ll ..เด็กหอ ღ.. ll ตอนพิเศษสิบปีผ่านไป [17/11/19] p.33 ◄
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ll ..เด็กหอ ღ.. ll ตอนพิเศษสิบปีผ่านไป [17/11/19] p.33 ◄  (อ่าน 474835 ครั้ง)

ออฟไลน์ ummax

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาก็ช้ายังจะกล้าทิ้งกันไปอีกนะคนเรา


คิดฮอดเด้อฟ้าวมา
 :L3: :pig4:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
โอ๊ยยยย เลี่ยน หยุดเหอะหมอ 55555
อู้มีเขินอาย แต่ทำตัวมึน รับไม่ได้ ตอนเมาทำไมไม่แบบนี้ล่ะ

ปันควรเก็บมุกไว้กับตัว

โยกับเล็กยังไงคะ


ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โยเล็ก ควายสื่อรัก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เข้ามาอ่านใหม่ แต่ทันแล้ว  :z2:
จีบแบบนี้ น้องอู้ก็ไปไม่เป็นแล้ว  :hao6:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
ปล.1 เป็นกำลังใจกับการสอบ
ปล. 2 เดินทางปลอดภัยสนุกกับดินแดนปลาดิบ นะครับ :L2:

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :mew1: พึ่งมาอ่านค่ะ สนุกมากเลย ดีใจกะพี่โยด้วยมีเด็กเป็นของตัวเองแร้ว :hao7:

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
สาบานว่านิยายรัก...ขำจนปวดท้อง

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สายฮากันตลอด สาระไม่มีหน้าตาดีกันไปวันๆ 555
ชอบความทุ่มทุนจีบของพี่หมอมากกอ่ะ ถึงมันจะเอ่อ เถื่อนๆไปสักหน่อย แต่น้องอู้เขินได้ก็โอเค

ออฟไลน์ Ploids

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องอู้ที่ยัง(ทำเหมือน)ใจแข็งนี่คือกลัวเพื่อนทิ้งอยู่ใช่ม้ายยย
ดีกับใจมากกก น่าร้ากกกกกกกกกกกก
ฮือออออ เติ้ลหนุ่มขอนแก่นน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ในที่สุดน้องปันของเราก็ไม่แป๊กอีต่อไป เมื่ออยู่กับเล็ก ผู้ขำทุกสถานะการ ใครไม่ขำเล็กขำจ๊าา

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2

19

   หลังจากค่ายทำฝายที่เราได้ไปเหมือนพักผ่อนหย่อนใจตั้งหลายคืน ไปเพื่อทำฝายตรงเป้าหมายกิจกรรมอยู่แค่วันแรกส่วนวันที่เหลือก็หมดไปกับการเที่ยวตอนกลางวันนั่งดูควายขี้และกระดกเบียร์ตอนกลางคืน เราก็กลับเข้าสู่ความนรกความจริงครับ นรกที่เด็กมหาลัยทุกคนต้องเจอ

ฝายอะไรเอ่ยนรกกับนิสิต


เฉลย


ฝายนอล!!



ผิด!!


ไฟนอล!!

ไม่ตลก…

แต่! นั่นแหล่ะครับ  สิ่งที่คุณจะหาไม่เจอในเซเว่นของช่วงเวลานี้คือเอ็มร้อยห้าสิบซึ่งจะหมดตู้ทุกสองครั้งในหนึ่งเทอมคือเมื่อมีสอบมิดเทอมกับไฟนอล นิสิตก็จะเริ่มเกาะเป็นกลุ่มสิงอยู่ตามโรงอาหาร หอสมุด สภาพก็จะตาดำคล้ำคล้ายคนไม่มีสติ บ้างก็จะมีอาการโวยวายว่ากูไม่ทำแล้วโว้ยแต่ซักพักก็จะกลับมานั่งอ่านต่อเหมือนเมื่อกี้แค่ล้อเล่นขำขันสะเก็ดดาว อ้อ หรือว่าจะเป็นการปาชีทลงกับพื้นด้วยความเกรี้ยวกราดก่อนจะเดินไปหยิบมาอ่านใหม่แบบที่ไอ้เติ้ลกำลังทำก็ได้ เนี่ยครับ การสอบทำให้คนย้อนแย้ง

“ไอ้เติ้ลมึงทำโจทย์ข้อสองเสร็จแล้วหรอ”

“เรียบร้อย”

“ทำเสร็จเรียบร้อย?”

“ทำเรื่องดรอปเรียบร้อย!!  ไอ้เหี้ยยยยยยย!! ทำไม!! ทำไมตอนกูแอตเข้าเรียนพี่ไม่บอกว่ากูต้องชดใช้กรรมขนาดนี้ ไอ้สัด เมื่อวานกูนอนไปแค่สองชั่วโมง สอง – ชั่ว – โมง เพราะอะไรรู้ไหมครับคุณ เพราะกูยังทำแลปไม่เสร็จ!! โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไหนเอานมมาดูด”

เสียสติไปอีกหนึ่งราย เราสูญเสียสติกันไปกี่คนแล้วกับไฟนอล ถามใจอาจารย์ดู
ว่าแต่เสียสติยังไงก็ยังคงตลกแดกเหมือนเดิม ผมตีมือไอ้เติ้ลไปหนึ่งป้าปข้อหาริอาจจะขโมยนมขาวเย็นๆปั่นไปดูดแบบหน้าด้านๆ

“ว่าแต่ทำไมมึงทำแลปไม่เสร็จวะ กูส่งแลปไปให้มึงตั้งแต่สองทุ่ม” ไอ้พีเงยหน้ามาจากชีทเรียน

“เปล่าเลย กูไม่ได้คุยไลน์กับสาวที่ไหนแน่นอน”

“...”

“กูไม่ได้คุยไลน์กับสาวสังคมชื่อขนุนที่เจอกันตอนทำฝายเลยจริงๆ”

“...”

“เชี่ย ดูร้อนตัวไปป่ะวะ”   

มาก..
ตอนนี้ทุกคนจ้องไปที่ไอ้เติ้ลทันทีที่มันร้อนตัวครับ ซึ่งเจ้าตัวก็ทำหน้าเลิ่กลั่กจับแว่นแก้เก้อ แบบมองมาจากพาราก้อนกรุงเทพมาบ้านนาก็รู้ยังรู้ว่ามีพิรุธ ปกติเติ้ลไม่ได้ใส่หรอกนะครับแว่น แต่วันนี้มันบอกว่าเห็นในไอจีหมอเขาใส่แว่นกันแสดงว่าคนเก่งต้องใส่แว่นมันเลยเอาแว่นเมทมาใส่เผื่อจะฉลาดมากขึ้น ผลที่ได้คือควายเหมือนเดิม

“มึงคุยไลน์กับสาวที่ไหน มีสาวไม่บอกเพื่อนหรอ”

“งุ้ยๆ ก็กูเขินอ่ะ” งุ้ยพ่อง ได้ยินแล้วระคายหูจนต้องยกตีนไปเตะเข่ามันใต้โต๊ะ

“ขนุนไหนวะ มึงเอารูปมาดู” ตอนนี้ทุกคนทิ้งปากกาแล้วครับ สามัคคีกันสุด

คงคอนเสปเรื่องเสือกต้องมาก่อนเรื่องสอบเสมอ...

เอาจริงตอนนี้ทำอะไรก็ได้ครับนอกจากอ่านหนังสือ ป้าแม่บ้านถูพื้นทุกวันแต่วันนี้ทำโจทย์เยอะจนเบื่อตัวเลขขนาดที่ลุกไปขอแม่บ้านถูพื้นแทนการอ่านหนังสืออ่ะครับ ก็คิดดูว่าไฟนอลนั้นสร้างความชิบหายให้ชีวิตนิสิตขนาดไหน

อ่ะกลับมาที่น้องขนุนต่อ..


“เห้ย เอาเรื่องว่ะ” ไอ้พีคว้ามือถือไอ้เติ้ลมาไล่ส่อง อย่าหาว่าเสือกเลยนะครับ แต่เสือกจริงๆ ไหนๆ ดูบ้างซิ

“อะไรวะเติ้ล มึงชอบขนุนหรอ กูก็ชอบเหมือนกัน” จู่ๆปันก็เงยหน้าเอ๋อๆมันมาจากหนังสือแล้วโพร่งขึ้นกลางวง สร้างเดธแอร์ขึ้นมาทันที ชิบหายละ เปิดแทค #เพื่อนรักเพื่อนร้าย ให้ทีครับ ตกใจจนเล่นเอามือถือในมือร่วงตกพื้นดังปั้ก ไอ้เติ้ลนี่ตกใจสุดครับโวยวายลั่นโรงอาหารเลย

เพราะไอ้ที่ตกที่มือถือมัน...

“ปะ ปันมึงก็ชอบขนุนหรอวะ”

“เออ กูชอบ”

“ละ แล้วมึงชอบมากไหมวะ”

“ก็มากนะ”

“ฮึก ถ้ามึงชอบ กูก็คงไม่ใจหมาคุยซ้อนกับเพื่อน กูจะถอยให้เองเพื่อนรัก” ไอ้เติ้ลถึงกับหน้าหด คว้าน้ำตาเทียมไอ้พีมาหยอดใส่ตาให้ไหลเหมือนน้ำตาจริง รัชดาลัยไม่มีใครเกิน

“ถอยไมวะ เราแบ่งกันก็ได้”

“เห้ย!!” ชิบหายแล้วไอ้เอ๋อ เห็นหน้าซื่อหน่อยนิยมทรีซั่มหรอวะ 

“ตกใจไรวะ ขนุนมันไม่ได้แพงขนาดนั้น เวลาซื้อมากูก็กินกับแม่”

“ไอ้ปัน ไอ้สัด กูไม่ได้หมายถึงขนุนที่เป็นผลไม้!!”

“ขนุนเป็นผักหรอวะ”

โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย เอ๋อจนกูคิดว่าเสิรช์วิกิพีเดียว่าเอ๋อคืออะไรความหมายจะต้องขึ้นชื่อพร้อมกับรูปนิสิตมึงแน่ๆ

“ฮึกกกกก ทำไงดีวะพวก ฟิได้กินสมองไอ้ปันไปแล้ว”

“อะไรวะ กูงง”

“มึงไม่ต้องมางงเลยนะ ไอ้สัด กูเกือบไลน์ไปด่าขนุนแล้วว่านอกใจกู แม่ง”

“เค้าตกลงคบกับมึงแล้วหรอ”

คำตอบได้เป็นการเอาน้ำตาเทียมมาหยอดอีกรอบแสดงความช้ำใจ แฟนข้างเดียวไหมหล่ะมึง ผมได้แต่ส่ายหัวกับความสติไม่เต็มของเพื่อน ปกติสติไม่ค่อยมีพอเข้าไฟนอลหน่อยนี่คือต้องขอบริจาคเลย 

นี่ขนาดพวกเราปีหนึ่งยังขนาดนี้ ตัดภาพไปที่รุ่นพี่ พี่หมอนี่สภาพแทบไม่เหลือความเป็นอดีตของอดีตเดือนครับ เพราะตอหนวดเริ่มขึ้น ตาเริ่มโหล สติเริ่มถดถอย จริงๆก็ถอยมานานแล้ว แอบนินทาเล็กๆอย่าไปบอกพี่มันนะ เพราะพูดถึงพี่หมอแล้ว ที่ต้องลงมาอ่านหนังสือกับเพื่อนส่วนหนึ่งก็เพราะได้ติวไปด้วยส่วนอีกอย่างหนึ่งคือ

หนีการโดนลวนลาม!!

ไม่ต้องถามว่าใครครับ ไอ้หมอโรคจิตมีอยู่บนเดียว ช่วงนี้ดูจะจัญไรเกินเบอร์ขึ้นทุกวัน เวลาพี่มันอ่านหนังสือเหนื่อยจะชอบมารุงรังครับ มันบอกเรียกขวัญและกำลังใจ ตกลงนิสิตวิศวะอ่านหนังสือสอบหรือมึงจะไปรบกับเกาหลีเหนือ แล้วเรียกกำลังใจบ้านพี่มึงสอนให้ลากเก้าอี้มานั่งกอดชาวบ้านจากทางด้านหลังงี้เรอะ แถวบ้านเรียกลวนลามโว้ย! ไอ้โรคจิต!

คิดแล้วหงุดหงิดมานั่งใจจดใจจ่อกับหนังสือต่อ ผมกับเดอะแก๊งค์นั่งอ่านกันจนเกือบห้าทุ่มก็แยกย้ายกันขึ้นหอครับ เดี๋ยวจะโดนเคอร์ฟิว ปีนขึ้นชั้นห้าเปิดห้องไปก็เจอพี่หมอนั่งใส่เสื้อกล้ามอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ โชว์ได้โชว์ดีจริงๆกล้ามเนี่ย มีหน่อยมาทำเป็นอวด

“ลูกหมา มานี่ดิ๊”

“ไม่ไป” เริ่มแล้วครับ อย่าหวังเลยไอ้เฒ่าหัวงู รู้หรอกโว้ยว่าจะทำอะไร

“มาหน่อย”

“ไม่ไป”

“ไม่ทำอะไรหรอก”

“ไม่ไป”


เสียงตดปู้ดยังน่าเชื่อถือกว่าคำพูดมึงเลยพี่หมอ
ผมมองหน้าพี่หมอด้วยความเหม็นเบื่อ อยากจะบอกว่าระวังงูบนหัวกระแทกเพดาน แล้วพอผมดื้อหน่อยพี่มันก็ทำหูลู่หางตก ไร้เรี่ยวแรงจะหายใจเอาหน้าแนบไปกับหนังสือ ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ แอ๊บแบ๊วไม่ดูสารรูปที่กล้ามใหญ่เท่าหัวเด็กเลยจริงๆ ต้องแข็งข้อหน่อยครับ ช่วงนี้พี่มันถึงเนื้อถึงตัว กลัวใจจะหวั่นไหวไปมากกว่านี้



ใช่ครับ ฟังไม่ผิดหรอก หวั่นไหวไปมากกว่านี้



...เพราะผมหวั่นไหวไปแล้ว



มันอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกชอบหวานแหววในแบบที่หลายๆคนนิยามนะครับ แต่มันเป็นความรู้สึกดีที่ถูกใส่ใจ ใช้ชีวิตด้วยกันเกือบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นเดือนๆแถมอยู่กันแบบไม่บริสุทธิ์ใจแบบห้องอื่นๆ ถูกเทคแคร์ขนาดนี้ ใครก็รู้สึกดีเวลาเป็นคนพิเศษของใครซักคนหนึ่งทั้งนั้นแหล่ะครับ


ผมก็ด้วย..


แต่ความรู้สึกดีนั้นมันก็เหมือนตีกับความคิดที่พี่มันเป็นผู้ชาย อะไรหลายๆอย่างมันเหมือนเป็นสิ่งที่ไม่ควร มันเหมือนผมอยากจะยอมรับในความรู้สึกของตัวเองแต่ก็เตือนตัวเองไม่ให้ยอมรับ เป็นความสับสนที่ผมไม่รู้จะพูดกับใครได้ เมื่อก้าวออกจากห้อง514นี้ไปมันเหมือนผมเดินอยู่ท่ามกลางสายตาพันคู่ การอยู่ใกล้ชิดกับพี่หมอนอกห้องเริ่มยากขึ้นไปทุกทีเพราะผมต้องคอยดูว่าสายตาของคนอื่นจะมองผมแบบไหน เพื่อนจะคิดอย่างไร สังคมจะตัดสินเราแบบไหน


ไอ้คำว่า ‘ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน’ มันจะใช้ได้จริงๆหรอเมื่อเราต้องเข้าไปอยู่ในสังคมทุกๆวัน คิดแล้วก็อยากแมนให้ได้เท่าครึ่งของพี่หมอ พี่มันไม่สนใจอะไรเลยนอกจากลุยจีบผมท่าเดียว ถึงตอนนี้ให้ผมลองนึกว่าพี่มันไปตามจีบใครแบบที่จีบผมตอนนี้ในใจก็บีบเจ็บไปหมดเลย


ไม่อยากให้ไปจีบใครแบบนี้แต่ก็ไม่แสดงอะไรให้ชัดเจนกับพี่มันได้เลย
เกลียดความสับสนของตัวเอง แต่ก็หาทางออกจากความสับสนนี้ไม่ได้ซักที


“ทำไมหน้าเครียด กูบอกแล้วว่าไม่ต้องเครียดหรอก เนื้อหาปีหนึ่งง่ายที่สุดแล้ว ไม่เข้าใจตรงไหนกูสอนให้ได้” ผมเงยหน้ามาก็เจอพี่หมออยู่ตรงหน้าซะแล้ว พี่มันยังคงยิ้มให้กำลังใจทั้งๆที่หน้ามันดูเหนื่อยกว่าผมร้อยเท่า แหง ปีสามเรียนหนักกว่าปีหนึ่งอยู่แล้ว แถมพี่มันดูหน้าโง่อีกต่างหากคงต้องขยันกว่าคนอื่นอีกเป็นเท่าตัว       


ผมหย่อนหัวไปแปะกับหน้าอกพี่มัน ไม่ได้ถือคติอยู่ในที่ลับแล้วแรดได้หรอกนะครับ แต่บางทีก็อยากอ้อน อยากอ้อนจนกว่าพี่มันจะไม่ยอมไปไหน รู้ว่าตัวเองเป็นเด็กไม่ดีเลยจริงๆว่ะที่ทำแบบนี้ รู้ว่าโคตรเห็นแก่ตัวเลย


ยังไม่กล้าก้าว พี่ก็อย่าเพิ่งถอยได้ไหมวะ 


“ไม่เข้าใจเลย”

“วิชาอะไร แคลหรอ ใจเย็นๆน่า” พี่หมอลูบหัวผมเบาๆ ส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหัว

 ไม่ใช่หรอก เข้าใจยากกว่าแคลที่เพิ่งอ่านไปอีก

ไม่เข้าใจเลย




...ไม่เข้าใจตัวเอง 







วีคนี้นับเป็นวีคนรกที่แท้จริงสำหรับผมจริงๆครับ มันเป็นอะไรที่ทุกเรื่องประดังมาพร้อมกัน ทั้งเรื่องสอบและเรื่องส่วนตัว เลือกเครียดไม่ถูกเลยจริงๆ ดีที่พอมีเพื่อนเบาปัญญามาเรียกสีสันในชีวิตบ้าง ส่วนเรื่องความรู้สึกอึมครึมของผมกับพี่หมอก็ปล่อยให้มันอึมครึมแบบนี้ต่อไป

อึมครึมปนม่วงเข้มไปจนสอบเสร็จนั่นแหล่ะครับ ฮืออออออออออออ ขอดีใจประหนึ่งด๊อบบี้ได้เป็นไทจากการได้ถุงเท้า ในที่สุดก็สอบเสร็จซักที ได้ปิดเทอมตั้งสองอาทิตย์ อยากจะร้องไห้เป็นภาษาญี่ปุ่น คิคิเดสสึก๊ะ ข้อสอบออกยากเหมือนคัดคนไปชิงถ้วยภาคีนกฟีนิกส์ ถึงจะปิดเทอมแต่หอยังเปิดดีครับ เหมาะกับชาวบ้านไกลอย่างผมที่ค่าตั๋วแพงเกินกว่าจะไปๆกลับๆ ทำเหมือนรักมหาลัยแท้จริงคือกูจน

“ฮึกกกก ทำไมน้องขนุนเขาทำกับกูแบบนี้วะเพิ่ลๆ”

“เพิ่ลพ่อง” อกหักยังไม่ทิ้งความกวนส้นตีน ผมได้มองไอ้เติ้ลที่ร้องไห้(ปลอมๆ) กระดกกระป๋องชากูซ่าทำหน้าเศร้า ทำเหมือนกระดกเบียร์ กูหล่ะยอมใจ

“ทำไมน้องเข้าทิ้งกูไปคุยกับพละได้วะ ใจกูอ่ะจะขาดวีสลี่ย์”

“อะไรวะขาดวีสลี่ย์”

“ขาดรอนๆ”

อืม...
รอนพ่องงงงงงงงงงงงงงงงงง!!
ร้ายกาจมั้ยหล่ะมึง!!

“ฮืออออออ น้องขนุนใจร้ายใส้ระนองมาก ใจพี่เติ้ลปวดยิ่งกว่าคนที่เต้นT25โดยที่ไม่ได้วอร์ม คือปวดร้าวราน ปวดเกินจะทน เมื่อรักต้องพังลงไป ยิ่งตอกย้ำยิ่งปวดยิ่งทำร้ายใจ ฮึก” ไอ้พีได้แต่กรอกตาบนแล้วลูบหลังไอ้เติ้ลด้วยตีน เนื่องจากมือไม่ว่าง ไถโทรศัพท์อยู่

“อันนี้คือมึงเฮิร์ทแล้วใช่ป่ะ”

“ปันมึงจะมาเข้าใจอะไร!!”

“เปล่า กูไม่เข้าใจ กูเลยถาม”

“ฮืออออออ จะเศร้าที่อกหักหรือมีเพื่อนโง่ก่อนดีอ้ะ แงงงง ไอ้พีช่วยกูคิดหน่อย”

“ไอ้สัสเติ้ล งอแงขนาดนี้ มึงจริงจังกับขนุนมากหรอวะ”

“คนนี้จริงจังใจพังก็ยอม!!”

“แล้วพังไหม”

“ยับเยินนน ฮือออออออออออออออออ” ไอ้เติ้ลเริ่มบทโศกอีกรอบ คราวนี้ต้องลำบากขนาดเอานิ้วชี้อุดน้ำในหลอดมาหยอดตา เสือกหยิบผิดแก้วเอาน้ำแดงของไอ้พีมา น้ำตาเลือดไหมหล่ะมึง แสบตาจนต้องไปล้างตาจริงๆในห้องน้ำท่ามกลางความเอือมระอาของเพื่อนทั้งแก็ง มันหายไปพักใหญ่ๆก่อนจะเดินเบิกตาออกมาจากห้องน้ำ

“เป็นเหี้ยอะไรอีกเนี่ย ตาเป็นตะคริว?”

“กูจะเดินตามทางวิถีคนคูลแบบพี่แป๊ะ” ฟังชื่อไอดอลมึงกูก็ปวดหัวแล้ว ยึดหลักใครไม่ยึด มึงยึดหลักพี่แป๊ะผู้ที่ไม่มีอะไรแน่นอนกับชีวิตก็ได้หรอวะ

“ห๊ะ” งงทั้งกลุ่มครับ ไอ้เติ้ลมันหยิบมือถือมาเซลฟ์ฟี่อยู่สองสามรูป แล้วก็กดอัพไอจี พวกผมเลยยกมือถือขึ้นมาดูว่ามันอัพรูปอะไร

รูปที่มันอัพเป็นรูปเปลือกตาที่ปิดอยู่แอบบวมนิดๆเพราะน้ำแดงทำพิษเขียนด้วยตัวหนังสือสีดำข้างละพยางค์ว่า


‘อก หัก’


อืมมมมมมมมมมมมมมมม
คูลจริงไอ้สัส โจ๊ก โซคูลเลยมึง ถุ้ยยยยยยยยยยยย!!!



เติ้ลโซคูลได้หัวโยกไปสามทีจากผม ไอ้พี และไอ้ปัน รายสุดท้ายนี่จริงๆคือตามไม่ทัน เห็นเพื่อนตบตบตามเพื่อน ไม่เคยหารความเอ๋อกับใครทั้งสิ้น ผมได้แต่ส่ายหัว นี่ยังดีที่พวกมันไม่ได้กลับบ้านกันในชวงปิดเทอม จริงเรียกปิดเทอมก็จะสร้างภาพไปหน่อย สองอาทิตย์ยังมีหน้ามาเรียกปิดเทอม เอาใหม่ครับ ยังดีที่พวกมันไม่ได้กลับบ้านในช่วงหยุดระยะสั้นสองอาทิตย์นี้เลยยังมีพรรคพวกให้อยู่เล่นด้วยไม่ทิ้งกันไปไหน จริงบ้านพวกมันก็อยู่กรุงเทพกันนะครับแต่ไอ้เติ้ลอ้างว่ามันอกหักไม่อยากกลับไปเจอหน้าแม่กลัวจะกลั้นน้ำตาแห่งความเศร้าโศกไว้ไม่ไหวพร้อมกับกรีดปลายนิ้วปาดน้ำตาปลอม เหนื่อยใจไทยแลนด์

ซ้อนจักรยานปันไปเล่นบาสตามวิถีชีวิตเด็กหอกันจนตัวเมือกก็กลับหออาบน้ำครับเดี๋ยวค่อยลงมากินข้าวเย็นพร้อมกันอีกรอบ ความเด็กหอในวงจรชีวิตก็จะสั้นหน่อยครับ คล้ายๆกับพวกวัฐจักรการเกิดยุงลาย นอนในห้องแอร์ก็เปลืองค่าไฟ กิจกรรมก็จะมีแค่ไปเล่นกีฬา ดูหนังที่หอสมุด ไปนั่งทำเหมือนอ่านหนังสือจริงๆคือส่องผู้หญิง หรืออีกอย่างนึงคือตากแอร์เซเว่น ความประหยัดไฟของเด็กหอทำให้เรายอมแปลสภาพเป็นหมาหน้าเซเว่นก็ยังได้ พอทำกิจกรรมเสร็จก็รวมหัวกันกินข้าวโรงอาหาร ท้ายสุดมีสองทางเลือกขึ้นหอนอนหรือออกหลังมอ จบแล้วครับวันหนึ่งวันของเด็กหอใน

ในห้อง514เวลานี้ก็จะเหงาหน่อย พี่หมอยังไม่กลับเพราะยังสอบไม่เสร็จ พรุ่งนี้สอบตัวสุดท้ายที่เป็นตัวยากสุดวันนี้คงติวอยู่หอสมุดยันดึกไม่ก็ค้างหอนอกแน่นอน ผมอาบน้ำเรียบร้อยตัวหอมแอปเปิ้ลแต่ไม่ใช่เติ้ลรสแอปแปด เปิดแอร์เย็นฉ่ำระดับที่กระพริบตานิดหน่อยแม่คะนิ้งก็เกาะขนตาแล้ว เปิดซาวด์เพลงเลทอิทโกคลอพร้อมกับสไลด์ตีนไปพื้น       

อืมมม มองเตียงแล้วก็รู้สึกเหงาแทนเตียงเสือก อ่า เตียงเสือกนี่คือเตียงสองชั้นครับ ไม่ค่ยได้ใช้ เลยถูกจำกัดความเป็นความเสือกตามตู้เสือกไปติดๆ เห็นตั้งแบบไม่มีใครเตะมาตั้งเทอมนึง กลัวมันน้อยใจ ไหนลองนอนบ้างก็ได้ เตียงมันจะแข็งกว่าเตียงใหญ่หน่อยครับ จะดีกว่าก็ตรงที่เราจะกายกรรมเอาตีนก่ายที่กั้นเตียงบนได้ แต่ก็ไม่รู้จะทำทำไมแต่ก็ทำครับ อะไรโง่ๆเรามักจะทำ

แกร๊ก..

หืม?

แกร๊ก..

เสียงอะไรวะ ผมเอาตีนเขี่ยๆตรงเบาะด้านบนที่ส่งเสียงแปลกๆเมื่อผมลองกายกรรมเอาตีนพาดเล่น อย่าบอกว่าเตียงหักนะมึง ผมหยีตาเพ่งดูดีๆก่อนจะพบว่าเป็นกล่องสีดำทำตัวเนียนไปกับสีเบาะแบบแทบดูไม่ออก

เห้ย...

แบล็กบอกซ์!!!!!

ผมลุกพรวดแล้วรีบปีนไปยกเบาะเตียงชั้นสองขึ้น ต้องกายกรรมเอาตีนเขี่ยเล็กน้อยเพราะเบาะหนักมาก เขี่ยออกมาได้น้ำตาเกือบไหลครับ เพราะเป้ากูแทบฉีก ฮืออออออ ตื่นเต้นจนอยากจะรีบถ่ายรูปส่งไลน์ไปให้พี่หมอ พร้อมกับแคปชั่นว่า ไอ้พี่ควาย หาอยู่ตั้งหลายเดือนแท้จริงอยู่ในห้อง ไอ้โง่ๆๆๆๆๆ พิมพ์ไปขำไปเกือบจะกดส่งแล้วถึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้




...ถ้าเจอกล่องแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ด้วยกันแล้วสิ



ชะงักไปเลยครับ ผมได้แต่มองกล่องในมือด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เหมือนเดวิลแองเจิ้ลตีกันป้าปๆ ถ้าเจอแล้วจะหาข้ออ้างอะไรอยู่ด้วยต่อดีวะ ในฐานะคนที่พี่หมอจีบหรอ ดูไม่ค่อยเมคเซ้นท์สำหรับคนที่ตีกันตายตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าซักเท่าไหร่เลย ผมบิดกล่องในมือไปมา เจอกล่องแล้วไม่เห็นดีใจอย่างที่คิดเลยวะ หมุนเล่นอยู่เป็นสิบนาที คิดอะไรไม่ออกรู้แต่ว่าอยากเอามันเก็บไปไว้ที่เดิมก่อน

แต่...

ขอดูหน่อยเถอะ ว่าสามเดือนมันแย่งกันนักหนาเพราะรูปอะไร!!
เผื่อมันจะมีแฮชแทค #พี่หมอเก้านิ้ว อะไรแบบนี้ คิดแล้วขนลุก 

ผมนั่งลงบนเตียงแล้วแงะเปิดกระปุกออกดู ข้างในเต็มไปด้วยรูปซ้อนทับกันมากมาย รูปแรกประเดิมด้วยพี่หญิงถอดเสื้อใส่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวอยู่แถวห้องน้ำรวมของหอหนึ่ง ขาวสะท้อนแสงจนแทบกลืนไปกับผนัง สมควรที่ไอ้พี่พี่มันจะหาเลือดตาแทบกระเด็น เอวพี่หญิงนี่เล็กเหมือนกันแฮะ ดูนานๆแล้วเขิน รู้สึกเหมือนดูรูปทอมเปลือยท่อนบน ไหนรูปต่อไป คราวนี้เป็นไอ้พี่แป๊ะนอนแล้วพนมมือไหว้โถส้วม นี่กูจำเป็นต้องไฟ้ว์หากล่องมาเจอรูปนี้จริงๆหรอวะ ปกติเวลาเมาก็เห็นพี่แกไหว้นู่นไหว้นี่อยู่ทุกทีไม่เห็นแปลก ล่าสุดที่ไปดื่มด้วยก็เห็นไหว้เสาที่ร้านอยู่ ก็ดูเป็นคนมีมารยาทดี คุ้ยต่อไปเจอรูปพี่โยถ่ายคู่กับสาว โหยยยยยยยยยย เอาหน่อยโว้ยพี่ใครวะ โยไหนไฟแรงเฟ่ออีกแล้ว พูดถึงพี่โยแล้วเลือกเล็กยังไม่มีโอกาสถามซักที ค้นไปชักสนุกครับมีรูปสมัยพี่หมอเป็นปีหนึ่งด้วย รูปถ่ายสามเดือนยืนด้วยกันทำหน้าทำตาอมขี้มันทั้งสามคน ก็ยังจะไปให้พวกมันถ่ายรูปร่วมกันอีกนะแล้วรูปเปลือยที่ว่าไม่เห็นจะมีเลย ใกล้เคียงสุดก็รูปพี่หญิงแก้ผ้าแค่นั้น หลอกลวงเว่อร์ๆ ผมนั่งขำไปเรื่อยๆก่อนที่มือจะหยุดที่รูปเกือบสุดท้ายของกล่อง   


พี่หมอถ่ายรูปกับผู้หญิง


...นอกจากจะยิ้มโกงแบบที่ชอบทำแล้ว มือยังจับกับผู้หญิงแน่นอีกต่างหาก


เจ็บจี๊ดไม่ทราบสาเหตุ จนต้องยกมือมากุมที่หน้าอก แต่พอมองดูดีๆแล้ว ผู้หญิงคนนี้เหมือนเคยเห็นมาก่อน ถ้าจำไม่ผิดก็


...ใช่!
ผู้หญิงที่ถ่ายคู่กับพี่โยรูปก่อนหน้านี้นี่นา ผมรีบคุ้ยรูปกลับมาเทียบดู ใช่จริงๆด้วย  แต่ที่ถ่ายกับพี่โย พี่โยกอดกอดเอวนี่นา อะไรวะ ความสัมพันธ์เข้าใจยากยิ่งกว่าสติไอ้ปัน


หัวใจเต้นแรงจนปวดไปหมด จะว่าไปก็ไม่เคยรู้จริงๆด้วยว่าทำไมพี่หมอกับพี่โยถึงได้เกลียดขี้หน้ากันขนาดนี้ หรือผู้หญิงคนนี้จะ...                                                             


โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย ปวดหัว
ใจนี่ก็ปวดขนาดนี้หยุดเต้นไปเลยไหมหล่ะ หัวร้อน หงุดหงิด มโนเป็นซีรีส์เกาหลีได้อีกสามเรื่อง หายใจเข้าช้าๆหายใจออกช้าๆ ใจเย็นไอ้อู้มึง มึงโมโหเรื่องอะไรวะ มึงหงุดหงิดทำไมวะ เราไม่ได้เป็นอะไรกับพี่มัน อีกอย่างอาจจะแค่เพื่อนก็ได้



แต่เพื่อนชายหญิงที่ไหนจับมือกันแน่นขนาดนั้นวะ!!



 ทนไม่ไหวจนต้องโทรหาตัวช่วย คนนี้ต้องรู้ทุกอย่างแน่นอน


“ฮัลโหลพี่แป๊ะ พี่อยู่ไหน”



คราวนี้ขอความจริงหน่อยนะพี่!!!


[มีต่อค่ะ]

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
.
.


เชื่อไหมครับ ผมเคยแอบเข้าห้องน้องสาวตัวเองแล้วเจอการ์ตูนญี่ปุ่นที่แค่ลูกกระตาก็แดกพื้นที่ไปครึ่งหน้า ชื่อเรื่องแปลกๆอารมณ์แบบ รักใสๆหัวใจว้าวุ่นอะไรเทือกๆนี้ ตอนนั้นก็นะครับว่าชื่อแม่งโคตรเห่ยเลย ใครมันจะมาหัวใจว้าวุ่น แต่ตอนนี้รู้แล้วครับ


...ใจมันว้าวุ่นได้จริงๆด้วย


“เอ้า เรียกกูมาแล้วมานั่งทำหน้าเหมือนตูดอูฐใส่กูนี่บ้านมึงมีปัญหาอะไรไอ้อู้”

“พี่เคยเห็นตูดอูฐรึไงพี่แป๊ะ”

“เคย”

“ตอนไหน”

“ตอนกูส่องกระจก”

เล่นตัวเองงี้ก็ได้หรอวะ!!
 
“เล่นตัวเองก็ได้หรอ”

“เอาน่า ขำขันสะเก็ดดาว กูเห็นหน้ามึงเครียด ไหนมีอะไรจะถามกู” พี่แป๊ะนั่งลงข้างๆผม ตอนนี้ผมมาอยู่ที่วงเวียนครับ แหล่งรวมตัวของชาวคนมีปัญหา มหาลัยผมเขาว่ากันว่า ถ้าใครมีปัญหาชีวิตมักจะมาถอนหายใจทิ้งที่วงเวียน ไม่รู้ว่าไอ้ปัญหาหัวใจว้าวุ่นนี่จะนับเป็นปัญหาชีวิตได้ไหมนะ

“ผม...”

“เล่นมุกรองทรงเบอร์สองนี่กูเอาเตะตกสระน้ำพุจริงๆนะ”

“ไม่เล่นดิ ผมเครียดนะเว่ย”

“อ่ะๆ ถามมา”

“ทำไมพี่โยกับพี่หมอถึงไม่ชอบขี้หน้ากันวะพี่” ถามออกไปแล้วครับ พี่แป๊ะมันนิ่งไปนิดนึง

“เอาจริง กูว่าทั้งไอ้โย ทั้งไอ้หมอ ทั้งไอ้พี่ แม่งก็ดูไม่น่าจะชอบขี้หน้าใครซักคนได้อยู่ดีต่อให้ไม่มีเรื่องอะไรกันหน่ะนะ”

“กับพี่พี่ผมเข้าใจว่าเพราะพี่หญิง แต่พี่โยกับพี่หมอ ผมไม่เข้าใจว่ะพี่”

“ทำไมกูรู้สึกเหมือนพูดอะไรไปชะตาจะขาดจังวะ” ไอ้พี่แป๊ะหันซ้ายหันขวา กอดตัวเองอย่างหนาวๆ

“พี่อย่าลีลาได้ป่ะ ตอบมาเร็วๆ”

“อ่า...” พี่แป๊ะมันลีลาครับ ปล่อยให้พี่มันคิดนานไม่ได้ เดี๋ยวสร้างเรื่องในจินตนาการมาเล่าอีก ผมเลยตัดปัญหาโดยการยกรูปสองใบขึ้นมาโชว์

“ผู้หญิงในรูปนี้คือใคร”

“เห้ย! มึงไปเจอได้ไงวะ! ได้ข่าวว่าสโมทำหายไปตั้งแต่ปีหนึ่ง” พี่แป๊ะทำท่าจะหยิบไปดู ผมเลยยกมือถอยหนี อย่าคิดจะมาทำหน้าจีนใส่แล้วตีเนียนซะให้ยาก

“ให้ไว”

“แม่งเอ๊ย เออๆ ผู้หญิงในรูปชื่อโบว์ ดาวปีกู”

“ทำไมผมไม่เคยเจออ่ะ”

“เจอก็แปลก ซิ่วไปแล้ว”

“แล้วทำไมเขาจับ... ไม่ดิ แบบ แล้วเขาเป็นอะไรกับพี่หมอพี่โยอ่ะ”

“มึงไม่ถามไอ้หมอวะ มาถามกูทำไมเนี่ยอู้”

“เขาเป็นแฟนพี่หมอใช่ไหม”

ถามออกไปแล้ว..
แล้วก็รู้สึกแย่เองด้วย พี่แป๊ะเงียบไป ก่อนจะถอนหายใจพรวดออกมา

“แอดดด เดาผิด เห้อ ถ่ายรูปคู่กับทั้งไอ้หมอทั้งไอ้โยโบว์จะเป็นแฟนไอ้หมอได้ยังไงวะ ไหนลองพ่นสมองออกจากจมูกมาให้กูดูหน่อย โบว์เป็นคนที่ไอ้หมอกับไอ้โยตามจีบเฉยๆ อย่างฮอต สาวอิจฉาทั้งมหาลัยเลยนะมึ้งง เดือนสองคนแย่งกันเป็นหมา กูไม่อยากจะพูดแต่พูดก็ได้เห็นมึงอยากรู้ พวกมันจริงจังกันมากนะโว้ย ไอ้โยยอมเอารถมาก็เพราะมารับส่งโบว์ พอเห็นงั้นไอ้หมอก็เอารถมาบ้าง เชี่ย โคตรศึกคนบ้านรวย กูเห็นแล้วอยากขี่จักรยานไปถีบกระจกข้าง ทีกูไม่หัดรับส่งบ้าง เพื่อนเลว” โดนหลอกด่าสมองน้อยแบบเนียนๆ เลยแอบศอกท้องพี่แป๊ะไปทีหนึ่ง

“แล้ว.. แล้วใครจีบติดอ่ะ”

“ไม่ติดทั้งคู่ โบว์ซิ่วไปก่อน สมัยนั้นร้านเหล้าสองร้านหลังมอแบ่งเป็นหนึ่งร้านของไอ้โย หนึ่งร้านของไอ้หมอ เปิดแต่เพลย์ลิสต์อกหักทั้งคู่ ทำเอากูต้องตีหน้าเศร้าแดกเหล้าเพื่อนอยู่พักใหญ่ๆ แต่จะว่าไปตั้งแต่ครั้งนั้นมันพวกมันก็ไม่ได้จีบใครจริงจังกันอีกเลยนะ ถ้าทางจะรักจริง” อืม ความตลกแดกไม่เคยหนีไปจากพี่มันพ้นจริงๆ ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยก็เป็นอดีตที่จบไปแล้ว 

“อ้อ”

“จริงๆก็สถานการณ์คุ้นๆ เหมือนเกิดขึ้นอีกรอบตอนนี้เหมือนกันนะ แต่รอบนี้เดาผู้ชนะได้ง่ายหน่อย”

“อะไรของพี่วะ ไม่คุยด้วยแล้ว ไปกินข้าวกับเพื่อนดีกว่า” หมดประโยชน์แล้วก็ทิ้งครับ ผมลุกขึ้นปัดตูด หยิบโทรศัพท์ไลน์เรียกไอ้ปันให้ขี่จักรยานมารับ

“เอ้า ฟันกูแล้วทิ้งหรออู้! คนใจร้ายใส่ระนอง! หมดประโยชน์แล้วก็ทิ้งกัน ฮึกกกกก รู้สึกไร้ค่าเหมือนเป็นซากอ้อยที่ถูกดูดแล้วถุยทิ้ง กลับมานะโว้ยยยยยย” ผมได้แต่เขี่ยขี้หูเล่น เดินไปรอไอ้ปันมารับ ในใจก็ชื้นขึ้นมาหน่อย เห้อ เป็นเด็กไม่ดีอย่างเต็มรูปแบบจริงๆเลย ปล่อยให้ความสัมพันธ์เป็นไปในแบบนี้เรื่อยๆจะได้ไหมนะ ไม่ต้องชัดเจนอะไรเลยก็ได้ ให้มันมัวๆแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ได้

 รออยู่ซักพักไอ้ปันก็ปั่นจักรยานมารับผมกลับไปกินข้าว แทบจะเป็นมื้อแรกเลยก็ได้ที่แทบไม่ได้ฟังพวกมันเล่นมุกไร้สาระ มัวแต่นั่งคิดอะไรล้านแปดอยู่ในหัว

กินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับหอครับ ผมก็เดินกลับขึ้นชั้นห้าห้องห้าหนึ่งสี่ที่เดิม เปิดประตูไปก็เจอพี่หมอยืนเช็ดผมโชว์ร่างแน่นบึ้กของตัวเองอยู่เต็มตา เออ ขยันโชว์มันทุกวันจริงๆ ถึงช่วงนี้หน้าพี่มันจะโทรมไปบ้างแต่ด้วยความแต้มบุญเยอะก็ยังมีออร่าความหล่อทะลุตอหนวดออกมาได้อยู่ดี

“ใจสั่นเลยดิ”

“สั่นทำไม เห็นบ่อยแล้ว” ไม่ใช่แค่พี่หมอหรอกนะครับ แต่หอชายเนี่ย มันแทบจะถอดเสื้อเดินเป็นเครื่องแบบประจำหอกันไปแล้ว ยิ่งพวกคณะพละนี่ขอบอกเลยว่าแน่นบึ้ก เห็นกล้ามแล้วไม่กล้าสบตาเลย กลัวพี่เขาคิดว่าหาเรื่องแล้วเอากล้ามใหญ่เท่าเสาหอฟาดหน้าหงาย

“สงสัยกูต้องถอดด้านล่างเดินจะได้ไม่เหมือนใคร”

“พี่หมอพี่นี่แม่งลามกขึ้นทุกวันนะ” ผมผลักอกพี่หมอ หื่นกามจนอยากเตะ

“ชอบเวลาหน้ามึงแดง น่ารักดี” พี่หมอยกมือมาบีบแก้มผม ตอนนั้นเองที่รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยใจหัวใจ

 ...ตอนจีบผู้หญิงคนนั้นก็ทำแบบนี้รึเปล่า พูดจาหวานแบบนี้รึเปล่า

“พี่ชอบทำแบบนี้กับคนอื่นไปทั่วป่ะวะ”

“ทำแบบไหน”

“แบบที่ทำอยู่เนี่ย”

“มึงคิดสภาพกูไปบีบแก้มไอ้แป๊ะไป ขนลุกไอ้เหี้ย กูไปบีบหน้าหมาฮวยยังรู้สึกดีกว่า”

“...แล้ว”


...แล้วกับผู้หญิงคนนั้นพี่ทำแบบนี้ไหม 


“ทำหน้าอ้อนแบบนี้จะเอาคอนโดหรือรถดีหล่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่หมอ ที่ยกยิ้มล้อผมอยู่ มุมปากนี่ยกอีกนิดก็ถึงขมับพี่มันละ

“ทำตัวเป็นเสี่ยรึไง”

“อ้อนกูอีกนิดขาข้างนึงกูก็ก้าวเข้าไปอยู่ในหนี้นอกระบบแล้วหล่ะ” ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าบ้านพี่หมอทำอาชีพอะไร ถึงไม่ได้ดูร่ำรวยแบบถ่ายรูปทีไหนก็ดูเป็นCEOที่นั่นหมดแบบพี่โย แต่ก็รู้มาบ้างว่าบ้านก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

“ดีจัง ช่วงนี้อยากได้รถอยู่พอดี”

“ขามึงถึงแล้วค่อยมาอ้อนกูอีกที” เอ้า หาเรื่อง ผมต่อยพุงแข็งๆพี่มันไปหนึ่งที แทนที่จะร้องโวยวาย พี่มันดันหัวเราะชอบใจซะงั้น อะไรวะ สายนิยมความรุนแรงรึไง

“ถอยไปเลย ผมจะอาบน้ำแล้ว”

“ให้ช่วยอาบไหม”

“ไปไกลๆเลย!” ผมสะบัดแขนเฒ่าลามกออก หูดำและหัวงูที่แท้จริง

“เอออู้ พรุ่งนี้กูไปหลังมอนะ เครื่องกลชนแก้วฉลองจบไฟนอล” ผมพยักหน้ารับแล้วเดินออกมาอาบน้ำ ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ เห็นอยากกินเหล้าก็เครื่องกลชนแก้วตลอด ช่างเป็นการหาเหตุผลมาสนับสนุนตัวเองเหมือนเวลาสาวๆบอกกินคาวไม่กินหวานสันดารไพร่นั่นแหล่ะครับ

ผมรู้สึกชื้นในใจขึ้นมานิดหน่อย แบบนี้ก็ดีแล้ว ให้มันเป็นแบบนี้ไปทุกวันก็ยังได้เลย



   บ่ายตื่นมาผมก็ไม่เจอพี่หมอแล้ว พื้นห้องน้ำก็ไม่เปียก เดาว่าคงเลื่อนนาฬิกาปลุกจนไม่มีเวลาอาบน้ำแน่นอน อาจจะเพราะเมื่อวานพี่มันนอนดึกมากด้วย ขนาดผมตาปรือจะหลับแล้ว มองเหลือบไปที่โต๊ะพี่มันก็ยังจดนู่นจดนี่ยุกยิกไม่มีทีท่าจะนอนในสิบนาทีทั้งๆที่ตอนนั้นก็ปาไปตีสามแล้วแท้ๆ คงเพราะพรุ่งนี้สอบบ่ายพี่มันเคยกะฟิตแล้วนอนเช้า ชาวพลีชีพที่แท้จริง หวังว่าจะไม่ไปตายในสนามรบละกัน

ส่วนผมชาวสอบเสร็จแล้ว แถมไม่กลับบ้าน วงจรชีวิตก็เหมือนเดิมครับ สั้นยิ่งกว่าวงจรชีวิตยุงลาย ตื่นมากลิ้งไปกลิ้งมาจนเผลอหลับไปอีกตื่น พอหิวจนทนไม่ไหวก็หยิบมือถือมาไลน์หาเดอะแก็งลงไปหาอะไรกิน สวมเครื่องแบบประจำเด็กหอคือชุดบอล นั่งใต้พัดลมและต้องเลือกที่นั่งให้ไกลร้านขายอาหารตามสั่ง เพราะเดี๋ยวจะสำลักกลิ่นควันเวลาป้าแกผัดกะเพรา ซึ่งคนสั่งก็ไม่ใช่ใครไหนไกลครับ ไอ้พีนี่เอง ขาประจำกะเพราเนื้อร้านสาม ได้มาแล้วต้องมาแยกใบกะเพรากับถั่วฝักยาวออกอีกที พอบอกทำไมไม่สั่งไม่ใส่ไปเลย มันบอกมันจะไม่ได้ฟีล อืม... ก็แล้วแต่เลยเพื่อน       

“ทำไมหน้ามึงชื่นมื่นจังวะเติ้ล”

“เห้ย ใช่หรอวะ! หน้ากูดูหล่อเหมือนโบก – อมเลยป่ะ”

“ไอ้อมๆอะไรนี่ยังไม่จบอีกหรอวะ” ฟังแล้วรู้สึกระคายหูพิกล   

“ราหูอมรึเปล่ามึงอ่ะอู้ เข้าไม่ถึงหลักคนหล่อก็งี้ ช่วงนี้ชีวิตกูดีและกำลังไปได้สวยกับแนนโว้ย” ไม่พูดเปล่า มียืดอกแสดงความหล่อด้วย อยากจะยื่นกระจกให้รัวๆ

“แนนไหนอีกวะ”

“แนนศึกษา”

“เขาชื่อศึกษาเลยหรอวะ แมนจัง” ไอ้ปันขมวดคิ้วถาม

“เขาชื่อแนนเรียนคณะศึกษาโว้ย!” 

“ไอ้เติ้ลไหนมึงบอกมึงจริงจังกับขนุนสังคม”

“กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ แต่ไอ้สัดอย่างกูคืนคำได้ กูปล่อยขนุนไปกับชายที่เขารักแล้วหล่ะ ฮึกๆ ให้เธอได้กับเขาและจงโชคดี อย่ามีอะไรให้เสียใจ ส่วนตัวฉันจะลืมว่าเคยร้องไห้ ลืมว่าเคยต้องเป็นใคร ที่เธอผีอำ”

“เธอไม่เอา!!”

ไอ่สัด!
เล่นซะเพลงเศร้าเป็นรายการเดอะช็อคแทนเลยนะมึง!!

“เห้ยมึง สามนาฬิกาสวยเหี้ยๆ!!” ผียังอำมึงไม่ทันถึงสามนาทีเลยนะไอ้เติ้ล แป๊ปเดียวก็หน้าหม้อขึ้นมาอีกแล้ว ผมเงยหน้ามองตามทิศมันก็พบกับผู้หญิงที่สวยจริงๆครับ สวยแบบคนเหลียวทั้งโรงอาหาร ใบหน้าไม่ได้แต่งด้วยเครื่องสำอางแต่ก็ยังสวยเด่นออกมา


...พี่โบว์


เจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีแบบบอกไม่ถูก ดูจากกระโปรงพลีทสีกรมท่าปิดยาวถึงเข่าที่พี่เขาใส่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เครื่องแบบของที่นี่แล้วแน่นอน 

“พี่โบว์ดาววิศวะคนเก่านี่หว่า มาทำอะไรวะ” ผมหันไปมองไอ้พีทันที

“มึงรู้จักหรอวะพี”

“อือ เมทภาคเครื่องกูเคยเปิดรูปให้ดู พี่เขาเรียนเคยเครื่องกลนี่”

“สวยจริงว่ะ โอ๊ยยยย แม่ของลูกกกกก”

“วันนี้เครื่องกลชนแก้วไงมึง สงสัยมาเลี้ยงสายแน่เลย” ไอ้พียักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจอะไร แต่ผมกลับปล่อยช้อนลงกับจานข้าว ในใจบีบจนปวดหนึบไปหมด

สวยจริงๆด้วย ในรูปว่าสวยแล้วแท้ๆเจอตัวจริงสวยกว่าสิบเท่า สวยมากในแบบที่ผมไม่กล้าใฝ่ฝันจะจีบด้วยซ้ำ ขนาดไร้เครื่องสำอางค์แถมแต่งตัวถูกระเบียบเป๊ะๆไม่ได้ใส่ทรงเอแบบที่พวกเพื่อนผมนิยมใส่โชว์เรียวขากันก็ยังน่ามองได้ขนาดนี้

ไม่แปลกใจเลยทำไมพี่โยกับพี่หมอถึงตกหลุมรักได้...

“อู้เป็นไรวะ เงียบเชียว”

“เปล่า...”

“มึงทำหน้าเหมือนตูดอูฐเลย ขี้ไม่ออกหรอวะ”

ตูดอูฐมันเป็นแบบไหนวะ
ใช่แบบที่อยากจะร้องไห้แบบนี้รึเปล่า...


อึดอัดน่าจะเป็นความรู้สึกเดียวในตอนนี้
ผมขึ้นห้องมานั่งเงียบๆได้ซักพักใหญ่แล้ว ในมือที่ถือกล่องสีดำไว้ชื้นเหงื่อไปหมด ในใจก็อึดอัด อึดอัดจนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆแต่ก็ทำได้แค่จุกอยู่ที่คอ นึกเกลียดสมองที่จินตนาการไปเรื่อย อยากจะห้ามตัวเองไม่ให้คิดแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้จริงๆ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจจะทำต่อไปนี้จะถูกไหม แต่มันน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับตอนนี้

แอ๊ด..

“อ้าวอู้ คิดว่าจะไปปั่นจักรยานกับเพื่อนซะอีก” พี่หมอกลับมาแล้ว เสื้อนิสิตหลุดลุ่ยไปหมดสภาพเหมือนปกติเหมือนทุกครั้งที่กลับห้อง ผมรู้อยู่แล้วแหล่ะว่าพี่หมอต้องกลับห้องมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อไปหลังมอ ผมกัดปากเล็กน้อยแล้วเดินไปหาพี่หมอที่กำลังถอดรองเท้าอยู่

...เอาเถอะ มันดีที่สุดแล้วแหล่ะ     

“พี่หมอ”

“หืม”

ผมยื่นกล่องแบล็กบอกซ์ออกไปสุดแขน พี่หมอมองพิจารณาก่อนจะตาโตขึ้น

“เห้ย! แบล็กบอกซ์!! มึงไป... อู้ เป็นอะไร” ดีใจน้อยกว่าที่คิดแฮะ ผมไม่เห็นหรอกว่าพี่หมอทำหน้าแบบไหนอยู่ เพราะตอนนี้เหมือนจะเห็นได้แต่ปลายเท้าตัวเองซึ่งตอนนี้มีปลายเท้าพี่หมอเพิ่มมาในระยะสายตาแล้ว


แย่จัง..


อยากร้องไห้เป็นบ้าเลย


“ผม...”

“เงยหน้าอู้”

“ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”   

“อู้ เงยหน้า” ผมปัดมือพี่หมอที่ยื่นมาออกเต็มแรง กล่องในมือเลยกระเด็นไปประแทกตู้เสื้อผ้าแตกจนรูปกระจายออกมาหมด แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ

“ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว!!!”

“คุยดีๆอู้ คุยกับกูดีๆ” พี่หมอคว้าแขนผมไว้ ไม่ได้อยากจะร้องไห้แท้ๆแต่สุดท้ายแค่โดนมือที่คุ้นเคยจับกับเสียงทุ้มๆที่ชอบดุดังอยู่ข้างหู น้ำตาก็เหมือนจะทนไม่ไหวอีกต่อไป

“ผมไม่อยากอยู่แล้ว ไหนพี่บอกว่าถ้าผมบอกว่าถ้าผมไม่โอเคพี่จะปล่อยผมไปไง เราจะเป็นพี่น้องร่วมคณะกันเหมือนเดิม พี่พูดเอง!! ไม่ต้องมายุ่งกับผมแล้ว ผมไม่อยากอยู่ที่นี่!!” ผมตะคอกพร้อมกับสะบัดมือพี่หมอออก แต่พี่หมอก็คว้ากลับไปจับอีกครั้งอยู่ดี 

“ไม่ปล่อย!! กูไม่ปล่อยเข้าใจมั้ย!!”

“ก็กูไม่อยากอยู่แล้วไงวะ!!!”

“อย่าขึ้นกูกับกูนะอู้” พี่หมอกระชากแขนผม นัยน์ตาดุนั้นจ้องมาที่ผมอย่างไม่วางตาแต่ผมก็มองพี่หมอกลับได้ไม่ชัดเพราะน้ำตานั้นเอ่อคลอจนเบลอไปหมด

“ฮึก ผมไม่อยากอยู่แล้ว ผมอึดอัด! ผมอึดอัดเข้าใจไหม!”

“อึดอัดอะไร มึงอึดอัดอะไร” เสียงทุ้มถามนิ่งยิ่งทำให้ผมร้องไห้หนักกว่าเดิม

“ผมอึดอัดกับทุกอย่างที่มันเป็นอยู่ ผมไม่ชอบตัวเองแบบนี้เลย พี่ทำให้ผมกังวลทุกอย่าง ผมกังวลทั้งสายตารอบข้างที่มองมา กังวลว่าอนาคตมันจะเป็นยังไง กังวลว่าจะโดนมองไม่ดี กังวลไปหมดเลยฮึก กังวลว่าวันนี้พี่ชอบผมพี่ทำดีกับผมวันต่อมาพี่จะไปทำกับคนอื่นไหม กังวลว่าพี่จะรู้สึกกับคนอื่นไหม กังวลว่า..”

“แค่มึงยอมรับว่าชอบกูมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นนะอู้” พี่หมอถอนหายใจแล้วกระชากผมเข้าไปหาตัว มือใหญ่ตรึงไหล่ผมไว้แน่น ใบหน้าพร้อมกับจ้องตาผม แววตอของพี่หมอจริงจังและดุดันจนผมหยุดขัดขืนแล้วทำได้แต่สะอื้นจนตัวโยน

“ฮึก ผมไม่-“

“โอเค เรื่องภายนอกมันอาจจะยาก ใช่ กูยอมรับ กูก็กลัวอู้ กูกังวลเหมือนมึงทุกอย่างนั่นแหล่ะ กลัวอนาคต กลัวสายตา กูเป็นผู้ชายเหมือนมึง กูรู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่แต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ มึงไปเกิดเป็นผู้หญิงไม่ได้กูก็เป็นผู้หญิงให้ไม่ได้ มันไม่ใช่ว่ากูเดินหน้าจีบมึงแล้วกูไม่คิดถึงเรื่องนี้อู้ มึงจะเจอปัญหาแล้วหนีปัญหาแบบนี้ไม่ได้ การที่มึงไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วไปอยู่ที่อื่นมันไม่ได้แก้ปัญหาอะไรให้มึงเลย” พี่หมอค่อยๆพูดทีละคำพร้อมกับมองตาผมไปด้วยในทุกคำพูด

“ฮึก”

 “แต่อีกเรื่องหนึ่ง กูไม่รู้ว่ามึงจะกังวลทำไมวะ กูชัดเจนทุกอย่างแล้วอู้ กูชอบมึง กูจะไปรู้สึกอะไรกับใคร กูชอบมึงจะตายห่าอยู่แล้วมีแต่มึงเนี่ยยัดเยียดให้กูชอบคนอื่นนักหนาแล้วก็มาคิดมากเอาเอง”

“ใครจะไปรู้วะ พี่ชอบเขามากขนาดนั้น พี่กินเหล้าตอนอกหักจากพี่โบว์เลยป่ะวะ”

“ปกติไม่อกหักกูก็แดกป่ะวะเหล้าหน่ะ”

“มันไม่เหมือนกัน!!”

“ห่าเอ๊ย ใครไปเล่าอะไรให้มึงฟังวะ เออ กูเคยชอบเขา ชอบชิบหาย สวยสัดๆ นิสัยก็ดี  แต่มันก็จบไปแล้วอู้ มันจบไปแล้ว ตอนนี้กูก็มีแต่มึงป่ะวะ ถ้ากูชอบเขามากๆกูซิ่วตามไปจีบต่อตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วถูกไหม” พี่หมอกระชากผมเข้าไปกอด ด้วยระยะส่วนสูงผมเลยอมเข้ากับอกแน่นๆของพี่มันไปเต็มๆ สัมผัสเบาๆบนหัวทำให้รู้ว่าพี่มันวางคางไว้อย่างที่ชอบทำประจำ

“ปล่อยผม!”

“ปล่อยเหี้ยอะไรหล่ะ กูไม่ปล่อย เห้อ ฟังนะลูกหมา กูชอบมึงอู้  การที่กูตัดสินใจจะบอกรักผู้ชายซักคน กูคิดมาหนักมากแล้ว กูคิดว่าถ้าผู้ชายคนหนึ่งมันจะทำให้กูตกหลุมรักได้แสดงว่ากูคงจะต้องหลงแม่งมากจริงๆ ซึ่งก็จริง ทุกวันนี้กูทำห่าอะไรนอกจากแทะเล็มมึงไปวันๆห๊ะ แล้วตอนแรกที่กูบอกว่าถ้ามึงไม่โอเคกูจะกลับไปเป็นพี่น้องร่วมคณะกับมึง กูทำได้จริงๆอู้ กูทำได้ ถ้ามึงไม่โอเคจริงๆไม่ใช่เพราะมึงสับสนแบบนี้”

“ฮึก”

“เพราะถ้ามึงสับสนแสดงว่าครึ่งหนึ่งของความคิดมึงเลือกกูแล้ว”


“ไม่จริง!”

“ปากแข็งชิบหาย กูจับนวดซักรอบดีไหม” เห้ยๆ ไอ้ห่าพี่หมอ ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากทันที     

“อย่านะ!”

“แม่ง ปวดหัวเลยกู ใจเย็นลงได้รึยัง จะฟังอะไรได้บ้างรึยังหืม?” พี่หมอถูคางกับหัวผม ตอนนี้น้ำตาแห้งไปหมดแล้ว ความรู้สึกที่อึดอัดจุกอกก็เหมือนหายไปหมดแล้วเหมือนกัน เหลือทิ้งไว้แต่เพียงความรู้สึกอะไรซักอย่างที่บอกไม่ถูกแต่รู้สึกดีจนแอบยกมือกอดตอบพี่หมอเล็กน้อย

“อืม ใจเย็นแล้ว”

“หัดปากตรงกับใจบ้างก็ได้ กูยอมมึงทุกทางแล้วมึงก็รู้ วันนี้ถ้ามึงไม่อยากให้กูไปแค่มึงบอกว่าไม่อยากให้ไปกูก็ไม่ไปแล้วอู้”

“...”

“อะไรนะ”

“มะ...”

“ห๊ะ”

“ไม่ให้ไป...”

“...”

“ไม่ให้ไป ไม่ไปได้ไหม” กลั้นใจพูดแบบรู้เลยว่าแก้มต้องแดงมากแน่ๆ แต่ดีนะที่ซุกอยู่กับอกพี่หมอมัน พี่หมอไม่ได้ตอบอะไรแต่กอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า อึดอัดจนต้องทุบอกพี่มันไปหลายที 

“ต่อให้มึงให้ไปตอนนี้กูก็ไม่ไปแล้ว ใจอ่อนให้ได้รึยังหืม? ไม่ได้เหนื่อยนะอย่าเข้าใจผิด จีบต่อได้อีก ไม่ติดไม่ถอย เท่ากับว่าคำตอบมีอย่างเดียวคือรีบๆใจอ่อน ไม่งั้นกูก็จะสิงมึงอยู่แบบนี้แหล่ะ กูหน้าด้าน” เกลียดปากพี่มันจริงๆว่ะ ผมครางอู้อี้แล้วดึงหน้าออกจากอกพี่มันเพราะหายใจไม่ออก พอเอาหน้าออกมาก็รู้เลยว่าน่าจะซุกไปเหมือนเดิม เพราะเงยหน้าไปก็เจอพี่หมอที่จ้องด้วยสายตาที่เล่นเอาทำหน้าไม่ถูกอยู่จากด้านบน

“ผมหายใจไม่ออก!”

“ดี ตายคาอกกูไปเลย”

“พี่แม่ง!!”

“ไม่ได้รีบเอาคำตอบนะ แต่ถ้าไม่ตอบกูก็จะกอดไปแบบนี้แหล่ะ กูได้กำไร กูชอบ” ผมกรอกตากับความพี่หมอ พี่หมอนี่มันโคตรพี่หมอเลยให้ตาย พี่หมอมันยังคงจ้องลงมามองหน้าผมพร้อมกับยิ้มจนเมื่อยแก้มแทน ยิ้มอะไรนักหนาวะ   

ผมมองหน้าพี่หมออย่างใช้ความคิด อยากจะยกเรื่องที่กังวลมาพูดต่อแต่สุดท้ายก็ช่างมันเถอะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเจอสิ่งที่กังวลคนเดียว ยังมีพี่มันมาเจอเป็นเพื่อน


...ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรก็ช่างแม่งแล้ว


“ผมไม่อยากเป็นแฟน”

“แล้วจะเป็นอะไร ยายกูหรอ”

“พี่มึง!”

“เอ้า ก็มึงอยากเป็นอะไรหล่ะ” พี่หมอยังคงจ้องมาที่ผมและไม่คลายอ้อมกอดออกซักมิลเดียว จะว่าอึดอัดก็อึดอัดแต่ถามว่าอยากดิ้นออกไหมก็ไม่อยาก

“อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่แฟนอ่ะ ผมขนลุก!!”

“เมีย!!”

“ไม่เอา!!”

“ถ้ามึงคิดจะรับบทผัวกูก็จะบอกให้ล้มเลิกไปเถอะ อย่าให้ต้องใช้กำลังเลย” เออ กูล้มเลิกไปซักพักแล้วแหล่ะ ดูจากขนาดตัวมันก็คงเป็นแบบนั้น

“ช่างมัน ปล่อยผม!”

“ไม่ปล่อย หึ.. งั้นเอางี้ เป็นของกูละกัน มึงเป็นของกูแล้วกูก็เป็นของมึง แบบนี้ดีไหม?” พี่หมอเลื่อนมือลงแถวสะโพกผม กำลังจะอ้าปากด่าก็กลายเป็นต้องโวยวายแล้วรีบตวัดขารัดเอวกับเอาแขนกอดคอพี่มันไว้เพราะอยู่ๆก็โดนอุ้มขึ้นแบบไม่ได้ตั้งตัว ตอนนี้เลยกลายเป็นผมแทนที่จ้องพี่มันลงมาจากทางด้านบน

“ทะ ทำอะไรวะ ปล่อยผมลง”

“ขอดูหน้าคนของกูชัดๆหน่อย” พี่หมอฉีกยิ้มกว้างแบบที่น่าจะกว้างที่สุดเท่าที่จะยิ้มได้แล้ว

“ไม่เอา!”

“ตัวเล็กๆนี่มันอุ้มง่ายจังวะ หึ” พี่หมอเขย่าผมเหมือนเด็กแล้วก็ไปวางผมไว้บนเตียงก่อนจะย่อตัวลงนั่งให้ระยะเท่าๆกันกับผม บอกตรงๆนะครับ ตอนนี้รู้สึกเหมือนไม่ค่อยมีสติเลย ไม่อยากจะยอมรับ แต่รู้สึกดีมากจริงๆ รู้สึกดีจนรู้สึกไอ้เรื่องที่กังวลทั้งหมดที่คิดไม่ตกมานานอันตรธานหายไปเหลือไว้แต่เพียงคำเดิมนี่ควรจะเป็นคติประจำวันของผมได้แล้ว คำว่า


ช่างมันเถอะ...



มันอาจจะผิดหรือมันอาจจะถูก ไม่มีใครรู้ แต่แค่ตอนนี้เรามีความสุขดีก็พอแล้วแหล่ะ

 
[มีต่อ]

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2


“จูบได้ไหม”

“ไม่ได้”

“เรื่องของมึง” 

แล้วถามทำห่าอะไรวะ ไม่ทันตั้งตัวระยะห่างเพียงลมหายใจของเราก็สั้นขึ้นจนต้องกลั้นหายใจแทน พี่หมอยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนต้องหลับตาลงเพียงเสี้ยววิริมฝีปากพี่หมอก็แนบลงมาแผ่วเบา ไม่ได้จาบจ้วงเหมือนในหนังที่งับเป็นเอาเป็นตายอย่างที่เคยดู แต่มันแค่ประทับไว้เฉยๆแล้วกดย้ำเบาๆลงมาหลายรอบ

ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจแต่กลับกลายเป็นเขินมากจนอยากจะระเบิดตัวเองตาย เขินจนต้องหลับตาปี๋ ผมไม่เคยจูบกับใครแล้วก็ไม่เคยอยากจะลองศึกษาด้วย ถึงจะมีผ่านตาบ้างแต่ก็ผิดคาดกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ไม่เห็นต้องอ้าปากเลยหรอ ต้องอ้ารึเปล่า ไม่ใช่ว่าต้องเอาลิ้นออกมาด้วยหรอ ขมวดคิ้วคิดไม่นานพี่หมอก็ผละออกไปพร้อมกับทรุดหน้าลงกับเข่าผม

“แม่งเอ๊ย เหมือนลวนลามเด็กชิบหาย” เพิ่งสังเกตว่าพี่หมอหน้าแดงไปยันหูเลยแฮะ ผมขมวดคิ้วมองพี่มันอย่างงงๆ

“อะไรของพี่วะ”

“จูบแรกใช่ไหมมึงหน่ะ” เห้ย รู้ได้ไงวะ

“ถะ ถามทำไม”

“อู้กู.. กูจะตายจริงๆแล้วเนี่ย” พี่หมอโถมตัวมากอดผมจนต้องเอนหลังลงไปกองกันอยู่บนเตียง เห้ยๆ โพสิชั่นเริ่มไม่ค่อยดีแล้วว่ะ ผมเอามือทุบหลังพี่มันปั้กๆ นอกจากตัวเท่าควายหนักจะตายยังจะเสี่ยงต่อการเสียตัวอีกต่างหาก อยากตายไปตายที่อื่นโว้ย!! 

“หนักหน่ะพี่หมอ!! จะล้อผมรึไง หะ ให้เวลาผมไปฝึกก่อนสิวะ!!” เสียหน้าอยู่เหมือนกันครับ โถ่โว้ย ทำไมกูต้องมาเถียงเรื่องจูบกับผู้ชายด้วยวะเนี่ย พอผมพูดจบไอ้พี่หมอก็เด้งหัวขึ้นมาทันที

“ฝึกอะไร”

“ฝึกจูบ”

“กับใคร”

คะ..ใครดีวะ

“พี่-“

“ลองพ่นชื่อพี่เทคมึงมา กูจะลงไปเอาเลือดมันมาล้างตีนตอนนี้เลย” ไม่พูดเปล่า พี่หมอขมวดคิ้วจริงจังแถมกำหมัดแน่นจนจากที่ทุบหลังพี่มันก็รั้งหลังมันไว้แทนกลัวมันพุ่งออกไปจริง แล้วรู้ได้ไงวะว่าจะตอบชื่อพี่โย

“พี่แป๊ะ...”

“มึงอยากเห็นสงครามไทยจีนรึไง”

“พะ พี่ภูมิไง!!”

“กูตัดเพื่อนได้นะอู้”

“ไปฝึกกับเพื่อนผมก็ได้วะ!!”   

“ใคร ไอ้ปันรึไง”

“เออ ทั้งหมดอ่ะ”

“ฝันไปเถอะ มึงจำไว้นะ ปากนี้ห้ามเอาไปแนบกับปากใครอีกนอกจากกู หมาก็ห้าม แมวก็ห้าม กำแพงก็ห้าม ห้ามทั้งหมด อย่าให้กูรู้ว่ามันไปแนบกับใครกูไม่เอามึงตายหรอกทำไม่ลง แต่มันหน่ะตายแน่นอน เข้าใจไหม”

เชี่ย นี่กูกำลังคุยกับมาเฟียเถื่อนป่ะวะ แล้วคนเหี้ยอะไรจะเอาปากไปแนบกำแพง กูคนนะไม่ใช่จิ้งจก ยังไม่ทันได้ตอบอะไรไปพี่หมอก็ชันตัวขึ้นก่อนจะกดปากลงมาอีกครั้ง ตกใจจนเกือบหลับตาไม่ทันต้องเอามือคว้าปกเสื้อนิสิตพี่มันไว้แน่น คราวนี่มันแปลกไปเพราะริมฝีปากนั้นจาบจ้วงและกดหนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม สัมผัสได้ถึงปลายลิ้นพี่หมอที่พยายามจะรุกร้ำเข้ามาเลยต้องเม้มปากแน่นขึ้นไปอีก มันจะเหมือนฉากในหนังอย่างว่าไปแล้ว!!

“อ้าปาก”

ไม่!!

ผมส่ายหัวรัว เขินจนน้ำตาคลอไปหมดแล้ว ผมไม่กล้าลืมตาด้วยซ้ำเพราะลมหายใจพี่หมอนั้นกระทบแก้มใกล้มากจนเหมือนว่าห่างกันแค่เพียงระยะขนตา แล้วจู่ๆพี่หมอก็เลื่อนมือลงไปบีบก้นผมเต็มแรงจนผมลืมตาโพร่งพร้อมด่าเต็มที่ แต่ไม่ทันได้ด่า พี่หมอก็กดริมฝีปากลงอีกครั้ง ตอนนั้นแหล่ะที่ผมรู้ว่าหลงกลพี่มันเข้าแล้ว

สัมผัสชื้นที่สอดแทรกเข้ามานั้นซุกซนตวัดเล่นไล่ต้อนจนหมดทางสู้ ทำได้เพียงแต่หลับตาส่งเสียงต่อต้านเบาๆหวังว่าพี่มันจะเห็นใจ แต่ไม่เลย ริมฝีปากหนาถอนออกให้หายใจเพียงเสี้ยววิก่อนจะกดทับลงมาครั้งและครั้งเล่าจนนับไม่ถ้วน ได้ยินเพียงเสียงแฉะลามกที่ดังอยู่ข้างหูแต่ก็ไม่อาจหลบหนีสัมผัสได้ซ่ำยังเหมือนจะเล่นตอบกลับไปอีกต่างหาก อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทำให้น้ำตาเอ่อคลอจนบางส่วนไหลทิ้งตัวลงข้างแก้ม ยาวนานเท่าไหร่ไม่รู้กว่าที่พี่หมอจะยอมผละออก

“อื้อ” ผมไม่ทันได้สังเกตอะไรเท่าไหร่เพราะตอนนี้นึกอะไรไม่ออกทั้งนั้น รู้เพียงแต่ว่าต้องรีบโกยลมหายใจเข้าออกให้ทันหลังจากถูกขโมยไปหลายนาที ไรผมที่จั๊กจี้อยู่ตรงคอทำให้รู้ว่าพี่มันเอาหน้ามาซุกอยู่ก่อนจะมีแรงกัดจี๊ดจนต้องยกมือดึงหัวพี่มันไว้ กัดกันหรอวะ!! เป็นหมาบ้ารึไง!!

“แย่แล้วอู้”

“หือ” ผมมองพี่หมอแบบไม่เข้าใจพร้อมกับยกมือมาปาดคราบน้ำลายที่เหนอะอยู่ข้างแก้มตัวเองออก สภาพพี่หมอตอนนี้หมดคราบเดือนไปหมดแล้ว ทั้งหัวยุ่งหน้าแดง แถมสายตายังดูหื่นกามอีกต่างหาก มันน่าเอาตีนยันจริงๆ

“กูจะตายแล้ว กูจะตายจริงๆ” อะไรวะ เป็นอะไรไปอีกหล่ะ พี่หมอยกมือขยี้หัวตัวเองอย่างเซ็งๆแล้วก้มลงมาซุกหน้าอยู่กับคอผมต่อ คราวนี้รับมือทัน เลยเอามือจิกหัวพี่มันไว้ก่อน

“อึก...” ผมไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะเขินจนไม่อยากพูด

อ่า...จูบเป็นแบบนี้สินะ นี่คือจูบใช่ไหม รู้สึกดีชะมัด ถึงว่าทำไมคนถึงชอบจูบกันนักหนา ได้แต่คิดเฉยๆไม่ได้ขยับตัวหรือพูดอะไร กะรอให้พี่มันหายบ้าแล้วรีบๆลุกไปซะที

“กูจะอยู่ยังไงโดยไม่ปล้ำมึงวะแบบนี้ แม่งเอ๊ย ยากกว่าเรียนให้จบสี่ปีอีก ไอ้เหี้ย”

ไอ้พี่หมอ!!


ไปตายไป!!!


“พี่แม่ง!! ลุกไปเลยนะ!!” ไอ้พี่หมอตีหน้าซื่อทำเป็นไม่เข้าใจแล้วทิ้งตัวลงทับผมต่อ ทำเหมือนตัวพี่มึงหนักแค่สามกรัมอ่ะ ตับจะแยกแล้วโว้ย

“มึงไปรู้เรื่องโบว์มาจากไหน หืม”

“จากกล่องดำของพี่ไง ที่หานักหาหนาไม่ใช่เพราะอยากได้รูปคู่หรอ” คิดแล้วหมั่นไส้

“เพ้อเจ้อไอ้สัด กูอยากได้รูปที่ควรเผาทิ้งต่างหาก” พี่หมอยอมลุกออกจากร่างผม เดินไปเอาเท้าเขี่ยๆกองรูปก่อนจะหยิบเอารูปหนึ่งขึ้นมา รูปอะไรวะ หรือรูปพี่แป๊ะ? อันนั้นไม่ควรเผาแต่รูปป่ะวะ ควรเผาพี่มันไปด้วยเลย

“รูปอะไรอ่ะ” พี่หมอเดินมานั่งข้างๆผมแล้วโชว์รูปให้ดู มันคือรูปที่พี่หมอจับมืออยู่กับพี่โบว์ อะไรวะ กวนตีนหรอ ผมรีบเงยหน้ามองค้อนพี่มันไปทันที

“รูปมันติดกัน โพราลอยด์ก็แบบนี้” พี่หมอส่ายหัวแล้วดึงรูปที่ติดกันออกมา ผมเพิ่งสังเกตว่าจริงด้วย มันเป็นรูปที่ซ้อนกันอยู่ ถ้าไม่มองดีๆก็คงดูไม่ออก แต่พี่หมอเอาตีนเขี่ยก็รู้ โคตรยอดคน พอดึงออกมาพี่หมอก็ปารูปที่ถ่ายคู่กับพี่โบว์ลงพื้นแล้วยื่นรูปมาให้ดู

ปรากฏเป็นภาพพี่หมอกำลังหอมแก้มพี่โยอยู่แถมหน้าตายังยิ้มแย้มแจ่มใสกันทั้งคู่อีกต่างหาก!!!

“เห้ย!!”

“กูเมา มันก็เมา รุ่นพี่ก็เอาเลย” ไม่แปลกใจครับ รุ่นพี่ที่คณะแต่ละคนใช่ย่อยที่ไหน ลูกครึ่งนรกกันทั้งนั้น

“หน้าพี่ดูแฮปปี้มากเลยนะ คงไม่ใช่ว่าแกล้งเกลียดกันจริงๆแอบรักกันใช่ไหม”

“อย่าอู้ กูจะอ้วก” พี่หมอทำหน้าแพ้ท้องจะหยิบรูปคืนแต่ผมก็ยึดไว้ก่อน

“ไม่เอา ผมอยากเก็บไว้”

“เอาคืนมา กูจะเอาไปเผาทิ้ง”

“ผมจะเก็บไว้ไง”

“มึงจะเก็บไว้ทำไมวะ หรือทำไม มึงอยากหอมแก้มพี่มึงหรือไง” โห โคตรขี้มโนแล้วมาทำเป็นว่าคนอื่นเพ้อเจ้อ มึงก็ใช่ย่อยเถอะโว้ยไอ้พี่หมอ

“เก็บไว้เป็นตัวประกัน เผื่อพี่ทำอะไรให้ผมไม่พอใจ ผมจะเอารูปนี้ไปแปะรอบมอ”

“นี่มึงขู่กูหรอ”

“ช่ายยยยยย” โว้ยยยย นายอู้ฟื้นคืนชีพ ผมมองไอ้พี่หมออย่างผู้ชนะ แต่ไหงพี่มันยิ้มวะ นี่รู้ไหมเนี่ยว่ากูขู่มึงอยู่ ทำจริงนะโว้ย! ยังอีก!! ยังไม่หยุดยิ้มอีก!!

“มึงนี่แม่งน่ารักจังวะ” เอ้า ไม่พูดเปล่า พี่หมอก้มลงไปจับข้อเท้าผมแล้วยกขึ้นจนผมหงายลงไปกับเตียง พี่มันก็ซ้อนทับลงมาทั้งๆที่มือยังจับข้อเท้าผมกางอยู่แบบนั้น เข้าสู่ท่าอันตรายอีกแล้ว แหกเป็นตัววีเชื้อเชิญสุดๆ ไอ้ห่าพี่หมอมึงนี่ ได้ทีจัดท่าเรทตลอดเลยนะ

“เจ็บนะ!”

“ริจะขู่กูหรอไอ้เตี้ย”

“เตี้ยพ่อพี่อ่ะ!”

“เล่นพ่อกูอีกนะมึง” พี่หมอยิ้มจนเห็นเขี้ยวแล้วก้มมาฟัดแก้มผม ผมก็ปัดหน้าพี่มันออกเพราะหนวดขูดหน้าจะจนเจ็บแก้ม ไอ้พี่หมอก็ไม่ยอมแพ้ยื่นหน้ามาถูต่อ เลยผลักๆถูๆกันอยู่แบบนั้น ใครเปิดเข้ามาตอนนี้ท่าที่กำลังเล่นกันอยู่นี่ดูเรทไม่จืดเลย


วันพรุ่งนี้จะเป็นแบบไหนนะ


วันที่มีคนพิเศษเป็นผู้ชายวันแรกเนี่ย



(แม่งเอ๊ย!)




   
--



ปกติมาสายเกาหลีไม่ได้อยู่สายยุ่น(เคยชอบวงนิวส์แบบระยะสั้นๆเมื่อสมัยประถม)แต่ช่วงนี้ติ่งคันจานิเอโตะอยู่ค่ะ หลงคุณนิชิกิโดมาก มากจนไม่เป็นอันทำอะไร (รวมถึงเขียนนิยายด้วย) 555555
ติดบ่วงผู้ชายร้อยเอ็ดว่าหนักหนามาหลงคุณอาเรียวอีก แถมยังนั่งวนดูไลฟ์พีคาเมะวนจนไม่หลับไม่นอน
เป็น talk ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับนิยายเลยจริงๆ  55555555555555555555

เป็นตอนที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ 555555555
จริงอยากจะทำให้ดราม่าหนักๆไป สุดท้ายก็รู้สึกอยากให้เรื่องนี้ไม่มีดราม่า อาจจะมีอึดอัดกับความคิดย้อนแย้งของน้องอู้ เด็กชายผู้ขี้กังวลไปทุกเรื่อง ฮา ปล่อยให้น้องค่อยๆปรับตัวไปนะคะ คนเราคงมีการรับมือเรื่องราวได้ต่างกัน พี่หมอเป็นพวกชนไม่เลี้ยงไปตายเอาดาบหน้า ส่วนน้องเนี่ยจะคิดแล้วคิดอีก มันก็จะเป็นความรักที่อึนๆงงๆหน่อย



ช่วง

Q&A รอบสอง
(ทำไมคำถามมีแต่ปัน...)

Q: ปันจะคู่กับใคร
Oiimaps : แล้วแต่จะสะดวกเลยค่ะ 5555555555555555555555 เปิดกว้างความเป็นฮาเร็มของปันปัน ชายผู้ถูกรุมล้อม

Q: ทำไมปันถึงเอ๋อ
Oiimaps : เราเอานิสัยปันมาจากเพื่อนเราค่ะ(ที่ชื่อปันเหมือนกัน) ก็เอ๋อจริงๆนะคะ แล้วในชีวิตรั้วมหาลัยก็มีเพื่อนชื่อปันอยู่สี่ห้าคนซึ่งก็ดูเอ๋อทั้งหมดเลยค่ะ มันน่าทำวิจัยจัง 55555555

Q: มีเรื่องพิเศษของปันไหม
Oiimaps : ว่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น #เด็กหอของปัน แทนแล้วค่ะแบบนี้ /พี่หมอกับน้องอู้หลบไปนั่งกินทุเรียนอย่างเซ็งๆ

Q: เมื่อไหร่พี่หมอจะจีบน้องอู้ติด
Oiimaps : ไม่นานนี้ค่ะ ความดีที่ทำมาจะเห็นผลให้ได้เอาคืนน้องบ้างแล้ว

Q: พี่หญิงจะแต่งไหมคะ
Oiimaps : แต่งงานหรือแต่งนิยายนะ 5555555555 แต่งค่ะ แต่งแน่ๆ แต่จะแต่งรอดไหมนี่อีกเรื่อง เนื้อเรื่องจะเป็นย้อนไปมัธยมค่ะ

Q: คิดชื่อผวนของตัวละครได้ยังไง
Oiimaps: มหาลัยของเรา ป้ายชื่อปีหนึ่งบางคณะเป็นแบบนี้จริงๆค่ะ แบบชื่อผวน ห้อยคอเดินกันก็ตลกดีเป็นสีสัน บางทีก็จะจำชื่อเพื่อนแบบผวนๆได้แทนชื่อจริงๆของมันแทน อย่างเรามีเพื่อนชื่อคิว(หวย) เจอในโรงอาหารตะโกนเรียก เห้ย! คิวหวย!! จากตอนแรกมันอายตอนหลังเหมือนเป็นชื่อประจำตัวจนชินไปแล้ว

Q:จะตีพิมพ์นิยายไหม
Oiimaps : ยังไม่ได้คิดไว้เลยค่ะ *ขำแห้ง* อยากแต่งให้จบก่อน คือเป็นนิยายเรื่องแรกที่ไม่ใช่ฟิคชั่นเกาหลี เราเริ่มแต่งเล่นๆขึ้นมาเฉยๆเพราะว่าอยากจะถ่ายทอดความเป็นเด็กหอใน มีคนอ่านก็ดีใจแล้ว จริงๆ เรามีความคิดอยากจะลบนิยายเรื่องนี้หลายรอบมากเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่สุดท้ายแล้วนิยายเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นนิยายเรื่องแรกของเรา คนเราก็ต้องล้มลุกคลุกคลานก่อนซึ่งก็คลุกพอตัว คลุกเบอร์เขาชนไก่ 55555 ยังขอบคุณที่ยังมีคนอ่านและคอมเม้นต์เลยค่ะ ดีใจจนอยากตอบทุกคอมเม้นต์เลย ถึงบางอันจะมาเป็นด่าน้องอู้ก็ตาม 55555555555555555555555 



ขอบคุณทุกคนที่คอมเม้นต์และอ่านนิยายเรื่องนี้จากหัวใจนะคะ
มาลงไว้ก่อนยาวๆ เพราะจะวาร์ปไปญี่ปุ่นสองอาทิตย์ค่ะ 55555555555555555555555555
(สามรีพลายไม่ใช่ว่ายาวนะ แต่เว้นวรรคไม่ดี)

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อูยยยยยย น้ำตาคลอแบบนี้คิดดีไม่ได้เลยอะ
ทั้งสงสารและดีใจกับพี่หมอไปพร้อมๆกันสำหรับการตอดนี้
ชอบเพื่อนเติ้ลอกหักมาก ถ้าจะบันเทิงปานนี้. จิ้กรูปไว้แบล็คเมล์เลยดีแล้วนะอู้
เดินทางปลอดภัยนะคะ.

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
กว่าจะหาเจอ กล่องเจ้าปัญหา  :katai1:
ปันเอ๋อมาก สงสาร จะมีชีวิตในสังคมอันโหดร้ายนี้ได้อย่างไร  :hao5:
อู้ลูกกก อย่าไปยอมอิพี่หมอมันนะ  :serius2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เริ่มมาเหมือนจะมาม่า ต่อมาก็ฮา สิ้นสุดด้วยความหื่น ครบรสมากตอนนี้
ในที่สุดอู้ก็ยอมรับได้สักที ดีใจกะพี่หมอจริงๆ ลุ้นมานาน เสียมุกเสี่ยวๆไปเยอะ ปล้ำได้ก็ปล้ำเถอะ  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ยอมรับความรู้สึกตัวเองแล้วสินะน้องอู้
 :katai2-1:

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบมากกก...ทั้งสนุกทั้งตลกมีหวานด้วย :hao7:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
หึหึเสียจูบไปแล้วครั้งต่อไปเสียอะไรดีน้าน้องอู้ๆๆๆๆๆ 5555

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ใจหายใจคว่ำหมด ดีแล้วปรับความเข้าใจ แถม ขยับเตตัสอี๊กกกช

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 o13 have fun na kaa...will waiting kaa... :ruready

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ตอนนี้มีครบทุกอารมณ์เลย สุดท้ายก็ดีกันเนอะ เขินมาก 5555
อู้เสร็จพี่หมอแน่! 555555 :laugh:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ multiver

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เผลอไปไม่กี่ชั่วโมง(หรอ)มีคนมาคอมเมนท์เพียบเลย แตกต่างจากช่วงแรกของนิยายเรื่องนี้นะ ดีใจด้วยยยย :mc3: :mc2: :mc3: ไอ้เราก็มาเมนท์ไม่ทันเลย แหะๆ ตอนนี้ยาวมากกกก 3 รีพลายแน่ะ ตอนแรกก็ดีใจมากเลยนะมายาวมาก ที่ไหนได้ มาลงเผื่อเพราะจะไปญี่ปุ่นยาว กรรมจ้ะ!!!! แต่ก็นะจะรอตอนต่อไปแน่จ้ะ แต่ตอนเน้~~~ อยากเห็นรูปพี่หมอหอมแก้มเพ่โยยยยยย หน้าฟินด้วยชิมะๆๆ กรี้ดดดดดดดดดดดดดด :m11: :m11:
พอก่อนๆ สติแตกไปไกลละ อาวล่ะคำผิดของตอนนี้ 3 ที่จ้ะ
1.เพราะไอที่ตกที่มือถือมัน -> เพราะไอที่ตกเป็นมือถือมัน , เพราะไอที่ตกคือมือถือมัน ฯลฯ
2.ฟิได้กินสมองไอปันแล้ว
3.ไอ้หมอโรคจิตมีอยู่บนเดียว

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พี่หมอนี่ไม่ได้ชอบธรรมดาแล้ว หลงหน้ามืดตามัว นังอู้มันเล่นของแน่ๆ !!  :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด