ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24  (อ่าน 193995 ครั้ง)

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊◊


สารบัญ

ปราบครั้งที่1
ปราบครั้งที่2
ปราบครั้งที่3
ปราบครั้งที่4
ปราบครั้งที่5
ปราบครั้งที่6
ปราบครั้งที่7
ปราบครั้งที่8
ปราบครั้งที่9
ปราบครั้งที่10
ปราบครั้งที่11
ปราบครั้งที่12
ปราบครั้งที่13
ปราบครั้งที่14
ปราบครั้งที่15
ปราบครั้งที่16
ปราบครั้งที่17
ปราบครั้งที่18
ปราบครั้งที่19
ปราบครั้งที่20
ปราบครั้งที่21
ปราบครั้งที่22
ปราบครั้งที่23
ปราบครั้งที่24
ปราบครั้งที่25
ปราบครั้งที่26
ปราบครั้งที่27
ปราบครั้งที่28
ปราบครั้งที่29
ปราบครั้งที่30
ปราบครั้งที่31

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-02-2018 18:41:08 โดย RiRi »

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #1 เมื่อ01-01-2017 21:00:52 »

PRABZA
ปราบซ่า





มาร่วมมือกันปราบเด็กดื้อ เด็กซ่าได้แล้ววันนี้



ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #2 เมื่อ01-01-2017 21:09:10 »




ปราบซ่า
ตอน...ปราบที่1




   
[ซ่า]
เสียงโหวกเหวกโวยวายดังเซ็งแซ่ในบริเวณโรงเรียนช่างชื่อดังในเมืองกรุง จะว่าครึกครื้นก็ใช่ จะว่าน่ารำคาญก็ไม่เชิง ชินเสียแล้ว เพียงแต่วันนี้มันไม่ระรื่นหูเพราะผมกำลังเซ็ง

“แม่ง น่ารำคาญ” ผมลุกขึ้นยืน ทิ้งบุหรี่ลงกับพื้น ใช้ปลายเท้าขยี้แรงๆ ปัดเศษดินเศษฝุ่นที่ก้นสองสามที

“จะไปไหนไอ้พัช” ไอ้กานถาม ผมโคตรเกลียดผมแสกกลางของมันจริงๆเลย กวนตีนสิ้นดี

“กลับหอ เบื่อ”

“เออๆ พอเมียไม่ว่างมึงก็อารมณ์เสียตลอด”

ผมส่ายหัวไม่สบอารมณ์ “เจอกันพรุ่งนี้”

“เออ บาย เฮ้ยพวกมึง ลาเพื่อนมึงหน่อย มันจะกลับแล้ว” ไอ้กานตะโกนบอกคนอื่นๆในกลุ่มที่อยู่ในละแวกเดียวกัน

“เห้ย ทำไมกลับเร็ว” นี่ก็ไอ้ตูน หน้าตาดีที่สุดในกลุ่มละ ผมไม่อยากจะยอมรับ แต่ผมเป็นรองจากมัน เพราะแค่ผมตาโตกว่ามันที่เรียวยาวดูมีเสน่ห์

“โชคดีเพื่อน” ไอ้เตี้ยนี่ชื่อนุ๊ก ทั้งเตี้ยและป้อม แต่นิสัยดี เฮไหนเฮนั้น เป็นคนฮาๆรั่วๆ

“หงุดหงิดเมียก็อย่าไปขวิดใครกลางทางละมึง” ส่วนนี่ก็ไอ้หวาย หน้าตาดี จุดเด่นของมันคือปากหมาเกินบรรยาย อยู่ๆเดี๋ยวก็รู้ ผมมีเพื่อนสนิทอยู่แค่สี่คนที่คุยได้ นอกนั้นก็คบแค่ผ่านๆ เฮฮาบ้าง แต่ไม่ไว้ใจเท่าไอ้สี่คนนี้

“สัด” ผมด่าพวกมันก่อนจะเดินออกจากโรงเรียน เตะฝุ่นไปเรื่อยๆ หอที่อยู่ไกลจากโรงเรียนพอประมาณ แต่ก็พอเดินได้ ขี้เกียจนั่งรถ อยากใช้ความคิดตอนเดิน

ครืดดดดๆๆ

ผมล้วงเอามือถือในกางเกงมาดู ที่บ้านโทรมา ผมกดรับสาย

“ฮัลโหล”

“ซ่า แม่ให้ถามว่าวันนี้มึงจะกลับบ้านไหม” ไอ้มิวมีศักดิ์เป็นน้าผม แต่อายุน้อยกว่าผมสองปี อะไรยังไงอ่านๆไปเดี๋ยวคุณก็รู้เองนั่นแหละ

“ไม่กลับ ทำไม มีอะไร”
“เปล่า แม่ให้ถาม เขาทำแกงส้มหน่อไม้ปลาสวายของโปรดมึงด้วย จะไม่กลับมาไง” เสียงมันเง้างอดเหมือนงอน

ผมหยุดเดิน มองรถราที่วิ่งผ่านตัวผมไปคันแล้วคันเล่า ก่อนจะโบกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่วิ่งผ่านมาพอดีให้หยุดจอด

“เออ งั้นบอกแม่ว่าเดี๋ยวกูกลับ” พูดจบก็กดตัดสาย กระโดดขึ้นนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์ บอกจุดหมายปลายทางที่จะไป

ไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ถึงบ้าน บ้านผมก็ไม่ได้ไกลจากที่เรียน แต่ที่เลือกย้ายไปอยู่หอก็เพราะว่าผมอยากออกไปอยู่ส่วนตัว คนในครอบครัวผมก็ค้าน แต่ผมมันทั้งดื้อและรั้น ไม่ฟังใครหน้าไหนทั้งนั้นถ้าตัวเองต้องการอะไร สุดท้ายผมก็ดื้อแพ่งออกไปอยู่หอ โดยอยู่ห้องกับเพื่อนคนหนึ่งในเอก

“ไงซ่า เอ็งไม่คิดจะกลับบ้านกลับช่องบ้างเลยนะ” พี่แนนว่า ผมยกมือไหว้

“ก็กลับมาแล้วนี่ไง” ผมตอบ

“แม่บอกให้ไปอยู่กับแม่ก็ไม่เอา ดื้อด้านจริงๆ” พี่แนนบ่นอีกแล้ว ไม่รู้หรือไงว่าผมเบื่อ

อย่าเพิ่งสับสน พี่แนนที่ว่าก็คือแม่ของผมเอง แต่ที่ผมไม่เรียกเขาว่าแม่ก็เพราะว่า เขาไม่ได้เลี้ยงผมมา คนที่เลี้ยงผมมาคือแม่พิมพ์ หรือที่แท้จริงก็คือยายของผม

ไม่รู้สิ ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมก็เรียกเขาว่าพี่แนนมาโดยตลอด แม้ใครจะถามว่าทำไมผมไม่เรียกเขาว่าแม่ หรือพวกญาติพี่น้องบอกกับผมว่าผมควรเรียกเขาว่าแม่เพราะเขาคือแม่ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ยังยืนกรานที่จะเรียกว่าพี่แนน แล้วเรียกยายว่าแม่

มันคือความเคยชินที่เป็นมาตั้งแต่จำความได้ ให้เปลี่ยนมันยาก

และผมว่าเรียกแบบนี้ก็เหมาะสมแล้ว

“ซ่าเอ้ย คืนนี้นอนบ้านไหม” แม่ที่อาบน้ำเรียบร้อยทาแป้งหน้าขาววอกเดินโขยกเขยกออกมา ผมนั่งลงข้างพี่แนนยกมือไหว้แม่

“ไม่นอนอ่ะแม่ วันนี้มีอะไรกิน” ผมถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว

“แกงส้มปลาสวาย” แม่ตอบ แล้วก็เดินไปทำนู่นทำนี่ ผมนั่งคุยกับพี่แนนและพี่สาวอีกคนชื่อจี้ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง คือความจริงก็มีศักดิ์เป็นน้าผมแปบไอ้มิวนั่นแหละ แต่ยังไงล่ะ มันค่อนข้างซับซ้อน ผมอธิบายเลยแล้วกันแบบสั้นๆ

แม่ผม ซึ่งความจริงก็คือยาย เป็นแม่ของพี่แนน ซึ่งคือแม่แท้ๆของผม ส่วนไอ้มิวเป็นน้องพี่แนน และพี่จี้จัดเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่แนนและไอ้มิว ผมที่เป็นลูกพี่แนนจึงมีศักดิ์เป็นหลาน แต่ผมไม่เรียกพี่จี้ว่าน้า และกับไอ้มิว แน่นอน ผมเรียกมันว่าไอ้มิวนั่นแหละ เป็นอันจบการลำดับญาติ

ญาติพี่น้องผมมีหลายคน แต่พี่จี้เป็นพี่ที่ผมรักและเคารพมากที่สุด และเขาเข้าใจผมมากกว่าใคร เป็นคนที่ผมเปิดเผยความเป็นตัวเองและกล้าอ้อนมากที่สุดรองจากแม่ แต่พี่จี้ก็ชอบบ่นผมบ่อยๆว่าผมชอบเก็บเงียบไม่เปิดเผยความรู้สึก สันดานนี่น่ะ แก้ยากจนไม่อยากจะแก้

“อ่ะนี่ ของขวัญวันเกิดเรา” พี่จี้ส่งถุงของขวัญให้ ผมตาวาวเมื่อเห็นชื่อที่บนถุง

“โห ทำไมใจดีอ่ะ แพงไหมเนี่ย” ผมรับถุงของADIDASมาดู แกะกล่องออกดูของข้างใน พระเจ้า โคตรสวยเลย!

“ไม่แพงหรอก อันนี้ฝากรุ่นพี่ที่ทำงานที่ไปอเมริกาให้หิ้วมาให้” พี่จี้บอก ผมยกมือไหว้แล้วลองสวมรองเท้าคู่ใหม่ทันที

ผมไม่เคยใช้ของมียี่ห้อหรอก ถ้าจะมีก็มือสอง มีปัญญาซื้อของแพงที่ไหนล่ะ บ้านผมไม่รวย เรียกว่าจนก็ได้ แต่ผมก็ไม่อะไร มีอะไรให้ใช้ก็ใช้ แค่ไม่ต้องเดินเท้าเปล่าก็โอเค แต่ถ้าถามว่าความอยากได้อยากมีไหม มันก็ต้องมีเป็นของธรรมดาเปล่าวะ แต่ก็นะ ไม่มีก็ไม่ตาย อย่างน้อยขอให้มีข้าวกินที่บ้านให้กลับก็แล้วกัน

“เฮ้ย หาข้าวกินได้แล้ว” แม่ตะโกนบอก พี่แนนลุกขึ้นไปช่วย ผมนั่งอยู่ที่เดิมกับพี่จี้ บ้านพี่จี้อยู่เยื้องๆกับบ้านผม ใกล้ๆกันนิดเดียว แต่พี่จี้ไม่ค่อยออกมาจากบ้านหรอก เขาบอกว่าเบื่อ คนเยอะวุ่นวาย

“ซ่า สบายดีนะ” พี่จี้ถาม ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงเป็นห่วงแบบทุกครั้งที่จะถามเมื่อผมกลับบ้าน พี่จี้รู้ปัญหาในบ้านของผม เขาไม่เคยว่าในสิ่งที่ผมทำแม้จะไม่ดี เขาว่าพูดไปก็เท่านั้น ผมไม่ฟังเขาหรอก แต่เขาเชื่อว่าผมจะเรียนรู้ทั้งความผิดพลาดและความสำเร็จจากการกระทำของตัวเอง ผมถึงสบายใจที่จะคุยกับพี่จี้

“ก็ดี เรื่อยๆ” ผมตอบปัด ไม่รู้สิ ก็ไม่มีอะไรแย่หรือร้ายแรงอะไร

“มีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้ พูดหลายรอบแล้วเหมือนกัน จำได้ใช่ไหมไอ้เด็กดื้อ”

“ฮะๆ รู้แล้วน่าฮู้วว ผมโตแล้วน่า ดูแลตัวเองได้”

“ให้มันจริง แล้วมีเงินใช้ไหม”

ผมหยุดนิ่ง กรอกตาเล็กน้อย “ก็มี”

“หึ มีน้อยล่ะดิ” พี่จี้ยิ้มขำ แล้วควักเงินในกระเป๋าตังยื่นให้ผม ผมมองงงๆ ไม่ยื่นมือไปรับ

“ให้ทำไม ไม่เอา” คือพี่จี้เองก็ไม่ได้มีเงินมาก แต่ก่อนลำบากมากกว่าครอบครัวผมอีก แต่ตอนนี้เรียนจบทำงานแล้วก็ดีขึ้น

“ไม่เป็นไร พี่พอมี ก็ไม่ได้ให้บ่อย นานๆที เอาไปเถอะ”

“แต่...”

“ไม่มีแต่ รับไปเถอะน่า อีกไม่กี่วันเงินเดือนพี่ก็จะออกละ อย่าคิดมาก”

ผมยอมรับเงินหนึ่งพันบาทจากพี่จี้มาแล้วยกมือไหว้ เก็บใส่กระเป๋าไม่ให้ใครเห็นโดยเฉพาะพี่แนน ไม่งั้นพี่แนนก็จะบ่นผมอีกที่ใช้เงินเปลือง

หึ คิดดูแล้วกัน ผมกลับมาบ้านเขาถามผมสักคำไหมว่าเป็นไงบ้าง ไม่มีเลย

ผมกินข้าวเย็นกับแม่และคนในครอบครัว มีแต่ของโปรดผมทั้งนั้น แม่รู้ใจผมที่สุด ทุกครั้งที่ผมกลับบ้านผมจะได้กินอิ่มแปล้เพราะแม่จะทำแต่ของที่ผมชอบ หมดข้าวจานที่สองผมก็นั่งบีบขาให้แม่อีกแปบหนึ่งก่อนจะขอตัวออกมา

ผมนั่งเดินออกจากซอย เจอเพื่อนเก่าที่อยู่ซอยเดียวกันเลยหักคอให้มันขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่หอ ผมจะได้ไม่เปลืองค่ารถ แต่ยังไม่ทันขึ้นห้องโทรศัพท์ยี่ห้อไม่ดังราคาแค่พันกว่าบาทก็ดัง อย่างน้อยก็เป็นระบบแตะสัมผัสหน้าจอได้นะเว้ย อย่าได้ดูถูกเชียว

“ไอ้พัช! ไปกินเหล้ากับกูกัน กินฟรี มีรุ่นพี่เลี้ยงเว้ย!” ไอ้หวายพูดเสียงตื่นเต้นแทรกมาด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายดังกระหึ่ม แสดงว่ามันก็กลับบ้าน ครอบครัวมันคนเยอะไม่ต่างจากผม ไม่เคยไปเจอหรอกครับแต่มันเล่าให้ฟัง ไอ้หวายบ้านมันเป็นคนจีน ทุกคนพูดกันเสียงดังเหมือนโกรธกันมาเป็นชาติ แต่ความจริงคือคุยกันปกติ ไอ้หวายก็เป็น เอะอะเสียงดังไว้ก่อน ช่างไม่เข้ากับหน้าตาหล่อตี๋สักนิด

“ที่ไหนวะ” ผมถาม ไหนๆวันนี้ก็ว่าง ไปกินเหล้าแก้เครียดก็ดี

“ที่ร้านเรื่องเหล้าน่ะเว้ย เดี๋ยวกูขี่มอไซค์ไปรับ มึงรออยู่หน้าหอเลย อีกแปบถึง” มันพูดรวดเดียวแล้วก็วางสาย ผมไหวไหล่เดินขึ้นห้องพัก ขอเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อย ยังไม่อยากใส่ชุดเด็กช่างออกไปให้เจอตีนอริ

ทีแรกว่าจะเปลี่ยนแค่เสื้อผ้า แต่เหนียวตัวเกินทนเลยต้องอาบน้ำ ผมยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ผมชอบสำรวจตัวเอง ไม่ใช่อะไร ผมแค่อยากรู้ว่าร่างกายตัวเองเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ดู ก็เหมือนเดิม รูปร่างสูงร้อยแปดสิบ แต่แขนขาลีบมีแต่หนังไม่ค่อยมีเนื้อ ผมกินเยอะมากจนหลายคนยังตกใจ แต่ผมกลับผอมแห้งตัวเท่าเดิม ผมทำงานหนักเพราะช่วยที่บ้านขนของไม่ต่างจากกรรมกรหรอก ใช้แรงงานทั้งนั้นแต่ก็ไม่เห็นว่ากล้ามเนื้อมันจะป่องขึ้น ผมเป็นคนผิวขาวแต่ไม่ได้ขาวมากสว่างจ้าเหมือนผู้หญิง ส่วนที่โดนแดดก็จะออกเหลืองกว่าในร่มผ้าเล็กน้อย

สำรวจตัวเองจนพอใจก็เปิดตู้เสื้อผ้าคว้าเอาเสื้อยืดสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์สีดำเก่าๆขาดๆมาใส่ ทาแป้งฝุ่นที่หน้าเล็กน้อย ใช้นิ้วมือสางๆผมที่เปียกให้เป็นทรงก็เป็นอันเสร็จ โทรศัพท์ดังพอดี ไอ้หวายคงมาถึงแล้วมันเลยโทรมาตาม

“กูเสร็จแล้ว กำลังจะลงไป”

“เออ” มันตัดสาย ผมเก็บโทรศัพท์รุ่นปาหัวหมาแตกยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง

ผมใส่รองเท้าผ้าใบคู่เก่ง พูดให้ถูกคือมีอยู่คู่เดียว ใส่จนเปื่อย ลงมาถึงชั้นล่างไอ้หวายนั่งคร่อมรถมอเตอร์ไซค์คุยโทรศัพท์กับเด็กในสต็อก พอเห็นผมมันก็ยอดคำหวานทิ้งท้ายก่อนจะวางสาย

“ขึ้นมาเลยมึง งานนี้กินฟรีเหล้าดีมีให้ดื่มไม่อั้น” ไอ้หวายพูดอย่างลิงโลด ผมชักเปรี้ยวปากขึ้นมา กระโดดขึ้นรถมันตรงไปที่ร้านทันที ปกติพวกผมก็ดื่มบ่อยอยู่แล้ว ส่วนมากก็แสงโสมนั่นแหละ ราคาถูกดีกินง่าย ของแพงขึ้นมาหน่อยก็เรดแปดร้อยกว่าบาท แต่นานๆที เหล้าอะไรผมก็กินได้ ขอให้เมาก็พอ

ร้านที่ไอ้หวายพาผมมาผมเคยแค่นั่งรถผ่านบ้างเท่านั้น ไม่เคยมานั่งกิน ไอ้หวายบอกว่าร้านนี้เป็นร้านรุ่นพี่ที่มันรู้จัก แต่ผมไม่รู้จัก วันนี้ที่มาก็ในกลุ่มมีแค่ผมกับไอ้หวายสองคนเท่านั้นคนอื่นไม่ว่าง

“เฮีย! ผมมาแล้ว!” ไอ้หวายตะโกนลั่นจนคนทั้งร้านหันมามอง ผมยังไม่รู้เลยว่ามันทักใคร เพราะมันตะโกนแหกปากตั้งแต่หน้าประตูร้าน

“ตะโกนหาพ่อมึงเหรอ เสียงดังลูกค้ากูตกใจหมด” มีเสียงตะโกนด่ากลับมาจากตรงโต๊ะมุมในสุดของร้าน คนอื่นๆดูจะไม่ถือสา บางคนหัวเราะขำๆไม่คิดอะไร

“แหะๆ ก็ผมกลัวเฮียไม่ได้ยิน” ไอ้หวายพูดเสียงนุ่มเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ ดูยังไงมันก็กำลังประจบเขา

“เออ!  แล้วนั่นมึงพาใครมา” รุ่นพี่ของไอ้หวายทักผม ผมยกมือไหว้ พวกพี่เขาก็ทำหน้าเหวอรับไหว้

“ไม่ต้องตกใจพี่ เพื่อนผมถึงจะเฮ้วแต่มันมีมารยาทดี” ไอ้หวายอวยผม มันติดแล้ว ใครแก่กว่าและดูว่าน่าจะคบหากันได้ผมไหว้ไว้ก่อน แต่ถ้าใครที่ไม่น่าเคารพจะแก่กว่าเป็นร้อยปีผมก็ไม่สน

“ไม่เหมือนมึงใช่ไหม มารยาทแย่มาก” พี่หัวสกินเฮดรุ่นพี่ที่ไอ้หวายรู้จักพูดความจริง คนอื่นๆในโต๊ะหัวเราะขำกันสนุกสนาน

“โหย เฮียว่าผมทำไมเนี่ย ฮู้วว”ไอ้หวายทรุดตัวนั่งลงที่ว่าง ผมนั่งเก้าอี้ข้างๆมัน

“มาๆ ผมจะแนะนำให้รู้จักกันไว้  พี่กูที่หัวสกินเฮดสุดเท่คือเฮียบีท คนนี้นี่เฮียธีร์หล่อนุ่มกลมกล่อม นี่ก็เฮียกี่ถ้าไม่อยากเสียวก็อย่ามองหน้าเฮียเขา”

“ไอ้สัดหวาย กวนตีนแหละ”

“ฮ่าๆๆ ผมพูดผิดตรงไหนวะเฮีย ส่วนอีกคน เฮียปราบ อ้าว เฮียปราบไปไหนอ่ะเฮีย” ไอ้หวายโยกตัวมองซ้ายขวาและมองไปทั่วร้าน

“ไปคุยโทรศัพท์หลังร้าน” คนที่ชื่อเฮียธีร์ตอบ ภาพลักษณ์เขาเท่าที่เห็นก็ตรงตามที่ไอ้หวานบรรยาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ทรงผม การแต่งตัว ดูสะอาดสะอ้านน่าคบหามากที่สุดแล้วในบรรดาทั้งสามคนที่อยู่ตรงนี้ เพราะเฮียบีทดูกวนๆตั้งแต่ทรงผมสกินเฮด คิ้วเฉียงๆตาเรียวคม ถ้าไม่รู้จักมองแวบแรกบอกได้เลยว่ามีเรื่องได้ง่ายๆ หน้าตาเฮียแกดูวอนโดนยำตีนมากอะครับ

ส่วนเฮียกี่ ชื่อแปลกดี กล้ามเป็นมัดๆ สูงขาวและหน้าตาพิมพ์นิยมมาก คาดว่าน่าจะเป็นลูกครึ่ง แต่ไม่รู้ว่าครึ่งอะไร

“อ่อ ไม่เป็นไร เฮียปราบมาค่อยแนะนำ นี่ๆเพื่อนผมชื่อพัช เอามาจากชื่อจริงมัน”

“แล้วชื่อเล่น” เฮียธีร์เลิกคิ้วถามผม ผมยังไม่ทันตอบ ไอ้หวายก็หันมาโวยวายใส่ผม

“เออ แล้วชื่อเล่นมึงล่ะ ทำไมกูลืมสงสัย”

“เพราะมึงโง่ไง” ผมว่าเล่นๆ แต่แกล้งทำหน้าจริงจัง ความเครียดมักหายเมื่อผมอยู่ในวงเหล้า เฮียกี่ส่งแก้วเหล้าแก้วใหม่ให้ผม “ขอบคุณพี่”

“ยังไงล่ะพวกมึง เป็นเพื่อนกันเสือกไม่รู้จักชื่อเล่น” เฮียธีร์ถาม ถึงภายนอกจะดูสุภาพ แต่คำพูดคำจาแกก็เหมือนพี่ๆคนอื่นๆ เขาถึงบอกว่าคนพวกเดียวกันถึงจะคบกันได้

“ชื่อเล่นมึงอะไรวะ บอกกูมาเดี๋ยวนี้เลย” ไอ้หวายคาดคั้นจะเอาคำตอบเรื่องชื่อเล่น

“กูไม่บอก” ผมหยักคิ้วกวนๆ

“มึงนี่ กูเพื่อนมึงนะโว้ย” โวยวายจังวะ

“หึ” แต่ผมก็ไม่ได้ตอบ

เสียงโทรศัพท์ผมดัง ล้วงขึ้นมาดูชื่อ พลอย...ผมจะกดรับสายแต่ไอ้หวายเอาดึงมือผมที่ถือโทรศัพท์อยู่ออก

“อะไรของมึง ปล่อย”

“มึงจะรับทำไม ทำแข็งข้อบ้าง พลอยมันได้ใจเกินไปแล้ว” ไอ้หวายทำหน้าไม่ชอบใจ ความจริงมันไม่ชอบพลอยแฟนผม ก็หลายๆสาเหตุ มันพูดยาก แต่ผมรู้ว่ามันหวังดีกับผม ไอ้หวายคงเป็นคนสุดท้ายที่คิดจะทำร้ายผม

“อะไรของพวกมึง แล้วมึงไปยื้อโทรศัพท์ไอ้พัชมันทำไม” เฮียบีทถามหน้างง

“ก็เฮียดูมันดิ” มันทำท่าจะฟ้องเฮียพวกมัน “แฟนมันไม่สนใจใยดีมันด้วยซ้ำ เห็นไอ้พัชเป็นของตาย ไอ้นี่แม่งก็ยังทนอยู่ได้”

“กูรักของกู” ผมตอบหน้านิ่ง

“มึงมันโง่” ไอ้หวายด่าผม

“ปล่อย” ผมกระชากเสียงเล็กน้อยเมื่อไอ้หวายยังไม่ปล่อยมือออกจากโทรศัพท์ผม หน้ามันหงุดหงิดขึ้นทันที

“มึงแม่งก็เป็นแบบนี้ ใครพูดก็ไม่ฟัง”

ผมไม่เถียง ดึงมือตัวเองกลับ ลุกออกจากโต๊ะไปรับสายข้างนอก

“ว่าไงพลอย” ผมทิ้งตัวนั่งแถวๆห้องน้ำหลังร้าน หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ผมยอมรับว่าผมกินเหล้าเก่งและติดบุหรี่งอมแงม

“ซ่า อยู่ไหน ไปกินเหล้าอีกแล้วเหรอ” เสียงเหวี่ยงๆของพลอยดังแว้ดใส่ ผมไม่สนใจ ดูดบุหรี่เข้าปอด แล้วปล่อยควันสีขาวเทาออกจากจมูก

“เฮ้อ” ผมเผลอถอนหายใจเพราะหัวโล่งขึ้น

“อะไร อย่ามาถอนหายใจนะ บอกแล้วไงว่าให้เพลาๆหน่อยเรื่องกินเหล้า” พลอยบ่นมาอีกคำใหญ่

“นิดๆหน่อยเอง ก็ไม่มีอะไรทำ พลอยก็ไปกับที่บ้านไม่ใช่เหรอไง” ผมบ่นบ้าง อยากเจอแต่ก็ไม่ได้เจอเพราะพลอยบอกว่ามีธุระกับที่บ้าน

พลอยเงียบไปครู่สั้นๆ

“ก็..ใช่ แต่มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ กลับบ้านเลย ไม่ต้องกินเหล้าแล้ว”

“ไปหาได้ไหม” ผมถาม คิดถึงอยากเจอ

“มาทำไม” เสียงของพลอยกระชากที่ปลายเสียง ผมขมวดหัวคิ้วทันที ทำไมต้องอารมณ์เสียในเมื่อผมแค่อยากไปเจอแฟนตัวเอง หึ พูดให้ถูกคืออยากไปเจอเมีย ผมผิดตรงไหนวะ

“ก็อยากเจอ จะได้กลับเลยไง” ผมพูดห้วนๆบ้าง เริ่มอารมณ์เสียแล้วเหมือนกัน

“ไม่ต้องมาหรอก จะนอนแล้ว” พลอยพูด แต่ขัดใจผมฉิบหาย ขายกเตะก้อนหินแถวนั้นแก้เซ็ง

“ไม่เอา รอนะ เดี๋ยวไปหา” ผมตัดบทไม่สนใจ วางสายไม่รอให้ปฏิเสธ ผมอยากเจอ ใครจะพูดว่าผมว่า หลงแฟนยังไงก็แล้วแต่ แต่ผมรักของผม ก็ทั้งรักทั้งทน

ปึก!

“เหี้ย เดินไม่ดูทางวะ” ตัวผมก็ไม่ใช่เล็กๆ แต่ทำไมเซ ขอดูหน้าหน่อยดิว่าใคร

“มึงหรือกูกันแน่ที่ไม่ดูทาง”

ผมตวัดตามองไอ้คนพูดที่เดินชนผม สิ่งแรกที่เห็นคือความหมั่นไส้ คือมึงหล่อไปเปล่าวะ สำรวจด้วยสายตาคร่าวๆในไม่กี่วินาที

“มึงนั่นแหละเดินชนกู” ผมนั่งอยู่ตรงนี้ ลุกขึ้นยืนยังไม่ทันจะก้าวขาตัวผมก็เซเพราะแรงชน อย่างนี้ไม่ใช่มันผิดจะให้เป็นผมหรือไง ตลกเหอะ

“คราวหลังมึงก็มองทางบ้าง นั่งแม่งซะขวางทางเดิน”

ปึก

มันเดินชนไหล่ผมอีกรอบเข้าห้องน้ำ แม่งเอ้ย กวนประสาทฉิบหายคนเหี้ยอะไร ผมเดินหัวเสียกลับไปที่โต๊ะ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ยังจะเจอคนกวนตีนอีก

“อ้าว เป็นไรมึงหน้าบึ้งตึง” ไอ้หวายทักผม

“กูกลับแล้วนะ หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้เฮียๆ

“เฮ้ยมึง จะรีบไปไหนวะ” ไอ้หวายคว้าแขนผมเอาไว้ได้

“กูจะไปหาพลอย” ผมบอกตรงๆ ไม่มีอะไรจะต้องปิดบัง มันจะไม่พอใจก็เป็นไป ผมแคร์เพื่อนแต่เรื่องนี้ไม่ค่อยสนวะ

“อีกแล้วไอ้เหี้ย! ยอมเขาอยู่ได้ เขาถึงได้เห็นมึงเป็นของตายไง” แม่งบ่นอีกละ รำคาญ

“เออๆ กูไปละ” ผมจับมือไอ้หวายออกจากแขน เดินออกจากร้านโบกรถไปหาพลอยทันที ยังไงคืนนี้ก็ต้องได้เจอเพราะผมคิดถึง

“เฮียปราบ ไปไหนมาเนี่ย ผมมานั่งจนเพื่อนผมกลับไปแล้วเนี่ย”

“อะไรของมึงไอ้หวาย กูไปคุยโทรศัพท์แล้วก็ไปเข้าห้องน้ำมา มึงมีอะไร”

“ไม่มีไรเฮีย มาชนๆ”

ปราบนั่งลงตรงที่นั่งที่เคยมีเจ้าของแต่บัดนี้เจ้าของเดินลิ่วๆออกไปจากร้าน ทิ้งให้คนที่นั่งแทนที่มองตามด้วยสายตาที่ยากจะอ่าน แต่ก็แฝงไปด้วย ‘ความถูกใจ’





Talk:

อยากแต่งนิยายแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่ใช้ความรู้สึกที่อยากแต่งพอ และอาจจะเป็นครั้งแรกที่นายเอกของเราหรือน้องซ่านั้นแมนร้อยเปอร์เซ็นต์ เรื่องนี้มีเค้าโครงจากเรื่องจริงอยู่เกือบครึ่งนะคะ เป็นเรื่องราวของคนใกล้ตัวริริเอง ยังไงก็ลองติดตามดูนะคะ

สไตล์การเขียนก็สลับกันเล่าระหว่างพระเอกนายเอกแบบที่ริริชอบ 

ดีไม่ดียังไงก็คอมเม้นให้กำลังใจกันด้วยนะคะ อยากอ่าน

ขอบคุณค่ะ  :L1:

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-01-2017 01:38:38 โดย RiRi »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #3 เมื่อ01-01-2017 21:18:16 »

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ happy-jigsaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #4 เมื่อ01-01-2017 21:26:32 »

ถือเป็นสำนวนแปลกใหมของคุณริริที่เราได้อ่าน

ออฟไลน์ GaIta

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #5 เมื่อ01-01-2017 21:35:21 »

น่าติดตาม รอค่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #6 เมื่อ01-01-2017 23:31:58 »

ชอบบบบ ตามต่อ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พัช ชื่อเล่น ชื่อซ่า แน่เลย (มโนและ)
ปราบ ซ่า  :mew1: :mew1: :mew1:
พลอย แฟนพัช ชักแหม่งๆ
ไม่ใช่คบซ้อนนะ
ปราบ ถูกใจพัชแล้ว
แอ่ะ....คนอ่านก็ถูกใจปราบซ่า เหมือนกัน :ling1: :ling1: :ling1:
ไรท์ มาต่อไวๆ นะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #7 เมื่อ02-01-2017 08:13:18 »

 :impress2: รอน้องซ่าด้วยคนจ้า

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #8 เมื่อ02-01-2017 09:03:51 »

น่าติดตามมากกกก

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #9 เมื่อ02-01-2017 13:12:19 »

 :pig4: :pig4:

 :katai5: :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-01-2017 13:12:19 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #10 เมื่อ02-01-2017 14:22:05 »

 o13

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #11 เมื่อ02-01-2017 17:27:58 »

 :hao3: :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่1 :: 1/1/2017
«ตอบ #12 เมื่อ02-01-2017 17:38:13 »



มารอปราบซ่าด้วยคน  :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #13 เมื่อ02-01-2017 21:57:38 »

ปราบซ่า
ตอนที่2
   
[ZA]
   ผมโบกรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่หอ รถมอเตอร์ไซค์คันเก่าที่พอจะขี่ได้เหลือน้ำมันแค่ก้นถัง วันนี้ผมเลยไม่ได้เอาออกไปขี่เพราะไม่มีเงินเติมน้ำมัน แต่เมื่อเย็นพี่จี้ให้เงินมาตั้งพันหนึ่งไอ้แก่ของผมเลยกลับมาโลดแล่นบนถนนอีกครั้ง ผมเติมน้ำมันจนเต็มถังแล้วก็รีบบึ่งรถไปที่บ้านของพลอยที่ห่างออกไปจากหอผมพอสมควร

   ผมชอบขี่รถเร็วฉวัดเฉวียนไปมา มันท้าทายและตื่นเต้น มากไปกว่านั้นผมรู้สึกว่าได้ปลดปล่อย ยามที่แรงลมตีกระทบหน้าผมรู้สึกว่าตัวเองได้รับอิสระ

บ้านของพลอยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรขนาดสองชั้น ผมเหยียบขาตั้งลงแล้วดับเครื่องยนต์ กดโทรศัพท์ต่อสายหาพลอย แต่ต้องต่อถึงสองครั้งกว่าพลอยจะรับ

“อะไรเล่า จะนอนแล้ว” พลอยว่าเสียงแข็ง

“อยู่ข้างล่าง ลงมาหาหน่อย” ผมบอก

“ซ่า พูดไม่รู้เรื่องหรือไง บอกว่าจะนอนแล้ว” พลอยยังคงพูดกับผมด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ผมเองก็เริ่มโมโหแล้วเหมือนกัน ผมไม่ใช่คนใจเย็น อะไรขัดใจนิดหน่อยก็รู้สึกหงุดหงิดได้ง่าย

“แล้วมึงพูดไม่รู้เรื่องเหรอวะ กูบอกว่าให้ลงมาเจอหน่อยมันจะตายหรือไง หรือให้กูกดกริ่งห๊ะ” ผมเริ่มโมโห ระยะนี้ผมทะเลาะกับพลอยบ่อยมาก เหมือนจะรู้เหตุผลเพียงแต่ผมไม่ยอมรับ เหมือนที่พวกเพื่อนๆมันด่าผมไงว่าผมโง่

“อย่ามาขึ้นมึงกูนะซ่า” พลอยตวาด ผมสะกดอารมณ์ตัวเองไม่ได้ลุกขึ้นยืนแล้วออกแรงถีบประตูรั้วแรงๆแก้เครียด

“ก็ลงมาสิ ห้านาทีก็ได้”

“...”

“พลอยลงมาหาหน่อย” ผมพูดเสียงอ่อน ยอมสุดๆล่ะ

“อืม รอแปบ” ได้ยินเสียงถอนหายใจ และในที่สุดพลอยยอม ผมกดวางสายยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง รอไม่นานพลอยก็ลงมาในชุดนอนเสื้อสายเดี่ยวตัวบางแล้วก็กางเกงขาสั้น อยากกอดวะ

พลอยเป็นผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง ไม่สูงมากประมาณร้อยหกสิบ ไม่ผอมไม่อ้วนดูมีน้ำมีนวลจับนุ่มมือดี กับผมสีดำยาวสวยจรดแผ่นหลัง พลอยอาจไม่ใช่ผู้หญิงหน้าตาดี เพราะผมไม่เคยคบใครที่หน้าตา แต่ไม่รู้ทำไมพอรักแล้วแม่งก็รักอยู่อย่างนั้น
 
“เมาหรือเปล่า” พลอยถาม ขยับเข้ามาใกล้เพื่อดมกลิ่น ผมเลยคว้าตัวพลอยมากอด

“ไม่ได้เมา กินไปนิดเดียวเอง” ผมหอมแก้มพลอยทั้งสองข้างด้วยความคิดถึง พลอยไม่ได้ห้าม ยกมือขึ้นกอดตอบผม

“ดึกแล้วก็ไม่ไปหลับไปนอน ไม่รู้จะมาทำไม พรุ่งนี้ค่อยเจอกันก็ได้” พลอยบ่นอยู่กับอกผม

“คืนนี้ไปนอนด้วยกันหน่อยดิ” ผมพูด

“ไม่ อย่ามาตลก กลับไปได้แล้วครบห้านาทีแล้ว” พลอยดันตัวออกจากอดของผม ผมขมวดคิ้วขัดใจในทันที

“ทำไมไปนอนไม่ได้”

“ซ่า อย่ามาเอาแต่ใจได้ไหม ไม่ได้ขอพ่อกับแม่แล้วท่านก็นอนแล้ว ดูเวลาด้วย ไว้วันหลังแล้วกัน กลับไปได้แล้ว” พลอยไล่ ผมก็เลยพยักหน้าส่งๆ ลูบหัวที่เริ่มยาวรุงรังเพราะไม่ได้ตัดมาสองสามเดือน

“ทำไมต้องไล่” ผมไม่เข้าใจ ทำไมมีแต่ผมคนเดียวด้วยวะที่อยากเจออยากเห็นหน้าอยากกอด

“ถ้าจะชวนทะเลาะก็กลับไปเถอะ”

“ทำไม เพราะว่ากูมันไม่มีเหมือนคนอื่นที่มึงคุยด้วยงั้นเหรอ” ผมพูดออกมา เรื่องนี้ผมรู้มาจากเพื่อนไม่ได้เห็นด้วยตนเอง ผมก็ไม่ได้ปักใจเชื่อที่เพื่อนบอกร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ พักหลังมานี้ผมแตะมือถือพลอยไม่ได้เลย ทั้งๆที่ปกติเอามาเล่นเกมก็ไม่เคยว่าหรือห้าม แต่เดี๋ยวนี้แค่แตะพลอยยังขึ้นเสียงใส่หาว่าผมไปยุ่งกับของส่วนตัว

“นี่ อย่ามาหาเรื่องกันนะ จะหาว่าพลอยมีชู้หรือไง”

“แล้วไม่จริงเหรอไง”

“ใครกันแน่วะ ซ่าต่างหากที่มีผู้หญิงคนอื่น เพื่อนที่คบก็ดีๆทั้งนั้นเวลาอยู่ในวงเหล้า ทำตัวไม่มีอนาคตรู้ไหมว่ามันน่าเบื่อ”

ผมหมดความอดทนกระชากไหล่พลอยทั้งสองข้าง มือที่กุมไหล่เล็กบีบแน่นจนพลอยร้องเจ็บ แต่ผมไม่ปล่อย ผมโมโหที่พลอยว่าเพื่อนผมและหาว่าผมมีคนอื่นทั้งๆที่ผมไม่เคยมีใคร ไม่เคยคุยกับใครด้วยแม้ว่าจะมีผู้หญิงสักกี่คนเข้าหาผมก็ตาม สิ่งที่พลอยพูดมันคือการกล่าวหาที่ผมโคตรจะเกลียด ว่าผมเรื่องไม่มีอนาคตผมไม่ว่า แต่อย่าเอาความผิดที่ผมไม่ได้ก่อมาว่าร้ายเผื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเอง

“ใครกันแน่ที่หาเรื่องทะเลาะ บอกไว้ก่อนเลยว่ากูไม่มีทางเลิกกับมึงหรอก มึงต้องเป็นของกูคนเดียวพลอย” ผมกัดฟันพูด พลักตัวพลอยไปกระแทกกับประตูเหล็กอย่างแรงเพราะความโมโหอย่างขีดสุด

“ไอ้เหี้ยซ่า เจ็บนะเว้ย” พลอยกรีดร้อง

“เออ กูก็เจ็บเหมือนกัน” ผมพูดไว้แค่นั้นแล้วก็ยกขาขึ้นคร่อมรถขับกลับหอ ยิ่งดึกถนนยิ่งโล่งให้ผมได้ออกแรงบิดคันเร่งมันมือ พายุที่ก่อตัวอยู่ข้างในคอยแต่จะระเบิด ริมฝีปากผมเม้มแน่น เอาความรู้สึกทุกอย่างไปลงไว้ที่มือ สุดท้ายผมก็กลับมาถึงหออย่างที่ไม่รู้ตัว รถไม่ชนตายก็บุญแค่ไหนแล้ว

ผมเดินขึ้นหออย่างเหม่อลอย ถึงผมจะโกรธพลอยยังไง สุดท้ายผมก็ไปจากผู้หญิงคนนี้ไม่รอด ผมจะยอมอยู่เงียบๆตราบเท่าที่ผมยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา แต่หากผมจับได้ว่าพลอยมีคนอื่นผมก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกันและผมจะไม่มีวันยอมให้พลอยทิ้งผมไปรักกับคนอื่น พลอยจะต้องอยู่กับผมคนเดียวจนกว่าจะตายจากกันไปข้าง

ผมยืนอยู่หน้าห้อง หยิบกุญแจห้องไขเปิดประตูออก แต่สิ่งที่เห็นภายในห้องทำให้ผมก้าวเข้าไปไม่ได้ ไอ้กฤษรูมเมทของผมกำลังเอากับแฟนของมันอย่างถึงพริกถึงขิง ผมทำได้แค่ปิดประตูลงอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ให้รบกวนคนข้างใน หันหลังยืนพิงกำแพงแล้วไถลตัวทรุดลงนั่งกับพื้น

เสียงครางและเสียงเตียงดังเล็ดรอดออกมาข้างนอก เวลาเที่ยงคืนกว่าแบบนี้คนส่วนมากนอนหลับกันแล้ว เสียงของคนในห้องสองคนจึงดังเป็นพิเศษ

ไอ้กฤษเพื่อนร่วมสถาบันช่างเป็นรูมเมทของผม ความจริงคือผมมาขออยู่กับมันเพราะจะได้ประหยัดค่าหอ แทนที่จะเสียคนเดียวเดือนละสามพันก็เสียแค่พันห้า ร่วมค่าน้ำค่าไฟก็สองพันนิดๆ ก็ดีกว่าเสียคนเดียวสี่พันห้าพัน แต่มันก็ไม่ได้พาแฟนมันมานอนบ่อยหรอกเพราะแฟนมันอยู่บ้าน เหมือนที่ผมก็พาพลอยมานอนที่นี่เหมือนกันในวันที่มันไม่อยู่

ส่วนคำถามที่ว่าทำไมผมไม่ไปอยู่กับเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ก็เพราะว่าไอ้พวกนั้นมันอยู่บ้านกันหมด มีผมคนเดียวที่ออกมาอยู่หอเพราะไม่อยากอยู่บ้าน ผมอยากมีอิสระผมคิดแค่นั้น

“อ๊าๆๆ อืม กะ กฤ...”

ผมถอนหายใจ ยกขาขึ้นชันเข่าใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดตัวเอง ผมควรจะได้มีความสุขกับแฟนแต่พักหลังกลับทะเลาะกันไม่เว้นวัน ผมเคยคิดว่าพลอยจะเป็นคนที่มอบสิ่งที่ผมต้องการได้เหมือนที่เธอเคยบอก แต่ว่าวันนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าความรักของเรายังเหมือนเดิมไหม

และก็เหมือนเดิมทุกครั้งที่ผมไม่มีใครอยู่เคียงข้าง มีเพียงตัวเอง

น้ำตาหนึ่งหยดไหลออกจากตา ผมรีบปาดมันทิ้ง ไม่อย่างนั้นหยดที่สองที่สามและสี่ก็จะตามมา

“เหนื่อยจังวะ” ผมบ่น ซบหน้าลงกับเข่า ไม่สนใจเสียงครวญครางของคนในห้อง ปล่อยตัวเองให้จมจ่ออยู่กับความคิดที่วกวน ยิ่งคิดยิ่งหลงทาง ยิ่งหาหนทางยิ่งไม่เจอทางออก

จากสิบนาทีเป็นครึ่งชั่วโมง จากครึ่งชั่วโมงเป็นสองชั่วโมงที่ผมต้องนั่งรออยู่หน้าห้อง เพราะไม่รู้จะไปที่ไหนเลยได้แต่นั่งรอให้คนทั้งสองคนเสร็จกิจกามเสียที แต่ดูท่าพวกมันจะคิดถึงกันและกันมากเกินไปจนร่างกายผมทนรอไม่ไหวเผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น

“ไอ้พัช! มานอนอะไรตรงนี้วะ ไอ้พัช ตื่น”

ผมรู้สึกตัวเพราะเสียงเรียกแล้วแรงเขย่าที่ต้นแขน ทำเอาตัวผมสั่นจนเกือบจะเอนล้มลงไปทั้งร่าง แต่ไอ้คนมาเรียกมันดึงแขนผมเอาไว้ก่อน

“เสร็จแล้วเหรอวะ” ผมงัวเงียถาม เบิกตาโตๆของตัวเองมองรอบข้างก่อนจะมองรูมเมท ไอ้กฤษกับแฟนมันยืนมองผมด้วยแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย แต่แฟนมันหลบตาติดเขินอายเล็กๆ อยากจะบอกว่าไม่ทันแล้วแม่คุ๊ณ ทั้งภาพทั้งเสียงผมสัมผัสมาหมดละจากเมื่อคืนนี้

“เออ ขอโทษทีวะ เมื่อคืนเพลินไปหน่อย” ไอ้กฤษพูด

“ไม่เป็นไร งั้นกูขอเข้าไปอาบน้ำในห้องนะ” ผมลุกขึ้นยืน เซเล็กน้อยเพราะเหน็บกินไปทั้งขา

ผมอาบน้ำแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงต่อ ล้มเลิกการไปเรียนในวันนี้ พูดง่ายๆก็คือผมโดดเรียน ส่วนไอ้กฤษกับแฟนของมันออกไปตั้งแต่ที่ผมอาบน้ำแล้ว

ผมหลับตั้งแต่เช้ายันบ่ายโมง ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังติดต่อกันไม่หยุดหย่อน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครโทรมาถ้าไม่ใช่ไอ้พวกเพื่อนของผม ป่านนี้มันคงด่าผมไปถึงชาติหน้าแล้วที่โดดเรียนไม่โทรบอกพวกมัน

“อะไรพวกมึง” ผมรับสาย

“ไอ้เหี้ยพัช มึงหายหัวไปไหนวะไอ้สัส” มาก่อนคนแรกเลยคือไอ้นุ๊ก และก็เสียงกรนด่าของคนอื่นๆก็ดังตามมา มันคงเปิดเสียงให้ได้ยินกันทั่วหน้าแน่ๆ

“กูอยู่หอ” ผมตอบ

“แล้วทำไมมึงไม่มาเรียนห๊ะ” ไอ้หวายตะโกนใส่โทรศัพท์ เห็นมันอย่างนี้แต่มันเป็นคนที่ตั้งใจเรียนที่สุดในกลุ่ม

“กูขี้เกียจ” พอผมตอบไปแบบนั้นก็ถูกพวกมันด่าอีกระลอกใหญ่

“กูจะไปกระทืบมึงถึงห้องเลย จะไม่มาก็ไม่บอก ปล่อยให้พวกกูเป็นห่วง คิดว่ามึงโดนอริสอยไปแล้วไอ้เหี้ย มึงทำกูเครียด” ไอ้ตูนร่ายยาว

“เออๆ กูขอโทษที่ไม่ได้โทรบอก แต่กูสบายดี” ผมผิดเองที่ไม่โทรบอกพวกมัน เด็กช่างอย่างเราจะทำอะไรก็ต้องระวัง เพราะมีคนต่างสถาบันจ้องจะเล่นงานอีกเพียบ ต่อให้เราไม่วิ่งเข้าไปหาปัญหา พวกมันก็พร้อมที่จะวิ่งเข้ามาหาเราเอง คนภายนอกไม่มีทางเข้าใจพวกเราหรอก เพราะสุดท้ายเราก็เป็นได้แค่เด็กกุ๊ยเด็กอันธพาลต่อยตีกันให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปวันๆ ไร้อนาคต ไม่มีอะไรดี

“มึงห้ามทำแบบนี้อีกนะไอ้พัช พวกกูเป็นห่วง” ไอ้กานพูดเสียงจริงจัง

“อืม รู้แล้ว ขอบใจพวกมึงมาก” ผมรู้ว่าพวกมันเป็นห่วงผมมาก

“ให้พวกกูเข้าไปหาที่หอไหม” ไอกานถามอีก

“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูจะออกไปทำงาน”

“เออๆ พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน มึงห้ามโดดอีกเข้าใจนะ” ไอ้หวายกำชับ ผมอือออไปตามเรื่องแล้วกดวางสาย

และในทันทีทันใด มือของผมก็กดโทรออกหาผู้หญิงที่ผมเพิ่งจะทะเลาะด้วยเมื่อคืน...พลอย

สุดท้ายผมก็ยังรักเธออยู่ดี

แต่สายแรกที่โทรไปพลอยไม่รับสาย จนกระทั่งสายที่สองสายที่สามก็ยังไม่รับ ผมเริ่มหงุดหงิดจนต้องออกไปสูบบุหรี่ที่นอกระเบียงพลางกดโทรไปเรื่อยๆ สุดท้ายพลอยก็ปิดเครื่องหนี ถ้าไม่ติดว่าผมจะต้องออกไปทำงานผมคงบุกไปหาที่โรงเรียนไม่ก็ที่บ้านให้มันรู้แล้วรู้รอด

พลอยอาจจะกำลังโกรธผมอยู่ที่ผมทำรุนแรงกับเธอเมื่อคืน ไม่เป็นไร วันนี้ผมจะปล่อยไปก่อน แต่พรุ่งนี้ถ้าพลอยยังไม่รับสายอีกมีเคลียร์

ผมออกไปทำงานด้วยอารมณ์ที่ไม่ดีนัก ไปถึงร้านสะดวกซื้อชื่อดังที่มีโลโก้เป็นเลขเจ็ดก็ถูกหัวหน้างานบ่นที่หน้าผมบึ้งยิ่งกว่ามีใครเอาตีนมานาบหน้า และให้ผมรีบปรับสีหน้าก่อนที่จะไปยืนคิดเงินตรงตำแหน่งแคชเชียร์

“เอาดีๆพัช อย่าให้มีปัญหานะ” พี่นกเอ่ยเตือน ผมพยักหน้า เดินเข้าห้องน้ำเอาน้ำลูบหน้า ทิ้งความกลัดกลุ้มใจออกไปจากความคิดชั่วขณะ ยังไงผมก็ยังต้องทำงานใช้เงิน อย่าทำให้เกิดปัญหาเป็นดี เพราะผมขี้เกียจหางานใหม่แล้ว

คืนนี้ผมทำงานแบบตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง จนกระทั่งถึงสามทุ่ม ผมเงยหน้าดูนาฬิกา อีกหนึ่งชั่วโมงก็จะเลิกงาน ผมอยากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแฟนผม แต่ทว่ายังทำงานอยู่ผมก็ไม่อยากจะเกเรมากนัก

ตื้อดึง

“เซเว่นอีเลเว่นสวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักทายลูกค้าเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด ทีแรกนั้นไม่ได้มอง แต่พอเงยหน้าเท่านั้น ผมก็แทบอยากจะเอาคำทักทายเมื่อตะกี้กลับคืนมา

ไอ้คนที่เดินชนผมในร้านเหล้าเมื่อคืน

มันจ้องผมนิ่งก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก เห็นชัดว่ามันจำผมได้เหมือนที่ผมจำมันได้

“ทำงานที่นี่เหรอ” มันเดินมาทักผม

ผมไม่ตอบ เลี่ยงไปรับของจากลูกค้าท่านหนึ่งมาคิดเงินแทน แต่ของมีแค่ชิ้นเดียวก็เลยเสร็จไว

“หยิ่งเหรอไง ถามไม่ตอบ”

“...”

“อ่อ เป็นใบ้”

“กูไม่ได้เป็นใบ้” ผมอดทนไม่ไหวเลยแก้ต่างให้ตัวเอง แม่งบ้าหรือไงมาหาว่าคนอื่นเป็นใบ้

“ชู่วว เบาๆดิ มีที่ไหนพนักงานพูดมึงกูกับลูกค้า” มันพูดด้วยท่าทางและสีหน้ากวนตีน ถ้าไม่ติดว่าทำงานอยู่ผมกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ไปซัดมันละ

“กูไม่รู้จักมึง อย่ามายุ่งกับกู” ผมกัดฟันพูดเสียงต่ำ

“หึหึ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะได้รู้จักหรือไม่ได้รู้จัก” มันพูด

“...” ผมเลือกที่จะเงียบไม่อยากคุยกับมัน

“เอาบุหรี่ยี่ห้อ N ซองหนึ่ง” มันสั่ง

ผมหันไปหยิบของแล้วมาคิดเงิน แม่งรวยแน่ๆสูบของแพงด้วย

ผมคิดตั้งเสร็จก็รับตังทอน แต่ไม่รู้ว่าผมคว้าเงินผิดหรือเพราะอะไร มือผมกับมือมันถึงได้สัมผัสกันมากกว่าครึ่ง ผมรีบชักมือกลับ เอาจริงๆก็ไม่ทันสังเกตหรอกว่าผมไปโดนมือมันหรือมันมาโดนมือผมกันแน่ แต่ที่รู้ๆ ผมยัดตังทอนใส่ในถุงบุหรี่แล้ววางตรงหน้ามัน ซึ่งมันก็ไม่ได้ว่าอะไร รับไปแล้วเดินออกจากร้าน

ผมทำงานต่อจนกระทั่งหมดเวลางาน เคลียร์นู่นนี่นั่นในร้านจนเรียบร้อยก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่ม ผมเดินออกจากร้านพลางบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ และสิ่งที่ทำในเวลาต่อมาก็คือต่อสายหาพลอย

สายแรกไม่รับ ผมกดต่อสายสอง รอจนเกือบสัญญาณจะตัด

“พลอย” ผมเรียกเสียงเรียบ พยายามที่จะไม่หงุดหงิด แม้ว่าอารมณ์กรุ่นๆช่วงเย็นจะยังหลงเหลืออยู่

“มีอะไรหรือเปล่า พลอยทำการบ้านอยู่” พลอยตอบเสียงปกติ เหมือนว่าเราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันมาก่อน

“ซ่าขอโทษนะเรื่องเมื่อวาน”

“อืม ไม่เป็นไร”

“เอ่อ วันนี้ไปหาได้ไหม” ผมยกมือเกาคอแก้เขิน ยืนแอบอยู่หน้าเซเว่นเพราะจิตใจจ่มจ่ออยู่กับการคุยโทรศัพท์

“ไม่ได้ วันนี้การบ้านเยอะ ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน พลอยว่าจะชวนไปดูหนัง”

“ได้ดิ พรุ่งนี้ตอนเย็นนะ เดี๋ยวไปรับที่โรงเรียน”

“อืม แค่นี้นะ”

“บาย ฝันดีนะ” ผมยิ้มกว้างอารมณ์ดีที่สุดในรอบวัน

เฮ้อ ค่อยสบายใจหน่อย ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่เป็นอันทำอะไรทั้งวัน ใครจะว่ายังไงก็ช่างสำหรับเรื่องพลอย ตอนนี้ผมยังโอเคที่จะคบกับพลอยไม่ว่าพลอยจะเป็นยังไง ไว้ผมทนไม่ได้ขึ้นมาค่อยว่ากันอีกที

ผมหันซ้ายหันขวา ก็ไม่รู้จะหันทำไมในเมื่อมอเตอร์ไซค์ของผมก็จอดอยู่หน้าร้าน ผมเดินไปที่รถ ว่าจะขับไปหาข้าวกินมื้อดึกอีกรอบค่อยกลับหอ หวังว่าไอ้กฤษจะไม่พาแฟนของมันมากกกันอีกนะ ไม่งั้นผมคงได้นอนหน้าห้องอีกวันและมันจะทำให้ผมปวดเมื่อยร่างกายไปทั้งวัน
ผมขึ้นคร่อมรถ เสียบกุญแจและถอยรถออกจากที่จอด แต่ก่อนที่ผมจะสตาร์ทเครื่องยนต์ก็มีคนมายืนขวางหน้ารถมอเตอร์ไซค์ ผมเงยหน้ามองแล้วก็เจอกับใบหน้าที่ผมโคตรจะหมั่นไส้

“มึงยังไม่กลับไปอีกเหรอ” ผมถาม

“ไปกินข้าวกับกูไหม กูเลี้ยง” มันไม่ตอบคำถามผมแต่ถามคำถามกลับแทน

“ทำไมกูต้องไปกับมึงด้วย มึงโรคจิตหรือไง” ผมพูดอย่างหงุดหงิด ผมไม่รู้จักมัน เจอกันครั้งแรกเมื่อวานที่เดินชนกัน แล้วก็ตอนที่มันมาซื้อบุหรี่ในเซเว่นจนกระทั่งตอนนี้

“กูเหมือนคนโรคจิตตรงไหน ความจริงมึงต้องเรียกกูว่าพี่ด้วยซ้ำนะซ่า กูแก่กว่ามึง”

“มึงรู้จักชื่อเล่นกูได้ไง” ผมยอมรับว่าตกใจ เพราะนอกจากคนในครอบครัวญาติพี่น้องและพลอย ผมก็ไม่เคยบอกชื่อเล่นกับใคร แม้แต่อยู่ต่อหน้าเพื่อนผมพลอยก็ยังเรียกผมว่าพัช เพราะบอกว่าจะเก็บชื่อซ่าไว้เรียกคนเดียวจะได้ดูพิเศษกว่าคนอื่น

“ก็กูได้ยินมึงแทนตัวเองตอนคุยโทรศัพท์ หรือชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อมึง” มันเลิกคิ้วถาม

“เรียกกูว่าพัช” ผมกดเสียงเข้ม

“ไม่ กูจะเรียกมึงว่าซ่า”

“ไม่ได้ มึงห้ามเรียกชื่อนั้นของกู”

“ทำไม”

“กูให้คนสำคัญเท่านั้นเรียก”

“อ่าหะ” มันยักไหล่ได้กวนส้นตีนมากๆ “ดึกล่ะ ไปกินข้าวกัน”

“มึงเพ้อเจ้ออะไร ถอยไปอย่ามาขวางทาง”

“ซ่า...” มันเรียกชื่อเล่นจริงๆของผมอีกครั้ง และยังคงไม่ยอมหลีกทางให้ ผมชักจะเริ่มหมดความอดทน ถ้ามันยังกวนตีนผมอีกนิดผมจะขับรถชนมันเสียเลย

“มึงจะถอยไหม”

“จะไม่ไปกินข้าวกับกูใช่ไหม”

“ไม่ไป กูกับมึงไม่รู้จักกัน ถอยไป” ผมโบกมือไล่เหมือนมันเป็นแมลงวี่แมลงวันที่น่ารำคาญ

“อ่อ ต้องรู้จักกันก่อนว่างั้น”

“...”

“กูชื่อปราบ ครั้งหน้าเจอกันอย่าลืมเรียกกูว่าพี่นะครับน้องซ่า”

ไอ้คนโรคจิตแสยะยิ้มชั่วร้ายแล้วก็เดินกลับไปที่รถของมันที่จอดอยู่ใกล้ๆ ผมมองมันจนกระทั่งทั้งคนและรถหายลับไปกับตา

“หึ ฝันหรือไงที่จะให้กูเรียกมึงว่าพี่ กูไม่คิดอยากจะเจอมึงอีกด้วยซ้ำ ไอ้คนประสาท”

ผมส่ายหน้าเซ็ง สตาร์ทรถได้ก็ขี่ไปซื้อโจ๊กเจ้าเด็ดที่ตลาดโต้รุ่งเอากลับไปกินที่ห้อง คืนนี้ไอ้กฤษไม่อยู่ห้อง ผมก็เลยสบายตัวสบายใจ กินอิ่มนอนหลับ ลืมเรื่องของไอ้คนชื่อปราบไปเสียสิ้น






 :L2:


ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #14 เมื่อ02-01-2017 22:24:46 »

 :katai5: :katai5:
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #15 เมื่อ02-01-2017 22:47:08 »

นี่มาจีบหรือมากวนประสาท

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #16 เมื่อ02-01-2017 23:03:39 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #17 เมื่อ02-01-2017 23:12:07 »

❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากกกกกกก
。◕‿◕。
พลอย ชิงว่าซ่าก่อน
เพราะกลบเกลื่อนความผิดตัวเองหรือเปล่า
ดูพลอยแปลกๆ อยากให้ซ่ารู้เรื่องพลอยไวๆ
ปราบ ติดใจซ่าแค่ชนกัน แล้วตามมาเจอเหรอ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #18 เมื่อ02-01-2017 23:23:50 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #19 เมื่อ03-01-2017 06:48:01 »

พี่ปราบ ชอบน้องซ่าแล้วหรอคะ หรือแค่ถูกใจเฉยๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
« ตอบ #19 เมื่อ: 03-01-2017 06:48:01 »





ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #20 เมื่อ03-01-2017 07:42:54 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #21 เมื่อ03-01-2017 08:01:24 »

 :hao6:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #22 เมื่อ03-01-2017 13:28:59 »

ซ่าาจะโดนปราบใช่มั้ย 555

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่2 :: 2/1/2017
«ตอบ #23 เมื่อ03-01-2017 19:01:25 »

พี่ปราบไม่ธรรมดา เห็น,คุยกันแป๊บเดียวติดใจน้องซ่าซะแลฺ้ว ฮ่าๆ

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
«ตอบ #24 เมื่อ04-01-2017 19:33:59 »

ปราบซ่า
ตอนที่3


   
[ZA]
ขณะนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาล กำลังรอรับยาและข้างๆกันก็คือพลอยแฟนของผมกับเพื่อนผมอีกสี่คน ทุกคนอยู่ในความสงบต่างจากเหตุการณ์ที่เจอมาก่อนหน้านี้

“ทำไมต้องมีเรื่องตลอดเลย ไม่เข้าใจ” พลอยบ่น

“ก็พวกมันกวนตีน” ผมตอบเสียงแข็ง แม้ว่าปากจะเจ็บก็ตาม

“เหอะ ทำตัวอย่างกับหมา ชอบนักกัดกัน” พลอยด่าใส่ผมและเพื่อน หน้าชาดิกู พลอยมองผมด้วยหางตาอีกทีก่อนจะเดินหนีไป

“เฮ้ย จะไปไหนวะ” ผมลุกตามไปกระชากมือพลอย แต่เธอสะบัดมือผม

“จะกลับบ้าน ไม่อยากยุ่งกับอันธพาล”

เป็นอีกครั้งที่ผมหน้าชา ไม่ใช่เพราะรู้สึกอ่อนไหวที่โดนด่า หนักกว่านี้ผมก็เจอมาแล้ว แต่ว่า...ก่อนหน้านี้ แม้ว่าผมจะมีเรื่องต่อยตี กินเหล้าเที่ยวกลางคืนยังไง ถึงพลอยจะบ่น ถึงจะไม่ชอบใจ แต่ก็ไม่เคยมองกันด้วยสายตาที่แสดงออกมาว่ารังเกียจและรำคาญ คำว่าไม่อยากเข้าใกล้กับสีหน้ามันไปในทิศทางเดียวกันจนผมหวั่นใจ

ผมเดินเข้าไปคว้าแขวนพลอยไว้ เธอหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผมเซ็งๆ

“ปล่อย”

“เดี๋ยวดิ รอกลับพร้อมกัน อีกไม่กี่คิวก็ได้ยาแล้วเนี่ย”

“ไม่ จะไปไหนก็ไปเลย วันนี้แยกย้ายกันกลับ”

“อะไรวะ ก็ไหนบอกว่าวันนี้จะไปหาไรกินกันแล้วดูหนังไง”

“ไม่มีอารมณ์”

“ต้องให้กูทำอารมณ์ให้ก่อนไหม” ผมเดินย่างสามขุมเข้าไปใกล้ เริ่มขึ้นมึงขึ้นกูเพราะอารมณ์เสีย ผมอาจจะผิดที่ไปมีเรื่องต่อยตี ถึงผมจะไม่ชอบที่พลอยชอบบ่น แต่ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามันไม่เคยแสดงออกว่าไม่อยากอยู่ใกล้หรือไม่อยากเจอหน้าผมอย่างวันนี้

“อย่ามาพูดจาแบบนี้นะ”

“หึหึ” ใช่สินะ กูมันกุ๊ยนี่ จะไปอะไรกับเด็กนักเรียนโรงเรียนเอกชนบ้านรวยล่ะวะ แม่งก่อนที่จะคบกันก็บอกว่ารับได้ กูเป็นแค่เด็กเทคนิคก็ไม่เป็นไร รับได้ ความรักไม่แบ่งแยก กูพยายามบอกแล้วว่าคบกับกูไม่สวยหรู แต่ก็บอกว่ารักกูรับได้ทุกอย่าง แล้วนี่คืออะไรวะ

ได้ใจกูไปแล้วทำแบบนี้เหรอ

“ปล่อย” พลอยมันพูดย้ำอีกครั้ง

“ได้” ผมเดาะลิ้นที่กระพุ้งแก้ม พยักหน้าหัวเสีย “กูจะปล่อยให้มึงกลับบ้านวันนี้ แต่กูไม่ปล่อยมึงไปตลอดแน่พลอย จำไว้” ผมชี้หน้าพลอยที่หงุดหงิดเป็นอย่างมาก ก่อนจะด่าผมหนึ่งคำแล้วเดินกระแทกเท้าจากไป ผมยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเขาประกาศเรียกชื่อผมให้ไปรับยา

“ไหวไหมมึง หน้ามึงเหี้ยมาก” ไอ้ตูนถามสีหน้าเป็นห่วง

ผมไม่พูดอะไร เดินออกจากโรงพยาบาลมาพร้อมพวกมัน เงินค่าข้าวหายไปหลายมื้อกับค่ายาและค่ารักษา แถมมีเมียคนหนึ่งแม่งก็ไม่ได้ดั่งใจ

“อย่าหาว่ากูยุแยงเลยว่ะ แม้พูดไปมึงอาจจะไม่เชื่อ แต่พลอยมันมีคนอื่นนอกจากมึงจริงๆนะเว้ยไอ้พัช” ไอกานมันพูดหน้าเครียด ผมหันไปจ้องหน้ามัน ไม่ได้โกรธเพื่อนแม้ว่าคำพูดของมันจะทำให้ผมหน่วงในอกก็ตาม

“เออ แล้วไหนจะท่าทีเบื่อมึงหนักหนาขนาดนั้นอีก กูเห็นแล้วรำคาญลูกตา ถ้าจะมีคนอื่นก็บอกเลิกมึงไปเลยเหอะ ทำแบบนี้แม่งเรียกว่าสำส่อนชัดๆ” ไอ้หวายก็ใส่อารมณ์มาเต็ม ผมตวัดตามองมันอย่างไม่ชอบใจ คือยังไงพลอยก็ยังได้ชื่อว่าเป็นแฟนเป็นเมียผมอยู่ มันจะทำตัวไม่ดียังไงผมก็ไม่อยากให้เพื่อนเอามันมาพูดไม่ดีแบบนี้

“จนกว่ากูจะเลิกกับมัน อย่าพูดแบบนี้ให้กูได้ยินอีกนะไอ้หวาย กูไม่ชอบ” ผมกระแทกเสียงใส่มัน

ไอ้หวายเลยทำหน้าโกรธใส่ผมกับมา “ให้มึงเลิกกับมัน เหอะ รอให้มันเอากับผัวคนใหม่ให้มึงเห็นก่อนล่ะมั้งวันนั้นถึงจะมาถึง”

ผมแสยะยิ้มแล้วกัดฟันพูด “ก็รอให้วันนั้นมาถึงก่อนล่ะกัน”

เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนคบกับพลอยต่อได้ไหม

“เออๆ คืนนี้ไปหาเหล้ากระแทกปากกันดีกว่าวะ” ไอ้นุ๊กเสนอขึ้นมาหลังจากที่เรากำลังนั่งรอรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์ วันนี้ผมไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มา ซึ่งก็ดี ไม่งั้นรถอาจจะพังระหว่างตีกับคู่อริ

“หาคนเลี้ยงเหล้าสิหรือมึงจะจ่ายไอ้นุ๊ก ค่าหมอค่ายาเมื่อกี้หมดไปหกร้อยกว่าบาท เงินของอาทิตย์นี้กูไม่เหลือแล้ว” ไอ้กานบ่นครับ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับพวกมันทั้งสองคน หนึ่งคือทั้งอยากกินเหล้า สองคือเงินไม่มี คืนนี้ผมต้องไปทำงานแต่กำลังคิดว่าจะโทรไปลาดีไหมแม้ว่าโควต้าการขาดงานของผมจะเข้าใกล้เส้นแดงมากขึ้นทุกที แต่สภาพผมตอนนี้ไม่เหมาะให้ไปทำงานเท่าไหร่ รวมไปถึงสภาพจิตใจด้วย บอกตามตรงว่าผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย ถ้าได้เมาก็คงดี

“เดี๋ยวกูหาคนเลี้ยงเหล้าให้ พวกมึงก็กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวก็แล้วกัน ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวกูโทรบอก” ไอ้หวายที่สูบบุหรี่อยู่เอ่ยขึ้น

“เยี่ยมมากมึง หาให้ได้นะ” ไอ้ตูนยิ้มแป้นแล้นทันที

“เออ แล้วมึงล่ะพัชคืนนี้จะไปไหม มึงต้องไปทำงานนิ” ไอ้หวายเงยหน้าถามผม

“เออ เดี๋ยวกูโทรไปลางาน” ผมบอก รู้สึกอยากบุหรี่ขึ้นมาเหมือนกัน แต่แม่งหมด

“มึงลางานบ่อยขนาดนี้ไม่เสี่ยงโดนไล่ออกเหรอวะ”

“ก็คงงั้น แต่มึงจะให้กูไปทำงานสภาพนี้เนี่ยนะ คงโดนไล่กลับอยู่ดี” ทั้งหน้าและตามแขนขาลำตัวมีแต่แผล เขาคงให้ผมทำงานหรอกวันนี้น่ะ

“เออ เอาไงก็เอา แยกย้าย ดึกๆเจอกัน” ไอ้นุ๊กตัดจบเพราะรถที่มันต้องขึ้นกลับบ้านมาแล้ว จากนั้นต่างคนก็ต่างทยอยกลับ

ผมกลับมาถึงห้องพักก็เจอกับไอ้กฤษกับแฟนมันนอนคุยบนเตียงกระหนุงกระหนิง มันสองคนหันมามองผมเล็กน้อยก่อนที่รูมเมทของผมจะเอ่ยทัก

“ไปตีกับใครมาวะ สภาพดูไม่ได้เลย”

“พวกเดิมๆ วันนี้ทำไมมึงไม่ไปเรียน” ผมถาม เมื่อคืนผมไม่ได้นอนที่ห้อง กลับไปนอนบ้าน และพอไปถึงวิทยาลัยก็ถึงได้เห็นว่ามันไม่ได้ไปเรียน เพราะถ้ามันไปสภาพมันตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน อย่าถามเลยครับว่าตีกันไปทำไม ตีกันไปเพื่ออะไร มันไม่มีเหตุผลนอกจากคำว่าศักดิ์ศรีหรอก ยิ่งเห็นคนที่กวนตีนจนน่าเอาตีนถีบยอดหน้า ขาและมือมันก็กระตุกไปเอง

“กูไม่สบายนิดหน่อย แฟนกูก็เลยมาดูแลที่ห้อง”

ผมมองสำรวจสภาพมัน ทุกอย่างก็ดูปกติดี ไม่เห็นว่ามันจะเจ็บไข้ได้ป่วยตรงไหน สงสัยจะป่วยการเมืองอยากอยู่กับแฟน ไม่ว่ากันครับ ชีวิตใครชีวิตมัน เพราะชีวิตผมก็ไม่ได้ดี อยากทำอะไรทำไปเถอะถ้าตัวเองพอใจ

ผมเดินไปอาบน้ำและขึ้นมานอนบนเตียงของตัวเอง เสียบหูฟังเพลงด้วย ไม่อยากรับรู้ความหวานจากเตียงข้างๆกัน ผมเผลอหลับไปจนกระทั่งมีสายโทรเข้ามา เป็นไอ้หวายที่โทรมาบอกว่าพวกเฮียที่มันรู้จักจะเลี้ยงเหล้า ครั้งที่แล้วที่ไปผมก็ยังไม่ได้กิน ครั้งนี้กะว่าเอาให้เต็มที่ หงุดหงิดอยากระบาย

ผมเปิดตาให้กว้างแล้วมองรอบๆห้อง มีเสียงน้ำจากห้องน้ำ มองดูที่เตียงข้างๆ ไอ้กฤษกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า คงไม่ต้องบอกว่าตอนที่ผมหลับพวกมันทำอะไรกัน

“เดี๋ยวกูจะออกไปข้างนอกนะ ไม่แน่ใจว่าคืนนี้จะกลับไหม” ผมบอก ถ้าเมามาก อาจจะไปนอนบ้านเพื่อนคนใดคนหนึ่ง

“คืนนี้แฟนกูก็จะนอนที่นี่เหมือนกัน”

แปลง่ายๆคือคืนนี้กูไม่ควรกลับมานอนที่ห้องสินะสินะ โอเค กูเข้าใจ

“เอ่อพัช กูมีเรื่องจะบอก” ไอ้กฤษวางมือถือลงแล้วมองหน้าผมก่อนจะหลุบตาต่ำทำหน้าลำบากใจ

“อะไรวะ” ผมถาม ลุกขึ้นเดินไปหาเสื้อผ้าเปลี่ยน ไอ้หวายบอกว่าเฮียมันจะพาไปร้านเหล้าร้านใหม่ที่ค่อนข้างดูดีนิดหนึ่ง เสื้อผ้าก็เลยต้องดูดี ผมกะว่าจะใส่คู่กับรองเท้าที่พี่จี้ซื้อให้ ก็คงจะพออัพเกตให้ผมดูไม่สถุลมากนัก

“คือ แฟนกูจะย้ายมาอยู่นี่ด้วย” ไอ้กฤษพูดเสียงเบา ผมหยุดมือที่กำลังหาเสื้อแล้วหันไปมองหน้ามัน

“ที่ห้องนี้อ่ะนะ” ผมทวนถาม

คือหอพักนี้มันเล็กมาก แค่ผมอยู่กับมันสองคนก็แทบจะเดินชนกันอยู่แล้ว ถ้ามีแฟนมันมาอยู่ด้วยอีกคนจะอยู่กันยังไงวะ ไม่ขี่คอกันเลยเหรอ อีกอย่างแฟนมันเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชายจะอยู่กันยังไง ไหนจะตอนที่มันกับแฟนมันเอากันอีก ผมไม่ต้องออกไปรอนอกห้องจนกว่ามันจะทำกิจธุระเสร็จหรือวะ บอกตามตรงว่าผมไม่อยากออกไปนอนพิงกำแพงหน้าประตูอีกแล้ว กูเมื่อย กูหนาว ยุงก็เยอะ

“อืม กูก็เลยอยากจะ...”

“...” ผมหันไปมองไอ้กฤษทั้งตัว ลุ้นคำที่มันกำลังจะพูด ทำไมกูรู้สึกว่าสีหน้ามันกับประโยคถัดมามันจะไปในทิศทางที่เลวร้ายวะ

“คือ มึงหาหอใหม่อยู่ได้เปล่าวะ กูอยากได้ความเป็นส่วนตัวอยู่กับแฟนสองคน”

“มึงว่าอะไรนะ” ผมกลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ แต่ประโยคเมื่อกี้ทำเอากูมึนหัวหนักมาก

“คือห้องนี้กูเป็นคนเช่าตั้งแต่แรกใช่ไหมล่ะ และตอนนี้แฟนกูจะมาอยู่ด้วย มึงหาหอใหม่ได้ไหมวะ กูไม่ได้ปุบปับจะให้มึงย้ายออกนะเว้ย มึงหาหอก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูช่วยหา”

ผมเหมือนถูกเอาหินปาหัว โอเค สิ่งที่มันพูดผมก็พอเข้าใจได้

“กูขอโทษนะเว้ยพัช แต่...”

“ไม่ต้องขอโทษหรอก กูเข้าใจ ห้องนี้เป็นชื่อมึงนี่ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูหาที่อยู่ใหม่ได้” ผมบอกกับมัน พยายามฝืนยิ้ม แต่แม่งโคตรยาก

“มึงไม่โกรธกูใช่ไหม”

ผมหลุดขำ...แบบฝืนๆ

“เออ อย่าคิดมาก กูเข้าใจ” ผมยักคิ้วให้มันก่อนจะหันหน้าเข้าหาตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกเสื้อต่อ แต่การเลือกเสื้อตอนที่จิตใจว้าวุ่นเป็นอะไรที่ยากลำบากพอควร สุดท้ายคว้าอะไรได้ผมก็ใส่ รีบแต่งตัวแล้วรีบออกจากห้อง มานั่งสูบบุหรี่ที่โต๊ะม้าหินด้านล่าง

สูบบุหรี่ไปได้ครึ่งมวนไอ้หวายก็โทรมา ผมล้วงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมากดรับ

“เออ”

“พัช มึงรออยู่ที่หอนะ เดี๋ยวเฮียปราบขับรถไปรับ กูกับเฮียใกล้จะถึงหอมึงล่ะ ลงมารอข้างล่างเลย”  เสียงไอ้หวายดังมาตามสายแข่งกับเสียงเพลงที่น่าจะเปิดในรถ

“เออ กูอยู่ข้างล่างหอแล้ว” ผมพูด

“โอเคมึง เจอกัน”

ไอ้หวายเป็นคนตัดสาย ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะอัดบุหรี่เข้าปอดไม่กี่ทีก็หมดมวน สมองผมยังไม่โล่ง มันปวดตุบๆ เรื่องน่าปวดหัวประเดประดังเข้ามาพร้อมๆกัน ไหนจะเรื่องพลอย เรื่องเงิน เรื่องหอพัก หน้าตัวก็เจ็บ แม่งมีอะไรน่าหงุดหงิดกว่านี้อีกไหม

ผมนั่งหลับตานิ่งๆไม่นานก็ได้ยินเสียงรถยนต์ ลืมตามองก็เจอกับรถยนต์คันหรูที่มีตราสี่ห่วงกลมๆอยู่ด้านหน้า จะบอกว่าคุ้นตาก็คงประหลาด แต่เหมือนว่าผมจะเคยเห็น

“ไอ้พัช ขึ้นรถเร็ว” กระจกรถเบาะหน้าเลื่อนลงแล้วหน้าไอ้หวายก็โผล่ออกมา นี่คงเป็นรถของเฮียมันแต่ไม่รู้คนไหน ผมเปิดประตูหลังเข้าไปนั่ง ยกมือไว้และเอ่ยทักเจ้าของรถ

“หวัดดี...พี่” เสียงของผมกระตุกเบาลงเมื่อเจ้าของรถมันหันมาให้เห็นชัดๆว่าเป็นใคร

“เฮียปราบ นี่พัชเพื่อนผมเอง ไอ้พัชนี่เฮียปราบครั้งที่แล้วมึงกลับไปก่อนเลยไม่ทันได้เจอ รู้จักกันไว้เพราะคืนนี้เขาจะเป็นคนเลี้ยงเหล้าพวกเราเอง”

ครั้งที่แล้วงั้นเหรอ...อยากจะบอกไอ้หวายว่ากูเจอแล้ว แต่ไม่คิดว่าไอ้นี่มันจะเป็นรุ่นพี่ของไอ้หวาย

“ทำตัวตามสบายนะ ไม่ต้องเกร็ง” เฮียปราบของไอ้หวายพูดกับผม ดวงตาของมันมีแต่ความเจ้าเล่ห์บวกกับมุมปากที่ยกยิ้มข้างเดียว ดูแล้วกวนประสาทสุดๆ

ไม่คิดเลยว่าผมจะต้องวนเวียนมาเจอกับมันอีก

‘กูชื่อปราบ ครั้งหน้าเจอกันอย่าลืมเรียกกูว่าพี่นะครับน้องซ่า’

แต่ในเมื่อต้องมาเจอกันอีกครั้ง แถมยังเป็นรุ่นพี่ของไอ้หวาย แม้ว่าก่อนหน้านี้ผมจะไม่ค่อยชอบใจ แต่หากว่ามันเป็นคนดีผมก็จะนับถือมันเป็นพี่ด้วยอีกคน

“ทำแผลก่อนออกมาหรือยัง” อยู่ๆระหว่างทางเจ้าของรถก็พูดขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย

“เฮียถามผมเหรอ” ไอ้หวายเป็นคนตอบ

“เออ ถามมึงกับเพื่อนมึงนั่นแหละ” ตอบก่อนจะมองหน้าผมผ่านกระจกมองหลัง

“ผมทำแล้ว มึงทำยังไอ้พัช” ไอ้หวายชะโงกหน้ามามองผมที่อยู่ข้างหลัง

“ยัง” หลังจากกลับจากโรงพยาบาลผมก็ยังไม่ได้ใส่ยาหรือกินยาแก้อักเสบด้วยซ้ำเพราะไม่มีแก่ใจจะทำ

“เอา ทำไมไม่ทำวะ” ไอ้หวายโวยวายใส่ผม

“กูลืม” ผมตอบ ทีแรกว่าจะทำ แต่พอไอ้กฤษพูดเรื่องให้ผมย้ายออกจากห้อง ผมก็ลืมหมดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง

“ไอ้หวาย มึงเปิดคอนโซลข้างหน้า มียาทาแก้ฟกช้ำอยู่ เอาให้ซะ...ให้พัชทาไป” พี่ปราบพูด เขามองหน้าผมตอนที่กำลังจะหลุดเรียกชื่อเล่นที่แท้จริงของผมออกมา ก่อนจะเปลี่ยนไปเรียกชื่อเล่นที่เพื่อนผมและคนอื่นๆเรียก มันก็ไม่ใช่ความลับหรอก แต่ตอนที่แตกเนื้อหนุ่มใหม่ๆผมรู้สึกว่าชื่อซ่ามันไม่ค่อยเท่ เลยให้คนอื่นเรียกว่าพัชแทนก็แค่นั้น ไม่มีอะไรพิเศษ

“นี่ใช่ไหมเฮีย อ่ะมึงเอาไปทาซะไอ้พัช” ไอ้หวายส่งตลับยาทามาให้ผม แต่ผมไม่รู้ว่าต้องทาตรงไหนบ้าง ไอ้หวายเลยเป็นคนทาให้

“เฮียปราบนี่สมกับเป็นลูกเจ้าของโรงฝึกชื่อดังจริงๆ มีของแบบนี้ติดรถด้วย”

“ลูกเจ้าของโรงฝึก” ผมทวนคำ เหลือบมองพี่ปราบเล็กน้อย แบบนี้ก็แสดงว่าต่อยตีเก่งสิวะ ต้องบอกว่าผมโชคดีหรือเปล่าที่ไม่ได้มีเรื่องกับพี่เขาจนโดนตีน

ไม่ใช่ว่ากลัวนะครับ แต่ที่ต่อยตีกันอยู่ทุกวันกับอริต่างสถาบันมันคือการตีกันมั่วซั้ว มีอาวุธและพรรคพวก แถมตัวก็ไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่สูงใหญ่แบบพี่ปราบ

“กูถามหน่อยสิ ตีกันมันสนุกตรงไหนวะ” พี่ปราบถามขึ้น ผมกับไอ้หวายมองหน้ากันก่อนที่ไอ้หวายจะหลุดขำ

“ความสะใจไงพี่” ไอ้หวายตอบ สั้นๆง่ายๆ แม้จะไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด แต่อย่างที่บอก มันเลยจุดที่ต้องมาถามแล้วว่าทำไปทำไม เพราะถ้าเราไม่ทำ มันก็ทำเราอยู่ดี มันคือการอยู่รอด อย่ามาพูดว่าต่างคนต่างอยู่ มันไม่มีจริงในโลกของเด็กช่าง

“วันไหนตายห่าขึ้นมาไม่ใช่พวกมึงหรอกนะที่จะเสียใจ จำเอาไว้ กูก็พอจะเข้าใจ แต่ว่า...” พี่ปราบหยุดพูดก่อนจะมองสบตากับผม “คิดจะต่อยตีกับชาวบ้าน ก็อย่าแพ้กลับมามึงเจ็บอีกฝั่งต้องเจ็บมากกว่า เข้าใจไหม”

ไม่รู้ทำไม แต่ผมรู้สึกว่าประโยคเมื่อกี้พี่ปราบเน้นย้ำให้ผมเข้าใจ

“ค้าบ ทราบแล้วครับพ่อ” ไอ้หวายทำทะเล้นกลับ

เพี๊ยะ!

“เดี๋ยวมึงจะโดน”

ไอ้หวายโดนพี่ปราบตบหัวอย่างแรงจนหน้าเกือบกระแทกคอนโซลรถ

“เฮียปราบ! มือหรือตีนเนี่ย ผมเจ็บตัวอยู่นะเว้ย” ไอ้หวายโวยวายเสียงดันลั่นรถ แต่ทำไมผมรู้สึกขำก็ไม่รู้

“สม อยากกวนตีนกูดีนัก ช่วยเรียบร้อยเหมือนเพื่อนมึงหน่อยได้ไหม”

“โหย อย่างไอ้พัชเนี่ยนะเรียบร้อย พูดผิดผมให้พูดใหม่ เฮียยังไม่รู้จักมันดีพอ ส่วนมึงไม่ต้องมายิ้มเลย อู้ย มึนหัว”

ผมหมั่นไส้เลยผลักหัวมันเล่นซ้ำรอยที่พี่ปราบเพิ่งจะตบหัวมันไป ไอ้หวายโวยวายใหญ่โต ทั้งผมและพี่ปราบก็ได้แต่หัวเราะเยาะใส่มัน สมน้ำหน้า พูดมากดีนัก


ร้านที่พี่ปราบขับรถพามาเป็นร้านที่ค่อนข้างหรูมีระดับ คาดว่าหากไม่มีคนเลี้ยงผมคงไม่มีปัญญามาเอง และไม่รู้ว่าพี่ปราบแกเส้นใหญ่หรืออะไรผมกับไอ้หวายก็เลยไม่โดนตรวจบัตรประชาชนในขณะที่คนอื่นๆโดนกันถ้วนหน้า

“แล้วไอ้พวกนั้นอ่ะ ไม่มาเหรอวะ” ผมถามไอ้หวายระหว่างเดินตามพี่ปราบเข้าไปในร้าน

“มันเพิ่งส่งข้อความมาบอกว่าใกล้ถึงแล้ว ไว้มันโทรมาค่อยออกไปรับ” ไอ้หวายตอบ ตอนนี้ยังไม่ดึกเพลงก็เลยยังไม่ดัง คนก็ยังไม่เยอะมากนัก ทำให้มองเห็นบรรยากาศโดยรอบและเห็นว่าผู้หญิงที่นี่งานดีสัด

เป็นผู้หญิงแบบที่ผมทำได้แค่มอง แบบหมาวัดมองเครื่องบิน

“ไง ชอบเหรอ แบบนั้นน่ะ” พี่ปราบเอาไหล่สะกิดผมที่ยืนมองผู้หญิงพวกนั้นตาไม่กระพริบ

“หรือพี่ไม่ชอบ ของสวยๆงามๆ” ผมย้อนถาม

“หึหึ ชอบ” พี่ปราบมองผมด้วยสายตากรุ่มกริ่มปนหื่น ถ้าใช้สายตาแบบนี้มองพวกหญิงพวกนั้น รับรองว่าได้กินชัวร์

เดินมาถึงโต๊ะ พวกพี่ๆหน้าเดิมก็นั่งอยู่แล้ว และไอ้หวายก็รีบเข้าไปประจบพี่ๆมันรายตัว

“ผมรักพวกเฮียที่สุดเลย คืนนี้ขอหนักๆ ผมอยากเมา ขอสาวๆด้วยยิ่งดี” ไอ้หวายตะโกนเสียงดัง เข้าไปแทรกกลางระหว่างเฮียธีร์กับเฮียบีท เฮียกี่ที่นั่งถัดจากเฮียบีทเอื้อมมือไปจิ้มแผลบนหน้ามัน แกล้งจนไอ้หวายร้องเจ็บ

“หน้ามึงดูไม่ได้ขนาดนี้ยังคิดจะเอาหญิง ทำแผลหรือยัง กูเอาเหล้าฆ่าเชื้อให้ไหม แม่งมาทีไรเสียงดังทุกที” เฮียกี่บ่น แต่ปากแกยกยิ้มบางๆนะครับ

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้รอบวงก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม พี่ปราบก็มานั่งข้างๆผม

“เออ มึงไม่ต้องยกมือไหว้ก็ได้ กูไม่ถือ ไอ้หวายมันก็ไม่ค่อยไหว้พวกกูนักหรอก ทำตัวตามสบายมึง” เฮียบีทพูดอย่างเป็นกันเอง ผมพยักหน้า แต่ครั้งหน้าเจอกันก็คงยกมือไหว้ มันชินไง ถ้าไม่ได้รู้สึกเกลียดแล้วอายุมากกว่าผมก็ยกมือไหว้หมดแหละ

“เอาอะไร เบียร์หรือเหล้า หรือไวน์ สั่งเลยพวกกูเลี้ยงปลอบใจที่พวกมึงเพิ่งไปโดนตีนมา” เฮียธีร์ถามผม ผมมองขวดเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะ ไม่รู้หรอกยี่ห้ออะไรเพราะไม่รู้จัก แต่คิดว่าน่าจะราคาแพง

“ขอเหล้าแล้วกันครับ” ผมบอก

“เฮียบีท เพื่อนผมมันมาถึงแล้วอ่ะ พาออกไปรับมันข้างหน้าหน่อยดิ” ไอ้หวายลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปพร้อมเฮียบีท

“กินข้าวมายัง” พี่ปราบถาม ผมส่ายหัว

“ยังเลยพี่”

“งั้นมึงกินข้าวก่อน เหล้าไว้ค่อยกิน” พี่ปราบพูดเสียงเข้ม ยกมือเรียกพนักงานให้เอาเมนูอาหารมาให้ ผมหยิบมาเปิดดู แค่เห็นราคาอาหารกูก็อิ่มแล้ว แพงไปไหนวะ

“ทำไมอาหารมันแพงนักอ่ะพี่” ผมเงยหน้าถาม

“ไม่ต้องสนใจ จะกินไรสั่งเลย” พี่ปราบพูด

“ป๊ามากอ่ะ” ผมขำเบาๆ คนมันรวยก็งี้ ในเมื่อพี่ปราบอนุญาตผมก็ไม่เกรงใจ สั่งข้าวผัดง่ายๆโง่ๆกับต้มยำและทอดมันกุ้งอีกอย่าง ระหว่างรอก็ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ อึกแรกคือ-นลุกซู่ เฮียธีร์ชงเข้มสุดๆ

“เฮียธีร์ ชงนี่กะมอมผมเลยป่ะ” ผมถาม เฮียธีร์เลิกคิ้วก่อนจะยิ้ม

“คออ่อนเหรอมึง”

“ใครคออ่อนเฮีย ไม่มีเหอะ” หยามเรื่องไรหยามได้ แต่เรื่องนี้มีเคือง ผมกินเหล้ากินเบียร์เกือบทุกวัน ถ้าคออ่อนก็เกินไปล่ะ

“กินๆเข้าไปเหอะมึง ป๋าที่นั่งข้างมึงจ่าย ขวดนี้เจ็ดพันเลยนะมึง” เฮียบีทตอบ ผมหันไปมองหน้าพี่ปราบทันที

“เหล้าเหี้ยไรวะพี่ปราบ แพงฉิบหาย” ผมตกใจนะ คือเจ็ดพันนี่ผมซื้อข้าวกินได้เป็นเดือนสองเดือนเลยอ่ะ

“ของดีราคาก็ต้องดี กูอนุญาตให้มิกซ์ได้แค่น้ำเปล่ากับโซดา ห้ามน้ำอัดลมเด็ดขาด เสียของ” พี่ปราบพูด แต่ตาโคตรดุ เหมือนจะต่อว่าที่ผมไปด่าเหล้าแก

“มึงรู้เปล่าว่าไอ้ปราบนี่เซียนของมึนเมา แดกมาแล้วทุกยี่ห้อทุกแบบทุกชนิด แดกยันราคาหลักแสน” เฮียกี่อธิบายความเป็นพี่ปราบเพิ่มเติม ผมหันไปทำตาโตใส่

“หลักแสน! แค่แสงโสมก็พอมั้งพี่ กินไปก็ฉี่ออกมาเหมือนกันแหละ เมาเหมือนกัน เสียเงินเยอะแยะทำไม”

เพี๊ยะ

“ฮ่าๆๆ โดนเข้าให้แล้วไง” เฮียบีทมันขำที่ผมโดนพี่ปราบตกปาก ไม่เจ็บมาก แต่พอมันโดนแผลที่ผมโดนต่อยมาก็แสบเอาเรื่องอยู่

“มึงห้ามพูดแบบนี้อีก เหล้าดีมึงเอามาเปรียบกับเหล้าธรรมดาไม่ได้ มันไม่เหมือนกัน” พี่ปราบดุหน้าเครียด ซึ่งผมงงมาก อะไรของเขาวะ

“ใจเย็นๆ น้องมันไม่รู้ มึงไม่ต้องตกใจไอ้พัช เดี๋ยวมึงก็ชิน แล้วก็ไม่ต้องคิดมาก มีของดีให้กินก็กินไป” พี่กี่บอกพร้อมกับยกแก้วเหล้าให้ผมชน

“มาแล้วค้าบมาแล้วว” เสียงไอ้หวายอีกล่ะ ก่อนที่มันจะเริ่มแนะนำพี่ๆของมันให้ไอ้กาน ไอ้นุ๊กและไอ้ตูนรู้จัก เมื่อรู้จักกันครบหมดแล้วก็หาที่นั่งและเริ่มเมากันทันที






ต่อข้างล่าง

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
«ตอบ #25 เมื่อ04-01-2017 19:34:54 »

ผมนั่งกินข้าวโดยมีไอ้กานแย่งกินอยู่ข้างๆ และดูเหมือนว่ากับข้าวที่ผมสั่งมากินจะไม่พอสำหรับกระเพาะควายๆอย่างพวกผม

“พี่ สั่งอีกได้เปล่า ไม่อิ่มวะ” ไอ้กานถามแล้วมองหน้าเฮียทุกคน

“เออ อยากกินไรมึงสั่งเลย ไม่ต้องขออนุญาต”

“ใจดีโคตร ขอบคุณนะครับ” ไอกานยกมือไหว้ถวายบังคมเหนือหัวกวนๆ ก่อนจะรีบเรียกพนักงานมาสั่งอาหารเพิ่มทันที

“กูไม่ได้ใจดีหรอก แต่เห็นแล้วสงสาร สภาพพวกมึงแต่ล่ะคนเหมาะที่จะนอนโรงพยาบาลมากกว่าออกมาลั้นลาในผับ”

“เรื่องตีเรื่องต่อยเพลาๆบ้างเถอะพวกมึง ตายห่ามาสักวันพวกกูจะไม่ไปงานศพ” พี่ธีร์บ่นใส่หน้าไอ้หวาย คิดว่ามันจะสำนึกไหม อย่าว่าแต่มันเลย พวกผมได้แต่มองหน้ากันแล้วเงียบ

“ไม่เอาน่าเฮีย วันนี้งดสวดนะ หวายขอร้องงง” ไอ้หวายทำหน้าอ้อน แต่เป็นอ้อนตีนนะ เลยโดนเฮียปราบที่นั่งตรงข้ามถีบเก้าอี้เข้าให้

“ผมถามไรหน่อยดิ คนหล่อไฮโซแบบพวกพี่ทำไมมารู้จักกับไอ้หวายได้อ่ะ” ไอ้ตูนถามด้วยความสงสัย

“อ้าวๆ พูดงี้หมายความว่าไงวะเพื่อน จะหาว่ากูโลโซเหรอ” ไอหวายโวย

“เออ มึงเพิ่งรู้ตัว” ไอ้นุ๊กเสริมทัพไอ้ตูน

“แม่กูรู้จักกับแม่มัน” เฮียบีทตอบ “เพื่อนมึงเป็นคนใจง่าย เล่นกับกูสองสามครั้งเท่านั้นแหละติดแจ สุดท้ายก็เลยรู้จักกับเพื่อนกูทุกคน”

“ผมว่าพี่ซวยแล้วแหละที่รู้จักคนอย่างมัน” ไอ้กานพูด

“ไอ้เหี้ยกาน ว่ากูเหรอ”

“หูมึงไม่ดีหรือเปล่าเพื่อน เมื่อกี้กูชมมึงคำโตเลยวะเว้ย”

“ไอ้เหี้ยกาน”

ไอ้หวายหยิบถั่วปาใส่หัวไอ้กาน แต่ทำมันมันถึงมาโดนหน้าผากผมได้วะ

“ไอ้หวาย” ผมเรียกมันเสียงเขียว

“โทษทีมึง กูพลาดวะ” ไอห่านี่พูดง่าย

“ตาเหล่เหรอมึง ฮ่าๆๆ กูพาไปหาหมอไหม” ไอ้กานนี่ก็กวนตีนไม่เลิก

“เดี๋ยวกูเขวี้ยงแก้วแม่ง”

“กร๊ากก” ดูทุกคนจะชื่นชอบที่ไอ้หวายโดนแกล้ง ต่างก็หัวเราะด้วยความสะใจ

สองชั่วโมงผ่านไปสภาพทุกคนไม่มีดี จากที่นั่งก็ยืนกันหมด เก้าอี้ถูกเอาออกไปเพราะแค่จะยืนก็ยังไม่มีที่ ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะยิ่งมัน ไอ้กานกับไอนุ๊กลากผมไปเต้นอยู่ใกล้ๆกับกลุ่มสาวๆ อาศัยความหน้าด้านและความเมาล้วนๆ จนกระทั่งเหนื่อยก็กลับมาที่โต๊ะ ไอ้หวายเฮียธีร์และเฮียบีทหายไปไหนไม่รู้ เหลือพี่ปราบกับเฮียกี่ที่ยืนโอบสาวอยู่ที่โต๊ะ

ผมรู้สึกอยากสูบบุหรี่ แต่เขาไม่ให้สูบในนี้เลยว่าจะออกไปสูบข้างนอก ตบๆกระเป๋ากางเกงหาของที่ต้องการแต่ดันลืมไปว่าบุหรี่ผมหมดและยังไม่ได้ซื้อ ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยหันไปสะกิดพี่ปราบ

“มีอะไร” พี่ปราบละความสนใจจากสาวมามองหน้าผม

“พี่มีบุหรี่ป่ะ” ผมถาม

“มี จะเอา?”

“อืม อยากอ่ะ” ผมตอบ พี่ปราบล้วงซองบุหรี่จากกระเป๋ากางเกงให้ทั้งซอง ไอ้ตูนเห็นเข้าพอดีเลยเอ่ยปากขอด้วยเพราะมันไม่ได้พกมา จากนั้นผมและไอ้ตูนก็เลยเดินไปทางห้องน้ำ ที่ด้านหลังจะมีที่ให้ยืนสูบบุหรี่

อากาศข้างนอกเย็นนิดหน่อย แต่ได้เหล้าดีเข้าไปเลยทำให้ร่างกายอบอุ่น ผมจุดบุหรี่ยืนสูบกับไอ้ตูน มีคนอื่นใกล้ๆอีกสองสามคนแต่ไม่ได้สนใจ

พอเดินออกจากวงเหล้า แม้จะเมา แต่สิ่งแรกที่ผมคิดถึงก็คือพลอย

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ไม่มีสายเข้าสักสาย ตั้งแต่ที่แยกกันตอนเย็น พลอยไม่คิดจะเป็นห่วงหรือโทรหาผมเลยเหรอวะ ความจริงวันนี้ผมมีนัดจะไปดูหนังกับพลอย แต่ดันงานเข้า พลอยแม่งก็เลยหายหัวไปเลยตั้งแต่เย็น

ในเมื่อไม่โทรมาผมก็จะเป็นคนโทรหาไปเองครับ มาดเมิ้ดอะไรกูไม่มีทั้งนั้น มีแค่ว่าอยากโทรอยากคุย ยังไงผมก็ผิดแหละงานนี้

แต่ต่อสายหลายครั้งรอจนกระทั่งสัญญาณตัดพลอยก็ไม่ยอมรับสาย

“มึง กูจะเข้าไปแล้วนะ” ไอ้ตูนที่สูบบุหรี่เสร็จแล้วสะกิดบอกผม

“เออ เข้าไปก่อนเลย กูโทรหาพลอยแปบ” ผมบอก ไม่ได้มองหน้ามัน เลยไม่รู้ว่ามันมองหน้าผมด้วยสายตาแบบอึดอัด ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน 

ผมไม่ละความพยายาม กดต่อสายอย่างใจเย็นจนกระทั่งรู้สึกว่ามีคนมานั่งข้างๆ ผมเอาโทรศัพท์ออกจากหูเมื่อสัญญาณตัดไปอีกครั้ง

“ออกมาทำไมอ่ะพี่ ไม่อยู่กับสาวเหรอ” ผมถามพี่ปราบที่มานั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างๆ แต่ซองที่พี่ปราบให้มายังอยู่ที่ผม

“ทำไมกูต้องอยู่กับสาวด้วยอ่ะ” คนหล่อย้อนกลับมาหน้ากวน

“อ้าว ก็เห็นสีกันอยู่” ผมพูดตามที่เห็น

“คุยไปงั้นๆ”

“เหรอ”

“แล้วมึงอ่ะ ออกมานั่งทำไร” คราวนี้พี่ปราบถามบ้าง ผมเลยก้มมองโทรศัพท์ในมือ ตัดสินใจเลิกโทร พรุ่งนี้ค่อยไปหาที่บ้านไม่ก็ที่โรงเรียนพลอยทีเดียว

“โทรหาแฟน แต่ไม่รับสาย”

“ทะเลาะกัน?”

“อืม ประมาณนั้น เรื่องที่ผมโดนตีนมาเนี่ยแหละ” ได้ทีผมก็ถือว่าระบายไปในตัว

“ผู้หญิงก็งี้ ไม่อยากให้แฟนมีเรื่องต่อยตี”

“ผมว่ามันหลายเรื่อง”

“ยังไง”

“เหมือนแฟนผมจะพยายามเอาตัวออกห่าง”

ผมรู้ตัวดีว่าสิ่งที่พลอยทำคืออะไร แต่ผมจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้น

“คุยกันดีๆดิ ผู้หญิงอาจจะน้อยใจ มึงก็ทำตัวดีๆหน่อย”

“ผู้หญิงไม่ได้ชอบคนเลวเหรอวะพี่” ผมหันไปขมวดคิ้วถามหาคำตอบจากพี่ปราบ

“ฮะๆๆ ผู้หญิงของมึงอาจจะชอบคนดีก็ได้”

กูต้องเป็นคนดี...งั้นเหรอ

จากนั้นผมกับพี่ปราบก็เงียบใส่กันอยู่ราวห้านาที คิดๆไปตอนที่ผมเจอพี่ปราบครั้งแรกกับครั้งที่สองที่เซเว่น บอกตามตรงว่ามันกวนตีนผมมาก และยังมีหน้ามาชวนผมไปกินข้าวอีก การกระทำของเขาเรียกได้ว่าบ้าบอเลยทีเดียว

“พี่ปราบ ถามไรหน่อยดิ”

“ว่ามา” ร่างสูงขยับหันเข้าหาผมอีกเล็กน้อย

“วันก่อนที่พี่ชวนผมไปกินข้าวอ่ะ พี่รู้จักผมแล้วเหรอว่าเป็นเพื่อนกับไอ้หวาย ทำไมถึงเข้ามาชวน” จะว่าข้องใจก็ได้ ตอนนั้นผมคิดว่าคนบ้าอะไรชวนคนไม่รู้จักไปกินข้าว

“กูรู้จักมึงตั้งแต่วันที่มึงกับกูชนที่ร้านเหล้าแล้ว” พี่ปราบตอบ ผมเบิกตากว้างเพิ่มนิดหน่อย

“จริงดิ พี่รู้ป่ะว่าพี่โคตรกวนตีนเลย” ผมพูดตรงๆ พี่ปราบจ้องหน้าผมก่อนจะพยักหน้า

“กูรู้สึกว่ามึงเป็นเด็กที่น่าสนใจดี ไหนๆก็เป็นเพื่อนกับไอ้หวาย กูเลยอยากรู้จัก” พี่ปราบอธิบายเพิ่มเติม

“แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ”

“เพราะกูตลกหน้ามึงตอนหงุดหงิด” พี่ปราบยักคิ้วใส่

“กวนตีน” ผมพูดเสียงเบา

“เออ มีไรจะถามอีกไหม”

“ไม่มี” ผมส่ายหัว

“หึหึ กูบอกแล้วไงว่าเดี๋ยวมึงก็ต้องเรียกกูว่าพี่”

ผมเหล่ตามองพี่ปราบอีกที แม้จะรู้จักกันแล้ว แต่ผมยังรู้สึกว่ามันกวนประสาทอยู่ดี แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกว่าพี่ปราบเป็นคนที่ไว้ใจได้ น่าจะเป็นผู้รับฟังที่ดี อาจด้วยเพราะเขาโตมากกว่าผม

“ซ่า...” พี่ปราบเรียกผมด้วยชื่อเล่น ครั้งนี้ผมไม่ได้รู้สึกไม่ชอบอะไร เพราะยังไงก็รู้จักกันแล้ว “เข้าข้างในเหอะ”

“อืม”

ผมเดินตามหลังพี่ปราบเข้าไปในร้านอีกครั้ง มาถึงโต๊ะทุกคนก็ดูสนุกสนานเต็มที่ ทั้งเหล้า ดนตรี และผู้หญิง เฮียธีร์ดันผู้หญิงคนหนึ่งมาให้ผม แต่ผมดันไปให้ไอ้กานทันที

“ไม่เอาเหรอมึง” เฮียธีร์ตะโกนถามผมทำหน้ากรุ้มกริ่ม ผมส่ายหัวแรง ถึงผมจะนิสัยแย่ทำตัวไม่ดียังไง แต่ผมก็รักเดียวใจเดียวครับ

“อย่าไปถามมันเลยพี่ ไอ้เหี้ยนี้มันกาก รักอยู่ได้ผู้หญิงคนเดียว” ไอ้กานที่เมาเละเป็นหมาหันมาด่าผม

“รักเดียวใจเดียวเหรอมึง” พี่ปราบกระซิบถามผม มือก็ส่งแก้วเหล้าแก้วใหม่มาให้

“ผิดเหรอ” ผมถามกลับ

พี่ปราบยิ้มมุมปากที่ดูแล้วโคตรดูดี “ดีแล้ว เป็นเด็กดีแบบนี้กูชอบ”

หลังจากนั้นผมก็แทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ความเครียดความหงุดหงิดทั้งหลายถูกขว้างทิ้งไปไกลด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ปริมาณมากที่ไหลเวียนอยู่ในร่าง เสียงเพลงมันๆนี่มันดีสุดๆ ไม่รู้สึกเจ็บปวดบาดแผลบนหน้าและตามร่างกายเลยสักนิด รู้อย่างเดียวว่ากูเมามาก เดินไม่ไหว ใครหิ้วไปไหนมาไหน ก็ได้แต่ลากเท้าตามไป

“มึงไปส่งไอ้สามคนนี้ไป ส่วนไอ้หวายกับไอ้พัชกูจะไปส่งเอง”

“เออๆ ขับรถกลับดีๆมึง”

ผมถูกคนหิ้วขึ้นนั่งบนรถ ผมพยายามลืมตามองแต่ก็ทำไม่ค่อยได้ หนังตามันคอยจะปิดลงอย่างเดียว มึนหัวไปหมด

“ไอ้หวาย ลงมาดีๆ ถึงบ้านมึงแล้ว”

“ถึงแล้วเหรอ ขอบคุณนะเฮีย ขอบคุณคร้าบบ ไปส่งเพื่อนผมดีๆนะเฮีย ผมเข้าบ้านแล้วน้าาาาาา”

ผมฝืนลืมตามองตามหลังไอ้หวายที่เดินเข้าบ้านไป

“ซ่า...ไหวไหม” พี่ปราบที่ขึ้นรถมาแล้วถามผม

ผมส่ายหน้าไม่โกหก กูไม่ไหว

“จะอ้วกไหม” พี่ปราบถามอีก เอามือมาลูบหน้าผม

“อึก ไม่”

“งั้นเดี๋ยวกูไปส่งที่หอนะ บอกทางไหวไหม กูจำไม่ได้”

พอพี่ปราบพูดถึงหอ ผมก็ถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่ากูโดนเพื่อนไล่ออกจากห้อง และต้องหาหอใหม่ และคืนนี้แฟนไอ้กฤษมันมานอนที่ห้องด้วย แล้วผมจะไปนอนที่ไหน ให้นอนหน้าห้องผมไม่เอาแล้วอ่ะ จะนอนบ้านไอ้หวายก็ไม่ได้ขอมัน บ้านมันอยู่กันเยอะ ผมเกรงใจ

จะให้กลับบ้านสภาพนี้ เช้ามาโดนด่าหนักแน่

“พี่ปราบ...” ผมหันไปเรียกคนข้างๆ

“อะไร” พี่ปราบที่กำลังขับรถหันมามองผมแวบหนึ่ง ผมเห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัด ภาพเบลอไปหมด

“ผมไม่มีที่นอน” ผมพูดเสียงยานคาง

“ทำไมวะ”

คำถามของพี่ปราบเหมือนเสียงสวรรค์ ผมก็พูดแม่งหมดเลยสิ่งที่อยู่ในใจ

“เพื่อนผมมันจะพาแฟนมาอยู่ด้วย มันให้ผมไปหาหอใหม่ ผมไม่มีที่อยู่แล้ว คืนนี้มันพาแฟนมานอนด้วย มันไม่ต้องการให้ผมกลับไปนอนเป็นก้าวขวางคอ วันก่อนมันสองคนก็พากันมาเอาที่ห้อง พี่รู้ไหมผมต้องนอนนอกห้องหน้าประตู โคตรทรมานเลย ยุงเยอะด้วย”

อึดอัดใจไม่มีคนพูดด้วยมานาน ได้ทีกูฟ้องใหญ่อ่ะ

พี่ปราบนิ่งเงียบไปก่อนจะพูดเสียงนิ่งๆ แต่รู้สึกดีเมื่อได้ฟัง “งั้น คืนนี้ไปนอนห้องกูก็แล้วกัน เอาไหม”

ผมคิดตามคำพูดของพี่ปราบ สมองประมวนผลช้าไปหน่อย แต่ยังพอเข้าใจ

“ห้องพี่?”

“เออ ห้องกูกว้างมาก มีที่ให้มึงนอนเกลือกกลิ้งได้สบาย ไม่ต้องไปนอนหน้าประตูห้องด้วย แถมฟรีผ้าห่มอุ่นๆหมอนนิ่มๆ ดีไหม”

“จริงนะ” ผมถามย้ำ ห้องๆนั้นที่แคบและไม่มีที่สำหรับผมแม้ว่าผมจะจ่ายค่าห้องครึ่งหนึ่งก็ตาม กลายเป็นว่ากูเหมือนกาฝากไปเลย ไม่สิ อีกหน่อยกูก็ไม่ต้องเป็นกาฝากแหละ เพราะกูกำลังจะไม่มีที่อยู่

“จริงสิ ห้องกูกว้างมากเลยนะ ไปไหม”

“อืม ไป อยากนอนแล้ว” ผมเริ่มฝืนหนังตาไม่ไหว อยากนอนเต็มแก่

“โอเค งั้นพี่ปราบจะพาน้องซ่าไปนอนนะครับ”

“อืม”

ผมอือออรับคำในคอก่อนจะค่อยปิดตาลงทันที ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ผมสบายใจแล้วที่คืนนี้มีที่ให้หลับนอน







Talk: เมื่อวานไม่ได้มาลงให้เพราะไปบิน กลับมาก็นอนยาวเป็นตาย
พี่ปราบยังไม่ได้เริ่มจีบน้องซ่านะ นางแค่ถูกใจ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่รีบ
น้องซ่า...มามะ มาให้โอ๋ที
เจอกันตอนหน้าค่ะ จุ๊บๆ  :กอด1:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-01-2017 19:38:31 โดย RiRi »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
«ตอบ #26 เมื่อ04-01-2017 19:55:25 »

ง่าา. น้องซ่าจะโดนพี่ปราบทำไรป่าวอะ.  อิอิ

ออฟไลน์ Shxaum

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
«ตอบ #27 เมื่อ04-01-2017 20:01:37 »

ทำไมชีวิตน้องซ่าุึงรันทดปานนี้คะ พี่ปราบมาทำให้ชีวิตน้องดีขึ้นทีค่ะ ฮิ้วววว 55555555555555  :katai2-1:

ออฟไลน์ GaIta

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
«ตอบ #28 เมื่อ04-01-2017 20:09:57 »

เลิกกับพลอยเหอะ  :angry2:

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
Re: ปราบซ่า® ตอน...ปราบที่3 :: 4/1/2017
«ตอบ #29 เมื่อ04-01-2017 20:23:45 »

โห กฤษทำไมทำกับซ่าแบบนี้อะ  :angry2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด