MBK❤lover || ตอนที่ ๔๗ : ความรักชนะทุกสิ่ง || ๑๕ || ๑๗/๑๑/๖๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: MBK❤lover || ตอนที่ ๔๗ : ความรักชนะทุกสิ่ง || ๑๕ || ๑๗/๑๑/๖๐  (อ่าน 139446 ครั้ง)

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 03:05:54 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แอปเปิ้ลๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฮ่าฮ่า


ดิเรกพกมาด้วยเหรออออออ
ตุงกางเกงในซะขนาดน้านนนนน

ขอพิสูจน์ได้ม่ะ
อิอิ

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
:mew1: :mew1: :mew1:
:-[ :-[ :-[


ใจสับสน ปนสั่นไหว ไม่รู้เรื่อง
หนุนนำเนื่อง เป็นวูบวูบ ลูบริ้วไหว
ไหลน้อยน้อย ค่อยซึมซาบ อาบลงไป
จังหวะเต้น ของหัวใจ ให้ระรัว

หนุ่มน้อยอ่อนหัด
ไม่เจนจัดในความรัก
อิอิ
= กำลังหัดเรียนรู้เนอะ  :mew1:


โธ่ หนุ่มแว่น
เข้มแข็งเข้าไว้
 :mew1:
= หนุ่มแว่น สู้ๆๆ  :really2:


หนูแว่นยังไม่รู้ตัวว่าชอบจิวหล่ะสิ แต่น้าเดียร์ตอนแรกนึกว่าเป็นผู้หญิงนะเนี่ย
= ใช่ค่ะ ยังต้องเรียนรู้อีกสักนิด  o13


น่าจะมีเรื่องราวอีกเยอะ
ระหว่างแว่นกับจิว
กว่าจะผ่านกันมาได้
คงจะฝ่าฟันอุปสรรคกัน
..ไม่ใช่น้อย..

โดยเฉพาะอุปสรรคที่สำคัญของชาย+ชาย
ครอบครัวและบรรทัดฐานทางสังคม
แล้วเรื่องนี้ยิ่งเกิดขึ้นในสมัยนั้นด้วยแล้ว

โฮะโฮะ..ไม่อยากจะเดา
หนักหนาสาหัสแน่นอน

ขอนั่งลุ้นอ่านเรื่องนี้ตลอดจนจบ
อาจจะเกร็งในบางตอน เพราะสนุกมาก

ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะ
ให้ความมั่นใจได้ว่า..อย่างน้อย
ก็จะมีคนอ่านคนนี้ตามอ่านอยู่ทุกวัน

รอนะ..รอ
จุ๊บๆๆๆๆ
= ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ  :impress3:


เสาเข็มตอก บอกตำแหน่ง แห่งหนอยู่
ใจตอกใจ กำหนดรู้ ว่าอยู่ไหน
อาจต้องใช้ สายตา หากันไป
แต่ไม่รู้ หยุดเมื่อไร วันเวลา

+1 ครับ
= ขอบคุณจริงๆ นะคะ  :mew1:


พอเปิดเทอมน้องแว่นจะหล่อหรือสวยเนี่ยรอลุ้น ๆ ค่ะ
= นั่นสิเนอะ จะเปลี่ยนแปลงยังไงดีน๊า  :mew2:


โอ๊ยยยย อ่านตอนนี้
โดนเข้ากับตัวเองจังเบ้อเริ่อ

แต่เป็นพี่สาว ม.2 อ่ะ
ตอนนั้นนะ

แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
อิอิ
= เมื่อเวลาเปลี่ยนไป คนก็ต้องเปลี่ยนแปลงเนอะ  :mew3:


:hao6: :hao6: :hao6:
= อิอิอิอิอิ  :hao6:


o13 o13 o13
= ขอบคุณมากๆ นะคะ  :mew1:


แอปเปิ้ลๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฮ่าฮ่า


ดิเรกพกมาด้วยเหรออออออ
ตุงกางเกงในซะขนาดน้านนนนน

ขอพิสูจน์ได้ม่ะ
อิอิ

= ชักอยากไปหาซื้อมาใส่สักตัวบ้างแล้ว ฮ่าๆๆๆ

 :hao6: :hao6: :hao6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2017 21:10:15 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๗ : สายน้ำแห่งความคิดถึง


         ดิเรกหยิบซองสีน้ำตาลหนานั้นขึ้นมา มันไม่มีตราอะไรบนซองนั้นที่จะบอกว่ามาจากไหน มีแต่ชื่อที่อยู่ของผู้รับ ซึ่งดิเรกซึ่งกำลังหน้ามืดตามัวตอนนี้ อ่านผ่านๆ เห็นว่าเป็นนามสกุลของแว่น ---คงของมันแหล่ะ ดิเรกคิด

         มือวางอันดับหนึ่งของการสำเร็จความไคร่ตนเอง ผ่านทางรูปลับเฉพาะโป๊เปลือยหมดเปลือกของสาวๆ ต้องยกให้ดิเรกเป็นตัวพ่อ เห็นเด็กๆ อย่างนี้ ดิเรกแก่แดดแก่ลมนัก แถมที่บ้านก็พอจะมีตังค์ เลยสามารถสั่งรูปโป๊ลับเฉพาะของสาวๆ จากหนังสือปกขาว หนังสือนวลนาง หนังสือเพ็ญพักตร์ มาที่บ้านได้บ่อยๆ

         ดิเรกมองปราดเดียวก็รู้ว่ามันถูกส่งมาในรูปแบบซองสีน้ำตาล หนาๆ แบบนี้ จึงถือวิสาสะเปิดซองออก

         ---ยืมหน่อยวะ หงี่มาก อย่าด่ากูนะเพื่อน!

         เมื่อเปิดซองน้ำตาลออก ข้างในมีซองสีขาวขุ่นอีกชั้นหนึ่ง ดิเรกถือไว้ในมือแล้วถอยกลับไปนั่งที่ขอบเตียงริมหน้าต่าง เอามือป้ายหยดเยิ้มที่ยังไหลย้อยจากปลายเจ้าแห่งรัตติกาลออกอีกครั้ง คราวนี้ป้ายมือเช็ดไปบนเตียงเลย --ช่างมัน

         ดิเรกเอามือกระตุ้นไปที่เจ้าแห่งรัตติกาลครั้งหนึ่งเบาๆ เหมือนเป็นการเผาหัวให้นักรบที่กำลังผงาด

         "รอแป็บนะลูก" พ่อกำลังจะจัดให้แล้ว

         ดิเรก ผู้ซึ่งไม่ทันอ่านตัวหนังสือเล็กๆ ที่มุมขอบของซองขาวขุ่น ซึ่งมีตรายางปั้มไว้จางๆ ว่า "ลับเฉพาะ-หนังสือมิถุนา"

         เมื่อดิเรกเปิดซองสีขาวออก เห็นภาพบรรดานายแบบโป๊ล่อนจ้อน ชูชันไม่ต่างกับของตัวเองแล้ว ก็ได้แต่ตะลึงงัน นี่ถ้าเจ้าส่วนหน้าตรงกลางลำตัวของตัวเองไม่อวบหนาใหญ่ยาวพอที่จะมีน้ำหนักถ่วงไว้ละก็ ดิเรกคงหงายเงิบลงไปกับเตียงแล้ว

         ---ไอ้แว่นมันเป็นเกย์หรือนี่!!!---

         ดิเรกยังคงอึ้ง และความอึ้งนี่เอง ทำให้เกิดปฏิกิริยา "ฝ่อ" ขึ้นมาทันที เจ้าแห่งรัตติกาลขนาดอลังการที่เจ้าตัวภูมิใจนักหนา เมื่อกี้ยังเยิ้มย้อยเป็นสาย ตอนนี้กลับหดฮวบยุบตัวลงไปกระทันหัน แทบจะหดจมหายวับลงไปใต้กลุ่มเส้นหยิกหยองกลางตัว ถ้าให้ดิเรกควักมาฉี่ตอนนี้ยังแหวกขนควานหาลูกชายไม่เจอเลย

         "แกรกๆๆๆ" "ก๊อกๆๆ" เสียงคนบิดลูกบิดประตูข้างนอก พร้อมเสียงเคาะ "ดิเรก ดิเรก หลับอยู่ป่าว เรากลับมาแล้ว เปิดตูหน่อย"

         -- ฉิบ หาย แล้ว --

         ดิเรกนึกในใจ หันรีหันขวาง เอาไงดีหว่า ก้มลงไปมองซอกเตียง เห็นกระเป๋านักเรียนจาคอปของแว่นซุกอยู่ตรงนั้น ความที่ตกใจและลนลาน เลยแง้มกระเป๋ายัดปึกรูปโป๊พร้อมซองในมือทั้งหมด รวมทั้งกางเกงในแอปเปิ้ลของตัวเองที่ถอดไว้ด้วยใส่ลงไป ปิดกระเป๋าไว้ลวกๆ แล้วดีดตัวไปที่ประตู รีบเอากางเกงยีนส์มาใส่ ตามด้วยเสื้อเชิร์ต ไม่ติดกระดุมแม่งล่ะ ไม่ทันแล้ว และเอาเสื้อยีนส์แขนยาวมาใส่ รูดซิปรวดเดียวยาวขึ้นไปปิดถึงคอ

         "อื่อ..." ดิเรกแกล้งทำเสียงงัวเงียตาปรือตอนเปิดประตูให้แว่น

         "อ้าวหลับเหรอ ไปนอนต่อสิ" แว่นเป็นห่วง

         ดิเรกทำท่าขนลุกทีนึง แล้วบอกว่า "ไม่อ่ะ เราอยากดูโทรทัศน์ เราขอลงไปดูข้างล่างก่อนนะ"

         "ไปสิเธอ เรายังไม่ได้ปิดไฟข้างล่างน่ะ เดี๋ยวเราตามลงไปนะ" แว่นยิ้มให้

         "อ่อ นานๆ ก็ได้นะ" แล้วดิเรกก็ลงบันไดทีละสองขั้นลงไปข้างล่างอย่างไว

         "อะไรของมันฟร่ะ" แว่นมองตาม บ่นพึม แล้วเดินเข้าห้อง เอามือปิดประตู พร้อมกับทำจมูกฟุดฟิดๆ

         "กลิ่นอะไรในห้องกูวะเนี่ย เหม็นๆ ขื่นๆ เค็มๆ ฉิบหาย..."


--------------------------------


         ตีสี่วันนั้น แว่นก็ลงไปไขประตูบ้านให้ดิเรก ที่จะออกไปขึ้นเรือที่ท่าน้ำ เพื่อกลับบ้านเกิดที่นครสวรรค์  ช่วงก่อนจะจากกันแว่นก็ได้ร่ำลา อวยพรให้เพื่อนโชคดี เดินทางปลอดภัย และหวังว่าวันหนึ่งข้างหน้าจะได้เจอกันอีก

         ดิเรก --หนุ่มน้อยผู้ซึ่งนอนดูทีวีจอดำๆ เปล่าๆ อยู่ข้างล่างจนถึงตีสี่ เพราะทีวีทุกสถานีปิดรายการหมดแล้วตั้งแต่เที่ยงคืน และไม่ได้กลับขึ้นไปบนห้องนอนของแว่นอีก-- ก็ได้เดินทางจากไป

         และนับจากเช้ามืดวันนั้นเป็นต้นมา  ตลอดชั่วชีวิตของคนทั้งสอง ก็ไม่เคยได้พบกันอีกเลย


--------------------------------

 
แม่น้ำนครชัยศรี  จ.นครปฐม


         จิว มาอยู่กับญาติห่างๆ ของพ่อที่นี่ได้สองเดือนกว่าแล้ว โรงงานฉีดพลาสติกแห่งนี้เป็นโรงงานเล็กๆ ไกลผู้ไกลคน รกร้าง และเดินทางลำบากถ้าไม่มีรถส่วนตัว ญาติๆ ทำกันเองในบ้าน มีคนงานชายวัยรุ่นพม่าช่วยอยู่สองสามคน

         ตี๋หล่อมาเรียนรู้งานฉีดพลาสติกจนทำได้หมดแล้ว มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เครื่องมือมันเป็นระบบบ้านๆ หากพังเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นมา เขาก็สามารถซ่อมเองได้ตามสมควรแล้ว

         จิวเริ่มเบื่อ อยากกลับกรุงเทพแล้ว แต่ยังกลับไม่ได้ เพราะช่วงนี้ไม่มีงานฉีดพลาสติก จึงไม่มีรถขนของกลับไปกรุงเทพฯ ที่เขาพอจะนั่งติดรถกลับไปด้วยได้ แถมโทรศัพท์บ้านก็อยู่ในห้องสำนักงานเล็กๆ ข้างใน และมักจะล็อคกลอนอยู่เสมอ ทำให้เขาติดต่อใครไม่ได้เลยตลอดสองเดือนมานี้

         วันนี้จิว เดินเรื่อยเปื่อยมานั่งเล่นริมแม่น้ำ มันเป็นบ่ายวันอาทิตย์ที่เงียบสงบ  ตี๋หล่อยกมือขึ้นเสยผม ความที่สองเดือนไม่ได้ตัดผมเลย ถึงข้างๆ จะไถสั้นเกรียน แต่ข้างหน้าเคยแอบไว้ยาว ตอนนี้มันจึงยิ่งยาวลงมาปรกหน้า ทำให้หน้าตาดูเข้าที่เข้าทางมาก ยิ่งหล่อกว่าเดิมมาก

         นั่งรับลมบ่ายอยู่บนพื้นดินระหว่างพุ่มไม้ริมน้ำสักพัก จิวเห็นว่าลมเอื่อยๆ บางเบา จึงถอดเสื้อยืดที่ใส่ออกแล้วพาดไว้ที่บ่าข้างนึง เหลือไว้แต่กางเกงขาก๊วยตัวเดียว แล้วเอามือลูบๆ ที่แขนและหน้าอก สองเดือนมานี้เขาดูมีกล้ามเนื้อขึ้น อาจเพราะต้องยกของหนัก และวุ่นกับเครื่องจักร เหมือนได้ออกกำลังกายหนักๆ โดยไม่รู้ตัว

         คนเราเมื่อนั่งอยู่ในบรรยากาศที่รื่นรมณ์และสบาย ก็ย่อมจะนึกคิดอะไรที่รื่นรมณ์ในหัวใจไปด้วย จิวนั่งทอดอารมณ์พักใหญ่ๆ แล้วจู่ๆ ความคิดก็สะดุดกึก แล้วถามกับตัวเองว่ามันมีอะไรผิดปกติแล้วล่ะ

         เพราะตลอดเรื่องราวในห้วงความคิดตอนนี้ มันไม่มีดารินอยู่ในนั้น -ไม่มีสักภาพ- ไม่มีแม้แต่แวบเดียว

         หรือเป็นเพราะเมื่อทอดเวลาห่างกันออกไป ไม่มีบริบททางสังคม หรือไม่มีสิ่งที่คนยึดถือว่าถูกต้อง มาเป็นตัวบังคับแล้ว คนเราก็จะหันมาใช้ใจเป็นตัวเลือกตัดสิน มากกว่าเอาที่สังคมชื่นชอบ มาตัดสินแทน

         ส่วนภาพที่วนเวียนไปมาของจริงในความคิดถึง มันกลับเป็นภาพของ เสาเข็ม ปั่นจั่น น้ำปั่นสองแก้ว ลูกชิ้นชุบแป้งทอดสี่ไม้ ขนมทับทิมกรอบที่อยากจะซื้อให้ใครคนหนึ่งกิน ปราสาทเจ้าหญิงดิสนีย์ ภาพวัยรุ่นสองคนนอนก่ายกันตอนเช้าๆ  และ...แว่น...

         เขาคิดถึงแว่น จิวนึกถึงใบหน้าบ๊องๆ สิวเขรอะทั่วหน้า และใส่แว่นหนาเตอะของแว่น คิดไปถึงกางเกงลูกฟูกเอวสูงที่แว่นใส่ นึกถึงตอนนี้แล้วขำ จิวแอบยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ป่านนี้แว่นมันจะทำอะไรอยู่นะ

         มีเสียงกรอบแกรบ และเสียงหัวเราะเบาๆ อยู่หลังพุ่มไม้ข้างๆ

         --ใครหว่า--

         จิวค่อยๆ โผล่หน้าไปดูผ่านพุ่มไม้ เขาเห็นคนงานชายวัยรุ่นพม่าสองคน กำลังอาบน้ำเล่นน้ำกันในแม่น้ำ เล่นหยอกเย้ากันอย่างสนุก คงไม่คิดว่าแถวนี้จะมีใครมานั่งอยู่

         สักพักวัยรุ่นพม่าสองคนก็ขึ้นจากน้ำ ทั้งสองคนไม่ได้ใส่เสื้อผ้า!!! และสมนึกก็เห็นแล้วว่ากลางลำตัวของทั้งคู่ ไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ

         จากนั้นวัยรุ่นสองคนก็นั่งเอาขาแช่ลงไปในแม่น้ำ แล้วโน้มคอเข้ามาจูบกัน จูบแบบดูดดื่มและนานมากๆ มือไม้ของทั้งคู่เริ่มสะเปะสะปะ สลับกันลูบหน้าอก สลับกันลงไปกำของเล่นที่กำลังตั้งชู

         "นี่มันกลางวันแสกๆ กลางแดดเลยนะ!!!!" ตี๋หล่ออุทานในใจ

         ท่ามกลางสองตาของจิว  หนุ่มพม่าคนหนึ่ง ถอนปากออกจากจูบ แล้วก้มลงไปใช้ลิ้นที่ปลายเม็ดยอดเล็กๆ บนอกของอีกคน แล้วเลื่อนลิ้นลงไปเรื่อยๆ จนถึงด้านล่าง ใช้ลิ้นตวัดอยู่อึดใจ แล้วครอบปากลงไปตรงนั้นจนมิด...

         ถึงตรงนี้ ตี๋หล่อฟันธงได้แล้วล่ะ ว่าชีวิตตัวเองผิดปกติจริงๆ เพราะว่ากลางกายของเขาเอง มันเริ่มดันตัวโป่งนูนจากกางเกงขาก๊วยออกมาแล้ว มันคับแน่นจนเขาเริ่มทนไม่ไหว

         ทำไมเขาถึงมีอารมณ์เมื่อเห็นภาพผู้ชายด้วยกันมีอะไรกัน!!

         แต่ไม่ไหวล่ะ ไม่มีเวลาคิดแล้ว มันจะระเบิดอยู่แล้ว
 
         จิวทนไม่ไหว แกะปมผ้าที่ผูกของกางเกงขาก๊วยออก ถอดกางเกงลง แล้วตามด้วยกางเกงในสีขาว ลงไปกองอยู่ข้างๆ กัน

         ตอนนี้ จิวมีสภาพไม่ต่างจากวัยรุ่นพม่าสองคนนั่นแล้ว ร่างที่เปลือยเปล่า ขาวจั๊ว เต็มไปด้วยกล้ามน้อยๆ แกร่ง หน้าท้องเป็นลอนน้อยๆ ช่วงขาตรงยาว และที่สำคัญ คือสิ่งที่อยู่กลางลำตัวของตี๋หล่อ!!

         มันเป็นแท่งเนื้อสีเดียวกับผิวตัว ขาว เนียน ใส ไม่มีเส้นเลือดสักเส้นให้เห็น ตัดกับพุ่มหยิกบางๆ รำไรๆ และถุงเนื้อบอลคู่ด้านล่าง ก็สีเดียวกัน ใสอมชมพู ไม่มีไรขนสักเส้นบนนั้น ห้อยตัวเนียนๆ ลงไปตามร่องขา

         "พี่ชาย" ของจิว มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ยาวมาก ดูด้วยตาเหมือนมันมีน้ำหนักมาก มันไม่ได้ตั้งตรง แต่มันชี้เอียงไปทางด้านซ้าย แข็งแรงเต็มที่  มีหยาดน้ำใสที่กระทบแดดเป็นประกายทิ้งสายใยบางๆ ย้อยลงมาอยู่

         จิวชะเง้อผ่านพุ่มไม้ไปอีกครั้ง ตอนนี้วัยรุ่นพม่าสลับกันแล้ว อีกคนหนึ่งก้มลงไปแทน แล้วถอนปากขึ้นสุด และครอบกลับลงไปสุด เสียงน้ำลายหมุนวนในปากขณะรูดขยับขึ้นลง ดัง ซร๊วบ! ได้ยินมาถึงจิวที่ "พี่ชาย" แข็งขันอยู่

         ท่ามกลางแดดกำลังดีในบ่ายวันนั้น กระแสลมอ่อน ไม่ระคายสายน้ำในแม่น้ำนครชัยศรีที่ไหลเอื่อยอยู่ข้างใต้ ทำให้ผิวน้ำตอนนี้ราบเรียบราวกับกระจก

         ฝั่งตรงข้ามลำน้ำมีต้นหลิวใหญ่ ที่แผ่ก้านและใบลู่ลงเรี่ยผิวน้ำ มันมีสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า "ต้นหลิวร้องไห้..." ใช่ มันกำลังร้องไห้ด้วยความตื้นตันอัศจรรย์กับภาพที่งดงามบนฝั่งตรงข้าม

         เด็กหนุ่มวัย ๑๗ ปี ที่ถึงพร้อมทั้งรูปร่างและหน้าตา นอนแผ่เปลือยกายท้าแสงแดดอยู่บนพื้นหญ้า ขาสองข้างกางออกเล็กน้อย ปลายเท้าจุ่มอยู่ในน้ำเบาๆ ระลอกคลื่นไหวเป็นวง ตามการสั่นสะเทือนและการจิกปลายเท้าเมื่อมีการขยับตัว

         มือหนึ่งชูสูงพาดขึ้นไปทอดยาวบนพื้นหญ้าเหนือหัว อีกมือหนึ่งเคลื่อนไหวขึ้นลงอยู่กลางลำตัว บางขณะก็ได้เห็นปลายของพี่ชายสีชมพูใส โผล่เลยมือออกมาอีกเป็นคืบ ขึ้นมารับสายลม

         สายตาจิวเหม่อไกลขึ้นไปบนท้องฟ้า แต่ไม่ได้มองฟ้าหรอก มันคงเลยไปถึงใครอีกคนหนึ่ง ที่ตัวอยู่ไกลแสนไกล และความคิดถึงกำลังเดินทางไปหา ผ่านทาง "สายน้ำพิเศษอีกสายหนึ่ง" ที่กำลังปลดปล่อยจากตัว

         ขาสองข้างของจิวกดจิกรุนแรงชนิดถึงจุดสูงสุด เกร็งกระตุกปลายเท้าบนผิวน้ำ ทำให้เกิดคลื่นน้ำวงใหญ่กระเพื่อมแผ่รัศมีกลมวิ่งไล่กันออกไปเป็นวงกว้าง เกือบไปถึงฝั่งของต้นหลิวร้องไห้...

         หลังจากนั้นทุกสิ่งก็คลายตัวสงบนิ่ง

 
--------------------------------


ต้นหลิวร้องไห้ (Weeping Willow)



 
ริมฝั่งแม่น้ำนครชัยศรี




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 02:24:23 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
"ถ้าเจ้าส่วนหน้าตรงกลางลำตัวของตัวเองไม่อวบหนาใหญ่ยาวพอที่จะมีน้ำหนักถ่วงไว้ละก็ ดิเรกคงหงายเงิบลงไปกับเตียงแล้ว" โอ๊ยฮาประโยคนี่อะ ถึงกับต้องอ่านซำ้อีกรอบ   :laugh: :laugh:
ดิเรกน่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย คงตกใจน่าดู
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

มองมาสักพัก เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
ทำไมบางอย่างเรารู้จัก 55 นี่คือเราแก่แล้วใช่ไหม

รอติดตามแว่น ต้นข้าวสิเนาะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากๆ
。◕‿◕。
แว่น จิว หรือ จิว แว่น  :mew1: :mew1: :mew1:
ดิเรก เอก  :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-01-2017 19:55:51 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
มาเจอกันซักหน่อยม่ะ..ดิเรก
รู้สึกว่าจะคุยโวโอ้อวดซะเหลือเกินนะ

ไปหยิบไม้บรรทัดมาวัด
ตัวต่อตัวกันเลย

กล้าป่ะล่ะ
อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 03:10:56 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ดื่มด่ำเต็มอารมณ์จริงๆ
อิโรติกนี้สวยงาม

โลกใหญ่กว้าง อย่างสนใจ ไร้เดียงสา
เฝ้าเพียรถาม ท้องฟ้า กว้างใหญ่ไหม
อยากรู้ว่า ทะเล ลึกเพียงใด
เด็กสงสัย ใคร่รู้ อยู่ทุกวัน

วันนั้นเราจะเติบโต
เน๊าะ จิว+แว่น

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :jul1:

เฮือกก! เป็นการเล่าความคิดถึงที่สยิวกี๊วมาก
แงมๆ เราว่า ไม่น่าจะมีคำว่า"ลีน"นะ มันดูไม่เข้ากับบริบท หรือเราคิดมากไป

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๘ : ของฝากชิ้นสุดท้ายจากดิเรก

 
         วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก เทอมใหม่ และมันอาจเป็นวันเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ของใครสักคนด้วย

         เช่นใครคนนี้ที่กำลังยืนอยู่หน้ากระจกเงาบานเต็มในห้องของแม่ ภาพในกระจก เป็นวัยรุ่นชายหล่อเหลาหน้าตาดีคนหนึ่ง สูงโปร่ง แบบบาง เสื้อนักเรียนผ้าเนื้อดีที่ใส่ใหม่เอี่ยม ขาวโอโม่ ปักชื่อสีน้ำเงินเข้ม ติดเข็มประจำโรงเรียนเข็มใหม่แวววาว

         ต่ำลงมาเป็นเข็มขัดหนังสีน้ำตาลแดงใหม่เอี่ยม หัวเข็มขัดที่เป็นทองเหลือง ถูกขัดถูด้วยบรัสโซหลายรอบ จนมันวาวเหมือนพึ่งหล่อออกมาจากเบ้าหลอมใหม่ๆ  ปลายเข็มขัดหนังมีคลิปหนีบโลหะสีดำตัวเล็กหนีบเก็บปลายเรียบร้อย

         ส่วนกางเกงขาสั้นสีกากีที่ใส่ ไม่ใช่กางเกงที่ซื้อสำเร็จตามพวกห้างน้อมจิตต์ทั่วไป แต่เป็นกางเกงผ้าเวสปอยท์สีกากี ผ้าออกมันๆ สั่งตัดจากร้านตัดเสื้อผ้าวัยรุ่นชื่อดังแห่งยุค ร้านสนู๊ปปี้ ที่ถนนเจริญผล มันเป็นกางเกงขาสั้นที่ค่อนข้างจะสั้นมาก มากที่สุดเท่าที่พอจะกล้อมแกล้มงุบงิบก้มตัวเดินผ่านครูฝ่ายปกครองไหว ปลายขาค่อนข้างบานเล็กน้อย

         ส่วนล่างสุด แน่นอน ถุงเท้าคาร์สันคู่ใหม่เอี่ยม และรองเท้านักเรียน PAN สีน้ำตาลแดงรุ่นใหม่กริบ!

         และถ้าจะย้อนกลับขึ้นไปส่วนบนอีกที ที่คอมีสร้อยดินเผาสีดำจากด่านเกวียน ลายเป็นแฉกๆ เหมือนรังสีพระอาทิตย์ห้อยอยู่ นี่เป็นผลพวงมาจากภาพยนตร์ "น้ำพุ" ที่ดาราชื่อดัง อำพล ลำพูน ใส่ในฉากตอนไปโรงเรียน

         ส่วนใบหน้า ใส เกลี้ยงเกลา ไม่มีริ้วรอยใดๆ บนใบหน้า เพราะการพยายามที่ไปรักษาสิวและผิวอย่างจริงจัง ที่คลินิก แพน คอสเมติก ตลอดสามเดือน เมื่อมีผิวที่ดี ก็ขับโครงหน้าให้ชัดเด่นขึ้น ใบหน้าที่เหมือนภาพเขียนของทวยเทพ

         และบนใบหน้าของต้นข้าวนี้...ไม่ได้ใส่แว่นหนาเตอะแล้ว

         ใช่แล้ว ด้วยเทคโนโลยี่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ในยุคนั้นมีคอนแทคเลนส์แบบล่าสุดเข้ามา เป็นคอนแทคเลนส์แบบแข็ง หรือกระจกบางๆ พับงอไม่ได้ ต้องสั่งตัดเฉพาะดวงตาใครดวงตามัน เป็นเลนส์ที่มีอายุใช้งาน 1 ปี  มีราคาหลายพันอยู่ แต่เพราะสายตาสั้นถึง 700 นี่ ผู้ปกครองคนไหนก็อยากให้ลูกมีสายตาที่ดีเหมือนคนปกติทั้งนั้นแหล่ะ

         "อ้าว ต้นข้าว จะไปโรงเรียนแล้วหรือ" แม่เปิดประตูเข้ามาพอดี และทักต้นข้าวไปงั้นๆ

         "ว้าย แล้วนี่ใส่รองเท้าเข้ามาในห้องแม่ทำไม" คราวนี้แม่เสียงสองขึ้นมาทันที

         "แห่ะๆๆ รองเท้าใหม่อ่ะแม่ ต้นข้าวพึ่งเอาออกมาจากกล่อง" ต้นข้าวชูกล่องเปล่าใส่รองเท้าขึ้นมา

         "อ่อ แล้วไป ไปเถอะ เดี๋ยวไปสายนะ รถติด แหม่...วันนี้ทำไมลูกใส่ชุดนักเรียนแล้วหล่อจัง!"

         แม่ทิ้งท้ายแล้วไม่ได้รอคำตอบ เดินนำออกจากห้องไป

         เจ้าหล่อเทพยืดตัวขึ้นนิดนึงเมื่อได้ยินประโยคหลังของแม่

         จากนั้นก็ยืนลังเลอยู่หน่อย ว่าจะเอากระเป๋านักเรียนไปดีไหม เพราะวันนี้วันแรก ยังไม่มีตารางสอนใหม่ ไม่มีสมุดหนังสืออะไรที่ต้องขนไป และส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนหรอก เพราะต้องไปจดตารางสอน และทำความสะอาดห้องเรียนกัน

         คิดไปคิดมา ถือไปดีกว่า ถือเอาเท่ ไม่ได้ขนหนังสืออะไรไปก็ดี กระเป๋าจะได้แบนๆ หน่อย เพราะจริงๆ กระเป๋าต้นข้าวก็ไม่ได้ใช้คลิบหนีบให้แบนเหมือนนักเรียนคนอื่น เพราะต้นข้าวชอบแบกหนังสือไปโรงเรียนเยอะๆ

         ตัดสินใจได้ ก็เดินกลับเข้าห้องนอนตัวเอง หันไปหันมาอย่างลังเลครู่นึง แล้วเดินไปก้มตัวที่ซอกข้างเตียง --อยู่นี่เอง กระเป๋าจาคอปของฉัน ไม่เจอกันมาสามเดือน ต้นข้าวหยิบขึ้นมาแล้วปิดล็อคปากกระเป๋า เอาไม้กวาดขนไก่ปัดๆ สองที กระเป๋าก็พร้อมล่ะ

         วันนี้ ทำไมถนนหนทางมันดูรื่นรมณ์แบบนี้นะ ป้ายรถเมล์คนเยอะก็ช่างมัน ขึ้นสาย ๗ คนแน่นต้องโหนประตูออกมานอกรถก็ช่างมัน เอาแขนหนีบกระเป๋าแบนไว้ สองมือจับขอบประตู เอาหน้าปล่อยให้ลมนอกรถโกรก หล่อแล้วนี่ มั่นใจซะอย่าง 555+

         เหตุที่ระรื่นขนาดนี้ ก็เพราะคิดถึงใครคนหนึ่งล่ะ ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้ยินเสียงมาสามเดือนเต็ม เขาจะเป็นยังไงหนอ วันนี้จะมาโรงเรียนหรือเปล่า กลับมาจากนครปฐมหรือยังนะ

         แต่พอรถใกล้ถึง ผ่านโรงเรียนหญิงข้างๆ ไอ้ที่ระรื่นอยู่ก็หุบทันที เมื่อนึกถึงความจริงอันโหดร้าย เขาคนนั้น มีคนอีกคนรออยู่แล้วนี่ที่โรงเรียนนี้ ดารินไง

         พอคิดถึงชื่อนี้ ต้นข้าวหดหน้ากลับเข้าไปในประตูรถอย่างไว กลัวลมพัดตีหน้าเยินขึ้นมาทันที


--------------------------------

 
         "อ้าว แว่น...เฮ้ยยย ไปทำอะไรมา หล่อสัส" เสียงเนติกับราชา ที่แทบจะประสานเสียงพร้อมกัน
 
         "เฮ้ย เฮ้ย กูไม่ได้ใส่แว่นแล้ว เรียกชื่อแว่นไม่ได้แล้วเฟร้ยยย" ต้นข้าวยืดอกขึ้นมานิดนึง

         "ห่า พวกกูเรียกมาตั้งนาน ชินแล้วว่ะ"

         "ไม่ได้เว้ย คนใหม่ นี่ต้นข้าวคนใหม่แล้วนะ"

         "แล้วมึงมองเห็นหรือวะ เสือกไม่ใส่แว่น" เนติสงสัย

         "ฮาร์ทเลนส์ไงมึง เกือบสามพัน แม่กูตัดให้" ต้นข้าวเบิ่งตาโตให้ดู

         "โห แม่มึงลงทุนเนาะ แต่ก็ดี มึงหล่อผิดตาไปเลย นี่ถ้าไอ้ศักดิ์สิทธิ์ กับ ไอ้สมนึกเห็น คงอึ้งล่ะนะมึง"

         --สมนึก-- หืมมม ชื่อนี้อุตส่าห์งุบงิบคิดถึงมาตลอดเช้าวันนี้ มาหรือยังหว่า ต้นข้าวชะโงกไปดูหลังห้อง

         "เออแว่น เอ๊ยย โทดๆ ไอ้ต้นข้าว พวกกูลงไปกินโอวัลตินที่โรงอาหารก่อนนะ มีรถมาแจก ไปมะ"
 
         "ไม่อ่ะ กูกินมาแล้ว" ต้นข้าวโบกมือ จริงๆ ยังไม่ได้กินอะไรมาหรอก แต่ตอนนี้มีอย่างอื่นต้องทำ

         ต้นข้าวเอากระเป๋าจาคอป ไปวางที่พนักพิงบนเก้าอี้ของตัวเอง แล้วทำเดินเลยไปหลังห้อง เหมือนจะไปหยิบไม้กวาดมากวาดอะไรอย่างนั้น

         ตอนนั้นมีเพื่อนนักเรียนร่วมห้องมากันสักสิบกว่าคนแล้ว นั่งๆ ยืนๆ คุยกันรอบห้อง ต้นข้าวเดินไปถึงโต๊ะประจำของจิว ก้มลงมอง ไม่เห็นมีกระเป๋าหรืออะไรในเก๊ะนั้น

         "จึ๊ จึ๊" เสียงดีดปากจากต้นข้าวเบาๆ แบบไม่สบอารมณ์ เลยพาลหงุดหงิด โยนไม้กวาดหวือออ~ กลับไปหลังห้องซะงั้น เพื่อนสองสามคนหันมามอง ต้นข้าวเลยยิ้มแห้งๆ ให้ แล้วเดินไปหยิบวางใหม่ดีๆ


--------------------------------


         "เอาล่ะค่ะนักเรียน ครูจดตารางสอนให้บนกระดานแล้วนะคะ ใครยังไม่ได้จด จดเลยนะคะ ครูจะได้ลบแล้ว"

         เสียงครูสูงอายุฝ่ายปกครองสุดเฮี๊ยบ ที่ต้นข้าวไม่เคยเรียน หรือรู้จักด้วย มาจดตารางสอนให้แทนครูประจำชั้นตัวจริง ครูคนนี้เห็นเพื่อนกระซิบว่าดุนัก ไม่เข้าใครออกใคร

         "การเรียนเทอมนี้ อาจจะดูเยอะหน่อยนะคะนักเรียน หนังสือเยอะ หนักๆ ทั้งนั้น แต่เป็นภาระของนักเรียนที่จะต้องมี"

         พอครูพูดเรื่องหนักๆ ต้นข้าวก็ปวดหลังขึ้นมาพอดี เพราะกระเป๋านักเรียนของตัวเองพิงอยู่ด้านหลังพนักเก้าอี้  ต้นข้าวเลยหันไปหยิบกระเป๋าจาคอปตัวเอง ไปวางพิงที่เก้าอี้ข้างๆ แทน เพราะเพื่อนนักบอลไม่ค่อยมาเรียน โต๊ะยังเหมือนว่างๆ อยู่

         แถมตอนหันไปหยิบกระเป๋า ยังแอบเลยมองไปข้างหลัง  คนที่อยากเจอ อยากเห็นหน้า จนป่านนี้ก็ยังไม่เข้ามาเรียน ยังไม่เห็นหัวอยู่ข้างหลังเลย ถ้ามา จิวมันคงลากเก้าอี้ย้ายมานั่งด้วยกันที่โต๊ะนี้เหมือนเคยแล้ว

         "แต่สบายใจได้นะคะนักเรียน ครูจะบอกข่าวดีให้ฟัง เร็วๆ นี้ แต่ไม่รู้จะภายในสองสามปีนี้หรือเปล่านะ ทางกระทรวงศึกษาได้ประชุมกัน มีความเห็นว่าอาจจะอนุญาตให้นักเรียนเปลี่ยนมาใช้เป้สะพายหลังแทนกระเป๋านักเรียนแบบเดิมได้แล้ว"

         เสียงฮือฮา ดังขึ้นทันทีในห้อง

         "จุ๊ๆ เงียบ!! รอประกาศก่อนค่ะ! นี่ครูเล่าให้ฟังเฉยๆ ตอนนี้ก็ใช้กระเป๋านักเรียนแบบเดิมนี้ไปก่อนค่ะ มันก็ใส่หนังสือเยอะๆ ได้นี่ ใช้ให้มันถูกวิธีหน่อย" ครูปกครองชี้มาที่โต๊ะต้นข้าว

         "เธอ คนหล่อๆ นั่นล่ะ ใครใช้ให้ใส่สร้อยคอแฟชั่นมาเรียนหือ...หล่อไม่เป็นที่เป็นทางนะเรา  เอ้า เธอส่งกระเป๋านั่นมาหน่อย ครูจะสาธิตให้ดู"

         แว่นหันไปหยิบกระเป๋านักเรียนตัวเองที่พึ่งเปลี่ยนที่วางไปเมื่อสักครู่ ยื่นส่งให้ครู

         "นี่ค่ะ กระเป๋านักเรียนที่ถูกต้องนะคะ อย่าเอาคลิปไปหนีบข้างกระเป๋าให้มันแบน มันจะใส่หนังสือได้น้อย จริงๆ ข้างในมันกว้างมากนะคะ มันกางออกได้เยอะ แบบนี้..."

         ไม่พูดเปล่า ครูได้เปิดฝากระเป๋าเสร็จแล้ว และถ่างข้างในกระเป๋าอย่างเต็มที่ หันมาอวดนักเรียนในห้องให้ดูด้วย

         วินาทีนั้น นักเรียนในห้องเรียนเงียบกริบ ทุกสายตาเหมือนจ้องเข้าไปในกระเป๋า รวมทั้งต้นข้าวที่ทำหน้าพิศวงเต็มที่ อ้าปากค้าง ไม่มีใครมองหน้าครู จนครูชักเอะใจ

         "เอ๊ะ อะไร?"

         ครูพลิกปากกระเป๋าเข้าหาตัวเอง ก้มลงไปมอง แล้วถ่างปากกระเป๋าออกกว้าง แล้วใช้มือที่จีบแค่สองนิ้วคือนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ลงไปคีบหยิบอะไรบางอย่างจากในกระเป๋านักเรียนใบนั้นขึ้นมาชูสูง สายตารังสีพิฆาตที่มองมายังต้นข้าว เหมือนจะฆ่าก่อนแล้วค่อยถามว่ามันคืออะไร

         สองนิ้วที่จับจีบชูขึ้นมาอย่างหมิ่นเหม่ นั่นคือรูปภาพลับเฉพาะของนายแบบปึกหนึ่ง ที่อวัยวะส่วนกลางขนาดมโหฬาร แข็งโด่ชูชัน พุ่งชี้เข้าหน้าครูเต็มที่ และที่หยิบติดนิ้วขึ้นมาพร้อมกันด้วย...คือกางเกงในยี่ห้อแอปเปิ้ลของผู้ชายที่ใส่แล้วตัวหนึ่ง ย้วย และมีคราบขาวแห้งกรังเป็นทางยาว!!!

         ทั่วทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ มันไม่ใช่เรื่องปกติเลย ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ นี้ เรื่องพรรค์นี้ไม่ใช่เรื่องเปิดเผย หรือยอมรับกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะเด็กมัธยมวัยรุ่นแบบนี้ นี่มันเข้าข่ายโรคจิตเลยนะ แค่เขียนคำหยาบด่าพ่อล่อแม่เพื่อนแรงๆ ใส่กระดาษ แล้วหลักฐานถึงมือครูนี่ ยังโดนเรียกผู้ปกครองเข้าพบเลย

         แล้วนี่เด็กผู้ชายมัธยม พกรูปโป๊ผู้ชายเห็นท่อนลำแข็งขันครบถ้วน บางรูปยังกำลังพ่นน้ำขาวขุ่นแตกเป็นสาย แถมยังมีกางเกงในผู้ชายที่ใส่แล้ว และเต็มไปด้วยคราบขาวเกรอะกรัง พกไปพกมาในกระเป๋า นี่มันจิตวิปริตโดยแท้ สงสัยครูต้องเรียกพบทั้งสาแหรกตระกูลนับขึ้นไปอีกเจ็ดชั้นแน่ๆ

         แค่คิดมาถึงตรงนี้ ต้นข้าวก็รู้สึกเหมือนมีก้อนเย็นๆ วิ่งขึ้นไปบนหัว ทำให้ขนหัวลุกตั้งชัน แล้วก้อนเย็นๆ นั้นก็วิ่งลงข้างล่างไปที่ปลายเท้า ทำให้ชากระดุกกระดิกไม่ได้ ตัวเย็นยะเยือก แข็งเป็นหินไปชั่วขณะ

         --เรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไงหว่า--

         ต้นข้าวไม่มีเวลาคิดนาน ประกาศิตของครูก็ผ่าเปรี้ยงลงมา

         "ชั้นจะโทรเรียกผู้ปกครองเธอเข้ามาพบ"

         --ฉิบหายแล้ว กรูตายดีกว่า-- ต้นข้าวคิดในใจ คือต้นข้าวคิดว่าถ้าแม่รู้เรื่องว่าเป็นเกย์น่ะไม่เท่าไร แม่คงรับได้ไปเรื่อยๆ สักวันหนี่ง เพราะแม่รักต้นข้าวและตามใจมาก และต้นข้าวก็เป็นเด็กดีมาตลอด แถมต้นข้าวเป็นคนอ่อนไหวง่ายมาตั้งแต่เด็ก เผลอๆ แม่จะแอบคิดในใจไว้แล้วด้วยซ้ำ

         แต่เรื่องนี้มันซับซ้อนกว่านั้น เพราะรูปโป๊ที่ว่ามันมาจากซองจดหมายของน้าเดียร์ ที่แม่จะให้ต้นข้าวส่งต่อไปให้ แล้วถ้าแม่รู้ว่าในซองนั้นมันคืออะไร โชคสองชั้นมันจะไปหล่นใส่น้าเดียร์อีกต่อหนึ่งหรือเปล่า เหมือนถูกหวยโดยไม่ต้องซื้อแท้ๆ เฮ้อออ

         แล้วไหนจะอีกางเกงลิงเน่านั่นอีก มันของใครวะ มันมาอยู่ในกระเป๋าเราได้ยังไง เวรแท้ๆ เป็นเกย์น่ะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าถึงขนาดคนจะคิดว่า โรคจิต ชอบดมกางเกงในผู้ชายใช้แล้วนี่ ต้นข้าวอ่อนใจที่จะนึกต่อ

         คิดแล้วยืนทำตาแดงๆ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรตอบครูไป ก้มหน้างุด รอรับชะตากรรมครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิตที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีนี้

 
         "..............."

 
         "กระเป๋านักเรียนใบนั้น ของผมเองครับครู ไม่ใช่ของต้นข้าว"

         เสียงหนึ่งดังขึ้นหน้าห้องเรียน ทั้งห้องหันขวับไปพร้อมกันไม่เว้นแม้แต่ต้นข้าว

         "จิว!!" ต้นข้าวอุทานออกมา

         จิว เดินเข้ามาในห้อง ไม่ได้เดินไปที่โต๊ะตัวเองหลังห้อง แต่มุ่งตรงมาที่โต๊ะของต้นข้าว ที่ต้นข้าวยืนอยู่ แล้วเดินเลยไปนิดนึง ตรงโต๊ะติดกันข้างๆ ที่จิวชอบมานั่งเบียด และเมื่อกี้ต้นข้าวยังเอากระเป๋าของตัวเองวางพิงพนักเก้าอี้ไว้

         จิวล้วงมือลึกเข้าไปใต้โต๊ะ แล้วดึงกระเป๋านักเรียนจาคอปที่มีสีเดียวกันออกมา มันเป็นกระเป๋าที่มีคลิปหนีบแบนด้านข้างรอบๆ แล้วส่งกระเป๋าไปที่มือของต้นข้าว ที่ยังยืนงง จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ต้นข้าวก็รับกระเป๋าไว้

         "กระเป๋าใบนี้ต่างหากที่เป็นของต้นข้าวครับครู เราวางสลับกัน"

         ตอนนี้ต้นข้าวพึ่งสังเกตเห็น ว่าแขนซ้ายของจิวมีผ้าพันแผลตรงข้อศอก

         คราวนี้ถึงตาครูที่จะงงบ้าง

         "อะไรกันเนี่ย อะไรของพวกเท๊อออ!!"

         ครูใช้เสียงสองร้องออกมา กรอกตาซ้ายขวามองต้นข้าว และจิวสลับกันไปมา แล้วปิดท้ายด้วยมองบนแรง

         "กระเป๋าในมือครู เป็นของผมจริงๆ ครับครู" จิวยังคงยืนยัน

         "งั้นเธอจะเอาอะไรมาพิสูจน์ว่ากระเป๋าที่มีของลามกจกเปรตนี้เป็นของเธอ อย่าลืมนะ ถ้าเป็นของเธอจริง เธอต้องโดนเรียกผู้ปกครองเข้าพบแทนนายต้นข้าวนะ"

         "ครับ ผมพร้อม" จิวมีแววตาแน่วแน่

         "งั้นเธอบอกครูมา ว่ามีอะไรยืนยันได้ว่ากระเป๋าลามกใบนี้ เธอเป็นเจ้าของ ครูถึงจะเชื่อ"
 
         สมนึกจ้องไปที่กระเป๋านักเรียนในมือครู พิจารณาอยู่สักครู่ แล้วตอบไปว่า

         "ถ้ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งในกระเป๋า ที่เป็นลายมือของผมอยู่ในนั้น และผมบอกได้ว่าอยู่ตรงไหน ครูจะเชื่อผมไหมครับ"

         ต้นข้าวหันไปมองหน้าจิว อย่างประหลาดใจ

         "โอเค ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นลายมือของเธอ และเธอบอกถูกว่ามันคืออะไร อยู่ตรงไหน ครูจะเชื่อเธอ"

         ครูท้า แต่มั่นอกมั่นใจว่าไม่ใช่แน่ เพราะเมื่อกี้ตอนล้วงลงไปหยิบของลามกพวกนั้น ในกระเป๋าก็ไม่มีอะไรอีก

         จิว หันไปมองหน้าต้นข้าวครู่หนึ่ง เหมือนเป็นการวัดใจ แล้วสีหน้าก็กลับมีประกายมุ่งมั่น เหมือนเป็นการตัดสินใจสุดท้ายที่แน่วแน่ มั่นคง

         ตอนนั้นต้นข้าวได้แต่จ้องมองตอบด้วยความงุนงง

         "กระเป๋าใบที่อยู่ในมือครู ด้านหน้าซ้ายมือ มีช่องใส่ของเล็กๆ อยู่ มีฝากระเป๋าปิดไว้ ในนั้นมีเทปคาสเซ็ท ที่มีลายมือของผมอยู่ครับ"

         ต้นข้าวอ้าปากค้าง!!

         ครูวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ แล้วหาช่องในกระเป๋าที่ว่านั้น เมื่อพบก็เปิดออก แล้วล้วงหยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมา มันคือเทปคาสเซ็ท ที่ไม่มีกล่องใส่ เป็นตัวตลับเทปเดี่ยวๆ จึงอยู่ในกระเป๋าที่แบนราบได้ โดยไม่นูนออกมา

         นักเรียนในห้องส่งเสียงฮือ และต้นข้าวอ้าปากค้างกว้างกว่าเดิมอีกสองนิ้วจากเมื่อตะกี้ และเริ่มจะคุ้นๆ แล้วว่าเทปตลับนี้เคยเห็นที่ไหนมาก่อน

         ครูแม้มปากจนเกือบเป็นเส้นตรง ยกเทปคาสเซ็ทขึ้นมาอ่านข้อความบนนั้น แล้วเงยหน้าพูดกับจิว

         "เอาล่ะ บนหน้าเทปนี้ ที่อ้างว่าเป็นลายมือเธอ มันเขียนว่าอะไร"

         จิวไม่ได้มองหน้าครูตอนตอบออกไป แต่กลับจ้องตาต้นข้าว แล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า


         "ให้คนนี้ดีกว่า...จากจิว, รอวันฉันรักเธอ คีรีบูน"


         "....................."

 
         แน่นอนว่า คนในห้อง รวมทั้งครู ไม่มีใครรู้ความนัย หรือที่มาที่ไปของข้อความนี้  เพราะมันก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป ที่จะมีของกุ๊กกิ๊กเตรียมไว้ให้กับแฟน หรืออะไรประมาณนี้

         ยกเว้นหนุ่มน้อยสุดหล่อระดับองค์เทพ ที่โดนจ้องตา และรับฟังข้อความนี้จากจิวเต็มๆ น่ะสิ

         เทปเพลงที่อยู่ในมือครูนั้น คือเทปที่จิวไปอัดจากวิทยุที่ห้องนอนต้นข้าว จิวบอกไว้ทีแรกว่าจะมอบให้ผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วไปไงมาไง มันกลับมาอยู่ในกระเป๋าของต้นข้าว รวมทั้งข้อความที่เขียนขึ้นต้นว่า

         "ให้คนนี้ดีกว่า..."

         ตอนนี้ต้นข้าวมีความรู้สึกว่า ความเครียดเย็นยะเยือกที่อยู่ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเมื่อกี้ คลายตัวออกไป เปลี่ยนเป็นควันสีชมพู แล้ววนมารวมตัวกันใหม่ หมุนไปรอบๆ เหมือนเซเลอร์มูน ที่ใช้มนต์แห่งจันทรา จงสำแดงฤทธา ณ บัดนี้

         ตอนนี้ต้นข้าวมองไม่เห็นสิ่งรอบตัวแล้ว ครูเลือนหายไป เพื่อนร่วมชั้นเรียนก็เลือนหายไป เหลือแต่จิวและต้นข้าวที่ยืนกอดกระเป๋านักเรียนของจิว จ้องตากันอยู่

         กระดานดำหน้าห้อง เหมือนจะแปลงร่างเป็นผนังของปราสาทเทพนิยายหน้าแดนเนรมิต ชอล์กและแปรงลบกระดาน ก็แปลงร่างเป็นผีเสื้อและนกคีรีบูนแสนสวย บินวนและร้องเพลงอยู่รอบๆ ตัวของต้นข้าวและจิว เหมือนโลกนี้มีแค่ เจ้าชายและเจ้าชาย กันแค่สองคน

         แต่แล้วความฝันนี้ก็ถูกเบรคเอี๊ยดหัวทิ่ม!! แล้วกระจายกลับคืนร่างเดิม ด้วยเสียงแหลมๆ เบอร์สามของครู ว่า...

         "ถูกต้อง!!! ดีล่ะสมนึก งั้นเธอตามชั้นมาที่ห้องฝ่ายปกครอง แล้วเอาเบอร์โทรบ้านเธอมาให้ด้วย ชั้นจะโทรไปเชิญคนที่บ้านเธอให้มารับรู้เรื่องบ้าๆ นี้ เก็บของบัดสีนี่ของเธอใส่กระเป๋าแล้วหิ้วตามครูมา"

         แล้วครูก็เดินฉับๆ นำออกไป ให้จิวรวบรวมเก็บรูปโป๊เหล่านั้น พร้อมกางเกงในแอปเปิ้ล ใส่ลงในกระเป๋าเหมือนเดิมแล้วตามครูออกไป

         ก่อนพ้นห้อง ลับหลังครู  จิวก็หลิ่วตาให้ต้นข้าวทีหนึ่ง พร้อมแอบโยนขยุ้มกระดาษสีน้ำตาลก้อนเล็กๆ มาให้ต้นข้าว ซึ่งรับไว้ทันพอดี

         พอครูกับจิวเดินลับตาไปแล้ว ต้นข้าวจึงคลี่ก้อนกระดาษสีน้ำตาลนั้นออกดู มันคือซองเปล่าที่เคยใช้ใส่รูปโป๊นั่น มันมีชื่อ-นามสกุล และที่อยู่ผู้รับเขียนอยู่บนนั้น และมันเป็นนามสกุล และที่อยู่เดียวกับของต้นข้าวเอง

         อ้อ ฮีโร่ตี๋หน้าใสขี่ม้าขาวมาช่วยออกตัวรับความผิดแทนให้ แล้วยังไม่ลืมทำลายหลักฐานให้ด้วยสินะ


--------------------------------


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 02:24:49 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เวรกรรม :katai1: ไอ้เพื่อนเวง

ดีใจที่มาต่อไว (นั่งเกาะขอบจอ)

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เฮ้ยยยยยยย
อะไรมันจะซวยขนาดนั้น

อุตส่าห์ทำหล่อมาตั้งแต่เช้า
หมดกัน

ถ้าเป็นเรา..จะทำไงหว่า
นึกอะไรไม่ออกจริงๆ

อ่านแล้วสงสารต้นข้าว อิ๋บอ๋าย
ไอ่จิวมันจะรังเกียจเพื่อนคนนี้ไปด้วยหรือเปล่า

กาซิก

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
  เพิ่งเข้ามาอ่านคับ สนุกมากๆ
  ขำของฝากของดิเรก ต้นข้าวจะทำยังไงน่ะ รออ่านตอนต่อไปคับ 555

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
จิวจ๋า..อยู่ไหน


รีบมาช่วย..เป็นกำลังใจให้กับต้นข้าวโหน่ยยยยย
คนรักของจิวกำลังจะอ่อนแอ

ช่วยนะ

+1 คนแต่งนิยายตอนนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 03:14:22 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ต้นข้าว 555 โชคดีจิวเป็นฮีโร่ แล้วทางบ้านจิวจะว่ายังไงล่ะทีนี้
  รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ฮึ่ย.......ไอ้ดิเรก ว่าวแล้วพาเพื่อนซวยจริงๆ
จิว ช่วยแว่น ไว้ได้
แต่จิวถูกพ่อตีแน่ๆ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เหมือนมีหมุด สุดดอก ตอกเต็มลิ่ม
ยิ่งกว่าทิ่ม แทงเข็ม เล่มหมื่นแสน
ยกทั้งใจ อยากได้ มาเป็นแฟน
อยากอยู่ใน อ้อมแขน กอดแน่นกัน

เป็นฮีโร่ สุดหล่อ ขอความรัก
ให้รู้จัก สีชมพู ดูเคลิ้มฝัน
ใจตรงใจ ตาตรงตา หาแต่กัน
จะนรก หรือสวรรค์ ฉันจะไป

น่าฮักขนาดเน๊าะ
มายจิว

ขอเหอะ ยกให้เราได้ไหม ต้นข้าว
จะให้เอาอะไรมาแลกก็ยอม

ยอมหมดเลย
ถ้าได้จิว
 :haun4:
อิอิ 

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย   :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :hao5:

พ่อจิวไม่ค่อยโอด้วย จากออร่าชมพูม่วง จะกลายเป็นมาคุอะดิ

 :L2: :L1: :pig4:รักคนเขียนมาติดๆกันเลย (ได้โปรดอย่าหมดไฟแล้วหายไประหว่างทาง เรากลัว)

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๙ : นครหินอ่อนเป็นพยาน


         วันแห่งอัศวินขี่ม้าขาวที่มาช่วยวันนี้ มีอายุครึ่งวันเท่านั้น เพราะครูปล่อยนักเรียนกลับบ้านตอนเที่ยงเลย เพื่อที่จะมาเริ่มต้นเรียนเต็มๆ ในวันพรุ่งนี้

         ต้นข้าวรอแล้วรอเล่า จิวก็ยังไม่กลับมาห้องเรียน จะเกิดอะไรขึ้นนะ พ่อจิวจะมาพบครูฝ่ายปกครองไหม จะดุด่าว่ากล่าวจิวไหม จะไล่จิวออกจากบ้านไหม คิดไปร้อยแปดพันอย่าง จนบ่ายสอง นั่งรอที่หน้าประตูโรงเรียน ก็ไม่มีแววว่าทั้งจิวทั้งพ่อจะเดินออกมา เลยคิดว่ากลับไปตั้งหลักที่บ้านก่อนดีกว่า

         ระหว่างทางกลับ ต้นข้าวมานึกทบทวนเหตุการณ์ แล้วยังคิดไม่ตกหลายๆ เรื่อง เอาเรื่องบ้าๆ ก่อน ทำไมรูปโป๊เหล่านั้นมันลงไปอยู่ในกระเป๋าเขาเองได้ และที่ทุเรศทุรังสุดๆ คือกางเกงในแอปเปิ้ลนี้มันของใคร มาได้ยังไง

         คิดเรื่องบ้าเสร็จ มาคิดเรื่องดีต่อ นึกมาถึงตอนนี้ แก้มหนุ่มกลับมีสีระเรื่อขึ้นมาได้เหมือนกัน นี่จิวเอาตลับเทปคาสเซ็ทที่อัดด้วยกันคืนนั้น มาแอบใส่ไว้ในกระเป๋าต้นข้าวหรือนี่ ใส่ไว้เมื่อไรกัน แล้วจิวจะบอกความหมายนั้นจริงๆ ให้ต้นข้าวหรือ

         "ให้คนนี้ดีกว่า..."

         มันหมายความว่ายังไง อย่าบอกนะว่าจิวจะชอบต้นข้าว เลยเปลี่ยนใจเอาเทปที่อัดเพลงของวงคีรีบูนนั้นมาให้ต้นข้าวแทน เพราะเรื่องแบบนี้ เพื่อนกันธรรมดาคงไม่ทำกัน

         แล้วถ้าจิวจะชอบต้นข้าวจริงๆ ต้นข้าวเองจะรู้สึกยังไงนะ... คิดมาถึงตรงนี้ เริ่มรู้สึกว่าฟุตบาทที่เดินอยู่ ทำไมปูนมันเบาจัง เหยียบไปแล้วนุ่มๆ ลอยๆ เดินก้าวหนึ่ง ลอยได้อีกก้าวหนึ่ง ทุกครั้งที่ลอยขึ้นไป จะมีกลีบกุหลาบโปรยลงมาครั้งหนึ่ง จนถึงบ้าน


--------------------------------


         เช้าวันใหม่ ต้นข้าวกำลังจะออกไปโรงเรียน วันนี้ต้นข้าวเจ็บตา จากที่ใส่เลนส์เมื่อวาน จึงต้องกลับมาใส่แว่นสายตาหนาเตอะแทนไปก่อนชั่วคราว

         พอเดินลงมาข้างล่างเจอแม่กำลังง่วนอยู่กับของอะไรแดงๆ บนโต๊ะ

         "แม่ ดูอะไรอยู่อ่ะ"

         แม่เงยขึ้นมาแล้วหัวเราะ แล้วชี้ให้หมูกระดาษ ตัวสักประมาณคืบกว่าๆ ที่ทำจากกระดาษทากาว ที่เรียกว่าเปเปอร์มาเช่ พอต้นข้าวเห็นก็หัวเราะ แล้วก็นึกออกว่าแหล่งที่ทำหมูกระดาษแบบนี้ คือของบ้านยายจา  อยู่ท้ายวัดประยูรฯ ไม่ไกลจากบ้านนี่เอง

         "แล้วทำไมมันตัวเล็กนักล่ะแม่ เคยเห็นแต่ตัวใหญ่ๆ เอามานั่งขี่เล่นได้ ตอนเด็กๆ ต้นข้าวยังจำได้ แม่ซื้อมาให้ขี่เล่นอยู่เลย"

         "นี่มันไม่ได้ไว้ขี่นะ มันคือกระปุกหมูออมสินน่ะ" แม่พูดพร้อมชี้ให้ดูร่องตรงกลางหลังหมู มันมีช่องหยอดตังค์อยู่จริงๆ

         "ยายจาเค้าคิดทำขึ้นใหม่น่ะ ลองทำตัวเล็กๆ เป็นกระปุกออมสินมาวางขาย แม่เดินผ่านบ้านเค้าตอนไปตลาด เห็นน่ารักดี เลยซื้อมาสองตัว อยากได้ไหมล่ะ เอาไปสิ"

         "เอาๆ แม่ เอาสองตัวเลยนะ" ต้นข้าวรับหมูออมสินสีแดงสองตัวนี้มาถือไว้

         หมูกระดาษสีแดงที่ว่านี้ เป็นของบ้านยายจา ท้ายวัดประยูรฯ ทำมาจากกระดาษหนังสือพิมพ์ทากาวแป้งเปียก แล้วแปะซ้อนๆ กันหลายๆ ชั้นในเบ้าหินรูปหมู จนหนา ทิ้งไว้จนแห้ง แล้วเอามาประกบกันเป็นตัวหมู ทาสีน้ำมันสีแดงแปร๊ด แล้วเขียนลายบนหลังหมูเป็นดอกไม้เชยๆ แต่ก็นับว่าเป็นของเล่นที่ราคาแพงในสมัยนั้น ต้องมีตังค์หน่อยถึงซื้อให้ลูกขี่เล่นได้

         ต้นข้าวเอาหมูกระดาษสีแดงขึ้นไปเก็บบนห้องนอนตัวหนึ่ง ส่วนอีกตัวหนึ่งเอาใส่ถุงกระดาษโชคดี แล้วถือออกจากบ้านไปโรงเรียนด้วย

         วันนี้น่าจะเจอกับจิวแล้วสินะ จะเป็นยังไงบ้างไม่รู้ เมื่อคืนนอนคิดถึงทั้งคืน และต้นข้าวก็ไม่รู้จะขอบคุณจิวยังไง  ก็เลยคิดว่าจะเอาหมูกระดาษออมสินสีแดงตัวนี้ไปฝาก จิวคงจะเห็นว่าแปลกดี และคงชอบมัน

         เมื่อถึงห้องเรียน ต้นข้าวมองไปหลังห้อง เห็นจิวนั่งเล่นที่โต๊ะอยู่แล้ว จึงวางกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปหา

         "จิว" ต้นข้าวเรียก

         "แว่น..." จิวเงยหน้าขึ้นมาแล้วเรียกชื่อบ้าง

         ".........."

         หลังจากนั้นคือความเงียบระหว่างสองคน แล้วต้นข้าวเป็นคนเริ่มก่อนอีกครั้ง

         "จิว มาแต่เช้าเชียว มึงเป็นไงบ้างอ่ะ เมื่อวานโดนอะไรไหม"

         จิวหัวเราะตาหยี ก่อนบอกว่า "โอ้ย สบาย หายห่วง ไม่มีอะไรเลย เรื่องมันยาวน่ะ ไว้เล่าเย็นนี้ทีเดียวเลยนะมึง"

         "แน่นะ มึงโอเคนะ" ต้นข้าวยังแอบห่วงอยู่

         "โอเค๊ โอเคซิ มือชั้นนี้แล้ว" ตี๋หล่อเงยขึ้นมาสบตา

         "โอเคก็ดีแล้ว  ว่าแต่..." ต้นข้าวเหมือนอยากจะถามอะไรสักอย่างกับจิว

         ---แก๊งๆๆๆ--- เสียงระฆังตีเรียกเข้าแถวเคารพธงชาติดังถูกเวลาพอดี


         หลังจากนั้นทั้งวันแห่งการเรียนหนังสือ ต้นข้าวกับจิวก็ต่างวุ่นวายกับการเรียนใหม่ จิวไม่ได้มานั่งเบียดข้างต้นข้าวเหมือนเคย กลางวันพักเที่ยงก็ไม่เจอกัน จนถึงเวลาเลิกเรียน จิวเดินเข้ามาหาต้นข้าวที่โต๊ะ

         "แว่น มึงรีบกลับป่ะ" ตี๋หน้าใสถามต้นข้าว

         "ก็ไม่นะ มีอะไรหรือเปล่า"

         "มึงไปรอกูที่ร้านน้ำปั่นได้ไหม ตอนหกโมงกว่านิดหน่อย กูจะตามไปเจอมึงที่นั่น"

         "ได้สิ เดี๋ยวกูไปนั่งทำการบ้านที่นั่นรอเลยละกัน"

         "โอเคนะ กูไปก่อนล่ะ"

         "เออ เจอกันมึง" ต้นข้าวมองตามหลังจิวไป ถึงจะสงสัยว่า อะไร ทำไม ยังไง ฯลฯ มันก็ดูมีหลายคำถามเหลือเกิน เดี๋ยวเจอกันคงได้รับคำตอบหมดล่ะนะ


--------------------------------

 
         โชคร้ายสุดท้ายของวันนี้ก็คือ เจ๊น้ำปั่น เดินมาบอกต้นข้าวที่โต๊ะหลังร้านตอนห้าโมงครึ่งว่า จะขอปิดร้านเร็วหน่อยวันนี้ จะไปงานศพ

         ต้นข้าว ซึ่งทำการบ้านเสร็จพอดีที่ร้านน้ำปั่น เลยหมุนเคว้ง เอาไงดีหว่า นัดจิวไว้แล้ว หน้าร้านก็ไม่มีที่นั่งซะด้วย

         ต้นข้าวยืนลังเลหน้าประตูร้าน สักครู่ก็นึกอะไรออก จึงหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ขึ้นมา แล้วใช้หมึกซึมเขียนคำสั้นๆ แล้วเหน็บไว้ที่ข้างประตูร้านน้ำปั่นนั่น

         สมนึก มาถึงหน้าร้านน้ำปั่นตอนหกโมงสิบนาที ประตูร้านปิดสนิทแล้ว แต่ได้เห็นกระดาษใบเล็กๆ สะดุดตาเหน็บอยู่ จึงดึงออกมาอ่าน มีข้อความสั้นๆ ว่า

         "ไปเจอกันที่เดิม /แว่น"

         ที่เดิม! มันที่ไหนกันหว่า สมนึกลังเลอยู่แค่พริบตาเดียว ก็นึกออกว่าที่เดิมนั่นมันคือที่ไหน

         --ตึกมาบุญครอง ที่กำลังสร้าง--

 
--------------------------------


         จิว เดินกึ่งวิ่งจนมาถึงแยกปทุมวัน เมื่อท้องฟ้าเริ่มใกล้มืดแล้ว แต่ยังพอมองเห็นอะไรอยู่บ้าง ภาพที่เห็นข้างหน้าตอนนี้ ทำให้จิวต้องหยุดนิ่งตกตะลึง

         มันไม่ใช่ลานโล่งที่มีปั่นจั่นตอกเสาเข็มเหมือนเดิมที่เคยมานั่งดูแล้ว แต่มันกลายเป็นสิ่งก่อสร้าง ที่เป็นอาคารขนาดใหญ่มาก มากกว่าเท่าที่เคยมีมาก่อนเลยในกรุงเทพฯ มาปรากฎอยู่ตรงนั้นแทนที่

         อาคารสูงขึ้นไปถึงแปดชั้น แต่ละชั้นแยกกันเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล เพราะรอบอาคารแบ่งเป็นริ้วๆ ตามชั้น บุผนังรอบนอกบางส่วนบ้างแล้วด้วยแผ่นหินอ่อนสีขาว และตามพื้นรอบตึกยังมีตู้คอนเทนเนอร์ที่เปิดอ้าไว้ เห็นแผ่นหินอ่อนจำนวนมหาศาลวางรออยู่ ไม่มีใครเคยเห็นอาคารที่ต้องใช้หินอ่อนเยอะมากขนาดนี้มาก่อนในประเทศไทย!!

         ---นี่มัน "นครหินอ่อนใจกลางเมือง" โดยแท้---

         "จิว"

         เสียงคนเรียกเบาๆ ข้างหลัง จิวหันไป เห็นต้นข้าวยืนเอียงคอมองอยู่

         "ตึกใหญ่เนอะ ใหญ่กว่าที่คิดไว้มากเลยอ่ะ" จิวพูดกับคนข้างหลัง

         "เดินไปตรงซอยข้างๆ นี่กันจิว มีม้านั่งอยู่อ่ะ เราเข้าไปใกล้ตึกกว่านี้ไม่ได้ล่ะ" ต้นข้าวแนะ

         เมื่อทั้งสองเข้ามาถึงในซอยที่ว่านั่นแล้ว ก็พากันนั่งลงไปบนม้านั่งตัวเดียวกัน นั่งแหงนคอมองอาคารที่กำลังก่อสร้างตรงหน้า  ต่างคนต่างเงียบ ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา

         "เอาเรื่องอะไรก่อนดี" ในที่สุดจิวเป็นฝ่ายหันมายิ้มๆ ก่อน

         "เรื่องครูฝ่ายปกครองก่อนแล้วกัน" ต้นข้าวร้อนใจเรื่องทางบ้านของจิว เลยแนะขึ้นมา

         จิว หัวเราะออกมาก่อน แล้วเริ่มต้นเล่าให้ต้นข้าวฟัง

         วันเปิดเทอมวันแรก จิวออกจากบ้านเช้ามาก เพราะหนวกหูบ้านข้างๆ ที่มีงานบุญอะไรสักอย่าง แล้วพ่อของจิวก็ดันไปช่วยงานตั้งแต่ตีห้า แต่ไม่ได้ไปช่วยทำงานนะ ไปช่วยเขานั่งกินเหล้า ผลคือเมาปลิ้นตั้งแต่ยังไม่สว่าง เสียงดังล้งเล้ง

         จิวขึ้นรถเมล์มาจากบ้าน พอจะลง เบียดกับอาแปะคนหนึ่งตรงประตูรถ เข่งใส่ผักที่อาแปะขนขึ้นประตูรถเมล์ มาบาดแขนซ้ายของจิว ทีแรกจิวเห็นว่าไม่ลึกมาก เลยเอาผ้าเช็ดหน้ากดไว้ แล้วเดินขึ้นห้องเรียน เอากระเป๋านักเรียนไปสอดเก็บไว้ใต้ลิ้นชักข้างโต๊ะต้นข้าว เพราะคิดว่าวันนี้จะมานั่งด้วยกัน

         แต่พอหลังจากนั้นจิวไปห้องพยาบาล ปรากฎว่าแผลลึกกว่าที่คิด ครูเลยพาไปเย็บแผลสองเข็มที่โรงพยาบาลข้างๆ พอเย็บเสร็จ ก็สายมากแล้ว พอกลับขึ้นห้องเรียน ถอดรองเท้าหน้าห้อง ก็ได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับต้นข้าวนี่แหล่ะ

         "อ้าว แล้วทำไมมึงต้องช่วยกูล่ะ" ต้นข้าวขัดขึ้นมา

         "กูไม่อยากให้มึงลำบากใจ วุ่นวายไปถึงที่บ้านมึงไงแว่น กูเป็นห่วงมึง รูปโป๊งรูปโป๊อะไรวุ่นวายไปหมด"

         จิวยังเรียกชื่อเก่าต้นข้าว เป็นเพราะความเคยชิน

         "ไม่เข้าใจอ่ะจิว  แล้วยังไง มึงมารับแทน มึงก็โดนเรียกผู้ปกครองเหมือนกันอยู่ดี" ต้นข้าวซักต่อ

         "ฮ่าๆๆ มึงนี่ไม่เข้าใจ ฮ่าๆๆ เรียกผู้ปกครอง?? เรียกอาป๊าขี้เมา ที่เมาแป๋ตั้งกะตีห้าของกูนี่นะ!!"

         "อ้าว เออจริง" แว่นเริ่มนึกอะไรได้ลางๆ "แล้วตกลงพ่อมึงมาไหม"

         "มาดิ กูให้มาทั้งเมาๆ นั่นแหล่ะ แม่งจะได้จบๆ มึงทายซิ ว่าครูกะพ่อกู ใครคุยรู้เรื่องกว่าใคร  ป๊ากูคุยตอนเมาๆ ซะจนจบข่าวเลย ฮ่าๆๆ"

         "จบยังไง"

         "ก็ป๊ากูเมาแล้วอ้อแอ้ไปเรื่อยเปื่อย ไปฟ้องครูว่ากูไม่ชอบช่วยงานขายของที่บ้าน บอกกูอู้งาน แต่ชอบไปสุงสิงกับพวกแผงขายรูปถ่ายดาราที่เป็นแผ่นๆ เคลือบพลาสติกไง ข้างๆ แผงขายรองเท้าฟองน้ำของป๊ากู แกว่ารูปโป๊ที่หล่อๆ นี่เป็นดาราทั้งนั้น ในแผงนั่นมีเต็มเลย ครูจะเอาบ้างไหม จะให้กูไปหาซื้อมาให้ครูฟรีๆ แกเมาพูดมั่วจับแพะชนแกะไปเรื่อย แกเคยเห็นรูปดาราพวกนั้นซะที่ไหนล่ะ"

         พูดถึงตรงนี้ ต้นข้าวเริ่มขำ ยิ้มออกมา

         "ครูเลยอ่อนใจเรื่องรูปโป๊  เลยมาเล่นเรื่องกางเกงลิง  ปรากฎว่าไงรู้ไหม  พ่อกูดันใส่เกงในแอปเปิ้ลเหมือนกันอีก แกว่ากางเกงลิงตัวนี้เป็นของแกเอง แล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก เอามาโบกใส่หน้ากูอีกนะ ไอ้ห่า เหม็นขื่นๆ เค็มๆ จะตายห่า" จิวเล่าเป็นฉากๆ

         "เฮ้ยย เดี๋ยวนะ กลิ่นมันเหม็นขื่นๆ เค็มๆ เหรอ ทำไมกูคุ้นๆ วะ ว่าได้กลิ่นแนวๆ นี้มาแหม่บๆ ที่ไหนหว่า"

         "ที่ไหนวะ มึงนึกซิแว่น"

         "ห้องกู!! เดี๋ยวนะ ใช่ๆๆ ห้องกู วันที่ไอ้ดิเรกมาขอนอนห้องกูเนี่ย เชี่ยเอ้ย ใช่แล้ว ไอ้เหี้ยดิเรก"

         "ห๊าาา จริงเหรอ  งั้นซองรูปโป๊นั่น ก็เป็นผลงานมันด้วยอะดิ" จิวเดาทางต่อ

         "ใช่ล่ะ  แมร่งจริงๆ ด้วย" ต้นข้าวเริ่มขำออกแล้ว หลังจากทุกอย่างกระจ่าง

         "มิน่าล่ะ ตอนเช้ามืดมันออกจากบ้านกูไป แม่งเดินหนีบกระมิดกระเมี้ยน ที่แท้แม่งไม่ได้ใส่กางเกงในไปลงเรือกลับบ้านนี่เอง"

         "ฮ่าๆๆๆ..."

         หนุ่มน้อยสองคนหัวเราะขึ้นพร้อมๆ กัน บรรยากาศคลี่คลายลง  ตอนนั้นมืดสนิทแล้ว  แต่มีโคมไฟบนถนนส่องอยู่ห่างๆ พอมองอะไรเห็นได้ลางๆ

         แล้วบรรยากาศเงียบก็เข้ามาอีกครั้งหนึ่ง  จนต้นข้าวทนไม่ไหว เริ่มก่อนว่า

         "จิว แล้วเรื่องเทปคาสเซ็ท คือยังไงอ่ะ"

         จิว นิ่งไปสักครู่ มองหน้าต้นข้าว

         "แว่น กูไม่รู้จะพูดยังไงดี ตอนแรกกูอยากลองคบกับดาริน เพราะสวยน่ารักดี  แต่พอกูรู้จักจริงๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดว่ะ กูกลับเฉยๆ กูก็งงตัวเองเหมือนกัน"

         ต้นข้าวมองหน้าจิวนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไร รอให้จิวเล่าต่อเอง

         "กูกลับรู้สึกว่า ถ้ากูจะมีแฟน กูอยากมีแฟนที่สนุกๆ ว่ะ เข้ากับกูได้ กูอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ทำเหี้ยทำห่าอะไรก็ได้ วิ่งขึ้นวิ่งลงได้ เอาไว้คิดถึงได้ เดินกินลูกชิ้นกับกูได้ ไม่ต้องมานึกก่อนว่าควรจะต้องทำอะไร หรือทำตัวยังไงอ่ะ"

         "มึงพูดอย่างกับมึงเคยมีแฟนมาหลายคนแล้วแน่ะ ถึงจะเลือกได้ว่าแบบไหนดี แบบไหนไม่ดี"

         "แว่น มึงก็รู้ว่ากูยังไม่เคยมีแฟน แต่กูก็มีตัวเลือกในใจกูเหมือนกันนะ ว่ากูอยากเป็นแฟนใคร"

         "ใคร..."

         "ก็มึงไง แว่น" จิวทำหน้าจริงจัง

         "กูถึงเอาเทปคาสเซ็ทนั่นมาแอบยัดใส่กระเป๋ามึงก่อนวันไปแดนเนรมิตไง  เพราะกูอยากให้เทปเพลงนี้กับมึงมากกว่า  แต่กูคิดว่ามึงยังไม่เห็นเทปนั่นในกระเป๋ามึงแน่ๆ เพราะเห็นมึงเฉยๆ ไม่หือไม่อือกับกู"

         ต้นข้าวมองหน้าจิวนิ่งๆ แต่ทำไมก็ไม่รู้ เก้าอี้ม้านั่งเหล็กที่นั่งอยู่ มันเริ่มนิ่มขึ้นมาอีกแล้ว เหมือนตูดจะลอยๆ บนอากาศ ไม่ติดเก้าอี้ และดูเหมือนกำลังจะมีกลีบดอกกุหลาบโปรยลงมาที่หัว

         "แว่น มึงชอบกูบ้างหรือเปล่า มึงบอกกูซิ"

         "กู เอ่อ กู..." ต้นข้าวเริ่มตะกุกตะกัก

         "มึงบอกกูมาเถอะ มึงกะกูก็ไม่เคยมีแฟน กูไม่รู้หรอกว่าต้องทำตัวยังไงตอนมีแฟนด้วยซ้ำ  แต่กูรู้สึกว่ากูอยากอยู่กับมึงแบบนี้อ่ะ กูสบายใจ"

         "กู กู กูก็ชอบมึงอ่ะ จิว" ต้นข้าวก้มหน้า

         "เยสสสสส~" จิวร้องออกมาดังๆ

         "จิว แต่กูไม่รู้นะ ว่าเค้าเป็นแฟนกันยังไง ทำอะไรยังไงกูยังทำไม่เป็นเลยอ่ะ"

         "มึงก็เป็นอย่างงี้ไปแหล่ะ กูชอบมึงเพราะเป็นแบบนี้ ไม่ต้องมาทำเรื่องอื่นหรอก" จิวย้ำ

         "แล้วมึงคิดว่า คนอื่นเค้าจะคิดยังไง สายตาคนอื่นเค้าจะมองยังไงอ่ะ ถ้าเราเป็นแฟนกัน"

         "สายตาใครจะมองยังไงก็ช่างแม่ง ใครเค้าใช้ตามองกัน เอางี๊..."

         จู่ๆ จิวก็ดึงแว่นตาหนาเตอะของต้นข้าวออกไปจากหน้า  ต้นข้าวสายตาสั้นมากถึง 700 พอถอดแว่น ทุกสิ่งก็ลางเลือนหมด

         "อ่ะ มึงบอกกูสิแว่น ว่าตอนนี้ กูหลับตาหรือลืมตาอยู่" จิวตั้งคำถาม

         "ถ้าให้กูตอบ กูคิดว่ามึงลืมตาอยู่ เพราะมึงต้องจ้องมองจะรอคำตอบกู ใช่ไหม"

         "ใช่แล้วแว่น เห็นไหม มึงมองไม่เห็น มึงยังตอบได้ เรื่องความรักนี่ ใครเค้าใช้ตามองกัน เค้ามองกันด้วยหัวใจเว้ย" เสียงจิวฟังดูสดใส แล้วพูดต่อว่า

         "อ่ะ นี่ของมึง"

         คำว่า -ของมึง- ที่จิวพูด ไม่ใช่แว่นหนาเตอะที่จะใส่คืนให้ แต่มันเป็น...

         จิวโน้มตัวเข้ามาใกล้ใบหน้าต้นข้าวที่กำลังมองทุกสิ่งพร่าเบลอ แล้วจิวก็เอียงคอ ประทับรอยจูบลงไปที่ริมฝีปากต้นข้าว ริมฝีปากทั้งสองแตะกัน แผ่ว บางเบา ชั่วครู่ แล้วถอนออกช้าๆ

         เป็นจูบที่บริสุทธิ์ จูบแรกแห่งวัย

         จิวเอามือข้างหนึ่งวางลงไปที่เข่าของต้นข้าว

         "แว่น สัญญากะกูก่อนนะ มึงกับกูต่างคนก็ไม่เคยกับเรื่องแบบนี้  สัญญาก่อนนะว่าเราจะลองเดินไปด้วยกัน จับมือกันไป ผิดถูกช่างมัน ถ้ามึงมองไม่เห็น กูก็จะจูงมึง และถ้าวันไหนกูล้ม มึงก็ดึงกูขึ้นนะแว่น สัญญานะ"

         "อื่อ สัญญา" ต้นข้าวมองหน้าจิวอย่างจริงใจ

         บนท้องฟ้ามีเสียงครืนๆ เหมือนฝนจะตก และช่วงเวลานั้นเอง มีฟ้าแลบใกล้ๆ ส่งประกายสว่างมากระทบผนังหินอ่อนสีขาวของอาคารยักษ์ข้างหน้า และมันก็สะท้อนวูบกลับ สว่างวาบไปทั่วบริเวณนั้นแวบหนึ่ง รวมทั้งตรงที่หนุ่มน้อยสองคนนั่งอยู่ด้วย

         ตรงที่สองคน กำลังสัญญา...หน้าตึกมาบุญครอง
 

--------------------------------

 
อาคารมาบุญครอง (MBK)
ขณะกำลังก่อสร้างขึ้นไปถึงชั้น ๘ ในปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๗




 
หมูกระดาษออมสิน ป้าจา ซอยชุมชนวัดประยูรฯ ฝั่งธนบุรี





 
ตัวอย่าง ถุงโชคดี




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 02:25:15 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตามต่อ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ถุงกระดาษโชคดี หมูกระดาษออมสิน
ย้อนอดีตวันวานจริงๆ
                ❤️❤️
ไรท์ ช่วยลงวันที่ ที่ลงตอนใหม่ด้วยน้า
คนอ่านสับสนไม่รู้ที่ลงเป็นตอนใหม่
คิดว่าเป็นตอนเก่า เพราะไม่ลงวันที่
เช่น  MBK~lover [ย้อนยุค] บทที่ ๑๘ : หมูกระดาษออมสินสีแดง+++ หน้า๒++++ (๕/๑/๒๕๖๐)
ขอบคุณค่ะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-01-2017 16:02:25 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
"ถ้าเจ้าส่วนหน้าตรงกลางลำตัวของตัวเองไม่อวบหนาใหญ่ยาวพอที่จะมีน้ำหนักถ่วงไว้ละก็ ดิเรกคงหงายเงิบลงไปกับเตียงแล้ว" โอ๊ยฮาประโยคนี่อะ ถึงกับต้องอ่านซำ้อีกรอบ   :laugh: :laugh:
ดิเรกน่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย คงตกใจน่าดู
 :hao7: :hao7:

= เขียนเองยังแอบขำเองเลยค่ะ อิอิ


:L2: :L1: :pig4:

มองมาสักพัก เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
ทำไมบางอย่างเรารู้จัก 55 นี่คือเราแก่แล้วใช่ไหม

รอติดตามแว่น ต้นข้าวสิเนาะ

= วัยเยาว์ อยู่ในใจเราเสมอ ขอบคุณมากๆ นะคะ


❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากๆ
。◕‿◕。
แว่น จิว หรือ จิว แว่น  :mew1: :mew1: :mew1:
ดิเรก เอก  :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

= สวัสดีปีใหม่นะคะ


มาเจอกันซักหน่อยม่ะ..ดิเรก
รู้สึกว่าจะคุยโวโอ้อวดซะเหลือเกินนะ

ไปหยิบไม้บรรทัดมาวัด
ตัวต่อตัวกันเลย

กล้าป่ะล่ะ
อิอิ

= โอโห ผู้อ่านสุดหล่อของเราก็ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกัน 555+


ดื่มด่ำเต็มอารมณ์จริงๆ
อิโรติกนี้สวยงาม

โลกใหญ่กว้าง อย่างสนใจ ไร้เดียงสา
เฝ้าเพียรถาม ท้องฟ้า กว้างใหญ่ไหม
อยากรู้ว่า ทะเล ลึกเพียงใด
เด็กสงสัย ใคร่รู้ อยู่ทุกวัน

วันนั้นเราจะเติบโต
เน๊าะ จิว+แว่น

= วันนี้เราคิดอย่างหนึ่ง แต่พอพรุ่งนี้มันอาจไม่ใช่ก็ได้เนอะ //ขอบคุณมากนะคะ


:jul1:

เฮือกก! เป็นการเล่าความคิดถึงที่สยิวกี๊วมาก
แงมๆ เราว่า ไม่น่าจะมีคำว่า"ลีน"นะ มันดูไม่เข้ากับบริบท หรือเราคิดมากไป

= ขอบคุณมากๆ นะคะ แก้ไขให้ตามคำแนะนำแล้วนะคะ


:hao7: :hao7: :hao7:

= อิอิอิอิอิ  :hao6:


เวรกรรม :katai1: ไอ้เพื่อนเวง

ดีใจที่มาต่อไว (นั่งเกาะขอบจอ)

= เพื่อนเราทำไว้แสบจริงๆ ค่ะ 555+


เฮ้ยยยยยยย
อะไรมันจะซวยขนาดนั้น

อุตส่าห์ทำหล่อมาตั้งแต่เช้า
หมดกัน

ถ้าเป็นเรา..จะทำไงหว่า
นึกอะไรไม่ออกจริงๆ

อ่านแล้วสงสารต้นข้าว อิ๋บอ๋าย
ไอ่จิวมันจะรังเกียจเพื่อนคนนี้ไปด้วยหรือเปล่า

กาซิก

= เก๊กหล่อไว้อย่างดี หมดกัน!!!


  เพิ่งเข้ามาอ่านคับ สนุกมากๆ
  ขำของฝากของดิเรก ต้นข้าวจะทำยังไงน่ะ รออ่านตอนต่อไปคับ 555

= ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่ติดตามกันค่ะ


จิวจ๋า..อยู่ไหน


รีบมาช่วย..เป็นกำลังใจให้กับต้นข้าวโหน่ยยยยย
คนรักของจิวกำลังจะอ่อนแอ

ช่วยนะ

+1 คนแต่งนิยายตอนนี้

= ขอบคุณมากๆ นะคะ น่ารักที่สุด


ต้นข้าว 555 โชคดีจิวเป็นฮีโร่ แล้วทางบ้านจิวจะว่ายังไงล่ะทีนี้
  รออ่านตอนต่อไปคับ

= รอลุ้น และเอาใจช่วยนะคะ


เหมือนมีหมุด สุดดอก ตอกเต็มลิ่ม
ยิ่งกว่าทิ่ม แทงเข็ม เล่มหมื่นแสน
ยกทั้งใจ อยากได้ มาเป็นแฟน
อยากอยู่ใน อ้อมแขน กอดแน่นกัน

เป็นฮีโร่ สุดหล่อ ขอความรัก
ให้รู้จัก สีชมพู ดูเคลิ้มฝัน
ใจตรงใจ ตาตรงตา หาแต่กัน
จะนรก หรือสวรรค์ ฉันจะไป

น่าฮักขนาดเน๊าะ
มายจิว

ขอเหอะ ยกให้เราได้ไหม ต้นข้าว
จะให้เอาอะไรมาแลกก็ยอม

ยอมหมดเลย
ถ้าได้จิว
 :haun4:
อิอิ

= นี่คนเขียนก็หลงรักจิวเหมือนกัน ต้องแย่งกันนิดนึงนะคะ 555+


อร๊ายยยยยยยยยยยยยย   :mew1: :mew1:

= อิอิอิอิอิอิ......


:hao5:

พ่อจิวไม่ค่อยโอด้วย จากออร่าชมพูม่วง จะกลายเป็นมาคุอะดิ

 :L2: :L1: :pig4:รักคนเขียนมาติดๆกันเลย (ได้โปรดอย่าหมดไฟแล้วหายไประหว่างทาง เรากลัว)

= ไม่หายไปไหนแน่นอนค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ


ตามต่อ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ถุงกระดาษโชคดี หมูกระดาษออมสิน
ย้อนอดีตวันวานจริงๆ
                ❤️❤️
ไรท์ ช่วยลงวันที่ ที่ลงตอนใหม่ด้วยน้า
คนอ่านสับสนไม่รู้ที่ลงเป็นตอนใหม่
คิดว่าเป็นตอนเก่า เพราะไม่ลงวันที่
เช่น  MBK~lover [ย้อนยุค] บทที่ ๑๘ : หมูกระดาษออมสินสีแดง+++ หน้า๒++++ (๕/๑/๒๕๖๐)
ขอบคุณค่ะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณมากๆ สำหรับคำแนะนำค่ะ อิอิ ขออภัยมือใหม่ ครั้งหน้าจะปรับปรุงนะคะ //น่ารักที่สุด  :impress2:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-01-2017 21:22:25 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด