ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24  (อ่าน 194500 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
มายาวๆแบบนี้เราชอบ อ่านสะใจเลย

สงสารซ่าอ่ะ เรื่องที่บ้านเราว่าเปราะบางมากที่สุด คือปกติถ้ามีเรื่องเกิดขึ้น คนส่วนใหญ่ก้จะคิดถึงที่บ้าน แต่ที่บ้านของปราบเป็นแบบนี้ แล้วเรื่องแฟนก็ยังซ้ำเข้ามาอีก โอ้ยยย เข้าใจความรู้สึกเลย

ต่อจากนี้พี่ปราบต้องดูแลปกป้องซ่าดีๆนะ น้องอ่อนแอมากแล้ว กลัวน้องจะไม่เชื่อในความรักอีกเลย

เป็นกำลังใจให้นักเขียนน้า  :mew1:

ออฟไลน์ B_SRIKHUNLA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากให้ซ่ามีความสุขจริงๆสักที

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
รอต่อไป สงสารซ่าอ่ะ โดนเททุกทาง เซมาซบอกพี่ปราบดีกว่า55
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ดีใจมากก รอมานานค่ะ

ซ่าเอ้ย ทำไมชีวิตยุ่งยากแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยถ้าซ่าจะเกเร แต่ซ่าก็ไม่ทำ
เสียใจซ้ำซาก เจ็บซ้ำซาก แผลไม่หาย แล้วก็มีเพิ่มมาเรื่อยๆ ซ่าทนมาก บอกเลย

ปราบคะ รอบต่อไปถึงคิวแล้วนะ อย่านอยด์เลย น้องแค่กังวลว่าจะกวน ไม่ได้ไม่คิดถึงนะ

ชอบปราบนะ ชัดเจนดี ดูแลดีด้วย รับรองซ่าอบอุ่นจนร้อนแหละ ถ้าเปิดใจ

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่16


[ซ่า]

อะไรที่ผมไม่อยากพูด ผมก็ไม่คิดจะพูดมันออกมา ความรู้สึกของผมมันไม่เคยสำคัญ บอกใครก็ไม่มีใครสนใจ ดังนั้นที่ผ่านมาผมจึงเลือกที่จะเก็บทุกอย่างเอาไว้กับตัวเอง ฝังมันเอาไว้ให้ลึกที่สุด ไม่ให้ใครเห็น แม้แต่ตัวเอง

แต่กับคนที่นั่งอยู่เบื้องหน้าผมคงไม่เข้าใจ

“เล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น เล่ามาให้หมดนะซ่า อย่าโกหกกู”

“ก็ผมเล่าไปแล้ว” ผมพูด ก้มหน้าหลบตา ตาพี่ปราบดุเกินไป กลายเป็นว่าผมไม่กล้าสบตาพี่ปราบ และเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้น คล้ายกับผมกำลังกลัวความผิด

“มึงคิดว่ากูเชื่อเหรอ”

“...”

“งั้นกูขอใช้สิทธิ์ในการถามตอบของวันนี้ ห้ามลืมว่ามึงจะต้องพูดความจริง ห้ามโกหก กูไม่ชอบคนโกหก และมึงห้ามทำ”

ผมกลืนน้ำลายลงคอ ก้มหน้านั่งบีบมือตัวเองอยู่ร่วมสิบนาทีได้ พี่ปราบก็ทำใจเย็นรอ ทั้งๆที่รอบตัวเขามีแต่ไอเย็นทำให้ผมรู้สึกเกร็ง

“พี่ปราบ...ถ้าแฟนนอกใจพี่ พี่จะทำยังไง” พี่เงยหน้าขอความเห็นจากเขา พี่ปราบจ้องตาผมแล้วถอนหายใจ

“ถ้าแฟนนอกใจกู นอกใจแบบตั้งใจ กูเลิกเลย”

“ถ้าเลิกง่ายๆ แสดงว่าพี่ไม่ได้รักเขาจริงเหรอ” เพราะตอนนี้ผมโมโหน้อยลง จากที่คิดว่าจะเลิกกับพลอย มันก็เกิดความลังเล

“รักเขาไม่รักเขาสำคัญตรงไหน สำคัญที่ว่าเขาไม่ได้รักมึง และมึงต้องรักตัวเอง” พี่ปราบย้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ

“แต่ผมทำใจไม่ได้” ผมก้มหน้าบอก

“เหตุผลนี้เหรอที่ทำให้มึงมีสภาพแบบนี้”

พี่ปราบใช้สายตามองสำรวจผมทั้งตัว สายตาของพี่ปราบเต็มไปด้วยความเป็นห่วง และมันทำให้ผมอ่อนแออีกครั้ง ผมพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหล เพราะดันนึกเปรียบเทียบไปว่า เหตุการณ์ที่ผ่านมา ผมไม่ได้รับความเป็นห่วงจากใครที่บ้านเลยสักคน ไม่ไว้แม้แต่พลอย

“เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผมเข้างานกะดึก อยู่ๆก็มีคนมาหาเรื่องผมถึงในร้าน”

“ใคร”

“ชู้ของพลอย มันบอกผม ผม...ผมถึงได้รู้ว่าผมมันโง่มาโดยตลอด”

ในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ ผมก็คงต้องเล่า สัญญาระหว่างผมกับพี่ปราบ ในหนึ่งวันผมสามารถถามอะไรพี่ปราบก็ได้ พี่ปราบจะพูดแต่ความจริง และพี่ปราบก็สามารถถามอะไรผมก็ได้ ผมต้องตอบความจริงเช่นกัน และผมไม่อยากผิดสัญญากับพี่ปราบ แม้ว่ามันจะทำให้ผมอึดอัดกับการเล่าเรื่องที่ผมไม่อยากเล่าก็ตาม

“มึงแน่ใจแล้วใช่ไหมว่าแฟนมึงมีคนอื่น”

“เหอะ เมื่อวานผมไปถามมาแล้ว พลอยก็ยอมรับ พี่รู้ไหมว่าเหตุผลที่มันนอกใจผมคืออะไร มันบอกว่าผมไม่มีเวลาให้มัน ผมทำให้มันเหงา มันถึงต้องไปมีคนอื่น”

พี่ปราบนั่งฟังผมเงียบๆ เขาดึงมือผมไปจับไว้ข้างหนึ่ง แล้วปล่อยให้ผมระบาย พอได้พูดได้เล่า ผมก็หยุดตัวเองไม่ได้ ทุกความรู้สึก ทุกความเจ็บปวด ผมถ่ายทอดให้พี่ปราบได้รับรู้ พรั่งพรูราวกับเขื่อนแตก

“ผมเคยคิดว่าถ้ามันมีคนอื่น ก็คงเพราะผมมันไม่ดีไม่มีอนาคต คนๆนั้นจะต้องมีดีกว่าผม คนที่ผมสู้ไม่ได้ แบบนั้นผมคงจะรู้สึกดีกว่านี้ แต่ที่ผมเห็นมันไม่ใช่ ไอ้นั่นมันไม่ได้ดีกว่าผม ผมเลยไม่รู้เลยว่า ความจริงแล้วผมมันไม่มีดี หรือพลอยมันไม่รู้จักพอกันแน่”

“แล้วทำไมโดนไล่ออกจากงาน”

“พวกมันบอกพี่เหรอ”

“เออ เพื่อนมึงเป็นห่วงมึงนะ กูด้วย เป็นห่วงมึงมากมึงรู้บ้างไหม”

“ผมขอโทษ”

“ขอโทษกูทำไม”

 “ผมถูกไล่ออกจากร้าน เพราะที่ร้านข้าวของเสียหายพัง อีกอย่างเขาก็คงกลัวว่าเด็กช่างอย่างผมจะทำให้เขาและคนอื่นๆเดือดร้อน ผมไม่โกรธผู้จัดการเลยนะ ผมเข้าใจ แต่ทำมคนที่บ้านถึงไม่เข้าใจผมบ้าง ผมไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมยังอยากทำงาน แต่พวกมันมาหาเรื่องผม ผมไม่ได้ไปหาเรื่องมันก่อนเลย”

เสียงของผมเริ่มสั่นเครือ เล่าเรื่องไม่ค่อยปะติดปะต่อ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่พี่ปราบก็ไม่ได้ขัด มือที่บีบกำมือผมไว้แน่นเป็นเสมือนฟางเส้นเดียวที่ผมมีไว้ยึดเหนี่ยว

“ใครไม่เข้าใจก็ช่าง กูเข้าใจ แค่นี้พอไหมหืม”

“พี่ปราบ...ผมไม่ผิดนะ”

“กูรู้”

“ฮึก”

“ร้องเถอะ ลูกผู้ชายร้องไห้บ้างก็ไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอหรอก” พี่ปราบกระเถิบเข้ามาใกล้ แล้วโอบไหล่ผมไว้ ให้ผมได้ซบหน้าลงกับบ่าแข็ง

“ผมไม่เข้าใจ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ ฮึก พี่ปราบ ผมเกลียด เกลียดชีวิตเหี้ยๆ ชีวิตแย่ๆคนแย่ๆ”

“กูก็แย่เหรอ” พี่ปราบถามสวนขึ้นมา ผมเงยหน้าจากไหล่มองตาพี่ปราบก่อนจะส่ายหน้า

“ผมมันไม่ดีใช่ไหมพี่ปราบ”

ถึงได้ไม่มีใครรักผม

“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงดีมากน้อยแค่ไหนหรอก แต่คนมันไม่พอ ต่อให้มึงเป็นเทวดามันก็ไม่เห็นมึงดี”

“ผมควรทำยังไงดีพี่ปราบ ผมคิดอะไรไม่ออกเลย”

“คิดไม่ออกก็ยังไม่ต้องคิด ตอนนี้สิ่งที่มึงต้องทำคือรักตัวเองให้มากๆ เจ็บตัวมานี่ไปหาหมอมาหรือยัง กินข้าวบ้างไหม ถ้ากูไม่มาหามึงจะปล่อยให้ตัวเองย่ำแย่ให้คนที่ทำร้ายมึงดูถูกดูแคลนเหรอ”

ผมรีบส่ายหน้า ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น

ผมไม่ได้อยากเป็นคนอ่อนแอ เพราะฉะนั้นผมถึงได้ไม่อยากพูด ไม่อยากบอกใคร เพราะผมรู้ว่า สิ่งที่ผมเก็บมาหลายปี หากเอ่ยออกมาแค่ขำเดียว ผมจะทนไม่ไหว เหมือนตอนนี้

“กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงตัดสินใจเรื่องแฟนยังไง ถ้าถามกู กูไม่อยากให้มึงเสียเวลากับคนที่ไม่ได้รักมึง มันอาจจะยากที่จะตัดใจ แต่มันคุ้มค่าแล้วเหรอที่จะเอาความรู้สึกดีๆให้คนที่ไม่เห็นค่าน่ะ”

“ผมพูดไม่ได้พี่ปราบ ผมทนไม่ได้ที่มันนอกใจผม แต่ผมไม่กล้าพูดคำว่าเลิก ผมอยากให้พลอยเป็นคนพูดออกมา แล้วผมจะจบ”

“แล้วถ้าเขาไม่พูด มึงก็จะทนเจ็บอย่างนั้นเหรอ ทนอยู่ไปแบบนี้น่ะเหรอ”

“ผมไม่รู้”

“ซ่า มึงฟังกูนะ กูจะพูดในฐานะคนนอกที่เป็นกลางที่สุด แม้ว่ากูจะไม่ชอบแฟนมึงก็ตาม กูอยากจะยุให้มึงเลิกกับมันไปเลย เหมือนที่เพื่อนมึงก็อยากให้มึงทำ แต่มึงต้องคิดนะว่า มึงจะเสียเวลากับคนๆนั้นโดยไม่ได้อะไรหรือเปล่า มือทั้งสองข้างของมึงจะไม่สามารไขว่คว้าสิ่งดีๆสิ่งใหม่ได้ ถ้ามึงไม่ทิ้งอันเก่าที่อยู่ในมือ” 

พี่ปราบจับมือของผมทั้งสองข้างให้แบออก

“ถ้ามึงไม่ทำให้มือว่าง สิ่งดีๆจะเข้ามาได้ยังไง มึงต้องเลือก ชีวิตในทุกวันคือความเสี่ยง แต่มันจะคุ้มกว่าไหมหากว่ามึงจะทิ้งคนไม่ดี เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจอสิ่งที่ดีกว่า ปล่อยวางซะซ่า ใครที่ทำให้ทุกข์ก็ต้องตัดออกไป แล้วเลือกไว้แต่คนที่ทำให้มีความสุข”

แล้วพี่ปราบก็จับมือทั้งสองข้างผมกำหลวมๆ มือของเขาใหญ่พอที่จะกุมมือผมไว้ในอุ้งมือของเขา มือของพี่ปราบร้อน แต่อบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเจอ

“จะสุขจะทุกข์มึงเลือกได้ด้วยตัวเองนะซ่า และจำเอาไว้ว่ากูอยู่ตรงนี้กับมึง ถ้าไม่ไหวก็มาหากู เบอร์กูมึงก็มี ไลน์ก็มี ไม่ได้ติดต่อยากอะไร ทำไมถึงไม่ทำหืม”

“ผมไม่รู้” ผมส่ายหน้า ไม่กล้าบอกว่าผมกลัวเขาผิดหวังในตัวผมเหมือนคนที่บ้าน กลัวว่าเขาจะผลักไสและเอือมระอากับคนอย่างผม

“กลัวอะไรอยู่” พี่ปราบถามราวกับรู้ใจ “ถ้ามึงไม่พูดสิ่งที่คิดออกมาแล้วใครจะรู้”

ผมรู้ แต่ผมไม่กล้าพูด ยังไงก็ไม่กล้า

“เฮ้อ มึงนี่นะ บทจะไม่พูดก็ไม่พูด เอาเป็นว่าสิ่งที่กูควรพูดกูก็พูดหมดแล้ว ที่เหลือมึงก็คิดเอาแล้วกัน”

พอเห็นผมเอาแต่นิ่งไม่ยอมพูด พี่ปราบก็เลยไล่ผมให้ไปอาบน้ำอาบท่า บอกว่าจะพาไปหาข้าวกินและพาไปหาหมอเพื่อทำแผลบนร่างกาย 

ออกมาจากห้องน้ำพี่ปราบก็เรียกผมเข้าไปใกล้ ทั้งตัวผมมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันเอว ทำให้เห็นร่องรอยบนตัวเด่นชัด

“เข้ามาใกล้ๆดิ” พี่ปราบขยับตัวลุกขึ้นนั่ง จากที่นอนบนเตียง หัวคิ้วเข้มๆขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นร่องรอยบนตัวของผมในระยะแค่คืบ

“มึงปล่อยให้พวกมันทำให้เจ็บขนาดนี้” คิ้วที่ขมวดกันอยู่เปลี่ยนเป็นเลิกสูงขึ้นเมื่อถาม

“ก็พวกมันมากันตั้งสามคน แถมผมไม่ทันได้ตั้งตัวอีก”

“ก็ถ้ามึงมีความสามารถเกี่ยวกับการป้องกันตัวสักนิดมึงจะเป็นเจ็บหนักขนาดนี้กูพูดเลย นี่เป็นเพราะมึงเก่งแต่ต่อยตีแบบมั่วซั้ว โดนรุมขึ้นมาก็ทำห่าอะไรไม่ได้”

“ก็ผมไม่เคยเรียนอะไรพวกนั้นนี่พี่ พี่จะสอนผมไหมละ” ผมยังจำได้นะว่าไอ้หวายเคยบอกว่าพี่บ้านพี่เขาเปิดโรงเรียนสอนการต่อสู้

“ไม่อ่ะ กูขี้เกียจ”

“โด่ อะไรเนี่ย ไม่ใจเลย”

“ไปแต่งตัวไป กูหิวแล้ว”

“ค้าบบบ”






มื้อเช้าและมื้อเที่ยงพี่ปราบให้ผมเป็นคนเลือก ผมเองก็ไม่รู้จะกินอะไร ไม่มีความรู้สึกอยากอาหารเลยสักนิด สุดท้ายก็แวะกินก๋วยเตี๋ยว เป็นร้านห้องกระจกที่มีแอร์ แต่รสชาติธรรมดา อร่อยสู้ร้านรถเข็นข้างทางก็ไม่ได้

กินเสร็จพี่ปราบก็พาผมไปหาหมอ โรงพยาบาลที่พี่ปราบพามาเป็นโรงพยาบาลสุดหรู ที่ทั้งชาตินี้ผมคงไม่มีทางเหยียบย่างมาที่นี่เองอย่างแน่นอน เพราะไม่มีปัญญาที่จะจ่ายค่ารักษา อย่างเก่งก็รักษาโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งของผมยังใช้สิทธิรักษาสามสิบบาทได้ ก็เลยดีไป

“พี่ปราบ ที่จริงไปโรงพยาบาลธรรมดาก็ได้นะพี่ ที่นี่มันแพงไป ผมไม่มีเงินจ่ายค่าหมอหรอก” ผมกระซิบบอกพี่ปราบ

“ใครบอกจะให้มึงจ่ายล่ะ กูจ่ายให้” พี่ปราบหันมาตอบสบายๆ

“ไม่เอาพี่ พี่จะมาจ่ายให้ผมทำไม”

ธุระของเขาก็ไม่ใช่ คนที่บ้านผมยังไม่สนใจเลย ผมไม่อยากรบกวนพี่ปราบไปมากกว่านี้ ผมเกรงใจเขา แค่เขาดีกับผมก็เกินพอแล้วที่คนอย่างผมจะได้รับ

“กูขอซื้อได้ไหมไอ้ความเกรงใจของมึงนี่ กูเต็มใจจะจ่ายให้แล้วกูก็จะจ่าย และก่อนที่กูจะหงุดหงิดเอาบัตรประชาชนมึงมาเดี๋ยวนี้ จะได้ให้พยาบาลเขาทำประวัติ”

ในเมื่อเถียงหรือแย้งไม่ได้ ผมก็ได้แต่ยื่นบัตรประชาชนให้พี่ปราบ ไม่นานก็ถูกเรียกไปซักประวัติ จากนั้นก็เข้าไปทำแผล หมอที่นี่มือเบามากและก็สุภาพมากๆแบบที่ผมไม่เคยเจอ ทำแผลเสร็จก็ออกไปรับยา เสร็จสรรพทุกอย่างใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ ต่างจากโรงพยาบาลที่ผมเคยไป สามชั่วโมงแล้วยังไม่เสร็จ เป็นคนรวยมีเงินมันดีอย่างนี้นี่เอง

อะไรก็ง่าย อะไรก็ไว แถมหมอและพยาบาลยังพูดจาดีอีก ไม่เหมือนป้าพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐที่พอเห็นหน้าเด็กช่างอย่างผมเจ็บตัวไปปุบก็ทำหน้ารังเกียจ

“อยากไปไหนหรือทำอะไรไหม วันนี้กูว่าง” พี่ปราบถามขึ้น เมื่อเราขึ้นมาอยู่บนรถแล้ว และขับออกมาจากโรงพยาบาลแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง

“ไม่ครับ ผมไม่อยากทำอะไร”

“งั้นก็ไปออกแรงแล้วกัน เผื่อหัวมึงจะโล่งขึ้น”

“ออกแรง?”

“อืม เดี๋ยวกูพาไปต่อยมวย”

เพราะพี่ปราบว่ามาแบบนั้น ตอนนี้ผมก็เลยมายืนอยู่ที่โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ที่เป็นกิจการของบ้านพี่ปราบ ผมยืนทึ่งกับความใหญ่โตของที่นี่ได้ไม่นาน ก็โดนไล่ให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นพี่ปราบก็เรียกครูฝึกมาช่วยผมวอร์มร่างกาย จากนั้นพี่ปราบก็เป็นคนสอนผมเอง ตั้งแต่ตั้งการ์ด วางท่า ตำแหน่งขาและแขน

“มา หนึ่งสอง” พี่ปราบให้สัญญาณ ผมปล่อยหมัดซ้ายขวาตามที่พี่ปราบสอน

“ดี โยกตัวด้วย เตะมา” ผมปล่อยเตะขาขวาเข้าที่เป้า จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นต่อยสองจังหวะ ตามด้วยศอก และเปลี่ยนมาเตะอีกที

ผมฝึกกับพี่ปราบอยู่รวมสองชั่วโมง การต่อยมวยเรียกเหงื่อได้ดีมากๆ แต่เป็นการเสียเหงื่อที่ผมรู้สึกดี มันเหนื่อยแต่มันก็โล่งในเวลาเดียวกัน

พี่ปราบให้ผมฝึกแค่เท่านี้ เพราะร่างกายผมยังบอบช้ำจากการถูกรุมกระทืบมา ทีจริงพี่ปราบไม่อยากให้ผมมาออกกำลังหรอก แต่เขาบอกว่าผมต้องการการระบายออกมากกว่าเมื่อเช้าที่ผมระบายผ่านการร้องไห้ พี่เขาว่าผมเป็นเด็กเก็บกด ต้องได้ระบายออกเป็นแรงถึงจะหาย ไม่งั้นจิตใจผมจะไม่สงบ ซึ่งพี่เขาพูดถูกหมดทุกอย่าง

ที่ผ่านมาผมระบายอารมณ์โกรธ โมโห ด้วยการออกกำลัง ไปต่อยตีกับคู่อริบ้าง หรือผ่านการซิ่งมอเตอร์ไซค์บ้าง แค่วิธีเหล่านี้เท่านั้นถึงจะทำให้ผมสงบขึ้นได้ แม้จะแลกมาด้วยการเจ็บตัวทุกครั้งก็ตาม

หลังจากออกกำลังกายเสร็จ ผมก็ไปอาบน้ำในโรงอาบน้ำ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดิม นั่งรอพี่ปราบที่สวนหลังโรงฝึก ระหว่างที่นั่งว่างๆ ผมก็คิดสะระตะไปเรื่อย และเรื่องที่วนเวียนอยู่ในหัวก็คือเรื่องงาน ผมต้องหางานใหม่ แต่ปัญหาก็คือผมไม่รู้จะไปสมัครงานที่ไหนดี

“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเครียดๆ ได้ออกแรงแล้วไม่รู้สึกดีขึ้นหรือไง” พี่ปราบเองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เดินเข้ามาหาผม

“ก็ดีครับพี่ มันก็โล่งขึ้น แต่พอมาคิดว่าผมตกงาน ตอนนี้มีแค่เงินเดือนสุดท้ายที่ได้มาก่อนออก ผมยังต้องต้องกินต้องใช้ ยังต้องจ่ายค่าหออีก ผมไม่รู้จะไปหางานใหม่ที่ไหนเลย”

เพราะถ้าผมไม่มีเงินแล้วต้องกลับไปขอเงินที่บ้าน ผมคงโดนด่ามาอีกยกใหญ่ เผลอก็ไม่ได้เงินกลับมาใช้ด้วย ผมไม่อยากกลับไปให้เขาด่าหาว่าผมเป็นคนไม่เอาไหน เป็นภาระให้พวกเขาอีกแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นคนจริงก็ตาม

“มึงอยากทำงานแบบไหน” พี่ปราบถาม ส่งขวดเครื่องดื่มเกลือแร่ให้ผมขวดหนึ่ง

“ผมไม่เกี่ยงงานหรอก งานขุดลอกท่อผมก็เคยทำมาแล้ว แต่เวลาไปสมัครงานที่ไหน พอเห็นว่าผมเป็นเด็กช่างเขาก็ไม่ค่อยรับ อีกอย่างผมไม่ชอบเวลาไปสัมภาษณ์งานอ่ะ มันกดดัน ผมเคยสมัครงานร้านอาหารอะไรพวกนี้มาเยอะอ่ะ แต่เขาไม่เคยรับ ตอนได้ที่นี่ก็เหมือนฟลุ๊คอ่ะ สุดท้ายก็ต้องมาออกจากงาน”

“ซ่า” พี่ปราบเรียกผม

“ครับ”

“กูหางานให้มึงได้นะ แต่มีข้อแม้”

“อะไรอะพี่ ให้ผมทำอะไรผมทำได้หมด” ผมดีใจที่ได้ยิน

“ขายยา”

“ตีนเหอะ” ผมหลุดปากด่าทันที ถึงผมจะเป็นเด็กเหี้ยแต่ก็ไม่ขนาดนั้นนะครับ ผมไม่มีทางไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาย

พี่ปราบมองหน้าผมดุดันทันทีที่ผมหลุดปากพูดคำหยาบไป ผมเลยต้องยกมือไหว้ขอโทษแทน

“ขอโทษครับพี่ มันตกใจอ่ะ ก็พี่พูดแบบนั้นได้ไงวะ ใจเสียหมด”

“งานร้านอาหาร เป็นพนักงานเสิร์ฟ”

“อย่างนี้เงินต้องดีดิพี่”

“เออ กูฝากให้ได้เพราะกูรู้จักกับเจ้าของร้าน แต่ถ้ามึงจะไปทำ มึงต้องสัญญากับกูว่ามึงจะทำตัวดีๆ ขยันทำงาน ไม่เกเรงาน ถ้าไม่เจ็บป่วยหนักมึงต้องไปทำงานตามเวรทุกครั้ง ถ้ามึงสัญญาว่าจะทำได้ทั้งหมดที่กูบอก กูจะฝากงานให้”

“...” ผมนิ่ง ไม่ใช่ลังเลว่าจะทำไม่ได้ แต่ผมกำลังค่อยๆทำความเข้าใจเงื่อนไขที่พี่ปราบบอกอยู่

“กูไม่ค่อยชอบเรื่องใช้เส้นสาย ยิ่งใช้แล้วเด็กที่ฝากมันทำกูเสียชื่อกูยิ่งเกลียด เข้าใจใช่ไหม”

“ครับ”

“สัญญาใช่ไหมว่าจะเป็นเด็กดี”

“ครับ ผมสัญญา ผมจะไม่ทำให้พี่ปราบเสียชื่อแน่นอน”

“กูเชื่อใจมึงนะซ่า อย่าทำให้กูผิดหวัง”

ผมยกมือไหว้พี่ปราบ ก่อนจะตัดสินใจขอบางอย่างที่ผมอยากทำ

“พี่ปราบ ผมขออะไรอย่างสิ”

พอผมเอ่ยปาก พี่ปราบก็จ้องผมราวกับแปลกใจ “ขออะไร”

“ผม...ขอกอดพี่ทีดิ” ผมพูดสิ่งที่ต้องการจบ พี่ปราบก็ทำตาโตกว่าปกติ เป็นอาการตกใจ ผมไม่รู้ว่าพี่ปราบจะคิดยังไงกับสิ่งที่ผมขอ แต่ผมรู้สึกว่า ผมอยากกอดเขา

“คือผมรู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่กับพี่วะ ผมอยากให้พี่เป็นพี่ชายของผม” พูดแล้วก็เขิน ผมเกาแก้มตัวเอง ไม่กล้าสบตาพี่ปราบเท่าไหร่ มันไม่ชินที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้

“หึหึ มาสิ อยากกอดก็กอด” พี่ปราบอ้าแขนออกกว้าง เห็นแล้วผมก็รู้สึกตื้นตันใจ ที่พี่ปราบไม่เคยรังเกียจเด็กเกเรแบบผมเลยสักครั้ง

“ขอบคุณครับ” ผมกระเถิบเข้าไปกอดพี่ปราบเอาไว้ ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำให้พี่ปราบผิดหวังในตัวผมเด็ดขาด




………………………………
สวัสดีค่ะ หยุดลงไปสองสามวัน อย่าเพิ่มตกใจนะคะ ไม่ได้หายไปไหน ริริติดบิน เลยเอาเวลาไปนอนพักและเตรียมตัวทำงานหมด วันนี้ว่างและสมองปลอดโปร่ง เลยพร้อมมาลงพี่ปราบและน้องซ่าให้ได้อ่านกัน
อ่านคอมเม้นแล้วรู้สึกพี่ปราบจะขายดีมากๆ มีแต่คนอยากได้ ฮ่าๆๆๆ พี่ปราบนี่เป็น ‘สามีดีเด่นปี2017’ เลยนะคะ แต่ถึงพี่แกจะดีแค่ไหนก็ยกให้น้องซ่าแกไปเถอะ อย่าไปแย่งน้องมัน เดี๋ยวมันไม่มีที่พึ่งแล้วจะเตลิด
ใครที่รอเขารักกัน มันก็จะอีกแปบๆนึงเลยนะตัวเอง แต่ตอนนี้น้องซ่าก็ติดพี่ปราบมากแล้ว แม้ว่าจะคิดกับพี่ปราบเป็นพี่ชายก็ตาม เอาน่า...ให้เวลาน้องซ่าคนแมนนิดนึง จะเปลี่ยนสไตล์มันก็ต้องใช้เวลา อิพี่ปราบมันก็ไม่ใช่พ่อพระสักเท่าไหร่ นางมีวิธีจัดการกับเด็กของนางอยู่แล้ว
ตอนต่อไปเร็วๆนี้นะคะ
ขอบคุณนักอ่านคนดีที่เข้ามาอ่านพี่ปราบน้องซ่าค่ะ เลิฟๆ  :mew1:


ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ซ่าทำไมชีวิตแย่แบบนี้อ่ะ แม่ ยาย ก็ไม่สนใจ ลำเอียงอะไรขนาดนั้น ทั้งๆที่ก็ลูกเหมืนกัน มีครอบตรัวแบบนี้ ซ่าก็ยังตัดไม่ได้อีกเนาะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อู้ววว พี่ปราบผู้ชายอบอุ่น

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่ปราบก็อยากจะช่วย
น้องซ่าก้แสนจะเกรงใจ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

แต่พี่ปราบก็ให้ซ่าระบายเรื่องทุกข์ ออกมาจนหมด
ไม่เข้าใจความเป็นแมน แม้น แมน  ของซ่า
ที่ต้องให้พลอยบอกเลิกเสียก่อนถึงจะยอมเลิกจริง  :z3: :z3: :z3:
ทั้งที่นาง ยอมบอกว่า เหงา เพราะซ่าไม่มีเวลาให้
เลยมีชู้  นอกใจ สวมเขาให้ตัวเองแท้ๆ  :really2: :really2: :really2:
มันแมนแบบผิดมนุษย์มะนามั้ยนะ พ่อพระซะจริง ทิงนองนอย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ที่ปราบสอนซ่าดีนะ
ไปเสียเวลากับคนที่ไม่รักเรา ไม่ห็นค่าของเราทำไม แล้วเราก็ทุกข์
เอาเวลาไปอยู่กับคนที่เห็นค่าเรา ทำให้เรามีความสุขดีกว่า สุดยอดดดดด
ซ่าคิดได้ซะที เรื่องนังพลอยหุง พลอยเก๊
ก่อนนี้ว่าเพราะซ่าไม่รู้ ไม่เห็นด้วยตา เพื่อนเตือน บอกเท่าไรไม่เชื่อ
แล้วตอนนี้เป็นไง ทั้งรู้ ทั้งเห็น โดนตีน โดนยำ
พลอยบอกซ้ำ ก็ยังซื้อบื้อ ซ่าเอ๊ย.....เกินเยียวยาความบื้อ

แต่ก็ทำให้รู้นะว่า ซ่ารักใครรักเดียว ไม่นอกใจ รักจริง ไม่ทิ้งไม่ขว้าง   :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โธ่พี่ปราบ เขาเห็นพี่เป็นพี่ชายไปเสียแล้ว อยากเป็นมากกว่านั้นต้องพยายามอีกนะพี่นะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
โบ๋แล้วมั้งอิชอกการี เลิกๆไปเถอะ ยึดติดอะไรขนาดนั้น ขาดความอบอุ่นก็ใช่ แต่มันใช่ไหมที่จะไปเรียกร้องกับคนที่ไม่รัก ตอนไหนพี่ปราบจะผงาดเนี่ย

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ได้พูดสักทีนะซ่า เก็บงำไว้ไม่บอกใคร ก็ต้องอึดอัดบ้างอะ ไม่ต้องเล่าทั้งหมด แค่เรื่องที่ไม่ไหวก็ได้
แต่ของซ่า คงไม่ไหวทุกเรื่องแล้วล่ะ ที่ผ่านมา เจอมาขนาดนี้ แล้วไม่เกเรหนัก ถือว่ารอดนะ
ตอนนี้ซ่ามีพี่ปราบเป็นพี่ชายละนะ 5555 ปราบทำให้ซ่าบอกจนได้ ช่วยทุกอย่าง เข้าใจไปหมด เป็นจุดพีคเลยนะ

ปราบเข้าใกล้น้องอีกก้าวแล้ว ตอนนี้ก็เป็นพี่ชายไปก่อนเนาะ รออีกแปบให้ซ่าไปตัดสัมพันธ์ก่อน ค่อยเลื่อนขั้น

เข้าใจซ่านะ ก็รักถึงจะแย่ยังไง ก็พูดไม่ออก เพราะถ้าพูดคือกลัวจบ
แต่รอบนี้ซ่าต้องพูดแล้วล่ะ เหมือนที่ปราบบอก อย่ามากำไว้เลย มันทรมาน
คนดีๆ รอบข้างก็ยังมี เพื่อนก็ห่วง ที่สำคัญกูห่วงมึงมาก รู้บ้างไหม พี่ปราบถาม 55555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ซ่าทำเพื่อตัวเองบ้างเถอะนะ

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่17




[ซ่า]

ร้านอาหารที่พี่ปราบให้ผมมาทำงาน เป็นร้านที่เคยพาผมมากินและเจ้าของร้านก็เป็นอาของพี่ปราบ อาเจเป็นคนน่ารักและใจดีมากๆ ตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ วันนี้เป็นวันที่สามวันแล้ว มีผิดพลาดบ้าง ไม่รู้เรื่องรู้ราวบ้าง แต่อาเจก็ไม่เคยว่าเลย ถ้าอาเจเข้าร้าน อาเจจะสอนงานผมด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่เข้าร้านก็จะฝากพี่ๆที่ร้านให้ดูแลผมแทน

“พัช เอาจานนี้ไปเสิร์ฟโต๊ะสิบห้าโซนนอกทีนะ” พี่น้ำ พนักงานเก่าแก่ของร้านส่งจานอาหารให้ผม พร้อมบอกเลขโต๊ะ ผมค่อยๆประคองจานอาหารในถาดอย่างระมัดระวังแล้วเอาไปเสิร์ฟให้ลูกค้า

“น้องๆ สั่งอาหารหน่อย” ลูกค้าโต๊ะถัดไปที่เพิ่งเข้ามาโบกมือเรียกผม ผมยืนงงอยู่แป๊บนึง ก่อนจะรีบเดินไปรับออเดอร์ ดีที่ลูกค้าไม่ได้ถามว่าจานไหนเด็ดจานไหนดี เพราะผมยังจำเมนูได้ไม่ครบ จะให้แนะนำคงไม่ถนัด จดรายการอาหารเสร็จผมก็เอาไปวางไว้ในช่องรับรายการอาหาร จากนั้นก็เอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้ลูกค้าที่อยู่ชั้นที่สอง

 ทำงานไปจนกระทั่งสี่ทุ่ม ก็เห็นพี่ปราบนั่งคุยกับอาเจอยู่แถวๆบาร์เครื่องดื่ม ผมเดินเข้าไปทักทายพี่ปราบ ที่มักจะมาหาผมทุกวันที่ผมทำงาน ซึ่งส่วนมากก็มานั่งจิบเบียร์ฟังเพลง หากร้านยุ่งๆก็มาช่วยเทคแคร์ลูกค้า

พี่ปราบถือว่าเป็นขวัญใจของลูกค้าสาวๆเลยครับ วันๆหนึ่งพี่ปราบได้เบอร์โทรสาวมาเยอะมาก แต่ไม่เห็นพี่เขาจะสนใจใครสักคน

“พี่ปราบ มานั่งอ่อยสาวอีกแล้วอ่ะพี่” ผมเดินเข้าไปแซว อาเจหัวเราะเห็นด้วยกับคำพูดของผม

“ดีแล้วน้องซ่า ร้านอาจะได้มีลูกค้าเยอะๆ” อาเจยิ้มชอบใจ พี่ปราบก็น้อมรับไม่แย้ง

เรื่องชื่อเล่นของผม ผมก็ยังคงบอกคนอื่นๆว่าผมชื่อพัช แต่พี่ปราบเรียกผมว่าซ่าต่อหน้าอาเจ หลังจากนั้นเวลาอยู่กันสองคนหรืออยู่กับพี่ปราบ อาเจจะเรียกผมว่าซ่า

อย่างที่เคยบอกว่าผมไม่มีปัญหากับการที่คนอื่นจะเรียกผมว่าซ่าหรือพัช แต่ถ้าคนไม่สนิทมาถาม ผมจะให้เรียกพัชมากกว่า

“งั้นผมไปทำงานก่อนนะ พี่ปราบรอผมด้วย”

“อืม ตั้งใจทำงานล่ะ”

“ค้าบผม”

ผมฉีกยิ้มกว้างใส่พี่ปราบและอาเจ ก่อนจะวิ่งไปช่วยพี่ๆเสิร์ฟเหล้าเสิร์ฟเบียร์ ทำงานที่นี่ก็ดี ผมว่ามันเหมาะกับผมมากกว่าทำที่ร้านสะดวกซื้อ พี่ๆที่ร้านดีกับผมทุกคน ค่อยถามว่าทำได้ไหม มีอะไรปรึกษาพวกเขาได้ ผมว่าผมชักจะชอบที่นี่เขาแล้ว

ผมทำงานที่ร้านอาเจแค่อาทิตย์ละสี่วันเท่านั้น ตามตารางผมที่สะดวก ความจริงผมก็อยากทำทุกวันเพราะผมอยากได้เงินเยอะๆ แต่อาเจอยากให้ผมตั้งใจเรียนมากกว่า เพราะถ้าผมมาทำงานทุกวัน ต้องเลิกงานเวลาเที่ยงคืน จะทำให้ผมเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง และความเห็นของอาเจ พี่ปราบเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์

ดังนั้นวันที่ผมทำงานก็จะมี วันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์และวันเสาร์ ซึ่งพอคำนวณตามค่าจ้างที่จะได้ในแต่ละวัน ก็ไม่ถือว่าแย่

ข้อดีอีกอย่างก็คือ พอผมมีงานทำ คืนนั้นผมก็ไม่ต้องมานั่งฟุ้งซ่านคิดเรื่องของพลอย ตั้งแต่วันนั้น ผมกับพลอยก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ผมเว้นระยะห่างออกมา ก็ยอมรับว่าผมยังทำใจไม่ได้ ผมคบพลอยมาหลายปี ทุ่มใจทั้งหมดให้กับคนๆเดียว จะให้ตัดใจในทันทีเลยผมก็ยังไม่เด็ดเดี่ยวขนาดนั้น มีบางครั้งที่ผมก็คิดถึงพลอย นับจากวันนั้นก็ผ่านมาแล้วห้าวัน ผมคิดว่าผมยังต้องการเวลามากกว่านี้ในการคิดและตัดสินใจ

ร้านอาเจปิดเวลาตีหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็จะช่วยกันเก็บช่วยกันเคลียร์ของ สักตีสองก็ได้กลับ ซึ่งผมได้สิทธิพิเศษอยู่อย่างก็คือ ในวันจันทร์และวันพุธ ผมจะทำงานตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วเลิกงานสี่ทุ่ม ไม่ต้องช่วยเก็บของ สามารถกลับได้เลย แต่สองวันนี้ก็จะได้ค่าแรงไม่เต็มวัน ซึ่งผมคิดว่าแค่นี้อาเจก็ใจดีกับผมมากๆแล้ว

ทำให้บางครั้งผมอดอิจฉาพี่ปราบไม่ได้ว่า เขาโชคดีที่ชีวิตรายล้อมไปด้วยคนดีๆ

“พี่ปราบทำอาหารอร่อยอ่ะ” หลังเลิกงาน คนอื่นกลับกันไปหมดแล้ว เหลืออาเจและผู้จัดการร้านที่ชื่อพี่โอที่กำลังเคลียร์งานกันอยู่ พี่ปราบก็เลยพาผมบุกเข้ามาในครัว ลงมือทำสปาเก็ตตี้หอยลายซอสไวน์ขาวสักอย่าง ที่อร่อยมากๆ ผมพูดเลยว่าใครที่ได้เป็นเมียพี่ปราบนี่โคตรโชคดี เก่ง หล่อ รวย ใจดี ทำอาหารเก่ง คนอะไรโคตรของโคตรเพอร์เฟค

“บ้านกูทำอาหารเป็นทุกคน ไม่ได้มากที่สุดก็มีอาสองกับป๊า กูก็เลยเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กๆ”

“ดีอ่ะ ผมนะทำได้แค่ทอดไข่ ทอดไส้กรอก อะไรที่ทอดง่ายๆอ่ะผมทำได้ แต่นอกนั้นไม่ได้เลย”

“เออ แล้วเรื่องคนที่มาหาเรื่องมึงนี่เป็นไงบ้าง ไหนเล่าดิ” พี่ปราบถามถึงความคืบหน้าเรื่องที่ตำรวจตามจับไอ้ปาร์ค

เมื่อวานตำรวจโทรมาหาผมและผู้จัดการร้านว่าคุมตัวไอ้ปาร์คไว้ได้แล้ว เลยเรียกผมกับผู้จัดการไปคุย ผมที่ต้องเอาผู้ปกครองไปด้วยก็จำเป็นต้องโทรไปหาพี่แนน แต่ก็ไม่วายโดนบ่นกลับมาอีก

“เขาก็ให้ทางบ้านไอปาร์คชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในร้าน กับค่ารักษาพยาบาลและค่าปลอบขวัญให้ผม ผมก็หวังว่ามันจะได้เข้าไปนอนในคุกนะพี่ แต่พ่อแม่มันก็วิ่งเต้นหาเงินมาประกันตัวมันออกไปจนได้ ก็แค่นี้แหละ”

“แล้วเงินที่ได้มาอยู่ไหน”

“พี่แนนเขาเอาไปให้แม่แล้วพี่ พี่คิดว่าผมจะได้ถือเงินห้าพันไว้ในมือเหรอ แต่ค่าทำแผล เดี๋ยวผมจ่ายคืนให้ตอนเงินเดือนออกนะพี่ ผมไม่อยากมีปัญหากับที่บ้าน ก็เลยไม่ได้ขอเงินคืนมา”

ความจริงแล้วเงินจำนวนนั้นมันควรเป็นของผม แต่ในเมื่อพี่แนนไม่ไว้ใจจะให้ผมเก็บเงินนั้นไว้กับตัวเอง แล้วบอกว่าเอาไว้ให้แม่ใช้จ่ายในครอบครัวดีกว่าให้ผมเอามาลงขวดเหล้า ผมก็ทำอะไรไม่ได้ เลยปล่อยผ่านไป ทั้งๆที่ผมควรจะมีเงินมาคืนพี่ปราบเขาแท้ๆ

“ไม่ต้องเอาเงินมาคืนกู เรื่องเงินกูไม่เคยคิดมาก ส่วนเงินที่มึงได้มาจากคู่กรณี มันก็อยู่ที่มึงตัดสินใจ แต่สำหรับค่ารักษาพยาบาล ถ้าตอนนี้เห็นกูเป็นพี่อย่างที่ปากว่า ก็อย่าเอามาคืนกู อันไหนกูบอกว่าให้ก็ให้ แต่ถ้าอันไหนพูดว่าให้ยืม นั่นค่อยคืน”

ผมกลืนสปาเก็ตตี้ แล้วรีบวางช้อนส้อม ยกมือไหว้ขอบคุณพี่ปราบ “ขอบคุณครับพี่”

“เออๆ กินเสร็จแล้วก็ไปล้างจาน จะได้กลับ มึงอยากดูหนังเรื่องนั้นไม่ใช่เหรอไง ดึกขนาดนี้แล้วมึงจะยังดูไหวไม่เนี่ย”

“ไหวๆพี่ ยังไม่ง่วง ว่าแต่...ขอจิบเบียร์ไปด้วยได้ไหมอ่ะ”

“เออ ตู้เย็นที่คอนโดกูมี ไม่ต้องห่วง”

“เยี่ยมไปเลยพี่”





คืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมไม่ต้องนอนคนเดียวหลังจากที่รู้ความจริงว่าพลอยนอกใจผม ทุกคืนที่ผ่านมาผมไม่เคยนอนหลับสนิท คอยแต่จะฝันจึงภาพของพลอยและไอ้ปาร์คที่กำลังกอดก่ายกัน ฝันว่าพวกมันพร้อมใจกันเอามีมาแทงข้างหลังผม เสียงที่ดังก้องอยู่ในหัว ก็เป็นเสียงที่พลอยพร่ำบอกว่าไม่รักผมแล้ว พลอยเบื่อและไม่อยากเจอหน้าผมคนอย่าง

ไม่มีใครรู้ว่าผมผ่านแต่ละค่ำคืนมาได้ก็ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ต่อหน้าเพื่อนและคนอื่นๆ ผมพยายามทำตัวเหมือนว่าผมไม่เป็นอะไร ผมไม่คิดมาก แต่มันไม่ใช่ ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมกำลังจะไม่ไหว และที่ผมเอ่ยขอดื่มเบียร์ระหว่างดูหนังกับพี่ปราบนั้นมันก็คือข้ออ้าง เหตุผลจริงๆก็คือ ถ้าไม่ดื่มมัน ผมจะข่มตานอนไม่หลับ

พี่ปราบเองก็คิดว่าผมดีขึ้น คืนนี้เขาเลยชวนผมมาดูหนังที่คอนโด พอดีเป็นเรื่องที่ผมเองก็อยากดูพอดี และไม่อยากฟุ้งซ่านอยู่ที่ห้องเพียงลำพัง ผมเลยตอบตกลงที่จะมานอนกับพี่ปราบที่คอนโด

“เรื่องนี้ตอนภาคแรกผมโคตรชอบเลย ไม่รู้ภาคนี้จะเป็นยังไง”

“เขาว่าก็สนุกดี แต่บางคนก็ไม่ชอบ”

“แต่ตัวอย่างมันก็ดูจะสนุกนะ”

“อืม ก็แล้วแต่คนจะคาดหวัง หนังมาแล้ว ตั้งใจดู”

พอหนังเริ่มเล่นผมกับพี่ปราบก็จมจ่ออยู่กับเรื่องราวบนจอทีวี ผมตื่นเต้นกับเนื้อเรื่องที่กำลังดำเนิน จนคิดว่าอยากจะเป็นนักมายากลเท่ๆแบบนี้มาก ผมดูจนกระทั่งหนังจบก็ใกล้จะตีห้าแล้ว

“หนังอย่างเจ๋งอ่ะพี่ แม่งแผนซ้อนแผนแบบที่ทำเอาลุ้นทุกตอน”

“เออ ก็ถือว่าทำได้ดี สนุกดี”

“น่าจะมีหนังแนวๆนี้อีกนะพี่ ผมอยากดู”

“มึงก็ภาวนาให้เขาทำภาคสามก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้มึงกับกูควรจะต้องไปนอนได้แล้ว อีกนิดก็ตะวันขึ้นแล้วเนี่ย”

“นั่นดิพี่ หาววว ผมก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน”

“งั้นก็ไปนอน”

ผมและพี่ปราบอาบน้ำตั้งแต่ก่อนจะดูหนัง ตอนจะนอนก็เลยสบาย กระโดดขึ้นเตียงได้ ผมก็หลับยาวไม่ฝันร้ายตลอดคืน

ด้วยความเหนื่อยล้าของร่างกายที่พักผ่อนไม่เพียงพอมาหลายวัน รวมไปถึงเบียร์อีกหลายกระป๋องที่ผมดื่มระหว่างดูหนัง ทำให้ผมหลับยาวจนกระทั่งเที่ยงวัน และที่ตื่นก็เพราะว่าพี่ปราบปลุก ผมไม่ได้ตื่นด้วยตัวเอง

พี่ปราบพาผมไปกินข้าว  และแวะร้านสะดวกซื้อ ซื้อของกินเล็กๆน้อยๆไปติดไว้ที่หอ หลังจากส่งผมที่หอพักเสร็จ พี่ปราบก็ขอตัวกลับไปทำธุระต่อ ไม่ลืมกำชับให้ผมดูแลตัวเองดีๆ





วันจันทร์หลังเลิกเรียน ผมกลับหอมาเปลี่ยนเตรียมไปทำงาน ตอนออกมาจากหอ ผมรู้สึกว่ามีคนจ้องผม แต่พอหันไปมองก็ไม่มีใคร ผมรู้สึกอย่างนั้นอยู่สองสามครั้ง แต่เพราะใกล้ได้เวลาเข้างาน ผมเลยไม่ใส่ใจ

ร้านอาหารอาเจอยู่ไกลจากหอของผมพอสมควรเลย โชคดีที่สามวันที่แล้วพี่ปราบมารับผมที่ร้านแล้วพาไปส่งหอ  ไม่อย่างนั้นผมได้นอนหลับบนรถเมล์เป็นชั่วโมงๆก่อนถึงหอแน่ๆ

มาถึงร้านอาหารพี่เจ ผมก็เข้าไปลงชื่อเข้างาน ผมยังใหม่และไม่คล่อง งานแต่ละวันยังต้องให้พี่ๆเขาบอกว่าผมต้องทำอะไร

วันนี้อาเจให้ซื้อของและวัตถุดิบทำอาหารมาลงที่ร้านเพิ่ม ผมก็เลยมาช่วยพี่ๆเขายกของเข้าร้าน สักพักก็มีพี่ผู้ชายชื่อเดชเดินเข้ามาหาผม

“พัช มีคนมาหาอะ อยู่หน้าร้าน”

“หาผมเหรอพี่”

ผมย้อนถามกลับอีกรอบเพื่อความแน่ใจ เพราะนอกจากพี่ปราบแล้ว จะมีใครอีกที่มาหาผม หรือว่าจะเป็นพวกไอ้หวาย

“อืม เป็นเด็กผู้หญิงอ่ะ”

“ผู้หญิง?”

ผมงงเข้าไปใหญ่ ไม่ใช่พี่ปราบหรือเพื่อนผมที่รู้ว่าทำงานอยู่ที่นี่ แต่กลับเป็นผู้หญิง ซึ่งผมมั่นใจว่าไม่มีคนรู้จักผมที่เป็นผู้หญิงรู้ว่าผมทำงานที่นี่แน่นอน เพราะผมไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย นอกจากญาติพี่น้อง ก็มีแค่พลอยเท่านั้น

“น้องเขารออยู่หน้าร้านอ่ะ ลองออกไปดูละกัน”

“ครับ ขอบคุณครับ”

ผมยกถุงที่เต็มไปด้วยผักสดเข้าไปวางไว้ในครัว ก่อนจะออกไปดูที่หน้าร้านว่าใครมาหา

และผู้หญิงที่พี่เดชว่ามาหาผมก็คือพลอย พอเห็นผมพลอยก็ขยับเดินเข้ามาใกล้ ในหัวผมคิดไปต่างๆนานาถึงเหตุผลที่พลอยมาหาผม แม้จะแปลกใจอยู่บ้างว่าทำไมพลอยถึงรู้ว่าผมทำงานอยู่ที่นี่ ซึ่งพอคิดว่าผมรู้สึกเหมือนมีใครแอบมองผมเมื่อเย็น คนๆนั้นก็คงเป็นพลอย

“มาทำไม”

“ซ่า คือพลอย...”

“ถ้าจะมากินข้าวก็รอหกโมงเย็น ตอนนี้ร้านยังไม่เปิด” ผมบอก

“เปล่า ไม่ใช่ พลอยไม่ได้มากินข้าว”

“งั้นจะมาบอกเลิกหรือไง” ผมพูดเสียงแข็ง แม้ภายนอกผมจะดูนิ่งไม่แยแส แต่ข้างในกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

“เปล่า พลอยจะมาขอโทษ”

“ขอโทษทำไม ในเมื่อซ่ามันไม่ดีนิ ถ้าจะบอกเลิกก็พูดมาเถอะ ไม่ต้องมาขอโทษหรอก ไม่จำเป็น”

“...” พลอยเอาแต่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรสักอย่าง จนเป็นผมเองที่เริ่มจะหงุดหงิด

“ถ้าไม่พูดก็กลับไปซะ เสียเวลาทำงาน” ผมหมุนตัวเดินกลับเข้าร้าน

“เราไม่ได้อยากเลิกกับซ่า”

เท้าผมหยุดเมื่อพลอยพูดประโยคนั้นด้วยเสียงที่สั่นเครือ ไม่ดังแต่ก็ไม่เบา

ผมหันกลับไปมองพลอยอีกครั้ง ซึ่งพลอยไม่กล้าสู้หน้า ผมยกยิ้มหยันให้กับตัวเอง

“แต่การกระทำของพลอย มันไม่ได้บอกแบบนั้นเลย” ผมพูดทิ้งท้าย เมื่อหน้าพี่ปราบลอยเข้ามาในหัว

‘รักเขาไม่รักเขาสำคัญตรงไหน สำคัญที่ว่าเขาไม่ได้รักมึง และมึงต้องรักตัวเอง’

คืนนั้นทั้งคืน ผมทำงานพลาดหลายครั้ง เหม่อลอยจนส่งอาหารผิดโต๊ะ และสีหน้าผมคงจะแย่มาก อาเจก็เลยให้ผมเข้าไปทำงานล้างจานในครัวแทน ไม่ต้องออกไปเสิร์ฟอาหาร ถือเป็นการทำโทษไปในตัว

หลังเลิกงานเดินออกมาจากร้านพร้อมพี่ปราบ ผมก็ไม่เห็นพลอยแล้ว พี่ปราบยังไม่รู้ว่าวันนี้ผมเจอพลอย ผมไม่ได้เล่า และอาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของผมอาเจก็รับปากว่าจะไม่เล่าให้พี่ปราบฟัง แต่วันพุธหน้าที่มาทำงาน ผมต้องไม่เป็นแบบวันนี้อีก ซึ่งผมก็รับปากอาเจแต่โดยดี ถึงชีวิตมันจะย้ำแย่แค่ไหน แต่ผมจะไม่ยอมเสียงานนี้ไป เพราะมันจะหมายความว่าผมผิดสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ปราบ







อ่านต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld

วันต่อมาพลอยโทรศัพท์มาหาผมแต่ผมไม่ได้รับ ไปเรียนแล้วตอนเย็นก็แวะไปนั่งกินเหล้ากับพวกเพื่อนที่ร้านเฮียบีท ซึ่งพอพี่ปราบรู้แกก็ตามมาด้วย ทั้งๆที่เมื่อเย็นแกส่งข้อความมาบอกว่าเหนื่อย อยากจะนอน

แต่พี่ปราบไม่ได้มานั่งกับผม เข้าไปคุยธุระกับเฮียบีทในห้องทำงาน พวกผมห้าคนก็เลยนั่งดื่มนั่งร้องเพลงไปเรื่อย และไอ้ตูนก็ยังเป็นคนที่ขายได้ดีที่สุด สาวๆแวะเวียนมานั่งที่โต๊ะให้พวกเพื่อนผมเชยชม ส่วนผมก็นั่งมองพวกมันหลีหญิงนิ่งๆ

“ไอ้พัช ไม่คุยกับสาวหน่อยวะ นั่งบื้อเลยนะมึง” ไอ้หวายนั่งทำตาเยิ้มพูดแซะผม

“เห็นใจมันหน่อยเพื่อน น้องพัชของพี่กานกำลังอกหัก ตอนนี้อะไรๆก็เลยเหี่ยว” เจ้าเก่าเจ้าเดิม ไอ้กานจอมกวนตีน

“ฮ่าๆๆ มึงก็ไปว่ามัน”

“ถ้าไอ้พัชมันไม่เอา พี่เอาเบอร์มาให้ผมก็ได้นะ” ไอ้กานขยิบตาใส่พี่ผู้หญิงที่มานั่งข้างผม เมื่อเห็นผมไม่สนใจพี่เขาก็ขอตัวกลับไปที่โต๊ะ ส่วนไอ้ตูนก็แลกเบอร์กับสาวเรียบร้อย ก่อนจะเดินพาสาวไปส่งที่โต๊ะ ไอ้หวายที่ทำเป็นปากดี แต่วันนี้ผมสังเกตเห็นว่ามันไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงเลยสักนิด ดูแปลกๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ

“ไอ้พัช ตกลงมึงเลิกกับพลอยหรือยัง” ไอ้หวายถาม ผมรู้ว่าที่มันลากผมมากินเหล้าในวันนี้ ก็เพื่อง้างปากผมเรื่องพลอย

“ยัง” ผมตอบตามตรง

“เอ้า มึงรออะไรอยู่เนี่ย จับได้คาหนังคาเขาแล้วไม่ใช่เหรอวะ ทำไมยังไม่เลิกอีก” ไอ้นุ๊กทำหน้าขัดอกขัดใจ

“นั่นดิ หรือมึงรอกูไปเป็นประธานเปิดงานมงคลหย่าร้างของมึงกับพลอยอยู่” ไอ้กานกระแทกแก้วเหล้าลงกับโต๊ะ ตอนนี้เหลือไอ้ตูนคนเดียวที่ยังไม่อ้าปากด่าผม

“แล้วมึงมีอะไรจะด่ากูไหมไอ้ตูน” ผมถามไอ้หล่อที่นั่งจ้องผม

“หึหึ กูขอด่าว่า ไอ้โง่”

นั่นสิ ผมมันคนโง่ โง่มาตลอด

“มึงจะเลิกกับมันไหมไอ้พัช กูขอเหอะมึง เลิกๆไปเถอะ เดี๋ยวกูหาผู้หญิงสวยๆซิงๆให้เลยก็ได้” ไอ้หวายเสนอปนขอร้องผม

“พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก กูจะไม่โง่อีก” ผมบอกพวกมันเสียงหนักแน่น

“มึงแน่ใจ” ไอ้นุ๊กหรี่ตา จ้องจะเอาคำตอบ

“เออ กูคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”

“พวกมึงปล่อยมันไปก่อน อย่าเพิ่งไปเร่งเร้ามัน ส่วนมึงนะไอ้พัช...ผู้หญิงดีๆหาไม่ง่าย แต่ที่ดีกว่าแฟนมึงน่ะถมเถไป หรือไม่อยู่เป็นโสดแบบกูก็ดีกว่า”

“เออ กูขอใจพวกมึง”

“ไม่เป็นไร เพื่อนกัน”

ไอ้ตูนมันกอดไหล่ผม ไอ้กานก็ตบบ่าทำหน้าซึ้งอย่างกวนส้นตีน ผมเลยดีดหน้าผากแม่งเข้าให้ คนที่ยังนั่งทำหน้าเหี้ยก็มีแต่ไอ้หวาย ที่จิ๊ปากจิ๊คอมองค้อนผมเป็นตุ๊ด ผมเลยจัดการจับแก้วเหล้ากรอกปากมันด้วยความรัก คนที่ห่วงผมเรื่องพลอยที่สุดก็ต้องยกให้ไอ้หวายเนี่ยแหละ

จนเวลาเกือบๆจะเที่ยงคืน พี่ปราบกับเฮียบีทก็ลงมานั่งกินเหล้ากับพวกผม พี่ปราบนั่งข้างๆผม พอเห็นว่าบนโต๊ะไม่มีกับแกล้มอะไรนอกจากถั่วลิสง แกก็บ่นแล้วจัดการสั่งกับแกล้มอย่างอื่นมาให้

“มึงกินข้าวเย็นหรือยัง” พี่ปราบถามผม

“ยังเลยพี่”

“ยัง แต่เสือกมานั่งกินเหล้าเนี่ยนะ” พี่ปราบดุผมต่อหน้าเพื่อน ไอ้กานกับไอ้นุ๊กมองผมกับพี่ปราบสลับกันแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ ทำหน้าทำตาอะไรของพวกมันไม่รู้ กวนประสาทชิบหาย

“แต่ผมกินขนมปังไปแล้ว” ผมบอก

“มันพอหรือไงเล่า เอาข้าวผัดมาจานดิ ไข่ดาวด้วย” พี่ปราบหันไปสั่งกับพนักงานร้าน ไม่นานกับแกล้มและข้าวก็ทยอยมาเสิร์ฟ ผมไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ แต่ไม่กินไม่ได้ ไม่งั้นพี่ปราบได้บ่นผมจนหูชาแน่ๆ

กินข้าวเสร็จผมก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับไปที่โต๊ะก็เดินมาสูบบุหรี่แถวๆหน้าร้านติดถนนใหญ่ ผมยืนสูบไปเรื่อยๆพี่ปราบก็ตามออกมา

“ไงมึง มีอะไรเครียดหรือไง” พี่ปราบมักสังเกตอาการผมได้ก่อนใคร

“ก็...เรื่องเดิมๆแหละพี่”

“กูรู้ว่ามันต้องใช้เวลาในการเลิกรักใครสักคน แต่อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องเจ็บไปมากกว่านี้ รักตัวเองให้มากๆ กูย้ำหลายรอบแล้วนะ”

“ฮ่าๆๆ หลายรอบจริง” ผมเห็นด้วย แต่ก็รู้สึกดีที่มีคนคอยย้ำเตือนให้ เพราะผมชอบลืมเสมอ

“ความจริงกูอยากให้พวกมึงเพลาๆเรื่องออกมากินเหล้านะ แต่กูก็ไม่รู้จะพูดยังไง เอาเป็นว่าวันนี้กูอนุโลมก็แล้วกัน ถือว่าให้มึงออกมาคลายเครียดบ้าง”

ผมยิ้มให้กับความหวังดีของพี่ปราบ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชีวิตต้องวนเวียนแถวๆร้านเหล้าหรือวงเหล้า แต่ชีวิตผมก็มีแค่นี้ ไปเรียน ไปทำงาน นอนกิน และเวลาจะมาเจอเพื่อนก็คิดออกอย่างเดียวว่าจะต้องกินเหล้า

ไม่ต้องทำอะไร แค่นั่งดื่ม ฟังเพลงจนเมามาย แล้วก็หลับไปให้มันผ่านไปอีกวันหนึ่ง

ขณะที่ผมปล่อยสายตามองไปเรื่อย ก็สังเกตเห็นมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่จอดรอไฟเขียวอยู่หน้าร้าน คนซ้อนคือพลอย และเมื่อเพ่งดูดีๆ ถึงได้รู้ว่าคนขับเป็นไอ้ปาร์ค

“มึงมองอะไรอยู่ซ่า” พี่ปราบวางมือลงบนไหล่ผม ผมถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจ้องสองคนนั้นด้วยท่าทางเกร็งขึง

“พวกมันสองคน คือไอ้ปาร์คกับพลอย เมื่อวานพลอยมันมาหาผมที่ร้าน ผมคิดว่าพลอยจะมาบอกเลิก แต่มันกลับพูดว่าไม่ได้ยากเลิกกับผม แต่มันก็ไม่เลิกกับไอ้เหี้ยนั่นเหมือนกัน” ผมพูดเล่าเพื่อระบายความในใจ แม้ว่าในตอนแรกผมเลือกจะไม่เล่าก็ตาม

พี่ปราบมองตามสายตาผม ก่อนจะดึงมือผมให้เดินตามไปที่รถของพี่ปราบที่จอดอยู่แถวๆหน้าร้าน

“ไปไหนพี่” ผมถาม หันมองพลอยทีมองพี่ปราบที ขาก็เดินเป๋ๆตามแรงดึง จนกระทั่งเข้ามานั่งในรถ

“พี่จะไปไหน” ผมถามอีก ไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้ว พี่ปราบมองกระจกข้างรถฝั่งเขา ก่อนจะมองหน้าผม

“พามึงไปพิสูจน์ว่า ถึงเวลาที่มึงจะตัดสินใจได้หรือยัง”

ผมไม่เข้าใจคำพูดของพี่ปราบสักเท่าไหร่ แต่พอพี่ปราบออกรถ  แล้วขับตามท้ายรถของไอ้ปาร์คไป ผมก็พอจะเดาได้ว่าพี่ปราบกำลังทำอะไรอยู่

จุดหมายปลายทางที่ไอ้ปาร์คขี่มอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าไปก็คือโรงแรมม่านรูด พี่ปราบจอดรถที่หน้าโรงแรม ผมกำลังจะหันไปถามว่าพี่ปราบหยุดรถทำไม คำถามของพี่ปราบก็ดังขึ้นมาก่อน

“มึงพร้อมที่จะไปเห็นความจริงไหม”

“...”

“แทบไม่ต้องเดาเลยว่าพวกมันเข้าไปทำอะไรกัน คนที่บอกกับมึงว่าไม่อยากเลิกกับมึง แต่ก็มาเข้าโรงแรมกับผู้ชายอีกคน ถ้ามึงกล้าเข้าไปทุกอย่างมันจะง่ายสำหรับมึง”

ผมคิดตามคำพูดของพี่ปราบ ละสายตาจากคนที่มองผมด้วยความเป็นห่วงเป็นกังวล จับจ้องที่ทางเข้าโรงแรมม่านรูดก่อนจะตัดสินใจ

“ผมจะเข้าไป” สิ้นคำพูดของผม พี่ปราบก็ขับรถตรงเข้าไปข้างในทันที พี่ปราบจะจ่ายเงินค่าเปิดปากให้กับเด็กโบกรถ แต่เด็กโบกรถไม่ยอมบอกว่าพวกมันสองคนอยู่ที่ห้องไหน

“ถ้าไม่บอกกูจะแจ้งตำรวจ” พี่ปราบขู่

“เห้ยพี่ ผมบอกแล้วๆ ห้องโน่นเลยพี่”

“นำไปดิ” พี่ปราบสั่ง ก่อนจะขับรถไปตามแสงไฟฉายที่โบกนำทางไปยังห้องที่พลอยกับไอ้ปาร์คอยู่

พี่ปราบกับผมลงมายืนอยู่ที่หน้าห้อง เด็กโบกรถก็มายืนลุกลี้ลุกลนอยู่ใกล้ๆ

“มึงแน่ใจนะว่าห้องนี้” พี่ปราบหันไปถาม

“ครับๆ แน่ใจครับพี่ ผมพาพี่มาแล้ว พี่ก็อย่าแจ้งตำรวจนะพี่ ถ้านายรู้ว่าผมปล่อยเด็กเข้ามา นายเอาผมตายเลย”

“เออ ถ้าพวกมันอยู่ห้องนี่จริงกูจะไม่บอก ส่วนมึงก็เอาเงินนี่ไป แล้วปิดม่านเฝ้าเอาไว้” พี่ปราบส่งเงินให้มันไปห้าร้อย มันรีบรับเงินแล้วออกไปยืนเฝ้าข้างนอก

พี่ปราบดึงมือผมเอาไว้เมื่อเห็นว่าผมจะเคาะประตูห้อง กระซิบบอกให้ผมรอเวลาและจังหวะที่เหมาะสมกว่านี้ ผมก็ยอมเชื่อฟัง ทั้งๆที่ตอนนี้ผมตัวสั่นไปหมดแล้ว

“พร้อมนะ”

“ครับ”

พี่ปราบเคาะประตูห้อง ยืนรอสักพักก็ยังไม่มีใครมาเปิด พี่ปราบเคาะอีกรอบ แรงขึ้นและนานขึ้น แต่ก็ยังเงียบ คราวนี้ผมเป็นคนเคาะเอง เคาะติดๆกันไม่หยุด จากเคาะก็เปลี่ยนเป็นทุบประตู ในที่สุดคนข้างในก็ทนไม่ไหวออกมาเปิดประตู

“ไอ้เหี้ย กูบอกแล้วไงว่าไม่ให้มากวน...มึง!”

“เออ กูเอง”

ไอ้ปาร์คตกใจอย่างมากที่เจอผม พอตั้งตัวได้มันก็เตรียมจะปิดประตูหนี แต่พี่ปราบไวกว่า ดันประตูเปิดออกกระแทกตัวไอ้ปาร์คจนมันล้มลงกับพื้น เสียงผู้หญิงกรี๊ดดังขึ้น ผมเหลือบตาขึ้นมองก็เจอพลอยที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่บนเตียง

“ซ่า!!!” พลอยอุทานชื่อผมเสียงดัง

“พวกมึงมาทำไม จะทำอะไรกู!” ไอ้ปาร์คถูกพี่ปราบล็อคแขนกดไว้กับพื้น

“มึงไปจัดการเรื่องของมึงซะ ทางนี้กูจะดูให้เอง” พี่ปราบบอก พร้อมกับออกแรงกดตัวไอ้ปาร์คลงกับพื้นมากขึ้น

“อั้ก! ปล่อยกู”

ผมปล่อยให้พี่ปราบจับตัวไอ้ปาร์คไว้ แล้วเดินเข้าไปหาพลอยที่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง เธอพยายามที่จะดึงผ้าห่มมาปกปิดร่างกาย แต่มันไม่สามารถปกปิดความระยำที่พลอยทำไว้ได้


ผมจับตัวพลอยขึ้นมา มันคงถึงเวลาแล้วที่จะต้องตัดให้ขาดเสียที

“กูว่ากูเคยบอกมึงแล้วนะพลอย ว่าอยากให้กูจับได้แบบคาหนังคาเขา ไม่อย่างนั้นกูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ๆ” ผมเลื่อนมือข้างหนึ่งจากไหล่บางมาบีบแก้มที่ผมเคยหอม

“อึก ปล่อย” พลอยพยายามจะดิ้นหนีออกจากมือของผม ผมปล่อยมือที่บีบแก้มเลื่อนลงต่ำมาที่ลำคอ 

“ตั้งแต่กูรู้ว่ามึงนอกใจกูนะพลอย กูไม่ได้ต้องการให้มึงรู้สึกกับกูเหมือนเดิมหรอก กูรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แม้ว่ากูจะอยากให้มันเป็นเหมือนเดิมมากแค่ไหนก็ตาม แค่มึงบอกเลิกกูมาเท่านั้น แล้วหลังจากนั้นมึงจะไปเอากับใครกูจะไม่ว่าเลย แต่มึงไม่พูด แล้วมึงก็มาทำเหี้ยระยำอย่างนี้เนี่ยนะ” ผมพูดเสียงแข็ง สายตาก็มองสำรวจไปทั่วตัวพลอยก่อนจะแสยะยิ้ม ตอนนี้ผมทำให้พลอยกลัวจนตัวสั่น

“ซ่า ปล่อยพลอย พลอยหายใจไม่ออก”

มือที่กำรอบคอพลอยไม่ได้เค้นแรง ผมรู้น้ำหนักมือตัวเอง แต่เพราะความกลัว ทำให้พลอยคิดว่าตัวเองหายใจไม่ออก ทั้งๆที่คนที่หายใจไม่ออกมันคือผมคนนี้

“วันนี้กูรู้แล้วพลอย ว่ากูทนเป็นคนโง่ให้มึงทำร้ายกูต่อไปไม่ได้แล้ว กูจะไม่ทนกับคนอย่างมึงอีกแล้ว”

“มึงจะทำอะไรพลอย ปล่อยกู” ไอ้ปาร์คตะโกนเสียงดัง ผมหันไปหาไอ้ปาร์ค หน้าของมันเอียงข้างแนบติดกับพื้น สายตาของมันเคียดแค้นเหมือนอยากจะพุ่งเข้ามาฆ่าผม

“กูไม่ทำอะไรมันหรอก เพราะมันเคยเป็นเมียกู นอนอ้าขาให้กูมาก่อนมึง และไม่รู้ว่านอกจากกูและมึง มันจะไปนอนให้ใครเอามันอีกบ้าง” ผมพูดให้ไอ้ปาร์คมันรู้สึกเจ็บแค้น ก่อนจะหันมาจ้องหน้าพลอย

“เพราะฉะนั้น มึงพูดออกมาซะ บอกเลิกกูซะ!” ผมสั่ง

“อึก”

“พูด กูบอกให้พูด ไม่อย่างนั้นกูจะบีบคอมึงแรงขึ้น” ผมพูดขู่ ไม่เข้าใจว่าจนป่านนี้พลอยจะยื้อผมไว้ทำไม

ที่ผมต้องการให้พลอยเป็นคนพูด เพราะผมเชื่อว่าคนที่บอกเลิกได้คือคนที่หมดรักแล้ว ในเมื่อผมยังหลงเหลือความรักให้พลอย มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะต้องเป็นฝ่ายพูด 

“ฮึก ฮือ” พลอยร้องไห้

“บอกเลิกกู พูดมาเซ่!! กูสั่งให้พูด มึงไม่ได้ยินหรือไงวะ!”

ผมเค้นแรงในมือหนักขึ้นแต่ไม่ถึงขั้นบีบ แล้วตะคอกใส่หน้าพลอยดังลั่น พลอยสะดุ้งแล้วรีบระล่ำระลักพูดในสิ่งที่ผมต้องการออกมา

“ละ เลิก เลิกแล้ว”

“พูดดังๆ!” ผมสั่งอีก ผมต้องการฟังคำบอกเลิกของพลอยชัดๆอีกครั้ง ให้มันฝังลงไปในจิตใจ ให้รู้ว่าคนๆนี้มันไม่ต้องการผมแล้ว หัวใจโง่ๆมันจะได้ไม่ต้องคอยคิดว่าไม่อยากเลิกเพราะพลอยอาจจะยังรักผมอยู่

“เลิก กูเลิกแล้ว พอใจยัง!” คราวนี้พลอยตะโกนใส่หน้าผมด้วยความไม่พอใจ แล้วผลักผมออกจากตัว จ้องหน้าผมด้วยความเกลียดชัง ผมมองพลอยแล้วสั่งให้ตัวเองจำ ต่อแต่นี้ไปอย่าไปรักคนแบบนี้อีก วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะรักผู้หญิงคนนี้

“ต่อจากนี้ไป มึงกับกูขาดกันพลอย ไม่เกี่ยวข้องกันอีก มึงไม่ใช่แฟนกูแล้ว และกูไม่ใช่แฟนมึง”

เมื่อผมได้ในสิ่งที่ผมต้องการ ผมก็เดินออกมาจากห้อง เดินตัวลอยๆขึ้นไปนั่งรอพี่ปราบในรถ ไม่นานพี่ปราบก็เดินตามออกมา ผมนั่งก้มหน้าซบฝ่ามือ พี่ปราบไม่ได้ถามอะไร สตาร์ทรถแล้วขับออกจากโรงแรมม่านรูด

น้ำตาผมค่อยๆไหลช้าๆ ตามมาด้วยเสียงสะอื้นที่ผมกลั้นไม่อยู่ พี่ปราบขับรถเบี่ยงออกเลนซ้ายเพื่อจอดที่ข้างทาง แล้วตัวผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดโดยผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆผม

“พอได้แล้วนะซ่า กูขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่มึงจะร้องไห้ให้ผู้หญิงคนนั้น”

“ฮึก ฮืออ”

“ถือว่ากูขอ ทำให้กูได้ไหม”

ผมไม่ตอบ แต่พยักหน้าแทน ผมก็ไม่ชอบร้องไห้ แต่น้ำตามันไหลลงมาเอง ผมควบคุมมันไม่ได้เลย

“ดีมาก ให้มึงรู้เอาไว้เลยว่ากูไม่ชอบให้มึงร้องไห้ ไม่ชอบมากๆ”

มันจบแล้วจริงๆ ลาก่อนคนหลอกลวง


จากครั้งเราเคยมีกัน อยู่ ๆ ก็พลัน มาทิ้งกันไป
เจ็บช้ำเธอทำกันลงได้ หักอกห้ามใจไม่เคยลืมลง
เจ็บนี้มันแรงเกินตัว เรื่องราวในหัว มันตามมันเตือน
จะพร้อมจะยอมฟั่นเฟือน สติเลอะเลือน ถ้าลืมได้ลง
ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยรักใคร
ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยถูกใคร หลอกจนเสียคนอย่างนี้
ไม่อยากรู้ว่าตัวเองเป็นใคร ไม่อยากรู้ว่าเคยนอนร้องไห้
ไม่อยากรู้ว่าเคย เคยให้ชีวิตใครไป
(เพลง ฟั่นเฟือน)
[/i]



..................................................................................................
สวัสดีค่า ริริมาแล้ว ตอนนี้จำเป็นต้องอึมครึมอีกครั้ง เพื่อให้ความรักแย่ๆของซ่าได้จบลงซะที ปรบมือให้นักแสดงของเราหน่อยค่ะ แต่ละคนเต็มที่กับตอนนี้จริงๆ  :katai2-1:
ใครจะว่าก่อนหน้านี้น้องซ่าดักดานไม่ยอมเลิกก็ช่าง แหม นิยายบางเรื่องนายเองถูกพระเอกทารุณ ก็ยังไม่ยอมเลิกรักได้เลยจริงไหม ดังนั้นมันก็จะตัดใจยากนิดนึงอ่ะนะ (ไม่ได้จะว่านิยายคนอื่นนะ เพราะพล็อตที่ว่ามานั้น ริริชอบอ่านมากๆๆๆ ฮ่าๆๆ แต่ไม่ถนัดแต่งแนวตบจูบให้พระเอกทำร้ายนายเอกสักเท่าไหร่ เลยต้องหาอ่านของชาวบ้านเอา)
เอาล่ะ เนื้อเรื่องต่อจากนี้ จะดำเนินไปยังจุดโศกจุดที่สอง โศกใหญ่ โศกครั้งสุดท้ายก่อนที่พระนายเขาจะได้สวีทวี้วิวกันซะที
ฉากสุดท้ายในตอนนี้ ทำให้นึกถึงเพลงฟั่นเฟือนเลย (เพลงแก่มากกกกกก ใครทันนี่รู้เลยว่าอายุเท่าไหร่) เลยจับเพลงนี้มาใส่ในเนื้อเรื่องซะ และมันได้อารมณ์หม่นๆเทาๆดีเหลือเกิน #ชอบใจ  :z2:
ช่วงสุดท้ายของพูดคุย ก็ต้องขอขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะคะ ทำให้รู้เลยว่าทุกคนอินมากจริงๆ ฮ่าๆๆ ด่าน้องซ่าได้แต่อย่าแรง น้องซ่าคนแมนใจบางกว่าที่คุณคิด  :hao5:
เจอกันตอนหน้านะคะ  :katai2-1:
รักนะ จุ๊บๆ  :mew1:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เจ็บแต่จบ ดีแล้วซ่า ในเมื่อมีเมียมันเหี้ยมีผัวดีกว่า 55555 o13 :laugh:

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :z3: นี้เข้าใจซ่า คบหลายปี คบคนเดียว แถมยังเป็นแค่เด็กอะไรันก็ยาก

แต่เอาเหอะผ่านๆไปซักที

กลัวใจซ่าเหลือเกินนนนน

เจ้กลัวพี่ปราบเฉามากตอนนี้ เป็นพี่ชายที่แสนดีทำทุกอย่างเพื่อน้อง แต่ก็ทุกการกระทำมันก็คิดได้อีกอย่างว่า น้องจะพึ่งได้แค่พี่ปราบเท่านั้น เจ้าเลหือยูนะ  แต่ไห้อภัย


รบกวนพี่ปราบรุกน้องบ้างได้แล้ววว ป้าจะเฉาตามพี่ปราบละเนี้ยยย ฮาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เลิกกันสักที  ยืดเยื้อมานานมาก

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ยืดเยื้อลำไยมานาน เลิกสักที มันต้องเห็นเต็มตาเบอร์นี้เลยหรอ
 :ruready :ruready :ruready

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ในที่สุดก็เลิกกันซะที ผู้หญิงอย่างพลอยมีดีอะไร หึ!

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ซ่าตัดใจซะทีนะ
พี่ปราบแกจะได้รุกเต็มที่ด้วย 555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ซ่า ทำไมตัดใจยากนักนะ
หรือเพราะความที่ซ่าขาดความรัก
เลยยึดติดกับพลอย ที่รู้สึกว่าเป็นของตัวเองจริงๆ
เพื่อนๆด่าซ่าน่ะถูกต้องที่สุด  ซ่าเองก็ยอมรับด้วย

ซ่าทำตามพี่ปราบบอก คงมีแต่จะดีขึ้นแล้วนะ
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เห็นตำตาขนาดนี้ ก็คงจะตัดใจได้สักที

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตัดใจให้ได้ทีเถอะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พี่ปราบคนจริงมากกก
ดูแลปกป้องซ่าดีสุดๆ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
งงกับพลอยจริงๆ ทำตัวขนาดนี้ ทำไมถึงไม่เลิกๆกับซ่าไปซะ รั้งไว้ทำไม
ต้องขอบคุณพี่ปราบที่ทำให้มีวันนี้!!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด