ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24  (อ่าน 194262 ครั้ง)

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
สงสารซ่า แต่สิ่งที่ซ่าพยายามแสดงออกว่าเกเรก่อนหน้านี้ คนไม่สนิทไม่รู้จักจริง ๆ อย่างแนนก็คงเชื่อยากละว่าซ่าไม่ได้ขโมย
รอดูว่าคราวนี้พี่ปราบจะทำยังไง

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
คือแบบ พอเหมาะพอดีไปไหม เห้อออ สงสารซ่า

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
โธ่ น้องซ่าของพี่ปราบ พี่ปราบรีบกลับมาช่วยแก้ปัญหาเร็ว

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
พี่ปราบกลับมาเหอะ น้องกำลังตเองการที่พึ่ง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :fire: ดั่งไฟซุมทรวง

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
สงสารซ่าอ่ะครอบครัวเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
แต่เหมือนไม่มีใครเข้าใจซ่าเท่าไร
ถึงกับโทรหาพี่ปราบฟินนนน :impress2: :impress2:

 :katai5: :katai5: :katai5:
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
คอนนี้พี่ปราบคือคนที่ซ่าไว้ใจมากที่สุดแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
สงสารซ่านะ แต่ มันพอเหมาะพอดี เรากลับคอดว่า ไอ้พ่อเลี้ยงนั่นละ เอาเงินไปใช้อย่างอื่น แล้วเห็นนาฬิกาซ่าพอดีเลยสร้างเรื่อง หวังว่าอะไรจะดีขึ้น

แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะซ่าทำตัวเองด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ไอ้พ่อเลี้ยงมันไม่อยากให้ซ่าอยู่ที่บ้านด้วยรึเปล่า เลยกุเรื่องว่าเงินหาย :m16:

ออฟไลน์ karamailpraleen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
พ่อเลี้ยงอยากได้เงินเลยบีบให้ซ่าเอานาฬิกาไปขายสินะ :serius2:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แง๊ๆๆๆ ซ่าน่าสงสารมากอ่ะ เกลียดแนนกับไอ้เบิร์ดว่ะ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
นายขุดหลุมดักเด็ก โดยใช้ความจดีเป็นเหยื่อล่อ ...น่ากลัวชะมัด
แล้วซ่าก็ค่อยๆ ขาดไม่ได้ เรื่อยๆ ถถถถถ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ชีวิตซ่าไม่ซ่าสมชื่อเลยนะ เศร้าเหลือเกิน
หวังว่าพี่ปราบจะปราบความเศร้าให้น้องซ่าได้นะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ซ่าจะยังไงก็ตามพี่ปราบยังคงอยู่ข้างๆเสมอ

สู้ๆนะซ่า

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ซ่าเอ้ย น่าสงสารจังเลยลูก

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ชีวิตซ่าถ้าไม่มีปราบเป็นที่พึ่งจะเป็นยังไง

มันยากนะกับการอยู่กับครอบครัวแบบนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
โอ้โหหห ไปรับซ่ามาแล้วไม่เลี้ยงดู ไม่ทำอะไรเลยมีแต่ด่านี่นะ อิพ่อเลี้ยงก็นะ มันเอาเงินไปเลี้ยงผู้หญิงป่ะน่ะ
ขอให้พี่ปราบกลับมาไวๆ

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่ปราบนี่เหมือนแม่งูฟูมฟักไข่เหมือนกันนะเนี่ย ใครมาฉกไปคงน่าดู 55555

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ชีวิตย้อนแย้งจริงเลยซ่า แต่อยู่มาได้แบบนี้ ไม่มีเรื่องยา ก็ดีแล้ว
เข้าใจซ่าเลย แม้แต่แม่ที่เกิดมา ยังไม่ดูแล ยังไม่เชื่อใจ จะแปลกอะไร ถ้ายายก็รักลูกตัวเองมากกว่าหลาน

ปราบเข้ามาถูกจังหวะนะ เพราะอยู่ในช่วงพีคพอดี
ปราบคงช่วยน้องได้เยอะแน่ แถมตอนนี้ซ่าสบายใจที่ได้คุยกับปราบด้วยนะ

ปราบทำเนียน แต่ก็ทำดี ดูอบอุ่นนะ ถึงจะแฝงด้วยโหมดโหดตลอด แต่ก็มีวิธีปราบเด็กซ่า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อยากอ่านแล้ว  :ling1:

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่11

[ซ่า]
พี่ปราบเงียบไปเกือบห้านาที ผมเช็ดน้ำตาบนหน้าออก เกลียดตัวเองที่บังคับน้ำตาไม่ได้ ไม่อยากกลายเป็นคนอ่อนแอ

“เฮ้อ” จากที่เงียบไปพี่ปราบก็ส่งเสียงถอนหายใจตอบกลับมา “ตอนนี้อยู่ที่ไหน”

“อยู่บ้านแม่ ผมไม่อยากไปกลับไปนอนบ้านพี่แนน”

และผมไม่อยากกลับไปอยู่ที่นั่นอีกแล้ว

“ดีแล้ว อยู่บ้านยายมึงไปก่อนแล้วกัน ไว้กูจะรีบกลับไป แล้วค่อยไปขนของออกมาจากบ้านแม่มึงล่ะกัน”

ผมแปลกใจเล็กน้อย “พี่เชื่อว่าผมไม่ได้เอาไปเหรอ”

“แล้วมึงเอาไปหรือเปล่าล่ะ”

ผมส่ายหน้า ก่อนจะรู้สึกตัวว่าทำไปพี่ปราบก็ไม่เห็น “ผมไม่ได้เอาไป”

“กูเชื่อ”

บอกไม่ถูกว่ารู้สึกดีมากขนาดไหนที่มีคนเชื่อผมว่าผมไม่ได้ขโมยเงินของพี่เบิร์ด รู้สึกดีใจมากกว่าตอนที่พลอยบอกเสียอีก

“กูจะรีบเคลียร์งานแล้วรีบกลับไปยืนยันตัวตนว่านาฬิกานั้นเป็นของกู ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องเครียด มึงไม่ได้ทำอะไรผิดก็ทำตัวตามสบาย ถ้าแฟนใหม่แม่มึงจะเรียกตำรวจก็ให้เรียกมา เดี๋ยวกูส่งคนของกูไปจัดการให้”

น้ำใจที่พี่ปราบหยิบยื่นให้ผมรู้สึกดีและอยากขอบคุณเขามากๆที่ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาดีกับผมเสมอ แต่ว่าผมจะรบกวนเขาไปมากกว่านี้ไม่ได้ ถึงผมจะไม่ใช่ผู้ดี แต่ความเกรงใจก็ยังมีอยู่บ้าง

“ไม่เป็นไรหรอกพี่ พี่แค่มาบอกเขาก็พอว่านาฬิกานี้เป็นของพี่ แล้วก็ผมคงคืนให้พี่เลย มันไม่เหมาะที่จะอยู่กับผมหรอก ส่วนเรื่องข้าวของ พรุ่งนี้ถ้าผมมีอารมณ์คงเข้าไปเก็บแล้วย้ายออกมา ไม่อยากทิ้งไว้นาน” ผมบอกสิ่งที่ตัวเองคิดไว้เสร็จสรรพ

“แน่ใจ”

ก็...ยังไม่รู้

“อืม” แต่ผมก็เลือกที่จะโกหก ยังไงซะนี่เป็นปัญหาของผม ผมย่อมต้องจัดการเอง ตอนที่กดโทรหาพี่ปราบจิตใจผมก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รู้แค่ว่าผมอยากได้คนที่เข้าใจผมจริงๆ คนที่รับฟังและเชื่อว่าผมไม่ได้ทำผิดอะไร

“งั้นก็ตามใจ แต่จำไว้ว่าถ้ามีอะไรไม่โอเคให้รีบโทรหากูทันที เข้าใจไหม” พี่ปราบสั่งเสียงเข้ม

“พี่อาจจะทำงาน” ผมคาดเดา ก็เขาไปทำงานนิ ไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่จะว่างตลอดเวลา

“กูพกโทรศัพท์ตลอดเวลา โทรมาได้ทุกเมื่อ”

“...”

“รับปากกูสิ”

“ครับ ถ้าผมโมโหจนทนไม่ไหวจะโทรไปหานะ”

“เด็กดี”

ห๊ะ! เมื่อกี้พี่เขาเรียกผมว่าอะไรนะ

“ขนลุกว่ะพี่ เด็กดงเด็กดีอะไร”

“หึหึ สบายใจแล้วสิ” เสียงของพี่ปราบกลับมารื่นหูอีกครั้ง ก่อนหน้านี้เสียงเขาค่อนข้างเข้มและดูจริงจัง

“ก็โอเค” ถ้าไม่คิดก็จะไม่หงุดหงิด คิดว่านะ

“ถ้างั้นมึงก็นอนได้แล้ว กี่โมงแล้ววะเนี่ย ตีสาม ไปๆ วางสายแล้วก็นอนซะ”

“ครับ พี่ก็ด้วย”

“อืม ฝันดีนะมึง อย่านอนร้องไห้ขี้มูกโป่งล่ะ”

“โหยพี่ นี่ใคร ไอ้ซ่านะครับ รุ่นนี้ไม่ร้องหรอก” พูดโม้ไปงั้นแหละครับ ใครจะยอมเสียหน้า ช่วยดูด้วย

“เหรออ งั้นเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วกูคงหูฟาดได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ใส่”

ถึงพี่ปราบจะเป็นรุ่นพี่ที่น่านับถือมาก พึ่งพาได้ดี แต่ก็กวนตีนสุดๆเช่นกัน

“แค่นี้นะพี่” ผมตัดบทและกดวางสาย

จากนั้นความเงียบก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ไม่มีเสียงของเขาดังข้างๆหู รู้สึกโหว่งในอกแปลกๆ ผมเป็นอะไรวะ สงสัยอารมณ์ยังไม่คงที

“เฮ้อ ช่างแม่ง กูไม่คิดล่ะ ใครอยากทำอะไรทำไป กูไม่ได้ทำเป็นคนขโมยสักอย่าง หลักฐานก็มี กลัวห่าไรวะ” ผมบ่นกับตัวเองส่งท้ายก่อนจะหลับตาลงแล้วฝืนตัวเองให้นอนเสียที





วันถัดมาผมตื่นสาย ถึงแม้จะบอกตัวเองว่าไม่ต้องคิดอะไร แต่กว่าจะข่มตานอนได้ก็เป็นชั่วโมง และที่ตื่นก็ไม่ได้ตื่นเอง แต่ไอ้มิวมาปลุก

“ไอ้ซ่า มึงจะตื่นไหม แม่เรียกหลายรอบแล้วนะ” ไอ้มิวทำเสียงขุ่นกระชากผ้าห่มออกตัวผม

“เออ เดี๋ยวกูลงไป” ผมแย่งผ้าห่มกลับคืนมา เอาจริง ผมว่าผมยังไม่พร้อมตื่นตอนนี้ ตายังลืมไม่ขึ้นเลย

“เมื่อกี้มึงก็พูดแบบนี้แล้วก็นอนต่อ เดือดร้อนกูต้องขึ้นมาปลุกอีก”

“กูง่วงไอ้เหี้ย” ผมขึ้นเสียงหงุดหงิด ลืมตาก็ลืมไม่ขึ้น แถมเวียนหัวอีกต่างหากกู

“แต่เมื่อวานมึงก่อเรื่องไว้” ไอ้มิวพูดเสียงเอื่อย ยืนพิงกรอบประตู

ผมตาสว่างทันที หัวโล่งไปแวบก่อนจะกลับมาปวดอีกรอบ ถ้าไอ้มิวพูดมาแบบนี้ก็แสดงว่ารู้กันทั้งบ้านอย่างไม่ต้องสงสัย

“พี่แนนโทรมาพูดอะไรอ่ะ” ผม ลุกขึ้นจากเตียง คว้าเสื้อยืดที่ถอดทิ้งไว้เมื่อคืนมาสวม
 
“โทรมาบอกว่าเงินหาย พี่เบิร์ดเขาสงสัยมึง” ไอ้มิวเล่า ก่อนจะใช้สายตามองประเมินมาที่ผม “มึงเอาไปจริงเหรอ”

ผมจ้องตามัน “มึงคิดว่าไงอ่ะ กูดูร้อนเงิน?”

“ก็จริง มึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินเยอะขนาดนั้นนี่” ไอ้มิวยักไหล่แล้วเดินลงบันไดไป

ผมเดินตามไอ้มิวลงมาข้างล่าง แม่กับพ่อนั่งข้างกันบนโซฟาไม้หน้าเครียด พอหันมาเห็นผมแม่ก็ถอนหายใจใส่พร้อมกับส่ายหน้า

“วันๆมีแต่เรื่องให้กูปวดหัวจริงเลยพวกมึงนี่” แม่บ่น ผมทำหน้าบึ้งทันที ปัญหาพวกนั้นผมไม่ได้เป็นคนหามาสักหน่อย โดนยัดเยียดให้ทั้งนั้น

“มึงได้เอาเงินเขาไปหรือเปล่าซ่า” พ่อถามผมแทน น้ำเสียงไม่ดุไม่ต่อว่า เหมือนถามเรื่องธรรมดาทั่วไป

“ผมไม่ได้เอาไป เงินเขาเก็บตรงไหนผมยังไม่รู้ ไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายกับของในบ้านเขาหรอก” ผมตอบพ่อตามความจริง

“แล้วมันโทรมาพูดได้ไงว่ามึงเอาไป” แม่ดูอารมณ์ไม่ดีมาก

"แม่ ผมไม่ได้เอาไปนะ"

"แล้วทำไมไอ้เบิร์ดมันสงสัยมึง" แม่ถาม


"พี่แนนเขาไม่ได้บอกเหรอว่าทำไม" ผมคิดว่าเขาน่าจะบอกจนหมดแล้วเสียอีก

"เขาบอกกูแค่ว่า เงินค่าบ้านไอ้เบิร์ดหายไปแล้วเขาสงสัยมึงเพราะมึงอยู่บ้าน แล้วมึงก็เดินออกมาจากบ้านแล้วไม่กลับไป เมื่อคืนแนนมันโทรหามึงก็ไม่รับสาย"

ใครจะไปอยากรับ

"เงินพี่เบิร์ดผมไม่เคยเห็น ไม่เคยเข้าห้องพี่แนนกับพี่เบิร์ดด้วย ปกติเขาก็ล็อคห้องตลอดผมจะ...."

จริงสิ พี่แนนล็อคห้องตลอดตอนที่ไม่อยู่ ผมเคยเผลอไปเคาะเรียกเพราะคิดว่าพี่แนนนอนอยู่บนห้อง ปรากฎว่าห้องล็อคและพี่แนนก็ออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตมา

"ถ้างั้นมึงก็ไม่ได้เอาเงินไป แล้วมันซักไซ้อะไร" พ่อพูดบ่นๆ

"ก็รุ่นพี่ให้นาฬิกาผมมายืมใช้เพราะของผมพัง แล้วราคามันก็แพง พี่เบิร์ดเห็นเลยคิดว่าผมขโมยเงินเขาไปซื้อไง แต่มันของรุ่นพี่ผม จะให้ผมไปขายแล้วเอาเงินมาคืน ฝันไปเถอะ"

ยิ่งผมแน่ใจว่าตัวเองกำลังเป็นแพะรับบาปก็ยิ่งโมโห

"นาฬิกาอะไร" แม่ถามอย่างสงสัย ผมถอนหายใจเบาๆ แอบเคืองเจ้าของนาฬิกาเจ้าปัญหา ถ้าวันนั้นผมยืนยันจะไม่รับมาก็คงดี

"ใช่นาฬิกาที่อยู่บนหัวเตียงป่ะ ยี่ห้อนี้แพงมากเคยเดินผ่านเคาน์เตอร์ในห้าง บางเรือนเป็นแสนเป็นล้านก็มีนะแม่" ไอ้มิวทำเสียงตื่นเต้นชี้มือชี้ไม้ไปมา

"ซื้อนาฬิกาอะไรเป็นแสนเป็นล้าน ทำยังกับเงินหากันง่าย พวกคนรวย" แม่ผมเริ่มบ่นไปเรื่อย

"แล้วนาฬิกานั้นตกลงเป็นของใคร" พ่อยังไม่ลืมว่าเรากำลังคุยเรื่องอะไรอยู่

"ของรุ่นพี่"

"รุ่นพี่คนไหน ชื่ออะไร" แม่หันมาสนใจบ้าง

"แม่ไม่รู้จักหรอก" คงไม่ทีใครคาดถึงว่าผมจะมีรุ่นพี่ที่เป็นคนดีมีระดับต่างจากตัวเองราวฟ้ากับเหว

“แล้วมึงไปรู้จักเขาได้ยังไง มึงแน่ใจนะว่านาฬิกานั่นของรุ่นพี่มึง” พอแม่พูดแบบนี้จากที่อารมณ์เริ่มจะเย็นลงแล้วก็ดีดตัวขึ้นสูงอีกครั้ง

“ถ้าแม่ไม่เชื่อเดี๋ยววันหลังผมพามาหาเลย ให้เจ้าตัวเขามายืนยันว่านั่นเป็นนาฬิกาของเขา”

“อืม บอกให้เขามาล่ะกัน ไอ้แนนกับไอ้เบิร์ดมันจะได้หายข้องใจ” พ่อตัดบท ก่อนจะลุกไปทำงาน ส่วนผมแม้จะง่วงนอนแต่ตอนนี้คงนอนต่อไม่หลับแล้ว ก็เลยลุกขึ้นไปอาบน้ำกินข้าวจากนั้นก็ไปช่วยพ่อทำงาน

พอได้ทำงานหนักๆเหนื่อยๆ ผมก็ลืมเรื่องเงินแสนของพี่เบิร์ดที่หายไปได้ชั่วขณะ จนกระทั่งเย็นผมทำงานเสร็จและได้เงินค่าแรงจากแม่ คืนนี้ผมคิดว่าผมคงไม่ออกไปไหน เพราะอยากจะเก็บเงินนี้เอาไว้เป็นค่าเช่าหอพักใหม่ ผมไม่มีทางกลับไปอยู่บ้านพี่แนนอีกแล้ว ก่อนจะเปิดเทอม นอกจากทำงานกับแม่แล้ว ยังมีเงินที่ได้จากการทำงานในร้านสะดวกซื้ออีก

ช่วงค่ำพี่แนนกับพี่เบิร์ดมาที่บ้าน ครอบครัวผมกำลังนั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย แค่เห็นหน้าเขาเท่านั้นผมก็หมดอารมณ์ หมดสิ้นความอยากอาหาร คงไม่ต้องบอกหรอกว่าเขามาที่นี่ทำไมถ้าไม่ใช่เรื่องเงิน

“ตามมาหาเรื่องถึงที่นี่” ผมบ่นลอยๆ พ่อกระแอมในคอใส่ผมให้ผมเงียบ

“กินข้าวมากันยัง มาๆ มากินข้าว” แม่เอ่ยปากชวนพวกเขา

“ไม่เป็นไรแม่ เดี๋ยวแนนกับพี่เบิร์ดกลับไปกินที่บ้าน” พี่แนนพูด

พี่แนนกับพี่เบิร์ดนั่งรอที่โซฟาไม้จนกระทั่งเรากินข้าวเย็นเสร็จ ผมกับไอ้มิวช่วยกันล้างจาน ส่วนแม่กับพ่อก็นั่งคุยอยู่กับพวกเขา

“แม่คงรู้เรื่องจากแนนแล้วว่าเงินค่าบ้านผมหาย” พี่เบิร์ดอ้าปากพูดเรื่องที่ทำให้เขามาที่นี่ในวันนี้ทันทีเมื่อมีโอกาส

“อืม เมื่อเช้าแนนโทรมาบอกแม่แล้ว และบอกด้วยว่าเอ็งคิดว่าไอ้ซ่าขโมยเงินไป” แม่พูด

“คือผมก็ไม่ได้อยากพูดว่าซ่าขโมยไปนะครับ แต่เราอยู่กันแค่สามคน เงินนั่นผมก็ไว้โปะค่าบ้าน เมื่อวานตอนเช้าก่อนผมออกจากบ้านเงินยังอยู่เลย กะว่าวันนี้จะเอาไปจ่าย ตกเย็นพอกลับมาเงินก็หายไปแล้ว และซ่าก็กลับไปที่บ้าน อยู่บ้านแค่คนเดียว ผมดูแล้วบ้านช่องก็ไม่มีร่องรอยการถูกงัด ในเมื่อซ่ายืนยันว่าก่อนออกจากบ้านล็อคบ้านเรียบร้อยแน่นหนา ถ้าขโมยเข้าบ้านก็ต้องมีร่องรอยงัดเข้า แต่นี้ไม่มีแล้วแม่จะให้ผมคิดว่าใครเอาเงินไป”

“เอ็งไม่คิดว่าเป็นแนนเอาไปหรือไง” พ่อที่นั่งเงียบมานาน พอเอ่ยพูดก็ทำให้พี่แนนกับเบิร์ดถึงกับอึ้ง

“พ่อ! ทำไมพ่อพูดอย่างนี้ล่ะ แนนจะขโมยเงินค่าบ้านตัวเองได้ยังไง” พี่แนนโวยวายขึ้นด้วยความไม่พอใจ

“ไอ้ซ่ามันอาจจะไม่ใช่เด็กดี ทำตัวเกเร แต่เรื่องเงินเรื่องทองข้ามั่นใจว่ามันไม่ขโมยแน่ๆ ข้าเลี้ยงมันมากับมือ เอ็งไม่ได้เป็นคนเลี้ยงนะแนน ข้าก็เข้าใจว่าเอ็งคงไม่รู้จักลูกของเอ็งดีพอ...”

“แต่คนเราถ้ามันหน้ามืดอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น” พี่เบิร์ดว่ากัดใส่ผม

“รู้ดีแบบนี้เป็นเองหรือเปล่า” ผมก็พูดขึ้นลอยๆบ้าง

“ซ่า เฉยๆไปไม่ต้องพูด” พี่แนนหันมาดุผม

ให้ผมไม่ต้องพูดเหรอ ในเมื่อผมเป็นคนที่เดือดร้อนจากเรื่องนี้ เหอะ โคตรดี

“แล้วพวกเอ็งจะเอายังไง มันบอกว่ามันไม่ได้เอาไป” แม่เริ่มอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด เพราะแกไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย

“แต่เงินผมหายไปนะแม่” พี่เบิร์ดขึ้นเสียงใส่แม่ ผมชักสีหน้าใส่ทันที ด่าว่าผมกล่าวหาผม ผมยังไม่โกรธเท่ากับทำมารยาทแย่ใส่แม่

“พี่เบิร์ด ใจเย็นๆ” พี่แนนรีบเกาะแขนห้ามพี่เบิร์ด

“ใจเย็นอะไรล่ะ ใครเอาไปก็น่าจะรู้ตัว รีบๆเอานาฬิกาไปขายแล้วเอาเงินมาคืน แล้วจะไม่ถือสาหาความ”

ที่มาวันนี้ก็เพราะต้องการสิ่งนี้สินะ จะให้ผมขายนาฬิกาของพี่ปราบให้ได้ คนอะไรโคตรหน้าด้าน

“โทษที่เถอะพี่เบิร์ด ผมไม่ได้เอาเงินพี่ไป ผมไม่เคยอยากได้ของๆคนอื่น ทำไมพี่ต้องมาอยากได้ของที่ไม่ใช่ของๆตัวเองด้วย”

“หมายความว่าไง แนนเลี้ยงลูกยังไงให้ก้าวร้าวขนาดนี้เนี่ย” พี่เบิร์ดหันไปว่าพี่แนน

“เฮ้ย! เลิกเถียงกันได้แล้ว กูรำคาญ” พ่อโพล่งขึ้นเสียงดังด้วยความโมโห ทุกคนจึงหุบปากแล้วนั่งกันเงียบๆ มีเพียงเสียงลมหายใจฮึดฮัดบ้างบางๆ

“ซ่า รุ่นพี่เอ็งจะมาเอานาฬิกาวันไหน” พ่อหันมาถามผม

“พี่เขาลงไปทำงานต่างจังหวัด กลับมาแล้วจะแวะมา” ผมตอบ

“แล้วจะแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นของรุ่นพี่จริงๆ ไม่ได้แอบอ้าง” พี่เบิร์ดถาม

“เขาเป็นเจ้าของ เขาต้องมีพวกกล่องพวกใบประกันอะไรพวกนี้อยู่แล้ว พี่ไม่ต้องห่วงหรอก รุ่นพี่ผมเขาไม่กระจอก” ผมพูดใส่หน้าแม่งเลย กวนตีน หาเรื่องจะเอาของๆคนอื่นให้ได้

“ถ้างั้นก็รอให้รุ่นพี่ไอ้ซ่ากลับมาก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน ไม่งั้นก็หาหลักฐานมา จากนั้นเอ็งจะจับมันเข้าคุกหรือจะให้มันหาเงินมาใช้กูจะไม่ยุ่งเลย” แม่พูดจบก็โบกมือไล่ ลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปนอน

“แล้วผมจะต้องรออีกกี่วัน”

“กี่วันมึงก็ต้องรอ กูปวดหัวแล้ว” แม่ว่าเข้าให้

“กลับกันเถอะพี่เบิร์ด ให้พ่อกับแม่พักผ่อน” พี่แนนดึงแขนพี่เบิร์ดให้ลุกขึ้น มืออีกข้างก็คว้ากระเป๋าสะพายเตรียมกลับ

“ไปๆ กลับไปพักผ่อนกันได้แล้ว” พ่อลุกขึ้นเดินออกไปส่งพี่แนนกับพี่เบิร์ดข้างนอกพร้อมกับปิดล็อครั้วบ้าน

หมดไปอีกวัน คืนนี้ผมไม่ได้โทรหาพี่ปราบ และพี่เขาก็ไม่ได้ส่งข้อความอะไรมา ผมนอนมองเพดานแล้วก็หลับไปด้วยจิตใจที่ค่อนข้างจะเหน็ดเหนื่อย





ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld

สิ่งที่น่ารำคาญที่สุดก็คือถูกรบกวนการนอนหลับ เสียงโทรศัพท์ร้องดังตั้งแต่เช้าตรู่ ร้องจนดับไปแล้วครั้งหนึ่ง ผมตื่นมารับไม่ทันเลยไม่ได้สนใจ แต่ไม่กี่นาทีต่อมาก็ดังขึ้นมาอีกรอบ ผมลืมตาขยี้หัวอย่างหงุดหงิด ขัดใจที่โดนก่อกวน

หยิบโทรศัพท์มาดูจากที่คิดว่ารับสายแล้วจะด่าคนโทรมาสักสองสามคำ กลายเป็นว่าต้องปิดปากเงียบแล้วกดรับสายอย่างรีบเร่ง

“พี่ปราบ” ผมเรียกคนปลายสาย

“รับสายช้า เพิ่งตื่นหรือยังไง” เสียงพี่ปราบฟังดูสบายอกสบายใจ

“ดูนาฬิกาด้วยครับคุณชาย นี่เพิ่งกี่โมง” ผมกระแหนะเข้าให้ เจ็ดโมงเช้ามันใช้เวลาที่เด็กปิดเทอมอย่างผมควรตื่นแล้วเหรอ

“หึหึ คุณชายงั้นเหรอ ปากดีแบบนี้คือไม่เครียดแล้ว เรื่องที่เงินบ้านมึงหายกูไม่ต้องรีบกลับไปจัดการแล้วว่างั้น”

“อ้าวเฮ้ยพี่ ได้ไง รีบกลับมาเลยนะ มาเอานาฬิกาเจ้าปัญหาของพี่ไปเลย”

“เดี๋ยวนะมึง ว่านาฬิกากู”

“ว่าไม่ได้หรือไง”

“เออ ว่าไม่ได้”

“ไม่รู้ล่ะ รีบกลับมาเลยด้วย”

“บอกคิดถึงกูก่อนสิ แล้วเดี๋ยวกูรีบกลับไปหาเลย”

กวนตีน ผมขยับปากบ่นเบาๆไม่ให้เจ้าตัวได้ยิน

“ว่าไง ถ้าพูดนี่กูเก็บของกลับเลยนะ”

“อย่าแกล้งกันได้ไหมพี่ ผมร้อนใจจะตายห่าอยู่แล้ว”

“กูไม่ได้แกล้งสักหน่อย”

“จิ๊ เออ ผมคิดถึง พอใจยัง กลับมาให้ไวด้วย ไม่งั้นผมจะเอานาฬิกาพี่ไปขาย”

“ฮ่าๆๆ กูอยู่หน้าปากซอยบ้านมึงล่ะ แต่เข้าไปไม่ถูก รีบออกมารับกูล่ะเด็กน้อย”

“ห๊ะ!” ผมอุทานตกใจ ปลายสายวางไปแล้ว ผมจะร้องเรียกถามไถ่ว่าสิ่งที่เขาพูดหมายความว่ายังไงก็ไม่ทัน สมองจึงเริ่มประมวลสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

“อยู่หน้าปากซอย? ปากซอยบ้านกูเนี่ยนะ” ไม่ใช่บ้านพี่แนนใช่ไหม จำได้ว่าพี่เขาเคยมารับผมที่นี่ครั้งหนึ่งแต่ผมออกไปยืนรอที่ปากทาง ไม่ได้ให้เขาขับเข้ามา

เป็นไปได้เหรอ

ขณะที่กำลังพึมพำงงงวยกับตัวเอง เสียงเตือนข้อความเข้าก็ดังขึ้น ผมก้มมองมือถือในมือแล้วเปิดอ่าน

-รีบออกมา อย่ามัวแต่งง-

ผมดีดตัวลุกออกจากเตียงทันที หยิบเสื้อผ้ามาใส่แบบลวกๆ วิ่งลงไปแปรงฟันล้างหน้าจากนั้นก็ก้าวเท้าวิ่งสุดฝีเท้าไปที่หน้าปากซอย

รถที่จอดอยู่ เป็นรถพี่ปราบจริงๆ

ผมเดินไปเคาะกระจกฝั่งคนขับ กระจกค่อยๆเลื่อนเปิดเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเข้มดูดีที่ดวงตาถูกแว่นกันแดดบดบัง จากนั้นมุมปากหยักก็กระตุกยิ้มใส่คนมอง

“วิ่งออกมาเลยเหรอ ต้องคิดถึงกูมากขนาดไหนเนี่ย”

ผมไม่ได้สนใจคำพูดของพี่ปราบซักเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ที่ผมได้เห็นเขา แม้ปัญหาจะยังไม่ได้ถูกแก้ไข ทว่าผมรู้สึกว่าเคราะห์กรรมของผมกำลังจะจบลงในเร็วๆนี้

มีพี่ปราบคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยผมได้

“ซ่า ขึ้นรถมา แล้วค่อยมาจ้องกู”

“ห๊ะ อ่อ ครับ” ผมได้สติก็รีบเดินไปเปิดประตูรถขึ้นนั่งข้างๆพี่ปราบ

“บอกทางเข้าบ้านด้วย” พี่ปราบพูด ก่อนจะขับรถเข้าซอย จนมาจอดที่หน้าบ้าน มีแม่นั่งอยู่ที่เฉลียงหน้าบ้านด้านใน ส่วนพ่อน่าจะทำงานอยู่ในโรงเก็บของ

ผมลงจากรถพร้อมพี่ปราบ ในมือของเขาถือถุงกระดาษยี่ห้อเดียวกับนาฬิกาลงมาด้วย แม่มองผมกับพี่ปราบสลับกัน พอเห็นพี่ปราบยกมือไหว้แกก็รับไหว้ด้วยความสงสัย

“สวัสดีครับแม่ ผมชื่อปราบเป็นรุ่นพี่ของซ่าครับ” พี่ปราบแนะนำตัวเองกับแม่

“อ่อ ใช่เจ้าของนาฬิการาคาแพงๆนั่นใช่ไหม”

“ครับ นาฬิกาเรือนนั้นของผมเอง” พี่ปราบตอบยิ้มๆ

“นั่งก่อนลูก ซ่าเอ้ย ไปเอาน้ำเอาท่ามาให้พี่เขากินมา แม่ปลอกแก้วมังกรแช่ตู้เย็นไว้ หยิบออกมาด้วย” แม่หันมาบอกผม แล้วกวักมือเรียกให้พี่ปราบนั่งลงข้างๆกัน ผมเข้าไปรินน้ำใส่แก้วกับหยิบจานผลไม้ในตู้เย็นมาเสิร์ฟให้พี่ปราบที่หน้าบ้าน

ตั้งแต่ตื่นมาผมยังไม่เห็นไอ้มิวเลย สงสัยออกไปเที่ยวกับเพื่อน เมื่อวานเห็นมันคุยๆกับพวกเด็กในบ้านอยู่ คือนอกจากผมกับไอ้มิวแล้ว ก็ยังมีลูกของน้าตั้มกับเมียเขาชื่อดาวอีกสองคน สมาชิกในบ้านผมเยอะกว่านี้ ไว้เจอแล้วค่อยแนะนำไปทีละคนๆ

“เรื่องเงินของผัวไอ้แนนอ่ะ แม่ก็ไม่คิดว่าไอ้ซ่ามันจะเอาไปหรอก ตั้งแต่เด็กจนโตเรื่องเดียวเลยที่มันไม่ทำให้แม่ต้องปวดหัวคือเรื่องเงิน แม่ขี้หลงขี้ลืม วางเงินไว้มันก็ไม่เคยหยิบไปโดยไม่บอก ห้าบาทสิบบาทก็ยังบอก และมันก็ไม่ใช้เงินเกินตัว ถ้าเป็นไอ้มิวก็ว่าไปอย่าง ไอ้เด็กนี่หัวสูง แต่ก็นั่นแหละ แม่มั่นใจว่าไอ้ซ่ามันไม่ได้เอาเงินไปแน่ๆ ถ้าเป็นเรื่องต่อยตีขึ้นโรงพักล่ะก็ว่าไปอย่าง”

“ผมก็เชื่ออย่างนั้นครับ ผมรู้จักซ่าได้ไม่นาน แต่ก็พอดูออกและคิดว่าซ่าคงไม่ขโมย ขนาดนาฬิกาผมให้ยืม พอรู้ว่าแพงก็จะไม่รับไว้ ต้องบังคับถึงจะยอมใช้ แต่กลายเป็นผมทำให้ซ่าต้องลำบาก”

“นั่นแหละ นิสัยมันเลย ไม่ค่อยอยากได้ของๆใคร”

“นินทาอะไรผม” ผมเข้าไปแทรกระหว่างที่แม่กับพี่ปราบกำลังคุยกันเพลินๆ เพราะแอบขึ้นไปหยิบนาฬิกามาคืนให้เจ้าขอว

“พี่ปราบ นี่ของพี่” ผมส่งนาฬิกาคืนไปให้ พี่ปราบรับไปก่อนจะหยิบกล่องออกมาเก็บนาฬิกาเข้าที่เรียบร้อย และดูจะทนุถนอมสุดๆ

“แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องเงินที่หายไป กับเรื่องนาฬิกา เย็นนี้ผมจะไปคุยกับแม่ของซ่าและแฟนเขาเอง”


“ดีๆ แม่ฝากด้วยลูก พวกมันจะได้ไม่เข้าใจกันผิดๆ”   

“ตอนนี้ซ่าก็เหมือนน้องชายของผมคนหนึ่ง เกิดเรื่องเกิดราวเพราะนาฬิกาของผมด้วย เรื่องนี้ผมก็เลยต้องขอยื่นมือเข้ามาช่วย”

“เย็นนี้หรือพี่?”

 “แม่มึงกับแฟนเขาไปทำงานไม่ใช่เหรอ แล้วกูต้องกลับไปเอาของด้วย ตอนเย็นสะดวกสุดแล้ว” พี่ปราบพูดกับผมก่อนจะหันไปยิ้มหล่อให้แม่ “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“ขับรถกลับบ้านดีๆนะพ่อหนุ่ม แม่ขอบใจมากที่เมตตาช่วยไอ้ซ่ามัน” สายตาของแม่ผมที่มองพี่ปราบเหมือนมองพระที่มาโปรดหน้าบ้าน แต่ผมก็คิดอย่างนั้นนะ

“เรื่องเล็กน้อยครับ”

 “ผมออกไปส่งพี่ปราบที่หน้าบ้านนะแม่”

“เออ ไปๆ ไปส่งพี่เขา”

ผมเดินตามหลังพี่ปราบออกไปนอนบ้าน มีคำถามมากมายที่ผมอยากถาม ทำไมถึงกลับมาไวกว่ากำหนดแม้จะแค่สองสามวันก็เถอะ และพี่เขาจะไปคุยกับพี่แนนและพี่เบิร์ดยังไง

“ตอนเย็นก็ไปเจอกันที่บ้านแม่มึงเลยแล้วกัน ใกล้ถึงเมื่อไหร่เดี๋ยวกูโทรบอก มึงก็ยังไม่ต้องพูดอะไรมาก แล้วก็...ถ้าจะไม่อยู่ที่นั่นแล้วก็เตรียมเก็บของเลยจะได้ไม่ต้องเสียเวลา” พี่ปราบสั่งทิ้งท้ายก่อนกลับ

“ครับ พี่ปราบ...พี่ช่วยผมได้จริงเหรอ” ผมถามด้วยความหวังเต็มเปรี่ยม เรื่องวุ่นวายจะได้จบๆไปเสียที

“ถ้าช่วยไม่ได้กูจะมาทำไม”

“แต่ถ้าจับตัวคนผิดไม่ได้ เขาก็ยังจะโทษว่าเป็นผมอยู่ดี” ผมก้มหน้ามองเท้าตัวเองที่เขี่ยหินหน้าบ้านแก้เครียด ก่อนที่มือหนาของพี่ปราบจะวางลงบนหัวผมเบาๆ

“ไม่ต้องห่วง ถึงเย็นวันนี้มึงก็พ้นผิดแล้ว วางใจเถอะ”

“พี่...”

“กูจะจัดการให้เอง เลิกเครียดได้แล้ว และก็กินข้าวเยอะๆด้วย มึงผอมลงเหลือแต่กระดูกเดินได้ ไม่ไหววะ” พี่ปราบมองผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าแล้วส่ายหน้า

ก็คนมันเครียดจะให้กินข้าวลงแบบปกติได้ไง

“กูไปละ เจอกันตอนเย็น”

“ครับ สวัสดีครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่ปราบ รอส่งจนเขาขับรถออกไป

เฮ้อ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เอาวะ พี่ปราบบอกว่าช่วยได้ก็ต้องช่วยได้”




เวลาห้าโมงเย็น ผมออกจากบ้านแม่นั่งรถไปบ้านพี่แนน ผมกลับมาที่นี่ก่อนที่พี่แนนและพี่เบิร์ดจะกลับมา ก็เลยขึ้นห้องไปเก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่มีอยู่แค่น้อยนิด ไม่ถึงสิบนาทีผมก็เก็บของเสร็จ จากนั้นก็ส่งข้อความไปบอกพี่ปราบว่าผมมาถึงบ้านพี่แนนและเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่เขาก็ส่งข้อความกลับมาบอกว่ากำลังมา

พี่แนนกับพี่เบิร์ดกลับมาถึงก่อนที่ปราบเล็กน้อย ผมไม่ลงไปข้างล่างจนกระทั่งพี่ปราบมาถึง พี่เขาจอดรถที่หน้าบ้าน รอให้ผมลงไปรับแล้วค่อยเข้ามาในบ้านพี่แนนพร้อมกัน

พี่เบิร์ดพอเห็นผมกับพี่ปราบก็ขมวดคิ้วใส่ ส่วนพี่แนนที่เคยเจอพี่ปราบมาแล้วครั้งหนึ่งก็ได้แต่มองพวกผมนิ่งๆ

“สวัสดีครับ” เพราะพี่ปราบอายุน้อยกว่าพวกเขาก็เลยต้องยกมือไหว้ตามมารยาท

“คุณเป็นใคร” พี่เบิร์ดถามพี่ปราบด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างห้วน

“ผมเป็นรุ่นพี่ของซ่า แล้วก็เป็นเจ้าของนาฬิกาเรือนนี้ด้วย” พี่ปราบแนะนำตัวพร้อมกับหยิบกล่องใส่นาฬิกามาให้พวกเขาดู

“จะแน่ใจได้ยังไงว่านี่เป็นของคุณ ไม่ใช่เด็กนี่ขโมยเงินผมไปซื้อ”

“นี่ครับ ใบรับประกันที่ระบุชื่อผมและวันที่ซื้อ เรือนนี้ผมซื้อมาได้สองปีแล้วครับ ไม่มีทางเป็นเงินคุณเอามาซื้อได้” พี่เบิร์ดส่งนาฬิกาและใบรับประกันพร้อมทั้งบัตรประชาชนของตัวเองให้พี่แนนกับพี่เบิร์ดตรวจสอบ

พอเห็นว่าเป็นของพี่ปราบจริงๆ และมีหลักฐานพร้อมพี่เบิร์ดก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ พี่แนนส่งนาฬิกาคืนให้พี่ปราบเมื่อหมดความสงสัย

“แต่ถึงอย่างนั้น แค่มีหลักฐานว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นของคุณ ก็ใช่ว่าซ่าจะไม่ได้ขโมยเงินผมไป อาจจะเอาเงินผมไปทำอย่างอื่นก็ได้” พี่เบิร์ดยังคงไม่ยอมแพ้ที่จะโยนความผิดมาให้ผม

“พี่เบิร์ดพอเถอะ” พี่แนนปรามพี่เบิร์ดเสียงเบา ก่อนจะหันมามองผมแสดงอาการลำบากใจ “ซ่า ไม่ได้เอาเงินไปจริงๆใช่ไหม”

ยังจะต้องถามผมด้วยคำถามนี้อีกเหรอ

“จะต้องให้ผมพูดกี่ครั้งอ่ะพี่แนน ว่าผมไม่ได้เอาไป”

“แม่ก็อยากจะเชื่ออย่างนั้นนะซ่า แต่ว่าเงินเป็นแสนหายไป จะให้แม่นิ่งนอนใจก็ไม่ได้ ซ่าเป็นคนเดียวที่อยู่บ้าน ตอนเช้าแม่มั่นใจว่าเงินยังอยู่ ความจริงเงินก้อนนี้แม่กับพี่เบิร์ดเก็บกันมาสักพักเพราะจะเอามาโปะค่าผ่อนบ้าน แต่ตอนนี้มันหายไป ถ้าเอาไปก็ยอมรับมาเถอะ ซ่าอาจจะต้องช่วยแม่หาเงินก้อนนี้มาคืน ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก ถึงซ่าเอาไปจริงๆพี่เบิร์ดเขาก็ไม่แจ้งตำรวจหรอก”

ฟังที่พี่แนนพูดจบ ผมแทบอยากจะคว้าของอะไรสักอย่างทุ่มลงพื้นระบายความคับแค้นที่สุมอยู่ในอก แต่ผมทำได้เพียงกำมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่น จนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ตาก็จ้องหน้าพี่แนนอย่างไม่ยอมแพ้ ทำไมจะต้องให้ผมรับผิด ทำไมถึงต้องพูดเหมือนเชื่อว่าผมเอาเงินไป

“ขอแทรกหน่อยนะครับ ถึงผมจะยืนยันให้ดูว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นของผม ไม่ใช่ของซ่า แต่ว่าจะปล่อยให้เรื่องจบแค่นี้ก็คงไม่ได้ ยังไงซ่ามันก็เป็นรุ่นน้องผม และผมเห็นคนไม่ได้ทำผิดโดนกล่าวหาไม่ได้”

“ทำไม คุณจะเข้าข้างไอ้เด็กนี่หรือไง นี่มันเรื่องในครอบครัวผม คุณอย่ายุ่ง”

“คุณนับเขาเป็นครอบครัวด้วยเหรอครับ” พี่ปราบพูดนิ่งๆ แต่ทำให้พี่เบิร์ดหุบปากได้ พี่แนนก็หน้าเสีย และที่สำคัญคำพูดของพี่ปราบตอกย้ำความจริงให้ผมได้คิดอีกครั้ง

ผมไม่ใช่ครอบครัวของพวกเขา

ก็แค่...กาฝาก

“ความจริงแล้ว ถ้าคุณยอมจบง่ายๆ ยอมเชื่อง่ายๆว่าลูกของคุณไม่ได้ขโมยเงินไป ผมคงจะไม่ต้องทำแบบนี้” หน้าของพี่ปราบเข้มขึ้นอีกหนึ่งระดับ แววตาดุดันของเขาจ้องพี่เบิร์ดนิ่ง

“คุณจะทำอะไร” พี่เบิร์ดลุกขึ้นเดินมาประจันหน้ากับพี่ปราบ

“คุณแนน คุณเก็บเงินไว้ที่ไหน” พี่ปราบไม่สนใจพี่เบิร์ด หันไปพูดกับพี่แนนแทน

“ในห้องนอน ในลิ้นชักหัวเตียง”

“แล้วห้องนอนคุณใครจะเข้าออกก็ได้เหรอ ลิ้นชักไม่มีกุญแจล็อกหรือยังไง” พี่ปราบยิงคำถามใส่อีก

“เอ่อ...คือ...” พี่แนนอึกอัก หันไปสบตากับพี่เบิร์ด

“นอกจากพวกคุณแล้ว ยังมีใครที่มีกุญแจเข้าออกบ้านคุณได้อีก หรือมีแค่พวกคุณสามคนเท่านั้น” พี่ปราบตั้งคำถามไปเรื่อยๆ

“ที่จริง ก็ยังมีหลายของพี่เบิร์ดอีกคนที่มีกุญแจ” พี่แนนตอบเสียงเบา

“แนน หลายเบิร์ดมันเป็นเด็กดี มันไม่เอาเงินไปหรอก ไม่เหมือนเด็กบางคนแถวนี้” พี่เบิร์ดรีบแย้ง

“มีอีกคนที่มีกุญแจ แสดงว่าก็อาจจะเป็นคนนั้นก็ได้”

“นี่คุณ กล่าวหาหลานผมลอยๆไม่ได้นะ”

“แล้วคุณกล่าวหาซ่าลอยๆได้เหรอ” พี่ปราบตอบโตกลับทันที
“...”

“พวกคุณได้ให้ใครมาตรวจสอบลายนิ้วมือ หรือไปขอดูกล้องวงจรปิดหรือยัง”

“...” และอีกครั้งที่พี่เบิร์ดและพี่แนนปิดปากเงียบสนิท

พี่ปราบยิ้มบางๆใส่พวกเขา แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูแล้วทำให้รู้สึกหนาวๆร้อนๆ รอยยิ้มของพี่ปราบครั้งนี้ดูเจ้าเล่ห์และเต็มไปด้วยความหน้ากลัว เพราะดวงตาของเขาคมเฉียบแข็งกร้าว ไม่ได้ยิ้มตามปากที่หยักโค้ง

“ไม่เป็นไรครับ ภาพจากกล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน ผมไปขอมาให้ดูแล้ว และผมเชื่อว่าหลักฐานแค่นี้ก็เพียงพอจะทำให้รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาเงินไป

พี่ปราบเดินออกไปนอกบ้านก่อนจะกลับมาพร้อมกับแท็บเลต พี่ปราบจิ้มหน้าจออยู่ไม่กี่ครั้งก็กดเปิดไฟล์วีดีโอให้ได้ดู

“ต้องบอกว่าพวกคุณโชคดีที่เลือกโครงการบ้านดี ภาพวงจรปิดที่มาจากกล้องได้คุณภาพมาตรฐานถึงได้ชัดขนาดนี้” พี่ปราบพูดแล้วหันมายิ้มให้ผม พยักหน้าให้ผมดูวีดิโอต่อ

ภาพที่เห็นคือหลังจากที่พี่เบิร์ดกับพี่แนนขับรถออกไปแล้ว ไม่นานผมก็ออกจากบ้านไปบ้านแม่ พี่ปราบกดหยุดวิดีโอ

“คุณดูนะ ซ่าออกจากบ้านตัวเปล่า เสื้อยืดแขนสั้นกางเกงยีนส์ ไม่มีกระเป๋าสักใบ คุณคิดว่าเขาจะยัดเงินแสนไว้ที่ส่วนไหนของร่างกาย” พี่ปราบพูดสันนิษฐานตามที่ตัวเองเห็น

พี่ปราบกดเล่นวีดิโออีกครั้ง หลังจากที่ผมออกจากบ้านแล้วก็ไม่มีใครเข้ามาที่บ้านในช่วงเช้า พี่ปราบกดเร่งความเร็ววีดีโอให้เร็วขึ้นจนมาถึงช่วงกลางวันที่มีคนกลับมาที่บ้าน แน่นอนว่าไม่ใช่ผมแต่เป็น…

“พี่เบิร์ด...พี่กลับมาที่บ้านเหรอ” พี่แนนละสายตาจากหน้าจอไปถามพี่เบิร์ด พี่เบิร์ดหน้าซีดเป็นไก่ต้มพูดไม่ออก ผมคิดว่าผมพอจะเดาได้ลางๆแล้วว่าอะไรเป็นอะไร

ต่อมาพี่เบิร์ดก็ออกมาจากบ้านด้วยประเป๋าสะพายข้างที่ค่อนข้างตุง ขึ้นรถและขับออกไป ตกเย็นผมกลับมาที่บ้าน และไม่ได้ออกไปไหนจนกระทั่งพี่เบิร์ดและพี่แนนกลับมา ก่อนที่จะปิดวีดิโอ ภาพสุดท้ายก็คือภาพที่ผมเดินออกจากบ้านหลังจากที่ตัวเองถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมย

“ยังจะต้องสงสัยกันอีกไหมครับว่าใครเป็นคนเอาเงินไป เงินแสนคงไม่ปลิวออกจากบ้านไปได้ เพราะซ่ากลับมาที่บ้านอีกครั้งในตอนเย็นและยังไม่ได้ออกไปไหนจนพวกคุณกลับมาหรอกมั้งครับ”

“...” พวกเขาสองคนยังคงตกตะลึกกับความจริงที่ได้เห็นกับตาตัวเอง

“คุณแนนบอกเองว่าตอนเช้ายังเห็นว่ามีเงิน เพราะฉะนั้น เงินหายไปในวันนั้นอ่ะถูกต้องแล้ว เพียงแต่ที่ผิดคือคนที่เอาเงินไปไม่ใช่ซ่า แต่เป็นคุณนั่นแหละครับ...คุณเบิร์ด”






  :กอด1: :L2: :L1: :pig4:



ออฟไลน์ farhhhh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โถ่ พี่เบิร์ดเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์มาก แต่ไม่เนียนนะคะ ไปเรียนมาใหม่ค่ะ จะตอแหลทั้งทีก็ต้องมีสกิลนะคะ จะให้โป๊ะไม่ได้555555555555
พี่ปราบควรเป็นของเราค่ะ พูดได้แค่นี้

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โห ดีนะที่หมู่บ้านมีกล้องวงจรปิด นึกไม่ถึงเลยว่าจะมี คิดอยู่ว่าจะหาหลักฐานมาได้ไง

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
โอ้ยยยย เกลียดครอบครัวซ่ามากอ่ะ อยากจะจับตบๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ดีงามค่ะพี่ปราบ

ปรบมือให้เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด