***นี่เป็นนิยายเขียนสด ไม่มีกรองสติใดๆ แม้แต่คำผิด (ขอโทษมา ณ ที่นี้) เขียนด้วยฟิลลิ่งเมื่อองค์แม่ลงประทับจับมงสวมหัวเท่านั้น***
ตุ๊ดอัพเกรด
Version 4.3 Complete
" อัพเกรด... "
อีกด้านหนึ่งทางฝั่งของขุ่นแมร่หลังจากที่ติดสินใจซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ตามผู้ชายมาทิ้งอีกคนให้น้ำตาเช็ดหัวเข่า
"เฮ้อ..."
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ๊พีทนั่งถอนหายใจ ปล่อยผู้ชายแบดบอยแซ่บๆ น้ำลายหกของนางนั่งพ่นน้ำลายอยู่คนเดียว พีทนั่งเหม่อใจลอยไปหาใครก็ไม่รู้
โอ้ยยย จะไปนึกถึงมันทำไมเนี่ย เลือกก็เลือกแล้วยังจะเก็บเอามาคิดอีกทำไม ลำไยตัวเองจริ๊ง!
คนเหม่อสะบัดหน้าสลัดความคิดออกจากหัวก่อนจะยกแก้วขึ้นกระดกกรอกเอาเหล้าร้อนผ่าวลงคอ
"แล้วพี่พีท..ไม่รังเกียจเหรอ มีผู้ชายมาบอกชอบเนี่ย"
หลังจากที่นางพ่นน้ำลายยาวเหยียดนี่ก็คำถามแรกที่นางต้องการคำตอบจากเขาซะที นึกว่าจะปล่อยให้นั่งเหม่อไปเรื่อยๆซะอีกนะเนี่ย
"ไม่อ่ะ"
ก็นิ่งเหมือนเดิม เอาจริงๆ ถ้ามีอารมณ์มากกว่านี้อิเจ๊คงตอบยาวเหยียดไปแล้วแหละ แต่ตอนนี้มันไม่มีอารมณ์โว้ย จะหล่อแบบโดม ปกรณ์ ลัมก็ไม่มีอารมณ์จะตอบทั้งนั้นแหละ เจ๊ระบายความหงุดหงิดงุ่นง่ายด้วยการยกเหล้าเพียวซดอีกอึก
พอคิดย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อเย็นหลังจากไอ้ไทม์หลุดประโยคนั้นออกมา จากที่หงุดหงิดอยู่แล้วมันยิ่งไปสะกิดสลักระเบิดอารมณ์ของอิเจ๊เข้าไปอีก จนเกือบหลุดอยากจะเข้าไปตะบันหน้า แต่ก็ต้องสะกดไว้นะคะ เพราะมันไม่ใช่วิถีตุ๊ดค่ะ วิธิตุ๊ดคือไม่ควรลงมือทำอะไรแบบนั้น แล้วยิ่งหน้าตาระดับนั้น...ถึงโกรธก็เก็บอารมณ์ไว้ดีกว่าค่ะ เสียดายของ อิเจ๊บอกกับตัวเองก่อนจะสะกดอารมณ์เดือดของตัวเองไว้ให้ลึกขั้นสุด
เฮ้อ ว่าแล้วก็กระดกอีกช๊อต
"แล้ว.. พี่ชอบผู้ชายมั้ยครับ"
พ่อแบดบอยของเจ๊ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จ้องลึกไปสบตาพีทรอฟังคำตอบ ส่วนอิเจ๊..ถ้าไม่มีอะไรรบกวนจิตใจอยู่คงรีบตะครุบเหยือไปแล้วล่ะ เล่นอ่อยแรงเบอร์นี้ ตอนนี้มากสุดเลยทำแค่ตวัดหางตาไปมองก่อนจะมองแก้วเหล้าในมือเตรียมจะกระดกอีกรอบ
"ชอบ"
เออ.. ชอบ อยากได้เป็นผัวมากด้วย
เจ๊พีทบอกกับตัวเองมาแบบนี้มาตลอดชีวิต แต่วันนี้นี่แหละ ตั้งแต่ไอ้ไทม์พูดแบบนั้นออกมา ทำเอาคนฟังนี่ใจเขวไปเลย..
...
แล้วนี่จะเก็บเอาเรื่องของคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้มาคิดทำไมวะ ทำไมไม่คิดถึงเหยื่อตรงหน้าคนแรกนี่ นี่ว่าที่ผัวนัมเบอร์วันเชียวนะ!!! ไม่ได้การละ ฮึบ.. เจ๊ตั้งสติแล้วหันกลับไปสบตาชวนเหยื่อคุยใหม่
"คุยมาตั้งนาน น้องยังไม่ได้แนะนำตัวกับพี่เลยนะ"
"อ่าวเหรอครับ.. จริงๆพี่เรียกผมว่าตะเองเลยก็ได้นะครับ ไม่ต้องรู้ชื่อผมหรอก ฮ่าๆๆๆ"
เออ คุยกันมาตั้งนานก็ลืมถามชื่อไป ทำไมล่ะ ก็ตอนนั้นเจ๊มัวแต่มองหน้า หลงหนักขนาดพยักหน้าเออออตามตลอดจนลืมถามชื่อเลย แบบนี้เรียกว่าใจง่ายยังน้อยไปด้วยซ้ำ เดินตามตูดคนที่ไม่รู้ชื่อมาเนี่ย โอ้ยยยยยอิเจ๊อยากจะขย้ำหัวตัวเองตายค่ะ
"ว่าแต่..พี่รู้จักกับ.." พ่อแบดบอยกำลังจะถามถึงใครบางคน พีทหันไปสบตารอฟังคำถาม "..คนเมื่อเย็นมานานแล้วเหรอครับ"
"นานแล้ว ถามทำไม มีอะไร" คนถามระบายยิ้มเผล่ "ไม่มีไรครับ เห็นว่าเป็นคนดังเลยอยากรู้เฉยๆ"
อืม จะว่าไปแล้วมันก็คนดังจริงนั่นแหละ เดือนมหาลัย อภิมหารวยแถมเป็นลูกคนมีอิทธิพล .. โคตรห่างไกลชั้นวรรณะกับเขา แต่ก็กลายมาเป็นเพื่อนกัน.. ไม่ใช่สิ มันไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเขาซักหน่อย มีแต่เขาเองที่คิดไปว่ามันเป็นแบบนั้น
เอาจริงๆ ไม่ใช่เขาไม่รู้หรอกว่าอีกคนนึงคิดอะไรอยู่ แล้วทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร เพียงแต่ว่ามันเหมือนมีบางอย่างที่ทำให้พีทไม่กล้าที่จะคิดไรเกินเลยก็แค่นั้น
แค่นั้นแหละ..คงแค่นั้นจริงๆ
..
พีทกระดกเหล้าครั้งแล้วครั้งเล่าคิดทบทวนบางอย่างกับตัวเอง เผลออีกที ภาพแสงสีภายในร้านผสมปนเปกันมั่ว เมื่อหันหน้าไปทางไหนเส้นแสงก็วิ่งตามเป็นริ้วราวกับภาพสโลว์ ..เมาแล้วสินะ
"เฮีย.."เสียงเบาหวิวที่รู้จักดีกระซิบที่ข้างหูเขา พอหันตามเสียงนั้นภาพที่เบลอเป็นฉากหลังมีเพียงใบหน้าเดียวเท่านที่ชัดเจน..จนเหมือนภาพหลอน
พีทยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้านั้น ใบหน้าของคนเดียวที่เค้านึกถึงตลอดทั้งเย็นวันนี้ เจ้าของสายตาคู่เดียวที่สะกดความคิดทั้งหมดของเขาให้ย้ำนึกถึงแต่ประโยคเมื่อเย็นนั่นซ้ำไปซ้ำมา
เพื่อน .. คือคำที่พีทชีดเส้นกั้นอีกคนไว้เพื่อตัวเขาเองทั้งนั้น
เพื่อน .. คือคำที่เขากักกันความรู้สึกที่ทั้ง 'ประหลาดและแตกต่าง' นั่นไว้เพื่อไม่ให้มันไปไกลเกินกว่านั้น
เขารู้ตัวเองดีว่าเขาเป็นอะไร ..ทุกครั้งที่มองภาพตัวเองในกระจกยังคงสะท้อนเงาตัวเองกลับมาให้เห็นและมันชัดเจนในความรู้สึก ..เขาเป็นตุ๊ด บอกตัวเองไว้แบบนั้นเพื่อกดความต้องการบางอย่างไว้ทุกวันเพื่อไม่ให้มันหลุดออกมา
..และอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาแอ๊บแมนได้เนียนขนาดนั้น
ผู้ชายคนนั้นควรอยู่เป็นผู้ชายแบบนั้น ไม่ควรกลายเป็นสถานะในส่วนลึกของอีกคน แต่วันนี้ ทุกอย่าง ถูกพังทะลายเพราะคำนั้นคำเดียว
"ขอโทษ.. กูขอโทษ"คำขอโทษถูกพูดมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจ้าของใบหน้านั่นส่งยิ้มละมุนกลับมาเหมือนทุกที เพียงแต่อีกคนที่เริ่มไม่เหลือสติการยับยั้งชั่งใจ ยื่นหน้าเข้าไปกดจูบริมฝีปากที่กำลังยิ้มละมุมนั่น.. ฉวยคาบริมฝีปากให้เผยออกก่อนจะสอดลิ้นร้อนรนของคนที่พยายามอดกลั้นมันไว้นานจนตัวเองจำไม่ได้แล้วว่ามันเริ่มรู้สึกตั้งแต่เมื่อไหร่
พีทโน้มคอใบหน้าตรงข้ามลงมากดต้นคอลงต่ำก่อนจะยกตัวขึ้นแล้วจูบกดบดริมฝีปากนั่นลง ปลายลิ้นชื้นสอดชิมในโพรงปากอย่างเอาแต่ใจ เอียงหน้าจาบจ้วงรสหวานทุกหยาดหยดจนคนข้างใต้ต้านไม่ไหว หลงเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบที่ผสมปนกับรสแอลกอฮอล์ที่ปลายลิ้นของทั้งสองที่กำลังผสมกันภายในปาก จนคนข้างใต้เริ่มเอนหลังลงบนที่นอนหนานุ่ม
เรียวมือยาวของพีทสอดเข้าผ่ายชายเสื้อเข้าลูบเนินลอนเนื้อเพียงไม่นานก็ถูกพลิกกลับไปอยู่ใต้ร่างอีกคน พีทพยายามปรือตามองย้อนแสงจากหลอดไฟที่ส่องสว่างอยู่บนเพดานเผยให้เห็นเงาหน้าคนคุ้นเคย เค้ารู้ดีว่านั่นเป็นเพียงภาพหลอนเท่านั้นแต่ก็ยังหยุดยั้งใจตัวเองไม่ได้ ปล่อยให้ร่างโคลนทำหน้าที่แทน 'ตัวจริง' ต่อไป
.
.
"อ่า..."
..ไทม์
ชื่อนั้นคงเรียกได้แค่ในใจเท่านั้นเขารู้ดี
..และนี่ จะเป็นครั้งแรกในชีวิต และเป็นครั้งแรก
ที่ยอมรับความรู้สึกลึกๆ ที่แท้จริง ของตัวเองซักที
.
*******************
หลังจากวันนั้น ผ่านมาหลายวันแล้วที่พีทต้องนั่งวินเข้ามาเรียนเอง ไม่คุ้นเลยแฮะ ปกติตั้งแต่ไหนแต่ไรก็มีราชรถสปอร์ตคาร์มารับมาส่งตลอด ส่วนพ่อแบดบอยนั่นน่ะเหรอ.. อย่าเพิ่งไปพูดถึงเลยดีกว่า
พีทยังใช้ชีวิตปกติแบบไม่ปกติ เพราะปกติแล้วต้องมีสายโทรเข้าวันหนึ่งไม่ต่ำกว่าห้า และไลน์จากใครบางคนต้องเด้งตลอดทั้งวันบัดนี้กลับเงียบฉี่ ไร้การติดต่อใดๆ จากอีกคนที่เขานึกถึง
ใช่ แค่นึกถึงเท่านั้น อย่าให้มันกลายเป็นความคิดถึงเลย ..
"พี่พีทครับ" เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงหวังว่าจะเป็นคนเดียวกับที่เขารอ..แต่ก็ไม่ใช่
"ว่า" เขาขานรับก่อนจะเบนสายตาไปทางอื่นพลางมองหาใครบางคนที่แม้จะพยายามห้ามตัวเองไม่ให้มองหาแล้วแต่ก็ยังอดไม่ได้
"คืนนี้.. ไปนั่งรถเล่นกับผมมั้ย"
พีทตวัดสายตากลับไปมองแล้วตอบอย่างเหนื่อยหน่าย
"อืม ..ไปตอนนี้เลยปะล่ะ กำลังเบื่อๆ"
และครั้งนั้นก็ไม่ใช่การนั่งรถชมวิวธรรมดาอย่างที่ทุกคนกำลังคิดจริงๆ ภายในรถที่จอดเทียบอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล เจ้าของรถที่ขับมาเพลียหลับไปตั้งนานแล้ว ปล่อยคนถูกชวนไปนั่งเปลือยท่อนบ่นบนฝากระโปรงรถสูบบุหรี่ที่จิ๊กมาจากคนหลับ ก่อนจะปล่อยควันขึ้นสูท้องฟ้าที่มืดสนิท
"เฮ้อ..."
อีกแล้ว.. เผลออีกแล้วจนได้สินะ
เผลอ..ทำไปเพราะนึกถึงใครบางคนอีกแล้ว
พีทหลับตาพ่นควันออกไปพร้อมกับระบายความคิด.. จะว่าไปแล้ว แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ แค่เอามานึกถึงเฉยๆ ไม่ได้ทำให้อีกคนนึงเสียหายซักหน่อย อย่างน้อยก็ได้ระบายเรื่องที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ออกมาแบบนี้ ค่อยรู้สึกโล่งขึ้นเยอะเลย
เขาก้มหน้ายิ้มกับตัวเอง
"แล้วเคยถามซักคำปะว่าผมเป็นเพื่อนเฮียรึเปล่า"..
อืม .. เขาไม่เคยถาม และก็ไม่อยากจะบอก
ว่าถ้าเลือกได้
เขาเอง
..ก็ไม่อยากเป็นเพื่อนเหมือนกัน..สถานะที่เป็นไปไม่ได้ และไม่มีใครรับได้นั้น ให้มันหยุดไปแบบนี้แหละดีแล้ว
************
ไม่ใช่แค่สองคนภายในอาทิตย์นี้.. หลังจากนั้นคนที่สาม..คนที่สี่ คนที่ห้าก็เข้ามาเรื่อยๆ ไม่ขาด แต่ละคนที่เข้ามาดูแมนแฮนซั่มสมใจมาก ทั้งเทนเนอร์ในฟิตเนสบ้าง หิ้วจากร้านเหล้าบ้าง และอีกหลายสาขาอาชีพ หลากหลายบุคคลิกภาพและลักษณะทางกายภาพ ทั้งดูอ้อนแอ้นร่างบางตลอดจนถึงแมนมากกล้ามเป็นมัด
พีทเองก็ควรจะดีใจที่ในที่สุดก็(ได้มั่ว)สมใจอยากซักที แต่ทำไมมันไม่ดีใจเลยวะ..
และทุกครั้งที่ทำ .. มันพาให้นึกถึงใครคนหนึ่งที่หายไป หายไปราวกับไม่เคยมีในชีวิตมาก่อน
พีทที่นั่งอยู่หน้าบ้านเช่าและทุกรอบที่นั่งอยู่ตรงนี้จะมีใครบางคนนั่งอยู่ด้วยเสมอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาจ้องโทรศัพท์และชั่งใจว่าจะกดโทรออกไปดีมั้ย พีทมองเบอร์ที่จำได้ขึ้นใจในโทรศัพท์อย่างเหม่อลอย นอกจากคิดว่าจะโทรไปดีมั้ย ยังนึกไปถึงประโยคที่จะชวนอีกฝ่ายคุยด้วย เพราะปกติแล้วเขาไม่เคยต้องโทรหาเองเลยซักครั้ง มีแต่ฝ่ายนั้นที่เป็นคนโทรมาเองตลอด
เสียงเครื่องยนต์สี่สูบดังกังวาลมาแต่ไกล เสียงมันดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งดับลงที่หน้าบ้านเขาตามด้วยเสียงขาหยั่งรถ กับเสียงฝีเท้าที่เดินผ่านประตูรั่วที่เปิดทิ้งไว้เข้ามาเรื่อยๆ จนถึงตัวเขา
"พี่พีท"
เสียงเรียบเรียกเขาให้หันตามไปมองก่อนจะเก็บโทรศัพท์กลับเข้ากระเป๋ากางเกง ไม่ใช่ใครที่ไหน .. พ่อแบดบอย
'คนแรก' ของเขานี่เอง
"ไง
หายแล้วเหรอ"
พีทพยักหน้าถาม ทำเอาอีกคนที่พยายามเก็บอาการอยู่กัดฟันกรอดทำท่าจะพุ่งเข้าใส่แต่ก็ยั้งตัวเองไว้ เขารู้ดีว่า ถึงแม้อริของเขาจะไม่ได้ตามติดตูดพีทเหมือนครั้งก่อนๆ แต่ก็ใช่ว่าจะพ้นสายตา ฉะนั้นเขาต้องระวังตัวเองไว้ก่อนด้วยการไม่ใจร้อนผลีผลามทำอะไรสุ่มเสี่ยง ถึงเขาจะอยากตะบันหน้าไอ้คนตรงหน้านี้มากแค่ไหนก็เหอะ
"กูแค่มาเตือน ให้มึงระวังตัวไว้ดีๆ"
อีกคนชี้หน้า คำที่เรียกพี่ที่แสดงความเคารพจบลงไปตั้งแต่ประโยคแรก.. ไม่สิ จริงๆ ต้องบอกว่าตั้งแต่คืนวันนั้นมากกว่า
.
.
"ไม่น่ารักเลยว่ะ.."
"..."
"พูดกับผัวคนแรกให้มันดีๆ หน่อย"พลั่กก
คนฟังอดใจไม่ไหวประเคนหมัดเข้าเต็มมุมปาก ใบหน้าที่ถูกหมัดเหวี่ยงไปตามแรงก่อนจะยิ้มปาดเลือดที่มุมปาก
"แค่นี้ก็ทนไม่ได้ซะแล้วเหรอ" คนพูดเลิกคิ้วยิ้มท้าตีนอีกฝ่าย ก่อนที่จะทนไม่ได้แล้วเข้ามาหวังจะซัดเข้าอีกหมัด อีกหมัด..และอีกหมัด
หมัดแล้วหมัดเล่าเข้าเป้าที่ใบหน้าเต็มๆ พีทนอนนิ่งปล่อยให้อีกคนระบายโทสะจนสาแก่อารมณ์
"ถ้ามึงต่อยกูแล้วคิดว่าจะลบภาพคืนนั้นออกได้ ก็เอาเลย"
พีทพูดแทรกจังหวะหมัดที่กำลังจะลงที่หน้าเขา คำพูดนั้นชะงัดมือคนฟังไปอึดใจก่อนจะซัดต่อ
"ก็ได้.. อั่ก มึงจะต่อยกูให้ตาย มึงก็ลบภาพคืนนั้นออกไม่ได้"
"หยุดพูด!!!!"
อั่ค พลั่ค พลั่ก
"ภาพตอนที่มึงครางเรียกชื่อกู..อั่ก"
"กูบอกให้มึงหยุด!!!!"
อีกคนกระชากคอเสื้อของคนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดขึ้นมาตะคอกใส่หน้า พีทระบายยิ้มทั้งๆ ที่มันยิ่งทำให้ปวดแผลแต่เขากลับชาไปหมด ชาทั้งหน้า ชาทั้งความรู้สึก ทุกอย่างทำเอาเขาเฉยชาไปหมด ทั้งความสับสนนั้นและความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้
ว่าจริงๆแล้ว ตัวเองแม้งเป็นตัวอะไรกันแน่..
มันไม่น่ามีคืนนั้น
มันไม่น่ามีประโยคนั้น
ไม่น่าเมา
ไม่น่าเผลอ
ถ้ามันไม่เกิดขึ้น เขาก็ยังคงเป็นตุ๊ดแอ๊บแมนต่อไป
.
.
..ไม่ใช่ตัวเหี้ยอะไรก็ไม่รู้แบบในตอนนี้_______
อูยย อัพเกรดที่แท้จริง
คงได้โบกมือลาคุณแม่แล้วล่ะ

อยากอัพต่อ ขอเช็คเรตติ้งก่อน ถ้าคนรอเยอะเดี๋ยวกลับมาต่อ กำลังคันมือเลย