เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 18
“ ถึงแล้วจ๊ะขม ถึงแล้วจ๊ะกาลิค “ เสียงของไอ้ภาพเอ่ยบอกเราสองคน ตอนที่มันจอดรถลงที่หน้าร้านเอ็มเคสาขาแยกที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในห้าง " ลงไปกินข้าวกันเถอะนะจ๊ะ “
“ ไปกินข้าวกันนะ ไป “ เปิดประตูรถให้หัวหอมลงไปก่อนที่ผมจะเดินตามลงไป มันคว้ามือผมไว้ตอนที่เราเดินเข้าไปในร้านแล้วเลือกนั่งตรงโต๊ะตัวนึงที่พนักงานแนะนำให้ เมนูถูกส่งมาให้ หัวหอมก็ตาโตขึ้นด้วยความสนใจ
" อาขม อาขมนี่อะไรเหรอ " มือเล็กๆชี้ไปที่หม้อที่ตั้งอยู่ตรงกลางโต๊ะ
" เค้าเรียกว่า สุกี้ จ๊ะ "
" เหมือนกับปิ้งย่างที่เราเคยไปกินรึเปล่า " มันถามต่อ
" ก็คล้ายๆนะ แต่อันนี้เราเอาใส่ลงไปในน้ำซุปให้มันสุกไม่ได้เอาไปปิ้งให้มันสุก มึง..” ผมหยุดชะงักไปตอนที่จะเอ่ยเรียกอีกคนด้วยคำพูดที่ตัวเองพูดจนชินปาก " หัวหอมจะกินอะไร กินอะไรกันดี "
“ ไม่พูดแบบนั้นนะครับขม "
“ กู.." ผมที่กำลังจะอ้างปากด่าไอ้ภาพก็เบิกตาเหมือนกำลังห้ามผมที่จะพูด " ขมรู้แล้วครับภาพ "
“ น่ารัก พูดจาเพราะที่สุดเลย "
“ อึดอัดชะมัด " ผมพูดเสียงเบาๆแต่คนตรงข้ามก็ยังได้ยินอยู่ดี มันที่กัดฟันพูด
“ คิดว่าเป็นคนเดียวรึไง นี่ก็อึดอัดเหมือนกัน "
“ อาภาพ อาขมพูดอะไรกันเหรอ "
“ เปล่าหรอกครับ " ผมบอกปัด " มาดูกันดีกว่าหัวหอมอยากจะกินอะไรเอ่ย "
“ สั่งผักอะไรดี “ ภาพถาม
“ ไม่ต้องสั่งเป็นชุดหรอก สั่งเฉพาะแค่ที่กินก็พอ “ ไล่สายตาไปตามเมนู ผมสั่งเฉพาะแค่ผักที่กินง่ายๆ อย่างผักบุ้ง ผักกาดขาว เห็ดเข็มทอง แล้วก็สาหร่าย “ หัวหอมจะกินอะไรดี สั่งเลย “
“ กาลิคจะกินคุณปลาอันนี้ “ มือมันชี้มาที่ลูกชิ้นปลาผมก็จัดการสั่ง
“ แล้วเอาอะไรอีก “
“ แล้วก็กลมมีไส้สีแดงอันนี้ “
“ โอเคอันนี้นะ “ หันไปสั่งพนักงานตามที่อีกคนบอกว่าอยากจะกิน ก่อนจะเพิ่มพวก ไข่ แล้วเนื้อสัตว์อีกมากมายเพราะต้องเผื่อไอ้ภาพด้วย “ ภาพจะกินอะไรมั้ย ขมสั่งเผื่อแล้วนะ จะเพิ่มอีกรึเปล่า “
“ ไม่ละครับ “ มันตอบก่อนจะยื่นเมนูให้พนักงาน “ ขอน้ำเปล่านะครับ “
“ น้ำเปล่าด้วยเหมือนกันครับ ของเด็กก็ด้วย “ ผมบอก พนักงานก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกไป
“ ของเด็กก็ด้วย ก็คือของกาลิคก็ด้วยใช่มั้ยอาขม " มือเล็กๆเอื้อมมือกอดคอผมไว้ก่อนจะถาม พยักหน้ารับมันอีกคนก็ยิ้มก่อนจะจุ๊บลงข้างแก้ม " อาขม กาลิครักอาขม "
“ จริงอะ " ผมหันไปถามมัน จะว่าไปเดี๋ยวนี้ถูกหอมบ่อยมากจากผู้ชายตัวเล็กข้างๆนี้แหละ หอมกันยังไงก็ไม่มีเบื่อ หอมกันทั้งวัน
“ กู.. “
“ อะแฮ่ม! ” ไอ้ภาพกระแอมในลำคอ
“ อาขมเองก็รักกาลิคนะ " หันไปบอกมันก่อนจะหอมแก้มมันไปเต็มฟอด เจ้าเด็กขี้อ้อนก็ดึงตัวเองมานั่งลงที่ตัก จัดการลูบหน้าลูบผมให้มัน แต่งทรงผมให้เรียบร้อย
“ น้อยใจอะ “ ไอ้ภาพพูดเสียงไม่เบานักมากจากฝั่งที่นั่ง ใบหน้าคมที่กำลังปั้นหน้าเศร้าหันไปมองอีกทางเหมือนตัวเองรู้สึกเสียใจอยู่มากมาย “ เค้ารักกันอยู่แค่สองคนไม่เห็นรักเราบ้างเลย น้อยใจจัง “
“ น่าสงสารรร “ หัวหอมบอกตอนที่มองไปที่ภาพ มันดึงตัวเองลุกขึ้นจากตักผมแล้วเดินลงไปหาไอ้ภาพ มือเล็กๆเอื้อมไปเช็ดหน้าให้อีกคน “ ไม่ต้องเศร้าไปนะอาภาพ กาลิคก็รักอาภาพเหมือนกัน “
“ อย่างงั้นเหรอ “ มันถามกลับอีกคนก็พยักหน้ารับ “ งั้นหอมแก้มอาภาพหน่อย “ ยื่นแก้มลงมาให้เด็กน้อย กาลิคก็หอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด
“ อาภาพ กาลิคก็รักอาภาพเหมือนกันนะ “
“ เหรอ กูเองก็รักมึง “ มันบอกก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวอีกคน
“ ภาพ พูดไม่เพราะเลยนะจ๊ะ “
“ อ้อ โทษทีๆ ลืมตัวๆ " ท่าทางตกใจของมันที่เหมือนจะคิดขึ้นมาได้ มือหนาเอื้อมมือไปขยี้หัวอีกคน " ลืมไปก่อนๆ ลืมคำเมื่อกี้ไปก่อนนะ จงลืมมม แล้วก็จำใหม่ อาภาพเองก็รักกาลิคเหมือนกันนะครับ “
“ ครับ “ พยักหน้ารับทีนึง “ แล้วอาภาพกับอาขมรักกันรึเปล่า “
“ เอ่อ..” ไอ้ภาพที่นิ่งไป มันเหลือบมองผมเหมือนไม่ค่อยอยากจะตอบ
“ ทำไม ภาพไม่รักขมเหรอ " ถามมันออกไปตรงๆเล่นๆ แต่อีกคนก็ยิ่งอึกอักที่จะตอบ " เป็นอะไร ก็ตอบออกมาสิว่า รักเค้าน่ะ "
" เออ ก็รักแหละ " มันว่าก่อนจะหันไปอีกทางไม่ยอมสบตาผม หัวหอมยืนมองหน้ามันงงๆ ก่อนจะเอ่ยถาม
“ แล้วทำไมอาภาพต้องหน้าแดง "
“ ร้อนเว้ย " มันบอกปัดอีกคนที่ก็ยังเอียงหน้างงไม่หาย
“ หนาวนะ ไม่ร้อนหรอก "
“ มึงเอามันไปทีขมไป " ภาพโบกมือไล่ ผมก็จิ๊ปากใส่มัน
“ พูดให้มันดีๆสิภาพ "
“ โอ๊ยยย " เสียงคนที่กำลังรำคาญลากเสียงยาว " ขมครับ ช่วยเอากาลิคออกไปหน่อยน้าาา ภาพไหว้ละ "
“ หัวหอมมานี่มา มานั่งนี่ อาหารจะมาแล้วนะ " ผมบอกก่อนจะตบเบาๆที่ที่นั่งข้างๆผม เจ้าตัวเล็กที่เดินมานั่งอย่างว่าง่ายแต่ทว่าก็เหมือนจะยังไม่หายสงสัยอยู่ดี
“ อาขม อาขม ทำไม อาภาพต้องหน้าแดงด้วยละ "
“ ยังไม่หยุดอีก " ภาพพูดเสียงเบาๆ ผมก็หลุดหัวเราะ
“ สงสัยจะเขินมั้ง "
“ เขินเหรอ ? เขินคืออะไรอะ แล้วอาภาพเขินทำไมละครับ "
“ เขินก็คือ เราจะหน้าแดงๆ เวลาถูกถามอะไรสักอย่าง หรือว่าไปเจอคนที่เราไม่รู้จักไง แบบที่ตอนแรก หัวหอมเขินเวลาที่ไปเจอปู่กับย่าไง ตอนนี้เราก็อายไม่ใช่เหรอ กอดขาอาขมแน่นเลย " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ
“ งั้นอาภาพก็เขินอาขมเหรอ "
“ สงสัยจะเป็นอย่างงั้นมั้ง พอให้บอกว่ารักอาขมหน่อย ก็เขินอาขมใหญ่เลย ดูสิ ยังเขินอยู่เลย " ผมมองหน้ามันที่ก็ชักสีหน้าไม่พอใจมองผม แต่เพราะผมยิ้มให้มันก็เลยเลิกเก็กแล้วหลุดยิ้มออกมาเสียแบบนั้น
“ พอเลย พอ เลิกพูดมากได้แล้ว "
“ เขินอะไรนักหนา ทำเหมือนบอกรักแฟนไปได้ หรือว่า.. พี่ภาพจะแอบปิ้งน้องขมอยู่ " สบตามันที่มองผมนิ่งๆตอนที่พูดคำนั้นถูกเอ่ยออกไป สายตาที่ดูไม่เหมือนเดิมราวกับว่าคำพูดที่พูดออกไปเล่นๆของผมอีกฝ่ายจะคิดเป็นจริงเป็นจังอย่างงั้นแหละ รอยยิ้มของผมยิ้มที่ยิ้มให้มันค่อยๆคลายตัวลงช้าๆ ไอ้ภาพก็ยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะพูดเสียงเล่นๆ
" แหม พี่ก็ต้องปิ๊งน้องขมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วละจ๊ะ " มันตอบออกมาแบบนั้น แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นคำพูดกลบเกลื่อนของอีกคนเสียมากกว่า
" ขออนุญาติเสิร์ฟอาหารนะคะ " พนักงานที่ยกอาหารที่เราสั่งมาวางไว้ที่โต๊ะทีละอย่าง ในตอนนั้นผมที่มองมันอยู่ก็ยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้า คนอย่างไอ้ภาพไม่คิดอะไรแบบนั้นกับผมหรอก เมื่อกี้ก็คงจะแกล้งก็เท่านั้น เหมือนทุกทีนั่นแหละ คิดมาก
..................................................
“ โอ๊ยยยยย อิ่มสัด อิ่มเหี้ยๆ เลย " ไอ้ภาพเสียงดังขึ้นมาตอนที่หย่อนตัวเองลงนั่งในรถหลังจากมื้ออาหารที่เพิ่งกินกันเสร็จไปของเรา มันผ่อนลมหายใจออกมาผมก็เอื้อมมือไปตีไหล่มัน หัวหอมก็เอ่ยถาม
“ อาขม อิ่มสัดคืออะไรเหรอ คืออิ่มมากๆใช่มั้ย "
“ อิ่มสัดเป็นคำพูดที่ไม่เพราะเค้าไม่พูดกันหรอก "
“ แล้ว อิ่มเหี้ยๆละ "
“ อันนั้นก็พูดไม่ได้ ถ้าอิ่มเราก็พูดว่า อิ่มมากๆเลย หัวหอมห้ามพูดว่า อิ่มสัด กับ อิ่มเหี้ยๆ ที่โรงเรียนนะหรือว่าที่ไหนๆก็ไม่ได้ ไม่งั้นคุณครูต้องดุ แน่ๆเลย เพราะมันเป็นคำที่เด็กไม่พูดกัน " มันพยักหน้ารับกับผม ก่อนจะหันไปมองภาพ
“ แต่อาภาพพูดได้ใช่มั้ยครับ เพราะอาภาพโตแล้ว "
“ อาภาพเค้าแค่เผลอพูดนะ ไม่ได้ตั้งใจะพูดออกมาหรอก " ผมบอก ตอนที่หันไปชักสีหน้าให้ร่างสูง มันก็ยิ้มแห้งๆ
“ แหม เค้าก็ลืมตัวไปบ้าง อย่าถือสาเค้าเลยนะ " ภาพบอกก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวไอ้ตัวเล็กที่นั่งมองมันอยู่ " อาภาพแค่อิ่มนะ อิ่มากๆจนเผลอพูดคำไม่เพราะออกมาเลย ขอโทษนะครับ " หัวหอมส่ายหน้าไปมา " แล้วกาลิคอิ่มมั้ย "
“ อิ่มครับ "
“ ทีหลังไม่พูดแบบนั้นอีกนะจ๊ะ ภาพ มันไม่สุภาพ "
“ ครับขม ทีหลังภาพจะไม่พูดแบบนั้นอีก "
“ กาลิคก็จะไม่พูดแบบนั้นด้วยครับอาขม " มันหันมาบอกผมก่อนจะยิ้มให้
“ ดีมาก ไม่พูดน่ะดีแล้ว อาขมไม่อยากจะให้คนมองว่าหัวหอมเป็นเด็กไม่ดีนะ "
“ ครับ กาลิคจะไม่พูด " มันบอกก่อนจะเลื่อนตัวเองนั่งบนตักผมให้ถนัดขึ้น เราขับรถออกไปจากลานจอดรถ ภาพก็หันมาถามผม
“ ขมจ๊ะ เราจะต้องแวะห้าง หรือว่าเซเว่นเพื่อนซื้ออาหารเช้าให้กาลิคมั้ยจ๊ะ "
“ ต้องแวะจ๊ะ เพราะว่าไม่มีของกินตอนเช้าแล้ว " ผมตอบมันอีกคนก็พยักหน้ารับ
“ งั้นภาพแวะห้างแล้วกันนะจ๊ะ มีของให้เลือกเยอะดี "
“ ถ้าจะแวะห้าง ขมว่าก็กลับคอนโดเราเถอะจ๊ะ แล้วค่อยเดินไปซื้อที่ห้างใกล้คอนโดมันสะดวกกว่านะจ๊ะขมว่า "
“ อุ้ย ขมฉลาดจัง " มันบอกผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา
“ ขมไม่ได้โง่เหมือนภาพนี่น่าาา " ยิ้มให้มัน อีกคนก็ยิ้มกลับก่อนจะกัดฟันพูด
“ มึงว่ากูโง่เหรอไอ้ขม "
“ นี่มึงยังไม่รู้ตัวเหรอไอ้ภาพ " ผมกัดฟันตอบมัน " ฉลาดน้อยนะมึง "
“ อาขม อาภาพพูดอะไรกันเหรอ " คนที่นั่งบนตักผมเงยหน้าขึ้นถาม ผมก็ส่ายหน้า
“ เปล่าหรอก แค่คุยกันว่าจะซื้ออะไรให้หัวหอมกินดีพรุ่งนี้น่ะ เลยว่าจะแวะเข้าไปในห้างก่อนจะขึ้นคอนโด "
“ ตอแหลจัง " ไอ้ภาพกัดฟันพูด ผมก็ยกยิ้ม " ถามจริงนี่ไม่รู้สึกว่าตัวเองตอแหลเหรอ "
“ รู้สึกสิไอ้สัด " กัดฟันตบก่อนจะลูบหัวคนที่นั่งอยู่บนตักที่ก็เงยหน้ามองเราที่กำลังกัดฟันสททนากันอยู่ ท่าทางงงๆของมันชวนให้ผมชวนมันคุยเพื่อเปลี่ยนเรื่อง " พรุ่งนี้กินอะไรก่อนไปโรงเรียนดี ข้าวมั้ย หรือว่าแซนวิช อยากจะกินอะไรดี "
“ กาลิคกินได้ทุกอย่างงงงงงงงเลย "
“ จะว่าไปก็อยากจะไปเรียนทำอาหารนะ " ไอ้ภาพเบรครถอย่างแรงตอนที่ผมพูดคำนี้ออกมา มันที่หันมามองผมผมก็หันไปมองมัน " ตกใจอะไรของมึง.. อุ้ย.. ภาพตกใจอะไรเหรอ "
“ ตกใจที่ได้ยินมึงพูดว่าจะไปเรียนทำอาหาร "
“ ไม่พูดมึงสิไอ้สัด " กัดฟันพูดบอกมัน อีกคนก็ถอนหายใจก่อนจะถามใหม่
“ ขมจะไปเรียนทำอาหารจริงๆดิ "
“ ก็แค่คิดแหละ " ผมบอกปัดมัน
จริงๆมันเป็นความคิดที่อยู่ลึกมากๆของผม เพราะตอนเช้าแถวนี้มันไม่มีใครขายอะไรเท่าไหร่ ถ้ามีก็ต้องรอห้างเปิดซึ่งมันก็เลยเวลาเข้าเรียนแล้ว อีกอย่างจะให้กินข้าวนอกบ้านทุกเย็นก็ไม่ไหว กินทีสามคนก็ตั้งหลายบาทหารกันก็จริง ไอ้ภาพจ่ายเยอะสุดก็จริง แต่ผมก็เริ่มจะเกรงใจมันแล้ว อีกอย่างก็คิดว่า ถ้าทำอาหารเป็นบ้าง ในตอนเช้าหัวหอมมันจะได้ไม่ต้องกินอาหารเวฟด้วย
ผมเองยังจำตอนที่หัวหอมไปกินข้าวที่บ้านไอ้ภาพได้เลย ตอนนั้นมันกินอาหารได้เยอะมาก เป็นอาหารที่ทำเสร็จใหม่ๆ เป็นของดีๆ แถมยังเหมาะสุขภาพของมันอีก เลยคิดเล่นๆว่า ถ้าผมทำกับข้าวได้บ้างก็คงดี อย่างน้อยก็จะได้ทำให้มันกินบ้าง
“ ลองทำสิ ภาพก็อยากจะกินกับข้าวฝีมือขมนะ " คนขับรถพูดขึ้นเสียงไม่เบานัก มันที่หันมายิ้มให้ที่ตอนนั้นก็นิ่งไปนิดหน่อย รู้สึกว่าเสียงของมันนุ่มๆยังไงก็ไม่รู้ ดูอบอุ่นเหมือนกำลังให้กำลังใจกัน
“ เหรอ "
“ อยากจะรู้ว่ารสชาติจะเหมือนแดกอาหารเม็ดของหมารึเปล่า "
“ ไอ้เหี้ย " ผมพูดไม่ออกเสียง อีกคนก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นรถ " ตกลงว่ากินอะไรดี หัวหอม แซนวิชมั้ย ง่ายดี "
“ ก็ได้ครับ " มันพยักหน้ารับ รถเคลื่อนตัวมาจอดด้านในคอนโด เราเดินลงไปจากรถไอ้ภาพก็บิดขี้เกียจเสียครั้งใหญ่เพราะเมื่อยจากการขับรถนานๆ
“ ภาพว่านะจ๊ะขม ถ้าวันไหนเราไม่มีเรียนเช้า เราขึ้นบีทีเอสไปส่งกาลิคกันดีกว่า "
“ งั้นภาพก็ไปส่งนะจ๊ะ เพราะขมไม่ชอบเบียดคนเยอะๆ ตอนเช้า " มีแต่ความเงียบจากคนตรงหน้า ผมรู้ว่าไอ้ภาพเองก็ไม่ชอบที่จะไปเบียดใครเยอะๆเหมือนกัน โดยเฉพาะตอนเช้าๆของขบวนบีทีเอส
“ ขับไปก็ได้จ๊ะ แหมม " มันว่าเสียงเบา ผมก็ยกยิ้มขึ้นมา
“ หัวหอมไปซื้อแซนวิชกันเถอะ พรุ่งนี้จะได้เอาไว้ไปกินที่โรงเรียนไง "
“ ครับ แล้วอาขม อาขม กาลิคซื้อขนมได้รึเปล่า "
“ ขนมเหรอ " ผมทวนถามอีกคนก็พยักหน้ารับ
“ วันนี้ที่โรงเรียนตอนพักเที่ยงคุณครูให้กินข้าว แล้วก็นะ รินเน่น่ะ ก็เอาขนมออกมา อลันก็ด้วย แล้วเค้าก็กินกันแหละ เป็นขนมที่คุณแม่ของรินเน่แล้วก็อลันให้มาจากที่บ้าน กาลิคอยากจะเอาไปบ้าง กาลิคจะได้กินกับเพื่อน "
“ เหรอ ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ได้ แต่แค่กล่องเดียวนะตกลงมั้ย "
“ ครับ แค่กล่องเดียว " มันพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะดึงตัวเองเข้ามากอดผม " อาขมใจดีที่สุด กาลิครักอาขม "
“ อาภาพใจดีกว่าตั้งเยอะ ทำไมไม่รักบ้างละ หื้มมมมมมมมม " ภาพก้มลงอุ้มอีกคนที่กำลังกอดผมไว้ มันหอมแก้มไอ้ตัวเล็กไปหลายฟอด " ตอนนั้นอาภาพซื้อขนมให้ตั้งเยอะนะ "
“ ก็เพราะว่า ภาพตามใจบ่อยไงจ๊ะ แต่ขมไม่ค่อยตามใจหัวหอม หัวหอมก็เลยอ้อนขม มันก็ปกติ " ผมยื่นมือไปหยิกแก้มเด็กที่ไอ้ภาพอุ้ม " แต่ขี้อ้อนก็เท่านั้นแหละ คนนี้น่ะ "
“ งื้อ อาขมหยิกแก้มหนู " มันหันตัวหนีไปกอดคอไอ้ภาพไว้ ผมก็จักกะจี้มัน
“ นี่แหน่ะ นี่แหน่ะ "
“ งื้อออ อาขม อย่าทำ อย่าทำกาลิค " มือเล็กๆที่ดึงมือผมออก เราหัวเราะสนุกสนานในช่วงเวลาสั้นๆนั้น ก่อนที่ผมจะก้มลงไปหอมเบาๆที่หลังมันด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ จะทำ หมั่นเขี้ยวเด็ก เด็กขี้อ้อน เด็กน่ารัก " ผมบอกมันก่อนเราจะเดินออกไปชั้นลานจอดรถ แล้วข้ามถนนไปที่ห้างที่อยู่อีกฝั่ง ผมเดินตรงไปที่ร้านแซนวิชสีเขียวเป็นร้านแรก จัดการสั่งแซนวิชของเจ้าตัวเล็กเพราะสั่งง่ายที่สุด หัวหอมกินผักไม่กี่อย่าง ใส่เยอะไปก็พาลจะไม่กินอีก แต่ถ้าใส่เนื้อสัตว์เยอะๆ พวก เบคอน ชีส ทูน่า แล้วละก็ บอกเลยว่ากินสู้ตาย เพราะชอบมาก " ภาพจ๊ะ ขมสัั่งแบบชิ้นใหญ่เลยนะ เอาแบบหัวหอมนี่แหละ โอเคมั้ย "
“ โอเคครับผม " เงยหน้ามองพนักงานตอนที่ผมกำลังสั่งเธอก็ เบิกตามองผมยิ้มๆ คงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า ทำไม อีลูกค้าคนนี้มันถึงพูดจาชวนอ้วกอย่างงั้น ผมยิ้มแห้งๆให้เธอ เดี๋ยวมึงมีลูก มึงก็เข้าใจเองแหละ
“ อบร้อนมั้ยคะ " เธอถามผมก็ส่ายหน้า
“ ไม่ต้องครับ คิดเงินเลย " ผมบอกเธอ ที่ก็จัดการห่อแซนวิชแถวยาวให้เรา แซนวิชที่อัดไปด้วยเนื้อแล้วก็มีผักอีกนิดหน่อย พรุ่งนี้ตอนจะกินก็เอามาแบ่งๆกัน แล้วก็อบร้อนทีเดียวจะได้อร่อยๆ
“ กาลิคดูสิ แซนวิชที่เราสั่งยาวมากเลย " ไอ้ภาพลูบหลังอีกคนที่เหมือนนิ่งไปให้หันมาสนใจแซนวิซที่พนักงานกำลังม้วนแล้วยื่นมาให้ผม
“ นิ่งเลย ท่าทางจะง่วงแล้วมั้ง " ผมเอียงหน้าดูอีกคนที่สายตาเริ่มบรือลงช้าๆ หน้าตานิ่งๆที่บอกว่ากำลังง่วงเต็มที่แล้ว " หัวหอม ไม่หลับนะ เดี๋ยวไปซื้อขนมกันไง ไม่อยากจะกินเหรอครับ "
“ กินครับ " มันว่าพร้อมกับดึงตัวเองออกจากไหล่ไอ้ภาพ แต่ก็ไม่ไหวทรุดลงไปอีกที มือที่กอดอีกคนไว้แน่น
“ ท่าทางจะง่วงจริง "
“ อย่าให้นอนนะภาพ เดี๋ยวคืนนี้ไม่หลับแล้วเป็นเรื่องนะจ๊ะ "
“ จ๊ะ ขม " มันตอบรับคำผม ก่อนจะเชิดหน้าไปที่พนักงาน " รับเงินทอนสิ "
“ อ้อ ขอโทษทีครับ " ผมหันไปยิ้มให้เธอที่ก็ก้มหน้ายิ้มให้ผม " ขอบคุณนะครับ " เก็บเงินใส่กระเป๋า เราเดินออกมาจากร้านผมก็หันมองไอ้ภาพ
“ ขมว่านะ เมื่อกี้คนขายมองขมแปลกๆ "
“ ก็สมควรมองแหละจ๊ะ ไอ้คำที่พูดอยู่ใครมันพูดกันละจ๊ะ "
“ น่ารักดีออก เหมาะสำหรับเด็กด้วย เด็กฟังแล้วสดชื่นหู ไพเราะออกนะจ๊ะ หัวหอมจะได้จำแล้วเอาไปพูดกับเพื่อนที่โรงเรียนไง " ผมบอกอีกคนที่ส่ายหน้าไปมา " แวะร้านขนมก่อนะจ๊ะภาพ "
“ จ้าๆ " มันตอบรับ " อ้าวไหน ใครอยากจะกินขนมก็มาเลือกเลย "
“ กาลิคจะเอาอันนี้ " มันดึงตัวเองมาหยิบลูกอมแต่ผมก็เบรคไว้
“ ไม่เอาอันนี้นะ เอาอันที่มีประโยชน์หน่อย อันนี้กินไปฟันผุนะ "
“ แต่กาลิคอยากกิน " มันบอกเสียงเบาๆก่อนจะเริ่มทำหน้ายู่ " ให้กาลิคซื้อนะอาขม กาลิคอยากจะกิน "
“ เอาอย่างอื่นดีกว่านะ "
“ แต่กาลิคอยากกินลูกอมมม ลูกอม จะเอา จะเอาลูกอมม อึก ฮือๆ อยากกินลูกอม ลูกอม ฮือๆ " เสียงพูดที่อยู่ๆก็ร้องไห้ออกมาแบบไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ยอะไรทั้งนั้น
“ แล้วจะร้องไห้ทำไม "
“ ก็อาขมไม่ให้ซื้อ อึก แต่ กาลิค กาลิคอยากกิน " มันว่าเสียงงอแงก่อนจะชี้ไปที่ลูกอมห่อนึงที่อยากจะได้มากมาย มันเป็นลูกอมแบบที่ซื้อไปไอ้ตัวเล็กก็ไม่กินแน่ๆ เพราะมันเป็นลูกอมที่เปรี้ยวมากๆก่อนถึงจะหวาน
“ อันนี้หัวหอมกินไม่ได้หรอก เชื่ออาขมสิ "
“ กินด้ายยย " มันที่ยังเถียงด้วยแววตาแดงๆ ผมผ่อนลมหายใจออกมา ไอ้ภาพก็พูดเสียงเบา
“ ตามใจมันไปเถอะน่า ซื้อไปก่อนมันไม่กินหรอก เราค่อยกินก็ได้ "
“ ไม่ได้ ไม่ได้คือไม่ได้ ไม่ตามใจ " ผมบอก " เสียนิสัย ไม่ใช่ว่าอยากจะได้อะไรแล้วร้องจะเอา ถ้ายอมตามใจครั้งนี้ ครั้งหน้าก็ต้องร้องไห้จะเอาอีก " ผ่อนลมหายใจออกมากับเด็กที่อยากจะนอนด้วยก็เลยยิ่งงอแง ผมดึงกาลิคที่ภาพอุ้มอยู่มาอุ้มแทน " หัวหอมครับ มองหน้าอาขมก่อน "
“ ไม่มอง อาขมไม่ให้ซื้อลูกอม กาลิคไม่รักอาขมแล้วว "
“ ถ้าไม่มองอาขม งั้นอาขมคิดว่าเราคงพูดกันไม่รู้เรื่องแล้วนะ เพราะงั้นเราจะกลับบ้านกันไม่ซื้อขนมอะไรทั้งนั้นสักชิ้นเดียว ไว้หัวหอมตั้งสติได้ เราค่อยมาใหม่ " บอกแค่นั้นก่อนจะเดินพาอีกคนออกไปจากร้าน แล้วในวินาทีนั้นเจ้าตัวเล็กก็ร้องไห้งอแงขึ้นมาแบบครั้งใหญ่ " ถ้ายิ่งร้องไห้อาขมก็จะยิ่งไม่ซื้อให้นะ เพราะว่าหัวหอมไม่มีเหตุผลเลย "
“ ก็อาขม อึก ฮือๆ ไม่ให้ซื้อ อึก กาลิคจะกิน ขะ หนม ฮือๆ "
“ ซื้อได้ ซื้อให้ แต่ไม่ใช่ลูกอม " ผมพูดเสียงแข็งนี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองเหมือนจะดุมันอยู่หน่อยๆ " ถ้าไม่หยุดร้องไห้ก็ไม่ต้องเอาอะไรเลย กลับบ้าน แต่ถ้าหยุดร้องไห้แล้วหันมาพูดกันให้รู้เรื่อง ว่าจะซื้อแค่ขนมที่มีประโยชน์ และซื้ออันที่อาขมอนุญาติ อาขมก็จะพาหัวหอมกลับไปซื้อ แต่ถ้าหัวหอมยังดื้อจะซื้อของที่ไม่มีประโยชน์ก็กลับบ้านกัน " ทุกอย่างเงียบเจ้าตัวเล็กที่หันมองภาพที่เดินตามผมมา มันที่พยายามเอื้อมมือไปหาอีกคนเหมือนให้ช่วย ผมก็บอก " อาภาพก็ไม่ช่วย ไม่ต้องหาคนให้ช่วยเลย เอาไงจะซื้อขนมมีประโยชน์หรือจะกลับบ้าน " แววตาออดอ้อนที่มองมาทางผมทีมองไอ้ภาพที
“ ไม่กลับบบค้าบ อึก จะซื้อคาหนมมม " มันว่า
“ งั้นก็นิ่งซะ ไม่ต้องร้องไห้ " เอื้อมมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้มันอีกคนก็ซบลงบนไหล่ก่อนจะสะอื้นเป็นพักๆ " จำไว้นะหัวหอม ร้องไห้จะเอาของที่อยากจะได้ ก็ยิ่งจะไม่ได้ เพราะงั้นถ้าบอกว่าไม่ก็คือไม่ ถ้าบอกว่าจะซื้อให้ ก็จะซื้อให้ตามที่พูดเหมือนกัน "
“ อึก ฮือๆ อาขม กาลิคจะไม่กินลูกอมแล้ว จะกินขนมที่มีประโยชน์ อึก ครับ อาขมซื้อ ซื้อขนมให้กาลิคนะ น้าา " มันดึงตัวเองขึ้นมาบอกผม แก้มชมพูกับแววตาที่ใสๆชวนให้ใจอ่อนลงไปแต่ก็ต้องปั้นหน้านิ่งไว้ เพื่อให้มันรู้ว่ากำลังเอาจริง
“ แน่นะ "
“ แน่ครับ สัญญา " มันพยักหน้ารับก่อนจะยื่นนิ้วก้อยมาให้ ผมเกี่ยวก้อยมันกลับก่อนจะหอมแก้มมัน
“ อาขมรักหัวหอมนะ " ผมบอกมันอีกคนก็พยักหน้ารับ " ตอนนี้เราตกลงกันได้แล้ว งั้นก็ไปซื้อขนมที่มีประโยชน์กันนะ "
“ ครับ " มันพยักหน้ารับ
“ กาลิคเก่งมาก ไม่งอแงแล้ว " ภาพว่าพลางเอื้อมมือมาขยี้หัวมัน เราเดินกลับมาที่ร้านขายขนมที่แม่ค้ายิ้มให้เราด้วยความใจดี เธอเอียงหน้าทักเจ้าตัวเล็ก
“ ไม่ร้องไห้งอแงแล้ว เก่งจังเลย "
“ คราวนี้ก็ลงไปเลือกขนมได้แล้ว " ผมบอกก่อนย่อตัวให้มันเดินไปเลือกขนม หัวหอมเลือกขนมมันม่วงเป็นแท่งๆมากล่องนึง ก่อนจะเดินมาหาผม
“ อันนี้ได้มั้ยครับ "
“ ได้ครับ เอาอันนี้นะ " มันพยักหน้ารับ ท่าทางดูหงอยจนสงสารเลย อยากจะซื้อเพิ่มให้กินอีกสักชิ้นแต่ก็ต้องแข็งใจไว้ ไม่ได้เด็ดขาด " งั้นก็ยื่นให้พี่สาวเค้าเลย เราจะได้จ่ายเงินกัน "
“ นี่ครับ " มันว่าเสียงอ่อยๆ คนขายก็ยิ้มกว้างกับท่าทางของมันก่อนจะยื่นป๊อกกี้ที่เป็นซองเล็กๆมาให้
“ อันนี้พี่ให้นะ สำหรับคนเก่ง "
“ ขอบคุณครับ " ยกมือไหว้เรียบร้อยเราจ่ายเงิน หัวหอมก็ถือขนมของตัวเองก่อนจะดึงมือผม " อาขม อุ้ม อุ้มกาลิค "
“ ให้อาภาพอุ้มดีกว่ามา " ภาพเสนอตัวอีกคนก็เดินไปให้อุ้ม มันที่ซบลงไปบนไหล่ใบหน้าน่ารักที่ชวนให้ผมถอนหายใจออกมา บทจะน่ารัก ก็โคตรน่ารัก บทจะดื้อ จะงอแงก็สุดๆไปเลย " กลับบ้านกัน จะซื้ออะไรอีกมั้ยจ๊ะ "
“ ไม่ละจ๊ะ " ผมส่ายหน้าบอกอีกคน เราก็เดินออกจากห้างกลับเข้าไปในคอนโดตัวเอง ในลิฟต์เงียบเชียบที่มีแต่เราสามคน ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกี้แล้วรู้สึกขำตัวเองชะมัด ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ได้ ไอ้แบบที่ว่าวางกฏแล้วพยายามควบคุมนิสัยหัวหอมแบบนั้น
“ คิดอะไรอยู่ " ภาพถามผมก็หันไปมองหน้ามัน
“ คิดว่าเมื่อกี้กูทำไปได้ยังไงวะ กูทำตัวเหมือนแม่คนเลย "
“ คราวนี้พูดเองนะจ๊ะ " ไอ้ภาพว่าผมก็หลุดหัวเราะออกมา แต่ช่างเถอะถ้าจะเลี้ยงเด็กสักคนมันต้องมีใครสักคน ทำหน้าที่แม่อยู่แล้ว และผมก็คิดว่าถ้าทำให้หัวหอมเติบโตเป็นคนดีแล้วก็มีเหตุผลได้ จะบอกว่าผมเหมือน แม่ แบบนั้นก็คงไม่เป็นไร ผมเต็มใจเป็นให้อยู่แล้วถ้ามันจะเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กดีแล้วละก็นะ ... แต่จะว่าไป อุดมการณ์แบบนี้ ก็คงมีแต่คนเป็นแม่เท่านั้นแหละที่เป็น แต่เอาว่ะ! แม่ก็แม่
....................................................
แม่ก็คือแม่ กล่าวคือ เป็นแม่จริงๆแล้วนั่นแหละ ขม ฮ่าๆๆๆ
ทำไมแอบขำ คำพูดคำจาของไอ้สองคนนี้วะ ตลกอะ อ่านแล้วแบบ อะไรของมัน
จะให้กาลิคไปพูดกับเพื่อนที่โรงเรียนแบบ รินเน่จ๊ะ คุณครูจ๊ะ งี้เหรอ ฮ่าๆๆๆๆๆ
แต่เอาเถอะ พ่อแม่เค้าคิดว่าว่าดีแล้ว ให้เค้าทำไปก่อน เดี๋ยวลูกเต้าทนไม่ไหวก็คงบอกเอง
สุดท้ายนี้ สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ ทุกท่านนนนนนนน
ยังไงฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ แล้วก็ฝากแชร์ในเฟสด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะจ๊ะ
รักค่ะ หนมมี่ ~