Sweet Dilemma - รักวิบัติ #14.2 แตงกวา (Update! 14/01/20)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #14.2 แตงกวา (Update! 14/01/20)  (อ่าน 62521 ครั้ง)

ออฟไลน์ sunshine538

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
แหม!! นายปอเขาเทกระจาดอ้อยมาแต่ไหนแต่ไรแบบนี้นี่เอง พีพีผู้น่าสงสารเลยตกหลุมคนกะล่อนตาใสในที่สุด  :katai1:

ชอบแก้ว ผู้ใช้ * อย่างสิ้นเปลือง และชิงชิง ผู้ขัดแก้วได้ไม่มีเบื่อ 555

เป็นการคั่นเวลาที่สนุกและมีอรรถรสไปอีกแบบค่ะ

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พีพีเมาน่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
#12 รักไม่ได้ l ไม่ได้รัก


   ปรนัยยืนเท้าเอวมองร่างโปร่งที่คู้ตัวซุกกับเตียงของเขา กว่าจะลากคนเมาขึ้นมาบนห้องได้ก็แทบหมดแรง นี่ไม่ต้องพูดถึงการไล่ให้มันไปอาบน้ำ เพราะลำพังแค่ทำให้เพื่อนสนิทหยุดเพ้อถึงลำไยก็ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ

   “มึงแม่ง... หลอกกูทามมาย” เสียงอู้อี้ยังงึมงำกับหมอน “ใจร้ายจังโว้ยยย”

   “มันดึกแล้ว กูจะซื้อลำไยที่ไหนให้มึงได้”

   “เนี่ย...เนี่ยๆๆ ชอบทำร้ายจิตใจกู ฮื่อออ”

   เจ้าของห้องส่ายหน้า หมดปัญญาจะจัดการกับคนบนเตียงแล้ว

   “ตกลงจะไม่อาบน้ำใช่มั้ย”

   “ไม่!”

   “งั้นก็เขยิบไป กูจะนอนแล้ว”

   “หึ!”

   “อะไรของมึงเนี่ย พีพี” คนโดนแย่งที่นอนถอนหายใจยาว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลา

   ตีหนึ่งครึ่ง...

   ไม่คิดจะเจรจาอีกต่อไป ร่างสูงนั่งลงบนเตียงตัวเอง ก่อนจะใช้สองมือดันอีกร่างให้เข้าไปชิดผนัง ดึงหมอนที่คนเมากอดไว้มาวางหัวเตียง ตบปุๆ แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนอย่างรวดเร็ว

   “ฮื่อออ หมอนกู”

   “หมอนมึงที่ไหน หมอนกูทุกใบอะ ผ้าห่มก็ด้วย” ปอเอื้อมมือไปปิดไฟ แล้วหลับตาลง รู้สึกปวดหัวตึบๆ น่าจะเป็นฤทธิ์จากเหล้าแก้วนั้น “อะไรที่อยู่บนเตียงนี้ของกูหมด”

“ไม่จริง...” คนเมายังเถียงจนเจ้าของห้องแอบขำ หากประโยคต่อมากลับทำให้ปรนัยชะงัก  “ยกเว้นกู”

คนที่ตั้งใจนอนต้องลืมตาขึ้นมาใหม่ แสงไฟด้านนอกสะท้อนเข้ามาทางประตูกระจกที่กั้นระเบียง ทำให้มองเห็นเงาลางๆ ของคนที่นอนหลับตานิ่ง

 “.....”

“ง่วง” แล้วอยู่ๆ เจ้าของคำพูดปริศนาก็พลิกตัวเข้าหาผนัง กระชับผ้าห่มขึ้นคลุมไหล่แล้วก็นิ่งไปเสียอย่างนั้น

ปองุนงงจนต้องถดตัวลุกขึ้นพลางชะโงกมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ เปลือกตาบางปิดสนิทพร้อมลมหายใจสม่ำเสมอ ทำเอาคนมองต้องเกาหัวแกรกๆ แต่เมื่อทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายเขาก็เลยต้องล้มตัวลงนอน แล้วค่อยๆ ดึงผ้าห่มส่วนที่เหลือมาห่มตัวเองบ้าง


ไออุ่นที่เพิ่มเข้ามาท่ามกลางอุณหูมิ 24 องศาของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ร่างที่นอนขดตัวอยู่เปลี่ยนเป็นเขยิบเข้าไปชิดใครอีกคนใต้ผ้าห่มนั้น คนที่กำลังเคลิ้มหลับต้องสะดุ้งตื่นอีกรอบ เมื่อรู้สึกถึงอะไรเย็นๆ ข้างกาย หากพอก้มลงไปมอง จึงได้เห็นแก้มขาวๆ ที่วางแปะอยู่บนท่อนแขนตนเอง

   “หนาวเหรอ” เอ่ยอย่างแผ่วเบาเพราะไม่ได้ตั้งใจจะถามคนหลับ ทว่าหัวทุยๆ ที่ซบอยู่ตรงหัวไหล่กลับขยับยุกยิกคล้ายพยายามตอบรับ

ปรนัยมองภาพนั้นอยู่นาน ก่อนจะเผลออมยิ้มกับตัวเอง ร่างหนาพลิกตัวนอนตะแคง แล้วปล่อยให้คนขาดความอบอุ่นได้ขยับกายเข้ามามากขึ้น ลมหายใจที่รดอยู่ตรงอกตัวเองทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงได้ที่พักพิงตามต้องการแล้ว

   “สบายเลยนะ น้ำก็ไม่อาบ แล้วยังมาซุกอีก” งึมงำคล้ายดุ แต่สุดท้ายก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาจนถึงแก้มเย็นๆ นั่น และไม่ลืมควานหารีโมตแอร์ที่หัวเตียงมาปรับอุณหภูมิ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงและหลับไปจนถึงเช้า


---------------------------------------------


   อาการคอแห้งผากเหมือนกลืนทรายลงไปหลายตัน พร้อมความวิงเวียนที่จู่โจมตั้งแต่ยังไม่ลืมตาตื่น ทำให้ภาคภูมิต้องกัดฟันแน่น อีกทั้งความหนาวจนร่างสั่นสะท้านก็ยิ่งทำให้อาการดังกล่าวคล้ายจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า

   “ป....” เปลือกตาหนักๆ ค่อยๆ ลืมขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือใบหน้าของเพื่อนสนิทที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง เขาพยายามเอ่ยเรียก แต่ไม่อาจเปล่งเสียงได้ตามต้องการ

   ฝืนกายลุกขึ้นนั่งได้ก็รีบมองไปยังหัวเตียง ก่อนจะพบวัตถุที่ตามหา รีโมตแอร์แสดงอุณหภูมิ 22 องศา จึงไม่แปลกใจว่าทำไมตัวเองถึงฝันว่ากำลังลี้ภัยในขั้วโลกเหนือ

   “ปอ...ปอ...” เสียงแหบเรียกเพื่อนอีกครั้ง คราวนี้ใช้มือเขย่าช่วยปลุกอีกแรง จริงๆ ก็อยากปล่อยให้มันนอนต่อ แต่ถ้าไม่ปลุกตอนนี้ อาจเป็นเขาเองที่ตายอยู่บนเตียง

   “อื้อ...” เจ้าของห้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา ทันทีที่เห็นใบหน้าซีดเผือดคล้ายจะร้องไห้ของผู้อาศัย ความง่วงงุนก็เหมือนจะสลายไปในพริบตา

   “พีพี?!”

   “ป..ว..ด..หั..ว” อีกฝ่ายตอบออกมาอย่างยากลำบาก ก่อนตากลมที่แดงก่ำจะเริ่มมีน้ำตาคลอ

   ฝ่ามือหนาเอื้อมไปแตะหน้าผากและลำคอของคนตรงข้ามเบาๆ “เจ็บคอด้วยมั้ย”

คนป่วยพยักหน้า

สิ้นคำตอบนั้น เจ้าของห้องก็รีบผลุนผลันลงจากเตียงโดยที่ภาคภูมิก็ไม่ทันตั้งตัว

   “เดี๋ยวกูไปซื้อข้าวกับยามาให้ นอนไปก่อนนะ” ร่างสูงหยิบกางเกงขาสั้นที่ผึ่งไว้มาสะบัดๆ แล้วสวมอย่างเร่งรีบ

   ภูมิมองการกระทำทั้งหมดคล้ายดูภาพยนตร์จอยักษ์ ตอนนี้สมองเขาพร่าเบลอเกินกว่าจะคิดอะไรได้ทัน รู้ตัวอีกทีก็ถูกมือหนาดันให้นอนลง พร้อมสะบัดผ้าห่มมาคลุมร่างให้เรียบร้อย

   “เดี๋ยวมา”

   ตั้งใจจะนอนต่ออีกนิด แต่เสียงเตือนจากแอปไลน์ที่ดังถี่ๆ ก็ทำให้ภาคภูมิยอมแพ้ในที่สุด พอเห็นชื่อเพื่อนต่างคณะแล้วคิ้วเรียวก็ต้องขมวดมุ่น เมื่อคืนคุ้นๆ ว่าวินบอกจะมารับ แต่สุดท้ายแล้วไม่รู้ว่าเขามาโผล่ห้องไอ้ปอได้ยังไง

   Twin (7.40): ฮัลโหลๆ

   Twin (7.42): ตื่นยัง

   Twin (7.42): เป็นไงบ้าง

   Twin (7.43): วันนี้ไปไหนเปล่า

   ตากลมหรี่ลง พยายามอ่านข้อความนั้นทั้งๆ ที่สมองยังไม่พร้อมเปิดรับอะไรเท่าไร

   PPoom (7.46): แฮ้ง

   Twin (7.47): หืมมม เมื่อคืนก็ไม่ได้เมานี่ ยังคุยกับเราอยู่เลย


   เจอประโยคนี้เข้าไป นิ้วเรียวเลยต้องรีบสไลด์หน้าแชตขึ้นไปโดยด่วน ทำไมจำอะไรไม่ได้เลยวะ!!!

   
Twin (21.24) : เรากินข้าวอยู่แถวๆ ร้านพอดี จะกลับก็บอกนะ เดี๋ยวแวะรับ

PPoom (21.30) : ไม่เป็นไรๆ ดึกแน่

Twin (21.30) : นี่ก็จะไปนั่งเล่นหอเพื่อนเหมือนกัน จะกลับก็ไลน์มานะ

PPoom (21.32) : อ่อ เคๆ


   แค่นี้?

   ถ้าหากเป็นช่วงสามทุ่มกว่าๆ เขาก็ยังไม่เมาจริงๆ นั่นแหละ แต่หลังจากนั้น... เชี่ย ภาพตัดเฉยเลย ยิ่งพยายามคิดยิ่งปวดหัว ภูมิจึงทำได้เพียงพิมพ์ขอโทษกับคนในไลน์แล้วขอตัวไปนอนต่อ และคราวนี้วินเหมือนจะอยู่ในเกมภาษาเดียวกันกับเขาเสียที

   Twin (7.55) : ได้ๆ ภูมิพักผ่อนเถอะ


   ร่างบนเตียงผล็อยหลับไปอีกจนกระทั่งเจ้าของห้องกลับมา ปรนัยชะโงกดูคนที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วก็ตัดสินใจให้เพื่อนนอนต่ออีกนิด ส่วนอาหารและยาที่หิ้วกลับมาก็นำไปวางไว้หลังตู้เย็นก่อน กะว่าสักเก้าโมงค่อยปลุกไอ้ขี้เมาอีกครั้ง ส่วนตัวเองตื่นแล้วตื่นเลย แม้จะยังหนักๆ หัว แต่นอนต่อยังไงก็คงไม่หลับ

   ปอคว้าผ้าเช็ดตัวกับชุดใหม่เข้าไปในห้องน้ำ จัดการธุระส่วนตัวไม่นานนักก็ออกมาด้วยความรู้สึกที่สดชื่นขึ้น ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศยังหลงเหลืออยู่จางๆ แต่เขากลับชอบลมธรรมชาติที่มักจะพัดเข้าระเบียงห้องในยามเช้ามากกว่า ร่างสูงจึงเดินไปเปิดประตูระเบียงออกกว้าง และยืนมองอะไรเรื่อยเปื่อยขณะใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมตัวเองไปมา

   ลมอุ่นๆ จากด้านนอกลอยเข้ามาสัมผัสคนที่กำลังหลับใหล ความหนาวจางหายไปแล้ว เหลือเพียงอากาศสบายๆ กับกลิ่นแดดเช้าหอมกรุ่นที่ปลุกภาคภูมิให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ความทรมานของร่างกายทุเลาลงไปพอสมควร แต่เขายังรู้สึกคล้ายล่องลอยอยู่ในความฝัน ฝันที่มีร่างสูงโปร่งของปรนัยภายใต้แสงแดดอ่อนๆ ซึ่งกำลังส่งยิ้มละมุนให้เขาอยู่ในตอนนี้

   “พีพี”

   คนที่ระเบียงเรียกชื่อเจ้าของตากลมๆ ที่นอนมองเขาคล้ายยังไม่ได้สติ ท่าทางกึ่งตื่นกึ่งละเมอนั้นทำให้ปอต้องเผลอยิ้มออกมา ...เห็นแล้วนึกถึงลูกแมวใต้หอ ที่มันชอบกลิ้งตัวพันไปกับผ้าเน่าผืนประจำของมัน

   “เป็นไงมั่ง” ขายาวก้าวเข้ามาในห้องก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงเตียงนอน พลางก้มหน้าลงสำรวจคนป่วย หลังแนบมือลงกับหน้าผากแล้วพบว่าอุณหูมิยังสูงอยู่ จึงเรียกให้ภาคภูมิลุกขึ้นนั่งดีๆ ก่อนตนเองจะผละไปเวฟอาหารเช้า แล้วนำมาตั้งบนโต๊ะเล็กหน้าทีวี พร้อมปูเบาะนั่งเรียบร้อย ทว่าคนบนเตียงก็ยังไม่ยอมขยับ แถมตาแป๋วๆ ยังมองตามเขาไปมาอีก

   “แหน่ะ นี่ดื้อแล้ว ไม่ใช่ป่วย” เจ้าของห้องส่ายหน้า แล้วเรียกคนบนเตียงอีกครั้ง “มาเร็ว กินข้าวแล้วจะได้กินยา”

   คนป่วยพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะเลื้อยลงจากเตียง พร้อมกองผ้าห่มที่ไถลตามลงมาทับร่างนั้นจมมิด คราวนี้ปรนัยหัวเราะออกมาเสียงดัง หากก็ยอมเดินไปช่วยคนที่กำลังหาทางออกจากกองผ้าแต่โดยดี

   “กินโจ๊กเซเว่นไปก่อน ร้านปิดหมดเลยอะ”

ภูมิพยักหน้ารับรู้แล้วก้มหน้ากินโจ๊กไปเงียบๆ อาหารร้อนๆ ทำให้ลำคอที่เจ็บระบมรู้สึกดีขึ้นมาก แต่รสชาติเฝื่อนที่น่าจะเกิดจากต่อมรับรสผิดปกติก็ทำให้เขากินอะไรไม่ได้มากนัก

“กินอีกนิดดิ” คนข้างๆ สั่ง เมื่อเห็นมือขาววางช้อนลงหลังจากกินไปไม่กี่คำ

“ไม่ไหวแล้ว...” เสียงเครือตอบอย่างน่าสงสาร

พอเห็นหน้าหงอยๆ นั่นปอก็ยอมแพ้ เปลี่ยนเป็นแกะยาให้แทน

“อันนี้ยาแก้ปวดกับลดไข้ แต่ไม่มีแก้อักเสบนะ เภสัชบอกว่าถ้าเจ็บคอก็ให้กินน้ำอุ่นเอา”

คนป่วยส่งเสียงอือออแล้วกินยาจนครบ รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก ก่อนจะก้มมองตัวเองแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้

“กูไม่ได้อาบน้ำ?”

“เออ!!” เสียงทุ้มตอบคล้ายจะดุ แต่ปลายเสียงกลับหัวเราะ “ให้อาบน้ำก็ไม่อาบ งอแงจะกินแต่ลำไย”

ภาคภูมิฟังเรื่องเล่าน้นแล้วก็รู้สึกหน้าร้อนไปหมด ...มันต้องไม่ใช่แค่นี้แน่ๆ ...ฉิบหายแน่ๆ!!

“แล้ว...แล้วกูทำอะไรอีก...มะ...มั้ย”

คนถูกถามเลิกคิ้วสูง “จะเอาเรื่องไหนล่ะ เรื่องที่ด่าว่ากูใจร้าย เรื่องที่พยายามแย่งหมอนกู” คนเล่าเงียบไปนิดหนึ่ง “หรือเรื่องที่มานอนซุกกูทั้งๆ ที่น้ำไม่อาบ”

“ก็มันหนาว!!!” คนหน้าแดงแป๊ดเถียงทันควัน ก่อนจะไอค่อกแค่ก “เปิดแอร์ทำบ้าอะไรตั้ง 22 องศา”

“มึงฝันแล้ว กูเบาแอร์ให้มึงด้วย 26 องศาได้มั้ง” พูดจบร่างสูงๆ ก็เดินไปคว้ารีโมตแอร์มายืนยันทันที “นี่ไง ยี่สิบ...เชี่ย!! ยีบสองจริงด้วย”

คราวนี้คนป่วยทำหน้าหงิก ส่วนเจ้าของห้องได้แต่ยิ้มแหยๆ ทรุดตัวลงนั่งข้างเพื่อน แล้วเอื้อมมือมาโอบเบาๆ “กูตั้งใจปรับเป็น 26 องศาจริงๆ นะเว้ย แต่มันมืดอะ ขอโทษนะ..น้า”

ภาคภูมิไม่ได้พูดอะไรอีก เอาจริงๆ แค่นึกว่าเพื่อนสนิทต้องมาวุ่นวายกับการดูแลตัวเองยังไงบ้าง เขาก็ไม่มีหน้าไปต่อว่าอะไรแล้ว

“ไม่เป็นไร...” เสียงแหบเอ่ย “ขอยืมผ้าเช็ดตัวหน่อยดิ อยากอาบน้ำ”

“เช็ดตัวไปก่อนมั้ย เดี๋ยวไข้ขึ้นอีกหรอก” เจ้าของห้องพูดไปตามที่รู้สึก หมายถึง ‘รู้สึก’ จริงๆ เพราะฝ่ามือของเขายังสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวจากต้นคอของอีกฝ่ายอยู่เลย

ภาคภูมิตัวแข็งทื่อ สัมผัสแผ่วเบาที่คอยวัดอุณหูมิอยู่นั้นกำลังทำให้เขาอาการหนักกว่าเดิม ยิ่งสบกับดวงตาคมที่ฉายแววห่วงใยก็คล้ายฤทธิ์ไข้จะกำเริบอีกรอบ

“เนี่ย...หน้าแดงไปหมด” คนที่ใช้มือตนเองเป็นปรอทวัดไข้วางหลังมือลงที่จุดสุดท้ายคือแก้มนิ่ม ที่ตอนนี้กลายเป็นสีแดงอย่างน่าเป็นห่วง

“ปอ...” ภูมิเรียกชื่อคนที่กำลังบ่นเขาไม่หยุด “ปอ”

“หืม”

“มึงคิดว่ากูเป็นเพื่อนมึงมั้ย” 

ใบหน้าคมฉายแววสงสัยในคำถามนั้น “เป็นดิ”

“ถ้ามึงคิดว่ากูเป็นเพื่อน...” คนพูดผ่อนลมหายใจหนักๆ ขณะมองสบตากับอีกฝ่าย

ปรนัยเลิกคิ้วก่อนถามด้วยความงุนงง “ทำไมเหรอ”

“...เปล่า” ภาคภูมิเก็บกลืนคำพูดนั้นไว้ในใจ


...ถ้ามึงคิดว่ากูเป็นเพื่อน ก็ช่วยทำกับกูแบบที่เพื่อนควรทำให้กันได้มั้ย...


“ไข้ขึ้นแล้วเพ้อเหรอพีพี” ปากก็บ่นคนป่วย แต่มือกลับเอื้อมไปซับเหงื่อบริเวณไรผมให้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำโดยไม่ตั้งใจกำลังทำให้ความหวังของใครงอกงามขึ้นบ้าง


...ถ้ามึงคิดว่ากูเป็นเพื่อน ก็ช่วยหยุดทำเหมือนกูพิเศษกว่าใคร...


“ตกลงเช็ดตัวแล้วกันนะ เหงื่อเริ่มออกละ”

แม้คนป่วยจะยังไม่ได้ตกลง แต่บุรุษพยาบาลส่วนตัวก็ลุกขึ้นแล้วเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีไปเตรียมอุปกรณ์และเสื้อผ้าให้เรียบร้อย

“รอเวฟน้ำร้อนแป๊บ ใช้น้ำเย็นเดี๋ยวไข้กลับ” 


...ถ้ามึงคิดว่ากูเป็นเพื่อน ก็ช่วยหยุดความใจดีแบบที่มึงก็ไม่ได้ตั้งใจ...


“มึงอยากจิบน้ำอุ่นด้วยปะ จะได้เวฟเตรียมไว้ เดี๋ยวใส่เกลือด้วยนิดนึง แม่กูชอบทำให้กินเวลาเจ็บคอ” เจ้าของห้องหันซ้ายหันขวาอยู่ตรงกระจาดเครื่องปรุงข้างไมโครเวฟ ปกติเขาไม่ใช่คนทำอาหาร หรูสุดก็ต้มมาม่ากิน แต่คุ้นๆ ว่าเคยซื้อเกลือมาติดไว้อยู่เหมือนกัน


...ถ้ามึงคิดว่ากูเป็นเพื่อน ก็ช่วยให้ความร่วมมือกับการพยายามห้ามใจของกูหน่อย...


“พีพี...?” เอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อก่อนจะย้ำคำถามเดิมอีกครั้ง พอคนป่วยพยักหน้าตอบรับ ปรนัยก็ฉายยิ้มกว้างคล้ายสนุกเหลือเกินที่ได้ทำนู่นทำนี่ให้อีกคน ในขณะที่ภาคภูมิได้แต่ลอบถอนหายใจยาวๆ อาการปวดแปลบตรงหัวใจคงไม่ใช่เพราะฤทธิ์ไข้ หากมาจากการกระทำอันเต็มไปด้วยความห่วงใย แต่ไม่มีความหมายใดแฝงอยู่


...เพราะทุกอย่างที่มึงทำผ่านคำว่าเพื่อน มันทำให้กูคิดกับมึงแค่เพื่อนไม่ได้เลย...


.
.
.


   หลังจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวเสร็จ ภาคภูมิก็กลับมานอนอีกรอบตามคำสั่งของเจ้าของห้อง ถึงจะบอกว่าไม่ง่วงยังไง แต่ก็ฝืนสังขารตัวเองไปไม่ได้ สิ่งสุดท้ายที่เห็นคือปรนัยกำลังหอบตะกร้าผ้าลงไปปั่นด้านล่าง เสียงกำชับดังแว่วๆ ว่าให้ห่มผ้าด้วย ก่อนประตูจะปิดลง แล้วห้วงนิทรายามบ่ายก็มาเยือนอย่างรวดเร็ว

   เจ้าของห้องกลับขึ้นมาพร้อมข้าวมื้อที่สองของวัน เมื่อเห็นคนที่ยืนยันว่าไม่ง่วงกลับหลับสนิทแล้วก็ต้องหัวเราะกับตัวเอง ...อยู่กับคนป่วยมันก็บันเทิงดีเหมือนกันว่ะ

   คิดจะเปิดเกมเล่นแต่ก็เกรงใจคนหลับ สุดท้ายปอเลยได้แต่นั่งนิ่งๆ มองหน้าคนบนเตียงไปเรื่อยเปื่อย ช่วงที่ผ่านมาพีพีมันน่าจะอ่านหนังสือหนัก เพราะขอบตาดูช้ำไม่หาย แต่นอกเหนือจากนั้นผิวเนียนละเอียดก็ไม่มีตำหนิใดๆ ให้เห็นอีก น่าพิศวงจนอยากจับแก้มกลมๆ นั่นมาส่องดูใกล้ๆ สักที

   เหมือนคนหลับจะรู้ว่าโดนนินทาในใจ ใบหน้าที่ปรนัยจ้องมองจึงขมวดคิ้วมุ่นแบบที่เจ้าตัวชอบทำในยามเผลอ เจ้าของห้องหัวเราะออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพาตัวเองไปนอนลงข้างๆ คนป่วย โดยไม่กลัวว่าจะติดไข้ไปอีกคน

   เหตุการณ์เดจาวูเหมือนเมื่อคืนเกิดขึ้นอีกรอบ ไม่ทันที่ร่างสูงจะจัดตำแหน่งตัวเองให้เรียบร้อย คนหลับก็กลิ้งตัวมาซุกราวกับรออยู่ คราวนี้คนโดนซุกไม่ได้เมา ไม่ได้ง่วง เรียกว่ามีสติเต็มร้อย และมีเวลาพิจารณาทุกอย่างอย่างละเอียด โดยเฉพาะพื้นที่ใต้อกด้านซ้ายที่เต้นตึกๆ กับวงแขนของตนเองที่วาดขึ้นโอบคนข้างกายโดยอัตโนมัติ

   ‘มึงคิดว่ากูเป็นเพื่อนมึงมั้ย’

   อยู่ๆ คำถามเมื่อตอนสายจากภาคภูมิก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สิ่งที่เขาได้ยินมันต่างออกไป ความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำถามง่ายๆ ดูเหมือนจะซับซ้อนกว่านั้นมากนัก ...เป็นเพื่อน?

   ก็ถ้าความเป็นเพื่อน คือการอยากวิดีโอคอลหามันก่อนนอนทุกคืน

   ถ้าความเป็นเพื่อน คือการชอบมองหน้ามันตอนหลับ

   ถ้าความเป็นเพื่อน คือความหงุดหงิดทุกๆ คนที่ทำท่าจะสนใจมัน

   ถ้าความเป็นเพื่อน คือการนอนกอดมันได้โดยไม่รู้สึกแปลก


ถ้าเป็นอย่างนั้น... เขาก็คงคิดว่ามันเป็นเพื่อนจริงๆ


   แต่เพื่อนกันเค้าเป็นกันแบบนี้เหรอวะไอ้ปอ!!!


------------------------------

ต่อด้านล่างค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2017 13:17:01 โดย lykar »

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
ภาคภูมิสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกที ในตอนที่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มฟุ้งกระจายในอากาศ ไม้แขวนที่เรียงเป็นระเบียบอยู่บนราวด้านนอกบอกให้รู้ว่าเขาคงหลับไปอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง สะลึมสะลือหยิบมือถือจะมาดูนาฬิกา กลับพบข้อความของคนที่หายไปจากห้องแทน

   ‘มีข้าวต้มอยู่ในตู้เย็น มึงอุ่นกินด้วยนะ’

   ‘โทษทีกูไปส่งมึงไม่ได้ ยังไงเรียกวินหน้าหอไปนะ’

   ‘ถึงห้องแล้วไลน์บอกด้วย’

   ‘ลืมๆ ล็อกห้องให้ด้วยนะ แต๊งกิ้ว’


   คำถามมากมายจู่โจมเขาทันทีที่อ่านไลน์จบ ปอไปไหน? แล้วอยู่ๆ ก็ทิ้งกันไปเนี่ยนะ? คิดจะส่งข้อความกลับไปถาม แต่ถ้าลองได้ชี้แจงรายละเอียดมายาวเหยียดขนาดนี้แล้ว เจ้าตัวคงไม่คิดจะตอบอะไรเขาอีกแน่ๆ

   ลุกไปล้างหน้าล้างตาอีกครั้ง และเพิ่งสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในห้องน้ำของเพื่อนสนิท สบู่ก้อนถูกแทนที่ด้วยสบู่เหลว และข้างขวดยาสระผมก็มีครีมนวดที่เขาเป็นคนเลือกวางอยู่คู่กัน ถึงแม้ตอนนั้นจะให้มันซื้อ แต่ก็คิดไม่ถึงจริงๆ ว่ามันจะใช้ด้วย

เผลอยิ้มกับความทรงจำที่แว่บขึ้นมา หากแล้วเรียวปากบางก็ค่อยๆ คลายเป็นเหยียดตรง เมื่อเหตุการณ์ต่อจากนั้นลอยฟุ้งขึ้นมาให้ปวดใจอีกรอบ และดูเหมือนตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน เพราะเขาเริ่มไม่แน่ใจ ว่าความห่วงใยที่ได้รับในวันนี้ คือความจริงที่ไม่มีทางเป็นเหมือนฝัน หรือแท้จริงแล้วเป็นเพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงกันแน่


เสียงเตือนจากไมโครเวฟเรียกสติของร่างโปร่งกลับมา ภาคภูมิอุ่นข้าวต้มกินตามที่เจ้าของห้องสั่ง แต่ไม่อาจรับรสใดๆ ได้เลย ซึ่งไม่ใช่เพราะอาการป่วย แต่เป็นความปวดแปลบในใจที่ครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้น หากสุดท้ายก็ฝืนใจกินจนหมด จัดการล้างจานและคว่ำไว้ที่เดิม หันมองความเรียบร้อยทุกอย่างอีกครั้งก่อนปิดประตูและล็อกห้อง จากนั้นก็พาตัวเองไปเรียกวินมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่ง

   ครบถ้วนทุกอย่างตามคำสั่ง

   อ้อ...

   ‘ถึงห้องแล้วนะ’

   นิ้วเรียวพิมพ์ข้อความส่งไปเป็นลำดับสุดท้าย รอจนหลายนาทีผ่านไปอีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับ แต่เดาว่าน่าจะได้อ่านแล้วจากหน้าจอ เพราะมันไม่ได้ปิดเตือนแชตของเขา

   จริงๆ ภาคภูมิตั้งใจกลับมาเก็บกวาดห้อง แต่ความวูบโหวงภายในก็กดเขาไว้ให้จมอยู่บนเตียงนอนอีกรอบของวัน หากรอบนี้กลับเต็มไปด้วยความเดียวดายและเย็นเยียบสุดหัวใจ


.
.
.


   ปรนัยเห็นข้อความของภาคภูมิเด้งขึ้นหน้าจอ หากตัดสินใจไม่กดเข้าไปตอบ เพราะสิ่งที่วาบเข้ามาในความรู้สึกนึกคิดนั้นสร้างความตื่นตระหนกให้เขาอย่างมาก อาการกระอักกระอ่วนใจจนตนเองก็ยากที่จะยอมรับ ทำให้เขาไม่อาจสู้หน้าคนที่นอนอยู่ในห้องได้ คนที่เขาพูดได้เต็มปากว่าเป็น ‘เพื่อนสนิท’ คนที่เป็นชื่ออ้างอิงตลอดสามปี เมื่อเขาต้องกรอกเอกสารในช่อง ‘บุคคลที่สามารถติดต่อได้’ ในกรณีที่เขาหนีหนี้หรือหายสาบสูญขึ้นมา โดยไม่รู้เลยว่า วันหนึ่งเขาต้องกลับมาทบทวนคำว่า ‘เพื่อน’ ที่ตนเองเคยเข้าใจมาตลอดอีกครั้ง

   “มึงจะนั่งแอคอาร์ตอีกนานมะ?”

ปริศนาฟ้าแลบที่ทำลายทุกโมเมนต์ในหัว ทำให้ปรนัยต้องหันไปส่งสายตาอาฆาตกับไอ้คำพูด ชิงชิงยักไหล่ทำหน้าตายียวนไม่แพ้กันตอบกลับไป พร้อมผายมือเชิญมันลุกจากเก้าอี้ของเขา ...คนบ้าอะไรบุกมาถึงห้องคนอื่นแล้วก็ไม่พูดไม่จา เอาแต่ทำหน้าตึงเหมือนฉีดโบท็อกซ์โอเวอร์โดส

คนถูกไล่ที่ลุกจากโต๊ะเขียนหนังสือของไอ้เจ้าของมายังเตียงของมันแทน ทว่าอีกร่างที่นอนกลิ้งกระดิกเท้าดูการ์ตูนดิสนีย์กลับไม่ยอมขยับเขยื้อนแบ่งปันพื้นที่ให้กับเขาแม้แต่น้อย

“สัสแก้ว! มานอนอะไรห้องคนอื่น บ้านช่องไม่กลับ” เสียงทุ้มพาลพาโล ขณะพยายามใช้เท้าเขี่ยๆ คนบนเตียงให้มันเขยิบไปเพื่อที่เขาจะทิ้งตัวนั่งด้วย

คนถูกรบกวนทำท่าหงุดหงิดแต่ก็ยอมกระถดตัวไปทางหัวเตียง ให้คนมาใหม่ได้ใช้พื้นที่ปลายเตียงฝั่งที่เหลือ “บอกแล้วไงว่ารูมเมตยังไม่กลับ ไม่มีกุญแจ”

ผู้มาใหม่ถอนหายใจแบบไม่ค่อยพอใจนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงเปลี่ยนเป็นทิ้งตัวนอนเหยียดเต็มเตียง แต่เพราะห้องไอ้ชิงเป็นเตียงเล็กสองเตียง การที่ร่างสูงทิ้งตัวนอนก็เท่ากับไม่มีที่ว่างเหลืออยู่แล้ว

“โอ๊ยยยย เชี่ยปอ มาแย่งที่กูทำไมเนี่ย ไปเตียงนู้นๆๆ” แก้วโวยวายขณะพาร่างตัวเองลุกขึ้น

“เฮ้ยๆ เดี๋ยวรูมเมตกูด่า มึงห้ามไปนอนเตียงมันนะ” ชิงรีบเอ่ยปากห้าม

“แล้วไอ้แก้วนอนไหนอะเมื่อคืน” ปรนัยทำตาโต “หรือมึงนอนเบียดกันบนเตียงนี้!!”

“คิดอกุศลฉิบหาย” เจ้าของห้องมองเหล่ “กูมีที่นอนปิกนิก ไอ้แก้วก็ปูนอนพื้นไง”

“ปวดหลังเลย ชิงแม่ง” ผู้อาศัยบ่นอุบ

“งั้นแก้วมึงก็ปูที่นอนนอนข้างล่างดิ เนี่ย ที่เต็ม” ไม่พูดเปล่า แต่ยังกางแขนกางขาให้ดูอีกด้วย

“ไม่!!” คนที่ยืนเท้าเอวประกาศก้อง “กูปวดหลังโว้ยยย กูจะนอนเตียง!!”

พูดจบก็ทิ้งตัวลงบนเตียงเจ้าปัญหาซึ่งมีอีกคนจับจองอยู่ แต่แก้วถือคติว่าคนมาก่อนต้องได้ก่อน ร่างโปร่งนั่นเลยพยายามยัดตัวเองลงบนที่นอนให้ได้

ด้วยความพยายามของไอ้แก้ว ปรนัยจึงต้องขยับตัวไปจนชิดเตียงด้านใน แต่ถึงอย่างนั้นร่างของเพื่อนก็ยังนอนซ้อนเกยจนแขนขาของเขาไม่มีที่จะวาง แม้เขาจะเปลี่ยนเป็นนอนตะแคงแล้ว แต่หัวของไอ้ห่าแก้วก็ยังทับไหล่และอกเขาอยู่ดี

“เชี่ยแก้วววว!! มึงไม่คิดว่ากูจะรังเกียจมึงบ้างเหรอ!!” สุดท้ายปรนัยก็ยอมแพ้ จำต้องลุกจากเตียงแล้วปล่อยให้เพื่อนครอบครองเพียงคนเดียว

“อะไรกันวะ พวกมึงเนี่ย” เจ้าของห้องหันมาดุตัวป่วนที่เสียงดังจนเขาเสียสมาธิ...เล่นเกม

“เกมแพ้แล้วพานหงุดหงิดเพื่อนเหรอชิง” คนที่ได้นอนเตียงตามเดิมเอ่ยแซวอย่างยียวน

“พวกมึงเสียงดังจนกูฟังทีมกูไม่รู้เรื่องเลยเนี่ย” เกมเมอร์โวยวาย กระชากหูฟังออก แล้วหมุนเก้าอี้เข้าหาเพื่อน “มึงมีปัญหาอะไรกัน ว่ามา”

ปอกับแก้วมองหน้ากันแล้วส่งสายตาพิฆาต

“ก็ไอ้ปอมาแย่งเตียงกู กูไม่ชอบ!!”

“ก็ไอ้แก้วมานอนเบียดกู กูไม่ชอบ!!”

สองประโยคจากสองคนทำให้เจ้าของห้องต้องถอนหายใจ ก่อนจะหันไปเคลียร์กับไอ้คนที่อยู่ๆ ก็โผล่มา

“ไอ้ปอ มึงมาไมเนี่ย”

คนถูกถามทำหน้าตาตื่น “ก็อยากมาหามึงบ้างไม่ได้เหรอสัสชิง”

“แหมมมม สรรพนามเอ็นดูกูขนาดนั้น ให้เชื่อเหรอว่าอยากมาหาจริงๆ”

“เออน่ะ กูอยากมาก็คืออยากมา”

“งั้นมึงก็ดึงที่นอนปิกนิกมาปูนู่น ไม่ต้องไปแย่งไอ้แก้วมัน” ชิงเป็นคนตัดสินในที่สุด

“ไม่เอา ไม่ชอบนอนพื้น” ผู้มาใหม่ปฏิเสธ

“เอ้า!!” เจ้าของห้องเริ่มหัวเสียอีกรอบ “งั้นมึงก็นอนเบียดกันบนเตียงนั่นแหละ”

“ไม่!! ทำไมกูต้องให้ผู้ชายอย่างไอ้ห่าแก้วมาซุกซบกูด้วย!!”

“อ้าวไอ้ปอ” คนบนเตียงที่เงียบมานานผุดลุกขึ้นนั่ง “ผู้ชายอย่างกูมันทำไม”

 “ขยะแขยงโว้ยยย ถ้าเป็นพีพีก็ว่าไป--" ปลายเสียงชะงัก “เออๆๆ กูนอนบนพื้นก็ได้วะ แม่ง!!”

โวยวายจบก็ลากที่นอนที่ว่าออกมาจากใต้เตียง จัดการโยนหมอนข้างลงไปแล้วจึงทิ้งตัวนอนแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก

   เสียงแหลมเล็กจากกทร์ตูนเรื่องดังทำเอาคนนอนพื้นปวดหัวจี๊ดๆ ปรนัยจึงต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาเสียบหูฟังแล้วเปิดเพลงเพื่อกลบแอมเบียนต์รอบข้างให้หมด เมื่อทุกอย่างกลับสู่ความสงบ ความคิดเรื่องเดิมก็กลับเข้ามาวนเวียนอีกครั้ง แล้วอยู่ๆ บทเรียนจากคลาส Critical Thinking ที่เรียนไปเมื่อต้นเทอมก็ปรากฏขึ้นในใจ

   ถ้านี่เป็น False Dilemma... ทางแยกสองทางที่เขากำลังเผชิญ
คือการเลือกยอมรับว่าเขาตกหลุมรักคนที่ “รักไม่ได้”
กับอีกทางคือปฏิเสธหัวใจ และใช้ชีวิตต่อไปราวกับ “ไม่ได้รัก”

   หรือมันจะมีเส้นทางไหน ที่เป็นทางออกสุดท้ายที่ซ่อนอยู่กันนะ?





TBC.



สวัสดีค่า

มาพบกันอีกครั้งกับฟิครายเดือ-- /เดี๋ยวๆๆๆ
ตอนนี้อยากให้ทุกคนได้อ่านมากค่ะ ทุกอย่างทั้งหมดทั้งมวลในสิบตอนที่ผ่านมา
ส่งผลบุญให้พระเอกของเรื่องมันรู้ตัวแล้วค่ะ
รอคอยมานานเหลือเกินนนนน

มาร่วมส่งใจให้ปอกับพีพีกันนะคะ  :-[

ปล. ฟิคแชต Sweet Linemma ก็ยังมีลงในแอป จอย อย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้มี 5 ตอนแล้ว อย่าลืมไปจอยกัน
กับบทสนทนาบ้าๆ บอๆ ของแก๊ง F4 สมัยปีหนึ่งค่ะ
/ฝากร้าน http://www.joylada.com/story/59afc38d7d9f82000158edd9

เจอกันตอนหน้าค่ะ บ๊ายบาย





ออฟไลน์ ก้อนขี้เกียจ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ไม่ใช่รายเดือน นี่รายสองเดือนต่างหาก ฟหกด่าสววสา่ดหฟ  :z2: :z2:

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
ขอ quote หน่อยยย
รู้สึกว่าชื่อ user คุณก้อนขี้เกียจ เข้ากับเนื้อหาและนิสัยคนเขียนมากเลยค่ะ 555555555

จะสู้และมาให้เร็วน้าาา
ฮือๆๆ เค้าขอโทษ T^T

ไม่ใช่รายเดือน นี่รายสองเดือนต่างหาก ฟหกด่าสววสา่ดหฟ  :z2: :z2:

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เป็นนิยายที่อ่านตอนใหม่ทีต้องกลับไปอ่านตอนก่อนหน้าก่อนทุกทีเลยค่ะ ลืม555555555555555
เหมือนปอจะรู้ใจตัวเองแล้วซักที? หรือว่ายังอีก ไม่งั้นจะเชียร์วินละนะคะ หึหึหึ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รู้ตัว รู้ใจซะทีสิปอ  o18

กับเพื่อนคนอื่นนอนกอดกันขยะแขยง แต่เป็นพีพีได้ ยังไงๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2017 16:07:26 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
แหนะ เริ่มรู้สึกตัวแล้วนะสิ

พีพี นำไปไกลละ


ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
รู้ใจตัวเองแล้วต้องหนีไปตั้งสติเลยหรออออ 5555
ปอคิดดีๆนะ มีไรคุยกันๆ พีพีก็คิดมากละเนี่ยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เห พึ่งจะรู้ตัวเหรอปอ
ถึงยังไงก็สงสารพีพีอยู่ดี ก็นายปอเล่นหนีหน้าอย่างนี้

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
แหม ถ้าเป็นพีพี แล้วจะทำไม ไม่บอกเพื่อนให้ได้รู้ไปเลยละ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ sunshine538

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อิปอ !!!!!!
นี่ตรรกะอะไรของเอ็งเนี่ยย !!!!!! :katai1:
ตอนยังไม่รู้ตัวบริการพีพีเสียเกินเหตุ พอรู้สึกตัวขึ้นมาทิ้งพีพีเฉยเลย  :m31:

ยิ่งอ่านยิ่งสงสารพีพี คนป่วยโดนทิ้งนี่มันรู้สึกโดดเดี่ยวจริง ๆ นะ

อิปอกลับมาปรนนิบัติพีพีเดี๋ยวนี้เลย

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

ออฟไลน์ changemoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 คนแต่งยังเรียนอยู่ไหมคะ พอดีอ้างอิงกับสถานที่จริงได้ชัดมาก เราก็เรียนที่ีนี่เหมือนกันค่ะ ฮ่า สงสัยเวลาผ่านหน้าภาคปรัชญาต้องมองหาพีพีแน่ๆ อินนนน

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อินมากค่ะ มาอ่านสองตอนแรกแล้วหายไปนาน กลับมาแล้วนะคะ มาพร้อมกับความเข้าใจในวิชาปรัชญา อยากให้สอนเราจัง เกือบ F วิชานี้ 555555555 ชอบตอนเล่นเกมภาษามากค่ะ หลังจากอ่านตอนนี้ก็มาสังเกตหมดเลยว่ามีเกมภาษาเดียวกันระหว่างใครกับใครบ้าง น้องพีพีน่ารักมากกกกก ส่วนปอรู้ตัวสักที แล้วหนีมาแบบนี้อีกน่าตีเชียว เขียนดีมากๆเลยค่ะ จากตอนแรกที่คิดว่าคงยากเกินกว่าเราจะอ่านเข้าใจ พอลองอ่านไปเรื่อยๆไม่ยากเลย เข้าใจง่ายมาก คนเขียนอธิบายได้ดีมากเลยค่ะ ดีใจที่ได้อ่าน น้ำตาจะไหล เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ปออย่าหลบหน้าพีพีน้าาาาา
ชอบก็บอกชอบ คิดไรเยอะแยะ!

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
มาปักป้ายจองก่อน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
เขเามาส่องง  :mew2:

ออฟไลน์ vy0Cik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สงสารพีพีอ่ะ ป่วยแล้วยังโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวอีก ถ้าปอยังไม่รู้ใจตัวเองนะ เราจะเชียร์วินแล้ววว o18 o18
ระวังนะปอถ้าวินตัดใจเมื่อไหร่ สุดท้ายคนที่เจ็บก็คือนายที่เพิ่งจะรู้ตัวเมื่อมันสายไปแล้ว บางทีก็รอสมน้ำหน้า แต่ถ้านายรู้ตัวไวเราจะกลับเรือเก่าตอนนี้เยียบเรือสองลำอยู่พร้อมกระโดดทุกเมื่อ555555

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
 :hao6:
คนแต่งยังเรียนอยู่ไหมคะ พอดีอ้างอิงกับสถานที่จริงได้ชัดมาก เราก็เรียนที่ีนี่เหมือนกันค่ะ ฮ่า สงสัยเวลาผ่านหน้าภาคปรัชญาต้องมองหาพีพีแน่ๆ อินนนน

คนเขียนเรียนจบมา 6-7 ปีแล้วค่าา
เขียนจากความทรงจำเดิม 555555
ฝากมองหาพีพีหน้าภาคให้ด้วยนะคะ
อยากเจอเหมือนกันนนน

ปล. ตอนนี้เราอยู่ตปท. บวกกับช่วงการไว้อาลัย เลยเงียบๆ ไป
ยังไงต้นเดือนหน้าจะอัพตามปกติค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเมนต์เลยนะคะ

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆ นะคะ เพิ่งได้มีโอกาสมาอ่านรวดเดียวเมื่อวานนี้เอง
อ่านแล้วยิ้ม อ่านแล้วมีความสุข เพลินกับรายละเอียดและชีวิตของเด็กปรัชญาที่เราไม่เคยรู้จัก ขอบคุณมากๆนะคะ
พีพีลูกกก ปอลู๊กกก โอ้ย เอ็นดูทุกคนเลยค่ะ ชอบฉากวงเหล้ามากมากก (เล่นกันแบบนี้จริงมั้ยคะ ดูมีสาระมากๆ 555) 

เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่าาา
/เราจะนั่งรอตอนต่อปายยย

 :กอด1:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เมื่อไหร่แกจะรู้ใจตัวเองซักทีเนี่ยยย
เพื่อนกัรเค้าไม่ทำกันแบบเน้้้้ :ling1:

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
โอยยย เพิ่งเจอเรื่องนี้
คือดี ดี๊ ดียยยยยยยย์

แต่แบ่บ เป็นนิยายรายเดือนเหรอเธ๊ออออ แล้วชั้นจะรอไหวม๊ายยยเนี่ยยยยยย

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
อ่านรวดเดียวจนมาถึงล่าสุด สนุก ชวนติดตามค่า ปอ กับ พีพี เริ่มจะเข้าใจภาษาเดียวกันแล้วววว

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ อ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก ๆ

ในที่สุดปอก็จะรู้ใจตัวเอง ตื้นตันซับน้ำตาแผล๊บ

แกรีบคิดไว ๆ นะปอ พีพี มันน่ารักนะ คนรอจองเพียบ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ตามมาช่วงนี้พอดีเลยย
รู้ตัวแต่จะรับตัวเองได้มั้ยอะปอออออ
จะไม่มำร้ายน้องพีพีใช่มั้ย :เฮ้อ:

ออฟไลน์ janehh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมากๆ ไปตามในจอยมาด้วย ชอบมากเลยค่ะ พระเอกเราออกตัวแรงมาก ฮาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด