“ โม " หันมองเสียงที่เอ่ยเรียกแต่กลับพบว่า ใบหน้าคมของคนที่เรียกนั้นกลับอยู่ใกล้กันแค่คืบเท่านั้น ผมดึงตัวเองออกห่างจากมันอีกคนก็เอ่ยถาม " ดูท่าทางว่าจะไม่ได้คิดเรื่องงานแล้วมั้ง "
“ คิดเรื่องงาน " ผมยังบอกอีกคนแบบนั้น แต่สายตาของชัดก็ดูเหมือนไม่เชื่อเท่าไหร่ สายตาที่ดูเศร้าลงไปของมันก่อนจะเอ่ยถามผม
“ คิดเรื่องนั้นอยู่เหรอ " มันถาม " เรื่องที่โดนกูสารภาพรัก "
“ ไม่ใช่สักหน่อย " ปฎิเสธออกไปทันทีแต่สายตาที่ดูไม่ค่อยเชื่อนั้นก็ชวนให้ผมอยากจะบอกความจริงกับมันออกไปตรงๆเลย เรื่องที่ผมกังวลอยู่ " คือชัดกู..”
“ นั่นไง ไอ้เชี้ยชัด! ” เสียงดังของใครอีกคนที่ตะโกนเรียกมันทำให้ ร่างสูงที่กำลังฟังผมพูดหันไปมองทันที
" โดดมานั่งคุยกับไอ้โม ตรงนี้นี่เอง ก็ว่าหายหัวไปไหน กูคิดว่ามึงชักโครกตัวเองลงไปแล้ว " ไอ้ภาพว่าก่อนจะหย่นตัวลงนั่งข้างผมส่วนเพื่อนที่เดินมาก็นั่งลงร่วมโต๊ะกับเรา
" อันนี้หนังสือมึงเอาไป " ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มที่นั่งข้างชัด ยื่นหนังสือให้อีกคนที่ก็รับไว้ เธอหันมายิ้มให้ผม ผมก็พยักหน้ารับ " หวัดดี "
“ หวัดดีครับ " ทักทายกลับไป ภาพก็เป็นคนแนะนำเพื่อนๆมันให้ผมรู้จัก
“ นี่ ปาย " มันชี้ไปที่ผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม ก่อนจะแนะนำเพื่อนผู้ชายอีกคน " ส่วนนี่ก็ไอ้เก่ง แล้วก็พวกมึงสองคน นี่ โม เพื่อนไอ้ขมเพื่อนกูอีกที "
“ อ๋อ เพื่อนของขม " ปายกับเก่งพยักหน้ารับ ผมก็ยิ้มให้ทั้งคู่ " นี่ไอ้ชัด วันนี้อาจารย์สั่งรายงานคู่ ไอ้ภาพกับไอ้เก่งมันจะคู่กัน มึงคู่กูนะ "
“ ได้ " ใบหน้าคมพยักหน้ารับ มือของปายก็ยื่นมาลูบหัวมัน
“ ดีมาก คนเก่งของแม่ " คำพูดที่ดูสนิทสนมชวนให้ผมรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาทันที สายตาที่เอาแต่จ้องการกระทำของเธอ จนภาพเอ่ยถามขึ้นมาถึงได้ผละสายตาออก
“ แล้วนี่ไอ้ขมละ "
“ กลับไปพร้อมกับไอ้ม่านไอ้มู่แล้วละ "
“ เหรอ งั้นกูกลับก่อนดีกว่า เผื่อรถติด ไปนะพวกมึง เจอกัน " ภาพยืนขึ้นเต็มความสูง โบกมือลาเพื่อนตัวเองทั้งหมดก่อนจะเดินออกไป
“ เชี้ยชัด น้ำติดหนวดมึงอะ " ปายพูดขึ้นผมก็หันไปมองการกระทำของทั้งคู่อีกครั้ง
เธอยื่นทิชชู่ส่งให้อีกคน แต่ชัดมันก็แค่ยกเอาหลังมือเช็ดก็เท่านั้น " อย่าเช็ดแบบนั้น มือมึงสกปรก มึงก็เอาไปเช็ดปากมึงอีก เอาทิชชู่ เช็ดแบบนี้ เช็ดๆ " ปายจับหลังคอของชัดก่อนจะทิชชู่ม้วนใหญ่เช็ดเข้าที่ปากอีกคนที่ก็พยายามเบือนหน้าหนีแต่ก็ไม่สำเร็จ โดนเช็ดด้วยทิชชู่ไปเต็มแรง
“ โอ๊ย เชี้ย กูเจ็บ "
“ แม่คือแม่ จริงๆ " เก่งว่ายิ้มๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผมที่มองเหตุการณ์นั้นงงๆ " ไอ้เชี้ยปายมันชอบดูแลคนอื่นอะ "
“ เรียกว่า เจ้ากี้เจ้าการดีกว่า " ชัดบอก ผมก็ยิ้มให้เธอที่ทำหน้ายู่ลงทันที ที่โดนเพื่อนพูดถึงแบบนั้น
“ แล้วมันน่าให้จัดการเปล่าวะ พวกมึงแม่งโคตรไม่ดูแลตัวเองเลย โดยเฉพาะไอ้ชัด " มันหันมามองผู้ชายร่างสูงข้างกายตัวเอง " ผมมึงนี่คือเหี้ยไร แล้วหนวดมึงอีก เห็นแล้วหงุดหงิด โคตรอยากจะตัดออกมา คันมือ "
“ ใจเย็นๆ " เก่งว่า
“ กูว่ามึงน่าจะโกนหนวดออกนะ คือ ไว้ผมยาวก็โอเค แต่ถ้าโกนหนวดออก หน้าตาจะได้ไม่ดูน่ากลัวแบบนี้ว่ามั้ยโม " เธอหันมาถามผมที่ก็นิ่งไป ไอ้ชัดเองก็หันมามองเหมือนกัน
“ มองกูทำไมวะ " ผมถาม
“ มึงว่าโกนหนวดแล้วดีขึ้นมั้ย มึงจะกลัวกูน้อยลงรึเปล่า "
“ กู..” กูว่าตอนนี้มันไม่น่าจะเกี่ยวแล้ว ผมอยากจะบอกมันแบบนั้นแต่ปายก็ขัดขึ้นมาก่อน
“ โมเคยกลัวไอ้ชัดเพราะมันไว้หนวดด้วยเหรอ "
“ ก็นะ " พยักหน้ารับ เธอก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
“ กูบอกแล้วว่าให้โกน ให้โกน ถ้ามึงโกน สาวๆจะหันมองมึงเยอะกว่านี้อีกกูจะบอกให้ " ชัดยกคิ้วขึ้น ท่าทางที่ดูเหมือนกำลังคิดและเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน
“ เหรอ "
“ จริง เชื่อกู น่าโกนหน่อย เพื่อกู กูเห็นไม่ได้เนี้ยยย กูเห็นแล้วกูอึดอัดอยากจะเอามือไปดึงมัน หมั่นไส้โว้ยย " เสียงที่เหมือนอดทนไม่ไหวแล้ว มือของสาวเจ้าก็ยื่นมาตรงหน้าอีกคนหมายจะจับหนวดของชัด แต่มันก็คว้ามือเธอเอาไว้
“ มึงไม่ได้จับหนวดกูง่ายๆหรอก ไอ้ปาย " มือของปายพยายามข่มแรงของอีกฝ่ายที่แน่นอนว่าก็ไม่มีทางสู้ได้หรอก ชัดดัดแขนอีกคนให้ไขว้ไว้ข้างหลัง ก่อนที่ต่างฝ่ายจะยิ้มออกมาให้กัน ดูเป็นธรรมชาติจนชวนให้รู้สึกว่ามันสองคนดูราวกับว่ากำลังมีใจให้กันอยู่อย่างงั้น ปายอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่สวยมากแต่ก็เป็นคนที่ยิ้มแล้วดูน่ารักแล้วก็ สดใสดี
“ ไอ้เชี้ยชัดเจ็บ ชอบเล่นแรงๆประจำเลยมึง "
“ เอ่อ..ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ " ผมว่าขัดคนสองคนที่กำลังเล่นกันอยู่ ชัดก็หันมาถาม
" จะกลับแล้วเหรอ "
" อื้ม " พยักหน้ารับ " ไม่อยากจะกลับเย็นมากอะ เดี๋ยวรถติด กลับก่อนแล้วกัน ไว้เจอกันนะ " ผมบอกคนที่นั่งร่วมโต๊ะก่อนจะหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น
ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ ก็ไม่รู้ ภาพที่ดูสนิทสนมพวกนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าเป็นเพื่อนกัน แต่ในใจมันก็แปลกๆ ทำไมไม่เป็นกูวะ ผมรู้สึกแบบนั้น ทำไมไม่เห็นทำอะไรกับกูแบบนั้นบ้างเลย สนิทเกินเพื่อนมากเกินไปรึเปล่า แล้วเรื่องที่ของให้ตัดหนวดเพื่อเพื่อนอะไรแบบนั้นมันมีที่ไหน เพื่อนที่ไหนเค้าขอกัน ถ้าเป็นความชอบของชัดก็ให้มันทำไปสิ ถ้าเป็นแฟนกันแล้วขอ ก็ว่าไปอีกเรื่อง แล้วท่าทางที่ดูเหมือนว่า ไอ้ชัดจะทำให้นั่นอีก แม่งคืออะไรวะ มันชอบกันเหรอ ไอ้สองคนนั้นน่ะ แล้วกูละ .. กูคืออะไร
“ ไอ้เหี้ย " ผมสบถออกมาก่อนจะถูกคว้าข้อมือให้กลับไปมองคนที่เดินตามมาจากข้างหลัง " ชัด..”
“ กลับบ้านด้วยคนสิ "
“ ไม่นั่งคุยกับเพื่อนแล้วละ " ถามมันออกไปอีกคนก็ส่ายหน้า
“ ไม่ละ ไว้คุยกันเมื่อไหร่ก็ได้ "
“ นั่นนะสินะ จะคุยเมื่อไหร่ก็ได้อยู่แล้ว" ผมบอกก่อนจะดึงมือตัวเองที่มันจับอยู่ออกแต่อีกคนก็ยังจับไว้แน่น " จับทำไมวะ คนมองเยอะแยะ " ชัดหันมองซ้ายขวาตอนที่ผมบอก
“ ไม่เห็นมีคนมอง " มันว่าก่อนที่ผมจะเงียบไป " เป็นอะไร อยู่ๆก็ลุกขึ้นมา ท่าทางหงุดหงิด "
“ หงุดหงิดไรวะ แค่คนจะกลับบ้าน "
“ ก็หน้ามึงบอก ว่ามึงกำลังหงุดหงิด " ผมหันมองมันที่ยังยืนยันอย่างงั้น แม้มันจะพูดถูกแต่ใครมันจะไปยอมรับว่ากำลังหงุดหงิดถ้ามันรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ มันคงได้ใจแน่
" กูจะหงุดหงิดเรื่องอะไร เรื่องที่มึงเล่นกับปายเพื่อนมึงแบบสนิทสนมอย่างงั้น หรือว่า เรื่องที่ปายมันขอให้มึงโกนหนวด แล้วมึงก็ดูท่าทางว่าจะโกนให้ ทั้งๆที่ว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าแค่เพื่อนขอเราก็ไม่จำเป็นต้องทำให้นิหว่า ถ้าแฟนขอก็ว่าไปอย่าง " ผมหัวเราะให้คอมมองอีกคนที่ยังจ้องมองผม " เว้นแต่ว่า มึงจะรู้สึกพิเศษกันอยู่ "
“ กูกับไอ้ปายนี่อะนะ " ชัดถามผม " มึงเอาความคิดส่วนไหน มามองว่ากูกับมันคิดอะไรกันแบบนั้นกัน ไอ้ปายมันมีแฟนแล้วนะ " ผมนิ่งตอนที่อีกคนบอก ปากที่อึกอักพูดไม่เป็นคำของผมหลบตามันที่จ้องมาก่อนจะมองไปทางอื่น
“ ก็..ใครมันจะรู้ว่ามีแฟนแล้ว กูเห็นแบบไหน ก็พูดไปตามที่เห็นอะ ก็มึงสองคนเป็นแฟนกัน "
“ กูไม่โกนหนวดกูง่ายๆหรอก ยกเว้นว่ามึงบอกว่าให้โกน เพราะถ้าโกนแล้ว มึงจะกลัวกูน้อยลง แล้วจะอยู่ใกล้กูได้มากขึ้น เปิดใจให้กูมากขึ้น แบบนั้นกูคงโกน "
“ เกี่ยวอะไรกับกู " ผมบอกปัดมัน อีกคนก็เดินเข้ามาใกล้
“ เมื่อกี้มึงบอกไม่ใช่เหรอ ว่าเรื่องโกนหนวดมันต้องเป็นแฟนขอกัน ถึงจะทำให้ได้ และแบบนั้นสำหรับกูก็คงมีแค่มึงเท่านั้นแหละที่ขอได้ " ทุกอย่างเงียบผมที่ก้มหน้าลงชัดก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ มันที่กระซิบลงข้างหูผม " ทำแบบนี้เหมือนหึงกันเลยนะ ไหนบอกว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับกูไง "
“ ใครบอกว่าไม่รู้สึก " ผมถามมันกลับอีกคนก็นิ่งไป " กูบอกมึงเมื่อไหร่ ว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึง "
“ ก็มึงไม่ตอบรับ "
“ ตอนนั้นกูตอบว่าอะไร กูตอบว่าขอคิดดูก่อนไม่ใช่เหรอ " ย้อนถามมันอีกครั้ง ชัดที่สบสายตากับผมในตอนนั้นปากมันก็พูดออกไป ความจริงในใจทั้งหมดที่ค้างคาอยู่ " มึงคิดว่ามันง่ายเหรอวะ กูเป็นผู้ชายนะ ที่ต้องมารู้สึกดีกับมึงกูก็ไม่รู้จพทำยังไงแล้ว ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามใจไป แต่วันนึงพอมึงมาสารภาพรัก กูดีใจ แต่อีกใจนึงก็คิดต้องเกิดอะไรขึ้นต่อไปนี้วะ ถ้าตกลงคบกัน เราต้องจูบ กอด หรือทำอะไรมากกว่านั้น แล้ววันนึงถ้าคบกันไปแล้วไม่รอดขึ้นมา จะทำยังไง กับชีวิตหลังจากนั้น กูจะกลับไปคบกับผู้หญิงได้มั้ย หรือว่ากูจะต้องคบกับผู้ชายคนอื่นต่อไป เกย์เป็นยังไงกูยังไม่เข้าใจเลย ที่กูรู้จักที่กูเห็น คือ กูเห็นพวกมันมีแฟนไม่ทั่ว เปลี่ยนแฟนไปเรื่อย มีอะไรกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งกูไม่อยากจะเป็นแบบนั้น กูไม่ได้อยากจะมีอะไรกับคนอื่น แต่พอคิดว่าจะปฎิเสธมึง ใจมันก็บอกไม่ได้ ต้องเป็นมึง อยากจะคบด้วย อยากจะลองดู แต่กูก็คิด กูคิดจนวุ่นวายไปหมด คิดจนกลัวว่ามึงจะหายไปจากกู เลยได้แต่บอกมึงว่า อย่าหายไปนะ แล้วนี่อะไร มึงมาบอกกูว่า กูพูดว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึง นี่เหรอวะชัด ที่มึงบอกว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึง นี่เหรอ ? กูรู้สึกสิ ไม่รู้สึกจะหึงมึงกับมันมั้ยละ ไม่รู้สึกจะคิดมากมั้ยละ ไอ้เหี้ย! " ตะโกนออกไปในคำสุดท้าย ผมผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ เหมือนคนสติหลุดที่เพิ่งได้สติหลังพูดความในใจออกไปหมดทุกคำแล้ว " อะ เอ่อ.. กู กลับบ้านละ "
หันหลังเดินหนีมัน ผมเร่งฝีเท้าของตัวเองจนมาถึงลานจอดรถ ชัดคว้ามือผมไว้ให้หยุดเดินก่อนที่มันจะเดินเข้ามาใกล้ผม รู้สึกถึงลำตัวหนาที่แนบชิดเข้ากับร่างกาย ลมหายใจของผมติดขัด ชัดก็บอก
“ กูคงไม่กล้าบอก ว่าถ้าคบกันแล้วเราจะไม่เลิกกัน เพราะกูไม่อยากจะให้ความหวังมึง ไม่อยากให้มึงเจ็บปวดกับคำพูดของกูในอนาคต แต่ที่มึงบอกว่า ถ้าเลิกกันก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้อนาคต จะเสียใจมั้ยในอนาคตที่คบกับกู งั้นกูขอถามกลับได้มั้ย " มือหนาดึงร่างของผมให้หันมาเผชิญหน้ากับมัน " แล้วถ้าไม่คบจะเสียใจมั้ยที่ไม่ได้คบกัน "
นั่นนะสิ จะเสียใจมั้ย.. ถ้าเกิดว่าไม่ได้คบกัน ถ้ามันไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ แล้วหายไปจากสภาพแวดล้อมของผมทั้งหมด ไม่มีไลน์เด้งเข้ามาในทุกวัน มันที่ไม่มากินเข้าวเที่ยงด้วย ไม่นัดออกไปตอนเย็น ไม่มีคนช่วยซ่อมรถ หรือว่าไปส่งที่บ้าน มันที่หายไปแล้วไม่ได้เจอกันอีก หลงเหลือเพียงแค่ ' ไอ้ชัด เพื่อนของเพื่อนขมที่ผมกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ '
“ ก็คงเสียใจ " ผมตอบเสียงเบาอีกคนก็ยิ้มให้ ชัดขยี้หัวผม
“ ไว้ค่อยก็ได้ กูเข้าใจมึงแล้ว ว่ามึงคิดอะไรอยู่ มึงอาจจะไม่มั่นใจในตัวกู งั้นก็ไม่เป็นไร กูจะพยายามต่อไปให้มึงมั่นใจ แล้วค่อยพูดคำนั้นอีกที " มันว่าแค่นั้นก่อนจะถอยห่างออกไปจากตัวผม " มึงขึ้นรถเถอะ กลับบ้านได้แล้ว เดี๋ยวรถติด "
“ อะ อื้ม " พยักหน้ารับมัน ผมที่เดินเข้าไปในรถปิดประตูลงก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วคิดอยู่นาน หันมองออกไปที่หน้าต่างรถมันที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นแต่กลับไม่ได้มองมาที่ผมเลยอาจเพราะฟิล์มดำเลยทำให้มองอะไรไม่เห็น แต่ในใจกลับรู้สึกว่างเปล่าพิกลเหมือนกับว่า ถ้าช้ากว่านี้แล้วมันไปเจอใครที่ดีกว่าผม ถูกใจกว่าผม มันก็คงไปชอบเค้า แล้วผมก็คงเหมือนคนที่อยู่ในฟิล์มดำอย่างตอนนี้ คือจะกลายเป็นคนที่มองเห็นมัน แต่มันคงจะมองผมไม่เห็นอีก " ชัด..” ผมเปิดประจกรถทักมันอีกคนก็ก้มลงมอง
“ หื้ม ว่าไง "
“ รถจอดอยู่ไหน "
“ อยู่ที่ลานจอดรถข้างหน้า " ผมพยักหน้ารับก่อนจะปลดล็อครถ
“ ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่ง จะกลับบ้านเลยไม่ใช่เหรอ "
“ อื้ม " มันพยักหน้ารับก่อนจะเดินวนมานั่งที่คนนั่งข้าง ผมกดล็อครถแต่ก็ไม่เคลื่อนตัวออกไปไหน หัวใจที่เต้นแรงของผมมีคำตอบนึงโผล่ขึ้นมาว่าไม่อยากจะให้มันหายไปจากตรงนี้เลย แล้วตอนนั้นปากก็เอ่ยถามมันออกไปทั้งๆที่มือยังกำพวงมาลัยรถแน่น
“ ชัด..ช่วยถามคำถามนั้นอีกสักครั้งจะได้มั้ย "
“ คำถามอะไร " มันหันมามองผมก็มองตรงไปข้างหน้าไม่ยอมหันมามองมัน
“ วันที่รถกูเสียแล้วมึงมาซ่อมให้ วันนั้นที่มึงถามน่ะ "
“ ที่ถามว่าเป็นแฟนกันได้มั้ย แล้วมึงขอคิดดูก่อนนะเหรอ " ผมพยักหน้ารับ " คิดดูก่อนก็ได้ กูเข้าใจว่ามันไม่ง่ายที่จะ..”
“ กูกลัวว่ะ " ผมหันไปมองหน้ามัน มือที่จับพวงมาลัยรถตัวเองไว้แน่น " กลัวว่าไม่ยอมรับ แล้วมัวคิดก่อนต่อไปเรื่อยๆ มึงอาจจะเจอใครที่ดีกว่ากูก็ได้ มึงอาจจะหายไป ไปชอบเค้าแล้วไม่หันมาสนใจกูอีก กูที่มองมึงอยู่ แต่มึงกลับไม่ได้หันมาสนใจแบบนั้น กูไม่อยากจะทุกอย่างต้องเป็นแบบนั้นเลยวะ "
“ เป็นแฟนกับกูนะโม " ชัดบอกก่อนจะเอื้อมมือมาจับหัวผมไว้ มันที่ส่งยิ้มมาให้ " เป็นแฟนกับกูนะ ถ้ามึงตอบรับรักกูอย่างน้อยวันนี้มึงก็ไม่ต้องเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ ส่วนเรื่องอนาคตก็ปล่อยให้มันเป็นไร มันจะกลายเป็นความทรงจำแบบไหน มันอยู่ที่เราไม่ใช่เหรอ "
ก็คงจริงอย่างที่มันพูด ความรักของเราจะกลายเป็นความทรงจำแบบไหนมันอยู่ที่เราปฎิบัติต่อกันนับจากนี้ สำหรับชัด ผมคงเสียใจแน่ถ้าตอนนี้ไม่รับรักมัน แต่ในอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนว่าจะเสียใจรึเปล่า เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ควรตัดสินใจในเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก่อน
“ เป็นแฟนกับกูนะโม " ชัดถามย้ำอีกครั้ง ผมมองนิ่งๆอีกคนก็ยกยิ้ม " ยังจะทำเป็นนิ่งอีกทั้งๆที่พูดออกมาหมดขนาดนั้นแล้ว "
“ ก็ไม่รู้จะตอบรับแบบไหน " ผมหันไปมองทางอื่นตอนที่พูดตอบมัน
“ งั้นแบบนี้ก็ได้มั้ง " ใบหน้าคมดึงตัวเองเข้ามาใกล้ผม ประทับจูบบนริมฝีปากที่ก็ได้แต่นิ่งไป หลับตาลงช้าๆราวกับตัวเองตกลงไปในหลุมลึก ลอยเคว้งอยู่ในอวกาศเสียนานก่อนจะรู้สึกถึงลิ้นชื้นๆที่เคลื่อนตัวเข้ามาในโพรงปากที่เผยอตอบรับและเกี่ยวลิ้นนั้นกลับ จูบอบอุ่นกลายเป็นจูบที่ดูดดื่ม ตอนที่ชัดผละออกมันยกยิ้มให้ผม " แค่นี้ก็น่าจะเป็นการตอบรับการเป็นแฟนของเราแล้วละ "
“ นิสัย " ผมดันตัวเองออกมา ผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆกัดปากก่อนจะยิ้มให้กับทางข้างหน้า
' แล้วสุดท้าย... ก็ได้เป็นแฟนมันจนได้ '
................................................................
ชัดโมมาแล้ววว ขอเบรคความน่ารักของน้องกาลิคใสๆ
มาดูความรักแบบผู้ใหญ่กันบ้าง เปลี่ยนแนว เผื่อมีคนคิดถึง
ก่อนที่อีคนแต่งคนนี้จะลืมพล๊อตของคู่นี้ไป เอาจริงๆตั้งแต่เขียนนิยายมา
นี่ก็เป็นเรื่องแรก ที่มีคู่รองน้อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก ปกติคู่รองจะเยอะพอๆคู่หลัก
แต่คู่นี้คิดว่าอยากจะเขียนให้แบบ กรุ่มกริ่ม น่ารัก ใสๆ ความรักอารมณ์ การ์ตูนตาหวาน
#ความใสซื่อจงเข้ามาครอบงำอิชั้นบัดเดี๋ยวนี้
ยังไงฝากแท็ก #มมชลก ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า