MBK❤lover || ตอนที่ ๔๗ : ความรักชนะทุกสิ่ง || ๑๕ || ๑๗/๑๑/๖๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: MBK❤lover || ตอนที่ ๔๗ : ความรักชนะทุกสิ่ง || ๑๕ || ๑๗/๑๑/๖๐  (อ่าน 139470 ครั้ง)

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ถ้าต้นข้าวกลับมาเจอเต่าอีกทีจะเขินขนาดไหนเนี่ย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แหมๆ ......อย่างนี้เอง หลงถึงถามต้นข้าวจริงจังเรื่องแฟน
จิว ฉลาด แอบเติม ชื่อตัวเอง และคำอธิษฐาน บนหลังเต่าไปด้วย
                    -- ต้ น ข้ า ว --
และจิว ขอให้อยู่ด้วยกันตลอดไป

จิว ต้นข้าว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
สองคนดูน่ารัก สดชื่น สดใส ตามวัย
       :L1: :L1: :L1:
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2017 10:42:44 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
น้ำตาลเกลื่อนวัด
หวานกระจาย

จิว+ต้นข้าว
ต้องอิจฉาคู่นี้..ทุกครั้ง

หวานกันได้หวานกันไป
อิอิ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ชอบตอนต้นข้าวเล่าเหตุการณ์ให้หลงฟัง  ขำหลง ไม่รู้ต้นข้าวกับจิวเป็นอะไรกัน คงเห็นต้นข้าวหน้าแดง เขินแน่ๆ
   

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
:-[ขอให้อยู่ด้วยกันตลอดไป :mc4:

จิวคงคอนเสปมากอะ ไม่มีอะจะอะไรตรงไปตรงมา ขอมีแทรก ขอแแหวกตลอด

ดีใจได้อ่านแต่เช้า ขอบคุณคุณคนเขียน :L2: :pig4:

= ขอบคุณคนอ่านเช่นกันฮะ น่ารักที่สุด


ถ้าต้นข้าวกลับมาเจอเต่าอีกทีจะเขินขนาดไหนเนี่ย

= นั่นสิเนอะฮะ นึกภาพแล้วน่ารักดี


แหมๆ ......อย่างนี้เอง หลงถึงถามต้นข้าวจริงจังเรื่องแฟน
จิว ฉลาด แอบเติม ชื่อตัวเอง และคำอธิษฐาน บนหลังเต่าไปด้วย
                    -- ต้ น ข้ า ว --
และจิว ขอให้อยู่ด้วยกันตลอดไป

จิว ต้นข้าว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
สองคนดูน่ารัก สดชื่น สดใส ตามวัย
       :L1: :L1: :L1:
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

= คนอ่านก็น่ารักด้วย มีเขียนสีเหลืองตามตัวหนังสือบนหลังเต่าเลย ขอบคุณฮะ  :impress2:


:L2: :L2: :L2: :L1: :L1: :L1: :L2: :L2: :L2:

= ขอบคุณมากนะฮะ  :3123: :3123: :3123:


น้ำตาลเกลื่อนวัด
หวานกระจาย

จิว+ต้นข้าว
ต้องอิจฉาคู่นี้..ทุกครั้ง

หวานกันได้หวานกันไป
อิอิ

= สองคนนี้ พองุ้งงิ้ง อยู่ด้วยกันทีไร รถอ้อยคว่ำทุกที 555+


ชอบตอนต้นข้าวเล่าเหตุการณ์ให้หลงฟัง  ขำหลง ไม่รู้ต้นข้าวกับจิวเป็นอะไรกัน คงเห็นต้นข้าวหน้าแดง เขินแน่ๆ
 

= ช่วงนี้ต้นข้าวคงกำลังเพ้อเนอะ หายใจเข้าหายใจออกเป็นจิว อิอิ


.............................


และขอบคุณผู้อ่านท่านอื่นๆ ทุกท่านด้วยนะฮะ


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๒๐ : หาดทราย สายลม สองเรา


         เช้าวันจันทร์ที่บ้านของจิว จิวลงไปอาบน้ำและแต่งตัวเตรียมไปโรงเรียน พอกลับขึ้นมาบนห้องนอนจะขึ้นมาหยิบกระเป๋านักเรียน เห็นป๊าของตัวเองอยู่ในห้อง

         "อ้าว ป๊า มากวาดห้องนอนนึก ทำไม มานี่ จะทำเอง"

         จิวร้องโวยวาย ที่เห็นพ่อตัวเอง ยืนส่ายไปส่ายมาเหมือนกรึ่มๆ เมาๆ กำลังกวาดห้องนอนของจิวอยู่

         "อื่อออ ไม่เปงรายยย อั๊วกวาดห้องนอนอั๊ว แล้วเลยมากวาดให้ลื้อ กวาดแค่ในห้องแหล่ะ อั๊วกวาดมากองไว้หน้าห้อง ให้คนงานมันกวาดต่อ"

         ป๊ายังเป๋ไปเป๋มาอยู่ เอาไม้กวาด กวาดฝุ่นผงมากองไว้ที่ซอกหน้าประตู ปกติป๊าไม่ชอบให้คนงานเข้าห้องนอนของป๊า เพราะเก็บเงินสด เอกสาร หนังสือจีน และตำราจีนไว้ในนั้นมากมาย เลยชอบเก็บกวาดห้องนอนเอง หรือไม่ก็ให้จิวเข้าไปทำความสะอาดให้

         จิวเอามือจับจมูกฟุตฟิต "กลิ่นเหล้าหึ่งเลยนะป๊า เมาแต่เช้าเชียว"

         "เมาแล้วจะทำไม" ป๊าเดินเซเข้าไปที่หัวเตียงของจิว หยิบหมูกระดาษออมสินสีแดง ขึ้นมาชู

         "นี่อะไรของลื้อ แฟนลื้อให้มาเหรอ"

         จิวสะดุ้ง  หมูกระดาษออมสินสีแดง ที่ต้นข้าวให้มา จิวเอาวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงตลอด ตื่นมาเมื่อไรก็จะได้เห็นสิ่งแทนใจนี้เป็นอย่างแรก จะบอกป๊าว่าอะไรดี แต่ดูท่าแล้ว น่าจะเมาพอสมควร บอกอะไรไปก็ได้มั้ง

         "เพื่อนให้มาน่ะป๊า" จิวอ้อมแอ้ม

         "ดีเนอะ เพื่อนกันให้ของน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ แถมมาตั้งไว้ข้างเตียงนี่ ของแฟนมากกว่ามั้ง" ป๊าเอาหมูมาส่องๆ ใกล้หน้า ทำหน้าอ้อแอ้ใส่หมู แบบคนเมา

         จิวอึ้ง ".............."

         "ลื้อน่ะ ถ้าจะมีแฟน อั๊วขอให้เป็นคนดีนะโว้ย หาคนที่ทำมาหากิน ช่วยทำงานทำการกัน ต่อไปโรงงานทำรองเท้าฟองน้ำเล็กๆ นี่ก็เป็นของลื้อคนเดียว แม่ลื้อก็มาชิงตายไปก่อนอั๊ว" ป๊าเดินเป๋ไปพูดไป

         "ใกล้จะสอบเอนท์ เข้ามหาลัยแล้วนะไอ้นึก เตรียมๆ ไว้หรือยัง เลือกเอาที่ชอบเรียนเลย ตามสบาย อั๊วหาเงินให้ลื้อเอาไว้เรียนต่อยาวๆ แล้ว เรียนไปเลยให้สูงๆ ป๊าชอบเห็นคนฉลาดๆ" ป๊าเสริมต่อ

         "นี่ตกลงป๊าเมาหรือไม่เมาเนี่ย ตัวส่ายไปส่ายมา แต่ทำไมคุยได้เป็นเรื่องเป็นราวเลย" จิวเริ่ม งง ในพฤติกรรมการเมาของพ่อ

         "เฮ้ยยยย รู้จักป๊าน้อยไปแล้ว กินเหล้ามาสามสิบปี เมาดิบไปงั้นแหล่ะ แต่มีสติเว้ยเฮ้ย ฟังรู้ คุยรู้ มองรู้ เถียงกับคนรู้เรื่องหมด ไม่งั้นจะเลี้ยงลื้อมาได้ยังไงคนเดียว" ป๊าอวด

         จิว หวนคิดไปถึงวันที่ป๊าเข้าพบครูฝ่ายปกครองเรื่องรูปโป๊นายแบบ กับกางเกงในแอปเปิ้ล วันนั้นจิวคิดว่าป๊าเมา นึกแล้วใจหายวาบ พอจะเดาอะไรได้ลางๆ ขึ้นมา

         "ทุกครั้ง ทุกเรื่องเลยหรือป๊า ที่ป๊าเมาดิบ แล้วรู้เรื่องน่ะ" จิวถามให้แน่ใจ

         "เออ สิ ตลอดชีวิตมีครั้งไหนที่ไม่รู้บ้าง รู้แต่ก็แกล้งทำเป็นเมาว่ะ ได้เห็นอะไรแปลกๆ ในชีวิตเยอะดี"

         "................" จิวอึ้งไปอีกรอบ แต่ไม่กล้าถามว่าทำไมป๊าเข้าใจเรื่องแบบนั้นได้ง่ายๆ แถมยังไม่มีการมาซักถามอะไรกับจิวอีกเลยหรือ กับเรื่องบ้าๆ ที่โรงเรียนวันนั้น

         "ป๊า" จิวเสียงอ่อยๆ "ไว้นึกมีแฟน นึกจะพามาไหว้ป๊านะ"

         "เออ พามาเร็วๆ ล่ะ นี่จะไปโรงเรียนก็รีบไป ป๊ากวาดห้องเสร็จจะไปนอนอ่านหนังสือกำลังภายในจีนต่อล่ะ" ป๊าเริ่มหันไปเก็บของ เดินเซชนขอบตู้

         "ไปละ หวัดดีป๊า" จิวยกมือไหว้ แต่ยังหยุดยืนมองด้านหลังของป๊า

         ป๊าของจิวที่กำลังกวาดห้อง อยู่ในชุดนอน คือกางเกงขาก๊วยผ้านิ่มๆ ขาสั้น ที่เอวมีเชือกรูด แบบเดียวกับที่คนแก่ชอบใส่แทนกางเกงใน และแน่นอนว่าป๊าไม่เคยมีกางเกงในแอปเปิ้ล อย่างที่เคยอ้างไว้เรื่อยเปื่อยกับครูฝ่ายปกครองว่าเป็นของตัวเอง

         จิวยิ้มให้แผ่นหลังของป๊า ด้วยสายตาที่ขอบคุณ และเริ่มรู้ซึ้งแล้วว่าที่ป๊าทำไปทั้งหมดเพื่อใคร

         .................

         หลังจากจิวเดินลงไปแล้ว ป๊าของจิวก็เดินไปที่หัวเตียง ยกหมูกระดาษออมสินสีแดงขึ้นมาดู แล้วท่องบทกวีจีนขึ้นมาลอยๆ ว่า

         " 生活中没有什么可怕的东西,只有需要理解的东西. "
         (ไม่มีสิ่งใดในชีวิตที่น่ากลัว  มีแต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ)

         ป๊าเอาหมูออมสินวางกลับคืนที่โต๊ะหัวเตียงของจิว วางหน้าหมูให้หันมองตรงไปที่หมอนบนเตียง แล้วเดินออกจากห้องไป


--------------------------------


         วันคืนอันคลุมเครือ ในชีวิตของจิวและต้นข้าวก็เริ่มจะผ่านไป พร้อมกับดวงตาที่เคยปิดเพราะอุบัติเหตุของต้นข้าว ก็กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว ดูเหมือนแววตาจะสดใสขึ้นกว่าเดิมด้วย

         ถ้าชีวิตมันไม่มีเมฆหมอกบัง โดยได้รับความรัก ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก "ครอบครัว"

         คนนั้นก็ย่อมมองโลกได้งดงามขึ้น

         อีกสองอาทิตย์โรงเรียนจะสอบปลายภาคแล้ว ทั้งสองคนมุ่งมั่นที่จะอ่านหนังสือ จิวยังคงแวะมาบ้านต้นข้าวทุกเย็นเหมือนตอนที่มาเฝ้าต้นข้าวขณะยังปิดตา แต่มาคราวนี้เพื่อมาท่องหนังสือ ติวหนังสือด้วยกัน

         ต้นข้าวที่เรียนเก่งกว่า ก็ไม่ปิดบังความรู้ ติวเข้มทุกอย่างที่ตัวรู้ ถ่ายทอดให้จิวทุกสิ่ง และจิวเองก็มุ่งมั่นที่จะรับด้วยความตั้งใจ เป็นที่น่าเอ็นดูในสายตาของผู้ใหญ่ในบ้านทุกคน

--------------------------------


         ก่อนวันสอบสามสี่วัน จิว ต้นข้าว เอก และแจ๊ส ได้นัดมาเจอกันที่มาบุญครอง เพื่อคุยปรึกษากันเรื่องเตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวเกาะเสม็ดอย่างที่ตั้งใจไว้ พอสอบเสร็จ จะได้เดินทางกันทันที

          บ่ายวันเสาร์ จิวและต้นข้าวก็ได้มายืนอยู่หน้าห้างมาบุญครอง ห้างที่ทั้งสองคนมีความหลังกันตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง จากวันที่เริ่มตอกเสาเข็ม จนเปิดให้บริการมาเกือบปี ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองมาเดินห้างพร้อมกัน

         วันนี้จิวกับต้นข้าว ใส่เสื้อคู่เหมือนกัน มันเป็นเสื้อยืดสีดำที่สกรีนตัวหนังสือตัวใหญ่สีม่วงสดบนหน้าอกว่า "ช่างมันฉันไม่แคร์" เป็นชื่อภาพยนตร์ดังของหม่อมน้อย ที่กำลังเข้าฉายอยู่ตอนนี้

         จิวหันมายิ้มให้กับต้นข้าว แล้วเด็กหนุ่มหน้าตาดีสองคน ก็เอานิ้วก้อยเกี่ยวกัน แล้วผลักประตูหน้าห้างมาบุญครอง เดินคู่กันเข้าไป

         ....................

         "โอ้ยยย มีความสุขฉิบหายเลย" จิวทำหน้าเหมือนมีความสุขซะเต็มประดา พร้อมบิดขี้เกียจไปด้วย

         ตอนนี้จิว ต้นข้าว เอก และแจ๊ส นั่งคุยกันอยู่บนศูนย์อาหารชั้น ๔

         "ความสุขอะไรของนาย เรื่องจะไปเที่ยวเสม็ดน่ะเหรอ"

         เอกถาม แต่ตาและมือกำลังง่วนอยู่กับ เกมส์กด Game & Watch เกมส์ปลาหมึก* ในเครื่องนินเทนโด้อยู่

         "ก็ใช่น่ะสิ อะไรจะสุขเท่า จริงไหมแว่น" จิวพูดจบก็เอามือไปขยี้ผมของต้นข้าวเล่น

         "เราจะไปพักที่หาดไหนดี" เอกหยุดเล่นเกมส์กดแล้ว และเงยหน้าขึ้นมาสนทนา

         "อ้าว ก็พักที่อ่าวพร้าวตามแบบหน้าปกเทปนั่นไง แจ๊สอยากถ่ายรูปไม่ใช่เหรอ" จิวยังเล่นผมของต้นข้าวอยู่

         แจ๊สนั่งมองคนขยี้หัวกันสักพัก ก็พูดขึ้นว่า

         "คู่นี้จะไปเที่ยวหรือไปฮันนีมูนฮะ"

         ต้นข้าวปัดมือจิวที่กำลังเล่นหัวออก แล้วเอานิ้วสางผมตัวเองให้เข้าที่  "ก็ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เว้ย" ต้นข้าวบอก

         "เหรอ เพื่อนเหรอ" จิวทำหน้าทะเล้นใส่ต้นข้าว และยังแถมด้วยการเอานิ้วไปช่วยปัดไรผมด้านหน้าให้ต้นข้าว ที่กำลังจัดทรงอยู่ด้วยอีกแรง

         "ดี เรามาเตี๊ยมกัน จะได้แบ่งกันแบกของไป" เอกว่า

         "ต้องเอาอะไรไปบ้างอ่ะ เราไม่เคยไป"

         ต้นข้าวถาม และเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำส้มปั่นของจิวที่ยังดูดไม่หมด ขึ้นมาดูดต่อเอง

         "ก็มีน้ำโพลาริสถังขาวถังนึง หม้อเล็กๆ ใบนึง ถ่านหุงข้าว มาม่าลังนึง จานพลาสติก ตะเกียบ กีตาร์ แล้วอะไรอีกวะ" เอกถาม

         "ถ่านหุงข้าวไปซื้อที่นั่นก็ได้มั้ง ไม่ต้องขนไป ไม่ก็ก่อกองไฟเอา"

         จิวบอก  พร้อมกับเอื้อมมือไปดึงแก้วน้ำส้มปั่นของตัวเองคืนจากปากของต้นข้าว แล้วดูดหลอดเดียวกันกับที่ต้นข้าวดูดค้างเมื่อกี้ต่อ ทำหน้ามีความสุข

         "อาหารบนเกาะมันแพง ร้านอาหารมีน้อยด้วย ข้าวผัดกระเพราจานนึงห้าสิบหกสิบบาทแน่ะ โหดฉิบ รอซื้อปลาหมึกจากเรือประมงถูกๆ มาปิ้งเองดีไหม"

         "ช่างมัน เราสองคนกินมาม่ากันทุกมื้อก็ได้เนอะ" จิวกุมมือต้นข้าว พลางพยักพเยิด

         ต้นข้าวบีบมือจิวตอบ พูดยิ้มๆ "เดี๋ยวจะต้มให้กินทุกวันเลยล่ะ"


--------------------------------


เกาะเสม็ด  จ.ระยอง


         แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่เด็กหนุ่มทั้งสี่ นัดพบกันที่สถานีขนส่งเอกมัย เพื่อเดินทางไปเกาะเสม็ด จ.ระยอง

         จิวและต้นข้าวมาที่สถานีเอกมัยพร้อมกันในตอนเช้ามืด ทั้งสองคนใส่เสื้อคู่เหมือนกัน เสื้อกล้ามลายทางขาวดำ และกางเกงผ้าเวสปอยท์สีน้ำเงินตัดสั้นแค่เข่า ต้นข้าวใส่หมวกสานสีน้ำตาลมีปีกสั้นๆ ทั้งคู่หน้าตาสดใส หล่อ และหัวเราะให้กันอย่างร่าเริง ดูมีความสุข

         ข้างตัวจิว มีถังน้ำโพลาริสถังขาว มีถุงใบใหญ่ใส่หม้อ จานพลาสติก ช้อน ตะเกียบ เทียน ไฟฉาย และเป้เดินทางใบใหญ่อีกใบ ใส่เสื้อผ้าของทั้งจิวและต้นข้าวรวมกันในนั้น

         ........................

         "เกาะเสม็ด" ในสมญานามว่า "เกาะแก้วพิสดาร" จากวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด พึ่งเปิดตัวให้นักท่องเที่ยวข้ามไปเที่ยวเกาะอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ นี้เอง

         ดังนั้นการเดินทางไปเกาะเสม็ด ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ นั้น ยุ่งยากพอสมควร ยังไม่มีอะไรสะดวกนัก ต้องเริ่มต้นจากนั่งรถ บขส.หวานเย็นที่เอกมัย กรุงเทพฯ ไปลงที่หน้าตลาดระยองในอำเภอเมือง

         แล้วต่อรถสองแถวไปตำบลบ้านเพอีก เพื่อรอข้ามไปเกาะที่ท่าเรือของป้ากิมห่อ หรือที่เรียกกันโดยชาวบ้านแถวนั้นว่าป้าฮ้อ ในชื่อท่าเรือ "นวลทิพย์" เป็นท่าเรือไม้ที่ยื่นไปในทะเลด้วยความยาว ๘๐ เมตร ใช้สำหรับเป็นสะพานปลา ขนส่งอาหารทะเลเพียงแห่งแรกและแห่งเดียวของตำบลบ้านเพ

         ส่วนเรือข้ามไปเกาะ ดัดแปลงมาจากเรือประมง ซึ่งช่วงนั้นชาวประมงขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากพากันออกไปค้าแรงงานยังต่างประเทศกันหมด ทำให้ออกเรือหาปลาไม่ได้ จึงหันมาดัดแปลงเรือเพื่อรับส่งนักท่องเที่ยวไปยังเกาะเสม็ด โดยมีเรืออยู่ประมาณ ๘-๑๐ ลำ ในราคาเหมาลำละ ๖๐๐-๘๐๐ บาท ถ้าไม่เหมา ก็ต้องนั่งรอจนนักท่องเที่ยวครบจำนวนที่หารกันได้ จึงจะออกเรือไปส่งที่เกาะ ระยะทางประมาณ ๖.๕ กิโลฯ

         แต่เรื่องที่ยากลำบากกว่า ก็คือการที่จะต้องขนอุปกรณ์การกินรวมทั้งน้ำดื่มไปเองด้วย ทั้งสำหรับดื่มและใช้ล้างหน้าแปรงฟัน เพราะน้ำบาดาลบนเกาะเป็นบ่อน้ำกร่อย เวลาอาบน้ำฟอกสบู่แล้วล้างแทบไม่ออก ลื่นติดตัว และบนเกาะมีร้านอาหารน้อย และแพงมาก บางกลุ่มใหญ่ๆ ที่ไป ถึงขนาดขนเครื่องครัวกันไปเลยก็มี

         ........................

         ไม่นาน เอกและแจ๊สก็มาถึง สองคนใส่เสื้อคู่เหมือนกัน เป็นเสื้อกล้ามลายทหาร และกางเกงยีนส์ขาสั้น แจ๊สแบกกีตาร์โปร่งยามาฮ่า พร้อมทั้งสะพายกล้องถ่ายรูปตัวใหญ่ที่คอมาด้วย ส่วนเอก สะพายกระเป๋าใบใหญ่ และถุงใบใหญ่ใส่ลังมาม่าและขวดเครื่องดื่มต่างๆ

         ทั้งหมดใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ต้นข้าวซบหลับที่ไหล่จิวมาตลอดทาง ส่วนเอกนั่งเล่นเกมส์กดในมือ และแจ๊สพิงกระจกหน้าต่างหลับตั้งแต่รถเริ่มล้อหมุน

         กว่าจะข้ามมาถึงท่าเรือหน้าด่านบนเกาะเสม็ด ก็เวลาเข้าไปเกือบบ่ายสามแล้ว และทั้งหมดก็ต้องผิดหวัง เมื่อได้รับรู้ว่า อ่าวพร้าวที่เบิร์ด ธงไชย ถ่ายปกเทปนั้น จริงๆ แล้วไม่มีบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวเลย มีแต่หมู่บ้านชาวประมง

         "ว้า แย่เลยฮะ แจ๊ส อดถ่ายรูปเลย"

         แจ๊สบ่น แต่หน้ายิ้มมีความสุข ดูไม่แย่อย่างที่ปากว่า มือก็จับแกว่งอยู่กับมือเอกตลอดเวลา

         "ไม่เป็นไรน่า ไว้ค่อยเดินไปถ่ายรูปเฉยๆ ก็ได้" จิวบอก ซึ่งตอนนี้จิวกำลังยืนกอดไหล่ต้นข้าวอยู่ข้างหลัง ทำหน้าแบบสุขล้นปรี่

         "งั้นเราเอายังไงกันดี ต้องหาที่พักให้ได้ก่อนค่ำนะ ไม่งั้นมืดมองไม่เห็นทางเลย" เอกแนะนำ เพราะเคยมาครั้งหนึ่งแล้ว

         "แจ๊สอยากไปหาดที่มีสะพานไม้ยื่นลงไปฮะ แจ๊สชอบฮะ" แจ๊สออกความเห็นอีก

         คราวนี้ต้นข้าวเห็นด้วย "เออ ดีๆ ชอบเหมือนกัน ไปกันนะจิว" ต้นข้าวเอามือเขย่าแขนจิวที่กอดอยู่บนไหล่ตัวเอง

         "ไปสิ ไปขึ้นรถสามล้อสกายแล็ปบนเกาะนะ มันไกลจากนี่มาก เดินแบกของไม่ไหวหรอก" เอกเตรียมหยิบข้าวของ

         .......................

         อีกครึ่งชั่วโมงกับการนั่งรถสกายแล็ปบนเกาะ หัวสั่นหัวคลอนกันมา ทั้งเนิน ทั้งลูกรัง และท้องร่อง จนแจ๊สที่นั่งหน้าดำหน้าแดงอยู่ท้ายรถ แทบจะขอลงไปอ้วก

         ทั้งหมดก็มาถึงด้านหลังของอ่าววงเดือน

         "ต้องลงตรงนี้น้อง รถเข้าไม่ถึงล่ะ น้องเดินตัดหาดนี้ไปจนสุดนะ ข้ามเนินทางซ้ายนั่นไป จะถึงหาดลุงหวัง ที่มีสะพานยื่นๆ นั่นแหล่ะ" น้าคนขับรถตะโกนบอก

         ตอนนี้สี่หนุ่ม ยืนอยู่ใต้ร่มมะพร้าว ลมทะเลพัดเย็น มองออกไปหน้าหาด เห็นทรายสีอ่อนละเอียด ตีวงสวยยาวออกไปไกลทั้งทางด้านซ้ายและขวา ทอดโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว สมกับชื่อ "อ่าววงเดือน"

         บนหาดมีบ้านพักกระต๊อบหลังเล็กๆ ซุกตัวแอบตามพุ่มไม้ห่างๆ กัน สวย เงียบ สงบ และบริสุทธิ์ แดดบ่ายส่องมาจากทางด้านหลัง ทำให้น้ำทะเลที่กำลังตีคลื่นอยู่ พราวระยับเหมือนประกายเพชร สามารถมองทะลุน้ำทะเลสีฟ้าใสลงไปเห็นพื้นทรายข้างล่างขาวจัดเลยจากระยะไกล

         "สวยว่ะ" ใครคนหนึ่งพูดเบาๆ ออกมา

         "ป่ะ เดินไปต่อกัน" จิวเรียกเพื่อน

         กว่าจะทุลักทุเลแบกของข้ามหาดกันมา จิวและต้นข้าวต้องช่วยกันสลับเปลี่ยนเป็นคนแบกถังน้ำโพลาริสกันหลายรอบ พื้นทรายขาวเนียนละเอียด ย่ำลงไปบนพื้นทรายจะเกิดเสียงเสียดสีกับเท้าดัง บึ่ด! ๆๆ ในทุกก้าวย่ำ จนมาถึงหาดลุงหวัง มองเห็นสะพานไม้ที่แจ๊สและต้นข้าวอยากมา อยู่ไม่ไกล

         "นี่แหล่ะ ที่ประเทศชาติต้องการ"

         ต้นข้าวอุทาน พร้อมปล่อยถังน้ำโพลาริสลงกับพื้นทรายดังปุ่ก! ตาเป็นประกายแวว จนจิวเห็นก็อดแซวไม่ได้

         "งั้นคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนในห้องนะ มานอนบนสะพานนี่ล่ะ"

         "มานอนด้วยกันไหมล่ะ" ต้นข้าวหันมายิ้มกว้าง หล่อ ใส ฟันขาวแวววาวเท่ากับประกายน้ำทะเลตอนนี้

         "มานอนนับดาวกัน" ต้นข้าวมองหน้าจิวโดยเฉพาะ

         จิวเห็นหน้าต้นข้าว ใส และยิ้มมีความสุขแบบนี้ ก็นึกอยู่ในใจ...

         --อย่าว่าแต่ดาวเลย ถ้าต้นข้าวจะเอาอ่าววงเดือนเมื่อกี้ทั้งอ่าว จิวก็จะขุดมาให้--


--------------------------------


https://www.youtube.com/watch?v=Ks2CoC4DKbE
*พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ - ช่างมันฉันไม่แคร์  [Official Audio]

         ช่างมันฉันไม่แคร์ ภาพยนตร์ที่เข้าฉายในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ กำกับโดย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล (หม่อมน้อย) นำแสดงโดย สินจัย หงษ์ไทย และ ลิขิต เอกมงคล  เป็นภาพยนตร์ในแนวสะท้อนสังคม โดยจับเอางานอาชีพที่สังคมรังเกียจ มาสะท้อนให้เห็นถึงความเหลวแหลก และความจำเป็นของคนที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดอยู่ในเมืองหลวง



         *เกมส์ปลาหมึก (Octopus : Game & Watch) เกมส์กดของบริษัท Nintendo วางจำหน่ายครั้งแรกในเดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๒๔




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 03:13:42 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คึกคักตามจิวและ อยากไปเที่ยวเกาะเสม็ดด้วย
วัยหนุ่มสาวนี่ช่างน่ารื่นรมย์ซะจริง
พ่อจิว ทันสมัยมาก ฉลาดด้วย
(ไม่มีสิ่งใดในชีวิตที่น่ากลัว  มีแต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ)
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
อ่านตอนนี้ในช่วงครึ่งแรก
คนอ่านนั่งอมยิ้ม แต่มีน้ำชื้นรื้นขึ้นในลูกตา
ยังงี้นี่เอง..ที่เรียกว่า อ่านไปซึ้งไป
น้ำตาไหลแต่อิ่มความสุข

มีสิ่งใด จะยิ่งใหญ่ ไปกว่าพ่อ
มีคนไหน ไม่ร้องขอ เคยท้อไหม
ทุกสิ่งทำ เพื่อให้ลูก สบายใจ
ขอน้อมไหว้ หมอบกราบ ราบที่เท้า

รักพ่อนะ

ป้อล่อ..ตอนนี้ไม่ได้เม้นท์ถึงจิว+ต้นข้าว อ่ะ
ขอซาบซึ้งในความรักของพ่อ..ยิ่งใหญ่มาก
หุหุ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

ปลื้มคุณพ่อ อารมณ์แบบ จอมยุทธขี้เมา55
สองคนนี้เกิดมาโชคดี มีพ่อแม่ที่รักและเข้าใจ

ปล ตอนนี้เรานั่งเรื่องไปสังเกตการณ์ที่เสม็ดแล้ว มาไวไวเถอะะะะะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
   จิว ต้นข้าวเกี่ยวก้อยกันเดิน 555 พ่อจิวก็รู้แล้ว สบายเลยสิ
  รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
เขาว่ากันว่า ไปเสม็ดเสร็จทุกราย
จริงหรือเปล่าค่ะพี่จิว

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
คึกคักตามจิวและ อยากไปเที่ยวเกาะเสม็ดด้วย
วัยหนุ่มสาวนี่ช่างน่ารื่นรมย์ซะจริง
พ่อจิว ทันสมัยมาก ฉลาดด้วย
(ไม่มีสิ่งใดในชีวิตที่น่ากลัว  มีแต่สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ)
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

= อยากย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกจัง ไม่ต้องคิดมาก โลกนี้เป็นของเรา  :กอด1:


อ่านตอนนี้ในช่วงครึ่งแรก
คนอ่านนั่งอมยิ้ม แต่มีน้ำชื้นรื้นขึ้นในลูกตา
ยังงี้นี่เอง..ที่เรียกว่า อ่านไปซึ้งไป
น้ำตาไหลแต่อิ่มความสุข

มีสิ่งใด จะยิ่งใหญ่ ไปกว่าพ่อ
มีคนไหน ไม่ร้องขอ เคยท้อไหม
ทุกสิ่งทำ เพื่อให้ลูก สบายใจ
ขอน้อมไหว้ หมอบกราบ ราบที่เท้า

รักพ่อนะ

ป้อล่อ..ตอนนี้ไม่ได้เม้นท์ถึงจิว+ต้นข้าว อ่ะ
ขอซาบซึ้งในความรักของพ่อ..ยิ่งใหญ่มาก
หุหุ

= รักพ่อเช่นกันฮะ  :กอด1:


:L2: :pig4:

ปลื้มคุณพ่อ อารมณ์แบบ จอมยุทธขี้เมา55
สองคนนี้เกิดมาโชคดี มีพ่อแม่ที่รักและเข้าใจ

ปล ตอนนี้เรานั่งเรื่องไปสังเกตการณ์ที่เสม็ดแล้ว มาไวไวเถอะะะะะ

= แต่คนเขียนไม่อยากให้ถึงตอนเกาะเสม็ดเลยอ่า มันเป็นตอนสุดท้ายของช่วงมัธยมแล้วฮะ   :hao5:


:mew3: :mew3: :mew3:

= ขอบคุณมากนะฮะ


   จิว ต้นข้าวเกี่ยวก้อยกันเดิน 555 พ่อจิวก็รู้แล้ว สบายเลยสิ
  รออ่านต่อคับ

= สบายใจล่ะ แอบเกี่ยวก้อยกันได้ อิอิอิอิ


เขาว่ากันว่า ไปเสม็ดเสร็จทุกราย
จริงหรือเปล่าค่ะพี่จิว

= อยากรู้เหมือนกันฮะ 55555+


....................


และขอบคุณผู้อ่านท่านอื่นๆ ทุกท่านด้วยนะฮะ


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 04:00:53 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
 :z13: คู่หวาน อิอิ ไปเสม็ดจะเสร็จทุกรายรึป่าววว :hao6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สองคู่ ชู้ชื่น
ทะเล หาดทราย
สายลม สองเรา :katai2-1:
จิว ต้นข้าว / เอก แจ๊ส  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
สมัยก่อนลำบากจริงๆ แม้ปัจจุบันถนนดี รถราก็สะดวกสบายกว่าแต่ก่อนแต่ก็เดินทางด้วยรถเมล์โดยสารก็ 5-6ชม เช่นเดียวกัน 555
 ไหนว่าจะนอนบนสะพานกันไงต้นข้าว เวลานอนจะกอดกันมั้ยอ่ะ ฮ่าๆ รออ่านต่อคับ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เสร็จดิ
ยังไงก็ต้องเสร็จ

ไม่งั้นจะเสียเที่ยว เสียชื่อเกาะ

--ไปเสม็ดเสร็จทุกราย--
ฮ่าฮ่า

ป้อล่อ..น้ำทะเลยังรู้สึกว่าหวานเลย
อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

มาม่า เพื่อนคู่ใจ คงจะหวานมาก พอพอ กับน้ำทะเล
อยากไปเที่ยวบ้างงงงง

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0
:กอด1:

= ขอบคุณมากนะฮะ   :กอด1:


:z13: คู่หวาน อิอิ ไปเสม็ดจะเสร็จทุกรายรึป่าววว :hao6:

= ไม่น่าจะรอดนะฮะ อิอิอิอิอิ


สองคู่ ชู้ชื่น
ทะเล หาดทราย
สายลม สองเรา :katai2-1:
จิว ต้นข้าว / เอก แจ๊ส  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

= น่ารักที่สุดเนอะ   :mew1:


สมัยก่อนลำบากจริงๆ แม้ปัจจุบันถนนดี รถราก็สะดวกสบายกว่าแต่ก่อนแต่ก็เดินทางด้วยรถเมล์โดยสารก็ 5-6ชม เช่นเดียวกัน 555
 ไหนว่าจะนอนบนสะพานกันไงต้นข้าว เวลานอนจะกอดกันมั้ยอ่ะ ฮ่าๆ รออ่านต่อคับ

= คนนับดาวกับแฟนสองคนบนสะพาน คงจะมีความสุขน่าดูนะฮะ   :hao6:


เสร็จดิ
ยังไงก็ต้องเสร็จ

ไม่งั้นจะเสียเที่ยว เสียชื่อเกาะ

--ไปเสม็ดเสร็จทุกราย--
ฮ่าฮ่า

ป้อล่อ..น้ำทะเลยังรู้สึกว่าหวานเลย
อิอิ

= ความเค็มของเกลือในทะเล ต้องแอบไปร้องไห้กันเลยทีเดียว


:L2: :pig4:

มาม่า เพื่อนคู่ใจ คงจะหวานมาก พอพอ กับน้ำทะเล
อยากไปเที่ยวบ้างงงงง

= ชีวิตวัยรุ่น ไปเที่ยวกันมันน่าอิจฉาแท้ๆ เลยเนอะ   :-[


..................


และขอบคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยนะฮะ


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ กำปงพิราเทวี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-0

MBK❤lover





ตอนที่ ๒๑ : เกาะเสม็ดเสร็จทุกราย


         เอกเดินไปติดต่อที่พัก ได้เป็นกระต๊อบสองหลัง ฝาผนังเป็นไม้ระกำ หลังคามุงจาก ห่างกันพอสมควร มีบ่อบาดาลน้ำกร่อยสำหรับตักอาบอยู่ระหว่างกลางของสองหลัง และห้องสุขารวมอยู่ด้านหลัง

         กระต๊อบที่พัก อยู่ติดชายหาด มีชั้นเดียว ห้องเดียวโล่งๆ กลางห้องมีแค่ฟูกนอน หมอน ผ้าห่ม มุ้ง ไม่มีพัดลม ในราคาคืนละ ๗๐ บาท มีไฟปั่นให้ใช้แค่ ๖ โมงเย็นถึง ๔ ทุ่ม ถ้าจะซื้อน้ำจืดอาบ ต้องซื้อเพิ่มถังละ ๕๐  บาท
 
         "งั้นเอากระเป๋าไปเก็บในห้องก่อน" จิวแบกเป้เข้าไปในกระต๊อบด้านหน้า

         "แล้วรีบออกมานะ จะพาไปที่นึง สวยมากๆ" เอกตะโกนบอก ขณะช่วยแจ๊สลากกระเป๋า

         จิวกับต้นข้าวเลือกกระต๊อบที่ด้านหนึ่งคร่อมอยู่บนโขดหิน และด้านหน้ายื่นไปในทะเล ไม่ไกลจากสะพานไม้หน้าหาด

         ไม่นานเอกก็เดินมาเรียกจิวและต้นข้าว ให้เดินไปที่หลังเกาะกัน เพราะจะไปนั่งดูพระอาทิตย์ตก และใช้เวลาเดินไปนานพอสมควร

         .......................

         หลังเกาะ เป็นหน้าผาสูง จุดที่ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตก เป็นหน้าผาที่ยื่นล้ำออกไป มองเห็นทะเลเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา ไม่มีอะไรบัง พื้นน้ำตอนนี้ราบเรียบราวกับกระจก สงบ นิ่ง

         จิวกับต้นข้าวเลือกมุมนั่งบนก้อนหินก้อนหนึ่งใต้ต้นไม้ใหญ่ จิวนั่งบนหินแล้วเอนหลังพิงต้นไม้ ส่วนต้นข้าวนั่งคร่อมข้างหน้าจิว เอนหลังพิงลงไปที่อกจิว หัวซบตรงซอกไหล่ จิวเอาสองมือขึ้นมากอดต้นข้าว และต้นข้าวก็เอามือมากุมแขนจิวอีกที ทอดสายตาไปที่พื้นน้ำข้างล่าง

         ท้องฟ้าเย็นวันนั้น ใส มีเมฆลอยเป็นระยะ พระอาทิตย์ซ่อนอยู่หลังก้อนเมฆ ปล่อยแฉกรัศมีเป็นเส้นลอดปุยเมฆนำลงมาก่อน

         แล้วตะวันดวงกลมสีส้มจัดก็ค่อยๆ อัสดงลงมาจากหลังเมฆ หย่อนตัวต่ำลงไปบนผิวน้ำ มีเรือประมงลำเล็กๆ ลอยลำผ่านตรงหน้าพอดี แสงส้มสวยย้อมน้ำทะเลทั้งผืน ทิ้งประกายสะท้อนสีทองเต้นยิบๆ เป็นเกล็ดไหววูบ

         หนุ่มน้อยสองคน ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆ ระหว่างกันตอนนี้ ร่างทั้งสองที่เหมือนรวมเป็นร่างเดียวกัน รวมทั้งภาพราวกับสวรรค์ที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทำให้จิวและต้นข้าวปล่อยอารมณ์จมดิ่งไปในความสุขอย่างถึงที่สุด


--------------------------------


         สามทุ่มกว่า เสียงเกากีตาร์ดังมาแบบเป็นเพลงบ้าง ไม่เป็นเพลงบ้าง จากเอก ผู้ซึ่งนั่งทำเท่อยู่บนหาดทราย มีแจ๊สนั่งตบมือเปาะแปะตาม

         หลังจากที่กลับกันมาจากไปดูพระอาทิตย์ตกแล้ว และอาบน้ำที่บ่อข้างที่พักเสร็จ ทั้งหมดก็มาล้อมวงกันบนหาดทรายหน้ากระต๊อบ ก่อกองไฟกองเล็กๆ ต้มมาม่าหลายซองด้วยหม้อที่เอามาด้วย

         "ป้อนหน่อยสิ" เสียงจิวแทรกขึ้นมา

         ต้นข้าวกำลังตักมาม่าที่ยังไม่ทันปรุงรส แบ่งลงถ้วยเล็กๆ ก็เงยขึ้นไปมองหน้าจิว

         "กินเองไม่เป็นหรือไง"

         ปากพูด แต่เจ้าตัวก็เอาตะเกียบคีบเส้นขึ้นมา ควันลอยฉุย แล้วเอาปากบรรจงเป่าให้หายร้อนก่อน

         "เอ้า...อ้ำ..." แล้วคีบยื่นไปให้จิว

         จิว จ้องตาต้นข้าว อ้าปากรอ ต้นข้าวก็มองตาจิว แล้วค่อยๆ ส่งเส้นมาม่าด้วยปลายตะเกียบเข้าไปที่ปากจิว เอาตะเกียบค่อยๆ ช่วยคีบส่งจนปลายเส้นสุดท้ายเข้าไปในปากจนหมด จากนั้นยกนิ้วโป้งขึ้นมาปาดเช็ดรอยเปื้อนที่ริมฝีปากจิวให้

         จิวเอามือขึ้นขยี้ผมต้นข้าว ยิ้มหยีไปถึงลูกตา

         ต้นข้าวยิ้มตอบ แล้วเอาตะเกียบคีบมาม่าเป่าคลายความร้อน ใส่ปากตัวเองบ้าง

         --ยามไร้ เด็ดดอกหญ้าแซมผม
         หอมบ่หอม ทัดดมดั่งบ้า--
         (ลิลิตพระลอ)


         แม้ไม่ใช่อาหารรสเลิศเหมือนในกรุงเทพฯ แต่เมื่ออยู่บนเกาะสงบกลางทะเล ท่ามกลางเสียงคลื่นลม และได้อยู่เคียงข้างกับคนพิเศษ  อาหารธรรมดาที่กระจอกงอกง่อย มีเส้นเปล่าๆ อันจืดชืด ก็กลายเป็นของที่มีรสชาติเหมือนอาหารทิพย์ขึ้นมาทันที

         ......................

         "กินกันเสร็จหรือยัง" เสียงเอกเรียก "มานี่ มาลองนี่กัน ของดีเว้ย"

         จิวกับต้นข้าวหันไป เอกยกขวดเหล้าแบน แสงโสมเหรียญทอง ขึ้นมาอวด

         "หึ๋ย เอาเหล้ามาด้วยเหรอ" ต้นข้าวอุทาน

         "แจ๊สหยิบออกมาจากบ้านด้วยฮะ ของพ่อแจ๊สฮะ" แจ๊สเริ่มมีหน้าสีเรื่อๆ คงจะรินชิมไปบ้างแล้ว

         "มาเหอะ ขวดนิดเดียวเอง ลองดู" เอกรินเหล้าเปล่าๆ ลงในฝาขวด แล้วส่งให้ต้นข้าว

         "อี๋..." ต้นข้าวหลับตาปี๋ เมื่อเหล้าแสงโสมฝาแรก ผ่านลงคอไป "ขม!!"

         จิวส่งแก้วน้ำเปล่าให้ต้นข้าว "กินน้ำตามไปสิ" แล้วจิวก็คว้าขวดแสงโสมจากมือเอกไปรินใส่ฝากระดกลงคอบ้าง

         หลังจากที่ผลัดกันกระดกเหล้าคนละหลายฝา จนขวดแบนนั้นเกือบหมด  ก็มีแสงไฟฉายวอบแวบมาจากหน้าหาดทราย

         "น้องๆ จะสี่ทุ่มแล้ว ถ้ากินกันเสร็จแล้ว อย่าลืมดับกองไฟบนหาดทรายนะ"

         ทั้งหมดเงยขึ้นไปตามเสียง ก็พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ที่มาเดินตรวจหน้าหาดต่างๆ ตามปกติ

         "ว๊า...หมดเวลาสนุกแล้วฮะ" แจ๊สทำหน้ายู่ยี่ แล้วหันไปคล้องแขนเอก

         "งั้นเราเข้าห้องนอนกันเถอะฮะ"

--------------------------------

         

*บรรยากาศของเกาะเสม็ด และกระต๊อบที่พักบนเกาะ ในราวปี พ.ศ. ๒๕๒๕-๒๕๒๙


         "จิวกับต้นข้าว ยังไม่เข้านอนเหรอ" เอกเริ่มลุก ปัดทรายตามตัวออก

         "อื่อ นั่งอีกแป็บนึงว่ะ" จิวหันมาบอก

         "นั่งทำไมเนี่ย ดับกองไฟแล้วมืดตึบ ยุงก็เยอะ ไม่มีอะไรทำซะหน่อย ไปนอนเถอะ จะได้ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น" เอกเสนอแนะ

         เอกเห็นจิวและต้นข้าวยังไม่มีทีท่าจะลุกตาม ก็ยื่นเครื่องเล่นเทป Sony Walkman ที่ห้อยอยู่ตรงเอว ส่งให้จิว

         "เอ้า งั้นเอานี่ไว้ เผื่อนั่งเบื่อๆ จะได้เปิดฟัง มีเทปค้างอยู่ในนั้นม้วนนึงมั้ง เพลงของใครไม่รู้" เอกส่งให้แล้วเดินจูงมือแจ๊สกลับไปที่พักของตัวเอง

         จิวรับเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทมา แล้วส่งให้ต้นข้าว ซึ่งนั่งยิ้มตาวาวเป็นประกายในความมืด เหมือนดวงดาวที่พราวบนท้องฟ้าเหนือเกาะเสม็ดตอนนี้

         "เทปเพลงอะไรนี่ ลองเปิดฟังกัน" ต้นข้าวเปิดฝาเครื่องเล่นเทปออก แล้วดึงเทปคาสเซ็ทในนั้นขึ้นมาอ่านชื่อศิลปิน โดยอาศัยแสงจากหลอดไฟเล็กๆ ที่ฝาเครื่องเล่นเทป

"Whitney Houston : 1985"
(วิตนีย์ ฮูสตัน : ๒๕๒๘)

         "ใครวะ ไม่เคยได้ยินชื่อ" จิวทำหน้างงๆ

         "นักร้องฝรั่งใหม่มั้ง ไม่เคยฟังเหมือนกัน เทปนี่ออกได้ปีกว่าแล้ว" ต้นข้าวเดา

         "ไปนอนฟังกันในห้องกันเถอะ ยุงเริ่มเยอะจริงๆ ด้วย" จิวเอามือเกาที่ขา

         "มาๆ วิ่งแข่งกัน ใครไปถึงห้องก่อน" ต้นข้าวหัวเราะคิกคัก แล้วออกวิ่งนำไปก่อน ทรายกระจายปลิวตามหลัง

         "โหย...รอด้วยยยย"

         จิวควานหารองเท้าแตะ กว่าจะหาเจอ แล้ววิ่งตามต้นข้าวไป พอเข้ามาถึงห้อง ก็เห็นต้นข้าวลงไปนอนแผ่บนฟูกที่นอนแล้ว

         จิวถอดเสื้อออก ตามความเคยชินก่อนนอน แล้วล้มตัวลงไปนอนข้างๆ ต้นข้าว ตอนนั้นต้นข้าวกำลังยุกยิกๆ อยู่กับเครื่องเล่นเทปเครื่องนั้น

         จิวกดมือต้นข้าวไว้

         "อย่าพึ่งฟังเพลงเลย คุยกันก่อนสิ" จิวยิ้มๆ หันไปมองต้นข้าว

         ต้นข้าวเห็นจิวถอดเสื้อ ก็ถามว่า "ร้อนหรือ เมาหรือเปล่านี่" ต้นข้าวถามจิว

         "เมาอะไรล่ะ กินไปนิดเดียวเอง แบ่งกันตั้งสี่คน"

         "หน้าแดงขนาดนี้ ไหน ดมดูหน่อยสิ มีกลิ่นเหล้าเยอะไหม" ต้นข้าวหัวเราะร่วน

         จิวพลิกตัวหันไปทางต้นข้าว ซึ่งต้นข้าวก็นอนตะแคงตัวหันมาทางจิวอยู่แล้ว

         "มาเลย มาดมดูสิ" จิวท้า แถมหลับตา อ้าปาก รอให้ต้นข้าวมาพิสูจน์ แต่รออยู่สักครู่ คนที่บอกจะดม ก็ไม่ดมสักที จึงลืมตาขึ้น

         "ไม่กล้าใช่ไหม งั้นมานี่ จะให้ดมเอง"

         จิวพลิกตัวขึ้นไปนอนทับบนตัวต้นข้าว หน้าห่างกันคืบเดียว จ้องตา

         ต้นข้าวเอามือขึ้นมาจับมือจิวไว้ ไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มฟันขาว ตาใสแจ๋วอยู่อย่างนั้น

         "ต้นข้าว..." เสียงจิวกระซิบเรียก

         ต้นข้าวประหลาดใจ! เพราะแต่ไหนแต่ไรมา จิวเคยเรียกชื่อต้นข้าวว่า "แว่น" มาโดยตลอด

         "หืม..." ต้นข้าวกระซิบตอบ

         "มีความสุขไหม ที่มาเที่ยวด้วยกันกับจิวนี่"

         จิวจ้องตาต้นข้าว ยิ้มพราวไปทั้งหน้า จากแสงหลอดไฟเล็กๆ มัวๆ บนเพดานห้องนั้น ทำให้เกิดแสงเงาแปลกตา ขับให้โครงหน้าที่หล่อใสอยู่แล้วนั้น ดูดีมากเป็นพิเศษในคืนนี้

         "มีความสุขมากสิจิว แล้วจิวล่ะ" ต้นข้าวกระซิบถามบ้าง

         จิวยิ้ม ไม่ตอบ แต่กลับประทับจูบลงไปที่ริมฝีปากต้นข้าว

         ต้นข้าวตอบรับจูบนั้น ขยับตัวขึ้นเพื่อให้ปากไปแนบสนิทกันมากขึ้น ลมหายใจแรงร้อนผ่าว มือที่กุมกันอยู่ ยิ่งกำแน่นขึ้น

         จิวขบริมฝีปากต้นข้าวหลายครั้ง เหมือนจะดื่มด่ำความสุขในครั้งนี้ให้ถึงที่สุด ทั้งคู่สบสายตากันตลอดเวลา จิวจูบลึกๆ ลงไปอีกหลายครั้ง แล้วถอนปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง กระซิบต้นข้าว

         "จิวมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับต้นข้าว"

         ต้นข้าวโอบมือไปกอดจิวรั้งตัวกลับลงมา แล้วจูบไปที่ริมฝีปากจิวอีกครั้ง จิวจูบตอบกลับช้าๆ อย่างดูดดื่มและลึกซึ้ง

         มือของต้นข้าวและจิว เริ่มเลื่อนลงไปส่วนล่างของกันและกัน เสื้อ กางเกงขาสั้น และกางเกงในของทั้งคู่ ถูกรูดออกไปจากตัว เสียงลมจูบ สลับกับเสียงกระซิบกระซาบ จากร่างเปลือยของเด็กหนุ่มสองร่าง ลอยอึงอลอยู่ในห้องเล็กๆ นั้น

         สี่ทุ่มตรง เครื่องปั่นไฟหยุดทำงาน ไฟดวงเดียวในห้องนั้นก็ดับมืดลง

         เหลือแต่เสียงกระซิบถ้อยคำรำพัน และเสียงลมหายใจที่ร้อนแรงลอยแผ่วออกมา

         ทุกสิ่งที่ดำเนินต่อในความมืดนั้น เป็นไปตามธรรมชาติ เท่าที่เด็กหนุ่มพึ่งหัดเรียนรู้สองคนจะพึงปฏิบัติให้กันได้ ไม่มีอะไรเคอะเขินหรือติดขัด ทุกสิ่งไหลลื่น สุขสมไปตามที่มันควรจะเป็น

         เสียงออเซาะจากในห้อง ที่ส่งออกมาจากใจของคนสองคน แม้จะเบาแค่เพียงกระซิบ...

         แต่ความสุขมหาศาลที่ก้องกังวานในหัวใจ มันเหมือนจะส่งคลื่นพิเศษ ให้ดังสะเทือนมากกว่าเสียงลมทะเลที่พัดมากระทบผนังไม้ระกำของกระต๊อบที่นอนอยู่จนสั่นโยก

         เสียงซ่านรำพันแผ่ว เดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ เหมือนคลื่นทะเลวัยหนุ่มที่กำลังคึก ผลัดกันม้วนโยนตัวขึ้นๆ ลงๆ จนสุดแรง แล้วทิ้งตัวแตกฟองซัดสาดซู่สู่ฝั่งริมหาดหน้าอ่าววงเดือน

         และเสียงครวญคร่ำ เปรียบเหมือนเสียงจิ้งหรีดเรไรที่พึ่งได้รับน้ำค้างหยาดแรก ร้องกรีดลั่นบนชายหาด ดังข้ามดงต้นเสม็ดแดง ต้นเสม็ดขาว ต้นไม้ประจำถิ่นของเกาะ ดังสะเทือนข้ามทะเลไปถึงเกาะมันนอก-เกาะมันใน โน่นเลยทีเดียว...

 
--------------------------------

 
         กว่าลมที่พัดกระแทกกระต๊อบจนโยกสั่นจะสงบลง และกว่าทะเลจะหยุดซัดแตกฟองขาวขุ่นที่ปลายหัวคลื่นหลายต่อหลายรอบ  เวลาก็เข้าไปเกือบตีห้ากว่าๆ

         ต้นข้าวเอื้อมหยิบนาฬิกาข้อมือที่หัวนอนขึ้นมาดู แล้วสะกิดเรียกจิว ที่นอนเปลือยหายใจหอบ และกอดต้นข้าวอยู่

         "จิว ออกไปนั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ปลายสะพานกัน"

         จิวยิ้มตอบ หันไปหอมแก้มต้นข้าวฟอดใหญ่ แล้วทำท่าบิดขี้เกียจ

         "ไม่อยากออกไปเลย เพลีย! อยากนอนอยู่แบบนี้ตลอดไป"

         "อย่ามา..." ต้นข้าวลุกขึ้นมานั่ง หน้าหล่อมีสีระเรื่อขึ้นบนใบหน้า ดึงมือจิวให้ลุกขึ้นตาม

         จิวลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าอย่างเกียจคร้าน ก่อนออกจากห้อง จิวหยิบเครื่องเล่นเทปติดมือออกมาด้วย


--------------------------------

 
ปลายสะพานไม้ที่ทอดยาวไปในทะเล
หาดลุงหวัง

 


         ต้นข้าวกับจิว นั่งห้อยขาเคียงกันอยู่ที่ปลายสะพาน รอเวลาพระอาทิตย์ขึ้น ตอนนั้นฟ้ายังมืดอยู่ ทะเลสงบ ดวงดาวพราวระยับอยู่บนท้องฟ้า

         จิวเอาหูฟังข้างหนึ่งใส่หูตัวเอง ส่วนอีกข้างหนึ่งเอาไปใส่หูต้นข้าว แล้วกดเปิดเพลงฟังจากเทปในเครื่องนั้น

         ทั้งสองนั่งฟังเพลงนิ่งๆ อยู่ครู่ใหญ่ๆ แล้วต้นข้าวก็หันมาหาจิว

         "จิว" ต้นข้าวเรียก "ตลอดสามปีมานี่ เราไม่เคยห่างจากกันเลยใช่ไหม"

         "ใช่" จิวหันมายิ้มให้ต้นข้าว

         "แล้วจิวคิดว่ายังไงอะ ที่เราไม่ได้เลือกเอ็นทรานซ์คณะเดียวกัน แถมยังเลือกคนละมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ" ต้นข้าวถามจิว

         จิวนั่งนิ่งไปสักครู่ ใจหวนนึกไปถึงคำพูดของป๊าเมื่อสองสามเดือนก่อน

         --เลือกเอาที่ชอบเรียนเลย ตามสบาย อั๊วหาเงินให้ลื้อเอาไว้เรียนต่อยาวๆ แล้ว เรียนไปเลยให้สูงๆ ป๊าชอบเห็นคนฉลาดๆ--

         "ไม่เป็นไรนี่ต้นข้าว เราก็เลือกเรียนที่ตรงกับตัวเราดีกว่า ถึงจะเรียนคนละที่กัน ไกลกัน แต่เราก็เป็นแฟนกันแล้ว ยังไงก็ต้องมาเจอกันอยู่ดี" จิวตอบพร้อมรอยยิ้ม

         ต้นข้าวเองก็กำลังนึกย้อนไปถึงวันที่นั่งคุยกับน้าเดียร์บนดาดฟ้า

         --ทางบ้านก็คงช่วยได้แต่ให้การศึกษาเธอให้ดีที่สุด เธอก็ตั้งใจเรียน และเลือกหนทางในการเรียนวันข้างหน้า ให้ดี ให้มั่นคงพอกับชีวิตเธอก็แล้วกัน--

         ใช่เนอะ หนทางวันข้างหน้า มันต้องทำให้ชีวิตเราเติบโตและแข็งแรงก่อน เรื่องอื่นจะตามมาทีหลัง

         ครอบครัวให้โอกาส และการ "ยอมรับ" ในสิ่งที่บางคนอาจไม่มีวันได้รับเลยชั่วชีวิต

         แล้วทำไมเราจะทำในสิ่งที่ครอบครัวเราตั้งความหวังไว้ไม่ได้ล่ะ

         ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเราก่อน

         "อืม" ต้นข้าวมองไปบนฟ้าข้างหน้า "เราก็ต้องมาเจอกันอยู่ดี"

         จิวเอียงหัวซบไปที่ต้นข้าว "ไว้เรากลับกรุงเทพ เราไปจูงมือกันเดินเล่นที่มาบุญครองอีกนะ"


         ..................


         ปลายฟ้าเริ่มมีแสงรำไร ใกล้เช้าขึ้นทุกที ลมสงบเงียบกว่าเดิม เหมือนทุกสรรพสิ่งกำลังรอเริ่มต้นวันใหม่

         จิวกดปุ่มเพิ่มเสียงในเครื่องเล่นเทป

         เพลงของ "วิตนีย์ ฮูสตัน" ที่กำลังเปิดอยู่ ดังลอดหูฟังออกมาแผ่วๆ

         "The greatest love of all
         Is easy to achieve
         Learning to love yourself
         It is the greatest love of all"

         เพราะความรักที่แสนยิ่งใหญ่

         ได้บังเกิดขึ้นแล้วกับชีวิตฉัน

         รักอันมหัศจรรย์นั้นแสนง่ายที่จะได้มา

         "แค่เรียนรู้ที่จะรักตัวเองก่อน"

         นี่แหละความรักที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่ง


         .................


         จิวหันไปมองต้นข้าว


         "จิวรักต้นข้าวนะ"


         "ต้นข้าวก็รักจิวนะ"


--------------------------------


         ดวงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่กำลังขึ้น เด็กหนุ่มสองคน กำลังจะก้าวผ่านเข้าช่วงเวลาใหม่ของชีวิต

         วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็สุดรู้ หากแต่สิ่งที่เคยสัญญากันไว้แต่หนหลัง คงจะเหมือนรากเสาเข็มของอาคารใหญ่ ที่ตอกหยั่งลึกลงไปในจิตใจของทั้งสองอย่างมั่นคง และพร้อมจะแบกรับสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังจะเข้ามา...

         ...ในชีวิตที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง และแปรเปลี่ยนไปตามการขึ้นลงของดวงตะวัน



--- จบภาคมัธยม ---



--------------------------------


https://www.youtube.com/watch?v=IYzlVDlE72w
*Whitney Houston - Greatest Love Of All


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2017 03:14:44 โดย กำปงพิราเทวี »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จิว ต้นข้าว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รอสองหนุ่ม ภาคมหาวิทยาลัย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :เฮ้อ:

เราควรจะมีความสุขกับตอนนี้นะ เฮ้อออ
มัวแต่กังวลเรื่องอนาคตที่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็นะ
เพื่ออนาคต

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
เป็นคนเข้าใจยากค่ะ ขอคำอธิบายโดยละเอียดของ "เท่าที่เด็กหนุ่มพึ่งหัดเรียนรู้สองคนจะพึงปฏิบัติให้กันได้"  :o8:

เชื่อว่าครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญในการหล่อหลอมเด็นคนหนึ่งให้เติบโต
ครอบครัวที่เข้าใจ และเคารพการตัดสินใจของสมาชิก จะทำให้เด็กมีทักษะและกล้าตัดสินใจ

เราจะโตไปด้วยกันนะ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
จุฬาคว้า ปักเป้า เร่งเร้าหนี
เจ้าตัวดี แกล้งถอย หวังสอยหาง
คู่ปรับเผลอ เจอเด้า เอากลางทาง
ทั้งสองร่าง ประสานสอด ตลอดตัว

อิอิ
สนั่นครั่นครื้น..ดีแท้

ดีต่อใจ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ห๊ะ!! จบภาคมัธยม ใจหายอ่ะ ชอบความรักแบบบริสุทธ์ใจของจิว ข้าวจริงๆ ผู้แต่งบรรยายดีมากๆ ชอบการบรรยายความรักของทั้งคู่จริงๆ มันโดนใจดี และชอบที่จิว ต้นข้าว มีอะไรกันจนกระต๊อบ สั่นโยกนี่ล่ะคับ นึกภาพตาม ขำดี 555
. ภาคต่อจะรอนานมั้ยคับ อยากอ่านต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2017 13:27:38 โดย GuoJeng »

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ดีที่กระต๊อบไม่พังนะ รอภาคต่อไปค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด