ll ..เด็กหอ ღ.. ll ตอนพิเศษสิบปีผ่านไป [17/11/19] p.33 ◄
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ll ..เด็กหอ ღ.. ll ตอนพิเศษสิบปีผ่านไป [17/11/19] p.33 ◄  (อ่าน 474732 ครั้ง)

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
วันควายๆของคุณชายโย(2)



“ผมเกลียดพี่ที่สุด โคตรเกลียดเลย!! ”



อ่า...
เสียงนาฬิกาปลุกวันนี้มันน่ารักแปลกๆแฮะ
ผมสบตากับไอ้หมอที่มองกลับมาแบบตกใจ อาจจะเพราะผมออกมาจากห้องนอนได้จังหวะที่อู้กำลังตะโกนพอดี ผมยกยิ้มเบาๆเป็นเชิงสมน้ำหน้าแต่มันก็ดันหน้ากลับไปเสียก่อนเลยอดเห็น หมอมันไม่ได้พูดอะไรแต่แค่เดินลงบันไดไปเงียบๆ

“ไอ้อู้มึง...”

“กูผิดหรอวะไอ้เติ้ล พี่มันจะแกล้งกูนะเว่ย”

“แต่มึงไม่ควรตะโกนแบบนั้นป่ะวะ พี่หมอมันยังไม่ทันทำอะไรเลย”

“เออไอ้อู้ มึงพูดแรงไปป่ะวะ”

อยากจะเดินไปบอกว่าไม่แรงไปหรอก ทุกวันนี้ยังอยากจะลองถอนขนตาไอ้หมอให้เอาไปทำโอทอปกระเป๋าสานเลย ขนเส้นบางๆที่สามารถแทรกหน้าหนาๆของมันมาได้คงต้องแข็งแกร่งพอประมาณ แต่คิดไปคิดมา ดูจากไอ้อาการหมาหางตกเมื่อครู่ ไอ้หมอคงรู้สึกแย่อยู่เหมือนกัน

มองจากรูปการแล้ว นอกจากไอ้หมอจะเดินหน้าจีบไอ้อู้ของเขาที่ว่าแย่แล้ว ดูท่าทางเพื่อนมันก็ดันส่งเสริมอยู่ทีมนั้นอีกต่างหาก

ถามว่าโกรธไหมหรอ...

ไม่หรอกครับ เรื่องการแข่งขันเพื่อความรักเราไม่สามารถโทษใครได้นอกจากตัวเองอยู่แล้ว เป็นความผิดผมเองที่ผมก้าวช้าไป ผมเห็นน้องมันเป็นผู้ชาย ดูท่าทางจะไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องความรัก ผมเลยไม่กล้ารุกมาก รู้แต่ว่าน้องมันน่ารัก ตกเป็นเป้าให้ทุกคนแกล้งจนอยากจะปกป้องไปหมด ตัวเล็กๆวิ่งไปวิ่งมาอยู่แถวคณะ พอเห็นแล้วมันก็อยากจะจับอุ้มมาดูแล อยากพาไปกินนู่นกินนี่ อยากปกป้องเวลาโดนรุ่นพี่ว้ากแล้วหูลู่หางตก

ถ้าถามว่าผมแพ้ไอ้หมอตรงไหน คงตอบได้ว่า
...เพราะผมลังเล


กลัวจะเสียรุ่นน้อง กลัวเข้าหน้ากันไม่ติดถ้าเกิดเริ่มจีบ ระหว่างที่ผมมัวแต่ลังเล ไอ้หมอก็ดันเข้ามาในจังหวะนั้นแถมเดินหน้าเต็มกำลังแบบที่ผมทำได้แต่ไม่ยอมทำตั้งแต่แรก ผมโกรธในตอนแรกแต่สุดท้ายก็ได้แต่ยอมรับในความพ่ายแพ้ของตัวเอง ผมผิดเอง จะแพ้แล้วพาลคนอื่นไม่ได้

อันที่จริง ผมเคยโกงมันไปด้วยซ้ำรอบหนึ่งเมื่อตอนประกวดดาวเดือนไออีรวมใจ ด้วยการพาอู้ออกไปนอกมหาลัยในตอนที่ผู้ปกครองมารับเด็กมหาลัยอื่นกลับบ้าน ผมรู้อยู่แล้วว่ารถจะต้องติดนรกเพราะก่อนหน้านี้ผมเพิ่งขับออกมาซื้อของให้กองประกวด ซึ่งมันก็ติดตามที่ผมคาดไว้จริงๆ ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้หมอจะร้องเพลงอะไรให้อู้ แต่แค่รู้ว่ามันร้องให้อู้ ผมก็รู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว 

หากย้อนไปวันนั้น ถ้าผมกล้าสารภาพความในใจกับอู้ไปในรถตอนนั้น
คนที่มันกำลังมองตาละห้อยอยู่ตรงหน้าตอนนี้มันอาจจะเป็นผมแทนรึเปล่า...

หลายคนอาจจะมองว่าน่าเสียดาย

แต่ผมกลับมองว่าน่าสมเพช...

ขนาดโกงยังไม่ชนะเลย

“พี่โยกลับมาแล้วหรอ” ไอ้ตัวเล็กเดินมาเขย่าแขนผมไปมา ดูสิครับ มันน่าเอ็นดูน้อยทีไหนไอ้อู้เนี่ย มีหูก็คงพับแล้วพับอีก พอหงอยหน่อยก็มาทำเป็นอ้อน ถามว่าได้ผลไหม ก็ต้องได้สิครับ

“อื้อ กลับมาถึงตั้งแต่เมื่อวาน แต่เล่นนอนเหมือนตายไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอก”

“แล้วอเล็กซ์อ่ะ”

ผมเหลือบตามองไปที่โซฟาชั้นหนึ่งก็ไม่เห็นร่างที่ขดเป็นแมวแบบเมื่อวานซะแล้ว เจ้าตัวยืนยันจะนอนโซฟาผมก็ขี้เกียจเถียง เอาจริงก็เห็นด้วย จะให้น้องมันมานอนร่วมกับชายร่างหมีสี่คนก็ดูจะไม่เข้าท่า

“นั่นสิ...”

“เอ้า กลับมาพร้อมมันจริงป่ะเนี่ย ไม่ใช่พี่เอาไอ้เล็กไปส่งคลินิกแทนมิเซลล่าร่านะ” ไอ้เติ้ลเดินมาคล้องคอไอ้อู้ไว้พร้อมกับเกาหัวแกรกๆ

“มิเซลลาร่าอะไรของมึงเติ้ล”

“เอ้า ชื่อควายไง”

“มันไม่ได้ชื่อมิซูบิชิหรอวะเติ้ล” ไอ้อู้เกาหัวงงหันไปหาไอ้ปันที่เดินหาวออกมากอดคอมันอีกข้าง

“เห้ยไอ้อู้ นั่นมิซูบิชินั่นชื่อร้านอาหารญี่ปุ่นไม่ใช่หรอวะ”

“มึงหมายถึงซูชิป่ะไอ้ปัน”

“เอ้า งง”

อืม... กูก็งงกับพวกมึงเหมือนกัน
เหมือนมึงคุยกันละเรื่องแต่มายืนด้วยกันอ่ะ

“พวกมึงพอเลย ควายชื่อมิคาเอล มิซูบิชิอะไรของพวกมึงวะ” เปลี่ยนควายยุโรปเป็นควายญี่ปุ่นนี่พลิกทวีปเลยนะ ยอมใจไอ้พวกนี้จริงๆ ผมขยี้หัวไอ้อู้ไปหนึ่งทีข้อหาทำตัวหน้าเอ็นดูแต่เสือกไปมีใจให้ศัตรูกูซะงั้น แพ้ตั้งแต่ยังใส่นวมไม่เสร็จ

ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ถึงเวลาทำกิจกรรมสร้างฝาย เหนื่อยอยู่เหมือนกันครับ ไหนจะหินจะปูนไหนจะแดดร้อนๆ มีถุงมือมาให้แต่ก็ใช้ไม่ถนัดเลยต้องใช้มือเปล่าทำ เห็นไอ้อู้มือเล็กๆ หินยังใหญ่กว่าหัวมันก็อดช่วยไม่ได้ ใจช่วยอ่ะกึ่งบริสุทธิ์นะครับแต่พอเห็นหน้าไอ้หมอบูดเป็นกรงอูฐไม่ได้ล้างก็รู้สึกสนุกขึ้นมาเลย ยิ่งทำเนียนไปแตะมือน้องไอ้หมอยิ่งอารมณ์เสีย เห็นกระแทกหินหลายรอบแล้ว เออดีว่ะ

“หนักไหมเรา”

“โคตรรรรรรอ่ะพี่ ไมฝั่งผู้หญิงคณะเราทำกันได้วะ ผมนี่เจ็บมือเลยอ่ะ”

“ไหนเอามือมาดู” ผมคว้ามือเล็กๆของมันมาจับไว้แล้วเหลือบตามองไอ้หมอ ไอ้หมอเอาลิ้นดุนแก้มมองมาที่ผมอย่างเคียดแค้นก่อนจะชูนิ้วกลางขึ้นมา โถไอ้น้องหมอ ทำได้แค่ชูนิ้วกลางหรอวะ ดูนี่กูได้ทั้งมือ

“พี่ไม่เจ็บหรอวะ”

“เจ็บแถวแก้มว่ะ มึงดูให้หน่อย” ผมเอียงแก้มให้อู้ดู ซึ่งไม่ผิดคาดครับ ไอ้อู้ก็เอามือมาจิ้มๆแปะๆแบบงงๆ ก็ควรจะงง แบกหินอยู่กับมือจะมาเจ็บแก้มได้ยังไง แต่มันก็ยังหาแผลให้ ส่วนไอ้นายแพทย์นู่นครับ กระแทกหินแตกไปสามก้อนแล้ว สนุกโคตรๆ

ซักพักก็มีน้องผู้หญิงมาเดินมาคุยอะไรซักอย่างกับไอ้หมอ ไอ้หมาข้างผมก็หงอยเลย ดูออกง่ายไปหมดจะดีใจจะเสียใจจะโมโห ไอ้อู้นั่งจิ้มหินเล่น มองไอ้หมอด้วยสายตาตัดพ้อสุดชีวิตแต่ดันไปไม่ถึงเพราะไอ้หมอเดินตามน้องผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว

เออ ผลัดกันหึงผลัดกันหวง
มันน่าเอาหินปาใส่ทั้งคู่เลยว่ะ รำคาญตาดำ

“จะเอาแต่นั่งจิ้มหินเล่นนี่ไปช่วยไอ้ปันผสมปูนไป”

“พี่โย...”

“อะไร”

“แผลที่มือมันรุนแรงมากแน่เลยว่ะ””

“ทำไมวะ เลือดออกหรอ” ผมก้มลงนั่งเป็นเพื่อนมัน ตูดเลยเปียกไปนิดนึง พอดูมือเล็กๆมันก็ไม่เห็นจะมีเลือดอะไรแค่แดงๆตามปกติ สำออยเรียกคะแนนสงสารรึเปล่าเนี่ย

“เปล่า”

“เจ็บมากเลยหรอ”

“ก็นิดนึง”

“ไปหาหมอไหม เดี๋ยวพาไป” ผมลูบหัวอู้เบาๆ

“เจ็บที่มือ แต่มันก็จี๊ดตรงอกว่ะพี่ เส้นเลือดใหญ่นี่เกี่ยวไหมอ่ะ”

เออ อาการคุ้นๆ ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างเอ็นดู เจอแบบนี้ร้อยทั้งร้อยก็ต้องเอ็นดูมันทั้งนั้นแหล่ะครับ สมองก็ยังมโนไปเส้นเลือดใหญ่ได้ ความคิดเล่นใหญ่นี่ไปได้มาจากไอ้เติ้ลเพื่อนมันแน่ๆ

“ไปถามไอ้หมอดิ” ไอ้อู้ตาโตทันทีที่ผมพูดจบ

“ทำไมต้องไปถามพี่หมอวะพี่โย แม่งนิสัยเสีย” ปากก็มุบมิบด่า ตาก็ส่องไม่หยุด ชะเง้อแล้วชะเง้ออีก

“แม่มันเป็นหมออาจจะรู้ก็ได้ว่ามึงเป็นอะไร”

“แม่พี่มันเป็นไม่ใช่พี่มันเป็นซักหน่อย”

“แต่จริงๆกูมองก็รู้นะว่ามึงเป็นอะไร”

“อะไรอ้ะ”

“เด็กโง่ๆ”

“ไอ้พี่โย หลอกด่านี่หว่า” โดนมันดีดน้ำใส่หน้าไปหนึ่งที มาทำเป็นซ่าไอ้ลูกหมา พอผมดีดน้ำกลับบ้างมาโวยวายลั่นฝาย

“หลอกหน่ะ แต่รู้จริงๆนะ อาการที่มึงเป็นน้องชายกูเป็นบ่อย”

“น้องโยตะอ่ะนะ”

“เออ”

“อาการอะไรวะพี่”

ผมจ้องหน้าบื้อๆของไอ้อู้แล้วจิ้มหัวมันไปหนึ่งที โทษฐานเอ๋อสุดในสาย มันตกใจจนเกือบหงายหลังโวยวายลั่น ผมยืนขึ้นปัดตูดที่เปียกเป็นวงกลมแล้วยื่นมือให้มันจับพร้อมกับบอกอาการที่มันสงสัยนักหนา


“อาการของเด็กรู้สึกผิดไง”


...ไอ้เด็กโง่


ผมคิดว่าแค่เฉลยอาการก็คงเสร็จ เราก็แยกตัวไปเฮิร์ตเงียบๆ ที่ไหนได้ต้องเดินมาให้กำลังใจมันเกือบถึงรถไอ้หมอ ทำหน้าที่อย่างกับพระรองซีรี่ส์ มาส่งนางเอกให้พระเอกง้อถึงที่เลยกู เห้อ ใจบุญขนาดนี้อีกนิดคงได้รับการติดต่อไปเป็นพระได้แล้ว

“ไปเลยไป กูจะไปอาบน้ำ”

“ถ้าพี่หมอมันโกรธมากอ่ะพี่”

“เชื่อกูเถอะอู้ มึงแค่ขอโทษคำเดียว ไอ้หมอก็ยอมแล้ว” หมายถึงยอมทุกอย่างไม่ใช่แค่ยอมยกโทษหรอก เหมือนผีเห็นผีนั่นแหล่ะครับ ดูก็รู้ว่าแพ้ทางไอ้อู้เข้าให้แล้วแถมอาการยังดูหนักกว่าผมอีก

“เชี่ย ทำไงดีอ่ะ ถ้าพี่มันต่อยผมอ่ะ”

“เจอตีนกูนี่มาต่อยน้องกู คิดมากไอ้เตี้ย มันไม่ต่อยมึงหรอกน่า” ไม่รู้ว่าที่กลัวนี่เพราะเจอหมัดไอ้หมอครั้งเดียวตอนเจอกันนั่นแล้วขยาดเลยหรือเปล่า ขนาดผมนี่แลกหมัดกับมันมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยอมรับนะครับว่าหมอมันหมัดหนักจริงๆ เหมือนเอาน้ำหนักของสติปัญญามาลงกับพละกำลังหมดแล้ว

แล้วกูอะไรเนี่ย เหมือนมาส่งลูกหมาดูตัว อิดออดอยู่นั่น ทนความรำคาญไม่ไหวเลยผลักหลังมันไป แล้วเดินแยกออกมาเลยไม่รอให้ไอ้อู้งอแงใส่ต่อ

เห้อ... บทพระรองตามนิยายมันจะเป็นอารมณ์แบบนี้ไหมนะ แบบดูพ่อพระที่ทำเป็นจิตใจดีแล้วมาแอบปวดหนึบๆในใจทีหลังอะไรแบบที่ผมกำลังเป็นอยู่ ได้แต่เดินกลับบ้านพักอย่างเซ็งๆ ถึงจะปวดใจแต่ก็สบายใจขึ้นมาเหมือนกัน

จะเรียกอกหักได้ไหมนะแบบนี้
เพราะนอกจากจะยังไม่ทันได้เริ่มจีบก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกับเขาอีกต่างหาก

กูคูลพอรึยังวะไอ้แป๊ะ... 











งานเลี้ยงฉลองจัดขึ้นในตอนเย็น จะพูดงานเลี้ยงก็ไม่ถูก เหมือนงานไพรเวทฉลองมอบตำแหน่งตลกของไอ้แป๊ะกับไอ้เติ้ลยังดูเข้าท่ามากกว่า ยิงมุกกันจนไม่เปิดจังหวะให้หายใจ ดีที่ผมมีภูมิคุ้มกันพอจากการเป็นเพื่อนไอ้แป๊ะมาสามปีเลยไม่ได้ขำมีเสียงออกมา ผิดจากเล็กที่นั่งต่อจากโต๊ะผมไปสามโต๊ะ ทั้งที่คนแน่นโต๊ะแต่มันกลับไม่คุยกับใครซักคนเดียว นั่งจิ้มนู่นจิ้มนี่กินเงียบๆสลับกับขำมุกไอ้แป๊ะเป็นพักๆ มันขำจนตาหยีก่อนจะหันมาสบตาผมที่มองอยู่ก่อนจะยู่คิ้วแล้วขยับปากว่า

‘มองทำไม’


เอ้า... ไม่มองจะเห็นไหมว่านั่งห่อไหล่ตัวเหลือเท่ามดอยู่แบบนั้น

‘ มองหนูเล็ก ’


ใบหน้ามันบึ้งขึ้นมาทันที เล็กทำท่ากำหมัดแล้วต่อยลมเบาๆพราะมันไม่ชอบให้เรียกหนูเล็ก ผมหัวเราะแล้วขยับปากอีกรอบ

‘ เก็บยอดหญ้าให้มิคาเอลรึยัง ’


เล็กขมวดคิ้วเชิงว่าไม่เข้าใจ ผมเลยกวักมือเรียกมันมา พอมันเดินมาเท่านั้น ไอ้แป๊ะไอ้เติ้ลก็ดันเริ่มเห่าหอนเสียงดังเสียก่อน ผมเลยต้องเปลี่ยนเป็นลากมันออกมาคุยด้านนอกแทน

“พี่พูดว่าอะไรนะเมื่อกี้ เล็บขบหายรึยังหรอ ผมไม่ได้เป็นนะ”

“เพ้อเจ้อ ฉันถามว่าเก็บยอดหญ้าให้มิคาเอลรึยัง” ผมดีดหัวมันดังปั้ก

“เก็บแล้ว! ตั้งเท่านี่แหน่ะ” ทำมือโชว์แถมทำหน้าทำหน้าเหมือนตัวเองเจ๋งมากอีกต่างหาก อายุเท่าไหร่วะเนี่ยถามจริง

“หึ เออ เก่งครับเก่ง”
 
“เพื่อนพี่บทเวทีตลกมากเลยอ่ะ ผมขำจนเกือบสำลัก” เล็กหัวเราะร่าออกมา พอยิ้มแล้วเห็นลักยิ้มบุ๋มบนแก้มขาวๆนั่นแล้วก็อดเอานิ้วไปจิ้มไม่ได้ ซึ่งมันก็สะดุ้งเฮือกยกมือขึ้นมากุมแก้มตัวเองทันที

“ขอจิ้มหน่อยไม่ได้หรือไง”

“บ้าหรอพี่ มาขอจิ้มชาวบ้าน”

“เห้ยๆ พูดให้จบ จิ้มแก้มเว้ย” ผมมองซ้ายมองขวาทันที เดี๋ยวเกิดคุณลุงออกมาได้ยินว่าเขามาแอบลักลอบจิ้มลูกชายบุญธรรมเขาเดี๋ยวอาจจะได้เจอลูกซองก่อนได้กลับมหาลัยก็เป็นได้

“คณะพี่ก็ดีเนอะ มีแต่คนตลกๆ”

“คนตลกหรอ”
ไม่หรอก มันมีเส้นบางๆที่กั้นระหว่างคนตลกกับคนสติไม่ดีนะครับ ซึ่งไอ้แป๊ะเนี่ยจัดอยู่ที่เกินเส้นคนตลกไปแล้ว สอบฟิสิกส์นี่มันนั่งคิดนานจนเหมือนจะนั่งสอบทั้งวัน แต่พอให้คิดชื่อลามกๆผวนๆให้ปีหนึ่งนี่มันเล่นคิดสิบชื่อต่อหนึ่งนาที เหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ

“ดูเป็นเพื่อนกันมากกว่ากว่าคณะผมอีก”

“ทำไมหล่ะ”

“พี่รู้ไหมคำพูดอะไรที่ผมมักจะพูดกับเพื่อน”

ผมรอคำตอบเงียบๆ ประโยคแบบนี้ไม่ใช่ประโยคที่ต้องการคำตอบ แต่ถ้าเป็นพวกไอ้คณะตลกพกพาพวกมันคงยิงมุกกันพ่ามรัวๆแล้ว เล็กก้มหน้าเอาเท้าเขี่ยดินแล้วพูดขึ้นมาเบาๆ

“ขออยู่กลุ่มด้วยได้ไหม”

“...”

“กลุ่มคนครบหรือยัง เราต้องทำคะแนน”

“...เล็ก”

“พูดกับอาจารย์บ่อยๆก็ต้องคำว่า ผมขอทำงานเดี่ยวได้ไหมครับ ฮ่ะๆ”

“อเล็กซ์”

“การมีบทสนทนายาวๆกับใครซักคนมันยากกับผมจริงๆนะพี่ ผมกลัวว่าเขาจะไม่ชอบผม กลัวว่าเขาจะเอาไปนินทา กลัวว่าเขาจะไม่อยากคุยกับเรา มันไม่เหมือนกับเวลาผมอยู่กับมิคาเอล” น้องมันเตะนู่นเตะนี่ไปทั่วแก้เก้อ ในสายตาผมอเล็กซ์ดูเหมือนเด็กทั่วไป ก็พูดเก่ง ยิ้มง่ายปกติ แต่จะสังเกตว่าพอเริ่มคนเยอะเข้ามันจะเริ่มเงียบแล้วหายตัวไปอย่างเงียบๆ เหมือนตอนเช้าที่ตื่นมาก็หายตัวไปแล้ว

สังคมไม่ได้ไม่ต้อนรับมันหรอก เป็นมันเองนั่นแหล่ะที่ไม่ต้อนรับสังคม

“การพูดคุยไม่เห็นจะยากเลย นายก็พูดกับฉันอยู่นี่ไง”

“...”

“คิดมากจังเรา อย่ากลัวอะไรไปก่อนที่มันจะเกิดนักสิ ไม่พูดกับใครแบบนี้ไม่แปลกหรอกที่เขาจะเรียกว่าต้นไม้หน่ะ”

“ผมไม่ได้ไม่พูดซักหน่อย!”

“กับมิคาเอลไม่นับสิ”

“อ่า งั้น....”

“อยากมีเพื่อนก็ต้องเริ่มจากเปิดใจก่อน รู้ไหมเป็นเพื่อนกันเขาต้องเอาใจแลกใจ” เล็กเงยหน้ามองผม ตากลมๆนั่นเอียงไปตามคอเล็กน้อยเหมือนกำลังสงสัยบางอย่าง

“ถ้าเราเป็นเพื่อนกับใครเราจะพูดได้ทุกเรื่องไหมพี่”

“ได้ดิ”


“งั้นตอนนี้ผมเป็นเพื่อนกับพี่แล้วใช่ไหม”


อ่า...เหมือนใจเต้นผิดจังหวะไปแว่บนึงเลย
สงสัยจะคิดไปเอง คงต้องคิดไปเองแหล่ะ ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่หรอกน่า
 

“แสดงว่าผมใจแลกใจกับพี่แล้วใช่ป่ะ”


อา แย่หล่ะ...
โดนด่าใจง่ายนี่เถียงใครเขาไม่ได้เลยนะแบบนี้

“อ่า...เอ่อ”

“ใช่ไหมพี่?”

“อะ เออ ก็ประมาณนั้นแหล่ะมั้ง” ผมได้แต่เกาแก้มเกาคอตบยุงไปเนียนๆ

“อยู่กับพี่แค่วันเดียว ผมรู้สึกสบายใจเหมือนเวลาอยู่กับมิคาเอลเลย” อ่า... แล้วมันควรดีใจดีไหมหล่ะเนี่ย เอาไปเทียบกับควายเนี่ย ถามไปงั้นครับ ไม่อยากจะยอมรับแต่ก็ดันแอบรู้สึกดีใจเล็กๆไปเสียแล้ว

“ก็...จะถือว่าเป็นคำชมนะ”

“พี่หูแดงๆนะ แพ้อะไรที่นี่ป่ะเนี่ย” เล็กเอื้อมมือมาจับหูผม ระยะระหว่างเราสั้นลงแบบกะทันหันทำให้ผมต้องกลั้นหายใจไว้ทันที น้องมันไม่ได้คิดอะไร เพราะตากลมดูเหมือนจะจ้องไปที่หูผมอย่างเดียวต่างจากผมที่ไม่สามารถละสายตาไปจากไอ้ตาโตๆตรงหน้าได้เลย

โดนจู่โจมแบบนี้ เขินกว่าเดิมอีกแฮะ...

“ใกล้... ไปหน่อยมั้ง” ผมยกมือขึ้นจับเอวน้องไว้ หมายถึงจับให้มั่น กลัวมันล้มแล้วอะไรกระแทกกันมันอาจจะดูซี่รี่ส์ไปหน่อย พ่อน้องมาเห็นผมอาจจะโดนลูกปืนได้ จับเพราะกลัวน้องลื่นจริงๆ

จริงๆนะครับ!!!

“ใกล้อะไร”

ตอนแรกจะพูดระยะห่างระหว่างหน้าเราไง
แต่พอได้มาพบตาจังๆเข้าตอนนี้

...อ่า
กูเองเนี่ยแหล่ะที่น่าจะใกล้ตาย 

ครืด ครืด
ก่อนจะได้ตายไปจริงๆ มือถือในกระเป๋ากางเกงผมก็สั่นขึ้นมาขัดซะก่อน ถือว่าช่วยไว้ได้มาก เล็กผละออกไปทันทีขณะเดียวกับที่รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ ไม่ลืมสูดหายใจเขาปรับให้หัวใจเต้นให้ช้าลงหน่อย นี่เล่นเต้นเป็นศิลปินเกาหลีจนขนาดเสียงฮัลโหลที่กรอกไปปลายสายยังสั่นระรัวเลย

[คุณโยชิหรอใช่ไหมคะ โรงพยาบาลสัตว์Sนะคะ]

“ครับ?”

กะจะแค่หายใจให้ช้า กลับกลายเป็นต้องหยุดหายใจแทนซะได้

.
.
.

   
(ต่อด้านล่าง)

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2
   เหมือนย้อนฉากไปเมื่อวาน รถติดเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน จะว่าไปเส้นนี้ก็ไม่เคยไม่ติดอยู่แล้ว นอกจากรถที่ติดหนึบจนตีนไม่ได้แตะคันเร่งแล้วอีกสิ่งที่เหมือนเดิมคือใจผมที่กระวนกระวายไปหมดเหมือนคราวที่แล้ว

เพียงแต่สาเหตุกลับเปลี่ยนไป...

“ไม่ร้องหน่ะ” ปาดตาจนตาแดงไปหมดแล้ว ผมหันไปคว้ามือเล็กๆนั่นไว้ก่อนที่จะขึ้นขยี้ตาตัวเองอีกรอบ เจ้าของมือหันมาสบตาผมก่อนจะเบะปากฮืออีกรอบ

“พี่ ผมจะทำไงดีอ่ะ ในนี้เจ็บไปหมดเลย” มือซ้ายของมันบีบเสื้อตัวเองเป็นรอยยับ

“ใจเย็นๆหน่อย มิยังไม่เป็นอะไรหรอก”

“แต่ แต่หมอบอกว่าอาการแย่ลงนี่พี่ ทำไงดี ผมควรทำไงดี”

“ใจเย็นๆ”

ผมพูดคำนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ไม่ได้บอกน้อง แต่บอกตัวเอง

นี่สินะความรู้สึกของอู้ตอนที่นั่งกระวนกระวายใจอยู่ในรถผมเพราะกลัวจะกลับไปดูไอ้หมอไม่ทัน หนึ่งวินาทีที่มักจะเดินเร็วจนต้องเอ่ยปากด่าตอนนี้กลับเดินช้าจนโมโห เป็นปัญหาที่ได้แต่อารมณ์เสียแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เป็นปกติผมก็คงฟาดแขนลงกับพวงมาลัยระบายความหงุดหงิดแต่เพราะตอนนี้คนที่ควรจะหงุดหงิดที่สุดไม่ใช่ผมแต่เป็นคนที่นั่งร้องไห้สะอื้นจนตัวโยนข้างๆนี่มากกว่าเลยได้แต่เก็บความหงุดหงิดไว้ใจใจ

“ผมหยุดร้องไห้ไม่ได้จริงๆอ่ะพี่ หยุดคิดร้ายไม่ได้เลยอ่ะ ทำไงดีพี่ ผมควรทำไงดี”

“ก็ร้องไปเถอะ”

“ฮึก”

“ร้องจนกว่าจะหยุดร้อง”

“ฮึก พี่” น้ำตาไหลลงเป็นเม็ดต่อหน้าต่อตาผม ทำเอาใจปวดหนึบแทนไปหมด ได้แต่เอื้อมมือไปจับมือเล็กไว้ให้รู้ว่าผมอยู่ตรงนี้ ต่อให้ห้ามก็คงห้ามไม่ได้ ปล่อยให้ร้องจนกว่าจะหยุดไม่ใช่การปลอบที่ดีแต่เป็นทางเดียวที่ผมนึกออกตอนนี้แล้ว

เล็กยังคงร้องไห้มาจนถึงโรงพยาบาลสัตว์ รถไม่ทันจอดสนิทเล็กก็เปิดประตูวิ่งออกไปเลย ทำเอาผมต้องจอดแบบเบี้ยวๆทิ้งไว้ก่อนแล้ววิ่งตามน้องออกมาให้ทัน  ตัวก็เล็กทำไมมันวิ่งไวจังนะ!!

“หมอครับ หมอ หมอ มิ มิเป็น มิ ฮึก”

“ใจเย็นๆนะครับคุณอเล็กซ์”

“เล็ก ใจเย็นๆ” ผมเดินไปถึงไหล่เล็กเข้ามาจับไว้ให้ใจเย็นๆ หมอที่โดนเขย่าจนตัวโยนยังคงยิ้มทักทายผมเป็นเชิงว่าไม่เป็นอะไร

“ฮึก มิ เจ็บไหมครับ มิเจ็บไหม”

“คุณอเล็กซ์ครับ ฟังผมนะครับ”

“ฮึก ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้ได้ไหมครับ ยอมทุกอย่างเลย ให้ทำอะไรก็ได้จริงๆ ผมให้ได้ทุกอย่างเลย ผมมีไร่ด้วยนะครับพ่อให้ผมเป็นของขวัญวันเกิดผมให้ได้หมดเลย ต้องการเงินเท่าไหร่ผมหาให้หมอได้หมดเลย” ผมน้ำตาคลอจนต้องเงยหน้าขึ้นฟ้า มือกระชับไหล่น้องไว้แน่นเพราะกลัวน้องล้มลงไป

“คุณอเล็กซ์ครับ สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่เกิดมาบนโลกรวมถึงคุณอเล็กซ์ มีแค่เกิดแก่เจ็บตายครับ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ตามอายุขัยของมิคาเอล เขาแก่มากแล้วครับ เขาเข้มแข็งที่จะมีชีวิตอยู่กับคุณอเล็กซ์อย่างเต็มที่ที่สัตว์ตัวหนึ่งพอจะทำได้แล้ว”

“ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้”

“ไม่มีใครเลือกได้หรอกครับ ตอนนี้มิคาเอลยังไม่ได้เป็นอะไรไป หมออยากให้รับกลับไปอยู่กับคุณอเล็กซ์ดีกว่า เขาอาจจะอยากอยู่ที่บ้านกับคุณอเล็กซ์มากกว่าที่นี่”

“หมอจะบอกว่า จะให้มิคาเอลแค่นอนรอความตายไปวันๆแบบนี้หรอครับ!!!”

“เปล่าครับ หมอแค่จะบอกว่าให้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกันให้คุ้มค่าจะดีกว่า โลกของคุณอเล็กซ์อาจจะมีใครมากมาย แต่โลกของสัตว์มีแค่เจ้าของเท่านั้นแหล่ะครับ เพราะงั้นหมอว่ามิคาเอลก็คงอยากที่จะอยู่กับคุณอเล็กซ์ในช่วงเวลาแบบนี้มากกว่าที่โรงพยาบาลครับ”

“พี่โย ทำไงดี ผมทำไงดี” เล็กหมุนตัวเข้าหาผม มือเล็กขย้ำเสื้อผมจนยับแน่น กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนขยี้อยู่กับเสื้อผมแน่น 

“งั้น ถ้าผมจะรับกลับ...”

“เป็นพรุ่งนี้แล้วกันครับ เดี๋ยวผมจะทำเรื่องรถให้ ตอนนี้ก็มืดมากแล้ว อย่าเสี่ยงขับรถกลับไปไกลๆเลยครับ” ผมคิดว่าหมอทุกชนิดคงจะด้านชินกับการที่คนไข้เจ็บและเสียชีวิต แต่ไม่เลย ผมเห็นแววตาที่เหนื่อยล้าของหมอเจือไปด้วยน้ำตาไม่ต่างอะไรจากผม

“งั้นรบกวนด้วยแล้วกันครับ”

“ครับผม”

“ฮึก ผมอยากเจอมิ ผมอยากเจอมิครับหมอ”

“มิคาเอลคงรออยู่เลยแหล่ะครับ” หมอยิ้มกลับมาให้พร้อมกับเดินนำออกไปที่คอกสัตว์ อาจจะเพราะเป็นทางเดิม เล็กเลยผละออกจากผมแล้ววิ่งนำหมอไปหามิคาเอลก่อนใคร

“ยังไงก็ อยู่ใกล้กับคุณอเล็กซ์ไว้หน่อยนะครับช่วงนี้ หนักหน่อย”

“ว่าแต่มิคาเอล นี่ไม่มีทางรักษาแล้วใช่ไหมครับ”

“เอาจริง ผมว่าเขาเก่งมากนะครับ ที่ทนมาได้ขนาดนี้ คงรักคุณอเล็กซ์มากจริงๆ” คำตอบที่ได้เล่นเอาต้องยกมือเกาคออย่างที่ติดเป็นนิสัยเวลาคิดมาก ทั้งๆที่พามาเพราะขาพลิกแท้ๆ กลับกลายเป็นเคสใหญ่วุ่นวายเฉยเลย

“พี่โย!!!”

“ห๊ะ!!” ผมสะดุ้งตกใจจนเกือบจะวิ่งไปหาเล็กที่ตะโกนเรียกดังลั่นถ้าไม่ติดที่มันตะโกนออกมาอีกรอบเสียก่อน

“ไปเอาหญ้าหลังรถให้หน่อย ลืมหยิบมา ไวๆด้วย ผมบอกมิไปแล้วว่าเอามาฝาก!!” เออ ให้มันได้แบบนี้ นี่สนิทกันจนเป็นคนใช้ให้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ แอบได้ยินหมอถึงกับแอบหัวเราะเบาๆเลย

ไอ้เด็กนี่ เห็นว่าเศร้าอยู่หรอกนะ!!

ผมกับเล็กใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์เกือบสองชั่วโมงจนกระทั่งหมอเอ่ยปากว่ามืดแล้วถึงเพิ่งยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็รู้ว่าเป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เล็กขอหมอนอนค้างกับมิคาเอลแต่หมอก็ไม่ยอม อ้อนแล้วอ้อนอีกก็ไม่ยอม สุดท้ายเลยได้แต่มานั่งหูพับบนรถ

“หมอใจร้ายจังอ่ะ”

“โรงพยาบาลสัตว์ไม่ใช่โรงแรมซักหน่อย”

“คืนเดียวเอง!!”

“พรุ่งนี้ก็ได้เจอน่า” ผมโยกหัวมัน โดนขัดใจนิดหน่อยก็มาทำปากยื่นหน้ายู่เหมือนไอ้ลูกหมาอู้ไม่มีผิด ผมจอดรถแวะร้านสะดวกซื้อให้เล็กนั่งรอให้รถไปก่อน ส่วนผมก็ซื้อพวกแปรงสีฟัน สบู่ แชมพู เพราะไม่ได้กลับคอนโดที่กรุงเทพมานานมากจนไม่มั่นใจว่ายังมีอยู่หรือเปล่า ไม่ลืมหยิบมาม่ามาด้วยเผื่อคนบนรถหิวทีหลังอีก จ่ายเงินเสร็จก็ขับรถเลี้ยวเข้าไปจอดในที่จอดรถเพื่อขึ้นคอนโด

ก็พอจะเข้าใจว่าลอบบี้หรู แต่พอเห็นน้องมันเบียดตัวพร้อมกับมองซ้ายมองขวาร้องอู้อ้ากับโคมไฟแล้วรู้สึกเหมือนพวกเสี่ยพาเด็กขึ้นคอนโดชอบกล แล้วนั่นพี่ยามที่ปกติจะทักกันวันนี้ก็หลบตาผิวปากทำไม่รู้ไม่ชี้ใส่อีกต่างหากเพิ่มความสมจริงขึ้นไปอีก

“ทำไมหอหรูจังอ่ะพี่”

“คุณแม่ซื้อไว้ให้หน่ะ”

“บ้านเป็นมาเฟียป่ะเนี่ย”

“เปล่า แค่พ่อรวย” ถ้าพูดแบบนี้กับพวกวิศวะคงได้โดนคำหยาบมาซักสองสามชุด แต่เพราะเป็นเล็ก มันถึงทำแค่หยักหน้ารับรู้แล้วเดินตามเข้าลิฟต์มาอย่างเชื่อฟัง รอจนถึงชั้นที่สิบเจ็ด ผมก็เดินนำมาเปิดห้องก่อนเพื่อเปิดไฟ

“โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห” เล็กที่เดินตามมาโวยวายเสียงดัง วิ่งเข้าไปสำรวจห้องผมเหมือนลูกหมา ทั้งจิ้มโซฟา จับโต๊ะ ลูบไล้แจกัน ส่วนผมก็ยืนมองนิ่งๆ ตลกดี

“เดี๋ยวเอาเสื้อมาให้ยืมแล้วกัน เมื่อกี้ซื้อกางเกงในมาจากเซเว่นพอใส่นอนไปก่อนได้ไหม เดี๋ยวตัวที่ใส่อยู่ส่งก็ซักน่าจะแห้งทันพรุ่ง-”

“หอพี่โคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรใหญ่!! ดูวิวดิพี่ อันนั้นอะไรอ่ะ หอไอเฟลแน่เลย” ไม่ได้ฟังเลยซักนิดสินะ...

“นั่นเสาสัญญาณโทรศัพท์”

“แล้วนั่นรถไฟหรอ”

“นั่นบีทีเอส เอ่อ รถไฟฟ้าหน่ะ” 

 “อันนี้อ่ะ!”

“ห้าง”

“หูวววววววววววววววว ห้างอยู่ใกล้จัง ไปเดินห้างกัน!!” ไหนหล่ะไอ้เล็กนั่งหน้าเศร้าเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ผมได้แต่เกาหัวแกร่กๆ งงกับมัน

“หื้อ ห้างปิดหมดแล้วตอนนี้ หิวหรือเปล่า? กินแมคได้ไหม?” ผมหยิบมือถือขึ้นมาเสิร์ชหาเมนู ปล่อยให้ลูกหมาวิ่งหูหาอยู่ทั่วห้อง

“แมคอะไรอ่ะ แมคเย็บกระดาษอะไรแบบนี้อ่อ”

“อ่า ไก่ทอด เบอร์เกอร์ อะไรแบบนี้”

“อ๋อๆ กินได้ๆ แต่มันดึกแล้วนะพี่ร้านปิดแล้วมั้ง”

“มันส่ง 24 ชั่วโมง”

“หูวววววว โคตรดี แต่สงสารคนส่งอ่ะพี่ เขาง่วงป่ะ ไปรับเองเถอะ” และอีกมากมาย มันวิ่งเข้าห้องนู้นออกห้องนี่ รื้อตู้เย็น ร้องหูวววววดังๆทุกครั้งที่เจออะไรที่บ้านมันไม่มีและร้องดังมากสุดตอนเปิดไปเจออ่างอาบน้ำ มันรีบวิ่งมาขออาบน้ำด้วยตาเป็นประกาย ซึ่งผมก็ได้แต่เกาหัว อยากอาบน้ำก็ต้องมาขอกันด้วยหรอวะ เห็นเด็กมันตื่นเต้นก็ได้แต่พยักหน้าครับ ไม่ลืมเข้าไปสอนมันปรับอุณหภูมิน้ำ ไปเตรียมชุดนอนผ้าเช็ดตัวให้ แกะแปรงสีฟันที่เพิ่งซื้อใหม่ แชมพู สบู่ แล้วก็ไม่ลืมกางเกงในฟรีไซส์ที่ซื้อ ไหงพอแกะมาแล้วตัวใหญ่ขนาดนี้วะ

“พี่โยพี่ น้ำเท่านี้ลงได้หรือยังอ่ะ มาดูให้หน่อย”

“เออ แป๊ปนึง” ผมเกาหัวอีกรอบแล้วเดินหอบของเข้าไปวางไว้ในชั้นวางของในห้องน้ำ มองระยะน้ำก็พอลงได้แล้ว เออ นึกขึ้นได้ว่าครั้งล่าสุดแม่ซื้อไอ้บาธบอมบ์อะไรซักอย่างมาตั้งหลายลูกนี่นา ไม่รู้จะยังใช้ได้อยู่หรือเปล่า เปิดใต้อ่างล้างมือออกก็เจอบาธบอมบ์หลากหลายสี ผมเลยสุ่มๆหยิบมาก้อนนึง

“อะไรอ้ะ”

“บาธบอมบ์”

“ไหนซับไทย”

“ระเบิดอาบน้ำ?”

“เห้ย คนคิดเขาไม่ชอบอาบน้ำขนาดนั้นเลยหรอ”

“เมื่อกี้แปลแบบทับศัพท์ไปหน่อย อ่า มันคือ ว่าไงดี โยนๆไปแล้วฟองก็ฟูขึ้นมา แม่ซื้อมาหน่ะ ไม่เคยลองเหมือนกัน” แถมปกติผมก็ไม่ใช้อ่างอีกด้วย เปลืองเวลา ห้องน้ำผมมีทั้งแบบอ่างและแบบฝักบัวอยู่คนละฝั่ง ผมมักจะชอบอาบฝักบัวแล้วเอาเสื้อผ้ารอซักมาหย่อนๆไว้อ่างแทน

“พี่โยนเร็วๆ” โยเขย่ามือผม

“ลองโยนดิ” มันส่ายหัวรัวทันที

“เดี๋ยวระเบิดขึ้นมาทำไง”

“ฮ่าๆ ก็บอกว่าล้อเล่นไง มันเป็นแค่ฟองหน่ะ” ยังคงทำหน้าไม่เชื่ออยู่ดี คนเรามันจะพกระเบิดไว้ในห้องน้ำตัวเองทำไมวะ ผมแกะพลาสติกออกแล้วโยนก้อนในมือลงน้ำที่เปิดจนครึ่งอ่างดังต๋อม ก่อนที่ฟองจะเริ่มกระจายตัวพร้อมกับเปลี่ยนสีน้ำเป็นสีแดงอ่อนๆ


โอ้โห กลิ่นกุหลาบพร้อมดอกกุหลาบเชียว
ยิ่งดูเป็นเสี่ยเที่ยวอ่างอาบนวดเข้าไปใหญ่ แม่นะแม่!

“หูวววววววว เจ๋งอ่ะ หอมจัง พี่ดมดิ” น้องมันอังน้ำในมือมายื่นใส่จมูกผม ผมสบตากับตากลมที่ดูตื่นเต้นรอผมดมอย่างใจจดใจจ่อทั้งที่จริงๆกลิ่นมันก็ลอยอยู่เต็มห้องน้ำอยู่แล้วแท้ๆเล่นเอาใจเต้นผิดจังหวะไปในทันที

เดี๋ยวไอ้โยเดี๋ยว
นี่น้องนะมึง ปีหนึ่งคณะอื่นด้วยนะมึง มึงจะมาใจเต้นกับแค่เด็กมายืนกระพริบตาใกล้ๆไม่ได้

“อ่ะ เออ ก็ หอมดี”

“กลิ่นติดแขนเลยอ่ะ พี่ดมดิ” น้องมันยกแขนมาแนบจมูกผมอีกรอบ จมูกผมก็ปักไปเต็มๆข้อมือเล็กๆนั่น ไม่อยากจะยอมรับแต่ก็ดันเผลอสูดหายใจเข้าไปเต็มๆตามคำสั่ง ผลคือ…

“อือ หอม”



...หอมแบบที่รู้สึกบาปขึ้นมาเลย!!!



“พี่อยากอาบก่อนป่ะ?”

“ไม่ๆอาบไปเลย อาบไปเถอะ ฉันว่า เอ่อ ฉันไปเตรียมรับอาหารก่อนแล้วกัน ตามสบาย” พูดจบผมก็ชิ่งออกมาทันทีพร้อมกับความรู้สึกเหมือนเป็นคนบาปขึ้นมาหลายเปอร์เซ็น ในแบบที่ตอนแรกบอกจะรับบทพระตอนนี้ไม่น่าจะรับได้แล้ว

หอบหนักเลยให้ตาย ไม่รู้ว่ามันอ้อนด้วยตัวของมันหรือผมแค่มโนขึ้นมาด้วยจิตใจอกุศลของตัวเอง
อาการขนาดนี้ผมรู้ตัวเองโดยอัตโนมัติเลยว่าต้องไปขนผ้าห่มกับหมอนมากองไว้บนโซฟา การนอนเตียงเดียวกันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีซักเท่าไหร่

ตลอดการรอเล็กอาบน้ำ ผมได้แต่เดินรอบห้องให้ตัวเองหายฟุ้งซ่าน รอจนอาหารมาก็ลงไปเอา ตอนนั้นแหล่ะที่นึกขึ้นมาได้ ไหนว่าซื้อมาม่ามาให้เผื่อมันหิวแล้วว่ะ จะสั่งไก่มาทำไมอีก อยากเอาหัวกระแทกประตูตาย ทำไมใจมันวุ่นวายขนาดนี้วะเนี่ยไอ้โยชิ เป็นบ้าอะไรวะ!!

ได้แต่ลมหายใจเข้าลมหายใจออกดั่งดอกไม้บานกู้สติอยู่เกือบห้านาทีถึงเปิดประตูเข้ามาในห้องเพื่อพบกับ...
ตัวเล็กๆในเสื้อใหญ่ๆของผมที่ปิดคลุมกางเกงบ๊อกเซอร์ที่ผมให้ไว้ใส่แทนกางเกงนอน


“พี่กางเกงในมันตัวใหญ่ไปอ่ะ ผมใส่ไม่ได้”

อา...
แล้วสายตาอกุศลกูก็เข้าใจเลือกจุดโฟกัสดีจริงๆ...


“เอ่อ...”

“ผมซักตัวเก่าไปแล้วด้วย”

ละ ละ แล้วตอนนี้...

“อะ เอ่อ...”


“พี่ไม่ถือใช่ป่ะ?”





ไอ้หมอ!!
มึงรับมือกับเด็กปีหนึ่งได้ยังไงวะ!!


--

ยังคงอยู่กับคนธรรมดากันถึงตอนต่อไป
ฟีลกู๊ดเจือน้ำเกลือเล็กน้อย

ขอบคุณสำหรับทุกวิวและคอมเม้นต์นะคะ
 :mew1: :mew1: :mew1:
 

อ้อ มาอวดแฟนอาร์ตด้วยค่ะ



cradit : alice_no_tabi


cradit : @nnongklangnam

น่ารักมากขนาดเห่อเอาขึ้นวอลไอโฟนเลยค่ะ ฮือออออออออออออออออออ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-06-2017 19:18:58 โดย Oiimaps »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
คืนนัินของเสี่ยโยนี่เอง. ถือทำไมหนักเปล่าๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รักมิคาเอล รักพี่โยน้องเล็ก มาต่ออีกนะคะ ชอบคู่นี้มากเลยค่ะ น่าร๊ากกกกกกกกก..มากกกกกกก :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
เสี่ยโย ชอบ

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านไปยิ้มไป ฮือออออออ น่ารักจังเลยน้องเล็ก
ลุ้นให้พี่โยตบะแตก :laugh:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
หนูเล็ก น่ารักมากกก หลงรักหนูเล็กเต็มเปาเลยอ่ะ
ทั้งน่ารัก ทั้งน่าสงสารเลย เข้าใจหนูเล็ก เป็นคนคบคนไม่เก่งเหมือนเราเลย ฮืออ
น้ำตาคลอตอนไปหามิคาเอล คิดว่ามิคาเอลจะทิ้งหนูเล็กไปซะแล้ว T T
แต่ก็แอบหวัง ได้กลับไปอยู่บ้าน มิคาเอลจะแข็งแรงแล้วอยู่กับหนูเล็กไปอีกนาน ๆ นะ
พี่โย น่ารัก ใจดีมาก ๆ เริ่มหลงเสน่ห์ความใสซื่อของหนูเล็กแล้วสิ
รอตอนต่อไปจ้า อยากอ่านคู่พี่โยกับหนูเล็กเยอะ ๆ เลยน้า
ขอบคุณคนเขียนนะคะ ^^

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4

ออฟไลน์ ichiichi

  • รักหม่ามี้นะคับ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-5
เปลี่ยนโยเล็กเป็นคู่หลักก็ดีนะ55 ชอบอ่ะน่ารักดี เพื่อนเราชื่ออเล็ก อ่านละนึกถึงเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
:impress2: น้องเล็กน่ารักอะ  พี่โย อดใจไม่ไหวแน่ๆ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
โอ๊ย ยกป้ายไฟเชียร์คู่นี้สุดตัวเลย น่ารักมากกกกกก

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เศร้าไม่นานเลยนะ เสี่ยโย  :z1:
หวั่นไหวไปกับเด็กขี้อ้อน ควบคุมอารมณ์ดี ๆ นะ  :haun4:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โอ๊ยยตายแล้ว น่ารักมากกก กอไก่ล้านตัว



ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
หลงรักน้องเล็กแล้วเนี่ย

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เสี่ยโยกับหนูเล็กกกก  :hao7:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
555555 พี่แม่ง เล่นใหญ่ตลอด ทำน้องหูลู่หางตกตลอด

หมอที่ผ่านมาไม่เคยตบมุกใครใช่ไหม เปิดมาที อู้ถึงกับไปต่อไม่ได้
อู้น่ารัก พูดนิดพูดทำ แก้มแดง ทำเขิน ตีเนียน พี่มันถึงชอบแกล้งไง เผื่อได้จริง 55555

แล้วโยรีบเอาน้องควายไปง้อเล็กหรอ

---------

โยยย ไม่ใจง่ายหรอก แต่ใจเร็วมากก ด่วนเวอร์ ถึงกับหวั่นไหวเมื่อเจอเล็กเข้าไป
แต่โยโอเคนะ ยอมรับแบบแมนๆ เรื่องจีบอู้

เล็กน่ารัก เหมือนเด็กน้อย เหมือนคนอยู่แต่บ้าน ไม่ออกไปไหน
ไม่รู้จักอะไรสักอย่าง 55555 แต่ทำพี่โยอยู่ไม่นิ่ง เพ้อเวอร์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-06-2017 15:08:49 โดย labelle »

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
โยเล็กก็น่ารักนะ ตลกพี่โย ใจเย็นนะพี่ เด็กปีหนึ่งก็ดาเมจงี้แหละ 55555

ออฟไลน์ Oiimaps

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +331/-2


วันควายๆของคุณชายโย 3



กว่าจะกลับมาถึงค่ายในวันต่อไปได้ก็บ่ายกว่าๆเพราะเมื่อวานกว่าจะรอให้เล็กหลับได้ก็ปาไปเกือบเช้า มันเล่นร้องไห้สะอื้นอยู่ในผ้าห่มจนผมต้องเข้าไปปลอบ ปลอบจนน้องหลับฟ้าก็เกือบจะสว่าง เลยได้นอนไปแค่สามสี่ชั่วโมงบนโซฟาแคบๆ พอรถของโรงพยาบาลสัตว์มาส่งมิคาเอล คุณลุงก็รีบเข้ามามาถามไถ่ถึงอาการไม่หยุด เป็นห่วงไม่แพ้กับคนลูก พอเคลื่อนย้ายอะไรเสร็จมิคาเอลก็ดูจะแฮปปี้มากๆที่ได้กลับบ้านซึ่งนั่นยิ่งทำให้เล็กแฮปปี้ขึ้นพอกัน  ปล่อยให้เล่นกันอยู่ซักพักก็ปล่อยให้มิคาเอลพักผ่อน ผมเลยพาเล็กกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเผื่อวันนี้พวกวิศวะที่บ้านจะมีคิวไปเที่ยวไหนด้วย

เข้าบ้านไปสิ่งแรกที่เข้าไปเจอคือไอ้อู้อ้าปากกินขนมปังอยู่แบบงงๆ หน้าตามันนี่ล่กขึ้นมาทันที เหมือนคันปากอยากจะถามแต่ก็สงวนท่าทีไว้ หางกระดิกตีพื้นป้าปๆขนาดนั้น มองมาจากกรุงเทพยังรู้เลยว่าอยากรู้ใจจะขาดอยู่แล้ว เผลอๆเดี๋ยวซักพักมันก็ไปจับกลุ่มกับเพื่อนมันวิเคาะห์อะไรไร้สาระอีกแน่ๆ

ส่วนเล็กก็เงียบลงทันทีที่เข้ามาในบ้าน มือมันจะเขี่ยๆมือตัวเองเล่น ตาก็จะเริ่มมองพื้นไปเรื่อย หลีกเลี่ยงการสนทนาสุดๆ ไอ้ที่เห็นแปลกตาน่าจะเป็นติดผมแจ เดินไปไหนก็เดินตาม นั่งไหนก็นั่งตาม แถมยังสะดุ้งทุกครั้งที่คนเรียกผมอีกต่างหาก กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเคลื่อนขบวนกันได้ก็ล่อซะพระอาทิตย์เกือบตกดิน

“เห้ยเล็ก กูเติ้ลนะ เรียกเติ้ลไม่ถนัด เรียกนายนภัทรก็ได้”

“ส่วนกูพี่แป๊ะ เรียกแป๊ะไม่ถนัด เรียกโกงอยู่ก็ได้”

“โกงอยู่นี่อะไรวะพี่”

“โหยไอ้เติ้ล มึงนี่นอกบ้าน”

“บ้านนอก!!”

“หลังคาบ้านมึงนี่กระเบื้องหรือกะลา โกงอยู่นี่ดังเลยมึงดังเลย เล่นหนังเรื่องเทรนทูปูดำขยำปูนาอะไรซักอย่าง คนนี่ยกนิ้วให้เลย”

“ยกนิ้วโป้งหรอ?”

“นิ้วกลาง!! สงสัยคนเกาหลีไม่ชอบปูดำ”

“เงี้ยพี่ คนแพ้อาหารทะเลเยอะ”

อีกหนึ่งในความผิดพลาดในชีวิตคือมีพวกแม่งมาอยู่ในรถเนี่ยแหล่ะ....

 “ฮ่าๆ ตลกอ้ะ”

เอ้า... เสือกขำ

“เห้ย นี่ขำจริงหรอ!” ผมหันไปถามเล็ก ซึ่งมันก็หัวเราะจนน้ำตาคลอ มองกระจกหลังไปนี่เห็นหน้าไอ้สองตลกปริ่มกันเหมือนได้เกรดเอ

“เข้พี่แป๊ะ มีคนขำมุกเราว่ะพี่”

“ไอ้เชี่ย กูไม่ไหวแล้วเติ้ล กูต้องโทรบอกแม่แล้วอ่ะ ฮือๆ ทำไงดี ประทับใจมาก” เล่นใหญ่กันไปอีก ไอ้คนหัวเราะก็ยังหัวเราะไม่หยุด ไม่ยักรู้ว่าเส้นตื้น

“ขำตามมารยาทรึเปล่าไอ้เล็ก” ไอ้เติ้ลชะโงกหน้ามาถาม
 
“หื้อ เปล่านะ ตลกจริงๆ มุกดูไม่น่ากล้าเล่นได้เลยอ่ะ”

“เอ่า ชิบหาย เหมือนโดนหลอกด่า”

“ไม่ๆ เราไม่ได้ด่านะ มันแบบ มันตลกจริงๆ เอ่อ จะ จะ จริงๆ” ล่กเลยครับทีนี้ สงสัยคิดมากกลัวไอ้เติ้ลโกรธ มันรีบเขย่าแขนผมเหมือนขอความช่วยเหลือทันที น้ำตาคลอจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ

“มุกพวกมึงก็ไม่น่าจะกล้าเล่นได้ซักมุกอ่ะ”

“ไอ้โยนี่ใจร้ายใส้ระนาด”

“แฮ่!!”

“ระยอง!!”

“แฮ่!!”

“ระนอง!!”

“แฮ่”

“ระ-“

“อีกระนึงก็ตีนกูเนี่ยแหล่ะ เลิกเล่น ลงไปซื้อไก่ให้กู” ผมโยนกระเป๋าเงินใส่ไอ้แฝดตลก ไอ้แป๊ะบ่นงุ้งงิ้งแต่ก็ยอมลงไปซื้อไก่ให้แต่โดยดี มีพวกมันนี่อย่าได้หวังรถเงียบเลย รำคาญยาวไปจนถึงแหล่ะกว่าจะเลิกคึก 

“ฮือออ พี่ ผมขำอ่ะ ปวดท้องเลยเนี่ย”

“เส้นตื้นจังวะเรา” ผมขยี้หัวมัน ยิ้มเก่งเชียวแบบนี้ แก้มบุ๋มเลย

“พี่คงเส้นสูงมากอ่ะ ไม่ขำเลยอ่อ”

“ไม่ใช่ว่าเส้นสูง อ่า หมายถึงเส้นลึกสินะ เออ ไม่ได้เส้นสูงหรอก แต่มุกมันไม่ตลก”

“ตลกดิ ขำจะตาย”

“ขำตรงไหนวะ”

“แฮ่ตรงแฮ่ แบบ แฮ่!!” เออ แฮ่ให้ดูอีก แฮ่เองขำเอง เอ็นดูไม่ไหวจนต้องขยี้หัวไปอีกรอบ มัวแต่มองน้องเพลิน พอมองเลยกระจกออกไปอีกทีก็เจอไอ้แป๊ะยิ้มเลวแซวอยู่ริมหน้าต่าง ไอ้นี่มันกวนส้นตีนจริงๆ เห็นแล้วอยากต่อยตาให้หายตี่ซักสามสี่ที

“โอ๊ย ไก่ร้านนี้มันจะอร่อยหรอวะเติ้ล”

“ทำไมวะพี่”

“ไก่มันดูกินหญ้าอ่อนมากเลยอ่ะ” มาละ มันมาละ ผมด่ามันด้วยสายตาผ่านกระจกมองหลังทันที  เดี๋ยวเถอะมึง ไอ้หน้าตี๋

“โห ใช่อ่อพี่!!” ไอ้นี่ก็ตบได้ตบดี ไอ้น้องเวร

“แบบกินแล้วสำลัก คุกๆๆๆๆเลยอ่ะ”

“โห ขนาดนั้น!!”

“เจ้านี้อร่อยนะครับพี่ จริงๆมีขายในเมืองอีกหลายสาขาเลย อ่อ ไก่ไม่กินหญ้าอ่อนนะครับ” ความเล็กครับ น้องมันรีบหันไปแก้ตัวให้ร้านไก่ประจำจังหวัดทันทีสงสัยกลัวเสียชื่อ เลยได้รับสายตาเอ็นดูไปจากไอ้แป๊ะไอ้หนึ่งที

“โถลูกพ่อ หนูโตมายังไงลูก”

“ห๊ะ? ครับ?”

“เติบโตมาอย่างใสซื่อแต่ครอบครองหัวใจของเสี่ยใจง่ายเข้าให้ซะแล้ว”

ไอ้แป๊ะ!!!
น้องยังหันหน้าไปอยู่ ผมเลยชูนิ้วกลางใส่มันไปทันที 

“เล็ก บอกทางพี่” ผมรีบจับหัวเล็กหันกลับมาทันที น้องมันก็งงๆ บอกทางแบบงงๆ ชี้นู้นชี้นี่ไปไม่ได้เอะใจอะไรมาก ส่วนไอ้สองตัวด้านหลังก็คิกคักกันทันที กว่าจะถึงได้กลายเป็นผมแทนที่ต้องอึดอัดแทนเล็ก รีบเนรเทศพวกมันออกจากรถทันที แม่งเอ๊ย

พอมาถึงก็พบว่าทุกคนมาถึงก่อนหมดแล้ว คนเริ่มเยอะ เล็กก็เริ่มกลัวครับ น้องเริ่มเดินเบียดผมอีกรอบ ตาก็เริ่มล่องแล่กขวาทีซ้ายที

“เล็ก ช่วยพี่ถือไก่หน่อย”

“อื้อ” น้องรับไปถือแต่โดยดี

“เอาไปนั่งกินกับปันกับอู้ไป” ผมพะเยิดหน้าไปทางปันกับอู้ที่นั่งเอาเท้าเตะน้ำกันอยู่

“ไม่เอา นั่งด้วยดิ”

“เล็ก”

“ไม่เอาพี่ ไม่ชอบ ไม่เอา”

“เดี๋ยวนั่งอยู่ใกล้ๆ เอาไปชวนเพื่อนกินไป” มันเบะปากทำท่าจะร้องไห้ปลอมๆผมเลยเขกหัวมันไปหนึ่งที  ไอ้พวกปีหนึ่งก็กำลังจับไอ้อู้โยนน้ำ น้องเทคผมมันก็ตัวเล็กขี้โวยวายง่ายต่อการจับโยนจริงๆ แกล้งกันไปอยู่แบบนั้น ผมเลยผลักน้องไปนั่งแถวปัน แอบภาวนาให้ปันมันยอมสื่อสารภาษาคนกับเล็กเหมือนกัน

นั่งกินไก่กันสองคนไปซักพักอู้ก็ขึ้นจากน้ำมาคุยด้วยครับ ซักพักก็คุยใหญ่เชียว เห็นแบบนี้ค่อยโล่งใจ คุยต่อไม่เท่าไหร่ ชวนกันเล่นน้ำอีก นี่เลยแอบส่งสายตาปรามไอ้แป๊ะไปก่อนเลยทีนึง เดี๋ยวเล่นอะไรแผลงๆอีก

“น้องคนนั้นชื่ออะไรนะ” เสียงเหม็นๆดังขึ้นจากฝั่งตรงข้าม แค่เสียงยังเหม็นเลยครับคิดดู

“เสือก”

“ไอ้เหี้ยโย”

“เหี้ยไรไอ้หมอ” ไม่มองก็เกือบคิดว่าเป็นกองขยะที่นักท่องเที่ยวมาทิ้งไว้ครับ เห็นแล้วรำคาญลูกตาดำเหลือเกิน

“พวกมึงนี่ก็เหมือนหมาดีเนาะ” ไอ้ภูมิหัวเราะขึ้นมากลางวง

หมดอารมณ์จะคุย ผมยกมือถือมาไถเล่นพรางส่องพวกที่เล่นน้ำอยู่ไปด้วย กลัวจะเกิดอันตรายอะไรกัน แต่ละคนดูไม่ค่อยมีสติกันซักเท่าไหร่ เห็นไอ้แป๊ะจับอู้ทุ่มอยู่สามสี่รอบครับ น้องก็โวยวายลั่นน้ำตก เล่นกันจนตัวเปื่อยซักพักอู้ก็ว่ายท่าลูกหมาตกน้ำมาขึ้นฝั่ง แค่เห็นอู้ว่ายกลับ ไอ้หมอมันก็ลุกขึ้นรอแล้วครับ

“พี่หมอ แกะกระเป๋าผมเอาผ้าเช็ดตัวให้หน่อยสิ”

“เดี๋ยวกูพาไป ตรงนั้นคนเมาเยอะ” ผมมองตามไอ้หมอไปก็เจอกลุ่มวัยรุ่นนั่งกินเหล้ากันเสียงดังดูอันตรายจริงครับ ไอ้หมอถึงได้เดินติดระยะประชิดขนาดนั้น  ผมได้แต่ถอนหายใจ มีไอ้หมอไปด้วยก็หมดห่วง ขืนเดินไปคนเดียวกลัวมันจะโดนฟาดกระดูกหักเสียก่อน

ต่อจากนั้นแค่ประมาณสิบนาที เล็กก็ว่ายกลับฝั่งมาเหมือนกัน ผมเลยเปิดกระเป๋ามันหยิบผ้าเช็ดตัวออกมารอไว้ให้ ไอ้ภูมิดึงกับหันมามองพร้อมกับยกคิ้วสงสัยใส่

“ห้องอาบน้ำอยู่ตรงไหนนะพี่” มันกอดตัวเองเหมือนหนาว ผมเลยรีบลุกขึ้นยืน

“ไป เดี๋ยวพาไป”

“ครับ” ผมปล่อยให้น้องเดินนำแล้วตัวเองเดินตาม ไม่ลืมส่งสายตาใส่รอบข้างที่แซวน้องไปด้วยทีนึง มันขาวครับ ขาวซีดๆเลย แขนที่โผล่ต่อจากเสื้อสีดำมันออกมาเนี่ย ตัดกับสีเสื้อได้เป็นอย่างดี ล่อสายตาคนรอบข้างเสียเหลือเกิน พอเดินไปจะถึงก็ตรงจังหวะกับที่อู้ออกมาจากห้องอาบน้ำพอดี

“เชี่ย มึงโคตรขาวเลยว่ะเล็ก”

“นายก็ไม่ได้ดำนะอู้”

“แต่มึงขาวไปอ่ะ” อู้เดินมาบีบๆแขนเล็ก

“เอ้อ คืนนี้วัดแถวบ้านมีงาน พ่อเราบอกว่าให้ชวนไป คนอื่นตกลงแล้วแต่นายอาบน้ำอยู่”

อ่า....
หมาตรงนี้แหล่ะครับ ไม่ได้โดนชวน...

“เอาดิ น่าสนุกออก”

“เราสนิทกับเจ้าของชิงช้าสวรรค์ด้วยนะ”

“เห้ยดี โกงค่าเข้าได้ไหมวะ”

“ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวไม่สบาย” ผมดันหลังเล็กไปนิดนึง ไม่ได้หงุดหงิดที่น้องมันคุยเพลินอะไรหรอก

แต่หงุดหงิดที่ไม่ได้ถูกชวนไปงานวัด!!!

โคตรไร้สาระเลย!!

“อย่าดันดิพี่” เล็กหันมาค้อนผม สงสัยจะติดใจไอ้อู้เข้าให้แล้ว ผมส่ายหัวแล้วดันหลังมันต่อ พอเข้าห้องน้ำไปได้ผมก็ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ รอจนน้องอาบน้ำเสร็จเลยเดินไปรอหน้าห้องน้ำก่อน ยอมรับครับ หงุดหงิดจริงๆว่ะ

“อารมณ์เสียหรอ” แรงสะกิดที่แขนยิกๆจนต้องหันไปมอง

“ไม่เห็นรู้ว่าจะไปงานวัด”

“อ้อ จะไปงานวัดนะ”

“บอกคนอื่นครบแล้วลืมบอกกู..พี่ เนี่ยนะ” แอบหลุดครับ อยู่กับพวกวิศวะไม่ค่อยได้พูดคำว่าพี่เท่าไหร่ เล็กมันงงไปนิดนึง

“ก็บอกแล้วตอนนี้นี่ไง”

“ไหนบอกว่าบอกคนอื่นครบแล้วไง”

“พี่เป็นคนอื่นที่ไหนอ่ะ”

“...”

“เป็นเพื่อนผมต่างหาก”


อ่า....
ไอ้หมอ!!
ลืมถาม!!
ตกลงมึงรับมือกับเด็กปีหนึ่งได้ยังไงวะ!!!


.
.
.

ต่อจากน้ำตกก็เป็นงานวัดที่เพิ่งโดนเพื่อนเล็กชวนมาครับ เป็นสถานที่ที่ถ้าผมไม่ติดวิศวะมหาลัยนี้คงไม่น่าได้มาเดิน ฝุ่นเยอะฟุ้งไปหมด ปัดจนเลิกปัก ไดแต่ภาวนาให้ปอดตัวเองไม่ดำไปเสียก่อน คนเยอะแบบนี้ก็ตามเดิมครับ โดนตัวเล็กๆมาเดินเบียดอยู่นั่นแหล่ะ ตัวมันไม่ได้เล็กแบบอู้ สมส่วนผู้ชายปกติครับ แต่ขาวมากจริงๆ ขาวซีดเหมือนไม่มีเลือด

“พี่อยากกินไรป่ะ”

“อะไรก็ได้” เล็กเงียบไป ซักพักก็เดินตามอู้ตามปันไปกินร้านนั้นร้านนู้น เห็นมันหัวเราะพูดคุยกับคนอื่นเป็นปกติก็รู้สึกดีครับ

“แหม เพื่อนผมวันนี้หน้าตาดูดีนะครับ” ไม่ดีก็ตรงไอ้เด็กเยาวราชน่ารำคาญแถวนี้เนี่ย

“เสือก” ผมด่าไอ้หน้าตี๋ไปทีนึงข้อหากวนตีน

“หน้าตาเหมือนเลี้ยงต้อย”

“ไอ้แป๊ะ”

“อิอิจ้าห้าห้าบวก ล้อนิดล้อหน่อยมาทำเป็นหงุดหงิด มีเด็กแล้วทิ้งเค้าเลยน้า งุ้ยๆ” สมกับตำแหน่งส้นตีนแห่งวิศวะ ใครอยู่ด้วยก็อยากกระทืบมันทั้งนั้น

“ไปไกลๆกูเลยไป”

“ล้อหน่อยเว่ย ไอ้ห่าตกใจ เพื่อนกูอกหักไม่กี่วันไมไวไฟจังวะ” อย่าว่าแต่แป๊ะสงสัยเลย ผมก็สงสัย แอบถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไม

หรือมันคือความสงสาร...
ก็คงใช่ แว่บแรกสำหรับผมมันเป็นเด็กน่าสงสาร สัญชาติญาณความเป็นพี่ก็ยิ่งทำให้เป็นห่วงมันยิ่งขึ้น ถ้าการเริ่มต้นด้วยความสงสารมันไม่ได้ดูผิดอะไร ผมก็ยอมรับว่าเริ่มต้นด้วยความสงสารจริงๆ

ไม่ว่าจะจะเริ่มต้นด้วยอะไรแล้วก็ตาม


แต่... ตอนนี้ผมโคตรอยากดูแลมันเลย



“พี่โย ชิมนี่ดิ” เล็กวิ่งดุ๊กๆเข้ามาหาผม ตาเป็นประกายวิบวับอีกแล้ว

“อะไรหน่ะ ไม่น่ากินเลย” มันเป็นไอติมสีดำๆครับ

“ปันบอกว่าไอติมชาเขียว” ชาเขียวเข้มหรือไงถึงได้ดำขนาดนี้

“ปันมันมั่วไปเชื่อมัน”

“อร่อยนะ ผมกินแล้ว” ว่าแล้วช้อนก็มาจ่อถึงหน้า ผมเลยอ้าปากชิมไป ก็หวานๆแปลกๆลิ้นดี มองผ่านช้อนไปเห็นหน้าตาคนตั้งใจป้อนก็อดยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้

“อร่อยไหมหล่ะครับเสี่ย รสชาติของบาป”

“กินไอติมมันก็จะต้องคุกๆหน่อยอ่ะพี่ แบบคุกๆๆๆอ่ะพี่แป๊ะ”

“เสี่ยว่าอร่อยไหมครับ ถ้าอร่อยรีบแดก ไม่งั้นข้าวแดงกับโอเลี้ยงเสี่ยจะเบื่อ”

ไอ้พวกเวรนี่ หันไปด่าแม่งซักทีดีไหม

“มึงคลุกอะไรวะเติ้ล ไอติมมันไม่มีทอปปิ้ง”

“มึงไม่เกทหรอปัน”

“อะไรวะ กูงง”

ปล่อยให้พวกมันงงกันต่อไป อยู่นานชักเริ่มรู้สึกบาปขึ้นมาจริง ผมรีบคว้ามือเล็กแล้วลากออกมาทันที ซึ่งเจ้าของมือก็ไม่ได้สนใจอะไร มองซ้ายมองขวาไล่ดูร้านของกินไปเรื่อย ผมก็แวะบางร้านที่มันมองนานหน่อย ก็จะทำเนียนเป็นซื้อมาชิมก่อนจะก็แกล้งไม่ชอบแล้วส่งต่อให้มันกินแทน เห็นเคี้ยวแก้มตุ้ยๆก็อดเอ็นดูไม่ได้

สาวๆเหลียวหลังมองมันพอๆกับที่ผู้ชายหลายคนมอง ผมเป็นคนขี้หึงและขี้หวง แต่ถ้าในกรณีที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันก็แสดงออกไม่ได้ เลยได้แต่ทำเป็นเดินชิดมากขึ้นแค่นั้นไม่ได้แสดงอาการหรือสีหน้าอะไรออกไป ถัดจากโซนของกินมาก็เป็นโซนซุ้มเกมต่างๆคนที่เบียดแน่นกันน่าดู

“พี่โย ปาโป่งกัน”

“เอาสิ”

ผมยิ้มแล้วจ่ายเงินค่าลูกดอกเผื่อทั้งของผมและของมัน ได้มาเจ็ดลูก ปาไม่แตกซักลูก ไม่รู้ว่าลูกโป่งยางมะตอยหรืออะไร มีใครเคยบอกไหมครับว่าผมเนี่ยจัดอยู่ในจำพวกอะไรที่จีบสาวได้ดีเนี่ยจะห่วยทั้งหมด เช่นการร้องเพลงเล่นกีตาร์ เล่นเกมก็มักจะแพ้ กีฬาก็ไม่ค่อยถนัด ไอ้แป๊ะมักบอกว่าผมควรอยู่นิ่งๆแล้วสะบัดบัตรเครดิตหล่อๆรวยๆไปวันๆก็พอ

จังหวะนั้นเองพี่ประจำซุ้มก็ขยิบตายิบๆให้ผม อะไรวะ ฝุ่นเข้าตาฉันไม่ได้ร้องไห้? พอเห็นผมหน้างง พี่เขาก็รีบชูแบงค์ร้อยในมือขึ้นมาสามใบทันทีก่อนจะชี้ไปที่รางวัลใหญ่ที่ห้อยอยู่มีหลายแบบให้เลือก โอโหพี่ ติดสินบนกันมันตั้งแต่ซุ้มปาโป่ง

ทำแบบนี้นี่มันโคตรดูถูก!!


“ฮืออ ผมอยากได้ตุ๊กตาควายตัวนั้นเลยอ่ะ”



ดูถูกแล้ว!!
มาเอาเงินไปเลย!!
 
ปลิวไปสามร้อยพร้อมกับรอยยิ้มคนข้างๆที่กอดควายตัวเบ้อเร่อในอ้อมกอดที่ตัวเองเข้าใจว่าผมปาได้ไม่ถึงแต่เจ้าของร้านใจดีให้เฉยๆ เดินวนอยู่ซักพักใหญ่ๆมาเจอเดอะแก็งกำลังยืนรวมกันอยู่กลางลาน เล็กนี่รีบวิ่งเข้าไปอวดควายใหญ่ ส่วนแป๊ะก็มองมาที่ผมอย่างรู้ทัน ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไหมนะครับ แต่ไอ้แป๊ะกับผมเนี่ย มันเหมือนมีเวรมีกรรมต่อกันให้ต้องรู้ทันกันอยู่ทุกเรื่อง
 

“ถ้าพี่บีสั่งช่าให้ดำน้ำช่าก็จะถามว่าลึกแค่ไหน”

“อะไรของมึง”

“ถ้าพี่บีติดสินบนเด็กปาโป่ง ช่าก็จะถามว่าเท่าไหร่”

“สามร้อย”

“กูว่าแล้ว”

พี่บีจำแลงได้แต่ส่ายหน้าไปมา ไหงบีน้ำทิพย์มาโผล่งานวัดบ้านนาได้วะ แล้วช่าอะไรของมัน อยากจะยันตกคลองแถวนี้จริงๆ ที่ที่เรายืนรออยู่ตรงซุ้มรถบั๊มพ์ครับ เพลงก็เปิดดังเหลือเกินจนไอ้เติ้ลไอ้แป๊ะทนไม่ไหวต้องขยับเท้าออกสเตปกัน ซึ่งท่าก็คลับคล้ายครับคลาเหมือนเคยเห็นตอนปิดประตูทับหางจิ้งจก จับไปยืนกลางซุ้มน่าจะโดนเด็กรุมขับชน เล็กนี่ก็ขำหน้าดำหน้าแดงตบมือไปกับเขาอีกต่างหาก ทำไมวันนี้มันยิ้มเก่งจังนะ

เห้อ ยอมรับแบบเสี่ยวๆเลยว่ามันดีกับใจ

“พี่ไม่ออกไปเต้นหรอ”

“ไม่หล่ะ”

“อยากเห็นพี่เต้นอ่ะ”

เออ ก็เต้นอยู่ แรงด้วย
หัวใจเนี่ย!!

กว่าที่จะรวมตัวกันกลับก็เล่นเอาผมใจสะดุดรอยบุ๋มที่แก้มนั้นอยู่สิบกว่ารอบ ขากลับคราวนี้ไอ้เติ้ลไอ้แป๊ะหลับเป็นตายครับ ออกสเตปแดนซ์กันจนหมดแรง แต่นั่นก็ถือเป็นสิ่งดีๆนะครับ เพราะตอนนี้รถสงบมาก มีแต่คนข้างๆที่กอดตุ๊กตาควายแน่น พยายามถ่างตาอยู่เป็นเพื่อนผม

“ง่วงก็นอนไปเถอะ”

“ฮื่อ ไม่ได้ง่วง”

...หรอ ตาจะปิดอยู่แล้ว 

“นอนไปเถอะ เดี๋ยวถึงแล้วปลุก”

“ไม่เอา อยู่เป็นเพื่อน ทางมันมืด”

“แต่ถ้าง่วงก็หลับได้นะ”

“ไม่เอา จะอยู่เป็นเพื่อน” ยังคงดื้อ

“ดื้อจังนะ” ผมเอื้อมมือไปขยี้หัวเล็ก แต่ตายังคงจับจ้องไปตามถนน

“เพื่อนพี่คุยกันว่าพรุ่งนี้จะกลับมหาลัยกันแล้ว...”

อ่า... จริงด้วย อาจจะเพราะพวกเราเกรงใจคุณลุงคุณป้าครับ เล่นมาอยู่อาศัยเป็นเกสท์เฮาส์กันเชียว งานของค่ายก็เสร็จแล้วเลยตัดสินใจที่จะกลับมหาลัยกันเลยพรุ่งนี้ ผมได้แต่รู้สึกโหวงขึ้นมาในอก

“อื้อ งั้นก็คง... เจอกัน... ตอนเปิดเทอม? “

“...” เล็กกอดตุ๊กตาควายแน่นพร้อมกับหันหน้าออกไปทางหน้าต่าง

“อยู่หอเดียวกัน หากันไม่ยากหรอก”

“อื้อ”

“ไว้พาไปกินข้าว”

“อื้อ”

“อื้ออะไร” ผมหัวเราะกับท่าทีเด็กๆของมัน

“ไม่อยากให้ไปเลยอ่ะ”

“...”

โอ้โห...
รถเป๋จนโดนไอ้หมอบีบแตรด่ามาหนึ่งที

ผมได้แต่ขับไปแบบตกใจตาโต เมื่อกี้เหมือนใจหยุดเต้นไปสามวิถ้วน เสียงอ้อนนิดหน่อยถึงกับกุมพวงมาลัยไม่อยู่ หนักแล้วโยเอ๊ย หนักแล้วจริงๆ

“ผมก็รู้ว่ายังไงเปิดเทอมก็ได้เจอพี่แหล่ะ”

“...”

“แต่ตอนนี้ก็อยากให้พี่อยู่ด้วยเหมือนกันอ่ะ”

ปี๊น!!
เสียงแตรลั่นดังมาจากด้านหลัง ทำเอาผมสะดุ้งเฮือก เหมือนไอ้หมอจะหงุดหงิดที่ผมผ่อนคันเร่ง มันเลยขับรถแซงไปก่อน ตอนขับผ่านไม่ลืมลดกระจกตะโกนด่าอะไรซักอย่างอีกด้วยแต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ไปทะเลาะกลับแล้วครับ สติได้แต่โฟกัสอยู่กับคำพูดคำจาอ้อนๆที่ดังมาจากข้างๆโดยที่คนพูดไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าใช้โทนเสียงแบบไหนพูดอยู่
   
“ยะ ยะ อยู่ทำไมหล่ะ ก็กลับไปอยู่กับมิคาเอลไง”

“อยู่กับมิก็ชอบ”


“...”

“อยู่กับพี่ก็ชอบ”



บึ้มมมมมมมมมมมมมมม!!!
อยากจอดรถแล้วลงไปตะโกนว่าแม่งเอ๊ยดังๆซักทีนึง แต่ติดที่มันดึกแล้ว ผมได้แต่กระพริบตาถี่ๆเรียกสติตัวเองกลับมา หลังเจอหมัดฮุคไปเต็มๆสามหมัด หูอื้อเลย มีใครบอกไหมครับว่าผมเนี่ยโคตรแพ้ทางการโดนอ้อนเลย

“…” พูดอะไรไม่ออกครับ ได้แต่กลืนน้ำลายหนืดลงคอ

“แต่เดี๋ยวค่อยเจอที่มอก็ได้แหล่ะ อยู่อีกตั้งหลายปี”

“ไหม”

“อะไรนะพี่?”



“แล้วอยากให้อยู่ไหม”


“...”

“ถ้าอยากให้อยู่ก็จะอยู่”


ผมพูดออกไปทั้งๆที่มองท้ายรถไอ้หมออยู่ ใจนี่เต้นแรงจนเกือบจะหลุดออกมาด้านนอก รอคำตอบไม่ถึงสิบวิ เสียงใสก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ

“อยากครับ!!”


เห้อ...
แพ้ทางไปหมดทุกทางแล้วจริงๆ


“อื้อ คุก” ไม่ทันได้เขินเต็มที่เสียงเหมือนละเมอจากด้านหลังดังมาหลอกหลอนเสียก่อน เกือบลืมไปแล้วว่ามีพวกมันนั่งอยู่ในรถ


 พรากผู้เยาว์อะไรวะ!! น้องมันอายุเกิน 18 มาแล้วโว้ย!!
 แค่หน้าตามันจิ้มลิ้มเฉยๆ แม่งล้อจนรู้สึกบาปจริงแล้วเนี่ย ไอ้พวกเวร นอนหลับยังจะกวนตีนได้ ไม่คุกอะไรทั้งนั้น นี่อยู่ด้วยใจกึ่งบริสุทธิ์จริงๆ ก็.. ก็แค่อยู่เป็นเพื่อนรุ่นน้องตอนปิดเทอมเฉยๆ

จริงๆนะ!!
จริงๆ!!!

หลังจากนั้นสองอาทิตย์คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมใช้เวลากับการปิดเทอมไปกับอะไร ที่แน่ๆตอนนี้เริ่มสื่อสารภาษาควายได้แล้วนิดหน่อยแถมได้สกิลการทำนาเพิ่มมาอีก เหนื่อยก็เหนื่อยครับ ร้อนมากๆด้วย แต่พอหันมาเห็นแก้มบุ๋มๆใต้หมวกฟางใบใหญ่ๆที่เดินข้างๆแล้วก็



...ก็แพ้ทางจริงๆนั่นแหล่ะครับ


--

จบพาร์ทวันควายๆแล้วค่า
: )


ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แนะๆๆๆมีเชคอายุเด็กแล้วด้วย ฮิ้วววว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ allegiant1994

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
พี่โยแบบกากมากอะเอาจริง
มิน่าตอนอู้ถึงแพ้พี่หมอ ต้องให้น้องเล็กรุก

ออฟไลน์ Monkey D

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
คู่นี้น่ารักอ่ะ อิพี่โยใจง่ายมากกกก
555555+ หนูเล็กก็น่ารัก

รักทุกตัวละครเลยอิอิ :mew1:

ออฟไลน์ ppseiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งู้ยยยชอบคู่นี้ น้องเล็กอ้อนได้น่ารักมากก เสี่ยโยยังไหวมั้ยคะ5555

ออฟไลน์ mmello07

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบคู่นี้มากเลยอ่า อยากอ่านอีกกกก :z3:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ทำไมเหมือนหนูเล็กรุกอยู่ฝ่ายเดียว พี่โยคือตั้งป้อมรอรับการโจมตี  :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ชอบคู่นี้มากกกกก  หลงรักน้องเล็กที่สุดของที่สุดเลย
เด็กอะไรอ้อนแบบไม่รู้ตัว คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น น่ารักน่าฟัดที่สุด
เราเป็นพี่โยก็ใจอ่อนยวบเหมือนกันนั่นแหละ เด็กมันน่ารักขนาดนี้
จบวันควาย ๆ แล้วเหรอคะ ไม่มีช่วงที่พี่โยอยู่นี่กับน้องเล็กก่อนเปิดเทอมเหรอ T T
ฮือออ ชอบพี่โยน้องเล็กมาก ๆ อ่ะ อยากให้เป็นเรื่องยาว
ถึงไม่ได้เรื่องยาว ก็ขอให้มีพี่โยน้องเล็ก มาให้หายคิดถึงเยอะ ๆ เลยนะคะ  :mew6:
ขอบคุณมากค่ะ  โอย รักน้องเล็กที่สุด  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-06-2017 07:52:41 โดย TIKA_n »

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ได้ข่าวว่าพี่โยเพิ่งอกหักนะค้าาาา

ออฟไลน์ minkey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบคู่นี้ อยากอ่านอีกกกกก
 :mew1:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
อยากจะตะโกนดังว่าา


เขิลเว้ยยยย


ใส่หน้าสองคนนี้จริงๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด