ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24  (อ่าน 194527 ครั้ง)

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
ดีแล้วที่ซ่าเข้มแข็งและรู้ทัน งานนี้พี่ปราบเสียใจแน่ๆ

ออฟไลน์ about

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 254
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ใจอ่อนจนได้นะซ่า แล้วก็นะ มาเห็นพอดี พี่ปราบช้ำใจแย่

ปราบอย่าเคืองน้องนะ กลับมาดูน้องด้วย
ซ่าดูไม่ออกไม่แปลก ถึงปราบจะห่วงกว่าคนอื่น แต่ไม่มีทีท่าไง

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่21


[ซ่า]

ในตอนเช้าผมกลับขึ้นไปที่ห้อง และทำในสิ่งที่ควรทำเป็นสิ่งแรก ปลุกพลอยที่กำลังนอนหลับให้ตื่น เมื่อเช้าแล้ว ได้นอนหลับแล้ว ก็ควรกลับไปได้สักที

“ซ่า ขอนอนต่ออีกนิดไม่ได้หรือไง” พลอยทำหน้าอ้อน ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็อาจจะได้ผลอยู่หรอก แต่ใช้กับไม่ได้เวลานี้

“ไม่ได้ รีบล้างหน้าแต่งตัวแล้วกลับไปได้แล้ว”

“อย่าใจร้ายสิซ่า”

“ถ้าใจร้าย ซ่าไล่กลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เร็วๆ”

“เหอะ” พลอยกระแทกทั้งเสียงและเท้า ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ

เป็นชั่วโมงกว่าพลอยจะแต่งตัวเสร็จ ผมไม่รออะไรทั้งนั้น ลากแขนพลอยออกจากห้อง ลงไปส่งขึ้นรถที่หน้าคอนโด

“ซ่า ถ้าคืนนี้...”

“ไม่มีคืนนี้ พลอยไม่ต้องมาหาซ่าแล้ว เราเลิกกันแล้ว จบกันแล้ว ซ่าไม่คิดจะกลับไปคบกับพลอยอีก”

“เพราะว่าซ่าหันไปชอบผู้ชายแล้วใช่ไหม”

คำพูดของพลอยสะกิดความสงสัยที่มีมาตั้งแต่เมื่อคืน ที่พลอยพูดว่าผมนอนกับผู้ชายแลกเงิน ถ้าไม่ใช่เพราะจู่ๆพี่ปราบก็โผล่มา จนทำให้ผมลืมซักไซ้พลอยว่าไปเอาเรื่องไร้สาระมาจากไหน ผมคงถามให้รู้เรื่องไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมขี้เกียจจะพูดอะไรให้มากความ

“ก็แล้วแต่พลอยจะคิดแล้วกัน ถ้าคิดแล้วพลอยไม่กลับมาหาซ่าได้ก็จะดีมาก ลาเลยแล้วกัน” ผมโบกมือไปที แล้วหันหลังเดินกลับเข้าคอนโด

กลับขึ้นมาบนห้อง ผมก็เดินไปทิ้งตัวนอนลงบนเตียง จากนั้นก็หลับยาวจนถึงบ่าย

พี่ปราบเงียบหายไปเลยตั้งแต่เมื่อคืน ไม่มีทั้งข้อความทั้งสายโทรเข้า ผมกลัวว่าพี่ปราบจะโกรธที่ผมเอาคนอื่นเข้ามาในห้อง ยังไงห้องๆนั้นก็เป็นของพี่ปราบ แม้ว่าผมจะจ่ายค่าเช่าอยู่ก็ตาม

จนผมมาทำงานที่ร้านจนเกือบจะได้เวลาเลิกงาน พี่ปราบถึงได้แวะมา แต่เขาไม่ได้มาหาผม พี่ปราบหายไปคุยกับอาเจบนห้องทำงาน จนร้านปิดพี่ปราบถึงได้ลงมา

“อ้าวซ่า ยังไม่กลับเหรอ หรือว่ารอเจ้าปราบ” อาเจทักผมงงๆ ตอนนี้นอกจากผมกับพี่ผู้จัดการร้านอีกคนก็ไม่มีคนอื่นแล้ว

“อ่อ ครับ” จะว่ารอพี่ปราบก็ใช่ ทั้งๆที่พี่ปราบก็ไม่ได้บอก ไม่รู้ด้วยว่าพี่ปราบว่างพอที่จะคุยกับผมไหม

พี่ปราบมองหน้าผมก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก แค่พี่เขายิ้ม ผมก็รู้สึกโล่งใจได้หน่อย บางทีผมอาจจะคิดมากเกินไป พี่ปราบอาจจะไม่ได้ไม่พอใจผมก็ได้ เป็นผมที่คิดมากไปเอง

“งั้นอากลับก่อนนะ บอกป๊าเราด้วยว่าเรื่องงานเดี๋ยวอาจัดการให้” อาเจหันไปคุยกับพี่ปราบ ก่อนจะพูดลากลับบ้านกับผม “อาไปแล้วนะซ่า พักผ่อนเยอะๆ พรุ่งนี้อาให้หยุดนะ ไม่ต้องมาทำงาน ไปเที่ยวกับปราบก็ได้ พักผ่อนกันสักหน่อยจะได้มีแรง”

ผมไม่ทันได้ตอบรับเรื่องหยุดงานไปพักผ่อนอะไรนั่น อาเจก็โบกมือบ๊ายบายแล้วเดินออกไป พี่ปราบหันมายักคิ้วให้ผมทีนึง

“ไง รอกูมีอะไรหรือเปล่า” คำถามที่ถามผมแบบนี้โคตรไม่ใช่พี่ปราบเลย แต่มันก็ทำให้ผมรู้ว่าพี่ปราบไม่พอใจผมชัวร์ รอยยิ้มเมื่อตะกี้นี้เป็นผมคิดเข้าข้างตัวเองไปเอง

“กลับไปคุยที่ห้องได้ไหม ผมพี่เรื่องจะคุยกับพี่อ่ะ” คืออาเจเขาปิดร้านแล้ว ผมกับพี่ปราบก็ควรจะรีบออกจากร้าน

“วันนี้กูจะไปนอนคอนโดกูนะ คอนโดที่กูอยู่” พี่ปราบบอก นั่นหมายความว่าเขาจะไม่ไปที่คอนโดที่ผมอยู่ และถ้าผมอยากจะคุยกับเขา ก็ต้องตามเขาไปนั่นแหละ ทำไมผมรู้สึกว่าพี่ปราบกำลังงอนผมอยู่เลยวะ อย่าบอกนะว่าพี่ปราบชอบผมอย่างที่ไอ้หวายบอกจริงๆ

ไม่อ่ะ เป็นไปไม่ได้

“งั้นผมไปนอนที่คอนโดพี่ก็ได้ ผมว่าห้องพี่ต้องมีเหล้าไม่ก็เบียร์แน่ๆ ดีเลยผมยิ่งอยากๆอยู่” ผมยักคิ้วคืนให้พี่ปราบ ก่อนจะเดินตามพี่ปราบไปขึ้นรถ มุ่งหน้าไปคอนโดสุดหรูที่ผมไม่ได้มานานแล้วเหมือนกัน ก็ตั้งแต่ผมเช่าคอนโดห้องเล็กของพี่ปราบ ผมก็ไม่เคยมาที่นี่เลย จะมีแต่พี่ปราบที่แวะไปหาผมที่ห้องแล้วนอนค้างอาทิตย์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น

พี่ปราบขับรถยิงตรงรวดเดียวถึงคอนโด ระหว่างทางพี่ปราบเงียบไม่พูดไม่จา นับเป็นครั้งแรกเลยมั้งที่นั่งในรถพี่ปราบแล้วเงียบขนาดนี้ แม้แต่เพลงก็ไม่เปิด

เข้ามาในห้องของพี่ปราบ เจ้าของห้องก็เดินไปกินน้ำ ผมมองสำรวจห้องอย่างที่ชอบทำ ตู้เก็บเหล้าตรงนั้นผมชอบเดินไปดู แต่ไม่เคยได้สัมผัสเลยเพราะพี่ปราบเขาหวง ห้องพี่ปราบก็ยังเหมือนเดิม สะอาดเรียบร้อย ไม่รกเละเทะเหมือนห้องที่ผมอยู่

“นั่งลงสิ ไหนว่ามีเรื่องจะคุยกับกูไง” พี่ปราบวางกระป๋องเบียร์ตรงโต๊ะหน้าโซฟาทั้งหมดสี่กระป๋อง ผมรีบนั่งลงแล้วหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่ม

เบียร์นอกนี่มันรสชาตินุ่มลิ้นดีจริงๆ

หลังจากที่ได้แอลกอฮอล์เข้าร่างกายแล้วพอสมควร ผมก็กล้าที่จะพูดในสิ่งที่อยากพูดกับพี่ปราบ แม้ว่าผมจะไม่กล้าสบตาพี่ปราบก็ตาม

“เมื่อคืน ผมขอโทษนะพี่” พูดขอโทษจบ ผมก็กระดกเบียร์อีกอึกนึง เขาว่าคนเราจะกล้าขึ้นเมื่อเมามาย

“ขอโทษเรื่องอะไร” ทั้งๆที่รู้ แต่พี่ปราบกลับยังถาม เพราะเขารู้ว่าผมไม่ชอบพูดหรืออธิบายอะไร แต่ถ้าอยู่กับพี่ปราบ ผมไม่เคยได้ปิดปากเงียบ อย่างน้อยก็ต้องมีสักครั้งสองครั้งในห้าครั้งที่ต้องเปิดปาก

“เรื่องที่พลอยมานอนที่ห้อง” แต่ผมก็ทำได้เท่าที่ผมทำได้

เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ผมก้มหน้า เลยไม่รู้ว่าพี่ปราบจ้องหน้าผมอยู่ จนกระทั่งผมรู้สึกว่ามันนานเกินไป เลยเงยหน้าขึ้นมอง ความรู้สึกบางอย่างถูกสื่อผ่านแววตาคมส่งตรงมาให้ผม ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันทำให้หัวใจผมหวิวและสั่นแบบแปลกๆ

“ไหนเล่าให้กูฟังสิว่าเรื่องมันเป็นมายังไง”

“พลอยมาหาผมที่ทำงาน เมื่อคืนครั้งที่สอง พลอยถูกทำร้ายมาและไม่มีที่ไป เลยขอมาพักกับผมคืนหนึ่ง ผมไม่ได้อยากให้อยู่หรอก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง” ผมเล่าเรื่องไม่เก่งนัก เท่าที่พอเรียบเรียงได้ก็มีเท่านี้ แต่พี่ปราบขมวดคิ้วคล้ายไม่พอใจ ก่อนที่คิ้วเข้มจะคลายตัวออก พี่ปราบยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มจนหมด แล้วถอนหายใจ

“มึงยังรักเขาอยู่?”

รักเหรอ

บอกไม่ถูกว่ายังรักไหม แต่ผมยังไม่เคยลืมว่าผมกับพลอยเคยคบกัน และก็เคยมีช่วงเวลาดีๆด้วยกัน

แต่มันจบไปแล้ว ต่อให้รักผมก็ไม่อยากรื้อฟื้น

“ผมแค่สงสาร”

ยังไงก็เคยรักกันมาก่อน

“ให้กูเดานะ ถ้ากลับมาหามึงได้ และยิ่งถูกทำร้ายมา ก็แสดงว่าเขาต้องการกลับมาคบกับมึง”

พี่ปราบเป็นคนเก่งที่ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ดี

“ทำไมพี่เดาเก่ง” ผมหัวเราะ แต่ใจไม่ได้ขำตาม

ถ้ายังรักอยู่แล้วยังไง ผมไม่เคยลืมคนที่เคยหักหลัง คนที่เคยทำให้ผมเจ็บเพราะไว้ใจมากเกินไป

“แต่ผมไม่กลับไปหรอก เข็ดแล้ว” ผมยิ้มเยาะตัวเอง

“แน่ใจว่าจะไม่กลับไป”

“แน่ใจดิพี่ ถึงผมจะโง่นะ แต่ผมไม่คิดจะกลับไปหาคนที่หักหลังผมหรอก”

ไม่มีทาง

“งั้นก็อย่าไปให้ความหวังเขา กูเข้าใจว่าคนที่เคยรักเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือ จะตัดใจไม่ช่วยเลยก็ไม่ได้ แต่ต้องดูด้วยว่าเขาหวังอะไรไหม ถ้าเขาไม่หวังจะกลับมาคบกับมึง มันก็ดี แต่ถ้าเขาหวัง เชื่อเถอะเขาต้องว่าที่มึงช่วยเหลือเป็นเพราะมึงยังรักเขาอยู่ กูชอบที่มึงยังเป็นเด็กมีน้ำใจนะ ยังไงก็ผู้หญิง ดึกดื่นแบบนั้นก็คงปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ แต่ก็ต้องแสดงให้ชัดเจนว่ามึงไม่คิดจะกลับไปคบกับเขาแล้ว ถ้ามึงอย่าตัดเขาออกจากชีวิตจริงๆ”

ผมคิดว่าผมชัดเจนพอแล้วกับสิ่งที่แสดงต่อพลอยเมื่อคืน ไม่สนหรอกว่าพลอยจะเชื่อไหม ผมไม่กลับไปซะอย่าง พลอยก็ทำอะไรผมไม่ได้

“อีกอย่างกูไม่ชอบด้วยที่มึงพาใครไปที่ห้องแบบนั้น กูหวง” และแล้วพี่ปราบก็พูดออกมาว่าเขาไม่ชอบให้ใครไม่ยุ่มย่ามที่ห้อง

“ผมขอโทษพี่ ผมก็คิดแหละว่าพี่หวงห้องอ่ะ คราวหลังผมไม่พาใครมาแล้ว แต่พวกไอ้หวายมาได้ใช่ไหมพี่”

“เออ แล้วก็นะ...กูไม่ได้หวงห้องอย่างที่มึงคิด”

“อ้าว” งงเลย ถ้าไม่ได้หวงห้องแล้วหวงอะไร ทำไมถึงห้ามไม่ให้คนอื่นมาที่ห้อง คงไม่ใช่ว่าหวง...

หรือผมควรจะถามออกไปเลยดี เรื่องที่สงสัย

ผมยังมีสิทธิ์ในการถามเรื่องที่อยากถามได้วันละข้อ แล้วผมควรจะถามว่าอะไรดี ถามว่าพี่ปราบชอบผู้ชายเหรอ หรือพี่ปราบชอบผมหรือเปล่า พี่ปราบเป็นเกย์ ไม่สิ ไอ้หวายบอกพี่ปราบเป็นเสือไบ คือได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจริงหรือมั่ว คิดไปคิดมาแล้ว ผมว่าถามคำถามง่ายๆก่อนแล้วกัน

ถ้าให้ถามว่าพี่ปราบชอบผมไหม ผมว่าผมไม่พร้อมจะฟังคำตอบ

ดีไม่ดีเกิดไม่ใช่ขึ้นมา พี่ปราบคงคิดว่าผมเพ้อเจ้อแล้วคิดว่าผมแม่งโคตรหลงตัวเอง

“เป็นอะไร นั่งเงียบไปเลย” พี่ปราบทักถามผมที่กำลังเรียบเรียงประโยคคำถาม

“พี่ปราบ วันนี้ผมขอใช้สิทธิ์ถามคำถามพี่หนึ่งข้อ”

“เอาสิ เดี๋ยวกูไปหยิบเบียร์มาเพิ่มก่อน จะเอาด้วยไหม” พี่ปราบลุกขึ้น รวบหยิบกระป๋องเปล่าไว้ในมือเพื่อเอาไปทิ้ง

“จัดมาสิพี่ ไม่ต้องถามหรอก” ของชอบผมอยู่แล้ว กินแทนข้าวยังได้เลย

พี่ปราบเดินหายไปในโซนครัว ก่อนจะกลับมาพร้อมกับเบียร์สองกระป๋อง พอเว้นช่วงผมก็เริ่มป๊อดที่จะถามเรื่องนั้น เลยตัดสินใจดื่มเบียร์ย้อมใจไปอีกครึ่งกระป๋องรวด

“อ่ะ มีอะไรจะถามก็ถามมา” พี่ปราบดูพร้อมตอบ แต่ผมกลับไม่พร้อมที่จะถาม แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถามๆไป เรื่องที่สงสัยจะได้รู้ความจริงสักที

“พี่ปราบ...” พี่ปราบอะไรดีวะ

“หืม อะไรของมึง อ้ำๆอึ้งๆ จะพูดอะไรก็พูด”

กูแม่ง เอาวะ ถามก็ถาม

“พี่ปราบเป็นไบแบบได้ทั้งชายและหญิงเหรอพี่”

ถามออกไปแล้ว พี่ปราบดูจะไม่ตกใจกับคำถามของผม เขาแค่นั่งจ้องหน้าผม สีหน้าเรียบเฉยเหมือนผมถามเรื่องดินฟ้าอากาศ

“เอ่อ คือไอ้หวายมันบอกอ่ะ” ผมพูดต่อ

“เออ กูเป็นไบ ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง”

“พี่ชอบผู้ชายเหรอ” ถึงจะคิดว่ามันน่าจะเป็นไปได้ เพราะไอ้หวายน่าจะรู้จักพี่เขาดีกว่าผม และเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดกันเล่นๆ แต่พอได้ฟังความจริงจากปากพี่ปราบเองแล้ว ก็อึ้งไปเหมือนกัน

คนอย่างพี่ปราบแม่งโคตรเพอร์เฟคเลยไง แมนด้วย ไม่ได้เหมือนไอ้มิว หรือตุ๊ดเด็กแถวบ้าน แถมบางครั้งพี่ปราบก็มองผู้หญิงสวยๆหน้าอกใหญ่ๆด้วย ถ้าไม่บอกผมก็ไม่คิดว่าแกจะชอบผู้ชาย

“ทำไม ตกใจเลยหรือไงมึง”

“ตกใจดิพี่ พี่ชอบผู้ชายจริงๆอ่ะนะ” ขออีกสักที แบบกระจ่างแจ้งกันไปเลย

“เออ กูชอบผู้ชาย ผู้หญิงกูก็ชอบ กูได้หมดถ้าถูกใจ กูไม่รู้หรอกว่าคนอื่นมองยังไง แต่การที่คนสองคนจะอยู่ด้วยกัน รักกัน มันไม่จำกัดหรอกว่าเพศไหน มันขึ้นอยู่ที่ว่าพวกมึงเข้ากันได้หรือเปล่า เข้าใจกันหรือเปล่า มึงคิดว่ารักคืออะไร สำหรับกูรักก็คือรัก รักคือความเข้าใจและการยอมรับ”

“ผม...ไม่รู้”

ผมไม่เคยคิดสนใจผู้ชาย และผมไม่ได้สนใจผู้หญิงเยอะขนาดนั้น ตั้งแต่โตมาผมมีแฟนแค่สองคน คนแรกก็ตอนเด็กมากๆ กับพลอยที่คบตั้งแต่ผมเรียนมัธยมต้นแล้ว และที่คบกับพลอยก็ไม่ใช่เรื่องหน้าตาหรืออะไร เพราะตอนนั้นพลอยเข้าใจผมมากที่สุด เข้าใจว่าผมเป็นคนยังไง ผมมีปัญหาอะไร ครอบครัวเป็นยังไง มีพลอยคนเดียวที่เข้าใจ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว คนที่เข้าใจผมคนเดียวตอนนี้คงเป็นพี่ปราบ

ความรักของผม บางทีก็อาจจะเหมือนกับพี่ปราบนั่นแหละ

“ถ้ามีคนที่เข้าใจมึงมากๆ ดีกับมึงทุกอย่าง รับที่มึงเป็นมึงแบบนี้ และรักมึงที่เป็นผู้ชาย แต่คนๆนั้นก็เป็นผู้ชายเหมือนกับมึง มึงก็จะปฏิเสธเขาอย่างนั้นหรือไง”

“ผม...ผมไม่เคยคิดจะคบกับผู้ชาย”

คำถามนี้ยากเกินไปที่ผมจะตอบ

“งั้นวันนี้กูขอถามมึงบ้าง มึงรังเกียจไหมที่กูเป็นแบบนี้”

ผมรีบส่ายหัวทันที “ผมไม่มีทางรังเกียจพี่หรอกน่า ไอ้มิว พี่ปราบจำได้ใช่ไหม มันก็เป็นเกย์เหมือนกัน”

สุดท้ายจะเพศไหนก็คนอยู่ดี

“งั้นก็ดีที่มึงไม่รังเกียจกู กูง่วงแล้ว แยกกันอาบน้ำแล้วกัน”

“ครับ”

ผมแอบมีเสื้อผ้าใส่นอนไว้ที่ห้องพี่ปราบ แค่เข้าไปหยิบในลิ้นชักที่พี่ปราบยกให้ผมทั้งชั้น แล้วมาอาบน้ำข้างนอก ผมอาบเสร็จแล้ว พี่ปราบยังอาบไม่เสร็จเลย ผมก็เลยชิงนอนก่อน แต่ว่าวันนี้ผมเลือกที่จะนอนที่โซฟาข้างนอก ทุกที่ครั้งก่อนๆผมจะนอนในห้องนอนของพี่ปราบ แต่ผมคิดว่าวันนี้ นอนข้างนอกคงดีกว่า

ผมไม่ได้รังเกียจ เพียงแต่ว่า ถ้าพี่ปราบคิดอะไรกับผมจริงๆ ซึ่งผมยังไม่กล้าถาม ก็เลยคิดว่าถ้ามันยังคลุมเครืออยู่แบบนี้ ผมขอนอนแยกดีกว่า

“ซ่า ทำไมไม่เข้าไปนอนในห้อง”

ผมสะดุ้งตื่นเมื่อถูกเจ้าของห้องเรียก งัวเงียลืมตามองก็เจอพี่ปราบยืนกอดอกค้ำหัวอยู่

“ไม่เป็นไรพี่ ผมนอนโซฟาได้” ผมบอก พร้อมที่จะปิดตาลงอีกรอบ

“สรุปคือมึงรังเกียจกู” พี่ปราบถามเสียงกดต่ำ ดูเหมือนแกจะเริ่มไม่พอใจ

“เปล่าพี่ ดึกแล้ว พี่ไปนอนเถอะ”

“...”

“ผมไม่ได้รังเกียจจริงๆนะ”

“มึงแน่ใจว่าไม่รังเกียจ”

“ผมแน่ใจ”

แต่ผมไม่พร้อมที่จะเข้าไปนอนกับผู้ชายที่อาจจะคิดแบบนั้นกับผม

“งั้นก็แล้วแต่มึง” พี่ปราบเดินกลับเข้าไปในห้อง ก่อนจะออกมาอีกรอบ พร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ พร้อมกับปรับอุณหภูมิแอร์ให้ผมเสร็จสรรพ ก่อนเข้าห้องนอนก็บอกฝันดี

คนที่เป็นแค่พี่น้องกัน เขาทำแบบนี้กันจริงๆเหรอวะ

ผมรู้ตัวว่าผมกำลังปิดหูปิดตาตัวเอง แต่ผมแค่ไม่อยากรับรู้ กลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ปราบจะเปลี่ยนไป






แต่ถึงผมจะปิดหูปิดตาตัวเองยังไง เพื่อไม่ต้องรับรู้ความรู้สึกของพี่ปราบ แต่คนอื่นเขาไม่ได้มองผ่านเหมือนผม ผมพยายามที่จะไม่สนใจเวลาที่พี่ปราบมาหาผมก่อนเลิกงานทุกๆวัน แล้วพี่ๆในร้านก็จะสะกิดกันแล้วก็แอบกระซิบ

แรกๆผมก็ไม่รู้ คิดว่าพวกเขาก็คงจับกลุ่มคุยกันไปเรื่อย แต่ถามว่ารู้สึกแปลกไหม มันก็แปลกแหละ บางครั้งก็ถูกแซวว่าผมเป็นเด็กพี่ปราบ อย่าแกล้งผมมาก เดี๋ยวพี่ปราบมาจัดการ ผมก็คิดว่าพวกเขาพูดเล่นๆไง แต่ครั้งนี้ที่มาได้ยินกับหูมันเริ่มจะไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆแล้ว

“เอาจริงๆเฮียปราบคือโคตรหล่อ โคตรดูดี ถึงพัชมันจะนิสัยดี แต่ดูยังไงก็ไม่เข้ากัน”

“เออ นั่นดิ ที่จริงถ้าเฮียปราบแกชอบผู้ชายนะ ก็หาได้ดีกว่านี้หรือเปล่า”

“พวกแกก็พูดกันไป ไอ้พัชมันก็มีดีของมันแหละมั้ง ไม่งั้นเป็นเด็กพี่ปราบไม่ได้หรอก ดีไม่ดี ลีลาบนเตียงมันอาจจะดีก็ได้นะเว้ย”

“เออ อาจจะจริง หรือไม่เฮียแกก็อาจจะไม่ได้จริงจัง คนระดับเฮียปราบนะ ต้องคบกับคนรวยๆมีการศึกษามากกว่านี้อยู่แล้วแหละ”

“นั่นดิ แกคงอาจเล่นๆกับพัชก็ได้”

“แต่ถ้าคบเล่นๆ ก็น่าจะหาได้ดีกว่านี้ไหม”

“พี่ปราบกับพัชให้อารมณ์ดอกฟ้ากับหมาวัดเลย ว่าไหมแก ฮ่าๆๆ”

ผมก็รู้นะ ว่าไม่มีใครไม่เคยถูกนินทา แม้แต่พระพุทธเจ้ายังถูกนินทาเลย และที่ผ่านมาชีวิตผมถูกด่าทั้งต่อหน้าและลับหลังมาเยอะ แต่ผมไม่เคยสนใจ ถ้าไม่ไหวมากๆก็ต่อยปากแม่งแค่นั้นจบ จะได้หยุดเห่า แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน

สุดท้ายคนอย่างผมก็ลากพี่ปราบให้มาสกปรกด้วย ที่พี่ปราบถูกมองไม่ดีก็เพราะมารู้จักกับคนอย่างผม
 
ใครจะมองผมเสียหายๆยังไงก็ได้ ไม่สนใจอยู่แล้ว ถ้าพวกเขาไม่ใช่คนที่ให้ผมกิน แต่ผมยอมไม่ได้ที่จะมีคนว่าพี่ปราบแบบนั้น

และวิธีแก้ปัญหาที่คนโง่อย่างผมคิดได้อย่างเดียวก็คือ ผมต้องอยู่ให้ห่างพี่ปราบเข้าไว้ พี่ปราบจะได้ไม่ต้องมาแปดเปื้อนเพราะผม

แต่มันไม่ง่ายหรอก เพราะพี่ปราบก็คือพี่ปราบ

ผมคิดว่าวันนี้พี่ปราบจะไม่มา แต่พอเลิกงานก็เจอพี่ปราบนั่งรออยู่บนรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ที่โคตรสวย สวยมากๆ สวยเหี้ยๆ ถ้ารถคันนี้เป็นผู้หญิง ผมว่าผมเจอเนื้อคู่อ่ะบอกเลย

“ไงมึง เห็นรถใหม่กูแล้วตะลึงไปเลย” พี่ปราบทักขำๆ ผมละสายตาจากรถมองเจ้าของที่กำลังยิ้มหล่อมีความสุข

“สวยวะพี่ คิดไงหันมาขี่มอเตอร์ไซค์” ผมถามอย่างอยากรู้ ถึงแม้ว่ารถมอเตอร์ไซค์ของพี่ปราบจะเป็นมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ ไม่ใช่เวฟร้อยยี่สิบห้าเหมือนของผมก็ตาม และท่าทางว่าจะแพงมากด้วย สีดำมันเงาไปทั้งคัน ดูดุดันโคตรเท่

“ที่จริงกูชอบรถทุกประเภท พี่ริชเปิดอู่ซ่อมรถ กูเห็นและซึมซับมาแต่เด็ก เจอรุ่นนี้ถูกใจก็เลยซื้อ”

ผมเดินไปดูรอบๆตัวรถ พลางลูบคลำเล็กน้อยด้วยความชอบใจ ชาตินี้ผมจะมีปัญญามีรถมอเตอร์ไซค์สวยๆแบบนี้ไหมวะ ถ้าไม่ติดว่าผมอยากเว้นระยะห่างกับพี่ปราบ ผมคงขอพี่เขาลองขี่ดูแล้ว

“ป่ะ กลับคอนโดมึงกัน กูเพิ่งได้รถมาวันนี้ เลยพามาให้มึงซ้อนเป็นคนแรกเลยนะ” พี่ปราบก้าวขายาวๆคร่อมรถ

สิ่งที่เคยทำอยู่บ่อยๆ แต่วันนี้ผมกลับรู้สึกตะขิดตะขวงแปลกๆ ที่จะต้องนั่งรถกลับไปกลับพี่ปราบ กลับไปที่คอนโดผม และมองจากกระเป๋าเป้ข้างหลังพี่ปราบแล้ว คืนนี้พี่เขาจะต้องนอนค้างที่ห้องผมแน่

“ไม่เป็นไรพี่ ผมนั่งรถไฟฟ้ากลับเองได้ พี่กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ” ผมปฏิเสธ อีกอย่าง ถ้าจะให้ผมขึ้นไปซ้อนพี่ปราบ มันคงไม่เหมาะ ถึงรถมอเตอร์ไซค์จะคันใหญ่ แต่ที่นั่งมันเล็กนิดเดียว และส่วนมากรถแบบนี้คนซ้อนมักเป็นผู้หญิง เพราะเบาะรถจะเทไปข้างหน้า ถ้าไม่มีใครสงสัยว่าพี่ปราบอาจจะคิดเกินเลยกับผม ผมก็คงไม่ต้องมาคิดอะไรวุ่นวายแบบนี้

ผมหันกลับไปมองในร้าน ก็เห็นพนักงานที่ยังไม่กลับมองจ้องมาทางผมกลับพี่ปราบ คำนินทาเมื่อตอนเย็นก็แวบกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง

‘ที่จริงถ้าเฮียปราบแกชอบผู้ชายนะ ก็หาได้ดีกว่านี้หรือเปล่าวะ’
‘พี่ปราบกับพัชที่ให้อารมณ์ดอกฟ้ากับหมาวัดเลยวะ’

คิดแล้วแม่งโคตรแย่ แย่ของคำว่าแย่คือแย่เหี้ยๆ

“ขึ้นมารถมาเร็วๆซ่า วันนี้กูเหนื่อย อยากรีบกลับไปอาบน้ำพักผ่อน” พี่ปราบเร่ง มือก็ยุ่งกับการใส่หมวกกันน็อคสีดำสีเดียวกับรถ

“ไม่เอาอ่ะพี่ วันนี้ผมอยากนอนคนเดียว ผมกลับเองได้” ผมทำเป็นเดินเลี่ยงๆออกมาให้ห่างจากตัวรถ

“อะไรของมึงเนี่ย กูบอกอยู่ว่าจะไปนอนด้วย ขึ้นมาเร็ว จะได้รีบไป”

“ไม่งั้นเราแยกกันไปก็ได้ เจอกันที่คอนโดเลย” ผมพยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติ แต่การที่ผมไม่ยอมไปกับเขานั่นแหละโคตรผิดปกติ พี่ปราบถึงไม่ยอมให้ผมเลี่ยง

“มึงมีปัญหาอะไรซ่า ไหนบอกกูดิ มึงก็ชอบมอเตอร์ไซค์ไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่อยากซ้อน”

“รถพี่คันใหญ่ ผมไม่ขึ้นไปซ้อนหรอก รถแบบนี้คนซ้อนข้างหลังมันต้องผู้หญิงดิ”

ผมพูดตามที่คิดก็ส่วนหนึ่ง ใครจะไปกล้านั่งซ้อน  อีกส่วนคือ คนในร้านยังมองมาอีก ถ้าผมขึ้นไปซ้อนท้ายรถพี่ปราบ มันจะต้องมีเรื่องเสียๆหายๆระหว่างผมกับพี่ปราบออกมาอีกแน่ ถึงผมจะไม่สนใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะชอบ ยิ่งไม่อยากให้พี่ปราบต้องถูกพูดถึงแบบเสียๆหายๆอีกด้วย

“เอาตรรกะอะไรคิด ประสาทนะมึง ขึ้นมาเร็วๆ กูร้อน”

“ไม่เอา พี่ไปเถอะ”

“อย่าเรื่องมากได้ไหม”

“ก็ผมไม่ชอบ มันเหมือนผู้หญิงถ้าขึ้นไปนั่ง”

“เชื่อกูเถอะ ถ้ามึงขึ้นมานั่งไม่มีใครว่ามึงเป็นผู้หญิงหรอก สูงก้างซะขนาดนี้ ใครมองเป็นผู้หญิงกูว่าตาบอดอ่ะ ไอ้เด็กนี่ คิดได้ว่าตัวเองจะเหมือนผู้หญิง อย่างไอ้หวายกูจะไม่ว่าเลย สรุปจะขึ้นไหม”

คราวนี้พี่ปราบแม่งไม่เข้าใจผมเลย

“ผมไม่ชอบอ่ะพี่”

ไม่ชอบที่มีคนบอกว่าผมขายตัวนอนกับผู้ชาย

ไม่ชอบที่ทุกคนบอกว่าผมกับพี่ปราบมีอะไรกัน

ไม่ชอบที่ผมทำให้พี่ปราบต้องลดตัวลงมาเกลือกกลั้วด้วย

ถ้าพี่ปราบชอบผมจริงๆ แล้วทุกอย่างระหว่างผมกับเขามันจะเปลี่ยนไป

ผมไม่ชอบที่สุด

“มึงลองหรือยังถึงบอกว่าไม่ชอบน่ะ มึงลองก่อนดิ ลองขึ้นมา มึงอาจจะชอบก็ได้”

“ถึงลองผมก็ไม่ชอบ”

ทั้งการซ้อนท้ายรถในสถานะการณ์ตอนนี้ และคบกับผู้ชายด้วยกัน

“ก็ลองก่อนดิ มึงอาจจะชอบก็ได้”

“พี่ให้ผมขี่แล้วพี่ซ้อนไหมล่ะปราบ” ผมแกล้งพูดไปอย่างนั้นแหละ ถึงจะอยากขี่ แต่คิดว่าไม่ดีกว่า

“ไม่ได้ นี่รถกู กูขี่ได้คนเดียว เว้นแต่ว่า...” พี่ปราบเว้นช่วง

“อะไร” ผมก็ถามกลับและรอฟังอย่างลืมตัว

“คนที่จะขี่ได้นอกจากกูต้องเป็นเมียกูเท่านั้น”

“...!”

“เอาไหมล่ะ กูจะได้ให้ขี่”

“เหี้ย” ผมหลุดปากอุทานอย่างไม่ตั้งใจ พี่ปราบไม่ได้โกรธ เขาแค่หัวเราะแล้วส่ายหัวเท่านั้น

“เอ้า ด่ากูซะงั้น เร็วๆ อย่าต้องให้ลงจากรถไปลาก ไม่งั้นมึงได้อายยิ่งกว่าซ้อนมอไซต์กูร้อยเท่า”

สุดท้ายผมก็กลับมาที่คอนโดด้วยการซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่ปราบ ตลอดทางผมนั่งเกร็งเอนตัวไปข้างหลัง มือทั้งสองข้างจับที่ตัวจับด้านหลังไว้แน่น ซึ่งถ้าเป็นผู้หญิงซ้อนก็จะต้องนั่งกอดเอวคนขี่แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า เพราะทรงของเบาะที่ลาดเอียงไปข้างหน้าบังคับ

มาถึงห้องพี่ปราบก็ออกไปคุยโทรศัพท์ที่ระเบียง ผมก็เลยเข้าไปอาบน้ำก่อนที่พี่ปราบจะใช้ต่อ

แต่งตัวเตรียมจะนอน ผมก็ยืนมองไปที่เตียง ผมคงจะไม่ต้องคิดอะไรมาก กระโดดขึ้นเตียงนอน แล้วปล่อยให้พี่ปราบตามมานอนบนเตียงกับผมทีหลัง แต่นั่นมันก่อนที่ผมจะรู้ความจริงบางอย่าง

ดังนั้น คืนนี้ผมก็เลยตัดสินใจขนหมอนกับผ้าห่มมานอนบนโซฟาตัวใหญ่ ถึงจะรู้ว่ายังไงพี่ปราบก็ต้องถามว่าทำไมผมถึงไม่นอนบนเตียง แต่จะให้ปล่อยผ่านแล้วปล่อยให้เป็นแบบเมื่อก่อนมันก็ไม่ใช่

พอพี่ปราบออกมา เขามองผมที่นอนเล่นเกมในโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ จนกระทั่งแต่งตัวเรียบร้อย ปิดไฟเตรียมเข้านอน เสียงพี่ปราบก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“อึดอัดใช่ไหม ที่รู้ว่ากูชอบผู้ชาย” เพราะไม่มีแสงไฟ ผมจึงไม่รู้ว่าพี่ปราบทำหน้ายังไง แต่เสียงของเขาค่อนข้างเบาหวิว

“เปล่าครับ” แต่ผมเลือกที่จะโกหก แม้จะรู้ว่าพี่ปราบไม่มีทางเชื่อ

“คืนนี้อยากจะใช้สิทธิ์ในการถามคำถามกูไหม” พี่ปราบเสนอขึ้นมา

ผมเองก็อยากถาม แต่ก็กลัวคำตอบ แต่ผมเองก็ไม่อยากอยู่อย่างอึดอัดอีกต่อไป

“พี่ปราบชอบผมหรือเปล่า”

“...” พี่ปราบเงียบ แต่ดูไม่ได้ตกใจ ไม่มีคำปฏิเสธว่าที่ผมพูดไม่เป็นความจริง ความเงียบกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดที่สุดในเวลานี้

“พี่ปราบ ไอ้หวายบอกผมว่า พี่อาจจะชอบผม แบบ...เป็นคนรัก ไอ้หวายมันโกหกผมใช่ไหมพี่” ตอนที่ถาม ผมกำลังคาดหวังให้คำตอบมันออกมาว่า พี่ปราบไม่ได้ชอบผม ไอ้หวายมันคิดไปเอง แต่คำตอบที่ได้ เขย่าสมองผมจนมึนงงไปหมด

“ไม่หรอก ไอ้หวายไม่ได้โกหก แต่กูชอบมึงจริงๆ ชอบมึงแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักชอบใครอีกคนหนึ่งได้”

ผมเพิ่งรู้สึกว่า สิทธิ์ถามคำถามได้หนึ่งข้อ มีข้อเสียก็ตรงที่ว่า คำตอบจะต้องเป็นความจริง ห้ามโกหกเด็ดขาด

ความรู้สึกของพี่ปราบ ก็เป็นเรื่องจริงที่ผมหลีกหนีไม่ได้

“กูขอถามมึงบ้างนะซ่า”

“...”

“มึงรังเกียจกูมากไหม”

ไม่...ผมไม่เคยรังเกียจ แต่เพราะผมก็คือผม และผมกับพี่ปราบ มันไม่มีทางเป็นไปได้

“ไม่ครับ แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้นกับพี่”

อย่าลดตัวลงมารักคนอย่างผมเลย ผมมันไม่คู่ควรหรอก




....................................................................................
ให้เวลาน้องมันหน่อยนะพี่ปราบ เด็กมันไม่เคย ถึงจะรู้สึกดียังไง มันก็ปฏิเสธไว้ก่อน ต้องกลัวต้องคิดมากเป็นธรรมดา จะเปลี่ยนชายแท้ให้มารักกับผู้ชายด้วยกัน ก็ต้องใช้เวลานิดนึง  :katai2-1:
เอาล่ะค่ะท่านผู้ชม อีกไม่นานแล้วจริงๆที่สองคนนี้จะรักกัน แต่ก็จะรักกันได้ ก็ต้องผ่านคลื่นดราม่าไปอีกลูกก่อนนะ  ว่าแต่จะเอาคลื่นลูกใหญ่หรือลูกเล็กดี 5555555  :laugh:
มาเอาใจช่วยให้น้องซ่าและพี่ปราบกันค่า
ใครที่แวะกลับมาอ่าน ทั้งคนเก่าคนใหม่ ริริขอบคุณมากนะ โดยเฉพาะคนที่เม้นให้ รักที่สุดเลย :m3: มีกำลังใจไปปั่นต่อได้อีกเยอะ
แล้วเจอกันใหม่ในตอนหน้าค่ะ ดีไม่ดีอาจมาถึงสองตอนเลยนะเธอ หึหึ :laugh3:
วันนี้จบไว้แค่นี้ค่ะ บ๊ายบายย :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-01-2018 20:24:59 โดย RiRi »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เอาใจช่วยทั้งคู่  :mew2:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หน่วง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ปราบ ซ่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ซ่า ทำเพื่อห่างปราบ
เพราะแคร์ลมปากคน
โดยบอกตัวเองว่าไม่อยากทำให้ปราบดูต่ำลงเพราะคบกับซ่า
กับเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ชอบผู้ชาย
ซ่า ไม่คิดว่าปราบจะเจ็บ ทุกข์ในใจ ช้ำใจที่เห็นซ่าทำเหมือนรังเกียจ
ปากก็ว่าไม่รังเกียจ แต่การกระทำมันใช่

แล้วถ้าเป็นปราบห่างซ่าซะเอง
คราวนี้ซ่าจะรู้สึกไหมนะ ว่ามันทุกข์ทรมานแค่ไหน
ซ่า ย้อนคิดไปว่ารักพลอยเพราะพลอยเข้าใจซ่า
ก็ตอนนี้ซ่า มีพี่ปราบเข้าใจซ่าคนเดียวนะ
รอซ่ารู้ตัว เข้าใจตัวเอง
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ห่างกันสักพักให้เห็นข้อเปรียบเทียบและขอตัวกระตุ้นชั้นดีทางฝั่งพี่ปราบจะดีมากนะจ๊ะ บอกซ่าไปเลยปราบโอเคแค่พี่น้องกัน หึๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ้าวซ่าผ่านเรื่องมาม่ามาตั้งเยอะจะมาใจเซาะเรื่องพี่ปราบเนี่ยะนะ
ปวดใจแทนพี่ปราบจริงๆ จะสู้รึจะถอยกันละทีนี้ :ling3:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปัญหาตอนนี้คือ ซ่ายังไม่รักปราบใช่ปะ แล้วเมื่อไหร่ถึงจะรักหว่า แล้วพลอยจะก่อปัญหาให้กับซ่าอีกต่อไปไหมเนี่ย  :katai1:

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เอาคลื่นลูกเล็กพอค่ะ ใจไม่แข็งแรงพอต่อดราม่า 555555
สงสารน้องซ่าาา น้องยังดูสับสนอะ ยิ่งมาเจอคนอื่นพูดอีก พี่ปราบอย่าพึ่งทิ้งน้องนะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
มันก็จะลำบากๆหน่อยนะ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขอให้ผ่านช่วงมรสุมไปให้ได้นะพี่ปราบกับน้องซ่า เอาใจช่วยทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ซ่าไม่เคยมองตัวเองว่าดีไง เลยกลายเป็นว่า อะไรก็รู้สึกไม่คู่ควร หน่วงดีแท้

ออฟไลน์ Disthaporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ปราบก็ต้องให้เวลานุ้งซ่าหน่อยเนอะ ซ่าทั้งไม่เคยชอบผู้ชาย เเล้วก็คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับพี่ปราบอีก ยังไงก็ต้องรู้สึกไม่ดีก่อนที่รู้ว่าพี่ปราบชอบ  เเล้วซ่าก็เป็นคนที่เเบบครอบครัวก็ไม่เห็นคุณค่าอ่ะ เเล้วจะมาคิดว่าตัวเองมีค่าพอคู่ควรกับพี่ปราบก็ยิ่งไม่ใช่ไปใหญ่เลย เเต่ก็สงสารพี่ปราบนา :o12: อุตส่าห์ทั้งรักทั้งเปย์ขนาดนี้ เเต่อดใจรอนิดนึงละกันเนอะพี่ปราบบ
จะรอสองตอนต่อไปนะคะ5555555 เป็นกำลังใจให้ปั่นต่อๆๆ สู้ๆค่ะ :กอด1: :pig4:
ปล. ขอมาม่าก้อนเล็กๆพอนะคะ ช่วงนี้ลดน้ำหนักอยู่ :ling1:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
กลัวพี่เขาจะถูกมองไม่ดี แต่ไม่ได้กลัวที่จะลองคบกันซินะ
พี่ปราบจับกวดก้นเค้นความจริงเลย
ไม่งั้นพี่ปราบก็คงได้นอยน้อยใจไปอีกนาน

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ค่ะ ขอให้ปราบเข้าใจซ่านะ อย่าพึ่งเสียใจ

ซ่าคิดมาก ซ่านอยด์ ก็ปกติ ต่างกันมาแต่แรก แถมซ่าก็คิดมากมาตลอด
แล้วยังบอกตัวเองว่าไม่ชอบผู้ชายด้วย เลยไม่ชอบปราบแบบนั้นไปอีก

แต่ซ่าไม่เรียนรู้เลยนะว่าอย่าแคร์คำคนอื่นมากกว่าคนที่รักเรา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ต้องให้เวลาซ่านะพี่ปราบ แล้วดูคำนินทาแต่ละคนดิ :angry2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คงต้องใช้เวลาเป็นตัวช่วยอธิบาย
อะไรๆ ก็จะเข้าใจง่ายขึ้น

ลุ้นนะ#ปราบซ่า

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
ซ่าอย่าคิดเองเออเองซิ
ซ่าต้องถามพี่ปราบด้วยยยย

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่22


[ซ่า]

เรื่องที่ผมกลัวสุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริง ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ปราบไม่เหมือนเดิม หลังจากที่พี่ปราบสารภาพกับผมตามความจริงว่าพี่ปราบรักผมแบบคนรัก ไม่ใช่แบบพี่ชายน้องชายอย่างที่ผมเข้าใจ และผมได้ปฏิเสธพี่ปราบไปว่าผมไม่ได้คิดกับพี่ปราบแบบนั้น

บอกไม่ถูกว่าพี่ปราบไม่เหมือนเดิมยังไง ทั้งที่เขาก็เหมือนเดิม แต่ความรู้สึกมันไม่ใช่ บางครั้งก็อาจเป็นเพราะผมเองที่พยายามทำตัวออกห่าง

และที่ต่างไปจากเดิมเลยก็คือ สองอาทิตย์ที่ผ่านมา พี่ปราบไม่แวะไปที่คอนโดผมอีกเลย ทั้งๆที่น่าจะเป็นเรื่องดี เพราะพี่ปราบเว้นระยะห่างให้กับผม ถึงเขาจะชอบผมแต่เขาก็ไม่ได้ทำให้ผมลำบากใจ จะมีก็แต่ผมเนี่ยแหละที่รู้สึกว่ามันเริ่มจะไม่โอเค

ผมออกจากบ้านมา ชีวิตก็เหมือนจะมีแค่พี่ปราบ พอเขาห่างหายไป ผมก็รู้สึกเคว้ง ผมเคยคิดว่าผมอยู่คนเดียวได้ แต่เอาเข้าจริงมันก็เหงามาก แต่จะเรียกร้องอะไรได้ ในเมื่อผมเลือกที่จะให้มันเป็นแบบนี้เอง

ถึงจะอึดอัดที่มีอะไรก็ต้องเก็บไว้คนเดียว ถึงพี่ปราบจะบอกว่าถ้าผมมีปัญหาอะไรโทรหาเขาได้ตลอด แต่ผมก็ไม่กล้า ผมปฏิเสธเขา ทำให้เขารู้สึกแย่ แล้วยังจะไปมีหน้ารบกวนอะไรเขาอีก

ผมรับมาจากพี่ปราบมากเกินไป และถ้ายังจะเอาแต่เป็นผ่านรับโดยให้สิ่งที่พี่ปราบต้องการไม่ได้ ก็หน้าด้านเต็มทน

อีกหน่อยผมก็คงจะชินกับการอยู่คนเดียว

โรงเรียนเปิดเทอมผมก็กลับไปเรียนต่อเทอมสุดท้ายให้จบ ผมยังจำคำสอนของพี่ปราบได้เสมอ ถึงจะเรียนไม่เก่งก็ไม่เป็นไร ขอแค่ตั้งใจเรียนและทำให้ดีที่สุดก็พอ ดังนั้นถึงแม้ผมกับพี่ปราบจะห่างๆกัน แต่ผมก็ยังคงตั้งใจเรียนและไม่ทำตัวเกเร ผมไม่อยากให้พี่ปราบผิดหวัง แม้ว่าพี่ปราบจะไม่รู้ไม่เห็นก็ตาม

เช้าไปเรียน เย็นก็ไปทำงาน จากที่ทำงานทุกวันแล้วหยุดวันอาทิตย์ ผมก็ทำเฉพาะวันที่ไม่ได้เรียนเต็มวัน กับวันเสาร์อาทิตย์แทน

วันนี้ผมไม่มีเรียนตั้งแต่บ่ายสอง ก็เลยรีบกลับคอนโดแต่งตัวไปที่ร้าน หวังไว้ว่าอาจจะได้เจอพี่ปราบ แล้วก็ได้เจอจริงๆ แต่เป็นการเจอพี่ปราบในแบบที่ต่างออกไป

“อ้าวซ่า มาแล้วเหรอ ทำไมวันนี้มาไวจัง” อาเจที่กำลังนั่งคุยกับพี่ปราบแล้วก็แขกที่เป็นผู้หญิงสวยหันมาทักผม ผมเดินเข้าไปใกล้แล้วยกมือไหว้ทุกคนตรงนั้น

ผู้หญิงคนนี้เป็นใครไม่รู้ เพราะผมไม่เคยเห็น แต่คงจะสนิทกับพี่ปราบเพราะว่านั่งติดกันมากจนเกินกว่าที่ควรเป็น

แล้วทำไมผมต้องไปสนใจด้วยว่าพวกเขาจะนั่งติดกันขนาดไหน โคตรประสาทเลยผม

“พอดีเลิกเรียนเร็วครับ เลยรีบมา งั้นเดี๋ยวผมไปทำงานก่อนนะ” ผมรีบพูดแล้วเดินเลี่ยงออกมา

ผมควรสบายใจ ทำงานไปแล้วไม่ต้องคิดอะไร แต่ทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุข

“นั่นใครวะพัช ผู้หญิงที่นั่งข้างพี่ปราบอ่ะ” พี่ในร้านเดินเข้ามาถามผมที่กำลังเก็บโต๊ะอยู่ ผมมองไปทางโต๊ะพี่ปราบอีกครั้งก่อนจะส่ายหน้าตอบ

“ไม่รู้สิครับ”

พี่คนที่มาถาม ก็เป็นหนึ่งในคนที่พูดเรื่องผมกับพี่ปราบ ที่มาถามก็คงอยากจะได้เรื่องไปนินทาต่อตามประสาพวกอยากรู้อยากเห็น

“เฮ้ย ทำไมไม่รู้อ่ะ เอ็งกับพี่ปราบสนิทกันจะตาย”

“ก็สนิทกัน แต่ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง”

ผมไม่ได้รู้จักพี่ปราบดีพอ ถึงแม้ผมคิดว่าผมรู้เรื่องพี่ปราบดี แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด

“เอ็งว่าแฟนพี่ปราบหรือเปล่าวะ ดูดิ มีการจับมือกันด้วย มันต้องอย่างนี้สิวะ ถึงจะดูเหมาะสมกัน”

“ครับ” ผมตอบรับสั้นๆ รีบเก็บทำความสะอาดโต๊ะแล้วยกจานไปเก็บในครัว

เพราะทุกคนมองว่าพี่ปราบไม่เหมาะสมที่จะมายุ่งกับคนอย่างผม ถึงได้รู้สึกดีที่พี่ปราบจะได้อยู่กับคนที่คู่ควร มันก็ถูกแล้ว ผมไม่ว่าพวกเขาหรอก

เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว

คืนนี้เป็นอีกวันที่ผมได้มาประจำอยู่ที่บาร์เครื่องดื่ม เป็นลูกมือของพี่บิ๊ก ช่วงสามสี่ทุ่มลูกค้าจะเยอะและสั่งเหล้าถี่ต่อเนื่อง พี่บิ๊กทำคนเดียวไม่ทัน เลยให้ผมมาช่วย จะได้หยุดมือบ้างเป็นช่วงๆ

“สนุกไหม” พี่ปราบแวะเดินมาคุยกับผมรอบแรกของวัน ทั้งๆที่เขาอยู่ที่ร้านมาตั้งแต่ตอนเย็น

“ก็สนุกดีพี่ ผมทำได้หลายอย่างแล้ว พี่อยากลองชิมเหล้าฝีมือผมไหม” ผมยิ้มแล้วรีบพูด อะไรวะ นี่กูดีใจเหรอ

“ไหน เอามาลองสักแก้วสิ มีเมนูไหนจะนำเสนอกู บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าไม่อร่อยกูไม่จ่ายเงิน”

“โหยพี่ปราบ จะแกล้งให้ผมจ่ายเงินให้หรือไง”

“กูไม่แกล้งมึงหรอก ทำให้ดีๆก็แล้วกัน”

“ได้เลย พี่รอชิมเถอะ”

สูตรค็อกเทลที่ผมจะทำให้พี่ปราบลองชิมดูก็คือ Scotch Manhattan เพราะส่วนผสมไม่เยอะ และผมชอบ พี่บิ๊กยังชมว่าผมทำได้รสชาติดี ยังไงก็ไม่ต้องจ่ายค่าเหล้าให้พี่ปราบแน่นอน

เริ่มจากใส่เหล้าสกอตวิสกี้ยี้ห้อชีวาส เวอร์มุตแบบหวาน และเหล้าสมุนไพรที่ใช้เพียงสองสามหยดลงในกระบอกเช็คเกอร์ ใส่น้ำแข็งสักสี่ก้อน จากนั้นผมก็ออกแรงเขย่าด้วยความเมามัน แต่ก็ถูกหลักตามที่พี่บิ๊กสอนมาว่าควรเขย่าเร็วและแรงขนาดไหนถึงจะพอดี พอได้ที่ก็เทใส่แล้วตกแต่งด้วยลูกเชอร์รี่ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมเสิร์ฟให้พี่ปราบชิม

“Scotch Manhattan” พี่ปราบเอ่ยชื่อค็อกเทลได้ถูกต้อง ทั้งๆที่ผมไม่ได้บอกก่อนว่าจะทำอะไรให้ชิม

“พี่รู้ด้วย?”

“นี่ใคร กูเซียนของมึนเมา ไหนมาลองดิว่าอร่อยแค่ไหน” พี่ปราบยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ดวงตาคมเข้มหลับลงช้าๆ เหมือนกำลังดื่มด่ำอยู่กับรสชาติ พี่ปราบลืมตาอีกทีก็ตอนที่กลืนเหล้าลงคอไปแล้ว

“เป็นไงบ้างพี่” โคตรจะลุ้นเลย คือถ้าผมทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดี ผมจะได้เลื่อนขั้นมาทำงานตรงบาร์ ค่าแรงก็จะได้มากกว่าเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหารเกือบเท่าตัวเลย

“อืม”

“...”

“รสชาติมันก็...”

“พี่ปราบ อย่ากวนได้ไหมเนี่ย”

“หึหึ อร่อยดี ลงตัวเลย ถ้าไม่บอกกูคงคิดว่าไอ้บิ๊กทำ”

“เยส!!!” สุดยอดเลยไอ้ซ่า มึงทำได้

“ดีใจหน้าบานเลยนะ” พี่ปราบแซวที่ผมยิ้มกว้าง “ฝึกๆเอาไว้ กูรู้ว่ามึงหัวไวเรื่องเหล้า เลยบอกให้อาเจให้มึงมาฝึกงานกับไอ้บิ๊ก ช่วงนี้ก็ตั้งใจล่ะ อย่าทำให้กูต้องเสียชื่อที่แนะนำมึง”

“พี่ปราบแนะนำผมให้อาเจเหรอ” ทีแรกผมคิดว่าอาเจอยากให้ผมมาลองทำด้วยตัวเอง ไม่ทันคิดว่าจะเป็นคนที่ช่วยผมอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ผมเลือกจะปฏิเสธความรู้สึกของพี่ปราบ แต่พี่ปราบก็ยังทำเพื่อผม

“อืม ถ้ามึงเป็นบาร์เทนเดอร์ เงินเดือนจะได้มากขึ้น จะได้พอใช้ มึงต้องส่งกลับไปให้ที่บ้านด้วยไม่ใช่หรือไง”

“ก็ครับ ขอบคุณนะครับพี่” ผมยกมือไหว้พี่ปราบ ไอ้รู้สึกดีมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ยิ่งรู้ความจริง มันยิ่งตอกย้ำว่าผมเป็นเด็กเส้นแบบที่ใครๆเข้าใจ

“ปราบ หายมาอยู่ตรงนี้นี่เอง เราอยากดื่มค็อกเทลอยู่พอดีเลย แนะนำให้หน่อยสิว่าอะไรอร่อย” ผู้หญิงที่นั่งข้างพี่ปราบตั้งแต่ผมเข้าร้านมาเดินมานั่งข้างๆ แล้วเกาะแขนพี่ปราบไว้แน่น

“ปราบว่าการ์ตูนดื่มเยอะแล้วนะ เดี๋ยวก็ขับรถกลับบ้านไม่ไหวหรอก” พี่ปราบหันไปพูดกับสาวสวยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มหูแบบที่ผมก็ชอบฟัง ที่ผมไม่ค่อยเห็นพี่ปราบใช้พูดกับใคร เอาจริงๆตั้งแต่ผมคบกับพี่ปราบมา ก็ไม่เคยเห็นพี่ปราบควงสาวสวยหรือผู้ชายคนไหนให้ผมเห็น

บางทีพี่ปราบอาจจะกำลังตัดใจ มันก็ดีแล้วไงไอ้ซ่า เขาจะได้ไม่ต้องชอบมึง ทุกอย่างมันกำลังเป็นแบบที่มึงต้องการไง แล้วมึงจะหงุดหงิดทำเหี้ยอะไรวะ

“ซ่า ทำค็อกเทลดื่มง่ายๆให้การ์ตูนสักแก้วสิ”

“ครับ” ผมรับคำ เลือกทำเป็นสูตรง่ายๆที่ทำได้ พี่ปราบคุยกับพี่การ์ตูนสนุกสนาน ผมเสิร์ฟเครื่องดื่มให้พี่ปราบเสร็จ ดูรอบด้านแล้วไม่มีอะไรให้ผมทำ ผมเลยออกไปช่วยคนอื่นเสิร์ฟอาหารแทน เพื่อที่ผมจะได้ไม่อยู่เป็นตัวประกอบให้คนอื่นเขา

ที่จริงแล้ว พี่ปราบก็ยังเหมือนเดิม แต่คนเห็นแก่ตัวมันก็คือผมเอง ที่อยากจะให้พี่ปราบทำกับผมเหมือนเดิม แต่ไม่อยากให้เขาคิดกับผมเกินเลยกว่าพี่น้อง ไม่อย่างนั้นผมจะไม่สบายใจ

คนที่ผิดมันคือผมเอง





(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld


มีวันหยุดราชการยาวสามวันติด ตั้งแต่วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ ทีแรกผมก็ไม่คิดจะไปไหน จนไอ้หวายโทรมาชวนไปกาญจนบุรี ไปนอนแพริมน้ำ และคนที่คิดอยากจะไปไม่ใช่ไอ้หวาย แต่เป็นเฮียธีร์กับเฮียกี่ ซึ่งแน่นอนว่าไอ้หวายต้องเสนอหน้าไปด้วยอยู่แล้ว และมันก็จะไม่ยอมไปคนเดียวให้พวกพี่เขาแกล้ง มันก็เลยลากพวกผมไปด้วย

เราออกเดินทางตั้งแต่เช้า ผมนั่งรถไปกับพี่ปราบเฮียธีร์และไอ้ตูน เพราะเมื่อคืนไอ้ตูนแวะมานอนกับผมที่คอนโด ไอ้หวายกับไอ้กานไปกับเฮียบีทกับเฮียกี่ ไอ้นุ๊กไม่ได้ไปด้วย แม่มันพาไปทำทำบุญที่ต่างจังหวัด ได้ทีไอ้หวายก็เลยโทรไปแกล้งไอ้นุ๊กยกใหญ่

ระหว่างทางนอกจากแวะปั๊มน้ำมันกับแวะกินข้าว ก็ขับรถมุ่งหน้าตรงไปที่พักเลย เป็นความต้องการเฮียบีทที่ยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนเพราะต้องเคลียร์งานที่ร้านเหล้าทั้งคืน แกเลยอยากรีบๆไปถึงแล้วก็รีบๆนอน ไอ้หวายส่งข้อความมาเล่าว่าระหว่างทางแกก็หลับตลอดทาง

“อยากแวะซื้อของอะไรไปเพิ่มใหม่ ถึงที่พักแล้วจะได้ไม่ต้องออกมาอีก” พี่ปราบมองผมผ่านกระจกมองหลัง

“ไม่เอาแล้วครับ” ไอ้ตูนตอบก่อน

“ผมก็ไม่เอา”

“แน่ใจนะ ตอนดึกอยากได้อะไรกูไม่พาออกมาแล้วนะ”

“ครับผม ไม่เอาอะไรแล้วครับ” ผมพูดขำๆ รู้สึกอุ่นวาบในอกกับการใส่ใจของพี่ปราบ จะบอกยังไงดีว่าผมโคตรคิดถึงบรรยากาศแบบนี้เลย

มาถึงที่พักเฮียธีร์เป็นคนไปติดต่อรับกุญแจ พวกผมคือตื่นเต้นมาก วิ่งไปที่แพดูวิวรอบๆที่พัก วันนี้แดดไม่ร้อนลมเย็นสบายด้วย เห็นน้ำแล้วอยากจะกระโดดลงไปเล่นมันเดี๋ยวนี้เลย

“เฮ้ย พวกมึง มาเอากุญแจห้อง” เฮียกี่ตะโกนเรียก

“ได้มาสามห้อง ห้องสามคนสองห้อง และห้องสองคนอีกห้องหนึ่ง จะนอนกันยังไง” เฮียธีร์ถาม พวกผมได้แต่มองหน้ากันแล้วปล่อยให้พวกพี่เขาตัดสินใจ คือพวกผมไม่ได้ใช่คนออกเงินไง นอนไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ

“จะไปยากอะไร กู มึง ไอ้บีท นอนด้วยกัน ไอ้หวาย ไอ้ตูนนอนกับไอ้กาน ส่วนพวกมึงสองคนก็นอนด้วยกันซะ ไหนๆก็สนิทกันยิ่งกว่าเพื่อนซะอีก เชิญ” เฮียบีทที่ง่วงนอนถึงขีดสุด จัดแจงห้องพักให้กับทุกคนโดยไม่ถามความเห็น โยนกุญแจห้องสามคนให้ไอ้หวาย แล้วส่งกุญแจห้องสองคนให้พี่ปราบ

“เฮียธีร์ คือ ให้ไอ้หวายนอนกับพี่ปราบดีกว่านะ เดี๋ยวผมไปนอนกับไอ้พวกนั้น” ผมรีบหาทางออกให้ตัวเอง หันไปมองหน้าพี่ปราบคิดว่าพี่เขาจะช่วยพูด แต่พี่ปราบเอาแต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ ไม่รู้ส่งข้อความหาใคร ผมเห็นพี่ปราบตอบไลน์ทั้งวันเลย

“ไม่เอา กูไม่นอนกับพี่ปราบหรอก มึงอย่าเรื่องมากนะ ไปเว้ยพวกมึง กูอยากเล่นน้ำแล้ว” ไอ้หวายที่เหมือนจะชอบใจที่แกล้งผมได้ รีบล็อคคอไอ้ตูนกับไอ้กานที่ยิ้มหน้าเหี้ยเดินไปที่ห้องพัก

“เอาน่ามึง กูเห็นมันไปนอนกับมึงบ่อยๆ กลัวไรวะ” เฮียบีทตบบ่าผมแล้วรีบเดินไปที่ห้อง พี่อีกสองคนก็ส่งยิ้มกวนๆมาให้ ดูก็รู้ว่าพวกเขารู้ว่าพี่ปราบคิดกับผมยังไง

“ไป เข้าห้องเก็บของ” พี่ปราบเก็บโทรศัพท์แล้วหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นมาถือ พยักหน้าไปทางห้องนอนก่อนออกเดินนำ

ถึงผมจะคิดว่านอนยังไงก็ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมต้องนอนกับพี่ปราบสองต่อสองหรือเปล่า

เอาเถอะ ผมรู้ว่าพี่ปราบไม่ทำอะไรผมหรอก แค่...อยู่ๆก็รู้สึกไม่ชิน

ห้องพักเป็นไม้ทั้งหลัง เตียงนอนใหญ่หลังเดียวสำหรับนอนสองคน เอาวะ ทำเป็นไม่เคยนอนกับพี่ปราบไปได้ไอ้ซ่า 

“จะไปเล่นน้ำไหม เขามีให้ขึ้นแพแล้วให้กระโดดลงน้ำว่ายกลับที่พักด้วย” พี่ปราบที่กำลังรื้อของออกจากกระเป๋าถาม

“เล่นพี่ ผมไปเปลี่ยนชุดนะ” พอได้ยินว่าจะลงน้ำ ผมก็หูผึ่ง รีบรื้อหาเสื้อผ้าในกระเป๋าแล้วถอดเปลี่ยนมันตรงนั้น ลืมไปเลยว่าพี่ปราบก็อยู่ในห้อง

“หึหึ รีบเป็นเด็กๆเลยนะมึง” พี่ปราบยิ้มขำตอนที่ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว นั่นแหละผมถึงได้นึกขึ้นได้ ก็กระดากอยู่หรอกแต่ไม่ใช่ว่าจะอายอะไรมากมาย

“ผมออกไปข้างนอกนะพี่” ผมหันไปบอกพี่ปราบที่ยังไม่ได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

“อืม จะเล่นจะอะไรก็ระวังนะมึง”

“ครับผม”

ผมรีบไปหาไอ้พวกเพื่อนชั่วที่ห้องของพวกมันทันที ผมคิดว่าพวกมันจะต้องเตรียมพร้อมลงน้ำเหมือนกับผมแน่นอน แต่พอเปิดประตูเข้าไป พวกมันกำลังเปิดเพลงเต้นแร้งเต้นกาไปพร้อมกับวิดีโอคอลหาไอ้นุ๊ก ให้มันด่าเล่นๆ

“ไอ้พวกเหี้ย คราวหน้ากูจะไม่พลาดกูบอกเลย”

“แต่คราวนี้มึงพลาดแล้วไง”

“ยะฮู้ว ทำบุญให้สนุกนะมึง เอาบุญมาฝากกูด้วย ส่วนทางนี้จะทั้งเมาทั้งมันแทนมึงเองนะจ๊ะน้องนุ๊กสุดที่รักของพี่กาน”

“ไอ้เหี้ยกาน กูไม่ให้บุญมึงหรอก คนอย่างมึงมีแต่บาป”

“ฮ่าๆๆ ไม่ได้มาแล้วอารมณ์เสียนะมึง”

“แม่ ไอ้พวกนี้มันแกล้งผม”

โคตรจะวุ่นวายเลย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไปร่วมวงแกล้งไอ้นุ๊กด้วย สนุกดี เห็นมันหัวฟัดหัวเหวี่ยงบ่นเสียดายที่ต้องไปทำบุญในวันเดียวกับที่พวกผมมาเที่ยว แต่พอแม่มันเรียกให้ไปหาหลวงพ่อ มันก็รีบวางสายแล้ววิ่งแจ้นไปหาแม่มันทันที

หมดเรื่องสนุกแล้วผมก็ไล่เตะไอ้สามคนที่เหลือให้มันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียที

“มึงจะรีบไปไหน มันมีรอบออกแพเว้ย อีกตั้งเกือบชั่วโมง” ไอ้ตูนที่เอาแต่คุยกับเมียคนที่ห้าร้อยยี่สิบสามเบี่ยงตัวหนีมือผมที่เริ่มจะทุบตีมัน แม่งไม่ยอมลุกออกจากที่นอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพร้อมลงน้ำสักที

“พวกมึงๆ ออกไปถ่ายรูปเท่ๆข้างนอกกันดีกว่า แล้วเปลี่ยนโปรไฟล์เฟสบุ๊กให้เหมือนกันทุกคน” ไอ้หวายนำเสนอความคิดที่เข้าท่า

“เดี๋ยวไอ้นุ๊กมันก็โวยวายอีก”

“ดีออกไง ได้แกล้งมัน สนุกดี”

“มึงอย่าไปแกล้งน้องนุ๊กเขา เดี๋ยวกูตัดแปะหน้าไอ้นุ๊กใส่ลงไปเอง”

“แหม นี่ใช้ไอ้กานตัวจริงไหมเนี่ย ทำไมมึงดูเป็นคนดีรักเพื่อนจังเลย”

“ว่าไม่ได้นะครับพวกคุณ ผมมันคนจิตใจดี รักเพื่อนรักฝูง รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตีนะครับ”

“ไอ้สัด ไม่ได้คล้องจองกันเลย” ผมด่าไอ้กาน ที่ขำขันกับคำพูดบ้าบอของมันเอง

เพราะยังไม่ถึงเวลาลงแพไปเล่นน้ำ แต่พวกผมก็เตรียมตัวพร้อมมากสำหรับการเปียก มันมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กๆแช่ได้อย่างเดียวแต่ว่ายไม่ได้อยู่สองสระ พวกผมก็เลยลงไปแช่น้ำในนั้นแทน

“พวกมึงทำอะไรกัน คิดว่าตัวเองเป็นบอยแบนหรือไง” เฮียบีทมองพวกผมด้วยสายตาเหมือนจะรับไม่ได้ ที่พวกผมนั่งพิงขอบสระเรียงกัน ใบหน้าแต่ละคนก็สวมแว่นตาดำไว้กันแดดด้วย อย่างเท่

“กูว่าไม่ใช่บอยแบน แต่เหมือนคนตาบอดรวมตัวกันมากกว่า” ปากแบบนี้ไม่ใช่ใคร เฮียกี่เจ้าเก่าเจ้าเดิม

“ไปเลยชิ่วๆ คนขี้เก็กไปตรงนู้นเลย” ไอ้หวายสะบัดมือไล่พี่กี่ที่มองไอ้หวายยิ้มๆ ผมว่ามันแปลกนะ แต่ไม่รู้ว่ามันแปลกยังไง

“เออ กูไปหาสาวๆกลุ่มนั้นดีกว่า ไปพวกมึง ไปหาของสวยๆงามๆตู้มๆดู แถวนี้แม่งมีแต่เด็กเถื่อน ฮ่าๆๆๆ” เฮียกี่แกดูจะมีความสุขที่แหย่ไอ้หวายได้ ไอ้นี่ก็น้ำหน้าบึ้งเป็นตูด

จะว่าไปแล้ว พี่ปราบแกไม่เห็นจะพูดจะแซวอะไรพวกผมเลย และปกติก็ไม่เห็นจะไปส่องสาวกับพวกเฮียๆ วันนี้เขาคิดยังไงเดินไปร่วมวงกับสาวฝรั่งผมทองนมเป็นนมตูดเป็นตูด

ไหนบอกว่าชอบผมไงวะ ตอนนี้คุยกับสาวแบบหน้าบาน

ประสาท

ไม่ใช่พี่ปราบนะ กูเนี่ยแหละประสาท จะไปสนใจทำไม พี่ปราบชอบผู้หญิงก็ดีแล้ว เขาจะได้ไม่ต้องมาชอบผม

ได้เวลาที่แพจะออกรอบ พวกเราก็ขึ้นไปบนแพแล้วใส่เสื้อชูชีพ แล้วก็ไปนั่งหย่อนเท้าในน้ำตอนที่แพลอยน้ำไปทางต้นน้ำ เฮียธีร์ที่จะไม่ลงน้ำก็ทำหน้าที่เป็นช่างภาพไป ผมไปขอดูรูปในกล้องเฮียธีร์มาด้วย โคตรเจ๋ง ถ่ายสวยมาก และกล้องของพี่ธีร์ก็ตัวละเป็นแสน ราคาน่ากลัวมาก

ถึงจุดที่ปล่อยลงน้ำ กลุ่มผู้หญิงก็จะเรียบร้อยๆหน่อยก็ค่อยหย่อนตัว หรือมีผลักเพื่อนลงน้ำบ้าง แต่พวกผู้ชายวัยฉกรรจ์อย่างพวกผม ถ้าไม่ถีบเพื่อนก็ตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลังลงไป ส่วนผมโดนไอ้กานผลักตกน้ำ จุกไปดิ แต่โคตรสนุก เสียอย่างเดียว พอใส่เสื้อชูชีพแล้วตัวผมมันทิ้งลงแนวดิ่ง ว่ายไปข้างหน้ายากมาก ไอ้กานกับไอ้หวายแม่งเอาแต่ขำผม ไอ้ตูนไปว่ายใกล้ๆสาวหน้าตาน่ารัก ไม่มีใครช่วยผมสักคน กลายเป็นผมรั้งท้ายสุดในกลุ่ม

“ทำไมไม่ว่ายไป”

“เฮ้ย” อยู่ๆก็มีคนมากระซิบข้างหู พร้อมกับมือที่โอบเอวผมไว้ใต้น้ำ

“ตกใจอะไร” พี่ปราบถาม ผมพยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ไม่ยอมปล่อยมือที่กอดเอวผมออก

“พี่มาทำอะไรตรงนี้” ผมคิดว่าพี่ปราบว่ายอยู่ข้างหน้าๆ ใครจะไปรู้ว่าอยู่ดีๆจะโผล่มาข้างหลัง

“มึงมากกว่ามาทำอะไรตรงนี้ เขาว่ายไปกันหมดแล้ว”

“มันว่ายไม่ไปอ่ะ” ผมบอกไปตามความจริง

“หึหึ มากูช่วย” ช่วยของพี่ปราบคือเขากระชับกอดเอวผมแน่นขึ้น

“พี่ ไม่เป็นไร”

“ไปด้วยกัน ช่วยกันว่าย มึงก็ตีขาแรงๆ”

ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ ก็เลยปล่อยให้พี่ปราบช่วยพยุงให้ตัวผมว่ายไปข้างหน้าพร้อมๆกับพี่ปราบ ซึ่งผมว่าเขาไม่ได้ทำกันแบบนี้นะ มันน่าจะเป็นท่าอื่นมากกว่า

“ฮั่นแหน่ ที่มาช้าเพราะแอบไปสวีทกันมานี่เอง” ไอ้กานปล่อยหมาออกจากปากทันทีที่ผมกับพี่ปราบเริ่มว่ายน้ำเข้าไปใกล้

“กูนึกว่ามึงไปช่วยสาวฝรั่งเสียอีก” เฮียบีทพูดกับพี่ปราบ

“ผู้หญิงเขาว่ายแข็ง ไอ้เด็กนี่หรอก ลอยตัวนิ่งอยู่กลางน้ำเลยต้องไปช่วย”

“กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเดี๋ยวนี้เขาช่วยกันท่านี้ กอดเอวไอ้ซ่าแน่นเชียว” เฮียกี่ก็พูดซะผมดีดตัวออกห่างพี่ปราบแทบไม่ทัน

“อยากสวีทกันก็บอกมา” ไอ้หวายยังคงล้อ พวกมันยังไม่รู้ว่าผมรู้แล้วว่าพี่ปราบชอบผม ผมยังไม่กล้าบอก ไม่ใช่ว่าไม่อยากจ่ายเงิน แต่กลัวพวกมันจะมาล้อผมเนี่ยแหละ ผมเลยไม่กล้าพูด

“พวกมึงอย่าพูดบ้าๆ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ผมขึ้นแล้วนะ” คราวนี้ผมจ้วงเต็มแรงไปที่แพแล้วดันตัวขึ้นข้างบน พี่ปราบมองจ้องผม สายตาดูเจ็บปวด แต่ก็แค่แปบเดียว เพราะหลังจากนั้นพี่ปราบก็ไม่สนใจอีกเลย เป็นผมเองที่รู้สึกผิด

เล่นน้ำเสร็จก็แยกย้ายไปอาบน้ำ จะได้ออกมากินข้าวเย็นตามเวลาที่รีสอร์ทกำหนด ผมกลับเข้าห้องก่อนก็เลยอาบน้ำก่อน อาบเสร็จก็ออกมาเจอพี่ปราบกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ ได้ยินพี่ปราบเรียกคนปลายสายว่าการ์ตูน

“พี่ ผมอาบเสร็จแล้ว” ผมพูดแทรกขึ้นกลางปล้อง พี่ปราบเหลือบตามองผมก่อนจะพยักหน้า กดวางสายแล้วหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ

ทีแรกก็คิดว่าอะไรๆจะดีขึ้น แต่พอมีคนพูดและตีความว่าผมกับพี่ปราบในทำนองชู้สาว ผมก็เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง และรู้สึกอึดอัดและวางตัวไม่ถูก

ถึงเวลากินข้าวเย็น ผมออกไปพร้อมพี่ปราบ ซึ่งคนอื่นไปถึงก่อนและจองที่ไว้ก่อนแล้ว ผมเดินไปตักอาหารที่อยากกิน ใช้แรงว่ายน้ำไปเยอะ พอเห็นอาหารผมก็หน้ามืดทันที ตักแทบจะทุกอย่างที่เขามีไว้ให้

“หิวเหรอไง” พี่ปราบที่นั่งข้างผมถาม

“มากเลยพี่ ยำอร่อย พี่ลองป่ะ” พี่ปราบไม่ได้ตักยำรวมมิตรมา ผมที่ตักมาจานใหญ่เลยตักกุ้งตัวโตกับปลาหมึกชิ้นใหญ่ใส่จานข้าวพี่ปราบ

“ขอบใจ อืม อร่อยจริง รสชาติจัดจ้าน”

“ใช่ไหมพี่ อร่อยเหมือนอาเจทำเลย”
“เออ มึงพูดถูก” พี่ปราบพยักหน้าเห็นด้วย

“พวกมึงสองคนคิดว่ามาฮันนีมูนเหรอครับ สนใจเพื่อนหน่อยไหม ไหนไอ้ซ่า ตักยำมาให้กูชิมสิ”

เฮียบีทนี่อยู่เฉยๆไม่ได้เลย ต้องแซวผมกับพี่ปราบตลอด ถ้าพี่ปราบไม่ได้ชอบผมมันก็ขำๆสนุกดีอยู่หรอก แต่ไม่ใช่ไง พี่ปราบชอบผมจริงๆ และเรื่องนี้ทำผมอึดอัดใจตลอด มันเลยไม่ขำเหมือนที่ผ่านมา

“เฮียอิจฉาเขาหรือไง มาๆผมตักให้ครับ” ไอ้กานลุกขึ้นยืนโน้มตัวมาตักยำของผมไปใส่จานเฮียบีท

“กูจะแดกลงไหมเนี่ย” เฮียบีทก้มมองยำในจานตัวเองอย่างชั่งใจ

“ฮ่าๆๆ ไอ้กานมันอุตส่าห์ตักให้ มึงดูตามันสิ อ้อนสุดๆ” เฮียธีร์ก็ชงต่อเลย

“ผมว่าอ้อนตีนมากกว่า ฮ่าๆๆ” ไอ้ตูนเสริม

ทุกคนหันไปสนใจไอ้กานแทนแล้ว ผมก็นั่งกินข้าวเงียบๆ หัวเราะบ้างพูดบ้างไปเรื่อย แต่คงจะเงียบเกินจนพี่ปราบรู้สึก

“มึงไม่ต้องคิดมาก เพื่อนกูมันก็แซวขำๆ”

ผมปั้นหน้ายิ้มไม่ให้พี่ปราบคิดมาก “ไม่เป็นไรพี่”

กินข้าวเสร็จก็เริ่มตั้งวงเหล้าตามแบบฉบับผู้ชายที่ระเบียงหน้าบ้านผมเพราะอยู่ตรงกลาง เหล้าพร้อมกับแกล้มขนมห่อก็พร้อม พี่ปราบเอากีตาร์มาด้วย ไม่นานนักแต่ละคนก็เริ่มไม่สมประกอบ

เริ่มเมาพวกพี่ๆก็ถกปัญหาเรื่องงานเรื่องหุ้นเรื่องธุรกิจที่พวกผมฟังไม่เข้าใจ แต่ไอ้การกับไอ้หวายก็ดึงมาที่เรื่องตลกได้ตลอดเวลา หรือไม่ก็ดีดกีตาร์ร้องเพลง เฮียธีร์ร้องเพลงเพราะมาก หน้าก็หล่อแล้วเสียงยังหล่ออีก แต่ถ้าไอ้กานแหกปากเมื่อไหร่ ผมละกลัวเหลือเกินว่าคนอื่นๆที่เขามาพักจะปาร้องเท้าใส่พวกผม

“ทุกคนๆ ฟังผมหน่อย” ไอ้หวายลุกขึ้นยืนกลางวงเหล้า ปรบมือให้ทุกคนที่กำลังคุยกันฟังมัน

“อะไรของมึงไอ้หวาย” ไอ้กานเงยหน้าถาม

“ผมมีเรื่องหนึ่งสงสัย อยากจะถามเฮียปราบ” ปากมันพูดถึงพี่ปราบ แต่สายตามองผม รู้เลยว่ามันจะถามเรื่องอะไร ผมหน้าเสียทันที พยายามจะลุกขึ้นไปห้ามไอ้หวาย แต่ไอ้ตูนรั้งผมไว้

“ปล่อยกูไอ้ตูน!” ผมหันไปตวาดไอ้ตูน เท่านั้นแหละ

“แล้วพวกมึงสองคนเป็นอะไรอีกเนี่ย” เฮียธีร์หันมาสองใจผมกับไอ้ตูนบ้าง

จะถามอะไรก็ถามไอ้หวาย” เฮียบีทพูดเปิดทางให้ไอ้เพื่อนชั่ว

“ผมจะถามว่า...”

“อย่านะไอ้หวาย” ผมชี้หน้ามันหน้าเครียด

“เฮียปราบชอบไอ้ซ่าเหรอ” แต่มันไม่ฟังผม ถามคำถามที่ผมไม่อยากให้มันพูดที่สุดออกมา

ทุกคนเงียบพร้อมกัน ไอ้ตูนปล่อยตัวผมแล้ว แต่ผมไม่กล้าที่จะเงยหน้าสบตาใครเลย ได้แต่รอฟังว่าพี่ปราบจะตอบว่ายังไง ถ้าพี่ปราบพูดความจริงออกมา ทุกคนก็จะรู้กันหมด ซึ่งผมไม่อยากให้ใครรู้ แค่พวกเขาสงสัย ยังคอยแต่จะจับคู่ผมกับพี่ปราบ แล้วถ้าพวกเขารู้ความจริง ผมรู้เลยว่าผมไม่ชอบแน่ๆ ขอให้พี่ปราบไม่พูดมันออกมา

ผมลองสบตาพี่ปราบที่กำลังมองผมด้วยสายตาแน่วแน่ ผมส่ายหน้าเบาๆไม่ให้เขาพูด แต่พี่ปราบไม่เชื่อผม

“ใช่ กูชอบไอ้ซ่า” พี่ปราบพูดออกไปแล้ว ทุกคนไม่มีใครพูดอะไร มองพี่ปราบกับผมสลับกัน

“สรุปพวกมึงสองคนคบกันอยู่เหรอ” เฮียธีร์ชี้มาที่ผมกับพี่ปราบ

“ไม่ใช่!” เพราะตกใจ เสียงของผมเลยกระแทกกระทั้นไปนิด “ผมไมได้คบกับพี่ปราบ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย” ผมรีบพูดต่อ

“แล้วเฮียจีบไอ้ซ่ามันอยู่เหรอ” ไอ้ตูนยิงคำถามใส่พี่ปราบบ้าง

“กูดูเหมือนจีบมันเหรอ” พี่ปราบกลับถามกลับแทน

“พวกพี่ไม่ตกใจเลยเหรอ” ไอ้กานดูจะงงที่พวกเฮียๆดูปกติไม่ตกใจอะไร

“มีอะไรน่าตกใจ พวกกูรู้และสงสัยก่อนพวกมึงอีกมั้ง รู้สึกระแคะระคายมาตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้ไอ้ปราบไม่พูดก็พอจะดูออก”

ตั้งแต่แรก? มันคือตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่ตอนไหน

“เฮียบีท ตั้งแต่แรกมันคืออะไร” คราวนี้ผมเป็นคนถามเอง

“ก็ตั้งแต่ที่พวกกูรู้จักมึงนั่นแหละ ไอ้ปราบไม่เคยทำดีกับใคร ไม่เคยเสียเวลาช่วยเหลือใคร ที่มันไปหามึงคอยดูแลมึงก็เพราะมันชอบมึงไง กูพูดถูกไหมไอ้ปราบ”

“พี่...” ผมหันไปมองพี่ปราบอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“อืม กูเข้าหามึงเพราะกูชอบมึง” แต่ไหนแต่ไรพี่ปราบไม่เคยพูดโกหก คนอย่างพี่ปราบมักพูดแต่ความจริงเสมอ เป็นคนพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม

“พี่เข้าหาผม พี่ต้องการอะไร”

ช่วยบอกที่ว่าแค่สงสารคนไม่มีอะไรดีในชีวิตอย่างผม

“เพราะกูอยากได้มึง”

ไม่ใช่เหตุผลนี้ ผมไม่อยากได้ยิน

“เอ้า พี่ปราบเขาบอกมึงแล้วว่าเขาชอบมึง มึงจะตกลงคบกับเขาไหมน้องซ่า” ผมตวัดสายตาไม่พอใจใส่ไอ้กานที่เล่นไม่ดูเวล่ำเวลา

“พวกกูก็อยากรู้นะ เพื่อนกูชอบมึง แต่มึงดูไม่อะไรกับเพื่อนกูเลย มันทำทุกอย่างก็เพื่อมึง มึงจะไม่ตอบแทนมันหน่อยเหรอวะ” เฮียกี่พูดจาได้ไม่เข้าหูผมสุดๆ

เพราะพี่ปราบดีกับผม ผมต้องตอบตกลงใช่ไหม มันไม่เล่นตลกกับความรู้สึกผมเกินไปเหรอ

“พวกมึงอย่าพูดอย่างนั้น กูไม่ได้อยากให้มันตอบแทนความรักของกูหรอก พอๆ มึงเห็นหน้ามันไหม เดี๋ยวก็หมดสนุกกันพอดี” พี่ปราบช่วยพูดให้ทุกคนหยุดซักไซ้ผมเสียที

ตลอดค่ำคืนผมนั่งก้มหน้ากินเหล้าไม่พูดหรือเล่นอะไรกับคนอื่นๆ ตอนนี้ทั้งรู้สึกผิดหวังแล้วก็เสียใจ ถ้าพี่ปราบไม่ได้ชอบผม เขาก็จะไม่ดีกับผมใช่ไหม ไม่ช่วยเหลือผมใช่ไหม ผมก็จะไม่มีใครใช่ไหม แล้วถ้าผมไม่ตอบรับความรักของพี่ปราบ ผมผิดใช่ไหม

พี่ปราบทำให้ผมเพราะหวังต้องการผม ในเมื่อวันนี้พี่ปราบไม่ได้ เขาก็จะไปจากผม จากนั้นผมก็จะกลายเป็นคนๆเดิมที่ไม่มีใครต้องการ

นี่ผมหวังอะไรอยู่ โคตรงี่เง่าเลย

ผมแทบไม่รู้สึกตัวเลยว่ากลับมานอนที่ห้องได้ยังไง ทันทีที่ความเย็นกระทบผิวหน้าและลำคอ ตาทั้งสองข้างก็ค่อยๆลืมขึ้น คนตรงหน้าที่ดูแลผมก็ยังเป็นพี่ปราบ

“จะอ้วกไหม” พี่ปราบถาม ผมส่ายหน้า

“ทำไมพี่ถึงชอบคนอย่างผม”

ผมไม่มีอะไรดีเลย ไม่คู่ควรด้วย

“กูรักมึงเพราะรัก แต่มึงอย่าคิดมาก กูจะไม่ทำให้มึงลำบากใจหรอก เอาเป็นว่ากูจะเลิกรักมึง โอเคไหม”

“...”

เลิกรักผมงั้นเหรอ

ทำไมฟังแล้วถึงปวดใจจังวะ

“ซ่า ก่อนกูจะไป ให้กูจูบได้ไหม”

“...” เมื่อกี้พี่ปราบพูดว่าอะไร คงไม่ได้จะทำจริงใช่ไหม

“ไม่ตอบกูถือว่าอนุญาตนะ” พี่ปราบคิดเองเออเอง เพราะสมองผมประมวลผลช้า รู้ตัวอีกที่พี่ปราบก็จูบผมแล้ว และเมื่อลิ้นพี่ปราบแทรกเข้ามาในปากของผม ร่างกายของผมเหมือนถูกไฟช็อต ผมรีบผลักพี่ปราบออกจากตัวทันที แล้วคู้ตัวนอนหันหลังใส่พี่ปราบทันที

“ซ่า...”

เกิดอะไรขึ้น ผมทำอะไรลงไป

“ซ่า...” พี่ปราบเรียกผมอีกครั้ง มือใหญ่และหนาจับเข้าที่ไหล่พยายามจะพลิกตัวผมให้นอนหงาย

“อย่า” ผมพูดเสียงสั่น ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก “อย่ายุ่งกับผม”

“กูขอโทษ”

“อย่ามาใกล้ผมอีก ผมไม่ได้เป็นเกย์”

ผมไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองจะทำร้ายใครไหม แต่ตอนนี้ผมอยากร้องไห้ พี่ปราบคนเดิมไม่มีอีกแล้ว รวมทั้งผมคนเดิมด้วย ผมไม่ใช่เด็กดีของพี่ปราบอีกต่อไป






ขากลับผมยังคงนั่งรถมากับพี่ปราบ ขอไปกับเฮียกี่แต่บ้านเฮียกี่อยู่คนละทางกับห้องผม ถ้าผมไปด้วยต้องขับย้อนไปย้อนมา ผมไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนไปกับความต้องการของผม เลยยอมขึ้นรถพี่ปราบเหมือนเดิม โดยผมเลือกที่จะปิดตาหลับตลอดทาง สุดท้ายก็เผลอหลับไปเอง ตื่นก็ตอนที่พี่ปราบปลุก

“ถึงคอนโดแล้วซ่า”

“ครับ” ผมงัวเงียตื่น มองออกไปนอกรถ ถึงแล้วจริงๆด้วย ผมยกมือไหว้พี่ปราบ หยิบกระเป๋าเตรียมลงจากรถ

“ซ่า เดี๋ยวก่อน” พี่ปราบเรียกเอาไว้ ผมเลยหันไปมองหน้าเขา “กูขอโทษ”

“ไม่พี่ พี่ไม่ต้องขอโทษหรอก”

“ กูต้องขอโทษ ขอโทษแทนเพื่อนกูด้วย พวกมันไม่รู้ว่ากูไม่ได้หวังอะไรจากมึง และพวกมันก็ไม่ได้จั้งใจจะพูดให้มึงรู้สึกไม่ดี”

“...”

“จริงๆกูก็หวัง แต่กูรู้ว่ากูเปลี่ยนมึงไม่ได้ รู้มึงไม่ได้ชอบผู้ชาย และกูจะไม่บังคับ จะถอยห่างออกมาจากมึง ขอให้มึงสบายใจ”

“ผม...”

ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะ ผมอยากให้ชีวิตผมมีพี่ปราบ แต่ถ้ารั้งเขาไว้ก็จะเป็นการทำร้ายเขา

“มันก็ความผิดกูเอง ต่อไปนี้มึงสบายใจได้นะซ่า มึงจะไม่ต้องอึดอัดที่มีผู้ชายอย่างกูมาชอบมาอยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าการที่กูอยากอยู่ใกล้มึงมันเป็นปัญหา กูก็จะถอยออกไปเอง มึงก็รู้ว่ากูหวังดีกับมึงเสมอ ยังเป็นพี่ชายของมึง มีปัญหาส่งข้อความมาหากูได้ กูยินดี ถ้าอยากโทรมาก็ได้ถ้ามึงต้องการ แต่กูจะอยู่ในที่ของกู ไม่ไปวุ่นวายกับมึงอีก โอเคไหม” เสียงพูดของพี่ปราบค่อยๆผ่อนเบาลงเหมือนคนหมดแรง แววตาของพี่ปราบยังอ่อนโยนเหมือนเดิม แต่ความหมายของประโยคค่อยๆทำให้ผมรู้สึกใจหาย

ไม่ดี...ผมอยากพูดออกไป แต่ปากมันหนัก เพราะใจหนึ่งผมก็อยากยุติเรื่องบ้าๆพวกนี้ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว

“ผมขอโทษ” ที่พูดได้ก็มีแต่คำๆนี้เท่านั้น

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษ” พี่ปราบขยับเข้ามาใกล้ ยกมือลูบหัวผมเหมือนที่เคยทำ ก่อนจะแบมือตรงหน้าผม ทุกครั้งที่ผมกำลังกลัวกับอะไรบางอย่าง มือคู่นี้จะยื่นมาตรงหน้าเสมอ และครั้งนี้ผมไม่ปฏิเสธที่จะจับมือพี่ปราบไว้อีกครั้ง

“ผม...”  เสียใจ

“กูไม่ได้โกรธมึงหรอกนะซ่า และกูไม่เสียใจกับทุกอย่างที่ทำให้ ทำให้เพราะชอบมันก็ใช่ แต่มากกว่านั้นคือกูหวังดีกับมึงจริง อย่าคิดมาก หลังจากนี้มึงก็ใช้ชีวิตของมึงไป กูจะใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนกัน เอาจริงๆที่ผ่านมากูไม่ได้คาดหวังว่ามึงจะต้องมารักมาชอบกูหรอก กูก็ยัดเยียดตัวเองให้มึงด้วย เพราะฉะนั้น...อย่าร้องไห้ มันจะยิ่งทำให้กูรู้สึกผิด”

ถ้าพี่ปราบไม่บอก ผมไม่รู้เลยว่าน้ำตามันไหลตอนไหน

“ขึ้นไปพักผ่อนเถอะ มึงเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กูก็จะกลับไปพักเหมือนกัน”

“ขอบคุณนะครับ ที่ผ่านมา ผมเป็นหนี้พี่ ผมขอโทษจริงๆ” ผมก้มหน้าไม่กล้าสบตา เลยไม่รู้ว่าพี่ปราบส่งยิ้มที่จริงใจที่สุดมาให้

และเพื่อไม่ให้ตัวเองอ่อนแอไปมากกว่านี้ ผมรีบลงจากรถแล้วเดินเข้าคอนโดขึ้นห้องพัก เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องแล้วผมก็ปล่อยให้ตัวเองนั่งพิงประตูร้องไห้เงียบๆ

“ผมขอโทษพี่ปราบ ผมขอโทษ” ผมไมได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย ถ้าผมเป็นผู้หญิง ผมจะไม่ทำให้พี่ปราบเสียใจ ผมจะไม่ทำ










 :L1:

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่23


[ซ่า]

นับจากวันนั้น ผมก็ไม่ได้เจอพี่ปราบมาสองอาทิตย์ได้แล้ว ทุกวันหลังเลิกเรียนผมไม่เคยเห็นคนที่เคยมายืนรอ เพียงเพื่อพาผมไปออกกำลังกายหรือพาไปทำกิจกรรมอย่างอื่น ทุกวันที่ไปทำงานที่ร้านอาเจ พี่ปราบก็ไม่เคยแวะไป พี่ๆในร้านถามหาพี่ปราบว่าหายไปไหน แต่ผมไม่รู้จะตอบยังไง ผมไม่กล้าแม้แต่จะส่งข้อความไปถามด้วยซ้ำว่าเขาสบายดีไหม

ชีวิตผมควรจะดีขึ้น สบายใจขึ้นที่ไม่มีผู้ชายมาแอบรักแอบชอบผู้ชายอย่างผม ผมควรดีใจแล้วมองหาผู้หญิงสักคนที่จะมาเติมเต็มความเหงาให้ผมได้ แต่ไม่ว่าจะมองใครผมก็เห็นแต่หน้าพี่ปราบ

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้

ทำไมผมถึงอยากเจอพี่ปราบ การที่เขาไม่มายุ่งกับผมอย่างที่ผมเคยต้องการ มันโคตรไม่มีความสุข

ก่อนถึงเวลาร้านเปิด ผมที่เตรียมตัวเรียบร้อยก็ออกมานั่งสูบบุหรี่หลังร้านให้หัวโล่ง ไม่อย่างนั้นผมได้ทำหน้าเหี้ยใส่ลูกค้าโดยไม่รู้ตัวแน่ๆ

ตอนบวชผมเลิกบุหรี่ได้แล้ว แต่คราวนี้กลับต้องกลับมาพึ่งมันอีก เวลาเครียดมากๆมันก็พอจะช่วยให้อารมณ์ผมเย็นลงได้

ตลอดเวลาที่ทำงาน  เวลาที่ได้ยินเสียงประตูร้านเปิด ผมจะต้องหันไปมองทุกครั้งเหมือนคนเป็นโรคประสาท ถึงไม่อยากคิดว่าทำไมผมถึงต้องคอยมอง แต่ผมจะโกหกตัวเองได้ยังไงว่าผมหวังว่าจะเจอพี่ปราบสักครั้งที่มีคนเปิดประตูเข้ามาในร้าน

สี่ทุ่มเป็นเวลาพี่ปราบจะนั่งอยู่หน้าบาร์เครื่องดื่มตรงนี้ทุกวันที่ผมมาทำงาน ตอนนี้ผมได้ย้ายมาทำงานเป็นผู้ช่วยบาร์เทนเดอร์หรือพี่บิ๊กเต็มตัว นานๆครั้งถึงจะออกไปเดนเสิร์ฟอาหาร แต่ไม่เคยเห็นพี่ปราบมานั่งที่นี่อีกเลย

“ช่วงนี้มึงเป็นอะไร ไม่ค่อยยิ้มเลย” พี่บิ๊กวุ่นวายอยู่กับการเช็ดแก้ว แต่ก็ยังมีเวลาแวะมาใส่ใจอาการแย่ๆของผม

“เปล่าพี่” ผมเลี่ยงที่จะตอบ

“ทะเลาะกับเฮียปราบเหรอไง หรือว่าเลิกกันแล้ว” คิ้วของพี่บิ๊กเลิกขึ้นสูงเหมือนสงสัยและครุ่นคิดกับตัวเอง

“เลิกกันอะไรของพี่ ผมกับพี่ปราบไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“เรื่องจริง?” พี่บิ๊กดูจะตกใจนิดหน่อย “แต่เฮียปราบเขาชอบมึงนี่”

“ทำไมพี่รู้” ดูเหมือนคนรอบตัวพี่ปราบจะรู้เรื่องนี้กันหมด

“หรือมึงดูไม่ออก เฮียออกจะเทคแคร์มึงดี ไปถามคนในร้านได้ หรือถามอาเจ เฮียปราบไม่เคยต้องมานั่งเฝ้าเด็กหรือพนักงานที่ร้านแล้วพาไปส่งบ้านทุกวันหรอก”

มันก็จริง ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบจริงๆใครจะยอมทำแบบนั้น ทั้งๆที่พี่ปราบงานเยอะ แต่ก็ยังมาดูแลผมทุกวัน

“แต่ผมเป็นผู้ชาย” ผมพูดเสียงเบา ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่าผมพูดกับพี่บิ๊กได้

“มึงจะบอกว่ามึงไม่ชอบผู้ชายหรือไง เหอะ หึหึ” พี่บิ๊กแค่นเสียงหัวเราะแล้วส่ายหน้า มองผมด้วยสายตาเหมือนผมมันเป็นคนโง่งี่เง่า

แต่ผมมันก็โง่งี่เง่าจริงๆนั่นแหละ

“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องคบกับผู้ชายมาก่อน” เรื่องนี้ติดอยู่ในใจผมตลอด ผมสลัดมันออกไปไม่หลุด

“โอ้โห คำพูดมึงนี่กูนึกว่ามึงเกิดเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว ไอ้พัชนี่มันยุคไหนแล้ว ไม่มีใครเขามานั่งถือกันแล้วว่าจะคบกับผู้หญิงหรือผู้ชาย มันต้องดูว่าใครที่ทำให้มึงมีความสุข ใครที่อยู่ด้วยแล้วชีวิตดีขึ้น”

“ผมไม่รู้” พี่ปราบทำให้ผมได้ทุกอย่างแบบที่พี่บิ๊กบอก แต่ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดเลย

“พัช มึงฟังนะ เรื่องของความรัก อย่าใช้สมองคิด ต้องใช้หัวใจ มึงอายุแค่นี้เอง จะต้องไปคิดอะไรมากมาย ทำตามใจตัวเองซะ อยากทำอะไรก็ทำ ถ้ามันไม่เวิร์คก็ปล่อยแม่งไป ความผิดพลาดในชีวิตไม่ใช่เรื่องแย่ มองให้มันสนุกมันก็จะสนุก ใช้ชีวิตให้เต็มที่ วันนี้ตอนนี้คนที่ดีมาอยู่ตรงหน้ามึง เขาเป็นผู้ชายแล้วไง พุ่งชนแม่งสักตั้งให้รู้ไปว่ามึงไม่ชอบจริงๆ มึงเคยมีแฟนไหม เลิกกันเหตุผลอะไร แล้วตายไหม ก็ไม่ตาย แล้วมึงจะไปคิดมากทำไมวะ เข้ากันไม่ได้ก็เลิก แต่ถ้าเข้ากันได้ มึงไม่คิดว่าแม่งจะต้องดีมากแน่ๆเหรอวะ”

“พี่ปราบจ้างพี่มาป่ะเนี่ย” ผมแค่พูดให้มันดูตลกไปงั้น แต่สมองผมกำลังวุ่นวายสุดๆ

“คนอย่างเฮียปราบยังจะต้องจ้างกูให้มาเป่าหูมึงเหรอ ลูกนักธุรกิจทั้งผู้หญิงผู้ชายเข้าหาพี่ปราบวันหนึ่งกี่คนมึงเคยรู้ไหม เขาเลือกได้ แต่มึงเลือกไม่ได้แล้วยังจะเรื่องมากอีก แล้วไม่ต้องมาพูดนะว่ามึงไม่ชอบผู้ชาย ถ้าเฮียปราบชอบกู บอกเลยต่อให้กูต้องเป็นเมียเขากูก็ยอม เพราะอะไรมึงรู้ไหม”

ผมส่ายหน้า พี่บิ๊กก็เป็นผู้ชายร่างใหญ่พอๆกับเฮียปราบเลยนะ ถ้าต้องไปเป็นเมียเฮียปราบ แม่งคงขนลุกน่าดู

“เพราะเฮียปราบเป็นคนที่จริงจังและจริงใจ เป็นผู้ชายแบบที่กูอยากเป็นมากๆ มีเหตุผลใจเย็นและเป็นผู้ใหญ่ มึงมองคนในร้านดิ ผู้ชายบางคนมีเงิน เต๊าะผู้หญิงไม่เรื่อย แต่เฮียปราบไม่เคย ไม่เคยให้ความหวังใครถ้าไม่คิดจะเล่นด้วย ผู้ชายน่ะมันก็ต้องมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาบ้าง แต่ก็ไม่เคยเจอเด็กพี่ปราบมาทะเลาะตบตีแย่งกัน กูสังเกตว่าพี่ปราบเขาชัดเจนกับคนที่เขาหาเขาว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ ผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหนเข้าข่ายจะสร้างปัญหาแกก็ไม่ยุ่งเลย มึงน่าจะรู้จักนิสัยเฮียดีมากกว่ากูนะจริงไหม”

ผมไม่ปฏิเสธเลยว่าพี่ปราบเป็นคนแบบนั้น ให้เกียรติทุกคน ผมไม่เคยเห็นพี่ปราบทำตัวหม้อผู้หญิง ไม่เคยมองผู้หญิงแบบโลมเลียไม่ให้เกียรติ แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยเซ็กซี่และพร้อมจะเสนอตัวให้พี่ปราบแค่ไหน พี่ปราบก็ไม่เคยใส่ใจ กับผมเองที่พี่ปราบชอบมาตั้งแต่แรก แต่พี่ปราบก็ไม่เคยล่วงเกินผมเลย ยกเว้นที่กาญจนบุรี

“ผมสับสนว่ะพี่”

แก้วเหล้าใบหนึ่งที่มีเครื่องดื่มสีเหลืองอำพันถูกเลื่อนมาตรงหน้า ผมคิดว่าพี่บิ๊กจะให้ทายว่ามันคือค็อกเทลสูตรไหน แต่เขากลับบอกให้ผมดื่ม

“ดื่มซะ แก้วนี้กูเลี้ยงเอง กูรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ได้จะตัดสินใจได้ง่ายๆ มึงก็ค่อยๆคิด แต่อย่างที่บอก ให้หัวใจมึงนำทาง แล้วมึงจะไม่เสียใจ”

ต้องให้หัวใจนำทางยังไง ในเมื่อผมยังไม่รู้ใจตัวเองเลยสักนิด








เข้าอาทิตย์ที่สามแล้วที่พี่ปราบไม่ได้มายุ่งกับผม อาทิตย์ที่ผ่านมาพี่ปราบแวะไปที่ร้านอาเจสองครั้ง แต่ทั้งสองครั้งผมได้แต่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ พอพี่ปราบเห็นผมก็ไม่ได้เข้ามาคุย ก่อนจะขอตัวรีบกลับไป ดูยังไงก็รู้ว่ากำลังหนีหน้าผมชัดๆ ไหนคนไหนที่บอกว่าเรายังเป็นพี่น้องเหมือนเดิมได้ ทำไมพี่ปราบถึงทำเหมือนไม่อยากเจอหน้าผมด้วย

“เฮ้อ” หรือจะเป็นแค่ผมคนเดียวที่รู้สึกอยากเจอพี่ปราบจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร ป่านนี้พี่ปราบคงรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ที่ไม่มีผมในชีวิต

“ไอ้ซ่า มึงเข้าไปนอนหลับใต้ท้องรถหรือไง ตกลงรถเป็นอะไร มึงซ่อมหรือยัง” เสียงไอ้หวายตะโกนดังลั่นโกดังซ่อมรถของโรงเรียน ผมสะดุ้งเผลอยกตัวให้หัวโขกกับใต้ท้องรถ ไอ้สัด เจ็บเหี้ยๆ หัวโนแน่เลยกู

“ตะโกนหาพระแสงอะไรไอ้หวาย กูตกใจ” ผมตะโกนด่ามันกลับไป”

“จะเลิกเรียนแล้ว มึงทำงานเสร็จหรือยังล่ะ พวกกูจะกลับแล้ว หรือมึงจะนอนนี่”

อะไรวะ จะเลิกเรียนแล้วเหรอ ผมก้มมองดุนาฬิกาข้อมือ เรือนนี้ของพี่ปราบ ที่ไม่ใช่อันแพง แต่พี่ปราบซื้อให้เป็นของขวัญที่ผมตัดสินใจกลับมาเรียนต่อ

วันหลังผมจะไม่ใส่นาฬิกาเรือนนี้แล้ว ไม่งั้นผมก็สลัดพี่ปราบออกจากหัวไม่ได้สักที

“เออๆ กลับดิ กูต้องไปทำงาน” ผมไถลตัวออกจากใต้ท้องรถ ไอ้สี่คนยืนเท้าเอวมองหน้าผมเหมือนจะหาเรื่อง

“กูคิดว่ามึงตรอมใจตายใต้ท้องรถไปแล้ว นี่กะว่าจะโทรให้เฮียปราบมารับศพอยู่” 

“ไอ้สัด” ผมด่าไอ้หวายที่เอ่ยชื่อคนที่กำลังทำให้ผมเป็นบ้า “กูไม่ได้ตรอมใจเว้ย”

“เหรอ น่าเชื่อตายเลยมึง” ไอ้นุ๊กโยนกระเป๋าเป้ส่งมาให้ผม

“มึงรู้ตัวไหมว่าตั้งแต่กลับจากกาญจนบุรี มึงกลับมาเป็นคนเดิมที่วันๆเอาแต่นั่งทำหน้าอมทุกข์ เหมือนตอนที่มึงเลิกกับพลอยไม่มีผิด”

“ไม่ใช่ไอ้ตูน มึงพูดผิด ยิ่งกว่าอีก ตอนเลิกกับพลอย กูเห็นแม่งก็ยังเฮฮาได้ แม้บางครั้งจะชอบทำตัวเป็นพระเอกเอ็มวีเมียทิ้งก็ตาม แต่ตอนนี้กูคิดว่าแม่งเป็นซอมบี้ สารรูปดูไม่ได้เลย”

“เออ วันนี้กูก็ขอไม่ตลกนะ มึงไหวไหมวะไอ้ซ่า มึงต้องส่องกระจก บอกเลยว่าตอนนี้กูหล่อกว่ามึงอีก นี่กูไม่ได้โกหกเลยนะ กูพูดจริง” แรกๆก็เหมือนจะจริงจัง สุดท้ายคนอย่างไอ้กานก็ไม่พ้นกวนประสาทชาวบ้านอยู่ดี

“กูสบายดี” ผมโกหกให้พวกมันสบายใจ รวมถึงตัวผมเองด้วย

“มึงไม่สบายดี มึงอย่ามาโกหก” ไอ้หวายทำหน้าจะเป็นจะตายเสียยิ่งกว่าผมอีกมั้ง

“กูไม่เป็นไรหรอก กูสบายดี กูกลับล่ะ จะไปทำงาน” ผมยิ้มให้พวกมัน

“มึงอย่าหลอกตัวเองเลยซ่า พวกกูดูออกว่ามึงเองก็รู้สึกดีกับเฮียปราบ ทำไมวะ กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงกับเฮียตัดสินใจกันยังไง แต่ที่มึงเป็นอยู่แบบนี้มันดีแล้วเหรอวะ”

มันไม่ดีหรอก แต่ผมไม่รู้จะจัดการกับความกลัวของตัวเองยังไง






ผมกลับมาที่คอนโดและเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ผมเปิดประตูห้องในคอนโดแล้วต้องยืนค้างนิ่งอยู่หน้าประตู ที่เคยมีเจ้าของห้องแวะมาหามาอยู่เป็นเพื่อน ไม่ปล่อยให้ผมเหงาและโดดเดี่ยว

‘กินข้าวให้ตรงเวลาสิ กูบอกว่าไง เป็นโรคกระเพาะแล้วมึงจะรู้สึก’

ผมรู้สึกจริงๆ ตั้งแต่พี่ปราบไม่อยู่ผมก็ได้โรคมาหนึ่งโรค ผมก็อยากจะกินข้าวนะ แต่มันกินไม่ลง อาหารในตู้เย็นแทบไม่มี ที่จะมีก็แต่เหล้ากับเบียร์ ผมไม่พึ่งมันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นตอนกลางคืนผมจะนอนไม่หลับ

เหลือเวลาก่อนเข้างานสองชั่วโมง ผมไม่รู้จะทำอะไร ไม่อยากอยู่ห้องนานเกินไป ไม่อย่างนั้นผมก็คอยแต่จะนึกถึงตอนที่มีพี่ปราบอยู่ในห้อง ทำไมพี่เขาต้องตามมาหลอกหลอนผมด้วย

“พี่ปราบแม่ง นิสัยไม่ดี” คนตัวไม่อยู่ แต่ก็ส่งวิญญาณมากวนอยู่ได้

ผมยังไม่อยากเข้าร้านเลย ก็เลยพาตัวเองมาที่สวนสาธารณะที่พี่ปราบเคยมาตอนที่ผมกับเขารู้จักช่วงแรกๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมา แต่นั่งรถเมล์เพลินไปหน่อย ก็เลยมาลงที่นี่

‘เอามือมึงมาวางบนมือกูสิ...กูจะเติมพลังให้ เมื่อไหร่ที่มึงคิดว่าไม่ไหว ให้ส่งมือมาแล้วกูจะช่วยมึงเอง’

มือทั้งสองข้างค่อยๆแบออก สิ่งที่เห็นคือมือของผมที่กำลังสั่นเทาและว่างเปล่า มันสายไปแล้ว ต่อให้ยื่นมือออกไปจนสุดแขน ก็ไม่มีมือคู่นั้นที่คอยให้กำลังใจผมอีกต่อไปแล้ว

ในขณะที่ผมกำลังจมปรักอยู่กับความทุกข์ สายเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมรีบหยิบออกมาจะกดรับ แวบหนึ่งแอบคิดว่าเป็นพี่ปราบโทรมา แต่ก็ไม่ใช่ เป็นสายจากแม่

“ว่าไงแม่”

“ซ่า มีเงินให้แม่สี่ห้าพันไหม”

“ห้าพันเลยเหรอ แม่จะเอาเงินไปทำไรอ่ะ”

“เมียไอ้ตั้มอ่ะดิ มันโดนจับตอนไปซื้อยา ไอ้ตั้มมันก็เลยมาเอาเงินที่กูไปประกัน ไหนจะต้องจ่ายค่าแรงคนงานอีก ของก็ยังแยกไม่เสร็จ เลยยังไม่ได้เอาไปขาย แม่งเอ้ยกู ทำเท่าไหร่แม่งก็ไม่พอ แต่ละคนทำงานวันหนึ่งไม่ได้งานแต่จะค่าแรงกูเต็มที่” แม่บ่นยาวเหยียด ปัญหาเดิมๆที่ไม่เคยแก้ได้มาหลายปี ผมขี้เกียจจะฟังเลยตอบตกลงให้มันจบๆ

“เดี๋ยวผมโอนเข้าบัญชีให้ แม่ให้พ่อไปกดเอาแล้วกัน แล้วอย่าอดล่ะ ซื้ออะไรอร่อยๆกินด้วย”

“เออ ขอบใจมึงมาก”

แม่วางสายไปแล้ว ผมก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า เท่ากับว่าเดือนนี้ผมจะเหลือเงินใช้แค่เจ็ดพัน จ่ายค่าห้องให้พี่ปราบสามพันก็เหลือสี่พัน ไหนจะค่ากินค่ารถ เฮ้อ แค่คิดก็ไม่พอแล้ว แต่ถ้าไม่ให้แม่ แม่ก็อด ช่างเถอะ ผมอดได้ไม่เป็นไร แดกมาม่าเอาแล้วกัน

ผมไปทำงานเหมือนเดิม อาเจแวะมาคุยกับผมบ่อยขึ้น แต่บทสนทนาทั้งหมดไม่มีการกล่าวถึงถึงพี่ปราบเลย อาเจคงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกผม พออาเจไม่พูด ผมก็เลยต้องเป็นฝ่ายพูดเอง

“อาเจ พี่ปราบเป็นไงบ้างครับ” ผมแค่อยากรู้ว่าพี่เขาสบายดีไหม

อาเจเลิกคิ้วสูง เหมือนจะแปลกใจที่ผมเอ่ยปากถามเรื่องพี่ปราบ “ก็สบายดีนะ เห็นว่างานยุ่งๆน่ะ”

“เหรอครับ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ถ้าพี่ปราบสบายดีก็ดีแล้ว

“ซ่า อาถามอะไรหน่อยสิ”

“ครับ”

“ซ่าไม่ได้ชอบปราบเลยเหรอครับ”

“...”

“อาไม่อยากยุ่งเรื่องของเด็กๆหรอกนะ แต่ซ่ารู้ตัวไหมว่าตัวเองกำลังไม่มีความสุข มันทำให้เวลาทำงานซ่าไม่มีสมาธิ หน้าตาก็ไม่ยิ้มแย้ม ตอนนี้ก็ผอมจนโทรมอีก ทั้งหมดอาเดาได้ว่าซ่าไม่มีความสุขที่ต้องเลิกยุ่งกับปราบ แต่ทำไมซ่าถึงยอมทำร้ายตัวเองแบบนี้”

ผมคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องโดนดุเรื่องนี้แน่ๆ ผมรู้ตัวว่าผมไม่มีสมาธิทำงานเลย ปกติผมก็ไม่ใช่คนอัธยาศัยดีอยู่แล้ว ยิ่งมีปัญหาเข้ามาผมยิ่งไม่มีอารมณ์จะเข้าหาลูกค้าหรือชวนใครคุย

“ผมขอโทษครับอาเจ” ผมยกมือไหว้ขอโทษที่ทำงานได้ไม่ดี ไม่รู้จักแยกแยะเวลา

“เรื่องงานน่ะไม่เป็นไร แต่เรื่องปราบ อาอยากให้ซ่าลองกลับไปคิดดูนะ ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการคืออะไรกันแน่ ทำตามหัวใจตัวเอง ก่อนที่จะสายเกินไป อาเป็นกำลังใจให้” อาเจยิ้มให้ผม ไม่กล่าวต่อว่าอะไรอีก นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ ไหนจะทำพูดที่พูดเหมือนพี่บิ๊กอีก

ให้ผมทำตามใจตัวเอง

ถ้าตอนนี้ผมอยากเจอพี่ปราบ ผมต้องทำยังไง

เลิกงานผมนั่งรถแท็กซี่ไปยังคอนโดพี่ปราบ ถ้านั่งรถเมล์มันจะช้าเกินไป ผมกลัวพี่ปราบจะนอนหลับไปซะก่อน มาถึงผมก็ชั่งใจอยู่หลายรอบว่าจะโทรไปหาพี่ปราบดีไหม แต่เพราะผมอยากเจอเขามากๆ ก็เลยกลั้นใจกดโทรออก

ไม่มีคนรับ

สายที่สองก็ยังไม่รับสาย

และคืนนี้ผมใช้โควต้าความกล้าหมดแล้ว เลยไม่ได้กดโทรออกครั้งที่สาม เพียงแค่ส่งข้อความให้พี่ปราบง่ายๆว่าฝันดี วันนี้คงไม่ได้เจอ ผมคงต้องกลับก่อนแล้วค่อยมาหาไหม

ผมเดินก้มหน้าออกจากคอนโด มีรถขับสวนเข้ามาและผมกำลังขวางทางเขาอยู่ เลยต้องรีบหลีกทางก่อนที่รถหรูคุ้นตาจะสอยผมไปแดด

รถคันเมื่อกี้...ไม่ใช่แค่คุ้นตาหรอก

ผมรีบหันกลับไปดูให้แน่ใจอีกรอบ แล้วก็มั่นใจสุดๆว่านั่นคือรถของพี่ปราบ เพราะเลขทะเบียนรถมันตอบได้ชัดเจนที่สุด

รีบวิ่งตามรถพี่ปราบไป ผมรู้ว่าเขาจะจอดตรงไหนเพราะพี่ปราบมีที่จอดส่วนตัว วิ่งไปไม่ทันถึงก็ต้องหยุดชะงักอย่างจัง เมื่อผมเห็นพี่ปราบไม่ได้อยู่คนเดียว แต่อยู่กับผู้หญิงที่ผมก็เคยเจอเขามาก่อน...พี่การ์ตูน

จากที่คิดไว้ว่าถ้าได้เจอเขา ผมจะเขาไปทักทาย กลายเป็นว่าผมทำอะไรไม่ได้นอกจากหยุดยืนดูอยู่หลังเสา และยืนมองภาพคนสองคนเดินเข้าไปลิฟต์ในลานจอดเพื่อขึ้นห้อง



(ต่อด้านล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2017 20:47:50 โดย RiRi »

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
สิ่งที่ทำได้ก็คือพาตัวเองกลับห้องให้เร็วที่สุด ผมไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว จะผ่านคืนนี้ไปได้ ผมต้องใช้เหล้าเข้าช่วย เพียงแต่คืนนี้อาจจะต้องเพิ่มปริมาณมากกว่าทุกวัน ลมจากนอกระเบียงพัดเข้ามาในห้อง มาพร้อมกับยุงฝูงใหญ่ที่เริ่มจะดูดเลือดผมเป็นอาหาร

“กินซะมึง เดี๋ยวมึงก็ตายแล้ว เพราะเลือดกูเป็นพิษ” ผมยิ้มขำให้กับไอ้ยุงที่อยู่เป็นเพื่อนผม

“ทำไมต้องรู้สึกด้วยวะ ทำไมต้องเจ็บด้วย มึงควรจะดีใจไอ้ซ่าที่พี่ปราบจะเลิกชอบมึงแล้ว มึงควรดีใจ แต่ทำไมก็เจ็บจนอยากจะร้องไห้ขนาดนี้วะ

หรือผมจะ...รัก

“ไม่ กูไม่ได้รักเขา กูไม่ได้รัก”

ผมอยากจะอยู่คนเดียว แต่ไม่รู้ว่าไอ้หวายกับไอ้ตูนรู้ได้ยังไงว่าผมกำลังนั่งกินเหล้าอยู่ในห้อง เหล้าของพี่ปราบที่เอามาเอามาทิ้งไว้ที่ห้องสองขวด มันต้องมาแย่งผมกินแน่ๆ แต่ผมไม่ให้มันกินหรอก เพราะผมยังไม่เมา ยังไม่ลืมภาพที่พี่ปราบพาผู้หญิงคนอื่นขึ้นคอนโดเลย

“ไอ้ซ่า มึงเลิกกินได้แล้ว ไอ้เหี้ย แดกคนเดียวขวดกว่าเลยเหรอ” ไอ้หวายกระชากตัวผมขึ้นจากพื้นแล้วพยายามจะแย่งขวดเหล้าออกจากมือ

“อย่าเอาไป กูไม่ให้มึงกิน อึก มึง...มึงอยากกินมึงไปซื้อเอง” ผมชี้หน้าด่าไอ้หวายกับไอ้ตูนที่ยืนมองผมอย่างเห็นใจ ไม่ต้องมาทำหน้าน่าสงสาร กูไม่แบ่งให้ เพราะกูไม่มีเงินไปซื้อใหม่แล้ว อันนี้ของพี่ปราบที่เหลือทิ้งไว้ กูเลยโชคดีไม่ต้องเสียเงินซื้อ

“มึงถอยออกมาไอ้หวาย ตัวมึงเล็กกว่ามันตั้งเยอะจะลากไอ้ซ่าไหวได้ไง”

“ไอ้เหี้ย ตัวอย่างกับควาย เฮียปราบไม่น่าชอบมันได้เลยไอ้เพื่อนโง่ ทำกูลำบากไปด้วย”

“แล้วมึงรีบตามกูมาดูมันทำไมล่ะ ไม่ปล่อยมันนั่งจมกองเหล้าไปล่ะ”

“ก็เฮีบปราบโทรมาบอกให้กูมาดูมัน”

“เออ งั้นมึงก็อย่าบ่น หลีกไป”

พวกแม่งบ่นหาอะไรกันก็ไม่รู้ ก่อนที่ไอ้ตูนจะเข้ามาหามผมไปที่ห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำฝักบัวราดตัวผม ไม่พอมันยังใช้สายฉีดก้นมาฉีดใส่ผมอีก ผมร้องห้ามด่ามันยังไงก็ไม่ฟัง พอแกล้งผมจนหนำใจ ก็ขังผมไว้ในห้องน้ำ ไม่สนใจเลยว่าผมจะอาบน้ำไหวไหม ผมไม่มีแรงก็เลยปล่อยให้ตัวเองนั่งอยู่ใต้ฝักบัว ปล่อยให้น้ำไหลรดตัวเองไปเรื่อย

ผมพยายามแล้วจริงๆที่จะไม่คิด แต่ผมทำไม่ได้

ผมไม่อยากยอมรับว่าความจริงแล้ว ผมต้องการให้พี่ปราบอยู่ตรงนี้กับผม

“มึงมันโง่ไอ้ซ่า โคตรโง่” ผมมันแค่คนโง่ที่ทำได้เพียงก่นด่าตัวเอง 

ผมนั่งจมอยู่กับตัวเองอในห้องน้ำอยู่นานพอสมควร จนรู้สึกว่าเริ่มสร่างเมาและเริ่มจะหนาว มือเท้าเริ่มเหี่ยวย่นน่าเกลียด ผมลุกขึ้นยืนด้วยความทุลักทุเลเพราะเหน็บกินขา ถอดเสื้อผ้าออกได้ก็อาบน้ำลวกๆ ก่อนจะออกจากห้องน้ำด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวพันเอวผืนเดียว

“กูกะว่าถ้าอีกห้านาทีมึงไม่ออกมา กูจะโทรเรียกป่อเต็กตึ้งละ” ไอ้หวายชอบปากมากชอบบ่น แต่สีหน้ามันแสดงออกชัดเจนว่ามันเป็นห่วงผม

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จมาเดินไปที่ตู้เย็น ไม่รู้พวกมันสองคนเอาเหล้าผมไปซ่อนไว้ที่ไหน แต่ผมยังมีเบียร์อีกสามกระป๋องแช่อยู่ในตู้เย็น พวกมันคงหาไม่เจอเพราะผมซ่อนไว้อย่างดี

“มึงยังจะกินอีกเหรอไอ้ซ่า”

“พอได้แล้วมั้งมึง คืนนี้กูกับไอ้หวายจะมาอยู่เป็นเพื่อน”

“กูไม่ได้เป็นอะไร จะมาอยู่เป็นเพื่อนกูทำไม” ผมเปิดกระป๋องเบียร์ดื่ม แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาข้างไอ้ตูน ส่วนไอ้หวายนั่งอยู่บนเตียงนอนของผม

“มึงก็พูดแต่อย่างเนี่ย ไม่พูดใครจะเข้าใจมึงวะ เป็นอะไรก็พูดออกมา พวกกูเพื่อนมึงนะ ถึงจะไม่ฉลาดพอที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ แต่พวกกูนั่งฟังเฉยๆได้”

ผมยิ้มรับคำพูดไอ้หวาย เพื่อนของผมไม่ต้องมีเงินเยอะ ไม่ต้องมีชีวิตหรูหรา แต่พวกมันก็จริงใจกับผมเสมอ

“มึงอย่าถามเลยว่ากูเป็นอะไร เพราะตัวกูเองก็ไม่รู้”

ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการอะไรกันแน่

“งั้นมึงไม่ต้องคิด กูจะถามแล้วมึงก็ตอบ” ไอ้ตูนว่า

“จะทำอะไรของมึง” ผมถาม

“ช่วยมึงหาคำตอบไง มึงไม่รู้ว่ามึงเป็นอะไร แค่ตอบคำถามที่กูถามก็พอ มันจะช่วยให้มึงรู้ใจตัวเองมากขึ้น”

ช่วยให้ผมรู้ใจตัวเองงั้นเหรอ ถ้าความคิดของไอ้ตูนมันจะช่วยแก้ปัญหาที่ผมกำลังเผชิญอยู่ได้ ผมก็จะลองดู เพราะตอนนี้ผมไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกที่ตีรวนอยู่ในอกได้ยังไง

“ตอบตามความจริงนะไอ้ซ่า มึงไม่ต้องกลัวอะไร มึงจะรู้สักทีว่าที่มึงซังกะตายอยู่ทุกวันนี้มันเป็นเพราะอะไรกันแน่” ไอ้หวายบอก ผมก็พยักหน้าเข้าใจ

“วันนี้มึงเป็นอะไรทำไมถึงกินเหล้าเมาเป็นหมาขนาดนี้” เหมือนไอ้ตูนจะทั้งถามและด่าผมในประโยคเดียว

“กู...”

“เอาใหม่ กูว่าน่าจะยากไป ทะเลาะกับที่บ้านหรือเปล่า”

ผมส่ายหน้า ก็ไม่ได้ทะเลาะ แม่แค่มาขอเงิน ผมก็ไม่อะไรมากอยู่แล้ว แลกกับการไม่ต้องกลับไปอยู่ที่บ้าน ผมก็เสียเงินจำนวนนี้ได้

“งั้นก็มีปัญหากับที่ทำงาน”

“เปล่า” ถึงอาเจจะตำหนิเรื่องที่ผมไม่มีสมาธิในการทำงานมากพอ แต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงที่ผมจะต้องเก็บมาเครียด จะมีก็แต่…

“งั้นก่อนกลับมากินเหล้า มึงไปเจออะไรแย่ๆมาหรือไง”

ผมคิดถึงเหตุการณ์ที่ไปหาพี่ปราบที่คอนโด แล้วเจอพี่ปราบอยู่กับพี่การ์ตูน ถามว่าแย่มัน มันก็แย่จริงๆ

“อืม”

“อะไร” ไอ้หวายทำหน้าอยากรู้อยากเห็นทันที

“กูไปหาพี่ปราบที่คอนโด...” เอาจริงๆ ผมไม่อยากพูดเลยวะ

“พูดออกมาไอ้ซ่า ไม่พูดมึงก็จะไม่รู้ใจตัวเองสักที”

“กูเจอพี่ปราบอยู่กับผู้หญิง เหมือนเขาจะกำลังคบกัน” ผมเล่าเสียงเบา

“มึงรู้ได้ไงว่าเขาคบกัน”

“ไม่คบกันจะพาขึ้นคอนโดเหรอวะ” ผมสวนกลับคำถามของไอ้ตูนทันที ไอ้ตูนสะดุ้งเสียงของผม มันหันไปมองหน้าไอ้หวายก่อนจะหลุดยิ้ม ยิ้มห่าอะไร คนยิ่งเครียดๆอยู่

“แล้วมันไม่ดีเหรอวะ พี่ปราบมีแฟน เขาจะได้เลิกชอบมึงไง มึงจะได้ไม่ต้องอึดอัดที่มีผู้ชายมาชอบ”

มันก็ควรจะดีไง ผมเคยคิดว่ามันจะดี แต่มันไม่ดี กูหงุดหงิด

“มึงไม่ชอบใช่ไหม ที่พี่ปราบมีแฟน”

“...”

“ไอ้ซ่า”

“มั้ง” เพราะผมไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ชอบ จึงให้คำตอบจริงๆไม่ได้

“กูตอบให้ว่ามึงไม่ชอบ ถ้าชอบคงไม่แดกเหล้าหมดเป็นขวดๆแบบนี้” ไอ้หวายสรุปเอาเอง แต่ผมก็ไม่ได้เถียง

“แล้วมึงไปหาพี่ปราบทำไม”

ไปหาเพราะ...

“กูอยากเจอเขา”

“ทำไมมึงถึงอยากเจอ มีธุระเหรอ” 

ไม่มีธุระหรอก เพราะผมแค่...คิดถึง

“มึงคิดถึงเขาก็พูดไปไอ้ซ่า อ้ำอึ้งหาพ่อมึงเหรอไง” ไอ้หวายดูจะทนไม่ได้

“ไอ้หวายพูดถูกไหม” ไอ้ตูนถาม

“อืม” ผมก็ยอมรับไปตามความจริง “เออ กูคิดถึงเขา พวกมึงพอใจหรือยัง กูเคยเจอเขาตลอด พอไม่เจอมันก็อยากเจอเปล่าวะ”

“อ่อเหรอ” ไอ้หวายลากเสียงกวนตีน 

“ถ้าแค่คิดถึง ไม่มีอะไร ทำไมมึงต้องรู้สึกไม่ชอบตอนพี่ปราบพาผู้หญิงขึ้นคอนโดด้วย”

“...” ผมไม่รู้

“เฮ้อ พวกกูอ่ะรู้ดีเลยว่ามึงเป็นอะไร อยู่ที่ว่ามึงจะยอมรับความรู้สึกตัวเองได้หรือเปล่าไอ้ซ่า”

“อะไร พวกมึงรู้อะไร แล้วกูเป็นอะไร”

“มึงชอบพี่ปราบไง และมึงหึงเขาที่เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ไม่เจอเขามึงก็คิดถึงเขาจนไม่เป็นอันทำอะไร ทำตัวเหมือนศพเดินได้ ไม่มีชีวิตชีวา อย่างกับคนอกหัก แต่เพราะมึงอกหักจริงๆ เพราะมึงบอกเลิกพี่ปราบคนที่มึงรักไงไอ้เหี้ยซ่า” ไอ้หวายโวยวายใส่ผมดังขึ้นๆ มันดูหัวเสียพอควร แต่ผมหูอื้ออึงไปแล้ว ก่อนที่สมองจะค่อยๆชาและว่างเปล่า

“มึง อย่าพูดมั่ว” ผมใกล้จะหมดแรงเต็มที

“กูไม่ได้พูดมั่วไอ้ซ่า มึงต้องยอมรับความจริงได้แล้ว หรือถ้ามึงจะไม่ยอมรับความจริง คืนนี้มึงก็ปล่อยให้พี่ปราบเอากับผู้หญิงคนนั้นไป ก็มึงบอกเขาเป็นแฟนกันนี่ ขึ้นคอนโดไปด้วยกันแบบนั้นจะทำอะไรได้ และถ้ามึงไม่ได้รักพี่ปราบ ไม่ได้หึงอย่างที่มึงบอก มึงจะต้องรู้สึกอะไร ถ้ากูกับไอ้ตูนไปนอนกับผู้หญิง มึงจะเป็นบ้าเหมือนตอนนี้ไหม ก็แค่พี่ที่รู้จักคนหนึ่ง ไม่ใช่คนที่มึงรัก มึงก็ไม่ต้องรู้สึก เข้าใจไหม ไอ้เหี้ย”

สมองผมถูกช็อตไปตั้งแต่ที่ไอ้หวายพูดว่าพี่ปราบกับพี่การ์ตูนอาจจะนอนด้วยกัน

ผมควรนิ่งๆ ไม่ต้องรู้สึกอะไรใช่ไหม

แต่ทำไมหน้าอกต้องบีบรัดแน่นจนเจ็บจนอยากจะอาละวาด

“มึง...กู...” ปากผมสั่น มันไม่มีแรงที่จะพูด

“ไม่เป็นไรไอ้ซ่า กูรู้” ไอ้ตูนดึงไหล่ผมเข้าไปโอบแน่น

“กูจะทำยังไงดี” ผมเผลอกัดปากตัวเองแน่น กลัวที่จะพูดความจริงที่เพิ่งค้นพบออกมา จนริมฝีปากเริ่มจะปริแตกและมีเลือดไหล

หนีไม่ได้อีกแล้ว

ผมไม่เคยมองผู้ชาย ไม่เคยรู้สึกชอบหรืออยากลองคบหากับเพศเดียวกันมาก่อน แล้วทำไมถึงเกิดความรู้สึกแบบนี้ได้ ทำไมถึงได้ชอบพี่ปราบ

คงไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่มันจะโอเคเหรอวะที่ผมรู้สึกแบบนี้กับพี่ปราบ

“ทำไมกูถึงชอบผู้ชายได้วะ” ผมตั้งคำถามกับตัวเอง และกับเพื่อนทั้งสองคนที่อยู่เป็นเพื่อนผมในตอนนี้

“มึงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอก มึงชอบเฮียปราบไง” ไอ้หวายพูดเหมือนจะปลอบใจ

เฮ้อ สรุปกูชอบพี่ปราบจริงๆใช่ไหม

“แต่กูว่าไม่แปลกนะที่มึงจะชอบพี่ปราบ มึงคิดๆดูนะไอ้ซ่า พี่ปราบโคตรของโคตรจะดีกับมึง ดูแลมึงทุกอย่าง ที่พวกกูสงสัยก็เพราะเขาดูแลเอาใจใส่มึงดีเกินไปเนี่ยแหละ ยิ่งกว่าผัวเมียทำให้อีก เจอคนอย่างพี่ปราบเข้าไป มึงไม่รักอ่ะกูว่าแปลก”

มันก็จริงอย่างไอ้ตูนว่า พี่ปราบดีกับผมมากๆ มากจริงๆ เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครทำให้ผมมากเท่าที่พี่ปราบทำให้ ไม่มีใครเข้าใจผมโดยที่ผมแทบจะไม่ต้องพูดออกมาเลย ผมต้องการอะไรไม่ต้องการอะไรพี่ปราบรู้หมด และคอยแต่จะแนะนำผมในสิ่งดีๆ ผมทำผิดก็ไม่ด่า แต่จะถามเหตุผล ในขณะที่คนที่บ้านจะด่ามาก่อน เขาเป็นคนเดียวที่ผมอยู่ด้วยแล้วสบาย อยู่ด้วยแล้วเป็นตัวของตัวเอง ไม่เคยอึดอัดเลย

แล้วดูสิ่งที่ผมตอบแทนพี่ปราบสิ

พอผมเงียบ ไอ้หวายกับไอ้ตูนก็เงียบ ไม่มีใครพูดอะไร พวกมันคงปล่อยให้ผมได้คิด แต่ผมเองกลับคิดอะไรไม่ออก มึนด้วย งงด้วย ผมชอบพี่ปราบ...ไม่อยากจะคิดเลยวะ กระดากทุกที เอาจริงนะ ผมชอบพี่ปราบจริงๆเหรอวะ ไม่อยากเชื่อ และไม่อยากให้มันเป็นเรื่องจริง แต่เป็นไปแล้ว แล้วยังไง พี่ปราบคงไม่กลับมาอีกแล้ว



‘ต่อไปนี้มึงสบายใจได้นะซ่า มึงจะไม่ต้องอึดอัดที่มีผู้ชายอย่างกูมาชอบมาอยู่ใกล้ๆ แต่ถ้าการที่กูอยากอยู่ใกล้มึงมันเป็นปัญหา กูก็จะถอยออกไปเอง’

‘หลังจากนี้มึงก็ใช้ชีวิตของมึงไป กูจะใช้ชีวิตของตัวเองเหมือนกัน’




คำพูดทุกคำพูดของพี่ปราบค่อยๆไหลวนเวียนเข้ามาในห้วงความคิดตลอดเวลา ทั้งสีหน้าและน้ำเสียง บอกให้ผมรู้ว่าพี่ปราบเสียใจและหมดหวังกับคนอย่างผม แล้วตอนนี้ที่ผมรู้ใจตัวเองมันจะไปมีประโยชน์อะไร รู้แล้วได้อะไร สุดท้ายก็เหลือผมแค่ตัวคนเดียว

ส่วนพี่ปราบป่านนี้ก็คงมีความสุขกับสาวไปแล้ว ทำไงได้วะ ผมเลือกเอง

“เป็นอะไรมึง นั่งหน้าเครียดอีกล่ะ” ไอ้หวายยกเท้าถีบขาผมเบาๆ

“พวกมึง ขอบใจนะเว้ย”

“เรื่อง?”

“ที่ทำให้กูหายโง่” แม้จะเป็นในเวลาที่สายก็ตาม

“ไม่เป็นไร เห็นมึงเฉาเป็นผักชีเหี่ยวๆใกล้ตายพวกกูก็พลอยจะเหี่ยวตามไปด้วย”

“ตอนนี้มึงรู้ใจตัวเองแล้ว ก็ไปง้อพี่ปราบซะ จะได้เลิกเฉาซะที”

“มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ววะ พี่ปราบเขาคงคบกับผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว ไม่งั้นไม่พากันขึ้นห้องหรอก”

พี่ปราบไม่ใช่ใครที่พาคนไม่สนิทขึ้นห้องได้ นอกจากเพื่อนเขาทั้งสามคนที่ผมรู้จัก คนอื่นพี่ปราบจะให้รอด้านล่างแล้วลงมาหาเอง

เพราะฉะนั้น ผมคงหมดหวังแล้ว

“มึงอย่าเพิ่งคิดแบบนั้นดิ ไปถามให้แน่ใจก่อนว่ายังไง บางทีอาจจะไม่มีอะไรก็ได้” ไอ้หวายปลอบใจผม แต่ก่อนหน้านี้มันยังพูดอยู่เลยว่าพวกเขาต้องขึ้นไปทำอะไรกันแน่นอน

“เออ ไอ้หวายพูดก็น่าคิด เขาอาจจะอยู่คอนโดเดียวกันเฉยๆก็ได้ พี่ปราบตามติดมึงมาตั้งนานเขายังไม่ทำอะไรมึงเลย แล้วกับผู้หญิงที่มึงว่า น่าจะรู้จักกันได้ไม่นาน ไม่น่ามีอะไรหรอก มึงต้องเชื่อใจพี่ปราบดิวะ” ไอ้ตูนช่วยพูดอีกแรง ทำให้ผมใจชื้นขึ้นมาได้หน่อย หน่อยเดียวจริงๆ

ผมอยากจะเชื่อใจพี่ปราบ แต่ผมก็กลัว มาลองคิดย้อนดู ตอนที่พลอยมานอนที่หอง พี่ปราบมาเห็นกับตา พี่ปราบยังเชื่อใจผม แล้วทำไมผมถึงคิดว่าพี่ปราบจะไปนอนกับคนอื่น

ก็เพราะเขาอาจจะอยากตัดใจจากผมไง ทำไงดีวะกูเนี่ย จิตใจไม่สงบสุขเลย

“เอ้า เครียดหนักไปเลยเพื่อนกู”

“มึง กูว่า เขาอาจจะเลิกรักกูไปแล้วก็ได้ เจอหน้ากูเขาก็หนีตลอด ไม่โทรมาด้วย” จะให้ผมโทรไปก่อนก็ไม่กล้า ได้แต่รอให้เขาโทรมาแต่ก็ไม่โทร

“เอ้า ก็มึงปฏิเสธเขาขนาดนั้น คนเราก็ต้องถอยไปเลียแผลใจเว้ย ตอนมึงเลิกกับพลอยมึงพร้อมเจอหน้ามันเลยเหรอไหมละ เอาตอนนี้อ่ะ เจอแล้วยิ้มทักทายไม่เจ็บไม่โกรธเหี้ยอะไรเลย มึงทำได้ไหม”

ไม่ได้ ผมไม่เคยลืม และยังเจ็บ เพียงแต่ไม่ได้รักอีกแล้ว เพราะใจผมเปลี่ยนไปรักคนอื่น แล้วพี่ปราบจะคิดแบบเดียวกันหรือเปล่า ไม่อยากเจอหน้าผมอีกแล้ว

“กูว่าเขาก็ยังรักมึง แต่เขาก็ต้องรักตัวเองไง มึงไม่เคยฟังเพลงหรือไง คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง”

ผมต่างหากที่เป็นคนแพ้ที่ต้องดูแลตัวเอง ไม่ใช่พี่ปราบหรอก

“คิดๆแล้ว กูพอมีวิธีที่จะทำให้เขากลับมาหามึงอยู่นะ” ไอ้ตูนลูบคางเหมือนลูบหนวด แต่มันไม่มีหนวด ไม่รู้จะทำท่าไปทำไม

“อะไร” แต่ถึงผมจะรู้สึกหมั่นไส้ท่าทางของไอ้ตูน แต่คำพูดของมันจุดประกายความหวังให้ผมมาก

“มึงก็ต้องรักเขาให้มากกว่าที่มึงรักศักดิ์ศรีของตัวเอง มึงไม่ยอมรับเขาเพราะเขาเป็นผู้ชาย กล้าไหมล่ะ เดินเข้าไปหาเขาแล้วทำให้เขารู้ว่ามึงชอบน่ะ”

“ใช่ๆ มึงต้องเป็นฝ่ายจีบพี่ปราบแทนแล้วเว้ย เขาจีบมึงก่อนแล้ว คราวนี้ตามึงแล้ว”

“กูต้องจีบผู้ชายจริงๆเหรอวะ”

ผลั๊วะ! ผลั๊วะ!

“ไอ้สัด!” ผมโดนไอ้หวายกับไอ้ตูนตบหัวอย่างแรงสองที สร่างเมาทันตาเห็น

“ยังจะคิดเรื่องผู้หญิงผู้ชายอีกเหรอห๊ะ!”

“เออๆ จีบก็จีบ แม่งจะไปยากอะไรวะ”

กับผู้หญิงผมยังไม่เคยจีบเลย แล้วจะให้ไปจีบพี่ปราบที่เป็นผู้ชายเนี่ยนะ

แต่เอาวะ ลองแม่งสักตั้ง รอดไม่รอดไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้ผมอยากได้พี่ปราบคืนแล้ว เรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกที แต่พี่ปราบจะยังรู้สึกดีกับผมไหม เรื่องนี้ทำให้ผมกลัว ถ้าโดนเขาไล่กับมาล่ะก็ กูต้องกลับมาร้องไห้แน่ๆ






......................................................................................
สวัสดีค่ะ
อาจจะดูหายไปนาน แต่วันนี้มาลงให้สองตอนติดเลยน้า เพราะไม่อยากให้ค้างกับตอนดราม่าของตอนที่22นานเกินไป  :mew3:
เห็นใจน้องซ่าหน่อยเนอะ นางไม่ฉลาดอยู่แล้ว ไอคิวไม่ดี อีคิวก็ไม่เลิศ ก็เลยจะดูมึนงงและสับสนกับตัวเองพอตัว ไม่รู้ว่าอ่านกันแล้วจะพอเข้าใจไหม ว่าที่มันกลัวและไม่ชินน่ะ มันเขินไง แต่น้องซ่ามันโง่ นั่นแหละ โดนไซโคมันทุกทาง ทุกท้ายก็รู้ใจตัวเอง ต่อจากนี้ก็ต้องลุ้นว่าซ่าจะจีบพี่ปราบติดไหม แล้วพี่ปราบจะให้อภัยน้องหรือเปล่า  :impress2:
แอบคิดว่า...น่าจะต้องมีคนเดาได้ถึงสิ่งที่เราเก็บซ่อนไว้ยังไม่เฉลยออกมา ไหนใครคิดว่าตัวเองรู้ ก็บอกกันได้นะ ว่าเราหลอกคุณไม่สำเร็จ ฮ่าๆๆๆ  :laugh:
ดราม่าหนักๆไม่มีแล้วนะคะ โล่งใจได้เลย จะมีแค่กรุบกริบเท่านั้น พอเป็นสีสันให้ชีวิต
สองตอนนี้แต่งยากพอสมควร กับการต้องงัดเอาความเป็นน้องซ่าออกมาให้ทุกคนเข้าใจง่าย เพราะความเป็นซ่านั้น มันเข้าใจยากมากๆ มากถึงมากที่สุด เล่นเอาปวดหัวทุกครั้งที่เขียนเลย ถ้าชอบไม่ชอบยังไงบอกกันได้นะคะ
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและแสดงความเป็นห่วงพี่ปราบกันอย่างน่าเอ็นดู  :o8:
หวังว่าจะติดตามกันไปจนจบนะคะ
เจอกันอีกทีตอนหน้า
คืนนี้ฝันดีค่ะ
ริริ
 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2017 12:16:55 โดย RiRi »

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
จีบพี่ปราบโลดดดด กว่าจะรู้ใจได้นะซ่า 5555555555 ลุ้นแทบตาย

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ไปง้อพี่ปราบเลย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด