เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 13
ตื่นมาตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่สดใสมากกว่าทุกวัน อาจเพราะเมื่อวานนอนหลับไปตื่นนึงพอถึงกลางดึกก็หลับเร็วอีก เช้าวันนี้ก็เลยตื่นก่อนนาฬิกาปลุกเสียอีก ผมจัดการอาบน้ำจัดกระเป๋าของตัวเองเรียบร้อยเช็คให้แน่ชัดว่าไม่ลืมอะไรแน่ๆก่อนจะเดินออกไปจัดการทำอาหารเช้าแล้วก็เที่ยงเตรียมไว้ให้เด็กที่ยังคงหลับสนิทอยู่ในห้อง
“ อ้าว ตื่นแล้วเหรอวะ " เสียงทักที่มาพร้อมกับประตูห้องที่ถูกเปิดออก ไอ้ภาพที่ยังคงงัวเงียมันหาวออกเสียงดังก่อนจะขยี้หัวไปมา
“ ทำไมมึงตื่นเร็วจังวะ "
“ กะว่าจะตื่นมาช่วยมึงทำนู้นนี่ให้กาลิคบ้าง มึงจะได้ไม่เหนื่อยทำคนเดียว " หันไปมองหน้ามันด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ว่ามันจะเป็นคนพูดคำนี้ออกมา " มองเหี้ยอะไรแบบนั้น "
“ ก็เปล่า แค่รู้สึกว่าคนอย่างมึงนี่อะนะ จะมาช่วยกู "
“ ช่วยมองกูในแง่ดีหน่อย " ภาพบอกก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อที่โซฟา ผมเองก็กรอกตามองบนกับการกระทำทั้งหมดนั่นและสิ่งที่มันแสดงออกมา คือกูจะมองมึงในแง่ดีได้ไงวะกูงง คือพอมึงตื่นมาเห็นกูตื่นแล้ว มึงก็ไม่ต้องทำแล้ว มึงนอนต่อเลย โอ้โห มองทางไหนก็มีแต่ความเลวอะครับพี่บอกเลย
“ แล้วมึงไม่ไปอาบน้ำอะ "
“ อีกสิบนาทีค่อยอาบ " มันบอกก่อนจะคว้ามือถือมาทำอะไรสักอย่าง คงจะตั้งเวลาก่อนจะหลับต่อที่โซฟานั้น ผมจัดการของสำคัญให้หัวหอมจนเสร็จ วันนี้ทำขนมปังเผื่อตัวเองด้วย อยากจะกินอาหารเช้าพร้อมมัน
“ เสร็จเรียบร้อย ต่อไปก็ไปปลุกไอ้หัวหอมมาอาบน้ำกินข้าว " พูดกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน นั่งลงบนเตียงปลุกอีกคนที่ยังหลับสนิทอยู่ " หัวหอม ตื่นได้แล้ว เช้าแล้ว " เขย่าแขนปลุกมันช้าๆก่อนที่อีกคนจะลุกขึ้นมาทำหน้างงๆเพราะยังง่วงอยู่
“ อาขมมม " มันเรียกก่อนจะเอื้อมตัวมากอดผมไว้ ลูบหลังอีกคนเบาๆ
“ กินน้ำหน่อยมั้ย อะ " ยื่นน้ำขวดเล็กที่เดี๋ยวนี้ต้องเอามาตั้งข้างเตียงทุกวันเพราะตื่นเช้ามาหัวหอมต้องกินน้ำผมเคยอ่านหนังสือเค้าบอกว่าจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี รวมถึงระบบต่างๆในร่างกายด้วย " คราวนี้ก็ไปอาบน้ำ วันนี้นะกูทำขนมให้มึงกินเรียบร้อยแล้ว อาบน้ำแล้วก็ออกไปกินขนมอร่อยๆกัน "
“ คร๊าบบบบ " หัวหอมพูดเสียงเบา ผมพามันไปอาบน้ำเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาจากห้องแล้วพบว่าคนที่นอนอยู่เมื่อกี้เข้าห้องไปอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
“ ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เลย เดี๋ยวกูไปรินนมให้ " ปล่อยมือจากมันอีกคนที่เดินไปนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อย เลื่อนขนมปังของตัวเองมาไว้ตรงหน้าก่อนจะหยิบขึ้นกิน " อันนี้นมนะ " วางนมของอีกคนลงตรงหน้าเป็นนมสีชมพูรสโปรดของมัน ก่อนจะกลับไปรินนมของตัวเองแล้วมานั่งลงที่เก้าฝั่งตรงข้าม หยิบขนมปังขึ้นมากิน
“ อาขม อาขม เมื่อไหร่จะเสาร์อาทิตย์ "
“ เสาร์อาทิตย์เหรอ " วันนี้ก็วันอังคารแล้ว " อีกสามวัน อยากจะไปเที่ยวแล้วละสิ "
“ อื้มๆ อยากไปเที่ยว อยากไปข้างนอกกับอาขม อาภาพแล้ว " มันว่าก่อนจะกินนมเข้าไปแล้วตามด้วยขนมปังอีกแผ่น " เสาร์อาทิตย์นี้อาขมอาภาพจะพากาลิคไปไหน "
“ ไปสวนสัตว์เป็นไง " เสียงของไอ้ภาพดังออกมาพร้อมกับประตูห้องที่เปิดออก มันเดินมาที่โต๊ะก่อนจะคว้าเอาขนมที่ผมกินอยู่เข้าไปกินแบบคำเดียวหมด
“ ไอ้เชี้ยภาพพพพพ นั่นของกูนะ ทำไมแย่งวะ นิสัยไม่ดีเลย สัด "
“ ฮ่าๆ " เสียงหัวเราะถูกใจของมัน แต่ยังไม่หมดแค่นั้น มันยกนมในแก้วของผมขึ้นกินจนหมดก่อนจะวางแก้วเปล่าไว้ที่เดิม
“ ไอ้เชี้ยยยย นมกู "
“ ก็ไปรินใหม่สิ ขี้เหนียววะ " มันบอกก่อนจะเชิดหน้าไปถามไอ้หัวหอม " อาขม ขี้เหนียวเนอะกาลิค "
“ อาภาพนิสัยไม่ดี แย่งขนมกับนมของอาขมหมดเลย " มันบอกแต่อีกคนก็หาได้ใส่ใจอะไรไม่ ภาพเดินเข้าไปในครัวเปิดตู้หาขนมที่ซื้อมาเมื่อวานก่อนจะแกะกิน
“ ยัง ยังไม่ขอโทษกูอีก นี่มึงทำผิดนะไอ้สัดภาพ "
“ ซีเรียส ? “ มันถาม ผมก็หันมองหัวหอมที่มองเราอยู่
“ เป็นการกระทำที่เด็กไม่ควรเอาอย่างอะ ทุเรศ คนดีๆที่ไหนเค้าทำ " ด่ามันเสร็จผมก็หันไปบอกไอ้ตัวเล็กที่นั่งอยู่ " หัวหอมฟังนะ อย่าแย่งของของเพื่อนกิน แม้แต่ของของอาขมหรือ อาภาพก็ไม่ได้นะ เพราะเราจะดูไม่ดี แล้วมันก็เป็นนิสัยที่ไม่น่ารักด้วย เห็นมั้ยเมื่อกี้อาภาพ ดูไม่น่ารักเลย แล้วก็ดูแย่เอามากๆ อย่าไปเอาอย่างคนแบบนั้นนะ "
“ คนแบบนั้นเลยเหรอวะ " ไอ้ภาพถาม
“ ใช่ คนแบบมึงอะ อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะ ไม่งั้นหัวหอมจะไม่มีเพื่อนเลยรู้มั้ย " เอื้อมมือไปลูบหัวอีกคนที่พยักหน้ารับ " แล้วเวลาทำผิด ก็ต้องขอโทษไม่ใช่ทำตัวเหมือนไม่คิดว่าตัวเองผิด ผิดก็ต้องยอมรับว่าตัวเองผิดนะ "
" ครับ แต่ว่า อาภาพไม่รู้ว่าตัวเองผิดเลยไม่ขอโทษอาขม "
" รู้ครับ แต่อาภาพน่ะ เป็นคนนิสัยไม่ดี เลยไม่ขอโทษใคร หัวหอมก็อย่าเอาเป็นตัวอย่างนะ "
" ครับ กาลิคจะไม่ทำแบบอาภาพ เพราะอาภาพนิสัยไม่ดี แล้วก็ไม่น่ารัก " มันว่าแบบนั้นก่อนจะหันมองร่างสูงที่ยังยืนนิ่งมองเราสองคนที่ก็ยังมองมันอยู่ สายตาที่มองมันความไม่ชอบใจของเราทั้งคู่อีกคนก็เลิกลั่กก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา
" ผมขอโทษครับ ที่ทำแบบนั้น คราวหลังจะไม่ทำอีก ขอโทษนะครับ "
" อาภาพขอโทษแล้ว อาขมหายโกรธอาภาพยัง " หัวหอมถามผมก็มองหน้ามัน ก่อนจะพยักหน้ารับ
" อาขมให้อภัยอาภาพนะ เพราะเราเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน แล้วหัวหอมจำเอาไว้นะ ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะหายโกรธกันง่ายๆหรอก เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ต้องระวังนะ อย่าไปทำให้ใครโกรธนั่นดีที่สุดแล้ว " ผมบอกก่อนจะขยี้หัวมันอีกที แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว หยิบขนมที่ไอ้ภาพกับหัวหอมซื้อมาเมื่อวาน สองกล่องก่อนจะจัดการล็อคกุญแจเรียบร้อยกันเด็กแอบเปิดกิน
“ อาขมกับอาภาพจะไปแล้วเหรอ "
“ ใช่แล้ว จะออกไปแล้ว " ภาพบอกก่อนจะเดินไปหามัน มือหนาลูบหัวอีกคนก่อนจะก้มลงหอมแก้ม " เดี๋ยวตอนเย็นกลับมาเล่นด้วยนะ "
“ อันนี้ขนมสองกล่องเอาไว้กินตอนดูทีวีนะ " มือเล็กที่รับไปอีกคนก็บอก
“ กลับมาเร็วๆนะ กาลิคจะคอย "
“ อื้ม เดี๋ยวเรียนเสร็จจะรีบกลับมาเลย " ผมบอกเสริม " ไหนมากอดกันก่อน " คำพูดที่ชวนให้เด็กตัวน้อยวิ่งลงจากที่นั่งแล้วตรงเข้ามาหาผม เรากอดกันแน่นมันที่หอมแก้มผม ส่วนผมเองก็หอมแก้มมัน " แล้วอาขมกับอาภาพจะรีบกลับมานะ "
“ ครับ "
“ เป็นเด็กดีละ แล้วมีอะไรโทรหาอาขมนะ โทรออกเป็นใช่มั้ย " อีกคนพยักหน้ารับผมก็หยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมาสะพาย
“ ไปก่อนนะไอ้ตัวแสบ ตอนเย็นเจอกัน "
“ บ๊ายบายย " มือเล็กๆที่โบกบ๊ายบายเราสองคนที่ก็เดินออกมาจากห้อง ล็อคประตูเรียบร้อยก่อนที่ผมจะหันไปกระชากคอไอ้ภาพเข้ามา เมื่อพ้นสายตาเด็กแล้ว
“ มึงแย่ง ขนมกูไอ้สัดดดดดด " จ้องมองหน้ามันอีกคนก็ยังยิ้มหว้างไม่ได้มีสีหน้ากังวลหรือว่ากลัวอะไร มันว่าล้อๆ
“ โห เชี้ยยยย น่ากลัวจัง "
“ แม่ง! นิสัยไม่ดีมาแย่งขนมกู "
“ อยากได้คืนอ๋อ " มันถามก่อนจะก้มหน้าลงมาใกล้ผม
“ อะไรของมึง "
“ จะจูบมึงไงแล้วคะย่อนเอาของกินใส่ปากมึง "
“ เชี้ย อย่านะมึง " ผมปล่อยมือออกจากคอมันก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น จะเอาเรื่องกับไอ้เหี้ยนี่สักที รู้สึกเหมือนตัวผมยังอยู่ไกลจากความเป็นไปได้อยู่มากโข เพราะมันต้องทั้งหน้าด้านและเล่ห์เหลี่ยมจัด ผมไม่มีทางสู้คนแบบนี้ได้หรอก ตั้งแต่เล็กจนโตเลย ให้ตายเถอะ
ขับรถมาถึงมหาลัยในเวลาเช้ากว่าปกติ รถที่เคลื่อนเข้าไปจอดที่ลานจอดรถสายตาของคนขับก็เหมือนจะหันไปเห็นอะไรดีๆเข้า
“ ขมๆ ดูทางซ้ายดิ "
“ ทางซ้ายยย " เอียงหน้าไปมองตามมันบอกก่อนจะหลุดยิ้มออกมา มันเป็นภาพของไอ้โมกับไอ้ชัดที่กำลังยืนคุยกันอยู่ ท่าทางก็ไม่ได้ดูสวีทอะไรกันหรอกแต่ก็อดแซวไม่ได้เลย " มึงชะลอรถกูจะแซวมัน " รถที่ชะลอผ่านหน้าไอ้สองคนนั้นผมลดกระจกก่อนจะตะโกนออกไป " สวีทอะไรกันตั้งแต่เช้าละแจ้ "
“ ไอ้เชี้ย " ไอ้โมที่พูดออกมาไม่ออกเสียง ผมก็ปิดกระจกรถก่อนไอ้ภาพจะจอดรถตรงล็อคที่ว่างผมก็เดินลงไปทักไอ้ชัดกับไอ้โม
“ ว่าไงคู่รัก "
“ พูดเชี้ยอะไรของมึงวะ " ไอ้โมบอกก่อนจะขยับเดินมายืนข้างผม มันเหลือบมองไอ้ชัดที่ยิ้มให้ก่อนจะก้มหน้าลง หน้าแดงๆของมันทำให้ผมหันไปยิ้มให้ไอ้ชัดที่ยืนมองอยู่
“ ขี้เขินเนอะ "
“ อื้ม " ชัดตอบ ไอ้โมก็ยิ่งเขินไปใหญ่
“ ไปเรียนเถอะมึงไป เดี๋ยวสาย " หน้าแดงๆของมันดึงแขนผมที่ก็พยักหน้ารับตามใจ จะเขินอะไรกันหนักหนาก็ไม่รู้ ทำตัวเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นไปได้ ผมหันไปตะโกนบอกไอ้ภาพ
“ ภาพกูไปก่อนนะ โมมันเขินชัด "
“ เออ ไปเถอะ " ยกมือโบกบ๊ายบายมันอีกคนก็โบกกลับมา ผมเดินออกจากลานจอดรถไปพร้อมๆไอ้โม ทีก็ยังเดินนิ่งๆไม่พูดอะไรออกมา แก้มแดงๆของมันชวนให้ผมหัวเราะ
“ หัวเราะอะไรของมึงวะ " มันเอ่ยถามผมก็ส่ายหน้า
“ เปล่าหรอก แต่มึงสองคนน่ารักดี ดูไปดูมา มึงสองคนก็ดูเข้ากันดีนะ "
“ พูดอะไรของมึงวะ " มันบอกปัดหน้าแดงๆ
“ เขินอีก " ส่ายหน้าไปมากับพวกปากไม่ตรงกับใจ เราเดินขึ้นดึกเข้าไปห้องเรียน เม้าส์มอยกับเพื่อนอยู่สักพักอาจารย์ก็เดินเข้ามาสอน
เวลาร่วมชั่วโมงที่ดำเนินไปช้าๆ หลายหลายทฤษฎีที่เรากำลังเรียนอยู่นั้น ผมนั่งจดสิ่งสำคัญที่คิดว่าจะออกสอบลงไปในสมุด ก่อนจะรู้สึกถึงความสั่นเบาๆ ของมือถือตัวเองที่ปิดเสียงไว้ " ใครโทรมาวะ " พูดบ่นออกมาเบาๆ ตอนที่เอาออกมาดูผมก็พบว่ามันเป็นเบอร์ของไอ้หัวหอม " หัวหอม "
“ พูดอะไรวะ ขม " ไอ้โมถามผมก็ส่ายหน้า
“ เปล่า แค่เพื่อนกูโทรมาอะ " กดปิดหน้าจอ " ไม่มีอะไรหรอก " คงจะแค่โทรมาเพราะคิดถึงมั้ง เดี๋ยวค่อยโทรกลับก็ได้
“ แล้วไม่รับสายละ "
“ รับได้ไงเล่าเรียนอยู่ รับอาจารย์ก็ได้ฆ่ากูสิ "
“ เออว่ะ ก็จริง " ผมหันมาสนใจสิ่งที่อาจารย์พูดอีกครั้ง ไม่อยากให้ไอ้โมรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ แต่แล้วโทรศัพท์ที่ไม่มีทีท่าจะเงียบ หรือหยุดสั่น ในใจผมที่ก็รู้สึกแปลกๆขึ้นมา อดคิดถึงเรื่องร้ายแรงที่สุดไม่ได้เลย เด็กตัวเล็กแค่นั้น อยู่คนเดียวอีก ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา..
“ โม กูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ "
“ อ่าๆ ได้สิ " ลุกขึ้นแล้วก้มหน้าให้อาจารย์ตอนที่เดินออกไปนอกห้อง ผมยกมือถือขึ้นมามาดูก็ยังมีสายเข้าของไอ้ตัวเล็กอยู่ ผมกดรับสาย
“ ว่าไง หัวหอม "
“ อึก ฮือๆ อาขม อาขม กาลิคปวดท้อง ปวดท้อง ปวดดดดด ปวด อาขม อึก ฮือๆ อาขมอยู่ไหน อาขมมาหากาลิค " เสียงงอแงที่ทำให้ผมตกใจได้ไม่น้อย ปากที่พูดอะไรไม่ออก ฟังแต่เสียงที่มันร้องไห้จนมือไม้สั่นไปหมด
“ ปวดท้องเหรอ ปวดท้อง ทำไงดีละ ปวดท้อง ขี้มั้ย ขี้ยัง อึอื๊อน่ะ อึอื๊อยัง "
“ กาลิคอึอึ๊อแล้วแต่กาลิคยังปวด อึอึ๊อไปหลายครั้ง อาขม กาลิคปวดท้อง อาขมช่วยด้วย อาขม อึก ฮือๆ "
“ กู กูจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้แหละ มึงทนหน่อยนะ กูกำลังจะไป ไม่เป็นไรนะ กาลิค อดทนนะ อดทนไว้ " ผมบอกมันทั้งๆที่ปากตัวเองยังสั่น สมองที่คิดไปต่างๆนานา หรือมันจะกินอะไรที่ผิดสำแดงไปวะ ผมพยายามนึกแต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิมทุกวัน
“ อาขมมม "
“ ไม่เป็นไรนะครับนะ อาขมกำลังจะไป จะไปเดี๋ยวนี้เลย " ผมบอกผ่านมือถือ ตอนที่วางสายมัน มือสั่นๆก็กดโทรหาไอ้ภาพ ที่ก็ไม่ยอมรับสักที ขาของผมวิ่งออกไปที่คณะของมันที่ห่างกับคณะของผมอยู่มาก ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามันเรียนอยู่ห้องไหนก็ตาม สายที่ถูกตัดผมโทรออกไปอีกรอบ โทรอยู่แบบนั้นจนกว่ามันจะรับ
“ มีอะไร " มันพูดเสียงเบาๆออกมา พร้อมกับเสียงของอาจารย์ที่เหมือนกำลังสอนอยู่
“ ภาพ กาลิคมึง กาลิคโทรมาหากูบอกปวดท้องมากๆ กูว่ามันน่าจะท้องเสีย มึง เรากลับบ้านเถอะ กูไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงบ้าง มันร้องไห้งอแงใหญ่เลย กูว่ามันน่าจะปวดมาก เราพามันไปโรงพยาบาลเถอะ .. ภาพ ไอ้ภาพ " เพราะไม่มีเสียงตอบรับ ผมเลยเรียกปลายสายซ้ำๆ แต่แล้วสายนั้นก็กดตัดสายไป " อ้าว ไอ้สัด " สถบออกมาตอนที่กดโทรไปหามันอีกครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับแต่ผมกลับเห็นมันที่วิ่งลงมาจากตึก ด้วยท่าทางรีบร้อน " ภาพ!”
“ มันเป็นยังไงบ้างวะ " อีกคนถามผม ด้วยท่าทางที่ร้อนรนไม่แพ้กัน " มึงโทรหามัน เรารีบไปกันเถอะ "
“ อื้ม " กดโทรออกแต่ก็ไม่มีคนรับสายนั้นอีก ใจผมที่เป็นห่วงก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูกมากขึ้น ไม่น่าเลย เมื่อกี้ไม่น่าวางสายแล้วโทรหาไอ้ภาพเลย ทำไมถึงทำอะไรไม่มีสติขนาดนั้นวะ เชี้ยเอ้ย!! " มันไม่รับเลยวะมึง มันจะเป็นอะไรเปล่าวะ "
“ โทรไปอีก โทรไปจนกว่ามันจะรับ " ขาที่วิ่งอยู่ข้างหน้า ผมเองก็ที่วิ่งตามหลังมา เราวิ่งมาจนถึงรถที่จอดก่อนจะขับออกไปทันทีแบบไม่ได้สนใจอะไรที่มหาลัยอีกเลย
“ มันไม่รับเลยวะ " ผมส่ายหน้าไปมา มือที่เริ่มสั่นของผม ตอนที่กดโทรอีกครั้ง อยู่ๆน้ำตามันก็ไหลออกมา ผมเผลอคิดว่าตอนนี้มันจะเป็นยังไงบ้าง อาจจะปวดท้องจนไม่สามารถมารับสายผมไหว หรืออาจจะปวดจนสลบไปแล้ว หรือว่าอะไรที่มันร้ายแรงกว่านั้น " ภาพ ทำไมมันไม่รับสิ รับสิ รับ หัวหอม มึงรับสายกูหน่อยเถอะนะ คนดี รับสิ รับ "
“ ใจเย็นๆ " มือหนาที่กำลังขับรถเอื้อมมือมาจับมือผม ในตอนนั้นผมก็ตวาดมันออกไป
“ กูใจเย็นไม่ได้แล้ว!! อึก ฮือๆ กูเป็นห่วงมันภาพ กูเป็นห่วงมัน “
“ กูรู้ขม กูรู้ กูกำลังรีบอยู่นี่ไง ใจเย็นๆนะ อีก สิบนาทีถึง มันต้องไม่เป็นไรสิ ใจเย็นๆนะ ถ้ากาลิคเห็นมึงร้องไห้เดี๋ยวมันก็คิดว่ามันจะเป็นอะไร มึงใจเย็นๆก่อนนะ " มือหนาที่กำมือผมไว้แน่นพยักหน้ารับมันก่อนจะยกมือขึ้นน้ำตาที่อาบแก้วอยู่ มือของผมก็ยังโทรหามันอยู่แบบนั้น ภาพมันเลื่อนมือขึ้นมาจับไหล่ปลอบๆ ก่อนจะปล่อยออกแล้วกลับไปตั้งใจขับรถเพื่อให้เราถึงเร็วที่สุด
จอดรถที่หน้าคอนโดผมวิ่งลงไปก่อน ไม่ได้รอไอ้ภาพเอารถไปจอดที่ลานจอดรถแต่อย่างใด กดลิฟต์ย้ำซ้ำๆ ตอนที่ขึ้นไปชั้นบน ผมวิ่งไปที่หน้าห้องก่อนจะไขกุญแจเข้าไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะเบิกตากว้างกับภาพที่เห็น ภาพที่ไอ้ตัวเล็กกำลังนอนขดตัวเองอยู่ที่พื้นหน้าห้องของผม เหงื่อมากมายที่ไหลออกมาจากตัวมัน พร้อมกับใบหน้าที่ซีดเผือก ผมวิ่งเข้าไปกอดมันไว้
“ หัวหอม หัวหอมมึงเป็นอะไรอะ หัวหอม " ตบหน้ามันเบาๆ อีกคนก็บรือตาขึ้นมามันพูดเสียงเบาจนผมแทบจะไม่ได้ยิน
“ อาขม.. ปวด.. ปวดท้อง ช่วย.. กาลิคด้วย กาลิคปวด "
“ กาลิค! “ เสียงของไอ้ภาพที่วิ่งเข้ามาสมทบมันอุ้มอีกคนขึ้นไปจากตักผมทันที ผมวิ่งตามมันลงไปที่รถ เข้าไปนั่งด้านในอย่างรู้งานไอ้ภาพก็อุ้มกาลิคมาวางบนตักผมที่ก็ลูบหัวมันแล้วกอดมันไว้แน่น รถที่สตาร์ทแล้วขับออกไปทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากจนผมแทบไม่ทันตั้งตัว โชคดีที่โรงพยายามอยู่ไม่ไกลจากคอนโดเรามาก และโชคดีมากๆที่ตอนนั้นรถไม่ติดหนักอย่างที่คิด
“ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร เรากำลังจะไปโรงพยาบาลกัน เดี๋ยวมึงจะไม่ทรมานแล้วนะหัวหอม อดทนหน่อยนะ "
ภาพจอดรถที่หน้าโรงพยาบาลผมที่วิ่งอุ้มมันออกไปบุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงเข้ามาผมก็วางมันลงไปบนนั้น น้ำตาอาบหน้าของผมพูดจากคำไม่เป็นคำ " ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย หัวหอม หัวหอมปวดท้อง เค้าปวดท้องมากๆ เค้าบอกว่าเค้าท้องเสียหลายครั้งแล้ว แล้วเค้าก็เหมือนจะไม่มีแรงอะไรเลย ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย ช่วยลูกผมด้วย "
“ ใจเย็นๆก่อนนะครับถึงมือหมอแล้วเดี๋ยวให้หมอช่วยตรวจให้นะครับ " บุรุษพยาบาลคนนั้นว่า ผมก็วิ่งตามรถเข็นเข้าไปที่ห้องตรวจ เสียงของหัวหอมก็ดังเบาๆออก
" อาขม.. อาภาพ.. อาขม.. อาภาพ.. กาลิคปวดท้อง ช่วยกาลิคด้วย "
“ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ถึงมือหมอแล้วนะหัวหอม ไม่เป็นไร " เอื้อมมือไปจับมือมันไว้ก่อนที่ผมจะถูกดันให้ออกไปจากห้องตรวจแล้วเค้าก็บอกให้รออยู่ตรงนั้น
“ เป็นยังไงบ้างมึง " ภาพที่วิ่งเข้ามาใกล้ ผมส่ายหน้าไปมาก่อนน้ำตานั้นจะไหล ไอ้ภาพดึงผมเข้าไปกอดไว้ก่อนจะผ่อนหายใจออกมา " เอาน่า ใจเย็นๆมันถึงมือหมอแล้ว เดี๋ยวมันก็หาย "
“ อื้ม " ตอบรับสั้นๆ ก่อนจะดึงตัวออกจากอ้อมกอดของมันแล้วไปนั่งลงที่โซฟาหน้าห้องตรวจ
ผมพยายามคิดว่าอะไรทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ขนมปังก็เหมือนเดิมผมก็กิน ไม่เห็นเป็นอะไร ช็อคโกเล็ตที่ทาก็แบบเดิม นมก็เหมือนเดิม หรือว่าขนม ขนมที่ให้มันกินสองกล่องนั้น แต่มันก็ดูเหมือนไม่น่าจะใช่อีก คิดถึงสายตาที่ทรมานของมันใบหน้าน่ารักที่เคยออดอ้อนกัน ซีดเผือก เนื้อตัวเย็นๆของมัน " ภาพ..”
“ หื้ม ? มีอะไร " ผมหันมองมันที่ก็ก้มลงมามองผม
“ กูว่าเราเอาหัวหอมไปให้คนอื่นเลี้ยงดีมั้ย " คำพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาของผม " ถ้ามันไม่ได้อยู่กับเรา ตอนนี้มันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้นะ เราเลี้ยงมันไม่ได้หรอกมึง กูเข้าใจแล้ว กูเข้าใจคำพูดของมึงแล้ว ว่ามึงหมายถึงอะไร อึก ฮือๆ ขนาดมันป่วยขนาดนี้กูยังไม่รู้เลยว่าเพราะอะไร ทำไม มันถึงป่วย เราเลี้ยงมันภาษาอะไรวะ ทำไมเรื่องแค่นี้เราถึงไม่รู้ ทั้งๆที่เราเป็นคนที่อยู่กับมันแท้ๆ หรือว่าตอนที่เราปล่อยให้มันอยู่คนเดียวแล้วมันเผลอกินอะไรเข้าไปด้วยความอยากอยู่ เราที่เรียนไปด้วย แล้ว เลี้ยงเด็กไปด้วย มันไม่ดีจริงๆนั่นแหละ เราไม่เหมาะสมที่จะเลี้ยงมัน "
“ ขม ใจเย็น " มือหนาเอื้อมมือกอดไหล่ผมไว้ มันที่ดันให้หน้าผมซบลงไปที่อก " ใจเย็นก่อน "
“ มันเป็นความผิดของกูเองที่ดูแลมันไม่ดี กูผิดเองภาพ กูทำให้มันต้องเป็นแบบนี้ "
“ ไม่ใช่หรอก ถ้าใครสักคนจะผิด เราผิดด้วยกันทั้งคู่ ไม่ต้องร้อง พอได้แล้ว " ภาพยื่นมือมาเกลี่ยน้ำตาที่ไหลของผม
“ ถ้าเราเลี้ยงมันแบบนี้ต่อไป สักวันมันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกนะมึง แล้ววันนั้นอะ เราจะกลับมาช่วยมันไว้ทันเหมือนวันนี้รึเปล่าวะ " คนฟังถอนหายใจออกมามันที่เหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง มือที่ลูบหลังผมปลอบๆ มันเองก็คงเสียใจไม่ต่างจากผม แค่มันไม่ใช่คนที่ร้องไห้ออกมาง่ายๆก็เท่านั้น " กูกลัวว่ะ กลัวว่ามันจะเกิดขึ้นอีก กลัวจนไม่กล้าจะจากมันไปไหนแล้ว กูกลัว "
“ ขม "
“ กูจะดรอปเรียนแล้วมาดูแลมันเต็มที่เลย แล้วรอจนกว่าแม่มันจะมารับ ถ้าแม่มันไม่มารับเราก็จะได้หาทางทำอย่างอื่นต่อไป " คำพูดที่พูดออกไปตอนนั้น ร่างสูงที่นั่งข้างๆก็ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะพูด
" เราหาทางแก้ไขกันได้ กูมีทางแก้ไข ยังไง.." แต่ทว่าภาพยังพูดไม่ทันจบ ตอนนั้นหมอในห้องตรวจก็เดินเข้ามาขัดซะเราซะก่อน
“ สวัสดีค่ะ พ่อแม่ของผู้ป่วยรึเปล่าคะ "
“ ใช่ครับ " ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับภาพ เธอก็ยิ้มให้ก่อนจะมองเราตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แล้วสะดุ้งตัวขึ้นมาน้อยๆเหมือนเมื่อครู่เธอจมลงไปกับความคิดอะไรสักอย่าง
“ น้องปลอดภัยแล้วนะคะ ท้องเสียนะคะ ตอนนี้หมอฉีดยา แล้วก็ให้น้ำเกลือแล้ว ยังไงก็ให้น้องนอนที่นี่สักคืนนะคะ รอดูอาการก่อน ยังไงเดี๋ยวพยาบาลจะย้ายน้องไปที่ห้องพัก เชิญไปรอที่ห้องพักได้เลยนะคะ สอบถามกับนางพยาบาลที่เค้าเตอร์ได้เลย "
“ ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ " ผมก้มหน้าลงบอกเธอก็ยิ้ม " แล้วสาเหตุของการท้องเสีย.. "
“ อันนี้ก็ต้องถามพ่อแม่นะคะ " คำพูดที่ทำให้พวกเรานิ่งไป " อาจจะมาจากอาหารเช้า นม หรืออะไรก็แล้วแต่ "
“ ขอบคุณมากครับ " ภาพบอก เราก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกัน
“ โล่งอกไปทีเนอะมึง "
“ อื้ม "
“ โล่งอกเหรอ ? " คุณหมอสาวมองเราด้วยสายตาที่เหมือนกำลังหงุดหงิดเสียเต็มทนกับแค่คำพูดนั้นของเราสองคน " ท้องเสียน่ะ สำหรับเด็กเล็กแล้วมันอันตรายนะ เพราะเด็กน่ะ เค้ามีร่างกายที่ไม่แข็งแรงเหมือนผู้ใหญ่ พ่อแม่ที่เลี้ยงดูเค้า จะต้องใส่ใจให้มากๆ แล้วที่สำคัญอยากจะให้คุณพ่อคุณแม่รู้ไว้ด้วยว่า โรงพยาบาลไม่ใช่สถานท่ีแก้ไขปัญหาให้พ่อแม่ที่เลินเล่อนะคะ " ประโยคสุดท้ายที่บอกก่อนจะเดินออกไปทันทีด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ ผมหันมองภาพก่อนที่ร่างสูงจะเอ่ยบอก
“ เหี้ยไรวะ นี่แม่งไม่ด่ากูแรงไปใช่มั้ย "
“ ช่างเถอะ เราก็เลินเล่อจริงๆนั่นแหละ " ผมบอกปัดไม่อยากจะสนใจคำพูดของคนอื่นมากนัก แม้จะรู้สึกเจ็บเพราะมันเป็นความจริงก็เถอะ " ไปรอหัวหอมที่ห้องกันเถอะ "
........................................................................
นิยายตอนนี้ค่อนข้างสั้นไปสักนิดเนอะ
เพราะว่าพล๊อตตอนนี้ค่อนข้างยาว หนมตัดแบ่งเป็นช่วงๆ ตอนนี้คือการเกริ่นมาก่อน ขออภัยหากสั้นไปสักนิด
อีกอย่าง หนมไม่แน่ใจว่าเด็กอนุบาลสองหรือสาม จะสามารถทำได้แบบกาลิคมั้ยนะ ที่สามารถโทรบอกว่าป่วย คือหนมอิงตามหลานของหนมเอง คือช่วงนั้นเป็นช่วงที่สามารถกดโทรออกหาเบอร์นู้นนี่ได้แล้ว รับสายได้ พูดรู้เรื่อง เลยอิงตามพัฒนาการของหลานตัวเองไปนะคะ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วย
แล้วปัญหาคราวนี้ ภาพขมจะแก้ไขยังไง ขมจะต้องดรอปเรียนจริงๆมั้ย แล้วภาพจะมีวิธีการแก้ไขยังไงในเรื่องนี้ โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป 5555555555
เจอกันตอนหน้านะคะ ขอบคุณที่เอามาอ่านและคอมเม้นท์ ยังไงฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะค่าาาาา
เจอกันจ้า