เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 17
ตะวันสาดแสงเข้ามาบอกเวลาเช้าวันใหม่ที่มาถึงแล้ว วันนี้หัวหอมต้องไปโรงเรียนเป็นวันแรก ทั้งๆที่เปิดเทอมมาร่วมอาทิตย์แล้วสำหรับโรงเรียน แต่ก็ยังโชคดีที่เมื่อวานตอนที่พ่อกับแม่ของภาพพามันไปสมัครเข้าโรงเรียน อาจารย์ที่นั่นทดสอบความรู้มันนิดหน่อยแล้วก็ได้ผลออกมาว่า สามารถเรียนร่วมกับเพื่อนได้ไม่มีปัญหาอะไร ภาษาอังกฤษเก่งมากแม้จะเขียนภาษาไทยไม่ได้เลย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะที่นี่เป็นโรงเรียนนานาชาติอยู่แล้ว ผมจัดการอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะปลุกอีกคนให้ลุกขึ้นจากที่นอน
“ หัวหอม ตื่นได้แล้ว ไปโรงเรียนกัน " ดึงมันให้ลุกขึ้นจากที่นอน เด็กน้อยที่ลุกขึ้นนั่งขยี้ตาไปมาก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาแล้วซบลงบนอกผม
“ อาขม กาลิคง่วง "
“ นอนก็เร็วทำไมยังง่วงอีกละ หื้มม " ผมก้มลงลูบหัวมันจะบอกว่าป่วยก็ไม่น่าจะใช่ สภาพร่างกายก็ปกติดี สงสัยจะขี้เกียจซะมากกว่าละมั้ง " เรารีบไปอาบน้ำกันดีกว่า เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ หรือว่าไม่อยากจะไปโรงเรียน "
“ อยากไปปป " หัวหอมลากเสียงก่อนจะดึงตัวเองลงจากเตียงแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ จัดการอาบน้ำได้ด้วยตัวเอง ก่อนจะมายืนแปรงฟันที่อ่าง " เสร็จแล้วครับ "
“ เก่งมาก คราวนี้ก็แต่งตัวหล่อๆ " ผมบอกก่อนจะทาแป้งลงไปบนตัวมัน แล้วก็ทานิดหน่อยบนหน้าจะได้ดูสดชื่นหวีผมให้เข้าทรงก่อนจะจัดการใส่กางเกงในแล้วก็ชุดนักเรียน ซึ่งชุดนักเรียก็เป็นกางเกงสีดำขาสั้นกับเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวจั๊มตรงเอวและตราโรงเรียนติดอยู่ที่กระเป๋าเสื้อ
“ หล่อมั้ยครับ "
“ หล่อสุดๆไปเลย โอเค คราวนี้ก็ใส่ถุงเท้า มานี่นะ อาขมจะสอนใส่ถุงเท้า " ดึงมันให้นั่งลงบนเตียง " ตอนแรกก็ดูก่อนว่าข้างไหน สูงๆตรงนี้คือนิ้วโป้ง แล้วก็ใส่วิธีการใส่ก็ ม้วนลงมาแบบนี้แล้วค่อยๆใส่ " ผมใส่ให้มันข้างนึงส่วนอีกข้างหัวหอมก็เป็นคนใส่เอง ท่าทางที่ดูเงอะงะของมันแต่สำหรับผมถ้าทำให้ทุกอย่างก็ไม่ดีหรอก ดีที่สุดต้องสอนให้ช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากๆ
“ เสร็จแล้ว "
“ เสร็จแล้วคราวนี้ก็ออกไปข้างนอกกัน กินขนมปังกับนมก่อนไปโรงเรียนนะ "
“ ครับ " มันว่าตอนที่วิ่งออกไปข้างนอกก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะอย่างรู้งาน
“ ว้าวๆ สุดหล่อ แต่งชุดนักเรียนแล้วหล่อจังเลย " ไอ้ภาพที่เดินออกมาจากครัวเอ่ยแซว มันวางแซนวิชทูน่าที่ซื้อมาจากห้างเมื่อวานลงบนโต๊ะให้อีกคน
“ นั่น มึงอบให้มันร้อนแล้วรึยัง แซนวิชน่ะ " ผมถามอีกคนก็พยักหน้ารับ น่าแปลกที่วันนี้ตื่นเช้ามาช่วยดูแลหัวหอม สงสัยท่าทางฝนจะตกหนัก
“ ต้องอบแล้วสิครับ อะนี่ของมึง " ภาพยื่นให้ผมที่ก็นั่งลงข้างๆเจ้าตัวเล็ก พร้อมกับนมแก้วใหญ่
“ อันนี้นมนะ "
“ ถ้ากินแล้วกาลิคจะปวดท้องอีกรึเปล่า " มันเงยหน้าถามผมก็ส่ายหน้า
“ ไม่หรอก อันนี้อันใหม่แล้วเพิ่งซื้อมา กินได้ปลอดภัยแน่นอน "
“ งั้นกินนะ " ยกแก้วนมสีชมพูที่ชอบกินเข้าไปพร้อมกับแซนวิชจนหมด ก่อนจะเดินหยิบจานกับแก้วของตัวเองไปไว้ที่อ่างมันเปิดน้ำใส่ไว้อย่างรู้งาน ไอ้ภาพที่นั่งอ่านอะไรสักอย่างในมือถือก็พูดขึ้น
" ม๊าส่งข้อความมาหากูวะ บอกให้ถ่ายรูปกาลิคตอนไปโรงเรียนวันแรกมาให้หน่อย " มันหลุดหัวเราะออกมา " ม๊าบอกขอเป็นวิดีโอด้วยก็ดี "
" เค้าก็อยากเห็นอะนะ " ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นหยิบจานกับแก้วของตัวเองแล้วก็ของไอ้ภาพไปไว้ที่อ่าง จัดการล้างมันเรียบร้อยเพราะเห็นว่ายังเหลือเวลา ส่วนไอ้ภาพก็จัดการใส่รองเท้าคู่ใหม่ที่มันแสนจะภูมิใจนำเสนอให้ไอ้กาลิคอยู่ เป็นรองเท้าไนกี้รุ่นดังของเด็กที่ตอนเห็นราคาผมบอกได้คำเดียวเลยว่า ' สิ้นเปลือง ' นี่ยังไม่นับรวมกระเป๋าเป้ไปเรียนยี่ห้อเดียวกันอีกซึ่งก็แพงพอกัน
“ โคตรเท่เลยเว้ย มาๆ ถ่ายรูปส่งไปให้ปู่กับย่าดูกันหน่อย เอ้า ยิ้ม หนึ่ง สอง สาม " ผมยืนมองไอ้ภาพถ่ายภาพไอ้ตัวเล็กที่ก็ชูสองนิ้วด้วยความร่าเริง ถึงแม้ว่าผมจะหนักใจเรื่องกลัวเพื่อนแกล้งมันอยู่หน่อยๆ แต่ว่า เรื่องงอแงตอนไปโรงเรียนก็คงไม่มีให้เห็นละนะ " ส่งภาพเรียบร้อย "
“ นี่ ถ่ายเป็นคลิปด้วยสิ เก็บไว้ ไปโรงเรียนวันแรก "
“ มึงนี่ก็ไม่ค่อยเห่อเลยนะคุณแม่ " ไอ้ภาพหันมาบอกผมก็เอื้อมไปตีหลังมันเต็มแรง " โอ๊ยยยย "
“ แมลงกัดมึงอะ กูเอาออกให้ เจ็บใช่มั้ย โอ๋ๆ เอาออกให้ละไม่เจ็บแล้วนะ " ผมตบไหล่มันเบาๆแสร้งทำเรื่องอื่นเดี๋ยวจะเป็นตัวอย่างไม่ดีกับเด็กที่กำลังมองเราอยู่ ผมย่อตัวลงไปยืนข้างๆหัวหอม " ภาพถ่ายรูปให้หน่อย "
“ ตบกูแล้วยังมาขอให้กูถ่ายภาพให้อีกนะ "
“ เร็ว " ผมบอกมันสั้นๆ อีกคนก็กดถ่ายภาพให้ " มึงก็มาถ่ายด้วยสิ ถ่ายรูปๆ "
“ กูต้องถ่ายด้วยเหรอ "
“ ถ่ายสิ เอาน่าทำเป็นเขินไปได้ " ไอ้ภาพเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูปตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาให้ถ่ายทีไรถ้าไม่ทำหน้าเล่นๆไปเลย ก็ต้องไปแอบถ่ายตอนเผลอ ขนาดรูปคิ้วบอยในเพจมหาลัยที่มีคนกรี๊ดกันเยอะๆ เค้ายังมาแอบถ่ายมันเลย ไม่มีหรอกภาพจากโซเซี่ยลหล่อๆที่เจ้าตัวถ่ายเองน่ะ
“ อาภาพเขินเหรอ " หัวหอมถาม
“ ไม่ค่อยชอบถ่ายรูป " มันบอกก่อนจะย่อตัวลงข้างๆเจ้าตัวเล็กที่ก็ยื่นมือไปปิดหน้าของอีกคนไว้ รอยยิ้มที่ยิ้มแฉ่งให้ผม
“ อาภาพบอกว่าอาภาพเขิน งั้นปิดหน้าไว้ "
“ จะถ่ายแล้วนะ " ผมบอกก่อนจะกดถ่ายภาพไปหลายที รวมถึงภาพที่หลังจากนั้นไอ้ภาพดึงเจ้าตัวเล็กข้างมันมากอดแล้วก็หอมแก้มด้วย " เสร็จแล้ว คราวนี้ก็ไปโรงเรียนได้ "
“ ไปโรงเรียนกัน " หัวหอมคว้ามือผมให้เดินออกไปจากห้อง ส่วนไอ้ภาพก็มีหน้าที่ปิดประตูห้องแล้วเดินตามหลังเรามา
ขับรถออกจากคอนโดกันในเวลาที่ค่อนข้างเช้าเพราะเผื่อเวลารถติดอีกอย่างไปโรงเรียนวันแรกด้วยไม่อยากจะให้ไปสายเท่าไหร่ ผมหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายมันฆ่าเวลาที่รถติด
“ หัวหอม หันมานี่หน่อย "
“ ครับ " ใบหน้าน่ารักหันมาหาก่อนจะกอดผมไว้ " อาขม อาขมทำอะไร "
“ ถ่ายวิดีโออยู่ไง วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกเป็นยังไงตื่นเต้นมั้ย "
“ ไม่ครับ " มันส่ายหน้าไปมา " กาลิคอยากจะไปโรงเรียนจะได้มีเพื่อนเยอะๆเลย "
“ เหรอ " ลูบหัวมันอีกคนก็กอด ผมกดปิดวิดีโอที่ถ่ายแล้วก็กอดตอบมันไว้ " ไปโรงเรียนอย่าให้เพื่อนแกล้งละรู้มั้ย "
“ ครับ "
“ แล้วถ้ามีอะไรก็มาบอกอาขมนะ "
" ครับ " มันพยักหน้ารับ
" ต้องบอกทุกเรื่องเลยนะ "
“ ครับ "
“ กูต้องเป็นห่วงมึงจนเรียนไม่รู้เรื่องไปทั้งวันแน่ๆเลย " คำพูดที่ดึงให้คนในอ้อมกอดเงยหน้ามองผม มือเล็กๆที่เอื้อมมาลูบที่แก้ม
" โอ๋ๆ อาขมไม่ต้องห่วงกาลิคนะ กาลิคจะไม่โดนแกล้งหรอก "
" ใช่แล้วจะไม่โดนแกล้งหรอก แต่ต้องกลัวไปแกล้งเค้ามากกว่าจริงมั้ย " ไอ้ภาพบอกอีกคนก็หันไปขมวดคิ้ว
“ กาลิคเป็นเด็กดี กาลิคไม่แกล้งใครหรอก กาลิคไม่ใช่อาภาพสักหน่อยที่ชอบแกล้งกาลิคแล้วก็อาขม "
“ ดูมันต่อปากต่อคำ "
“ ใช่มั้ย เราต้องไม่แกล้งเพื่อนนะ คนที่แกล้งเพื่อนมันคือคนนิสัยไม่ดีจริงๆนั่นแหละ " ผมบอกก่อนจะลูบหัวอีกคนให้เข้าทรง รถเคลื่อนตัวเข้าไปในบริเวนโรงเรียนเราจอดเราที่ลานจอดผมมองไปรอบๆที่ตอนนี้มีเด็กมากมายทยอยกันมาที่โรงเรียน เปิดประตูรถหัวหอมก็เดินลงไปผมที่คว้ามือมันไว้จัดการจัดเสื้อเสื้อให้เรียบร้อยก่อนจะย่อตัวบอก " หัวหอมตั้งใจเรียนหนังสือนะ แล้วก็เชื่อฟังคุณครูรู้มั้ย "
“ ครับ "
“ แล้วตอนเย็นอาภาพกับอาขมจะมารับ "
“ ครับ " มันรับคำแบบเต็มใจ ท่าทางที่ดูอยากจะไปโรงเรียนเสียเหลือเกินนั้นไอ้ภาพที่ลงมาจากรถก็เดินมาลูบหัวแล้วก็บอก
“ สนุกให้สุดๆไปเลยนะ มีเพื่อนเยอะๆละ "
“ ครับ "
“ พร้อมมั้ย " ผมหันไปถาม อีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะกระชับมือผมแล้วก็มือไอ้ภาพอีกข้าง
“ พร้อมครับ ไปกันเล๊ย " ร่างเล็กเดินจูงมือนำเราเข้าไปหลังจากที่พูดจบคุณครูที่ยืนอยู่ที่หน้าทางเข้า หัวหอมยกมือไหว้คุณครูก็เอ่ยยิ้ม " คุณครูสวัสดีครับ "
“ สวัสดีครับกาลิค มาโรงเรียนแล้ว " เธอบอกก่อนจะหันมายิ้มให้ผมแล้วก็ภาพ
“ สวัสดีครับ " ผมยกมือไหว้เธอพร้อมกับไอ้ภาพ เธอเองก็ไหว้ตอบ " ผมสองคนเป็นผู้ปกครองของน้องหัว เอ่อของน้องกาลิคครับ "
“ คุณครูคนนี้อาขมครับ แล้วก็คนนี้อาภาพ " มันแนะนำผมให้คุณครูรู้จักเธอก็ยิ้ม ท่าทางที่ดูใจดีแล้วก็เป็นมิตรชวนให้ผมสบายใจขึ้นนิดหน่อย อย่างน้อยถ้ามีอะไรมันก็คงกล้าบอกคุณครูของมันละนะ
“ สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นคุณครูผู้ช่วยของห้องน้องกาลิคนะคะ ผู้ปกครองของน้องทราบเวลากลับของน้องแล้วใช่มั้ยคะ "
“ ทราบแล้วครับ " ภาพพยักหน้ารับ เธอก็ยิ้มแห้งๆให้เรา
“ ยังไงผมขอเบอร์คุณครูไว้หน่อยได้มั้ยครับ เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกัน "
“ ได้ค่ะ ของห้องเราจะมีไลน์กรุ๊ปไว้ติดต่อกับผู้ปกครองอยู่แล้ว สำหรับการบ้านที่บางทีน้องอาจจะลืม หรือไม่ก็เป็นการแชร์ภาพกิจกรรมที่ทำในห้องนะคะ ยังไงเดี๋ยวครูจะดึงเข้ากลุ่มให้นะคะ " ไฮโซวะ ..ผมเผลอสบถกับตัวเองตอนที่ได้ฟังเดี๋ยวนี้พ่อแม่มีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอวะ แต่ก็ดีนะจะได้รู้ว่าวันๆเด็กๆทำอะไรบ้าง มีกิจกรรมอะไร เผื่อสื่อสารกับไอ้ตัวเล็กไม่รู้เรื่องจะได้ไลน์ไปถามครู ยังไงการพิมพ์หากันก็ดีกว่าการโทรละนะ ผมยกมือถือขึ้นให้เธอพิมพ์ไอดีไลน์ของเธอก่อนที่เธอจะส่งคืนมาให้ผม
“ ขอบคุณมากครับ "
“ ไม่เป็นไรค่ะ "
“ ยังไงก็ขอฝากเจ้าตัวเล็กตัวนะครับ " ผมบอกเธอก็พยักหน้ารับ
“ ไม่ต้องห่วงนะคะ "
“ อาขมกับอาภาพกลับแล้วนะ เดี่ยวตอนเย็นมารับ ตั้งใจเรียนหนังสือละ " ผมบอกก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวอีกคนที่ก็พยักหน้ารับ หัวหอมเดินเข้ามากอดเอวผมมันที่เงยหน้าขึ้นมองผมที่ก็ก้มหน้าลงมองมันพอดี
" มารับกาลิคด้วยนะ ต้องมารับเร็วๆนะ "
" ครับผม จะมารับเร็วๆเลย " ขยี้หัวมันไอ้ภาพก็เอื้อมมือลงมาหยิกแก้ม
" เรียนให้สนุกนะ แล้วก็เชื่อฟังคุณครูด้วยรู้มั้ย เดี๋ยวตอนเย็นอาภาพกับอาขมมารับ "
" ครับ "
" งั้นก็ต้องโบกมือบ๊ายบายกันแล้ว " คุณครูเอ่ยบอกมันก็ยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายเราก่อนที่คุณครูจะเดินจูงมือมันเข้าไปในห้อง ผมยืนมองแผ่นหลังของไอ้ตัวเล็กจนสุดสายตา ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆไอ้ภาพก็เอื้อมมือมากอดคอผมไว้
“ ไม่ต้องเครียดน่า มึงเครียดอะไรของมึงวะ มันมาเรียนหนังสือ ไม่ได้มารบสักหน่อย "
“ กูรู้ แต่ก็อดห่วงมันไม่ได้นี่หว่า " ผมบอกก่อนจะก้มหน้าลง " อยู่บ้านก็เป็นห่วงมันแบบนึง พอให้มาโรงเรียนก็เป็นห่วงมันอีกแบบนึง เห็นมันแบบนี้แล้วกูนึกถึงตัวเองตอนเป็นเด็กเลย คิดถึงแม่ ไม่รู้ว่าตอนนั้นเค้าจะรู้สึกเหมือนกูตอนนี้มั้ย จะรู้สึกเป็นห่วงกูตอนที่เค้าต้องออกไปทำงาน แล้วก็กังวลตอนที่กูต้องย้ายโรงเรียนเข้าไปโรงเรียนใหม่มั้ย "
" คนเป็นพ่อเป็นแม่ เค้าก็รู้สึกเป็นห่วงลูกทุกคนนั้นแหละ แม่มึงก็คงไม่ต่างกัน "
" เหรอ " ผมหันมองมันอีกคนก็พยักหน้ารับ
" ขนาดมึงยังเป็นห่วงไอ้กาลิคขนาดนี้เลย แล้วแม่ที่คลอดมึงออกมาแท้ๆจะไม่ห่วงมึงได้ไง "
" นั่นนะสินะ " ผมหลุดยิ้มออกมา ไอ้ภาพก็เอื้อมมือมาขยี้หัวผม
“ คิดมาก มีมึงคนเดียวนั่นแหละที่เครียด ไอ้กาลิคมีความสุขจะตายไป ได้ไปโรงเรียน "
“ แล้วมึงไม่ห่วงมันบ้างเหรอ " หันหน้าไปถามคนข้างๆที่ก็ยิ้มก่อนจะส่ายหน้า
“ แต่จะบอกว่าไม่เป็นห่วงเลยคงไม่เชิงหรอก กูไม่อยากจะแสดงทีท่ากังวลให้มันเห็นเดี๋ยวมันจะคิดว่าโรงเรียนไม่ปลอดภัยให้มึงทำท่าทางแบบนั้นคนเดียวก็พอละ กูอยากจะทำให้มันรู้สึกว่าการมาโรงเรียนสนุก ไม่มีอะไรน่ากังวลทั้งนั้น เป็นสถานที่สนุกๆ แล้วอีกอย่างคนแบบกาลิค ถ้ามีอะไรมันไม่เก็บไว้หรอก มันต้องเอามาบอกมึงแน่นอน เพราะงั้นกูเลยไม่ค่อยห่วงมันหรอก "
" คุณพ่อ " ผมพูดเสียงเบาๆ มันก็แบะปากมองผม
“ โถ.. เรียกกูคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อมึงก็คุณแม่อะ แพนิคเหลือเกินแม่คุณกลัวนู้นนี่นั่นไปหมด " ไอ้ภาพพูดล้อๆผมก็กระทุ้งศอกใส่มันก่อนจะหันไปจัดการแต่ทว่า ร่างสูงกลับไหวตัวทันวิ่งหนีออกไปขึ้นรถก่อนแล้ว แต่ถ้าให้พูดกันตามความจริงมันก็เป็นอย่างที่ไอ้ภาพพูดนั่นแหละ ผมเองยังรู้สึกได้เลย รู้สึกว่าตัวเองจะห่วงไอ้หัวหอมจนจะกลายเป็นแม่มันเข้าไปทุกวันแล้ว
...........................................................
ขับรถจากมหาลัยมารับอีกคนตอนที่ใกล้เวลาเลิกเรียน เราลงจากรถเดินเข้าไปในโรงเรียนแล้วก็นั่งรอกันที่ด้านหน้า ภาพเป็นคนบอกให้เราออกมาก่อนเวลาเพราะกลัวว่าไอ้ตัวเล็กเห็นเพื่อนมีคนมารับกลับบ้านแล้วตัวเองไม่มี มันจะคิดว่าเราไม่มารับ
" จะว่าไปโรงเรียนนี้ก็ใหญ่มากเลยนะ "
" อื้ม นี่ถ้ากูเกิดช้ากว่านี้อีกนิดนึงกูคงได้อยู่ที่นี่นั่นแหละ " ไอ้ภาพว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจับไหล่ผม " แล้วเราก็คงจะไม่ได้เจอกัน มึงโชคดีนะที่กูเกิดเร็ว "
“ แต่กูว่ากูโชคร้ายมากกว่าที่มึงเกิดเร็ว " ผมบอกอีกคนก็เอื้อมมือมาจับที่คางก่อนจะดึงให้มาเผชิญหน้า " โอ๊ยเชี้ยยย เจ็บนะมึง ไอ้สัด " ผมดึงมือมันออกแต่ก็ดูท่าว่าจะไม่ได้ง่ายอย่างงั้น
“ พูดอะไรแบบนั้น หื้มมมมม ตอนเด็กๆใครที่คอยช่วยเหลือมึงเวลาโดนแกล้งกูใช่มั้ยละ "
“ แต่มึงก็แกล้งกูพอๆกับไอ้พวกคนที่แกล้งกูนั่นแหละ "
“ แหม นิดหน่อยเอง ก็ตอนนั้นน้องขมน่ารัก " ภาพยักไหล่แล้วยิ้มแห้งๆผมก็ดึงมือมันออก " นี่เดี๋ยวออกไปกินอะไรกันดีมั้ย ฉลองกาลิคเข้าโรงเรียน "
“ กินไรดีละ " ผมหันไปถาม
“ เอ็มเคมั้ย มีผัก มีเนื้อ แล้วก็เราก็สั่งข้าวให้มันสักถ้วย กูว่าดีนะ " อีกคนก็เสนอผมก็พยักหน้ารับ
“ ก็ดีนะ "
กริ้งงงงงงงงงง เสียงกริ่งหลังเลิกเรียนที่ดังขึ้นผมหันไปมองที่ทางเข้าของฝั่งอนุบาล พ่อแม่หลายคนที่เดินเข้าไปข้างในทำให้รู้ได้ว่าถ้าเป็นเด็กอนุบาลผู้ปกครองคงต้องเดินเข้าไปรับข้างในแน่ๆ
“ เข้าไปรับมันกันเถอะ " ผมบอกตอนที่ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปข้างใน ฝั่งอนุบาลที่ถูกแบ่งสัดส่วนออกมาเหมือนเป็นบริเวณเฉพาะ มีสนามเด็กเล่นที่เหมาะกับช่วงของอายุ ผมเดินผ่านห้องของเด็กอนุบาลหนึ่งก่อนจะมองเข้าไปในห้องที่เขียนว่าอนุบาลสองที่ก็มีอยู่ด้วยด้วยกันสองสามห้อง
“ นั่นไง " ไอ้ภาพเอ่ยบอกผมก่อนจะเชิดหน้าไปที่ห้องนึง เป็นห้องกระจกที่สามารถมองเข้าไปเห็น ไอ้หัวหอมที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเงยหน้ามามองเราพอดี ท่าทางดีใจที่ยกมือโบกม๊ายบายให้ เราก็ยกมือบ๊ายบายมันกลับ " ดูท่าทางมันจะมีความสุขแล้วก็สนุกสนานดีนะ "
“ อื้ม " ผมพยักหน้ารับเห็นด้วยกันอีกคน แล้วในตอนนั้นอาจารย์ที่เราเจอเมื่อเช้าก็เดินเข้ามาทัก
“ มารับน้องกาลิคแล้วเหรอคะ "
“ ใช่ครับ " เราตอบพร้อมกันเธอก็ยิ้มให้
“ เอ่อ.. แต่ว่าก่อนอื่นคุณอาทั้งสองพอว่างมั้ยคะ พอดีคุณครูอยากจะขอคุยอะไรด้วยหน่อยนะคะ เกี่ยวกับน้องกาลิค " ท่าทางยิ้มแย้มของเธอแต่ในนัยย์แววตาที่ดูมีอะไรสักอย่างนั้นเอ่ยบอกเราเสียงลังเล
“ ได้ครับ " พยักหน้ารับให้เธอ ก่อนที่เธอจะผายมือออกไปอีกฝั่ง
“ งั้นเชิญมาทางด้านนี้เลยค่ะ " ห้องเล็กที่เราเดินเข้าไปเป็นห้องที่คงมีไว้ให้ผู้ปกครองมารับฟังปัญหาของเด็ก เรานั่งลงที่เก้าอี้กลางห้อง คุณครูก็หันมายิ้มก่อนจะนั่งลงตรงหน้าเรา
“ มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ " ผมถามเสียงอ่อนๆ เธอก็ส่ายหน้าไปมา
“ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกค่ะ แต่ว่าอยากจะสอบถามหน่อย คือน้องกาลิคอยู่กับคุณอา ทั้งสองคนเลยใช่มั้ยคะ "
“ ใช่ ครับ " ไอ้ภาพตอบ
“ แล้วไม่ทราบว่าที่บ้านคุณอาพูดคุยกันแบบไม่สุภาพกันด้วยรึเปล่า แบบมึงกูนะคะ พูดมั้ยคะ พอดีว่าวันนี้ตอนที่น้องกาลิคเข้ามาเค้าก็เล่นกับเพื่อนปกตินะคะ แต่คำพูดของเค้าคือ เค้าใช้คำว่า มึงกู พูดกับเพื่อนตลอดเลย " คำถามที่ทำให้ผมสองหน้านิ่งไปชั่วขณะราวกับมีใครสักคนสาดน้ำที่เย็นมากๆใส่หน้า ผมพยักหน้าลงตอบรับคำถามของคุณครู
“ พูดครับ เราพูดระหว่างกันสองคน "
“ แล้วพูดกับน้องกาลิคมั้ยคะ " เหมือนโดนสาดน้ำใส่เข้ามาอีกทีจังๆสำหรับคำถามนี้ ผมพยักหน้ารับแบบเลี่ยงไม่ได้ก่อนจะตอบเธอด้วยเสียงเบาๆ
“ ก็พูดครับ ในบางที " บางทีถี่ๆเลยละมั้ง พูดด้วยความติดปาก พูดทั้งกับไอ้ภาพแล้วบางทีก็เรียกแทนชื่อหัวหอมว่ามึงด้วย
“ ถ้าเป็นแบบนั้น คุณครูอยากจะขอความร่วมมือ ไม่พูดคำหยาบต่อหน้าเด็กนะคะ เพราะว่าเด็กวัยนี้เค้าจะฟังแล้วก็นำมาใช้ กาลิคเป็นเด็กร่าเริงสดใส แล้วก็เข้ากับเพื่อนได้ง่าย วันนี้อยู่ๆเค้าก็พูดกับเพื่อนว่า ' มึงอะช่วยหยิบยางลบให้กูหน่อย ' " เอิ่อม... เห็นมันนิ่งๆไม่เคยพูด ก็เคยคิดเลยว่าจะแอบเอามาพูดกับเพื่อนซะอย่างงั้น ฟังแล้วจะเป็นลม
" ขอโทษคุณครูด้วยนะครับ " ผมบอกเธอก็ยิ้มจางๆ
" ไม่เป็นไรค่ะ คุณครูแค่กลัวว่าเด็กในชั้นเรียนที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน จะพูดตามกาลิคนะคะ ยังไงขอความร่วมมือด้วยนะคะ "
“ ได้ครับ " ผมสองคนตอบรับก่อนจะก้มหน้าลง " ขอโทษด้วยนะครับที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น "
“ ค่ะ อีกอย่างเด็กวัยนี้เป็นวัยของการเลียนแบบ แล้วก็จดจำ นำไปใช้ แถมยังช่างถาม คนที่เป็นผู้ปกครองก็ต้องค่อยๆปรับไปนะคะ "
“ ขอบคุณมากนะครับ "
“ ค่ะ เรื่องที่อยากจะคุยด้วยก็มีเท่านี้ค่ะ เดี๋ยวออกไปรับน้องกาลิคกันเลยดีกว่านะคะ แกคงรอแย่แล้ว " เธอว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินนำเราออกไปจากห้อง แล้วเดินตรงไปที่ห้องเรียนของอีกคน
“ เหมือนโดนเรียกผู้ปกครองตั้งแต่วันแรกที่พามาเข้าโรงเรียนเลยวะ " ไอ้ภาพพูดสั้นๆผมก็ยกยิ้มขึ้นมา หยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องกาลิคที่วิ่งออกมากอดผมไว้เป็นคนแรก ก่อนจะยกมือไหว้ผมแล้วก็ไอ้ภาพ
“ ยกมือไหว้คุณครูแล้วยัง " ก้มลงถามมัน
" คุณครูกาลิคกลับแล้วครับ สวัสดีครับ " หัวหอมก็หันไปยกมือไหว้คุณครูแล้วหันกลับมากอดผมอีกครั้ง
“ สวัสดีค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะ "
“ ครับ " เจ้าตัวเล็กพยักหน้ารับก่อนจะคว้ามือผมไว้ข้างนึง ไอ้ภาพไว้ข้างนึง " อาภาพ อาขมกลับบ้านกัน กลับบ้าน "
“ ไป กลับบ้านกัน " ผมบอกก่อนจะเดินออกไปตามทางเรื่อยๆ
“ วันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง " ไอ้ภาพเอ่ยถามอีกคนที่ก็เงียบไป มันคิดอยู่สักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบ
“ กาลิคมีเพื่อนแล้วแหละ เพื่อนของกาลิคมีทั้งผู้ชายแล้วก็ผู้หญิงเลย ชื่อว่าน้องรินเน่ ชื่อน้องเพลงเพราะ เป็นผู้หญิง แล้วก็มีน้องอลันกับน้องเจ้านายที่เป็นผู้ชาย "
“ อย่างงั้นเหรอ เพื่อนเยอะจังนะ " ผมบอกแบบสนใจมันก็พยักหน้ารับ
“ ใช่แล้ว แต่ว่าวันนี้กาลิคโดนคุณครูดุด้วยแหละ "
“ แล้วทำไมถึงโดนดุละ " ภาพถามต่อ มือเล็กๆที่แกว่งไปมาสลับกัน ท่าทางดุมีความสุขไม่ได้สะเทือนใจอะไรที่ถูกดุมาเลยสักนิดเดียว นี่ถ้ามันเป็นลูกไอ้ภาพจริงๆก็พูดได้คำเดียวเลยว่า เชื้อแรงจริงๆ
“ ก็เพราะว่ากาลิคน่ะนะ พูดไม่เพราะกับเพื่อนๆ กาลิคเรียกน้องอลันว่า มึงอะ แล้วบอกให้น้องรินเน่หยิบยางลบที่ตกว่า มึงอะหยิบยางลบให้กูหน่อยสิ พอพูดแบบนั้นคุณครูก็บอก พูดไม่เพราะเลย เด็กดีเค้าไม่พูดกัน แล้วตอนนั้นนะ กาลิคก็เถียงคุณครูไปเลยว่า ทำไมจะไม่เพราะละครับ อาขมกับอาภาพยังพูดเลย พูดกับกาลิคด้วย แล้วอาขมอาภาพนะก็เป็นคนดีไม่ใช่คนไม่ดีสักหน่อย แต่ว่านะ คุณครูก็ไม่ให้กาลิคพูดละ บอกว่า ถ้าพูดจะไม่ได้สติกเกอร์ทำดี แต่ถ้าไม่พูดจะได้วันละหนึ่งดวงละ "
ทุกอย่างเงียบทั้งผมทั้งไอ้ภาพได้แต่ฟังแล้วเงียบอยู่แบบนั้น ผมรู้สึกชาไปหมดไอ้ภาพก็คงไม่ต่างกัน เหมือนโดนสาดน้ำเย็นใส่สลับด้วยแรงตบจากมือหนักๆแบบไม่ยั้ง หน้าชา หน้าเบลอไปให้ ยิ่งมาฟังเจ้าตัวก่อเรื่องพูดก็ยิ่งชาหนักเข้าไปอีก คือนอกจากจะพูดมึงกูแล้ว มันยังมีการเถียงคุณครูอีกเเหน่ะว่ามันเป็นคำพูดที่ดี ไม่ใช่ไม่ดีสักหน่อย เอากับมันสิ ผมหันมองหน้าไอ้ภาพที่หลุดยิ้มออกมา
“ ไม่พูดอะดีแล้ว เด็กเค้าไม่พูดกันหรอก " ผมบอกตอนที่เราเดินถึงรถ แล้วเข้าไปนั่งด้านในกาลิคดึงตัวเองมานั่งบนตักผมที่ดึงกระเป๋ามันออกไปตั้งข้างหลัง ก่อนที่ใบหน้าน่ารักนั่นจะเงยหน้าขึ้นมา
“ อ้าว แล้วทำไมอาขมกับอาภาพถึงพูดกันได้ละ เพราะโตแล้วใช่มั้ยถึงพูดได้น่ะ เด็กพูดไม่ได้ใช่มั้ย "
“ ใช่ เด็กพูดไม่ได้ ต้องโตแล้วถึงจะพูดได้ มันเป็นคำที่เด็กๆเค้าไม่พูดกันหรอกรู้มั้ย "
“ แต่คุณครูบอกว่า คนไม่ดีจะพูดคำนี้ แต่กาลิคเห็นอาขมกับอาภาพพูดกันบ่อยๆ อาขมกับอาภาพยังเป็นคนดีเลยนะ " มันเถียงด้วยความใสซื่อของมัน ความใสซื่อที่ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงให้มันเข้าใจดี
“ คำว่ามึงกูเด็กเค้าไม่พูดกันหรอก เพราะเค้าจะมองว่าเป็นเด็กไม่ดี พ่อแม่ไม่สอน " ไอ้ภาพบอก
“ แต่อาขมกับอาภาพก็ไม่เคยสอนจริงๆนะ ว่าไม่ให้พูด "
“ อื้มม จริงของมัน " ผมพูดเสียงเบาๆ ไอ้ภาพก็นิ่ง " อาภาพกับอาขมน่ะ เราพูดคำว่า มึงกู กันครั้งแรกตอนนั้นเราโตแล้วนะ ตอนที่ตัวเท่าหัวหอม อาขมกับอาภาพยังแทนตัวเองว่า ขม กับ ภาพ อยู่เลยเราไม่เคยพูดหรอก "
“ เหรอครับ " มันถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“ ต่อไปนี้อย่าพูดอีกนะ ถ้าหัวหอมพูดว่ามึงกู เค้าจะมองว่าหัวหอมเป็นเด็กไม่น่ารัก ถ้าเป็นแบบนั้นนะ คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนๆก็จะไม่ให้เพื่อนๆมาเล่นกับหัวหอม เพราะไม่มีใครอยากจะให้ลูกตัวเอง มาพูดกับเด็กที่พูดไม่เพราะหรอก "
" งั้นถ้าโตขึ้นละ ถ้าโตขึ้นเท่า อาภาพ อาขม กาลิคพูดได้มั้ย "
" ได้สิ ถ้าโตเท่ากับอาภาพ อาขมแล้วจะก็พูดได้ " ผมพยักหน้ารับ
" แต่ว่าทำไมคุณครูบอกว่า คนที่พูดมึงกูถึงเป็นคนไม่ดี แต่ทำไมอาภาพอาขมเป็นคนดีละ "
" ก็เพราะว่าคุณครูไม่อยากจะให้หัวหอมเป็นเด็กไม่ดีไงเลยบอกว่า คนไม่ดีเค้าถึงพูดกัน คราวหลังอะ ไม่พูดคำว่ามึงกูแล้วนะ รู้มั้ย จะได้มีเพื่อนเยอะๆไง "
" ครับ กาลิคจะไม่พูดกับเพื่อนแล้ว " มันโบกมือไปมาปฎิเสธผมก็ลูบหัวมัน
" แล้วอาขมกับอาภาพก็จะไม่พูดเหมือนกัน ไม่พูดเหมือนๆกับกาลิค ดีมั้ย "
" ห๊า ? " ไอ้ภาพหันมามองผมตอนที่ผมบอก เอื้อมมือไปจับไหล่มัน
" ภาพจ๊ะ คราวหลังไม่พูดมึงกูกับขมแล้วนะ มันไม่น่ารักรู้มั้ย " ผมบอกอีกคนออกไปเสียงเบาๆ ภาพที่นิ่งไปมันเบือนหน้าหนี
" นี่เอาจริงดิ ขนลุกชะมัดเลยขมจ๋า "
“ อย่าว่าแต่ภาพเลยขมเองก็กล้ำกลืนเหมือนกันจ๊ะ " เราสองคนที่ได้แต่มองหน้ากันยิ้มๆ ในแววตาที่มีแต่ความรู้สึกฝืนๆแล้วคิดสภาพว่าทั้งผมทั้งมันจะต้องพูดกันแบบนี้กันไปตลอดสิ โอยยยย ความชิบหายของการไปเรียนวันแรกนี่หนอ จะทนได้นานแค่ไหนกันวะ
................................................
สงสารขมภาพ พอๆกับสมน้ำหน้านั่นแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
คราวนี้เราก็ตอบคำถามได้แล้ว ที่คนอ่านพูดกันเยอะมากๆๆๆๆๆว่า " ทำไมต้องให้ไอ้สองคนนี้มันพูดมึงกูกับเด็กด้วย " เหตุผลก็บอกว่า เราจะเขียนตอนนี้ค่าาาาาาาาาาา ฮ่าๆ
อ่านความแสบแบบใสซื่อของหัวหอมแล้วอยากจะบีบแก้มน้องง ก่อนจะดึงมาหอม มาฟัด ให้เต็มแรง
แล้วแบบนี้อาขม กับอาภาพที่พูดมึงกูกันจนชิน จะพูดจ๊ะจ๋า กันไปได้ถึงเมื่อไหร่นะ
โปรดติดตาม
สุดท้ายนี้ ในมีทวิต หนมฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ
ช่วยการกระจายความน่ารักของหัวหอม และอาภาพ อาขม กันด้วยนะค่าาาาาาา
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
หนมมี่จ้า