[NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [NOVEL] FATHERHOOD [Frank take a bath]  (อ่าน 133159 ครั้ง)

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #90 เมื่อ05-09-2008 15:04:48 »

กรี๊ดด้วยคน

ทำไมลินดาเป็นแบบนี้เนี่ย

รู้สึกแปลกๆกับลินดาเหมือนเธอไม่จริงใจ

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #91 เมื่อ05-09-2008 15:18:44 »

 :m31:ลินดา :m31:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #92 เมื่อ06-09-2008 22:51:14 »

แล้วความรู้สึกของคริสที่รักไมเคิลเหมือนลูก จะเปลี่ยนไปไหม??

รออ่านต่อค่า  :man1:

numa6

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #93 เมื่อ07-09-2008 09:39:50 »

เเว๊กกกก ไมเคิลน่าสงสารอ่ะ

ยกนิ้วให้คนเขียนเรื่องนี้เลยคับ มาต่อเร็วๆน้า

ว่าเเต่ อยากรู้จังเรื่องนี้มีพระเอกมั้ย.... เหอๆ


winds

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #94 เมื่อ07-09-2008 10:40:23 »

^

^

จิ้ม....จึก  :laugh:

ปล. จิ้มเรื่องโน้นไม่ทัน เลยข้ามมาเรื่องนี้แทน อิอิ (แต่เรื่องไรหว่าขอไปอ่านมั่งนะคับ :o8:)

ปล.2 คนเราขนาดป่วยยังมีกะจิดกะจายยยมาอ่านนิยายเนอะ  o12 ทะมายไม่พักผ่อนค๊าบบบ

numa6

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #95 เมื่อ07-09-2008 12:56:15 »

^
^
^

ห๊า :o

โหย ยังตามมาจิ้มได้เนอะ ของเเรงเค้าเเรงจริงๆคับ

เเต่เรื่องนี้รับรองหนุกหนานคับ อ่านเตอะๆ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #96 เมื่อ07-09-2008 23:48:38 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #97 เมื่อ08-09-2008 10:04:30 »

[13]  ต่อ...


คริสรับโทรศัพท์มือถือระหว่างการประชุมด้วยอารมณ์ไม่สู้ดีนัก ลูกค้าขอเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบอาคารตามที่ใจต้องการโดยไม่ฟังเหตุผลที่เขาอธิบาย คริสเกือบจะตัดสายทิ้งแต่เมื่อเห็นเบอร์โชว์หน้าจอ จำต้องกดรับและลุกขึ้นเดินเลี่ยงออกจากโต๊ะประชุม

“ฮัลโหล.. คุณคริสเหรอครับ ผมมีข่าวดีจะบอก”

เสียงใสจากปลายสายทำให้คริสรู้สึกผ่อนคลายอารมณ์ขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็รู้สึกว่าไม่ใช่เวลาที่จะพูดคุยเรื่องส่วนตัวตอนนี้

“ข่าวดีอะไรหรือ ไมเคิล..  เย็นนี้ค่อยบอกได้มั้ย”

“ผมอยากบอกตอนนี้เลยครับ คุณงานยุ่งอยู่เหรอ.. เดี๋ยวผมค่อยโทรมาใหม่ก็ได้”

“ไม่เป็นไรหรอกไมเคิล มีอะไรก็ว่ามา”

“เมื่อกี้แม่โทรมาครับ แม่บอกว่าจะแต่งงาน แฟนใหม่ของแม่ทำงานอยู่ที่ฮ่องกง แต่งแล้วแม่จะต้องบินไปอยู่กับเขาด้วย แม่โทรมาชวนผมไปอยู่ด้วยครับ”

...โอ! พระเจ้า ทำไมต้องเป็นเวลานี้ด้วย ทำไมไมเคิลต้องรีบร้อนถึงขนาดรอบอกเขาตอนเย็นไม่ได้ เขาตั้งใจไว้แล้วว่าหลังเลิกประชุมจะโทรคุยกับลินดาเรื่องของไมเคิล คิดไม่ถึงว่าสองแม่ลูกโทรคุยกันก่อนแล้วด้วยเรื่องนี้...

คริสรีบตัดบทการสนทนาเพราะไม่อาจทนฟังคำขอจากปากหนุ่มน้อย

“ฟังนะไมเคิล.. ฉันไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น ไปอยู่กับแม่ก็ดี ฉันเป็นคนอื่นคงให้ความรักกับเธอได้ไม่เท่าแม่กับพ่อใหม่ของเธอหรอก ฉันอนุญาตให้เธอเก็บข้าวของทั้งหมดที่เป็นของเธอ อยากได้อะไรก็เอาไปนะไมเคิล ถ้าจะต้องรีบไปตอนนี้ก็ให้คุณแฟรงค์ไปส่งหรือจะให้แม่มารับก็ตามใจ แค่นี้นะไมค์ ฉันมีประชุมอยู่”

คริสตัดสายและปิดโทรศัพท์ทันที เขาต้องอดกลั้นอารมณ์และความรู้สึกขณะพูดให้เป็นปกติมากที่สุด

ไมเคิลถือหูโทรศัพท์ยืนนิ่งด้วยความงง คุณคริสเล่นพูดข้างเดียวโดยที่หนุ่มน้อยไม่มีโอกาสโต้แย้ง พอกำลังจะอ้าปากอธิบายคุณคริสก็วางสายลง

ไมเคิลพยายามต่อสายเข้าไปใหม่เพื่ออธิบายเรื่องเมื่อครู่ แต่สายมือถือของคุณคริสไม่สามารถติดต่อได้แล้ว อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาจึงโทรหาอีกครั้ง พอคุณคริสรับสายไมค์ก็รีบตัดพ้อทันที

“คุณคริสครับ เมื่อกี้ผมยังพูดไม่จบเลย ผมยังไม่ได้บอกคุณเลยว่าผมขออนุญาต…”

“พอเถอะ ไมเคิล”

คริสขัดขึ้นดัวยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ ครั้งนี้เขาอยู่คนเดียวในห้องทำงานส่วนตัวจึงไม่มีความจำเป็นต้องเก็บอารมณ์อีก เขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่หนุ่มน้อยรีบร้อนอยากจะบอกเรื่องนี้ คงอยากจะกลับไปอยู่กับแม่ใจจะขาดแล้วกระมัง

“ฉันบอกแล้วไง จะไปก็ไป  ฉันไม่มีสิทธิอนุญาตให้เธออยู่หรือไป ขึ้นอยู่กับใจของเธอไมเคิล ฉันรู้ว่าเธอคิดถึงพ่อมาก บางทีอยู่ใกล้ๆแม่ ความรู้สึกคิดถึงพ่ออาจจะดีขึ้น ถ้าเธอแน่ใจว่าแม่จะไม่ทอดทิ้งเธอเหมือนที่ผ่านมา ฉันยินดีด้วยที่เธอจะกลับไปอยู่กับแม่ บางทีการแต่งงานครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายของแม่เธอแล้ว ฉันภาวนาขอให้แม่เธอเจอคนที่ดี และหวังว่าเขาคนนั้นจะรักเธอเหมือนที่ฉันรัก   ถ้าเธอต้องการคำยืนยันจากฉันเพื่อความสบายใจของเธอ ก็ได้.. กลับไปอยู่กับแม่ซะ ไมค์ มันเป็นความต้องการจากใจจริงของฉันไอ้หนู.. ถ้าเธอไม่รีบร้อนจนเกินไป คืนนี้ฉันจะพาไปส่ง ไปเก็บของเตรียมไว้ก่อนไมเคิล เย็นนี้ค่อยเจอกัน”

คริสวางสายลงด้วยความรู้สึกปวดร้าวใจ ทุกคำพูดตรงข้ามกับความรู้สึกในใจ เขาหลอกคนอื่นได้แต่หลอกตัวเองไม่ได้…



:m15:



อีกครั้งที่ไมเคิลยืนนิ่ง ไม่ใช่เพราะงงแต่เพราะรู้สึกเสียใจ คิดไม่ถึงว่าคุณคริสต้องการให้ตัวเองกลับไปอยู่กับแม่จริงๆ ครั้งแรกนึกว่าคุณคริสเข้าใจผิด แต่ตอนนี้ไมค์รู้แล้วว่าคุณคริสพูดจากใจจริงไม่ได้พูดเพราะเข้าใจผิด

:o12:  ร่างเล็กวิ่งกลับเข้ามาในห้องด้วยหัวใจบอบช้ำ ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง คุณคริสให้เก็บข้าวของเตรียมไว้ก่อน จะเก็บอะไรดีเหรอ เสื้อผ้าและข้าวของที่อยู่ในห้องนี้ทั้งหมดคุณคริสซื้อให้ทั้งนั้น ไมค์มีสิทธิที่จะใช้และเป็นเจ้าของในขณะที่พักอยู่ที่นี่เท่านั้น แต่ถ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ก็ไม่ควรนำติดตัวไป

ไมค์ดึงเสื้อยืดและกางเกงตัวเก่าที่ทิมยกให้และไมค์ชอบใส่บ่อยๆ ตอนอยู่เรือนคนรับใช้ออกมา 2 ชุด ไม่รู้ว่าทำไมมือต้องสั่นด้วย ความรู้สึกไม่เหมือนตอนที่แม่บอกอนุญาตให้ไมค์อยู่กับคุณคริสได้เลย ตอนนั้นไมค์รู้สึกดีใจมากจนมือไม้สั่นตอนกดโทรศัพท์หาคุณคริสเพื่อบอกข่าวดี หัวใจของไมค์ขณะนั้นพองโตด้วยความยินดีและมีความสุข ไม่รู้สึกแย่เหมือนตอนนี้



 :m15:



“ไมเคิลล่ะ ลู..”

แฟรงค์ถามหาหนุ่มน้อย ในมือถือกล่องเกมบอยที่ไมเคิลอยากได้ เขาผ่านไปเห็นนึกขึ้นได้ว่าไมเคิลเคยบอกว่าอยากมีโอกาสเล่นเหมือนเด็กคนอื่นๆ บ้าง ที่ผ่านมาเคยแต่ดูเขาเล่น

“อยู่บนห้องครับ เมื่อสักครู่มาขอกระเป๋าเดินทางใบเล็ก บอกว่าจะเก็บเสื้อผ้า 2-3 ชุด ไม่ทราบว่าจะไปไหนกันหรือครับ”

“งั้นเหรอ ไม่รู้ซี คุณคริสจะพาไปไหนมั้ง”

แฟรงค์ถือวิสาสะเข้าห้องหนุ่มน้อยโดยไม่เคาะประตูก่อนเพราะอยากให้แปลกใจกับของฝาก แต่ภาพที่เห็นคือเจ้าหนูนอนหลับอยู่บนเตียงกอดหมอนปิดหน้าไว้ มีกระเป๋าเดินทางใบย่อมวางอยู่ข้างตัว แฟรงค์เดินไปหยุดยืนข้างๆ วางกล่องเกมในมือลงบนที่นอน ความเข้าใจของเขาขณะนี้คือคริสคงจะพาไมเคิลไปไหนเป็นการส่วนตัว จึงไม่บอกให้ใครรู้แม้แต่เขา

แฟรงค์ถือวิสาสะอีกครั้งเปิดกระเป๋าเดินทางออกมาตรวจดูข้าวของข้างใน เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องดูแลเด็กๆ ในบ้านเกือบทุกเรื่อง แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่จะนำไปสวมใส่ระหว่างการเดินทางไปไหนแต่ละครั้ง ต้องเลือกให้เหมาะกับสถานที่และโอกาส สำหรับไมเคิล... แม้คริสจะดูแลจัดการด้วยตัวเอง แต่บางเรื่องแฟรงค์ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วยจัดการให้เพราะเป็นนิสัยส่วนตัวเขาแล้ว

เห็นของในกระเป๋าแฟรงค์ก็รู้ว่าไมเคิลเตรียมตัวจะไปไหนจริงๆ แต่ไม่ได้ไปกับคริส เพราะนอกจากเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นตัวเก่า 2 ชุดแล้ว มีเพียงสมุดแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษ 5 เล่มและรูปถ่ายของคริสที่เคยตั้งอยู่ข้างหัวเตียงเจ้าหนู ขณะนี้ลงไปแอบซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางใบนี้แล้ว

“ไมค์กี้..  ไมค์..”

แฟรงค์เขย่าร่างเล็กเบาๆ และดึงหมอนออก ไมเคิลสะดุ้งตื่นลืมตาขึ้นนอนงงอยู่กับที่ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนเหมือนรอคอยอะไรสักอย่าง

“กี่โมงแล้วครับ”

“ห้าโมงเย็นแล้ว  นอนตั้งแต่กี่โมง ทำไมชอบนอนเวลานี้ หือ.. เดี๋ยวตื่นขึ้นมาก็ปวดหัว ไม่สบายตัวอีก”

ไมเคิลขยับตัวขึ้นนั่ง ขอบตาบวมแดง สีหน้าเศร้าหมอง ทำให้แฟรงค์รู้ทันทีว่าหนุ่มน้อยกำลังมีเรื่องทุกข์ใจ และงานนี้น่าจะมีคริสเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

“เก็บกระเป๋าจะไปไหน ไมเคิล” แฟรงค์ถามตรงๆ เพราะกระเป๋าวางอยู่บนที่นอน

“คุณคริสให้ผมเก็บของครับ”

“เก็บไปไหน คุณคริสจะพาไปไหนเหรอ”

“คุณคริสอยากให้ผมกลับไปอยู่กับแม่ครับ บอกว่าคืนนี้จะพาไปส่ง ให้ผมเก็บของเตรียมไว้ก่อนครับ”

แฟรงค์แทบไม่เชื่อหูตัวเอง แต่ไมเคิลคงไม่ได้พูดโกหก น่าจะเป็นความเข้าใจผิดกันมากกว่า

“คุณคริสบอกหรือ  ว่าอยากให้เธอกลับไปอยู่กับแม่”

หนุ่มน้อยพยักหน้าหงึกๆ

“แสดงว่าแม่บอกให้เธอกลับไปอยู่ด้วยใช่มั้ย คุณคริสถึงพูดอย่างนั้น”

ไมค์พยักหน้าอีก แฟรงค์ใจหายเข้าใจแล้วว่าคริสจำเป็นต้องพูดเช่นนั้น

“แม่บอกให้ผมไปอยู่ด้วย แต่ผมบอกแม่ว่าขออยู่กับคุณคริส คุณคริสจะรับผมเป็นลูกบุญธรรม”

“แล้วไง แม่ยอมมั้ย” แฟรงค์ถามด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเป็นคริสเสียเอง

“แม่ไม่ได้ว่าอะไร แม่บอกตามใจผม ถ้าคุณคริสจะรับผมเป็นลูกแม่ก็ดีใจด้วย แม่บอกว่าผมจะได้มีพ่อซะที” น้ำใสเอ่อคลอรอบดวงตาของหนุ่มน้อยเมื่อนึกถึงคำพูดของคุณคริสที่ว่า   :m15:

….ฉันเป็นคนอื่น คงให้ความรักกับเธอได้ไม่เท่าแม่และพ่อใหม่ของเธอหรอก…

แฟรงค์ลอบยิ้มในใจ  เรื่องกำลังลงเอยด้วยดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น แฟรงค์รั้งร่างเล็กเข้ามาสวมกอด  ความรู้สึกที่เขามีให้ไมเคิลวันนี้ต่างจากเมื่อก่อน คริสรักไมเคิลอย่างลูกชาย  เขาเองก็รู้สึกกับเจ้าหนูเหมือนลูกเหมือนหลาน

“คุณคริสไม่รู้ใช่มั้ย ว่าแม่อนุญาตให้เธออยู่กับเขาแล้ว”

หนุ่มน้อยพยักหน้าความหมายว่าคริสยังไม่รู้

“ทำไมไม่บอกล่ะไมเคิล หือ.. ถ้าคุณคริสรู้ไม่มีทางพูดแบบนั้นหรอก”

“คุณคริสไม่ยอมฟังผมพูด แต่ถึงบอกไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ผมรู้แล้วว่าคุณคริสคิดยังไง คุณคริสอยากให้ผมกลับไปอยู่กับแม่ คุณคริสบอกว่าเป็นความต้องการจากใจจริงของเขา เขาบอกว่าให้ความรักกับผมได้ไม่เท่ากับพ่อใหม่ของผมหรอก คุณคริสอยากให้ผมกลับไปอยู่กับแม่ผมก็จะไป ”

:m15:  น้ำตาหนุ่มน้อยร่วงผล็อยลงเมื่อพูดจบ แฟรงค์ส่ายหน้ากับพ่อลูกบุญธรรมคู่นี้ ปากไม่ตรงกับใจทั้งคู่



 :เฮ้อ:   



“ไมเคิล คุณคริสให้ไปรอที่หน้าตึกเลย กำลังจะมาถึงในอีก 5 นาทีนี้แล้ว”

ไมเคิลลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าคุณคริสจะรีบร้อนขนาดนี้ นึกว่าจะทานอาหารเย็นก่อน ดึกๆ ค่อยไปส่ง
ไมค์เดินไปหยิบกระเป๋าที่เตียงและตรงมาหาแฟรงค์ที่หน้าประตู

“ผมยังไม่ได้บอกใครเลยว่าจะไปแล้ว คุณแฟรงค์บอกลาแทนผมด้วยนะครับ”

แฟรงค์แสร้งตีสีหน้าเศร้า ไมเคิลวางกระเป๋าลงบนพื้นและสวมกอดคุณแฟรงค์ด้วยความอาลัย คุณแฟรงค์เป็นคนที่ไมค์มีความรู้สึกที่ดีด้วยรองจากคุณคริส

แฟรงค์ใจหายรู้สึกสงสารจนเกือบจะบอกความจริง

“ยังไม่สายนะไมเคิล.. ถ้าไม่อยากไปก็บอกคุณคริสว่าเธออยากอยู่กับเขามากกว่า”

หนุ่มน้อยเงยหน้าสบตาแฟรงค์และส่ายหน้า

“คุณคริสอยากให้ผมไปผมก็จะไป ลาก่อนนะครับคุณแฟรงค์”

“ลาก่อนไมเคิล เอาเกมไปด้วยหรือเปล่า ”

“เอาไปด้วยครับ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้มีโอกาสเล่นหรือเปล่า”

ไมเคิลไม่แน่ใจกับอนาคตตัวเอง กลับไปอยู่กับแม่ไมค์คงไม่มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายได้นั่งเป็นคุณหนูเหมือนอยู่กับคุณคริสหรอก ลุงกฤษณ์สามีคนที่แล้วของแม่รับปากกับแม่ว่าจะรักและเลี้ยงดูไมค์เหมือนลูกชายคนหนึ่ง เอาเข้าจริงๆไมค์ก็มีความเป็นอยู่ไม่ต่างจากคนรับใช้ในบ้าน

น้ำใสเอ่อคลอรอบดวงตาหนุ่มน้อย ทำให้แฟรงค์ต้องสวมกอดและรีบพาไปส่งที่หน้าตึก ขืนช้ากว่านี้มีหวังใจอ่อนบอกความจริงซะก่อน

โอ แจ๊ค บอย และทิมมี่ยืนมองตาปริบๆ  :m13:  ไม่มีใครเอ่ยทักหรือถามอะไร เพราะคุณแฟรงค์สั่งไว้ว่าให้ยืนมองทำตาละห้อยเฉยๆ …



:m15:

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #98 เมื่อ08-09-2008 10:26:35 »


[14]





คริส บริเจคส์




ไมเคิลนั่งเงียบอยู่ในรถนานกว่า 15 นาทีแล้ว คุณคริสคุยโทรศัพท์ 2-3 สายติดต่อกันโดยไม่สนใจถามสักคำว่าจะให้ไปส่งที่ไหน ไมค์ส่งกระดาษที่อยู่ของแม่ให้ คุณคริสก็รับไว้เฉยๆ ไม่ยอมสั่งอะไร น้าจอนก็ขับไปเรื่อยๆ เหมือนรู้สถานที่ที่กำลังจะไปงั้นแหล่ะ ..

คริสจบการสนทนาทางโทรศัพท์ก็หันมายิ้มให้เด็กชาย

“หิวหรือยังไมเคิล”

ไมเคิลส่ายหน้าทั้งที่รู้สึกหิวเล็กน้อย ....ก็มันได้เวลาอาหารเย็นแล้วนี่นา แต่ไมค์ก็ไม่มีอารมณ์อยากจะทาน และเกรงใจไม่อยากให้คุณคริสเสียเวลากับไมค์นานๆ....

“แต่ฉันหิวแล้ว เดี๋ยวเราหาร้านอาหารอร่อยๆ ทานกันนะ วันนี้เราแอบฉลองกันสองคนเธออยากทานอะไรพิเศษหรือเปล่า ไมเคิล หือ…”

คริสกล่าวน้ำเสียงอ่อนโยน มือใหญ่เสยผมหนุ่มน้อยไปมา สีหน้าและดวงตาละห้อยของเจ้าหนูทำให้เขารู้ว่าไมเคิลไม่ได้มีใจอยากกลับไปอยู่กับแม่เลยสักนิด แฟรงค์โทรศัพท์ต่อว่าเขามากมายหาว่าไม่รู้จักฟังความให้เข้าใจก่อน ทำให้ไมเคิลเสียใจคิดว่าเขาต้องการให้กลับไปอยู่กับแม่มากกว่าให้อยู่กับเขาที่นี่

หัวใจหนุ่มน้อยแทบสลายเมื่อได้ยินคำพูดของคริส  :m15:

...คุณคริสจะฉลองเรื่องอะไร เรื่องที่ไมค์กำลังจะกลับไปอยู่กับแม่งั้นเหรอ.. คุณคริสคงยินดีมากที่เราจากไป….

ไมเคิลก้มหน้าลงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะขี้แงอีกแล้ว

“ผมไม่อยากทานครับ ผมไม่หิว”

“ไม่หิวก็ต้องทาน เลยเวลาแล้วด้วย ไม่หิวได้ยังไง หือ..”

คริสรั้งร่างเล็กเข้ามาสวมกอด เด็กชายเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เขาซ่อนยิ้มรู้ว่าเจ้าหนูกำลังเสียใจเพราะคิดว่าเขากำลังจะพาไปหาแม่

คริสก้มลงหยิบกระเป๋าเดินทางใบย่อมบนที่วางเท้าขึ้นมาไว้ที่เบาะ และทำท่าจะรูดซิบเปิด ไมเคิลหันมาเห็นรีบคว้ากระเป๋าไปกอดไว้

“ทำไมล่ะไมเคิล ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอเอาอะไรไปบ้าง ทำไมกระเป๋าใบเล็กนิดเดียว ถ้ายังขาดเหลืออะไรจะได้ส่งตามไปให้ทีหลังไง”

“ไม่มีอะไรขาดครับ ผมเอาทุกอย่างที่ต้องการไปแล้ว ผมไม่อยากได้อะไรอีก”

“ยังไงฉันก็อยากรู้ว่าเธอเอาอะไรไปบ้าง เผื่อของมีค่าในบ้านสูญหายไปหลังจากนี้ จะได้ไม่มีใครสงสัยเธอ แต่ถ้าไม่อยากให้ดูก็ไม่เป็นไร ”

ไมเคิลใจหายวาบรีบคลายกระเป๋าออกจากอ้อมกอดและวางลงบนที่นั่ง รูดซิบกระเป๋าออกให้คุณคริสตรวจดูเพื่อความสบายใจ ของมีค่าในกระเป๋าใบนี้มีชิ้นเดียวคือ รูปถ่ายของคุณคริสที่ไมค์แอบถอดออกจากกรอบรูป และซ่อนไว้ในสมุดแบบฝึกหัดเล่มล่างสุด ถ้าคุณคริสไม่เปิดสมุดก็จะไม่เจอมันหรอก แต่ถ้าเจอก็จะเถียงว่าคุณคริสอนุญาตแล้วให้ไมค์หยิบของที่ต้องการไปได้

คริสใจหายเมื่อเห็นของในกระเป๋า  เกมบอยที่ไมเคิลไม่เคยบอกว่าอยากได้แต่ชอบไปยืมของทิมมาเล่น  เขาบอกให้แฟรงค์หาซื้อมาให้พกติดตัวไว้แก้เหงา เสื้อผ้าเก่าอีก 2 ชุดที่เขาสั่งห้ามไม่ให้ใส่อีก เพราะใส่ทีไรก็จะถูกหนุ่มแสบทั้งหลายล้อว่าเป็นถึงลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ แต่แต่งตัวซอมซ่อเหมือนลูกคนทำสวน

สมุดแบบฝึกหัด 5 เล่มทำให้คริสหวนนึกถึงวันเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่พาหนุ่มน้อยออกมาจากเกาะร้างจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว….

ไมเคิลใจเต้นตุ้บตับ   ....ทำไมคุณคริสต้องเปิดสมุดดูด้วย ทำเหมือนกับจะหาอะไรงั้นแหล่ะ .... รูปของคุณคริสซ่อนอยู่ในสมุดแบบฝึกหัดเล่มสุดท้าย หวังว่าคุณคริสคงไม่เปิดทุกเล่มนะ

คริสพลิกสมุดแบบฝึกหัดแต่ละหน้าก็จำภาพเหตุการณ์ ณ วันนั้นได้ เขาหันมองหนุ่มน้อยซึ่งกำลังชะเง้อดูแบบฝึกหัดที่เขาเปิดอยู่เช่นกัน ไมเคิลสบตากับเขาก็รีบเบือนหน้าหนีมองออกไปนอกรถ เขาซ่อนยิ้มขณะหยิบสมุดเล่มสุดท้ายขึ้นมาเปิดดู เขาตั้งใจจะหารูปของตัวเองเพราะแฟรงค์รายงานไว้แล้วว่า ไมเคิลเอารูปเขาติดตัวไปด้วย

“เอารูปออกจากกรอบทำไมล่ะ ไมเคิล หือ..”

ไมเคิลสะดุ้งเฮือก ใจหายวาบอีกครั้งเมื่อหันกลับมาเห็นรูปที่แอบซ่อนไว้อยู่ในมือเจ้าของจนได้ ....ไมค์ตั้งใจจะบอกเหตุผลที่เตรียมไว้ แต่พอสบสายตาคุณคริสที่จ้องมองอยู่อย่างต้องการคำตอบ ทำให้แว่บถึงเหตุการณ์ในคืนวันที่แอบเอารูปคุณคริสไป โดยที่คุณคริสไม่ได้เป็นคนอนุญาต คุณคริสว่าถึงคุณแฟรงค์จะเป็นเจ้าของรูปแต่ก็ไม่ใช่รูปคุณแฟรงค์....

....ครั้งนี้ก็เหมือนกันถึงรูปคุณคริสจะอยู่ในห้องของไมค์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไมค์มีสิทธิจะเอารูปติดตัวมาด้วย คุณคริสอนุญาตให้เก็บของที่อยากได้ก็จริงแต่คุณคริสคงไม่ได้หมายถึงรูปใบนี้....

ไมเคิลก้มหน้าลงไม่กล้าให้เหตุผลคริสอย่างที่ตั้งใจไว้ เขาไม่อยากจากคุณคริสไปในขณะที่คุณคริสอารมณ์เสียและโกรธแบบคืนนั้น ไม่อยากให้คุณคริสเกลียดเขาด้วย ไมเคิลนึกโมโหตัวเองที่ชอบหยิบรูปคุณคริสโดยไม่ขออนุญาตก่อน

“ผมขอโทษครับ ผมทำผิดอีกแล้ว”

หนุ่มน้อยกล่าวพร้อมกับถดตัวลงจากเบาะไปนั่งซุกอยู่ที่วางเท้า เป็นนิสัยของไมเคิลเวลารับผิดและขอโทษจะต้องคุกเข่าลงกับพื้นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เจ้าหนูใช้ที่วางเท้าเป็นพื้นห้องเอาดื้อๆ

คริสถามเพียงเพราะอยากรู้ว่าทำไมไมเคิลไม่เอาไปทั้งกรอบรูป เขาไม่ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันหรือด้วยอารมณ์จึงไม่คิดว่าหนุ่มน้อยจะตกใจกลัว หากแต่สีหน้าและกิริยาตื่นตกใจของไมเคิลตอนนี้ ทำให้คริสรู้สึกว่าเขาล้อเล่นกับเจ้าหนูมากเกินไปแล้ว

“ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจขโมย ผมอยากเอาติดตัวไปด้วยครับ ”

ไมเคิลน้ำตาร่วงผล็อยขณะกล่าวขอโทษ   คริสรู้สึกโกรธตัวเองที่ทำให้เจ้าหนูของเขาตกใจกลัวและเสียใจอย่างหนัก  รีบก้มลงเช็ดน้ำตาให้และกล่าวปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ไม่เอานะไมเคิล ร้องไห้ทำไม ไม่ได้ว่าอะไรสักคำ ลุกขึ้นเร็ว”

หนุ่มน้อยส่ายหน้าไม่ยอมลุกขึ้นมานั่งบนเบาะ  จอนนี่มองกระจกส่องหลังดูเจ้านายและลูกชายบุญธรรมกระเง้ากระงอดต่อกันแล้วอดยิ้มไม่ได้ ชำเลืองมองอีกทีไม่เห็นใครในกระจก ได้ยินแต่เสียง

“ฉันไม่ได้ว่าซะหน่อย.. แค่ถามว่าทำไมไม่เอาไปทั้งกรอบรูปเท่านั้น ไม่ได้โกรธไม่ได้ว่าสักคำ"

“ผมอยากเอารูปคุณไปด้วยครับ ผมไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสพบคุณอีกหรือเปล่า ผมอยากมีรูปคุณติดตัวไว้ ผมอยากมีคุณอยู่ใกล้ๆ “

น้ำตาหนุ่มน้อยยังไหลพรากอาบแก้ม อาการสะอื้นไห้ก็ยังไม่คลายลง คริสจับศีรษะเจ้าหนูซบไหล่และกล่าวปลอบ ไม่คิดว่าไมเคิลจะทุกข์ใจกับการต้องจากเขาไปขนาดนี้ คิดว่าเขาคงเป็นฝ่ายเสียใจและทุกข์ใจมากกว่า

“บอกฉันซิว่าเธอไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่ อยากอยู่กับฉันมากกว่าใช่มั้ย หือ…”

คริสกระซิบถาม เมื่อไมเคิลพยักหน้าตอบหัวใจเขาก็เปี่ยมด้วยความสุขอย่างล้นเหลือ เมื่อได้รับรู้ความรู้สึกที่เจ้าหนูมีให้กับเขา

“ฉันก็เหมือนกันไมเคิล อยากให้เธออยู่ด้วย ไม่อยากให้กลับไปอยู่กับแม่เลย..”

“แต่คุณบอกให้ผมไป....”

คริสเอามือปิดปากหนุ่มน้อยไว้ จูบที่หน้าผากและแก้มที่เปียกชื้น อาการสะอื้นค่อยๆ สงบลงแล้ว

“ลืมมันซะไมเคิล”

คริสปล่อยมือและขยับตัวขึ้นนั่ง

“ลุกขึ้นมานั่งคุยข้างบนไมค์.. มันเมื่อยรู้มั้ย” คริสฉุดร่างเล็กขึ้นมานั่งที่เบาะ เจ้าหนูยอมขยับขึ้นมานั่งแต่โดยดี
คริสรั้งหนุ่มน้อยเข้ามากอด

“อยากกินกุ้งมังกรมั้ย ไมเคิล..”

ไมเคิลส่ายหน้าไม่อยาก  เวลานี้ต่อให้เป็นอาหารฮ่องเต้ก็ไม่สน ปัญหาของไมค์ยังไม่จบลงด้วยดีเลย

“คุณจะพาผมไปส่งที่บ้านแม่คืนนี้เลยหรือครับ” ไมค์ย้ำถามคุณคริสเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง หลังจากที่ได้รับรู้ความรู้สึกในใจของกันและกันแล้ว

คริสหัวเราะ ไมเคิลยังมีเรื่องข้องใจอยู่จึงยังไม่อยากทานอะไรนั่นเอง ทั้งที่เลยเวลาอาหารเย็นแล้ว

“ใครว่าฉันจะพาไปส่งบ้านแม่ล่ะ”

“แต่คุณบอกให้ผมเก็บกระเป๋า คุณจะไปส่ง”

“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ก็เธอไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่ไม่ใช่หรือไมเคิล หรือว่าอยาก หือ..”

“ผมไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่ ผมอยากอยู่กับคุณ ผมบอกแม่ว่าคุณจะรับผมเป็นลูกบุญธรรม แม่อนุญาตให้ผมอยู่กับคุณได้ คุณจะไปขอผมกับแม่มั้ย”

คริสหัวเราะเมื่อไมเคิลรีบละล่ำละลั่กบอกกล่าวเรื่องที่ต้องการจะพูดเมื่อตอนบ่าย หากเขายอมฟังเจ้าหนูพูดจนจบ ก็คงไม่ต้องทุกข์ร้อนใจอยู่หลายชั่วโมงแบบนี้

.....ตั้งแต่ได้รู้ว่าเขาคือตัวแทนของพ่อที่หนุ่มน้อยเฝ้าฝันถึงมานานกว่า 7 ปี ความรู้สึกที่เขามีให้ไมเคิลก็ยิ่งผูกพันลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ....

“ไปขอพรุ่งนี้เลยดีมั้ย ก่อนที่แม่เธอจะเปลี่ยนใจ แล้วค่อยนัดแม่ไปจดทะเบียนตามกฎหมายอีกครั้ง หลังจากนั้นเราจะได้เป็นพ่อลูกกันจริงๆ เสียที”

ไมเคิลรีบพยักหน้ารับ และสวมกอดคริสด้วยความรักสุดหัวใจ

....ไมค์ไม่เคยคิดว่าคุณคริสเป็นแค่พ่อบุญธรรม คุณคริสเหมือนพ่อจริงๆ ที่ไมค์เพิ่งได้พบเจอเป็นครั้งแรก เพื่อป้องกันไม่ให้คุณคริสเปลี่ยนใจ ไมค์คิดว่าควรมีอะไรบางอย่างผูกมัดไว้ก่อน....

“ผมอยากให้เราเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ตอนนี้เลยครับ”

คริสเลิกคิ้วยังไม่ทันเอ่ยถามเจ้าหนูก็รีบให้ความกระจ่าง

“ผมอยากให้คุณเป็นแด๊ดของผม อยากให้คุณเรียกผมว่าลูกตอนนี้เลยครับ..”

…..ไมค์เคยเรียกคุณคริสว่าแด๊ดดี้.. หลายครั้งแล้ว แต่คุณคริสไม่เคยเรียกไมค์ว่าลูก..เลยสักครั้ง….

ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตจ้องมองคริสอย่างต้องการคำตอบ ขนตางอนยาวยังเปียกชื้น แต่สีหน้าและดวงตาหม่นหมองเมื่อครู่ฉายแววสุขใจเต็มเปี่ยม คริสจูบหน้าผากและแก้มใสของลูกชายขี้อ้อน...

“ตกลงลูกอยากกินกุ้งมังกรมั้ย ไมเคิล.. ถ้าไม่อยาก..แด๊ดจะได้เปลี่ยนร้านใหม่..”

คริสถามย้ำอีกครั้งเมื่อจอนนี่เลี้ยวรถเข้าภัตตาคาร

“อยากกินครับแด๊ด.. ผมอยากกินปูอบด้วย”

ไมค์รีบตอบรับและยิ้มอย่างดีใจ เมื่อใจเป็นสุขท้องก็เริ่มร้องทันที..



:m4:





ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #99 เมื่อ08-09-2008 12:17:08 »

เป็นกำลังใจให้ครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #99 เมื่อ: 08-09-2008 12:17:08 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #100 เมื่อ08-09-2008 14:02:54 »

ไมเคิลน่าสงสารเป็นที่สุด

กราซิกราซิก

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #101 เมื่อ08-09-2008 19:53:19 »

ชีวิตไมเคิลเริ่มจะดีขึ้นแล้ว จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่านะ

nez

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #102 เมื่อ08-09-2008 22:32:33 »

อร๊ายยย  ได้เป็นพ่อลูกกันจิงๆแล้วน้า

ต้องขอบคุณแฟรงค์เลยนะเนี้ย
 :t2:

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #103 เมื่อ09-09-2008 09:08:53 »

คริสรับไมเคิลเป็นลูกบุญธรรมแล้ว

ไมเคิลจะได้มีความสุขซะที

หวังว่าคงไม่มีเรื่องร้ายๆอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้


 :กอด1: เจ๊หมวย

เป็นกำลังใจให้ค่า

ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #104 เมื่อ09-09-2008 10:22:39 »


[14]  ต่อ..


คริสได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับลินดาอีกครั้ง เขาบอกเธอว่าต้องการรับไมเคิลเป็นลูก และขอรับอุปการะเลี้ยงดูเด็กชายในฐานะพ่อบุญธรรม หญิงสาวรู้สึกยินดีและไม่ขัดข้อง เธอรู้ว่าไมเคิลถูกชะตากับคริสมาก เพราะคริสเหมือนพ่อที่หนุ่มน้อยเฝ้าฝันถึงมานานกว่า 7 ปี การพบปะกันระหว่างคริสกับไมเคิลเป็นเรื่องปาฏิหารย์ที่เหลือเชื่อ ชายที่เธอเลือกให้เป็นตัวแทนพ่อของลูก มีโอกาสได้มาพบและรู้จักกับลูกชายของเธอจริงๆ

“ยินดีค่ะ คุณบริเจคส์ ไมค์มีความสุขมากเวลาพูดถึงคุณ ดิฉันไม่เคยเห็นลูกมีความสุขแบบนี้มาก่อน เรื่องจดทะเบียนตามกฎหมาย ถ้าคุณตัดสินใจดีแล้วก็ไม่มีปัญหา พร้อมเมื่อไรก็ได้ค่ะ แต่อยากให้ผ่านงานแต่งงานของดิฉันกับโทนี่ไปก่อน วันอังคารที่จะถึงนี้ถ้าคุณบริเจคส์ว่างขอเชิญนะคะ”



 :m1:



“ต้องผูกด้วยหรือครับแด๊ด.. มันอึดอัด”

ไมเคิลเงยหน้าขึ้นทำท่าหายใจไม่ออกจนคริสอดขำไม่ได้

“แด๊ดไม่ได้ผูกแน่นซะหน่อย ดูซิ หลวมขนาดนี้จะหายใจไม่ออกได้ไง…”

คริสขยับหูกระต่ายไปมา วันนี้เขาต้องพาไมเคิลไปงานแต่งงานของลินดา และเขาก็จำต้องไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะขอลูกชายเธอมาเป็นลูกตัวเอง จะให้ทำอะไรก็ยอม…

“โอว! พระราชากับเจ้าชายน้อย ทำไมสง่างามกันอย่างนี้ หม่อมฉันหลงรักพระองค์แล้ว ขอเป็นทาสรับใช้จนวันตายพ่ะย่ะค่ะ”

แฟรงค์คุกเข่าตรงหน้าไมเคิลและคว้ามือหนุ่มน้อยขึ้นจูบเบาๆ ไมค์หัวเราะคิกในขณะที่คริสส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา

“ยังไม่แต่งตัวอีกหรือแฟรงค์ จะไปเดี๋ยวนี้แล้วนะ”

แฟรงค์ลุกขึ้นยืนสีหน้าเบื่อหน่าย เขาจำต้องไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน แต่ไม่ได้ไปเป็นแขกในงาน จอนนี่ลากลับบ้าน เขาจึงต้องรับหน้าที่แทนเหมือนทุกครั้ง

“ไม่ต้องห่วงครับบ๊อส.. ผมเปลี่ยนแค่เสื้อตัวเดียวก็พร้อมเดินทางแล้ว โชเฟอร์อย่างผมไม่กล้าแต่งหล่อเทียบรัศมีเจ้านายหรอกครับ”



:m23:



คริสทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรงหลังจากวางสายลินดาซึ่งโทรมายกเลิกนัดกระทันหัน

“เสียใจนะคะคุณบริเจคส์ โทนี่กับดิฉันปรึกษากันแล้ว เราคิดว่าจะขอรับไมค์กลับมาเลี้ยงดูเอง ไม่มีความจำเป็นอะไรที่คุณต้องรับอุปการะไมเคิลในฐานะบุตรบุญธรรม แกยังมีดิฉันเป็นแม่และตอนนี้โทนี่ก็อยู่ในฐานะพ่อของแกคนหนึ่ง ดิฉันคิดว่าเขาสองคนจะเข้ากันได้ดี ขอบคุณสำหรับความรักและความเอ็นดูที่คุณมีให้ไมเคิล ไมเคิลคงไม่มีวันลืมคุณได้เพราะนอกจากคุณจะเป็นคนช่วยชีวิตแกไว้ คุณยังเป็นตัวแทนบิลพ่อของแก แต่ถึงอย่างไรดิฉันก็คงให้ลูกอยู่กับคุณไม่ได้ ดิฉันไม่อาจทนฟังคำนินทาว่าคุณรับเลี้ยงดูไมเคิลเป็นลูกชายหรือในฐานะอะไรกันแน่ โทนี่กับดิฉันคิดดีแล้ว ต้องขอโทษที่ผิดคำพูดที่ให้ไว้ หวังว่าคุณคงเข้าใจนะคะคุณบริเจคส์”

“ไปกันหรือยังครับแด๊ด.. น้าจอนเอารถมารอหน้าตึกแล้ว”   

คริสสูดหายใจลึก เขาต้องพยายามทำใจยอมรับความผิดหวัง ไม่ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดขนาดไหนเขาต้องยอมรับมันให้ได้

“กี่โมงแล้ว ไมเคิล” มือใหญ่ฉุดร่างเล็กนั่งลงข้างๆ

“สองโมงครึ่งแล้วครับ  แด๊ดนัดแม่ไว้สามโมงเช้าไม่ใช่เหรอ รีบไปเถอะครับเดี๋ยวไม่ทัน”

“ไมเคิล เดี๋ยวไปเที่ยวไร่กันดีกว่า ลูกอยากขี่ม้าไม่ใช่เหรอ”

คริสเปลี่ยนแผนชวนหนุ่มน้อยไปเที่ยวไร่เอาดื้อๆ เขาต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่อีกไม่กี่ชั่วโมงให้คุ้มค่ามากที่สุด

…..อีกสองวันดิฉันจะไปรับไมเคิล เราจะเดินทางไปฮ่องกงเช้าวันเสาร์ค่ะ….

“ดีครับ เสร็จธุระกับแม่เราจะไปฉลองกันที่ไร่เลย ตอนนี้เรารีบไปกันก่อนเถอะครับแด๊ด รถมันติดนะ เดี๋ยวไปไม่ทัน”

“ไมเคิล”  คริสรั้งหนุ่มน้อยเข้ามากอด “แม่โทรมาบอกว่าไม่ต้องไปแล้ว”

“ทำไมล่ะครับ แม่เลื่อนนัดเป็นวันอื่นเหรอ”

คริสส่ายหน้าและบอกความจริงให้ไมเคิลรับรู้

o2  หนุ่มน้อยตะลึงกับเรื่องที่ได้ยิน การต้องจากคุณคริสไปอยู่กับแม่เป็นข่าวร้ายที่สุดในชีวิต!!!!!!!!!!!!

“ไม่!!.. ไม่นะครับ ผมจะอยู่ที่นี่ ผมไม่อยากไปอยู่กับแม่ ผมจะคุยกับแม่เอง”

ไมเคิลวิ่งไปโทรศัพท์โทรหาแม่ทันที



:o12:



แฟรงค์หายง่วงเป็นปลิดทิ้งเมื่อคริสเล่าเรื่องที่ลินดาโทรมายกเลิกนัด

“นายเคยบอกให้ฉันเตรียมใจเผื่อไว้ วันนี้มาถึงแล้วจริงๆ แฟรงค์..” คริสกล่าวด้วยน้ำเสียงกล้ำกลืน

“ผมสังหรณ์ใจบางอย่างตอนเจอโทนี่ที่งาน หมอนั่นมองเราแปลกๆ ไอ้บ้าเอ๊ย!!.. มันมีสิทธิอะไรมาบงการชีวิตของไมเคิลให้กลับไปอยู่กับแม่”

“สิทธิในฐานะที่เขาเป็นสามีของแม่ และอยู่ในฐานะพ่อเลี้ยงของไมเคิลไง แฟรงค์..”

“ไม่มีเหตุผลที่ลินดาต้องเชื่อหมอนั่น เธอก็รู้ว่าไมเคิลรักคุณมาก โทนี่ไม่มีทางแทนที่คุณได้ ผมว่าเธอคงเพิ่งรู้เรื่องของเราเลยไม่ไว้ใจที่จะให้ไมเคิลอยู่ที่นี่”

“นายหมายถึงเธอไม่ไว้ใจฉันใช่มั้ย แฟรงค์..”

คริสแค่นหัวเราะ

“หึ! ฉันเคยถามตัวเองเสมอว่าความรักที่ฉันให้ไมเคิลต่างจากเด็กชายคนอื่นๆ หรือเปล่า และเมื่อฉันรู้คำตอบแล้วว่ามันแตกต่างก็ยังมีคำถามและเรื่องกังวลใจอีกว่า เมื่อเขาโตขึ้นความรักที่ฉันให้เขาในฐานะพ่อกับลูกจะแปรเปลี่ยนไปมั้ย ฉันไม่โกรธลินดาหรอกแฟรงค์ เธอมีสิทธิไม่ไว้ใจฉัน”

“แล้วไงเหรอคริส.. ลินดามีสิทธิไม่ไว้ใจคุณ แต่คุณไม่มีสิทธิไม่ไว้ใจตัวเอง ถึงเวลานี้คุณยังไม่เชื่ออีกหรือว่าความรักระหว่างพ่อกับลูกยิ่งใหญ่แค่ไหน มันไม่มีทางเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปได้ ไมเคิลรักคุณเท่ากับที่รักบิลหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ คุณช่วยชีวิตเขา ถ้าไม่มีคุณไมเคิลก็ไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้ เขารักคุณอย่างพ่อแท้ๆ แล้วคุณล่ะคริส คุณไม่รู้ตัวหรือว่าตัวเองเปลี่ยนพฤติกรรมไปมากขนาดไหนและเพราะอะไร....

.....ตั้งแต่ไมเคิลเข้ามาเป็นสมาชิกของบ้าน หลายเดือนมาแล้วที่คุณไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเด็กพวกนี้เลย ไม่แม้แต่จะเรียกหาให้ขึ้นไปปรนนิบัติเหมือนก่อน  คุณกำลังเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง  คุณกำลังพยายามเป็นพ่อที่ดีของลูก อย่างนี้แล้วยังไม่เชื่ออีกหรือว่าความรักในฐานะพ่อยิ่งใหญ่แค่ไหน  มันไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นมีแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆ…”

ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างถือวิสาสะ  ร่างเล็กวิ่งถลามาหาคริสที่เตียง แฟรงค์ขยับหนีแทบไม่ทันเมื่อเจ้าหนูเล่นกระโดดขึ้นมาบนที่นอนสวมกอดคริสสะอื้น

“ผมไม่อยากกลับไปอยู่กับแม่ ผมอยากอยู่ที่นี่ อยากอยู่กับแด๊ด..”

คริสสวมกอดหนุ่มน้อยไว้ด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน

“ไม่อยากกลับก็ต้องกลับ” แฟรงค์เอ่ยแทรกเบาๆ

ไมเคิลหันขวับไปมองแฟรงค์ด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะเงยขึ้นถามคริส  ใบหน้าฉ่ำนองด้วยน้ำตา

“ผมไม่อยากไป ผมไม่ไปได้มั้ยครับแด๊ด..”

คริสตอบคำถามไมเคิลไม่ได้จึงโยนคำถามไปที่แฟรงค์

“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไมเคิลไม่กลับไป แฟรงค์..”

“เขาสามารถพาตำรวจเข้ามาเพื่อรับตัวเด็กออกไป ถ้าคุณไม่ยอมก็อาจจะถูกข้อหาพรากผู้เยาว์”

ไมเคิลตาโตตกใจกับคำพูดของแฟรงค์ คุณแฟรงค์พูดเหมือนแม่เลย

...…ถ้าลูกรักคุณคริส ก็อย่าทำให้เขาลำบากใจเลย ยอมกลับมาอยู่กับแม่ดีๆ ไม่เช่นนั้นแม่อาจจะต้องพึ่งตำรวจให้เขาพาแม่เข้าไปรับลูกออกมา ถึงเวลานั้นถ้าลูกยังดื้อรั้น คุณคริสของลูกจะถูกข้อหาพรากผู้เยาว์นะจ๊ะ คิดดูดีๆ นะไมเคิล…

ไมค์คอตกเริ่มรู้สึกหมดหวัง ซบหน้ากับไหล่คริสไม่พูดอะไรอีก

“ฉันจะยื่นขอต่อศาล รับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้มั้ยแฟรงค์”

คำถามของคริสทำให้หนุ่มน้อยเงยหน้าขึ้นและหันมารอฟังคำตอบจากแฟรงค์อย่างมีความหวัง

“จะลองดูก็ได้คริส แต่โดยรูปการณ์แล้วถ้าแม่ไม่ยินยอมก็จบ จริงอย่างที่เธอว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่ไมเคิลต้องมีพ่อบุญธรรม เพราะสามีใหม่ของเธอก็อยู่ในฐานะพ่ออยู่แล้ว ที่สำคัญพฤติกรรมส่วนตัวของคุณจะถูกนำไปอ้างต่อศาลว่าไม่น่าไว้วางใจสำหรับเด็กชาย และคุณยังต้องพร้อมที่จะตกเป็นข่าว คุณจะถูกก้าวก่ายและขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว คุณรับไม่ไหวหรอก คริส..”

คริสระบายลมหายใจอย่างอัดอั้น แฟรงค์พูดถูก ...คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ที่จะถูกใครสอดส่องพฤติกรรมและก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา...

“ทำไมไม่ใช้เงินล่ะครับ บ๊อส.. ปัญหาต่างๆ จบลงได้ด้วยเงิน”

คริสนิ่งกับข้อเสนอของแฟรงค์ ....ไม่ใช่เขาไม่คิด แต่เขาไม่ควรใช้เงินกับปัญหานี้....

“ทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกแฟรงค์ มันทำให้ฉันดูไม่น่าไว้วางใจมากขึ้น”

คริสกล่าวปลอบหนุ่มน้อยในอ้อมกอด

“ไมเคิล จริงอย่างที่แม่พูดนะ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ลูกต้องมีพ่อบุญธรรม โทนี่เขาอาจจะเป็นพ่อที่ดีของลูกก็ได้”

“ไม่จริง!! สามีของแม่ไม่เคยมีใครเป็นพ่อที่ดีของผม ผมมีคุณเป็นพ่อคนเดียว อย่าให้ผมกลับไปอยู่กับแม่นะครับ ผมไม่อยากไป เราสัญญาเป็นพ่อลูกกันแล้วนะครับ แด๊ดจะผิดสัญญาเหรอ..” ไมเคิลเริ่มตีโพยตีพายเมื่อรู้สึกว่าคริสกำลังจะเปลี่ยนใจ

“ไมเคิล” คริสสวมกอดหนุ่มน้อยแนบอก

“แด๊ดไม่มีวันผิดสัญญา ถึงไม่มีกฎหมายรองรับ แม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ลูกก็จะเป็นลูกชายคนเดียวของแด๊ดตลอดไป”

“ไม่เอา!!  ผมไม่ไป ผมจะคุยกับแม่ใหม่ว่าผมจะอยู่กับแด๊ดดี้ที่นี่” หนุ่มน้อยผละออกจากอ้อมกอดคริสและวิ่งออกจากห้องไป  :o12:

คริสกุมศีรษะ รู้สึกโกรธตัวเองที่มีพฤติกรรมไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนใหญ่ เขารู้ว่านี่เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ลินดาเปลี่ยนใจ

“เท่าไหร่ฉันก็ยอมเสียนะแฟรงค์ ถ้าเธอเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอเอง”

แฟรงค์ถอนใจเฮือก  ... ดูรูปการณ์แล้วสองพ่อลูก..คงต้องพรากจากกันอย่างแน่นอน.



:เฮ้อ:



“ไมเคิล เปิดประตูเดี๋ยวนี้ อดข้าวไม่ช่วยแก้ปัญหาหรอกนะ”

คริสเคาะประตูห้องและเรียกให้หนุ่มน้อยเปิดประตู เมื่อพ่อบ้านลูไปรายงานว่าคุณหนูไมค์ไม่ยอมทานกลางวัน ยกขึ้นไปให้ที่ห้องก็ไม่ยอมให้เข้าไป

...เงียบ!! ไม่มีเสียงขานรับและโต้ตอบใดๆ พ่อบ้านยื่นกุญแจให้ คริสสั่นศีรษะ

“เก็บซะลู เขาต้องเดินมาเปิดเอง” คริสหันไปใช้ความพยายามเกลี้ยกล่อมหนุ่มน้อยอีกครั้ง

“ไมเคิล.. เราจะเป็นพ่อลูกกันได้ยังไง แค่แด๊ดบอกให้เปิดประตู ลูกยังดื้อไม่ยอมเชื่อฟังเลย”

“แม่บอกผมว่าบิลไม่ได้มีหน้าตาเหมือนคุณ แม่บอกว่าคุณรู้เรื่องทั้งหมดแล้วด้วย”

เสียงหนุ่มน้อยดังลอดออกมา คริสใจหายเมื่อสรรพนามแทนตัวเขาเปลี่ยนจาก ‘แด๊ด’ กลับเป็น ‘คุณ’ เหมือนเดิม ลินดาคงบอกความจริงให้ลูกรู้ เมื่อเห็นว่าไมเคิลยังดื้อรั้นไม่ยอมกลับไปอยู่กับเธอ

“แล้วไงล่ะ ไมเคิล”

“คุณรู้ความจริงแล้วยังจะรับผมเป็นลูกอีกเหรอ”

คำถามของหนุ่มน้อยทำเอาคริสวูบในหัวอก

“ทำไมหรือไมเคิล ความจริงที่ลูกรู้มันทำให้ความรู้สึกของลูกเปลี่ยนไป และลูกก็คิดว่าความรู้สึกของแด๊ดต้องเปลี่ยนไปด้วยยังงั้นเหรอ” คริสยังคงใช้สรรพนามแทนตัวว่าพ่อเหมือนเดิม

“ฟังนะไมเคิล.. แด๊ดไม่เสียใจถ้าลูกต้องจากไปด้วยเหตุผลเพราะว่าลูกยังเด็ก ต้องอยู่ในความปกครองดูแลของแม่ ขอให้ความรู้สึกระหว่างเราเหมือนเดิมก็พอแล้ว”

คริสหยุดทำใจก่อนจะกล่าวประโยคต่อไปด้วยความรู้สึกกล้ำกลืน

“แต่ถ้าลูกต้องจากไปเพราะคิดว่าแด๊ดคนนี้ไม่เหมือนบิล ไม่สามารถทดแทนบิลของลูกได้แล้วล่ะก็…. ฉัน เสียใจไมเคิล..” คริสหันไปกล่าวกับพ่อบ้าน

“ยกไปเก็บซะลู ในเมื่อเขาไม่อยากทานใครก็บังคับไม่ได้ แม้แต่ฉันก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะบังคับเขาได้แล้ว”

คริสเดินผละออกมาได้เพียงสองก้าวประตูก็เปิดออกพร้อมกับเสียงร้องเรียก หนุ่มน้อยถลาเข้าสวมกอดเขา

“แด๊ดดี้.. ผมเปล่าเปลี่ยนใจ~~   :m15:  ถึงแด๊ดไม่เหมือนบิลผมก็เลิกรักไม่ได้  ผมรักแด๊ดคนเดียว  รักแด๊ดที่สุด~~ ..”

“แด๊ดก็รักลูกสุดหัวใจเหมือนกันไมเคิล ไม่ว่าวันนี้หรืออีกกี่ปีข้างหน้า ความสัมพันธ์ของเราจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แด๊ดให้สัญญา..”

คริสจูบหน้าผากและกอดหนุ่มน้อยไว้ด้วยความรักสุดหัวใจอย่างที่พูดจริงๆ



:กอด1:



“กลับไปอยู่กับแม่ก่อนเถอะนะไมเคิล โทนี่อาจจะเข้ากับลูกได้ดีอย่างที่แม่เค้าพูดจริงๆ มันไม่เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอ ถ้าลูกจะมีพ่อสองคน หือ..”

หนุ่มน้อยส่ายหน้าไปมา น้ำตาเอ่อคลอเพราะทำใจไม่ได้

“ผมคิดถึงแด๊ด เราจะไม่ได้เจอกันอีกนะครับ ผมต้องไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้”

คริสใจหายความรู้สึกของเขาไม่ต่างจากไมเคิลเคย แต่เขาไม่อาจตีโพยตีพายและร้องงอแงอย่างเจ้าหนูได้

“เราติดต่อกันทางโทรศัพท์หรือจดหมายก็ได้ ฮ่องกงอยู่แค่นี้เอง แด๊ดจะแวะไปเยี่ยมลูกบ่อยๆ ก็ได้” คริสหาวิธีปลอบหนุ่มน้อยพร้อมกับปลอบตัวเองไปด้วย

“จริงนะครับ แด๊ดไปเยี่ยมผมจริงๆ นะ”

คริสพยักหน้า

“ทุกอาทิตย์ เอ่อ… ทุกเดือนได้มั้ยครับ.. ค่าตั๋วเท่าไร..”

คริสหัวเราะ

“ถามทำไม.. ลูกจะออกเงินให้เหรอ..”

ไมค์พยักหน้ารับ

“เงินที่แด๊ดให้ไว้ ผมไม่เคยใช้เลย ผมจะให้แด๊ดเก็บไว้เป็นค่าตั๋วนะครับ”

“โอ! ไมเคิล ลูกเก็บไว้เถอะ อยากได้อะไรจะได้ไม่ต้องรบกวนขอเงินใคร เอามาเป็นค่าตั๋วไปกลับแค่ครั้งเดียวก็หมดแล้วรู้มั้ย”

หนุ่มน้อยหน้าเสียเมื่อรู้สึกว่าค่าตั๋วเครื่องบินคงจะไม่ใช่ถูกๆ แล้ว แด๊ดดี้คริสจะไปหาเขาทุกเดือนได้หรือ

“ถ้างั้น 2-3 เดือนไปครั้งก็ได้ครับ ผมจะเขียนจดหมายหาแด๊ดทุกอาทิตย์ แด๊ดจะตอบจดหมายผมมั้ย”

ไมค์ถามด้วยความไม่แน่ใจเพราะรู้ว่าคุณคริสไม่ใช้เวลาว่างทำเรื่องเล็กๆ หรือเรื่องไร้สาระ เมื่อคุณคริสพยักหน้าให้ หนุ่มน้อยก็ยิ้มออกและคลายความกังวลใจลง

“คุณเป็นแด๊ดดี้คนเดียวของผม ผมรักคุณคนเดียว ไม่มีทางรักใครเหมือนคุณได้อีก คุณเป็นแด๊ดของผมตั้งแต่ผมอายุ 5 ขวบแล้ว ผมไม่มีวันลืมคุณได้ตลอดชีวิตของผมครับ ต่อให้บิลมีตัวตนจริงๆ มายืนตรงหน้าผม ผมก็ไม่มีวันรักเขามากกว่าคุณ”

ความในใจของหนุ่มน้อย ทำให้คริสปลื้มและรู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก มันมากมายกว่าความสุขครั้งใดๆ ที่เคยได้รับ

“แด๊ดจะคอยนะไมเคิล เมื่อลูกโตจนบรรลุนิติภาวะ ก็สามารถตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองได้ ถึงตอนนั้นถ้าลูกยังไม่เปลี่ยนใจ...เราจะได้เป็นพ่อลูกกันตามกฏหมาย แด๊ดจะคอยจนกว่าจะถึงวันนั้น...”



o7





PakBeob

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #105 เมื่อ09-09-2008 10:53:59 »

ไหง๋ พลิกล๊อคมาเป็นงี้อ่า o7

อีตาโทนี่นั่นมีแผนไรรึเปล่า?

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #106 เมื่อ09-09-2008 11:32:21 »

+1 เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ SweetSerenade

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #107 เมื่อ09-09-2008 11:49:03 »

กรรม

เพิ่งจะดีใจไปหยกๆ

 :sad2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #108 เมื่อ09-09-2008 12:27:57 »

ใจร้ายยยยยที่สุดดดดดดดดดดดดดดดด

ทำกับไมค์ของเค้าได้ยังงัยยยยยยย

numa6

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #109 เมื่อ09-09-2008 19:23:26 »

หะหนอย โทนี่ ลินดา o12 ร้ายไปแล้วนะ  :angry2: :m31:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [NOVEL] FATHERHOOD
« ตอบ #109 เมื่อ: 09-09-2008 19:23:26 »





winds

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #110 เมื่อ09-09-2008 19:35:21 »

^

^

^  จิ้ม  :laugh:

จิ้มได้อีกแย้ว

ปล. ถึงคนแต่ง แอบอ่านมาและ สนุกดีคับ ชอบๆ  :oni2:

modi

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #111 เมื่อ09-09-2008 19:45:10 »

ไมเคิลเศร้าอีกแล้วอ่า

ลินดาจะปกป้องไมเคิลได้จริงๆเหรอ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #112 เมื่อ09-09-2008 20:56:11 »

กรี๊ดดดดดด อีตาโทนี่นี่มันอะร้ายยยยย แล้วนี่คริสกับไมค์ต้องแยกกันจริงๆเหรอ.... :sad2:

ออฟไลน์ kogomon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #113 เมื่อ10-09-2008 00:01:15 »

 :m31:


ทำไมกลายเปนแบบนี้ไปได้.......

 :m31: :m31:



ออฟไลน์ j-muay

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
    • Daddy's Home
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #114 เมื่อ10-09-2008 10:30:23 »


[15]
 


กว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ไมเคิลจากไป  เจ้าของคฤหาสน์บริเจคส์เปลี่ยนพฤติกรรมไปเป็นคนละคน ไม่มีใครเข้าหน้าติดไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหน คริสไม่พูดจาหรือเสวนากับใครในบ้านโดยไม่จำเป็น แม้แต่แฟรงค์.. ก็พูดด้วยนับคำได้.. เวลาว่างจากงานคริสจะเข้ามานั่งในห้องไมเคิล ซึ่งเขาสั่งให้ทำความสะอาดทุกวันและให้คงสภาพทุกอย่างไว้เหมือนตอนที่เจ้าของห้องยังอยู่

แฟรงค์แทบไม่เชื่อว่าการจากไปของหนุ่มน้อยไมเคิลจะทำให้ คริส บริเจคส์  รู้สึกแย่ขนาดนี้  สภาพของคริสในวันนี้ทำให้ทุกคนรู้ซึ้งว่า.. คริสรักไมเคิลมากจริงๆ

“คริส.. คริส..”

แฟรงค์เขย่าตัวและเอ่ยเรียกเบาๆ  เขาขึ้นไปหาคริสที่ห้องไม่พบก็รู้ว่าคริสต้องอยู่ในห้องนอนไมเคิล แต่ไม่คิดว่าจะอยู่ในสภาพเช่นนี้

ร่างสูงใหญ่นอนแผ่หราบนเตียงอย่างหมดสภาพ  บนที่นอนข้างตัว XO ขนาด 70 Cl. พร่องไปกว่าครึ่ง   ปกติคริสเป็นคนไม่ดื่ม จะดื่มเล็กน้อยเฉพาะเวลาออกงานเท่านั้น  จึงไม่แปลกเลยที่เขาจะเมาไม่ได้สติกับบรั่นดีเพียง 2-3 แก้ว

แฟรงค์เรียกเท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าคริสจะรู้สึกตัว เขาลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ สักครู่ก็กลับออกมาพร้อมผ้าชุบน้ำในมือ

“อืมม์~~ ” เสียงทุ้มครางในลำคอ มือใหญ่พยายามปัดผ้าออกอย่างรำคาญ

“คริส.. ตื่นเถอะ คุณเมามาก..รู้มั้ย ขึ้นไปนอนที่ห้องเถอะ ผมจะพาไป”

คริสส่ายหน้า เขาไม่ได้เมาถึงขนาดไม่มีสติอย่างที่แฟรงค์เข้าใจ

“ฉันจะนอนนี่~~ นอนกับไมค์~~ ฉันคิดถึงเขา~~”

“ไม่เอาน่าคริส คุณต้องทำใจเรื่องไมเคิลบ้าง”

“ทำใจยังไงหรือแฟรงค์ เดือนกว่าแล้ว...ไมเคิลไม่ติดต่อกลับมาเลย หรือว่าเขาจะเข้ากับโทนี่ได้ดีจริงๆ จนลืมฉันไปแล้ว..” น้ำเสียงอ้อแอ้แฝงไว้ซึ่งความเสียใจ

“ไม่หรอกน่าคริส.. ไมเคิลรักคุณมาก เขาไม่มีวันลืมคุณ อาจมีเหตุขัดข้องบางอย่าง พวกเขาอาจต้องย้ายที่อยู่ไปมา เลยยังไม่สะดวกที่จะติดต่อกลับมา”

“อย่างน้อยก็น่าจะโทรศัพท์มาคุยกันบ้าง ฉันอยากรู้ว่าเขาสบายดีหรือเปล่า”

“ไม่เอาน่าคริส คุณคิดและกังวลเรื่องไมเคิลมากเกินไปแล้ว ผ่อนคลายบ้างเถอะ นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้ผ่อนคลายอารมณ์ให้ตัวเอง”

คริสส่ายหน้าเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ตั้งแต่ไมเคิลจากไป ในหัวใจและสมองของเขาไม่เคยคิดถึงเรื่องอื่นเลยนอกจากเจ้าหนู..

แฟรงค์ก้มลงกระซิบ

“คุณจะรู้สึกดีขึ้นถ้าได้ผ่อนคลายบ้าง เชื่อผมเถอะนะ คริส..”

ร่างสูงนอนหลับตานิ่งไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

“ให้ผมเรียกใครขึ้นมามั้ย ทิมมี่..หรือโจ.. หือ..”

คริสส่ายหน้าแฟรงค์จึงเสนอแจ๊ค... เมื่อคริสส่ายหน้าอีกแฟรงค์จึงกล่าวสรุป

“คุณต้องการบอยเหรอ.. ผมจะไปตามให้นะ”

แฟรงค์ขยับตัวแต่ต้องชะงักเมื่อคริสเอ่ยขัดขึ้น

“ทำร้ายหัวใจนายหรือเปล่า แฟรงค์.. ถ้าฉันให้บอยขึ้นมา”

แฟรงค์หัวเราะ

“เด็กทุกคนเป็นสิทธิของคุณ บอยรู้สึกดีกับผมไม่ได้หมายความว่าผมเป็นเจ้าของเขา”

“นายไม่รู้สึกอะไรแต่บอยอาจรู้สึก โดยเฉพาะถ้านายเป็นคนไปเรียกให้ขึ้นมาหาฉัน ฉันไม่ต้องการใครทั้งนั้นแฟรงค์.. ขอบใจที่เป็นห่วง เด็กพวกนี้ทำให้ฉันนึกถึงไมเคิล ฉันไม่อาจมีอะไรกับหนุ่มน้อยพวกนี้ได้อีกต่อไปแล้ว แฟรงค์..”

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าไมเคิลทำให้คุณเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าคุณจะเปลี่ยนไปคบกับผู้หญิง เป็นไปไม่ได้หรอกคริส.. ถึงจะพยายามสักกี่ครั้ง คุณก็ไม่มีความสุข เพราะคุณไม่ชอบ”

คริสลืมตาขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงลิ้นพันกันเล็กน้อย

“ใครบอกนายว่าฉันจะคบกับผู้หญิง ฉันหมายถึงเฉพาะเด็กหนุ่มๆ เท่านั้น ยิ่งอายุใกล้เคียงกับไมเคิลด้วยแล้ว ฉันขอผ่าน...”

แฟรงค์พยักหน้าหงึก  เพิ่งเข้าใจความหมายของคริส

“คุณมีคู่ขาที่ไหนบ้าง ผมโทรตามให้มั้ย”

คริสส่ายหน้า

“ฉันไม่เคยมีคู่ขาที่ไหน แฟรงค์.. ฉันไม่ชอบไปมีอะไรกับใครนอกบ้านนายก็รู้  บางทีฉันอาจต้องหาใครสักคนมาอยู่ใกล้ๆ เป็นเพื่อนคลายเหงาอย่างที่นายพูดจริงๆ อายุขนาดนายคงจะดี พอจะเป็นคู่คิดได้บ้าง” ประโยคสุดท้ายคริสรำพึงกับตัวเอง

แฟรงค์หน้าเสีย หากคริสหาใครมาอยู่ด้วยจริงๆ คงเรื่องใหญ่แน่ ไม่เพียงแต่หนุ่มน้อยทั้งสี่จะไม่พอใจเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าและหมดความหมายกับคริสแล้ว แม้แต่เขาเองก็รู้สึกไม่พอใจอย่างไม่มีเหตุผล ดีไม่ดีตัวเขาเองก็จะตกกระป๋องตามไปด้วยเช่นกัน   ถ้าคริสหาคนไม่ถูกชะตาเข้ามาอยู่ด้วยบ้านคงไม่สงบสุขแน่

“นายจะหาให้ฉัน..หรือให้ฉันหาเอง แฟรงค์..” คริสเอ่ยถามเมื่อเห็นแฟรงค์นิ่งเงียบไป

“เอ่อ.. คุณหาเองเถอะคริส.. ผมหาไม่ถูกหรอก ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาใครมาถูกใจคุณ ผมไม่ขัดความคิดของคุณนะคริส.. แต่อยากให้ใช้เวลาคบหาคนที่ไว้ใจได้ มีนิสัยใจคอดี และควรเข้ากับทุกๆ คนในบ้านได้ด้วย”

“ที่พูดมาไม่มากไปหน่อยหรือแฟรงค์.. ฉันเป็นเจ้าของบ้านนะ จะทำอะไรต้องแคร์ความรู้สึกของคนอื่นก่อนตัวเองงั้นหรือ”

“เอ่อ.. ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แค่บอกว่าให้คุณเลือกดีๆ ดูให้ถูกใจคุณและมีนิสัยเข้ากับเด็กๆ พวกนั้นได้ก็พอ”

คริสหัวเราะในลำคอ สบตากับแฟรงค์อย่างมีความหมาย

“รวมถึงนายด้วยหรือเปล่า แฟรงค์.. ใครที่ฉันถูกใจต้องเข้ากับนายได้ด้วยใช่มั้ย..”

แฟรงค์หน้าร้อนวูบรู้สึกอายที่คริสรู้ทัน รีบเบือนหน้าหลบสายตาไม่ตอบคำถาม

“ไม่มีคนนอกที่ไหนจะเข้ากับเด็กแสบพวกนั้นได้หรอกแฟรงค์.. นายก็รู้จักนิสัยจอมป่วนของเด็กพวกนี้ดี..”

ร่างสูงยันตัวขึ้นนั่ง แฟรงค์ช่วยฉุดให้ลุกขึ้น

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคริส.. เพียงแต่คุณต้องใช้เวลาหน่อย จะหาคนดีจริงใจไม่ใช่เรื่องง่าย ”

“กลัวฉันถูกหลอกหรือแฟรงค์ หือ..” เสียงทุ้มกระซิบถามกลิ่นแอลกอฮอล์โชยคลุ้งจนอีกฝ่ายเบือนหน้าหนี

คริสหัวเราะเมื่อแฟรงค์ไม่ตอบคำถาม

“ทำไมฉันต้องไปหาให้วุ่นวายด้วย คนที่มีคุณสมบัติอย่างที่นายว่าก็อยู่ในบ้านเราแล้ว”

“นายคงไม่คิดว่าฉันหมายถึงเจ้าจอนนี่หรือลูหรอกนะ”

แฟรงค์หน้าแดงทั้งจากการกระทำและคำพูด ลมหายใจร้อนและจมูกโด่งไซ้สัมผัสข้างแก้มเขา นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่เคยได้รับสัมผัสหยอกเย้าจากหนุ่มใหญ่ผู้นี้.. ใช่!! นาน.. นานมาก.. ตั้งแต่คริสมีหนุ่มน้อยทั้งสี่คนอยู่ข้างกายก็ไม่เคยต้องการเขาอีกเลย

“รู้ใช่มั้ยว่าฉันหมายถึงใคร แฟรงค์..” ร่างสูงโปร่งถูกผลักหงายลงบนที่นอน คริสตามลงไปกระซิบข้างหูและกระเซ้าด้วยการขบใบหูแฟรงค์เบาๆ

แฟรงค์ขนลุก..สองมือยันร่างสูงไว้

“อย่าล้อเล่นน่ะคริส คุณเมารู้ตัวหรือเปล่า ผมหาให้คุณก็ได้แต่ขอเวลาหน่อยเท่านั้น”

“ไม่.. ฉันไม่เมา~~ และไม่ต้องการคนอื่นนอกจาก..นาย~~…”

“เอ่อ.. แต่ว่าผม…”

“ไม่มีแต่..นะแฟรงค์.. นายบอกเองว่าฉันควรผ่อนคลายอารมณ์บ้าง และตอนนี้ฉันกำลังต้องการ ถ้านายไม่ช่วย.. ต่อไปก็ไม่ต้องมาแนะนำอะไรอีก”

ร่างสูงลุกขึ้นคว้าบรั่นดีข้างตัวขึ้นมาทำท่าจะเปิด

“โอเค! คริส.. ยังไงก็ได้ คุณเป็นเจ้านาย ต้องการให้ปรนนิบัติผมก็จะทำ ชอบหรือไม่..ผมก็ไม่มีสิทธิปฏิเสธอยู่แล้ว”

คริสโยนขวดเหล้าทิ้ง ร่างสูงใหญ่ขยับลงทาบร่างโปร่งของชายหนุ่ม

“ไม่ชอบจริงหรือแฟรงค์~~ เรามาฟื้นความหลังกันหน่อยดีกว่า อย่าทำหน้าแบบนี้ซี… ทำเหมือนเพิ่งขึ้นเตียงกับฉันวันแรกงั้นแหล่ะ..”

แฟรงค์ซ่อนความรู้สึกยินดีไว้ภายใต้สีหน้าเขินอาย ริมฝีปากบางเผยอรับจูบจากอีกฝ่าย สัมผัสร้อนและรสชาดของบรั่นดีที่ปลายลิ้นเร้าอารมณ์ปรารถนาของเขาให้คุขึ้นในทันที ลำแขนเรียวโอบคอร่างสูงรับสัมผัสดูดดื่มที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างเต็มใจ

แฟรงค์แอบดีใจอยู่ในส่วนลึกที่คริสเปลี่ยนใจไม่อยากมีอะไรกับเด็กหนุ่มและต้องการให้เขาปรนนิบัติแทน จะเพราะความเมาหรือเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบหรือเปล่าเขาไม่รู้  แต่ที่รู้คือ..เขาไม่ยอมให้เรื่องที่คริสพูดเมื่อครู่เป็นจริงแน่ เขาไม่มีทางยอมให้คริสหาใครแปลกหน้าเข้ามาเป็นสมาชิกคนใหม่ในบ้านให้เป็นภาระและปัญหาหัวใจกับเขาอย่างแน่นอน จะว่าเขานิสัยไม่ต่างจากเด็กหนุ่มพวกนั้นก็ได้ ถ้าคริสทำจริงอย่างที่พูด และสมาชิกใหม่เป็นชายหนุ่มไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ตาม คงถึงคราวที่เขาต้องออกแรงป่วนด้วยตัวเองบ้างแล้ว  :a2:

แฟรงค์คิดว่าการได้ผ่อนคลายอารมณ์บ้างเป็นเรื่องที่ดี คริสอาจลืมไมเคิลได้ชั่วขณะ แต่เปล่าเลย…

“ฉันชอบนาย แฟรงค์.. แล้วนายล่ะ รู้สึกยังไงกับฉัน.. หือ..” เสียงทุ้มกระซิบถามขณะกำลังบรรเลงเพลงรัก

“อย่าถามเลยคริส ผมเกือบจะเป็นทาสคุณอยู่แล้ว อ๊ะ.. อาา~~"

แฟรงค์ร้องคราง เขาไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกนี้มานานแล้ว  กับหนุ่มน้อยทั้งสี่หรือผู้ชายคนอื่น เขาเป็นฝ่ายกระทำไม่ใช่ถูกกระทำแบบนี้

“แฟรงค์.. ฉันคิดถึงไมเคิล คิดถึงมากเลย อยากไปเยี่ยมลูก นายไปกับฉันนะแฟรงค์”

เสียงกระซิบครั้งนี้ทำเอาแฟรงค์เกือบหมดอารมณ์

“โอ!!!…คริส.. ได้โปรดเถอะ ทำธุระของเราให้เสร็จก่อน อย่าคิดถึงลูกตอนนี้ คุณคงไม่อยากให้ไมเคิลฝันเห็นคุณกำลังอยู่ในร่างกายของผมใช่มั้ย..”

คริสหยุดคิดถึงไมเคิลชั่วขณะทันทีเพราะไม่อยากให้หนุ่มน้อยฝันเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ยิ่งฝันถึงพ่อเก่งๆ อยู่ด้วย…



:m29:



กว่า 3 เดือนแล้วที่ไมเคิลจากไป คริสไม่ได้รับการติดต่อจากหนุ่มน้อยเลย ทั้งที่ก่อนจะจากกันไมเคิลสัญญาว่าจะรีบส่งที่อยู่มาให้เขาทันที เผื่อว่าเขาจะแวะไปเยี่ยม

อีกครั้งที่คริสตกอยู่ในอาการฝันร้ายและผวาตื่นกลางดึกติดต่อกันหลายคืน คืนนี้ก็เช่นกัน คริสส่งเสียงเรียกไมเคิลก่อนจะสะดุ้งตื่นพร้อมๆ กับแฟรงค์ซึ่งตกใจตื่นเพราะเสียงร้องของเขา

“มีอะไรคริส!! คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”

“ขอโทษแฟรงค์ ฉันไม่เป็นไรแต่ไมเคิลเป็น ฉันได้ยินเสียงเขาร้องไห้”

แฟรงค์เอื้อมมือเปิดไฟที่หัวเตียง ตีหนึ่งกว่าเอง.. เพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมงคริสก็ฝันร้ายแล้ว อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะเช้า จะฝันอีกกี่รอบก็ไม่รู้ เขามองคริสด้วยความเห็นใจ ดวงตาสีฟ้าคู่สวยหม่นหมองด้วยความทุกข์

“อย่าคิดมากเลยคริส คุณคิดถึงไมเคิลมากเกินไปก็เลยเก็บมาฝัน”

“ไม่!! แฟรงค์.. ฉันไม่ได้คิดมาก ฉันได้ยินเสียงไมเคิลร้องไห้มา 2-3 คืนแล้ว... ไมเคิลกำลังได้รับอันตราย ฉันจะไปฮ่องกง นายต้องไปกับฉันด้วย เราจะออกเดินทางแต่เช้านะ แฟรงค์..”

“ใจเย็นๆ คริส.. ใจเย็น”

แฟรงค์กล่าวปลอบ ชักไม่แน่ใจกับอาการฝันร้ายซ้ำๆ ของคริส คริสเคยมีอาการฝันประหลาดเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งความฝันนั้นชักนำให้เขาออกเดินทางไปหาหนุ่มน้อยจนพบอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ฝันร้ายครั้งนี้อาจเกิดจากความคิดถึงอย่างมากก็ได้

“ฉันใจเย็นไม่ไหวแล้วแฟรงค์ ถ้าช้ากว่านี้ อาจไม่โชคดีอย่างครั้งที่แล้ว”

“แต่เราไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน เช็คให้รู้ก่อนแล้วค่อยเดินทางไม่ดีกว่าเหรอ..”

“ไม่จำเป็น ไปหาโรเจอร์ที่สถานทูตให้เขาช่วยหาให้ นายจะไปด้วยมั้ย”

“โอเค! แล้วแต่บอสเถอะครับ ผมไม่กล้าขัดคำสั่งหรอก”

แฟรงค์ลุกขึ้นจากเตียงคว้าเสื้อคลุมขึ้นสวม

“จะไปไหน” คริสเอ่ยถาม

“ผมจะกลับไปนอนที่ห้องนะ คริส.. พรุ่งนี้เช้าเจอกัน”

แฟรงค์เดินสโลสเลไปที่ประตูแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มบ่นตัดพ้อเป็นภาษาอังกฤษ

((แค่ฉันฝันร้ายทำให้ตกใจตื่น นายก็หนีกลับไปนอนที่ห้อง นับประสาอะไรถ้าฉันเจ็บหนักคงหมดหวังที่จะให้นายช่วยดูแล))

แฟรงค์ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจเดินกลับมาที่เตียง ล้มตัวลงนอนคว่ำเอาหมอนปิดหูไว้ ไม่อยากฟังเสียงคริสบ่นอีก

คริสระบายยิ้ม  ร่างสูงขยับเข้าสวมกอดชายหนุ่ม

“ไม่กลับไปนอนที่ห้องล่ะแฟรงค์ หือ..”

เงียบ!! ไม่มีเสียงตอบลอดออกมา คริสดึงหมอนออกจมูกโด่งและริมฝีปากร้อนสัมผัสซุกไซ้ที่ซอกคอ

“นายห่วงฉัน แสดงว่านายรักฉันใช่มั้ย”

เสียงทุ้มกระซิบถาม ลำแขนแกร่งสวมกอดร่างเพรียวแนบแน่นจนอีกฝ่ายขนลุกซู่ต้องหันมากล่าวอ้อนวอน

“ได้โปรดเถอะคริส นอนเถอะนะ เราต้องออกเดินทางแต่เช้าไม่ใช่เหรอ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาผ่อนคลายอารมณ์กัน มันดึกมากแล้วนะคริส”

คริสหัวเราะ

“ใครจะผ่อนคลาย ฉันไม่ได้มีอารมณ์ซะหน่อยแค่อยากกอดเฉยๆ นายไม่อยากให้แตะต้องก็ไม่เป็นไร กู๊ดไนท์แฟรงค์.. ฉันจะไม่กวนอีก จะไม่ทำให้นายตกใจตื่นอีกด้วย”

ร่างสูงขยับตัวออกห่างและนอนหันหลังให้ เขาจะไม่ทำให้แฟรงค์ตกใจตื่นอีกอย่างแน่นอนเพราะเขาไม่สามารถข่มตาหลับได้อีก เสียงร้องไห้ของไมเคิลยังติดหูเขาอยู่จนถึงนาทีนี้

…แด๊ด.. แด๊ดดี้…. ฮือๆ….

คริสสะดุ้งเมื่อถูกสัมผัสที่เอวเบาๆ ทำเอาแฟรงค์สะดุ้งตาม

“ให้ตายเถอะ คริส  คุณตกใจอะไรนักหนา ทำไมขวัญผวาง่ายอย่างนี้”

ครั้งนี้คริสไม่รู้สึกว่าตัวเองผิด  นอกจากไม่ขอโทษแล้วยังโวยใส่แฟรงค์ฐานที่ทำให้เขาตกใจ

“นายนั่นแหล่ะ บอกจะนอนทำไมไม่นอน”

“ก็.. เอ่อ..”

แฟรงค์อึกอักไม่กล้าบอกเหตุผลว่าทำไมนอนไม่หลับ  ตัดสินใจลุกจากเตียงอีกครั้งและรีบบอกก่อนจะถูกถาม

“ผมไปเข้าห้องน้ำนะ”

“ปวดท้องหรือแฟรงค์ หรือปวดฉี่”

“เรื่องส่วนตัวของผม คุณไม่ต้องมาถาม”

แฟรงค์สะบัดหน้าและเดินไปเข้าห้องน้ำ  แต่เดินไปไม่ถึงก็ต้องหยุดชะงักกับคำพูดกระเซ้าตามหลัง

“ไปห้องน้ำจะได้เรื่องหรือแฟรงค์ ไปหาบอยดีกว่ามั้ง”

ร่างสูงเพรียวหันมายิ้มหวานให้บอสแสนรัก

“โอเค!.. แสดงว่าคุณอนุญาตให้ผมไปหาบอยได้ใช่มั้ย ขอบคุณนะคริส กู๊ดไนท์ แล้วเจอกันตอนเช้า” แฟรงค์รีบตัดบทและเดินรี่ไปที่ประตู

“ไหนบอกว่าดึกมากแล้ว ไม่ใช่เวลาจะผ่อนคลายอารมณ์ไง จะไปปลุกเด็กให้ตื่นขึ้นมาสนองอารมณ์นายตอนนี้ ไม่เหมาะมั้งแฟรงค์”

แฟรงค์ชะงักเท้าที่หน้าประตู รู้สึกไม่เหมาะจริงอย่างที่คริสพูด แต่ก็รู้สึกโกรธและน้อยใจที่คริสแกล้งปลุกอารมณ์เขาให้ต้องการ แต่ตัวเองกลับไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย ร่างสูงเพรียวหันกลับมายืนพิงประตูสบตากับคริสที่อยู่ในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอนและส่งยิ้มหวานให้ คงสนุกที่แกล้งเขาได้

แฟรงค์หาวิธีแก้เผ็ดเจ้านายสุดที่รักกลับคืนบ้าง เขาปลดเชือกเสื้อคลุมและเปลื้องกางเกงนอนกองลงที่พื้น

คริสนั่งนิ่งรอยยิ้มบนสีหน้าจางลง ไม่กล้าเอ่ยกระเซ้าอีก ภาพที่เห็นตรงหน้าแม้จะอยู่ในเงาสลัว แต่ทั้งกิริยาและน้ำเสียงบอกให้รู้ว่าแฟรงค์ตั้งใจมาสเตอร์เบทต่อหน้าเขาด้วยความโกรธ ไม่ถึงหนึ่งนาทีแฟรงค์ก็เสร็จสมอารมณ์หมาย ก้มลงคว้ากางเกงนอนเดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำไป

แฟรงค์ออกจากห้องน้ำตรงมาที่เตียงและหยิบหมอนขึ้นมาถือไว้ เขากล่าวเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“กู๊ดไนท์ คริส.. ผมจะไปนอนที่โซฟานะ ” แฟรงค์เอื้อมมือดับไฟที่หัวเตียงก่อนเดินฝ่าแสงสลัวไปล้มตัวลงนอนบนโซฟา

คริสยังนอนลืมตาอยู่ในความมืดขณะที่แฟรงค์ส่งเสียงกรนคร่อกแล้ว

….ให้ตายเถอะ! ตั้งแต่คบกันมาเขาไม่เคยได้ยินน้ำเสียงเย็นชาเช่นนี้จากแฟรงค์เลย ความรู้สึกบอกทันทีว่าแฟรงค์โกรธเขาจริงๆ และโกรธมากด้วย…

เป็นนิสัยเฉพาะตัวของแฟรงค์เรื่องรู้สึกไวต่อสัมผัสต่างๆ ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติหรือถูกปลุกเพียงเบาๆ ก็จะสะดุ้งตื่น จึงไม่แปลกเลยที่หลายคืนมานี้แฟรงค์นอนไม่เต็มอิ่มเพราะถูกเขาเรียกให้มานอนเป็นเพื่อน และสามคืนแล้วที่เขาฝันร้ายผวาตื่นกลางดึกทำให้แฟรงค์สะดุ้งตื่นตามไปด้วย

นิสัยเฉพาะตัวเช่นนี้ ยังทำให้แฟรงค์มีความรู้สึกไวต่อสัมผัสที่เร้าอารมณ์ทางเพศด้วย เขาแกล้งกระเซ้าไม่คิดว่าแฟรงค์จะเกิดความต้องการมากถึงขนาดต้องหาทางปลดปล่อย นอกจากเขาจะไม่สนองตอบแล้วยังพูดแหย่อีก ถึงขนาดหนีไปนอนบนโซฟาแสดงว่าคืนนี้แฟรงค์คงโกรธเขามากจริงๆ

....ทำไมถึงไม่อ้อนเหมือนทุกครั้งล่ะ แฟรงค์.. แค่บอกว่าต้องการเท่านั้น... ถึงจะทุกข์เรื่องลูก.. แต่ความต้องการของคนรัก..ฉันจะปฏิเสธได้ยังไง นายทำเหมือนไม่รู้จักนิสัยฉัน...



:m13:



แฟรงค์ในชุดลำลองกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดมาอย่างร้อนรน พบคริสอยู่ในชุดพร้อมจะออกเดินทางนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่ห้องโถง

“ทำไมไม่ปลุกล่ะคริส จะออกเดินทางกี่โมง ผมสำรองตั๋วก่อนนะ”

แฟรงค์คว้าโทรศัพท์ขึ้นจะโทรไปสำรองที่นั่ง

“ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว เครื่องออก 4 โมงเช้า นายจะไปด้วยหรือเปล่า”

แฟรงค์วางหูโทรศัพท์ลง เวลาขณะนี้ 2 โมงเช้าแล้ว เครื่องออก 4 โมงทำไมคริสยังนั่งอยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้เขาไปด้วยคงไม่นั่งคอยหรอก

“ผมต้องไปด้วยไม่ใช่เหรอ เมื่อคืนคุณสั่งอย่างนั้น”

“คำสั่งเมื่อคืนยกเลิก ฉันจะไปคนเดียว นายอยู่ดูแลบ้านล่ะกัน”

ร่างสูงลุกขึ้นยืนขยับจะเดิน แฟรงค์ก็เข้ามายืนประชิดขวางทางไว้

“ไปคนเดียวได้แน่หรือ คริส.. ใครจะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณ ที่สำคัญใครจะอยู่เป็นเพื่อนตอนคุณฝันร้าย หือ…”

คริสสบตาเลขาคู่ใจของเขา ใบหน้าหล่อเข้มส่งสายตาแสดงความห่วงใยเต็มเปี่ยม จนเขารู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

“นายต่างหากแฟรงค์.. นายคงไม่อยากอยู่ใกล้ตอนฉันฝันร้ายอีก ไม่อย่างนั้นนายคงไม่หนีฉัน…” คริสหยุดพูดเมื่อถูกอีกฝ่ายสวมกอดและกระซิบขอโทษ

“ผมขอโทษคริส ขอโทษที่หนีไปนอนบนโซฟา คุณโกรธผมเรื่องนี้ใช่มั้ยถึงไม่อยากให้ผมไปด้วย”

“ฉันไม่ได้โกรธนาย แต่ฉันต่างหากที่ทำให้นายโกรธ ขอโทษนะแฟรงค์..”

แฟรงค์ซ่อนยิ้มในสีหน้า นึกไม่ถึงว่าคริสจะรู้สึกผิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาไม่ได้โกรธคริสซะหน่อย ที่เลี่ยงมานอนบนโซฟาเพราะไม่กล้าเข้าหน้าและรู้สึกละอายกับการกระทำของตัวเองต่างหาก

“ผมรักคุณนะคริส ไม่เคยนึกโกรธคุณเลย สาบานได้ ผมจะไม่ทำแบบนั้นต่อหน้าคุณอีก ถ้าทำ.. ผมจะให้คุณเป็นคนทำให้ ”

ประโยคสุดท้ายแฟรงค์แกล้งพูดลองใจ และเมื่อคริสไม่ปฏิเสธแถมยังยิ้มให้ ร่างสูงเพรียวจึงขยับเข้าจุมพิตแก้มบอสแสนรักด้วยความเสน่หา หัวใจลิงโลดด้วยความยินดีใบหน้าร้อนผ่าวเมื่อถูกลำแขนแกร่งรั้งตัวเข้าไปจูบกลับคืน จะไม่ให้รู้สึกยินดีได้ยังไง คริสไม่เคยปฏิบัติเช่นนี้กับใครกลางห้องโถง และริมฝีปากอุ่นจัดของคริสก็ไม่ได้สัมผัสที่แก้มเขาแต่เป็นที่ริมฝีปาก

พ่อบ้านถือกระเป๋าเดินทางของแฟรงค์ตามลงมา รู้สึกแปลกใจที่เห็นเจ้านายปฏิบัติกับคุณแฟรงค์เช่นนี้ ถ้าเป็นหนุ่มน้อยทั้งสี่คนจะไม่รู้สึกแปลกใจเลย แต่เจ้านายก็ย่อมเป็นเจ้านาย มีสิทธิทำอะไรแปลกๆ ได้เสมอ

แฟรงค์รับสูทลำลองจากลูและบอกให้เอากระเป๋าไปไว้ที่รถ เมื่อแฟรงค์สวมสูททับก็อยู่ในสภาพพร้อมจะออกเดินทางได้ทันที แฟรงค์เป็นหนุ่มลูกครึ่งไทยสวิส หน้าตาและรูปร่างดี สูงใหญ่กว่าชายไทยทั่วๆ ไปแต่บางกว่าคริสพอประมาณ ไม่ว่าจะอยู่ในชุดหล่อเนี๊ยบ หรือเสื้อยืดคอกลมเพียงตัวเดียว แฟรงค์ก็ดูดีเสมอ

“บอกเด็กๆ หรือยังคริส ว่าเราจะไม่อยู่หลายวัน”

“บอกแล้ว บอยถามว่าทำไมนายต้องไปด้วย ปกติฉันมักจะให้นายอยู่เฝ้าบ้านเวลาฉันไม่อยู่หลายๆ วัน”

“ทำไมต้องถามด้วยวะ!!  เด็กบ๊องส์! จะมาเป็นเจ้าของชีวิตฉันหรือไง”

แฟรงค์รู้สึกระอาใจกับบอยหนุ่มน้อยวัย 16 ปีคนนี้ ซึ่งนับวันจะเริ่มเกาะติดเขามากขึ้น ยิ่งรู้ว่าเขาต้องขึ้นไปนอนเป็นเพื่อนคริสด้วยแล้ว หนุ่มน้อยก็เริ่มไม่พอใจพาลต่อว่าไปถึงคริสจนเขาโกรธ ดุว่าเข้าให้ก็น้ำตาร่วงผล็อย

... บอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อหรอกว่า หลายคืนมานี้เขานอนเป็นเพื่อนคริสเฉยๆ ไม่มีอย่างอื่นเลยจริงๆ จะมีก็แต่เมื่อคืนนี้ ซึ่งเขามีคนเดียวคริสไม่ได้มีด้วย...

กำลังจะก้าวขึ้นรถทั้งคู่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสาวใช้วิ่งออกมาจากตึก นำโทรศัพท์มายื่นให้บอกว่ามีสายด่วนจากสนามบิน  คริสรับสายเพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินที่สำรองไว้



:m15:


ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #115 เมื่อ10-09-2008 11:23:26 »

เป็นกำลังใจให้เสมอครับ

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #116 เมื่อ10-09-2008 11:53:13 »

กรี๊ด!!!!!!! :serius2:

น้องไมเคิล เกิดอะไรขึ้นกับน้องคะเนี่ยะ!!!!!!

Kirimanjaro

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #117 เมื่อ10-09-2008 12:02:09 »

สนุกมาก ๆ ครับ   

งื้ด ๆ  แอบชอบแฟรงค์ตั้งแต่แรกแล้ว  เจ่าเล่ห์ดีจริง ๆ
ยิ่งฉากมาสเตอร์เบทยั่วอารมณ์  อ้างงงง  สุดยอดครับแฟรงค์

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #118 เมื่อ10-09-2008 12:48:33 »

สู้ๆนะครับคุณพ่อของไมเคิล :L2:

juuuno99

  • บุคคลทั่วไป
Re: [NOVEL] FATHERHOOD
«ตอบ #119 เมื่อ10-09-2008 14:33:04 »

อ่านรวดเดียว 15 ตอน สนุกมากๆ มาต่อไวๆนะฮะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด