[จบแล้ว]ตำรวจคนนี้พี่ขอ(ซักครั้ง)♥h.e.a.r.t♥s.t.e.a.l.e.r♥บทส่งท้าย ►17/8/60◄
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]ตำรวจคนนี้พี่ขอ(ซักครั้ง)♥h.e.a.r.t♥s.t.e.a.l.e.r♥บทส่งท้าย ►17/8/60◄  (อ่าน 35137 ครั้ง)

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :laugh:


ฝันเปียก ล่ะม้างงงงงง

ออฟไลน์ monotone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตามมาจาก คุณนุ กับสารวัตร อธิคม เป็นกำลังใจให้คนเขียน :katai4:

ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
โอ้โหแวดล้อมไปด้วยชายหนุ่มหมายปอง ยังไม่รู้ตัวอีกน้องหมวดเรียว

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
มาแปะไว้ก่อน เดี๋ยวตามมาอ่านค่ะ เห็นเป็นนิยายของคุณ katawoot ปุ๊บ แปะ ปั๊บเลยค่ะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เล่ห์เหลี่ยมทันกันดีจริงๆ  อยากรู้จังใครจะเพลี่ยงพล้ำซะก่อน    :hao7:
ชอบหมวดเรียว 5555

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ชอบอ่ะ หมวดเรียวแสบมาก เสน่ห์แรงด้วย

ออฟไลน์ KATAWOOT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
บทที่ 7

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ศรันย์ก็เปิดประตูห้องทำงานออกมา ใบหน้าดูสดชื่น ยิ้มแป้น เรียวหันไปมองด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ
“กว่าจะออกมาได้”
“แหม รอนิดรอหน่อย ทำเป็นใจร้อน ผมก็ต้องล้างหน้าล้างตาหน่อยสิครับคุณหมวด คนเพิ่งตื่นนะ อีกอย่าง ผมก็ต้องรอให้มันสงบลงซะก่อนถึงจะออกมาได้ ไม่งั้นก็จะโดนหาว่าลามก ทั้งๆ ที่...”
“ผมมาขอโทษ” เรียวแทรกขึ้น “ขอโทษนะ”
“ขอโทษเรื่องอะไร” ศรันย์ทำหน้าเหรอหรา “อ๋อ เรื่องเมื่อกี้นี่ใช่ไหม ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ถือสา เข้าใจอยู่ว่าคุณหมวดคงเบื่อเลยอยากหาอะไรสนุกๆ ทำ”
“นี่คุณศรันย์ อย่ากวนเลยน่า มาขอโทษดีๆ แล้วนะ”
“อ้าว ผมก็นึกว่าขอโทษเรื่องที่อยู่เฉยๆ ก็เข้าไปจ๊ะเอ๋ให้ผมตกใจด้วยการแกล้งตะโกนว่าไฟไหม้อู่ผมนะสิ”
“ความจริง ผมก็ไม่ได้อยากทำนักหรอก แต่คุณไปกวนผมแบบนั้น ก็อดฉุนไม่ได้”
“กวนเรื่องอะไรไม่ทราบ ผมแค่ไปแจ้งความกระเป๋าหาย ถ้าพูดเรื่องกวน ผมต่างหากที่โดนก่อน เอ๊ะ ไม่ใช่สิ ไม่ได้เรียกว่ากวน เรียกว่าแกล้งจะถูกกว่า คุณวิทยุให้เพื่อนตำรวจที่ตั้งด่านอยู่จับผม แบบนี้ไม่เรียกว่าแกล้งหรือ”
“แต่คุณก็แกล้งไปพูดกับหมวดคมกริชให้ชวนคิดแบบนั้น ผมก็ซวยสิ วันก่อน หมวดเรียกผมไปคุย แล้วหาว่าไปวุ่นวาย ปล่อยให้คนไปเกะกะที่หน่วย เขายิ่งไม่ค่อยชอบหน้าผมอยู่ด้วย”
“อ้าว เขาไม่ชอบหน้าคุณหมวดหรอกหรือ” ศรันย์เลิกคิ้ว ผิดความคาดหมาย “ผมนึกว่าเขา...”
“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าผมขอโทษที่แกล้งเรื่องรถก็แล้วกัน จะไม่ได้ไม่ต้องค้างคาอะไรกันอีก ไปนอนคิดดูแล้ว สงสารคุณเหมือนกันที่ต้องตกอกตกใจว่ารถแสนรักของตัวเองโดนขโมย ว่าไง ยอมรับคำขอโทษไหม ถ้าไม่ยอมรับ จะได้กลับ” เรียวเอียงหน้ามอง คอยคำตอบจากอีกฝ่าย
...เออนะ เวลาพูดดีๆ หมวดเรียวจอมกวนก็น่ารักเหมือนกัน แต่ขอติอยู่นิดนึง ตรงประโยคท้ายๆ อะไรกัน มาขอโทษทั้งที ยังจะมาถามแบบนักเลงว่าคนอื่นเค้าจะยอมรับคำขอโทษไหม ถ้าไม่ยอมรับ ข้าก็ไม่สน ...
...แต่เอ๊ะ ทำไมอยู่ดีๆ มากลายเป็นตำรวจกลับใจ คิดได้ว่าตัวเองทำผิด ลงทุนมาขอโทษถึงนี่ จะมีอะไรแอบแฝงหรือเปล่าว๊า...
“แหม คุณหมวดอุตส่าห์มาขอโทษ ไม่ยอมรับคำขอโทษได้ยังไงครับ ว่าแต่ว่า มาเรื่องนี้เรื่องเดียวหรือครับ มีเรื่องอื่นใดสอดใส้มาด้วยหรือเปล่า หวังว่าไม่ได้มาแอบสืบราชการลับนะครับ ผมล่ะกลัวจริงๆ อู่ผมน่ะอู่สีขาวนะครับคุณหมวด รับรองว่าไม่มีสิ่งผิดกฏหมาย และไม่ทำสิ่งผิดกฏหมาย ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย”
“แล้วลูกค้าที่มานั่นน่ะ มาแบบถูกกฏหมายทุกคนหรือเปล่า ไม่ใช่ว่ารับแต่งรถซิ่งให้พวกสายส่งวิ่งของได้เร็วๆ หรอกนะ”
“สายส่งอะไร” ศรันย์ส่ายหน้า “ส่งยาหรือส่งเด็ก นี่คุณหมวดครับ ผมเป็นอู่ซ่อมรถนะครับ ลูกค้าร้อยพ่อพันแม่ ใครมาใครบ้าจำไม่หวาดไม่ไหว ส่วนเรื่องแต่งรับนั่นน่ะก็มีบ้าง จริงอยู่ บางทีอาจช่วยลูกค้าแต่งนิดแต่งหน่อย แต่โดยรวมแล้วมันเป็นส่วนหนึ่งของการซ่อมรถให้มันวิ่งได้มีประสิทธิภาพเต็มที่เท่านั้น เค้าจะเอารถไปวิ่งอะไรมันเรื่องของเขา ผมไม่ใส่ใจ อย่าสงสัยอะไรแบบนี้สิ ไม่น่ารักเอาซะเลย”
“ถ้าไม่ใส่ใจ ทำไมรู้ว่าเขาส่งยา”
“แหม ผมก็ไม่ได้เป็นคนไร้เดียงสาไปซะทีเดียวนะครับคุณหมวด มันก็มีบ้างล่ะที่พวกนั้นจะมาใช้บริการ แต่หลักๆ พวกที่มาอู่ผมนี่เป็นพวกแข่งรถสนุกๆ”
“คุณเป็นคนบอกผมเองว่า ปลอมตัวเป็นนักศึกษาไปสืบมันเสียเวลา เพราะว่าพวกนั้นมันแค่เป็นเด็กเล่นขายของ พวกใหญ่ๆ จะสิงอยู่ตามแก็งค์ซิ่งรถ”
“มันก็ใช่อยู่ แต่ว่า...” ศรันย์ยกมือเกาศีรษะ
“พาผมไปดูหน่อยสิ” เรียวเดินเข้ามาใกล้
“เอางั้นหรือ มันอันตรายอยู่นะครับคุณหมวด”
“ผมเป็นตำรวจนะคุณ มัวแต่กลัวอันตรายก็ไม่ต้องไปทำอะไรแล้ว”
“แต่ว่าพวกเด็กที่คุณหมวดขู่มันหน้าปั๊มน้ำมันวันนั้นล่ะ มันเห็นหน้าหมวดแล้วนา บางทีเด็กพวกนั้นอาจจะไปแข่งด้วย ไม่กลัวมันจำได้หรือ เผื่อมันไปคุยกับคนอื่นๆ ว่าคุณเป็นตำรวจ เดี๋ยวซวย” ศรันย์เตือน
“โธ่เอ๊ย คุณศรันย์ แค่นี้ทำเป็นกลัวไปได้ ผมก็ปลอมตัวสิ จะไปยากอะไร อีกอย่าง เด็กสามคนนั้นเห็นผมแค่นาทีกว่าๆ อ้อ ว่าแต่ว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับการค้ายาด้วยหรือเปล่า”
“คงไม่มั๊ง เท่าที่รู้จักก็ไม่น่าจะเกี่ยว แต่ก็อย่างว่า มันจะพากันไปทำอะไรอย่างอื่นด้วยตอนไหนผมก็ไม่ได้รู้ไปด้วยหมดหรอก แต่เท่าที่รู้มา สามคนนั้นแข่งรถเฉยๆ เที่ยวเล่นไปวันๆ ไม่น่าจะมีอาชีพเสริมพิเศษ”
“งั้นคืนนี้เจอกัน คุณไปรับผมที่ สน. อ้อ ไม่ต้องเข้าไปนะ จะรอที่ข้างเสาไฟก่อนถึงทางเข้า ห้าทุ่ม ขอให้ตรงเวลาด้วย” เรียวสรุป สั่งการเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังจะเดินออกไปด้านหน้าอู่
“คืนนี้เขาไม่แข่งคร้าบ ใครเขามาแข่งรถคืนวันจันทร์ ห้าทุ่มอีกต่างหาก เพิ่งพากันตื่นนอน เป็นตำรวจแบบไหนเนี่ย ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องแข่งรถเลยหรือ” ศรันย์หัวเราะ
“ก็ไม่รู้ไง ถึงได้จะให้พาไปดู ตกลงเมื่อไหร่” เรียวพูดเสียงเข้ม แสดงอาการหงุดหงิดเล็กน้อย
“แข่งเมื่อไหร่จะโทรไปบอก คุณหมวดบอกเบอร์มา” ศรันย์ล้วงโทรศัพท์ออกมา ตั้งท่ารอกดบันทึกหมายเลข
“ไม่ใช่ว่าเป็นเล่ห์เหลี่ยมขอเบอร์นะ” เรียวหรี่ตามองอีกฝ่าย
“อพิโธ่ ผมนะหรือเล่ห์เหลี่ยม ไม่ใช่ตัวเองหรอกหรือ ว่าไง คุณหมวดจะไปหรือไม่ไป”ศรันย์ทำเสียงขึงขัง ก้มหน้ามองหน้าจอโทรศัพท์ตนเอง พยายามกลั้นยิ้ม ไม่อยากให้นายตำรวจเห็นสีหน้าของเขา
//////

คืนวันเสาร์เวลาตีสองกว่าๆ ศรันย์พาเรียวมาที่ลานกว้างหน้าสโมสรของหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดรวมตัวกันของพวกแข่งรถ
“แข่งรถนี่มันสนุกตรงไหนวะ” เรียวบ่นพลางกวาดตามองไปรอบๆ ดูรถเก๋งที่แต่งกันมาอย่างเต็มที่จอดอยู่ประมาณเกือบยี่สิบคัน หลายคันเปิดเพลงเสียงดังสนั่น บางคันคนขับกำลังลองเครื่องยนต์จนควันโขมง
“ตอนแข่งมันไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่หรอก ไฮไลท์มันอยู่ตอนตำรวจมา ความสนุกมันอยู่ตรงนั้นล่ะ ตอนหนีตำรวจคือตอนที่สนุกที่สุดเลยล่ะจะบอกให้ คอยดูก็แล้วกัน” ศรันย์หัวเราะ โยกไหล่ไปมาพร้อมผงกหัวเป็นจังหวะเข้ากับเสียงเพลง เรียวยังคงมองไปรอบๆ สังเกตทุกอย่าง แต่ไม่นานก็อุทานขึ้นมา
“เอ๊ะ นี่รวมแก็งค์แข่งรถเกย์หรือเปล่าเนี่ย ทำไมมีแต่ผู้ชาย ไม่เห็นผู้หญิงซักคน”
ศรันย์หลุดหัวเราะก๊าก มือกุมท้อง แล้วหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ส่ายหน้าเล็กน้อย สายตาเป็นประกาย
“เพิ่งรู้หรือคุณหมวด ความรู้สึกช้านะเนี่ย”
“ใครจะไปรู้” เรียวตะโกน
“เอาล่ะ มาโน่นแล้ว” ศรันย์สะกิดเรียว เดินนำไปยังกลุ่มวัยรุ่นประมาณเจ็ดคนซึ่งเพิ่งจอดรถและเดินเข้ามากลางลาน ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนหนึ่งในชุดเสื้อยืดสีขาวพับแขนขึ้นถึงเกือบหัวไหล่และกางเกงยีนส์เดินนำเข้ามา ท่าทางเป็นหัวหน้ากลุ่ม หยุดยืนแล้วยกมือขวาขึ้นประหนึ่งให้สัญญาณ หลายคนเดินล้อมวงเข้ามา เสียงเพลงเบาลง
“เอาล่ะ ใครจะแข่ง คนละสองพัน เงินมาเลย” ชายหนุ่มร่างบึกคนหนึ่งเดินเข้ามายืนอยู่ข้าง ประกาศเสียงดัง จากนั้นมีคนยื่นเงินให้ชายหนุ่มร่างสูงที่เป็นหัวหน้า
“แค่นี่หรือ” คนรับเงินพูดขึ้น มองไปรอบๆ
“พี่บอส มีอีกสามคัน กำลังมา ใกล้จะถึงแล้ว” เสียงหนึ่งตะโกนขึ้นจากทางด้านหลังของหัวหน้าที่ชื่อบอส
“โอเค รวมแล้วสิบเอ็ดคัน” บอสนับเงิน แต่ก็ยังทำหน้าแสดงให้เห็นว่ายังไม่ค่อยพอใจกับจำนวนผู้เข้าแข่งเท่าใดนัก

ขณะที่บรรดานักแข่งและเพื่อนกำลังพูดคุยตกลงกันอยู่นั้น ก็มีคนเดินเข้ามาทักทายศรันย์ซึ่งยืนอยู่กับเรียว คำทักทายนั้นทำให้เรียวเกือบหัวเราะออกมา
“เฮียศรันย์ มาด้วยหรือ นึกว่าปลดระวางไปแล้ว พาหลานชายมาเปิดหูเปิดตาหรือครับ”
“ไอ้นี่ปากเสีย เดี๋ยวโดน” ศรันย์ตาขวาง ยกมือขึ้นทำท่าจะฟาดเด็กหนุ่มท่าทางทะเล้นสามคนที่พากันหัวเราะชอบใจ
“ใครน่ะเฮีย ไปหลอกเด็กที่ไหนมา เพิ่งจบ ม. หก ใช่ไหมเนี่ย สวัสดีครับน้อง พี่ชื่อมาร์คนะครับ ส่วนเพื่อนพี่สองคนนี้ชื่อโจ้กับเอก มันสองคนเป็นคู่เกย์กัน แต่พี่โสด”
“ถอยไปไกลๆ เลยไป” ศรันย์ผลักคนชื่อมาร์ค
“ผมเรียนปีหนึ่งแล้วครับ ชื่อหนุ่ม หลานอาศรันย์ครับ” เรียวยื่นมือออกไปจับมือทักทายกันทั้งสามคน
“อ้าว เป็นอาเป็นหลานกันจริงหรือ เรียนปีหนึ่งเหมือนกันนี่นา งั้นไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้” มาร์คพูด
“แกเรียนปีหนึ่งมากี่ปีไอ้มาร์ค ดูหน้าน้องเขาก่อน ใสปิ๊งขนาดนั้น ความจริงเรียกแกว่าน้าจะถูกกว่า หน้าตาแกนี่พอๆ กับเฮียศรันย์เลย”
“ไอ้นี่ก็ปากเสียอีกคน” ศรันย์หันไปชี้หน้าคนที่ชื่อว่าโจ
“เฮียลงแข่งด้วยหน่อย ผมจะลงขันพนันเฮีย พักนี้ไม่ค่อยมีเงินใช้ ถ้าเฮียชนะผมแบ่งให้หมื่นนึง” คนที่ชื่อว่าเอกพูดขึ้นมา
“คงไม่ได้หรอกพี่ ไม่น่าจะไหว” เรียวรีบตอบแทรกขึ้นมา “ช่วงนี้กลางคืนอาศรันย์ขับรถเร็วไม่ได้ ตาไม่ค่อยดี มองไม่ค่อยจะเห็น”
ทั้งสามหนุ่มพร้อมใจกันหัวเราะก๊ากเมื่อได้ยินคำตอบของ ‘หลานชาย’ ของเพื่อนรุ่นพี่ ศรันย์หันขวับมามองเรียวตาขวางๆ ด้วยความรู้สึกฉุนนิดๆ ที่โดนล้อ แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร กลุ่มของบอสและลูกน้องก็เดินเข้ามาหาและทักทายกัน
เรียวสังเกตเห็นว่าบอสส่งสายตาพึงพอใจมาที่เขาจึงยิ้มให้เล็กน้อยแต่บอสกลับทำหน้านิ่งๆ แล้วหันไปทางอื่น ทำให้เรียวคิดว่าบอสคงระวังตัวเพราะเกรงใจศรันย์
“รถสวยดี พี่ลงแข่งด้วยหรือเปล่า” เรียวถามบอส หันหน้าไปมองรถนิสสันสกายไลน์สีแดงสดซึ่งจอดอยู่ทางด้านขวามือด้วยสายตาชื่นชมอย่างเห็นได้ชัด
“แข่งได้ไง เจ้ามือแข่งไม่ได้” คนที่ยืนอยู่ข้างบอสพูดขึ้นมา
“หลานเฮียศรันย์นี่ไร้เดียงสาจริงๆ” โจ้พูด หัวเราะขำ
“อ้าว งั้นหรือ ใครจะไปรู้วะ” เรียวทำหน้าหรอหรา แสดงให้เห็นว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ แต่ลอบมองหน้าของบอส จึงเห็นว่าเจ้ามือจัดแข่งรถแอบยิ้มมุมปากเล็กน้อย

รถที่ลงแข่งขับออกไปจากลานจอดแล้ว รถคันอื่นๆ ขับตามออกไป เรียวเดาว่าจุดปล่อยตัวคงอยู่ที่ถนนใหญ่หน้าหมู่บ้านร้าง ขณะนี้เหลือรถจอดอยู่ห้าคัน หนึ่งในนั้นคือรถของบอสกับลูกน้อง
“พวกนี้เขาไม่ตามไปดูหรือ” เรียวหันไปถามศรันย์
“ไม่ เดี๋ยวพวกนี้จะไปรอที่เส้นชัย คุณหมวด เอ๊ย คุณอยากตามไปดูไหม” ศรันย์ถามแล้ว รีบกระโดดออกห่างเมื่อเห็นเรียวกำหมัดเงื้อขึ้นมา
“ระวังหน่อยสิ” เรียวตะคอก
“เค้าขอโทษ” ศรันย์ทำหน้าแหยๆ “ตกลงจะไปดูไหม จะพาไป”
“ไม่ต้อง ผมมีเรื่องต้องทำ คุณไปรอที่เส้นชัยเถอะ” เรียวขยับเดินออกห่าง ศรันย์เดินตาม หน้าตาสงสัย
“จะไปไหน” ศรันย์ถาม
“ไปหาแฟนซักคน” เรียวตอบเล่นๆ แล้วพูดต่อ “ก็จะไปทำอะไรล่ะ ถามได้ มาทั้งที”
“นี่คุณ ผมเป็นห่วงนะ”
“ขอบคุณที่เป็นห่วง ถ้าเป็นห่วงก็ไปรอพากลับบ้านนะ แล้วเจอกัน” เรียวโบกมือ แล้วเดินตรงไปยังรถของบอสเพื่อ ‘หาข่าว’ ตามที่ตั้งใจไว้

บอสกำลังนับเงินอยู่บนฝากระโปรงหลังของรถ เรียวจึงยืนล้วงกระเป๋ารออยู่ห่างๆ ชายหนุ่มร่างผอมบางคนหนึ่งเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆ แล้วถามว่าทำไมไม่ไปกับศรันย์ เรียวตอบว่าเบื่อเพราะถูกคุม ทำอะไรไม่ค่อยสะดวก
“เราน่ะสิบแปดหรือยัง”
“สิบเก้าจะย่างยี่สิบแล้วพี่” เรียวตอบ
“หน้าเด็กฉิบหาย” อีกฝ่ายเอียงหน้ามองนายตำรวจซึ่งปลอมตัวมา
“พี่รู้สึกแก่หรือเปล่า ถึงเห็นผมหน้าเด็ก” เรียวล้อ
“เฮ้ย ไอ้นี่ กวน”
“ล้อเล่นน่าพี่ ขำๆ ผมสิบเก้าอีกไม่กี่เดือนก็จะยี่สิบจริงๆ ครับ ไม่ใช่เด็กแล้ว เห็นหน้าตาแบบนี้ เคยลองกัญชามาแล้วนะจะบอกให้ เบื่อเป็นเด็กดีมานาน” เรียวคุยโว
“กัญชานี่นะ เด็กจริงๆ นั่นล่ะ” คนฟังหัวเราะลั่น “มันมีอะไรดีๆ กว่ากัญชาเยอะไอ้น้องเอ๊ย เดี๋ยวคืนนี้พี่จะพาไปเที่ยวดินแดนแห่งความฝันที่กัญชาพาไปไม่ถึง”
“ไอ้โก้ ไปเอารถออก ตามไปดักดูแถวสะพานพระรามห้า อย่าลืมวิทยุล่ะ” บอสกระโดดลงจากกระโปรงหลังรถ สั่งลูกน้อง แล้วเดินเข้ามาใกล้เรียว “ว่าไง มานี่เขาไม่ว่าหรือ”
“ใครครับ” เรียวทำหน้าไม่เข้าใจ
“แล้วมากับใครล่ะ” บอสถาม
“อ๋อ” เรียวลากเสียง ทำท่าเข้าใจแล้วหันไปมองศรันย์ซึ่งยืนอยู่ข้างรถตัวเองก่อนจะหันมาพูดกับบอส “ว่าอะไรได้ ผมไม่ใช่เด็กนะครับพี่ อยากทำอะไรก็ทำ นานๆ ทีได้ออกมาเปิดหูเปิดตา นี่คิดว่าผมเป็นเด็กพี่ศรันย์งั้นหรือ ไม่ใช่หรอกนะ ผมเป็นคนรักอิสระ ชอบลองอะไรใหม่ๆ”
“ของไม่ดีอย่าลอง” บอสพูดสั้นๆ ใบหน้าเรียบนิ่ง หันไปมองศรันย์แวบหนึ่ง และเมื่อเห็นฝ่ายนั้นเปิดประตูขึ้นนั่งบนรถ จึงถามเรียวว่า “ไปนั่งรถเล่นกันไหม”
เรียวรีบพยักหน้า ยิ้มกว้างแสดงอาการดีใจ บอสชี้นิ้วไปที่ประตู เป็นภาษาท่าทางบอกให้เรียวขึ้นรถ จากนั้นตัวเองจึงเดินอ้อมทางด้านหน้าไปขึ้นนั่งประจำที่คนขับ ทะยานรถออกไปอย่างรวดเร็ว

บอสชวนเรียวคุยไปตลอดทาง ใบหน้าเรียบนิ่งเคร่งขรึมเริ่มมีรอยยิ้ม ต่างจากตอนที่อยู่ต่อหน้ากลุ่มคนเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา
“ตอนนี้เรียนอยู่ปีสี่” บอสตอบเมื่อเรียวถามว่าทำงานแล้วหรือยังเรียนอยู่ “ส่วนงานก็นี่ล่ะ เป็นเจ้ามือ”
“เจ้ามือพนันแข่งรถอย่างเดียวหรือครับ” เรียวถามยิ้ม
“อย่างอื่นก็ทำ” บอสยักไหล่
“เมื่อกี้ลูกน้องพี่บอกผมว่ามีอะไรดีกว่ากัญชาอีกเยอะ” เรียวเริ่ม ‘เข้าเรื่อง’
“ไอ้โก้มันปากไม่ค่อยดี อย่าไปฟังมัน”
“หมายความว่าเขาแค่ล้อผมเล่นงั้นหรือ” เรียวตีหน้าซื่อ บอสไม่ตอบ เอื้อมมือไปแตะหน้าจอแผงควบคุมเครื่องเสียง เปลี่ยนเพลง หันมาถามเรียวว่าชอบเพลงใหม่หรือเปล่า เรียวบอกว่าชอบเพลงร๊อคจังหวะหนักๆ
“ไม่ค่อยจะเข้ากับหน้าตาเลยนะ” บอสอมยิ้ม
“ทำไมหรือครับ ใส่แว่นตากรอบดำแบบผมนี่ฟังเฮฟวี่ร๊อคแล้วมันแปลกมากเลยหรือ พี่เองก็ดูเป็นแบดบอยขนาดนี้ยังฟังเพลงป๊อบหวานๆ เลย คนเราน่ะ มันมีอะไรซ่อนอยู่ในตัวเย๊อะ” เรียวขึ้นลากเสียงสูง “ต้องค้นหากันหน่อย”
“ให้พี่ค้นหาหนุ่มได้ไหม” บอสหันมาถาม แววตาวิบวับ ยิ้มบางๆ
...เด็กคนนี้บางมุมก็ดูอ่อนโยนเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าไม่ได้มาอยู่ในโลกแบบนี้ คงจะเป็นคนน่ารักพอสมควร...
เรียวคิดอะไรบางอย่างในใจ นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วตอบยิ้มๆ
“ถ้าอยากค้นก็ไม่มีปัญหาครับ”
“พี่ชอบหนุ่มนะ” บอสพูดขึ้นมา “เมื่อกี้ทำหน้าเฉยๆ ใส่เพราะคิดว่าหนุ่มเป็นแฟนใหม่เฮียศรันย์ ไม่อยากยุ่ง เดี๋ยวผิดใจกัน”
“ชอบแบบไหนครับ” เรียวถาม บอสหัวเราะออกมาดังๆ แล้วมือขึ้นผลักศีรษะของเรียวเบาๆ อย่างเอ็นดู ไม่ตอบคำถาม ลดความเร็วรถลง ขับไปเรื่อยๆ เงียบๆ ราวกำลังขับรถกินลมชมเมือง
เรียวยกมือขึ้นกอดอก โคลงศีรษะไปมาเป็นจังหวะเข้ากับเสียงเพลง พร้อมกับร้องตามเป็นบางท่อน ปล่อยให้บอสขับรถไปเงียบๆ จนเพลงจบ บอสจึงพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า
“เรื่องยา อย่าไปลองเลย”
“อะไรนะ” เรียวหันหน้าไปมองคนพูด เลิกคิ้ว ทำหน้าว่าได้ยินไม่ชัด
“บอกว่าเรื่องยา อย่าไปลอง เรายังเด็ก” บอสพูดซ้ำช้าๆ
“สิบเก้านี่ก็ไม่เด็กแล๊ว” เรียวยักไหล่ สายหัวดุกดิก พยายามทำท่าทางน่ารักให้แนบเนียน
“เชื่อเถอะ มันไม่ดีหรอก มันทำให้โทรม หน้าใสๆ แบบหนุ่ม น่าเสียดาย ปากแดงๆ แบบนี้” บอสยื่นนิ้วมาแตะริมฝีปากของเรียวแล้วไล้นิ้วเบาๆ สัมผัสอ่อนโยน “ใช้ยาไม่กี่เดือนหรอก เดี๋ยวก็คล้ำ รู้ไหม คนที่ใช้ยา ไม่ถึงสองปี โทรมกลายเป็นเหมือนผีดิบแทบทุกคน”
“น่าเชื่อไหมเนี่ย คำแนะนำจากหัวหน้าแก็งค์แข่งรถ” เรียวหัวเราะเบาๆ “ผมนึกว่าขาซิ่งกับขาเสพ นี่เป็นของคู่กัน แต่พี่กลับมาสอนผม”
“ขาซิ่งนะใช่ แต่ขาเสพไม่ใช่”
“ไม่เสพแต่ส่ง” เรียวพูดแล้วหัวเราะเสียงดัง แล้วหันไปหาบอส ยกมือขึ้นแตะต้นแขน บีบเน้นเบาๆ “ล้อเล่นนะครับ อย่าโกรธผมนะ”
ยังไม่ทันที่บอสจะตอบอะไร เสียงวิทยุสื่อสารก็ดังขึ้น ลูกน้องของบอสรายงานว่าโดนตำรวจไล่จับ ขณะนี้ทุกคนแตกกระเจิง กำลังพากันหนีอย่างสุดชีวิต
“สลายตัวโว้ย บอกให้พวกนั้นมาเอาเงินคืนที่เก่าเวลาเดิม พวกเอ็งอย่าเสือกให้ถูกจับได้ล่ะ” บอสสั่งการแล้วยุติการติดต่อ จากนั้นหันมาพูดกับเรียวด้วยน้ำเสียงต่างจากที่เพิ่งใช้กับลูกน้องเมื่อครู่  “หิวไหม อยากดื่มอะไรหรือเปล่า แวะปั๊มหน่อยนะ”

เรียวยืนพิงอยู่ข้างรถของบอส กดอ่านข้อความสั้นที่ส่งเข้ามาจากศรันย์บอกว่าให้โทรศัพท์หาตัวเองด่วน เรียวจึงโทรศัพท์กลับไป แต่เมื่อศรันย์รับสายก็เริ่มบ่นทันที
“โทรหาเป็นล้านครั้งแล้วมั๊ง กำลังขึ้นสวรรค์อยู่หรือไงครับคุณหมวด ถึงไม่รับโทรศัพท์” ศรันย์พูดด้วยเสียงค่อนข้างหงุดหงิด “คุณบอกให้ไอ้บอสมาส่งที่หน้าบิ๊กซีบางใหญ่นะ ผมจะรออยู่ที่ป้ายรถเมล์ จะได้กลับกันเสียที ง่วงแล้ว”
“ง่วงคุณก็กลับไปก่อน”
“อ้าว ได้ไง ผมเป็นคนมีความรับผิดชอบนะคุณ พาคุณมาแล้วก็ต้องพาคุณกลับสิ ไม่อยากจะโดนใครบางคนมาค่อนขอดทีหลังว่าโดนทิ้งขวาง” ศรันย์ทำเสียงน่าหมั่นใส้ เรียวนึกภาพตาม ในความคิดเห็นใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายทำหน้ายับยู่ยี่ กรอกตาไปมา เบ้ปากอย่างไม่สบอารมณ์แบบที่เห็นอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่รู้จักกัน
...ตั้งแต่รู้จักกับนายศรันย์พูดมากเจ้าปัญหาคนนี้ก็สนุกดีเหมือนกันนะ ไม่เบื่อดี ป่านนี้คงหงุดหงิดแทบแย่ที่ต้องขับรถหนีตำรวจ ไหนจะโทรศัพท์ติดต่อเราไม่ได้อีกต่างหาก...
“ผมยังไม่อยากกลับ”
“นี่คุณหมวด มันตีสามกว่าแล้วนะ” ศรันย์โวย
“อ้าว ตีสามแล้วเป็นไง คุณเป็นพ่อผมหรือต้องบังคับให้ลูกกลับบ้าน” เรียวพูดกวน
“สงสัยติดใจเด็กล่ะสิท่า อย่าลืมนะ คุณหมวดก็อายุไม่ใช่น้อยแล้ว”
“ไม่เยอะเท่าคุณก็แล้วกัน” เรียวรีบสวนกลับ “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมกลับเองได้ ไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสานะ แต่ว่าก็ขอบใจที่พามา ชาตินี้จะไม่ลืมบุญคุณเลย”
“ถ้างั้นตอบแทนบุญคุณผมด้วยการเลี้ยงข้าวซักมื้อนะ” ศรันย์พูดเสียงอ่อนลง “พรุ่งนี้จะไปรับที่ สน.”
“เฮ้ย อย่านะ ไม่ต้องเลย สะดวกเมื่อไหร่แล้วจะบอก ถ้าไม่บอกให้อยู่เฉยๆ อย่าได้โผล่หน้าไปเป็นเด็ดขาด พูดไม่ฟังพูดไม่เชื่อแล้วจะหาว่าไม่เตือน” เรียวรีบห้ามด้วยเสียงเฉียบขาด
“ว่าแล้วเชียวว่าต้องพูดแบบนี้”
“เอาล่ะ พอแค่นี้ก่อน เป้าหมายมาแล้ว” เรียวตัดบทแล้ววางสายทันทีเมื่อเห็นบอสออกมาจากร้านสะดวกซื้อและเดินเข้ามาหา ในมือถือกาแฟสองแก้ว
“ขอโทษนะไม่ได้ถามก่อนว่าจะเอาอะไร ดึกแล้วดื่มได้ไหม” บอสพูด
“ถ้าเป็นกาแฟดื่มได้ตลอดครับ” เรียวยื่นมือไปรับ “ขอบคุณนะครับพี่บอส พี่ดูแลผมดีมากเลย เพิ่งเจอกันครั้งแรก แต่พี่ก็ดีกับผมซะขนาดนี้”
“ถ้าไม่ชอบก็ไม่ทำแบบนี้หรอก” บอสพูดสั้นๆ ชี้นิ้วไปที่ประตูรถ เรียวยิ้มบางๆ แล้วเดินไปเปิดประตูขึ้นรถ พอบอสเปิดประตูด้านฝั่งคนขับก็ยื่นมือไปรับถ้วยกาแฟจากฝ่ายนั้นเพื่อให้ขึ้นนั่งและเตรียมตัวออกรถได้สะดวก บอสหันมายิ้มให้เล็กน้อยและถามว่าง่วงนอนหรือยัง เรียวส่ายหน้าช้าๆ
“ถ้างั้นไปจอดคุยกันซักหน่อยนะ ไม่นานหรอก แล้วพี่จะไปส่งที่บ้าน” บอสหันไปรับถ้วยกาแฟจากเรียวหลังจากขับรถออกถนนใหญ่ ตรงไปได้ประมาณห้ากิโลเมตรก็เลี้ยวซ้าย ตรงเข้าถนนอีกเส้น แล้วผ่านทางแยกอีกสองแยกแล้วเลี้ยวอีกครั้ง ขับไปตามถนนเล็กๆ ซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว จนมาถึงทุ่งโล่งกว้างจึงจอดรถ

เมื่อจอดรถ บอสก็ปิดเพลง ได้ยินเพียงเสียงเครื่องยนต์ทุ้มต่ำดังเบาๆ เพราะในห้องโดยสารกันเสียงได้ดีมาก บอกลดความเย็นเครื่องปรับอากาศในรถ เปิดไฟเก๋งดวงเล็กดวงเดียว
“ขอถอดแว่นหน่อยนะ” บอสเอนตัวเข้ามาใกล้ ยกมือทั้งสองข้างจับขาแว่นตากรอบสีดำของเรียว
“ผมใส่แว่นแล้วมันดูหน้าเด๋อด๋ามากเลยหรือครับ” เรียวยกนิ้วชี้ขวาขึ้นเกี่ยวกรอบแว่นเอาไว้ ดังจะแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่อยากถอด
“เปล่า แค่อยากจะเห็นหน้าชัดๆ” บอสปัดนิ้วของเรียวออกแล้วถอดแว่นจนได้ นั่งมองหน้าเรียวอย่างพิจารณา แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“พี่จะทำอะไร” เรียวพึมพำเบาๆ
...โดนจูบแน่เลยเรา...
เรียวคิดในใจ แล้วค่อยเอียงหน้าหนีพอเป็นพิธี บอสเอามือจับคางและตรึงเอาไว้ไม่ให้ขยับ
“ขอจูบหน่อย”
“ผม...” เรียวทำหน้าลังเล จากนั้นหลับตาปี๋ แล้วทำปากยื่นออกมาราวกับรอรับการจูบ
“ไม่ต้องทำปากจู๋ก็ได้ อยู่เฉยๆ” บอสหัวเราะเบาๆ เอามือแตะริมฝีปากของเรียว ไล้นิ้วเบาๆ ก่อนจะประทับรอยจูบลงมา แล้วค่อยๆ เบียดปากเน้นเพิ่มน้ำหนัก มือขวาค่อยๆ ลูบไล้ต้นคอของเรียว แล้วสอดเข้าไปใต้ท้ายทอย เรียวทำเสียงอู้อี้ ประหนึ่งว่าหายใจไม่ออก บอสจึงถอนปากออกแล้วบอกว่าอย่าเกร็ง
“พี่มีแฟนหรือยัง” เรียวถาม แกล้งทำเสียงเหนื่อยหอบ
“ยัง” บอสตอบเบาๆ แค่คำเดียว แล้วก้มหน้าลงอีก คราวนี้บดปากหนักหน่วงกว่าเดิม มือขวาลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกของเรียว สลับบีบเค้นกล้ามเนื้อหน้าอก แล้วลากมือลงไปตามสีข้าง
เรียวยกมือขึ้นดันอกของบอสเอาไว้เบาๆ มือที่วางทาบอยู่บนหน้าอกของอีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นแรงของหัวใจ มือของบอสไม่หยุดนิ่ง ลูบไล้ไปตามต้นแขนแกร่งของเรียว เลื่อนต่ำลงไปเกาะกุมมือเอาไว้ ก่อนจะดึงมือของอีกฝ่ายมาวางลงบนหน้าขาของตัวเองแล้วกดลงให้สัมผัสกับความเป็นชายของตนที่กำลังผงาดแกร่ง
บอสเริ่มดันลิ้นเพื่อลุกล้ำเข้าไปในปากของเรียวซึ่งพยามเม้มปากเอาไว้ แต่เขาไม่ลดละความพยายาม กดปากลงน้ำหนักมากกว่าเดิม พยายามเปิดปากของเรียวให้ได้จนในที่สุดก็สำเร็จ แต่เมื่อสอดลิ้นเปียกชื้นทว่าร้อนผ่าวเข้าไป เรียวก็เริ่มดิ้น พยายามเบี่ยงตัวและเอียงหน้าหนี
“พี่บอสครับ เดี๋ยวก่อน” เรียวพูดเสียงหอบ
“อือ” บอสคราง ยังพยายามตามบดปากเรียวให้ได้ มือขวาเอื้อมไปปรับเบาะให้เอนลง
“พี่บอส อย่า...” เรียวห้าม แต่บอสไม่ฟัง พยายามกดตัวเรียวให้ตรึงอยู่กับเบาะรถ
“พี่ขอหน่อยนะ” บอสพึมพำเสียงกระเส่า อารมณ์กระเจิดกระเจิง ลุกล้ำมากกว่าเดิม แต่เรียวยังคงขัดขืน จนในที่สุดบอสก็ถอนใบหน้าออกมา มองเรียวตาเยิ้ม หายใจแรงราวกับวิ่งมาหลายร้อยเมตร
“มันเร็วไปไหมครับ เราเพิ่งรู้จักกัน” เรียวทำหน้าอ้อนวอน “ผมขอโทษ คือว่าผมเอ่อ...”
“ไม่เป็นไร” บอสพูดเบาๆ “งั้นพี่ขอจูบเฉยๆ”
“จูบเฉยๆ แล้วทำไมต้องเอนเบาะลง”
“นอนจูบไม่ได้หรือ” บอสยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นอกของเรียว
“พี่กะจะฟันผมอย่างเดียวเลยใช่ไหม คงคิดว่าผมเป็นแค่ของเล่น” เรียวแกล้งทำหน้าตาน่าสงสาร
“เปล่า” บอสส่ายหน้าช้าๆ มองตาของเรียวนิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วดึงตัวกลับมาเอนหลังพิงเบาะของตัวเอง แหงนหน้าขึ้น กลั้นหายใจครู่หนึ่งราวกำลังหักห้ามใจแล้วผ่อนลมหายออกมาช้าๆ
“ผมขอโทษที่ยังให้พี่ไม่ได้” เรียวปรับเบาะขึ้นมา ยกมือขวาแตะต้นแขนซ้ายของบอสเบาๆ “ผมยังไม่พร้อม พี่อย่าโกรธผมนะครับ”
“จะโกรธทำไม” บอสตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ยังคงแหงนหน้าอยู่ ตาจับอยู่ที่แผ่นบังแดดเหนือกระจกหน้ารถ
“ผมกลัวว่าพี่จะโกรธที่ผมทำเล่นตัว มากับพี่แล้ว พอจะทำอะไรกันก็กลับปฏิเสธ พี่คงคิดว่า ถ้าไม่คิดจะยอมแล้วแกจะมาทำไมวะ” เรียวพูดเบาๆ สายตาจับอยู่ที่ไหล่ของบอส
“พี่เป็นคนชวนมานั่งรถเล่นเอง ไม่ต้องว่าตัวเองอย่างนั้น หนุ่มก็คงคิดว่าแค่จะมามั่งรถเล่นเฉยๆ ตามที่ถูกชวนใช่ไหมล่ะ” บอสหันมามองหน้าของเรียว มือดันคางให้เงยหน้าขึ้น “ไม่ต้องคิดมาก ความจริงไม่ต้องมีอะไรก็ได้ แค่มาเที่ยวด้วยกัน”
“ก็ไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียวหรอกครับ ผมแค่เอ่อ...แค่อยากขอเวลาซักหน่อย แบบนี้มันเร็วไป”
“โอเค” บอสหัวเราะเบาๆ
“ตกลงพี่ไม่โกรธผมใช่ไหม” เรียวยิ้มกว้าง ทำหน้าดีใจ
“ทำไมต้องโกรธ” บอสตบแก้มเรียวเบาๆ “แค่นี้ก็ชอบจะแย่อยู่แล้ว”
“พี่นี่ดูอ่อนโยนจังเลย ไม่เหมือนกับตอนที่เห็นตอนแรก นึกว่าจะออกแนวโหดๆ”
“บางที คนเราก็ดูจากภายนอกอย่างเดียวไม่ได้หรอก” บอสยักไหล่
“ใครจะไปคิดเป็นอย่างอื่น ก็เห็นว่าเป็นหัวหน้าแก็งค์ซิ่งรถ เห็นในหนัง พวกซิ่งรถมักจะเล่นยาด้วย เผลอๆ จะขายหรือส่งยาด้วยอีกต่างหาก น่ากลัวจะตาย แต่พออยู่กันสองต่อสอง ไม่เห็นจะน่ากลัวเหมือนในหนังเลย ออกแนวพระเอกมากกว่า” เรียวแสดงท่าทางอ่อนต่อโลก
“กลัวหน่อยก็ดี” บอสหัวเราะในลำคอ
“งั้นพวกพี่ก็...” เรียวแกล้งทำหน้าตกใจ “แต่ผมว่าไม่หรอก เพราะพี่เป็นคนเตือนผมเองว่าไม่ให้ลองยา แล้วพี่เองก็เป็นแค่ขาซิ่ง ไม่ใข่ขาเสพ คงไม่ได้ส่งยาหรอก”
“ขี้สงสัยจริงเลย” บอสขยี้ศีรษะเรียวแล้วถามว่า “ทำไมตัดผมซะเกรียน”
“สบายหัวดีครับ เข้ากับแว่นตาด้วย” เรียวหัวเราะชอบใจ หยิบแว่นขึ้นมาสวม
“กลับกันหรือยัง เดี๋ยวไปส่งที่บ้านนะ” บอสถามขึ้นมา
“พี่อยากกลับแล้วหรือครับ”
“ยัง แต่เผื่อหนุ่มอยากกลับ” บอสส่ายหน้า
“ความจริงพรุ่งนี้ผมมีเรียนตอนเช้า แต่คิดว่าโดดดีกว่า ตอนบ่ายค่อยไป อยากนั่งคุยกับพี่นานๆ สบายใจดี เหมือนได้คุยกับพี่ชาย”
“พี่ไม่เป็นพี่ชายนะ” บอสรีบพูดขึ้นมา โน้มตัวเข้าใกล้ จ้องตาเรียว “พี่จะจีบ”
/// จบบทที่ 7 ///
[/size]
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามอ่านะครับ
สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับ  :L1: :L2: :3123:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เรียวอ่อยเก่งนะ แต่อ่อยกับคนอื่นตลอดแล้วลุงของช้านล่ะ

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
เชียร์พี่บอสแทนได้ไหมเนี่ย ดูละมุน 555555

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เพิ่งเห็นชื่อคนแต่งค่ะ รีบติดตามด่วนๆ  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ้ยยยย นุ้งเรียว ระวังโดนคุณศรัณย์งอนเอานะ 5555555555555555 กับคนอื่นพี่บอสอย่างงั้น พี่บอสอย่างงี้ ทีกับอีกคนเสียงแข็งเชียว

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ฮอตจริงๆเลย :hao6:
รอตอนใหม่นะคะะ สนุกมาก

ออฟไลน์ KATAWOOT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
โอ้ยยยย นุ้งเรียว ระวังโดนคุณศรัณย์งอนเอานะ 5555555555555555 กับคนอื่นพี่บอสอย่างงั้น พี่บอสอย่างงี้ ทีกับอีกคนเสียงแข็งเชียว
ต้องเข้าใจว่ามันแค่เรื่องงาน  :z1:
ขอบคุณนะครับที่เข้ามาอ่านและเมนท์ นึกว่าจะไม่มีใครอ่านซะแล้ว หวังว่าทุกคนคงได้ฉลองวาเลนไทน์สนุกกันทุกคนนะครับ เดี๋ยวค่ำๆ มาต่อ ขอสอนกลางวันซะหน่อยเพราะวาเลนไทน์เมื่อคืนฉลองหนักไปหน่อย  :z1:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
หมวดมีสกิลจีบหนุ่มที่เชี่ยวชาญมากค่ะ

ออฟไลน์ KATAWOOT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
บทที่ 8

อีกไม่ถึงสองร้อยเมตรก็จะถึงประตูทางเข้าสถานีตำรวจ...ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของหมวดเรียว ศรันย์เปลี่ยนช่องทางเดินรถมาอยู่ช่องซ้ายสุดและลดความเร็วลง วันนี้เขาตั้งใจจะมาทวงคำสัญญาจากหมวดเรียวเรื่องที่จะเลี้ยงอาหารหนึ่งมือ
ความจริงผู้หมวดหนุ่มเป็นคนบอกว่าจะติดต่อไปเอง และห้ามไม่ให้มาหาที่สถานีฯ แต่ศรันย์ไม่สน หลายวันแล้วที่ไม่ได้เห็นหน้ากวนๆ ของหมวดเรียว ทำให้รู้สึกเบื่อยิ่งนัก เขายอมรับว่าหมวดเรียวทำให้ชีวิตเขามีสีสัน
ขณะนั้นเอง ศรันย์ก็เห็นร่างอวบๆ ของใครคนหนึ่งกำลังเดินมาบนทางเดินข้างถนน จำได้ทันทีว่าคือหมวดชินวัฒน์ คู่หูของหมวดเรียว ศรันย์จึงจอดรถชิดข้างทางแล้วร้องเรียก
“หมวดเรียวไม่อยู่ ไปทำงานให้สารวัตร” ชินวัฒน์รีบบอกเมื่อศรันย์ถามถึงเพื่อน
“ว้า แย่จัง เสียเที่ยวจริงๆ เลย” ศรันย์ถอนหายใจเฮือก
“คุณหาเรื่องมาโรงพักบ่อยๆ แบบนี้ทำไมหรือ ชอบหมวดเรียวใช่ไหม” ชินวัฒน์ยักคิ้ว
“เปล่า ผมแค่อยากเป็นพลเมืองดี” ศรันย์ยักไหล่
“จริงหรือ แล้วที่จงใจจอดรถที่ห้ามจอด ขับรถเร็วเกินกำหนด กระเป๋าตังค์หายซ้ำซากนี่คืออยากเป็นพลเมืองดีใช่ไหม” ชินวัฒน์ทำหน้ารู้ทัน
“แหมคุณหมวดนี่ก็หัวไวจริงๆ” ศรันย์ส่ายหน้า “อ้อ ผมขอถามหน่อย ทำไมติดต่อหมวดเรียวไม่ได้ซักที เบอร์ 081-827xxx เนี่ยโทรไปเท่าไหร่ก็เอาแต่ปิดเครื่อง หมวดมีเบอร์ใหม่ไหม หมวดเรียวคงไม่ได้มีเบอร์โทรอยู่เบอร์เดียวแน่ๆ ผมขอเบอร์ส่วนตัวได้ไหมล่ะ ไม่ใช่เบอร์เรื่องงาน นี่คงให้เบอร์กิ๊กก๊อกอะไรผมมาก็ไม่รู้ ประมาณว่าใช้วันเดียวทิ้ง”
“มาขอเบอร์ส่วนตัวแบบนี้มันง่ายไปหน่อยมั๊ง” ชินวัฒน์ทำหน้ายียวน “คุณลองใช้ความพยายามหน่อยสิ คิดจะจีบตำรวจทั้งที มีมานะหน่อย”
“อืม ถ้างั้นไม่เอาก็ได้ ถ้าหมวดเรียวไม่อยู่ ผมก็ไปหาผู้กองหน้าดุคนนั้นดีกว่า จะได้ร้องเรียนเรื่องถูกตำรวจแกล้ง วิทยุบอกเพื่อนที่ตั้งด่านอยู่ท้องที่อื่นดักจับรถผมและให้ผมมาเสียค่าปรับท้องที่นี้ เข้าข่ายใช้อำนาจโดยมิชอบหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วก็มีอีกเรื่อง คือสมคบคิดกับหมวดเรียว แกล้งขโมยรถผมไปขับ แล้วไปจอดติดป้ายประกาศขายทิ้งไว้ แล้วก็...”
“เฮ้ย อย่านะ” ชินวัฒน์รีบกระโดดเข้ามาแทบจะเกาะประตูรถของศรันย์
“งั้นก็เอาเบอร์โทรมา” ศรันย์เค้นเสียง
“จำไม่ได้”
“ผมไม่เชื่อหรอก ซี้ปึ๊กกันขนาดนั้น ทำไมจะจำไม่ได้ ว่าไง จะให้ผมไปโรงพักตอนนี้เลยไหม ยิ่งเบื่อๆ อยู่ด้วย เวลาเบื่อสุดขีด ผมมักจะทำอะไรไม่ยั้งคิดนะหมวดนะ แล้วที่จะเอาเบอร์เนี่ยก็ใช่จะเอาเบอร์โทรไปเสนอขายประกันอะไรพรรค์นั้นซักหน่อย จะโทรไปเตือนเรื่องแก็งค์แข่งรถต่างหาก ว่าไง อย่าชักช้าสิคุณหมวด จอดรถข้างทางนานๆ แบบนี้เกิดผมถูกจับจะว่ายังไง ถ้ายุ่งยากนัก ผมจะไปรายงานให้ผู้กองหน้าดุคนนั้นฟังแทนก็ได้ ไม่ทงไม่โทรหาหมวดเรียวแล้ว ยุ่งยากนัก”
“บังคับขู่เข็ญเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ชินวัฒน์หน้างอ บ่นอุบอิบ “ได้ทีขี่ม้าไล่เลยนะ”
“เบอร์ครับเบอร์” ศรันย์ยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นเตรียมพร้อมกดบันทึกหมายเลข เมื่อชินวัฒน์บอกหมายเลขใหม่เสร็จแล้วจึงพูดย้ำอีกครั้งว่าเบอร์ที่ให้มาเป็นเบอร์จริง ไม่ใช่เบอร์หลอก
“ไม่จริงให้มาบีบคอตายเลยเอ๊า แต่หมวดเรียวจะรับไม่รับนี่ก็อีกเรื่องนะ จะมาโวยวายกันไม่ได้”
///
ชินวัฒน์ไปคุยกับเรียวและบอกว่าศรันย์ดูห่วงใย และปรึกษาว่าควรเอาเรื่องการแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มนักแข่งรถเข้าที่ประชุมจะดีกว่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นการขยายผลจากการปลอมตัวเข้าไปสืบในมหาวิทยาลัย เรียวขอตัดสินใจ แต่คืนนี้จะขอไปกับบอสเสียก่อน
“นี่หมวดเรียว ถามจริงๆ เถอะ ชอบคุณศรันย์ปากมากนี้บ้างไหม ถ้าไม่ชอบก็อุ้มไปซ้อมซะเลย เอาให้น่วม ผมจะชวนหมวดอั่งเปาฝ่ายงานจราจรมาช่วยอีกคน จะได้เข็ดหลาบ ไม่มาตามยุ่งกับหมวดอีก” ชินวัฒน์ยื่นหน้าเข้าไปถามเรียว น้ำเสียงจริงจัง ต่างกับแววตา
“อย่ายุ่งเลย อยู่เฉยๆ
“ไม่ยุ่งได้ยังไง เพื่อนรักกัน ตอนเรียนสามพรานมีอะไรเราก็ช่วยกันมาตลอด เราสามคน คุณ ผม หมวดอั่งเปา ถ้ารำคาญอีตาศรันย์นี่ จัดการซะเลย เอาให้นอนหยอดน้ำข้าวต้มซักอาทิตย์”
“ไม่ได้รำคาญ” เรียวกระชากเสียงตอบ
“อ้าว ไม่รำคาญแล้วทำไมหลบหน้าเขา” ชินวัฒน์ทำหน้าไม่เข้าใจ
“ไม่ได้หลบ แค่ยังไม่อยากเจอ ตอนนี้ทำงานอยู่ เดี๋ยวจะเสียเรื่อง”
“แต่ผมว่าดูๆ ไปเขาอยากช่วยหมวดนะ อยากช่วยเพราะอยากเป็นพลเมืองดี หรืออยากช่วยเพราะอยากอยู่ใกล้ๆ อันนี้ก็ต้องคิดกันหน่อย”
“หุบปากได้แล้วไอ้หมวดลูกชิ้น รีบทำงานต่อ อย่าพูดมาก เดี๋ยวปากมีสิ” เรียวถลึงตาใส่เพื่อน
“แล้วคืนนี้ก็จะไปแข่งรถอีกใช่ไหม มันจะได้เรื่องเร๊อ เผลอๆ จะเสียตัวฟรีเปล่าๆ” ชินวัฒน์พูดแล้วถอนหายใจ
“ไปหาข่าวโว้ย ไม่ใช่ไปเสียตัว” เรียวผลักหัวคนที่แกล้งทำหน้ากังวลใจแทน
“ตกลงจะให้คุณศรันย์มารับใช่ไหม”
“ไม่ เดี๋ยวน้องบอสมารับ”
“ว่าแต่ว่าน้องบอสอายุเท่าไหร่วะ เพิ่งเรียนปีสี่ ก็คงแค่ยี่สิบเอ็ดปี เก่งแฮะ อายุแค่นี้เป็นหัวหน้าแก็งค์ เป็นเจ้ามือรับพนันแข่งรถ ส่งยาด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ เผลอๆ ส่งเด็กด้วย”
“หุบปากไปเลยได้หมวดลูกชิ้น รีบทำงานต่อให้เสร็จ”
“ช่วยกันทำหน่อยสิ เค้าทำอยู่คนเดียว ตัวเองมัวแต่ไปทำอะไรที่ผู้บังคับบัญชาไม่ได้สั่ง เกิดสารวัตรท่านรู้เข้าจะซวยนะ”
“สารวัตรจะรู้ก็เพราะแกปากมากอยู่นี่ล่ะไอ้ชิน เงียบ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น” เรียวตะคอก
“ก็ได้ งั้นมีอะไรไม่ต้องมาถาม ไม่ต้องมาบอก ไม่ต้องมาปรึกษา” ชินวัฒน์แกล้งทำเสียงงอน สะบัดหน้า เรียวมองอย่างขำๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปชงกาแฟสองถ้วย
ถ้วยหนึ่งสำหรับตัวเอง อีกถ้วยสำหรับเพื่อนคู่หูขี้งอน เขากับชินวัฒน์รู้จักกันมาตั้งแต่วันที่ไปสมัครสอบเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และกลายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่วันนั้น เมื่อเรียนเทอมแรกก็ได้ล่วงรู้ความลับของกันและกันและช่วยเหลือกันหลายครั้ง ยิ่งทำให้สนิทกันเพิ่มขึ้นอีก ครั้นเรียนจบ แม้จะแยกสถานที่ทำงานกันแค่เพียงปีเดียวก็ได้กลับมาทำงานร่วมกัน แทบจะไม่เคยห่างกันเลย
///
ศรันย์โทรศัพท์ถึงเรียวอยู่หลายครั้งแต่กลับได้ยินแต่เพียงเสียงกวนๆ ของเจ้าของโทรศัพท์บอกให้ฝากข้อความเขาจึงกลับอู่อย่างเซ็งๆ เดินตรวจดูความเรียบร้อยพอเป็นพิธีแล้วเข้าไปในห้องทำงาน ไม่นาน สุวัฒน์ลูกน้องคนสนิทก็เปิดประตูเดินเข้ามา ขออนุญาตกลับก่อนเวลาเลิกงานเพราะจะต้องไปรับแฟนเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงฉลองสมรสของเพื่อน ศรันย์พยักหน้าอย่างเนือยๆ พร้อมกับล้วงกระเป๋าหยิบเงินยื่นให้หนึ่งพันบาทแล้วบอกว่าเป็นรางวัลที่ดูแลอู่อย่างดี
“เฮียเป็นอะไรหรือเปล่า” สุวัฒน์ถาม แกล้งทำหน้าตาแสดงความห่วงใย
“เอ็งอย่าวอน เดี๋ยวเอาเงินคืนและไม่ให้กลับก่อนเวลาซะเลย” ศรันย์รู้ทัน
“ครับๆ ไม่กวนแล้วครับ”สุวัฒน์พยักหน้าแล้วรีบเดินไปเปิดประตู ก้าวออกไปนอกห้อง และเมื่อแน่ใจว่าอยู่ในระยะที่ห่างเพียงพอสำหรับความปลอดภัยแล้วจึงพูดขึ้นมาว่า “คุณพีทมานะครับ เพิ่งจอดรถหน้าอู่ กำลังจะเดินเข้ามา ท่าทางกำลังต้องการผู้ชาย”
“ไอ้สุวาน” ศรันย์ตะโกน มือจับนิตยสารขว้างมาที่ประตูทันที

 พีทมาขอความช่วยเหลือให้ศรันย์ไปเป็นเพื่อนเพราะมีคนจะซื้อรถนิสสันสกายไลนด์ของตัวเองและต้องการลองขับ ศรันย์ตอบตกลงเพราะพอจะรู้จักคนที่จะซื้อรถของพีทอยู่บ้าง
“นัดเจอกันที่ลานแข่งสมาคมบัวลอยไข่หวานคืนนี้ห้าทุ่ม” พีทบอกเวลาและสถานที่นัดหมายให้ศรันย์ทราบ
“คนที่จะซื้อที่ชื่อแจ๊คกี้นี่ใช่คนเดียวกับแจ๊คกี้กลุ่มแบล็กฮอว์กหรือเปล่า” ศรันย์ถาม
“ใช่ครับ แต่ตอนลอง เราสองคนนั่งไปด้วยนะครับ ผมไม่ค่อยไว้ใจแจ็คกี้เลย ถึงได้มาขอให้คุณไปเป็นเพื่อน”
“คุณพีทก็น่าจะรู้ พวกแบล็กฮอว์กนี่แสบๆ ทั้งนั้น” ศรันย์เตือน
“ทำไงได้ครับ เขาจะซื้อรถนี่นา แล้วท่าทางเป็นคนที่มีแนวโน้วที่สุด ผมไม่อยากเก็บสกายไลน์เอาไว้แล้ว จากัวร์ก็ไม่อยากเก็บ ผมจะไปซื้อมัสแตง” พีทเอนตัวมากอดแขนศรันย์เอาไว้ เกลือกหน้ากับต้นแขนของชายหนุ่ม “แล้วไปขับด้วยกันนะครับคุณศรันย์ รถแรงๆ ต้องได้ผู้ชายแรงๆ แบบคุณขึ้นขับ”
“อีกแล้วหรือ” ศรันย์บ่น “ชวนไปขับรถทีไร ผมเหนื่อยแทบหมดแรงทุกที”
“อย่าเพิ่งบ่นสิครับ ยังไม่แก่ซักหน่อย” พีทหัวเราะชอบใจ มือลูบไล้แผ่นอกกว้างของศรันย์ “หนุ่มแน่นกำยำล่ำสั่นลีลาดีแบบนี้ไง ผมถึงอยากชวนไปขับรถ”
“อย่านะคุณพีท นี่ห้องทำงานผมนะ เกิดพวกพนักงานเปิดเข้ามาเห็น มันน่าเกลียด” ศรันย์จับข้อมืลของพีทเอาไว้เพราะกำลังโดนลุกล้ำ มือของคนที่ชอบชวนเขาไป ‘ขับรถแรง’ เริ่มสอดเข้าไปใต้สาบหน้าของเสื้อเชิร์ต
“พักหลังนี่ทำเป็นหวงตัว แต่ก่อนไม่เห็นบ่น” พีทยิ้มแล้วขยับออกห่างเล็กน้อย
“แต่ก่อนกับเดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนกันนี่ครับ ผมกำลังปรับปรุงตัวเอง”
“ใคร บอกหน่อยสิ คุณกำลังจีบใครอยู่ ถึงต้องเคลียร์ตัวเอง” พีทถาม
“คุณไม่รู้จักหรอก ช่างเถอะครับ” ศรันย์ลุกขึ้น “ผมจะไปเร่งให้เด็กซ่อมจากัวร์คุณให้เสร็จนะ อยู่ที่อู่นานแล้ว ไม่มีที่จะเก็บรถ คุณก็จะได้ประกาศขายซะที”
ศรันย์พูดเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องทำงานไปสั่งการให้ช่างจัดการกับรถจากัวร์ของพีทให้เสร็จภายในเร็ววัน
เขาอยากจะออกห่างจากพีท เพราะอะไรนะหรือ ที่พีทถามเมื่อครู่นี้ว่ากำลังจีบใครอยู่ ถึงต้องเคลียร์ตัวเอง คำตอบนั้นยังไม่แน่ชัด
///
พีทกับศรันย์ยืนรอแจ๊คกี้คนที่จะซื้อรถอยู่ที่ลานกว้างกลางหมู่บ้านร่างซึ่งเป็นที่นัดพบประจำของกลุ่มแข่งรถที่ใช้ชื่อว่าสมาคมบัวลอยไข่หวาน
“ไม่ได้มานานแล้ว เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน” พีทมองไปรอบๆ “นึกถึงตอนที่เราเจอกันครั้งแรกก็ขำนะ คุณซ่าส์มากเลย ใส่เสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์ดริฟท์รถโชว์ คุณรู้ไหม ตอนนั้นที่ผมมาก็เพราะอยากรู้ว่าไอ้สมาคมแข่งรถชื่อตลกๆ แบบนี้มันเป็นยังไง พอมาแล้วก็ติดใจเพราะคุณนี่ล่ะ เฮ้อ ต่อจากนี้คงไม่ได้ทำอะไรสนุกๆ แบบนั้นอีกแล้ว”
“ผมก็ไม่ได้มาบ่อยหรอกนะ” ศรันย์ออกตัว
“รู้แล้วว่าอายุเกิน” พีทหัวเราะขำ ศรันย์มองตาค้อนเพราะโดนล้อ
“โน่นไงแจ๊คกี้มาโน่นแล้ว คุณนั่งข้างหน้า ผมนั่งเบาะหลัง เผื่อฉุกเฉิน” ศรันย์ชี้มือไปยังชายร่างหนาคนหนึ่งซึ่งกำลังเดินตรงมาหาเขาทั้งสองคน
“ขอบคุณนะครับคุณศรันย์ที่มาเป็นเพื่อน” พีทหันมายิ้มให้
“ไม่เป็นไรครับ” ศรันย์ตอบ

แจ๊คกี้ขับรถออกมาจากจุดนัดพบ ใช้ความเร็วปานกลางมุ่งตรงออกนอกเมือง และเมื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนวงแหวนรอบนอกจึงเร่งความเร็วสุดกำลัง
พีทถามความพึงพอใจ คนลองขับชมว่ารถขับดีและถูกใจมากและต่อราคา พีทยอมลดให้ห้าหมื่นบาท
“ขอพี่ตัดสินใจซักอาทิตย์นะ แต่ว่าช่วงนี้พี่ขอเอารถไปลองขับซักสามสี่วันได้ไหม อยากจะให้เท้ามันคุ้นกว่านี้หน่อย จะได้ทดสอบให้แน่ใจ พี่รู้สึกว่าว่าครัชมันลึกๆ ยังไงก็ไม่รู้ กะจังหวะไม่ค่อยได้เลย ถ้าได้ขับต่อๆ กันซักสามสี่วันน่าจะดี ตัดสินใจได้ง่ายเข้า”
“ขับไปนานๆ ก็คุ้นเองครับ พี่ปรับครัชซักหน่อยก็ได้แล้ว” พีทตอบ “แต่ว่าเรื่องที่จะเอาไปลองขับหลายๆ วันนี่ผมไม่สะดวก ผมยังเข็ดตอนที่ขายเบ็นซ์ไม่หาย รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ตอนนั้นโดนตำรวจไถตั้งหลายหมื่น”
“ทำไมหรือ” ศรันย์ถาม
“คนที่จะซื้อเอาไปส่งของนะสิ เจอด่านตำรวจ ซวยไปเลย กว่าจะเคลียร์ได้” พีทตอบเสียงเซ็งๆ
“โธ่คุณพีท พี่รับรองว่าไม่มีปัญหาแน่ๆ พี่ขับคนเดียว ไม่ให้เสียมาถึงคุณพีทหรอก ไม่เอารถไปทำอะไรแบบนั้นแน่นอน เอารถไปลองขับทดสอบจริงๆ จังๆ แบบใช้ส่วนตัวจริงๆ รับรองว่าไม่เอาไปทำงาน”
“พี่ส่งด้วยหรือ” ศรันย์ถามแทรกขึ้น ทำเสียงแปลกใจเล็กน้อย แต่หน้าตาแสดงว่าสนใจ “มีทุกอย่างหรือเปล่า นี่ผมเบื่อๆ พวกเจ้าบอสแล้วนะเนี่ย ของขาดอยู่เรื่อย”
“คุณศรันย์เล่นด้วยหรือ” พีทหันไปถามศรันย์อย่างไม่เชื่อหู
“นิดหน่อย นานๆ ที แต่ส่วนมากเพื่อนๆ ผมฝาก” ศรันย์สร้างเรื่องขึ้นมา เขาอยากจะรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบอส และคิดว่าแจ๊กกี้อาจจะรู้อะไรบ้าง
“ได้ยินมาว่าบอสจะเลิกแล้วนะ ไม่รู้ทำไมคิดจะล้างมือ แต่ผมว่าเด็กมันใจไม่ถึงพอ หรือไม่ก็แค่ลองทำเป็นงานอดิเรกแค่เดี๋ยวเดียว ลูกคนรวยนี่นะ เบื่อง่าย หมดสนุกแล้วก็เลิก ถ้าคุณศรันย์อยากได้มาเอาที่ผมดีกว่า รับรองคุณภาพทุกอย่าง สินค้าไม่มีขาดแน่นอน คุณพีทล่ะ สนใจบ้างไหม พี่ซื้อรถคุณพีท แล้วคุณพีทก็อุดหนุนพี่หน่อย”
“ให้ตกลงซื้อจริงซะก่อนเถอะครับ โอนเล่มเมื่อไหร่ ผมจะอุดหนุนซักหมื่นสองหมื่น เอาไปฝากเพื่อน” พีทพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
“ตกลงเรื่องเอารถไปลองขับจะว่าไง” แจ๊คกี้วกกลับเข้ามาเรื่องรถ
“ไม่สะดวกจริงๆ ครับพี่ ตั้งหลายวัน มันนานไป”
“โธ่ รถมันไม่ใช่ราคาน้อยๆ นะคุณพีท ต้องลองให้แน่ใจหน่อยว่ามันจะชอบจริงๆ เพราะถ้าพี่ซื้อ มันจะอยู่กับพี่ไปอีกนาน”
“ราคาไม่น้อย แต่พี่ก็หาเงินได้ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ส่งแต่ละรอบคงเป็นแสนๆ ล่ะมั๊ง” พีทยังคงหัวเราะ “เอาอย่างนี้ อยากลองเมื่อไหร่บอกผม จะเอามาให้ขับจนพอใจ แต่ลองแล้วผมต้องเอารถกลับ เพราะผมต้องใช้รถ”
“มีหลายคันไม่ใช่หรือ” แจ๊คกี้ท้วง
“มีคันนี้กับจากัวร์แค่สองคันเอง คันอื่นก็รถที่บ้าน ฮอนจ้าแจ๊สเอาไว้แค่ไปจ่ายตลาดกับแม่ ผมทนขับไม่ไหวหรอก จากัวร์ก็ซ่อมไม่เคยเสร็จซะที นี่ไงเจ้าของอู่” พีทเอียงศีรษะชี้ไปที่ศรันย์ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางเบาะหลัง “ขนาดสนิทกับเจ้าของอู่ก็ยังไม่ได้รถซะที น่าตีนัก แต่สกายไลน์พี่ไม่ต้องห่วงนะ คันนี้ไม่เคยเสีย ไม่เคยชน ไม่เคยอะไรทั้งสิ้น สภาพเยี่ยมเพราะผมดูแลดีมาก พี่ได้ไปแล้วจะไม่เสียดายเงินเลย “
///
หลังจากให้แจ็คกี้ลองรถเกือบหนึ่งชั่วโมง พีทกับศรันย์ก็กลับมาที่ลานกว้างกลางหมู่บ้านร้างซึ่งเป็นจุดนัดพบกันในตอนแรก แจ๊คกี้ขอเวลาตัดสินใจและจะให้คำตอบในวันพุธหน้า และหากอยากลองขับอีกก็จะติดต่อนัดหมายกับพีทอีกครั้ง
“คิดว่าเขาจะซื้อไหมครับ” ศรันย์ถามพีทหลังจากที่แจ็คกี้ขับรถออกไปแล้ว พีทยักไหล่ ไม่ตอบออกมาเป็นคำพูด ท่าทางไม่กังวลใจเท่าใดนักว่าจะขายรถได้หรือไม่ได้
“มีคนสนใจอยู่อีกคน ลูก ส.ส. สุชาติ แต่เงินเขาไม่ถึง ต้องขอพ่อเพิ่ม ผมไม่ค่อยอยากขายให้เด็กหรอกครับ เสียเวลา กว่าจะจบเรื่อง ถ้าแจ๊คกี้ไม่เอาผมก็จะเก็บเอาไว้ก่อน ถึงปลายปีค่อยว่ากันอีกที”
ศรันย์พยักหน้ารับฟังแล้วหันไปรอบๆ ลานกว้าง มีรถทยอยเข้ามาเรื่อยๆ จนเกือบเต็มลาน ไม่นานเขาก็เห็นรถของบอส
“สมาคมบัวลอยไข่หวานนี่ครึกครื้นกว่าเดิมเยอะเลยนะครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะเยอะขนาดนี้ ตอนนั้นมีแค่สิบกว่าคัน” พีทมองไปรอบๆ
“คุณพีทจะอยู่ต่อหรือจะกลับ” ศรันย์ถาม แต่ยังไม่ทันจะฟังคำตอบ สายตาก็มองไปเห็นบอสเดินจูงมือหมวดเรียวมาที่รถ จึงพูดขึ้นทันทีว่า “อยู่ต่อก็แล้วกัน”
“เฮียศรันย์ก็มาด้วย ดีใจจังเลยโว้ย” มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ศรันย์หันไปมอง ชายหนุ่มสี่คนเดินเข้ามาหา ท่าทางดีใจอย่างที่พูด
“เฮียช่วยหน่อยสิครับ ช่วยแข่งรถหน่อย ผมจะทุ่มพนันเฮีย ถ้าชนะ พวกผมจะแบ่งเงินให้คนละห้าพัน สี่คนรวมเป็นสองหมื่นเลยนะเฮีย ช่วยหน่อยนะ ตอนนี้พวกเรากำลังหาเงินเสียค่าหน่วยกิต” หนุ่มคนหนึ่งในจำนวนสี่คนอ้อนวอน
“ไม่คุ้มโว้ย ทำไมไม่แข่งเอง” ศรันย์ปฏิเสธ
“ฝีมือพวกผมสู้เฮียไม่ได้ ถ้าจะเอาชนะแบบใสๆ ก็ต้องให้คนขับระดับตำนานแข่ง โธ่ ช่วยหน่อยสิครับเฮีย ถ้าไม่เชื่อมั่นในตัวเฮีย พวกผมไม่มาขอร้องหรอก เฮียชนะแน่ๆ เด็กพี่บอสมันยังอ่อนอยู่ สู้เฮียไม่ได้แน่นอน ผมเห็นฝีมือมันแล้ว นะเฮียนะ ถือซะว่าช่วยลูกนกลูกกาตาดำๆ”
“เออ” ศรันย์พยักหน้า เปลี่ยนใจทันที เมื่อมองไปเห็นบอสหอมแก้มหมวดเรียวซึ่งขณะนี้ปลอมตัวมาในคราบเด็กหนุ่นอ่อนต่อโลกซึ่งกำลังริอ่านใช้ชีวิตกลางคืนกับกลุ่มนักแข่งรถ
“แต่พวกนายไปเพิ่มเงื่อนไขรางวัลสำหรับผู้ชนะเป็นการแลกบัวลอยไข่หวาน” ศรันย์พูดต่อเสียงเข้ม
“บ้าจริงคุณศรันย์ เล่นอะไรแบบนี้” พีทอุทาน มือฟาดเข้าที่ต้นแขนขอคนพูด เด็กหนุ่มสี่คนที่ยืนอยู่พากันหัวเราะ
“เถอะน่า ช่วยเด็กหน่อย มันกำลังหาเงินจ่ายค่าหน่วยกิต แล้วอีกอย่าง ไม่ได้มีการแข่งชิงรางวัลแบบสนุกๆ แบบนี้มานานแล้วใช่ไหมพวกเรา” ท้ายประโยค ศรันย์หันไปพูดกับพวกเด็กหนุ่มทั้งสี่คน
“ใช่ครับใช่ ลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะพี่” นักศึกษาขาซิ่งรถที่กำลังหาเงินจ่ายค่าเล่าเรียนรีบพร้อมใจกันพยักหน้า
“พวกแกต้องไปท้าทายแก็งค์ของบอสให้ได้ ถ้าเขาตกลง พี่ก็จะแข่งให้” ศรันย์สั่งการแล้วบอกให้ทั้งสี่ไปจัดการตกลงเรื่องแข่งขันให้เรียบร้อย
“เกลียดคุณจริงๆ เลย” พีทสะบัดหน้า ยกมือขึ้นกอดอก ทำท่างอน
“น่านะคุณพีท คุณไม่ได้เสียหายอะไรเลย แค่สนุกๆ บอสคุณก็รู้จักไม่ใช่หรือ ดูๆ ไปเด็กคนนั้นก็ไม่เลวนะ แค่ไปนั่งอิงแอบแนบชิดเป็นเพื่อนให้เขาแต๊ะอั๋งไม่กี่ชั่วโมง”
“เทียบคุณไม่ได้” พีทเดินเข้ามากอดแขนศรันย์ “ก็ได้ ถ้าอยากสนุกก็จะยอมทำให้สนุก แต่มีข้อแม้ว่าหลังตีสาม คุณต้องอยู่กับผมทั้งคืน”

ฝีมือการขับรถระดับพระกาฬของศรันย์นั้นทิ้งห่างรถคันอื่นแบบไม่เห็นฝุ่น บอสกับคนอื่นๆ ยืนรออยู่ที่เส้นชัย ศรันย์จอดรถแล้วก้าวลงมายืนเท้าสะเอวมองรถคันอื่นๆ ที่ทะยอยเข้าเส้นชัยพลางหันไปมองบอสด้วยสายตายิ้มๆ บ่งบอกให้รู้ว่าตัวเองเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เรียวยืนกอดอกพิงรถอยู่ข้างๆ หน้าตาเรียบเฉย
“ว่าไง เห็นฝีมือพี่ไหมน้อง” ศรันย์ตะโกนพูดกับพวกที่แพ้การแข่งรถ “ต่อจากนี้ไปก็เป็นพิธีมอบรางวัล”
“พี่บอส พวกผมขอโทษ” ลูกน้องของบอสยิ้มแหยๆใ ห้หัวหน้า แล้วหันมาบ่นให้กับศรันย์ “ก็รถเฮียศรันย์แต่งซะเต็มที่ขนาดนั้น ใครจะสู้ไหว”
“อ้าว แพ้แล้วไม่ยอมรับนี่หว่า รถเอ็งก็แต่งเหมือนกัน ซีซีเยอะกว่าอีกต่างหาก แบบนี้โทษรถไม่ได้หรอก มันต้องฝีมือคนขับด้วย ใช่ใหมพีท” ประโยคหลัง ศรันย์หันมาพูดกับพีท คนฟังสะบัดหน้าหนี แสดงอาการไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็เดินข้ามไปหาบอส
“ว่าไง รางวัล เอามาสิ” ศรันย์หันไปพยักหน้าให้บอส ชี้นิ้วไปที่เรียวซึ่งยืนกอดอกอยู่ข้างๆ บอสนิ่งไปชั่วอึดใจ แล้วหันหลังไปจับข้อมือของเรียว ดึงให้เดินมาหาช้าๆ แล้วพาเดินไปหยุดยืนอยู่หน้าศรันย์
“พี่ขอโทษนะหนุ่ม” บอสพูดกับเรียวด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “แค่ครั้งเดียวเท่านั้นล่ะ ตีสามพี่จะมารับ ตีสามนะเฮีย” ประโยคสุดท้ายหันไปพูดกับศรันย์
“เฮ้ย อะไรวะ นี่มันอะไรกัน” เรียวโวยวาย เผลอตัวออกท่านักเลงหลังจากแกล้งทำตัวหงิมๆ มาตั้งนาน
“รางวัลสำหรับผู้ชนะไง” ลูกน้องบอสตอบ
“รางวัลอะไร ไหนว่าแลกขนมบัวลอยไข่หวาน” เรียวกระชากเสียงถาม อีกใจหนึ่งก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร และเมื่อพูดเสร็จ คนในกลุ่มที่ยืนอยู่ก็พากันหัวเราะลั่น ยกเว้นบอสและพีท
“นี่ล่ะขนมบัวลอยไข่หวาน” หนุ่มคนหนึ่งใช้นิ้วจิ้มที่แก้มของเรียว นายตำรวจมือปัดมือออก มองตาขวาง
“พี่บอสทำแบบนี้ได้ยังไง” เรียวหันขวับไปต่อว่าบอส
“พี่ขอโทษ” บอสตอบสั้นๆ เม้มปากแล้วเดินไปที่รถโดยมีลูกน้องเดินตาม พีทลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินตามไป
“กล้าดีมาก อยากเจอของแข็งหรือไงคุณศรันย์” เรียวหันมาตะคอกศรันย์พอให้ได้ยินกันสองคน
 “อย่าโวยวายไปสิ เดี๋ยวพวกมันก็รู้ว่าคุณเป็นใคร คุณไม่อยากได้ใจพวกมันหรือ ถ้าคุณไม่ยอมไอ้บอสก็เสียหน้า ถ้าคุณยอม มันก็นับถือใจคุณ คราวนี้คุณก็ล้วงลึกพวกมันได้แล้ว มามะ มาหาเฮีย ให้เฮียได้ชื่นใจหน่อย” ศรันย์ดึงเรียวเข้ามาใกล้ ตบมือเข้าที่ก้นแน่นๆ ของนายตำรวจอย่างแรง ยกมือขั้นโอบไหล่เอาไว้แน่น อาศัยจังหวะที่เรียวตกใจ ซุกจมูกเข้าที่ซอกคอ พร้อมกับทำปากยื่นจูบใต้ซอกหู เรียวสะบัดตัว กำมือ กำลังจะชกศรันย์ แต่บอสและพรรคพวกหันหน้ามามองจึงต้องลดมือลง

มีคนเปิดเพลงแร็ปดังลั่น หลายคนเอาบุหรี่ออกมาจุดสูบ บางคนเริ่มเต้นเข้าจังหวะเพลง ถือขวดเบียร์และขวดเหล้าดื่มกินฉลองกันอย่างสนุกสนาน ปารตี้ของนักแข่งรถยามราตรีเริ่มขึ้นกลางลานคอนกรีตในหมู่บ้านร้าง
เรียวยืนจ้องหน้าศรันย์อย่างเอาเรื่อง อยากจะต่อยหน้ากวนๆ นั้นสักหมัดสองหมัด
“สนุกนักหรือไงคุณศรันย์”
“ผมช่วยคุณต่างหาก”
“ช่วยอะไร อย่ามาทำเป็นพูดดี”
“จะบอกอะไรให้ คุณไปเสียเวลากับเจ้าบอสเฉยๆ ผมรู้มาว่าบอสจะวางมือแล้ว เอาตัวเข้าแลกไม่คุ้มหรอกคุณหมวด เปลืองเนื้อเปลืองตัวเฉยๆ”
“ทำเป็นรู้ดี ทำยังกะรู้ทุกอย่าง จริงหรือไม่จริงนี่อีกเรื่อง โธ่เอ๊ย”
“อ๊ะ ไม่เชื่อก็ตามใจ” ศรันย์ยักไหล่
“เมื่อกี้ไหนพูดว่าจะต้องให้ได้ใจพวกนั้น บอกว่าจะทำให้พวกนั้นนับถือใจผม คุณนี่มันกวนจริงๆ เลย จงใจแกล้งผมใช่ไหม แล้วรางวัลแลกเด็กกันบ้าบอนี่คืออะไร อย่าบอกนะว่าต้อง...”
“โธ่เอ๊ย ไม่มีอะไรมากหรอกน่า แค่เอาตัวเด็กคู่แข่งมาควงมานั่งจีบเล่นถึงตีสามแค่นั้นเอง แค่ทำให้คู่แข่งเสียหน้า” ศรันย์ยักไหล่ ยกเบียร์ขึ้นดื่ม
“ดูถูกเด็ก ดูถูกคู่ควงตัวเอง พวกคุณนี่น่าสมเพธจริงๆ ถ้าเป็นผู้ชายผู้หญิง ป่านนี้คงเอาสก๊อยไปนอนด้วยแล้วมั๊ง” เรียวเบ้ปากอย่างขุ่นเคือง
“อยากทำแบบนั้นกันบ้างก็ได้นะ” ศรันย์หัวเราะร่า แล้วรีบกระโดดออกห่างเมื่อเห็นเรียวกำหมัดยกขึ้น “อ๊ะๆ อย่านะน้องหนุ่ม เสียอิเมจหมด เดี๋ยวพี่บอสเห็นเข้าจะตกใจ ว่าหนุ่มน้อยน่ารักทำไมกลายเป็นไอ้ตัวร้ายจอมเกเร อะไรกัน เอะอะก็จะใช้แต่กำลังและความรุนแรง ไม่เคยมีความนุ่มนวลอ่อนโยนให้เห็นบ้างเลย แบบนี้เมื่อไหร่จะได้แฟนกับเค้าซะที”
เรียวส่ายหน้าอย่างระอาใจ เลิกใส่ใจศรันย์ที่เอาแต่หัวเราะ หันไปมองบอส จึงเห็นว่าชายหนุ่มมาดขรึมนั่งหมิ่นๆ อยู่บนฝากระโปรงหน้ารถ มือซ้ายล้วงกระเป๋ากางเกง มือขวาถือกระป๋องเบียร์ มองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ไม่มีมีทีท่าว่าจะหันมาสนใจพีท ‘รางวัล’ ที่ได้แลกมาจากศรันย์

►จบบทที่ 8◄


ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
จริงๆเฮียศรัณย์ควรใช้เวลานี้ให้คุ้มนะ ตอดเล็กตอดน้อยน้องหนุ่มซะน่อยยยยย 5555555555555555555

ออฟไลน์ KATAWOOT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
►ตำรวจคนนี้พี่ขอ◄ (ซักครั้ง)❤ h.e.a.r.t ♥ s.t.e.a.l.e.r ♥《• คฑาวุธ •》

  บทที่ 9 
บอสจอดรถหน้าหอพักนักศึกษาแห่งหนึ่ง ยื่นมือไปจับมือของคนที่นั่งอยู่ๆ มาบีบเบาๆ แล้วกุมเอาไว้
“หนุ่ม พี่ขอโทษอีกครั้ง เรื่องที่เอาหนุ่มมาเป็นรางวัลพนันแข่งรถ” บอสพูดกับเรียวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ พี่เป็นหัวหน้า ลูกน้องขอร้องก็ต้องทำ ไม่งั้นก็ไม่ได้ใจลูกน้อง” เรียวตอบ
“แบบนี้พี่ถึงอยากจะเลิก พี่เริ่มรู้สึกว่ามันไร้สาระ”
“เรื่องพนันแข่งรถนี่หรือครับ” เรียวถาม ความจริงอยากถามด้วยซ้ำไปว่ามีเรื่องขายยาเสพติดด้วยหรือไม่ เพราะต้องการความมั่นใจว่าที่ศรันย์พูดมานั้นเป็นความจริง
“เรื่องอื่นด้วย ทุกเรื่องนั่นล่ะ พี่อยากมีชีวิตธรรมดา” บอสพยักหน้า
“เรื่องอื่น เรื่องอะไรหรือครับ”เรียวถามเบาๆ
“เรื่องอะไรอย่ารู้เลย รู้แต่ว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ รู้เฉพาะว่าพี่อยากเปลี่ยนแปลงชีวิต” บอสยกมือขึ้มกุมแก้มของเรียวแล้วลูบไล้เบาๆ มองด้วยสายตาเว้าวอน “พี่ไม่อยากให้หนุ่มเข้าไปยุ่งกับชีวิตแบบนั้น ถ้าพี่ออกจากกลุ่มนั้นแล้ว หนุ่มอย่าเข้าไปอยู่ในนั้นได้ไหม”
“ผมแค่ไปดูเฉยๆ ยังไม่ได้คิดอะไรไปไกลกว่านั้นหรอกครับ”
“พี่แคร์หนุ่มนะ พี่ขอโทษที่ทำอะไรไปแบบนั้น อย่าโกรธพี่นะ รังรองว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
“ไม่โกรธหรอกครับ ผมเข้าใจ” เรียวพยักหน้าช้าๆ พยายามทำหน้าตาให้อ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้
“พี่ขึ้นไปส่งนะ”
“วันนี้ญาติมาค้างที่ห้องครับ ไม่สะดวก” เรียวโกหก ความจริงเขาไม่ได้พักที่หอพักแห่งนี้ด้วยซ้ำ
“ถ้างั้นพี่ขอจูบหน่อย” บอสขอจูบหน้าตาเฉย และไม่รอคำตอบ พูดเสร็จก็ยื่นหน้าเข้าไปหาเรียว ประทับจูบเบาๆ ลงบนริมฝีปากแล้วถอนออก เรียวหันซ้ายหันขวาทำทีว่าอายกลัวใครจะเห็น บอสหัวเราะเบาๆ แล้วก้มหน้าลงมาหาอีกครั้ง คราวนี้กดเน้นริมฝีปากแน่นกว่าเดิม แล้วสอดลิ้นออกมาไล้ลิ้นแผ่วเบาไปตามริมฝีปากของเรียว
...นี่ถ้าไม่ได้แลกลิ้น ก็คงไม่เลิกใช่ไหมเนี่ย...
เรียวคิดอยู่ในใจ ตัดสินใจเผยอปากเล็กน้อย ปล่อยให้บอสสอดลิ้นเข้ามาในปาก ดุนลิ้นตอบกลับนิดหน่อยพอให้รู้สึก บอกตัวเองว่าต้องยอมให้บอสจูบ จะได้กล่าวราตรีสวัสดิ์กันเสียที รู้สึกง่วงนอนมาก พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแต่เช้า
จูบของบอสเป็นความผสมอย่างลงตัวระหว่างความละมุนละไมและความเร่าร้อน จูบนั้นเว้าวอนอยู่ในที และเกือบทำให้เรียวเผลอเคลิ้มตาม แต่นายตำรวจรู้ตัวว่ากำลังปลอมตัวอยู่ และจำต้องปล่อยให้เลยตามเลย กระนั้นก็ยังอดชมไม่ได้ว่า เด็กหนุ่มอย่างบอส ซึ่งยังเป็นนักศึกษาอยู่นั้นเจนจัดไม่ใช่น้อย
...เอ ถ้านายศรันย์จูบนี่จะเป็นยังไงหนอ ท่าทางช่ำชองซะขนาดนั้น จะเหมือนหรือต่างจากบอสซักแค่ไหน...

♀♀

หลังจากที่บีบบังคับให้หมวดชินวัฒน์ทำงานแทนจนเสร็จ หมวดเรียวเอาเอาข้อมูลเส้นทางการถ่ายโอนเงินของผู้ค้ายาเสพติดมารายงานให้กับสารวัตรธันว์
“เสร็จเรียบร้อยครับสารวัตร” เรียววางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะทำงานของผู้บังคับบัญชา แต่สารวัตรธันว์กลับยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้
“สารวัตรจะให้ผมเอาโทรศัพท์ไปซ่อมให้หรือครับ” เรียวสงสัย ยื่นมือไปรับโทรศัพท์มา ภาพที่อยู่บนหน้าจอทำให้เขาต้องเบิกตากว้าง อึ้งไปทันที เพราะมันคือรูปภาพของบอสยืนชี้นิ้วราวกับกำลังพูดกับใครอยู่ โดยมีเขากำลังยืนกอดอกพิงรถ
“คุ้นหน้าไหม” ธันว์ถามเสียงเย็น
“คุ้นครับ” เรียวเงยหน้าขึ้น ยิ้มแหยๆ
“เมื่อไหร่จะเลิกดันทุรังฮึ หมวดเรียว”
“สารวัตรไปได้มาจากไหนครับ”
“นั่นไม่ใช่ท้องที่เราด้วยซ้ำ” ธันว์ไม่ตอบคำถาม
“จุดรวมตัวเริ่มแข่งมันก็อยู่ในพื้นที่เรานี่ล่ะครับ แต่เส้นชัยมันเกิดข้ามไปอยู่ท้องที่โน้น” เรียวตอบเสียงเบาๆ ราวกับกระซิบ
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องประสานงานกัน และคนที่จะต้องประสานคือผม ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วย คุณรู้ไหม ผมโดนเพื่อนรุ่นพี่ท้องที่โน้นตำหนิมา ถ้าลูกน้องเขาจำคุณไม่ได้ ผมก็คงไม่โดนตำหนิหรอก” ธันว์พูดเสียงเครียด
“ผมขอโทษ”
“ผมจะให้คุณไปช่วยงานหมวดนิคม” ธันว์เอนตัวพิงพนักพิงเก้าอี้
“งานตำรวจสัมพันธ์” เรียวอุทาน อ้าปากค้าง
“ช่วยงานหมวดนิคมเรื่องนิทรรศการตำรวจสัมพันธ์ต่อเนื่องไปจนถึงวันเด็ก” ธันว์ส่งงาน
“สี่วันเลยนะครับ” เรียวเสียงดัง ยกมือขึ้นกางสี่นิ้ว
“ไม่ใช่แค่สี่วัน ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าผมจะเปลี่ยนแปลงคำสั่ง ระหว่างนี้ ให้คุณไตร่ตรองและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ถ้าคุณปฏิบัติได้ ผมถึงจะเรียกคุณกลับมา เข้าใจไหม ไปได้” ธันว์พูดเสียงดังฟังชัดแล้วชี้นิ้วไปที่ประตู
“ครับผม” เรียวตอบอ่อยๆ ทำความเคารพผู้บังคัญแล้วเดินคอตกออกไปจากห้อง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อสารวัตรธันว์เรียก
“อ้อ เดี๋ยวก่อน” เรียวหยุดเดิน หันหน้ากลับไปช้าๆ ธันว์จึงพูดต่อว่า “ไปเอาปืนมาไว้ที่ผม แล้วบ่ายนี้ลงไปหาหมวดอาคมเลย”
♀♀
งานโครงการตำรวจสัมพันธ์ที่พันตำรวจตรีธันว์ย้ายให้ร้อยตำรวจโทเรียวมาช่วยงานนั้นเป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดที่นายตำรวจโทคนใหม่เคยทำ เกือบสองชั่วโมง เขาเอาแต่แจกใบปลิวและรับเรื่องร้องทุกข์จากประชานชนที่สัญจรผ่านไปมาพร้อมกับพูดว่า “ครับๆ ทางตำรวจจะจัดการให้เรียบร้อยครับ  ไม่ต้องเป็นห่วง”
เรียวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเซ็งๆ ตอนนี้เหลือเขาอยู่คนเดียวในเต้นท์ขนาด 3x5 เมตรซึ่งตั้งอยู่ในลานจอดรถด้านข้างของสถานีตำรวจ อีกฝากถนนห่างไปประมาณสองร้อยเมตรเป็นงานแสดงสินค้าไทยแลนด์เอ็กซ์โป เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นอีกสองคนแวบหายไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเพื่อไป 'รับแอร์' ในศูนย์แสดงสินค้า
แต่แล้ว ช่วงเวลาแห่งควานน่าเบื่อของร้อยตำรวจโทคนใหม่ก็ถูกแทรกด้วยเสียงดังฟังชัดของใครคนหนึ่ง
“อ้าว นี่คุณหมวดไม่ได้ทำงานแผนกข่มขู่รังแกประชาชนแล้วหรือครับ”
...มาอีกแล้ว เฮ้อ นี่จะหนีอีตาพูดไม่รู้เรื่องคนนี้ไม่ได้เลยหรือยังไง นี่เวรกรรมอะไรของเราวะ โดนถีบมานั่งแจกใบปลิวยังไม่พอ ยังซวยซ้ำซ้อนมีมนุษย์พันธ์พิเศษมากวนอารมณ์...
เรียวทำเป็นไม่สนใจและไม่ได้ยินคำพูดของ 'ประชาชนตาดำๆ เจ้าปัญหา' นายตำรวจหนุ่มแกล้งทำเป็นหยิบเอกสารบนโต๊ะวางสลับที่กันไปมา
“หัวหน้าคุณหมวดนี่ใจถึงมากเลยนะที่ให้ลูกน้องสไตล์แบบนี้มาทำงานโครงการตำรวจรักประชาชนคนเดินดินกินข้าวแกงแฝงชุมชนสัมพันธ์สานฝันวัยรุ่นไทยห่างไกลยาเสพติด” ชายหนุ่มจอมกวนแกล้งทำเป็นหายใจไม่ทัน “โครงการอะไรวะ ชื่อยาวเป็นบ้า”
“พูดเข้าไป เดี๋ยวได้โดนจับใส่กุญแจมือ” เรียวอดต่อปากต่อคำไม่ได้
“ข้อหาอะไรไม่ทราบ” ศรันย์เจ้าเก่าลอยหน้าลอยตา “คุณนี่ช่างหาเรื่องจริงๆ แต่ผมไม่ถือสาหรอกเพราะข้างนอกนี่อากาศมันร้อน ไอแดดร้อนๆ มันทำให้คนเพี๊ยนกันได้ เมื่อกี้ผมไปเดินในงานมา เปิดแอร์ซะหนาวจนอยากจะหันไปกอดคนข้างๆ”
“เดี๋ยวเหอะ” เรียวเอามือตะปบที่กุญแจมือซึ่งห้อยอยู่กับเข็มขัด
“ผมไม่กลัวหรอก เคยถูกเอาปืนจี้บังคับให้พาขับรถหนีผู้ร้ายก็เคยแล้ว แค่โดนจับใส่กุญแจมือ เรื่องจิ๊บๆ” ศรันย์ยักคิ้ว พร้อมกับยกนิ้วก้อยขึ้นมาทำท่าว่าเรื่องที่จะโดนจับใส่กุญแจมือนั้นเป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว “โดนแกล้งขโมยรถเอาไปประกาศขายก็เคย โดนอะไรอีกว๊า” ศรันย์เอียงหน้าคิด
 “ไปไกลๆ เลยไป ผมจะแจกใบปลิว เกะกะขวางทางหน้าเต้นท์” เรียวโบกมือไล่
“ผมช่วยไหม แถวนี้ ผมกว้างขวาง” ศรันย์นั่งลงบนโต๊ะที่วางเอกสาร
“คุณนี่กว้างขวางทุกที่ เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถแบบไหนเนี่ย ไปไหนก็มีแต่คนรู้จัก”
“จะบอกอะไรให้ วัยรุ่นแถวนี้ลูกน้องผมทั้งน้าน” ศรัณย์คุยโว ยืดอก ทำท่าภูมิใจเป็นนักหนา
“ทำเป็นคุย พอเอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้เรื่องอะไรซักอย่าง ไม่มีสาระอะไรเลย นี่เรื่องที่คุณแข่งรถแล้วเอาผมไปพนันเป็นบัวลอยไข่หวานยังไม่ได้เคลียร์กันนะ เสียเวลาจริงๆ ท้ายสุดไม่ได้ข่าวอะไรเลย โดนถีบออกมานั่งแจกใบปลิวอยู่ตรงนี้เลยเห็นไหม”
“โถ น่าสงสาร” ศรันย์ทำหน้าตาเข้ากับคำพูด
“ถอยไป เกะกะหน้าเต้นท์” เรียวโบกมือไล่ “ถ้าจะเอาแผ่นพับก็เลือกเอาซักแผ่นสองแผ่นแล้วไปไกลๆ เลยไป”
“อย่าเพิ่งไล่กันสิคุณตำรวจ เราไม่ใช่คนอื่นคนไกล ที่ผมมานี่มีอยู่สองเรื่อง” ศรันย์ชูนิ้วขึ้นสองนิ้ว “หนึ่ง ผมมาทวงเรื่องที่คุณจะเลี้ยงข้าว โทรศัพท์ไปก็ไม่ติด ผมกลัวคุณหมวดจะลืม ก็เลยต้องมาเตือนความจำ”
“ไม่ลืมหรอกน่า ผมเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น รอเงินเดือนออกก่อนสิ”
“ก็ได้ รอก็ได้ แต่เรื่องที่สองมันรอไม่ได้” ศรันย์ยิ้มแหยๆ “คือยังงี้นะครับคุณหมวด ไหนๆ เราก็ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ตอนนี้ผมขอความช่วยเหลือหน่อยสิ"
"อะไรอีกล่ะ" เรียวขมวดคิ้ว
"รถผมถูกล๊อคล้อ" ศรัยน์ยิ้มแหยๆ "หน้าฮอลล์ 3 นี่เอง คุณหมวดไปเบ่งให้หน่อยสิ คือว่าผม..."
"ไม่มีเงินเสียค่่าปรับอีกสิเนี่ย คุณอย่าได้คิดจะมาไถเงินผมนะ"
"น้อยๆ หน่อย ผมไม่เคยเลยนะคร้าบคุณหมวด ที่ผ่านมา ผมเรียกร้องตามสิทธิพลเมืองที่โดนรังแกต่างหากล่ะ" ศรันย์โวย "แต่จะว่าไป ก็ไม่เห็นจะเสียหาย ตำรวจไถเงินประชาชนมาเยอะแล้ว ให้ประชาชนไถนิดไถหน่อยจะเป็นไรไป"
"ผมไม่มี ผมไม่ไป ผมแค่มาทำหน้าที่นั่งแจกใบปลิวในเต้นท์" เรียวปฏิเสธแล้วเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ด้านในของเต้นท์
"คุณหมวด ช่วยหน่อยน่า”
“ลานจอดรถเขาก็มี” เรียวชี้นิ้วไปรอบๆ “เห็นไหม จอดรถได้เป็นพันๆ คัน แล้วทำไมไปจอดหน้าฮอลล์แสดงสินค้า หาเรื่องจริงๆ เลย”
“ผมผิดไปแล้วครับคุณหมวด สำนึกแล้ว ตอนนี้ช่วยผมก่อน ผมต้องรีบไปเยี่ยมลุงที่โรงพยาบาล" ศรันย์ทำเสียงอ้อนวอน
"คราวที่แล้วเยี่ยมพ่อ" เรียวส่ายหน้า "คุณนี่ถนัดแช่งญาติผู้ใหญ่จริงๆ เลย"
"กรุณาเห็นใจประชาชนตาดำๆ ด้วยเถอะคร้าบ" ศรันย์ทำเสียงและหน้าตาน่าสงสาร "ผมขอสัญญาว่าจะไม่ทำผิดกฎจราจรอีกแล้ว"
"ด้วยเกียรติของใคร"
"ด้วยเกียรติของนายศรันย์ ประชาชนที่ถูกตำรวจรังแกอยู่เป็นนิจ เช่น ถูกเอาปืนจี้บังคับให้พาขับรถหนีโจร ถูกตำรวจขโมยรถ ถูกขู่ทำร้ายข่มเหงจิตใจ" ศรันย์พูดประชดทั้งที่ทำหน้าตาน่าเห็นใจ
"คุณศรันย์" เรียวทำเสียงเข้ม
"ครับผม คุณหมวดเรียว" ศรันย์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“ก็ได้ จะช่วย แต่แลกกับไม่ต้องเลี้ยงข้าวนะ เอายังไง” เรียวลุกขึ้นยืน เท้าสะเอว เอียงหน้ารอฟังคำตอบ
“เจ้าเล่ห์จริงๆ” ศรันย์ค้อน
“พอๆ กันนั่นล่ะ”
“ถ้าเลือกเลี้ยงข้าว ก็ต้องเลี้ยงวันนี้เลย ไม่รอสิ้นเดือน” ศรันย์ต่อรอง
“ก็ได้ เลี้ยงตอนนี้เลยก็ได้ ผมจะวิทยุเรียกเพื่อนให้กลับมาเฝ้าเต้นท์ คุณไปรอที่ร้านเจ๊หมวยตามสั่งตรงข้างประตูทางออกสถานีฯ นะ เดี๋ยวตามไป” เรียวชี้นิ้วไปทางซ้าย
“โอ้โห คุณพระช่วย ทำไมมันลงทุนน้อยนิดอย่างนี้ล่ะคร้าบคุณหมวด เลี้ยงอาหารตามสั่งแลกกับการช่วยเหลืองานของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์นี่นะ แบบนี้เรียกว่าผู้เอาเปรียบสันติราษฎร์จะถูกกว่ามั๊ง ให้มันดีกว่านี้หน่อยสิ ให้ผมเป็นคนเลือกร้าน ถ้าไม่ยังงั้น ผมก็จะมาทวงคุณทุกวัน” ศรันย์โวยวาย ออกท่าออกทาง
“ผมไม่มีเวลา” เรียวยักไหล่
“ไม่มีเวลายังไง นั่งหน้าบูดหน้าบึ้งเป็นอึ่งตากแดดเฝ้าเต้นท์อยู่แบบนี้มีเวลาเหลือเฟือ แล้วไม่ต้องบอกว่าไม่มีเงิน ผมรู้ว่าคุณมีเงิน วันๆ หนึ่งคุณคงหาเงินได้หลายร้อยหลายพัน”
“ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ” เรียวถลึงตาใส่
“เสื้อผ้าที่ใส่ก็ใช่ย่อย ผมรู้ยี่ห้อ รู้ราคาหรอกน่าคุณหมวด อย่าลีลาท่านั้นท่านี้หน่อยเลย เลี้ยงข้าวแค่มื้อเดียว ไม่จนหรอกน่า ผมก็ใช่จะเป็นคนใจไม้ใสระกำที่ไหน ไม่เลือกร้านอาหารแพงเกินกำลังคุณหมวดหรอก ตกลงนะ เย็นนี้เลย จะมารับ แต่งตัวให้หล่อๆ ล่ะ แต่แต่งแบบเด็กแร๊ปไม่เอานะ ให้ดีหน่อย อาบน้ำแต่งตัวใส่น้ำหอมให้เรียบร้อย เจอกันหน้าโรงพักตอนหกโมงเย็น”
“เออๆ ถ้าไม่ไปก็คงไม่จบใช่ไหม” เรียวพยักหน้า ทำหน้าตาเอือมระอา
“สำหรับเรา มันคงไม่จบง่ายๆ หรอกคุณหมวด” ศรันย์ยักคิ้ว ยิ้มกว้างอย่างพอใจ
...ขอสักครั้งก่อนเถอะ ตำรวจเฮ้วๆ แบบนี้น่าจะโดนซักหน่อย จะได้หายซ่าส์...
ศรันย์เดินผิวปากจากไปอย่างอารมณ์ดี
♥♥♥♥♥

ศรันย์พาเรียวไปที่ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเลียบทางด่วน x... ซึ่งเพื่อนของตัวเองเป็นเจ้าของ เรียวบอกให้รีบกินรีบกลับ และเมื่อเดินเข้าไปในร้านอาหาร จึงบอกกับพนักงานต้อนรับว่ามากันสองคน มือชี้ไปที่โต๊ะขนาดเล็กสำหรับนั่งสองคนซึ่งอยู่ห่างไปแค่ไม่ถึงห้าก้าว แต่ศรันย์บอกว่าให้ไประเบียงด้านหลังเพราะได้จองโต๊ะนั่งแล้ว
“บรรยากาศมันโรแมนติกกว่า” ศรันย์กระซิบเบาๆ แล้วสะกิดเรียวให้เดินตาม
เมือเดินอ้อมไปถึงด้านหลังซึ่งเป็นระเบียงกว้าง มีลูกค้านั่งอยู่เต็ม แต่ละโต๊ะเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่กลุ่มละประมาณ 8-15 คน โต๊ะที่อยู่ด้านมุมซ้ายสุดมีชายหนุ่มนั่งอยู่ห้าคน กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาม เมื่อหนึ่งในนั้นหันมาเห็นศรันย์จึงรีบกวักมือเรียก ราวกับว่ารออยู่
“เพื่อนคุณหรือ” เรียวหันขวับไปมองศรันย์ตาขวาง “นี่ถึงกับพาเพื่อนมาถล่มผมแบบนี้เลยหรือ ทำไมต้องพาเพื่อนมา ไหนว่าจะให้ผมเลี้ยงข้าวไง ผมไม่เลี้ยงเพื่อนคุณนะ”
“เปลี่ยนใจแล้ว คุณหมวดไม่ต้องเลี้ยงก็ได้ มากินฟรี” ศรันย์พูดหน้าตาเฉย จับข้อมือของเรียวดึงให้เดินตาม แต่นายตำรวจหนุ่มสะบัดมือออก ถลึงตาใส่แล้วบอกว่าอย่าถือโอกาสจับมือ
“หวงตัวจังเลย นิดๆ หน่อยๆ แค่นี้เอง” ศรันย์ค้อนแล้วเดินนำ
“ว่าไงไอ้เสือ ไม่ได้เจอตั้งนาน หล่อเหมือนเดินนะแก” เมื่อทั้งสองเดินไปถึงโต๊ะ เสียงเพื่อนคนหนึ่งของศรันยก็ดังขึ้น
“อิจฉาจังเลยโว้ย” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะลั่นของทุกๆ คนที่นั่งอยู่รอบๆ
“อ้าว แนะนำตัว”
“ไปหลอกเด็กที่ไหนมาศรันย์”
“บรรลุนิติภาวะหรือยังเนี่ย”
“พี่ชื่อไกรนะครับ โสด”
“อย่าไปเชื่อมันน้อง มันโสดเฉพาะคืนนี้เท่านั่นล่ะ พี่ต่างหากที่โสด”
“โสดบ้าอะไร พูดดีๆ นะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นห้วนๆ
“ล้อเล่นหน่อยเดียว อย่าทำเป็นซีเรียสสิจ๊ะ” คนที่บอกว่าโสดหันไปพูดกับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เอ้า ชนแก้วหน่อย เฮ้ย เอาเหล้าให้ศรันย์สิวะ”
“ศรันย์ น้องเค้าดื่มเหล้าได้หรือยัง”
“อายุเกินแล้วโว้ย เลยเบญจเพศมาสองปีกว่าแล้วมั๊ง” ศรันย์ตอบ
“โอ้โห หน้าเด็กมาก”
“ตอนแรกเห็นนึกว่าอากับหลาน”
“ไอ้บ้า ปากเสีย” ศรันย์หันไปดุคนปากเสีย
เรียวนั่งนิ่ง หันไปมองคนนั้นทีคนโน้นที แต่ละคนเริ่มแนะนำตัวให้เขารู้จัก แล้วก็คุยกันระเบ็งเซ็งแซ่แทบฟังไม่ได้สรรพ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เพื่อนกลุ่มนี้ของศรันย์เรียนจบมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน เป็นกลุ่มสนิทกันที่สุด และเป็นกลุ่มที่ ‘รสนิยมเหมือนกัน’
เหมือนกันจริงๆ ด้วย เหมือนจนดูราวกับว่ามีศรันย์อยู่ห้าคนก็ไม่ปาน ยกเว้นหนุ่มร่างเล็กซึ่งนั่งเงียบๆ อยู่ข้างคนที่บอกเขาว่า ‘พี่ต่างหากที่โสด’
หลังจากทานอาหารไปได้สักพักเรียวก็ขอตัวไปโทรศัพท์ ในใจนึกอยากจะ ‘เอาคืน’ ศรันย์สักหน่อย โทษฐานที่พาเขามาแนะนำตัวให้เพื่อนๆ ของตัวเองรู้จัก และทำประหนึ่งว่า ‘เป็นคนพิเศษของกันและกัน’
ชินวัฒน์เพื่อนคู่หูคือคนแรกที่เรียวนึกถึง โชคดีที่ขณะนี้ชินวัฒน์กำลังซื้อของใช้ส่วนตัวอยู่ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตไม่ห่างไปเท่าใดนัก
“มาช่วยแกล้งประชาชนหน่อย” เรียวปิดท้ายคำพูดหลังจากอธิบายให้ชินวัฒน์เข้าใจว่าต้องการให้ทำอะไรบ้าง แล้วย้ำให้ชินวัฒน์ให้รีบมาทันที

ไม่ถึงยี่สิบนาทีชินวัฒน์ก็มาถึงร้านอาหาร เมื่อศรันย์มองตามเรียวซึ่งหันไปโบกมือทักทายคนที่เดินเข้ามาก็แทบจะร้องโวยวายออกมา
“อะไรเนี่ยคุณหมวด” ศรันย์พูดเสียงห้วนๆ ใกล้หูของเรียว
“หมวดชินผ่านมาแถวนี้พอดี” เรียวยักไหล่
“ผมว่าเมื่อกี้คุณไปโทรเรียกให้มามากกว่า ให้จ่ายเองนะ เพื่อนคุณกินจุ” ศรันย์กระแทกเสียง
“ทำไมรู้”
“ก็ดูหุ่นสิ อวบอัดซะขนาดนั้น”
เมื่อชินวัฒน์เดินเข้ามาถึงที่โต๊ะ เรียวก็หันไปแนะนำให้ทุกคนในโต๊ะรู้จัก และบอกว่าชินวัฒน์ผ่านมาแถวนี้พอดี พร้อมกับขออนุญาตให้ร่วมโต๊ะด้วย ขณะที่รับประทานอาหาร เรียวก็แกล้งทำสนิทสนมกับชินวัฒน์ ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าเป็นคนพิเศษต่อกัน ส่วนศรันย์เอาแต่นั่งหน้าบึ้งจนโดนเพื่อนล้อว่าสงสัยต้องสั่งแห้วมาทานเป็นผลไม้หลังอาหาร
♥♥♥♥♥
ศรันย์รอจังหวะชินวัฒน์เดินไปเข้าห้องน้ำจึงรีบตามไป ตั้งใจจะ ‘ข่มขู่’ นายตำรวจเพื่อนคู่หูของเรียวด้วยเหตุผลเดิม
“แสบจริงๆ นะหมวด สมรู้ร่วมคิดกันแกล้งผมอีกแล้ว แบบนี้สงสัยเรื่องต้องถึงผู้กองหน้าดุคนนั้นแล้วล่ะมั๊ง” ศรันย์ดักพูดกับชินวัฒน์หน้าห้องน้ำซึ่งก็ได้ผลเช่นเคย
“ผมขัดไม่ได้ เดี๋ยวโดนเตะ” ชินวัฒน์แก้ตัว บอกว่าทุกอย่างเป็นความคิดของหมวดเรียว
“ถ้างั้นกินเสร็จหมวดก็รีบกลับไป ห้ามกลับด้วยกันเด็ดขาดนะ ผมจะไปส่งหมวดเรียวเอง”
“แล้วหมวดเรียวจะยอมหรือ เขาอาจจะกลับแท็กซี่เองก็ได้นะ”
“เถอะน่า ผมมีวิธีของผมก็แล้วกัน กินเสร็จหมวดก็รีบกลับ” ศรันย์ออกคำสั่ง
"ผมยังกินไม่เสร็จ จะรอกลับพร้อมกัน" ชินวัฒน์เถียง
"เอ๊ะ ก็เมื่อกี้คุยกันแล้วว่าห้ามกลับด้วยกัน ผมจะไปส่งหมวดเรียวเอง" ศรันย์โวยวายเสียงหงุดหงิด
"รู้แล้ว แต่ผมยังไม่อิ่ม ผมจะกินต่อ คุณจะไปส่งก็ไปส่งสิ ค่อยแยกกันที่ลานจอดรถก็ได้"
"ไม่ได้ ต้องกลับเลย จะมานั่งอิงแอบแนบชิดกันทำท่ายังกะเป็นแฟนกันไม่ได้ มันขวางหูขวางตาผม" ศรันย์ยืนกราน
"เพิงกินได้นิดเดียวเอง" ชินวัฒน์หน้ามุ่ย
"เอายังงี้ ถ้าหมวดกลับเลย ผมจะให้ซ่อมรถที่อู่ผมฟรีสามครั้ง"
"แน่ใจนะ ห้ามโกหก" ชินวัฒน์ชอบของฟรี
"อัดคลิปเอาไว้สิ" ศรันย์กระแทกเสียงพูดประชด แต่ชินวัฒน์ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยกขึ้นบันทึกภาพและเสียงจริงๆ "พูดอีกทีซิ จะได้มีหลักฐาน"
"จริงๆ เลย" ศรันย์ถอนหายใจพรวด แล้วพูดซ้ำประโยคเดิมอีกครั้ง ชินวัฒน์ยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
“ถามหน่อยเถอะ คุณชอบหมวดเรียวจริงๆ หรือเปล่า หรือแค่จะฟันครั้งสองครั้งแล้วทิ้ง อยากลองเฉยๆ เล่นกับตำรวจระวังเจ็บตัวนะคุณศรันย์ หมวดเรียวเขามีผู้พิทักษ์อยู่” ชินวัฒน์พูดยิ้มๆ ศรันย์หันไปมองคนพูดแต่ไม่ตอบอะไรสักคำ เดินกลับไปยังโต๊ะ ในใจยอมรับกับตัวเองว่าค่อนข้างหนักใจอยู่บ้าง แต่พอนึกถึงใบหน้าหมวดเรียวกับก้นงอนๆ แน่นๆ แล้วก็ทำให้มีกำลังใจจีบต่อ

♥♥♥♥♥

ชินวัฒน์พูดไว้ไม่ผิด หลังจากทานอาหารเสร็จหมวดเรียวบอกกับศรันย์ว่าจะกลับบ้านด้วยแท็กซี่ แต่ศรันย์ไม่ยอม ให้เหตุผลว่าเขาต้องรับผิดชอบคู่เดทตัวเองด้วยการไปส่งบ้าน
"ใครว่าเดท พูดดีๆ นะคุณ ผมแค่มาเลี้ยงข้าวตามสัญญา" เรียวท้วง
"ก็ผมอยากจะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ไปรับมาแล้วก็ต้องไปส่ง"
"คุณนะหรือสุภาพบุรุษ พูดออกมาได้ ตัวจริงตรงข้ามกับคำพูดโดนสิ้นเชิง" เรียวเบ้ปาก ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ศรันย์พูด
"คุณหมวดยังไม่รู้จักตัวตนจริงๆ ของผมเฉยๆ หรอก นี่ถ้ารู้จักกับผมมากกว่านี้แล้วจะทึ่ง อย่ามองผมแต่ด้านลบสิคร้าบ เห็นผมเป็นแบบนี้ แต่ตัวจริงผมน่ารักนะ"
"ยอตัวเองก็เป็น" เรียวส่ายหน้า
"น่า นะ คุณหมวด ให้ผมไปส่งเถอะ อย่าเล่นตัวนักเลย" ศรันย์ยักคิ้ว
"ถามจริง เถอะคุณศรันย์" เรียวยกมือเท้าสะเอว เอียงหน้ามอง "เมื่อไหร่คุณจะเลิกวุ่นวายกับผมซะที ไม่มีอะไรทำหรือยังไง"
"ก็ถ้าคุณหมวดเลิกน่ารัก ผมก็คงจะเลิก" ศรันย์ใช้มือสองข้าวล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยักไหล่
"นี่คุณคิดจะจีบผมใช่ไหม"
"ไม่ได้คิดจะจีบ"
"อ้าว แล้วมายุ่งทำไมวะ" เรียวทำเสียงนักเลง
"ไม่ได้คิดจะจีบ เพราะว่าผมจีบแล้วต่างหาก นี่คุณหมวดยังไม่รู้ตัวอีกหรือ ความรู้สึกช้าจังเลย" ศรันย์โคลงศีรษะ แกล้งทำหน้าอ่อนใจ เรียวส่ายหน้าแล้วเมินไปมองด้านข้าง ไม่พูดอะไร ศรันย์จึงพูดต่อว่า "ทีนี้รู้แล้วนะ เพราะฉะนันก็อย่าเล่นตัวให้มากนัก เอาแค่ให้พองาม เข้าใจไหมครับคุณหมวด ทีนี้ก็ขึ้นรถได้แล้วผมจะไปส่ง คุณปฏิเสธไม่ได้หรอก เพราะยังไงผมก็จะมาตื๊อไปส่งคุณให้ได้ คุณรู้ไหม ลูกตื้อผมนี่สุดยอดเลยล่ะ จะบอกให้"
"ก็ได้ แต่มีข้อแม้ ถ้าผมให้คุณไปส่ง คุณจะต้องสัญญาว่าภายในอาทิตย์นี้ผมจะไม่มากวนอารมณ์ผมอีก"
"สัญญาอะไรแบบนั้น" ศรันย์เบ้ปาก
"ตกลงไหม"
"ก็ได้" ศรันย์พยักหน้า ผายมือให้นายตำรวจเดินนำหน้าไปที่รถ แล้วตัวเองเดินผิวปากตามอย่างอารมณ์ดี
♥♥♥♥♥


ร้อยตำรวจเอกคมกริชรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติงานคดีต่างๆ ที่รับผิดชอบอยู่ให้พันตำรวจตรีธันว์ทราบ จากนั้นนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ราวกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง และในที่สุดก็พูดออกมาเบาๆ ว่าคงต้องขอให้เรียกตัวหมวดเรียวให้กลับมาช่วยงานการสืบสวนการค้ายาในมหาวิทยาลัย
“ให้คนอื่นไปได้ไหม” ธันว์ถาม
“ไม่มีใครเหมาะเท่าหมวดเรียวแล้วครับ” คมกริชตอบ
“หวังว่าคงไม่เสียเวลาเปล่า” ธันว์ถอนหายใจเบาๆ ทำหน้าครุ่นคิด
“ผมสงสัยว่า ผู้ค้ารายใหญ่อย่างน้อยสองคนเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการของไอ้โจโฉ ถ้าเราจะเข้าถึงตัวพวกนั้น ก็ต้องใช้หมวดเรียว”
“คุณกำกับดูแลให้ดี อย่าให้พลาด” ธันว์ย้ำ นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ “แล้วเรื่องคนที่มาติดพันหมวดเรียวล่ะ ว่ายังไง”
“เท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรครับ สนุกไปเรื่อยเปื่อย หาสาระไม่ได้”
“จะเป็นปัญหาอะไรไหม”
“ผมยังไม่แน่ใจครับ ขอดูต่ออีกซักนิด” คมกริชส่ายหน้า
“งั้นตกลงตามนั้น คุณไปตามหมวดเรียวกลับมาแล้วพรุ่งนี้ก็เริ่มต่อได้เลย ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ระหว่างนี้ผมจะสืบเรื่องบ่อนการพนันของ ส.ส. สุรชัย จบเรื่องนั้นแล้วค่อยรวมกำลังพลทั้งหมดมาจัดการเรื่องบ่อนให้เสร็จ” ธันว์สั่งการ
♥♥♥♥♥

หมวดเรียวแทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเมื่อถูกเรียกตัวให้กลับไปทำงานสืบสวนเหมือนเดิม เขารอจนผู้กองคมกริชเดินจากไปแล้วจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทำงานหน่วยปฏิบัติการพิเศษและบอกข่าวดีให้หมวดชินวัฒน์รู้
“ดีใจมากนักหรือที่จะได้กลับไปขายตัวเหมือนเดิม” ชินวัฒน์พูด
“เบื่องานตำรวจสัมพันธ์จะตายอยู่แล้ว”
“อย่าทำให้เสียเรื่องล่ะ แหกคอกนอกคำสั่งอีกคราวนี้ ผมว่าสารวัตรให้หมวดไปทำงานจราจรโบกรถกลางสี่แยกแหงๆ” ชินวัฒน์เตือน
“ไม่มีทาง ให้รู้กันบ้างว่า ถ้าไม่มีหมวดเรียวมันก็สืบลำบากแบบนี้ล่ะ” หมวดเรียวยืดอก ท่าทางภูมิใจ
“จ้า พ่อคุณคนเก่ง ระวังจะเสียตัวเข้าสักวันล่ะ แล้วนี่เวลาแขกพาเข้าห้องจะทำยังไง จะเอาตัวรอดด้วยวิธีไหน เอายานอนหลับให้ลูกค้ากินเลยดีไหม” ชินวัฒน์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำหน้าตาสงสัย
“อืม” เรียวเอียงหน้าคิด ยอมรับว่าหนักใจอยู่ไม่น้อย
“แต่คิดๆ ไปอีกทีก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรตรงไหน ท้องก็ไม่ท้อง”
“ไม่ต้องออกความเห็นเลย” เรียวพูดเสียงห้วน
“คิดไม่ออกไช่ไหมล่ะว่าจะเอาตัวรอดแบบไหน ลองไปถามคุณพี่ศรันย์ดูสิ เผื่อเขาจะมีไอเดียดีๆ รายนั้นคิดอะไรแต่ละอย่าง สร้างสรรค์มาก” ชินวัฒน์แนะนำแล้วหัวเราะลงลูกคอ จึงโดนเพื่อนคู่หูตบท้ายทอยไปหนึ่งครั้ง
♥♥♥♥♥

►จบบทที่ 9◄


ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เย้ๆ มาอัพแล้วว คุณ ส.ส. นี่ ใช่พ่อเฮียศรัณย์รึเปล่านะถ้าใช่ ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง รอดูว่าเฮียศรัณย์จะจีบหมวดเรียวยังไง ดูท่าจะไม่ยอมง่ายๆ 555555555

ออฟไลน์ KATAWOOT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
♀ บทที่ 10 ♀

เมื่อมาถึงมหาวิทยาลัย สิ่งแรกที่เรียวทำคือตรงลิ่วไปยังโรงอาหารเพราะหิวจนท้องกิ่ว แต่ยังไม่ทันจะได้ตักอาหารเข้าปาก โจโฉ ‘นายหน้าค้าเด็ก’ก็เดินเข้ามานั่งตรงข้ามแล้วถามว่าหายไปไหนมาตั้งหลายวัน เรียวให้เหตุผลว่าพ่อไม่สบาย ต้องกลับต่างจังหวัด
“คืนนี้มีงานให้ทำ แกมาเจอที่หน้าผับ DDK ตอนสี่ทุ่มครึ่ง เตรียมเจลกับถุงมาให้เรียบร้อย” โจโฉสั่ง
“โอ้โห เพิ่งมาเรียนวันแรก เอาเลยหรือพี่” เรียวโอดครวญ
“เออสิวะ อั้นมาหลายวันแล้ว ลูกค้าบ่นว่าพักนี้ไม่ค่อยมีหล่อๆ แมนๆ แกมาก็ดีแล้ว รายได้จะได้ดีขึ้นหน่อย ขึ้นราคาให้แล้วนะโว้ย เป็นสองพันห้าขาดตัว บริการให้ดีล่ะ รูปร่างหน้าตาแบบแก หากินได้อีกนาน ถ้าลูกค้าติด โก่งราคายังได้เลย เผลอๆ จะถึงสามพัน ถ้าแกทำดี อีกหน่อยจะปั่นให้ถึงสี่ห้าพัน”
“แล้วผมได้เท่าไหร่” เรียวถามได้
“เหอะน่า ได้เยอะก็แล้วกัน” โจโฉตอบแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นพูดเพราะมีสายเรียกเข้าพอดี เรียวนั่งคอยจนการสนทนาจบลงแล้วถามว่าลูกค้าเป็นใครและมีรสนิยมแบบใด
“ผมขอลูกค้าที่เป็นฝ่ายรับนะพี่”
“เอ็งอย่าเลือกสิวะ เราต้องบริการได้ทุกรูปแบบ แล้วลูกค้าคืนนี้ก็ระดับวีไอพี ใจป้ำ ยอมจ่ายตามราคาที่เรียก”
“ตกลงคืนนี้ลูกค้าเป็นรุกใช่ไหม” เรียวทำหน้าเซ็ง
“เออ” โจโฉตอบสั้นๆ แล้วกดโทรศัพท์อีกครั้งเพื่อคุยกับลูกค้าอีกคน พร้อมกับบรรยายคุณภาพของเด็กใหม่ชื่อหนุ่ม ซึ่งเพิ่งกลับจากต่างหวัด เป็นนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง รูปร่างสูง ขาว หน้าตาหล่อใสเหมือนดาราญี่ปุ่น มีกล้ามสวย ก้นงอนแน่น มาดแมน จากนั้นก็รับงานให้เรียวหน้าตาเฉย
“โอ้โหพี่ สองคืนต่อกันเลยหรือ” เรียวอุทานเมื่อโจโฉพูดโทรศัพท์เสร็จ
“เห็นไหมล่ะว่ารายได้ดี ความจริงคืนหนึ่งได้ลูกค้าสองสามคนก็ยังได้ แต่สงสารกลัวแกจะช้ำซะก่อน”
“คืนละสองสามคนได้ก้นบานพอดี” เรียวเบ้ปาก
“เดี๋ยวโทรหาพี่พจน์หน่อยดีกว่า ว่าน้องหนุ่มกลับมาแล้ว ถ้าพี่พจน์ตกลง แกก็มีลูกค้าสามคืนติดต่อกันเลย” โจโฉพูดจบก็กดโทรศัพท์ทันที เรียวโอดครวญว่าจะไม่ให้พักเลยหรือ โจโฉบอกว่าน้ำขึ้นต้องรีบตัก
“อะไรนะ พี่ให้สี่พัน” โจโฉอุทาน “ได้เลยพี่ เดี๋ยวผมลัดคิวให้ คืนนี้ส่งที่โรงแรมเลย”
“พี่ประพจน์ยังจะเอาผมอีกหรือ” เรียวพูดเบาๆ เมื่อโจโฉพูดโทรศัพท์เสร็จ จำประพจน์ แขกคนแรกของตัวเองได้ไม่ลืม
คราวนั้น โชคดีที่ได้ศรันย์ไปช่วยไว้ได้ คราวนี้จะทำยังไงดีถึงจะรอดเงื้อมมือพี่ประพจน์ได้
♥♥♥♥♥

โจโฉมาส่งเรียวที่โรงแรมค่อนข้างหรูซึ่งตั้งอยู่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร ประพจน์มาประชุมและเมื่อเลิกประชุมก็จะพักค้างคืนที่โรงแรมเลย
“เบาๆ กับน้องหน่อยนะพี่พจน์ น้องยังใหม่อยู่ ระวังจะช้ำ” โจโฉพูดกับประพจน์ ยื่นเงินให้เรียวสองพัน ส่วนตัวเองเก็บเงินอีกสองพันเข้ากระเป๋า “นี่ถ้าไม่ใช่พี่ ผมไม่ลัดคิวให้หรอกนะ นี่ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะไปแก้ตัวกับลูกค้ายังไง”
“น้อยๆ หน่อย มีเด็กเยอะไม่ใช่หรือเรา” ประพจน์พูด
“ตอนนี้มันช่วงสอบครับ เด็กขาด แล้วอีกอย่าง หาหุ่นแน่นๆ แมนๆ ยาก พวกแมนก็มีแต่ผอมๆ บางๆ พวกไม่ค่อยแมนก็มีแต่ล่ำๆ กว่าผมจะคัดได้เล่นเอาเหนื่อยแทบแย่ น้องหนุ่มนี่ล่ะเพอร์เฟคที่สุด แต่น้องยังไม่ค่อยเป็นงาน พี่ต้องค่อยๆ สอน”
“รู้แล้ว ไม่ต้องพูดมาก ไปได้แล้ว พี่จะพาน้องหนุ่มขึ้นห้อง” ประพจน์โบกมือไล่โจโฉแล้วลุกขึ้นจากโซฟา เรียวค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินตามไปห่างๆ พยายามใม่ให้เป็นที่สังเกต ในใจพยายามคิดหาทางว่าจะทำอย่างไรดี
...คิดสิวะคิด ลิฟท์จะถึงชั้นยี่สิบห้าอยู่แล้ว ออกจากลิฟท์เดินไปไม่กี่สิบก้าวก็เข้าห้องแล้วนะโว้ยเรียว เข้าไปแล้วหาทางออกลำบากนะแก...
“คิดอะไรอยู่หรือน้องหนุ่ม คิ้วย่นเชียว อย่าเครียดสิ พี่ไม่ได้จะเอาไปฆ่าซะหน่อย” ประพจน์หัวเราะคิกคัก “ออกลิฟท์แล้วเลี้ยวซ้ายนะ เดินไปอีกสามห้องก็ถึง”
ลิฟท์เปิดออก ประพจน์เดินนำออกไปก่อน เรียวเดินตามแล้วรีบก้มหน้าทันทีเพราะรู้สึกตัวว่ามีคนเดินมาจากทางด้านขวามือ
ประพจน์เดินไปถึงหน้าห้องพัก สอดบัตรเข้าประตูและเปิดออก เรียวเดินไปถึงพอดี แต่ทันใดนั้นก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงห้าวๆ ของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“พี่พจน์”
“บอส” ประพจน์ตกใจ
“บอส” เรียวพึมพำ ก้มหน้างุด หันหน้าเข้าหาประตู กำลังจะรีบเดินเข้าไปในห้อง แต่เสียงหนึ่งในหัวดังขึ้นมาว่า นี่ไง คนที่จะมาช่วยให้รอดเงื้อมมือของประพจน์
 “พี่มาทำอะไร นี่ใคร เด็กใช่ไหม” บอสถามเสียงห้วน มือจับแขนเรียวกระชาก และเมื่อเห็นหน้าว่าเด็กของประพจน์เป็นใครก็ต้องอุทานออกมา
“หนุ่ม” บอสไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
“รู้จักกันหรือ” ประพจน์อุทานออกมาเช่นกัน
“พี่ทำยังงี้ได้ยังไง  ไหนว่ามาประชุม หนุ่ม บอกมาซิ ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิด” บอสพูดเสียงห้วน
“ผม..เอ่อ...” เรียวอึกอัก มองซ้ายทีขวาที ไม่คิดว่าจะบังเอิญถึงขนาดนี้ ใจหนึ่งก็ดีใจที่ประพจน์เจอกับอุปสรรคและท่าทางจะไม่ได้ขึ้นสววรค์ตามที่หมาย แต่เขาไม่อยากจะเชื่อว่า คนที่มายืนอยู่ตรงหน้านี้คือบอส และรู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่ใช่น้อย
“พี่พิมเมียพี่มาหาเพื่อนอยู่ห้องโน้น” บอสมองไปยังสุดทางเดินข้างหน้า “นี่ถ้าผมไม่ขึ้นมาตามก็คงไม่เห็นอะไรดีๆ คราวนี้พี่สาวผมจะได้เชื่อซะที ว่าสามีของตัวเองมีพฤติกรรมแบบไหน”
“อย่านะบอส” ประพจน์หน้าเจื่อน “พิมต้องไปโวยวายที่บ้านแน่ สงสารหลานตัวเองบ้างสิ”
“ถ้าพี่อยากให้ผมสงสารหลาน แล้วทำไมตัวเองไม่คิดจะสงสารลูก ไม่รู้จักละอายใจ ไม่คิดเลยหรือว่าถ้าลูกรู้ว่าพ่อตัวเองเป็นแบบนี้จะรู้สึกยังไง ครั้งสุดท้ายแล้วนะพี่พจน์ ผมขอเตือน” บอสชี้หน้าสุพจน์ “ไม่งั้นพี่จะไม่เหลืออะไรเลย”
“พี่ไปล่ะ” ประพจน์ปิดประตู เดินย้อนกลับไปที่ลิฟท์ทันที บอสหันขวับมาหาเรียว นัยน์ตาแสดงความโกรธปนผิดหวัง
“พี่ไม่นึกเลยว่าหนุ่มจะทำอะไรแบบนี้”
“ผมเพิ่งทำครั้งแรก” เรียวแกล้งทำเสียงสั่น ก้มหน้าหลบตา
“อยากได้เงินมากถึงขนาดต้องทำแบบนี้เลยหรือ” บอสกระชากเสียง ยกมือขึ้นบีบไหล่ทั้งสองข้างของเรียวเขย่า
“พ่อผมไม่สบาย” เรียวพูดเบาๆ กำลังตัดสินใจอยู่ว่าควรจะบีบน้ำตาดีหรือไม่
“ต้องการเงินเท่าไหร่ บอกพี่มา พี่จะให้”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“ทำไม รับเงินพี่มันจะเสียศักดิ์ศรีงั้นหรือ แล้วที่คิดจะขายตัวนี่มันมีศักดิ์ศรีตรงไหน แล้วคืนนั้นทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวมันหมายความว่ายังไง แกล้งทำหรือจริง เพราะไม่ได้เงินยังงั้นหรือถึงไม่ยอมมีอะไรกับพี่ ทำไมตอนนั้นไม่พูดออกมาซะเลยล่ะ พี่จะได้รู้ แล้วนี่หายไปไหนมา หลบหน้าพี่ยังงั้นหรือ ติดต่อยังไงก็ไม่ได้ โกโหกเบอร์โทรพี่ใช่ไหม” บอสถามออกมาเป็นชุดๆ เสียงเริ่มดังขึ้น
...เล่นถามแบบนี้ใครจะตอบได้หมด เอาไงดีวะ ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ กะอีแค่คนเคยเจอกันครั้งสองครั้งเอง งั้นชวนทะเลาะดีกว่า...
“แล้วที่พี่ทำมันมีศักดิ์ศรีต่างผมนักหรือไง เป็นเจ้ามือพนันแข่งรถ แล้วขายยา...ด้วยมั๊ง” คำพูดสุดท้าย เรียวปล่อยให้เสียงแผ่วเบาหายไปในลำคอ
“มานี่เลย” บอสลากมือเรียวเดินไปทางเดิน เรียวฝืนตัวไว้พอเป็นพิธี แต่ในที่สุดก็ยอมเดินตาม บอสผลักเขาเข้าไปในลิฟท์ กดหมายเลขชั้นล่างสุดแล้วยืนนิ่ง ตามองอยู่ที่ตัวเลขสีเขียวเหนือประตูลิฟท์ มือกำข้อมือของเรียวแน่น
“ฟังนะ พี่ยอมรับว่าตัวเองเคยขายยา แต่พี่เลิกแล้ว เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง” บอสเสียงอ่อนลง เมื่อลิฟท์เปิดก็ดึงแขนเรียวให้เดินตามออกไป
“พี่จะพาผมไปไหน” เรียวถาม พยายามดึงมือออกจากมือของบอสแต่ฝ่ายนั้นไม่ยอมปล่อย
“พากลับบ้าน”

♥♥♥♥♥
เมื่อขึ้นนั่งบนรถ บอสก็ยังไม่ออกรถ นั่งนิ่งมองผ่านกระจกไปข้างหน้า ขบกรามแน่น ปากเม้มเป็นเส้นตรง ราวกับพยายามสะกดอารมณ์
“พี่ ผมขอโทษ” เรียวพูดเบาๆ
“รู้ไหมหนุ่ม ถึงแม้เราจะเพิ่งรู้จักกัน เพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง แต่อะไรบางอย่างทำให้พี่รู้สึกดีกับหนุ่มมาก เรื่องยานั่นน่ะ พี่คิดมาระยะหนึ่งแล้วว่าจะเลิกทำ เรื่องเป็นเจ้ามือพนันแข่งรถก็เหมือนกัน แต่คงอีกซักระยะ ต้องเคลียร์เงินให้พวกเด็กๆ ก่อน พี่ใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้ว รู้สึกเบื่อ รู้สึกแย่ พี่อยากจะเปลี่ยนชีวิต และเมื่อเป็นอย่างนี้ พี่ยิ่งไม่อยากเห็นหนุ่มเริ่มเข้ามาในวังวนแบบนี้ มันไม่ดี”
...ทำไงดีวะ ก็เรื่องงานนี่หว่า ไม่ได้ขายตัวจริงซักหน่อย แล้วน้องแกก็ทำไมจริงจังอะไรแบบนี้ เพิ่งเรียนอยู่ปีสี่เอง แต่คิดได้แบบนี้ก็ดีนะ...
“สัญญากับพี่ได้ไหมว่าจะเลิก ไม่ทำกับชีวิตแบบนี้” บอสหันหน้ามาจ้องตาเรียว สายตาจริงจัง
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ถ้าจำเป็นต้องใช้เงิน พี่ช่วยได้ ถ้าไม่รับเงินพี่ก็ไม่เป็นไร พี่จะช่วยหางานพิเศษให้ แต่ห้ามไปขายตัว” บอสยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ยกมือขึ้นแตะแก้มของเรียว ลูบไล้เบาๆ “ขอร้องนะหนุ่ม ในชีวิตพี่แทบจะไม่เคยขอร้องใคร เราเพิ่งเจอกันก็จริง แต่พี่รู้สึกพิเศษกับหนุ่มแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกับใครจริงๆ หนุ่มอาจจะไม่เข้าใจเพราะยังเด็กอยู่ แต่พี่ผ่านอะไรมาเยอะ เชื่อพี่นะ”
...น้องเอ๋ย อย่าบอกนะว่าที่รู้สึกพิเศษแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนี่คือรักแรกพบ แบบนี้ต้องยุ่งแน่ๆ เลย...
♥♥♥♥♥
“คิดอะไรอยู่หรือหมวดเรียว” คมกริชเดินมาถาม หลังจากสังเกตเห็นว่าเรียวนั่งนิ่งแทะเล็บตัวเองมาเกือบห้านาทีแล้ว ต่างจากปรกติที่ไม่เคยอยู่เฉยๆ
“เปล่าครับ” เรียวส่ายหน้าปฏิเสธ
“งานนี้ไหวหรือเปล่า”
“งานขายตัวนี่หรือครับ ไหวครับ” เรียวเงยหน้าถาม “ไหวสิครับ แต่ว่ายังไม่ได้เบาะแสอะไรเลยครับ ได้แค่เงินค่าตัวมาสองพัน”
"มีอะไรน่าหนักใจไหม"
"ไม่มีครับ" เรียวส่ายหน้าเร็วๆ
"แน่ใจหรือ"
"แน่ใจครับ ผู้กองไว้ใจได้ครับ รับรองว่าผมไม่ทำให้เสียเรื่องแน่นอน ผมจะตั้งใจทำงาน ไม่ฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเด็ดขาด" เรียวยกนิ้วขึ้นทำท่าเหมือนลูกเสือกำลังปฏิญาณตน
"แล้วเวลาไปกับลูกค้า"
"ไปกับลูกค้า ทำไมหรือครับ" เรียวย่นคิ้ว ทำหน้าสงสัย ไม่เข้าใจคำถามของผู้กองคมกริช
“แล้ว...เอ่อ...เคย...” คมกริชอึกอักเล็กน้อย
“แล้วอะไรหรือครับผู้กอง” เรียวเลิกคิ้วสงสัย รู้สึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาทันใดเพราะตั้งแต่เข้ามาทำงานที่หน่วยยังไม่เคยเห็นผู้กองคมกริชทำท่าทางแบบนี้มาก่อน ผู้ชายคนนี้ไม่เคยลังเล คำพูดสั้นๆ แต่ละคำที่ออกมาจากปากมีความหมายเข้าใจได้ชัดเจน
...คิดแล้วอยากให้หมวดลูกชิ้นมาเห็นเหลือเกิน คงจะได้มีเรื่องเอาไว้ล้อผู้กองคมกริชลับหลังแน่เชียว...
“รอดตัวโดนฟันมาได้ทั้งสองครั้งครับ ผู้กองสบายใจหายห่วงได้” เรียวให้คำตอบจากการเดาสิ่งที่คมกริชจะถาม
“ดีแล้ว ระวังตัวหน่อย” คมกริชพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับปิดประตูตามหลัง
“จะหน้านิ่งไปถึงไหน อยากรู้ก็ไม่ถามออกมาตรงๆ” เรียวบ่นพึมพำ มองตามร่างสูงใหญ่ของรองหัวหน้า ก่อนจะหันหน้ากลับมาแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เฮ้อ ทำไงดีวะ คราวนี้จะขายตัวก็ลำบากซะแล้ว บอสนะบอส มาจริงจังอะไรตอนนี้”
♥♥♥♥♥
เรียวดูรูปภาพของผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเอเยนต์ขายยาเสพติดซึ่งเป็นลูกค้าของโจโฉจนแน่ใจว่าจำได้แล้วจึงเก็บโทรศัพท์เอาไว้ หนึ่งในนั้นเป็นชายอายุประมาณปลายสามสิบ หน้าตาค่อนข้างดี อีกคนเป็นชายร่างท้วม อายุพอๆ กับคุณลุงของเขาก็ว่าได้
“เฮ้อ ต้องรับลูกค้าเพื่อสร้างชื่อเสียงอีกกี่คนวะ กว่าจะได้ลูกค้าเป้าหมาย” เรียวบ่นเบาๆ อยู่คนเดียว มองตรงไปข้างหน้า เห็นรถของโจโฉกำลังแล่นเข้ามาจอดข้างถนน
"ลูกค้าคนนี้วีไอพีเลยนะโว้ย แกต้องบริการให้ดี อย่าให้เสียชื่อได้ อ้อ แล้ววันศุกร์ไปกับพี่พจน์อีก" โจโฉบอกเมื่อเรียวขึ้นนั่งบนรถ
"เฮ้อ พี่พจน์อีกแล้ว" เรียวอดบ่นไม่ได้ "ยังไม่เข็ดอีก"
"สงสัยพี่พจน์ติดใจแกมาก ทีนี้ได้เพิ่มราคาอีกห้าร้อย" โจโฉหัวเราะชอบใจ
"พี่ ลูกค้าคืนนี้เป็นรุกหรือรับ ผมเจอแต่รุก จะไม่ไหวแล้วนะ นี่ก็รับลูกค้าทุกวัน ไม่ให้พักบ้างเลยหรือ พี่หาลูกค้าหล่อๆ ให้ผมหน่อยสิ อย่างน้อยจะได้รู้สึกมีชีวิตชีวาบ้าง"
"เสือกเลือกอีก ทำงานแบบนี้เลือกมากไม่ได้หรอกโว้ย เงินทั้งนั้น เงินมาก็ต้องเอา"
"พี่ก็พูดได้สิ พี่ไม่ได้เป็นคนนอนถ่างขาให้เขาเอานี่นา"
"เอ๊ะ ไอ้นี่ อย่าเถียงสิวะ อุตส่าห์หาลูกค้าให้ หรือแกอยากหาลูกค้าเอง ก็ได้นะ แต่อย่าลืม ไม่ได้ลูกค้าใจป้ำจ่ายหนักๆ แบบนี้หรอก คืนนี้ถ้าทำดี พี่เค้าอาจเหมาทั้งคืน ได้เงินเพิ่มอีกหลายพันเลยนะจะบอกให้ บอกแล้วไงว่าคนนี้ระดับวีไอพี ส่วนเรื่องหน้าตาแกไม่ต้องห่วง พี่เค้าหล่ออยู่เหมือนกัน ยังหนุ่มอยู่ด้วย ทีนี้เลิกบ่นได้แล้ว"

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงโรงแรมที่นัดหมาย โจโฉเดินนำเรียวไปยังห้องพักของแขกวีไอพี เคาะประตูแล้วยืนรอ เรียวถามว่าไม่ต้องมีของอะไรให้ลูกค้าหรือ
"พี่เค้ามีทุกอย่าง ไม่ต้องห่วง ถ้าเค้าจะเล่นยา แกก็ไม่ต้องเล่นด้วยเยอะ เดี๋ยวกลับไม่ได้"
"เค้าเตรียมของเค้ามาเองเลยหรือพี่ ไหนพี่บอกว่าถ้าลูกค้าอยากเล่นก็ให้บอก พี่จะได้เอามาส่งให้"
"คนนี้ไม่ต้อง บอกแล้วไงว่าวีไอพี" โจโฉตอบ
"ยิ่งระดับวีไอพี ยิ่งต้องมีของบริการไม่ใช่หรือพี่ คราวพี่ประพจน์ เขาบ่นผมใหญ่เลยว่าผมไม่เตรียมของให้พร้อม ถ้าเค้าจะเอาไอซ์ล่ะ ผมจะทำไง"
"เอ๊ะไอ้นี่ เรื่องมากจริง" โจโฉชักหงุดหงิด
"ก็ผมกลัวว่าเขาจะบ่นผมนะสิ"
"ไม่บ่นโว๊ย"
"ไม่บ่นได้ยังไง เกิดเขาอยากเล่นยาด้วย ต้องเสียเวลาโทรเรียกพี่ เกิดโทรไม่ติด มันก็หมดอารมณ์สิ ถ้าเขาหงุดหงิดใส่ผมล่ะ ถ้าเขาอยากได้เหมือนตอนไปกับพี่พจน์ แต่ผมไม่มีอะไรให้เขา" เรียวจงใจกวนอารมณ์โจโฉ
"พี่เค้ามีพร้อมโว้ย ใครๆ ก็เอาจากเค้านี่ล่ะ หยุดพูดซะที" โจโฉตะคอกเบาๆ
"ใครๆ ก็เอาจากเค้า หมายความว่ายังไง พี่เขาเป็นเอเย่นต์หรือ" เรียวถาม ทำหน้าสงสัย รู้สึกดีใจที่ในที่สุดก็เริ่มจะได้เบาะแส ไม่เสียเวลาที่ปลอดตัวเข้ามาสืบ แต่ยังไม่ทันที่โจโฉจะพูดอะไร ประตูห้องก็เปิดออก คนที่ยืนอยู่ในห้องเป็นชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าขาว ไรหนวดครึ้ม เรียวชะงักเล็กน้อย จำหน้าได้ทันทีว่าคือผู้สงสัยค้ายาเสพติดซึ่งเป็นเป้าหมายของการปลอมตัวมาทำงานครั้งนี้
โชคดีอะไรเช่นนี้
โจโฉเดินนำเข้าไปในห้อง เรียวเดินตาม ชายคนนั้นมองเรียวจากหัวจรดเท้าด้วยสายตาพึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด โจโฉบอกให้เรียวยืนรออยู่ที่ประตูเสียก่อน ส่วนตัวเองเดินไปคุยกับลูกค้าที่ข้างเตียงนอน เรียวสังเกตเห็นว่าโจโฉรับถุงพลาสติกสีเข้มมาจากอีกฝ่าย ก่อนจะยื่นเงินให้จำนวนหนึ่ง
นี่หรือที่เมื่อครู่นี้โจโฉบอกว่า 'ใครๆ ก็เอาจากเค้านี่ล่ะ' คงพอจะแน่ใจได้กระมังว่าชายคนนี้เป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดจริงตามที่ผู้กองคมกริชสืบทราบมา
โจโฉออกจากห้องไปแล้ว ชายคนนั้นเรียกให้เรียวไปนั่งใกล้ๆ ถามชื่อและอายุ แล้วผลักให้เรียวนอนหงายลงบนเตียงทันที
"เดี๋ยวก่อนครับพี่ ไม่ให้ผมอาบน้ำก่อนหรือครับ" เรียวท้วง
"ไม่ต้อง พี่ชอบกลิ่นแบบนี้" ชายหนุ่มร่างสูงจับขาเรียวกางออก ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นข้างขอบเตียงแล้วซุกหน้าลงบนต้นขาของเรียว มือทั้งสองข้างบีบเค้นปลีน่องแกร่งของนายตำรวจผู้ปลอมตัวมา
"เสียว" เรียวแกล้งครางเบาๆ
ชายคนนั้นไม่ต้อง ใช้ปากพรมจูบไปทั่วต้นขาของเรียว แล้วเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ อ้าปากงับเข้าที่หัวเข่าด้านขวาแล้วขบเบาๆ มือลูบไล้ขึ้นมาตามท่อนขาจนถึงกลางลำตัว เฟ้นฟอนเป้ากางเกงของคนที่นอนหงายอยู่อย่างมันมือ
"พี่ครับ เดี๋ยวก่อนครับพี่" เรียวจับข้อมือของลูกค้าหนุ่มเอาไว้ "พี่รุกหรือรับครับ"
"รุก"
"ขอผมเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหมครับพี่" เรียวผงกหัวขึ้นมา "ขอผมล้างก่อน จะได้สะดวก ผมไม่เคยรับ"
"จริงหรือ" คนที่กำลังซุกไซร้อยู่ที่หน้าขาของเรียวเงยหน้าขึ้น มองด้วยสายตาหื่นกระหาย
"ครับ พี่เป็นลูกค้าคนที่สาม สองคนแรกที่ผมเคยไปด้วยแค่ใช้มือเพราะมันเข้าไม่ได้ เขาบอกว่าแน่นมาก อัดหล่อลื่นเข้าไปตั้งครึ่งหลอดก็ยังฝืด" เรียวพยายามทำหน้าให้ดูอ่อนเดียงสาที่สุดเท่าที่จะทำได้
"แล้วนี่จะไหวหรือ" ลูกค้าหนุ่มยันตัวลุกขึ้น ปลดตะขอกางเกงออก รูปซิบดึงกางเกงลงพร้อมกับกางเกงชั้นใน ความแข็งแกร่งกลางลำตัวดีดผึงออกมา
"โอ้โห" เรียวอุทาน อ้าปากกว้าง ตาค้าง "แบบนี้ผมตายแน่ๆ เลยครับพี่"
"พี่จะค่อยๆ เจ็บเฉพาะตอนแรกๆ เท่านั้นล่ะ เดี๋ยวมันก็ขยาย"
"ผมขาดใจตายแน่ๆ เลย" เรียวหน้าสลด คราวนี้ไม่ได้แกล้งทำเพราะรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ จากการกะด้วยสายตา เขาคิดว่าท่อนทวนที่ตั้งผงาดอยู่เบื้องหน้านี้คงมีความยาวไม่ต่ำกว่าเจ็ดนิ้ว
"ลองก่อนสิ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ค่อยเอาออกมา"
"ครั้งแรกผมก็เจอแบบนี้เลยหรือ ฉีกแน่ๆ เลย" เรียวครวญเสียงแผ่ว อยากจะร้องไห้เสียให้ได้ ในใจพยายามคิดหาทางเอาตัวรอด
"ครั้งแรกจริงหรือ ไหนมาดูซิ" พูดเสร็จก็ปลดกางเกงเรียวแล้วดึงออก พลิกให้นอนคว่ำ เรียวตะกายหนีเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะใช้นิ้วสอดเข้าไปตรวจสอบ
"พี่ครับ เดี๋ยวก่อนสิครับ ให้ผมเข้าส้วมก่อน ผมกลัวกลั้นไม่ไหว" เรียวพยายามยื้อเวลา
"เรื่องมากจริงๆ นะเรา ถ้ากลัวเจ็บจริงๆ พี่มีวิธีให้"
"ป๊อบเปอร์หรือครับพี่ ผมว่าแค่นี้เอาไม่อยู่หรอก" เรียวทักท้วง
"มีดีกว่าอีก"
"ถ้างั้นผมโทรตามพี่โจโฉให้เขาของมาให้นะครับ แต่พี่เป็นคนง่ายเงินนะครับ ถ้าไอซ์นี่ราคา..." เรียวเสนอบริการเสริม
"ไม่ต้อง พี่มี"
"อ้าวพี่มีด้วยหรือ ของไม่ได้หาง่ายๆ นะครับ" เรียวทำหน้าแปลกใจ
"มีทุกอย่างนั่นล่ะ ไม่รู้หรือ ไอ้โจโฉมันก็เอาจากพี่"
"โอ้โห เยี่ยมเลย" เรียวยกนิ้ว "งั้นผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ ของพี่ใหญ่น่ากลัวมาก แต่ถ้าได้อัพซักหน่อยก็น่าจะไหว แต่พี่ต้องค่อยๆ จริงๆ นะครับ อย่าเผลอตัวจับเอวผมดึงเข้ากระแทกก็แล้วกัน สงสารผมหน่อยเถอะ ถ้าฉีกขึ้นมาผมหากินไม่ได้อีกหลายวันเลย ช่วงนี้ยิ่งต้องใช้เงิน รอบละพัน กว่าจะถึงหมื่น ผมคงต้องโดนไปสิบคน"
"อะไรกัน โจโฉมันหักเยอะขนาดนั้นเลยหรือ"
"พี่จ่ายเท่าไหร่ครับ" เรียวถาม
"สามพัน"
"ทำยังไงได้ ผมเป็นเด็ก" เรียวถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วตีหน้าเศร้า "เขาให้เท่าไหร่ก็ต้องเอา ผมจำเป็นต้องใช้เงินนี่ครับ นี่เพิ่งเก็บได้แค่สองพัน ถ้าได้อีกหมื่นผมก็ได้เงินพอจะเอาไปให้ลุง"
"ลุงเป็นอะไร"
"ลุงป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากครับ ความจริงไม่ใช่ลุงจริงๆ หรอกครับ แต่เขาเลี้ยงผมมา ผมก็ต้องตอบแทนบุญคุณ งานอะไรที่ได้เงินผมทำหมด ถึงต้องมาขายตัวแบบนี้ เพราะคิดว่าคงเป็นวิธีเดียวที่เงินเยอะและเร็วที่สุด" เรียวพูดเสียงเศร้า ก้มหน้า
"งานอื่นที่มันได้เงินเยอะกว่าก็มี เอางี้ ถ้าบริการพี่ดีๆ พี่จะเพิ่มให้"
"ขอบคุณครับ" เรียวเงยหน้าขึ้น ยกมือไหว้อีกฝ่าย "แต่ถ้าพี่มีงานให้ผมทำก็คงจะดี พี่โจโฉเล่นหักค่าตัวผมซะขนาดนี้ ผมก็ไม่รู้จะอยู่กับแกไปได้อีกนานเท่าไหร่ วันก่อนผมแอบได้ยินตกลงราคากับลูกค้าสี่พัน"
"เถอะน่า แล้วค่อยว่ากัน ตอนนี้รีบไปเข้าห้องน้ำซะ พี่จะไม่ไหวอยู่แล้ว บอกแล้วไงว่าถ้าทำดี พี่จะให้เพิ่ม ส่วนเรื่องงาน ถ้าอยากทำจริงๆ ก็มีให้ทำ รับรองรายได้ดี เงินหมื่นน่ะแค่เศษเล็บ"
"โอ้โห จริงหรือครับ พี่ใจดีจังเลย" เรียวอุทาน แกล้งทำหน้าตื่นเต้นดีใจ ยื่นมือคว้าแก่นกายกลางลำตัวของอีกฝ่ายเอาไว้ "แบบนี้ผมพลีกายถวายก้นให้เลย ว่าแต่ว่า พี่ชื่ออะไรหรือครับ"
"เรียกว่ามาร์คก็แล้วกัน"
"พี่มาร์ค รอผมเดี๋ยวนะ ขอผมไปล้างท่อให้สะอาดซะก่อน เดี๋ยวมา" เรียวแหงนหน้ามองมาร์คตาเยิ้ม มือบีบท่อนลำของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ
เรียวล้วงโทรศัพท์ออกมา กดส่งข้อความเป็นรหัสลับให้กับผู้กองคมกริช จากนั้นนั่งลงบนชักโครก พยายามนึกหาวิธีที่จะเอาตัวรอดจากมาร์ค เจ้าของท่อนลำขนาดมโหฬารท่อนนั้น

►จบบทที่ 10◄


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ซิกาแร๊ต

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เอ๊ะ ตอนนี้คุณพลเมืองดีที่พูดมากๆ อารมณ์ดีๆ หายไปไหนหว่าาา

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตอนนี้พระเอกหายยยยย 5555555555 น้องเรียวใกล้แล้ว ใกล้จะเสียตัวแล้ว 5555555555555 จะรอดมั้ยน๊าาา่

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
หมวดเรียว จะเสียตัวมั้ย 5555555555555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ดูหมวดเรียวจะชินกับเนื้อตัวผู้ชายอื่นแบบไม่ตะขิดตะขวงใจเรยนี่

จะรอดอิพี่มาร์คหรือเปล่าหนอ   :hao3:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ KATAWOOT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
♀ บทที่ 11 ♀

เรียวนั่งอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเมื่อมองดูข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์ซึ่งส่งมาจากผู้กองคมกริช
"สามสิบนาที" เรียวพึมพำเบาๆ
อีกครึ่งชั่วโมงผู้กองคมกริชถึงจะเริ่มปฏิบัติการได้ เขารอนานขนาดนั้นไม่ได้หรอก ถ้าออกไปจากห้องน้ำ รับรองได้ว่าไม่ถึงสิบนาทีต้องโดนมาร์คจัดการยัดเยียดความเป็นสามีให้แน่ๆ เลย
"ไหนบอกว่าจะคอยสแตนด์บาย เผื่อต้องการความช่วยเหลือ" เรียวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทรุดตัวลงนั่งบนชักโครก คิดหาวิธียื้อเวลา
ชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในความคิด
ศรันย์!
เรียวรีบกดโทรศัพท์ส่งข้อความทันทีว่า 'มาหาหน่อย ภายในสิบนาที โรงแรม...ห้อง...กำลังจะโดนลูกค้าฟัน'
ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็มีข้อความตอบกลับมา เมื่อเปิดอ่าน เรียวอยากจะยิ้มและแยกเขี้ยวในเวลาเดียวกัน
'สิ่งตอบแทน???'
เรียวถอนหายใจเบาๆ ในใจก็ได้แต่หวังว่า ศรันย์คงจะหัวใวพอที่หาวิธีช่วยเขาให้รอดจากเงื้อมมือของมาร์คเหมือนครั้งที่รอดจากประพจน์ เพราะฉะนั้นจึงตอบกลับว่า 'อะไรก็ได้ ขอให้รอด มาด่วนที่สุด'
'ได้จ้าน้องหนุ่ม'
เรียวรู้สึกโล่งอกบ้างเมื่อได้รับข้อความตอบจากศรันย์ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือยื้อเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อออกมาจากห้องน้ำ มาร์คนอนรออยู่แล้วบนเตียง ร่างเปลือยมีกล้ามเนื้อพอสมควร แสดงให้เห็นว่าคงออกกำลังกายอยู่บ้าง
ทั้งที่รู้ว่าศรันย์กำลังเดินทางมาที่โรงแรมเพื่อช่วยให้เขาหาทางเอาตัวรอดจากมาร์ค แต่สิ่งที่วางผาดอยู่กลางลำตัวของคนที่นอนแผ่นหราอยู่บนเตียวก็ทำให้เรียวรู้สึกหนักใจอยู่พอสมควร เพราะอย่างน้อยก็คงจะต้องเริ่มเล้าโล้มกันรอไปก่อน ถ้ามาร์คให้เขาใช้ปากให้ก็คงจะแย่
"มานี่สิ" มาร์คพยักหน้าเรียก นันย์ตาวาบหวาม มือรูดความเป็นชายของตัวเองขึ้นลงช้าๆ
"ของพี่ใหญ่จังเลย" เรียวมองดูท่อนลำของมาร์คซึ่งกำลังเริ่มผงาดขึ้น ถอนหายใจเฮือกใหญ่
"อมให้หน่อยสิ" มาร์คพูดเสียงแตกพร่า
"ขอใช้ถุงนะครับพี่ ปากผมเป็นแผลอยู่" เรียวเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย แสดงสีหน้าหนักใจ
"ไม่ต้อง"
"อ้าว ทำไมล่ะครับ"
"พี่ไม่ชอบ มันไม่ได้อารมณ์"
"แต่ผมมีแผลในปากอยู่นะครับ มัน...เอ่อ..." เรียวแสดงท่าทีลังเล
"พี่เพิ่มให้อีกพันนึง" มาร์คกางขาออกกว้าง พยักหน้าบอกให้เรียวเริ่มให้บริการ
"ผมขอพันห้าได้ไหมครับ" เรียวต่อรอง หาเรื่องยื้อเวลาต่อ
"สองพันเลยเอ้า" มาร์คเสนอเพิ่มราคาให้เอง "กินด้วยนะ"
"โอ้โห ไม่ได้หรอกครับพี่ ให้กี่พันผมก็กินน้ำด้วยไม่ได้หรอก" เรียวรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
"พี่สะอาดปลอดภัย ไม่ต้องห่วง"
"ผมรู้ครับ แต่ว่าผมกินไม่ได้ พี่เห็นใจผมเถอะ ใช้ปากให้นี่ผมก็สุดๆ แล้ว ผมเพิ่งขายเองนะครับ กับพี่นี่แค่ครั้งที่สาม ผมไม่เคยจริงๆ นะครับพี่ ไม่ได้โกหก ผมเป็นผู้ชาย"
"นั่นล่ะของชอบ"
"ใหญ่ขนาดนี้ ใจขาดตายแน่เลย ใครเป็นแฟนพี่นี่อึดสุดๆ โดนเข้าไปจุกแน่ๆ" เรียวเอื้อมมือไปคว้าแก่นกายของมาร์คเอาไว้แล้วบีบเค้นเบาๆ รู้สึกหนักใจยิ่งนัก
ความจริงก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคย จะว่าไปมาร์คก็หน้าตาดีพอสมควร ถ้าหลับตาสักหน่อย คิดเสียว่าไม่ใช่เรื่องงาน แต่สมมุติเอาว่าเป็นคนที่บังเอิญไปเจอที่บาร์แล้วเกิดถูกใจกัน พากันมามีเซ็กส์กันในโรงแรม
แล้วเมื่อไหร่อีตาศรันย์จะมาถึงซะทีวะ นี่มันถึงสิบนาทีแล้วหรือยัง
เอาถูๆ ไถๆ ข้างแก้มก่อนก็แล้วกัน
เรียวตัดสินใจก้มหน้าลง จับท่อนเนื้อของมาร์ครูดขึ้นลงเป็นจังหวะ แล้วใช้คางของตัวเองถูไถส่วนปลายเบาๆ มาร์คสะดุ้งเฮือก
"พี่ครับ เดี๋ยวนะครับ ผมขอปิดเสียงโทรศัพท์ก่อน ลืมไป" เรียวเงยหน้าขึ้น มาร์คพยักหน้า แล้วสอดปลายเท้าเข้ามาใต้หว่างขาขอเรียวซึ่งกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ ถูไถเบาๆ ทำให้เรียวต้องโหย่งตัวขึ้น แล้วแกล้งทำเป็นบิดตัว ส่งยิ้มอายๆ ให้ มาร์คจึงค่อยๆ ชันเข่าขึ้น
เรียวนั่งคล่อมเบียดเป้ากางเกงกับแข้งของมาร์คซึ่งกำลังขยับเสียดสีไปมา ทันใดนั้นเรียวก็คิดอะไรได้บางอย่าง
เมื่อแกล้งทำทีว่าปิดเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ตัวเองแล้ว เรียวจึงลงจากเตียง วางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะหัวเตียงแล้วหันหลังให้มาร์ค ค่อยๆ ถอดกางเกงของตัวเอง เผยให้เห็นบั้นท้ายงอนแน่นใต้กางเกงชั้นในสีขาว ตอนนี้เรียวคิดจะหันเหความสนใจของมาร์คจากความต้องการจะให้เขาใช้ปากให้ มาเป็นการโชว์ก้นสวยๆ นึกได้ว่ามาร์คเป็นฝ่ายรุก ต้องคลั่นไคล้หลงไหลส่วนนี้เป็นพิเศษแน่ๆ
ได้ผล มาร์คยันตัวขึ้นนั่ง โผเข้ามาเข้าซบก้นของเขาทันที ซุกหน้าเข้ากับร่องกลางแล้วเกลือกหน้าไปมาพร้อมกับครางเบาๆ
"ก้นสวยจังเลย"
"ผมภูมิใจกับก้นตัวเองมากเลยนะครับเนี่ย" เรียวหัวเราะเบาๆ ส่ายก้นไปมาเป็นการยั่วยวน
"ขอพี่นะ" มาร์คครางเสียงกระเส่า อ้าปากขบแก้มก้นขวาของเรียวเบาๆ มือซ้ายยกขึ้นมาเกาะกุมแก้มก้มขวาแล้วบีบเค้นอย่างเมามัน "เต็มไม้เต็มมือจริงๆ แน่นมาก"
"พี่ครับ เบาๆ สิครับ เดี๋ยวช้ำหมด" เรียวแกล้งพูดเสียงต่ำ แล้วครางเล็กน้อยพอเป็นพิธี มาร์คทั้งจูบ ทั้งขบ ทั้งเม้ม พร้อมทั้งใช้มือขย้ำจนหนำใจ จากนั้นดึงเรียวให้นั่งลงบนเตียงแล้วพลิกตัวให้นอนคว่ำ มือคว้าขอบกางเกงชั้นในสีขาวของชายหนุ่มแล้วดึงลง เผยให้เห็นก้อนเนื้อแน่น ขาวเนียนสะอาด
"อา เนียนจริงๆ" มาร์คครางอย่างพึงพอใจ ก้มหน้าลงซุกไซร้บั้นท้ายของเรียว ฉกลิ้นเลียวนรอบๆ มือค่อยๆ ดันขาของคนที่นอนคว่ำอยู่ให้กางออกเพื่อเปิดทางให้สะดวกขึ้น
"พี่ครับ เดี๋ยวครับ ผมยังไม่ได้ล้าง" เรียวพยายามหนีบขาเข้ามา
"ไม่ต้องหรอก พี่ชอบแบบนี้" มาร์คส่ายหน้า อ้าปากงับก้นงอนแน่นของเรียวแล้วขบค่อนข้างแรง เรียวสะดุ้ง กล้ามเนื้อกระตุก
"โอ๊ย เจ็บ พี่เบาๆ สิครับ เดี๋ยวเป็นรอยจ้ำ" เรียวพยายามเอี้ยวตัวมามอง
"สวยมาก สวยจริงๆ สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา" มาร์คเสียงกระเส่า ซุกหน้าลงเข้ากับร่องกลางระหว่างก้อนเนื้อนูนแน่นทั้งสองข้าง ตวัดลิ้นรัวเร็ว แล้วลากขึ้นตามร่องจนถึงบั้นเอวของเรียว จากนั้นลากลิ้นย้อนลงข้างล่าง มือตะปบเข้ากับก้นทั้งสองข้างของชายหนุ่มแล้วแบะออก
"โอย พี่ เดี๋ยวครับเดี๋ยว" เรียวพยายามตะกายตัวหนี
"อะไรอีกล่ะ อย่าดิ้นสิ" มาร์คจับเอวอีกฝ่ายเอาไว้
"ขอเวลานอกครับ ท้องผมมันปุ๊ดปั๊ดๆ ยังไงก็ไม่รู้ สงสัยแก๊สในกระเพาะเยอะ จะกลั้นไม่ไหวอยู่แล้ว" เรียวหันหน้าไปหา ทำหน้าผะอืดผะอม
"เรื่องมากจริงๆ นะเรา" มาร์คเริ่มหงุดหงิด
"เปล่านะครับพี่ ผมขอโทษ ก็มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ"
"งั้นอม" มาร์คจับเรียวพลิกนอนหงาย ขึ้นคล่อมหน้าอกอย่างรวดเร็ว มือซ้ายช้อนใต้คอของคนที่นอนอยู่ มือขวาจับท่อนลำขนาดยักษ์ของตัวเองฟาดเข้าที่แก้มของเรียวเบาๆ
"โอย ใหญ่มหึมาแบบนี้จะไหวไหมเนี่ย" เรียวหลุบตาลงมอง ขมวดคิ้วด้วยความหนักใจ "ถ้างั้น พี่เล่นก้มผมเหมือนเดิมก็ได้ครับ"
"ไหนว่าท้องไม่ค่อยดี"
"ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วครับ พี่ว่าก้นผมสวยไหมครับ"
"สวยสิ สุดยอดเลยล่ะ อยากได้มาก พี่เอาเลยนะ" มาร์คเอื้อมมือไปหยิบซองถุงยางอนามัยมาฉีกออก เรียวตาเหลือก รีบห้ามเอาไว้
"เดี๋ยวๆ เดี๋ยวสิครับพี่ ใช้นิ้วก่อนสิครับ ให้มันขยายซะก่อน ของพี่ใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ เอาเข้าไปเลยผมก็ฉีกขาดพอดี"
"เอ้า ใส่เจลให้เยอะๆ ซะ" มาร์คคว้าหลอดเจลหล่อลื่นมายื่นให้ แล้วสวมถุงยางอนามัยให้แท่งทวนของตัวเอง
"ขอผมทำใจหน่อยได้ไหม" เรียวทำหน้าเหมือนจะขาดใจ แต่แล้วก็นึกอะไรได้ "อ้อ พี่มีป๊อปเปอร์หรือเปล่าครับ คงต้องใช้ซักหน่อย ไม่งั้นผมขาดใจตายแน่เลย ครั้งแรกก็เจอปืนใหญ่ ผมกลัวขาดใจตาย"
"งั้นรอเดี๋ยว" มาร์คพยักหน้า ลงจากเตียงไปหยิบกางเกงของตัวเอง ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบขวดแก้วเล็กๆ ออกมาสองขวด
"พี่มียาด้วยหรือเปล่า ขอผมหน่อยเถอะ เผื่อจะช่วยได้ ขนาดมหึมาแบบพี่ ผมกลัวว่าป๊อปเปอร์อาจจะเอาไม่อยู่" เรียวพยายามยื้อเวลาต่อไป
"ถ้าจะเอาต้องซื้อนะ"
"เงินผมก็ไม่เหลือนะสิครับ" เรียวทำหน้ามุ่ย
"งั้นก็ไม่ต้อง มานี่ ถ่างขาออกกว้างๆ" มาร์คหยิบหมอนมาเตรียมสอดเข้าใต้ก้นของเรียว แต่ทันใดนั้นเสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น ทั้งสองหนุ่มสะดุ้ง หันไปมองประตูพร้อมกัน
"ไฟไหม้ๆ" เสียงคนตะโกนลั่นอยู่หน้าห้อง
เรียวถอนหายใจพรวดใหญ่ รู้สึกโล่งอก ในที่สุดศรันย์ก็มาถึงเสียที
มาร์คสบถออกมาอย่างหัวเสีย ถอยลงจากเตียง หยิบกางเกงชั้นในมาสวม แต่ยังถือกางเกงขายาวของตัวเองเอาไว้ จากนั้นเดินไปที่ประตูห้องแล้วเปิดแง้มมองออกไปข้างนอก
"เฮียครับ ไฟไหม้ รีบหนีเร็วครับ" เสียงของศรันย์ดังขึ้น
"ไฟไหมที่ไหน ไม่เห็นได้กลิ่นอะไรเลย" มาร์คถามเสียงห้วน
"ไหม้ห้องโน้นครับ มันกำลังจะลามมา พี่รีบออกจากห้องก่อนเถอะ เดี๋ยวไม่ทันนะ"
อีตาศรันย์เอ๊ย หาวิธีที่ดีที่สุดได้แค่นี้หรือไง
เรียวบ่นในใจ รีบลงจากเตียง หยิบกางเกงชั้นในของตัวเองมาสวม แต่ไม่ทันจะคว้ากางเกงยีนส์ได้ ระบบฉีดน้ำใต้ฝ้าเพดานก็ทำงานฉีดพ่นน้ำออกมา
"เฮ้ย อะไรวะ" เรียวอุทานเสียงดังเกือบจะพร้อมกับมาร์ค เสียงคนหลายคนโวยวายดังลั่น ประตูห้องอื่นๆ เปิดออกพร้อมกับมีคนวิ่งออกมา บางคนนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ขณะที่บางคนสวมเพียงเสื้อผ้าท่อนล่าง
มาร์คเดินกลับเข้ามาในห้อง รีบสวมกางเกง ศรันย์เปิดประตูห้องออกกว้าง มองเข้ามาข้างใน เห็นเรียวยืนตัวเปียกอยู่กลางห้อง สวมเสื้อสีขาวและกางเกงชั้นในสีเดียวกัน มือกำลังพยายามพลิกกางเกงยีนส์กลับด้าน
ศรันย์อ้าปากค้าง มองนายตำรวจหนุ่มด้วยดวงตาเบิกกว้าง ไม่นึกว่าจะได้เห็นภาพดีๆ แบบนี้ เรียวถลึงตาใส่ แล้วรีบก้มสวมกางเกง มาร์คหยิบโทรศัพท์ของตัวเองกำลังจะเดินออกจากห้อง เรียวจึงรีบเรียกเอาไว้
"พี่มาร์คครับ ผมจะได้เจอพี่อีกไหม"
"เออ เดี๋ยวติดต่อไป" มาร์คพูดสั้นๆ แล้วรีบเดินออกจากห้องจนชนกับศรันย์ เรียวไม่ลืมที่จะหันไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางเอาไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะตามออกมา
"นี่เล่นถึงกับวางเพลิงโรงแรมเลยหรือ" เรียวพูดกับศรันย์แล้วเร่งเดินไปตามทางเดินเพื่อตรงออกไปด้านนอกของโรงแรม แต่เมื่อเห็นศรันย์เดินตามมาติดๆ จึงหันขวับไปสั่งห้ามไม่ให้ตามมาและบอกให้ไปคนละทาง
เมื่อออกมายังนอกโรงแรม เรียวเดินเลียบไปตามกำแพงทางด้านซ้ายมือไปจนถึงถนนใหญ่ หยุดยืนอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง ตั้งใจจะเข้าไปซื้อน้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อแล้วถึงจะเรียกแท็กซี่ แต่เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้นเสียกอน
เรียวรู้สึกแปลกใจเพราะรู้ว่าตัวเองปิดเสียงโทรศัพท์ของตัวเองเอาไว้แล้วและตั้งระบบสั่นเท่านั้น แต่โทรศัพท์โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงมีทั้งระบบสั่นและเสียงเรียกเข้าเป็นเสียงเพลงร๊อคที่เขาไม่รู้จัก
เมื่อหยิบโทรศัพท์ออกมาดู เรียวก็อ้าปากค้าง ตาเหลือก แทบจะปล่อยโทรศัพท์หลุดมือ เพราะสิ่งที่ถืออยู่นั้นไม่ใช่โทรศัพท์ของตัวเอง
"ตายห่_" เรียวสบถ "ซวยซะแล้ว"

♥♥♥♥♥

เรียวนั่งกุมขมับอยู่ที่โต๊ะกลางห้องประชุมของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ รอเวลาว่าเมื่อไหร่สารวัตรธันว์กับผู้กองคมกริชจะเดินเข้ามาในห้องเสียที
มันจะได้จบๆ ไปเสียที ไอ้เรียวเอ๊ย คราวนี้นี้ล่ะ แกได้ไปโบกรถกลางสี่แยกแหงๆ
เสียงรองเท้ากระทบพื้นดังเข้ามาใกล้ เรียวเงยหน้าขึ้น หันไปมองประตู พันตำรวจตรีธันว์ กับร้อยตำรวจเอกคมกริชเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแล้วนั่งลงตรงข้าม
"หมวดเรียว" สารวัตรธันว์เรียกชื่อผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ "ผมจะทำยังไงกับคุณดี"
"ผมผิดไปแล้วครับสารวัตร" เรียวยิ้มแหยๆ ให้ธันว์ แล้วหันไปหาคมกริช "ผมขอโทษครับผู้กอง"
"จะว่าไปก็ไม่ใช่ความผิดของคุณทั้งหมด" ธันว์พูด "แต่ผมคงต้องขอให้คุณพักซักหน่อย"
"สารวัตรจะให้ผมไปทำตำรวจสัมพันธ์อีกหรือครับ"
"ไม่ต้อง" ธันว์ส่ายหน้า "คุณทำงานเอกสารแทนจ่ายุวดี อยู่ประจำหน่วย อยู่ใกล้ๆ ผม จะได้สั่งสอนสะดวก คุณจะได้เข้าใจเสียทีว่าทำไมจะต้องมีผู้บังคับบัญชา"
"ครับผม" เรียวตอบเสียงอ่อยๆ ถอนหายใจเบาๆ นึกหาคำอธิบายหรือคำแก้ตัวอะไรไม่ออก
"นายคนนั้นอาจจะถูกแจ้งข้อหาวางเพลิง" ผู้กองคมกริชพูดขึ้นหลังจากที่สารวัตรธันว์เดินออกไปจากห้องแล้ว
"วางเพลิง" เรียวครางเสียงเบา รู้สึกเป็นห่วงศรันย์ขึ้นมา
"อยากจะช่วยเขาไหม"
"เขาพยายามช่วยผม" เรียวพยักหน้า
"ถ้าอยากจะช่วยเขา บอกให้เขาอยู่ห่างๆ อย่าให้มายุ่งเรื่องงาน" คมกริชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ผมผิดเองครับ" เรียวยอมรับ
"ทำไมเรียกเขาไป"
"คือว่าผม..." เรียวอึกอัก
"คุณไม่เชื่อใจผมใช่ไหม"
"เปล่านะครับผู้กอง" เรียวรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
"คุณไม่เชื่อมั่นในตัวผม ว่าจะช่วยคุณได้"
"แต่ว่า..."
"แต่ว่าอะไร สามสิบนาทีนานเกินไปสำหรับคุณใช่ไหมหมวดเรียว"
"คือ...ผม..."
"มิน่า คุณถึงได้ฉายาหมวดเรียวดันทุรัง" คมกริชถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ "ผมยอมรับว่าครึ่งชั่วโมงอาจจะนานเกินไปสำหรับคุณที่จะถ่วงเวลา แต่บางทีนะ หมวดเรียว การทำงานของเราอาจจะต้องไปไกลกว่าที่เราคาดการณ์"
"ครับ" เรียวไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีไปมากกว่านี้
ต้องไปไกลขนาดไหนหรือ แค่ไม่กี่นาที มาร์คก็แทบเอาแท่งเอ็นยัดเข้าปากเขาอยู่แล้ว ไหนจะโดนอัดก้นอีกล่ะ ถ้าเป็นผู้กองเอง ผู้กองจะยอมร่วมเพศจริงๆ เลยหรือ
"ลุกขึ้น กลับบ้าน ผมจะไปส่ง" ผู้กองคมกริชลุกขึ้น
"ไม่เป็นไรครับ ผมกลับแท็กซี่เองก็ได้" เรียวรีบปฏิเสธ
"อย่าดันทุรัง"
"ไม่ได้ดันทุรังนะครับ แค่ไม่อยากจะรบกวน" เรียวลุกขึ้น
"ตามใจ" คมกริชพูดแล้วเดินออกจากห้อง แต่กลับหยุดยืนที่หน้าประตูแล้วหันมาพูดกับเรียวว่า "อ้อ โทรไปบอกนายคนนั้นซะเดี๋ยวนี้เลย"
เรียวพยักหน้าช้าๆ รอจนคมกริชเดินลับไปแล้วจึงเดินออกจากห้อง ในใจอดเป็นห่วงศรันย์ไม่ได้ว่าอาจจะต้องถูกตั้งข้อหา
♥♥♥♥♥
เรียวตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาศรันย์ก่อนที่จะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน เมื่อรับโทรศัพท์ศรันย์ก็รีบโวยวาย
"ซวยไหมล่ะคุณหมวด ไอ้นั่นเอาโทรศัพท์คุณไป ทำไมคุณเฟอะฟะอย่างนี้ เป็นตำรวจยังไงเนี่ยสลับโทรศัพท์กับโจร ถ้ามันตามไล่ฆ่าคนที่อยู่ในโทรศัพท์คุณจะว่ายังไง"
"หมายความว่ายังไงไล่ฆ่าคนในโทรศัพท์" เรียวถาม
"ก็พวกที่มีชื่ออยู่ในโทรศัพท์คุณหมวดไง เม็มชื่อใครในคอนแทคเอาไว้บ้างล่ะ"
"ไม่มี โทรศัพท์ทำงาน ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ปิดสัญญาณไปแล้ว" เรียวตอบ
"อ้าว เวรกรรม งั้นก็มีผมคนเดียวล่ะสิ คุณส่งเอสเอ็มเอสหาผมให้ไปช่วย ผมตอบคุณ แล้วผมก็โทรเข้าหาคุณตอนออกมาจากโรงแรม ไอ้นั่นมันรับสาย แต่ผมไม่ได้พูดอะไรหรอกนะ พอได้ยินเสียงคนอื่น ผมก็รีบวางสายเลย นี่มันจะแกะรอยตามผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ เกิดมันแค้นจะว่ายังไง" ศรันย์คร่ำครวญ
"ไม่มีอะไรหรอกน่า"
"คุณหมวดก็ว่าได้สิ ตัวเองเป็นตำรวจ มีปืน มีอำนาจ แล้วมันก็เป็นโจร คงไม่กล้าไปตามล่าตำรวจหรอก แต่ผมเป็นคนธรรมดานะครับ ตัวคนเดียว อยู่คนเดียว เกิดมันมาลุยผมมิแย่หรือ" ศรันย์ยังไม่ยอมหยุดบ่น
"ก็บอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีสิ"
"ผมกลัว"
"กลัวก็ปิดประตูใส่กลอน ปิดไฟนอนซะ" เรียวแนะนำ
"คุณหมวดมาอยู่เป็นเพื่อนผมหน่อยสิ"
เท่านั้นเอง เรียวก็หมวดความอดทน ตอนแรกอุตส่าห์เป็นห่วง แต่พอศรันย์ยังทะลึ่งทะเล้นกวนอารมณ์ได้แบบนี้ก็คงเป็นห่วงไม่ลง
"ว่าจะเตือนอะไรบางอย่าง ไม่เตือนดีกว่า" เรียวกระแทกเสียง
"เตือนอะไร มีอะไรหรือ คุณหมวดรู้หรือว่าไอ้นั่นจะตามมาฆ่าผม"
"เลิกทะเล้นได้แล้วคุณศรันย์" เรียวถอนหายใจแรงๆ แล้วตัดสินใจบอกข่าวร้าย "ตำรวจอาจจะแจ้งข้อหาวางเพลิงคุณ เตรียมตัวไว้เถอะ"
"อะไรวะ ได้ยังไง ผมช่วยคุณหมวดนะ ผมช่วยเหลืองานของตำรวจ ผมควรได้รับความดีความชอบไม่ใช่หรือ แบบนี้เขาเรียกว่าทำคุณบูชาโทษ คุณหมวดไม่แก้ตัวให้ผมหรือไง อธิบายให้หัวหน้าคุณฟังสิ"
"ผมพูดแล้ว ทำไมจะไม่พูด แต่สารวัตรไม่ฟังหรอก ผมยังโดนลงโทษด้วยเลย คุณรู้ไหม สารวัตรให้ผมไปทำงานเอกสาร อยู่ประจำหน่วย ดีไหมล่ะ" เรียวพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
"โถ น่าสงสาร"
"คุณศรันย์ ยังทำเป็นสนุกอยู่อีก"
"ผมไม่ได้วางเพลิง คุณเห็นหรือว่าผมวางเพลิง ผมแค่ทำให้น้ำมันแตก เอ๊ย ทำให้สปริงเกอร์มันฉีดน้ำเฉยๆ อะไรกัน เป็นตำรวจเสียเปล่า พากันคิดได้แค่นี้หรือ" ศรันย์เถียง
เรียวเม้มปาก รู้สึกทั้งฉุนและทั้งขำ อยากจะเห็นหน้าตาตอนนี้ของศรันย์ยิ่งนัก ว่าเวลาเถียงแบบข้างๆ คูๆ ผู้ชายคนนี้จะทำหน้าแบบไหน
"เอาเถอะ ถ้ายังงั้นก็คงไม่หนักหนาเท่าไหร่ คุณค่อยไปแก้ตัวกับสารวัตรก็แล้วกัน โทรมาแค่นี้ล่ะ ผมจะกลับบ้านแล้ว ง่วง" เรียวตัดบท
"คุณหมวดโทรมาเพราะเป็นห่วงผมใช่ไหม หือ" ศรันย์ทำเสียงอ่อนโยน
"แค่นี้นะ" เรียวพูดเสร็จก็วางสาย ก้าวออกจากตู้โทรศัทพ์สาธารณะ อดอมยิ้มไม่ได้ ทั้งที่เพิ่งเกิดเรื่องขึ้นมา
นายตำรวจหนุ่มเดินไปหยุดยืนอยู่บนขอบฟุตบาธริมถนน โบกมือเรียกแท็กซี่ สูดลมหายใจเข้าช้าๆ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาอย่างประหลาด
ศรันย์เข้ามาในชีวิตของเขาแบบไม่คาดฝัน และตอนนี้เขาก็เริ่มจะชินกับการที่มีคนหน้าทะเล้นคนนั้นคอยกวนอารมณ์เสียแล้ว และเมื่อเขาต้องมานั่งประจำอยู่ที่หน่วย ศรันย์ก็คงต้องหาเรื่องขึ้นโรงพักอีกเป็นแน่แท้ คงจะต้องเตรียมรับมือให้ดีเสียแล้ว
♥♥♥♥♥

►จบบทที่ 11◄

[/size]

ออฟไลน์ นางสาวกานาเลส

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น้องเรียว เริ่มหวั่นไหวกับเฮียศรัณย์แล้ววว เขินนนน

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
สรุปว่าหมวดเรียวไม่ซิงซินะ บางทีอาจจะเป็นพวกไบ ที่รุกก็ได้ รับก็ได้ ด้วย
ถึงไม่ค่อยมีปฏิกิริยาเท่าไหร่กับการต้องเล่นเป็นเด็กขาย หรือเวลาที่โดนผู้ชายคนอื่นลวนลามก็ดูจะเฉยผิดคาด
แต่กับไอ้คุณศรัณย์นี่ออกอาการเหมือนจะหวงเนื้อหวงตัวพิกล คนอ่านละงง

คือ สงสัยปมนี้มานานละ พอมาถึงตอนนี้ก็บางอ้อ

 

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ KATAWOOT

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
สรุปว่าหมวดเรียวไม่ซิงซินะ บางทีอาจจะเป็นพวกไบ ที่รุกก็ได้ รับก็ได้ ด้วย
ถึงไม่ค่อยมีปฏิกิริยาเท่าไหร่กับการต้องเล่นเป็นเด็กขาย หรือเวลาที่โดนผู้ชายคนอื่นลวนลามก็ดูจะเฉยผิดคาด
แต่กับไอ้คุณศรัณย์นี่ออกอาการเหมือนจะหวงเนื้อหวงตัวพิกล คนอ่านละงง

คือ สงสัยปมนี้มานานละ พอมาถึงตอนนี้ก็บางอ้อ
มันคืองานของหมวดเรียวคร้าบ อิ อิ แต่กับศรันย์นี่มันไม่ใช่งาน ก็เลยไม่เหมือนกัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด