My wife is bigboss by Katesnk
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: My wife is bigboss by Katesnk  (อ่าน 220445 ครั้ง)

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
มาแล้วค่ะ  พี่เคทเพิ่งมาลงต่อให้  เนื่องด้วย ดองใส่โหลไว้แล้ว คอมของพี่เคทเจ๊ง

แถมพี่เคทบอกมาอีกว่า จะมาต่อตอนต่อไปวันพุธ   :mc4: :mc4:

----------------------------------------------------

บทที่ 28.6  มาแล้วจ้า


“ไม่ ...ไม่แต่ง....แบบนี้..ดีแล้ว”

ก็ยังดี ที่เคนไม่ได้มองว่าการอยู่กินกันแบบปัจจุบันนี้มันน่ารังเกียจ ถึงแม้ว่าจะไม่สมปรารถนา เพราะเคนไม่ยอมรับปากแต่งงานกับผม แต่แค่เขายอมรับได้ว่าจะอยู่ด้วยกันไปอย่างนี้ ผมก็ดีใจแบล้ว การแต่งงานเป็นเรื่องของการทำให้เกิดการยอมรับการในวงกว้าง ผมอยากให้เกียรติเคนของผม แต่ในเมื่อเขายังไม่พร้อม ผมก็อาจจะให้เวลาเขานิดหน่อย บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจได้ในวันข้างหน้า

“ก็ได้ครับ ผมจะรอ”

ตอบพร้อมกับซุกหน้าลงที่ซอกคอของเขา และใช้ทั้งปากและลิ้นเฟ้นฟอนให้เคนเกิดกำหนัดในตัวผมมากยิ่งขึ้น

มีเสียงครางหวานดังมาจากปากน่าจูบของเคนเป็นระยะ มันราวกับเสียงสวรรค์ ทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิม พลังวังชามีเท่าไหร่ โถมทุ่มลงไปเพื่อปรนเปรอให้เคนได้เอมอิ่มในรสแห่งความสุขที่ผมมอบให้จนแทบสำลัก

ในเวลาไม่นานนักเราสองคนก็ถึงปลายทางแห่งสวรรค์ ผมกอดสามีสุดที่รักไว้แนบแน่น หายใจหอบถี่เหมือนคนที่วิ่งสุดกำลัง พอถึงเส้นชัยแล้ว เราก็หยุดยืนพัก เพื่อให้ร่างกายเรากลับคืนเข้าที่

เคนเองก็มีสภาพไม่แพ้กัน เขานอนนิ่ง มีเพียงแผ่นอกที่สะท้อนขึ้นลง กับปากที่อ้า โกยอากาศเข้าสู่ร่างกาย ผมอยู่บนตัวของเคนสักพัก จนกระทั่งร่างกายบางส่วนของเราทั้งสองคลายความตื่นเต้นลงจนสู่ปกติ ผมก็ไถลลงมานอนเคียงข้างเคนบนพื้นห้องครัว

“เลอะหมดแล้วครับ”

สามีหนุ่มของผมเปิดปากพูดเป็นคำแรก หลังจากเรามีกิจกรรมแห่งความรักด้วยกัน ท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของเขาทำให้ผมรู้สึกเป็นสุข

“เคนนอนบนพื้นได้ ผมก็นอนได้เช่นกัน ยังไงพื้นห้องนี้ ก็เป็นสวรรค์ของเราสองคนเมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมไม่รังเกียจหรอกครับ แล้วมันก็ไม่ได้สกปรกเท่าไหร่ด้วย”

ผมบอกกับเคน รู้ว่าเขามองผมในฐานะที่สูงส่ง เพราะผมเป็นคนรวย เป็นเจ้านายของเขา คงไม่อยากให้ผมลงมาคลุกอยู่กับอะไรต่ำๆ แต่ผมกลับคิดว่า เรื่องความยากดีมีจน ความต่ำต้อยใดๆ ไม่ใช่สาระสำคัญ

สำหรับผมแล้ว หัวใจที่งดงามต่างหากที่มีคุณค่ายิ่ง ผมนับถือคนที่คุณงามความดีที่เขาทำ และความซื่อสัตย์ ผมรักเคนก็เพราะเขามีทุกอย่างที่ว่ามา

เคนร่ำรวยน้ำใจมากกว่าใครๆเสียอีก ความสุขของผมคือการได้อยู่ใกล้ๆเคน เขาทำให้ผมรู้สึกว่าอยากทำดีเพื่อคนอื่น เขาทำให้ผมเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องจักรที่จะคอยผลิตเงินทุกวัน โดยไม่มีหัวจิตหัวใจ

“ผมไม่อยากให้เคนคิดเรื่องความมั่งมีหรือความยากจน เพราะผมไม่ใช่คนที่จะถือเรื่องนี้เป็นใหญ่ เราอยู่ร่วมกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เคนน่าจะรู้จักผมดีพอนะครับ ว่าผมไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่ได้นับถือเงินตราเป็นพระเจ้า ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้าที่นั่นมีคุณอยู่ด้วย”

สิ่งที่ผมพูดล้วนแล้วแต่ออกมาจากใจ ผมอยากให้เคนเข้าใจว่าผมรักเขาที่ตัวเขา ไม่อยากให้เคนเอาความแตกต่างทางสังคมมาเป็นข้ออ้างที่จะทำให้เราห่างกัน รักกันไม่ได้

ที่ผ่านมาผมก็พยายามพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าผมก็ติดดิน เป็นคนธรรมดาที่สามารถกินข้าวแกงข้างถนน หรือ นอนในห้องเช่าแคบๆ ราคาถูกๆได้ การาที่ผมให้ทุกอย่างกับเคน ก็เพื่อให้เขามีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

“พูดซะยืดยาวเลย ไม่เหนื่อยหรือครับ”

เคนทำเสียงล้อๆ พลางหัวเราะ คงเห็นผมพูดมากจริงๆ ผมหัวเราะขำตามเขา แล้วย่นจมูกใส่
“เคนใจร้าย ผมแค่อยากอธิบายให้เคนเข้าใจไงครับ”

“ผมรู้ครับ ผมก็แค่คิดว่า พื้นห้องนี่มันเลอะเทอะด้วยน้ำด้วยผัก ผมทำสกปรก ไม่ได้คิดเลยเถิดไปถึงความแตกต่างทางชนชั้นเสียหน่อย ใครกันนะ ที่คิดวุ่นวายใจอยู่ตลอดเวลา”

สามีทำหน้ายิ้มขำ ทำเอาผมเก้อกระดากเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาพูด สงสัยผมจะคิดมากไปจริงๆ คนที่กังวลใจเรื่องความต่างชั้นกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาจจะเป็นตัวผมเอง เนื่องจากผมคอยแต่จะกังวลใจ ห่วงใยความรู้สึกของเคนตลอด เลยคิดว่าเขาจะอึดอัดใจกับการที่ผมทำโน่นทำนี่ให้

และด้วยความที่กลัวว่าเขาจะไม่รักตอบผม เลยต้องพยายามหาเหตุผลต่างๆ ที่จะทำให้เคนไม่ตกลงปลงใจแต่งงานด้วย เพียงเพื่อที่จะหาทางอุดช่องว่างเหล่านั้น เคนจะได้ปฏิเสธผมไม่ได้ มันเลยทำให้ผมคิดมาก และกังวลใจไปหมด

“ขอโทษครับ ผมอาจจะคิดมากไปเองจริงๆ เพราะผมกลัวนี่ครับ กลัวว่าเคนจะปฏิเสธผม เพราะผมรวยกว่า ผมเป็นเจ้านาย และ ...และ...และ...เพราะผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง”

ข้อความสุดท้าย ผมพูดออกไปเสียงเบามาก มันคือปัญหาหนักอกหนักใจผมมาตลอด ผมไม่เคยกังวลอะไรมากเท่าครั้งนี้เลย ก่อนหน้านั้น เวลาผมคบกับใคร ผมไม่เคยกังวลใจกับเพศของตัวเอง

ผมคิดอย่างเย่อหยิ่งว่าถึงผมจะเป็นเกย์ ชอบผู้ชาย แต่ผมก็ไม่เคยที่จะให้ใครมาเอาเปรียบผมโดยใช้ความรักเป็นเครื่องต่อรอง หากเขาไม่ชอบผมเพราะผมเป็นผู้ชาย ผมก็ไม่สน จะไม่เสียใจถ้าเขาจะจากไป และผมก็ยินดีที่จะคบกับคนใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าผมจะเจอคนที่เขารักในสิ่งที่ผมเป็น

ทว่าในกรณีของเคน ผมรักเขามาก อยากได้เขามาเป็นคู่ชีวิต มันทำให้ผมกลัวการถูกปฏิเสธ กลัวว่าวันหนึ่งผมจะเสียเขาไป ยิ่งเขาทำท่าเฉยเมย ไม่ยอมรับรักผม แถมมีคนที่เขาจะแต่งงานด้วยอยู่ที่บ้านนอก ทำให้ผมรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก ถ้าวันหนึ่งเขาต้องจากผมไปแต่งงานกับผู้หญิงจริงๆ ผมต้องคลั่งตายแน่ๆ

“ไม่เกี่ยวหรอกครับ....”

ขณะที่ผมกำลังเริ่มวิตกจริตอีกครั้ง เคนก็พูดกับผมด้วยเสียงอ่อนโยน

“ผู้ชาย หรือผู้หญิง ไม่ใช่สิ่งที่ผมใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกคู่ครองของผมหรอกครับ....”

คำพูดประโยคต่อมาของสามีสุดที่รัก ทำเอาผมตาโตหูผึ่ง

“ถ้าผมจะรักใครสักคน ผมจะเลือกรักเขาที่หัวใจ มากกว่าร่างกายครับ”

น้ำเสียงของเขาดูจริงจังมากเสียจน มันทำให้ผมอยากจะเชื่อว่าเคนไม่ได้รังเกียจในเรื่องเพศ แล้วไม่ได้ใช้มันเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกคนรักอย่างที่เขาว่า ผมกลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่ได้ยินมันจะทำให้ผมคิดหลงระเริงไปว่า เขาเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับผมบ้างแล้ว ผมไม่อยากเสียใจกับการคาดเดาผิด เพราะเคนเป็นคนจิตใจดี เขาอาจจะกำลังพูดเพื่อให้ผมเลิกกังวลก็ได้

................................................


TBC  วันพุธนะคะ :really2: :really2:


minkking

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ากกกกกกกกกก

รอ ร๊อ รออ ต่อปายยย

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
ร้อนๆ จากบ้านพี่เคทเลยค่ะ



บทที่ 28.7

-------------------------------------------

“ไม่เกี่ยวหรอกครับ....”

ขณะที่ผมกำลังเริ่มวิตกจริตอีกครั้ง เคนก็พูดกับผมด้วยเสียงอ่อนโยน

“ผู้ชาย หรือผู้หญิง ไม่ใช่สิ่งที่ผมใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกคู่ครองของผมหรอกครับ....”

คำพูดประโยคต่อมาของสามีสุดที่รัก ทำเอาผมตาโตหูผึ่ง

“ถ้าผมจะรักใครสักคน ผมจะเลือกรักเขาที่หัวใจ มากกว่าร่างกายครับ”

น้ำเสียงของเขาดูจริงจังมากเสียจน มันทำให้ผมอยากจะเชื่อว่าเคนไม่ได้รังเกียจในเรื่องเพศ แล้วไม่ได้ใช้มันเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกคนรักอย่างที่เขาว่า

ผมกลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่ได้ยินมันจะทำให้ผมคิดหลงระเริงไปว่า เขาเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับผมบ้างแล้ว ผมไม่อยากเสียใจกับการคาดเดาผิด เพราะเคนเป็นคนจิตใจดี เขาอาจจะกำลังพูดเพื่อให้ผมเลิกกังวลก็ได้

แต่แม้จะห้ามใจตัวเองไม่ให้รู้สึกยินดีกับสิ่งที่ได้ยิน ทว่าผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลาบปลื้ม คนเราก็มีสิทธิ์ที่จะคิดให้ตัวเองมีความสุขไม่ใช่หรือ อะไรที่ทำให้เราไม่สบายใจ ก็ไม่อยากเก็บมันไว้ให้รกสมอง เลือกฟังแต่ในสิ่งที่รื่นหูดีกว่า

แล้วไอ้เจ้าความคิดที่ว่า เคนไม่ได้รังเกียจคนรักเพศเดียวกัน มันก็ทำให้ผมมีความสุขมากๆ เริ่มมองเห็นโอกาสที่จะพิชิตใจเขามากขึ้น คงไม่ผิดใช่ไหมที่ผมจะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเคนมีใจให้ผมบ้างแล้ว

“ทำไมทำหน้าตาประหลาดแบบนั้นล่ะครับ”

ผมคงจะดีใจจนออกนอกหน้า เลยอาจจะทำหน้าตาแบบคนที่มีความสุขจนล้นเหลือ ปากยิ้ม ตายิ้มอย่างลิงโลดสุดๆ แล้วมันคงจะดูตลกในสายตาเขา

“ก็ มันดีใจนี่นา ก่อนหน้านี้ เคนปฏิเสธเสียงแข็ง ว่าจะไม่มีวันรักและแต่งงานกับผู้ชายอย่างเด็ดขาด แต่มาถึงวันนี้ เสียงเคนไม่แข็งเหมือนเดิมแล้ว ผมจะแปลตามสิ่งที่ผมเห็นและได้ยินได้ไหมครับ ว่าเสน่ห์ผมแรงจนเคนเริ่มจะหลงใหลผมแล้ว”

อายอยู่นะ ที่ต้องชมตัวเองแบบนี้ แต่ช่วยไม่ได้นี่นา ความคิดที่แอบเข้าข้างตัวเองว่า เคนมีใจให้ผม ทำให้รู้สึกว่าโลกมันสดใส น่าอยู่ขึ้นเยอะกว่าเดิม ตอนนี้ความสุขที่ผมได้รับจากการได้ยินคำพูดประโยคนั้นของเขามันล้นเอ่อไปถึงคอหอยแล้ว

เคนเบะปากยิ้มให้ผม คงทั้งขำ และระอาที่ผมมักจะเข้าข้างตัวเองเสมอ ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา ผมเป็นนักธุรกิจ ต้องมองหาโอกาสที่จะก้าวหน้าประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำ

การทำให้เคนยอมรับผมเป็นภรรยา เป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถ และผมต้องบรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้ โดยมีเคนเป็นรางวัลสูงสุดที่ผมจะได้รับ ดังนั้นผมจะไม่มีวันยอมแพ้ หรือล้มเลิกความพยายามที่จะทำให้เขาหันมารักผมกลางครันอย่างเด็ดขาด

“เคลวินไม่เบื่อหรือครับ พูดเองเออเองแบบนี้”

น้ำเสียงที่เคนพูด ดูไม่จริงไม่จังนัก ท่าทางเหมือนเขาจะขำผมมากกว่า

“มันช่วยทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นนะครับ ถ้ารอเคนพูดเองผมคงเหี่ยวแห้งตายแน่ๆ”

แอบใส่ความน้อยอกน้อยใจลงในน้ำเสียงด้วย เคนจะได้รู้ว่าผมทุกข์ทรมานกับการรอคำว่า “รัก” จากเขามานานมากเพียงใด เคนนอนนิ่ง ไม่โต้ตอบ สักพักเขาก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วบอกว่าจะไปอาบน้ำ เพราะเหนียวตัว

เขาขออนุญาตผมใช้ห้องน้ำด้วย ผมมองค้อนเขาด้วยความหมั่นไส้ จนป่านนี้แล้ว ยังจะมาทำเป็นเกรงอกเกรงใจกันอีกทำไม ของๆผมก็เหมือนเป็นของๆเขา จะหยิบ จะใช้อะไรตรงไหน ผมก็ไม่เคยหวงห้าม

รู้สึกดีใจเสียด้วยซ้ำที่เขายอมใช้ของของผม เคนเป็นคนหยิ่งจะตาย ไม่เอาของใครฟรีๆ แถมยังขี้เกรงใจอีกด้วย เขาไม่เคยฉวยโอกาสที่ผมหยิบยื่นให้เลยสักครั้ง มีแต่ผมเท่านั้นที่ขยั้นคะยอให้เขารับ ซึ่งบางทีเคนก็ยอมทำตามอย่างเสียไม่ได้

“ที่นี่ก็เหมือนบ้านของเคนนะครับ เคนจะทำอะไรก็ตามสบายเลยนะ”

ผมบอกสุดที่รักของผม เคนแค่ยิ้มให้ผมเฉยๆ แต่ไม่พูดอะไรออกมา ผมไม่รู้ว่าท่าทีนิ่งๆของเคนนั้น เขากำลังคิดถึงเรื่องใดอยู่ อาจจะกำลังคิดเรื่องระหว่างเราอยู่ก็ได้

ผมภาวนาขอให้เคนใคร่ครวญเรื่องของเราไปในทางที่ดีด้วยเถิด ความหวังเป็นสิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงใจของผม ปลุกปลอบให้ผมพยายามสู้เพื่อให้ได้เคนมาครอบครอง ผมคงมีความสุขมากหากว่าผมทำสำเร็จ

“ผมอาบด้วยคนนะ”

พอเขาลุกขึ้น ผมก็ลุกตามเขาไปด้วย เคนหันมาทำหน้าเหรอหรา คงนึกไม่ถึงว่าผมจะกล้าขอตามเขาไปอาบน้ำ แต่ผมทำเป็นมึน ไม่รู้ไม่ชี้ เดินตามเขาไปติดๆ หน้าตาระรื่น เคนส่ายหัวไปมา แต่ก็ไม่ว่าอะไร มีแต่ผมร้องฮูเล ฮ่าฮ่า ในใจ ที่เคนไม่ห้ามผม

น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน หัวใจอ่อนๆของเคนจะไปไหนเสีย ตอนนี้เคนเริ่มยอมผมหลายๆอย่างไม่โวยวายขัดขืนเหมือนเดิม อาจจะเพราะเผลอไผล หรือไม่ก็เกรงใจที่ผมดีกับเขา หรือจะคิดเข้าข้างตัวเอง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเคนเริ่มมีใจให้ผมบ้าง

แต่ไม่ว่าเหตุผลมันจะคืออะไร มันก็ทำให้ผมเป็นสุขอย่างที่สุด ผมเลยไม่พยายามจะพูดอะไรให้เคนฉุกคิดอีก ทำเนียนๆ บื้อๆไป คงต้องอาศัยเวลาสักพักถ้าหากจะเปลี่ยนหัวใจของเคนให้หันมารักผม

เราอาบน้ำด้วยกันเนิ่นนาน แน่นอนว่า ห้องน้ำไม่ใช่เป็นสถานที่ชำระล้างร่างกายอย่างเดียว แต่มันเป็นสถานที่สำหรับบอกรักเคนอีกด้วย ใครจะอดใจไหว เมื่อได้เห็นร่างเปลือยของคนที่เรารักอยู่ตรงหน้า แถมอยู่ในสภาพที่ยั่วตายั่วใจซะขนาดนั้น

ในท้ายที่สุด ผมก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นล่วงเกินเคนอีกจนได้ และเป็นอีกครั้งที่เคนยินยอมพร้อมใจ ไม่ขัดขืนมากมาย แม้จะแอบเหน็บผมว่า หื่นไม่เลือกเวลา แต่พอผมปลุกเร้าเขาจนอารมณ์เตลิด เสียงบ่นของเคนก็เปลี่ยนมาเป็นเสียงครางแทน

สายน้ำที่เย็นฉ่ำ ไม่สามารถดับไฟรักของเราให้มอดลงได้เลย หากไม่เป็นเพราะเราต้องมีภารกิจอื่นๆที่ต้องทำ ผมคงไม่ปล่อยให้เคนออกจากห้องน้ำอย่างแน่นอน จะกักขังเขาไว้ในนั้น และร่วมรักกับเขาทั้งวัน อยากบอกเคนด้วยกายและใจว่าผมรักเขามากเพียงไหน


--------------------

TBC

ออฟไลน์ Ottomechan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

jowchaykob

  • บุคคลทั่วไป
 :a5: หื่นไม่มีที่ ติ ครับ
มาจนถึงบัดนาว กะผม ยัง งง ใคร เป็น สามี กันแน่ ครับ :z3:

sun

  • บุคคลทั่วไป

จะว่าไปหนุ่มเคนก้อใจอ่อนลงไปเยอะแล้วนะ

ตะล่อมไปเรี่อยเควิล เด๋วหนุ่มเคน ก้อยอมเองแล่ะ อิอิ :z1:

ใช้ร่างกายตะล่อมบ่อยๆ หนุ่มเคนจะได้ชิน ฮ๋าๆ   :laugh:

marchmenlo

  • บุคคลทั่วไป
:impress2: ใช้ร่างกายตะล่อมทำให้ชิน เออน่ะ ใ้ช้ได้ๆ  :jul3:

anna1234

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
  :-[ในที่สุดหนุ่มเคนก็ใจอ่อนแล้วหวังว่าคงไม่มีอะไรให้บอสของเราเศร้าหรอกน๊า :-[

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0



บทที่ 29

--------------------------

"เคนจะกลับแล้วหรือครับ”

ผมนั่งมองเคนที่แต่งตัวเตรียมจะกลับบ้านด้วยสายตาเศร้าสร้อย แม้อยากจะให้เคนอยู่กับผมที่เพนเฮ้าส์ใจจะขาด แต่ผมก็ไม่อาจจะรั้งตัวเขาไว้ได้

เคนจำต้องกลับบ้านหลังจากที่หายมาหลายวัน อีกทั้งวันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงานตามปกติ หากมีคนเห็นเขาปรากฏกายขึ้นที่บริษัทแต่เช้า คนอาจจะสงสัยเอาได้

ตัวผมไม่แคร์เลย หากเคนจะถูกจับได้ว่ามาอยู่กับผม เพราะอยากจะประกาศตัวตนของเคนในฐานะสามีของประธานบริษัท แต่การที่พนักงานคนหนึ่งจะข้ามขั้นจากลูกจ้างชั่วคราว มาเป็นสามีของเจ้านายภายในชั่วคืน อาจจะทำให้เป็นที่ครหานินทา

ผมรักเคนมากเกินกว่าที่จะทำร้ายเขาด้วยความเห็นแก่ตัว อยากให้เคนเติบโตก้าวหน้า สร้างตัวเองให้สง่าภาคภูมิด้วยความสามารถของตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะไม่มีใครว่าสุดที่รักของผมว่าใช้ร่างกายไต่เต้าสู่ความสำเร็จ ชีวิตเขาจะได้ไม่ต้องมัวหมองอื้อฉาว หนทางรักของเราจะได้ราบรื่น

“ผมเป็นห่วงบ้านครับ”

นั่นคือคำตอบที่เคนให้ผม ห้องเช่าเล็กๆแคบๆที่เขาเรียกว่าบ้าน เป็นสิ่งที่เขากังวลนึกถึงตลอด ไม่ได้เป็นเพราะสมบัติที่เขาเก็บไว้ในนั้น เพราะมันแทบจะไม่มีข้าวของอะไรที่จะให้ห่วงได้เลย

แต่ความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความภาคภูมิใจที่เขาเช่ามาด้วยน้ำพักน้ำแรงมากกว่า ที่ทำให้เขาอยากกลับไป

ที่เพนเฮ้าส์ที่เราอยู่ด้วยกันตอนนี้ มันเป็นของผม เคนคงรู้สึกอึดอัดที่ต้องมาอยู่ในฐานะผู้พักอาศัย มันไม่เหมือนห้องเช่าของเขาเอง ที่เขาจะสามารถทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องเกรงใจใคร

แม้ว่าผมจะให้สิทธิ์เขาเต็มที่ในการจะหยิบจะจับ จะอยู่จะกินตามสบาย แต่มันก็คงไม่เหมือนบ้านของเขาเอง

ยิ่งนานวันไป ผมก็ประทับใจในตัวของเคนมากยิ่งขึ้น สุดที่รักของผม เป็นคนที่เจียมเนื้อเจียมตัวยิ่ง ไม่เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญ ไม่หลงระเริงกับสิ่งที่ได้มาง่ายๆ มีทีท่าอึดอัดใจด้วยซ้ำกับของที่ได้มาฟรีๆ ไม่ได้หามาเอง


เพราะเขาเป็นอย่างนี้เลยทำให้ผมรักเขามาก และคิดจะฝากชีวิตไว้กับเขา เชื่อมั่นว่า ถ้าเราได้อยู่ด้วยกัน เคนจะทำให้ผมมีความสุข

และไม่ต้องมานั่งระแวง ว่าเขาจะสูบเลือดสูบเนื้อผมจนหมดตัว ความหยิ่งที่เขามี จะทำให้เขามุมานะสร้างตนจนประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องอาศัยบารมีของผม

“อยากไปกับเคนด้วยจังเลยครับ”

บอกออกไป รู้สึกใจหวิวๆ เมื่อจะต้องจากกัน ทั้งที่รู้ว่าเดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมก็ต้องเจอเขาในที่ทำงาน แต่ผมก็ยังอยากจะอยู่กับเขาอยู่ดี ผมคงรักเขามาก เลยรู้สึกว่า เวลาที่อยู่ด้วยกันมันไม่เคยพอสำหรับผมเลย อยากอยู่กับเขาตลอดไป ไม่อยากพรากจากเขาแม้สักวินาที

-------------------------------

TBC

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
^
^
^
^
ตามๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วสงสาร Boss  :o12:

sun

  • บุคคลทั่วไป
คุนประธาน ขี้อ้อนขึ้นกว่าเดิมอีกนะเนี่ย
ติดเคนหนึบหนับ
ไม่อยากจะห่างหนุ่มเคนแม้แต่ วินาทีเดียวเลยจิ อิอิ :impress2:

พากลับบ้านไปด้วยเลยเคน คุนภรรยาออกจาน่าร๊ากกขนาดนี้
แต่ความหื่นนี่...ทะลุเพดานไปแล่ะเอิ้กๆ :laugh:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เคนคือสามีที่โดนกระทำ  :z1: ยังไม่เห็นเคนได้กระทำกลับเลย  :haun4:

Akiizz

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อไวๆนะคับบบ


แล้วคุนเคนก้เห้อ  สามีหนอ ทำไมโดนอยู่ฝ่ายเดียวหล่ะ


หึหึ


รอต่อปายคับ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 o13 เยี่ยมอ้อนเข้าไว้เป็นภรรยาต้องรู้จักอ้อนเพื่อสิ่งที่อยากได้ อิอิ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ออดอ้อนกันเข้าไว้ ท่านประธาน ฯ ยังไงซะ

ตอนนี้หัวใจหนึ่งใน สี่ ของเคน คงแบ่งไว้ให้แล้วละ

พยายามต่อไปนะ เอาใจช่วย

ขอบคุณนะครับที่ยังคงส่งต่อความสุขมาให้กัน

ขอบคุณ คุณเคท ที่ยังไม่ลืมเพื่อนเก่า ๆ ในเล้า  :pig4:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ท่านประธานพยายามต่อไป สู้ๆๆๆ  สามีใจอ่อนเยอะแล้ว ฮิ้วววววววววว

ขอบคุณนะคะ  รอตอนต่อไปนะคะ มาเร็วๆ นะ

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
 :laugh: ท่านประทานเคลตามหมุ่นเคนกลับบ้านมีหวังหมุ่นเคนของเราไปทำงานไม่ไหวแน่ๆ :laugh:

kamjaa

  • บุคคลทั่วไป
 :z2: :z2: :z2: :z2:

   :-[ อดใจไม่ไหว ขอเซิ้งรอ :-[

       สนุกมากค่าาาาาาาาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0

บทที่ 30.1  มาแล้วค่า

------------------------------------------


“เคลวินอยู่ที่นี่ดีแล้วครับ ที่ห้องเช่าผมมันไม่ค่อยสะอาด เดี๋ยวเคลวินจะไม่สบายอีก”

น้ำเสียงของเคนแฝงแววห่วงใย เขาไม่ได้ประชดประชัน หรือทำเสียงแบบคนที่รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า เพื่อเรียกร้องความสนใจ อยากได้อะไรจากผม

แต่มันมาจากความกังวลต่อสุขภาพ เพราะผมเพิ่งหายไข้ เคนโทษว่าห้องของเขาไม่สะอาด มีเชื้อโรค ความเป็นอยู่ไม่สบาย ทำให้คนที่เคยชินกับสิ่งแวดล้อมดีๆ มาติดโรคจนป่วยเข้า แล้วก็โทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมติดหวัดด้วย

ซึ่งไม่เป็นจริงสักนิด ผมเต็มใจที่จะอยู่กับเขา แม้ว่าจะติดโรคภัยไข้เจ็บจากเขาก็ตาม เพราะผมรู้ว่า ในท้ายที่สุด ผมก็จะหายไข้ เพราะได้พยาบาลน่ารักอย่างเขามาดูแล

“ถ้างั้นทำไมเคนไม่ย้ายมาอยู่ที่นี่กับผมล่ะครับ เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอด”

แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าไม่มีทางที่เคนจะย้ายมาอยู่กับผม ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ผมก็ยังอยากอ้อนเขาอยู่ดี

“ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวเคลวินจะเสียหาย”

คำพูดของเขาทำให้ผมขอบตาร้อนผ่าว ดูสิ แค่อยู่ใกล้ๆ เคน ได้รับรู้ถึงความห่วงใยที่เขามีต่อผม

มันทำให้คนที่เข็มแข็ง เด็ดขาดอย่างผม กลายเป็นคนอ่อนแอ บ่อน้ำตาตื้นขึ้นมาง่ายๆ มันจะดีมากๆเลย หากว่าเคนจะพูดเพราะรักและห่วงใยผมในฐานะคนรักจริงๆ ไม่ใช่เกรงใจในฐานะเจ้านาย

“ผมเข้าใจครับ”

และนั่นเป็นคำตอบของคนที่ไม่รู้จะพูดอะไร เข้าใจเขาทุกอย่าง ไม่อยากดื้อดึงเอาแต่ใจตัวเอง การที่เคนยอมมาอยู่ด้วยกับผมหลายวัน ก็มากพอแล้ว ถึงผมอยากจะทำอะไรตามใจตัวเอง ไปอยู่กับเขาที่ห้องเช่า

แต่เมื่อคำนึงถึงความเสียหายที่จะตามมา หากมีคนเห็นเราสองคน ผมก็จำต้องตัดใจ อดเปรี้ยวไว้รอกินหวานดีกว่า ยังพอมีเวลาที่จะทำให้เคนเปลี่ยนใจมารักผม

ช่วงนี้คงต้องทำตัวดีๆ ไม่ดื้อ หรือเอาแต่ใจ สามีจะได้ในอ่อน ยอมรับรักผมในเร็ววัน ถึงตอนนั้นแล้ว ผมคงไม่ต้องมานั่งอ้อนวอนให้เขามาอยู่กับผมอีกต่อไป เพราะเราคงอยู่ด้วยกันแล้ว

“ถ้างั้นกลับบ้านดีๆนะครับ”

สิ่งที่ทำได้คือยืนส่งเขาที่หน้าประตูลิฟท์ แล้วยืนมองเขาตาละห้อย

“พรุ่งนี้อย่ามาสายนะครับ...ผมคิดถึง....”

หยอดด้วยคำอ้อน นึกห่อเหี่ยวใจที่ต้องอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ตามลำพัง เมื่อก่อนเคยชอบใจที่ได้อยู่ที่นี่ พ่อแม่ขอร้องให้กลับไปบ้านบ้าง ผมก็ไม่ยอมกลับ เพราะเบื่อกับความวุ่นวายของคนที่บ้าน และไม่อยากตอบคำถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานเสียที

มาอยู่ที่นี่ ผมมีโลกส่วนตัวของตัวเอง อยู่ได้โดยไม่เหงาหรือเบื่อ แต่ตั้งแต่ได้รู้จัก และรักเคน ผมกลับกลัวการอยู่คนเดียว นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่า ผมจะผ่านค่ำคืนนี้ไปได้อย่างไร ในห้องที่มีแต่กลิ่นไอของเคน ผมคงนอนไม่หลับแน่ๆ เพราะคิดถึงเขาทั้งคืน

“จะพยายามครับ”

เคนยิ้มให้ผม ก่อนจะกดลิฟท์ลง ผมเอามือแตะปากตัวเอง แล้วยื่นส่งให้เคน ก่อนที่ลิฟท์จะปิดลง ผมเห็นเคนยิ้มออกมาด้วยความขำ ยิ้มที่ทำให้ผมใจละลาย


เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้น ทำให้ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอน ไม่มีการงัวเงีย หรือง่วงเหงาหาวนอนแม้แต่น้อย ที่จริงเหมือนผมเตรียมตัวจะตื่นอยู่ตลอดเวลา ใจจดจ่อที่จะไปทำงานแต่เช้า

หลังจากกลับมาถึงบ้านเมื่อคืนนี้ ผมปัดกวาดเช็ดถูบ้าน แล้วก็ขึ้นมานอนบนเตียง ตั้งใจจะนอนหลับพักผ่อน ทว่าไม่อาจจะข่มตาลงได้ มันรู้สึกแปลกๆ

ห้องแคบๆ ที่ผมเคยนอนหลับเป็นตายเนื่องจากเหนื่อยล้ากับงานในทุกวัน คราวนี้มันกลับดูโล่งและโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่พื้นที่มันไม่ได้กว้างขึ้น กลับแคบลงมากกว่าเดิมด้วยของที่เคลวินนำมาบรรจุลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผม

เตียงที่เคยนอนเป็นประจำ แต่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา มันดูกว้างจนผมพลิกไปมากระสับกระส่ายทั้งคืน รู้สึกหนาวจับใจ ทั้งที่ห้องผมไม่มีแอร์ แถมอากาศภายนอกก็เย็นสบาย แถมไม่ใช่ฤดูหนาวด้วย แต่ทำไมผมรู้สึกเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก จนต้องห่มผ้าห่มนอนทั้งคืน

พอไม่หลับ ก็เริ่มคิดอะไรไปฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อย คิดเรื่องครอบครัว เรื่องพ่อแม่ เรื่องงาน และในท้ายที่สุดก็มาจบลงที่เรื่องเจ้านายที่ชอบมาสร้างความวุ่นวายในชีวิตของผมจนปั่นป่วนไปหมด รู้สึกรำคาญในบางเวลา แต่บางครั้งก็รู้สึกดีที่มีเขาอยู่ด้วย

เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยรู้สึกกลัวเคลวินเหมือนเมื่อก่อน อยู่ด้วยกันตามลำพัง ผมสามารถวางตัวได้เป็นธรรมชาติขึ้น เขาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมน่ารักขี้อ้อน จนไม่น่าเชื่อว่าฝรั่งร่างยักษ์ ที่เข้มงวดดุดันอยู่ตลอดเวลา จะมีมุมน่ารักๆกับเขาก็เป็นเหมือนกัน

แค่นึกชื่อของเคลวิน ร่างกายของผมก็ร้อนซู่ขึ้นมา เหมือนมีไฟฟ้าไหลวนอยู่ในกาย อบอุ่นอย่างประหลาด ผมกอดตัวเองไว้ ใจก็พลันคิดไปถึงอ้อมกอดของคนตัวใหญ่ที่โอบกอดผมไว้ทั้งคืน และได้ตระหนักว่า การที่ผมรู้สึกว่าเตียงนอนมันกว้าง ทั้งที่ความจริงมันแคบ ก็เพราะคนตัวใหญ่ที่เคยนอนเบียดผมอยู่ทั้งคืนไม่อยู่ในห้องนั่นเอง

ช่วงเวลาที่เคลวินมาอยู่กับผม ห้องที่เล็กอยู่แล้วกลับคับแคบมากขึ้น ที่จะเดินก็ไม่มี แล้วไหนจะบรรดาข้าวของที่เขาหาซื้อมาให้ เพื่อให้ผมสบายขึ้นอีก มันเกะกะไปหมด จนผมรู้สึกอึดอัด พยายามผลักไสเขาให้กลับไปบ้านตัวเองอยู่ตลอด เพราะไม่ชินกับการมีคนมาช่วยแย่งอากาศหายใจ ทว่าพอกลับมายังห้องที่ว่างเปล่า ไม่มีเคลวินมาคอยนัวเนียชิดใกล้ ห้องมันกลับใหญ่ขึ้นมาจนผมรู้สึกกลัว

โดยที่ไม่รู้ตัว เคลวินก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปเสียแล้ว จากเมื่อก่อนที่ผมคิดว่าเขาเป็นส่วนเกินของชีวิต เป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการ และพยายามขจัดออกไป มันกลับกลายเป็นว่า เขาเป็นความคุ้นเคยของผม เวลาเขาไม่อยู่ ก็ห่วงหาอาลัย อยากให้วันเวลาที่อยู่ด้วยกันกลับคืนมา อาการแบบนี้มันคืออะไรกัน ผมคงไม่ได้กำลังรักเคลวินอยู่หรอกนะ

พอคิดว่าตัวเองอาจจะมีใจให้เคลวิน ผมก็รู้สึกตกใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะรักผู้ชาย ถึงแม้ตอนนี้ความรู้สึกผมจะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก ไม่ได้รู้สึกรังเกียจคนที่รักเพศเดียวกัน ทว่าผมก็ยังนึกไม่ออกว่า หากตัวเองต้องแต่งงานกับผู้ชายมันจะเป็นอย่างไร

นึกถึงคำพูดของตัวเองที่พูดกับเคลวิน หลังจากมีอะไรกัน ผมก็นึกอายขึ้นมา เคลวินจะเข้าใจเอาเองหรือเปล่าว่า ผมพูดเปิดทางให้กับเขา ประธานเจ้าเล่ห์ยิ่งชอบคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอยู่ด้วย ป่านนี้ไม่ดีใจยกใหญ่ไปแล้วหรือ คงคิดว่าผมมีใจให้ แล้วคำพูดของผมมันก็ชวนให้คิดไปเช่นนั้นเสียด้วย ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมไม่ได้ให้ความหวังอะไรเคลวินเลยแม้แต่น้อย แค่ตอบไปตามความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น


--------------------
TBC

 :z2: :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2008 22:57:52 โดย minchy »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






anna1234

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ tatum1234

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
 :-[รักเค้าแล้วละซี กิ๊วๆ

ออฟไลน์ Ottomechan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0

30.2   มาแล้ว มาแล้ว
---------------------------------


นึกถึงคำพูดของตัวเองที่พูดกับเคลวิน หลังจากมีอะไรกัน ผมก็นึกอายขึ้นมา เคลวินจะเข้าใจเอาเองหรือเปล่าว่า ผมพูดเปิด

ทางให้กับเขา

ประธานเจ้าเล่ห์ยิ่งชอบคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอยู่ด้วย ป่านนี้ไม่ดีใจยกใหญ่ไปแล้วหรือ คงคิดว่าผมมีใจให้ แล้วคำพูดของ

ผมมันก็ชวนให้คิดไปเช่นนั้นเสียด้วย ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมไม่ได้ให้ความหวังอะไรเคลวินเลยแม้แต่น้อย แค่ตอบไปตามความ

รู้สึกของตัวเองเท่านั้น

ยังจำได้ถึงหน้าตาที่แสดงออกถึงความดีอกดีใจของเคลวิน เขายิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกถึงหู ตาสีฟ้าที่มองมาหวานเยิ้ม ผม

เห็นความรักและหลงใหลในสายตาคู่นั้นที่มองมา มันทำให้ผมร้อนวูบไปทั้งตัว น่าประหลาดที่สายตาของผู้ชายคนหนึ่งทำ

ให้ผมหวั่นไหวได้ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย เหมือนว่าผมกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กลายเป็นใครอีก

คนที่ผมไม่อยากเป็น

ผมต้องต่อสู้กับความคิดของตัวเองจนนอนตาค้างไปทั้งคืน ภาพของประธานเจ้าเล่ห์ตามมาหลอกหลอนผมตลอดเวลา ผม

พยายามมองไปรอบๆห้อง เพื่อให้ตัวเองไม่จดจ่ออยู่กับเรื่องของเขามากเกินไป แต่นอกจากจะไม่ช่วยให้เลิกคิดได้แล้ว ผม

กลับเห็นภาพของเขาอยู่แทบจะทุกๆมุมในห้อง

ไม่ว่าจะเป็นที่โต๊ะกินข้าว ที่หน้าเตาไฟ ยามที่เขาทำอาหารให้ผม บนพื้นที่เรานั่งกินข้าวด้วยกัน หรือแม้แต่บนเตียง ผมก็ยัง

เห็นร่างของเขาอยู่ใกล้ๆ ต้องยื่นมือออกไปเพื่อจับดูว่าตาผมฝาดหรือไม่ ก็พบว่ามือของผมแตะต้องเข้ากับอากาศธาตุ

ไปๆมาๆก็นึกโกรธคนเจ้าเล่ห์ขึ้นมา อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำไมเขาต้องมาสร้างความวุ่นวายในชีวิตของผมด้วย ผมเคยอยู่ของ

ผมดีๆ อดมื้อกินมื้อบ้าง แต่ผมกลับมีความสุข พอมาเจอเคลวิน ผมกับพบทั้งความสุขและความทุกข์ ทำอย่างไรผมจะหลุด

พ้นจากสภาพที่เป็นอยู่นี้ไปได้นะ ผมพยายามหาคำตอบให้ตัวเองในใจ

เสียงนาฬิกาปลุกที่ผมตั้งเอาไว้ทำให้ผมหลุดจากความคิดคำนึงถึงคนเจ้าเล่ห์ ผมรีบลุกขึ้น ฉวยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่เคลวิ

นซื้อมาให้ แทนที่จะเป็นผ้าขาวม้าผืนเก่าที่เคยนุ่ง นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่เคลวินได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม เขาซื้อข้าวของ

มากมายมายัดเยียดให้ผมใช้ โดยที่ผมไม่ได้ร้องขอ แรกๆผมก็ปฏิเสธ แต่พอเห็นสายตาหวังดีที่มองมา ก็ทำให้ผมใจอ่อน ไม่

กล้าหักหาญน้ำใจเขา ยอมใช้ของที่คนเจ้าเล่ห์ซื้อให้ ใช้ไปใช้มาก็เพลินจนกลายเป็นความเคยชินใหม่

ผมมองผ้าในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย สักพักก็รู้สึกว่าปากตัวเองกระตุกออกเหยียดยิ้ม หน้าของเคลวินลอยมาให้เห็น

ทันที หนทางที่ผมจะหนีเคลวินพ้นก็คือการที่ไม่ยอมแตะต้อง หรือเกี่ยวข้องอะไรที่เกี่ยวกับตัวเขา ถ้าหากผมใจแข็งเพียงพอ

เรื่องผิดธรรมชาติระหว่างเราที่เกิดขึ้น ก็คงจะจบลงเสียที อยู่ที่ว่าผมจะกล้าพอที่จะทำร้ายจิตใจของเคลวินหรือเปล่า

ตรงหน้าประตูห้องน้ำ มีถึงขยะใบใหญ่ที่เคลวินซื้อมาให้ วางอยู่ ผมมองผ้าขนหนูสีขาวในมือ สลับกับการมองที่ตะกร้า ผม

จะทิ้งของที่เคลวินให้มาดีไหมนะ เขาจะเสียใจไหม ถ้าผมจะปฏิเสธสิ่งที่เขาให้

ในที่สุดผมถือผ้าขนหนูผืนนั้นเดินเลยถังขยะเข้าไปในห้องน้ำ ให้คำตอบกับตัวเองว่า สิ่งของไม่มีความผิด ไหนๆก็ถูกซื้อมา

เผื่อเอาไว้ใช้ ก็ต้องทำให้มันเกิดประโยชน์ ไม่งั้นต้นไม้ใบหญ้า สรรพสิ่งทุกอย่างที่ถูกทำลายลงเพื่อสรรสร้างสิ่งใหม่ก็จะ

ตายอย่างไร้ค่า หลังจากให้คำตอบในเชิงรักษ์โลกกับตัวเองแล้ว ผมก็อาบน้ำอย่างสบายใจ


--------------------
TBC


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เคนเริ่มใจอ่อนปะเนี่ย  :o8: คิดถึงอ้อมกอดของเคลวิน

ออฟไลน์ yr_meteor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ชอบคนอย่างเคนอ่า

เป็นอย่างนี้ใครก็รัก...:กอด1:

ยังไงเคลวิ่นก็น่าร๊ากก เป็นอย่างนี้ใครล่ะไม่หวั่นไหวบ้าง?

 o18




ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ท่าทาง เคน จะหนีไม่รอดแล้ว   :o8:


ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ Ottomechan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: รักแท้ อยู่ไหนก็รักแท้

ใกล้ชิดยังไง ก็ดีว่าไกลห่าง ว่าป่ะ  :3123:

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
ตอนที่ 31  มาแล้ว
-------------------------------------

“วันนี้มาเร็วจริง สถิติดีกว่าเดิมตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะ แต่ดูเหมือนว่ายังไม่เร็วทันใจท่านประธานนะ เห็นถามหาเธอตั้งแต่เช้าแล้ว”

ยังไม่ทันหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ พี่นนนี่ก็เอ่ยทักทายผม ตามด้วยประโยคที่ทำให้ผมถึงกับนั่งไม่ลง

“ท่านมีเรื่องอะไรจะเรียกใช้ผมหรือเปล่าครับพี่นนนี่”

ผมถามอย่างแปลกใจ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองป่วย หยุดงานไปเสียหลายวัน ยังมีงานบางอย่างที่คั่งค้างอยู่ สงสัยประธานเคลวินคงจะรีบใช้ เพราะวันนี้เขามีประชุมเสียด้วย

“ไม่รู้สิ คุณเคลวินเดินลงมาข้างล่างนี่ เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว และเพิ่งกลับขึ้นไปก่อนเธอมาสัก 10 นาที เหมือนว่าจะมารอเธอแน่ะ แต่ไม่ได้สั่งอะไรไว้นะ ลองไปพบท่านก่อนไหม เผื่อว่าจะเอาอะไร”

พี่นนนี่แนะนำ เธอเป็นเลขาที่ค่อนข้างรู้ใจเจ้านาย เพราะทำงานร่วมกันมานาน บางครั้งประธานเคลวินไม่ต้องสั่งการอะไรมาก พี่นนนี่ก็สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างลุล่วง สิ่งที่พี่นนนี่พูดมักถูกเสมอ ผมต้องเรียนรู้จากเธออีกเยอะ จึงจะสามารถทำถูกใจเจ้านายได้

“งั้นผมขึ้นไปหาคุณเคลวินก่อนนะครับพี่นนนี่”

ด้วยความอยากรู้ว่าประธานมาหาผมด้วยเรื่องอะไร ผมจึงขออนุญาตพี่นนนี่ไปพบประธานเคลวินที่ห้องทำงาน พี่นนนี่กำลังง่วนอยู่กับบรรดาเอกสารที่จะให้เจ้านายเซ็นต์ โบกมือให้ผมไปได้ โดยฝากแฟ้มเสนอเซ็นต์ไปให้เคลวินด้วย

“ฝากชงกาแฟให้คุณเคลวินด้วยนะ ท่าทางคุณเคลวินง่วงๆ เดี๋ยวจะหลับในห้องประชุมเสียก่อน”

เลขาผู้รู้ใจเจ้านาย ร้องสั่งผม รู้สึกทึ่งในใจกับความช่างสังเกตของเธอ พี่นนนี่สมกับเป็นคนที่เคลวินไว้วางใจ เพราะจะคอยห่วงใยดูแลภาพลักษณ์ของเจ้านายตลอด ผมเองก็ต้องหมั่นฝึกสังเกตบ้างแล้ว เป็นเลขาก็ต้องเข้าใจเจ้านายตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะได้รับความไว้วางใจได้อย่างไร วันหนึ่งข้างหน้า หากผมต้องไปทำงานเป็นเลขาของใครคนอื่นที่ไม่ใช่เคลวิน ผมจะได้ปฏิบัติตัวให้เจ้านายพึงพอใจได้





“เข้ามา”

เสียงห้วนสั้น และมีอำนาจ ดังออกมาหลังประตูไม้หนาหนัก ผมหอบแฟ้มในมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งที่ถือถุงใส่ของ หมุนลูกบิดประตูเข้าไปในห้องทำงานกว้างใหญ่

เคลวินนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานทำจากไม้โอ๊คขนาดใหญ่ เขากำลังสนใจอะไรบางอย่างที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พอผมเดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา ท่านประธานก็ละสายตาจากจอสี่เหลี่ยม แล้วเงยหน้าขึ้นมองผม ตาสีฟ้าของเขาเต้นระริกอย่างดีใจ สักพักก็กลับมาว่างเปล่าตามเดิม

“มาถึงนานหรือยัง”

เขาถามผมเสียงเรียบ ใบหน้าเฉยเมย ตอนนี้เขาอยู่ในบทบาทประธานจอมเฮี๊ยบ ไม่ใช่ภรรยาขี้อ้อนของผม ดังนั้นผมก็ต้องปรับท่าทีให้สอดคล้องกับเขา จะทำเป็นต่อปากต่อคำเหมือนอยู่กันสองต่อสองที่บ้านไม่ได้

“ได้สักพักแล้วครับ ...เห็นว่าคุณถามหาผม ก็เลยขึ้นมา เผื่อว่าท่านประธานอยากเรียกใช้อะไร แล้วพี่นนนี่ก็ฝากเอกสารมาให้ท่านเซ็นต์ด้วยครับ”

ตอบออกไปด้วยท่าทีสุภาพ ผมยืนตรง เอามือประสานกันไว้ด้านหน้า รอรับคำสั่งจากเขา

“วันนี้มีประชุม มีหัวข้อที่เกี่ยวกับกฎหมายด้วย ผมอยากให้คุณเข้าไปนั่งจดรายงานการประชุมให้ผม คุณป่วยเสียหลายวัน อาจจะตามเรื่องยังไม่ติด ให้ไปถามจากนนนี่ และศึกษารายละเอียดก่อนมาเข้าประชุม มีเวลาอีก 1 ชั่วโมง หวังว่าคุณคงไม่ทำให้ผมผิดหวัง”


--------------------

TBC


ขอโทษที่มาลงให้ช้านะคะ  จริงๆ ได้ต้นฉบับมาสักพักแล้วแต่ไม่ค่อยว่างเลยช่วงนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด