ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0---------------------------------
สวัสดีค่ะ
.
หายไปจากเล้านานมาก ฮ่าๆๆ วันนี้เจอกันอีกแล้ว ดิฉันมีความภูมิใจจะแจ้งให้ทราบว่า ในที่สุด ดิฉันก็แต่งนิยายปีใหม่สำเร็จเป็นปีแรกสักที (หลังจากพยายามมาหลายปีจนเลิกพยายาม ฮ่าๆๆ)
.
เรื่องสั้นเรื่องนี้แต่งโดยอาศัยคาแรคเตอร์ตัวเอกที่เป็นฝ่ายรับ จากน้องMumuMuimingที่เล่นโรลเพลย์ด้วยกันค่ะ 555+ นี่ถ้าไม่ถูกบีบคั้นว่าขอคาแรคเตอร์เขามาแล้วล่ะก็... ดิฉันคงแต่งไม่เสร็จ ฮ่าๆ เริ่มแต่งวันที่31 เสร็จเอาวันที่2อีกปีนึงล่ะค่ะ ก๊ากๆ โอ๊ย ชีวิต
.
ว่าแล้วก็ไปอ่านเรื่องสั้นที่มุ้งมิ้ง (จริงๆ นะคะไม่ได้อำ ดิฉันก็แต่งอะไรมุ้งมิ้งได้ ฮ่าๆๆ) กันดีกว่าค่ะ
.
ความอบอุ่นในคืนข้ามปี อากาศในเดือนธันวาคมของมาร์แซย์ค่อนข้างอบอุ่นเมื่อเทียบกับเมืองอื่นในฝรั่งเศส เพราะที่นี่เป็นเมืองท่า มีพื้นที่ติดกับทะเล ดังนั้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ นักท่องเที่ยวหลายคนจึงเลือกที่จะมาท่องเที่ยว ณ เมืองแห่งนี้ แทนที่จะนั่งจับเจ่าเฝ้าดูหิมะอยู่ที่บ้าน
ภัตรคารบอนนุย* (สายันห์สวัสดิ์) เป็นภัตรคารเล็กๆ ที่เปิดบริการได้ไม่นาน แต่มีชื่อเสียง เจ้าของเป็นเด็กหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปี ที่มีชื่อเรียกว่าเนล เขาเป็นเชฟอายุน้อยที่มีชื่อเสียง หลังจากตระเวนหาประสบการณ์และเก็บเงินไปทั่วยุโรป เจ้าตัวก็ลงหลักปักฐานสร้างร้านเล็กๆ ที่เมืองมาร์แซย์แห่งนี้
เนื่องจากไม่อยากวุ่นวายกับการจ้างผู้จัดการร้าน เนลจึงตัดสินใจเป็นผู้จัดการเสียเอง แล้วยกตำแหน่งพ่อครัวให้กับแกสตัน รุ่นพี่ของเขาที่จบมาจากสถาบันสอนทำอาหารเดียวกัน
แกสตันเป็นคนรูปร่างใหญ่ เมื่อยืนเทียบกับเนลซึ่งค่อนข้างตัวเล็กอยู่แล้ว ยิ่งทำให้เขาดูตัวเล็กเข้าไปอีก ฝ่ายนั้นมีเรือนผมสีทองสลวย ผิดกับเนลที่มีเรือนผมสีดำสนิท บางทีบรรพบุรุษของเขาอาจจะมีเชื้อสายทางเอเชียบ้าง
วันนี้ลูกค้าค่อนข้างแน่นร้าน เพราะเป็นวันสิ้นปี เนลใช้ดวงตาสีเขียวมรกตของเขามองดูบรรดาลูกค้าและบริกรในร้าน เพื่อดูว่ามีส่วนไหนขาดตกบกพร่องบ้างหรือไม่ เขาวางแผนจะปิดร้านในช่วงสามทุ่ม เพื่อให้พนักงานทั้งหมดมีเวลากลับไปเตรียมตัวฉลองปีใหม่ ส่วนตัวเขาเองคงฉลองปีใหม่คนเดียว เพราะปีนี้คนที่วางแผนว่าจะฉลองด้วยก็ไม่มีเสียแล้ว
ชายหนุ่มนึกสงสัยว่าปีนี้คนที่เขาวางแผนจะฉลองปีใหม่ด้วยจะไปฉลองปีใหม่กับใคร จะฉลองคนเดียวเหมือนเขามั้ย แต่ไม่หรอก ฝ่ายนั้นคงมีคนอื่นไปแล้ว เหลือแต่เขานี่แหละที่ต้องฉลองปีใหม่อยู่คนเดียว
เสียงกริงสัญญาณแจ้งว่าอาหารเสร็จแล้วดังขึ้นเป็นระยะไม่ขาดหู เหล่าบริกรในร้านต่างพากันเดินนำอาหารจานหรูไปส่งให้ลูกค้าที่นั่งรออยู่ในร้าน ความคึกคักทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีก็ตอนลูกค้าโต๊ะสุดท้ายเรียกคิดเงินนั่นแหละ
พอเหลือแต่ร้านโล่งๆ ที่มีเพียงบริกรช่วยกันเก็บกวาด เนลก็รู้สึกใจหาย นี่ใกล้ถึงช่วงเวลาที่เขาจะต้องอยู่คนเดียวแล้วหรือ? แม้จะทำใจไว้แล้วว่าการฉลองปีใหม่คนเดียวคงไม่ถึงกับตาย แต่พอใกล้ถึงเวลาจริงๆ เจ้าตัวก็อดรู้สึกว้าเหว่ไม่ได้อยู่ดี ชายหนุ่มตัดสินใจอ้อยอิ่งอยู่ที่ร้าน กระทั่งพนักงานคนสุดท้ายลากลับ จึงปิดประตูร้านแล้วคิดว่าจะขับรถออกไปกินลมยามดึกเล่นสักชั่วโมงสองชั่วโมง เพราะถึงกลับห้องไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่ดี แต่ขณะที่กำลังจะเปิดประตูรถ เสียงใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น
“เนล!”
เมื่อหันไปตามเสียงเรียกก็เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา คนถูกเรียกเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “มีอะไรหรือ แกสตัน?”
“ผมลืมของ” แกสตันพูดพลางหอบพลาง “โชคดีจังที่คุณยังไม่กลับ”
เนลพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ให้ฝ่ายนั้น ก่อนจะยื่นกุญแจส่งให้ แกสตันรับไปแล้วรีบพูดต่อทันที “ขอโทษนะครับ รบกวนเวลาคุณเลย”
เนลตั้งใจจะพูดว่า ‘ไม่ได้รบกวนเลยสักนิด’ เพราะยังไงเขาก็ไม่มีที่ที่จะต้องรีบไปอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูดอะไร ร่างสูงใหญ่ก็วิ่งตื๋อออกไปแล้ว เขาได้แต่มองหลังกว้างๆ นั้น แล้วรู้สึกขึ้นมาว่าน่าจะลองชวนฝ่ายนั้นไปฉลองปีใหม่ดู แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีคนที่จะไปด้วยอยู่แล้วหรือไม่นี่สิ
จริงอยู่ว่าแกสตันไม่ได้แสดงความรังเกียจตอนที่รู้ว่าเขาเป็นพวกรักร่วมเพศ แต่ใช่ว่าฝ่ายนั้นจะอยากไปฉลองปีใหม่กับเขาเสียหน่อย
เนลคิดไปคิดมา ระหว่างยืนรอแกสตันกลับไปเอาของ ไม่นานนักฝ่ายที่เขารอก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมา
“ขอบคุณนะครับ” ฝ่ายนั้นพูด พลางยิ้มทั้งหอบ “ผมลืมกระเป๋าสตางค์ ถ้าคุณกลับแล้วต้องแย่แน่ๆ”
“ไม่เป็นไร” ร่างเล็กตอบ และตั้งใจว่าจะเอ่ยปากชวนฝ่ายนั้นออกไปนั่งรถเล่นด้วยกัน แต่คำพูดกลับไม่หลุดออกจากปากเสียที เนลนึกหงุดหงิดนิสัยพูดไม่เก่งของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่แกสตันยื่นกุญแจร้านให้เขา เขาจึงเผลอจับมือฝ่ายนั้นเอาไว้ด้วย
ความกระอักกระอ่วนเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ท่ามกลางสายลมเย็นๆ ยามดึก แกสตันมองหน้าเขาด้วยสีหน้าแปลกใจระคนสงสัย เนลเองก็รู้สึกสงสัยตัวเองไม่แพ้กัน เขาจับมือข้างนั้นเอาไว้อยู่พัก แล้วรู้สึกว่ามันช่างใหญ่จริงๆ
“เอ่อ...” พ่อครัวรุ่นพี่ที่มีวัยสูงกว่าเขาประมาณสิบปีส่งเสียงขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจนัก ก่อนจะพูดต่อ “คุณไม่รีบใช่ไหม?”
เนลพยักหน้าทันที ฝ่ายนั้นมองเขาอีกอึดใจ แล้วพูดต่อ “งั้นไปกินข้าวกันไหม ผมหิว ยังไม่ได้กินอะไรเลย”
“เอาสิ ไปที่ห้องผมก็ได้” เนลโพล่งออกมา คราวนี้แกสตันเบิ่งดวงตาสีฟ้ามองเขาแบบจริงๆ จังๆ หนุ่มร่างเล็กจึงรีบพูดขึ้นต่อ “ผมเพิ่งคิดเมนูใหม่ได้ คุณเป็นคนแรกที่ต้องไปลองนะ”
ฝ่ายนั้นเบิ่งตามองเขาอีกอึดใจใหญ่ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา “เข้าใจล่ะครับ นี่วันปีใหม่นะเนี่ย”
“ก็ปีใหม่นั่นแหละ” เนลตอบ แล้วรีบชวนอีกฝ่ายขึ้นรถทันที แกสตันมองหน้าเขา แล้วพูดตอบ “ผมเอามอเตอร์ไซค์ไปดีกว่า จะได้ไม่ต้องรบกวนคุณออกมาส่งอีก”
-------------------------------------
เนลรู้มานานแล้วว่าแกสตันมีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง แต่เพราะเขาไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์มากนัก จึงไม่รู้ว่ามันยี่ห้ออะไร รู้แต่ว่าคันใหญ่พอดู ได้ยินบริกรในร้านพูดกันว่ารถมอ’ไซค์คันนั้นราคาแพงเอาเรื่องอยู่ แต่แกสตันไม่ใช่พ่อครัวธรรมดา ตอนยังเรียนอยู่ เนลเคยได้ยินมาว่า บ้านของแกสตันเป็นผู้ดีเก่า เจ้าตัวได้รับมรดกหลายอย่างมาจากปู่ ลำพังแค่มรดกกองนั้น ให้เขาเที่ยวกินเที่ยวใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมดแล้ว บางทีเนลก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมแกสตันถึงยอมตกลงมาทำงานที่ร้านอาหารของเขา
ชายหนุ่มมองผ่านกระจกด้านข้าง ก็เห็นร่างสูงใหญ่ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลังมาไม่ห่างนัก ช่วงค่ำคืนถนนค่อนข้างว่าง และห้องพักของเขาก็อยู่ไม่ไกล ดังนั้นไม่นานนักทั้งคู่ก็มาถึงที่หมาย
“เชิญข้างในก่อน” เมื่อจอดรถเรียบร้อย เนลก็ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีโดยเชิญแขกเข้าบ้าน อพาร์ตเม้นต์ของอยู่ชั้นสาม กว้างขวางเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แม้เขาจะไม่มีมรดกเก่าอย่างอีกฝ่าย แต่รายได้จากร้านอาหาร และการเป็นอาจารย์สอนทำอาหารพิเศษในหลายสถาบัน รวมถึงเป็นที่ปรึกษา ก็ทำให้เขามีเงินพอสมควร ถึงขนาดซื้ออพาร์ตเม้นต์หรูใกล้ย่านใจกลางเมืองของมาร์แซย์ได้โดยไม่ลำบากกระเป๋า
“ห้องสวยนะครับ” แกสตันเอ่ยชม ขณะเดินตามเขาเข้ามา “คุณนี่โชคดีจัง ได้ไปตั้งหลายประเทศ ผมสิต้องจับเจ่าเฝ้าอยู่แต่หอยทากที่ฝรั่งเศส” เขาพูดติดตลก ขณะมองดูถ้วยรางวัลมากมายจากหลายประเทศหลายสถาบันอาหารที่วางประดับเอาไว้ในตู้โชว์
“อือ” เนลทำได้แค่ส่งเสียงในคอ เขาเป็นคนพูดไม่เก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว บางทีอาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ก็ได้ คู่ของเขาถึงอยู่กับเขาได้ไม่นานนัก ฝ่ายนั้นมักรู้สึกว่าเขาเดาใจยาก เดาไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ ทั้งๆ ที่เขาเองไม่ได้คิดอะไรเลยแท้ๆ
“โทษทีนะที่ชวนมาเข้าครัวกลางดึกแบบนี้ ผมเห็นว่าคุณหิว” เนลพูด ทั้งที่ยังรู้สึกแปลกใจตัวเองว่าเขากล้าชวนฝ่ายนั้นมาที่บ้าน โดยอ้างว่ามีเมนูอาหารใหม่ได้ยังไง ในเมื่อเขายังไม่ได้คิดเมนูอะไรไว้สักอย่าง แกสตันยิ้มให้เขาอย่างใจดี
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองนอกจากเรื่องหิวแล้ว ก็ไม่ได้รีบอะไร”
เนลรู้สึกทันทีว่าฝ่ายนั้นคงต้องหิวเอาเรื่องอยู่ เลยรีบเปิดตู้เย็น หาดูว่าพอมีอะไรให้ฝ่ายนั้นรองท้องได้บ้าง แต่เพราะเขาไม่ได้วางแผนว่าจะพาใครมาในช่วงปีใหม่ ตู้เย็นจึงแทบว่างเปล่า ชายหนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมาทันที
“คือ... ผมลืมไปว่าไม่ได้ซื้อวัตถุดิบเอาไว้...” หนุ่มนัยน์ตาสีมรกตเดินกลับมาพูดกับผู้ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด ฝ่ายนั้นมองเขา แล้วยิ้มอีก “ไม่เป็นไรหรอกครับ เอางี้มั้ย คุณไปทำอาหารที่บ้านผม ผมซื้อของไว้เต็มตู้เย็นเลย คงพอให้คุณทำเมนูใหม่ได้บ้างหรอก”
เนลพยักหน้าทันที เขารู้สึกร้อนเห่อที่ข้างแก้ม เพราะรู้สึกอายที่ชวนอีกฝ่ายแบบไม่วางแผนเอาไว้ก่อน
“ผมขอโทษนะ ทำคุณเสียเวลาเลย” ร่างเล็กว่า อีกฝ่ายถอนหายใจแล้วยิ้มอีก “คุณพูดขอโทษผมสองครั้งแล้วตั้งแต่เราเข้ามาในห้อง ไปข้างนอกกันเถอะครับ อากาศเย็นๆ น่าจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นนะ”
พวกเขาเดินออกมาจากอพาร์ตเม้นต์ไปยังลานจอดรถ ตอนนี้เองที่เนลมีโอกาสได้สังเกตรถมอเตอร์ไซค์ของแกสตันอย่างจริงๆ จังๆ
“มอเตอร์ไซค์คุณสวยจัง ยี่ห้ออะไรหรือ?”
“Midual* (*รถมอเตอร์ไซค์ที่ผลิตในเมือง Angers ประเทศฝรังเศส เป็นรถมอเตอร์ไซค์แบบคัสต้อม สั่งประกอบ ราคาประมาณ 140,000 ยูโร) ครับ สวยใช่ไหม ผมสั่งทำมาพิเศษเลย สำหรับคนตัวใหญ่อย่างผมโดยเฉพาะ” แกสตันพูดพลางหัวเราะอีก ก่อนจะส่งหมวกกันน็อคอีกใบให้ผู้โดยสาร เนลรับมาแล้วถามอีก “ปกติคุณพกหมวกมาสองใบหรือ?”
“ครับ เผื่อน้องๆ ในร้านติดรถกลับ” ฝ่ายนั้นตอบ ก่อนจะพาตัวเองขึ้นไปบนรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่คันนั้น เนลมองดูร่างของแกสตันที่สวมเสื้อแจ๊กเก็ตหนังสีน้ำตาล และสวมหมวกกับแว่นกันลม แล้วรู้สึกขึ้นมาว่า ต้องมีคนอยากขอติดรถมอเตอร์ไซค์คันนี้กลับกับเขาไม่น้อยแน่ๆ
เนลพยายามปีนขึ้นไปบนรถมอเตอร์ไซค์ของแกสตันด้วยท่าทางทุลักทุเล เพราะเขาไม่เคยขึ้นรถมอเตอร์ไซค์มาก่อน แถมมอเตอร์ไซค์ของฝ่ายนั้นก็คันใหญ่มาก แกสตันมองดูเขาระหว่างนั้น แล้วพูดออกมา “ถ้าคุณไม่ถนัด จับเอวผมไว้ก็ได้นะ ผมไม่บ้าจี้”
เนลรู้สึกว่าอีกฝ่ายคงบอกเขาตามมารยาท และเขาเองก็น่าจะทรงตัวอยู่บนมอเตอร์ไซค์แบบนี้โดยไม่ต้องใช้มือจับเอวอีกฝ่าย เหมือนที่ผู้หญิงทำกันเวลาขึ้นซ้อนรถบิ๊กไบต์ของผู้ชายสักคน แต่พอรถออกตัวเท่านั้นแหละ ชายหนุ่มก็รีบกอดเอวอีกฝ่ายแน่นด้วยความตกใจทันที
---------------------------------
บ้านของแกสตันตั้งอยู่บนเนินเขา เจ้าตัวออกตัวว่าเป็นบ้านหลังเล็กๆ ไม่มีอะไรมากมาย แต่เอาเข้าจริง มันคือบ้านหินแบบโบราณขนาดสองชั้นที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณครึ่งเอเคอร์ ล้อมรอบด้วยรั้วหินเตี้ยๆ และประตูที่ทำด้วยเหล็ก เนลลงจากรถมอเตอร์ไซค์ เพราะแกสตันต้องลงไปเปิดประตูรั้ว
“โทษทีนะครับ พอดีซิลแวนไปฉลองปีใหม่กับลูกที่ปารีสโน่น” แกสตันพูดขณะผลักประตูรั้วเหล็กเตี้ยๆ นั้นออก เนลพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ไม่เป็นไรหรอก คุณเอารถไปจอดเถอะ ผมจะเดินเข้าไปเอง”
ฝ่ายนั้นมองหน้าเขาอึดใจ ก่อนจะพยักหน้า แล้วขับรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปจอดในโรงจอดรถที่คงจะดัดแปลงมาจากคอกม้าเก่า แสงไฟจากเสาไฟแบบเก่าที่คงเคยเป็นระบบแก๊สมาก่อน ส่องให้เห็นทัศนียภาพรอบตัวบ้านทรงสี่เหลี่ยม พุ่มเชอรรี่และแอปเปิ้ลที่ถูกตัดแต่งเป็นอย่างดีทอดเงายาวใต้แสงไฟ เถาองุ่นเลื้อยอยู่ตามร้านไม้ที่บางส่วนถูกทำเสริมขึ้นมาใหม่ ยังมีไม้พุ่มอีกหลายต้นที่แสงไฟส่องไปไม่ถึง เขาเลยมองไม่ออกว่าเป็นต้นอะไรกันแน่ ขณะกำลังมองต้นไม้อยู่เพลินๆ เสียงของแกสตันก็ดังขึ้นข้างตัว
“ต้นไม้สวยใช่ไหมล่ะครับ นี่แหละของดีของมาร์แซย์ หิมะไม่ตก”
พอหันกลับมามองก็เห็นเจ้าตัวยืนยิ้มอยู่ เนลจึงยิ้มตอบ “อือ บ้านคุณดีนะ อยู่กันหลายคน มีเวลาดูแลสวนด้วย”
ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะออกมา “อ๋อ เปล่าหรอกครับ ที่นี่มีผมอยู่คนเดียว พวกนี้จ้างคนดูแลเอา”
“อ้อ...” เนลส่งเสียงในคอ ก่อนจะพูดอย่างนึกขึ้นได้ “อ้าว แล้วอีกคนที่คุณพูดถึงตอนเปิดรั้วตะกี้นี้ล่ะ”
“อ๋อ นั่นพ่อบ้านครับ”
“?”
“ที่จริงเขามีลูกน้องนะ แต่ไม่ได้อยู่ที่นี่ วันนี้ทุกคนหยุดปีใหม่ด้วย ผมก็เลยต้องไปเปิดประตูรั้วเองอย่างที่คุณเห็นนั่นล่ะ”
เนลเบิ่งดวงตาสีเขียวมรกตจ้องฝ่ายนั้นด้วยคิดไม่ถึงว่านอกจากจะมีบ้านหินแล้ว แกสตันยังจ้างพ่อบ้านอีกด้วย ฝ่ายนั้นมองเขาด้วยความสงสัย “มีอะไรหรือครับ?”
คนถูกถามได้แต่สั่นศีรษะ เพราะไม่รู้ว่าควรจพูดอะไรต่อดี อีกฝ่ายจึงพูดต่อ “เข้าบ้านเถอะครับ ผมหิวจนตาลายแล้ว”
-------------------------------
ตัวบ้านด้านในตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน ระบบไฟปรับเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าหมดแล้ว แต่โคมไฟยังเป็นแบบโบราณอยู่ พอก้าวเข้ามาในห้องรับแขก หนุ่มร่างเล็กก็เห็นต้นคริสมาสต์ต้นหนึ่งวางหราอยู่กลางห้อง
มันประดับประดาด้วยลูกกลมหลากสี และถุงเท้า
“มีหลานมาเยี่ยมหรือครับ” เนลเอ่ยปากถาม พอเห็นแกสตันที่หันมาทำหน้าสงสัย เขาเลยบุ้ยหน้าไปทางถุงเท้า เจ้าตัวเห็นแล้วก็ยิ้มออกมา “อ๋อ เกือบจะมีมาน่ะครับ แต่พอดีติดหิมะ... ปีนี้ก็เลยไม่มีใครมา”
“อ้อ...”
“คุณจะทำเมนูอะไรครับ” ฝ่ายนั้นถาม ระหว่างพาเขาเดินผ่านห้องรับแขกตรงไปยังห้องครัว ซึ่งก็กว้างขวางไม่แพ้กัน
“หา? อ๋อ!” เนลร้องอย่างนึกขึ้นได้ พลางรู้สึกหนักใจที่จนตอนนี้เขาก็ยังคิดเมนูใหม่ที่ว่านั่นไม่ออก แม้ว่าเขาจะชอบคิดเมนูใหม่ๆ อยู่บ่อยๆ แต่ใช่ว่าอยากจะคิดก็คิดขึ้นมาได้ปุบปับเสียหน่อย ชายหนุ่มเงียบอยู่เป็นนาน จนอีกฝ่ายต้องถามอีก
“เนล”
“อื้อ!” เพราะไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไรดี ร่างเล็กจึงโพล่งออกมา “กอร์ดงเบลอ* (cordon bleu อาหารฝรั่งเศสที่นำเนื้อสัตว์มาแล่ให้เป็นชิ้นบาง ๆ ใส่แฮมและชีสเป็นไส้ แล้วนำเนื้อสัตว์ที่แล่แล้วมาหุ้มให้มิด นำไปชุบไข่และเกล็ดขนมปัง ทอดให้สุก)แล้วกัน”
“?” แกสตันมองเขาอึดใจหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า แล้วเปิดประตูตู้เย็น เนลรู้สึกว่าเขานี่ไม่ไหวเอาเสียเลย นอกจากไม่มีเมนูใหม่แล้ว ยังเสนอเมนูพื้นมากอีกด้วย
“ขอโทษนะ พอดีผมลืมไปแล้ว...” เจ้าตัวพูดเสียงอ่อย แกสตันเงยหน้าขึ้นมาจากตู้เย็น ก่อนจะยิ้มให้ “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมชอบกินกอร์ดงเบลอ” พูดพลางหยิบกล่องใส่อาหารออกมา “โชคดีจริง ผมมีวัตถุดิบที่ใช้ทำครบเลย คุณจะใช้อะไรทำดี ไก่ หรือเนื้อ”
“เอาไก่ดีกว่า สุกเร็วกว่า” เนลว่า ฝ่ายนั้นหยิบกล่องอาหารออกมาอีก ก่อนจะหันมาหยิบผ้ากันเปื้อนส่งให้เขา “ผมเตรียมของให้คุณแล้วกัน”
“อือ”
ครั้งสุดท้ายที่เนลเข้าครัวกับแกสตัน คงเป็นที่ร้านเมื่อสี่เดือนก่อน ตอนนั้นเขาคิดเมนูใหม่ได้ เลยเรียกฝ่ายนั้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อทำตัวอย่างให้ดู เขาจำได้ดีว่านอกจากเป็นพ่อครัวที่ดีแล้ว แกสตันยังเป็นผู้ช่วยพ่อครัวที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย เสียอย่างเดียวว่าครัวที่ร้านมันแคบ พอเขาต้องอยู่ในนั้นกับคนตัวใหญ่ๆ อย่างแกสตันสองคนแล้วก็ให้รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
“ครัวแบบนี้เหมาะกับคุณดีนะ” เขาพูดขณะแล่เนื้อไก่เป็นแผ่นบางๆ แกสตันที่เตรียมเครื่องปรุงอยู่หันมาถาม “ว่าไงนะครับ?”
“ผมว่าครัวแบบนี้เหมาะกับคุณดี” คนถูกถามทวนคำ “เวลาอยู่ในครัวที่ร้านผม มันทำให้คุณดูตัวใหญ่มากนะ”
คนฟังหัวเราะ “ก็ผมเป็นคนตัวใหญ่นี่ครับ ช่วยไม่ได้ ยังดีนะครับที่ไม่ชนพวกผู้ช่วยพ่อครัวกระเด็นออกมา”
(มีต่อ)