“ ไม่ให้จับ " ผมว่าก่อนจะดึงมือที่ตั้งนิ่งๆหลบมันเต็มที่อีกคนก็หัวเราะ " ขำเหี้ยอะไรนักหนา ใช่เวลาที่มึงจะมาขำเหรอวะ " คนบ้าอะไรวะมาง้อแฟนมาปรับความเข้าใจเรื่องที่ตัวเองทำไม่ดีไว้แต่เสือกมาพูดยอมรับความเหี้ยของตัวเอง แถมมาขอจับมืออีก นี่กูให้มึงนั่งใกล้กูก็บุญแล้วไอ้เหี้ย
“ ก็บอกว่าขอจับมือหน่อย " มือหนาเอื้อมมือมาจับมือผมไว้ทั้งสองข้างก่อนจะดึงให้หันมาเผชิญหน้ากัน ชัดยิ้มมันผ่อนลมหายใจออกมาแล้วพูด " กูอยากมีอะไรกับมึงจริงๆนะ กูยอมรับว่าตั้งแต่ได้จูบกับมึง กูก็อยากจะจูบอีก อยากจะกอด อยากจะหอมมึงตลอดเวลา แต่ก็ทำได้ไม่มากเพราะกูรู้ว่า เราเพิ่งคบกันทุกอย่างต้องเป็นไปตามลำดับ มึงเองก็ยังไม่เคย กูเลยได้แต่ต้องข่มใจไว้ "
“ แล้วพอมึงแดกเหล้าเข้าไป ความรู้สึกข่มเอาไว้มันก็ประทุขึ้นมา มึงจะบอกแบบนั้นใช่มั้ย "
“ อื้ม ก็มันเป็นแบบนั้น " ชัดพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยมือผมออกข้างนึง มันยื่นมือเอื้อมขึ้นมาจับที่หัวผมแล้วจ้องลงไปในแววตา " ขอโทษนะโม ขอโทษจริงๆ กูไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น ขอโทษที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ขอโทษที่ทำให้มึงรู้สึกว่ากูมันน่ารัจเกียจ "
“ กูก็ไม่ได้รู้สึกถึงขนาดนั้นหรอก " บอกปัดคำพูดสุดท้ายของมันที่คิดไปถึงขนาดนั้น " กูไม่ได้รังเกียจอะไรมึงสักหน่อย กูแค่ตกใจที่อยู่ๆก็โดนพูดแบบนั้นใส่ แล้วมึงจะมาจับนู้นจับนี่ของกูอีก ทั้งๆที่ตลอดเวลาคบกันมึงก็ไม่เคยทำ แล้วถ้ากูรังเกียจมึงจริงๆ กูไม่ให้มึงจูบตั้งแต่แรกหรอก พูดเหี้ยแบบนั้นออกมาได้ไง "
“ โทษที " มันว่าก่อนจะหันมายิ้มจางๆให้ผม " อย่าทำหน้าหงุดหงิดกูขนานนั้นสิ ไหงยิ่งพูดมึงยิ่งหงุดหงิดกูละเนี้ย "
“ ไม่ให้หงุดหงิดได้ไง มึงรู้มั้ยว่าตัวเองพูดเหี้ยอะไรออกมา รังเกียจเหี้ยไร กูไม่ได้รังเกียจมึงสักหน่อย แยกแยะให้ออกสิวะ ที่ไม่ชอบก็เพราะมันเร็วไปตังหาก ไม่ใช่ว่าเอากันไม่ได้แต่มันเร็วไป ไม่ได้รังเกียจ! " ตะคอกเสียงใส่มันด้วยความหงุดหงิด ไม่ชอบเลยเวลาคนมาเข้าใจความรู้สึกของผมผิดไป แล้วยิ่งเป็นคนตรงหน้าผมก็ยิ่งไม่ชอบ... ไม่ชอบก็เพราะว่าเค้าสำคัญ
" หงุดหงิดกูใหญ่แล้ว " ชัดบอกก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ " โอเค กูพูดผิดไป กูขอโทษนะ คำพูดกูมันคงรุนแรงไป กูพูดไม่คิดโทษที "
" กูไม่ได้รังเกียจมึง " ผมจ้องแววตามันแล้วบอกเสียงเบาๆอีกคนก็พยักหน้ารับ
“ โอเค กูรู้แล้ว " มันยิ้มก่อนจะปล่อยมือที่จับหัวผมอยู่ลงข้างตัว ก่อนจะพูดต่อ " แต่ว่าพอทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น การกระทำของกูมันก็ดูแย่มากเลย ทั้งๆที่คิดเอาไว้ว่า จะรอจนถึงวันที่มึงพร้อมแท้ๆ แต่สุดท้ายกูก็แพ้มัน แพ้ความต้องการของตัวเอง " ร่างสูงว่าพลางถอนหายใจออกมา " กูแพ้มันเพราะกูขาดสติ กูไม่น่ากินเหล้าเลย "
" ชัด..” มองคนที่เอาแต่ก้มหน้าแล้วเอาแต่โทษตัวเองอยู่แบบนั้น
“ กูจะเลิกกินเหล้าเวลาอยู่กับมึง จะไม่กินเหล้าอีกถ้ามึงอยู่ด้วย " มันบอก " แล้วก็จะเลิกกอดจูบมึงด้วย ไว้เราทั้งคู่พร้อมเมื่อไหร่ ค่อยว่ากันแล้วกัน " ทุกอย่างเงียบ ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากมัน ราวกับหัวใจของผมที่กำลังนั่งฟังมันหล่นลงไปบนพื้น จินตนาการถึงมือข้างที่ถูกมันกุมอยู่ในตอนนี้ถูกปล่อยลงไป เราที่เคยเดินจับมือกันหลังจากนี้จะทำได้แค่ยืนข้างกันเฉยๆเท่านั้น
“ คิดดีแล้วเหรอ " ผมถาม
“ กูอยากจะให้เราเริ่มใหม่ กูรู้สึกเหมือนตัวเองทำลายความรู้สึกดีๆที่มึงมีให้กูไปหมดแล้ว กูเลยอยากจะเริ่มมันใหม่ได้มั้ย " มันหันมามองผม
ในตอนนั้นสมองของผมมันว่างเปล่ากำลังคิดว่านี่ดีแล้วเหรอ ต้องถึงขนาดนั้นเลยเหรอ แค่เลิกกินเหล้าตอนอยู่ด้วยกันนั่นก็โอเคแล้วไม่ใช่เหรอวะ แล้วต้องถึงขั้นไม่จับมือ ไม่กอดกันอีกแล้วเลยเหรอ ต้องทำถึงขนาดนั้นเชียว
“ มึงทำแบบนั้นแล้วสบายใจเหรอ " ถามย้ำมันอีกที " จะสบายใจจริงๆเหรอวะ "
“ อื้ม " คำตอบของชัดเหมือนของหนักๆที่อัดลงมาใส่ใจผม " กูอยากทำโทษตัวเองที่ทำแบบนั้นกับมึง "
“ โดยที่ไม่ถามความสมัครใจของกูเลย ว่าอยากจะให้มึงแก้ปัญหาเรื่องนี้ยังไง " ยืนขึ้นเต็มความสูงของตัวเองตอนที่ถามมันออกไปเสียงเบาๆ
“ โม..”
“ มึงเข้าใจอะไรกูผิดไปรึเปล่าวะ " ผมถามมัน " แค่บอกว่าไม่อยากจะมีอะไรด้วย ไม่ได้บอกว่า ไม่อยากจะให้กอดนะ ไม่ได้บอกว่าไม่อยากจะให้จับมือ ไม่ได้บอกว่า ไม่อยากจะให้หอมแก้ม ไม่ได้บอกว่า ไม่อยากจะให้จูบ มึงเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ทำไมมึงไม่บอกกูว่าไว้รอพร้อมเมื่อไหร่เราค่อยมีอะไรกัน ทำไมมึงไม่บอกว่า จะไม่กินเหล้าจนเมาแล้วขาดสติอีก ทำไมมึงไม่ถามกู ว่าอยากจะให้มึงทำอะไรเพื่อแก้ตัวมั้ย แต่มึงกลับคิดเองเออเองเรื่องทั้งหมดนั้น มึงคงคิดว่าดีแล้วสินะ " ผมเหลือบมองมันที่เงยหน้ามองผม " งั้นมันคงดีกับมึงคนเดียวแล้วละมั้ง แต่โทษทีว่ะ มันไม่ได้ดีกับกูเลย "
“ โม เดี๋ยว! " ชัดคว้ามือผมไว้ แต่ผมที่นิ่งไปหันมองมันด้วยสายตาแดงกล้ำเพราะอยากจะร้องไห้ออกมาเต็มทน ทำไมกูต้องมาร้องไห้ให้กับเรื่องแค่นี้ เรื่องที่ดูงี่เง่าของเราสองคนที่เหมือนคนพูดจากันไม่รู้เรื่อง มึงมีความคิดของมึง ส่วนกูก็มีความคิดของกู ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่เราสองคนควรแชร์ความคิด และความต้องการออกมาด้วยซ้ำ แต่มันก็ไม่เคยถาม เอาแต่ความคิดตัวเอง
ตึง ตึ่ง ตึ้ง
เสียงกริ่งเลิกเสียงดังขึ้นพร้อมประตูห้องเรียนที่ถูกเปิดออกมา ผมดึงมือออกจากชัดก่อนจะเบือนหน้าไปอีกฝั่งชัดเองก็ลุกขึ้นมายืนข้างๆ ทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพื่อไม่ให้คนที่เดินออกมาจากห้องเรียนสงสัยในความสัมพันธ์ของเรา
“ อยากจะทำอะไรก็ตามใจละกัน กูไปละ มีเรียนต่อ" ผมบอกปัดมันในช่วงเวลาชุลมุนหันหลังเดินจะออกมา แต่ทว่ามันก็คว้ามือผมไว้ก่อนจะดึงเข้าไปในห้องเรียนวาดภาพห้องเล็กที่อยู่ใกล้ที่สุด " เชี้ย นี่! “
“ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ " ชัดบอกก่อนจะปิดล๊อคห้อง แล้วเดินเข้ามาใกล้ตัวผมที่ถอยร่อนจนติดกำแพง
“ ต้องคุยอะไรอีก มึงก็สรุปทุกอย่างออกมาหมดแล้วนี่ ก็ทำไปอย่างที่มึงต้องการนั่นแหละ ไม่ต้องถามกูหรอก เพราะมึงก็ไม่ได้คิดจะถามกูอยู่แล้วนี่ ว่าจะเอายังไง " ผมบอกก่อนจะหลบตาลงมองต่ำทันที ถึงแม้จะพูดออกไปแบบนั้น แต่ในใจของผมมันกลับบีบแน่นไปหมด รู้สึกน้อยใจมันชะมัด น้อยใจจนอยากจะร้องไห้ออกมาเพราะคำพูดและความคิดของมัน ที่บอกว่าจะไม่กอดผมแล้ว ทั้งๆที่ตัวผมไม่เคยคิดเลยว่าไม่อยากให้มันกอด
" นี่ " ชัดยื่นมือมาดันกำแพงข้างตัวผมไว้ มันที่ก้มลงมาหาใกล้ ผมก็เหลือบมองมัน
" จะทำอะไร "
“ ก็มึงบอกไม่อยากจะให้กูหยุดจูบมึงไม่ใช่เหรอ " คำถามที่มาพร้อมกับริมฝีปากหนาที่แนบสนิทลงบนริมฝีปากของผม ในวินาทีที่หลับตาแน่นอยู่นั้น ผมเผยอรับลิ้นอุ่นๆที่ขอแทรกตัวเข้ามา ทั้งๆที่น้อยใจมันอยู่ ทั้งๆที่โกรธมันอยู่ แต่พอเป็นชัด มือหนาที่กอดผมไว้ จูบอบอุ่นที่มอบให้ผม ความรู้สึกทุกอย่างก่อนหน้านี้ก็เหมือนค่อยๆถูกลืมเลือนไป หลงเหลือไว้แค่ความสุขในวินาทีนั้นเท่านั้น
นี่เหรอ คือความรัก ความรู้สึกที่จะทำให้เราไม่เป็นตัวเรา เราที่กลายเป็นคนที่ทั้งไร้เหตุผล พูดจาวกวน และไม่ยอมรับแม้แต่ความรู้สึกของตัวเอง
เวลาโกรธเค้าตอนที่ไม่ได้เจอก็มีความคิดแบบนึง แต่พอได้เจอความคิดก็เปลี่ยนไปเป็นอีกแบบนึง ความคิดที่เด็ดเดี่ยวก่อนหน้านั้นหายไปหมดแล้ว อย่างฉับพลัน ราวกับคนไม่มีสติและถูกชักจูงไปได้ง่ายๆเสียเหลือเกิน
อย่างผมตอนแรกก็บอกว่าไม่อยากเจอ อยากจะห่างออกไปสักพักก่อน แต่พอชัดมาขอโทษแล้วบอกว่า จะไม่กอด ไม่จูบ ไม่หอม ไม่ทำเรื่องแบบนั้นกับผมอีก ทั้งๆที่ใจควรจะคิดว่าดีแล้ว ห่างกันก่อนไม่อยากจะเจอเรื่องแบบนั้นอีก แต่พอเอาเข้าจริงก็ทำใจไม่ได้ ไม่อยากจะให้มันอยู่ไกลตัว อยากจะให้มันอยู่ใกล้ๆ เสียใจกับคำพูดของมันขึ้นมาทันที ทั้งๆที่เป็นคำพูดที่ควรเห็นด้วย ด้วยซ้ำไป
“ ชักจะเกลียด..” ผมพูดออกมาเสียงเบาตอนที่ชัดผละริมฝีปากออก " ชักจะเกลียดตัวเองขึ้นมาจริงๆซะแล้ว " ลืมตามองมันที่อยู่ตรงหน้าผม " ทั้งๆที่อยากห่างกันเพื่อทำใจแท้ๆ แต่พอมึงพูดขึ้นมาจริงๆ ก็ทำใจไม่ได้ กูน่ะ.. ชักเกลียดตัวเองขึ้นมาซะแล้ว ที่รู้สึกแบบนั้น "
“ เกลียดมันทำไม มึงจะมาเกลียดคนที่กูรักไม่ได้นะ " ชัดบอกก่อนจะดึงผมเข้ามากอดไว้ " แค่เอาความรู้สึกตัดสินแทนสมอง ไม่เห็นว่ามันจะผิดอะไร รู้สึกอะไรก็พูดออกไปตามนั้น กูเองแค่รู้สึกว่า อยากจะทำโทษตัวเองที่ทำกับมึงแบบนั้น เลยอยากจะสร้างกฏให้ตัวเองไม่ยุ่งกับมึงสักพัก ต่อไปจะได้ไม่ทำกับมึงแบบนั้นอีก เพราะรู้ว่ามันคงทรมานมากที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆมึง แต่ถ้ามึงไม่โอเค ก็บอกออกมา ตามความรู้สึก " ร่างสูงผละตัวออกห่างจากผม ชัดมองตาผม " มึงจะเอายังไงกับเรื่องของเรา โอเคมั้ยกับการตัดสินใจของกู "
“ ไม่โอเค " ผมบอกก่อนจะก้มหน้าลง มือที่วางข้างตัวนิ่งๆเอื้อมไปจับแขนมันไว้แล้วค่อยๆเลื่อนไปกอดตอบมัน " ไม่อยากให้มึงห่างกูไปแบบนั้น อยากให้อยู่ใกล้ๆ อยู่ใกล้ๆด้วยกันเหมือนเดิม "
“ งั้นเราจะทำยังไงดี " ชัดกอดผมแน่นขึ้น มันที่ซุกหน้าลงที่ไหล่ของผม ก่อนจะผละออกแล้วเปลี่ยนมาหอมแก้ม
“ มึงถอยออกไปก่อนสิวะ มาถามทั้งๆที่ทำเแบบนั้นอยู่ ใครมันจะไปคิดออก " ผมว่า มันก็ยกยิ้ม เราที่สบตากันตอนนั้นผมคิดว่า ตัวผมเองนั้น น่าเกลียดจริงๆแค่ถูกหอมแก้มก็ตื่นเต้นจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว ชัดจูบผมอีกครั้งก่อนจะดึงตัวเองออกห่าง ร่างสูงคว้ามือผมเดินไปที่เก้าอี้มันนั่งลงแล้วก็ดึงผมนั่งลงบนตัก " ปล่อยกูก่อนได้มั้ย เก้าอี้ก็มี มึงจะให้กูมานั่งเบียดมึงทำไม "
“ กูอยากกอดมึงไว้แน่นๆ มึงอยากให้กูอยู่ใกล้ๆ ไม่ใช่เหรอ "
“ ก็ให้มันรู้จักสถานที่บ้างสิวะ นี่ไม่ใช่บ้านมึงนะ " ผมขืนตัวเองออกห่างจากมัน อีกคนที่หลุดหัวเราะออกมา ท่าทางดูมีความสุขที่ทำให้ผมโกรธได้ " หัวเราะเชี้ยอะไร "
“ ก็หัวเราะมึง " มันว่าก่อนจะดึงหน้าตัวเองเข้ามาใกล้หน้าผม ที่ก็ชะงักไปทันที " เมื่อกี้ยังบอกอยู่เลยว่าไม่อยากจะให้กูห่างไปไหน อยากจะให้กอด อยากจะให้จูบ ไหงเผลอแปปเดียว บอกให้ถอยห่างอีกแล้วละ นี่ตกลงแฟนกูมีความรัก หรือกำลังเป็นวัยทองกันแน่วะ "
“ ไอ้สัด! ” กัดฟันเบาๆ มันที่ยักคิ้วให้ผม มือหนาก็ดึงเอวผมเอวไปยืนระหว่างขาของมัน มันยิ้มพลางหัวเราะเบาๆที่ได้ปั่นหัวผมให้สับสนอยู่กับความรู้สึกของตัวเองได้ " นี่แผนมึงรึเปล่า "
“ แผนอะไร " มันถาม ผมก็จ้องหน้ามัน สีหน้าที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัยอะไรนี่แหละ ชวนให้น่าสงสัยที่สุด
“ แผนที่ทำให้กูหายโกรธมึงง่ายๆ เพียงเพราะมึงมาบอกว่าจะไม่ใกล้กู มึงคงคิดสินะ ว่ากูเองคงไม่โอเคถ้ามึงจะห่างไปมึงเลยคิดแผนขึ้นมาเพื่อทำให้กูหายโกรธมึงเร็วขึ้นใช่มั้ย "
“ กูไม่คิดว่าตัวเองสำคัญกับมึงขนาดนั้นหรอกน่า " ชัดบอกก่อนจะเงยหน้าขึ้นยกยิ้มให้ผม " แต่ก็นะ..มันก็เกินคาดจากที่กูคิดละนะ "
“ เกินคาดอะไร "
“ ก็มึงรักกูมากกว่าที่กูคิดซะอีก ตอนแรกคิดว่ามึงคงแค่ชอบเท่านั้น " ริมฝีปากอุ่นจูบเข้าที่ริมฝีปากของผมอีกครั้ง มันถอนหายใจออกมาก่อนจะยิ้มกว้าง ท่าทางที่ดูยังไงก็ดูน่าหมั่นไส้
“ กูคิดออกแล้วว่าจะทำยังไงกับมึงดี "
“ ทำไง "
“ ห้ามทำอะไรรุ่มร่ามกับกู ไม่ว่าจะจูบ กอด หรือว่าอะไรก็ตาม ถ้ากูไม่อนุญาติก็ห้ามทำ "
“ เดี๋ยวนะ..เดี๋ยว คือต้องขออนุญาติจากมึง ”
“ ใช่ เราใช้ชีวิตตามปกติของเราแต่ว่าถ้ามึงจะมากอดจูบกู ต้องขออนุญาติกูก่อน ก็เท่านั้นแหละ แต่..ถ้าเป็นกูเริ่มก่อน ก็ได้ ไม่มีปัญหา "
" เอาแต่ใจชะมัด " ชัดบ่น " แล้วแบบนี้มันต่างอะไรกับที่กูบอกไว้ กูว่ามันก็คล้ายๆกันนะ "
“ ต่างสิ ที่ต่างคือ กูเป็นคนออกกฏไม่ใช่มึงไง แล้วอีกอย่างไม่คิดเหรอ ว่ากฏกูมันไม่น่าอึดอัดเลยสักนิดเดียว แค่ขออนุญาติเอง อีกอย่างกูก็ออกจะเป็นคนใจดีนะ "
“ หึ " ชัดยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมากับคำพูดของผม " ถ้าอย่างงั้นก็ขอลองหน่อยละกัน โม ขอจูบหน่อย " คำขอรวดเร็วที่ผมยังไม่ตอบอะไรแต่อีกฝ่ายกลับดึงผมเข้าไปกอด ก่อนจูบแบบรวดเร็ว
" ไอ้เชี้ยย กูยังไม่ได้อนุญาติเลยนะ " ผมว่าก่อนจะขมวดคิ้วใส่มัน ที่ก็หลุดหัวเราะออกมากับทีท่าของผม
“ อ๋อ ต้องได้รับคำว่า อนุญาติจากมึงก่อนสินะถึงจะจูบได้ เข้าใจละ "
“ ไอ้เชี้ยยย "
“ ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าหงุดหงิดกูขนาดนั้น " สองมือที่กอดผมไว้ยกขึ้น เหมือนคนยอมแพ้ " กูยอมแล้ว "
“ เออ " เบือนหน้าหนีไปอีกทาง ผมที่ผ่อนลมหายใจออกมาดีเหมือนกันที่อะไรๆก็ออกมาในรูปแบบนี้ และที่ดีที่สุดคือผมไม่ต้องอยู่ห่างจากชัดแล้ว
“ ขอโทษนะโม " คำพูดสั้นๆของคนตรงหน้าที่เอ่ยขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ หันมองมันที่ยิ้มให้ผม " แล้วก็ขอบคุณที่ใจดีไม่เอาเรื่องกู ไม่รังเกียจกู ขอโทษอีกทีนะ "
“ คราวหลังก็อย่ากินเหล้าจนเมาขาดสติอีกก็แล้วกัน " ผมบอก มันก็พยักหน้ารับก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ งั้นกูไว้กินเหล้าอีกทีตอนที่..” เงยหน้าขึ้นมองหน้ามันที่เว้นเสียงไป ร่างสูงก้มลงมาหาผมพลางกระซิบ " ตอนที่มีอะไรกับมึงแล้วก็แล้วกัน ฉลองที่ได้เมียเต็มตัว "
“ ไอ้สัด " มือผมง้าขึ้นตอนที่เอ่ยคำนั้นแต่ยังไม่ทันฟาด ไอ้ชัดก็ก้มลงมาหอมแก้มผม มันที่ทำให้ผมหยุดค้างไปด้วยสายตาที่สบกันอยู่ในตอนที่มันผละจมูกออกมา ใบหน้าคมก้มลงจูบที่ริมฝีปากของผมอีกครั้งแต่คราวนี้มันเป็นจูบดูดดื่มที่ละมุนนุ่มและอบอุ่นยิ่งกว่าจูบครั้งไหนๆ ที่เราเคยจูบกัน ราวกับว่ามันกำลังขอโทษผม ขอโทษผ่านทางริมฝีปากของมัน และอ้อมกอดของมันที่กอดผมไว้ หัวใจของผมเต้นแรงแบบไร้จังหวะ ตอนที่จูบนั้นหยุดลง ริมฝีปากที่เลื่อนออกห่างช้าๆ ผมลืมตาขึ้นมองมัน มันที่ยิ้มอบอุ่นให้ผม และผมเองก็ยิ้มให้มัน ชัดพูดติดตลก
" โทษที ลืมขออนุญาติแฟนก่อน " ในตอนนั้นผมทำได้แต่ก้มหน้าลงหลบแก้มแดงๆของตัวเองที่ถูกมันจ้องมองอยู่ ผมเม้นริมฝีปากตอนที่ก้าวเข้าไปหามันแล้วซบลงที่ไหล่หนานั้นก่อนจะพูด
" ขอหลบหน้าหน่อย เขิน "
.....................................................................
งื้ออออออ น้องโม น่ารักกกกกกก เขินตาม #อีนี่ก็อินทุกคู่ที่เขียน
ก็น่ารักไปอีกแบบไง รักใสๆ น่ารักๆ งี่เง่าบ้าง น่ารำคาญบ้าง
ตามภาษา ไม่มีใครว่าหรอก ความรักก็แบบนี้ ชอบทำให้คนผีเข้าผีออก บางทีก็เหมือนคนวัยทองตลอดเวลา
น้องโมเพิ่งมีความรัก ก็ค่อยๆปรับไปนะลูก #จบพาสชัดโมไปอีกหนึ่งพาส
อาทิตย์หน้า ก้มาต่อกันด้วย น้องหัวหอมคนเดิม เพิ่มเติมคือ อาขมกลับมาร้าวววววววววว #กลับมานานแล้วมั้ย
#น่าๆ เดี๋ยวย้อนให้แกรรร เคนะ
สุดท้ายนี้ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิต
ฝากแชร์ฝากไลค์ ในเพจหนมมี่ผู้ใสซื่อ ด้วยเน้ออ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า