[END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18  (อ่าน 341416 ครั้ง)

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
«ตอบ #90 เมื่อ06-02-2017 20:51:22 »

ถ้าช็อกจีบปิง พี่อิสจะหึงบ้างมั้ย :hao3: ตามมาเป็น fc ด้วยคนค่ะ :L1:

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #91 เมื่อ06-02-2017 23:27:34 »

ตอนที่ 11

เท่แบบอิสๆ

 

วันนี้ผมกลับมาทำงานปกติ โดนพี่พิงค์บ่นนิดหน่อยเพราะแผลยังไม่ทันหายดี แต่มันไม่ได้ลำบากต่อการทำงานเท่าไรนัก ผมไม่อยากหยุดงานนาน ไม่ได้ทำงานหลายวันแล้วเริ่มขี้เกียจแถมกลัวว่าจะได้เงินน้อยด้วย ขณะที่ผมกำลังเก็บโต๊ะแล้วเดินเอาแก้วไปเก็บในครัว สองขาก็หยุดชะงักเพราะไฟในร้านดับพรึบลงกะทันหัน

ผมเงยหน้ามองหลอดไฟที่ดับสนิททุกดวง แต่นอกร้านสว่างเป็นปกติ คนในร้านส่งเสียงจอแจแต่พนักงานไม่ได้มีปฏิกิริยาใด เพราะที่ไฟดับเป็นฝีมือของพี่พิงค์ที่สับสวิตช์ไฟอยู่ข้างหลัง ทิ้งช่วงให้ลูกค้าแตกตื่นไม่ถึงนาที พี่อีมก็จัดการจุดเทียนบนเค้กก้อนหนึ่งแล้วเดินออกไป ก่อนเสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์จะดังขึ้นจากกลุ่มนักเรียนหญิงโต๊ะหนึ่ง เมื่อรู้ว่าไฟดับเป็นแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดซึ่งเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นมาขอให้เราช่วยแผนการ พี่พิงค์เลยจัดการเล่นใหญ่ ดับไฟให้เป่าเทียนกันเลย บรรดาลูกค้าโต๊ะอื่นๆ ก็หัวเราะชอบใจ ร่วมร้องเพลงไปด้วยจนดังทั่วร้าน

 

“แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทูยู...”

 

เสียงเพลงท่อนสุดท้ายจบลง เจ้าของวันเกิดที่นั่งยิ้มแก้มปริหัวเราะเบาๆ ดูเคอะเขิน ก่อนจะเป่าเทียนนั้น

“เย้!”

“ขอบคุณมากนะพวกแก ดีใจมากอ่า!”

“พวกเรารักแกนะเว้ย!”

“อื้อ รักๆ”

“สุขสันต์วันเกิดนะแก”

“ขอบคุณมากๆ”

พี่พิงค์สับสวิตช์ขึ้น ก่อนบรรยากาศในร้านจะกลับมาเป็นปกติ ผมอดยิ้มไม่ได้กับภาพตรงหน้าหรือที่จริงแล้วความรู้สึกในใจคืออิจฉามากกว่า ผมจำไม่ได้แล้วว่าได้เป่าเทียนวันเกิดครั้งสุดท้ายตอนอายุเท่าไร

“พี่คะ”

“ครับ?” หลุดออกจากความคิดตอนที่นักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาเรียก

“พี่ปิงใช่ไหมคะ”

ผมพยักหน้าอย่างดูงงๆ ที่เธอรู้จักผม ก่อนอีกฝ่ายจะหันไปหาเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน

“บอกแล้วว่าใช่”

“ตัวจริงขาวกว่าในรูปอีก”

เดาได้ด้วยประโยคนั้นว่าพวกเธอคงรู้จักผมเพราะช็อก ช่วงนี้ผมเริ่มหวั่นวิตกนิดหน่อย คนชอบช็อกอาจจะไม่ชอบผม เพราะอยู่ดีๆ ก็เหมือนจะไปตีสนิทช็อกอะไรทำนองนั้น ผมจะโดนเกลียดหรือเปล่า

“พี่ปิงทำงานที่นี่เหรอคะ”

“ครับ”

“ทำทุกวันไหมคะ”

“ทำบางวันครับ”

“อ๋อ พี่ปิง ดูใกล้ๆ แล้วก็น่ารักนะคะเนี่ย”

ผมได้แต่ฉีกยิ้มฝืดๆ ส่งไป

“เหมือนเคะตัวน้อยๆ”

“ครับ?”

“อยู่กับพี่ช็อกแล้วคลิกอะ ฉันชิปคู่นี้!”

“เนอะแก!”

สองคนยกมือตีกันพร้อมเสียงหวีดร้องเบาๆ  ผมยืนกะพริบตาปริบๆ เพราะไม่เข้าใจที่พวกเธอพูด ไม่เข้าใจสักคำเลย เป็นภาษาวัยรุ่นที่เข้าใจเฉพาะกลุ่มหรือว่าเป็นภาษาอื่น...หรือยังไงนะ

“งั้นพวกหนูไปก่อนนะคะพี่ปิง”

“อ่า...ครับ”

“แกหยิบไม้พายขึ้นมา!”

ผมสะดุ้งเสียงของเธอที่แผดขึ้นมาก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้ผมงงกับคำพูดที่หาความหมายไม่เจอเข้าไปอีก...อะไรวะ

“มีสาวๆ มาจีบเหรอน้องปิง”

“ไม่ใช่พี่” ผมหันไปตอบพี่พิงค์ที่เดินเข้ามาถาม

“เห็นมาหวีดอะไร”

“เขาพูดอะไรไม่รู้ ไม่ค่อยเข้าใจ ตอนแรกนึกว่าจะโดนตบซะอีก”

“หือ? ทำไมต้องโดนตบอะ”

“ช่วงนี้ผมไปทำตัวสนิทกับคนดังของโรงเรียนอะครับ แล้วแฟนคลับเขาเยอะ โดนมองแต่ละทีนี่เสียวหลังเลยอะ ไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า”

“จริงดิ แล้วปิงเป็นแฟนเขาเหรอ”

“ไม่ใช่ครับ ผมย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ๆ เขา เราเลยเจอกันบ่อย จริงๆ ไม่มีอะไรเลย”

“เขาจีบเปล่า”

“ไม่ครับ”

“หรือจีบเขา?”

“ม่าย!” ผมส่ายหน้ารัวๆ  พี่พิงค์หลุดหัวเราะแล้วยกมือโยกหัวผมเบาๆ

“เอาคืนไง ชอบแซวพี่”

“โห่...ไม่มีอะไรน่าแซวเลย เขาเป็นผู้ชายด้วย”

“แล้วปิงไม่ชอบผู้ชายเหรอ”

ผมเหลือบตาขึ้นไปมองพี่พิงค์ นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบออกไปจากใจจริง

“ผมไม่เคยชอบใครครับ ไม่รู้ว่าแบบไหนถึงเรียกว่าชอบ”

“เด็กน้อยเอ๊ย” พี่พิงค์ส่ายหน้ายิ้มๆ

“โอ๊ะ! ถึงเวลาเลิกงานแล้วนี่นา ผมกลับบ้านดีกว่า”

“เดี๋ยวๆ กระตือรือร้นแปลกๆ ปกติเลิกงานนี่ไล่ยังไม่ไป ไหนว่าไม่ค่อยชอบบ้าน”

“ผมย้ายบ้านแล้วครับ” ผมยิ้มนิดๆ แล้วปลดผ้ากันเปื้อนออก ก่อนจะเดินไปเก็บของหลังร้าน จริงอย่างที่พิงค์ว่า เมื่อก่อนบ้านไม่ได้ทำให้ผมอยากกลับไปเลย แต่ตอนนี้ผมชอบบ้านมาก ชอบห้องนอนสวยๆ  ที่นอนนิ่มๆ กับผ้าปูที่นอนลายเบ็นเท็นที่ชักชอบมันแล้ว...ผมชอบทุกอย่างที่บ้านเลย

ผมสะพายเป้ขึ้นบ่า บอกลาคนในร้านและเดินออกมาข้างนอก เห็นผู้ชายท่าทางคุ้นๆ นั่งก้มหน้ากดมือถืออยู่ที่ริมฟุตปาท เสื้อผ้าชุดเมื่อเช้าที่จำได้ดีเลยมั่นใจว่าเป็นเขาโดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมาให้มองเลย

“พี่อิสครับ!”

“โห่ มึงเลิกงานกี่โมงเนี่ย รอนานฉิบหาย นี่กูรอจนแทบจะไหลลงท่อระบายน้ำไปแล้วเนี่ย”

บ่นใส่เป็นชุดก่อนทำการทักทายใดๆ ตามสไตล์ของลุง

“มานั่งรอทำไมอะ”

“กูเพิ่งกลับมาไง เดินผ่านร้านพอดีเลยรอ ก็ไม่รู้จะรอทำห่าอะไรเหมือนกัน”

“ทำไมไม่เข้าไปรอในร้านอะ”

“ไม่เอาอะ กูไม่ชอบเข้าร้านกาแฟ เห็นมีแต่เด็กนักเรียน”

“งั้นไปกินข้าวกัน”

“อือ ยุงกัดฉิบหาย เกาจนหนังกำพร้ากูแหกหมดแล้วเนี่ย ดูๆ” เขาว่าแล้วยื่นท่อนแขนที่มีรอยเกาแดงๆ ส่งมาให้ดูเหมือนกำลังฟ้อง

“แล้วจะให้ช่วยเกาหรือไง”

“เออ เกาเลย”

“พี่นี่”

เขายื่นแขนมาตรงหน้าเหมือนจะแกล้งไม่ให้ผมเดิน ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ แล้วยกมือขึ้นมาเกาแขนให้เขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ พอเห็นมือตัวเองที่อยู่บนแขนเขาเลยรู้ตัวว่าแขนผมเล็กมากเมื่อเทียบกับท่อนแขนใหญ่กับเส้นเลือดหนาๆ พวกนั้น ขนาดตัวที่แตกต่างย้ำชัดกว่าตอนอยู่ใกล้ๆ พี่อิสผมตัวเล็กนิดเดียว เล็กแบบเป็นแมวของเขาได้เลย

“จั๊กจี้อะ”

“พอใจยังอะ”

“พอเหอะ ขนลุก” เขาดึงแขนกลับไป เราเดินกันมาพักหนึ่งจึงตกลงกันว่าจะกินบะหมี่หมูแดงร้านริมทาง พี่อิสเป็นคนกินอะไรก็ได้ง่ายๆ  ผมก็กินทุกอย่างยกเว้นผักกับนมจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องกินเท่าไร

“คนเยอะอะ ซื้อไปกินบ้านเหอะ”

“ได้ครับ” ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนพี่อิสจะไปสั่งบะหมี่ใส่ถุงกลับบ้าน

“ของผมไม่ใส่ถั่วงอกนะครับ” ผมหันไปสั่งกับป้าคนขาย

“ใส่ไปเลยครับป้า” พี่อิสแย้งขึ้นมา

“พี่อิส ผมไม่กิน”

“บอกแล้วไงอยู่กับกูห้ามเลือกกิน กินผักแล้วมันจะตายหรือไงฮะ?”

“โห่ ขอเลย ถั่วงอกนี่เกินความสามารถจริงๆ อะ”

“เดี๋ยวกูสอนกิน”

“อย่างอื่นผมได้หมด เว้นถั่วงอกนะพี่อิส ไม่เอา”

เขาหรี่ตามอง คิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะพยักหน้าส่งๆ

“เออ ยอมให้อย่างหนึ่งก็ได้ แต่อย่างอื่นมึงต้องกินนะ ไม่งั้นกูจะยัดใส่ปากมึงเอง”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปสั่งป้าอีกทีว่าถุงหนึ่งไม่ใส่ถั่วงอก ไม่ถึงสิบนาทีบะหมี่สองถุงที่สั่งก็ได้ ผมกำลังควักกระเป๋าสตางค์ออกมาจ่ายเงิน

“ไม่ต้อง กูจ่ายเอง” พี่อิสดึงถุงพลาสติกออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในนั้นอีกทีออกมาควักเงินจ่ายค่าบะหมี่ ผมหลุดยิ้มกับถุงพลาสติกใสๆ ในมือเขา ข้างในมีกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ ซองบุหรี่ ไฟแช็ก และลูกอมสองสามเม็ด

“มึงยิ้มอะไร”

“นี่กระเป๋าพี่เหรอ”

“เออ ทำไม”

“ชาวบ้านเขาก็รู้หมดเลยว่าพกอะไรบ้าง”

“เท่จะตาย ไปได้แล้ว” เขารับเงินทอนมาจากแม่ค้า ก่อนจะสะบัดหน้าเป็นเชิงให้ผมเดินออกไป

“จริงๆ พี่ไม่ต้องจ่ายให้ผมก็ได้นะ ข้าวเช้าก็ทำให้กิน”

“เออ ไว้กูหมดตัวเมื่อไรมึงค่อยจ่าย”

“งั้นเดี๋ยวผมช่วยทำให้พี่หมดตัวเร็วๆ นะ”

“กวนตีน เดินไปเลยไป”

ผมหัวเราะหน่อยๆ กำลังจะเอากระเป๋าสตางค์ตัวเองเก็บใส่เป้ ก่อนสองขาที่กำลังก้าวไปจะเซเกือบล้มเพราะถูกชนไหล่เข้าจังๆ จนกระเป๋าสตางค์ในมือกระเด็นตกไป คนที่เดินชนไหล่ดูรีบร้อนไม่ได้สนใจหันมองผมด้วยซ้ำ

“อะไรของมันวะ เดินชนไม่ขอโทษสักคำ สันดาน” พี่อิสบ่นพึมพำแล้วก้มลงไปหยิบกระเป๋าสตางค์ให้

“เขาอาจจะรีบก็ได้”

“แหม โลกสวยนะมึง เป็นกูตามไปเตะละ...” เขาหยุดพูด แล้วขมวดคิ้วนิดหนึ่งเมื่อมือหนึ่งคลี่กระเป๋าสตางค์ผมออกแล้วมองไปยังบางอย่างในนั้น

“นี่มึงเหรอ” เขาพลิกกระเป๋าสตางค์มาให้ผมดูบัตรประชาชนที่อยู่ในนั้น

“ก็ต้องเป็นผมสิ”

“เชี่ย หน้าอย่างมึน มึงง่วงมากเหรอ”

“พี่อิส เอาคืนมาเลย”

“โคตรตลกอะ” เขาหัวเราะเบาๆ แล้วส่งคืนให้ผม

“โห่พี่ หน้าใครๆ ก็ตลกหมดแหละถ้าอยู่ในบัตรประชาชนอะ”

“กูหล่อนะ”

“ขอดูหน่อยสิ”

“ไม่ให้”

“ไม่หล่อจริงอะดิ ทำเป็นอวด”

“ไปเลย รีบเดิน บะหมี่อืดหมดแล้ว ดึกแล้วด้วย พรุ่งนี้มึงต้องไปเรียนอีก”

“พรุ่งนี้ว่าจะไม่ไปโรงเรียนนะ”

“หือ? ทำไม” เขาหันหน้ามาถาม

“พรุ่งนี้ตอนบ่ายมีงานประชุมผู้ปกครองประจำเทอมอะ มีเรียนแค่ช่วงเช้า ผมเลยว่าจะไม่ไป”

“ประชุมผู้ปกครองเหรอ”

“อื้อ ผมไม่มีผู้ปกครองไปร่วมงาน ตอนบ่ายก็กลับได้เลย”

พี่อิสพยักหน้าหน่อยๆ  ทุกๆ เทอมจะมีงานประชุมผู้ปกครอง ผมไม่รู้ว่าในงานเป็นยังไง เพราะไม่เคยมีผู้ปกครองไปสักปีเลย ป้าไม่เคยว่างไปเป็นผู้ปกครองให้ผม หรือจริงๆ ก็อาจจะว่างแต่ไม่อยากไปก็ได้...ไม่รู้เหมือนกัน

“งั้นกูไปให้ไหมล่ะ”

“ครับ?”

“กูไปเป็นผู้ปกครองให้ไง”

“พี่จะไปให้เหรอ”

“เออ หรือกูไม่ได้แก่พอจะเป็นผู้ปกครองมึงได้”

ปกติถ้าไม่มีผู้ปกครองไปในวันพบผู้ปกครอง ผมจะถูกฝ่ายปกครองเรียกไปคุยส่วนตัวแล้วก็มีจดหมายถึงผู้ปกครองอีกครั้ง บางทีครูที่ปรึกษาจะโทรหาป้าแต่ป้าก็โยนให้ย่าคุยทุกที แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้านนั้นแล้ว ถ้าครูโทรไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร แต่ถ้าให้พี่อิสไปเป็นผู้ปกครองให้...

“เอาไง จะให้ไปไหม พรุ่งนี้กูว่างอยู่พอดีด้วย ไม่สิ กูก็ว่างทุกวันแหละ”

“เอาครับ ไปครับ”

“เออ ก็แค่นั้น โชคดีขนาดไหนที่มึงจะมีผู้ปกครองเท่อย่างกู”

“พี่อิสโคตรเท่เลย” ผมรีบพยักหน้าหงึกๆ แล้วชูนิ้วโป้งขึ้นสองข้าง เอาใจไว้ก่อนเพราะกลัวพี่แกติสต์เปลี่ยนใจขึ้นมา ผมคงดีใจเก้อ

...

 

เช้าวันถัดมา ผมจัดตารางสอนแค่ช่วงเช้าซึ่งมีแค่วิชาคณิตพื้นฐานกับคณิตเพิ่มเติม เอาจริงๆ มันจะแยกกันทำไมก็ไม่รู้ แต่จะพื้นฐานหรือเพิ่มเติมมันก็คือความอัปยศในชีวิตการเรียนของผมทั้งสิ้น ผมเกลียดตัวเลข ถ้าไม่ใช่จำนวนเงิน อะไรที่เป็นเลขเกลียดหมดเลย

ผมแต่งตัวเสร็จออกมาข้างนอก พี่อิสอยู่ในครัวเหมือนทุกวัน กลิ่นอาหารเช้าพาผมให้เดินเข้าไปในครัว วันนี้มีขนมปังปิ้ง โบโลน่า แล้วก็ก้อนอะไรไม่รู้เหลืองๆ ฟูๆ น้ำมันเยิ้มๆ

“จ้องอะไร กินสิ”

“อันนี้อะไรอะ” ผมชี้ไปยังสิ่งที่น่าสงสัยก้อนนั้น

“ไข่ดาว”

“ทำไมมัน...”

“มึงอย่ามีปัญหากับไข่กู ก็แค่กินเข้าไป”

“ครับ” ผมปลดเป้ลงจากบ่าแล้วหยิบขนมปังปิ้งกรอบๆ เข้าปากก่อน

“เอาซอสไหม”

ผมพยักหน้ารับ

“หยิบเอง ในตู้เย็น”

แล้วจะถามเพื่อ... ผมหมุนตัวกลับไปเปิดตู้เย็น กวาดตาหาขวดซอส ตู้เย็นขนาดใหญ่กับทุกพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเสบียงดูแน่นขนัด เฉพาะช่องฝั่งประตูก็เต็มไปด้วยของมึนเมาที่ไม่เหมาะกับเยาวชน ทั้งเบียร์ขวด เบียร์กระป๋อง โซดา ไวน์คูลเลอร์ ให้เพียบไปหมด ไม่รู้เลยว่าขวดซอสมันซ่อนอยู่ในซอกไหน

“พี่อิส หาไม่เจอ”

“มันก็อยู่ตรงนั้นแหละ มึงพยายามก่อนที่จะบอกว่าหาไม่เจอได้ไหม”

ผมแอบคว่ำปากใส่คนที่กำลังบ่น ก้มมองในตู้เย็นอีกทีก็หาไม่เจอจริงๆ

“นี่ไง”

เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ที่ข้างหู ตอนที่พี่อิสยื่นมือมาจากด้านหลัง หยิบขวดซอสที่นอนอยู่ที่ชั้นล่าง ผมตัวแข็งตอนหันไปเจอหน้าเขาที่โน้มลงมาพอดี กะพริบตาปริบๆ ตอนที่พี่อิสไม่ยอมขยับตัวออกไป มุมปากเขายกขึ้นนิดๆ ก่อนจะถอยออกไป

“เป็นงูฉกเบ้าตามึงไปแล้ว” เขาพูดพลางบิดฝาขวดซอส

“ก็มันไม่เห็น...” ผมเถียงเบาๆ

“เปิดไม่ออกว่ะ อะ เปิดเอง” เขายื่นขวดซอสให้ ผมหมุนข้อมือบิดฝาซอสเบาๆ ฝาก็เปิดออก พี่อิสเบิกตาขึ้นงงๆ

“แขนใหญ่ๆ นี่ไม่ได้ช่วยเรื่องความแข็งแรงเลยใช่ปะ” ผมแกล้งแซว

“โด่ กูบิดจนมันจะออกอยู่แล้วเหอะ กินเลย เดี๋ยวสาย”

ผมหัวเราะหน่อยๆ แล้วเทซอสลงไปบนบางสิ่งที่เขาเรียกมันว่าไข่ดาว เอาตรงไหนมาไข่ดาว...ไม่รู้เหมือนกัน

“แล้ววันนี้กูต้องไปกี่โมง”

“เริ่มประชุมบ่ายโมงครับ”

“อือ แล้วมึงกลับพร้อมกูได้เลยใช่ไหม”

“ครับ”

“เค” เขาพยักหน้านิดๆ แล้วหันไปเปิดน้ำล้างกระทะ ผมมองเขาจากด้านหลัง พี่อิสอยู่ในชุดที่คล้ายๆ กับเมื่อวาน เขาจะไปชุดนี้เลยไหมนะ ถ้าลองขอให้แต่งตัวหล่อๆ ดู จะโดนด่าหรือเปล่า ไม่เสี่ยงดีกว่า เขาดูเป็นคนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองจริงๆ นั่นแหละ ขนาดพี่เนยขอยังไม่ทำให้เลย ถ้าผมขอนี่คงโดนสวดยับแน่ๆ

“หลินปิง”

“ครับ...ครับพี่อิส?”

“มึงมองกูนานมากเลย มีอะไร”

“ไม่มีครับ”

“พูดมา” เสียงเข้มๆ ทำให้ผมต้องเอ่ยปากในสิ่งที่คิดออกไป

“กำลังคิดว่าวันนี้จะขอให้พี่อิสแต่งตัวหล่อๆ ได้หรือเปล่า ผมแค่คิดเฉยๆ นะครับ ไม่ได้กะจะขอจริงๆ”

“เออ ได้ เดี๋ยวหล่อให้โรงเรียนพังเลย”

“จริงนะ”

“อือ”

“โกนหนวดด้วยนะ”

“เรื่องมากจริง เดี๋ยวไม่ไปแม่ง”

“โอเคๆ ไม่ต้องโกนหนวดก็ได้”

พี่อิสหัวเราะในลำคอเบาๆ  ผมรีบยัดอาหารเช้าที่เขาทำให้กินจนหมดแล้วออกไปโรงเรียน เดินออกมาที่หน้าปากซอย เห็นมนุษย์คนหนึ่งนั่งไขว่ห้างร่างกายสว่างจ้าอยู่บนมอเตอร์ไซค์ เมื่อคนตรงนั้นหันมาเห็นผมพอดีจึงยกมือขึ้นเป็นเชิงทักทาย

“ช็อก...มานั่งทำอะไรตรงนี้”

“รอปิงไง บอกแล้วว่าจะไปโรงเรียนพร้อมกัน”

“เฮ้ย จริงๆ ไม่เป็นไรนะ เราไปเองได้”

“ทำไมเล่า ไปกับเรามันไม่ดียังไง ยังไงก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว”

“แต่ว่า...”

“ทำไม”

“เอาจริงๆ เราเกร็งมากตอนอยู่กับช็อกอะ”

“ทำไมวะ”

“เรากลัวว่าคนที่ชอบช็อกเขาจะไม่ชอบเราหรือเปล่า”

“เฮ้ย จะบ้าเหรอ ทำไมเขาต้องไม่ชอบปิงด้วย”

“ไม่...ไม่รู้ดิ บางทีก็ถูกมองแปลกๆ”

“งั้นเราก็มีเพื่อนไม่ได้เลยดิ ใครเป็นเพื่อนเราก็ต้องถูกไม่ชอบงี้เหรอ ไร้สาระ”

“ไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ”

“เออดิ ปิงคิดมาก” ช็อกยื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆ

“เฮ้ย หลินปิง”

หือ?

ทั้งผมและช็อกหันขวับไปหาเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูคุ้นหูและคนที่จะเรียกผมแบบนั้นก็มีคนเดียวบนโลกนี้

“พี่อิส”

“มึงลืมมือถือ” พี่อิสว่าแล้วยื่นมือถือให้ผมแต่สายตามองไปทางช็อก คนถูกมองก็ได้แต่ส่งยิ้มให้อย่างดูเก้ๆ กังๆ ผมจึงรีบแนะนำ

“พี่อิส นี่เพื่อนผมเอง ที่ไปส่งบ้านวันนั้นไง ส่วนนี่พี่ที่เราอยู่บ้านด้วยอะ” ประโยคหลังผมหันไปพูดกับช็อก เขาพยักหน้านิดๆ แล้วหันไปแนะนำตัวกับพี่อิสอีกที

“ผมช็อกครับ”

“เป็นห่าอะไรต้องช็อก”

“ไม่ใช่ เขาชื่อช็อก” ผมสะกิดแขนเขา

“อ้าวเหรอ เออ ชื่อมึงนี่น่าตกใจดีนะ”

ช็อกหัวเราะเบาๆ แล้วหันมาพูดกับผม

“จะสายแล้วอะ รีบไปกัน”

ผมพยักหน้ารับกำลังจะก้าวขาขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ แต่พี่อิสก็ยกมือดึงแขนผมเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวๆ”

“ครับ?”

“ไปด้วยกันเหรอ”

“ใช่ครับ”

“ไปมอไซค์เนี่ยนะ”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

“หมวกกันน็อกก็ไม่มี อันตรายไหมเนี่ย ฮะ? ถ้าเกิดอุบัติเหตุทำไง...”

วิญญาณลุงขี้บ่นเข้าสิงอีกแล้ว ผมรีบก้าวขาขึ้นมอเตอร์ไซค์ช็อกแล้วสะกิดให้เขาสตาร์ตรถออกไปเลย

“เฮ้ย! ยังพูดไม่จบเลย”

“สายแล้ว ไม่มีเวลาฟังแล้ว เจอกันตอนบ่ายครับ ไปนะ”

“หวัดดีครับ” ช็อกหันไปพูดกับพี่อิส

“ไม่ต้องมาหวัดดีกู”

“ไปเลยช็อก”

“ขับดีๆ นะมึง! ไอ้เด็กเวร วันหลังเอาหมวกกันน็อกมาด้วยสิโว้ย!”

ผมหัวเราะเบาๆ ตอนที่ช็อกขับออกมาแล้วแต่พี่อิสยังยืนบ่นอยู่ตรงนั้นไม่หยุด ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งเหมือนมนุษย์ลุงเข้าไปทุกที

ช็อกขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดที่เดิมเหมือนเมื่อวาน สายตาคู่อื่นๆ ก็ยังมองมาเหมือนเมื่อวาน แต่ผมลดความเกร็งลงนิดหน่อยเพราะในความเป็นเพื่อนคงไม่ผิดเพียงเพราะเรามาโรงเรียนพร้อมกัน

“พรุ่งนี้เจอกันที่เดิมนะปิง”

“โอเค”

“ต้องเอาหมวกกันน็อกมาเปล่าอะ พี่ปิงแม่งอย่างน่ากลัวเลย”

“เฮ้ย พี่อิสไม่น่ากลัวนะ”

“ไม่รู้ดิ มองเราเหมือนจะกัดอะ”

“เขาหน้าตาโหดเฉยๆ แต่ใจดีมากเลย ขนาดเพิ่งรู้จักกับเรายังให้เรามาอยู่บ้านเลย”

“ปิงเพิ่งรู้จักกับเขาเหรอ”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

“เขาให้ปิงมาอยู่ด้วยนี่ ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงใช่เปล่า”

“คือยังไงอะ”

“ก็แบบ...เขาเคยแบบ...คิดล่วงเกินอะไร...”

“เฮ้ย ไม่มี!” ผมปฏิเสธเสียงดัง

“ไว้ใจได้เหรอ ไม่ได้รู้จักกันดีสักหน่อย ปิงก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนเขาจะบอกลาเพื่อแยกกันเดินไปคนละทาง ผมกำลังคิดว่าทำไมทุกคนต้องคิดว่าพี่อิสเป็นพวกโรคจิตหลอกเด็กมาทำมิดีมิร้าย หรือว่าหน้าตามันเข้าข่าย? แต่เลิกคิดเรื่องนั้นไปได้เลย ขนาดถอดเสื้อเดินในบ้านยังโดนบ่น โดนสั่งให้แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องทุกครั้ง เลยมั่นใจว่าพี่อิสไม่ใช่พวกที่จะคิดเรื่องอะไรแบบนั้นแน่นอน ถ้าถามว่าไว้ใจพี่อิสไหม ผมก็ไว้ใจไปแล้ว พี่อิสไม่น่ากลัวเลย เป็นแค่ลุงแก่ๆ อายุจริงยี่สิบห้า หน้าสามสิบ...ความคิดหกสิบบวกๆ

 

To be continued.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2021 18:44:23 โดย เต้าหู้ไข่ »

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #92 เมื่อ06-02-2017 23:48:46 »

พี่อิสน่ารักอ่ะ มารอรับน้องหน้าร้าน ไปเป็นผู้ปกครองให้ด้วย ซึ้งอ่ะ รอดูคนหล่อโรงเรียนพัง
หวงน้องแล้ว รอคู่นี้เขาหวั่นไหวกัน กรี๊ดดดด มีความฟินสูง

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #93 เมื่อ06-02-2017 23:53:26 »

ตาอิสขี้บ่น  :m20:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #94 เมื่อ07-02-2017 00:16:14 »

แต่งหล่อๆเลยนะพี่อิส  :hao7:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #95 เมื่อ07-02-2017 00:39:24 »

 :katai5:

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #96 เมื่อ07-02-2017 01:08:38 »

ตอนแรกไม่กล้าคอมเมนท์ครับ กลัวแนวคุณรชา (หัวเราะ) ที่กลัวนี่ไม่ใช่อะไรนะครับ คุณรชาเขียนนิยายดีครับ ประมาทไม่ได้เลยล่ะ อย่างเรื่องเก่านี่ก็อื้อหือ บูรพานี่อย่างหล่อเลย องศาเหนือนี่ก็น่ารักสุดๆ ส่วนแพทกับลูกไม้นี่ก็โอเคเลยนะครับ ถือว่าทำบาลานซ์ตัวละครได้ดีทีเดียว

ดังนั้น เรื่องนี้ผมเลยไม่ชัวร์ว่ามันจะเป็นรักโรแมนติกรึเปล่า คือตอนแรกก็คิดว่ามันคือคู่พี่อิสกับน้องปิงนะ แต่อ่านไปอ่านมา ฟีลลิ่งของสองคนนี้มันให้อารมณ์ครอบครัวอะครับ ซึ่งมันตอบสนองอย่างไม่มีที่ติกับประเด็นที่น่าสนใจของเรื่องจุดนึง นั่นคือการที่ปิงเป็นเด็กที่ขาดความเอาใจใส่และปกป้องดูแล เขาน่าสงสารเพราะเหมือนขาดพ่อ ความรักของแม่อาจจะได้จากย่า แต่เค้าไม่มีตัวอย่างหรือแบบอย่างของผู้นำครอบครัวที่จะคอยดูแลเอาใจใส่เค้าเหมือนเป็นคนสำคัญในครอบครัว อีกทั้งปิงยังโดนทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจจนชินชาและไม่กล้าที่จะรับความอบอุ่นที่คนอื่นมอบให้ด้วยความจริงใจ ความอบอุ่นอันนี้คือความรักของพ่อที่จะคอยดูแล ปกป้อง สั่งสอน เป็นความรักที่บริสุทธิ์และน่าประทับใจครับ

อีกตัวแปรนึงที่ทำให้ผมไม่มองพี่อิสกับปิงเป็นคู่รัก เพราะมีการบรรยายว่าพี่อิสรักน้องสาวพอสมควรเลย แล้วเค้าก็มีปมแบบเดียวกับปิงมาก่อน พอมาเจอคนที่รูปลักษณ์กับนิสัยคล้ายๆน้องสาว แต่กลับมีปมและน่าสงสารแบบเดียวกับที่เค้าเคยเจอหรืออาจหนักกว่า มันเลยกระตุ้นความรู้สึกเชิงครอบครัวให้รุนแรง ทำให้เค้าพยายามทำให้ปิงมีความอบอุ่นและพยายามช่วยเหลือเป็นที่พึ่งแบบผู้ใหญ่ เพราะน่าสังเกตว่าพอปิงมาอยู่ พี่อิสก็เริ่มทำตัวเป็นผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองมากขึ้น แต่แฝงความขี้เล่นเนื่องจากวัยไม่ได้แก่มากนัก มันเป็นภาพบุคลิกของคุณพ่อที่ดูดีไม่ใช่น้อยเลยน่ะครับ

ทีนี้พอฟีลลิ่งของพี่อิสเข้ามาแล้วมันตอบโจทย์ตรงนี้มากๆ ผมเริ่มเขวละ แล้วชื่อเรื่องเองมันก็ไม่ได้สื่อตรงๆว่าจะเป็นรักโรแมนติกด้วย มันอาจเป็นรักแบบครอบครัวอบอุ่น (ห่างกันเกือบ 7 ปี เลยนะเฮ้ย) ซึ่งถ้าเป็นจริง นับว่าเขียนออกมาได้เฉียบมากนะครับ ยกนิ้วให้เลยล่ะ เพราะมีไม่มากนักที่จะมีนิยายครอบครัวแนวอบอุ่น (ที่ตัวละครเอกมีปม แต่ดำเนินเรื่องแบบสดใส) ออกมาให้อ่านกันบ่อยๆ ถ้าเรื่องรักโรแมนติก ผมกลับไปมองช็อกนะ เพราะว่าดูเหมือนถ้าจะจีบปิงจริง ผ่านด่านพี่อิสคงไม่ง่ายอะครับ (ฮา) ยังไม่นับพวกรุ่นน้องพี่อิสที่น่าจะสถาปนาตัวเป็นพี่ชายหลินปิงอีก นับว่าไม่เบา

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #97 เมื่อ07-02-2017 01:10:12 »

โอ้ยย คือขำพี่อิสมากอ่ะ
หน้าไปก่อนอายุไม่พอ ความคิดยังไปก่อนหน้าอีก 555555
 :laugh: :laugh: :laugh:
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #98 เมื่อ07-02-2017 01:23:40 »

พี่อิส พี่เป็นพระเอกหรือเปล่าคะ 555555
ทำไมในความคิดปิงแต่ละอย่าง พี่แก่มากเลยอะ น้องสงสาร 55555

ช็อคนี่แค่ชอบที่ปิงเอ๋อ แกมเอ็นดูเฉย ๆ ปะ หรือว่าปิงมันดูน่าขย้ำขนาดนั้น จนมีแต่คนคิดว่าพี่อิสจะขย้ำปิง
เอ๊ะ หรือพี่อิสมองปิงเป็นน้องสาวถึงหวงมาก

เอ๊ะ สุดท้าย พี่ใช่พระเอกไหมคะ พี่อิสระ คนเท่ห์ 5555 ขำหนักมาก

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #99 เมื่อ07-02-2017 03:44:36 »

พี่อิสโครตเท่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
« ตอบ #99 เมื่อ: 07-02-2017 03:44:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #100 เมื่อ07-02-2017 04:50:43 »

พี่อิส ดูเป็นบราค่อนนะ
แต่ก็มีบางมุมที่ประชิดปิง ถึงเนื้อถึงตัว
ไม่นับอาการไปรับกลับ หวงมากๆ จนถึงขั้นบ่น
จนปิงมองพี่อิสว่าไม่น่ากลัวเลย เป็นแค่ลุงแก่ๆ
อายุจริงยี่สิบห้า หน้าสามสิบ ความคิดหกสิบบวกๆ

กลายเป็นพี่อิสเสพติดปิง เพราะอยู่คนเดียวมาตลอด
ช็อก ดูว่าสนใจปิงนะ แฟนคลับจิ้นช็อก ปิงและ
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #101 เมื่อ07-02-2017 05:51:37 »

น้องปิง ของพี่อิสนะ
ช็อกอย่าทำให้หวั่นไหว  :katai4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #102 เมื่อ07-02-2017 06:59:51 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #103 เมื่อ07-02-2017 10:06:19 »

 :mew1:

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #104 เมื่อ07-02-2017 14:40:26 »

มีความสดใสน่ารักเวลาช็อก-เอ๋อ อยู่ด้วยกัน :impress3: และมีความอบอุ่นปลอดภัยเวลา พี่อิส-หลินปิงอยู่ด้วยกัน :กอด1:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #105 เมื่อ07-02-2017 14:43:27 »

ช็อกก็ดูดี
พี่อิสก็โดนใจ

แต่เชียร์พี่อิสเต็มที่ค่ะ

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #106 เมื่อ07-02-2017 16:03:02 »

มีความละมุนดี ชอบ เรื่อยๆ

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #107 เมื่อ07-02-2017 16:30:04 »

เค้าหลงรักพี่อิส

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #108 เมื่อ07-02-2017 17:33:04 »

พี่อิส ส่งน้องไปเรียนทุกวันสิ
ช็อกจะได้ไม่ต้องมาเกะกะ  :really2: :really2:

ออฟไลน์ queenrulet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
«ตอบ #109 เมื่อ07-02-2017 23:16:34 »

อิพี่อิสหวงน้องปิงอะดิ แหมๆๆ ช็อกลูกเจออิพี่อิสทีด้อยเลยยย   :mew3: :mew3: :mew3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
« ตอบ #109 เมื่อ: 07-02-2017 23:16:34 »





ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #110 เมื่อ07-02-2017 23:19:58 »

ตอนที่ 12

ผู้ปกครองเล่นใหญ่

 

หลังจากพักกลางวัน ผมมายืนรอพี่อิสอยู่ที่ลานจอดรถข้างตึกเรียน งานประชุมผู้ปกครองกำลังจะเริ่มแล้วแต่พี่อิสยังมาไม่ถึง เมธีที่ยืนรออยู่ข้างๆ หันไปเห็นพ่อตัวเองเดินเข้ามาพอดีจึงเอ่ยปากบอก

“พ่อกูมาละ” ชี้ไปยังชายวัยกลางคนสวมแว่นหนาที่อยู่ในชุดสุภาพสะอาดตาสมฐานะคุณหมอแผนกอายุรกรรม ผมเจอพ่อเมธีหลายครั้ง ทั้งที่งานประชุมผู้ปกครองเทอมก่อนๆ แล้วก็ตอนที่ไปนอนบ้านเมธี ยกมือไหว้เพื่อทักทาย อีกฝ่ายก็ยิ้มรับอย่างคนคุ้นเคย

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีลูก”

“แล้วพี่มึงจะมาตอนไหนอะ ให้กูรอเป็นเพื่อนไหม” เมธีหันมาถาม

“ไม่เป็นไร มึงกับพ่อขึ้นไปก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวตามไป”

“โอเค เจอกันบนห้อง”

เมธีว่าก่อนมันกับพ่อจะเดินขึ้นตึกไป ผมชะโงกหน้าออกไปมองที่ถนนหลายรอบเพราะพี่อิสยังไม่มา พลางคิดไปว่าเขาจะมายังไง เดินมา ปั่นจักรยานมา หรือว่าจะนั่งรถเมล์มา เกือบถึงเวลาเริ่มประชุมแล้วเลยตั้งใจจะโทรตามเขา แต่จังหวะเดียวกันนั้นมือถือผมก็สั่นขึ้นมาพอดี เลยรีบกดรับอย่างไว

“พี่อิส อยู่ไหนแล้วครับ”

“เข้ามาในโรงเรียนแล้ว กูต้องไปตรงไหนเนี่ย”

“ผมยืนรออยู่หน้าอาคารสามครับ เข้าประตูมาเลี้ยวซ้ายก็เจอเลย พี่อยู่ตรง...”

“เออ กูเห็นมึงละ”

“ครับ? พี่อยู่ไหนอะ พี่อิส...” เขากดวางไปก่อนที่ผมจะพูดจบ ผมกวาดตามองก็ไม่เห็นทั้งคนหรือจักรยาน เว้นแต่รถยนต์สีขาวคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาก่อนจะจอดในช่องจอดที่ว่างอยู่พอดี เมื่อประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออกและเห็นคนที่ก้าวลงมาจากรถนั่น ดวงตาของผมก็ขยายกว้างขึ้นเล็กน้อย

พี่อิส?

เขาผลักประตูรถปิด ยกกุญแจขึ้นมากดล็อกแล้วเดินเข้ามาหา ผมเผลอเลื่อนสายตามองเขาหัวจดเท้า พี่อิสดูแปลกตาด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวถูกพับขึ้นถึงข้อศอก ชายเสื้อเรียบร้อยอยู่ในกางเกงสีดำขายาวถึงข้อเท้าและรองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบๆ ดูสุภาพ และที่สำคัญโกนหนวดด้วย...นี่มันไม่ใช่ลุงคนที่บ้านนี่นา

“ไงมึง ยืนทำหน้าเป็นแพนด้าเห็นป่าไผ่ มึงจะช็อกอะไรขนาดนั้น” รูปลักษณ์เปลี่ยนไปแต่คำพูดคำจายังเหมือนเดิมก็เลยยืนยันได้ว่านี่คือพี่อิส ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พี่อิสในเวอร์ชันแปลกตานี่ก็ทำให้ผมต้องพูดออกไปตรงๆ อย่างที่คิด

“พี่อิสโคตรหล่อ”

“กูบอกแล้วไง จะหล่อให้โรงเรียนพังเลย” พูดเล่นขำๆ พลางแกล้งทำหน้าเก๊ก ถ้านิยามคำว่าหล่อโรงเรียนพังที่เขาว่าหมายถึงแบบนี้ ผมว่าเสาตึกเรียนก็เริ่มสั่นแล้วแหละ ผมพาเขาเดินไปที่ห้องเรียน ระหว่างทางแทบจะไม่มีสายตาไหนไม่หันมองเขาเลย รู้สึกว่าถูกมองจนคนข้างๆ ผมก้มลงมากระซิบข้างหู

“ที่เขามองกูนี่เพราะกูหล่อหรือกูแปลกวะ”

“เพราะพี่หล่อมากไง ทำไงดี คนมองไม่หยุดเลย”

“ฉิบหาย กูเกร็งนะเนี่ย เมื่อไรจะถึงห้องมึง”

“ใกล้แล้ว”

“ให้ไวเลย”

“พี่อิสคีปลุคด้วยนะ คีปลุค”

“เออ คีปจนไส้กูบิดหมดแล้วเนี่ย”

ก้าวเท้าเร็วๆ จนมาถึงห้องเรียน ครูที่นั่งรอต้อนรับอยู่หน้าห้องเงยหน้ามองพี่อิสแล้วยิ้มกว้าง หันมองผมสลับกับพี่อิสแล้วเอ่ยปากถาม

“นี่คือผู้ปกครองของ...?”

“ผมเป็นพี่ชายปวินท์ครับ”

ผมหันขวับไปมองคนข้างๆ อย่างตกใจนิดๆ...พี่อิสรู้ชื่อจริงผมด้วยแหละ

“ค่ะ พี่ชายปวินท์นะคะ เซ็นชื่อตรงนี้แล้วเชิญด้านในได้เลยค่ะ”

ผมนั่งรอพี่อิสอยู่ข้างนอกเพราะช่วงแรกเป็นช่วงที่คุยกันระหว่างครูกับผู้ปกครอง หลังจากนี้ถึงจะเรียกไปคุยส่วนตัวทั้งนักเรียนและผู้ปกครองพร้อมๆ กัน ไม่รู้ว่าพี่อิสจะเบื่อไหมเพราะข้างในดูเหมือนจะใช้เวลานานกว่าที่คิด

“ปิงๆ”

“หือ?” ผมหันไปหาเพื่อนผู้หญิงที่เข้ามาสะกิด

“นั่นพี่ชายปิงเหรอ”

ผมพยักหน้าหงึกๆ

“โห พี่ชายปิงโคตรหล่อเลยอะ”

“พี่ปิงมีแฟนยังอะ”

ผมนิ่งไปนิดหนึ่งเพราะคำถามตรงๆ ที่ถูกถาม ลังเลนิดหน่อยแต่ก็ตอบไปอย่างที่คิด

“มี...มีแล้ว” มั้ง...ที่ต้องละคำหลังเอาไว้ในใจเพราะผมก็ไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของพี่อิสกับพี่เนย ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นอะไรกัน พี่อิสไม่เคยบอกและผมก็ไม่กล้าถาม

“ว้า มีแฟนแล้วเหรอ”

“หล่อขนาดนั้น ไม่มีก็แปลกแล้วไหม เนอะปิงเนอะ”

ผมได้แต่ยิ้มบางๆ ก่อนคนข้างๆ จะเปลี่ยนเรื่องคุยไป ไม่นานหลังจากนั้นการประชุมรวมในช่วงแรกก็จบลง

ครูประจำให้ผู้ปกครองออกมารอข้างนอกแล้วจะเรียกเข้าไปคุยพร้อมนักเรียนเป็นรายบุคคลอีกที พี่อิสเดินออกมาหาผมด้วยใบหน้านิ่งๆ

“เป็นไงบ้างครับ”

“เกือบหลับ มีแต่มนุษย์ป้าบ่นอะไรกันก็ไม่รู้”

“พี่อิสก็เป็นมนุษย์ลุงเหมือนกันนะ”

“ลุงห่าอะไรล่ะ” เขกหัวผมทีหนึ่งก่อนจะนั่งลงข้างๆ

“น่าเบื่อหรือเปล่า แทนที่พี่จะได้อยู่บ้านทำงาน”

“ไม่ ก็สนุกดี เขาให้เสนอความคิดที่อยากให้โรงเรียนปรับปรุงแก้ไข กูก็เสนอไปข้อหนึ่งด้วย”

“อะไรครับ”

“กูอยากให้เด็กผู้ชายใส่กางเกงขายาวถึงแข้ง”

“มันใช่เรื่องไหม!”

“เอ้า! ก็มึงดู มันสั้นเห็นขาอ่อนเนี่ย อายเขาไหมฮะ?” พี่อิสว่าแล้วดึงชายกางเกงผมลง กางเกงมันสั้นเหนือเข่าอยู่แล้ว ยิ่งตอนนั่งเลยสั้นเข้าไปอีก แต่ใครๆ เขาก็ใส่สั้นราวๆ นี้กันทั้งนั้นแหละ

“ดูแต่ละคน ไอ้นั่นสั้นเสมอจู๋ละ แฟชั่นห่าอะไรของพวกมึง เข็มขัดยาวกว่ากางเกงพวกมึงอีกเนี่ย กูไม่เข้าใจเลย สมัยกูต้องถึงหัวเข่าเลยนะเว้ย...”

เข้าไปประชุมผู้ปกครองไม่ถึงชั่วโมง กลับออกมาแก่กว่าเดิม บ่นไม่ได้หยุดปากจากเรื่องกางเกง ลามไปถึงทรงผม ลามไประบบการศึกษา แล้วก็วนกลับมาเรื่องกางเกงอีกรอบ

ระหว่างที่นั่งฟังพี่อิสบ่นก็เกือบจะถึงเลขที่ผม ไอ้ยิมที่เลขที่ต่อจากผมพาแม่มันมารอแถวๆ หน้าห้อง มันขมวดคิ้วแน่นตอนเห็นผมนั่งอยู่กับพี่อิส จังหวะที่พี่อิสหันไปมองมันพอดี ใบหน้านิ่งๆ ของคนข้างๆ มองไอ้ยิมแบบหัวจดเท้า อีกฝ่ายก็มองไม่ละสายตาเช่นกัน บรรยากาศแบบนี้มัน...

“ปวินท์ เข้ามาได้จ้ะ”

โอ้เย่! ได้จังหวะพอดี ผมรีบดึงมือพี่อิสให้เดินเข้าห้องอย่างไว

“ว่าไงปวินท์ เทอมนี้พาผู้ปกครองมาได้สักทีนะจ๊ะ”

ผมพยักหน้ารับยิ้มๆ

“นี่พี่ชายปวินท์นะคะ”

“ครับ ผมอิสระครับ”

“ค่ะ คุณอิสระ”

ผมหันไปมองครูประจำชั้นที่ทำเสียงหวานตอนเรียกชื่อพี่อิส แววตาที่เอาแต่มองพี่อิสกับรอยยิ้มเคอะเขินนั่นมันคืออะไรครับครู นี่พี่ผมนะ เดี๋ยวข่วนเลย!

แต่เดี๋ยวนะ...ผมจะหวงเขาทำไมเนี่ย

“สำหรับปวินท์ เรื่องการเรียนอยู่ในระดับพอใช้ค่ะ แต่ก็มีบางวิชาที่น่าเป็นห่วง อย่างคณิตศาสตร์นี่ต้องพยายามอีกหน่อยค่ะ คะแนนค่อนข้างจะต่ำกว่าเกณฑ์นิดหน่อย”

“นี่โง่คณิตเหรอเนี่ย” เขาหันขวับมาถาม

ผมพยักหน้ารับโดยไม่คิดเถียงสักคำ ใช้คำว่าโง่ยังน้อยไปเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ถึงกับโง่หรอกค่ะคุณอิสระ ของอย่างนี้มันพัฒนากันได้ ยังไงปวินท์ก็พยายามอีกหน่อย”

“ตอนเรียนไม่ตั้งใจอะดิ การบงการบ้านไม่เคยเห็นทำ มัวแต่ไปคุยกับไอ้ช็อกห่าอะไรนั่นละสิ”

“ไม่เกี่ยวเลย!”

“หนังสือไม่เรียน เอาเวลาไปคุยกับผู้ชาย น่าจับเฆี่ยน!”

ครูเงยหน้าขึ้นมามองพี่อิสแล้วฉีกยิ้มแห้งๆ  ผมแอบกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ...คีปลุคหน่อย...คีปลุค

“อ่า เอาเป็นว่าเรื่องเรียนไม่มีอะไรต้องดูแลเป็นพิเศษนะคะ ส่วนตัวเด็ก ปวินท์แกเป็นคนเงียบๆ นะคะ เงียบมาก”

จริงๆ ครูคงอยากพูดว่าเด็กนี่มันไม่มีคนคบนั่นแหละ แต่ถนอมน้ำใจผมด้วยการใช้คำว่าเป็นคนเงียบๆ แทน ที่จริงผมก็ไม่ได้ชอบเสียงดังสักหน่อย เป็นคนเงียบๆ ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ

“ปกติอยู่ที่บ้านปวินท์ก็เป็นแบบนี้ใช่ไหมคะ”

“อย่างนี้แหละครับ นั่งเฉยๆ นี่นึกว่าผ้าขี้ริ้ว”

โคตรอยากเตะพี่!

“แต่ก็น่ารักดีใช่ไหมครับ ผมไม่ชอบพวกพูดมาก มันน่ารำคาญ น้องนิสัยแบบนี้นี่สเปกผมเลย” พี่อิสว่าแล้วยื่นมือมาเกาคางผม ผมปัดมือเขาทิ้งแล้วหันไปยิ้มหน่อยๆ ให้ครูที่กำลังมองเราอยู่ด้วยสายตาแปลกๆ  คงเพราะผู้ปกครองของผมค่อนข้างประหลาด

“แล้วคุณอิสระมีคำถามอะไรกับทางโรงเรียนบ้างไหมคะ”

“มีเรื่องหนึ่งครับ”

“เชิญพูดมาได้เลยค่ะ”

“กางเกงนักเรียนชายมันสั้นไปครับ เห็นแล้วหมั่นไส้”

“คะ?”

“ครูน่าจะหักคะแนนพวกที่ใส่กางเกงสั้นนะครับ หรือไม่ก็จับไปตีหน้าเสาธงไรงี้ สร้างกฎให้การแต่งกายมันดูเรียบร้อยกว่านี้จะดีมากเลยครับ ผมไม่อยากให้ใครเห็นขาอ่อนน้องผม”

“พี่อิส!” ผมเอาศอกกระแทกคนข้างๆ ที่พูดจาเลอะเทอะ เขาหันมายักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้

“ค่ะๆ เดี๋ยวทางโรงเรียนช่วยดูเรื่องนี้ให้ค่ะ”

“แล้วก็อีกเรื่อง ผมรู้มาว่าในห้องนี้มีอันธพาลด้วยนะครับ”

“คะ? อันธพาล ครูว่าเรื่องแบบนั้นไม่น่ามี...”

“มีครับครู น้องผมโดนแกล้งประจำเลย”

ผมกระตุกเสื้อพี่อิสอีกทีขณะที่เขากำลังพูดจริงจัง

“คุณอิสระใจเย็นๆ ก่อนนะ ครูว่าเด็กๆ คงเล่นกันมั้งคะ”

“เล่นอะไรครู ไม่เล่นครับ ผมเคยเห็นมันแกล้งน้องผมกับตาครั้งหนึ่ง แม่งขัดขาหน้าทิ่มเลย มีเด็กนิสัยแบบนี้อยู่ครูไม่คิดจะทำอะไรหน่อยเหรอครับ”

“ไม่มีอะไรครับครู พี่อิสเข้าใจผิดน่ะครับ...” ผมรีบบอกปัดแต่ก็โดนพี่อิสหันมาขัด

“ไม่ผิดเว้ย กูเห็นอยู่ ถ้าวันนั้นกูไม่ช่วยมึงโดนต่อยไปแล้วไหม ผมฝากครูดูแลเรื่องนี้ด้วยนะครับ ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ ผมไม่ยอมจริงๆ ด้วย” พี่อิสหันไปทำเสียงแข็งใส่ครูด้วยสีหน้าโมโหเกินเรื่อง ผู้ปกครองเล่นใหญ่มาก

“ค่ะ ยังไงครูจะเข้มงวดเรื่องนี้กับเด็กๆ อีกที”

“ถ้าครูไม่จัดการ ผมจะจัดการเอง ใครรังแกน้องผม เดี๋ยวเตะให้ตัวขาดแม่ง!” พี่อิสโวยเสียงดัง แน่นอนว่าไอ้ยิมที่อยู่หน้าห้องต้องได้ยินแน่นอน มันถึงได้มองเข้ามาด้วยแววตาเคืองๆ

“อย่าให้เจอนะ กูจะชกให้หน้าแหกเลย”

“พี่อิส!”

“ทำไมเล่า!”

“อ่า...เราหมดเรื่องคุยแล้วนะคะ เชิญกลับบ้านได้ค่ะ เชิญเลยค่ะ” ครูผายมือออกไปนอกประตูเป็นเชิงให้กลับได้ จริงๆ ครูคงอยากไล่ออกไปเลยมากกว่า ผมกระตุกเสื้อพี่อิสให้ลุกออกมา สายตาเขายังมองไปที่ไอ้ยิมกับแม่มันที่เดินสวนเข้าห้องไป

“พี่อิสจะหัวร้อนอะไรเนี่ย บอกให้คีปลุคไง”

“ก็มึงดูไอ้นั่นมันมองกู”

“มันอาจจะแค่มองเฉยๆ ก็ได้ วันนี้พี่หล่อไง”

“มันเปรี้ยวตีนกูอะดิ อยากโดนต่อยอีกทีมั้ง”

“ไม่เอาน่าพี่ ต่อยกับเด็กมัธยม เท่มากมั้ง”

“กูไม่ได้ต่อยเอาเท่เว้ย กูจะต่อยคนที่มันรังแกมึง”

“แบบนี้พี่ก็จะเป็นอันธพาลไม่ได้ต่างจากมันเลยนะ”

เขาถอนใจแรงๆ ใส่ผมด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิด ผมจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

“กลับบ้านกันครับ เลิกเร็วกว่าที่คิดด้วย”

“เออ”

“เหลือเวลาตั้งเยอะก่อนผมไปทำงาน เราไปหาอะไรกินกันไหมครับ”

“ไปดิ อยากกินอะไร”

“พิซซ่า!” ผมโพล่งอาหารที่อยู่ในหัวออกไปทันที ทั้งๆ ที่เพิ่งกินข้าวกลางวันไปเมื่อกี้แต่ผมอยากกินพิซซ่ามานานมากแล้ว

“เอาดิ ไปกินพิซซ่ากัน”

“โอ้เย่!”

“ยิ้มแล้วเหมือนบังเอิญฉิบหาย” พี่อิสว่าแล้วผลักหัวผมทีหนึ่ง พี่อิสคงไม่ได้มองผมเป็นคน บางวันเป็นแพนด้า บางวันเป็นแมว ผมชินแล้วแต่ก็ยังสงสัย...แมวมันยิ้มได้ด้วยเหรอ

“พี่อิส พี่รู้ชื่อจริงผมได้ไงอะ”

“วันที่กูดูบัตรประชาชนมึงไง”

“อ๋อ...ไม่คิดว่าจะจำได้ด้วย”

“กูใส่ใจ” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเดินนำไปที่รถ ผมอมยิ้มแล้วเดินตามเขาไป พี่อิสควักกุญแจออกมาปลดล็อกรถยนต์คันสีขาวที่เขาขับมา

“พี่อิสไปเอารถใครมาอะ”

“หน้ากูเหมือนพวกโจรกรรมรถงี้เหรอ”

ผมพยักหน้ารับก่อนโดนกำปั้นเขกเข้ากลางกบาลในจังหวะเดียวกัน

“ก็ปกติเห็นพี่ปั่นจักรยานไง เลยคิดว่าพี่ไปยืมรถใครมา”

“รถกู” เขาตอบสั้นๆ แล้วเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้ผม ชี้เป็นเชิงให้เข้าไปนั่ง ก่อนเขาจะเดินไปขึ้นอีกฝั่ง ผมกวาดตามองในรถที่ดูสะอาดเอี่ยมเหมือนไม่ค่อยได้ใช้งาน

“รถพี่เหรอ”

“อือ พ่อกูซื้อให้ จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถหมู่บ้านสามชาติแล้ว ก็อยากจะเอามาขับเท่ๆ หรอกแต่เสือกไม่มีตังค์เติมน้ำมัน”

ผมหลุดขำพรืด พี่อิสส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดต่อ

“จะรวยก็รวยไม่สุด อนาถาฉิบหาย”

ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่กำลังขับรถออกไป พี่อิสคนที่แต่งตัวหล่อเหลาขับรถยนต์ราคาเป็นล้าน พี่อิสคนนี้ดูแปลกตาไปมากเลยจริงๆ

“มองไร”

“ผมคิดว่าวันนี้พี่อิสจะปั่นจักรยานมาซะอีก”

“ไอ้บ้า กูก็อายเป็นนะ แต่งตัวอย่างหล่อจะให้ปั่นจักรยานแม่บ้านมางี้”

“แต่วันนี้หล่อจริง โกนหนวดด้วย”

“ก็มึงบอกให้ทำ” เขาพูดเสียงเบา

“ไหนพี่บอกว่าไม่ชอบทำตามที่คนอื่นบอกไง”

เขาเหลือบตามามองนิดๆ ก่อนจะหันกลับไปมองถนน พึมพำบางคำออกมาเบาๆ แต่ก็พอที่ผมจะได้ยิน

“แล้วมึงเป็นคนอื่นหรือไง”

ผมเผลอยิ้มออกมาแล้วหันไปมองนอกกระจก ถึงจะดีใจแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกับสถานะของตัวเอง ถ้าผมไม่ใช่คนอื่น แล้วสำหรับเขาผมเป็นอะไร เป็นคนที่เหมือนน้องสาว แมวตัวใหม่ หมีแพนด้า หรือแค่เด็กน่าสงสาร...ไม่รู้เลย 

“พี่อิส อยากกินชาไข่มุกอะ” ผมชี้ไปที่ร้านชาไข่มุกร้านประจำที่พี่อิสกำลังจะขับรถผ่าน

“เอาดิ แต่แม่งไม่มีที่จอดรถเลยอะ”

“ให้ผมลงตรงนี้แล้วพี่อิสไปจอดข้างหน้าก็ได้”

“เออได้”

“พี่อิสเอาอะไรอะ”

“อะไรก็ได้”

ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะเปิดประตูลงไปร้านชาไข่มุก เพราะไม่รู้ว่าพี่อิสชอบกินอะไร เลยสั่งไวต์มอลต์ที่ผมชอบไปเหมือนกัน ยืนรออยู่แป๊บหนึ่งก็ได้ไวต์มอลต์ไข่มุกมาสองแก้ว

“ไอ้ปิง”

ผมรับเงินทอนแล้วหันไปหาเสียงเรียก ไม่ต้องหันดูก็รู้ว่าเสียงไอ้ยิม

“วันนี้มึงไม่เป็นเด็กกำพร้าแล้วนี่ มีผู้ปกครองมานี่หว่า”

ผมเพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ

“ผู้ปกครองมึงหน้าตาคุ้นๆ ว่ะ ใช่คนที่ต่อยกูปะ”

“อืม ใช่”

“มันมาเป็นผู้ปกครองมึงได้ไงวะ”

“ก็สนิทกันตั้งแต่วันนั้นแหละ”

มาลองย้อนคิดดู ผมควรขอบคุณไอ้ยิมหรือเปล่าที่ทำให้ผมได้รู้จักกับพี่อิสวันนั้น

“กูเห็นมันดูหวงๆ มึงนะ ตกลงเป็นพี่หรือเป็นผัวมึงวะ”

“เฮ้ย ยิม พูดอะไรวะ เขาเป็นพี่กู”

“เขาเป็นลูกแม่มึงเหรอ”

“...”

“กูพูดอะไรผิดหรือไง” ไอ้ยิมยิ้มเหยียดแล้วก้าวเท้าเข้ามาหา ผมได้แต่ก้มหน้าลงหนีใบหน้าเอาเรื่องนั่นด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย

พี่อิสช่วยด้วย...พี่อิส

“เฮ้ย” เสียงที่สามทำให้ทั้งผมและไอ้ยิมหันไปมอง ก่อนจะเห็นพี่อิสยืนอยู่ข้างหลังเรา สีหน้าเรียบเฉยมองไอ้ยิมแล้วยื่นมือมาดึงผมให้เข้าไปใกล้ๆ  ผมแอบถอนใจเบาๆ ที่พี่อิสเข้ามาพอดีอย่างกับได้ยินเสียงในใจที่ร้องให้ช่วย

“แกล้งอะไรน้องกู”

“เปล่านี่พี่ แค่คุยกันเฉยๆ ทักทายกันไง เพื่อนกัน”

“ตอแหลไม่เนียน กูได้ยินหมดแล้ว”

ไอ้ยิมเค้นหัวเราะออกมา

“แล้วตกลงพี่เป็นพี่มันจริงๆ เหรอ”

“แล้วมึงเสือกอะไรอะ”

“อ้าวพี่...”

“ทำไม” พี่อิสก้าวเท้าเข้าไปก้าวหนึ่ง ไอ้ยิมก็ก้าวเข้ามาก้าวหนึ่ง ความสูงที่พอๆ กันทำให้ทั้งสองคนจ้องหน้ากันได้อย่างพอดิบพอดี ใบหน้าที่ดูเอาเรื่องนั้นทำบรรยากาศตรงนี้คุกรุ่น ผมยกมือเกาะแขนพี่อิส

“ปกป้องไอ้ปิงขนาดนี้กูคงไม่ต้องถามแล้วแหละว่าพี่หรือผัว”

“แล้วที่มึงพูดอยู่เนี่ยปากหรือส้นตีน”

“พี่จะเอาใช่ปะ!”

“มึงก็มาดิ”

“คราวนี้กูไม่ปล่อยไปเหมือนคราวก่อนแน่!”

ผมเห็นหมัดพี่อิสกำแน่นเหมือนพร้อมจะชกเข้าหน้าไอ้ยิมแล้วจึงรีบเข้าไปคว้าแขนเขาเอาไว้แล้วดึงออกมาจากตรงนั้นเพราะไม่อยากให้มีปัญหา

“พี่อิสไปเหอะ พี่อิสไป...”

ไอ้ยิมเหยียดยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างกวนประสาท มือข้างนั้นของพี่อิสยังคงกำแน่น ฝืนแรงของผมที่กำลังดึงมือเขาเอาไว้

“พี่อิสครับ”

สายตาที่จ้องเขม็งไปยังไอ้ยิมเลื่อนกลับมามองผมที่เอ่ยปากเรียกอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะยอมเดินตามผมออกมาขณะที่ไอ้ยิมก็เดินออกไปอีกทาง หลุดออกมาจากตรงนั้นพี่อิสก็บ่นผมยับ

“แม่งหงุดหงิดฉิบหาย มึงดูหน้ามันโคตรกวนส้นตีน แล้วดูมันพูด ดูปากมัน กูไม่เอาตีนยัดปากก็บุญละ ไอ้เด็กเหี้ย กูกลับไปต่อยมันดีไหมเนี่ย!”

“พี่อิส!” ผมคว้าแขนเขาที่หันหลังกลับไปอย่างฉุนเฉียว

“โห ขึ้นเลยกู!”

“ไม่เอานะพี่อิส พี่อิส!” ผมยกมือคล้องแขนพี่อิสเอาไว้ไม่ให้เขาหมุนกลับไปอีกรอบขณะที่กำลังหงุดหงิดจัด

“พี่อิสไม่เอา พี่! คลายหมัดเลย คลายหมัดเดี๋ยวนี้ ตีเลย!” ผมว่าแล้วยกมือตีมือเขาที่กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดที่แขนขึ้นปูด ตีเข้าไปสี่ห้าทีเขาก็ยอมคลายหมัดนั่นออกแล้วถอนใจแรงๆ ใส่หน้าผม

“หงุดหงิดง่ายจังเลย หัวร้อนมาจากไหน”

“ก็เด็กเหี้ยนั่นมันกวนตีน”

“ใจเย็นๆ เอานี่ไปกิน” ผมยกแก้วชาไข่มุกใส่ปากเขา พอดูดเข้าไปก็ดูเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มุมปากยกขึ้นนิดๆ อย่างดูพอใจในรสชาติ

“อร่อยใช่ปะ”

“อือ น้ำอะไรขาวๆ อสุจิเหรอ”

“ไวต์มอลต์โว้ย! นี่พี่เป็นอะไรกับอสุจิมากปะ ถามหน่อยเหอะ!”

“อสุจิคือจุดเริ่มต้นของชีวิตกู”

“พี่แม่ง...”

“อสุจิไข่มุก”

“พี่อิส! กรองมุก!”

“ล้อเล่นโว้ย อันนี้ใช่ที่มึงทำหกใส่กูคราวก่อนไหม”

“อ๋อ ใช่ครับ อันที่จริงวันนั้นผมงงมากเลยนะ พี่ชกไอ้ยิมแล้วก็หยิบชาไข่มุกของผมไปกินเฉยเลย”

“กูหิว”

“แล้วก็เดินถอดเสื้อไปด้วย”

“เออ เดินถอดเสื้อกลับบ้าน หมาเห่าทั้งซอย”

“ก็พี่จะถอดทำไมเล่า”

“ถ้ากูไม่ถอดให้มึงไปซัก มึงจะได้กลับมาเจอกูอีกปะล่ะ”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ เห็นด้วยกับคำพูดของเขา มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้กลับมาเจอเขาอีกทีและเจอหลังจากนั้นอีกหลายๆ ที ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจ จนกระทั่งผมได้มาอยู่กับเขาแบบนี้...ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากตรงนั้น 

...

 

พี่อิสกำลังขับรถพาผมไปกินพิซซ่า อารมณ์กลับมาเป็นปกติหลังจากกินชาไข่มุกหมดไปแก้วหนึ่ง เวลาที่พี่อิสโมโหดูน่ากลัวกว่าเวลาปกติมากๆ  ความใจร้อนและฉุนเฉียวของเขา ผมคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะโกรธจนทำอะไรได้บ้าง ถ้าเมื่อกี้ผมห้ามไม่ฟังป่านนี้คงต่อยกับไอ้ยิมยับไปแล้ว

 

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว...”

 

ทั้งผมและเขาล้วงหาโทรศัพท์พร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงนั้น ก่อนจะหันมองกันแล้วหัวเราะออกมา

“ของกูๆ” เขาว่าแล้วชูมือถือตัวเองให้ดู ก่อนจะกดรับ

“ว่าไงเนย”

บุคคลปลายสายทำให้ผมหันหน้ามองออกไปนอกกระจกเพื่อไม่ให้ดูเหมือนผมกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของเขา

“มีอะไร เป็นอะไร พูดดีๆ ดิ ...อะไรนะ ...เออๆ เดี๋ยวรีบไป ตอนนี้เลย”

ดูเหมือนมีเรื่องด่วนที่ทำให้เขาจะต้องไปที่ไหนสักที่ พี่อิสกดวางสายก่อนจะหันมาบอกผม

“โทษทีว่ะปิง กูต้องรีบไปหา...”

“ไม่เป็นไรครับ ไปเหอะ” ผมตัดบทอย่างไม่มีปัญหา ชี้ให้จอดรถข้างหน้า

“งั้นพี่อิสให้ผมลงข้างหน้าก็ได้ เดี๋ยวผมไปรอที่ทำงานเลย”

“งั้นเดี๋ยวไปส่งร้าน”

“ไม่เป็นไรครับ ผมลงตรงนี้เลยดีกว่า”

เขาพยักหน้ารับแล้วเปิดไฟเลี้ยวเข้าไปจอดริมฟุตปาท ผมรีบเปิดประตูรถลงมาเพราะดูเหมือนตรงนี้จะห้ามจอดจึงรีบบอกให้พี่อิสขับรถออกไป

“พี่อิส ตรงนี้ห้ามจอด รีบไปๆ”

“เออ พิซซ่าไว้วันหลังนะมึง”

“โอเคครับ”

“เจอกันที่บ้าน”

ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วโบกมือให้ก่อนพี่อิสจะขับออกไป ผมคิดอะไรนิดหน่อยในระหว่างที่เดินไปร้านกาแฟ พี่เนยสำคัญกับพี่อิสขนาดที่ว่าเพียงแค่โทรมาก็รีบไปหาทันที...สำคัญระดับนั้น




to be continued.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2021 18:44:48 โดย เต้าหู้ไข่ »

ออฟไลน์ queenrulet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #111 เมื่อ07-02-2017 23:39:49 »

มีความเขินพี่อิสสส หล่ออะไรเบอร์นั้น หวงน้องแรงมากกกกก อารมณ์ดรอปพอได้ยินคำว่า 'เนย' งื้อออ น่าเห็นในน้องปิงงงง  :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #112 เมื่อ07-02-2017 23:40:27 »

ฮือออ พี่อิสน่ารักกกกกกก

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #113 เมื่อ08-02-2017 00:05:47 »

หน็อยนังเนย กล้าขวางเดตของหนูปิงกับพี่อิสหรอ ไม่มีเพื่อนฝูงให้โทรหาหรือไง  :fire:  :m31:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2017 11:05:51 โดย Moose »

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #114 เมื่อ08-02-2017 00:15:11 »

น่ารักมากกก
ดีมากกกก
ฮือออ ปิงได้เจอพี่อิสนับเป็นโชคดี โอยยยย
พ่อคุณพ่อขนุนหนัง ดูแลน้องต่อไปนะ อย่าทิ้งงง

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #115 เมื่อ08-02-2017 00:37:45 »

ตอนหน้าขอให้ชาไข่มุดติดคอพี่อิส ทิ้งน้อง !!

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #116 เมื่อ08-02-2017 00:42:40 »

เอานังเนยออกไปปปปปป  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ 4life

  • R.I.P KT 5-5-13
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 995
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #117 เมื่อ08-02-2017 00:57:34 »

รำคาญพวกที่เลิกเเล้วไม่จบ พอมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ถ่อมาโทรมาตลอด
เเล้วที่รำคาญยิ่งกว่าคือ ผช ที่ถ่อไปทุกครั้ง เเต่ถือว่าพี่อิสยังโสดเเล้วกัน
เลยใจดีออกกับชะนีเนย

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #118 เมื่อ08-02-2017 01:21:15 »

เรื่องเนยนี่ไงนะ ไม่ไหวๆ

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
«ตอบ #119 เมื่อ08-02-2017 01:36:10 »

คือไม่เชื่อว่าเนยจะมาอย่างเป็นมิตรอะ
น่าจะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าจริงๆ
ปิงคือน่ารักกกอะ เหมือนตัวอะไรซักอย่างที่เอ๋อๆมึนๆ
ไม่ทันใครเค้าเลยย น่าจับมาขยำๆบีบๆๆมากๆอะ55555
พี่อิสเปิดตัวมาตอนแรกคือแบบ เชรดดดคนอะไรโคตรเท่
คือแบบมาถึงนิ่งๆ กูรู้กูเห็นแล้วต่อยเลย พร้อมเดินจากไปแบบคูลๆ
แล้วระดับออร่าพระเอกก้เนิ่มหายไปทีละตอนทีละตอนค่ะ55555
เหลือแต่ความลุงที่เริ่มเข้ามาทักทายจนสนิทกับพี่อิสของเราเรื่อยๆ
เป็นพระเอกที่แบบขี้บ่นมากกก กากมากกก แต่ก้คือมีมุมอบอุ่นน่ารักอยู่เบาๆ
ส่วนช็อกนี่คืออเคมีดีมากๆอะ แน่ๆอยู่แล้วว่านางชอบและเนียนจีบปิงแน่ๆอะ
แต่เคมีดี๊ดีดูเข้าไปหมดไม่ว่าจะกับพี่พิงค์หรือก้บเมธีหรือยิมก้ตามแต่
#ช็อกกินกับอะไรก้อร่อย กับปิงก้จะเป็นแบบรักใสๆหัวใจสี่ดวงมาก555
กับพี่พิงค์นี่น่าจะเป็นแอบๆเมะชนเมะที่มุ้งมิ้ง กับยิมน่าจะมาแนวคู่กัดที่รัก
ส่วนเมธีนี่รู้สึกได้ว่าเมธีเป็นคนน่าแกล้งคนนึงเลยอะ อาจจะมาฟิลน่ารัก555
ช็อกคือแยากให้มีคู่มากก55555555
รอความชัดเจนจนกพี่อิสค่ะ ชอบน้องรึยังหวงกันขนาดนี้
แล้วกับเนยนี่ยังไงอะ เหมือนจะไม่สนใจแต่เค้าเรียกทีไรก้ไปหาตลอด
รอค่าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด