เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 12
ผ่อนลมหายใจออก ร่างกายที่แสนเหนื่อยของผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงมองหน้าอีกคนที่เงยมองด้วยความงุนงงเพราะผมที่เงียบไป จัดการถอดเสื้อผ้าของมัน ผมพูดสั้นๆ
“ หัวหอมไป อาบน้ำไป " ผมบอกมันสั้นๆตอนที่จุงอีกคนเข้าไปในห้องน้ำ จัดการเปิดน้ำล้างตัวถูกสบู่ไปเงียบๆ เจ้าตัวเล็กก็เอ่ยถาม
“ อาขม อาขมโกรธกาลิคเหรอ ที่กาลิคกินช็อคโกเล็ต แล้วกินข้าวไม่หมด "
“ ทำไมมึงคิดงั้นละ " เอ่ยถามมันก่อนจะล้างหน้าใบหน้าน่ารักที่มีช็อคโกเล็ตเปื้อนเต็มไปหมด " เปล่าเลย กูไม่ได้โกรธมึงเลยสักนิด กูโกรธตัวเองมากกว่า " โกรธตัวเองที่ละเลยทุกอย่าง ทั้งเรื่องงานของตัวเอง ทั้งเรื่องเลี้ยงเด็ก เหมือนพยายามจะทำให้ดีทุกอย่างแต่มันไม่มีสักอย่างเดียว หรือบางทีคนเราแม่งต้องทำแค่อย่างเดียววะ เจาะจงทำไปแค่อย่างเดียวเท่านั้น
“ ก็อาขม ไม่พูดกับกาลิคเลย "
“ กูแค่เหนื่อยน่ะ " ผมบอกมัน มือเล็กๆก็เอื้อมมือมาลูบหน้าผม เหมือนเวลาตอนเด็กๆถ้าแม่เห็นเราเหนื่อยๆ เค้าก็จะล้างหน้าล้างตาให้จะได้สดซื่นขึ้น
“ หายเหนื่อยยังครับ "
“ หายแล้วละ ขอบใจนะหัวหอม " ก้มหน้ายิ้มให้มัน ผมสูดลมหายใจที่อยากจะร้องไห้ออกมาเพราะความเหนื่อย กับความล้าของตัวเอง กลั้นน้ำตาแล้วอาบน้ำมันให้เสร็จ ทาแป้งแต่งตัวเรียบร้อย ก่อนจะออกมาจัดการในครัวเป็นอย่างแรก เทข้าวที่มันกินเหลือทิ้งไว้โชคที่ไม่มีมด อย่างที่คิดไว้ เพราะผมแพ้อย่างรุนแรงเห็นแทบไม่ได้เพราะจะคันไม่ทั้งตัว ล้างกล่องใส่ข้าว ล้างหม้อหุงข้าว ล้างทุกอย่างแม้กระทั้งขวดนูเทล่าที่หมดแล้ว ก่อนจะเปิดเครื่องดูดฝุ่นให้ดูดฝุ่นที่กระจายกระจายอยู่ในห้อง " หัวหอมมานี่มา "
“ ครับ " มาวิ่งมาหาผมก็ยื่นตะกร้าใส่ของเล่นให้มัน
“ เก็บของเล่นทั้งหมดใส่ในตะกร้าแล้วเอาไปตั้งไว้ที่เดิมนะ "
“ แต่ว่าเดี๋ยวกาลิคก็เล่นอีก " มันต่อรอง
“ ถ้าจะเล่นอีก ตอนที่จะเล่นก็ค่อยเอาออกมาเล่น ตอนนี้เก็บเรา เราต้องทำความสะอาดห้องก่อนนะ "
“ แต่ว่า อาขม "
“ ไม่งอแงนะ " ผมพูดเสียงนิ่งๆ " อาขมเหนื่อยแล้ว ช่วยอาขมหน่อยนะ "
“ อาขมเหนื่อยเหรอ " มันถามผมก็พยักหน้ารับ “ ทำไมถึงเหนื่อยละ "
“ เพราะวันนี้อาขมเจอเรื่องแย่ๆมา เพราะงั้นหัวหอมก็ต้องช่วยอาขมนะ เก็บของเล่นของตัวเองซะ "
“ ก็ได้ครับ " มันว่าง่ายขึ้นมาทันที อาจเพราะไม่เคยเห็นมุมนิ่งๆแบบนี้ของผม มุมที่ผมพยายามข่มจิตข่มใจให้นิ่งที่ที่สุดเพราะไม่อยากจะระเบิดอารมณ์หงุดหงิดใส่เด็ก " เสร็จแล้วครับ "
“ เสร็จแล้วก็มานี่ อาขมมีอะไรจะถาม "
“ ครับ " มันเดินมายืนใกล้ๆตรงหน้าผนังที่มีปากกาสีขีดเขียนเต็มไปหมด ผมย่อตัวลงข้างหมด ผมพร้อมกับผ้าชุบน้ำหมาดๆสองผืน
“ บอกกูหน่อย ทำไมถึงเอาสีมาเขียนบนผนังแบบนี้ "
“ ก็เหมือนในทีวีไงครับ "
“ ทีวี ? “
“ ในทีวีนะ พอเราเอาดินสอไปเขียน มันก็ลบออกได้ แค่เอาผ้าเช็ดๆ " มันหยิบผ้าที่ผมถืออยู่ไปเช็ดแล้วก็พบว่า มันไม่ออก " อ้าว..ทำไมไม่ออก "
“ ก็นี่มันไม่ใช่สีแบบในทีวีไง " ผมทรุดลงนั่งกับพื้นอีกครั้ง อยากจะหัวโหม่งกำแพงแม่งให้พังไปเลย กูจะโทษใครดี โทษที่ตัวเองไม่ได้นั่งดูทีวีกับมัน หรือโทษทีวีที่ทำสื่อออกมาไม่ดี
“ โอ๋ๆอาขม " มันก้มลงมาลูบหลังผมปลอบๆ ก่อนจะดึงตัวเองลงนั่งตักแล้วกอดผมไว้ " ไม่ต้องร้องไห้นะ "
“ จะร้อง จะร้องไห้ ฮือๆ " ผมแกล้งบีบน้ำตา มือน้อยๆก็ลูบหลัง
“ โอ๋ๆ " มันที่ปลอบผม เอื้อมมือไปเช็ดคราบสีแต่พบว่ามันออกแต่พวกจุดเล็กๆ แต่พวกภาพใหญ่ไม่ออกเลย
“ นี่มึงวาดรูปอะไรเหรอ " ผมเอ่ยถามอีกคนก็หันมามอง
“ อันนี้คืออาขม " มันชี้ไปที่ภาพอะไรสักอย่างเหมือนไม้กางเขนขาดๆเกิน " อันนี้คืออาภาพ แล้วตรงกลางนี้ คือกาลิค ตรงนี้เป็นบ้านของเรา อันนี้เป็นน้อง เป็นน้องหมีของกาลิคแหละ "
“ เหรอ " ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ฟัง ผมแอบยิ้มแล้วหยุดที่จะเช็ดมัน " นี่คือภาพครอบครัวของมึงสินะ "
“ ช่ายยย นี่คือภาพครอบครัวของกาลิค มีอาขมนะ มีอาภาพ แล้วก็มีน้อง แล้วก็มีกาลิคด้วย " ยิ้มแล้วกอดมันไว้ แบบนี้จะให้ดุมึงลงได้ยังไงวะ ไอ้หัวหอมเอ้ยย
“ แต่หัวหอมฟังอาขมนะ มึงจะเอาสี หรือปากกา ดินสอ หรืออะไรก็แล้วแต่ มาขีดเขียนบนผนังไม่ได้ นี่ไม่ใช่ที่ขีด แล้วก็ไม่ใช่ที่เขียน ที่ขีดเขียนคือ บนกระดาษ เข้าใจมั้ย " ดึงมันให้ลุกขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้วหนิบกระดาษเอสี่สีขาวมาปึกใหม่ ก่อนจะตั้งไว้ใต้ทีวี " อันนี้อาขมให้หัวหอมนะ เอาไว้ขีดเขียนอะไรก็ได้ที่อยากจะขีด มันเขียนได้สองหน้าเห็นมั้ย " ผมพลิกกระดาษให้มันดู " ถ้าหมดแล้วก็บอก เดี๋ยวอาขมจะหยิบให้นะ "
“ ครับ "
“ แล้วต่อไป ให้จะวาดอะไรก็ วาดบนกระดาษนะ " ใบหน้าเล็กพยักหน้ารับ ผมก็ผ่อนตัวลงนั่งบนพื้นหน้าโซฟาอีกครั้ง
“ อาขมเป็นอะไร " หัวหอมเดินมานั่งตัก มันยกมือขึ้นลูบหน้าผม เหมือนผมที่ทำให้มัน
“ กูเหนื่อยอะ วันนี้เหนื่อยมากๆเลย "
“ เพราะกาลิคเหรอ "
“ ไม่ใช่หรอก " กอดมันไว้ก่อนจะซบลงไปที่ไหล่ " มันเป็นเพราะกูเองละ " กูที่ตื่นสาย ลืมของ แถมยังจัดการของกินเอาไว้ไม่ถูกที่อีก ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของใครหรอก ของกูเองทั้งนั้น เพราะถ้าตื่นเวลาปกติคงไม่มีปัญหาอะไร " กูจะไปอาบน้ำหน่อย มึงดูการ์ตูนไปก่อนนะ "
“ ครับ " หัวหอมพยักหน้ารับ ผมก็เข้าไปอาบน้ำสระผม ใส่ชุดกางบอลที่เนื้อผ้าเย็นๆก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟาที่อีกคนกำลังนั่งระบายสีอยู่บนพื้น หลับตาลงด้วยความเหนื่อยก่อนจะหลับไปทั้งอย่างงั้น ทั้งๆที่หัวยังเปียกอยู่
......................................................
“ กลับมาแล้วครับ " เอ่ยทักจากหน้าประตูห้อง ก่อนเท้าเล็กจะวิ่งเข้ามาหาผม พลางยกนิ้วแล้วทำเสียง ' ชู่ววววววว ' ยาวๆใส่ เหมือนกำลังจะบอกว่าให้เงียบ
“ อย่าเสียงดังนะ อาภาพ อาขมกำลังหลับอยู่ " หลุดยิ้มออกมากับคำพูดของเจ้าตัวเล็ก ผมอุ้มมันขึ้นมาก่อนจะเดินไปมองร่างบางที่กำลังนอนยาวอยู่บนโซฟา สงสัยคงจะเหนื่อยมาก ได้ข่าวจากชัดว่ามันต้องทำงานใหม่หมดเพราะลืมงานที่ต้องส่งไว้ที่บ้าน แต่ผมเองก็ไม่ต่างกัน เสือกทำรายงานผิดแบบไม่ดูอะไร เลยต้องนั่งทำงานใหม่ทั้งหมด กว่าจะได้กลับบ้าน ไม่น่ารีบทำเลยกู เพราะอยากจะมาเล่นกับไอ้ตัวเล็กตรงหน้านี่แท้ๆเลย ผมคว้ากาลิคเข้ามากอดหอมแก้มไปที พอปล่อยอีกคนก็เดินไปหาไอ้ขมมองมันหลับอยู่สักพัก มือเล็กก็เอื้อมไปหยิบผมที่ติดอยู่ที่หน้าอีกคนออก ก่อนจะนั่งลงเล่นที่เดิม
ผมจัดการไปอาบน้ำเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมานั่งข้างๆกาลิคที่กำลังสาดรูปอยู่ ไอ้ขมก็ยังหลับเหมือนเดิม ผมเอ่ยถามมัน " กาลิคกินอะไรกันดี "
“ อะไรก็ได้ครับ " มันบอกก่อนจะหันไปมองขม " อาขมยังไม่ตื่นเลย "
“ ปลุกมันดีมั้ย นี่ได้เวลากินข้าวแล้วนะ "
“ ไม่ได้นะ " มันห้ามผม " วันนี้อาขมเหนื่อยมาก แล้ว วันนี้กาลิคก็ซนมากๆ ทำให้อาขมเหนื่อย อาขมต้องพักผ่อนก่อน "
“ แล้วมึงไม่หิวเหรอ " อีกคนส่ายหน้า
“ หนูจะรอกินข้าวพร้อมอาขม "
“ นี่ ถ้ามันทำงานหนักมากๆ มันอาจจะหลับแล้วตื่นอีกที พรุ่งนี้เช้าเลยก็ได้นะ " และนั่นก็เป็นประสบการณ์คนที่ชอบรอมันกินข้าวแบบผม ครั้งนึงมันเคยทำงานทั้งคืนไม่นอน กลับมาจากเรียนคิดว่าจะไปกินข้าวด้วยกัน รอมันตื่นอยู่นานจนสุดท้ายต้องสั่งเคเอฟซีมากิน " ไปหาอะไรกินกันเถอะไป "
“ แต่อาขมยังไม่ตื่น "
“ เดี๋ยวเราค่อยซื้ออะไรมาเผื่อมันก็ได้ ไปกันเถอะไป " ผมก้มลงไปกระซิบมัน " ไปหาขนมกินกันไม่ต้องบอกขมด้วย ไป "
“ ไปครับ " กาลิคหันมายิ้มให้ผม มันที่ลุกขึ้นก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มไอ้ขมแล้วกระซิบบอก " เดี๋ยวกาลิคจะซื้อขนมมาฝากอาขมเยอะๆเลยนะ "
' พากาลิคออกไปกินข้าวนะ ถ้าตื่นแล้วก็โทรมา ภาพ ' ผมเขียนข้อความใส่กระดาษไว้ ก่อนจะส่งเข้าไปในมือถืออีกที เดี่ยวตื่นมาไม่เจอใครมันจะตกใจคิดว่ากาลิคหายตัวไป “ ไปกันไป " เอื้อมมือไปจับมือของอีกคนไว้ ผมคว้าเอากระป๋าเงิน มือถือ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ห้างใกล้คอนโดที่เพียงแค่ข้ามถนนผมพาอีกคนมาสูดอากาศเย็นๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ " กินอะไรกันดี กาลิคอยากจะกินอะไร "
“ อยากกินขนม " มันบอก
“ ขนมค่อยซื้อ กินข้าวก่อน กินอะไรกันดี เคเอฟซีมั้ย "
“ ไม่ได้นะอาภาพ อาขมบอกว่ามันไม่มีประโยชน์ " ไอ้ตัวเล็กหันมาเถียงผม ที่ก็ตาโตขึ้นทันที คือมันจะรู้มั้ยว่าไอ้ที่มันกินๆเข้าไป ที่ไอ้ขมคิดว่ามีประโยชน์แม่งก็ไม่มีหรอก เผลอๆ เคเอฟซีที่ทอดร้อนๆ ยังจะมีประโยชน์ซะกว่า อย่างพวกขนมปังกับนมผมเห็นสมควรอยู่ แต่พอเป็นอาหารเที่ยงที่ซื้อของสำเร็จมาจากเซเว่น แล้วอุ่นเอา โซเดียมแม่งเยอะกว่าเห็นๆ แต่มันแค่ไม่รู้สึกตัวเท่านั้นแหละ
“ แล้วมึงอยากจะกินมั้ยละ " ผมก้มลงถาม " ถ้ามึงอยากกินกูจะไม่บอกขมหรอก เก็บไว้เป็นความลับดีมั้ย " เจ้าตัวเล็กทำท่าคิดก่อนจะเม้มริมฝีปากตอนที่ผมพาเดินไปยืนอยู่หน้าร้านเคเอฟซี มันเอียงตัวเข้ามาเบียดผมก่อนจะพยักหน้ารับ
“ ก็อยากกินครับ "
“ งั้นไปกินกัน " อุ้มมันขึ้นให้ดูเมนูที่ป้ายใหญ่ๆ เลือกเมนูที่อยากจะกินกันเป็นไก่กรอบตรงส่วนน่องกับสะโพก จัดการสั่งข้าวเปล่าให้กาลิคด้วย ส่วนผมก็แน่นอนว่า ต้องสองชิ้นพร้อมกับข้าวยำไก่แซ่บ แล้วก็แป็ปซี่แก้วใหญ่
“ มาแล้วๆ " อีกคนที่บอกเสียงดัง ผมยกของไปตั้งไว้บนโต๊ะ ก่อนจะตักไก่สองชิ้นให้มันในจาน ยื่นน้ำเปล่าให้อีกคนก็ถาม " อาภาพ อาภาพ กาลิคอยากจะกินอันนั้น " มันชี้มาที่แป็ปซี่ผมก็พยักหน้ารับ
“ ได้ เดี๋ยวให้ลองกิน แต่มึงต้องกินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จเดี๋ยวให้กินนะ "
“ ครับ " พยักหน้ารับก่อนจะเริ่มกินข้าวแบบไม่งอแง สองมือเล็กข้างนึงจับไก่กินข้างนึงตักข้าวใส่ปาก ซอสที่ทาลงบนข้าวกับไก่ ถ้าไอ้ขมมาเห็นตอนนี้ต้องกรี๊ดจนห้างถล่มแน่นอน เพราะมีแต่ของที่มันไม่ค่อยอยากจะให้กาลิคกินทั้งนั้น " อาภาพ อร่อย "
“ ใช่มั้ยละ "
“ เดี๋ยวเราไปซื้อขนมกันด้วยดีมั้ย "
“ อื้อๆ ไปครับ กาลิคจะให้หมดเลย แล้วเดี๋ยวเราไปซื้อขนมกันด้วยนะ "
“ ครับผม กินให้หมดละกัน " แล้วมันก็ทำตามที่มันพูดไว้ กาลิคกินข้าวจนหมด ไก่สองชิ้นนั้นไม่มีเหลือเลย ผมรินแป็ปซี่ใส่แก้วให้มันครึ่งแก้ว คำแรกที่อีกคนดูดเข้าไป มันก็ย่นหน้าก่อนจะทำเสียงซ่าส์ออกมาจากปาก
“ อร่อย "
“ แน่นอน นี่แหละของดี "
“ อยากจะกินอีก " มันว่าก่อนจะยื่นแก้วมาให้ผม " ขอกินอีกนะอาภาพ "
“ จัดไป เอาไปเลย " รินแป็ปซี่ให้มันอีกนิดหน่อยอีกคนที่ดูดจนหมดมันยิ้มออกมา
“ อร่อย กาลิคอยากจะกินอีก " ยื่นแก้วมาให้อีกรอบผมก็ยื่นเงินให้มัน
“ เอาไปเงินไปซื้อไป บอกพี่เค้าว่า แป็ปซี่แก้วเล็กนะ " รับเงินจากผมไป มันก็วิ่งไปที่เค้าเตอร์ ผมมองดูมันที่รอรับแป็ปซี่แก้วเล็กก่อนจะเดินดูดมา มันยื่นเงินให้ก่อนจะไปนั่งกินเรียบร้อยอยู่ตรงหน้า เหลือบมองมือถือที่ตั้งอยู่ข้างๆ กลัวที่สุดก็สายเข้าแล้วถามว่าอยู่ไหนนี่แหละ ถ้ามาเห็นไอ้กาลิคกินแป็ปซี่เป็นแก้วแบบนี้ คงต้องเอากูตายแน่ๆ
เดินออกจากร้านอาหาร มันที่ยังดูดแป็ปซี่อยู่นั้นผมจุงมืออีกข้างของกาลิค เดินไปเรื่อยๆตามทางที่ก็ต้องยอมรับเลยว่าโคตรจะอิ่ม ผมเดินไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อีกคนชอบกิน จัดการสั่งอาหารเช็คนึงกลับบ้าน ก่อนจะก้มลงไปบอกกาลิค
“ กาลิค "
“ ครับ "
“ เดี่ยวเรากลับถึงบ้าน ถ้าอาขมถามว่าไปกินอะไรกันมา ให้บอกว่า ไปกินอาหารญี่ปุ่นมานะ เข้าใจมั้ย " อีกคนพยักหน้ารับ " ไหนซ้อมสิ สมมุตินะกูเป็นขมนะ หัวหอมวันนี้ไปกินอะไรกับอาภาพมา "
“ ไปกินอาหารญี่ปุ่นมาครับ "
“ ดีมาก " ขยี้หัวมันอีกคนก็ยิ้มหวานให้
“ อาภาพ อาภาพ กาลิคอยากจะกินขนมร้านนั้น " ผมหันมองตามมือเล็กๆของอีกคนที่ชี้ไป มันเป็นร้านขนมญี่ปุ่นครับราคาก็ใช้ได้อยู่แต่ก็อร่อยสมเป็นขนมนำเข้าละนะ
“ ได้สิ " จ่ายเงินพนักงานร้านอาหารเรียบร้อยก่อนจะเดินไปที่ร้านขนมอีกร้าน กาลิคมันเดินดูอยู่นานก่อนจะเดินไปหยิบตะกร้าแล้วเดินมาถามผม
“ อาภาพ กาลิคซื้อได้กี่ชิ้น "
“ กี่ชิ้นเหรอ " ปกติไอ้ขมจะเป็นคนกำหนดสินะว่าให้ซื้อได้กี่ชิ้น จะว่าไปขนมที่นี่ก็แพงอยู่ชิ้นเดียวก็หลายบาทแล้ว ถ้าให้ซื้อชิ้นเดียวก็สงสาร มันคงอยากจะกินเยอะๆ ผมหยิบเงินแบงค์พันขึ้นมา
“ เอาเป็นว่าเราสองคนซื้อในงบนี้ก็แล้วกัน ห้ามเกินโอเคมั้ย "
“ ครับ " เจ้าตัวเล็กว่าเสียงใสก่อนจะเดินไปหยิบขนมที่มันชอบมาใส่ตะกร้า ผมหยิบพวกเจลลี่ที่ไอ้ขมชอบใส่ตะกร้าไปเกือบทุกรส แล้วก็พวกขนมที่มันชอบกินแบบ มันฝรั่งทอดมันม่วง กาลิคเองมันก็เลือกช็อคโกเล็ตแล้วก็ขนมที่แปลกๆ ที่มันไม่เคยกิน จัดการคิดเงินก็อย่างที่บอกไม่เกิน พันนึงหรอก แต่ก็เก้าร้อยกว่าๆแล้ว
“ คราวนี้ก็ไปเอาข้าวให้อาขมแล้วกลับบ้านกัน " จูงมืออีกคนไปรับข้าวกล่องจากที่ร้านอาหารก่อนจะเดินกลับมาที่คอนโด " กาลิค ดูดน้ำให้หมดเร็วต้องทิ้งแล้ว "
“ ต้องทิ้งเหรอ "
“ ใช่ ถ้าอาขมรู้ว่ามึงกิน อาขมจะโกรธนะ เพราะงั้นอย่าให้อาขมรู้นะเข้าใจมั้ย " มันพยักหน้ารับ " แล้วจำได้ใช่ว่าถ้าอาขมถามว่า ไปกินอะไรมา ให้ตอบว่าอะไร "
“ ตอบว่าไปกินอาหารญี่ปุ่นมา "
“ ดีมาก อะ ดูดซะ ดูดๆ ให้หมดนะ " ผมว่า อีกคนก็ดูดน้ำจนหมดแล้ว เสียงที่ดูด ที่ดูดจนแทบจะแก้วแทบทะลุ " พอแล้วมั้ง จะกินแก้วเข้าไปด้วยรึไง "
“ กาลิคเอาไปทิ้งนะ " มันบอกก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กไปที่ถังขยะ ก่อนจะกลับมาจูงมือผม " อาภาพ กลับขึ้นไปบนห้อง กาลิคจะกินขนมเลยได้มั้ย "
“ ได้สิ แต่ต้องแบ่งไว้กิน ห้ามกินหมดทีเดียวละ "
“ ครับ " เจ้าตัวเล็กพยักหน้า " แล้ว แล้วอาภาพว่า อาขมจะตื่นยัง "
“ ไม่รู้สิ ยังมั้ง มันเหนื่อยอะ หรืออาจจะตื่นแล้ว "
“ เดี๋ยวกาลิคนะ จะวิ่งไปหอมแก้มอาขมแหละ แบบนี้ แบบนี้ " มันหอมลงที่แขนผมก่อนจะเหวี่ยงไปมายิ้มๆ เราเดินมาถึงหน้าคอนโด กาลิคลิฟต์เปิดผมก็กดปุ่มชั้นของห้อง ตอนที่ไขกุญแจเข้าไปในห้องผมพบว่าคนที่หลับอยู่ตอนที่เราออกไปก็ยังหลับอยู่ตรงนั้น
“ ยังหลับอยู่เลย " ผมบอก กาลิคก็เดินเข้าไปใกล้ มันหอมแก้มไอ้ขม ก่อนจะพูดเสียงเบาๆ
“ อาขม กาลิคกลับมาแล้วนะ ซื้อข้าวอร่อยๆ แล้วก็ขนม มาให้อาขมด้วยนะ "
“ เหรอ! ” คนโดนหอมเด้งตัวขึ้นมาก่อนจะกอดรัดเจ้าตัวเล็กไว้ อีกคนที่สะดุ้งน้อยๆด้วยความตกใจก่อนจะกลายเป็นหัวเราะชอบใจตอนที่ถูกอุ้มไปกอดแล้วหอมแก้มเสียฟอดใหญ่
“ หื้ม นี่ไปกินอะไรกันมา " คำถามที่ทำให้ผมกลืนน้ำลายลงคอ มองดูไอ้ตัวเล็กที่หันไปบอกเสียงใส
“ ไปกินอาหารญี่ปุ่นครับ "
“ เหรอ อาหารญี่ปุ่นที่ว่ากินอะไรกันเหรอ " ไอ้ชิบหาย กูก็ลืมเตี้ยมว่าให้บอกว่ากินอะไร
“ กาลิคกินไก่ทอด " มันว่าซื่อๆ " อร่อยมากเลย "
“ ไก่ทอดเหรอ "
“ คาโรเกะอะมึง " ผมบอกตัดความสงสัยของมัน อีกคนก็พยักหน้ารับ
“ เหรอ คาโรเกะ แต่กลิ่นติดแก้มนี่ยังกับไก่เคเอฟซี " คำพูดที่ชวนให้ผมชะงัก ก่อนจะยิ้มบอกมัน
“ ไก่ทอดเหมือนกัน กลิ่นมันคงคล้ายๆกันนั่นแหละ " วางถุงขนมกับข้าลงบนโต๊ะผมเปลี่ยนเรื่อง " กูซื้อข้าวมาให้มึงด้วยอะ มากินได้แล้ว "
“ ขอบใจ " มันว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินมาที่โต๊ะ จัดการเปิดถุงตัวเองออกดูก่อนจะหันไปมองอีกถุง " เดี๋ยวนี่ซื้อขนมมาทำไมเยอะจังวะ นี่มึงซื้อให้กาลิคเหรอ "
“ มีของมึงแล้วก็ของกูด้วย รวมๆกัน "
“ ตามใจมันมากกว่ากูว่า " ขมบอกก่อนจะส่ายหน้าไปมา มันรื้อถุงขนมก่อนจะบ่นไปเรื่อย " มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยเนี้ย แล้วดูแต่ละอย่างก็หวานๆทั้งนั้นอะ หัวหอมนี่อันไหนของมึงบ้าง "
“ ทั้งถุงเลยของกาลิค " เด็กน้อยว่าอวด แต่หารู้ไม่ว่ากำลังสร้างความชิบหายให้ผม
“ ไม่ใช่ มีของกูด้วย " ผมบอกปัดมันอีกคนก็เหล่มอง " อย่ามองกูแบบนั้นสิวะ กูผิดเหี้ยอะไรเนี้ย ก็แค่ขนมก็เก็บไว้กินสิ "
“ เด็กมันไม่เก็บไว้กินหรอกมึง เดี่ยวก็งอแงจนขอกินจนหมด ทีหลังถ้าจะซื้อชิ้นเดียวพอเข้าใจมั้ย "
“ ครับ " ผมตอบเสียงอ่อนกาลิคก็เดินมาใกล้
“ อาภาพหนูอยากจะกินขนม "
“ บอกอาขมสิ "
“ ไม่เอา บอกอาขม อาขมไม่ให้กิน บอกอาภาพดีกว่า อาภาพให้กิน นะครับนะ ขอกินขนมหน่อย " คำพูดที่ทำให้ไอ้ขมมองผมนิ่งๆ ที่ก็หยุดยิ้มแห้งๆให้มันก่อนจะมองไปทางอื่น " หยิบขนมกล่องนึงให้มันอีกคนก็วิ่งไปนั่งหน้าทีวีไม่ทุกข์ร้อนอะไรแล้ว หลงเหลือไว้เพียงแค่กูที่คิดว่ายังคงตอบคำถามคนตรงหน้าอีกยาว
“ นี่ตามใจถึงไหนวะ บอกความจริงกูมาดีกว่า คาโรเกะเนี้ย.. เคเอฟซีใช่มั้ย ไอ้สัด " ผมเงียบอีกคนก็หันไปหากาลิค " หัวหอมมานี่หน่อย "
“ ครับ "
“ วันนี้ไปกินเคเอฟซีมาใช่มั้ย " มันเหลือบมองผมตอนที่ไอ้ขมถาม " ไม่ต้องมองอาภาพหรอก เด็กดีไม่โกหกนะ ถ้าโกหกอาขมจะโกรธมากๆเลยด้วย วันนี้ไปกินเคเอฟซีมาใช่มั้ย "
“ หนูบอกไม่ได้ อาภาพบอกว่าไม่ให้บอกอาขม " อื้ม...นั่นมึงก็บอกไปแล้วไง ผมผ่อนลมหายใจออกมาอีกคนก็ยกยิ้ม
" แล้วกินอะไรบ้างละ ที่เคเอฟซีน่ะ "
" กินข้าวกับไก่แล้วก็น้ำอร่อยๆครับ "
" น้ำอร่อยๆ " มันทวนคำ " สีอะไรเหรอ "
" สีดำครับ " ไอ้ชิบหาย บอกทำไมมมมมมมม
" ชาดำเย็นก็ได้มึง " ผมขัดขึ้นไอ้ขมก็หันมาชักสีหน้าใส่ มันผ่อนลมหายใจออกมา
" ไปนั่งดูทีวีไป "
“ แค่นิดหน่อยอะมึง เดี๋ยวมันไม่เคยกิน มันก็พูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง ก็เท่านั้นอะ " ผมอธิบายให้อีกคนฟังที่ก็ยังนิ่งอยู่ สายตาเรียวที่มองหน้าผม " อย่าโกรธเค้านะ เค้าขอโทษ "
“ ภาพ .. เคเอฟซียังพอทนนะ แต่แป็ปซี่นี่..หัวหอมมันยังกินไม่ได้ท้องมันยังไม่ดี แป็ปซี่กินเข้าไปแล้วมันจะกัดกระเพาะ "
“ แต่ตอนที่กูให้มันกิน มันกินข้าวแล้วนะ กินไปเยอะด้วย "
“ นี่มึงยังจะเถียงอีกเหรอวะ "
“ ก็เปล่าครับ " ผมก้มหน้าลงอีกคนก็ส่ายหน้าไปมา มันถอนหายใจออกมา
“ อย่าให้มีเป็นครั้งที่สองแล้วกัน กูไม่รู้พูดเหี้ยอะไรกับมึงแล้ว รำคาญ " เจ็บยิ่งกว่าคำด่าใดๆ คือไอ้ขมที่ไม่พูดอะไรและไม่สนใจผมนี่แหละ " พูดไปก็เท่านั้น กูแล้วกินข้าวดีกว่า "
“ เชี้ยขม ขอโทษ " ผมบอกอีกคนก็ถอนหายใจ
“ ไม่ได้โกรธ แค่มึงน่าจะรู้บ้างว่าอะไรควรให้กิน อะไรไม่ควรให้กิน อะไรที่ตามใจได้ อะไรที่ไม่ได้ เราต้องช่วยกันเลี้ยงมันนะ ไม่ใช่ให้กูต้องเลี้ยงคนเดียวแล้ว กูเป็นคนออกกฏแล้วมึงให้ท้ายมันช่วยมันแหกกฎ แล้วกูจะสร้างกฏมาเพื่อมะเขือยาวเหี้ยไรละ แล้วขนมนี่อีก เยอะไปไอ้สัด ซื้อทำไมเยอะแยะ เดี่ยวมันก็กินแต่ขนมไม่กินข้าวอีก " ยืนฟังมันบ่นนิ่งๆ ไอ้ขมที่ถอนหายใจออกมา มันเดินเข้าไปในครัวหยิบช้อนมากินข้าวไม่สนใจผมอีกเลย
“ เชี้ยขม อย่าโกรธดิวะ "
“ โกรธ ไม่ต้องมาพูดกับกู พรุ่งนี้กูถึงจะหาย จะไม่คุยกับมึงทั้งคืนเลย ค่อยคุยใหม่พรุ่งนี้ "
“ เชี้ยย ไม่เอา คุยกันก่อน "
“ ไม่ สัด " มันบอกปัดผมก็นั่งลงตรงหน้ามันอีกคนก็ยังทำนิ่งไม่สนใจ หันไปมองถุงขนมผมหยิบเจลี่ที่ซื้อมันขึ้นมา อีกคนก็มองตาม ไอ้ขนมชอบเจลี่จากญี่ปุ่นเจ้านี้มาก กินทีสองสามห่อ
“ กูซื้อเจลลี่มาฝากมึงด้วย หมดนี่เลย "
“ เหรอ " มันเผลอพูดออกมาทันทีตอนที่เห็นของกินผมก็หลุดยิ้ม
“ ไหนบอกไม่พูดไง "
“ ไอ้สัด ไม่ต้องเอาของกินมาล่อกูเลย " มันก้มหน้าลงกินข้าวต่อทำเป็นไม่สนใจอีกครั้ง
“ ไม่กินจริงเหรอวะ " ผมยื่นให้อีกคนก็ยังนิ่ง " อะ กูให้จริงๆ " มือบางที่ยื่นมือมารับผมก็ยึดไว้ก่อนจะเอ่ยถาม " หายโกรธกูก่อนแล้วจะให้ "
“ ทำไมมึงชอบต่อรอง ด้วยของกินตลอดตั้งแต่เด็กแล้วนะ "
“ ก็มันได้ผล "
“ มันทำให้กูดูเหมือนคนเห็นแก่กิน " ผมหลุดยิ้มตอนที่อีกคนบอก ก็จริงอย่างที่มันว่ากับมันแค่ล่อด้วยของกินแค่นั้นก็หายโกรธแล้ว
“ ไม่เห็นจะเป็นไร ดีซะอีก ที่มีอะไรสักอย่างมาทำให้มึงหายโกรธกูได้ตลอด "
" ไม่อยากจะโกรธกับกูขนาดนั้นเลยเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมคิดตอนที่จ้องหน้ามันอยู่ตอนนี้ ถ้าต้องโกรธกันหรือไม่ได้พูดอะไรด้วยกันสักพัก
" ไม่ใช่ว่าโกรธกันไม่ได้นะ แต่ทางที่ดี ไม่โกรธกันดีกว่า " ผมบอกมันก็ยิ้ม " ยิ้มเหี้ยอะไร "
“ เหมือนกันเลยไอ้สัด " ขมบอก เราที่ต้องหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมา " เป็นความสัมพันธ์ที่เหี้ยดีจริงๆ จะโกรธกันให้ครบชั่วโมงยังไม่ได้เลย " เป็นความสัมพันธ์ของเพื่อนที่ประหลาดดี ประหลาดจนบางทีก็รู้สึกว่า มันน่าจะมากกว่าเพื่อนไปแล้ว
..........................................................
นิยายตอนนี้อาจจะมีคำผิดเยอะกว่าปกติ ขออภัย
คนเขียนป่วย ปวดท้องหนักมากไม่สามารถตรวจเช็คได้ทันเวลา
จริงๆกว่าจะเสร็จตอนนี้ใช้เวลานานไปหน่อยนะคะ เลยไม่มีเวลาตรวจ
ยังไงขออภัยด้วยนะคะ #กราบงามๆ
ขอบคุณทุกคนคอมเม้นท์ที่เข้ามาเม้นท์นะคะ หนมอ่านทุกเม้นท์เลย
อยากให้คอยช่วยเป็นกำลังใจพ่อแม่มือใหม่ไปเรื่อยๆ ทุกปัญหามีจุดเริ่มต้น เพื่อแก้ไข และ ปูไปหาพล๊อตใหม่เรื่อยๆ ละเนอะ ทุกอย่างก็มีเหตุผลของมัน แม้กระทั้งว่า ทำไมไม่เข้าโรงเรียน ทำไมไม่บอกผู้ใหญ่ มันมีเหตุผลของมันอยู่ ต้องอ่านกันไปเรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
หนมฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
เจอกันตอนหน้าจ้า