[END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18  (อ่าน 341472 ครั้ง)

ออฟไลน์ tulakom5644

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
«ตอบ #150 เมื่อ09-02-2017 17:48:48 »

ไม่ว่าน้องปิงจะอยู่กับใครก็ดีงามไปหมดอ่ะ เค้าเลือกทีไม่ถูกกกกกก ชอบทั้งสองทีมเลยยยยยยย :katai1: :ling1:

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #151 เมื่อ09-02-2017 23:19:55 »


ตอนที่ 14

มีคนดูแลก็อ่อนแอได้

 

เมื่อคืนฝนตกหนัก วันนี้อากาศก็เลยชื้นแปลกๆ  ผมรู้สึกหนาววูบวาบมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อนตอนเดินออกมาจากห้องเรียนคอมพิวเตอร์ที่เปิดแอร์แบบอุณหภูมิแทบจะติดลบ เกือบแปลงร่างจากหมีแพนด้าเป็นหมีขั้วโลกแล้ว อยู่ๆ น้ำมูกก็ไหลไม่หยุด ลำบากไอ้เมธีต้องไปถามหาทิชชูจากเพื่อนผู้หญิงข้างหลังมาให้เพราะรำคาญเสียงสูดน้ำมูกของผม

“ไม่สบายได้ไงวะมึง”

“เมื่อคืนตากฝนอะ”

“ไหวปะเนี่ย ไปห้องพยาบาลเปล่า”

“ไม่เป็นไร ไหวอยู่”

ผ่านไปครึ่งวันผมอยากถอนคำพูดที่บอกว่ายังไหว อยู่ๆ ร่างกายก็ทรยศด้วยอาการปวดหัวแบบฉับพลัน ทั้งปวดทั้งมึนยิ่งกว่าตอนเมาที่บ้านพี่อิสอีก โลกหมุนจนตาลายไปหมด แถมยังหนาวจนข้างในสั่น ผมจำไม่ได้แล้วว่าเป็นแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร เหมือนจะไม่ได้ป่วยมานานมากๆ แล้ว ผมมานั่งกินข้าวกับเมธีตอนพักกลางวัน แค่สองสามคำร่างกายก็ต่อต้านด้วยการกลืนไม่ลงเลยยุติเอาไว้แค่นั้น

“ปิง มึงหน้าซีดมากเลยอะ ไหวแน่นะ”

“เดี๋ยวกูไปหายาที่ห้องพยาบาลกินดีกว่า ปวดหัวอะ”

“กูไปเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่เป็นไรๆ มึงกินข้าวต่อเหอะ เดี๋ยวเจอกันที่คาบดนตรีเลยนะ”

“ไปได้แน่นะ”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ แล้วลุกออกมาจากตรงนั้น เอาจานไปเก็บที่หลังโรงอาหารแล้วตรงไปห้องพยาบาลที่อยู่ถัดไปอีกตึก

“ไอ้ปิง!”

ผมหันไปหาไอ้ยิมที่เดินเข้ามาเรียก

“ว่าไง”

“เมื่อเช้ากูเห็นพี่มึงมาส่งถึงหน้าโรงเรียนเลยนี่หว่า”

ผมแค่พยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับไป

“เฮ้ยเดี๋ยวดิ!” ไอ้ยิมดึงแขนผมเอาไว้ แค่มันออกแรงเบาๆ ก็ปลิวกลับไปหามัน ร่างกายโงนเงนเพราะแทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว ยิ่งปวดหัวอยู่แล้วเห็นหน้าไอ้ยิมนี่เหมือนไข้จะขึ้นเข้าไปอีก

“มีอะไรอีก”

“เอาจริงๆ กูยังโมโหเรื่องเมื่อวานไม่หายเลยนะ พี่มึงแม่งอย่างกวนตีนอะ กูนี่อยากจะต่อย”

“พี่อิสเขาก็อยากต่อยมึงเหมือนกันแหละ”

“แล้วมึงห้ามทำไมอะ”

“ไม่อยากให้มีปัญหาไง ปล่อยก่อนได้เปล่าวะ กูจะไปห้องพยาบาล” ผมแกะมือมันออกแล้วหันหลังหนีมันมา

“มึงคิดว่าเดินหนีกูได้เหรอ!”

โอย...ไม่มีอารมณ์จะเถียง เวียนหัวพะอืดพะอมอยากจะอ้วกใส่หน้ามันซะเลย

“เดี๋ยวนี้มีคนซัปพอร์ตแล้วหัดดื้อเหรอ เอาดิ ไปฟ้องผัวมึงเลย ให้มาต่อยกูเลย!”

“ยิม...ปล่อยเหอะ”

“กูไม่ปล่อย จะทำไม!”

“ปล่อย”

“กูไม่...”

“เฮ้ย! ปล่อยปิงดิ!”

เสียงของช็อกที่ดังแทรกขึ้นเรียกความสนใจของผมกับไอ้ยิมให้หันขวับไปมอง ก่อนที่ช็อกจะเดินเข้ามาดึงมือผมอีกข้าง

“เสือกอะไรวะไอ้ช็อก”

“มึงแกล้งอะไรปิงอีกอะ ปล่อยดิ”

“โห ไอ้ปิง ช่วงนี้เนื้อหอมนะมึง ใครๆ ก็เอาแต่ปกป้องมึงเนี่ย” ไอ้ยิมว่าแล้วกระชากผมกลับไป

“กูบอกให้ปล่อยไง”

“ไม่ปล่อย!”

ผมเอนไปเอนมาฝั่งนั้นทีฝั่งนี้ทีเพราะสองคนนี้ผลัดกันดึงไปๆ มาๆ

“ปล่อย!”

“กูไม่ปล่อย!”

“ปล่อย!!!” ผมตะโกนเสียงดังที่สุดเท่าที่จะดังได้แล้วสะบัดมือออกมาจากทั้งสองคน ถอนใจยาวด้วยลมหายใจร้อนผ่าว โคตรอยากร้องไห้...ปวดหัวเพราะโดนไข้กินไม่พอ ต้องมาปวดประสาทกับไอ้ยิมอีก

“เอาไว้ค่อยหาเรื่องกันวันหลังนะ” ผมหันไปพูดกับไอ้ยิมแล้วตบไหล่มันเบาๆ ก่อนหันไปหาช็อก

“ช็อก ขอบคุณมาก ไว้เจอกัน” พูดแค่นั้นแล้วเดินออกมาเพราะอยู่ตรงนั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว ร่างกายต้องการห้องพยาบาลแบบด่วนที่สุดเลยตอนนี้

“ปิง ปิงเป็นอะไรเปล่าอะ” ช็อกเดินตามผมมาด้วย กำลังจะหันไปตอบแต่ขาที่หมดแรงเดินก็ทำผมทรุดฮวบลงไปกับพื้น โอย เจ็บเข่าอีก

“ปิง! เป็นอะไรอะ”

 ไม่สบายไง ไม่สบาย สภาพนี้ไม่น่าถามนะช็อก ฮือ...

“ปิง! เป็นอะไร!”

ผมอยากตอบเขาแต่ทำไม่ได้ หูได้ยินเสียงเขาเหมือนดังมาจากไกลๆ ทั้งๆ ที่ช็อกก็อยู่ตรงนี้ ก่อนจะมองไม่เห็นอะไรอีกเลย...อ้าว ช็อกหาย

...

 

ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่นอนอยู่ในห้องพยาบาล สายตาปรับเข้าหาแสงแล้วกะพริบมองเพดานขาวๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองข้างๆ เตียง เผลอสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นหน้าช็อกที่จ้องอยู่

“ตกใจอะไร ไม่ใช่ยมทูตมาเก็บวิญญาณซะหน่อย”

“ถ้ายมทูตหล่ออย่างนี้คงยอมตายแหละ”

“บ้า” ช็อกว่าเบาๆ แล้วอมยิ้มนิดๆ คล้ายจะเขิน ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ

“ปิงเป็นไงมั่งอะ โอเคขึ้นยัง”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ แทนคำตอบ ยังปวดหัวอยู่แต่ดีที่โลกหยุดหมุนแล้ว

“เราตกใจหมดเลย แล้วนี่ไม่สบายได้ไงอะ เมื่อเช้ายังดีๆ อยู่เลย”

“งงเหมือนกัน ป่วยเฉยเลย”

“เมื่อคืนเปียกฝนกลับบ้านหรือเปล่า”

ผมพยักหน้ารับ

“โตแล้วไม่รู้เหรอว่าห้ามตากฝนอะ สมควรป่วยแล้ว” ช็อกบ่นแล้วตบเข้ามาเบาๆ ที่หน้าผากผม

“นี่เราโดดเรียนดนตรีใช่ปะ”

“เออดิ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวมาเรียนกับครูช็อกนี่” ช็อกพูดติดตลก

“แล้วนี่ช็อกไม่มีเรียนเหรอ”

“บอกแล้วไงว่าว่าง อาจารย์วิชาเคมีเขาไม่มา แต่ใกล้จะหมดคาบแล้วอะ เราต้องกลับไปเรียนสังคม”

“ช็อกไปเหอะ”

“ไม่อยากไปเลยอะ”

“ขี้เกียจไม่ดีนะ”

“ไม่ได้ขี้เกียจเรียน แต่เป็นห่วงปิงเนี่ย”

“เราไม่เป็นไร”

“งั้นนอนไป”

“ให้นอนอีกแล้วเหรอ เพิ่งตื่นเนี่ย”

“เออ นอนไป หลับตาเลย เลิกเรียนเรามาหา เดี๋ยวกลับบ้านพร้อมกัน” ช็อกแตะมือลงมาบนหน้าผากผมแล้วโน้มตัวลงมาพูดเสียงนิ่มข้างๆ หู ผมพยักหน้ารับก่อนหลับตาลงอย่างว่าง่าย ผมไม่ได้อยากนอนต่อสักหน่อย ไม่ได้อยากนอนสักนิด แต่เปลือกตากลับหลับลงเพราะคำสั่งแค่ครั้งเดียวนั่น

...

 

หลังเลิกเรียนช็อกมาหาผมที่ห้องพยาบาลแล้วกลับบ้านพร้อมกัน ผมโทรไปลางานกับพี่พิงค์แล้วเพราะยังไม่หายปวดหัว แถมยังดูเหมือนจะแย่กว่าเดิมอีกเพราะรู้สึกหนาวมาก เสื้อคลุมที่สวมอยู่ยังไม่ช่วยเลย ลมหายใจร้อนผ่าวแถมเพิ่มอาการไอไม่หยุดมาอีก ผมก้าวขาลงจากมอเตอร์ไซค์ช็อกตอนที่มาถึงหน้าบ้าน ก้าวพลาดเซไปอีกทางเพราะโลกเอียงไปแถบหนึ่ง

“เฮ้ย! ไหวปะเนี่ย” ช็อกคว้าแขนผมเอาไว้ จอดมอเตอร์ไซค์แล้วเข้ามาประคอง

“ไหวนิดหนึ่ง”

“คืออะไรไหวนิดหนึ่ง ไป เข้าบ้าน พี่อิสอยู่ปะเนี่ย”

ผมพยักหน้าหงึกๆ เพราะเห็นประตูหน้าบ้านเปิดอยู่ ก่อนช็อกจะพาผมเข้าไปในนั้น เห็นพี่อิสนั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ วันนี้เขาคงจะมีงาน

“พี่อิสครับ” ช็อกร้องเรียกเขา ก่อนคนถูกเรียกจะหันขวับมามอง ดูท่าทางตกใจนิดหนึ่งที่เห็นว่าเป็นช็อก ลุกมาจากตรงนั้นแบบงงๆ ก่อนจะเลื่อนสายตามามองผม

“ผมมาส่งปิงอะครับ ปิงไม่สบาย”

“ปิงเป็นอะไร” พี่อิสตรงเข้ามาแล้วดึงผมไปจากมือช็อก

“ปิงเป็นไข้ครับ ปวดหัวมาก ไอด้วย กินยาลดไข้ไปแล้ว นี่ยาครับ” ช็อกร่ายยาวรายงานอาการผมให้พี่อิสฟังแล้วส่งถุงยาที่ได้มาจากห้องพยาบาลให้เขา

“ผมบอกให้ไปหาหมอ แต่ปิงไม่ยอมไป”

“เราไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย”

“แล้วมาทำให้เป็นห่วงทำไมอะ”

“บอกแล้วไงไม่ต้องห่วง”

“เป็นดื้อนะเราอะ”

“เราเปล่า...”

“มึงส่งเสร็จแล้วมึงก็ไปดิ” บทสนทนาที่เถียงกันไปมาระหว่างผมกับช็อกถูกแทรกด้วยเสียงแข็งๆ ของพี่อิส สายตาที่มองช็อกเรียบเฉยกว่าปกติ

“ครับ เอายาให้ปิงกินหลังอาหารนะครับ ในนั้นเขียนบอกเอาไว้แล้ว”

“ถ้าเขียนไว้ก็ไม่ต้องบอก กูอ่านออก”

ช็อกได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนหันกลับมามองผมที่กำลังพูดคำขอบคุณ

“ขอบคุณมากนะช็อก”

“หายไวๆ นะปิง” ช็อกพยักหน้ายิ้มๆ แล้วยื่นมือมาเคาะหัวผมเบาๆ แต่ถูกพี่อิสปัดมือออกไป

“มันปวดหัวอยู่ไง จะมาเคาะหัวมันอีก”

“ครับ ฝากดูแลปิงด้วยนะพี่” ช็อกพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไป ก่อนที่พี่อิสจะสวนกลับด้วยเสียงเบาๆ ที่ไม่จงใจให้ช็อกได้ยิน

“ไม่ต้องสั่ง มันหน้าที่กู”

พี่อิสพาผมเข้าบ้านมานั่งที่โซฟา หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะตั้งคำถาม

“ป่วยได้ไง เมื่อเช้ายังไม่เป็นอะไรเลย”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ เมื่อคืนตากฝนแล้วก็ไม่ได้อาบน้ำมั้ง”

“แล้วทำไมไม่โทรให้กูไปรับ”

“ก็ช็อกมาส่งแล้วไง”

พี่อิสถอนใจแล้วกลอกตาขึ้นบนนิดๆ ก่อนจะไล่ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมยังเพลียแล้วก็ง่วงมากคงเพราะยาที่กินเข้าไปก็เลยมานอนต่อในห้อง เกลียดการนอนซมอยู่บนที่นอนแล้วทำอะไรไม่ได้ ทั้งปวดหัวแล้วก็ไอไม่หยุด พี่อิสเอาโจ๊กมาให้กินก่อนกินยาก็อ้วกออกหมด ร่างกายต่อต้านอาหาร หรือกระทั่งน้ำดื่มก็ไม่อยากกลืนลงคอที่เจ็บแปลบแม้แต่ตอนกลืนน้ำลาย

“พี่อิส แล้วแบบนี้จะตายหรือเปล่า ตายแน่ๆ เลยอะ”

“บ้าแล้ว ป่วยแล้วเพ้อเจ้อนะมึงเนี่ย”

“กลัวตาย” ผมพูดเบาๆ ก่อนน้ำตาจะหยดเป็นทาง ร้องไห้ทำไมไม่รู้ แค่อยากจะร้อง ไม่ใช่ว่ากลัวตายจริงๆ แต่ความคิดในหัวมันตีกันบ้าบอไปหมด ทั้งปวดหัว ทั้งเจ็บคอ เดี๋ยวก็หนาวจนสั่น เดี๋ยวก็ร้อนวูบวาบ หายใจไม่ออก อึดอัดไปหมด...ร้องไห้มันซะเลย

“ร้องไห้ทำไม”

“ตายแน่ๆ เลย”

“ไม่ตายหรอก”

“จะไม่ตายเหรอ”

“ไม่ตายๆ” พี่อิสคุกเข่าลงมาข้างๆ เตียง แล้วตบไหล่ผมเบาๆ

“ผมกลัว”

“ตื่นมาก็หายแล้ว ไม่ร้องนะ”

“...”

“ไม่ตายหรอก เชื่อพี่สิ”

พี่...

พี่อิสแทนตัวเองแบบนี้อีกแล้ว เสียงทุ้มต่ำพูดนิ่มๆ แบบนี้ทีไรผมก็ต้องยอมนิ่งอย่างที่เขาบอกทุกที มือที่ตบไหล่เบาๆ เลื่อนมาลูบหัวผมแทนคล้ายจะปลอบใจ ในใจผมร้องหาเขาอีกแล้ว อยากให้เขาอยู่ด้วย อยากตื่นมาแล้วเจอเขา จะได้มั่นใจว่ายังไม่ตาย...อยากให้พี่อิสอยู่ตรงนี้นานๆ เลย

 

แสงแดดตอนเช้าที่ลอดเข้ามาจากหน้าต่างปลุกให้ผมตื่น แต่เดาว่าคงสายเกินจะเรียกว่าเช้าไปแล้ว ผมยกมือขยี้ตาสองสามที ยืดตัวบิดขี้เกียจ กลิ้งอยู่บนเตียงก่อนจะหยุดนิ่งแล้วคิดอะไรอยู่ในหัว

ยังไม่ตาย

นอกจากยังไม่ตายแล้ว อาการทั้งหลายก็หายเป็นปลิดทิ้ง ลืมไปเลยว่าเมื่อคืนป่วยจะเป็นจะตาย มุมปากผมยกขึ้นนิดๆ เพราะรู้สึกดีขึ้นมาก ได้นอนยาวๆ แบบเต็มอิ่มด้วย กลิ้งอยู่บนที่นอนเบ็นเท็นอีกสองสามทีแล้วก้าวเท้าลงจากเตียง ก่อนจะหยุดกึกเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่นอนอยู่กับพื้นใต้ผ้าห่มสีชมพูลายคิตตี้

พี่อิส?

ผมค่อยๆ ก้าวเท้าลงจากเตียงแล้วไปนั่งข้างๆ เขา มองดูพี่อิสที่หลับตานิ่ง ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าดูดีลงตัวไม่ว่าจะตอนหลับหรือตื่น ถ้าไม่นับความหยาบเถื่อนของเขา...พี่อิสนี่โคตรหล่อเลย

“พี่อิส” ผมจิ้มเข้าไปข้างๆ แก้มเพื่อปลุกเขา อีกฝ่ายขยับคิ้วเข้าหากันนิดๆ อย่างดูรำคาญ

“พี่อิสครับ”

“หือ?” เขาส่งเสียงตอบกลับมาด้วยใบหน้ายุ่งๆ แต่ตายังไม่ลืม

“ตื่นๆ” ผมจิ้มลงไปที่แก้มเขาอีกที

พี่อิสลืมตาขึ้นมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะหลับลงไปอีก ดูสะลึมสะลือ

“ตื่นแล้วเหรอ”

“ตื่นแล้วครับ”

“เป็นไงบ้างอะ”

“หายแล้ว”

เขายกมือขึ้นมาแตะหน้าผากผมทั้งตัวเองยังไม่ลืมตา ดูจะยังไม่ตื่นดี ริมฝีปากผมขยับเป็นรอยยิ้ม ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่พี่อิสกับหน้าง่วงๆ ของเขา...น่ารักเป็นบ้าเลย

“ตัวยังร้อนอยู่เลย”

“ไม่เป็นไรแล้ว หายดีแล้วครับ แล้วพี่อิสมานอนอะไรตรงนี้”

เขาลืมตาแล้วลุกพรวดขึ้น หันมาแผดเสียงดังใส่จนผมสะดุ้งนิดหนึ่ง

“ก็มึงนั่นแหละ!”

“ผม...ทำไมเหรอ”

“มึงรั้งกู กูจะไปก็ไม่ให้ไป ฉิบหาย ร้องไห้จะเป็นจะตาย กูจะไปไหนได้ล่ะ เลยต้องมานอนเฝ้ามึงตรงนี้ไง ปวดหลังเลยเนี่ย”

ผมกะพริบตาปริบๆ มองดูเขาที่บ่นไม่หยุด นึกไปถึงสิ่งที่เขาบอก แต่จำไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนร้องให้เขาอยู่ด้วย ภาพในความทรงจำเป็นศูนย์ ผมหลับสนิทเกินกว่าจะฝันด้วยซ้ำ

“พี่อิสมั่วแล้ว ผมจะไปรั้งพี่ทำไม”

“เฮอะ! ร้องหากูทั้งคืน พี่อิสอย่าไป พี่อิสอย่าไป ทำไม ชอบกูมากเหรอ”

“บ้า!”

“หลงรักกูละสิ”

“จะบ้าเหรอพี่ จำไม่เห็นได้เลย พี่แกล้ง” ผมพูดปัดแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง คนข้างๆ ยกมุมปากขึ้นยิ้มแล้วพูดเสียงเรียบ

“หายป่วยก็ดีแล้ว เพราะกูเหนื่อยมาก”

“ทำไมเหนื่อย”

“เป็นห่วงไง เป็นห่วงจนเหนื่อยหัวใจมาก”

ผมก้มหน้าลงนิดๆ ตอนที่พี่อิสยกมือขึ้นวางบนหัวผม ปลายนิ้วโป้งเคลื่อนขยับลูบเรือนผมเบาๆ  ผมยังคงได้แต่นั่งนิ่งๆ ก่อนพี่อิสจะเปลี่ยนเรื่อง

“ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินกัน กูหิวจนกัดผ้าห่มแดกไปหลายทีละ” เขาว่าแล้วม้วนผ้าห่มคิตตี้ถือออกไปข้างนอก ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูก่อนพุ่งเข้าห้องน้ำ เงยหน้ามองตัวเองในกระจก หน้าเปลี่ยนสีจากขาวซีดเป็นชมพูไปทั้งหน้า ไม่ใช่เพราะเป็นไข้ ไม่ใช่เพราะอากาศหนาว...แต่เป็นเพราะเขิน

 

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมเดินออกมาข้างนอกเห็นพี่อิสรออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว กำลังจัดวางกระถางตะบองเพชรให้เป็นระเบียบ ปากก็บ่นอะไรไปด้วยไม่หยุด

“อ้าว ไอ้เหี้ยนี่ใจเสาะ ตายห่าไปตั้งแต่เมื่อไร” ว่าแล้วหยิบกระถางตะบองเพชรที่ตายแล้วออกมา ขณะที่ผมได้แต่เม้มปากกลั้นรอยยิ้มมองดูเขาที่ยังบ่นพึมพำ การพูดคนเดียวนี่เป็นเสน่ห์ของเขานะ พี่อิสไม่ได้บ้า

“พี่อิส”

“อาบน้ำหรืออะไร นานจัง รอจนตะบองเพชรกูตายไปต้นหนึ่งแล้วเนี่ย” เขาว่าพลางชูกระถางตะบองเพชรที่ตายไปแล้วส่งให้ดู

“ไม่เกี่ยวเลย”

“โคตรหิวข้าวเลย กินอะไรดี”

“อะไรก็ได้ครับ”

“อยากกินอะไรเล่า”

“พิซซ่า”

“ซ่าเซ่ออะไรล่ะ กูต้องรีบกลับมาทำงาน เมื่อคืนงานการไม่ได้ทำ กินอะไรง่ายๆ ไปก่อนได้ไหม”

“ก็ได้ครับ” ผมพยักหน้าหน่อยๆ แล้วเดินตามเขาไป คิดในใจแค่ว่า...พิซซ่ามันสั่งมากินก็ได้นี่นา

“โฮ่ง! โฮ่ง!”

ผมหันขวับไปมองหมาตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่โผล่ออกมาจากในซอย มันส่งเสียงเห่าตอนที่เห็นเราเดินผ่านเสียงดังลั่น

“ไอ้เปรี้ยว! มึงเห่าเหี้ยอะไร!”

แต่เสียงดังกว่าหมาก็พี่อิสนี่แหละ ด่ากลับไปจนหมาหุบปากเงียบ หมาใหญ่นั่นหยุดเห่าแต่เดินนิ่งๆ เข้ามา มองผมด้วยสายตาแปลกๆ คงเพราะเพิ่งเห็นผมเป็นครั้งแรกเลยแปลกหน้าสำหรับมัน

“ไอ้ตัวนี้แหละที่กัดบังเอิญตายอะ มึงมานี่เลย เดี๋ยวโดนแดกไปอีกคน” พี่อิสจับมือผมให้ไปหลบหลังเขา ก่อนหมาตัวนั้นจะเห่าไล่ขึ้นมาอีกที

“โฮ่ง! โฮ่ง!”

“มึงจะเห่าทำไม! ไม่เคยเห็นหมีแพนด้าเหรอ ไอ้เปรี้ยว! หุบปาก!”

เฮ้ย...นี่ไม่ใช่หมีแพนด้าเว้ยพี่

“โฮ่ง! โฮ่ง!”

“ยังไม่หยุด เดี๋ยวเตะปากหมาแม่ง!”

“พี่อิส รีบไปเหอะ ทะเลาะกับหมาอยู่ได้” ผมดึงมือเขาที่จับกันอยู่ให้ออกมาจากตรงนั้น

“ก็ดูมันกวนตีน เห่าอยู่ได้ ที่จริงกูอยากทุบมันตั้งแต่มันกัดน้องสาวกูตายแล้วนะ”

“บาปนะพี่”

“ก็มันฆ่าบังเอิญ พูดแล้วขึ้นเลย กลับไปเตะแม่ง!”

“พี่อิส!” หงุดหงิดง่ายแม้แต่กับหมา วิถีอิสระตัวจริง!

“ดีนะกูเหี้ยไม่พอจะฆ่าหมา ไม่งั้นมันตายไปนานละ เห่าดีนัก ปากดีเหมือนเจ้าของหรือไง” เขาบ่นไม่หยุดขณะที่ผมดึงมือเขาออกมาไกลแล้ว คนหัวเสียแสดงสีหน้ายุ่งๆ

“เก่งกับหมาเหรอพี่”

“เออ ตบเด็กเตะหมาเนี่ยงานถนัดกูเลย”

“พี่นี่!”

“กูมันคนหยาบไง”

“เชื่อแล้วว่าหยาบจริง แล้วมือนี่ปล่อยได้ยัง” ผมว่าแล้วยกมือข้างที่จับกันขึ้นมา แต่พี่อิสไม่ยอมปล่อยแถมยังจับแน่นกว่าเดิม

“กูไม่ปล่อย”

“ทำไมไม่ปล่อย”

“กูเนียน”

หือ?

“กินร้านนี้นะ ขี้เกียจเดิน” เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วพาเดินเข้าร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ที่อยู่หน้าปากซอยเลย พี่อิสสั่งอาหารง่ายๆ อย่างกะเพราหมูและสั่งข้าวผัดให้ผม ก่อนจะดึงถุงพลาสติกเก็บของส่วนตัวออกมาจากกระเป๋า ผมหลุดหัวเราะออกมาทุกทีที่เห็นถุงพลาสติกนั่น

“ขำไร”

“เกลียดถุงพี่มากเลยอะ”

“ไม่เท่อย่างกูทำไม่ได้นะ”

ผมได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ

“ถ้าอยากให้ดูราคาแพง มึงก็ใส่ยี่ห้อเข้าไป ป้าครับ ยืมปากกาหน่อย” ประโยคหลังเขาหันไปพูดกับป้าเจ้าของร้าน แล้วหยิบปากกาเคมีมาจากป้ามาวาดสัญลักษณ์ชาแนลลงไปบนถุงพลาสติกนั่น

“เป็นไง ดูแพงขึ้นไหม”

“อย่างนี้ก็ได้เหรอ”

“สำหรับกู อะไรก็ได้ทั้งนั้น” เขาพูดขำๆ แล้วส่งปากกาคืนให้ป้า

อิสระนี่มันอิสระจริงๆ

“พี่สูบบุหรี่ด้วยเหรอ” ผมมองไปที่ซองบุหรี่สีขาวแดง มีรอยแกะที่มุมซองแล้ว

“กูคงไม่พกไว้เท่ๆ เฉยๆ หรอกมั้ง”

“ไม่เคยเห็นพี่สูบเลย”

“ก็สูบตอนมึงไม่อยู่ไง เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่อยากให้มาสูดควันพิษ มันไม่ดี”

“ไม่ดีแล้วพี่สูบทำไมอะ”

เขาเงียบแล้วเหลือบตาขึ้นมามองผม ก่อนจะตอบไม่เต็มเสียงกลับมาด้วยเหตุผลฟังไม่ขึ้น

“กูโตแล้วไง”

“เคยมีคนขอให้เลิกสูบปะ”

“เยอะแยะ”

“พี่เนยเหรอ”

“ก็ด้วย”

“แล้วทำไมไม่เลิกอะ”

“มันไม่ใช่เลิกง่ายๆ เหมือนหย่ากับเมียก็ไปเซ็นใบหย่าอย่างนี้นะมึง ทำไม จะบอกให้กูเลิกอีกคนหรือไง”

“ถ้ามันไม่ดีก็ไม่อยากให้สูบหรอก”

“ลองขอดูสิ”

“...”

“เผื่อกูจะทำให้”

ผมเงียบแล้วคิด สิ่งที่คนอื่นขอแล้วเขาไม่ทำ แต่ถ้าเป็นผม เขาจะยอมทำให้หรือเปล่า แต่ลองคิดดูแล้วก็...

“ไม่เอาดีกว่า พี่จะสูบก็สูบไปเหอะ ถ้าพี่ชอบอะ”

“อะไรของมึงวะ”

“ผมมีสิทธิ์อะไรไปยุ่งเรื่องของพี่ล่ะ” ผมพูดเบาๆ แล้วเลี่ยงสายตามองไปทางอื่น ที่ผมไม่กล้าขอ เพราะกลัวเขาจะทำให้ แล้วถ้าเขาทำในสิ่งที่ผมขอให้ทุกครั้ง มันคงไม่ดีต่อความรู้สึกของผมแน่ๆ  ผมกลัวจะสำคัญตัวเองผิด...กลัวตัวเองจะคิดไกลกว่านี้

 

To be continued.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2021 18:45:51 โดย เต้าหู้ไข่ »

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #152 เมื่อ09-02-2017 23:37:03 »

ตอนแรกว่าจะอารมณ์ขึ้นเหมือนกัน แต่เห็นคนเขียนเกรี้ยวกราดไปแล้วหลุดขำแทน ฮ่าๆๆ
พี่อิสนี่มึนอ่ะ มึนมากทีเดียว ขำตอนเนียนจับมือน้องมาก   o13

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #153 เมื่อ09-02-2017 23:37:21 »

สงสารน้องปิงลูก เหมือนคนไม่กล้าที่จะมีอะไรไว้ให้ผูกพันธ์มากๆ มันเลยกลายเป็นความกลัว  :katai1:

ออฟไลน์ queenrulet

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #154 เมื่อ09-02-2017 23:54:37 »

มีอะไรก้อพูดออกม่นะลูก ปิงงงงง
เป็นห่วงความสัมพันธ์จริงๆๆ
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #155 เมื่อ10-02-2017 00:06:28 »

หรือว่าเพราะเราอ่านจากมุมของปิง เลยรู้สึกว่าพี่อิสยังรู้สึกไม่ชัดเจนเท่าไหร่

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #156 เมื่อ10-02-2017 00:07:24 »

ปิง กลัวจะรักพี่อิส
เลยไม่กล้าขอให้พี่อิสเลิกบุหรี่
ที่จริงปิงรักพี่อิสไปแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #157 เมื่อ10-02-2017 00:23:09 »

ถ้าปิงขอพี่อิสฟังแน่ๆ ห่วงจนเหนื่อยหัวใจไปหมดละ โอ้ย น่ารักน่ะ
มีนงมีเนียนจับมือ ใช่ใช่ไหมคะ ชอบน้องใช่ไหม

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ thepoe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #158 เมื่อ10-02-2017 01:07:08 »

เกลียดพี่อิสสสสได้มั้ยยยยย ช็อกอุตส่าห์มาช่วยปิงงงง 5555555555
ดูนางทำตัววววว  มีการไล่ไปอีกกกกก
 :m16:

คนที่โดนดาเมจคำว่าพี่ของพี่อิสไม่ใช่แค่ปิงหรอกกก
เราด้วยยฮือออ ดาเมจรุนแรงมากกกจะตัยยแล้วว
แล้วมุขเหนื่อยหัวใจของคุณลุงคืออัลไลลลลลลล
 โอ้ยยยยยยย วันนี้โดนดาเมจรุนแรง เขินจนจะเอาโทรศัพท์ฟาดหน้าตัวเอง
บวกด้วยใต้ความเนียนนี้หมั่นไส้มากกกกกกกค่ะ
 :hao7:

ตบท้ายการจบแบบฮื่อ จริงๆเหมือนพี่อิสก็หวังให้ปิงขอเลยอะ
นี่ขอตบตีกับความคิดตัวเองแปป อยากอ่านต่อจังเลยยยย
มาต่อเร็วๆนะไรท์ สู้ๆๆค้าบบบ
 :L2:

ออฟไลน์ 4life

  • R.I.P KT 5-5-13
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 995
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #159 เมื่อ10-02-2017 01:13:38 »

โอ้ยยย อีพี่อิส อย่ามาหมาหยอกไก่เเถวเน้ รู้ไหมเด็กมันคิดดดดด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
« ตอบ #159 เมื่อ: 10-02-2017 01:13:38 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #160 เมื่อ10-02-2017 01:38:21 »

วันนี้ตาลุงขี้อ่อยจัง เหนื่อยหัวใจแทนน้องปิงเลยนะเนี่ย เฮ้อ อึดอัดแฮะ แง

ออฟไลน์ whitefang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #161 เมื่อ10-02-2017 03:37:01 »

ชอบตรง กูเนียน 555555

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #162 เมื่อ10-02-2017 04:34:14 »

ตามมาลุ้นค่ะ อิสอิส

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #163 เมื่อ10-02-2017 04:41:35 »

ช็อกน่ารักนะ
แต่ความผูกพันของอิสปิงมันไปไกลขนาดนี้แล้ว คงต้องรอเรื่องหน้าแล้วสิ

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #164 เมื่อ10-02-2017 08:07:07 »

เหมือนมีเส้นกั้นอะไรบางๆแหะ
ชอบอ่าาา มีแถว่าเนียนด้วย ชอบๆ มีหยอดกันไปมา ถถถถถ
แต่ที่หายไปไม่อยากรู้หรอว่าไปไหนนน ไปไหนกับเนยยยย
ปล. ปิงชักเนื้อหอม
ปล.2 มาต่อไวๆน้าาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2017 11:52:51 โดย hoshinokoe »

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #165 เมื่อ10-02-2017 14:32:52 »

เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากๆชอบพี่อิสกับน้องปิง+1

ออฟไลน์ ammie_mn

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #166 เมื่อ10-02-2017 15:58:57 »

ตอนที่แล้วนี่เกือบเทใจให้ช็ิอกละนะสุภาพบุรุษจริงๆ พี่อืสตอดนิดตอดหน่อยน้องมันก็ระทวยละไม่อยากคิดถ้าพี่มันจีบน้องจริงๆจะเป็นไง คงมีวันนั้น?

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #167 เมื่อ10-02-2017 16:50:40 »

ชอบน้องเหรอคะคุณอิสระ

ออฟไลน์ hpimmc

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
«ตอบ #168 เมื่อ10-02-2017 22:50:17 »

คือ คนพี่นิคือชอบเขา แต่ปากหนักไรงี้ แล้วอิแฟนเก่าชะนีน้อยนั้นก็ไม่เคลียร์
จะอาศัยเนียนๆ ไปเรื่อยๆ งี้หรอ น้องเขาก็อ่อนไหว หวั่นไหวกับเราแล้วไง
ก็ถ้ารุกนิได้เลยนะ ได้เลยนะ โถ่
หรือเชียร์ให้ไปกับช็อกดี ไปเลยมะ ช้าแบบนี้ ให้ได้กับช็อกเลยนะ
 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ เต้าหู้ไข่

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +279/-5
    • twitter
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #169 เมื่อ10-02-2017 23:49:06 »

 

ตอนที่ 15

ไม่ใช่คนคิดมาก

 

เช้าวันอาทิตย์ ผมตื่นโดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก ลุกไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วเดินออกมานอกห้อง ไม่เห็นพี่อิสอยู่ที่หน้าจอคอม ไม่รู้ว่าเขานอนหรือยังเพราะเมื่อคืนบอกว่าจะทำงานโต้รุ่ง ผมกำลังหมุนตัวกลับไปมองหาเขาในห้อง

“อุ๊ย...” ชะงักนิดหนึ่งเพราะเขาเดินออกมาพอดีด้วยสภาพสวมบ็อกเซอร์ตัวเดียว เปลือยท่อนบน คลุมผ้าขนหนูอยู่บนหัว ผมยังเปียกจนน้ำหยดลงมา

“ตกใจอะไร”

“ตกใจพี่อิสแก้ผ้า”

“ทำไมจ๊ะ หุ่นพี่อิสน่ากินใช่ไหมจ๊ะ” เขาแกล้งทำเสียงดัดจริตแล้วยกมือใช้ผ้าขนหนูขยี้ผม

“น่ากินดิ เพราะพี่อิสอ้วนเหมือนหมู”

“เดี๋ยวเตะเลย” ไม่พูดเปล่า ยกเท้าขึ้นมาเตะผมเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว หยิบนมเปรี้ยวสองขวดออกมา ส่งให้ผมขวดหนึ่ง ผมปฏิเสธการกินนมไม่ได้ก็เลยต้องรับมา จังหวะที่พี่อิสยื่นขวดนมเปรี้ยวให้ผม ผมหันไปเห็นรอยสักที่ข้างลำตัวเขาที่ไม่เคยเห็น หรืออาจจะไม่ทันสังเกต เป็นรอยสักเล็กๆ เส้นบางๆ รูปดอกแดนดิไลออนเกสรปลิวออกไป ตามแนวซี่โครง

“พี่อิส มีรอยสักด้วยอะ”

“แน่นอน เพราะกูหล่อและเท่มาก”

“วู้” ส่งเสียงเอือมระอากับความลุ่มหลงในตัวเองของคนข้างๆ ผมไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วดอกไม้ชนิดนี้มันมีความหมายว่าอย่างไร เคยสงสัยจนลองเปิดอินเทอร์เน็ตดู บ้างก็บอกว่าเป็นดอกไม้แห่งความสุข ความสนุกสนาน และความหวัง เป็นดอกไม้แห่งคำอธิษฐาน เป็นดอกไม้แห่งมิตรภาพ มีความหมายเยอะแยะบอกอยู่ แต่ผมรู้จักชื่อมันจากพี่อิส ทุกครั้งที่มองไปที่มัน ก็เลยเป็นดอกไม้ที่ทำให้ผมคิดถึงเขา...คิดถึงอิสระ

“วันนี้ไปกินพิซซ่ากันปะ”

“โอ้เย่!” ผมชูสองมือขึ้นสูงอย่างดีใจเมื่อได้ยินชื่ออาหารที่อยากกินมากๆ มาสักพักแล้ว

“หลินปิงเอ๊ย เหมือนแมวเห็นอาหารเม็ดเลยมึง”

ผมเหลือบตาขึ้นไปมองเคืองๆ

“เดี๋ยวเที่ยงๆ ค่อยออกไปละกัน กูจะทำความสะอาดบ้านก่อน วันนี้ไอ้ปรินซ์มันไม่มาทำหน้าที่มัน”

“งั้นเดี๋ยวผมช่วย”

“ไม่ต้องเสือก ป่วยอะหายดีแล้วหรือไง”

“หายแล้วเหอะ สบายดีมากเลย ช่วยนะ”

“ก็ได้”

“เริ่มเลยไหมครับ”

“ไปขี้ก่อน” เขาว่าแล้ววางขวดนมเปรี้ยวที่ดูดหมดแล้วไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินเข้าห้องไป ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ กับความเป็นเขาที่ไม่เคยสร้างภาพลักษณ์อะไรให้ผมเห็น เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ตามวิถีอิสระตัวจริง

 

ผมเข้ามาช่วยพี่อิสทำความสะอาดในห้องของเขา ปกติแล้วเขาไม่ค่อยได้เข้ามานอนในห้อง ใช้เวลากินนอนอยู่ที่โซฟามุมทำงานมากกว่า ห้องก็เลยไม่สกปรกเท่าไร พี่อิสใช้ผมถอดผ้าปูที่นอนไปซัก ยัดเข้าเครื่องซักผ้าเสร็จก็เดินกลับมาหาเขา พี่อิสบอกกับผมว่าไม่ชอบนอนบนเตียงเพราะกลัวผีใต้เตียง ผมไม่คิดว่าคนอย่างพี่อิสจะต้องกลัวอะไร ด่ากราดทุกอย่างกระทั่งผีก็คงกลัวพี่อิสหัวหดแน่ๆ

“พี่อิส อันนี้อะไรอะ” ผมชี้ไปที่แฟ้มปกแข็งเล่มหนาที่สอดอยู่ในชั้นวางของ

“อัลบั้มรูป แม่กูทำมาให้นานละ”

“ขอดูได้ไหมครับ”

“อือ” เขาตอบสั้นๆ ขณะกำลังจัดชั้นวางของอยู่ ผมดึงแฟ้มนั้นออกมา ปัดฝุ่นหนาที่เกาะอยู่แล้วเปิดเข้าไปในหน้าแรก

 

อิสระ เสรีไพศาล

Since 16/09/19XX

 

ภาพที่อยู่ในหน้าแรกเป็นเด็กทารกแก้มย้วยกับตาโตๆ ริมฝีปากผมขยับเป็นรอยยิ้มเมื่อมองดูภาพเบบี้อิสระ ก่อนจะพลิกหน้าต่อไป ยังคงเป็นพี่อิสเวอร์ชันทารก

“ว้าย! อย่ามาดูจู๋เค้านะ!” พี่อิสว่าแล้วยื่นมือมาปิดภาพทารกเปลือย

“น่ารักจะตาย”

“จู๋อะเหรอ ตอนนี้น่ารักกว่าอีกนะ ดูมะ”

“พี่อิส!”

“ล้อเล่นโว้ย แม่กูแม่งก็ไม่เซนเซอร์อะไรสักหน่อยเลย เปิดต่อไปเลย” เขาว่าแล้วพลิกหน้าต่อไปเอง ก่อนจะละจากการจัดของมานั่งดูรูปข้างๆ ผม

“พี่นี่กวนตีนมาตั้งแต่เด็กเลยใช่ไหม” ผมมองดูรูปพี่อิสตอนประถมที่ท่าทางแก่นเซี้ยวไม่ใช่เล่น

“กูเรียบร้อยนะ แต่ข้างบ้านเรียกไอ้เด็กเปรต”

ผมหลุดหัวเราะออกมา

“หมายถึงกูสูงเหมือนเปรตมั้ง”

“อ่า...คงใช่ อันนี้เริ่มหล่อแล้ว” ผมชี้ไปที่รูปพี่อิสสมัยมัธยม หัวเกรียนๆ กับชุดนักเรียนที่กางเกงยาวถึงหน้าแข้งอย่างที่เคยบอกจริงๆ ด้วย

“แน่นอน เบ้าหน้ากูดี”

ผมเลื่อนสายตามองภาพเขาสมัยมัธยมไปเรื่อยๆ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ภาพถือพานไหว้ครูคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง

“ได้ถือพานด้วย”

“เออ เขาคัดจากหน้าตาไง”

เกลียดความหลงตัวเองของพี่อิสมากเลย พูดตรงๆ

“ไอ้นี่รักแรกกูเลยนะ” เขาชี้ไปที่ผู้หญิงคนข้างๆ

“แฟนเก่าเหรอ”

“แฟนห่าอะไรล่ะ มันไม่ชอบกู มันบอกว่ากูปากหมา รักครั้งแรกหัวใจก็แตกสลาย”

ผมหัวเราะหน่อยๆ แล้วเปิดหน้าถัดไป เริ่มเป็นพี่อิสเวอร์ชันโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนมหาวิทยาลัย คิ้วขมวดเข้าหากันตอนที่เห็นภาพในหน้าล่าสุด ใบหน้าหล่อเหลาสวมชุดนักศึกษาถูกระเบียบยืนอยู่บนเวทีและสวมสายสะพายซึ่งตัวหนังสือบนนั้นทำเอาหัวคิ้วผมขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

 

เดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 25XX

 

“เดี๋ยวนะ เดือนคณะ?”

“บอกแล้วไงว่ากูหล่อมาก กูรองเดือนมอเลยนะมึง แพ้วิศวะไปหน่อยเดียว เสียดายกูไม่มีซิกแพ็กไปสู้เขา”

“ช็อก”

ช็อกจริง...นึกภาพไม่ออกว่าพี่อิสลุคเดือนคณะจะเป็นยังไง เลื่อนสายตามองภาพตอนประกวดในหน้าถัดไป ผมก็ยิ่งแปลกใจ ในภาพดูไม่ใช่พี่อิสเลย ทั้งดูเรียบร้อย ยิ้มแย้มด้วยท่าทางเป็นมิตร สวมภาพลักษณ์หนุ่มหล่อในฝันอะไรแบบนั้นเลย เมื่อลองตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว หัวฟู ขอบตาคล้ำ ถ้าวันไหนไม่โกนหนวดก็ยิ่งดูทรุดโทรม เกินคาดคิดว่าเขาจะเป็นคนเดียวกับคนในภาพ

“มึงจะข้องใจอะไรมาก กูจริงๆ โว้ย สมัยก่อนกูหล่อไง กูเท่มากด้วย”

“แปลกใจอะ เดือนคณะ คณะพี่มีกี่คนเหรอ”

“เยอะโว้ย! แต่กูไม่ได้อยากเป็นสักหน่อย เป็นดงเป็นเดือนห่าอะไรนี่ลำบากฉิบหาย”

“ทำไมอะครับ”

“ต้องทำกิจกรรมอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด กูนี่ไม่ได้ว่าง เรียนก็หนักพอแล้ว แถมยังต้องคีปลุคหนักมาก ต้องทำตามที่คนอื่นบอก ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคมห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ โคตรอึดอัด พอขึ้นปีสองกูก็ไม่เอาห่าอะไรเลย เลอะเทอะ เดือนคณงเดือนคณะอะไร กูไม่เอาด้วยแล้ว เลิกเล่น”

ผมหลุดหัวเราะเบาๆ แล้วเปิดหน้าถัดไป เป็นรูปพี่อิสสมัยเรียน จนกระทั่งถึงรูปตอนรับปริญญา นับพ.ศ.ที่เขาจบกับอายุผมแล้ว ตอนพี่อิสเรียนจบ ผมเพิ่งอยู่ม.สามเอง

“นี่พ่อแม่พี่เหรอ” ผมชี้ไปที่รูปชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนประกบเขาคนละข้าง

“ใช่ กว่าจะเอามาร่วมเฟรมกันได้ กูอ้อนจนท้อใจเลย ต้องรูปนี้ แม่งรูปประวัติศาสตร์เลย” พี่อิสพลิกไปอีกรูป เป็นรูปสมาชิกครอบครัวหลายคน

“ใครบ้างเหรอครับ”

“นี่พ่อกู นี่เมียใหม่พ่อ นี่ลูกใหม่พ่อสองคน ส่วนนี่แม่กูกับผัวใหม่เขา แล้วก็ลูกอีกสาม”

“โห อย่างเจ๋งอะ ว่าแต่พี่อิสก็มีพี่น้องเยอะเลยนะครับ”

“แต่ไม่มีใครนับญาติกูสักคนอะ” เขาพูดขำๆ แล้วพลิกหน้าต่อไป เป็นรูปเขาคู่กับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ถักผมเปียสองข้าง

“เว้นลันลินาเนี่ยแหละ จริงๆ ถ้าน้องคนอื่นเป็นผู้หญิงกูก็คงชอบอะ กูชอบเด็กผู้หญิง ไม่ชอบเด็กผู้ชาย”

“งั้น...พี่อิสก็ไม่ชอบผมเหรอ”

“มึงเหมือนผู้ชายมากงั้นดิ”

“หือ?”

“ตัดกระจู๋ออกก็เป็นน้องสาวกูได้เลย”

“พี่อิส! กรองมุก!”

“โทษๆ แล้วมึงอะ ถามแต่เรื่องกู ไม่เห็นเล่าเรื่องตัวเองบ้างเลย มึงเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านกูเนี่ย”

“พี่ลากผมมาเอง ผมก็เลยตามมา”

“ใจง่ายสัด แล้วชีวิตมึงเป็นยังไง ตอนเด็กๆ งี้”

“เท่าที่จำได้ก็เป็นเหมือนคนทั่วๆ ไป ใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติ ผมเกิดและโตที่เชียงใหม่ มีพ่อแม่ใจดี โดนตีบ้างตอนดื้อเป็นธรรมดา ตอนผมเจ็ดขวบ พ่อกับแม่รถคว่ำตายทั้งคู่ ผมก็เลยต้องมาอยู่กับย่าที่นี่ แล้วชีวิตหลังจากนั้นก็อย่างที่พี่อิสเห็น”

“จบ?”

“จบครับ”

“ไอ้บ้า ชีวิตมึงนี่โมเมนต์น้อยมาก เอาจริงๆ ที่ผ่านมามึงทนอยู่ในบ้านนั้นได้ไงวะ ต้องใจแข็งขนาดไหน กูเป็นมึงโดดน้ำตายไปนานละ เจอแบบนั้นกูคงไม่ทน”

“เคยอยากลองโดดดูเหมือนกันนะ”

“เฮ้ย กูพูดเล่น”

“ผมก็เคยเบื่อชีวิตเหมือนกันนะครับ เจอเรื่องหนักๆ บางทีก็ทนแทบไม่ไหว แต่ผมก็ไม่ค่อยคิดอะไรมาก ผมว่าผมเด็กเกินกว่าจะตายนะ ยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย”

พี่อิสถอนใจเบาๆ แล้วยกมือขึ้นมาวางบนหัวผมก่อนจะมองหน้าอยู่อย่างนั้น เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด แปะมืออยู่บนหัวผมนานจนต้องเอ่ยถาม

“พี่อิส...ทำไมมองนาน”

“ไม่รู้จะพูดอะไรแต่อยากเท่”

“วู้” ผมจับมือเขาลงจากหัว อีกฝ่ายได้แต่ยิ้มให้นิดๆ

“มึงเก่งมากนะหลินปิง เก่งกว่ากูเยอะเลย”

ผมพยักหน้ารับ

“แต่ความหล่อสู้กูไม่ได้เลย”

“โวะ! ไปดูผ้าดีกว่า เสร็จแล้วมั้ง” ผมลุกพรวดขึ้นพร้อมกับอัลบั้มรูปในมือ ก่อนสะดุดกึกเพราะมีรูปจำนวนหนึ่งตกลงมาจากอัลบั้ม ผมก้มลงไปเก็บก่อนจะเห็นว่าเป็นรูปโพลารอยด์จำนวนหนึ่งที่พี่อิสคงจะเสียบมันไว้ในหน้าใดหน้าหนึ่งจึงตกลงมา...เป็นรูปเขากับพี่เนย

“ไปดูผ้าดิ” เขารวบภาพพวกนั้นไปจากมือผม แล้วเก็บใส่อัลบั้มภาพแบบลวกๆ  ก่อนจะยัดอัลบั้มภาพกลับไปในชั้นวางของที่เดิม ผมเดินออกไปยังเครื่องซักผ้าที่ยังหมุนไม่หยุด จึงเดินกลับเข้าไปที่หน้าห้องพี่อิส

“พี่อิส ผ้ายังไม่เสร็จ”

“เออ ปล่อยมัน”

ผมเห็นว่าในห้องเขาไม่มีอะไรให้ช่วยทำแล้วเลยเดินเข้าห้องตัวเอง ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างสบายๆ มองเพดานห้องด้วยหัวโล่งๆ อยู่พักหนึ่ง

ติ๊ง!

ผมได้ยินเสียงดังจากมือถือเลยลุกขึ้นมาหยิบดู ก่อนจะเห็นแจ้งเตือนไลน์ที่หน้าจอจึงกดเข้าไปเห็นข้อความที่มาจากช็อก

 

“ปิง เป็นไงบ้าง หายป่วยยัง”

 

“หายแล้ว”

 

ผมตอบกลับไป พักหนึ่งช็อกก็ส่งรูปตัวเองคู่กับคีย์บอร์ดมาให้

 

“คีย์บอร์ดมันเป็นห่วง”

 

ผมหลุดยิ้มออกมานิดๆ แล้วเปลี่ยนจากการพิมพ์คุยเป็นโทรหาเขาง่ายกว่า เพราะผมพิมพ์ช้า โทรออกปุ๊บปลายสายก็กดรับทันที

“ว่าไงคนป่วย”

“หายแล้ว วันนี้ช็อกอยู่บ้านเปล่า”

“อยู่ๆ”

“งั้นเราไปหานะ สอนคีย์บอร์ดต่อให้หน่อย”

“ก็รออยู่เนี่ย”

“งั้นเดี๋ยวเราออกไปเลย เจอกันที่ร้านพ่อช็อกนะ”

“โอเคครับ”

ผมกดวางสายจากช็อกแล้วเดินไปบอกพี่อิสที่ยังจัดของอยู่ในห้อง

“พี่อิส ผมออกไปข้างนอกนะ”

“ไปไหน”

“ไปบ้านช็อก ไปให้ช็อกสอนเล่นดนตรี”

“ไหนบอกจะไปกินพิซซ่ากับกูไง”

“เอาไว้ก่อนนะครับ วิชาดนตรีสำคัญกว่า ไปนะ” ผมโบกมือให้เขาน้อยๆ ก่อนจะเดินออกมาหน้าบ้าน ได้ยินเสียงเขาไล่หลังมา

“อ้าวเฮ้ย! แล้วจะกินข้าวเย็นไหม หลินปิง!”

“พี่อิสกินเลยไม่ต้องรอ”

“จะกลับกี่โมงก็โทรมาบอกด้วยนะโว้ย!”

“คร้าบ!”

ความรู้สึกเหมือนขออนุญาตพ่อออกจากบ้านครั้งแรกเลย ผมเดินตัวปลิวออกมาจากบ้านพี่อิส เห็นไอ้เปรี้ยว หมาใหญ่ผู้สังหารบังเอิญตายคาเขี้ยว ในใจแอบหวั่นนิดหน่อยเพราะดูหน้าตามันไม่เป็นมิตร เลยเดินเลี่ยงๆ จากหน้าบ้านหลังนั้นแล้วก้าวเท้าเร็วๆ ออกไปที่ปากซอย ตรงไปร้านยาพ่อช็อกได้โดยไม่ถูกหมากัด เห็นร่างสว่างยืนยิ้มกว้างรอผมอยู่ตรงนั้นแล้ว

บ้านช็อกอยู่ไม่ไกลจากร้านยาของพ่อเขา เป็นบ้านสองชั้นขนาดใหญ่พอสมควรบ่งบอกฐานะ ช็อกพาผมไปไหว้แม่ที่อยู่บ้านเพื่อทักทาย ก่อนจะพาขึ้นมาห้องเขาที่ชั้นสอง แอบตกใจในความใหญ่โตของห้องนอนเขานิดๆ  ช็อกคงชอบดนตรีมากจริงๆ  พื้นที่ส่วนหนึ่งของห้องจึงเป็นมุมดนตรี มีกีตาร์ไฟฟ้าตัวหนึ่ง กีตาร์โปร่งอีกสองตัว คีย์บอร์ด และอุปกรณ์ขยายเสียงจำนวนหนึ่ง

“ปิง!”

“ฮะ!?” ผมเผลอตอบเสียงดังเพราะตกใจเสียงเรียกของเขา คนข้างๆ หัวเราะก๊าก ผมเชิดปากขึ้นนิดๆ แล้วถอดกระเป๋าวางบนโต๊ะหนังสือของเขา

“เราเลือกเพลงที่เล่นง่ายๆ เอาไว้ให้แล้ว ปิงลองเลือกดูว่าอยากเล่นเพลงไหนหรือเปล่า” ช็อกว่าแล้วส่งกระดาษสี่ห้าแผ่นให้ ผมรับมาพลิกดูชื่อเพลงตรงหัวกระดาษ

“เป็นไง ชอบเพลงไหน”

“ไม่...”

“ไม่ชอบเลยเหรอ”

“ไม่รู้จักสักเพลงเลย”

“เฮ้ย นี่ปิงย้อนยุคมาจากรัตนโกสินทร์ไหนปะเนี่ย แบบเดินผ่านกระจกหลงยุคมาอะไรงี้ปะ”

“ก็บอกแล้วว่าไม่ค่อยฟังเพลงไง”

“ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ไง นอกจากเพลงชาตินี่เคยฟังเพลงอะไรบ้าง”

“หนู....หนูมาลี”

“โอ๊ย ตายแล้วววว” ช็อกลากเสียงยาวแล้วยกมือเขย่าหัวผมไปๆ มาๆ ผมก็ได้แต่แสดงสีหน้ายุ่งๆ ผมไม่รู้จักเพลงพวกนั้นเลยนี่นา

“งั้นเราเลือกให้เลยนะ”

“อื้อ ช็อกเลือกเลย เอาง่ายๆ นะ”

ช็อกหยิบกระดาษกลับไป กวาดตามองโน้ตบนกระดาษนั้นก่อนจะเลือกมาแผ่นหนึ่งส่งให้ผม

“เพลงนี้ละกัน เราชอบ”

ผมพยักหน้าก่อนจะรับกระดาษนั่นมาดู มันชื่อเพลงว่า ลูกอม ผมได้ยินเป็นครั้งแรกก็ตอนนี้ วิชาดนตรีคาบพิเศษเริ่มต้นอย่างไม่รอให้เสียเวลา ก่อนอื่นช็อกให้ผมฟังเพลงนี้มากกว่าสิบรอบเพื่อให้จำทำนองได้ ช็อกใจดีกับผมก็จริง แต่เวลาสอนก็จริงจังมาก สอนอย่างเข้มงวดผมก็เลยจำคอร์ดจำโน้ตได้อย่างรวดเร็ว เริ่มเล่นเป็นเพลงได้แบบช้าๆ  ยังติดๆ ขัดๆ บ้างในบางท่อน ผมเริ่มสนุกกับการเล่นคีย์บอร์ด ค้นพบความมหัศจรรย์ของมัน เป็นเครื่องดนตรีที่เสียงเพราะ แต่ที่เพราะกว่าเสียงดนตรี...ก็คงเป็นเสียงของคนข้างๆ มั้ง

 

“เราจะลอยข้ามฟ้าท่ามกลางหมู่ดาว จะไม่มีความเหงาเข้ามากล้ำกราย เพลงนี้เพื่อเธอ มันเป็นของเธอรู้ไหม...[1]”

 

ช็อกร้องเพลงเบาๆ คลอไปด้วยตอนผมกำลังเล่นคีย์บอร์ด ปกติจะเห็นเขาเล่นกีตาร์ในวง ไม่เคยได้ยินร้องเพลงเลย เสียงนิ่มๆ ฟังเพลินจนผมลืมกดโน้ตเลย

“อ้าว หยุดทำไมอะ ลืมเหรอ”

“เอ่อ...ลืม ขอโทษ”

“ไม่เป็นไร เอาใหม่”

ผมเริ่มเล่นเพลงใหม่อีกที วนซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น แต่ถึงยังไงก็ยังเล่นไม่คล่อง ได้ตรงนี้ลืมตรงนั้น เล่นท่อนสองได้ ลืมท่อนแรกไปแบบติดๆ ขัดๆ  แต่ช็อกก็สอนผมอย่างใจเย็น ให้ค่อยๆ เล่นไปเรื่อยๆ จนลืมเวลาไปเลย ท้องฟ้าข้างนอกเปลี่ยนสีแล้ว แม่ช็อกเลยขึ้นมาตามเราลงไปกินข้าวเย็น ได้โอกาสพักพอดีเพราะตอนนี้นิ้วจะล็อกอยู่แล้ว

“แม่ไม่รู้ว่าปิงชอบกินอะไร ก็เลยทำซะเยอะเลย”

“ผมกินอะไรก็ได้ครับ”

“น่ารักมาก ไม่เหมือนช็อกเลย ช็อกเลือกกินมาก”

“คนเรามันก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตสิครับแม่”

“ไอ้สิ่งที่เลือกกินมันไม่มีประโยชน์เลยค่ะช็อก ของมันๆ ทอดๆ ขนมหวานนี่ชอบนัก”

“ไม่เอาดิแม่ ไม่เผากันเอง กินข้าวๆ” ช็อกตัดบท ก่อนมื้อเย็นของบ้านช็อกที่มีผมเกินมาคนหนึ่งจะเริ่ม

“ปิง กินเยอะๆ ดิ เดี๋ยวแม่เราน้อยใจ” ช็อกว่าแล้วตักกับข้าวมาใส่จานผม พ่อกับแม่ช็อกชวนผมคุยจนไม่รู้สึกอึดอัด ระหว่างมื้ออาหารจึงเป็นไปอย่างมีความสุขดี ผมมองดูครอบครัวช็อกก็ทำให้คิดถึงพ่อแม่ตัวเองขึ้นมา อดคิดไม่ได้ว่าถ้าพ่อแม่ผมยังอยู่...ครอบครัวเราจะเป็นอย่างไร

...

 

หลังจบมื้อเย็น ช็อกก็สอนบทเรียนสุดเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ผมก็ยังมึนๆ งงๆ กับการเล่นคีย์บอร์ดอยู่ ดีที่ช็อกไม่ใช่คนขี้หงุดหงิด ผมลืมก็ทวนให้จนเริ่มจำได้ ผมจำท่อนแรกได้แต่ยังกดไปช้าๆ ช็อกยืนยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นฝีมือลูกศิษย์อย่างผมพัฒนาแบบก้าวกระโดด ไม่ใช่ว่ามีพรสวรรค์ แต่เพราะช็อกทุ่มเทสอนหนักมากต่างหาก

“ปิงเก่งนะ”

“คนสอนดีไง”

“อวยกันไปอวยกันมาเนอะ” ช็อกพูดขำๆ  ผมหลุดยิ้มแล้วเหลือบตาไปมองนาฬิกา

“เฮ้ย จะสองทุ่มแล้วเหรอ”

“ทำไมอะ รีบกลับเหรอ”

“เราว่า เราควรจะกลับ...”

“อีกแป๊บหนึ่งดิ จะได้ท่อนสองละเนี่ย”

“งั้นขอไลน์ไปบอกพี่อิสก่อน เดี๋ยวโดนด่า” ผมว่าแล้วลุกไปหยิบมือถือในเป้ไลน์หาพี่อิสว่าจะกลับช้าหน่อย อีกฝ่ายอ่านแต่ไม่ตอบ...อ่านไม่ตอบคือกวนตีนนะ

“ไปไหนมาไหนก็ต้องรายงานพี่อิสด้วยเหรอ”

“เขาขี้บ่นอะ เป็นลุงแก่ๆ” ผมว่าแล้วยัดมือถือเข้ากระเป๋าที่เดิม

“แต่พี่อิสดูหวงปิงมากเลยนะ”

“ไม่หวงหรอก”

“หวงดิ ดูออก”

“...”

“ยิ่งกับเรา ยิ่งดูหวงเลย”

“เขาเป็นห่วงแหละ ชอบเล่นใหญ่ด้วยไง ไม่มีอะไรหรอก” ผมพูดปัดๆ ก่อนช็อกจะพยักหน้ารับเบาๆ  อันที่จริงพี่อิสก็เคยพูดว่าหวง เคยพูดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน...แต่ก็ไม่รู้ว่าหวงแบบไหนในความหมายของเขา


[1] เพลง ลูกอม / วัชราวลี

 

To be continued. 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2021 18:46:21 โดย เต้าหู้ไข่ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
« ตอบ #169 เมื่อ: 10-02-2017 23:49:06 »





ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #170 เมื่อ11-02-2017 00:03:40 »

เอาที่สบายใจเลยพี่อิส จะปล่อยช็อคทำคะแนนจนได้เป็นแฟนปิงก็แล้วแต่

ออฟไลน์ kyungploy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #171 เมื่อ11-02-2017 00:07:00 »

หงุดหงิดพี่อิสจริงๆ ฮึ่ย ส่วนช็อกน่ารักมากกกกกก บ้านช็อกก็น่ารักทุกคนเลย ฮื่อ

ออฟไลน์ 4life

  • R.I.P KT 5-5-13
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 995
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #172 เมื่อ11-02-2017 00:11:20 »

ยังไม่จบกะชะนีเนยจริงๆ ไม่งั้นคงไม่หาทางเปลี่ยนเรื่อง
นางดูเป็นคนฉลาดตรงไปตรงมา เเต่ตอนนี้เเนวพระเอกไทยจริงๆ
เซ็งกะอิพี่กิส 

ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #173 เมื่อ11-02-2017 00:54:53 »

ปิงน่ารักกกกกกกก ชีวิตหนูช่วงแรกนี่จะรันทดไปไหน
ดีที่เจออิสระ
พี่อิสนี่ก็นะ ชอบก็จีบเลยเพ่

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #174 เมื่อ11-02-2017 01:12:55 »

หลงปิงงงงงงงงงง น้ำปิงน่าร้าก

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #175 เมื่อ11-02-2017 01:37:55 »

เหมือนพี่อิสแกชอบทำความสะอาดบ้านเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #176 เมื่อ11-02-2017 01:47:48 »

ปิงน่าร้ากกกกกกกกก
ชอบครอบครัวช็อกมากอ่ะ น่ารักสุดๆ อ่านละยิ้มตามเลยย
 :L1: :L1: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #177 เมื่อ11-02-2017 02:14:44 »

อ่านไม่ตอบนะพี่อิส  :z13:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #178 เมื่อ11-02-2017 02:59:42 »

พี่อิสรักเนยมากหรอ...
ลำบากซะล่ะมั้งปิงเอ๊ย  :sad4:
ช็อกก็น่าเอ็นดูดีนะ :hao7:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
«ตอบ #179 เมื่อ11-02-2017 06:10:12 »

ทั้งที่ เย้.....ดีใจจะได้กินพิซซ่าที่พลาดมาหลายครั้ง
แต่พอเห็นรูปคู่ พี่อิส เนย ปิงก็เผ่นไปหาช็อก
เรียนดนตรีกับช็อก จนมืดค่ำ
นี่คือความโหวงของปิง ว่าพี่อิสหวงปิงในแง่ไหน
การกระทำ คำพูด มันเหมือนปิงสำคัญ
แต่ไม่ชัดเจน แต่ในใจพี่อิส น่าจะพอรู้ใจตัวเองละ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด