดฝั่งซ้ายมือ หลังห้องประชาสัมพันธ์ ซึ่งตรงทางเข้าด้านนี้ คนไม่ค่อยจอแจเท่าไหร่ เพราะเป็นชานชาลาขาเข้า และตอนนี้รถไฟก็ยังไม่มาถึง

         ต้นข้าวเห็นว่ายังมีเวลาอีกนาน และไม่มีเก้าอี้ให้นั่งรอที่ข้างในชานชาลาขาเข้า รวมทั้งทางเข้าก็อยู่ใกล้ๆ ตรงนี้เอง จึงเดินเลยประตูชานชาลาไปอีกนิด ข้างๆ ห้องประชาสัมพันธ์ มีแผงหนังสืออยู่ ต้นข้าวเดินไปยืนเลือกการ์ตูนที่แผงนั้น

         เก๊งๆๆๆๆ --เสียงระฆังในสถานีตีเป็นระยะๆ สลับกับเสียงประกาศออกลำโพงขยายเสียงซึ่งแตกพร่า และติดๆ ดับๆ

         "ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ท่านผู้...แคร่กๆๆ ซาบ แคร่กๆๆ โปรดมารอที่ชานชาาาาาาา แคร่กๆๆ ได้เลยค่ะ แคร่กๆๆๆ"

         ต้นข้าวเงยหน้าขึ้นไปมองลำโพง แล้วยิ้มขำ --เออเนาะ จะเปลี่ยนให้มันดีหน่อยก็ไม่ได้--


--------------------------------


โรงเก็บหัวรถจักร สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ
ห่างจากหัวลำโพง ออกไป ๔ สถานี

วันเดียวกัน ๐๘.๓๘ น.


         วันนี้นายตรวจกล มีงานยุ่ง เพราะเช้านี้มีหัวรถจักรรอซ่อมถึง ๖ คัน และตอนนี้มันจอดพ่วงเรียงต่อกันบนรางในโรงซ่อมแล้ว

         เขาตรวจระบบหัวรถจักรมาจนถึงคันที่ ๓ ตรงกลาง นายตรวจกลได้ติดเครื่อง ลองเร่งเครื่องรถเปล่าๆ ไปที่ความเร็วสูงสุดเบอร์ ๕ และระหว่างที่รอระบบลมที่กำลังอัดให้เต็มพิกัดอยู่นั้น ก็มีนายช่างอีกคน มาเรียกให้เขาลงไปดูเอกสารด่วน นายตรวจกลจึงลงจากรถคันที่ ๓ ไป

         นายตรวจกลคล้อยหลังไม่กี่ก้าว ก็เกิดเหตุการณ์พิสดารขึ้น คือหัวรถจักรที่พ่วงต่อกันทั้ง ๖ คัน กำลังเริ่มเคลื่อนที่ออกจากรางซ่อมช้าๆ โดยไม่มีคนขับ!!

         "เฮ้ยยย รถไฟวิ่ง!!!!"

         บางเรื่องในโลกนี้ก็ช้าเกินไป บางเรื่องก็เร็วเกินไป

         หัวจักรรถไฟทั้ง ๖ คัน ค่อยๆ วิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากรางซ่อม และตอนนี้มันเริ่มเข้าสู่รางหลักแล้ว มุ่งหน้าหันหัวไปในทิศปลายทางคือหัวลำโพง โดยที่ไม่มีอะไรมาหยุดมันได้ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของคนทั้งสถานีซ่อมบำรุง

         หัวรถจักร ๖ คัน ที่ไม่มีคนขับ ตอนนี้มันพุ่งทะยานด้วยความเร็วสูงสุดของมันแล้ว ออกจากสถานีบางซื่อ ผ่านแยกประดิพัทธ์โดยไม่มีไม้กั้นถนน ไม่มีเสียงเตือน ไม่มีหวูดรถไฟ มีแต่เสียงล้อเหล็กประทะราง และเสียงลมผ่านอื้ออึงดังพายุ เหมือนรถไฟผีสิง

         มันชน โครม!! กับรถแท็กซี่คันหนึ่งพังยับ และเฉี่ยวเข้ากับรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งที่กำลังขับข้ามทางรถไฟ จนลอยกระเด็นไปไกล ผู้คนบนท้องถนนและนายสถานี ต่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้า

         นายสถานีตั้งสติได้ จึงรีบติดต่อไปยังสถานีจุดตัดระหว่างถนนกับรางรถไฟถัดไป คือ ราชวิถี - สะพานเสาวนีย์ - ยมราช และหัวลำโพง ให้เตรียมรับมือกับเหตุการณ์แปลกประหลาดเหลือเชื่อนี้

         โดยอีกสามสถานีถัดไป สามารถปิดไม้กั้นถนนทัน และทางหัวลำโพง ก็เตรียมรับมือโดยการสับรางรอรับหัวรถจักร ๖ คันนี้ ให้เข้ามาในชานชาลาที่มีคนน้อยที่สุด และมีราวเหล็กกันปะทะแข็งแรงที่สุดตรงปลายราง หวังจะให้มันเป็นตัวปะทะให้รถหยุดจากการแล่นด้วยความเร็วสูงสุด และกำลังจะถึงหัวลำโพงในอีก ๒ นาทีข้างหน้านี้

         ชานชาลาที่ว่านี้ คือชานชาลาหมายเลข !!


--------------------------------


สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)


         ๐๘.๕๐ น. ต้นข้าวเงยหน้าขึ้นจากการ์ตูนในมือ รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวแปลกๆ รอบตัว มีเสียงนกหวีดดังมากผิดปกติ เริ่มมีเจ้าหน้าที่มาโบกมือไล่คนออกไป

         ต้นข้าววางหนังสือการ์ตูนกลับลงแผง เสียงประกาศตามสายที่แตกพร่าก็ดังขึ้นอีก คราวนี้มันผสมกับเสียงนกหวีดที่เป่าไล่คน รวมทั้งเสียงอื้ออึงรอบตัวด้วย
 
         "ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ ท่านนนนน แคร่กๆๆ กรุณาออ... แคร่กๆๆๆ แคร่กๆๆๆ โดยด่ว..."

         เสียงประกาศดังอยู่สองสามครั้ง จับใจความอะไรไม่ได้ ต้นข้าวเดินออกจากแผงหนังสือ เดินอ้อมผ่านห้องประชาสัมพันธ์เล็กๆ นั่น มองเข้าไปไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ในนั้นแล้ว ต้นข้าวคิดว่าจะเลยเข้าไปดูตรงชานชาลาที่ ๔ สักหน่อย ว่าเกิดอะไรขึ้น

         พอเดินพ้นห้องประชาสัมพันธ์ มีห้องเล็กๆ อีกห้อง เป็นห้องทำการสาขาย่อยของธนาคารกรุงเทพ ประตูห้องเปิดออก และมีเจ้าหน้าที่วิ่งหน้าตื่นออกมาสามสี่คน หนึ่งในนั้น จับมือต้นข้าว แล้วตะโกนบอก

         "น้อง วิ่ง!!!! รถไฟมา"

         ต้นข้าวตัวลอยไปตามแรงดึงของเจ้าหน้าที่นั้น และหันหน้ามองไปทางชานชาลาที่ ๔  ต้นข้าวเห็นแล้วใจหายวาบ หัวรถจักรพ่วงต่อกัน ๖ คัน แต่ไม่มีตู้โบกี้รถไฟสำหรับโดยสาร  กำลังวิ่งพุ่งตรงมาเหมือนจรวดในชานลาชาที่ ๔ โดยไม่มีการชลอความเร็วเหมือนรถไฟที่จะเข้าจอดปกติ

         ตอนนั้นบรรยากาศรอบข้างเริ่มโกลาหลแล้ว เสียงหวีดร้องของผู้โดยสารดังก้องรอบๆ ตัว เสียงวิ่งและเสียงร้องดังกึงกังสะท้อนเพดานโค้งของหัวลำโพงดังก้องน่ากลัว ข้าวของสัมภาระกระเป๋าถูกทิ้งกองบนพื้น คนที่วิ่งบางคนก็สะดุดกองของเหล่านั้น ลงไปกลิ้งกับพื้น คนอื่นๆ ที่วิ่งตาม หลบไม่ทันเหยียบซ้ำก็มี เสียงร้องกรี๊ดๆๆ สลับกับเสียงนกหวีดดังสับสนอลม่าน

         ต้นข้าววิ่งจนหลุดมือจากพนักงานธนาคาร แต่ยังมีสติในการเอาตัวรอด ตอนนี้ต้นข้าววิ่งมาถึงกลางอาคารที่พักผู้โดยสารแล้ว ห่างจากชานชาลาออกไปไกล ต้นข้าวชลอความเร็วในการวิ่ง กำลังจะหันกลับไปมองข้างหลัง

         "โครม!!!! ตูมมมม!!!"

         เสียงปะทะของเหล็กกับเหล็ก เหล็กกับปูน เหล็กกับไม้ ดังกัมปนาทสะท้อนอยู่ใต้โดมของอาคารหัวลำโพง ถ้านี่เป็นภาพยนตร์ที่ต้นข้าวเคยดู มันจะเป็นฉากที่โลกกำลังจะแตก ฟ้ากำลังทลาย แต่นี่ไม่ใช่ มันคือเรื่องจริง และที่จริงยิ่งกว่านั้นคือ...

         หัวรถจักรสองคันแรก มันไม่ได้หยุดด้วยเหล็กแป้นปะทะกั้นปลายราง ด้วยความเร็วสูงสุดของมัน มันวิ่งเลยทะลุออกมานอกราง ทิ่มหัวด้วยความแรงใส่ห้องประชาสัมพันธ์ที่ต้นข้าวไปยืนอ่านการ์ตูนเมื่อสักครู่นี้

         ห้องประชาสัมพันธ์ถล่มยับแยกออกเป็นสองส่วน เสียงเหล็กกระแทกปูนดัง "โครม!!!" สนั่นหวั่นไหว รวมทั้งเสียงกรีดร้องของคนทั้งหัวลำโพงนั้น

         จากนั้นมีเสียง ตูม!!! ตามมาอีกระลอกสอง หัวรถจักรคันที่ ๒ ที่พ่วงมา คว่ำเทไหลหลุดจากหัวรถจักรคันแรก เอียงครูดกับพื้นชานชาลาเสียงดัง พื้นมีประกายไฟแลบตามการไหลของรถ แล้วเลยไปกระแทกกับห้องสาขาย่อยธนาคารกรุงเทพตรงนั้น กระจายยับถล่มลงมาเป็นกองอิฐ พังพินาศ ฝุ่นกระจายตลบ กลิ่นน้ำมันจากหัวรถจักรเหม็นคลุ้ง

         และด้วยแรงดันของหัวรถจักรคันที่ ๓ ที่เป็นคันเดียวที่ติดเครื่องยนต์อยู่ ก็พุ่งดันหัวรถจักรสองคันแรกที่ถล่มสองห้องพังราบไปแล้ว ให้แล่นไหลเข้ามาต่ออีก มันวิ่งเลยช่องขายตั๋ว ไถลเข้ามากลางอาคารที่พักผู้โดยสารใกล้ที่ต้นข้าวยืนอยู่

         ผู้หญิงข้างๆ ต้นข้าวร้องกรี๊ดเสียงดัง ปลุกสติต้นข้าวกลับขึ้นมา ต้นข้าวออกวิ่งต่อ ตามองไปที่ประตูหน้า จะต้องวิ่งฝ่าฝูงคนออกไปนอกตึกให้ได้

         เสียงล้อหัวรถจักรเหล็กครูดกับพื้นหินอ่อนที่ปูทั่วอาคารโดยสารดังสนั่นตามหลังใกล้ต้นข้าวเข้ามาทุกที ไอร้อนของรถแทบจะพ่นใส่ต้นคอ ฝุ่นควันพวยพุ่ง ประกายไฟยังแลบตาม เหมือนพื้นจะแยก ธรณีจะสูบ

         ต้นข้าววิ่งใกล้จะถึงทางออกประตูใหญ่ของหัวลำโพง จู่ๆ ก็มีมือของใครคนหนึ่งผลักด้านหลังต้นข้าวอย่างสุดแรง ตัวต้นข้าวพุ่งถลาไปข้างหน้าเกือบถึงประตู แล้วล้ม หน้าคว่ำลงไปฟาดกับกระสอบใส่ของที่ใครกองทิ้งไว้ กลิ่นคาวเลือดพุ่งขึ้นมา พร้อมๆ กับเสียงครูดพื้นและประกายไฟของหัวรถจักรที่ยังแล่นตามหลังมาติดๆ

         แล้วความรู้สึกของต้นข้าว ก็ดับวูบลง!


--------------------------------


         ภาพเหตุการณ์จริง ของกรณีหัวรถจักรดีเซล ๖ คัน ได้แล่นออกจากโรงซ่อม สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ โดยไม่มีคนขับ เป็นระยะทางประมาณ ๘ กิโลเมตร ด้วยความเร็วสูง ๙๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลา ๑๒ นาที เข้าชนสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) พุ่งทะลุเลยรางจนเกือบถึงประตูหน้าอาคาร ในเช้าวันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๙ เวลา ๐๘.๕๐ น.

         ก่อนเกิดเหตุ ทางสถานีได้ออกประกาศเตือนผู้โดยสารแล้ว แต่เนื่องจากความบกพร่องของระบบกระจายเสียง ทำให้เกิดเสียงก้องกังวาน และผู้โดยสารจำนวนมากไม่ทราบการแจ้งเตือนล่วงหน้า

         มีผู้เสียชีวิตทันทีในเหตุการณ์นี้ ๔ คน บาดเจ็บสาหัสอีกจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายประมาณ ๒ ล้านบาท เป็นข่าวใหญ่ และแปลกประหลาดพิสดารที่สุด ที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในรอบ ๑๐๐ ปี

         และสื่อสิ่งพิมพ์ พาดหัวเหตุการณ์นี้ว่า "รถไฟผีสิง"







« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 02:28:38 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ต้นข้าววววว :z3:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
หลอนไปอีก   :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แล้วต้นข้าวก็เจอเซอร์ไพซ์เข้ากับตัวเอง จริงๆ
แต่เหนือความคาดหมายไปมาก

จิว..ยังไม่รู้ว่าต้นข้าวประสบเหตุการณ์ร้ายแรงนี้
จะเป็นยังไงต่อไป

ต้นข้าว..ขอให้ปลอดภัยนะ
ภาวนารัวๆๆๆๆๆๆ
 :amen:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
น้องต้นข้าวต้องปลอดภัยค่ะ :hao5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอย......คิดว่าจะเกิดเรื่องกับจิว  :katai1: :katai1: :katai1:
แต่ไปเกิดกับต้นข้าวซะนี่
ต้นข้าวจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
ต้นข้าววววว :z3:
= เอาใจช่วยต้นข้าวด้วยนะคะ  :m5:


หลอนไปอีก   :hao7: :hao7:
= ช่วยกันลุ้นให้ต้นข้าวด้วยนะคะ  :m5:


แล้วต้นข้าวก็เจอเซอร์ไพซ์เข้ากับตัวเอง จริงๆ
แต่เหนือความคาดหมายไปมาก

จิว..ยังไม่รู้ว่าต้นข้าวประสบเหตุการณ์ร้ายแรงนี้
จะเป็นยังไงต่อไป

ต้นข้าว..ขอให้ปลอดภัยนะ
ภาวนารัวๆๆๆๆๆๆ
 :amen:
= เดาแม่นมากๆ ค่ะ ช่วยภาวนานะคะ ลุ้นๆๆ จิวจะเป็นยังไงหนอ  :m29:


น้องต้นข้าวต้องปลอดภัยค่ะ :hao5:
= ขอให้เป็นอย่างนั้นนะคะ  :m5:


โอย......คิดว่าจะเกิดเรื่องกับจิว  :katai1: :katai1: :katai1:
แต่ไปเกิดกับต้นข้าวซะนี่
ต้นข้าวจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
= เอาใจช่วยด้วยนะคะ แงๆๆ  :m5:


ต้นข้าวจะเป็นอะไรมั้ยอะ  ลุ้นเลย
= ช่วยกันลุ้นนะคะ  :m5:


..................................


มนุษย์ มีกรรมเป็นเครื่องกำหนด มีความปรารถนาเป็นเครื่องนำทาง


"หากวันนี้รักใครบอกไปเถิด
อย่ามัวเพลิดเพลินปล่อยกาลให้ผ่านผัน
คิดอย่างไรบอกเค้าก็แล้วกัน
เผื่อว่าวันพรุ่งนี้ไม่ผ่านมา..."

"If Tomorrow Never Comes"


 :m1: :m1: :m1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2017 05:32:57 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ต้นข้าวจะเป็นอะไรมั้ยอะ  ลุ้นเลย

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๑๖ : ข้าวเหนียวมะม่วงของต้นข้าว


         วันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา จิวไปคุยเรื่องที่จะไปเกาะเสม็ดกับเอกและแจ๊สเสร็จ จิวก็นั่งรออยู่ที่มาบุญครองอีกชั่วโมงกว่า จนค่ำเต็มทีแล้ว จึงคิดว่าต้นข้าวคงจัดบอร์ดนานมาก และกลับบ้านไปแล้ว เพราะปกติไม่เคยผิดนัดกัน ต้นข้าวคงมีเหตุผลหรือมีธุระอะไรสักอย่าง

         จิวกลับถึงบ้าน คิดว่าจะลองโทรศัพท์เข้าบ้านต้นข้าว แต่พอเดินผ่านห้องทำงานของป๊าจิว เห็นป๊าใช้โทรศัพท์สั่งงานล้งเล้งเสียงดังไปหมด ดูท่าทางจะยาว ก็เลยตั้งใจว่าพรุ่งนี้วันศุกร์ไปโรงเรียน เดี๋ยวก็เจอกัน จะได้เอาโปสเตอร์อัลบั้มเบิร์ด ธงไชย ไปให้ต้นข้าวดู ต้นข้าวคงจะชอบ และอยากไปเกาะเสม็ดด้วยกัน

         หลังจากจิวนอนหลับสนิท ก็ถูกป๊าปลุกขึ้นมาตอนตีสี่ครึ่ง ให้ไปกับคนงานที่บ้าน เอารองเท้าแตะฟองน้ำไปส่งเอเย่นต์ใหญ่ที่แก่งคอย สระบุรี เพราะต้องเก็บเงินก้อนใหญ่กลับมาด้วย ป๊าไม่ค่อยไว้ใจคนงาน จิวจึงต้องหยุดเรียนฉุกเฉินเพื่อเดินทางไปสระบุรี และค้าง ๑ คืน


--------------------------------


อ.แก่งคอย  จ.สระบุรี
วันเสาร์ที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๙


         ตีห้าครึ่ง ฟ้ายังมืด จิวตื่นแล้ว เสร็จธุระเรื่องเอารองเท้าแตะฟองน้ำมาส่งที่แก่งคอยแล้ว และกำลังเตรียมตัวเดินทางไปขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯ

         เช้าวันกลับวันนี้ จิวตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกแปลกๆ ในใจ บอกไม่ถูกว่าเป็นเพราะอะไร มันหน่วงๆ หนักๆ หรือจิวจะคิดฟุ้งซ่านไปเองก็ไม่รู้

         จิวจะขึ้นรถไฟกลับเที่ยว ๗ โมงเช้า จากสถานีรถไฟชุมทางแก่งคอย และคงถึงหัวลำโพงสักเก้าโมงกว่า แต่ตอนนี้จิวยังมีเวลาเหลือ คิดว่าไปเดินซื้อของฝากให้ทางบ้าน และซื้อของฝากให้ต้นข้าวด้วย

         ตลอดหนึ่งวันกับหนึ่งคืน ไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่จิวไม่คิดถึงต้นข้าว

         จิวฝากสัมภาระไว้กับคนงานที่ไปด้วยที่สถานีรถไฟ แล้วจิวก็ออกไปเดินหาซื้อของแถวตลาดเทศบาลเมืองแก่งคอย เพราะเป็นตลาดเช้า เห็นคนงานบอกว่ามีข้าวเหนียวมะม่วงร้านเก่าแก่เจ้าอร่อยที่นี่ จิวอยากซื้อไปฝากต้นข้าว กะว่าพอถึงกรุงเทพฯ เอาของไปเก็บบ้านแล้ว จะออกไปหาต้นข้าวที่บ้านเลยทันที จะเอาข้าวเหนียวมะม่วงไปให้แต่เช้า จะได้กินอร่อย ไม่ค้างไว้นาน

         ซื้อข้าวเหนียวมะม่วงเสร็จ เดินลึกเข้าไปในตลาด มีของฝากจากอำเภอแก่งคอยขายอยู่หลายร้าน

         อำเภอแก่งคอย ติดกับแม่น้ำป่าสัก จึงมีของฝากพวกปลาแห้ง ปลาย่าง ปลาช่อนแดดเดียว อาหารที่ทำจากปลา จิวซื้อมาอีกสองชะลอมใหญ่ๆ และที่จะลืมไม่ได้ คือซื้อลูกชิ้นปลา ที่ใครคนหนึ่งชอบกินนักหนา เดี๋ยวกลับไปบ้านจะเอาลงชุบแป้งแล้วทอดให้ แค่นึกหน้าคนรับของฝาก จิวก็มีความสุขมากๆ แล้ว

         บางเรื่องแม้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าสำหรับคนที่เรารู้สึกพิเศษสุดด้วย จะไม่มีคำว่าเล็กน้อยระหว่างกันสักนิด

         จิวเดินหิ้วชะลอมสองใบ จะกลับมาสถานีรถไฟ เดินผ่านวัดแก่งคอย เห็นพระรูปหนึ่ง ครองจีวรสีเหลืองเข้มเกือบจะเป็นสีน้ำตาล เหมือนพระธุดงค์ตามป่า ดูแปลกตา ยืนนิ่งๆ อยู่หน้าวัด เหมือนรอคอยอะไรสักอย่าง

         ปกติทางบ้านจิวเป็นคนเชื้อสายจีน และตัวจิวเองก็ยังเป็นวัยรุ่น ยังเป็นวัยที่ห่างไกลวัด เรื่องเข้าวัดใส่บาตรไม่ต้องพูดถึง แทบไม่เคยทำด้วยซ้ำ

         แต่วันนี้ จะด้วยแรงสังหรณ์ใดๆ หรือจะเป็นความรู้สึกหน่วงๆ ในใจตั้งแต่จิวตื่นขึ้นมาแล้ว และหาสาเหตุไม่ได้ ทำให้จิวมีความรู้สึกอยากใส่บาตรขึ้นมาเป็นครั้งแรกในชีวิต

         จิวก็ไม่รู้ขั้นตอนของการใส่บาตรหรอก ว่าต้องทำอย่างไร แถมพระที่ยืนอยู่องค์นี้ ก็ยืนนิ่งๆ เฉยๆ ไม่ได้อุ้มบาตรไว้ด้วย แต่จิวอยากทำ และตอนนี้จิวก็นึกว่าควรจะต้องมีอาหารสำหรับใส่บาตรก่อน

         จิวก้มลงไปมองของที่ซื้อมาในชะลอม มันมีแต่ของแห้ง ปลาแห้ง ลูกชิ้นที่ยังไม่ทอด ซึ่งคงใส่บาตรไม่ได้ ยกเว้นแต่ถุงของกินถุงหนึ่งที่จิวตั้งใจซื้อมาเป็นพิเศษ จะเอาไปฝากต้นข้าวโดยเฉพาะ

         มันเป็นข้าวเหนียวมะม่วงของต้นข้าว

         จะด้วยบุญและกรรมใดๆ ที่เคยทำร่วมกันมาแต่หนหลังก็ตาม จิวหยิบถุงข้าวเหนียวมะม่วงนั้นออกมา แล้วเดินเข้าไปหาพระรูปนั้น

         จิวลงนั่งยองๆ แล้วยกมือขึ้นไหว้ "ผมขอใส่บาตรได้ไหมครับ"

         "ได้สิโยม" พระรูปนั้นบอกจิวเสียงเบา และเนื่องจากท่านไม่ได้อุ้มบาตร จึงยกมือขึ้นมารับถุงข้าวเหนียวมะม่วงจากจิวแทน

         ดวงตาทั้งสองสบกันชั่วครู่ ระหว่างเด็กชายวัยรุ่น และพระผู้ทรงศีล ใบหน้าของพระท่านสงบนิ่ง ดูมีราศีแห่งบุญบารมีและเมตตา ท่านมองลึกเข้าไปในดวงตาที่มุ่งมั่นของจิว

         แล้วพระรูปนั้นก็ยกมือขึ้นมาแตะเบาๆ ที่ไหล่ของจิว พร้อมกับให้พรว่า

         "ขออำนาจศักดิ์สิทธิ์แห่งหลวงพ่อลา ผู้มีฤทธิ์ทางด้านคลาดแคล้ว จงบันดาลให้โยม และคนที่โยมรัก มีความปลอดภัยทุกประการ"

         แล้วพระรูปนั้นก็เดินหันหลังกลับเข้าประตูวัด

         จิวยืนนิ่งมองตามพระรูปนั้นไป แล้วหันซ้ายหันขวา --แปลกจัง ลมก็ไม่มี ทำไมมันเย็นๆ ขนลุกตั้งแต่ต้นคอลงไปถึงกลางหลังหว่า--

         ทีแรกจิวคิดว่าจะเดินย้อนกลับไปตลาดอีกครั้ง เพื่อซื้อข้าวเหนียวมะม่วงมาแทนห่อที่ถวายพระไปแล้ว แต่กลัวจะกลับไปขึ้นรถไฟไม่ทัน จึงเดินต่อไปสถานีรถไฟ และขึ้นรถเพื่อกลับกรุงเทพฯ เลย

 
--------------------------------


สถานีรถไฟเชียงรากน้อย  จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลา ๐๙.๑๐ น.


         หลังจากเดินทางมาจากแก่งคอยได้เกือบสองชั่วโมง รถไฟก็มาหยุดจอดที่สถานีเชียงรากน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นานผิดปกติ ไม่แล่นต่อเสียที จนผู้โดยสารหลายคนลงจากรถไฟไปเดินข้างล่างสถานีกันจำนวนมาก จิวเลยเดินลงมาบ้าง

         "น้าครับ" จิวเดินไปสะกิดเจ้าหน้าที่รถไฟคนหนึ่ง "รถไฟเป็นอะไรหรือครับ จอดแช่นานมาก นี่เก้าโมงกว่าแล้ว"

         "วิทยุแจ้งมาว่าเมื่อกี้มีรถไฟชนหัวลำโพงน่ะหนู ยังไม่รู้ว่าจะไปต่อได้หรือเปล่า" เจ้าหน้าที่ตอบมาอย่างเซ็งๆ ปากก็เคี้ยวหมากแหย่บๆ แดงไปทั้งปาก

         "แล้วคือนี่ยังไงอะครับ คือต้องลงจากรถไฟ แล้วต่อรถไปกันเองหรือ" จิวถามแบบ งงๆ

         "ก็งั้นมั้ง จะไปยังไงได้ล่ะหนู ข่าววิทยุบอกชนกันฉิบหายหมดทั้งหัวลำโพงเลย ตอนเก้าโมงเช้านี่เอง มีคนตายตั้งหลายคน รางรถไฟใช้ไม่ได้"

         "หูย รุนแรงขนาดนั้นเลยหรือน้า" จิวเลิกคิ้วขึ้น ทำตาโต

         "นี่มันรถไฟผีชัดๆ แมร่ง ไม่มีคนขับ มันแล่นไปได้ไงวะ" เจ้าหน้าที่ส่ายหัวด๊อกแด๊ก หันไปบ้วนน้ำหมากปรี๊ดลงพื้นชานชาลา แล้วหันหลังเดินไป

         --เอาไงดีวะกู-- จิวมองซ้ายมองขวาหาตู้โทรศัพท์ แล้วเดินไปหยอดเหรียญหมุนเข้าเบอร์บ้านของจิวเอง

         "ฮัลโหล นี่อั๊ว นายห้างสามดาว พูด" เสียงป๊าจิวรับสาย

         "ฮัลโหลๆๆ ป๊า นี่นึกนะ" จิวแอบดีใจ วันนี้ป๊าไม่เมาเหล้าแต่เช้า

         "อ้าว อานึกลื้ออยู่ที่ไหน บนรถไฟหรือเปล่า อั๊วก็ห่วงแทบแย่ รถไฟมันชนกันที่หัวลำโพงน่ะ ข่าวออกวิทยุเมื่อกี้" เสียงป๊าดังโวยวายตามสไตล์นายห้าง

         จิวเอาหูโทรศัพท์ห่างจากหูออกไปหน่อยนึง "อยู่สถานีเชียงรากน้อย อยุธยาป๊า รถไฟวิ่งต่อไม่ได้แล้ว"

         "วิ่งไม่ได้ลื้อก็โบกรถบัสแดงกลับมาแล้วกัน ตังค์อั๊วก็เก็บดีๆ ล่ะ ระวังใครมาล้วง"

         --จะห่วงลูกชายของตัวเองหน่อยไหมเนี่ย ห่วงแต่เงินอะนะ-- จิวคิด แต่ปากก็ตอบไปว่า "อยู่นี่ป๊า เอาหนังยางมัดไว้กับกระเป๋ากางเกงแล้วด้วย ไม่หาย งั้นเท่านี้นะ นึกจะไปโบกรถกลับล่ะ"

         "เดี๋ยว ไอ้นึก เมื่อวานเย็นเพื่อนลื้อมาหาที่บ้านน่ะ"

         "ใครอะป๊า" จิวถาม นึกในใจ ไม่มีเพื่อนคนไหนเคยมาบ้านนี่หว่า

         "ไอ้ที่หล่อๆ อ่ะ สูงๆ บอกชื่อต้นข้าวต้นไม้อะไรเนี่ย"

         จิวยิ้มใส่หูโทรศัพท์กว้างสุดๆ เมื่อพูดชื่อนี้ออกจากปาก "ชื่อต้นข้าว ไม่ใช่ต้นไม้ แล้วเค้ามาทำไมอะป๊า"

         "ก็อีมาหา อีห่วงว่าลื้อไม่ไปโรงเรียน เห็นถามถึงเวลาที่ลื้อจะกลับวันนี้หลายรอบ แต่อั๊วไม่รู้ว่าอีจะถามย้ำไปทำไม จะไปรอรับลื้อก็ไม่น่าใช่นะ รถไฟมันชนกันฉิกหัยหมดแล้ว ใครจะไปได้ยังไงเนี่ย"

         จิวหุบยิ้ม หูโทรศัพท์แทบร่วงจากมือ

         "อะไรนะป๊า ป๊าบอกเค้าไปเหรอ ว่านึกจะกลับถึงหัวลำโพงเวลาไหน" จิวเสียงร้อนรน

         "อื่อ อั๊วบอกอีไป ว่าลื้อจะมาถึงสถานีเก้าโมงเช้าน่ะ แต่อีคงไม่ไปหรอก เชื่อสิ"

         --เชื่อบ้าอะไรล่ะ ต้นข้าวทำจริง ขนาดไม่เคยมาบ้านจิว ยังหาจนเจอ--

         จิวหมดแรงพูดต่อแล้ว ไม่มีสติจะคิดอย่างอื่น มือสั่น ปากสั่น หัวใจเต้นแรง ขาเหมือนจะอ่อนแรงแล้วพับลงไปกองอยู่ตรงนั้น

         สาธุ...ขอให้ต้นข้าวไม่ได้ไปรอรับจิวที่หัวลำโพงจริงๆ เถอะ


--------------------------------


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 02:29:04 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
อ๋อยยยยยยยย ลุ้นอ่าาาา  :ling1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
จะด้วยเวร หรือกรรม ทำชาติไหน
ที่ทำให้ เกิดมาใช้ ใจมั่นหมาย
ถึงแม้เรา เพศเดียวกัน ชายกับชาย
แต่จุดหมาย เหมือนกัน มั่นรักเดียว

ซาบซึ้ง
รักของสองคนนี้บริสุทธิ์จริงๆ

อิจฉานะ
จิว+ต้นข้าว

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
 หุยยยยย สมนึกสวดมนต์ให้ต้นข้าวปลอดภัยนะ อ่านแล้วอินเป็นห่วงต้นข้าวอ่ะ 555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ต้นข้าว คนจริง ทำจริง พูดอย่างไรทำอย่างนั้น
ต้นข้าว จะเป็นอะไรร้ายแรงไหมนะ
สงสารจิว คงเป็นห่วงต้นข้าวจนทำอะไรไม่ถูก
จิว ได้ทำบุญถวายอาหารพระ
พรที่ท่านให้คงคุ้มครองไปถึงต้นข้าว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ bluecoco

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
สองคนนี้จะละมุนไปไหน
รักความเอาใจใส่กันและกันของพวกเขาจังอ่ะ
อ่านตอนรถไฟชนจบปุ๊บวิ่งไปถามแม่ปั๊บ
แม่เล่าใหญ่เลย ได้รำลึกความหลังกันไป555
ขอบคุณนะที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด