ตอนที่ 15
กว่ากันย์จะตื่นก็ปาเข้าไปเที่ยงพวกเราจึงตัดสินใจออกมาหาอะไรกินที่ริมหาด ผมเลือกพากันมากินร้านเตียงผ้าใบริมหาด ลมจากทะเลพัดขึ้นมาปะทะกับใบหน้า ผมรู้สึกรำคานนิดหน่อยเพราะผมมันตีปรกหน้าแต่กันย์คงรำคานมากๆเพราะทัดผมข้างหูไปกี่รอบมันก็กลับมากระเซิงทุกครั้ง ผมแอบยิ้มขำท่าทางกระฟัดกระเฟี้ยดนั้น
”กันย์จะกินอะไร”
“อะไรก็ได้”เพราะมัวแต่สนใจอย่างอื่นเลยตอบผมแบบส่งๆ
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ผมรู้ว่ากันย์ชอบกินอะไร”เอาไข่เจียวหอยนางรม ปูนึงครึ่งโล แล้วก็ต้มยำทะเลครับ” ผมหันไปสั่งกับเด็กสาวลูกเจ้าของร้าน เธอก้มหน้าก้มตาจดออเดอร์อย่างเงอะงะ ก่อนจะถามว่ารับเครื่องดื่มอะไรดี ผมสบตากันย์เชิงให้เขาสั่งแต่กันย์กลับนั่งยิ้มนิ่งๆเหมือนเปิดโอกาสให้ผมเลือกเอง
“เอาที่นายชอบบ้าง”
“อะ ฮ่ะๆๆ งั้น น้ำเปล่าละกันครับ”
น้องเด็กเสริฟจากไปแล้วทีนี้ก็เหลือแค่เรา2คนกับท่าทีอิหลักอิเหลื่อ แบบว่า แอบเขินแปลกๆ เพื่ออะไรวะ? ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้วแค่รู้ว่าใจตรงกันแค่นี้ถึงกับไม่กล้าสบตาเลยเรอะ ไม่ๆๆ ผมต้องไม่ทำตัวกากขนาดนั้น”เอ่อ วันนี้อากาศดีเนอะ”
เห้ยยยยยยยยย พูดอะไรโง่ววววๆ เป็นบทที่ผมอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดขข้อหาพูดอะไรสิ้นแต่คิดอีกที่เก็บลิ้นไว้เลียกันย์ดีกว่าผมจึงไม่กัดลิ้นตัวเองตายและเหลือนมองแฟนของผมว่าจะตอบกลับมาว่าอย่างไร
“อ่า อืม ท้องฟ้าสวยดี”กันย์เขี่ยปลายเท้ากับพื้นทรายไปมา ก้มหน้างุดๆเขี่ยทรายไปทางซ้ายทีขวาทีจนมันจะก่อตัวเป็นปราสาทอยู่ละ โอเคครับที่รักกำลังเขินผมเข้าใจ
“เมฆเยอะขนาดนี้เนี่ยนะท้องฟ้าสวย”ผมแกล้งหยอก
กันย์พองแก้มน้อยๆก่อนมุบมิบปากเถียงกลับมาอย่างไม่ยอมแพ้ว่า”อากาศก็ไม่ได้ดีเหมือนกันล่ะน่า”ก่อนพวกเราจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน นี่คือช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างแท้จริง
“ถ่ายรูปกันป่าว”กันย์ถามอย่างกระตือรือร้น
“อืม ก็ดีนะ มานั่งฝั่งนี้สิ”ร่างโปร่งย้ายก้นมานั่งฝั่งเดียวกับผมอย่างว่าง่าย ผมยกมือถือของตัวเองขึ้นมาเตรียมเซลฟีแต่กันย์กลับบอกให้ใช้เครื่องของเขาแทน
“ใช้ของกันย์ๆ กล้องสวยกว่า”
คือนายก็ไม่ได้ใช้โนก๋อย 3310นะ กล้องซัมซุงรุ่นท็อปมันไม่ได้กากขนาดนั้นที่รัก”ใช้เครื่องนาย นายจะได้เป็นคนโพสต์ไง”
“ให้กันย์โพสต์ก็ได้นิ ไม่เห็นเป็นไร”ดูทำหน้ามุ่ยเข้า
“จะดีเร้อ ถ้าโดนเอฟซีเจ้านายคนดังมาแซะว่าลงรูปคู่กับนายเพื่อพยามแสดงความเป็นเจ้าของก็อย่ามาหัวร้อนทีหลังละกัน”
“หะ เห้ย! ไม่หรอก กันย์ไม่สนใจคนพวกนั้นสักหน่อย”ปากบอกปฏิเสธแต่สีหน้าแววตาพิรุธเชียวครับที่รัก
ผมส่ายหน้าเบาๆด้วยความเอ็นดู”แล้วใครกัน ที่ขี้หวงถึงขนาดให้นายเปลี่ยนชื่อเฟสเป็น ปากกา พัดลม ปืนกัน หืม?”
“สถานการณ์ตอนนั้นมันกำกวมกว่าตอนนี้หนิ ชิ ถ้านายอยากเป็นคนลงรูปเองขนาดนั้นก็ช่วยไม่ได้! ใช้เครื่องกันย์ถ่ายนี่แหละ เดี๋ยวแต่งรูปเสร็จแล้วส่งไปให้ทางแชท คิดแคปชั่นให้มันดีๆด้วยล่ะ อ๊ะ แต่ไม่ต้องประกาศตัวว่าเป็นแฟนกันนะ เบื่อพวกขี้แซะ อ้อ ถ้ามีผู้หญิงมาเม้นจีบก็ไม่ต้องไปตอบเข้านะ เข้าใจ๊?”
“คร้าบๆ”
น่ารักที่สุดเลยคนเนี้ย
*รูป*
ผมโพสรูปพร้อมเติมแคปชั่นสั้นๆแต่ได้ความหมายลงไป กันย์ผู้ไม่ขี้หึงเลยสักนิดรีบเข้าไปกดไลค์เป็นคนแรกทั้งๆที่นั่งอยู่ข้างกันแค่เนี้ย พร้อมคอมเม้นต์ที่ไม่ได้แสดงความเป็นเจ้าของเล้ยยย(ประชด)ว่า น่ารักเหมือนกัน
นี่เป็นรูปที่ยอดไลค์พุ่งเร็วที่สุดเท่าที่ผมเคยลงแล้วมั้ง ขนาดนี่เป็นเวลาเรียนนะคนเข้ามาเผือกกันเร็วมากอ่ะ แต่ยังไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นอะไรต่อจากคอมเม้นต์ของกันย์เลย จนกระทั่งไอ้กรเพื่อนรักเข้ามาแปะข้อความสั้นๆตามแบบฉบับของมันไว้ว่า ตัดคำว่า น่า ออกเหอะมึง
เท่านั้นแหละ เหมือนมีระเบิดลง ทั้งแฟนเก่า เพื่อนแฟนเก่า กิ๊กที่ผมเคยคุยด้วยไปทั่ว บวกสายเผือกคนอื่นๆอีกจำนวนมากเข้ามาเม้นต์ข้อความกันเป็นเบือ ผมส่งยิ้มแห้งไปให้คนข้างๆซึ่งนั่งจ้องจอมือถือตาเขียวปั๊ด
“ขนาดนี้ยังกล้ามองว่าตัวเองใสๆไม่ใช่เสือผู้หญิงอีกเนอะ เห๊อะ อยากจะอ้วก”
นายเปล่านะ เขามาเอ๊งงง นายไม่รู้เรื๊องงงง นายใสๆ นี่นายธรรมดาไงจำไม่ได้หรอม
คือตอนนี้ไม่ใช่แค่เม้นต์ใต้โพสต์รูปคู่แล้วครับ มีผู้หญิงทักแชทผมมา6-7คนได้ ไม่สิตอนนี้ 9คน... 12คนแล้ว โว้ยยยย มีแต่คนเข้ามาถามประมาณว่าที่ช่วงหลังๆนี้ไม่ตอบข้อความเจ้าหล่อนเลยเพราะจะเปิดตัวคบกับคนนี้ใช่มั้ย
ผมอยากตอบนะว่าพวกเราคบกันอยู่ แต่พอชั่งใจถึงบริบทสังคมแล้วผมก็ต้องหยุดมือ มันไม่ใช่แค่เรื่องของผมกับกันย์ แต่มันรวมถึงสถานะทางบ้านของกันย์ด้วย คงไม่ดีแน่ถ้าลูกชายตระกูลนักกฎหมายเก่าแก่เปิดตัวว่าคบกับผู้ชาย แล้วกันย์ก็ทำในสิ่งที่ผม
คาดไว้ เขาตั้งสเตตัสใหม่ขึ้นมาพร้อมแคปชั่น นี่เพื่อนไง อย่าคิดมากดิ
“ขอโทษนะ แต่ช่วยเปลี่ยนชื่อเฟสกลับเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย”
“อืม ได้”ผมทำตามที่กันย์ขอ กันย์ที่รักของผมดูน่าสงสารไปเลย ใจนึงก็อยากแสดงความเป็นเจ้าของผมให้โลกรู้ แต่จิตสำนึกมันตีกรอบให้รักษาภาพพจน์ของครอบครัวเอาไว้
“อย่าหงอยดิ อาหารมาพอดีเลย มากินกัน อย่าคิดมากเนอะ”
“ใครว่าหงอย กำลังสะใจอยู่ต่างหาก ดิ้นกันเข้าไป อยากรู้กันเข้าไป ฮ่ะๆๆๆๆ กันย์วินเห็นๆ”
ถรุย ไอ้เรารึอุตส่าห์โอ๋
“นายเล่นไอจีป่าว”
“ไม่มีอ่ะ ทำไมเหรอ”
“ชิ เชยอ่ะ”
“ผู้ชายเขาไม่ค่อยเล่นไอจีกัน เพื่อนในกลุ่มเป็นสิบไม่มีใครเล่นเลยสักคน”
“แต่เพื่อนกันย์เล่นอ่ะ ไอ้โรจน์ก็เล่น อืม...หรือว่ามันแล้วแต่คณะ ผู้ชายคณะกันย์หลายคนติดไอจีมากกว่าเฟสอีก ผู้ชายวิศวะคงไม่ติดอะไรเลย ติดแต่เกมส์”ถูกต้องครับที่รักของผมฉลาดมาก กันย์พยักหน้าหงึกๆเมื่อทำความเข้าใจสังคมของผมเสร็จ”แฮ่ๆ
เมษมาเม้นต์ด้วยอ่ะ ในที่สุดก็มีเอฟซีกันย์เข้ามาวอร์”
ผมกดอ่านข้อความของไอ้เมษ เมื่อคืนทิ้งเราทำไม อื้อหือ ไอ้หอกหัก ก่อนพิมพ์นี่คิดบ้างป่ะ คนนอกมาอ่านเขาจะรู้สึกยังไง จะคิดสะระตะมั้ยว่ากันย์กับเมษเคยมีซัมติงกันแล้วมีผมเข้ามาเป็นมือที่สาม ทั้งสองคนยิ่งสนิทๆกันอยู่ด้วย โว้ยยย เอาเข้าไป จากที่โนติผมเริ่มสงบลงแล้วตอนนี้กลับมาเด้งรัวๆ ไอ้เมษมันคนดังของมหาลัยนี่หว่า เป็นเดือนมหาลัยแถมบ้านยังรวยโคตรเซเลปชนิดที่ว่ามันไปนั่งกินข้าวมันไก่ที่โรงอาหารวันไหน วันนั้นร้านข้าวมันไก่จะขายหมดเร็วเป็นพิเศษอ่ะครับ
ก็เมษน่ารำคาญอ่ะ
“นี่ก็อุตส่าห์ไปตอบเขาอีกนะ”ผมเขกมเหงกใส่หัวกันย์ไปป๊อกหนึ่ง ดูก็รู้มั้ยว่าเมษมันไม่ได้ต้องการคำตอบ มันเข้ามาสร้างกระแส!! ทีนี่เอฟซีกันย์ก็เริ่มเข้ามาคอมเม้นต์บ้าง มีทั้งผู้หญิงที่แอบชอบกันย์อยู่เข้ามาโยเยว่ากันย์ชอบผู้ชายเหรอ ยันผู้ชายบางคนเข้ามาเม้นต์เต๊าะกันย์
“เราปิดเน็ตกันซักพักดีกว่าเนอะ”ผมเอ่ย
“เปิดอีกทีตอนเย็นจะได้เซอร์ไพรส์ทีเดียว คิกๆ”กันย์หัวเราะชอบใจ
แล้วมันก็เป็นจริงดังที่กันย์ว่าไว้ หลังจากกลับมาถึงกรุงเทพผมก็ไปส่งกันย์ที่คอนโดก่อนกลับมานอนที่หอของตัวเอง ผมเปิดดูความเคลื่อนไหวในไทม์ไลน์ก่อนจะพบว่าตอนนี้มีคนเปิดเพจคู่ นายกันย์ เป็นที่เรียบร้อย ผมไม่รู้สึกเฟลอะไรกับเพจนี้เพราะผมนับว่าคนที่ติดตามเพจคือคนที่อยู่ข้างเดียวกับผม แต่พวกที่ทักแชทมากเผือกนี่สิจะเยอะไปไหน ผมพยามเคลียร์โนติด้วยการเปิดเข้าไปอ่านโดยไม่ตอบ อ่อ ผมตอบแชทของไอ้บิ๊ก กับเพื่อนๆที่เข้ามาเผือกด้วยความเป็นห่วง
กว่าผมจะเคลียร์ข้อความเสร็จก็ปาเข้าไปตีหนึ่ง จังหวะที่ผมกำลังจะปิดไฟนอนเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
ก๊อกๆ
เห้ย อย่าบอกนะว่ามีคนตามมาเผือกถึงหอ
ผมส่องตาแมวดูปรากฏว่าแขกมาเยือนคือกันย์ของผมเองผมจึงรีบเปิดประตูออกไปด้วยความสงสัย
“มาทำอะไรดึกดื่นน่ะกันย์”คือกันย์ไม่ได้มาตัวเปล่าครับ กันย์มาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง...
“แฮ่ๆ ขอค้างที่นี่ได้ป่ะ ที่คอนโดมีเรื่องวุ่นวายนิดหน่อย”
ผมให้ร่างโปร่งเข้ามาด้านในก่อนหาที่ว่างให้กระเป๋าใบโตของเจ้าตัว คนสวยของผมทิ้งตัวลงนั่งหน้าเจื่อนบนเตียงนอนพลางมองผมด้วยอาการอึกอัก
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ เมษไปหาที่ห้อง?”ผมถาม
กันย์ส่ายหน้าไปมา”พีคกว่านั้น”
“คือ?”
“แม่มา YY”
โอเค รู้เรื่อง
งานเข้ากูแหง