เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 27
ห่อตัวกาลิคด้วยผ้าขนหนูแบบมัมมี่น้อยออกจากห้องน้ำ ส่วนตัวผมก็ใช้ผ้าขนหนูพันรอบเอวออกมา หยิบแป้งเด็กออกมาโรยไปตามตัวมัน ก่อนจะทาไปที่หน้าที่ตอนนี้ก็ขาวไปหมดทั้งตัว ขาวชนิดที่ว่า ถ้ามีน้ำมันร้อนๆก็จุ่มลงไปทอดได้เลย และท่าทางคงจะอร่อยด้วย แก้มนี่ยุ้ยเชียว
“ ดูไปดูมาก็ขาวเหมือนไอ้เด็กในหนังผีจูออนไรนั่นเลย " ผมว่าก่อนจะหลุดหัวเราะออกกับตัวเอง " กาลิคจะใส่กางเกงในสีอะไร "
" ใส่ตัวนี้ " มันเดินมาหยิบผมก็จัดการใส่กางเกงในให้มัน แล้วอยู่ๆสมองของผมก็รู้สึก นึกถึงข่าวที่เคยถูกแชร์ผ่านหน้ามือถือของไอ้ขมแล้วมันก็อ่านให้ผมฟัง เรื่องของเด็กตัวแค่นี้ที่โดนคุกคามทางเพศ ผมมองหน้ามันที่ยิ้มกว้างให้ผม " นี่ กาลิค "
“ ครับ อาภาพ "
“ อาภาพมีอะไรจะสอน จำไว้นะ ห้ามให้ใครมาจับน้องหนอนแล้วก้นของกาลิคนะ " ผมบอก " กาลิคจับมันได้คนเดียวรู้มั้ย ถ้าคุณครูหรือว่าผู้ใหญ่คนไหน บอกว่าให้ถอดกางเกงแต่กาลิคไม่รู้ว่าทำไมต้องถอด ก็อย่าไปถอดนะ "
“ ทำไมครับ " มันเอียงหน้าถาม
“ มันไม่ใช่ของที่จะเอามาโชว์ให้ใครดูได้ เพื่อนก็ไม่ได้นะ "
“ แล้วอาภาพกับอาขมที่เห็นของกาลิคแล้วละ " มันว่าพลางเอามือปิด ผมก็ยิ้ม
“ อันนั้น เราถอดให้ดูเพราะต้องอาบน้ำไง มันก็ได้อยู่ แต่ถ้ามีคนมาบอกกาลิคว่า ไหนกาลิคถอดกางเกงในให้ดูหน่อยสิ แบบนั้นไม่ได้นะ ยิ่งถ้าบอกตอนกาลิคอยู่คนเดียวแบบนั้นก็ไม่ได้เลยนะ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่อาขม อาภาพ ห้ามนะ เจ้าหนอนน่ะมันไม่ใช่ของที่จะเอาไปโชว์ใครนะ รู้มั้ย "
“ ครับ ห้ามเลย " มันยกมือขึ้นบอกห้าม ผมก็พยักหน้ารับ
“ มา คราวนี้ก็ใส่เสื้อนอน แล้วก็กางเกงนอนได้แล้ว " จัดการใส่ชุดนอนให้มันเรียบร้อยอีกคนก็เดินออกไปข้างนอก ได้เวลาดูการ์ตูนแล้ว กาลิคจัดการเปิดทีวีด้วยตัวมันเอง ผมเดินเข้าไปในห้องตัวเองแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
นั่งดูการ์ตูนกับมันไปเรื่อยๆจนผมเพลินแล้วลืมไปเลยว่า เวลาตอนนี้ได้ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว การต่อสู้ที่แสนจะสนุกของตัวละครชวนให้เรานั่งลุ้นกันแทบไม่ลุกไปไหน ทุกอย่างเงียบ จนกระทั่ง โทรศัพท์ผมดังขึ้นมา
“ ไอ้ขม " ผมพูดกับตัวเองตอนที่เห็นสายโทรเข้า พอเงยหน้ามองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้มันเลยเวลาดูการ์ตูนของไอ้กาลิคมานานมากแล้ว " ชิบหาย " ลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟา อุ้มเด็กน้อยที่นั่งดูทีวีอย่างตั้งใจขึ้นมาก่อนจะปิดทีวีทันทีทันใด
" อาภาพพพพ กาลิคจะดูทีวี ยังไม่จบเลย " เสียงโวยวายของมัน ผมก็ก้มลงไปหอมแก้มปลอบให้มันหยุดโวยวาย
" แต่ตอนนี้ มันหมดเวลาแล้วนะ เราควรนอนกันได้แล้ว มาเร็ว นอนๆ " วางมันลงบนเตียงอีกคนก็หันมามองแบบกำลังจะทำหน้ายู่เสียเต็มที่ แววตาใสๆที่กำลังจะร้องไห้เพราะอยากจะดูการ์ตูนที่ชอบต่อ มันที่กำลังจะแหกปากร้อง " กาลิค อาขมโทรมา ถ้าเกิดว่ามึงร้องไห้ กูจะไม่ให้คุยนะ "
" ไม่ร้องไห้ กาลิคไม่ร้องไห้ " มันว่าแบบเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองทันที ก่อนจะสูดน้ำมูกของตัวเองเข้าไป มือเล็กๆเอื้อมมาขอโทรศัพท์จากผม " อาภาพพพ กาลิคจะคุยกับอาขมครับ ขอนะ ขอกาลิคคุยด้วยน้า "
" งั้นก็นอนดีๆก่อน "
“ ครับ " ผ้าห่มถูกดึงขึ้นมาห่มตัวเรียบร้อยกาลิคก็หันมายิ้มให้เหมือนจะบอกกันว่า มันเองพร้อมแล้วที่จะคุยโทรศัพท์กับคนที่คิดถึง
" ดีมาก " ดึงตัวลงนั่งข้างมัน ก่อนจะกดรับสายที่ก็รออยู่นานแล้ว " ว่าไงมึง "
“ ทำไมรับสายช้าจังวะ " มันถามประโยคแรกขึ้นมา แต่ผมก็ไม่ตอบอะไร จะให้บอกได้ไงว่าเพิ่งพากาลิคเข้านอน หูกูชาพอดี
“ แล้วนี่มึงอยู่ไหนละ "
“ อยู่โรงแรม " ปลายสายว่า " เพิ่งถึงเนี้ย โคตรเหนื่อยเลย แล้วนี่หัวหอมมันเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้คงหลับแล้วสิ "
“ ก็ยังนะ " ผมตอบ ไอ้ขมก็ตอบกลับขึ้นมาเสียงดัง
“ ยังไม่หลับ ตอนนี้ยังไม่หลับเหรอ จะสี่ทุ่มแล้วนะมึง " เสียงตกใจของปลายสายบอก ผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเซ็งๆ คืออยากจะบอกว่า นั่งดูการ์ตูนเพลินก็กลัวจะโดนด่า
“ ก็มันไม่หลับอะ จะให้ทำไงวะ " ผมว่า ปลายสายก็ถอนหายใจออกมาแทน
“ ไหนคุยกับมันหน่อย "
“ อะ อาขมจะพูดด้วย " ยื่นมือถือที่เปิดลำโพงไว้ให้กาลิคที่ยิ้มกว้างออกมา เพราะมันคงคอยอยู่นานแล้วที่จะได้คุยกับคนที่มันสุดแสนจะคิดถึง มือเล็กประคองมือถือไว้กับหูของตัวเอง ผมก็ดึงออกให้ห่างจากหูมัน " คุยแบบนี้ เพราะเดี๋ยวมันจะเสียงดัง "
“ หัวหอม " ปลายสายพูดขึ้นมา ไอ้ตัวเล็กก็ยิ้มกว้าง
“ อาขมม กาลิคคิดถึงอาขมจังเลยครับบบบ เมื่อไหร่อาขมจะกลับมา กาลิคคิดถึงแล้วน้าาา อึก ฮือๆ คิดถึงอาขม " อ้าว..ไหงมึงเป่าปี่ขึ้นมาซะงั้นละ ไอ้เด็กนี่
“ ไม่ต้องร้องไห้นะ โอ๋ๆ อาขมเองก็คิดถึงหัวหอมเหมือนกัน พรุ่งนี้กลับแล้ว ไม่ต้องกลัว คืนนี้นอนกอดกับอาภาพไปก่อน คืนพรุ่งนี้เราค่อยนอนกอดกันนะ "
“ อึก ก๊าบ " เสียงงอแงพยักหน้ารับกับปลายสาย
“ แล้ววันนี้ตอนเย็นกินข้าวกับอะไร อร่อยมั้ย "
“ อร่อย วันนี้กินไก่ทอดที่อร่อยๆ " มันบอก ไอ้ขมก็เงียบไปสักพัก แน่นอนว่ามันคงต้องกำลังข่มจิตข่มใจไม่ให้ด่าผมอยู่
“ อย่างงั้นเหรอ แล้วดื้อกับอาภาพรึเปล่า "
“ กาลิคไม่ดื้อกับอาภาพ แต่ว่าอาภาพดื้อกับกาลิค " มันฟ้อง
“ ดื้อกับกาลิคยังไง ไหนเล่าอาขมหน่อย "
“ อาภาพให้กาลิคดูการ์ตูน แล้วอยู่ๆ ก็ปิดเฉยเลย กาลิคยังดูการ์ตูนไม่จบเลย อาขม อาภาพใจร้าย "
“ เพราะมันถึงเวลานอนแล้ว ก็เลยต้องนอนไง " ผมบอกไอ้ขมก็หัวเราะ แต่กาลิคก็เถียงขึ้นมาอีก
“ แต่ว่าปกติอาขมจะให้ดูการ์ตูนจนจบก่อนแล้วค่อยนอนนน " เสียงเล็กๆที่เอ่ยบอก ผมเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาให้มัน กาลิคก็ฟ้องต่อ " อาขมจะบอกว่า เดี๋ยวดูตอนนี้จบก็ต้องไปนอนเลยนะ แต่อาภาพไม่ทำแบบนั้น อาภาพอุ้มหนูไปที่โซฟาเลย แล้วก็ปิดทีวี แบบนั้นไม่ได้นะ ใช่มั้ยอาขม อาขมไม่ทำแบบนั้นเลย "
“ เอ้า! ก็มันถึงเวลาแล้วอะ ถ้าเกิดไม่อุ้มขึ้นมา เดี๋ยวก็ต้องต่อรองขอดูอีกเรื่องอีก " ผมเถียงมันอีกคนก็ขมวดคิ้วทำหน้ามุ่ยใส่
“ กาลิคไม่ทำแบบนั้นหรอก "
“ จริงอะ " ผมถาม " แล้ววันนี้ใครขอซื้อขนม แล้วพอบอกว่าให้ซื้อกล่องเดียวก็ดันจะเอาหลายกล่อง ใคร คนนั้นใคร "
“ แต่.. แต่กาลิคก็ไม่ได้ซื้อ "
“ ก็เพราะว่าอาภาพไม่ยอมให้ซื้อไง เลยไม่ได้ซื้อ "
“ เอาน่าพอๆ อย่าเถียงกัน หัวหอมก็ไม่ดื้ออออออออออ อาภาพก็เลี้ยงเด็กเก่งมากเลยยยยย " ปลายสายว่าเหมือนประชด ก่อนจะหัวเราะออกมา " ตอนนี้ก็ดึกแล้ว เด็กดีก็ควรนอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้อาขมกลับไป เราจะได้กอดกันแน่นๆไง "
“ ครับ " มันตอบเสียงอ่อน " อาขม อาขมรีบกลับมานะ กลับมากอดกาลิค "
“ ครับผม อาขมจะรีบกลับไปนะ หัวหอมก็นอนได้แล้ว แล้วพรุ่งนี้ก็ตั้งใจเรียนด้วยนะ "
“ ครับ "
“ งั้นขอพูดกับอาภาพหน่อย " มันยื่นมือถือมาให้ผมที่กดปิดลำโพงแล้วเอามือถือแนบหู
“ ว่าไง "
“ เอามันเข้านอนได้แล้ว ลูบหลัง เกาหลังให้มัน เดี๋ยวมันก็หลับ แล้วพอมันหลับโทรมาหากูด้วยนะ "
“ อื้ม " พยักหน้ารับอีกครั้ง ก่อนจะกดวางสาย ดึงผ้าห่มลงจัดที่นอนให้กาลิคนอนดีๆ ผมห่มผ้าให้มันก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ " นอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนอีก "
“ อาภาพ " แววตากลมหันมาหาผม ก่อนจะเงยหน้าถาม " เมื่อไหร่อาขมจะกลับ "
“ ก็พรุ่งนี้ไง "
“ แล้วกลับมาตอนไหนเหรอ "
“ น่าจะเย็นๆนะ หลังกาลิคเลิกเรียนแล้ว "
“ กาลิคคิดถึงอาขม กาลิคอยากจะอยู่กับอาขม กาลิคอยากจะให้อาขมกลับมาอยู่กับกาลิคเร็วๆ " มันว่าด้วยสีหน้าเศร้าๆก่อนน้ำตาหยดเล็กจะไหลออกมา " คิดถึงอาขม อึก ฮือๆ อาขมม คิดถึงง ฮือๆ " อยู่ๆก็เป่าปี่ออกมาซะงั้น ผมที่ชะงักไปมองมันที่ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่เอื้อมมือไปลูบหัวปลอบๆ
“ ไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวพรุ่งนี้อาขมก็กลับมา ไม่ต้องร้องไห้นะ "
“ กาลิคคิดถึงอาขม กาลิคอยากจะให้อาขมกอดกาลิคนี่ครับ อึก ฮือๆ คิดถึงอาขม " เสียงงอแงที่บอกแบบนั้น ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง
“ แล้วจะให้ทำยังไงละ อาขมไม่อยู่นี่ " ผมว่า " งั้นมานี่มา " อุ้มมันจากเตียงมานั่งบนตัก ลูบหลังเด็กที่กำลังงอแงเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลนั่นเบาๆก่อนจะกอดมันไว้แน่น " ไม่ต้องร้อง ลูกผู้ชายเค้าไม่งอแงกันหรอกนะ "
“ เป็นผู้ชายร้องไห้ไม่ได้เหรอ " มันเงยหน้าถาม ผมก็พยักหน้ารับ
“ แล้วเวลาอาภาพคิดถึงอาขม อาภาพไม่ร้องไห้เหรอ " คำถามที่ทำให้ผมหลุดยิ้มก่อนจะส่ายหน้า " แล้วเวลาคิดถึงคุณปู่คุณย่าก็ไม่ร้องไห้เหรอ "
“ ก็ไม่ร้องไห้นะ "
“ ถ้าผู้ชายร้องไห้ไม่ได้ แล้วเวลาเสียใจจะทำยังไงละ "
" นั่นนะสินะ ถ้าเราเสียใจจะทำยังไงดีละ " มองหน้ามันก่อนจะยิ้มออกมา ไม่มีคำตอบที่ผมคิดออก ผมไม่ใช่คนที่ชอบร้องไห้ ตอนล่าสุดที่ร้องไห้ก็คงเป็นตอนที่ไปบอกป๊ากับม๊าเรื่องของกาลิคเท่านั้น ร้องไห้แค่ตอนที่รู้สึกว่า มันหนักหนามากจริงๆ
“ งั้นถ้าอาภาพเสียใจ อาภาพแอบร้องไห้มั้ย " กาลิคบอก " ถ้าอาภาพอยากจะร้องไห้ กาลิคจะกอดอาภาพไว้แบบนี้ " มันว่าก่อนจะกอดผมไว้อย่างที่บอก " แล้วกาลิคจะไม่บอกใครว่าอาภาพร้องไห้ " มันบอกก่อนจะจับที่อกตัวเอง " มาซบที่ตรงนี้นะ กาลิคจะปลอบอาภาพเอง เหมือนที่อาภาพปลอบเวลากาลิคร้องไห้ "
“ ขอบใจนะ " พยักหน้ารับคำเชิญชวนของมันผมก้มลงหอมแก้ม พลางมองไปรอบๆ พยายามหาอะไรสักอย่างทำให้มันหลับ ก่อนจะพลันสายตาไปเห็นหนังสือนิทานก็คิดถึงคำพูดไอ้ขมที่บอกไว้ ' เล่านิทานให้มันฟังก่อนนอนด้วยนะ '
“ เล่านิทานให้ฟังนะมา "
ลูบหลังมันเบาๆผมไม่รู้จะเล่าเรื่องอะไรให้มันฟังเหมือนกัน ในสมองก็มีแต่เรื่องทั่วๆไปที่มันคงฟังจนชินแล้ว " อาภาพเล่านิทาน " คนในอ้อมกอดเอ่ยเสียงเร่ง
“ เมื่อนานแล้ว มีเด็กผู้ชายขี้เหงาอยู่คนนึง เค้าใช้ชีวิตอยู่กับของเล่น แล้วก็พี่เลี้ยงใจดี ชีวิตเด็กชายมีความสุขมากแต่ก็เหงาเพราะไม่มีเพื่อนเล่น "
“ น่าสงสาร ไม่มีเพื่อนเลยเหรอ " เสียงกาลิคบอกเบาๆ ผมก็ยิ้ม
“ นั่นนะสินะน่าสงสาร " ผมตอบก่อนจะเล่าต่อ " เด็กผู้ชายขี้เหงาคนนั้นต้องเล่นคนเดียวมาตลอด จนกระทั้งวันนึงที่เค้ากำลังขับจักรยานอยู่ในบ้าน เค้าก็ได้ยินเสียงร้องไห้ ฮือๆ เป็นเสียงที่ดังมาจากข้างบ้านของเค้า เค้าสงสัยมากว่าเสียงใครก็เลยไปแอบดู แล้วก็เจอเข้ากับ เด็กผู้ชายคนนึงที่กำลังร้องไห้อยู่ที่บ้านหลังข้างๆนั้น ' ร้องไห้ทำไมอะ ' เด็กชายขี้เหงาถามออกไปเสียงห้วนๆ คนที่กำลังร้องไห้ก็ไม่ตอบอะไร เค้าก็เลยตะโกนถามอีกครั้ง ' ถามว่า ร้องไห้ทำไมมมมมมมม ' " ผมยิ้มออกมาตอนที่กำลังคิดถึงภาพนั้นตามไปด้วย ภาพความทรงจำครั้งนึงของผม " กำลังรอแม่กลับบ้าน แต่แม่ยังไม่กลับ " เด็กผู้ชายที่กำลังร้องไห้ตอบ "
" เหมือนกาลิคที่ร้องไห้เพราะอาขมไม่กลับบ้านเลย " เสียงพูดตอบเบาๆของมัน ชวนให้ผมยิ้ม
" ใช่แล้ว และพอได้ยินแบบนั้นเด็กผู้ชายขี้เหงาก็เลยถามออกไปว่า ' ไม่กลับแล้วร้องไห้ทำไม ไม่ต้องร้องไห้นะ เล่นกันมั้ย ' ไม่มีเสียงตอบรับอะไร แต่ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นกลับปีนประตูบ้านของอีกฝ่ายเอาของเล่นมากมายไปนั่งเล่นเด็กผู้ชายคนนั้นจนเค้าเลิกร้องไห้ มือเล็กๆที่เอื้อมไปลูบหัว เค้าบอกว่า ' ไม่ต้องร้องไห้นะ เดี๋ยวจะอยู่เป็นเพื่อนเอง ' " ผมยิ้ม ตอนที่คิดถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่หยักหน้ารับแล้วก้มลงเล่นด้วยกันกับผม เด็กผู้ชายขี้เหงาที่ไม่มีเพื่อนคนนั้นในตอนนั้นมันคือผมเอง คนที่ตอนนี้ไม่่ใช่คนที่เหงาอีก แต่กลับเป็นคนที่กำลังแอบรักเพื่อนข้างบ้านคนนั้นแทน " กาลิค " ผมเอ่ยเรียกมันที่เงียบไป ก่อนจะค่อยๆประคองอีกคนนอนลงบนเตียงแล้วพบว่า คนที่ร้องไห้งอแงคิดถึงอาขมเมื่อกี้ หลับสนิทไปแล้ว " ยังเล่านิทานไม่ทันจบเลย " ผมบอกก่อนจะลูบหัวผม " แต่ก็ดีแล้วละ เพราะกูเองก็ยังไม่รู้จุดจบของเรื่องนี้เหมือนกัน ไม่รู้เลยว่า จะเป็นยังไงต่อไป "
ลุกขึ้นจากเตียงตอนที่เห็นว่ามันหลับสนิทแล้วจัดการห่มผ้าห่มให้ ผมหยิบมือถือที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงออกมา กดโทรหาคนที่สั่งเอาไว้ว่าให้โทรไปหาถ้ากาลิคหลับ ผมรอสายอยู่สักพักมันก็กดรับสาย
“ หัวหอมหลับแล้วเหรอ "
“ อื้ม หลับแล้ว " มันถอนหายใจโล่งออกมาตอนที่ผมบอกแบบนั้น " แล้วนี่มึงยังไม่นอนอีก "
“ ยังอะ ยังนั่งเม้าส์ นั่งแดกกันอยู่เลย นี่กูหลอกพวกมันว่ามาเอาของที่ห้อง ไม่อย่างงั้นไม่มีหวังได้ออกมาหรอกจ้า "
“ หึ "
“ แล้วเป็นไง เลี้ยงไอ้หัวหอม ตอนกูไม่อยู่ ทำให้คิดถึงกูขึ้นมาบ้างปะ " หลุดยิ้มขึ้นมาตอนที่มันพูดออกมาแบบนั้น ผมส่ายหน้าไปมากับความอวยตัวเองของมัน " ให้กูทาย มึงคงต้องคิดถึงกูมากแน่ๆ และภาวนาให้กูกลับไปเร็วๆถูกมะ "
“ นี่ถามจริง มึงคิดว่ากูจะทำอะไรไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ "
“ ก็ใช่ไง แล้วมันเป็นไง ซนมั้ย "
“ ไม่เห็นจะซนอะไรมากมาย มันก็พูดรู้เรื่องนะ ติดแค่ว่า พออยู่กับกูมันชอบอ้อนจะเอานู้นนี่เรื่อยเลย เหมือนรู้ว่ากูแพ้มัน ถ้ามันอ้อนกูด้วยท่าทางน่ารักอย่างงั้นอะ "
“ เออ มันรู้ " ขมบอก " อย่างกับกู มันยังรู้เลยว่าควรทำยังไงถ้ามันอยากจะได้ของกินน่ะ ไอ้นี่มันหัวหมอ " เราหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันไอ้ขมก็ถามต่อ " แต่กูอยากจะให้มันซนมากกว่านี้นะ ตอนนี้มันไม่ค่อยซนยังไงก็ไม่รู้ "
“ มึงนี่ก็แปลก มันไม่ซน มึงก็อยากจะให้มันซน "
“ ไม่หรอก แต่กูคิดว่าเด็กวัยมัน ควรซนมากกว่านี้ คือจะพูดยังไงดี " ปลายสายเว้นเสียงไปสักพักเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ " ไอ้หัวหอมมันก็ช่างพูดช่างจานะมึง แต่เหมือนยังไม่ซน ไม่กล้าจะเล่นกับเรา เหมือนมันมีอะไรที่มันกลัวอยู่ "
“ แล้วมึงคิดว่าอะไร อะไรที่ทำให้มันกลัวเราอยู่ "
“ กูคิดว่า มันคงกลัวเราทิ้งมันมั้ง มันเลยไม่กล้าที่จะซน ที่จะเป็นตัวเองเท่าไหร่ "
“ เพราะว่ากูเคยทิ้งมันน่ะเหรอ " ผมถาม เหตุการณ์ที่กลายมาเป็นทั้งความรู้สึกผิดที่สุดของผม และความทรงจำที่ร้ายแรงที่สุดของตัวกาลิคเอง
“ ไม่หรอก ถ้ามันกลัวมึงจะทิ้งจริงๆ มันไม่กล้าอยู่กับมึงหรอก แต่กูคิดว่า เพราะว่าแม่มันตังหากที่ทำให้มันกลัว กูเดาว่ามันคงโดนขู่มาหลายครั้งแล้ว ว่าถ้ามันซนจะพามันไปอยู่ที่อื่น แล้วพอมาอยู่กับเรา แม่มันอาจจะขู่มาก็ได้ว่า ให้เป็นเด็กดีถ้าไม่เป็นเด็กดี มันจะโดนพาไปทิ้ง "
“ มึงคิดงั้นเหรอ "
“ อื้ม ไม่รู้สิ แต่กูก็คิดอย่างงั้นละนะ เรื่องแบบนี้คงต้องใช้เวลาให้มันปรับตัว เราเองก็ด้วยต้องทำให้มันเชื่อใจให้ได้มากๆ ว่าแต่มึงเถอะ พามันไปกินเคเอฟซีอีกแล้วนะ กูบอกแล้วนี่ว่าอย่าพาไปมันไม่ค่อยมีประโยชน์ "
“ กูก็รู้ แต่มันอ้อนกูอะ กูแพ้ " ผมบอก อีกคนก็ถอนหายใจออกมา " โทษทีมึง แต่นานๆทีกิน คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง "
“ แล้วจำไว้นะ ทุกครั้งที่มันไปกินข้าวกับมึงสองคน มันจะชวนมึงไปกินเคเอฟซีนั่นแหละ "
“ ครับๆ มึงก็อย่าไปไหนสิ อยู่ด้วยกัน มันก็ไม่เป็นไรแล้ว " ผมบอกอีกฝ่ายก็ถอนหายใจออกมา " แล้วพรุ่งนี้ถึงกี่โมง "
“ คงจะประมานสี่โมงเย็นอะ มึงไปรับกาลิคก่อนแล้วค่อยพามันมาที่มหาลัยก็ได้ "
“ แล้วกูก็กระเตงลูกเดินไปเดินมาทั่วมหาลัย รอรับมึง ดีจัง..” ผมว่าประชด คราวนี้นอกจากจะสายตาที่มองมาแบบสงสัย กูต้องนั่งตอบคำถามอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้
“ มึงก็อย่าโง่ พามันไปกินข้าวก่อน ใกล้เวลาค่อยมารอรับ ตอนนั้นเด็กคณะมึงก็กลับไปหมดแล้ว มารอรับหน้าคณะกู ใครมันจะเห็น "
“ แล้วเพื่อนมึงละ " ผมถามอีกคนก็นิ่งไป " ว่าไง "
“ ช่างมันเถอะน่า .. กูไม่สนใจอยู่แล้วว่าใครจะคิดยังไง กูคิดถึงหัวหอม พามันมารับกูด้วยนะ "
“ ครับ งั้นก็แล้วแต่ เอาไงก็เอากัน มึงว่าดีกูก็ว่าดี "
“ พี่ภาพน่ารักอะ " มันบอก ผมก็ยกยิ้ม " แล้วนี่ไม่คิดถึงกูจริงๆอะ คือหัวหอมไม่ได้ทำอะไรให้มึงลำบากเลยสักนิดเลยอะ ไม่มีเลย "
“ ถ้าเรื่องไอ้หัวหอมก็ไม่มี "
“ เหรอ เออ ก็ดีไป ไอ้เราก็คิดว่าจะได้รับสายโทรศัพท์จนไหม้ สุดท้ายไม่จ้า มึงไม่โทรมาจนกูต้องโทรไปเอง แต่ก็ดี แสดงว่าอยู่กันได้ราบรื่น ดีแล้ว มึงกับมันจะได้สนิทกันบ้าง "
“ ถ้าเรื่องหัวหอมยุ่งวุ่นวายจนทำให้คิดถึงมึง อยากให้มึงช่วยอะ มันไม่มี แต่ว่า ถ้าคิดถึงธรรมดา แบบว่า มึงไม่อยู่ทั้งๆที่ปกติอยู่ ถ้าคิดถึงแบบนั้น กูก็คิดถึงมึงนะ " ปลายสายที่ฟังอยู่นั้นเงียบไป ความเงียบที่ทำให้ผมคิดไปต่างๆนานา ว่ามันอาจจะรู้สึกแปลกๆ กับประโยคนั้นของผมรึเปล่า ผมที่ตอนนั้นก็หัวเราะก่อนจะพูดประโยคกลบเกลื่อนออกไป " ปกติได้ยินเสียงมึงด่ากูตลอด แล้วทำไมพี่จะไม่คิดถึงน้องขมละจ๊ะ "
“ จ๊ะ! ” มันย้ำเสียงก่อนจะถอนหายใจเบาๆออกมา " นั่นสินะ เราอยู่ด้วยด้วยกันทุกวัน ด่ากันทุกวัน มันก็ต้องคิดถึงกันอยู่แล้ว "
“ แล้วมึง..” คิดถึงกูบ้างมั้ย ผมอยากจะถามออกไปตรงๆแบบนี้ แต่ดูเหมือนมันจะเป็นประโยคที่ดูแปลกไปหน่อยสำหรับแค่คำว่า เพื่อน
“ อะไร "
“ พี่จะถามว่า แล้วน้องขมละจ๊ะ คิดถึงพี่ภาพบ้างมั้ยละจ้าาา " เสียงเล่นๆของมันเอ่ยถามมันอีกคนก็หัวเราะ ก่อนจะตอบกลับมา
“ คิดถึงสิจ๊ะ ผัวขา คิดถึงทั้งลูกคิดถึงทั้งผัวนั่นแหละค่าาา " ผมยิ้มกว้างออกมากับเสียงที่ได้ยิน " ภาพ แค่นี้ก่อนนะ กูจะไปปาร์ตี้ต่อละ ไอ้ม่านไอ้มู่โทรจิ๊กกูยิกๆละ "
“ เออ แค่นี้ พรุ่งนี้เจอกัน "
“ บายยยย มารับเค้าให้ตรงเวลานะ ผัวขา "
“ จ้า เมีย " ผมกดวางสายนั่นลง ผ่อนลมหายใจแล้วยิ้มๆกับหน้าจอมือถือของตัวเอง เอาว่ะ.. ไม่ว่าจะเป็นความคิดถึงแบบไหน แต่ถ้าเค้าคิดถึงเรา นั่นก็คงดีแล้วละ ยังไงก็เป็นคนที่ถูกคิดถึงละนะ
..........................................................
ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถหน้าคณะศิลปกรรมของไอ้ขม ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยที่ต้องขับรถเวียนไปเวียนมาอยู่ตั้งหลายรอบ ขับออกไปจากมหาลัยตอนเลิกเรียนไปรับไอ้ตัวเล็ก พาไปกินข้าวแล้วก็วกกลับมาอีก สารภาพเลยโคตรเหนื่อย
“ อาภาพ เรามาทำอะไรที่นี่เหรอ " กาลิคหันมาถาม มันมองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ ตอนนี้เวลาประมานบ่ายห้าโมงแล้วไอ้ขมบอกว่ามันคงถึงเลทสักหน่อย
“ มารับอาขมไง วันนี้อาขมกลับมาแล้วนะ มาดีใจกันหน่อย เอ้า หนึ่ง สอง สาม เย้ๆๆๆๆๆ " ชูมือไปมา กาลิคมันก็ชูมือตามก่อนจะส่งเสียง
“ เย้ๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ต้องอยู่กับอาภาพสองคนแล้ว "
“ หมายความว่าไงวะ " ผมก้มหน้าลงถามมันอีกคนก็เอียงหน้าทำเป็นไม่ใส่ใจ ท่าทางที่ทำให้ผมหลุดยิ้ม เอามาจากไอ้ขมแน่นอน ไอ้ท่าทางอย่างงี้
“ แล้วนี่คือ คือที่ไหนเหรอ "
“ อยากจะลงไปดูมั้ยละ " ผมปิดเครื่องยนต์อีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะเปิดประตูลงไป กาลิควิ่งมาจูงมือผม ผมก็อธิบาย " ที่นี่เค้าเรียกว่า มหาวิทยาลัย "
“ มะ หา วิท "
“ มหาวิทยาลัย " ผมทวนคำพูดอีกครั้งแต่มันก็พยักหน้าลง " กาลิคน่ะ พอเรียนจบที่โรงเรียนแล้ว ก็ต้องมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยละนะ "
“ ถ้าเรียนจบที่โรงเรียนแบบ เรียนหมดแล้วน่ะเหรอ เหมือนพี่คนที่เค้าโตๆ ก็ต้องมาเรียนที่นี่น่ะเหรอ "
“ ใช่แล้วอย่างงั้นละ " พยักหน้ารับอีกคนก็พยักหน้ารับตาม ผมจูงมือมันเดินไปเรื่อยๆ ฟ้าที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีส้มผมอุ้มมันขึ้นมามองดู " ดูสิ ฟ้าเป็นสีส้มเลย "
“ อาภาพ กาลิคอยากจะไปนั่งตรงนั้น " มันชี้ไปที่อัฒจรรย์ข้างคณะไอ้ขม ผมเดินพามันไปยืนบนที่นั่งกาลิคก็เดินก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนจะมองลงมาที่ผม " อาภาพสูงจัง "
“ แล้วขึ้นไปทำไมเล่า ลงมานี่ " ผมกวักมือเรียกมันก็นั่งลง ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลงมาแล้วนั่งลงข้างๆผม
“ เฮ้ยมึง ไอ้ภาพ " ผมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนจะยกยิ้มให้ไอ้ชัดที่เดินเข้ามาใกล้ มันขมวดคิ้วน้อยๆตอนที่เห็นกาลิค " นั่นลูกใครวะ หลานมึงเหรอ "
“ เปล่า " ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปมองกาลิค แล้วยกยิ้มตอบ " ลูกกูกับไอ้ขม "
“ ตลก "
“ อ้าว ไม่เชื่อถามมันสิ " ผมหันไปถามกาลิค " กาลิค กาลิคลูกใคร "
“ ลูกอาขมกับอาภาพ " มันว่าเสียงใส ไอ้ชัดก็ยกยิ้ม
“ เล่นเชี้ยอะไรของมึง "
“ กาลิค สวัสดีอาชัดก่อน นี่อาชัด เพื่อนอาภาพเอง "
“ สวัสดีครับ " มันยกมือไหว้อีกคนก็เอื้อมมือไปลูบหัว
“ สวัสดีครับ " ชัดหันมามองหน้าผม " เอาจริงๆ ตกลงยังไง "
“ ก็อย่างที่บอก ลูกกูกับไอ้ขม " ผมหัวเราะ อีกคนก็ยังนิ่ง " ไว้ค่อยเล่าแล้วกัน เล่าตรงนี้ไม่ได้หรอก " ลูบหัวกาลิคเบาๆไอ้ชัดก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีก ไอ้ตัวเล็กวิ่งลงไปเล่นเตะบอลที่กลิ้งอยู่แถวนั้นไปมาคนเดียว ก่อนที่ผมจะวิ่งลงไปเล่นด้วย ฆ่าเวลารออีกฝ่ายที่ก็คงใกล้จะถึงแล้ว
รถบัสของมหาลัยที่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าคณะศิลปกรรม ผมหยุดลงส่งลูกบอลที่กำลังเตะส่งไปมากับกาลิค เปลี่ยนมาเป็นยื่นบอลให้อีกคนแทน
“ เอาไปเก็บนะ อาขมมาแล้ว "
“ ครับ " กาลิควิ่งเอาบอลไปเก็บจากตรงที่มันเอามาก่อนจะวิ่งมาจับมือผมที่ยืนรอให้เด็กคนอื่นๆทยอยลงมาจากรถ กระเป๋าเสื้อผ้าถูกทยอยขนลงมาวางไว้บนพื้นเช่นกัน นักศึกษาหลายคนเดินมาหยิบก่อนจะหันไปบอกลาอาจารย์ บ้างก็รอเพื่อน จนกระทั้งคนที่คุ้นตาจะเดินลงมาคนสุดท้ายพร้อมกับเพื่อนของตัวเอง
ผมเผลอยิ้มออกมาตอนที่เห็นหน้ามัน เหมือนกับไอ้ตัวเล็กที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ กาลิคดึงมือให้หลุดออกจากมือของผมที่กุมมันไว้ แล้วในวินาทีต่อมามันก็วิ่งเข้าไปหาไอ้ขมทันที แขนเล็กที่กอดเข้าไปเต็มอ้อมกอด ที่แสนจะคิดถึงของมัน
" อาขมม กลับมาแล้ววว " เสียงใสๆที่เอ่ยบอกไอ้ขมก็ก้มหน้าลงแล้วย่อตัวกอดมันไว้แน่น ราวกับว่าสิ่งที่ผมอยากจะทำ ตอนนี้กาลิคมันก็ได้ทำแทนผมไปหมดแล้ว
" คิดถึงหัวหอมจังเลยยยยยย หอมๆๆๆ กอดแน่นๆ " มันว่าแบบนั้นก่อนจะหอมแก้มไอ้ตัวเล็กไปหลายที " แปปนะ ขออาขมไปเอากระเป๋าก่อน " มันจูงมืออีกคนไปเอากระเป๋าก่อนจะหันไปไหว้อาจารย์แล้วเดินตรงมาหาผม ที่ก็เอื้อมมือไปรับกระเป๋ามันไว้ " ไม่ต้องถือให้ก็ได้ กูถือเอง "
" มึงอุ้มมันเถอะน่า ดูมันพันแข้งพันขามึงซะขนาดนั้นแล้ว " ผมเชิดหน้าไปที่กาลิคที่ก็กอดคนที่คิดถึงไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ไอ้ขมก้มลงมองก่อนจะดึงอีกคนขึ้นมาอุ้ม
" เป็นไง คิดถึงอาขมมั้ย "
" คิดถึง กาลิคคิดถึงอาขมที่สุดที่ในโลกเลย คิดถึงเท่านี้เลย " มันกางมือออกสุดแขนก่อนจะกอดอีกคนไว้ จมูกรั้นหอมแก้มไอ้ขมไปเต็มฟอด " คิดถึงอาขมที่สุด "
" อาขมก็คิดถึงกาลิคเหมือนกัน คิดถึงม๊ากกกกมากกกก " มันหอมแก้มอีกคนกลับ
" แล้วอาภาพคิดถึงอาขมมั้ย " กาลิคหันมาถามผม ที่ก็หันไปมองมันสองคน ไอ้ขมที่นิ่งไปนิดหน่อยแต่ก็ยกยิ้มออกมา มันพูดจาทีเล่นทีจริง
" ว่าไง อาภาพละ คิดถึงเค้าเปล่าาา " มือมันเอื้อมมาสะกิดแขนผม ที่ยกยิ้มขึ้นมา
" จะเอาความจริงหรือตอแหลดีละ "
" แน่นอนว่าต้องความจริงอยู่แล้ว " ขมบอก ผมก็หันไปบอกมัน
" กูคิดถึงมึงม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกมากกกก พอใจยัง " ผมว่า มันก็หัวเราะออกมา
" เอาจริงๆนะ ดูตอแหล ม๊ากกกกกกกกก มากอะ "
“ หึ " คนเรานี่ก็แปลก พูดความจริงก็หาว่า ตอแหล แล้วพอพูดตอแหล ก็คิดว่าเป็นความจริง
...........................................................
ก็มัวชอบพูดทีเล่นทีจริงกันแบบนี้ ใครมันจะไปรู้เล่าาาา ว่ารู้สึกยังไง
แมนๆ อยู่แล้วก็บอกเค้าไปตรงๆเลย ว่ารักเค้า แต่ถ้าพ่อภาพไม่ขัด อยากให้เลาเป็นไปแม่ของกาลิคให้ ก็ได้ #มึงไม่เกี่ยว
พ่อภาพที่มีทั้งความอบอุ่น ตลก และเป็นผู้นำ จัดการให้แม่ขมทุกเรื่องนั้น ความเป้นหัวหน้าครอบครัวมันมีออร่าจริงๆนะคะ
อวยผู้พอแล้ว มาขายของกันดีกว่า
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตเตอร์เพื่อการโปรโมตเบาๆ
ฝากแชร์ ฝากไลค์ในเพจ หนมมี่ผู้ใสซื่อ ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ เราจะเป็นนิยายที่ทำให้คุณฟรุ้งฟริ้งสืบไป
รัก หนมมี่