Sweet Dilemma - รักวิบัติ #14.2 แตงกวา (Update! 14/01/20)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #14.2 แตงกวา (Update! 14/01/20)  (อ่าน 62509 ครั้ง)

ออฟไลน์ pimBNY

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
คิดถึงพีพี  :กอด1:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
รอ ฉันรอเธออยู่  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ iiamerror_

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึงน้องพีพี มานั่งรอทุกวันนะคะ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เอาใจช่วยทั้งคู่ ทุกคนต้องผ่านความฉับฉนไปให้ได้ ภูมิชัดเจนแล้วแต่ปอยัง
อาการไปไกลมากแล้วปอ ใจเย็นนะ ค่อยๆ คิด ไม่อยากให้มีใครเสียใจเลย

ขอบคุณค่ะ สนุกมาก

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
มาลงชื่อรอ ฮึบบบ

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ตอนหน้าไม่มาถึงสักที o22 o22 o22



รอนะคะ สนุกจริง

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑

ไรท์หาย......หายไปไม่มีวี่แวว.....♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♂♪♩
คนอ่านก็รอ......ก็รอ.....อีกต่อไป.....♫~♬ ♂♪♩

ออฟไลน์ dino94

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ปีใหม่แล้วววยังรอนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
#13 All I know (that I don’t know)


ภาคภูมิตื่นขึ้นมาบนเตียงตัวเอง เหงื่อที่น่าจะมาจากการสร่างไข้ทำให้เนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะ ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยความเวียนหัวเพราะนอนมานานเกินไป สิ่งต่อมาที่รู้สึกได้คืออาการท้องโหวงๆ เนื่องจากไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่กลางวัน

หยิบมือถือมาดูด้วยความเคยชิน ไลน์กรุ๊ป F4 มีแค่ชิงกับแก้วที่เถียงกันในเรื่องไร้สาระ ส่วนแชตส่วนตัวอื่นๆ นั้นเงียบกริบ รวมถึงชื่อใครบางคนที่เงียบหายไปเช่นกัน


   ‘มีข้าวต้มอยู่ในตู้เย็น มึงอุ่นกินด้วยนะ’

   ‘โทษทีกูไปส่งมึงไม่ได้ ยังไงเรียกวินหน้าหอไปนะ’

   ‘ถึงห้องแล้วไลน์บอกด้วย’

   ‘ลืมๆ ล็อกห้องให้ด้วยนะ แต๊งกิ้ว’



เลื่อนอ่านข้อความเดิมซ้ำๆ จากที่รู้สึกน้อยใจที่ถูกทิ้ง ตอนนี้เขาเริ่มเป็นห่วงเพื่อนสนิทแทนแล้ว เพราะถึงจะเป็นคนไม่ค่อยตอบไลน์ แต่ปอก็ไม่เคยขาดการติดต่อนานขนาดนี้ นิ้วเรียวกดเข้ากดออกทุกแอปพลิเคชันที่สามารถดูความเคลื่อนไหวของเพื่อนได้ แต่ทั้งเฟซบุ๊กทั้งอินสตาแกรมของปรนัย กลับโชว์ภาพสุดท้ายคือตอนที่ไปกินไอศกรีมด้วยกัน

ร่างโปร่งนั่งคิดอะไรอยู่สักครู่ ก่อนจะพิมพ์ค้นหาชื่อเฟซบุ๊กของใครบางคน

...พี่จ๋า...

หน้าฟีดของรุ่นพี่ปี 4 มีบ่นฟ้าฝนกับเรื่องเรียนนิดหน่อย แต่ไร้ร่องรอยของคนที่เขาตามหา ตอนนี้เหลือแค่โทรศัพท์ไปที่เบอร์ของปอโดยตรง ซึ่งจริงๆ แล้วภาคภูมิไม่อยากจะทำอย่างนั้น แต่ความว้าวุ่นใจก็ทำให้เขาต้องกดโทรออกในที่สุด

ตื้ดดดดดด....ตื้ดดดดด

สัญญาณเชื่อมต่อดังยาวจนตัดไป และสร้างความกระวนกระวายให้คนรอมากกว่าเดิม






สี่ทุ่มกว่า

ชิงชิงกดดูเวลาในโทรศัพท์มือถือเป็นรอบที่สิบ เขานั่งแช่อยู่ตรงนี้มาสองชั่วโมงแล้ว และเป็นสองชั่วโมงที่ยังไม่รู้เหี้-- เออ ยังไม่รู้อะไรเลย ว่าทำไมเพื่อนเลวๆ อย่างไอ้ปอถึงต้องลากเขามานั่งตบยุงเล่นบนฟุตปาธหน้าร้านสะดวกซื้อนี่ด้วย

“อีกป๋องมะ เดี๋ยวเลยเวลาซื้อ” ปรนัยชี้ไปที่กระป๋องเครื่องดื่มของเพื่อนที่ดูท่าจะไร้ความเย็นไปแล้ว อีกฝ่ายไม่ตอบ แต่พยักหน้าให้ตามสไตล์มัน

พอปรนัยลุกไป ชิงเลยรวบกระป๋องเปล่าบนพื้นไปทิ้ง นึกหงุดหงิดที่เพื่อนไม่เล่าอะไรสักคำ ตั้งแต่ชวนมาตกระกำลำบากอยู่ตรงนี้ ทว่าเขาก็ทิ้งให้มันอยู่คนเดียวไม่ลง คนร่าเริงเกินร้อยแบบไอ้ปอ ถ้ามันดีๆ คงไม่มานั่งเมาให้ยุงแดกเลือดแบบนี้แน่ๆ

“ชิง!”

ทิ้งขยะเสร็จกำลังจะกลับมานั่งที่เดิม แต่เสียงเรียกคุ้นหูทำให้เขาต้องหันไปมอง พอเห็นว่าคนเรียกเป็นใคร คนที่กำลังซังกะตายก็ร้องทักกลับไปอย่างยินดี

“ไอ้ภูมิ!! นั่งด้วยกันดิ กำลังเบื่อเลยเนี่ย”

คนถูกชวนทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมทรุดตัวลงนั่งพร้อมข้าวของในมือ “ทำไรวะ”

“แดกเบียร์ดิ” ตอบพลางยกกระป๋องในมือให้ดู “แล้วมึงมาทำไรดึกๆ ดื่นๆ”

“กูเพิ่งตื่นเลยออกมาซื้อก๋วยเตี๋ยว”

“ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นอ่านะ” ชิงหมายถึงร้านรถเข็นที่อยู่เลยจากเซเว่นไป

“เออ นี่เพิ่งนึกได้ว่าน้ำหมด เลยเดินกลับมาซื้อ”

“โหดสัส!”

ภูมิหัวเราะ “ไม่อยากขี่ย้อนศรอะ รถเยอะ”

“ดีละ” ชิงกระดกเบียร์ที่ไร้ความเย็นไปอีกอึก ก่อนจะตวัดสายตาไปเพ่งมองคนที่นั่งข้างๆ ชัดๆ “ทำไมหน้าตามึงบวมแบบนั้น”

ภาคภูมิยกมือขึ้นจะแตะเปลือกตาตัวเอง แต่กลับโดนเพื่อนที่นั่งจ้องอยู่ปัดมือออกไปแทน

“อย่าไปจับมันดิ เดี๋ยวก็บวมกว่าเดิม” ชิงว่าเสียงเรียบ

“เออ...สงสัยนอนเยอะไปหน่อยว่ะ” ปฏิเสธแบบไม่ยอมสบตาคนถาม

“แฮ้งเหรอ”

“สุดๆ ไข้ขึ้นเลย”

“โคตรนูป!” เพื่อนร่วมแก๊งหัวเราะ “ทำไมกูเจอแต่พวกอ่อนๆ วะ”

“ใครอีกอะ” คนฟังขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“สัสปอไง ไม่รู้เป็นเชี่ยไร มาสิงอยู่หอกูตั้งแต่บ่าย แล้วแม่งก็ลากกูมานั่งตากยุงตรงนี้ตั้งแต่สองทุ่ม” พูดพลางตบยุงโชว์จะๆ อีกตัว โดยไม่ทันได้สังเกตสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอีกคน “นี่ไม่รู้มันข้ามไปซื้อเบียร์ที่มิติไหน นานเป็นชาติแล้วยังไม่ออกมาซะที”

ภาคภูมิหันขวับไปที่ร้านสะดวกซื้อทันทีที่เพื่อนพูดจบ ก่อนจะพบว่าคนที่ไอ้ชิงบ่นถึงนั้นยืนถือเบียร์สองกระป๋องอยู่ข้างหลังพวกเขานั่นเอง

“ปอ--” เอ่ยเรียกคนที่กำลังนึกเป็นห่วง ทว่าสายตาเย็นชาที่ตอบกลับมาทำให้ปลายเสียงต้องชะงัก

 แม้ภูมิจะมีคำถามวิ่งวนอยู่ในหัวเต็มไปหมด ตั้งแต่ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ไปทำอะไรที่ห้องไอ้ชิง ทำไมต้องมานั่งกินเบียร์ตรงนี้ และทำไมอยู่ๆ ถึงทิ้งกันไปแบบนั้น ...แต่สิ่งที่เขาทำได้ ก็คือปล่อยให้ความเงียบงันโรยตัวระหว่างกันเท่านั้น

 “อ้าว...มึงจะยืนรอให้ความรักของพี่เกิดที่เซเว่นเหรอครับเพื่อน! กลับมาแล้วก็นั่งดิ!” ชิงตบปุๆ บนพื้นปูนที่ว่างอีกข้าง

ปรนัยถอนสายตาจากคนที่ปรากฏตัวแบบไม่คาดคิด มือหนากระชับกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบพลางทรุดตัวลงนั่งช้าๆ แม้ท่าทีภายนอกจะดูเฉยเมย แต่หัวใจข้างในกลับกำลังเต้นระรัว แค่เพียงได้เห็นหน้าคนที่อยู่ในห้วงความคิดมาตลอดทั้งวัน

ภูมิสูดหายใจลึก สะกดกลั้นความน้อยใจที่ทำให้กระบอกตาร้อนผ่าว เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น...เหมือนตื่นขึ้นมาอีกที โลกใบเดิมก็ดับสลาย และทิ้งเขาไว้ให้ลอยคว้างกลางอวกาศ

“ถอนหน่อยมะ?” ชิงชิงยื่นเบียร์กระป๋องใหม่ให้ภาคภูมิ อีกฝ่ายมองกลับมาคล้ายกำลังพิจารณา ก่อนมือขาวๆ จะยื่นมารับข้อเสนอนั้น

หากยังไม่ทันได้เปิดดื่ม วัตถุในมือก็ถูกแขนยาวๆ ของใครบางคนกระชากกลับไปอย่างแรง

“สัสปอ! ไปแย่งไอ้ภูมิมันทำไม!” คนที่นั่งอยู่ตรงกลางโวยวายเสียงดัง ทว่าคนถูกด่ากลับยักไหล่ แล้วเปิดเบียร์เจ้าปัญหาดื่มอักๆ แบบไม่สนใจโลก

ความอดทนของภูมิถึงขีดสุด เมื่อรู้แน่ชัดว่าอีกฝ่ายสบายดีไม่มีอะไรต้องห่วง แถมยังไม่อยากคุยกับเขาอย่างเห็นได้ชัด แค่นี้ก็เป็นเหตุผลมากพอที่เขาจะไปจากตรงนี้แล้ว

“กูกลับก่อนนะ” ตั้งใจพูดกับชิงชิงแค่คนเดียว ก่อนสองมือจะรวบข้าวของที่วางกองอยู่บนพื้น แล้วลุกขึ้นเดินออกมาโดยไม่ฟังเสียงเรียกใดๆ อีก

“ภูมิ!” ชิงตะโกนเรียก แต่เจ้าของชื่อกลับก้าวเท้าเดินให้เร็วขึ้น เมื่อยื้อฝ่ายนั้นไม่สำเร็จ ชิงเลยหันมาเอาเรื่องไอ้ตัวต้นเหตุแทน
“สัสปอ! นิสัยเสีย”

แม้จะถูกตำหนิเป็นครั้งที่สอง แต่ร่างสูงที่นั่งซดเบียร์ก็ทำหูทวนลมจนคนพูดเอือมระอา

“กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงเป็นเหี้ยอะไร แต่อย่ามาพาลกับคนอื่นแบบนี้”

เสียงนิ่งๆ ของเพื่อนทำให้ปรนัยยอมวางเครื่องดื่มในมือ ก่อนจะถอนหายใจยาว “มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้ฉลาด บางเรื่องกูก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง”

“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามึงโง่หรือมึงฉลาด” คนข้างๆ พูด “มันอยู่ที่ว่า มึงยอมรับสิ่งที่มึงอยากทำจริงๆ ได้หรือเปล่า”
 
ตารีเบิกกว้าง “มึง...รู้?”

 “กูไม่รู้อะไรทั้งนั้น รู้แต่ว่า ถ้ากูคือคนที่ดีกับมึงทุกอย่าง แล้วถูกมึงทำเหี้ยๆ ใส่อย่างเมื่อกี๊” ชิงชี้หน้าคนที่กำลังนั่งไม่ติด “กูจะไม่กลับมาในชีวิตมึงอีกเลย”




ภาคภูมิกำลังหงุดหงิดกับตัวล็อกกุญแจที่วันดีคืนดีก็เกิดจะไขไม่ได้ขึ้นมา เนื่องจากน้อยครั้งนักที่จะใช้จักรยานของตัวเอง เขาจึงไม่ได้ใส่ใจกับปัญหาของมันเท่าไร แต่ไม่คิดว่ามันเกิดจะมาทรยศเขาในช่วงเวลาแบบนี้

“ไปจักรยานกู เดี๋ยวไปส่ง”

เสียงที่คุ้นหูเสียยิ่งกว่าคุ้น ทำให้มือเรียวที่กำลังปลุกปล้ำกับโซ่ล็อกจักรยานต้องหยุดชะงัก

ปรนัยเดินไปคว้าข้าวของที่แขวนกับแฮนด์จักรยานมาถือไว้ ภูมิจึงได้สังเกตเห็นว่า คนที่เพิ่งปรากฏตัวมีเหงื่อไหลซึม และร่างสูงๆ นั่นก็กำลังหอบหายใจด้วยความเหนื่อย

 “ไปเร็ว ยังไม่ได้กินข้าวไม่ใช่เหรอ”

เสียงทุ้มที่เอ่ยราวกับเมื่อครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เขาไม่อาจหยุดความสงสัยได้อีกต่อไป

“โดนตัวไหนมาอะ” ภาคภูมิเอ่ยถามเสียงนิ่ง

“หืม?” คนที่ถือข้าวของพะรุงพะรังเลิกคิ้วเป็นคำถาม

ภูมิสาวเท้าเข้าไปใกล้ นัยน์ตากลมจ้องตารีเล็กของอีกฝ่ายเขม็ง “มึงเล่นยาใช่มั้ย”

“หาาาา!!! อะไรของมึงเนี่ยพีพี” คนถูกกล่าวหาร้องเสียงหลง อยู่ๆ ก็โดนเสนอแพ็กเกจไปเที่ยวฮ่องกงให้ซะอย่างนั้น

“ก็แล้วทำไมมึงผีเข้าผีออกแบบนี้วะ” ท่าทีอันจริงจังบ่งบอกให้รู้ว่าคนพูดไม่ได้เล่นมุก นั่นทำให้ปรนัยเริ่มเข้าใจอะไรได้มากขึ้น ถ้าหากเป็นสถานการณ์อื่น เขาคงลงไปนอนขำกลิ้งกับจินตนาการอันสุดโต่งของเพื่อนแล้ว ติดแต่ว่าในตอนนี้เขาดันมีพฤติกรรม ‘ผีเข้าผีออก’ แบบที่อีกฝ่ายว่าจริงๆ

“ไว้ไปคุยกันที่ห้องได้มั้ย” เสียงทุ้มยื่นข้อเสนอ พลางชูสัมภาระในมือขึ้นมา “มันหนักอะ”

ภูมิมองน้ำเปล่าขนาด 1.5 ลิตร 3 ขวด พร้อมของกินอีกหลายถุงแล้วจึงพยักหน้ารับอย่างจำใจ “ก็ได้”

“งั้นไปเหอะ เดี๋ยวดึก” ร่างสูงหันหลังแล้วก้าวเดินนำออกไป

คนเดินตามหันซ้ายหันขวาหารถจักรยานที่เขาเคยซ้อนบ่อยๆ แต่มองยังไงก็ไม่เจอ

“รถมึงอยู่ไหน”

ปรนัยหันมาหาแล้วยิ้มแหยๆ “หน้าเซเว่น”

“นี่มึงเดินมา!?”

“เปล่า....” ปลายเสียงเบาลง “...กูวิ่ง”

เป็นอีกครั้งที่ภาคภูมินึกสงสัยว่าเขาควรจับมันตรวจฉี่ดีมั้ย! ที่เขาเดินจากร้านก๋วยเตี๋ยวไปเซเว่นก็เพราะไม่อยากขี่รถย้อนศร แต่ถ้ากลับกัน จากเซเว่นมาตรงนี้ มันก็แค่ขี่จักรยานมาตรงๆ ...แล้วมันจะวิ่งมาทำไมวะ!!
 




ช่วงถนนระหว่างทางไปถึงหอของภาคภูมิ กลายเป็นเส้นทางที่ปรนัยไม่คุ้นเคยขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ทั้งๆ ที่ปั่นมาส่งเพื่อนสนิทแทบทุกวัน แต่เหมือนครั้งนี้มันต่างออกไป ทำไมเขาเพิ่งรู้สึกถึงมือนิ่มๆ ที่เกาะหลัง ทำไมไออุ่นจากคนซ้อนถึงเพิ่งสะท้อนมาถึงเขา ทำไมกลิ่นหอมละมุนถึงเพิ่งพัดมาตอนนี้...

“มึง” เสียงคนด้านหลังที่เขาเพิ่งละเมอถึงเรียกสติของปอให้กลับคืนมา

“วะ...ว่า?”

“ไรวะ สะดุ้งซะแรงเลย” ภูมิบ่นอุบอิบ ก่อนจะถามในสิ่งที่สงสัยมาตลอดทั้งวัน “ไปทำไรห้องไอ้ชิง”

“เอ่อ...” คนถูกถามอึกอัก “อันนี้มันต้องอธิบายยาวอะ ขอเปลี่ยนคำถามก่อนได้ปะ”

“ก็ได้ งั้นทำไมไม่รับโทรศัพท์”

คนข้างหน้าถอนหายใจหนักๆ “กูขอโทษนะ”

“ไม่ใช่คำตอบปะวะ”

“คือกู...” ปลายเสียงเบาลง “กูยังไม่พร้อมตอบตอนนี้ แต่เอาเป็นว่ากูสบายดี...”

“อยู่ๆ ก็หายไป โทรหาก็ไม่รับ มึงจะให้กูคิดว่ามึงสบายดีเหรอ!!” ความอัดอั้นในใจของคนซ้อนพรั่งพรูออกมา จนปรนัยต้องหยุดรถทันควัน

“พีพี”

“ปั่นจักยานต่อไป” ใบหน้าเรียวซุกลงกับแผ่นหลังกว้างของคนข้างหน้า ก่อนกำปั้นเล็กๆ จะทุบที่ไหล่ของไอ้ตัวต้นเหตุอย่างแรง “ห้ามจอด ห้ามหันมา!”

รถจักรยานเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง คราวนี้ระยะทางที่เหลือยิ่งทำให้ปรนัยรู้สึกแปลกออกไปกว่าเดิม อาจเพราะแรงกอดจากอ้อมแขนบาง สัมผัสเปียกชื้นบนแผ่นหลัง หรืออาจจะเป็นเพราะ...ความห่วงใยจากใครบางคน



--------------------------------------




   ปรนัยจอดรถหน้าตึกที่ภาคภูมิพักอยู่ อาจเพราะเริ่มดึกแล้วจึงไร้วี่แววของคนอื่นๆ คืนนี้อากาศอบอ้าวนิดๆ แต่ยังดีที่พอมีลมเย็นๆ ช่วยพัดผ่านมาบ้าง

“ขอบใจ” เสียงเอ่ยเบาๆ ทำให้เขาต้องกลับมาสนใจคนข้างๆ

“อือ ไม่เป็นไร” ร่างสูงส่งของจากตะกร้าให้คนที่ยืนก้มหน้าก้มตานิ่ง ปลายจมูกแดงๆ ที่อยู่ในระยะสายตานั้น ทำให้ปอไม่อาจปล่อยอีกฝ่ายเดินกลับขึ้นห้องไปตามลำพัง

“อันนั้นด้วย” มือเล็กชี้ไปยังถุงเซเว่นที่บรรจุน้ำสามขวดใหญ่ แต่คนมาส่งกลับรวบมันไว้แล้วเดินไปรอที่หน้าทางเข้าหอแทน

“ติ๊ดบัตรดิ”

ภาคภูมิขมวดคิ้วจนหน้ายุ่ง “กูถือเองได้ เอามานี่”

“ไม่เอา จะไปส่ง”

“มันไม่ได้หนักขนาดนั้นปะ”

“ไหนว่ามีคำถามอยากถามกูไง” เสียงทุ้มเอ่ย

ตากลมเสหลบก้มมองพื้น “ไม่มีแล้ว”

“แต่กูมี”

แล้วเสียง ‘ติ๊ด’ ที่ประตูก็ดังขึ้น เจ้าของห้องหันขวับด้วยความตกใจ ก่อนจะพบว่าในมือของเพื่อนสนิทกำลังชูคีย์การ์ดหน้าตาแบบเดียวกับของเขา

“เฮ้ย! มีคีย์การ์ดหอกูได้ไง!!”

“ก็บอกแล้วไงว่า...กูมี”





ปรนัยเดินตามภาคภูมิเข้าไปในห้อง ภาพที่ปรากฏในห้องนั้นไม่มีอะไรต่างออกไปจากวันที่เขาเคยมา หลังจัดการเรียงน้ำและขนมเข้าตู้เย็นเรียบร้อย ระหว่างรอเจ้าของห้องออกไปเอาชามใส่ก๋วยเตี๋ยว ร่างสูงๆ จึงย้ายตัวเองมานั่งแปะที่โต๊ะเขียนหนังสือและไถมือถือเล่นไปพลางๆ

“ตกลงมึงเอาคีย์การ์ดหอกูมาจากไหน” คำถามเดิมจากเจ้าของห้องทำให้ผู้มาเยือนต้องเงยหน้าขึ้น

“กินข้าวก่อน แล้วจะบอก”

“ความลับเยอะเหลือเกิน”

   ร่างสูงยักไหล่

   “กินด้วยกันเปล่า” ภาคภูมิชูถุงก๋วยเตี๋ยวพร้อมถ้วยสองใบที่ถือมา

“กูอิ่มแล้ว มึงกินเลย” ตอบพลางช่วยกางโต๊ะญี่ปุ่นตัวที่เขาเคยมานั่งกินข้าวบ่อยๆ

ภูมิแกะถุงก๋วยเตี๋ยวแล้วค่อยๆ เทใส่ถ้วย พยายามตั้งสมาธิกับสิ่งที่กำลังทำ โดยไม่สนใจคนที่เท้าคางมองเขาแบบตาไม่กะพริบ

“ตาบวม” อยู่ๆ เสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น ทำเอามือที่กำลังแกะเครื่องปรุงต้องชะงัก

คนตรงข้ามไม่ตอบ แต่รีบก้มหน้าก้มตาปรุงก๋วยเตี๋ยวแล้วลงมือกินอย่างรวดเร็ว

ผู้มาเยือนส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะคว้าช้อนสแตนเลสที่อีกคันไปโยนเข้าช่องฟรีซ ก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าตู้เย็นสักพัก ปอก็กลับมาพร้อมน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว

“ยังมีไข้อยู่หรือเปล่า”

คนถูกถามวางตะเกียบแล้วยกหลังมือขึ้นทาบหน้าผากตัวเองเบาๆ “ไม่มีแล้ว”

“จริงเหรอ” ความสงสัยนั้นมาพร้อมกับฝ่ามืออุ่นที่เอื้อมไปแตะซอกคอคนป่วย

“สัสสสส!!”

เสียงสบถไม่เบานักพร้อมดวงตากลมที่จ้องเขม็งทำให้ปรนัยหลุดหัวเราะ ...ขู่ฟ่อเป็นแมวเลยว่ะ

“ตัวยังอุ่นๆ อยู่เลย เมื่อตอนเย็นได้กินยาหรือเปล่า”

“เปล่า” ตอบออกไปพร้อมสายตาที่ยังระแวดระวังไม่คลาย “กูเพิ่งตื่น”

“หือ?? แล้วนอนไปตอนไหน”

“หลังส่งข้อความบอกมึง...” พูดไปแล้วก็เหมือนรื้อฟืนความเดียวดายที่เพิ่งสัมผัสขึ้นมาอีกครั้ง แต่ภาคภูมิก็พยายามสูดหายใจลึกๆ เพื่อคุยกับตัวต้นเหตุด้วยเสียงที่เป็นปกติอย่างที่สุด “แล้วก็เพิ่งตื่นเมื่อสี่ทุ่ม”

“งั้นกินข้าวเสร็จแล้วกินยาด้วยนะ เอายากลับมาด้วยเปล่า”

"อือ อยู่ในกระเป๋า"

ปอลุกขึ้นไปเปิดกระเป๋าใบที่เห็นบ่อยๆ ใช่จะไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทโกรธเขาเท่าไร ที่อยู่ๆ ก็ทิ้งมันไปแบบนั้น แต่ถ้าหากภาคภูมิได้รู้ว่าเพราะอะไร บางทีมันอาจจะอยากไล่ให้เขาไปไกลๆ มากกว่าเดิม

“ถ้าไม่เจอเดี๋ยวกูไปหยิบเองก็ได้” เจ้าของห้องเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าอีกคนใช้เวลาหาของอยู่นาน

“เจอแล้วๆ” มือหนาชูถุงในมือเป็นการยืนยันคำตอบ

“กูกินยาเลยก็ได้ อิ่มละ”

ยาสองเม็ดถูกยื่นมา พร้อมสายตาที่จับจ้องคนป่วยในทุกการกระทำ

ภูมิกระดกน้ำตามจนหมดแก้ว ก่อนจะหันไปถอนหายใจใส่คนตรงข้าม “มึงเป็นอะไรเนี่ย”

“เปล่า”

เจอคำตอบตาใสแบบนั้น ภาคภูมิเลยเลิกพยายามถามถึงสาเหตุของท่าทีแปลกๆ แต่พุ่งประเด็นไปยังเรื่องที่คุยค้างไว้แทน

“ตกลงมีคีย์การ์ดหอกูได้ยังไง”

“วันก่อนไอ้เมตฝากคีย์การ์ดมาคืนไอ้สิปป์ แต่กูลืมให้มันอะ เลยยังอยู่ในกระเป๋า” ปรนัยหมายถึงเพื่อนเรียนวิชาโทปรัชญาที่อยู่หอนี้

“เลวจริง นี่มึงกะจะมาขโมยของหอกูปะเนี่ย”

“ก็เหี้ยละ”   

“งั้นเรื่องคีย์การ์ดจบไป ทีนี้จะอธิบายเรื่องที่ชิ่งกูไปอยู่หอไอ้ชิงได้หรือยัง”

“ไหนตอนกูมาส่งมึงบอกว่าไม่มีคำถามแล้วไง”

น้ำเสียงยียวนนั้นทำให้ภูมิอยากพุ่งไปบีบคอไอ้ตัวปัญหาให้ตายคามือ

“อะๆๆ ไม่กวนตีนแล้วก็ได้ ไม่ต้องทำหน้าอยากฆ่ากูขนาดนั้น”

“ว่ามา”

“ได้” คนตอบเงียบไปครู่หนึ่ง “แต่มึงต้องตอบกูข้อนึงเหมือนกัน”

“ลีลาจังวะ” เจ้าของห้องบ่นอุบ “ถามมา”

“ตอนซ้อนจักรยานกลับมา มึงร้องไห้ทำไม”

คำถามจี้ใจดำทำให้ภาคภูมิต้องก้มหน้าหลบสายตาอีกฝ่าย ทว่ากลับถูกมือแข็งแรงล็อกไว้จนไม่อาจขยับหนี 

 “ว่าไง” น้ำเสียงเย็นๆ มาพร้อมดวงตาคมกริบ

“กู...” คนตอบอึกอัก “ก็ถ้ามึงเป็นคนป่วยที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ต้องกระเสือกกระสนกลับห้องเอง แล้วพอตื่นมาคนเหี้ยๆ บางคนก็หายหัวไป มึงคงรู้สึกดีใจจนน้ำตาไหลมั้ยล่ะ”

 สิ้นคำตอบนั้น ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ

“ขอโท--”

“พอเหอะ ไม่อยากฟังคำนี้” ภูมิปัดมือที่ล็อกคางตนเองออก “แค่อยากรู้ว่าทำไม”

ปรนัยรู้ว่าถึงเวลาต้องอธิบายอย่างจริงจัง

“ภูมิ” ชื่อเล่นที่อีกฝ่ายแทบไม่เคยเรียกทำให้ดวงตากลมต้องหันมามอง “กูกำลังเจอ Dilemma ว่ะ”

สายตาอันเคลือบแคลงแปรเปลี่ยนเป็นความกังวลใจเมื่อได้ฟังเพียงประโยคแรกเท่านั้น “…เป็น False Dilemma มั้ย”

 “เหมือนจะใช่”

“เกี่ยวกับ?”

“อืม...ความสัมพันธ์มั้ง”

“แล้ว... Dilemma ของมึงมีทางเลือกไหนบ้าง”

“คนที่รักไม่ได้...”

“กับ?”

“คนที่รักไม่ได้”

“หืม...”

“กูแม่ง...ไม่มีทางเลือกอะไรเลยว่ะ”

สองมือหนายกขึ้นลูบหน้าตัวเอง ความจริงที่ปรากฏในใจ เหมือนเป็นหินที่ถ่วงขาทั้งสองข้างไว้ไม่ให้ก้าวเดิน ทว่าปรนัยคงไม่รู้ ว่ายังมีอีกคนที่เฝ้ามอง และรู้สึกเศร้าใจไม่แพ้กัน

“ไม่เป็นไรนะมึง...” ภาคภูมิไม่รู้ว่าเขามีแรงพูดประโยคนี้ออกไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วมันห่างไกลจากความรู้สึกตอนนี้มากนัก เพราะเป็นคนที่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกัน เขาจึงรู้ดีว่า ‘ไม่เป็นไร’ นั้นไม่เคยเป็นจริง

“โทษทีว่ะ” ในที่สุดคนที่นั่งคอตกก็เงยหน้าขึ้น “กูสติแตกนิดหน่อยตอนที่รู้ว่าตัวเองเหมือนจะ...ชะ...ชอบคนคนนั้น ทำอะไรไม่ถูกเลยออกจากห้องมาแล้วทิ้งมึงให้อยู่คนเดียว”

ร่างเล็กกว่านั่งฟังนิ่งๆ ขณะที่เสียงทุ้มยังพูดต่อไป

“เอาจริงๆ กูประสาทแดกพอสมควร เหมือนคนที่เชื่อมาตลอดว่าโลกแบน แล้วอยู่ๆ ก็มีเสากระโดงเรือโผล่ขึ้นมา แล้ว...บู้มมมม โลกก็กลายเป็นทรงกลมเฉยเลย”

“ก็เลยไม่รับโทรศัพท์กูเหรอ...”

“ก็เลยไม่คุยกับใครเลยมากกว่า” ขายาวเหยียดออก “ไปห้องไอ้ชิงกูก็ไปนอนเฉยๆ”

ภาคภูมิทิ้งตัวพิงกับขอบเตียง รู้สึกอ่อนล้าจนต้องหลับตาลง ก่อนจะบังคับให้ตัวเองพูดประโยคที่ควรพูดออกไป

“ไมว่าคนนั้นจะเป็นใคร สักวันมึงก็ต้อง ‘รักได้’ เว้ย”

ปอหันไปมองคนพูดที่ทิ้งตัวลงกับเตียง เปลือกตาบางยังดูบวมไม่หาย นิ้วเรียวเอื้อมไปจนเกือบแตะใบหน้าของอีกฝ่าย แต่เขากลับเปลี่ยนใจลุกขึ้นไปหยิบช้อนที่แช่เย็นออกมาแทน

สัมผัสเย็นเฉียบทำให้คนที่ซบหน้ากับเตียงต้องสะดุ้ง ก่อนจะรู้สึกถึงความอบอุ่นจากอ้อมแขนที่เอื้อมมาโอบรอบตัวเป็นลำดับต่อมา

“ประคบไว้ ตาจะได้หายบวม” อีกฝ่ายเอ่ยพร้อมลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดข้างแก้มเนียน

“อือ...แล้ว Dilemma ของมึงจบแล้วเหรอ”

“ยังหรอก”

“ถ้าถึงวันนั้น มึงจะบอกกูมั้ยว่าคนคนนั้นเป็นใคร”

ภาคภูมิรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายถอนหายใจแรง

“ถ้ามัน ‘เป็นไปได้’ กูจะบอกมึงคนแรกเลย...สัญญา”

มือหนาเลื่อนช้อนออก พลางใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไอน้ำบนเปลือกตาเพื่อนสนิท อีกฝ่ายหยีตาก่อนจะค่อยๆ ลืมขึ้น อาการบวมเหมือนจะลดลงแล้ว ซึ่งนั่นเรียกรอยยิ้มจางๆ จากคนที่มองอยู่ได้เป็นอย่างดี

ปรนัยไม่รู้ว่าวันที่ภาคภูมิถามจะมาถึงหรือไม่ แต่แค่ในตอนนี้เขาได้อยู่ใกล้ๆ ได้ดูแลคนที่ ‘รักไม่ได้’ ต่อไปก็พอแล้ว



------------------------------------



(ต่อด้านล่างค่ะ)

ออฟไลน์ lykar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-0
“จะให้กลับจริงๆ เหรอ” เสียงทุ้มถามย้ำเป็นครั้งที่เท่าไรเจ้าของห้องก็เลิกจะนับไปแล้ว และเป็นอีกครั้งที่เขาต้องยืนยันว่า “ใช่” เหมือนกับหลายประโยคก่อนหน้า

   “ถ้าคืนนี้ไข้ขึ้นอีกจะทำไง”

   ภูมิกลอกตาอย่างอ่อนใจ เกมยี่สิบคำถามกับปรนัยคงไม่อาจจบลงโดยง่าย เพราะมันจะวนลูปกลับไปที่ข้อแรกเหมือนเดิม

   “กูหายดีแล้วเนี่ย มึงก็เห็น”

   “พีพี”

   เสียงทุ้มต่ำทำให้เจ้าของชื่อต้องถอนหายใจ “ตอนไอ้ชิงป่วย ทำไมมึงไม่ไปนอนเฝ้ามันด้วยอะ”

   “ตัวอย่างควาย ดูแลตัวเองไม่ได้ก็ให้นอนไข้กินไปนั่นแหละ”

   “แล้วกู?” ภาคภูมิชี้ตัวเอง

   “มันไม่เหมือนกัน” คิ้วเข้มขมวดมุ่น “ทำไมต้องถามอะไรเยอะแยะ แค่ขอนอนเป็นเพื่อน ไม่ได้ขอเป็น...”

   “เป็น?”

   “เป็นอะไรก็เรื่องของกู” ตอบอ้อมๆ แอ้มๆ แบบไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

   เจ้าของห้องส่ายหน้าด้วยความระอา แต่เมื่อกดดูนาฬิกาก็เพิ่งรู้ว่าเวลาล่วงเลยมาดึกขนาดนี้แล้ว การจะไล่คนที่ง่วงจนตาปรือกลับห้องมันก็คงดูใจร้ายเกินไป...

   “ถ้าไม่อาบน้ำกูไม่ให้นอนบนเตียงนะ!!”

   “โห่... ใจร้ายจังวะ” บ่นอุบอิบอยู่กับตัวเอง “ถ้าอาบก็ตาสว่างดิ”

   “ไม่อาบน้ำก็นอนพื้น เลือกเอา”

   “False Dilemma!!”

“ถ้ามันเลือกยากนักก็กลับห้องไป๊! ตีสองแล้ว กูจะนอนโว้ยยย!!”

“พีพีอ่า...”

แล้วเจ้าของห้องก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม ไม่ลืมตวัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงแก้ม ปล่อยให้คนที่ยังตัดสินอนาคตตัวเองไม่ได้ต้องเดินหมุนไปหมุนมาอยู่คนเดียว

“เออๆๆๆ อาบก็อาบวะ!”

เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นในเวลาต่อมา ภาคภูมิลอบยิ้มกับชัยชนะของตนเอง โดนไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคนที่ยอมอาบน้ำไม่ได้ทำเพราะอยากนอนเตียง

...แค่อยากนอนกับคนบนเตียงเท่านั้นเอง




TBC.



--------------------------------------

TALK (ที่ยาวกว่าเนื้อหาาาา)

สวัสดีค่ะ
เห็นโพสต์นี้ทุกคนคงขยี้ตา หาว่าบอร์ดรวนแน่ๆ 55555555
เรากลับมาแล้วค่ะ และมีเรื่องอยากคุยกับทุกคนเยอะมาก เอาเป็นว่ายาวแน่นอน
ใครอ่านส่วนนิยายจบแล้ว และไม่ค่อยมีเวลา อ่านเฉพาะที่เราทำตัวหนาได้เลยค่า

-------------------------

ทำไมหายไปนาน?

- เราต้องดูแลครอบครัวเนื่องจากคุณพ่อเสียชีวิตกระทันหันค่ะ


คนที่ไลค์เพจหรือตามทวิตเราคงพอทราบว่า เมื่อปลายเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
เราไปเที่ยวญี่ปุ่นที่เป็นทริป outing ของบริษัท พอกลับมาถึงไทยปุ๊บ
ก็ทราบข่าวว่าคุณพ่อของเราเสียชีวิตกระทันหัน แทบจะเวลาเดียวกันกับตอนเครื่องแลนดิ้งเลย

ตอนนั้นเราต้องกลับบ้านที่ตจว.ด่วน จัดการเรื่องงานศพพ่อ และดูแลแม่อีกพักหนึ่ง
ด้วยสภาวะจิตใจของแม่ที่ค่อนข้างย่ำแย่ ทำให้เราต้องกลับบ้านตจว.ทุกเสาร์-อาทิตย์เพื่อไปอยู่เป็นเพื่อนแม่
ดังนั้นนอกจากความเศร้าแล้ว เรายังไม่มีเวลาพักแบบจริงๆ จังๆ พอจะเขียนนิยายได้เลย
แต่สิ่งที่เราทำคือพยายามเขียนวันละนิดวันละหน่อย มีเวลาตอนไหนก็เปิดเขียนเมื่อนั้น

ตั้งแต่พ่อเสีย เราต้องไปกลับ กรุงเทพฯ-ตจว.บ่อยมาก
ต้องไปขึ้นศาล ไปธนาคาร เคลียร์เรื่องเงินและหนี้สินของพ่อซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่จบ
และบอกตามตรงว่าเราต้องรับงานจ็อบนอกมากขึ้น เพื่อหารายได้ให้ที่บ้านที่ไม่มีพ่อเป็นเสาหลักแล้ว
นิยายตอนหนึ่งๆ ที่ควรจะเสร็จนานแล้ว มันเลยยืดเวลามาจนถึงตอนนี้ค่ะ


นิยายเรื่องนี้จะเขียนจนจบมั้ย

- จบแน่นอนค่ะ เป็นความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าเราจะไม่ทิ้งนิยายของเรา


เราทราบว่าคนอ่านก็อึดอัดใจในการรอคอยที่จะอ่าน ซึ่งเราก็ไม่สบายใจมากๆ ที่ขาดการลงนิยายหลายเดือนขนาดนี้
แต่ยังไงเราก็จะเขียนให้จบตามโครงเรื่องที่ออกแบบมาแต่ต้น ไม่มีการตัดให้เรื่องจบแบบงงๆ แน่นอน
มันอาจจะใช้เวลานานสักหน่อย แต่ไว้ใจเราได้เลยค่ะว่าจะเขียนจนจบจริงๆ


Sweet Linemma ในจอยทำไมเงียบไป

- แอปแฮ้งบ่อยมาก เซฟแล้วล่ม เนื้อเรื่องหาย


ก่อนหน้านี้เราเขียนเรื่องราวของแก๊ง F4 ตอนย้อนกลับไปปี 1 ที่เพิ่งรู้จักกัน
เป็นบทสนทนาลงแอปจอย โดยตั้งใจจะเขียนคั่นระหว่างรอตอนยาวๆ คนอ่านจะได้มีอะไรอ่านเล่นๆ
แต่ไม่รู้ว่าแอปจอยเป็นอะไร ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แอปล่มบ่อยมากกกกก
แล้วแอปนี้เวลาพิมพ์ต้องพิมพ์ผ่านมือถือ แบบเราพิมพ์ไลน์จริงๆ
เขียนไว้ก่อนแล้วค่อยโพสต์ก็ไม่ได้ ทำได้แค่พิมพ์ไปเซฟ (จากแอป) ไป ซึ่งเราเจอแอปล่มติดๆ กันจนท้อใจ
ส่งเรื่องแจ้งทาง official line ของจอยก็แล้ว เมนชันทวิตหาจอยก็แล้ว ทางแอปบอกว่ากำลังแก้ไข
ตอนนี้เราไม่รู้ว่ากลับมาใช้ได้เป็นปกติหรือยัง เดี๋ยวจะลองเข้าไปดูอีกทีค่ะ
ถ้าแอปใช้ได้ปกติแล้ว เราจะกลับมาเขียนต่อนะคะ


Sweet Dilemma อีกกี่ตอนถึงจะจบ / ดราม่ามั้ย

- ที่วางไว้ประมาณ 6-7 ตอนค่ะ / ไม่ดราม่า


ตามที่แจ้งตั้งแต่ต้นว่าเรื่องนี้จะไม่ยาวมาก (แต่เขียนไปเขียนมามันยาวเอง แงงงง)
อีก 6-7 ตอนก็จะจบแล้วค่ะ ยังไงเราจะจบให้ได้ในปีนี้นะ 555555
ส่วนเรื่องดราม่า กลับไปอ่านทอล์กตอนแรกได้เลยว่าเราบอกว่าใสๆ แนวมหา'ลัย
เพราะฉะนั้นมันไม่ดราม่าน้ำตานองแน่นอน เพียงแต่ว่า ในระหว่างการเรียนรู้ทางเลือกของหัวใจตัวเอง
มันก็อาจจะมีความช้ำเบาๆ บ้าง แต่ไม่นานจนปวดใจค่ะ
ดูอย่างตอนนี้ก็ได้ นังสองคนนี้มันเศร้านานได้ที่ไหน หุหุ


อ.กฤตกับแตงกวาจะมาอีกมั้ย

- จะมีแทรกตอนมาอีกเหมือนเดิมค่ะ


เพิ่งรู้ว่ามีคนชอบคู่อาจารย์กับลูกศิษย์เยอะมาก
ก่อนหน้านี้เราตั้งใจว่าจะแทรกตอนของสองคนนี้มาเล็กๆ น้อยๆ แบบไม่รบกวนเนื้อเรื่องหลัก
เพราะอยากพัฒนาคู่นี้ให้เป็นเรื่องยาว แต่เอาเป็นว่า ให้เรื่องนี้จบก่อนแล้วกันเนอะ


นิยายเรื่องนี้จะตีพิมพ์เป็นเล่มมั้ย

- ตีพิมพ์ค่ะ แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร


ตอนวางพล็อตเรื่องนี้ รู้เลยว่ามันไม่ง่าย เนื้อหาค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม มีแววน่าเบื่อรออยู่
ดังนั้นพอมีสำนักพิมพ์ติดต่อมา เราจึงรู้สึกยินดีมากๆ
แต่อย่างที่เห็นว่ากว่าแต่ละตอนจะมา มันช่างยาวนานเหลือเกินนนนน
สงสารสนพ.จริงๆ ถ้ารับปากไปแล้วแล้วต้องมารอนิยายเรา
ยังไงอยากให้ทางสนพ.ได้อ่านตอนต่อๆ ไปก่อน ถ้าหากว่าชื่นชอบจนจบเรื่อง เราก็ยินดีที่จะร่วมงานค่ะ

----------------------------------------------

เรื่องที่อยากพูดคุยก็คงประมาณนี้ค่ะ
จริงๆ ใครมีคำถามอื่นๆ สามารถคอมเมนต์ในบอร์ดนี้
หรือส่งข้อความมาในเพจ หรือเมนชันมาในทวิตได้หมดเลยค่ะ
ทุกช่องทางเราดูแลเอง จะพยายามตอบทุกคนค่ะ

Page: https://www.facebook.com/lykarfanpage
Twitter: @lykar91
Hash tag: #SweetDilemmaFiction


ขอบคุณทุกคนที่ยังรอ และเป็นกำลังใจให้กันมาตลอดนะคะ
แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2018 00:37:19 โดย lykar »

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #223 เมื่อ23-01-2018 01:21:58 »

เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณคนเขียนและครอบครัว
รวมถึงภูมิกับปอเลยนะคะ

ก็ขอเป็นกำลังใจเล็กๆ และจะติดตามนิยายเรื่องนี้ให้สมกับที่คุณคนเขียนตั้งใจเขียนเลยค่ะ

Fighting for every that coming into you life ka  :pig4:

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #224 เมื่อ23-01-2018 06:13:48 »

ขอเป็นอีกกำลังใจให้คุณlykar นะคะ  :L2:
ขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสีย
ขอชื่นชมกับความเข็มแข็งและการแสดงความรับผิดชอบต่อครอบครัวและกับผลงาน
อยากช่วยอะไรได้มากกว่าความรู้สึกแค่นี้จริงๆ
ถ้าพอจะช่วยได้บ้าง ก็ขอบอกว่าจะรอติดตามอ่านรอให้กำลังใจผลงานของคุณlykar ต่อๆไป
ไม่ต้องกังวลเรื่องคนอ่านจะต้องรอนานนะคะ
รอได้ค่ะ และยินดีรอด้วยความขอบคุณและเข้าใจเสมอ
ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี และขอให้ต่อจากนี้มีแต่เรื่องราวดีๆเข้ามาในชีวิตนะคะ
fighting จ้า^^ :กอด1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #225 เมื่อ23-01-2018 07:28:54 »

เรามาเป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ให้ผ่าไปด้วยดี สำหรับนิยายเราสามรถรอได้ค่ะ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #226 เมื่อ23-01-2018 09:00:04 »

 :L2: :L2:
สู้ ๆ นะจ๊ะ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #227 เมื่อ23-01-2018 09:17:30 »



เป็นกำลังใจให้นะคะ และจะรอติดตามส่งน้องพีพีกับปอให้ถึงฝั่งด้วย
หากวันนี้เหนื่อยมาก ก็พักแล้วบอกตัวเองว่า ฟ้าหลังฝนจะสดใสเสมอค่ะ
สู้ ๆ น้า!  :กอด1:




ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #228 เมื่อ23-01-2018 09:19:12 »

 :3123: :3123: :3123: :3123:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sunshine538

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #229 เมื่อ23-01-2018 09:29:11 »

ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจ (อีกครั้ง) และให้กำลังใจนะคะ ทุกอย่างจะกลับเข้าที่และดีขึ้นแน่นอนค่ะ

ในส่วนของหนุ่ม ๆ นั้น...
ชิงชิง ป้าให้ 10 10 10 เลยจ้า ประโยคสุดท้ายนั่นมันโดนใจป้ามาก และถ้าไม่มีประโยคนั้น ปอก็คงคิดไม่ได้หรอกว่าควรจะต้องทำยังไง

ส่วนปอ จากตอนที่แล้วเม้งไว้เยอะแถมหักคะแนนจนติดลบ ตอนนี้คืนให้ก่อน 2 คะแนน ที่ยังมีทางเลือกแค่ คนที่รักไม่ได้ (แสดงว่าถ้า เป็นไปได้ แล้วจะลุยเลยสินะ  :katai5:)  อีกคะแนนมาจากความเนียนในการเข้าคลุกวงในพีพี จากเดิมทำแบบไม่รู้ตัว นี่ทำแบบไม่ให้ตั้งตัว อาบน้ำก็ยอมอ่ะ ดีเลิศ !!

สุดท้าย เป็นกำลังใจให้พีพี ขอให้รู้ตัวไวๆ ว่าเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อแล้วนะลูกกกก

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
« ตอบ #229 เมื่อ: 23-01-2018 09:29:11 »





ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #230 เมื่อ23-01-2018 09:48:48 »

สนุกมากค่ะ รอติดตามจ้า

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #231 เมื่อ23-01-2018 11:02:17 »

เป็นกำลังใจให้สองหนุ่ม และคนเขียนด้วยนะคะ

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #232 เมื่อ23-01-2018 11:07:52 »

 :mc4:

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #233 เมื่อ23-01-2018 15:25:20 »

เป็นกำลังใจให้นะคะสู้ๆๆๆ :L2:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #234 เมื่อ23-01-2018 15:43:22 »

เป็นกำลังใจให้นะค๊ะ ส่วนปอกับพีพีก็ยังติดตามอยู่ค่ะ

ออฟไลน์ idee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #235 เมื่อ23-01-2018 18:33:31 »

เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์นะคะ อยากกระโดดเข้าไปกอดแน่นๆ ไม่ต้องห่วง เรารอได้ ไม่เป็นไรเลยจริงๆค่ะ
ยังเอ็นดูเด็กๆ ทุกคนเหมือนเดิม พีพีลู๊กกก ออกจะน่ารักขนาดนี้ แล้วทำไมเจ้าปอถึงยัง "รักไม่ได้" อีกนะ น่าตีจริงๆ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆ ออกมาให้อ่านกันนะคะ จะรออย่างใจจดใจจ่อต่อไป (อย่ากดดันนะคะ เราพูดจริงๆ 555)

/กอดคนเขียนอีกทีนึงงงง
 :-[
 

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #236 เมื่อ23-01-2018 19:45:41 »

 :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #237 เมื่อ23-01-2018 20:43:12 »

ขอแสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจให้ไรท์ :mew1: :mew1: :mew1:
ไรท์ พยายามหาเวลาพักผ่อนด้วยนะ ผ่อนคลายตัวเอง สู้ๆ

ชิง พูดได้ดี  :katai2-1:
เป็นพี ก็อยากต้ดปอจากชีวิตนะ   
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ diltosscap

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #238 เมื่อ23-01-2018 20:54:38 »

เป็นกำลังใจให้นะคะ รอติดตามผลงานค่ะ ชอบพลอตเรื่อง รักเพื่อนแบบนี้ ชอบมากที่ไม่ดราม่า น้ำตาแตกแบบหนักๆ  ดีที่ปอได้อยู่กับชิงชิง ไม่งั้นสงสารพีพีน้ำตาแตกแน่ๆ

ออฟไลน์ vy0Cik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: Sweet Dilemma - รักวิบัติ #13 All I know (Update! 23/01/18)
«ตอบ #239 เมื่อ23-01-2018 21:02:42 »

เห็นเรื่องนี้ขึ้นตอนที่13สะบัดหน้ามาดูใหม่เลย นึกว่าตาฝาด //แซวเล่น ต่อให้รอนานกว่านี้ก็จะรอค่ะ เป็นนิยายอีกเรื่องที่ควรค่าแก่การรอ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด