เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู { ตอนเปิดจองนิยาย+ลงหน้าปก - 11.10.60} #หน้า 48 ( ลงตอนจบแล้ว )  (อ่าน 271006 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ขมก็ไม่ได้รู้เลยว่าภาพหึงเหมือนกัน พอเจอกับตัวเอง บายยยยเลย

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
แม้จะรู้ความรู้สึกตัวเอง  แต่ก้คงไม่มีใครกล้าพูด
เพราะกลัวจะเสียเพื่อนหรือเปล่า อย่างนี้ต้องมีตัวช่วยกระตุ้น

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 23


“ เอาละ จะเริ่มหาแล้วนะ " เสียงที่ตะโกนออกไปตอนที่ผมกำลังหันหลังแล้วปิดตาอยู่ที่ประตูห้องของตัวเอง " พร้อมรึยังงง "

“ ยังไม่พร้อมมมม " เสียงที่ตอบกลับดังออกมา ผมก็หลุดยิ้ม

   มันเป็นกิจกรรมวันเสาร์อาทิตย์ของเรา ในขณะที่เด็กคนอื่นอาจจะต้องไปเรียนพิเศษดนตรี หรือว่าวิชาการ แต่สำหรับหัวหอมผมกลับให้มันแค่เล่นสนุกสนานอยู่บ้านแบบนี้น่าจะดีกว่า พักผ่อนจากการเรียนหนักๆทั้งอาทิตย์ แล้วใช้จิตนาการของตัวเองจากการเล่นเกมส์ต่างๆ หลุดออกจากหน้าทีวีที่มันเอาแต่นั่งดูทุกวัน เปลี่ยนมาเล่นด้วยกันในบ้านเพื่อให้มันรู้สึกว่า นอกจากการ์ตูนก็ยังมีอะไรอีกมากมายที่สนุกกว่าการนั่งดูการ์ตูนคนเดียวเสียอีก อย่างที่เรากำลังเล่นอยู่ตอนนี้ก็ด้วย ' การเล่นซ่อนหา '

“ งั้นจะนับหนึ่งถึงสิบนะ "

“ พร้อมแล้วครับ! ” เสียงที่ตะโกนมาผมก็หันหลังกลับมามองไปรอบๆ มองผ่านไอ้ภาพที่กำลังนั่งทำรายงานอยู่ที่โต๊ะหน้าทีวี ผมเดินหาเจ้าตัวเล็กไปเรื่อย ก่อนจะหยุดอยู่ที่ผ้าม่านตรงกระจกสูงของห้อง ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดูอย่างไร้สาเหตุ

   เราเล่นซ่อนหากัน หัวหอมเป็นคนแอบแล้วมันก็มาแอบที่หลังผ้าม่าน มันที่มันอุตส่าห์แทรกตัวเองสอดเข้าไปในผ้าม่านบางๆนั้นเพราะคิดว่าผมต้องไม่เห็นแน่นอน แต่กลับไม่รู้เลยว่า ขาตัวมันเองที่โผล่ออกมาเต็มๆอยู่ที่พื้นนั่นแหละ

" ไม่ได้เนียนเลย " ไอ้ภาพสถบออกมา ก่อนจะยกมือถือขึ้นถ่ายรูป ส่วนผมก็แสดงแอคติ้งออกไปอย่างผู้เชี่ยวชาญ

" หัวหอมอยู่ไหนน้า มองไม่เห็นเลย ตายแล้ว จะหาเจอมั้ยเนี้ย หัวหอม อยู่ไหนเอ่ยยย อยู่ไหนกันน้า " หลุดยิ้มเอ็นดูกับมือเล็กๆที่เอาแต่ปิดปากตัวเอง ก่อนที่มันจะเอียงหน้าโผล่ออกมาจากผ้าม่านแล้วกระโดดมากอดผมไว้

" อาขม! อยู่นี่! “ มันว่าก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความสุข " กาลิคอยู่นี่ครับ อาขม "

" อ้าว อยู่นี่เองเหรอ ไม่รู้เลยนะเนี้ย เมื่อกี้ไปซ่อนตรงไหน "

" ตรงนี้ครับ ตรงนี้ " มันบอกแบบกระตือรือร้น ชี้ไปที่ผ้าม่านที่ตัวเองซ่อนตัวเมื่อครู่ " อาขม อาขมมองกาลิคไม่เห็นเลยแหละใช่มั้ย "

" ใช่แล้วมองไม่เห็นเลย เก่งจังนะ " ลูบหัวก่อนจะดึงเข้ามากอดอีกคนก็เอียงหน้าถาม

" กาลิคจะเล่นอีก " มันว่า ผมก็พยักหน้ารับ

" งั้นเล่นกันอีกรอบนะ "

“ ครับ " เดินไปกลับไปที่ประตูห้องตัวเองไอ้ภาพก็เอ่ยถาม
 
“ นี่ถามจริงๆ ไม่เห็นจริงๆอะ "

“ เห็นสิวะ " ผมบอกเบาๆ อีกคนก็หลุดยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา กลับไปยืนที่เดิมผมตะโกนบอก " เอาละนะ จะนับแล้วนะ เอ้า หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ จะหาแล้วนะ " ทุกอย่างเงียบผมก็หันกลับมา ก่อนจะนิ่งค้างไปกับที่ซ่อนใหม่ของหัวหอมที่ตอนนี้อัพเลเวลขึ้นมาแล้ว

   ไอ้ตัวเล็กเอาหมอนมาบังหน้าตัวเองก่อนจะไปนั่งหลบมุมอยู่ที่ห้อง หมอนที่บังได้แค่หน้าแต่ตรงตัวก็เห็นโคตรจะชัดเหมือนเดิม

“ นี่มันคงคิดแค่ว่าตัวเองไม่เห็นคนอื่น แล้วคนอื่นจะไม่เห็นตัวเองถูกมั้ย " ผมบอกแบบนั้น ไอ้ภาพมันก็หัวเราะ

“ ไอ้กาลิคเอ้ย " หลุดหัวเราะกันออกมาสองคน ผมเดินเข้าไปหามันก่อนจะดึงหมอนขึ้นมา

“ จับได้แล้ว "

“ งื้อออออ ทำไมอาขมเห็นน ไม่เอา อาขมต้องไม่เห็น " ยังจะถามอีก พ่อคุณ

“ ทำไมเป็นแบบนั้นละ ต้องเห็นบ้างสิ ก็อาขมเห็นนี่น่า " บอกแบบนั้น หัวหอมก็หน้ามุ่ยลง " ทำไมทำหน้าแบบนั้น "

“ ก็กาลิคอยากจะชนะ อยากให้อาขมไม่เห็น "

“ ได้ไง คนเราเล่นเกมส์ ก็ต้องมีแพ้มีชนะ เราไม่ได้ชนะตลอดหรอกนะ " ลูบหัวบอกมัน ผมเดินเอาหมอนมาตั้งที่โซฟาก่อนจะนั่งลง หัวหอมก็เดินมาแทรกตัวตรงระหว่างขาของผม มันก้มลงซุกหน้าที่ตัก

“ แล้วทำยังไงกาลิคถึงจะชนะตลอด กาลิคอยากจะชนะตลอดเลย "

“ อยากจะชนะตลอดก็ต้องเก่ง แต่ว่านะ คนเราอะไม่ต้องชนะตลอดก็ได้ ชนะบ้าง แพ้บ้าง มันธรรมดานะ มันต้องมีบ้างแหละ ที่เพื่อนเก่งกว่า แล้วบางทีเราก็เก่งกว่าเพื่อน "

“ เหรอครับ " มันถามเสียงหงอยๆ ผมก็ยิ้ม

“ อื้ม แล้วจะเศร้าทำไม การเล่มเกมส์น่ะ มันคือการสอนเราคนเล่นให้ รู้แพ้ รู้ชนะ ตังหาก ยอมรับว่านี่แพ้แล้วนะ แล้วก็ยอมรับว่า ชนะแล้วนะ พอใจกับความชนะของตัวเองแล้วก็ไม่ถมทับความพ่ายแพ้ของเพื่อนด้วย " 

“ จะไม่มีใครชนะตลอดไปเหรอครับ "

“ อื้ม ใช่แล้ว "

“ แล้วจะไม่มีใครแพ้ตลอดไปด้วยใช่มั้ยครับ "

“ ถูกต้อง " ผมบอกก่อนจะดึงมาขึ้นมานั่งบนตัก อารมณ์ร้อนๆข้างนอกของเที่ยงวันแค่มองออกไปก็รู้สึกร้อนแล้ว แม้ว่าข้างในนี้จะเย็นก็เยอะ ลูบหน้าของอีกฝ่ายที่มีแต่เหงื่อเต็มหน้าไปหมดเช็ดหน้ามันด้วยฝ่ามือเบาๆก่อนจะดึงให้ขึ้นมานอนบนตัก " ง่วงมั้ย นอนกันดีกว่า "

“ อาขม กาลิคจะได้ไปบ้านคุณปู่คุณย่ามั้ย "

“ ได้ไปสิ แต่รออาภาพทำการบ้านให้เสร็จก่อนนะ " ผมบอกมันอีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะหันไปบอกร่างสูงที่นั่งอยู่บนพื้น มือเล็กคว้าที่เสื้อของภาพมันเขย่า

“ อาภาพ รีบทำการบ้านให้เสร็จนะ กาลิคทำเสร็จแล้วละ "

“ ครับผม จะรีบทำให้เสร็จนะ หรือว่ากาลิคมาช่วยอาภาพดี " ร่างสุูหันมาถามอีกคนก็ตาโตขึ้น มันพยักหน้ารับ

“ กาลิคช่วยได้นะ กาลิคเก่ง กาลิคทำการบ้านของคุณครูถูกทุกข้อเลย "

“ เหรอ "

“ แล้วอาภาพจะให้กาลิคทำอะไร ลากเส้นมั้ย หรือว่า ระบายสี จับคู่ก็ทำได้นะ "  ผมหลุดยิ้มออกมาตอนที่อีกคนบอก ท่าทางนำเสนอของมัน ดูจริงจังและมุ่งมั่นมากๆ ชวนให้ไอ้ภาพที่ยิ้มกว้างหุบยิ้มทันที

" นี่ถามจริง คิดว่าหัวหอมจะช่วยมึงได้จริงๆเหรอ " ผมถามอีกคนก็ถอนหายใจ

" กาลิคทำได้นะอาขม กาลิคทำได้ " มันตบอกตัวเองด้วยความมั่นใจ แต่ไอ้ภาพก็แค่ยื่นมือมาลูบหัวมัน

" เอ่อ.. ไม่เป็นไร ถ้าทำได้แค่ลากเส้น ระบายสี งั้นก็ขอบใจนะ อาภาพทำเองดีกว่า "

“ แต่กาลิคทำได้นะ " คนที่อยากจะช่วยเสียงอ่อนลง น่าสงสารที่สุด มันคงอยากจะช่วยจริงๆ ใบหน้าน่ารักหันมามองหน้าผมที่ทำให้ผิดหวังอยู่หน่อยๆ " อาขม..”

“ หัวหอมยังเด็ก ทำไม่ได้หรอก อันนั้นมันการบ้านของผู้ใหญ่เค้า ดูสิ เห็นมั้ย มีแต่ภาษาอังกฤษยากๆทั้งนั้นเลย " ผมหยิบกระดาษรายงานของอีกคนขึ้นมาให้มันดู

“ แต่กาลิคอยากจะช่วยอาภาพ อยากจะให้อาภาพทำการบ้านเสร็จไวๆ" มันบอกเสียงอ่อนผมก็แล้วกระซิบมัน

“ ไปหอมแก้มอาภาพสิ แล้วก็กอด บอกอาภาพว่า กาลิคจะให้กำลังใจนะ แค่นั้น อาภาพก็ทำได้เร็วแล้วละ "

“ แบบนั้นก็ช่วยเหรอฮะ " มันเงยหน้าขึ้นมาถาม ผมก็พยักหน้ารับ

“  ฮ่ะ! เค้าเรียกว่าช่วยให้กำลังใจไง "

“ งั้นกาลิคจะทำฮ่ะ " ไอ้ตัวเล็กว่าแบบนั้นก่อนจะดึงตัวเองลงจากตักผม แล้วกอดไอ้ภาพไว้จากด้านหลัง มันหอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด มือน้อยๆนั่นก็ลูบหลัง " โอ๋ๆ กาลิคให้กำลังใจนะ อาภาพจะได้ทำงานเสร็จไวๆ "

“ โอ๊ยยย ชื่นใจจัง ไหนมากอดหน่อย " ภาพดึงมันเข้าไปกอดหอมแก้มซ้ายขวาจนหนำใจ

    เสียงหัวเราะมความสุขของมันชวนให้ผมยิ้มตาม ตั้งแต่มีกาลิคเข้ามาผมมองว่าทุกอย่างมันก็ดูความสุขไปหมด ทั้งๆที่สิ่งที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่อยากทำเลยสักนิด ไม่ใช่การดูหนังเรื่องโปรด ไม่ใช่การได้ไปซื้อของ หรือกินของอร่อยๆ มันแค่การอยู่บ้านนิ่งๆ ทำการบ้านให้เสร็จ สอนกาลิควาดรูป เราเล่นของเล่นกัน ซ่อนแอบ บางทีก็ทำขนมที่ไม่อร่อยแต่เรากลับมีความสุข

   เมื่อก่อนความสุขของผมมักขึ้นอยู่กับการกระทำ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความสุขของผม จะขึ้นอยู่กับตัวบุคคลซะแล้ว จนบางทีก็รู้สึกว่าที่เราเป็นกันอยู่นี้ก็เหมือนครอบครัวอย่างน่าประหลาด และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเรื่องที่ว่า หัวหอมเป็นลูกใครก็ไม่ได้อยู่ในหัวของเราแล้ว

“ งื้อออ อาภาพหอมกาลิค งื้ออ " เด็กน้อยว่าเสียงงอแงที่โดนหอมแรงๆ ผมเอื้อมมือไปดึงหัวหอมขึ้นจากตักไอ้ภาพแต่อีกคนก็ยังจับไว้แน่น

“ ร้อนวะ ลงไปหาอะไรเย็นๆกินกันที่ห้างดีกว่า  หรือว่าเซเว่นดีมั้ย "

“ อาขม กาลิคไปด้วย " มันว่าพลางดิ้นให้หลุดจากอีกคนแต่ไอ้ภาพก็ยังกอดมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย  " งื้ออ กาลิคจะไปด้วย จะไปกับอาขม อาขมม งื้ออ "

“ ก็ไปสิ งอแงทำไมละนั่น " ปล่อยมือจากเจ้าตัวเล็กที่อีกคนไม่ยอมปล่อยสักที ผมเดินเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าตังค์กับหมวกทั้งของผมแล้วก็ของกาลิคแต่ดูเหมือนว่าคนที่กอดมันไว้ก็ไม่มีทีท่าจะปล่อยไปไหน จนในที่สุดกาลิคมันก็เริ่มร้องไห้ออกมา

“ อาภาพ ปล่อย อึก ฮือๆ กาลิคจะไปกับอาขม อาขม อาขมช่วยกาลิคด้วย "

“ ไม่ให้ไปอยู่นี่แหละ อยู่เป็นเพื่อนอาภาพ " อีกคนบอกก่อนจะรัดมันไว้แน่น

“ ไม่อาววววว จะไป จะไปกับอาขม อาขมม อึก ฮือๆ "

“ โอยยยย นี่มึงจะแกล้งมันให้ร้องไห้ทำไมวะ โรคจิตจริง " ผมบอกตอนที่ดึงมือเล็กๆขึ้นมาจากตักไอ้ภาพแต่มือหนาก็ยังรั้งไว้

“ จุ๊บก่อน เดี๋ยวให้ไป " กาลิคหันไปจุ๊บอีกคนตามคำสั่งก่อนจะถูกปล่อยตัวมา ผมก้มลงเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายที่ก็งอแงเหลือเกิน

“ นี่ก็ขี้แงจริงๆ อาภาพแกล้งนิดเดียวก็ไม่ได้ " ว่าแบบนั้นมันที่กอดขาผมไว้แน่นแล้วทำหน้ามุ่ยลง

“ ก็กาลิคกลัว อึก ไม่ไป อึก ไปกับอาขม "

" ได้ไปสิ ทำไมจะไม่ได้ไปละ อาแกล้งเอง ไม่เป็นไรนะ " ใส่หมวกให้เรียบร้อยผมคว้ามือมันจูงไว้ก่อนจะถามเอ่ยถามอีกคนที่นั่งทำรายงานอยู่ “ มึงเอาไรมั้ย "

“ เอาไอติมแล้วขนม อะไรก็ได้มาละกัน อะไรน่ากินก็ซื้อๆมา " มันว่าผมก็พยักหน้ารับ

“ งั้นเราก็ไปกัน "

“ อาภาพ กาลิคไปก่อนนะ แล้วจะซื้อขนมมาฝากนะ " มือเล็กโบกบ๊ายบาย เราเดินออกไปจากห้อง ลงมาที่ชั้นล่างตอนที่กำลังเดินผ่านหน้าเค้าเตอร์พนักงานพี่เค้าก็เรียกผมไว้

“ น้องขมค่ะ น้องขม "

“ ครับผม " หันไปมองเธอที่กวักมือเรียกผมมาใกล้ๆ

“ พี่ของฝากของไปให้น้องภาพหน่อยได้มั้ยคะ " เธอถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ได้ครับ แต่เดี๋ยวผมกลับเข้ามาเอาได้มั้ย พอดีจะออกไปซื้อของที่ห้างก่อน เดี๋ยวมานะครับ " ไม่รู้ว่าเป็นอะไรหรอก แต่ขี้เกียจเดินหิ้วไปมา ยังไงก็ต้องกลับมาอยู่แล้วค่อยเอาตอนนั้นก็แล้วกัน

   เดินเข้ามาในห้าง ลมเย็นๆที่พัดเข้ามาโต้ที่ใบหน้าผมสูดลมหายใจเข้าปอดไปก่อนจะกระชับมือของเด็กน้อยไว้ " กินไอติมกันดีกว่า " ผมบอกก่อนจะเดินไปข้างในฝั่งของซูปเปอร์ เปิดตู้แช่ที่ขายไอติม หยิบไอติมแบบเป็นถ้วยใหญ่รสไมโลขึ้นมาสามถ้วย พร้อมกับรสช็อคโกเล็ตแบบอื่นๆ เพราะที่บ้านมีแต่คนชอบกินไอติมรสนี้กันทั้งนั้น

“ อาขม อาขมต้องซื้อขนมให้อาภาพด้วย "

“ อ่า ใช่แล้ว " พยักหน้ารับมัน หัวหอมก็วิ่งไปเอาตะกร้าหิ้วมาให้ " อาขมใส่นี้ "

“ ขอบคุณครับ " ขยี้หัวมันเบาๆ เราเดินมาที่ชั้นขายขนมหยิบเลย์รสสีเหลือง สีเขียว แบบที่มันชอบใส่ตะกร้า หัวหอมก็หันมาถามผม

“ อาขม เราจะไปที่ร้านขนมที่เราซื้อบ่อยๆมั้ยครับ " มันคงหมายถึงร้านขายขนมจากญี่ปุ่นที่เราพามันไปแวะทุกครั้งเพื่อซื้อขนมจากร้านนั้น ผมทำท่าคิด

“ ไปดีไม่ไปดีน้าา ไม่รู้มีใครอยากจะกินอะไรรึเปล่า "

“ มี~ มีกาลิคไง กาลิคอยากจะกินขนมที่ร้านนั้น กาลิคอยากจะกินฮะ " มือเล็กๆเอื้อมมากอดตัวผมไว้ก่อนจะซบหน้าอ้อน ขยี้หัวด้วยความหมั่นเขี้ยวกับความช่างอ้อนเสียเหลือเกินของมัน "

“ งั้นเราซื้อแค่นี้ ที่เหลือไปซื้อร้านนู้นแล้วกัน " เดินเอาของไปจ่ายเงินเรียบร้อย เราเดินจากฝั่งชูปเปอร์ออกมาที่หน้าร้าน หัวหอมก็เขย่ามือที่ผมจูงมันอยู่

“ อาขมฮะ "

“ ครับ ว่าไง "

“ วันนี้กาลิคซื้อได้กี่กล่องฮะ "

“ สองแล้วกัน สำหรับวันนี้กล่องนึง พรุ่งนี้กล่องนึง โอเคมั้ย " มันพยักหน้ารับตามที่ผมบอก ก่อนจะเงยหน้ามาพูดต่อ

“ แต่ว่า แต่ว่านะฮะ กาลิคต้องไปบ้านคุณปู่คุณย่าถ้าเอาไปแค่กล่องเดียวมันจะไม่พอนะ เพราะว่ามี มีคุณปู่ คุณย่า น้าแก้วแล้วก็น้าขวัญด้วย  กาลิคเวลากินขนมก็ต้องแบ่งคนอื่นๆ อาขมสอนว่าอย่าขี้เหนียวให้แบ่งกัน แล้วคุณปู่ คุณย่า น้าแก้ว น้าขวัญ เค้าก็ตัวใหญ่ๆ เค้าก็ต้องกินเยอะ กาลิคจะได้กินนิดเดียวนะ อาขม " คือที่พูดมาสรุปว่าจะให้ซื้อมากกว่าสองกล่องใช่มั้ยไอ้ตัวแสบ ผมส่ายหน้าไปมากับความช่างพูดช่างจาของมัน

“ เค้าไม่กินขนมของหัวหอมหรอก " ผมบอก มันก็ทำตาโตก่อนจะส่ายหน้า

“ อาภาพยังกินเลย อาภาพชอบมากินขนมของกาลิคบ่อยๆ " มันเถียงผมก็ถอนหายใจออกมา

“ งั้นให้ซื้อ สามกล่องแล้วกัน " ผมบอกอีกคนก็พยักหน้ารับ " ไม่ต่อรองแล้วนะ "

“ ครับผม " มันพยักหน้ารับแบบยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งไปที่ร้านทันที กาลิคหยิบขนมที่ส่วนใหญ่มันก็กินเหมือนเดิม พวกมันฝรั่งแท่งรสแปลกๆ แล้วก็ขนมเป็นชิ้นๆ " อาขม เอาสามชิ้นนี้ "  มันยื่นมาให้ดูผมก็พยักหน้ารับ เดินไปหยิบเยลลี่ที่ชอบอีกสามซอง เจ้าของร้านก็คิดเงินให้

“ นี่ครับสุดหล่อ "  ถุงหิ้วที่มันเอื้อมไปรับไว้ก่อนจะบอก

“ ขอบคุณครับ " มองหัวหอมที่เดินออกมาจากร้าน มันเดินมาคว้ามือผมก่อนที่เราจะเดินออกไปพร้อมกัน กลับมาที่คอนโดผมไม่ลืมแวะที่เค้าเตอร์ด้านหน้าที่ก่อนหน้านี้พี่เค้าบอกเอาไว้

“ นี่ค่ะ น้องขม " เธอยื่นให้ผมก่อนจะเปิดแฟ้มให้เซ็น " ช่วยเซ็นชื่อรับของตรงนี้ด้วยนะคะ "

“ ครับผม " จัดการเซ็นชื่อเรียบร้อย ซองสีน้ำตาลขนาดเอสี่ก็ถูกส่งมาให้  ข้างหน้าไม่เขียนอะไรทั้งนั้นเหมือนจะไม่ใช่จดหมายสำคัญอะไร เว้นแต่ชื่อห้องว่าเป็นของเรา " ขอบคุณมากนะครับ "

“ ค่ะ " เธอตอบรับผมก็พลิกซองกระดาษด้วยความงงก่อนจะเดินเข้ามาในลิฟต์

“ เอกสารอะไรของมันวะ "

   เดินกลับเข้ามาในคอนโดตัวเอง ผมวางถุงของทั้งหมดไว้บนโต๊ะในครัว จัดการเอาไอติมไปแช่ไว้ในห้องแช่แข็งก่อนยื่นถุงขนมให้ไอ้ภาพที่ก็รับไว้พร้อมกับซองเอกสาร

“ นี่อะไร "

“ ไม่รู้สิ พี่ที่เค้าเตอร์ข้างล่าง ฝากกูมาให้มึง " ไอ้ภาพนิ่งคิด ก่อนจะเบิกตานิดหน่อยตอนที่ดึงมาวางไว้ข้างตัว ท่าทางที่ชวนให้ผมสงสัย  " อะไรวะ "

“ ไม่มีอะไรหรอก " จ้องหน้ามันที่พูดคำนั้น ไอ้ภาพเองก็สบตาผม ท่าทางที่ดูลำบากใจของมัน

“  ไม่อยากจะบอกก็ไม่ต้องบอก "

“ งอนกูอีกละ " มันว่าก่อนจะเอ่ยยิ้มๆ

“ ไม่ได้งอน งอนเหี้ยอะไร ไร้สาระ " เดินเข้าไปที่โต๊ะอาหารอีกครั้ง หัวหอมที่กำลังเลือกขนมของตัวเองอยู่ มันหยิบขึ้นมากล่องนึง

“ กาลิคจะกินกล่องนี้ก่อน "

“ โอเค เอาไปเลย ส่วนอีกสองกล่องนี้ไปกินที่บ้านคุณปู่คุณย่านะ "

“ ครับผม " มันวิ่งไปนั่งกินข้างๆภาพที่กำลังทำรายงานของตัวเองอยู่ แกะขนมกินพร้อมกันหัวหอมที่หันไปหาภาพ

“ ดูการ์ตูนกันมั้ยกาลิค "

“ ดู~ ดูครับ! " มันพยักหน้ารับทีวีก็ถูกเปิด ผมหยิบไอติมจากตู้เย็นพร้อมกับช้อนไปนั่งลงอีกฝั่ง การ์ตูนที่เริ่มฉายหัวหอมก็พูดขึ้น “ อาภาพ กาลิคขอกินขนมด้วยได้มั้ย อาขมสอนว่าเราต้องแบ่งบันกันนะ "

“ ไม่มีปัญหา " ไอ้ภาพยื่นถุงขนมไปให้ มันก็หยิบขนมสองสามชิ้นใส่ปากของตัวเอง " งั้นเอาขนมของกาลิคมาแบ่งบันอาภาพหน่อย " แต่พอเป็นของตัวเองทุกอย่างกลับนิ่ง หัวหอมที่ทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของไอ้ภาพชวนให้ผมอมยิ้ม

“ หัวหอม อาภาพบอกว่าแบ่งบันขนมให้อาภาพหน่อย "

“ เราต้องแบ่งบันกันนะ " ภาพบอกอีกคนก็ก้มลงมองดูขนมของตัวเอง

“ แต่ แต่ว่า ขนมของกาลิคน้อย แบ่งไม่ได้หรอกนะ  ของอาภาพเยอะแบ่งได้ " มันว่าแบบนั้นผมก็ส่ายหน้าไปมากับความหัวหมอของมัน

“ แบบนี้ก็มีด้วยเว้ย นี่ใครสอน "

“ กูไม่ได้สอนนะ " ผมพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองเด็กตัวเล็กที่ยังคงหวงขนมอยู่ข้างๆ " หัวหอม หัวหอมต้องแบ่งบันนะ อาภาพให้กินขนมของอาภาพแล้ว หัวหอมก็ต้องให้กินขนมของตัวเองได้สิ "

“ แต่ว่า แต่ขนมของกาลิคมันน้อย~  " อีกคนเถียงผมก็ก้มลงมองดู ก็ยอมรับว่าน้อยจริงๆนั่นแหละ " กาลิคกลัวอาภาพกินของกาลิคหมด "

“ ถ้ากลัวว่าคนอื่นจะกินของตัวเองหมด ก็ไม่ควรจะไปขอกินขนมของเพื่อนแล้วบอกว่า ต้องแบ่งบันกันนะ เพราะตัวเองยังไม่แบ่งเลย " ผมบอกก่อนจะยกถ้วยไอติมออกห่างจากมัน " นี่ก็ไอติมของอาขม อาขมไม่แบ่งบันให้หรอกนะ " มันหน้ามุ่ยลงตอนที่ผมบอกแบบนั้น " หัวหอมรู้มั้ยว่าทำไมคนเราต้องแบ่งบันกัน ก็เพราะว่าเราจะได้กินขนมเยอะขึ้นไง ดูนี่นะ ภาพเอามาแลกกัน "

“ อะ " ภาพยื่นถุงขนมให้ผม ผมเองก็ยื่นไอติมให้มัน

“ เห็นมั้ย ได้กินทั้งขนม แล้วก็ได้กินทั้งไอติม ส่วนคนที่ไม่แบ่งปันคนอื่น ก็เหมือนอย่างหัวหอมนั่นแหละ ก็ได้แค่กินขนมของตัวเองแค่อย่างเดียว นี่ถ้าแบ่งบันนะ จะได้กินขนมตั้งสามอย่าง ได้กินไอติมของอาขม ได้กินขนมของอาภาพ แล้วก็ของตัวเองด้วย นี่แหละข้อดีของการแบ่งบันให้กันแหละ "

“ แล้วคราวนี้จะเปลี่ยนใจ มาแบ่งบันขนมกันกินเปล่า " ไอ้ภาพยิ้มถามมันอีกคนก็ก้มหน้ารับ

“ กาลิคจะแบ่งบันขนมให้อาภาพ กับอาขมฮะ " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองมานั่งใกล้ผม ถุงขนมของมันยื่นให้ผม " แบ่งบันกันนะ "

“ ดีมาก " ลูบหัวมันเบาๆ ตอนที่หยิบขนมของมันขึ้นมากินชิ้นนึง ผมก็ยื่นถุงขนมที่ตัวเองถือให้มัน " แล้วไม่ใช่แค่กับอาภาพแล้วก็อาขมนะ กับคนอื่นเราก็ต้องรู้จักแบ่งบันนะรู้มั้ย "

“ แต่การแบ่งบันก็ไม่ใช่ว่า เราอยากจะกินของคนอื่นแล้วถึงจะแบ่งบันให้เค้านะ " ไอ้ภาพบอก " การแบ่งบันน่ะคือ ถ้าเรามีขนมอยู่ชิ้นนึง แล้วเพื่อนเราไม่มี แล้วเพื่อนก็อยากจะกิน เราก็แบ่งขนมชิ้นนึงของเราให้เพื่อนได้ "

“ ถ้าเพื่อนอยากจะกินขนมของกาลิคแต่ว่า เพื่อนไม่มีขนม กาลิคก็จะแบ่งให้เพื่อนครับ แล้วก็ถ้าเกิดว่าเพื่อนลำบากกาลิคก็จะแบ่งให้ด้วย " หัวหอมบอก

“ แล้วการแบ่งบันนั้น คือการให้ โดยที่เราไม่เดือดร้อนนะ " ภาพอธิบาย

“ เดือดร้อนคืออะไรเหรออาภาพ " มันเอ่ยถาม ผมก็อธิบายต่อ

“ ก็คือ สมมุติกาลิคมีขนมอยู่ชิ้นนึง รินเน่อยากจะกิน เจ้านายก็อยากจะกิน ถ้าแบ่งให้ทั้งสองคน กาลิคที่เป็นเจ้าของเองก็จะไม่ได้กินถูกมั้ยละ ถ้าแบ่งให้แบบนั้นเราจะเดือดร้อนเพราะไม่ได้กินมันแบบนั้นเราก็ค่อยแบ่งบันคราวหน้าก็แล้วกันนะ " คนฟังพยักหน้ารับหงึกหงักผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจในสิ่งที่ผมอธิบายไปมั้ย แต่เอาเป็นว่าให้มันเข้าใจพื้นฐานของการแบ่งบันนั่นก็ดีแล้ว ผมไม่อยากจะให้มันเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ก็ไม่อยากจะให้มันเป็นคนที่ถูกเอาเปรียบด้วย แบบนั้นก็ต้องสอนไปเรื่อยๆแล้วละนะ  " เดี๋ยวกินขนมเสร็จแล้ว ไปล้างมือให้เรียบร้อยเตรียมตัวไปบ้านคุณปู่คุณย่าได้แล้วนะ "

“ ครับ " หัวหอมพยักหน้ารับ เรานั่งกินขนมกันจนอิ่มเด็กน้อยก็วิ่งไปล้างมือตามคำสั่ง ภาพหันไปทำรายงานที่ใกล้เสร็จแล้ว ส่วนผมก็จัดการเก็บขนมที่เหลือแล้วตอนนั้นไอ้ภาพก็พูดขึ้น

“ เอกสารที่เค้าเตอร์ฝากมาน่ะ เป็นภาพวงจรปิดที่กูให้เค้าตรวจดูว่าใครเป็นคนมาส่งกาลิค แต่กูก็ขอไปตั้งนานแล้วนะ นานจนลืมไปแล้วว่าเคยไปขอไว้ " มือที่กำลังเก็บของชะงักไป ผมที่หันไปมองมันภาพทำได้แค่พลิกซองไปแต่ก็มาไม่ได้เปิดดู

“ เหรอ "

“ อื้ม " มันก็พยักหน้ารับ

“ มึงรู้มั้ยเหมือนตอนนี้กูจะลืมไปแล้วละ ว่าหัวหอมมันไม่ใช่ลูกกู " ผมยิ้มให้ภาพที่ก็มองหน้าผม หลุดหัวเราะออกมาทั้งๆในใจกลับเศร้ามากอย่างบอกไม่ถูก " กูมีความสุขที่มันอยู่ด้วยจนกูชิน จนกลายเป็นว่ากูคิดว่าหัวหอมมันเป็นลูกกูกับมึงไปแล้ว แต่กูก็คงลืมไปว่าเราเป็นผู้ชายทั้งคู่จะมีลูกด้วยกันได้ไงวะ แต่ก็ชินที่มีมันอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวแบบนี้จริงๆวะ " 

“ อื้ม.. กูก็ชินแล้วเหมือนกันที่มันอยู่ " ภาพพูดเบาๆเราที่มองหน้ากันตอนนั้น ภาพเก็บเอกสารสอดไว้ใต้หนังสือของตัวเองตามเดิม ราวกับว่ามันเองตอนนี้ก็ไม่คิดอยากจะหาคำตอบอะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับหัวหอมแล้ว

   จากที่เคยกลัวว่ามันเป็นลูกใคร ตอนนี้ไม่กลัวอะไรแบบนั้นแบบ จากที่เคยมองว่า อีกสามเดือนถ้าแม่หัวหอมมารับมันกลับไปนั้นก็จบ จากที่เคยมองว่านั่นเป็นความหวัง แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นความกลัว กลัวว่าเธอจะมารับมันกลับไป กลัวว่าเด็กคนนี้จะหายไปจากพวกผม  และผมก็ได้แต่ภาวนาว่า อย่าเป็นแบบนั้นเลย

...........................................................

สมเป็นตอนของวันอาทิตย์ สดใส มีความลุ้นนิดนึงให้ต่อไปถึงวันศุกร์หน้า
มีคนถามว่า ไม่มีเรื่องความคืบหน้าแม่หัวหอมเลยเหรอ มีแล้วนี่ไง วิ้ววววว
นิยาย เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู เป็นนิยายที่แบ่งออกเป็นสามพาสใหญ่ๆนะคะ
พาสแรกคือ พาสที่ตามหาว่าใครเป็นพ่อของเด็ก พาสที่ภาพกับขมปรับตัวเข้าหากันเพื่อเลี้ยงเด็ก พอจบพาสนี้นิยายก็จะจบเลย เพราะหนมรู้สึกว่า มันก็จบตามชื่อเรื่องแล้ว " เฮ้ย! มันไม่ใช่ลูกกู แล้วมึงเป็นลูกใครวะ " พอรู้ตัวพ่อแล้วก็จบไป
ส่วนพาสสอง จะเป็นเรื่องราวความรักของภาพขม และ พาสสามก็จะเป็นเรื่องของครอบครัวพ่อแม่ลูกสุขสันต์  คิดโครงสร้างมันไว้ประมานนี้ อยากจะให้เป็นนิยายที่อ่านแล้ว ยิ้มไป ไม่มีเบื่อ หัวหอมน่ารัก ฝ่ายพ่อฝ่ายแม่ก็น่าเอ็นดูงี้
ยังไง ฝากติดตามกันด้วยนะค่าาา ทุกคนนนน
โอเคค สุดท้ายนี้หนมของฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
แล้วก็ฝากแชร์ ฝากไลค์ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ milin03

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ใจนึงก็อยากรู้ อีกใจนึงก็ไม่อยากรู้  :hao4:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
น่ารักมากเลย   ยอมใจในความแม่ในตัวขม คืออ่านแล้วรู้สึกรักขม อิอิ

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
ลูกกูกับมึง  :hao3:

ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
กาลิคน่ารัก ภาพขมก็น่ารักสอนกาลิคได้ดีเลย

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แม่ขมมมมมมมมม

ชอบความค่อยๆ สอนและเปรียมเทียบให้กาลิคเห็นภาพของขมนะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
ได้ภาพอะไรมาอยากรู้จังงงง

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เป็นเรื่องที่อ่านไปแล้วยิ้มไปจริง ๆ ครับ คนเขียนทำได้ดีมากเลยขอชมเชย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ขมไม่เข้าใจภาพเลย คนเค้าหึง เค้าหวง เลยไม่อยากให้ยุ่ง แต่ดีที่ยังยอมฟังกัน ต้องเจอเองเนาะคนเรา

ภาพแหย่หัวหอมบ่อย เผื่อจะไปขัดซีนแหวว โลกสวยของขมได้บ้าง
ขมก็ฟินกับใคนไม่รู้ รู้ว่าเค้ามาทำไม เลยเปลี่ยนข้างหันมาหวงภาพแทนซะงั้น

กาลิคน่ารัก เด็กน้อยอะนะ เลียนแบบกันง่าย ฉลาดมากด้วย ตอนไม่งอแงก็น่าฟัด ตอนงอแงก็น่าแกล้ง

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ถึงว่าาาาา ว่าทำไมภาพกับขมถึงทำไมยังไม่ปะฉะดะกันซักที. อิอิ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อยากอ่านเรื่อยๆ รู้สึกอ่านเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม  :katai2-1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เริ่มสอนดีขึ้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ o13

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กาลิค น่ารัก  :mew1:
ขม สอนกาลิคได้ดีมาก  :katai2-1:
เด็กๆทำให้จิตใจผู้ใหญ่อ่อนโยน มีแต่ความน่าเอ็นดู
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ผ่านมาหลายตอน คนอ่านก็เริ่มอยากรู้แล้วว่าน้องหัวหอมเป็นลูกใคร

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เป็นการเล่นซ่อนแอบที่น่าเอ็นดูมากๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
น่ารักจิงๆเลย

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ Trystan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอพาทขมกับภาพรักกันเลยได้ไหม5555 :hao6:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 24

   กระชับมือของตัวเองที่กำลังโอบกอดไอ้ตัวเล็กที่กำลังหลับสนิทอยู่บนตักของผม รถที่กำลังแล่นกลับคอนโดในคืนวันอาทิตย์ที่รถติดหนัก โชคดีที่ผมตัดสินใจอาบน้ำมันตั้งแต่ก่อนจะขึ้นรถกลับกันมาเพราะคิดไว้แล้ว มันคงหลับตั้งแต่อยู่ในรถแล้วละ
 
“ หลับซะแล้ว เด็กน้อย " ไอ้ภาพยื่นมือมาสะกิดแก้มอีกคนตอนที่รถติดไฟแดง

“ นี่ อย่าไปยุ่งกับมันน่า เดี่ยวมันตื่นขึ้นมา มันก็งอแง กูรำคาญต้องมาปลอบอีก " ผมหันไปดุมันอีกคนก็หัวเราะชอบใจ บ่งบอกถึงความโรคจิตที่ชอบแกล้งเด็กโดยแท้  " ภาพ กูถามอะไรหน่อยสิ "

“ อะไร "

“ ตกลงว่าได้ดูภาพกล้องวงจรปิดที่พี่ที่เค้าเตอร์ให้มารึยัง "

“ ยังไม่ได้ดู " มันว่าก่อนจะหันมามองผม " ทำไม มึงอยากดูเหรอ "

“ ก็ไม่เชิงว่าอย่างงั้น กูก็สองจิตสองใจเหมือนกัน ใจนึงกูก็ไม่อยากจะดู ไม่อยากจะรับรู้ อีกใจนึงก็อยากจะดู จะได้รู้ไว้ จะได้คาดการณ์ถึงอนาคตถูก "

“ กูก็คิดเหมือนมึง " ภาพบอกก่อนจะปลดเกียร์รถตอนที่สัญาณไฟเขียวสว่างขึ้นมา รถที่เคลื่นอนตัวออกไป " กูอยากจะรู้ว่าเธอเป็นใคร กูจะได้โทรไปคุยกับเธอ ติดต่อไป เรื่องของกาลิค จะได้จัดการเรื่องทั้งหมดสักที แต่อีกใจก็ไม่อยากรู้ กลัวว่าเธอจะไม่ตกลงอย่างที่กูคิด "

“ อื้ม นั่นสินะ " ความเงียบที่มีแต่ความกังวลลอยฟุ้งไปหมด ผมก้มลงมองหัวหอมที่กำลังหลับฝันดี ผมอยากจะมีมันไว้แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นลูกภาพหรือลูกผม แต่ผมก็ยังจะได้เห็นว่ามันมีความสุขดี แต่ถ้ากลับไปอยู่ในที่ที่มันจากมาก็ไม่รู้ว่ามันจะมีความสุขอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มั้ย " ภาพ.."

" หื้ม ? " อีกคนหันมามอง ผมก็หันไปมองหน้ามัน

" กลับถึงบ้านแล้วกูว่าเรามาดูกันเถอะ ภาพวงจรปิดน่ะ กูว่าเตรียมรับมือไว้ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะ "

" ก็จริงของมึง "

   กลับมาถึงคอนโดไอ้ภาพเปิดประตูห้องให้ผมเดินไปที่ห้องของตัวเอง ก่อนจะวางอีกคนนอนลงบนเตียง ห่มผ้าห่มเรียบร้อยหัวหอมขยับตัวนิดหน่อยผมก็ตบตูดมันเบาๆให้มันได้หลับต่อ คว้ารีโมตแอร์มาเปิดก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา เอาจริงๆผมก็ไม่ค่อยอยากจะไปบ้านไอ้ภาพสักเท่าไหร่หรอก กลัวว่าจะเจอแม่ตัวเองแล้วพูดไม่ออกเรื่องของหัวหอม แม้ไอ้ภาพจะบอกว่าให้บอกว่าเป็นลูกมันก็เถอะ แต่ถ้าไม่ใช่ขึ้นมาจะทำยังไงวะ อีกอย่างการเดินทางจากบ้านกลับมาที่คอนโดก็นานอยู่เพราะรถติด แถมพอวันรุ่งขึ้นก็ต้องเตรียมตัวจัดการพามันไปโรงเรียน ส่วนผมเองต้องไปมหาลัยอีก แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้ พ่อแม่ไอ้ภาพรักแล้วก็เอ็นดูหัวหอมมากด้วยความขี้อ้อนแล้วก็ช่างพูดของมัน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า หัวหอมเป้นหัวใจของคนบ้านนั้นไปแล้ว

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ เฮ้ย " เสียงทักที่มาพร้อมประตูห้องนอนของผมที่เปิดออก ไอ้ภาพชูซองกระดาษสีน้ำตาลโบกไปมา " ไปเปิดดูกัน "

“ อื้ม " เดินตามมันออกไปนอกห้องหย่นตัวลงนั่งที่โซฟา ไอ้ภาพก็จัดการตัดปากซองแล้วหันมามองผม

“ จะเปิดแล้วนะ "

“ สักทีเถอะไอ้สัด รำคาญจริง "

“ แต๋นแต้นน " กระดาษสีขาวถูกดึงออกมา ผมก็เอียงหน้าจ้องลงไปกระดาษแผ่นนั้นพร้อมกับไอ้ภาพ เราขมวดคิ้วงงๆกับคนในภาพก่อนจะมองหน้ากัน ภาพที่เห็นมันเป็นภาพขาวดำแถมยังไม่ค่อยชัด คนที่พาหัวหอมมาดูจากในภาพเป็นคนที่รูปร่างสูงแถมยังดูเหมือนไม่ใช่คนไทย

“ ดูเหมือนไม่ใช่คนไทยเลยวะ "

“ อื้ม จริง " ภาพบอกก่อนจะจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้นให้ชัดขึ้น " แต่กูรู้สึกไม่คุ้นเลยวะ มึงคุ้นบ้างมั้ย "

“ กูก็ไม่คุ้นหรอก " ผมบอก " อีกอย่างผ่านเลือนลางขนาดนี้เอาอะไรมาคุ้นวะ จะถ่ายเอกสารเป็นสีมาให้หน่อยก็ไม่ได้ ขี้เหนียว "

“ น่าๆแม่งให้ก็บุญแล้ว "  ไอ้ภาพเสริมผมก็ถอนหายใจออกมา " นี่เราได้ข้อมูลอะไรเพิ่มบ้างวะ "

“ ก็น่าจะไม่มีมั้ย " ผ่อนลมหายใจออก ผมเอื้อมไปตบหลังมัน " ช่างมันเถอะ ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นไร ยังไงเราก็ต้องเลี้ยงไอ้หัวหอมอยู่แล้ว "

“ ก็จริงของมึง "

“ อะไรจะเกิดมันก็คงต้องเกิด " และผมก็เชื่อแบบนั้นมาตลอดแหละ เรื่องนี้เองก็ด้วย เพราะงั้นตอนนี้ก็ควรทำให้ดีที่สุด

..............................................................

   เช้าที่วุ่นวายของผมเกิดขึ้นทุกๆวันจันทร์ มือที่กำลังทาช็อคโกเล็ตลงบนขนมปังปิ้งสองแผ่นให้หัวหอม ตาก็ต้องคอยดูว่าตอนนี้เด็กน้อยที่ผมสั่งให้ไอ้ภาพช่วยใส่ถุงเท้ากับหวีผม มันเสร็จไปถึงแล้ว แต่ผมก็พบว่ามันยังไม่ถึงไหนกันหรอก ก็มัวแกล้งกันเหมือนเดิม

“ หวีผมไปทางไหนดี "

“ กาลิคหวีเองด้าย~ " มือเล็กๆเอื้อมไปจะจับหวีแต่อีกคนก็ชูขึ้นสูง " อาภาพเอาหวีมากาลิคจะหวีผม "

“ ไม่เอาจะหวีให้ หวีให้น้า~ " มันว่าแต่ก็ชอบหวีผมทรงแปลกๆให้ ไอ้หัวหอมทุกที อย่างวันนี้ก็มาเป็นบางระจันแสกกลางมาเลย เด็กคนไหนมันจะชอบ " แบบนี้หล่อแล้ว "

“ ไม่เอา ไม่เอาทรงนี้ จะหวีเอง เอาหวีมาให้กาลิคน้า~ อาภาพพพพ " เสียงงอแงที่ดังกันตั้งแต่เช้า ผมกรอกตาไปมาก่อนจะเดินเอาขนมปังที่ทาเสร็จแล้วมาวางไว้บนโต๊ะ ประจวบเหมาะที่หัวหอมมันหันมาเห็นผมพอดีก็เลยเข้ามาฟ้องเหมือนทุกทีที่ชอบทำ " อาขมมมมมม อาภาพแกล้ง " มันวิ่งมาเขย่าเสื้อผม ก้มหน้าลงดูหน้าไอ้ตัวเล็กที่ก็ไม่ได้เข้ากับทรงผมเลยสักนิดเดียว ผมหัวเราะออกมา

“ ไอ้ภาพมึงนี่นะ เอาหวีมา แกล้งมัน "

“ ทรงนี้เท่จะตาย ไม่เหมือนใคร ทำไมต้องเหมือนคนอื่น "

“ ไม่เอา! ไม่เอาทรงนี้~ ไม่เอา! " หัวหอมเริ่มงอแงหนัก ผมก็จัดการลูบหัวมันให้เป็นทรงอื่น สรางผมให้เป็นทรงประจำที่มันชอบก่อนจะดึงเก้าอี้ให้มันนั่ง

“ ไม่เอาก็สรางผมด้วยมือก็เสร็จแล้ว ไม่เห็นต้องใช้หวีเลแล้วก็ไม่เห็นต้องงอแงด้วย จริงมั้ย " ผมบอก " คราวนี้ก็กินได้แล้วอะ เดี๋ยวไม่ทัน " เลื่อนขนมกับนมมาตรงหน้ามัน ไอ้ภาพก็ผ่อนลมหายใจเซ็งๆออกมา

“ อะไรวะ แกล้งไม่สะใจเลยมึงนี่ "

“ มึงก็บ้านะ ชอบแกล้งให้มันร้องไห้ถึงจะหยุด "
 
“ อาขม อาขม อาภาพใจร้ายชอบแกล้งกาลิค " เสียงฟ้องของเจ้าตัวเล็กหันไปมองภาพตาขวาง ก่อนจะมองหน้าผมด้วยสายตาอ้อนๆ ผมที่ก็หันไปมองหน้ามัน

“ เราเองก็ชอบร้องไห้ ยิ่งร้องไห้ อาภาพก็ยิ่งแกล้งนะ "

“ ก็อาภาพแกล้ง กาลิคเลยต้องร้องไห้ "

“ ก็น่าแกล้งนี่~ นี่แหน่ะ " ไอ้ภาพจัดการเอาหวีมาเปลี่ยนทรงให้อีกคนที่ก็เอามือสรางผมของตัวเองทันทีแบบไม่ชอบใจ " ฮ่าๆ นี่แหน่ะ "

“ งื้อออ อย่าแกล้งกาลิค! เดี๋ยวตีเลยยย  “ มันว่าพลางยกมือขึ้นหมายจะตีอีกคน ผมก็ขมวดคิ้วมอง

“ ไม่เอา เอามือลง ไปเอาท่าทางแบบนั้นมาจากไหน หื้มม ไม่น่ารักเลย "

“ ก็อาภาพแกล้ง " หัวหอมเถียงก่อนจะหันมานั่งกินขนมกับนมของตัวเอง

“ อาภาพแกล้งก็บอกอาภาพดีๆ บอกว่า อย่าแกล้งกาลิคนะ แต่ไม่ยกมือขู่จะตีแบบนั้น ไม่เอานะ " ผมบอกก่อนจะหันไปบอกไอ้ตัวขี้แกล้งที่ก็เหมือนจะเป็นโรคจิตอยู่หน่อยๆ " ส่วนมึงก็เลิกแกล้งมันเถอะ มึงเป็นบ้ารึไง ถึงชอบแกล้งมัน กูเหนื่อยนะ ต้องมาคอยห้ามมึงเนี้ย เดี๋ยววันไหนกูให้มึงอยู่เลี้ยงกาลิคคนเดียว คราวนี้พอมันร้องขึ้นมาจริงๆ แล้งมึงปลอบให้หยุดไม่ได้ แล้วกูจะสมน้ำหน้าให้ "

“ แล้วมึงจะไปไหน " มันถาม ผมก็ผ่อนลมหายใจออก คือการที่กูบอกว่าเผื่อกูไม่อยู่ กูพูดให้มึงสำนึกไง ว่ามึงควรดูแลมันดีๆ อยู่ด้วยกันให้ได้ จะได้อยู่ด้วยกันได้ตอนที่กูไม่อยู่

“ ขี้เกียจจะอธิบายคนอย่างมึง กูแดกดีกว่า " ก้มลงกินอาหารเช้าของตัวเอง ก่อนจะออกจากบ้านไปส่งหัวหอมแล้วเราสองคนก็ค่อยขับรถต่อมาที่มหาลัยเหมือนเดิม

   หย่นตัวลงนั่งที่โต๊ะในห้องข้างไอ้โมที่ก็หันมายิ้มให้ผม ท่าทางที่ดูมีความสุขของมันจะว่าไปตั้งแต่มีความรักนี่ก็ดูสวยขึ้นเป็นกองเลย อิทธิพลจากความรักเสริมดวงชะตาชีวิตแม่งสุดๆ แล้วเดี๋ยวนี้คุณหนูไม่ขับรถมาเองแล้วนะครับ เค้ามีแฟนไปรับทุกวัน โรแมนติกกันสุดๆ เที่ยงก็มานั่งกินข้าวด้วยกัน ไอ้ม่านไอ้มู่อิจฉากันจะตาย

“ ช่วงนี้มึงมามหาลัยเร็วนะ "

“ อื้ม ก็กูต้องไปส่ง.. เอ่อ คือ กูตื่นเร็วน่ะ " ผมพยักหน้าบอกมัน " มึงเองก็เดี๋ยวนี้ก็ดูมีออร่าความรักมากเลยนะ "

“ ออร่าความรักเหี้ยอะไรของมึง " โมมันหันมาหัวเราะกลบเกลื่อนทั้งๆที่แก้มแดงๆของมันก็บอกหมดทุกอย่างแล้ว ว่ามีความสุขกับความรักที่มีอยู่มากแค่ไหน ผมขยับเข้าไปใกล้มันก่อนจะตั้งคำถามด้วยความอยากรู้

“ แล้วเป็นยังไงบ้างคบกับไอ้ชัด  "

“ ก็ไม่อะไร ก็..โอเค " มันพยักหน้ารับก่อนจะเหลือบมองผม " มันก็เป็นมันนั่นแหละ  ไม่รู้สิ กูอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน "

“ กูถามอะไรหน่อยมั้ย มันอาจจะเป็นคำถามที่ไม่โอเคเท่าไหร่ แต่กูอยากรู้ "

“ อื้ม ว่ามา "

“ มันต่างกันมั้ยวะ เวลาเราคบกับผู้หญิง กับ เวลาเราคบกับผู้ชาย "

“ ก็ต่างกันนะ เวลาเราคบกับผู้หญิงเราต้องทำให้เค้าทุกอย่าง ไปรับ ไปส่ง กลับบ้าน เวลาไปกินข้าวก็ต้องเลี้ยง เราต้องดูแลเอาใจใส่เค้า แต่พอมาคบกับชัด จากที่กูเคยต้องเป็นคนดูแลคนอื่น ตอนนี้ก็มีคนมาดูแลกู แต่จะเรียกว่าดูแลมั้ย มันก็ไม่เชิงว่าดูแล เหมือนอย่างตอนเช้ามันก็ไม่ได้มารับกูหรอก "

“ อ้าว กูเห็นมาด้วยกัน " ผมบอก มันก็ส่ายหน้า

“ กูตื่นเช้าขึ้นมาก็ขับรถไปที่คอนโดมัน จอดรถไว้ที่นั่นแล้วมาด้วยกันถ้าทัน แต่วันไหนที่กูสายกูก็มาเอง อย่าเวลาไปกินข้าว มันก็เลี้ยงกูนะ แล้วก็มีบ้างที่กูเลี้ยงมันแม้มันจะเป็นแบบ ต้องชิ่งจ่ายก่อนก็เถอะ ก็คงเหมือนกันว่า เมื่อก่อนเราดูแลคนอื่น ตอนนี้ก็เปลี่ยนกัน มีคนมาดูแลเรา "

“ มึงโอเคใช่มั้ยกับอะไรแบบนี้ กูคิดว่ามึงคงไม่มีปัญหาหยุมหยิมคิดเล็กคิดน้อยเหมือนที่ผู้หญิงเค้าเป็นกันใช่มั้ย " ไอ้พวกที่ว่าบอกคบกับครั้งแรกเรามารับที่บ้านตรงต่อเวลาแต่พอนานไปสายบ้างก็ หาว่า ไม่ใส่ใจบ้างละ ละเลยบ้างละ ผู้หญิงเป็นประเภทเก็บรายละเอียดแต่ผู้ชายเค้าไม่ค่อยเก็บรายละเอียดขนาดนั้น ผมเลยมองว่าปัญหาน่าจะน้อยกว่า

“ ก็คงงั้น แต่ไม่ใช่มันไม่มีปัญหานะ ปัญหามันมี แต่ปัญหามันก็แล้วแต่บุคคลมากกว่า ว่าจะเป็นประเภทไหน " โมมันถอนหายใจออกมา ผมก็เอียงหน้ามอง

“ มึงทำเหมือนตอนนี้มีปัญหา "

“ ก็มีนะ " มันว่า " กูมันเป็นพวกไม่ค่อยกล้าจะพูดความจริงอะไรออกไปวะ เหมือนบางทีรู้สึกแต่ก็ไม่กล้าพูด ไม่เหมือนชัด ชัดมันเป็นคนตรงๆ อย่างเรื่องที่เราคบกัน เพื่อนมันรู้หมดแล้ว แต่สำหรับกู กูมีแค่มึงแล้วก็ไอ้ม่านไอ้มู่ที่รู้ ส่วนเพื่อนม.ปลายไม่มีใครรู้เลย กูไม่กล้าบอก " โมก้มหน้าลงยิ้ม ๆ" ไม่รู้ทำไมถึงไม่กล้าบอก ไม่กล้าแนะนำ กูอาย กูเขิน กูไม่รู้ว่าผลตอบรับกับเพื่อนมันจะเป็นยังไงที่กูมีแฟนเป็นผู้ชาย กูไม่ได้เป็นแบบชัดที่ไม่ได้แคร์อะไรทั้งนั้น เป็นตัวของตัวเอง ถ้ากูเลิกแคร์คนอื่นได้แล้วเป็นแบบชัดได้ กูว่าความรักของกูกับมันคงดีกว่านี้ แล้วเราก็คงใกล้ชิดกันมากกว่านี้ด้วย "

“ อาจเพราะยังคบกันไม่นานรึเปล่า มึงเพิ่งคบกัน ความห่างเหิน ความเขิน มันก็ต้องมีบ้างแหละน่า อีกอย่างชัดมันเป็นไบ เพื่อนมันคงรู้อยู่แล้ว คงไม่แปลกหรอกที่มีแฟนเป็นผู้ชาย แต่มึงมันไม่ใช่นี่ มึงไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน มันก็ไม่แปลกเปล่าวะ ที่เราจะไม่กล้าแสดงความรู้สึกออกไปกับเค้าตรงๆ "

“ อื้ม..” มันพยักหน้ารับ " มันมีอีกหลายเรื่องมึง กูยังเกร็งๆอยู่ แต่ก็คงเป็นอย่างที่มึงบอกคือยังไม่ชินละมั้ง ก็ต้องให้เวลากับมัน "

“ อย่าคิดมากน่า " เอื้อมมือตบหลังมันเบาๆ " ลองปล่อยหัวใจไปบ้าง ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก มึงอยากจะจับมือมันมึงก็จับ อยากจะทำอะไรก็ทำไป ตามใจตัวเองบ้าง"

“ จริงเหรอวะ ที่เค้าบอกว่า ถ้าดูเล่นตัวมากๆแฟนจะเบื่อ "

“ แล้วแต่บุคคลวะ มึงก็ลองดูดิ ลองอ้อนมันบ้าง ชัดจ๋า~ ว่าไป "

“ ไอ้บ้า " ไอ้โมหัวเราะผมก็ ขำออกมาเสียงดัง

“ มึงนี่ก็ชอบไอ้ชัดมากเหมือนกันนะ "

“ ทำไมถึงคิดแบบนั้นวะ " ไอ้โมหันมาถามผม ด้วยสายตาที่แปลกใจอยู่หน่อยๆ

“ ก็คนเรา ถ้าไม่รักไม่แคร์กันมาก จะคิดมากทำไมละจริงมั้ย "

“ ก็คงจริงของมึง " ยิ้มกว้างให้มัน เอื้อมมือกอดคอมันปลอบๆ ในตอนนั้นประตูห้องเรียนก็ถูกเปิดออกพร้อมกับอาจารย์ที่เข้ามาสอนพอดี

" วันนี้ก่อนเริ่มเรียนอาจารย์มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบกันหน่อยนะ วันจันทร์อังคารหน้าห้องเราจะไปกิจกรรมที่ต่างจังหวัดกัน "

“ ห๊าา~ " เสียงฮือฮาของเด็กให้ห้องที่พูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน ส่วนผมตอนนั้นก็ได้แต่อ้าปากค้างนิ่งๆกับสิ่งที่อาจารย์บอก

“ เราจะไปดูงานกันที่นั่น ค้างหนึ่งคืนแล้วก็ไปทำงานกันด้วย ของที่ต้องเตรียมจะอยู่ในกระดาษแผ่นนี้ มารับได้หลังเลิกคาบนะ ส่วนตอนนี้ก็เริ่มเรียนกันได้เลย "

“ คือนี้..ไม่มีโอกาสให้ได้ปฎิเสธเลยถูกมั้ย " ไอ้โมหันมาบอกผมก็ที่ยกยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ

“ ก็เป็นแบบนี้ตลอดไม่ใช่เหรอ " ผมผ่อนลมหายใจออกมา ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงไม่เป็นอะไรหรอก ไปเข้าต่างจังหวัดสองวันสนุกจะตาย แต่พอมาเป็นตอนนี้ผมคิดว่ามันไม่น่าจะสนุกอย่างงั้น เตรียมรับหายนะตั้งแต่ยังไม่ไปจนถึงวันไปได้เลยไอ้ขม แล้วจะต้องปล่อยให้หัวหอมอยู่กับไอ้ภาพสองคน.. แม่งจะรอดมั้ยวะเนี้ย

.............................................................

“ ไปเข้าค่าย! ” เสียงของไอ้ภาพตะโกนดังขึ้นมาตอนที่ผมบอกมันในรถว่าจะไปต่างจังหวัดเป็นกิจกรรมของห้อง ตอนที่เรากำลังจะขับรถไปรับไอ้หัวหอมกลับจากโรงเรียน " เดี๋ยวๆ ค่ายเหี้ยไรของมึงกูงง "

“ มันไม่ได้เรียกว่าค่ายเปล่าวะ กูไม่ได้ไปช่วยใครสักหน่อย แค่ไปดูงาน ดูวัฒนธรรมเกี่ยวกับชาวมอญที่กาญ เพื่อมาทำการบ้าน เรียกว่าไปทำกิจกรรม ไปดูงาน อะไรแบบนี้น่าจะดีกว่ามั้ง "

" แล้วไปตั้งสองวันหนึ่งคืน "

" อื้ม แล้วยังไงอะ " ผมหันไปถามมันที่ผ่อนลมหายใจออกมา ไอ้ภาพพูดเสียงเบา

“ ไม่ไป ไม่ได้เหรอวะ บอกอาจารย์ไปว่าแม่ป่วยหนักต้องดูแล "

“ แล้วนี่เป็นเชี้ยไร มาแช่งแม่กูไอ้ห่า " ผมว่ามันก็ถอนหายใจสีหน้าหงุดหงิดของมัน " ไม่อยากจะให้กูไปก็บอกมา ไม่อยากจะดูแลไอ้หัวหอมคนเดียวละสิ "

“ ก็เออน่ะเซ่! กูทำยังไงวะ ถ้าไม่มีมึงขึ้นมา "

“ หึ " ผมยกยิ้มขึ้นมาตอนที่มันพูดคำนั้นออกมา " คราวนี้มึงเห็นความสำคัญของกูแล้วใช่มั้ย วันก่อน ไอ้เหี้ยไหนบอก ถึงไม่มีกูอยู่มึงก็ดูแลมันได้ไง คราวนี้แม่งก็ช่วยจัดการให้ได้ด้วยเลยละกัน " ยักคิ้วให้มันไอ้ภาพก็ถอนหายใจออกมา

“ นี่กูซีเรียส "

“ ไอ้หัวหอมไม่ใช่เด็กเล็กมันไม่ได้ดูแลยากขนาดนั้นหรอกมึง มึงทำได้แค่สองวันหนึ่งคืนเอง " พูดออกมาแบบนั้นมันก็ถอนหายใจออกมาไม่หยุด

“ ไม่ไปไม่ได้เหรอวะ "

“ ไม่ได้ มันเป็นงาน กับวิชานี้ไม่ได้เลย "

“ แล้วมึงคิดว่าไอ้กาลิคมันยอมให้มึงไปเหรอ " คำถามที่ทำให้ผมนิ่งคิด หัวหอมติดผมมาก นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงบอกว่าแม่งเป็นหายนะตั้งแต่ยังไม่เริ่มไปไง

“ เอาน่า เดี๋ยวกูพูดกับมันเอง " รถจอดลงที่ลานจอดรถของโรงเรียน ผมเปิดประตูลงไปรับเด็กชายกาลิคที่ก็วิ่งมาหากันทันทีตอนที่เห็นหน้าผม

“ อาขมมมมม " สองแขนเล็กกอดเข้าที่ตัวผม ก่อนจะดึงตัวเองออก หัวหอมก้มลงไหว้ " อาขม สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " ขยี้หัวมันเบาๆก่อนจะจูงมืออีกคนกลับมาที่รถ เปิดประตูรถเข้าไปหัวหอมก็ขึ้นมานั่งที่ตักผม มันปลดกระเป้วางลงข้างหน้าก่อนจะหันไปหาภาพ

“ อาภาพ สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ "

“ วันนี้เป็นยังไงบ้าง เรียนอะไรบ้างไหนเล่าให้ฟังหน่อย " ผมลูบหัวมันที่มีแต่เหงื่อพลางถาม ดูท่าว่าหลังเลิกเรียนมันเล่นกับเพื่อนจนเพลิน

“ วันนี้สนุกม๊ากกกก วันนี้ตอนเที่ยงนะ กาลิคได้เล่นของเล่นด้วย แล้วกาลิค น้องรินเน่ น้องเจ้านาย น้องอลัน เราไปต่อแถวเล่นของเล่นที่เป็นแบบนี้ " มันทำท่าประกอบคล้ายๆกับสไลเดอร์

“ เค้าเรียกสไลเดอร์รึเปล่า " ผมว่าอีกคนก็ส่ายหน้า

“ กาลิคไม่รู้ แต่สนุกมากๆเลยแหละครับ แล้วก็นะ วันนี้น่ะนะ คุณครูก็ให้วาดรูปด้วยสนุกมากเลย คุณครูให้วาดรูป ครอบครัวของฉัน " มันว่าก่อนจะเปิดกระเป๋าแล้วเอางานออกมาให้ผมกับไอ้ภาพดูแบบกระตือรือร้น

   ภาพที่ถูกยื่นให้เป็นเส้นวนๆที่ดูไม่ค่อยเหมือนมนุษย์ด้วยซ้ำ มือใหญ่ๆกับแขนใหญ่ ตัวเล็กๆ ดูไม่สมส่วนที่สุด แต่กลับเป็นภาพที่ชวนให้ผมยิ้มกว้างออกมา เพราะภาพวาดตรงกลางที่ดูเหมือนตัวเล็กกว่าใครกำลังจูงมือคนสองคนที่ขนาบข้างเค้า

 " คนนี้นะ คือกาลิค " มันชี้ไปที่คนตรงกลาง " แล้วคนนี้ก็คืออาขม ส่วนคนนี้คืออาภาพ แล้วตรงนี้คือน้องหมี แล้วก็ที่ไกลๆตรงนี้ คือคุณปู่ คุณย่า แล้วก็มีน้าแก้ว น้าขวัญด้วย "

“ ครอบครัวใหญ่จังนะเรา มีคนเยอะแยะเลย " ผมบอก อีกคนก็พยักหน้ารับ

“ อื้ม ครอบครัวของกาลิคเองแหละ มีแต่คนที่กาลิครักทั้งนั้นเลย " มันว่าก่อนจะหันมากอดผมไว้ เหลือบมองไอ้ภาพที่ยื่นมือมาลูบหัวอีกคน ผมก้มลงกอดตอบเจ้าตัวเล็กไว้แน่น

“ ขอบคุณนะหัวหอม ที่ให้อาขมเป็นหนึ่งในครอบครัวด้วยน่ะ "

“ กาลิครักอาขม " มันว่าด้วยเสียงใสๆของมัน

“ อาขมก็รักกาลิคเหมือนกันนะ "

“ รักกัน รักกันนะ " เสียงเล็กๆที่มาพร้อมมืออีกข้างที่ปล่อยออกจากตัวผม แล้วไปดึงไอ้ภาพให้เข้ามากอดด้วย " อาภาพ รักกัน รักกัน "

“ หึ อะ รักกันๆ " ภาพดึงเราที่กอดกันเข้าไปในอ้อมกอดมัน ก่อนที่มันจะกระซิบบอกผม " มึงบอกกาลิคเรื่องไปกาญของมึงสิ " 

“ ไม่เอาอะ " ผมบอก " ไว้ก่อนแล้วกัน " ตอนนี้ขอให้มีความสุขก่อน ค่อยบอกแล้วกัน

.................................................................

เอ็นดูกาลิค งื้ออออออ
ความรู้สึกที่เหมือน แม่ที่ต้องจากลูกไปของ ขมนี้..
แล้วภาพ กับการเลี้ยงหัวหอมคนเดียวนี้
แล้วหัวหอมที่ต้องอยู่กับภาพสองต่อสองนี้ หายนะอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
โปรดติดตาม ตอนต่อไป~
สุดท้ายนี้ ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตเตอร์
ฝากแชร์ ฝากไลค์ในเพจเฟสบุ๊ค หนมมี่ผู้ใสซื่อด้วยนะคะ
แล้วก็~ ขอโทษด้วยนะคะ ตอนนี้อาจจะสั้นไป พอดีน้องหมาของหนมตาย หนมเลยเขียนไม่ค่อยออกนะคะ ให้อภัยเก๊านะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้าาา  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
กาลิคขี้อ้อนมากกกกกกก
น่ารัก น่าเอ็นดูอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด