เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 31
“ พรุ่งนี้วันศุกร์แล้ววววว ไหนใครอยากจะให้ถึงเสาร์อาทิตย์เร็วๆบ้าง ยกมือขึ้น! "
“ กาลิค!!!” เด็กน้อยยกมือขึ้นสุดแขน ระหว่างที่เรากำลังนั่งรถไปส่งมันที่โรงเรียน อาทิตย์นึงผ่านไปไวจริงๆ อาทิตย์ก่อนยังพามันไปเล่นที่สวนสนุกของเด็กอยู่เลย วันนี้ต้องมาคิดใหม่แล้วว่าจะพาไปไหนดี
“ แล้วคราวนี้ไปไหนกันดีละ "
“ ไปทะเลกันดีมั้ย " ไอ้ภาพบอกผมก็หันไปมองหน้ามัน
“ ไกลไปรึเปล่าวะ มึงขับรถไหวเหรอ " ผมถาม คนขับก็พยักหน้ารับ " แล้วจะไปที่ไหน หัวหิน ? “
“ ก็คงงั้น ดีมั้ยละ ออกเดินทางตอนเย็นวันศุกร์ไปเลย นอนคืนวันศุกร์ กับ วันเสาร์ วันอาทิตย์เราก็กลับบ้าน "
“ แล้ววันจันทร์ก็ตื่นเช้าไปเรียนต่อ ยอดเยี่ยม "
“ เราก็กลับสักบ่ายๆ ของวันอาทิตย์ จะได้กลับมาถึงบ้านไม่ดึก ก็มีเวลานอนเยอะแยะไป " พยักหน้ารับความคิดเห็นของมัน " ว่าไง มีใครอยากจะไปเที่ยวทะเลบ้าง "
“ กาลิค!! กาลิคอยากจะไปเที่ยวทะเลครับ " สองมือเล็กที่ยกมือแบบร่าเริง ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้า ได้เหยียบคันเร่งกับเบรคจนขาแข็งแน่มึงงานนี้
“ โอเค งั้นวันศุกร์หลังเลิกเรียน เราก็ไปเที่ยวทะเลกันเลย "
“ เย้~ ”
วันศุกร์ที่เจ้าตัวเล็กรอคอยมาถึงแล้ว ผมจัดการเก็บเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แถมยังออกไปซื้อของเล่นพวกห่วงยางเสื้อชูชีพแล้วก็ที่ตักทรายกันแบบไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ด้วย ผมกับภาพตัดสินใจกันว่าจะออกจากมหาลัยไปรับหัวหอมที่โรงเรียนแล้วตรงไปที่หัวหินเลย ถึงช้าสักหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะที่นั่นมีตลาดกลางคืนที่เราอยากจะไปกันอยู่แล้วเลยคิดว่า เช็คอินที่โรงแรมเสร็จก็ออกมาเที่ยวตลาดกลางคืนกันเลย
“ มึงคิดแผนเที่ยวไว้ด้วยนะว่าจะไปไหนกันบ้าง " ไอ้ภาพหันมาบอก ตอนที่เรากำลังขับรถออกจากโรงเรียนของหัวหอม
“ กูคิดไว้หมดแล้วละ คิดไว้ตั้งแต่มึงบอกจะพาไปหัวหินแล้ว "
“ ดูท่าทาง ไม่ค่อยอยากไปเลยนะมึง " มันแซว ผมก็ก้มลงกอดไอ้ตัวเล็กไว้
“ ใครบอกกกก อยากไปจะตายเนอะ หัวหอมเนอะ "
“ อื้อ! อยากไปมากๆเลย กาลิคน่ะนะจะไปเล่นน้ำทะเลแล้วก็จะไปเล่นทรายด้วย " มันบอกก่อนจะยิ้มกว้าง " แล้วเมื่อวานอาขมก็ซื้อที่ตักทรายให้ด้วย งั้นอาขมกับอาภาพก็ต้องมาเล่นกับกาลิคนะ เล่นกันให้สนุกๆเลย "
“ โอเค งั้นเรามาก่อปราสาททรายอันใหญ่ๆเลยดีมั้ย " ไอ้ภาพหันมาบอกเจ้าตัวเล็กที่ก็พยักหน้ารับด้วยสายตาตื่นเต้น
“ ดีๆ อาภาพ งั้นเรา เรามาสร้างปราสาทอันใหญ่ๆเลยนะ ใหญ่เท่าโลกเลย "
“ โอ้โหใหญ่เกิ้น แต่ก็ได้เลยยย " ขานรับคำชวนของอีกคน ร่างสูงก้มลงหอมแก้มมัน หัวหอมก็หอมกลับ ผมก็รู้อยู่ว่ามันกำลังมีความสุขเลยแสดงความรักกัน แต่คิดว่าไม่น่าจะใช่ตอนนี้ ที่มันกำลังขับรถอยู่แล้วเราก็กำลังอยู่บนทางด่วนด้วย!
“ เอ่อ.. มึงๆ กูว่ามึงช่วยตั้งใจขับรถหน่อยดีกว่านะ ค่อยหอมกันตอนถึงแล้วก็ได้ ตอนนี้อันตราย อยู่บนถนน คือกูอยากไปทะเลไม่ได้อยากไปตายไงนะ ช่วยตั้งใจ มองทางไป มองทาง " ชี้นิ้วไปข้างหน้าไอ้ภาพก็บอก
“ นี่ก็บ่นเป็นเมียเลย "
" ไอ้ภาพ " หันไปมองมันตาขวาง ไอ้สัดนี่... ชอบพูดคีย์เวิลล์เหี้ยๆให้เด็กมันสงสัยแล้วอยากรู้ตลอด ทั้งๆที่แม่งก็รู้ว่าไอ้หัวหอมมันอยู่ในวัยช่างถามช่างอยากรู้
“ อาขมๆ เมียคืออะไรเหรอ " นั่นไงกูว่าแล้ว.. ไอ้เด็กตากลมเงยหน้าขึ้นถามผมที่ก็จำใจต้องผ่อนลมหายใจออกมา ภาพยกมือขึ้นปิดปากตัวเองท่าทางที่ดูตอแหลของมัน ไอ้เชี้ยนี่ก็แบบนี้ทุกที ชอบสร้างปัญหาให้แต่ไม่เคยสำนึกถึงปัญหาที่ก่อไว้เลย สุดท้ายก็กูนี่แหละนี่ต้องรับกรรม กรรมที่ตอนนี้มาให้ในรูปแบบของคำถามของไอ้ตัวแสบตรงหน้านี่ไง
“ เมียเหรอ เมีย ก็คือ ภรรยาไง "
“ แล้วภรรยาคืออะไรละ "
“ อื้ม ก่อนที่ใครคนนึงจะมีลูกคนนั้นจะต้อง.. " เป็นสามีภรรยากันก่อน ประโยคต่อท้ายที่จะพูดถูกหยุดลงแค่ตรงนั้น ผมมองหน้าคนสงสัยที่ถามออกมาโดยที่ไม่รู้ ถ้าบอกออกไปเต็มประโยคหัวหอมต้องถามกลับมาแน่ๆ อาจจะเป็นคำถามที่ว่าแล้ว สามีของแม่มันละคือใคร หรือว่างั้นก็เป็นเหมือนพ่อแม่ใช่มั้ย ถ้าตอบออกไปทริปหนนี้คงไม่สนุกแน่ๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่เราลืมไปแล้วด้วยซ้ำ สำหรับเรื่องแม่ของหัวหอม หรือแม้แต่เรื่องที่ว่าใครเป็นพ่อของมันนั่นก็ด้วย เราไม่พูดเรื่องนี้กันนานแล้ว และผมก็ไม่อยากจะให้มันคิดหาคำตอบให้ใจต้องเจ็บปวดอีก " ไม่รู้อะ ยากจัง อธิบายไม่ถูก ยังไงเดี๋ยวพอโตขึ้นก็รู้เองเหละ "
“ ถ้าโตแล้วจะรู้เหรอ " หัวหอมถาม ผมก็พยักหน้ารับ
“ ใช่ เดี๋ยวพอโตแล้วจะรู้นะ "
“ งั้นนะ กาลิคก็อยากจะโตเร็วๆจังเลย " มันว่าพลางฟุบหน้าลงกับคอนโซลหน้ารถก่อนจะพูดเชิงงอน " เพราะว่าถ้าโตแล้ว ก็จะได้รู้เรื่องเยอะๆเลย เรื่องที่อาขมไม่ยอมบอก "
“ อาภาพว่า เป็นเด็กก็ดีแล้ว " ร่างสูงหันไปบอก หัวหอมก็มองหน้ามัน
“ ไม่เห็นดีเลยยยยย กินขนมเยอะก็ไม่ได้ เงินก็มีไม่เยอะ แล้วดูทีวีเยอะๆก็ไม่ได้อีกนั่นแหละ การบ้านก็ต้องทำ โรงเรียนก็ต้องไป เป็นเด็กไม่เห็นดีเลยยยยย " เสียงเถียงใสๆกับท่าทางจริงจังของมันชวนให้เราหลุดขำ เด็กน้อยมุ้ยหน้า " ไม่ตลกนะ "
“ ฮ่าๆๆ " เราสองคนหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังกว่าเดิมกับคำว่าไม่ตลกนะของมันนี่แหละ เหมือนตอนนี้ต้องมานั่งฟังความเครียดของเด็กอนุบาลสองเลยกู โอ๊ยย น่าเอ็นดู
“ ไม่ตลกนะ อาขมอย่าหัวเราะ~ " มือเล็กๆเอื้อมมาปิดปากผมที่ก็หยุดขำมันไม่ได้สักที " งื้อออ หยุดหัวเราะเลย ไม่ตลกเลยนะ "
“ ไม่ต้องตลกยังไงอะ ก็มันตลกอะ ตลกก็มันต้องขำสิ " ผมว่าตอนที่ดึงหน้าออกจากมือเล็กๆนั่น หอมแก้มอีกคนไปเต็มฟอด " ทำไมหัวหอมของอาขมถึงได้น่ารักขนาดนี้ละ หื้มมมมมม ชื่นใจ "
“ อาขม อาขมไม่หัวเราะกาลิคแล้วนะ ถ้าหัวเราะอีกกาลิคจะกอดอาขมเลยยย " มันว่าผมหยักหน้ารับแต่ก็ยังหยุดยิ้มกับคำขู่น่ารักนั่นอยู่ดี เพราะงั้นก็เลยต้องโดนอีกฝ่ายดึงเข้าไปกอดไว้แน่น
“ แล้วตกลงมึงวางแผนทริปนี้ไว้ว่ายังไง " ภาพเอ่ยถาม
“ อื้มม ก็พอเราถึงโรงแรม เราก็เช็คอิน แล้วออกมาเที่ยวตลาดกลางคืนกัน หาอะไรกินซื้อของฝาก แล้วก็กลับมาโรงแรม ตอนนั้นหัวหอมก็ทำการบ้านของตัวเองให้เสร็จนะ " ผมลูบมันอีกคนก็พยักหน้ารับเข้ากับไหล่ของผมก่อนจะผละออกมาบอก
“ พอทำการบ้านเสร็จแล้ว ก็อาบน้ำแล้วก็มาดูการ์ตูนนะอาขม "
“ ได้เลย "
“ แล้วกาลิคจะซื้อของฝาก ฝากเพื่อนด้วย " ไอ้ตัวเล็กบอก " จะซื้อฝากเพื่อนๆทุกคนเลย "
“ มีเงินเหรอ " ภาพถาม " ไหนเงินขอดูหน่อย "
“ อยู่ที่อาขม " มันชี้มาที่ผม ที่ก็เบิกตากว้างมองมันพลางส่ายหน้า เจ้าตัวเล็กก็ส่งเสียงขัดใจ " งื้อออออ อาขมก็ให้เงินกาลิคไง "
“ อาขมไม่มี ต้องอาภาพนู้น " ผมเชิดหน้าไปหาร่างสูงที่ก็เบิกตามองด้วยเหมือนกัน
“ งื้อออออออ อาภาพพพพ อย่าแกล้งกาลิคน้า "
“ โอเคๆ เดี๋ยวให้ยี่สิบ เอาไปซื้อลูกอมให้เพื่อนคนละเม็ด " มันบอกเจ้าตัวเล็กก่อนจะหันมาถามผม “ แล้วมึงจะไปซื้อของฝากใคร แค่หัวหินไม่ต้องก็ได้มั้ง "
“ ก็ฝากพ่อกับแม่มึงไง " ผมบอก " ปกติไปหาท่านทุกวันอาทิตย์ อาทิตย์นี้ไม่ไปเพราะเรามาเที่ยวแบบนี้ก็ควรมีอะไรติดไม้ติดมือไปฝากหน่อยสิ "
“ ไม่ต้องหรอก สำหรับพ่อแม่กู แค่มีภาพไอ้กาลิคส่งไปให้สักสองโหล เค้าก็มีความสุขแล้ว " ภาพบอกก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวไอ้ตัวเล็ก " เพราะถ้าเลือกได้ เค้าคงไม่ได้อยากจะได้อะไรหรอก คงอยากจะให้กาลิคไปหาเค้าวันอาทิตย์นี้มากกว่า "
“ ก็นะ อาจจะจริงอย่างงั้น "
ขับรถมาถึงหัวหินด้วยเวลาที่เร็วกว่าที่คิด ภาพถอยรถจอดรถที่ลานจอดของโรงแรมยืดเส้นยืดสายบิดเอวด้วยความเมื่อยอยู่สักพัก ก่อนที่พนักงานต้อนรับที่เป็นผู้ชายจะเดินออกมาตอนรับเราพร้อมกับช่วยขนกระเป๋าไปให้ที่หน้าเค้าเตอร์เช็คอิน
โรงแรมหรู บรรยากาศดีติดริมหาด ทุกอย่างทั่วบริเวณนั้นถูกจัดตกแต่งไว้อย่างดี สมกับราคาแพงหูฉี่ที่ผมเองก็บอกกับภาพแล้วว่าไม่ต้องพักกันอย่างหรูถึงขนาดนี้ก็ได้ แต่คนที่จ่ายเงินก็พูดสั้นๆแค่ว่า ' มาเที่ยวทะเลด้วยกันทั้งที ยังไงก็ไม่ได้มาบ่อยๆอยู่แล้ว ก็อยู่สบายๆหน่อยเถอะ ' แต่อย่างว่าละนะ คนมันรวย จะให้ไปอยู่โรงแรมที่มันไม่สะดวกสบายก็คงจะไม่ใช่พี่ภาพหรอก
“ ลูกค้าที่จองไว้ชื่อคุณภาพนะคะ "
“ ครับ " ไอ้ภาพเอ่ยบอก มันที่ก้มลงกรอกข้อมูลของตัวเอง ก่อนที่พนักงานจะยื่นการ์ดให้เรา
“ นี่เป็นคีย์การ์ดนะคะ แล้วคูปองสำหรับอาหารเช้าสำหรับสามที่ สองวันนะคะ "
“ ขอบคุณมากครับ " มันยื่นมือไปรับ เราเดินไปที่ลิฟต์พร้อมกับพนักงานผู้ชายที่เข้ามาช่วยขนกระเป๋าของเราทั้งหมดให้ เสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้องกระเป๋าก็ถูกเอาเข้าไปวางตรงที่ของมัน ไอ้ภาพเปิดกระเป๋าเงินจ่ายทิป ผมเองก็เอ่ยบอกหัวหอมที่มองอยู่
“ หัวหอมครับ ขอบคุณพี่เค้าที่ยกกระเป๋าขึ้นมาให้เราด้วยนะ "
“ พี่ครับ ขอบคุณมากครับ " มันยกมือไหว้ พนักงานก็ก้มลงยิ้มรับให้มันก่อนจะเดินออกไป
ห้องพักที่เราจองเป็นห้องที่ค่อนข้างกว้างขวางแค่มองไปรอบๆก็ยังทำให้รู้สึกสบายตา ระเบียงห้องที่มองออกไปแล้วเห็นวิวทะเล ผมหย่อนตัวเองลงนั่งบนเตียงก่อนจะมองไอ้ตัวเล็กที่วิ่งวนไปวนมาในห้องด้วยความสนุกและตื่นเต้น
" ห้องกว๊างงง กว้าง แต่ว่ามีเตียงเดียว " มันบอกก่อนจะวิ่งเข้ามากอดผม " อาขมๆ คืนนี้นะ กาลิคจะนอนตรงกลางนะ จะนอนตรงกลางให้ทั้งอาภาพแล้วก็อาขมกอดเลย "
" เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว ขืนไปนอนข้างๆ ก็ได้ตกเตียงสิ " ผมบอกมัน ไอ้ภาพก็หย่อนตัวเองลงนั่งข้างกัน มันที่มองไปรอบๆ
" ก็เหมือนกับในภาพที่ดูมาเลยนะ จัดว่าดี "
" แล้วทำไมมึงถึงเลือกแบบเตียงเดี่ยววะ ทำไมไม่เลือกแบบเตียงคู่ "
" มัน..ไม่มีน่ะ " ร่างสูงบอกผมแบบนั้นแต่ท่าทางที่หันไปมองทางอื่นก็ดูเหมือนปิดบังความจริงอะไรไว้ ผมเหลือบมองมัน " จริงๆ นีมึง่ไม่เชื่อกูเหรอวะ "
" คนอย่างมึง มันเชื่อไม่ค่อยได้ "
" เหี้ยไรของมึง แล้วมึงคิดว่าคนอย่างกูจะมีเหตุผลอะไรที่จะจองเตียงเดี่ยวครับ ? เพราะว่ากูอยากจะนอนเบียดกับมึงแล้วก็ไอ้กาลิค ให้ไอ้กาลิคก้านคอกูตอนนอนอะนะ " ถ้าบอกเหตุผลนี้มันก็พอฟังขึ้นอยู่ละนะ ไอ้หัวหอมนอนร้ายจะตายเวลาหลับทั้งขาทั้งแขนกางออกหมด บางทีนอนๆขาฟาดเข้าที่หัว ไม่ก็ตีลังกาหัวไปอยู่ที่เท้า เท้าไปอยู่ที่หัวก็มี
" นั่นก็จริงของมึง "
" มันไม่มีตังหาก ไอ้ห้องเตียงคู่นั่นน่ะ " ภาพบอกผมก็พยักหน้ารับ
" อาขมๆ กาลิคอยากจะเล่นน้ำทะเล " ไอ้ตัวเล็กวิ่งมาบอกมันที่กำลังจะถอดเสื้อผมก็เบรคไว้
" เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆพ่อหนุ่มน้อยของกู ตอนนี้ยังเล่นไม่ได้นะเพราะมันดึกแล้ว ไม่มีใครเล่นน้ำทะเลกันแล้ว วันนี้ออกไปหาอะไรกินกันก่อน ไปซื้อของ ตื่นมาเช้าวันพรุ่งนี้ค่อยเล่นนะ "
“ แต่ แต่ว่ากาลิคอยากจะเล่นวันนี้ " มันบอกก่อนจะดึงตัวเองเข้ามายืนอยู่ที่ระหว่างขาของผมแล้วซุกหน้าลงกับอก เป็นท่าที่เหมือนจะบอกกันว่า มันเริ่มจะงอแงและไม่ฟังเหตุผลเหี้ยอะไรทั้งนั้นแล้วละ " อาขมมมม "
“ ไม่ได้ กลางคืนดึกแล้ว เล่นไม่ได้นะ ทะเลมันมืด ถ้าหัวหอมหายไปจะทำยังไงละครับ " เอื้อมมือลูบผมนุ่มๆของมันแล้วบอก อีกคนก็นิ่งเงียบเหมือนใช้ความคิดว่าจะเถียงอะไรผมดี เพื่อให้มันได้เล่นน้ำทะเลตอนนี้
“ งั้นกาลิค กาลิคจะติดไฟไว้ที่แขน อาขมจะได้เห็นกาลิต "
“ ไม่ได้หรอก เดี๋ยวคลื่นซัดไปช่วยไม่ทัน "
“ ไม่ซัดไปปปปป " มันซุกหน้าพลางส่ายหน้าไปมา งอแงกันแบบถึงขีดสุด
“ พูดกันให้รู้เรื่องสิหัวหอม " ผมบอก " คืนนี้เราเล่นน้ำไม่ได้แล้วเพราะมันอันตราย เดี๋ยวเราออกไปกินข้าว กินขนม ซื้อของ แล้วกลับมาทำการบ้าน อาบน้ำ ดูการ์ตูน แล้วก็นอนเร็วๆ พอเราตื่นขึ้นมาตอนเช้า เราก็กินข้าวเสร็จ แล้วก็ออกไปเล่นน้ำทะเลกันเลย ไม่ใช่ไม่ได้เล่นสักหน่อย ทะเลน่ะเค้าต้องเล่นกันตอนกลางวัน "
“ แต่ว่า อาขม....”
“ งั้นแสดงว่าเราพูดกันไม่รู้เรื่อง ถ้าหัวหอมยังงอแงไม่ฟังอาขมอยู่แบบนี้ เราก็กลับบ้านกันเลย ดีมั้ย ? กลับไปบ้านไปตั้งสติเดี๋ยวพอพูดกันรู้เรื่องแล้ว ก็ค่อยพามาใหม่ “ ผมก้มหน้าลงถามมันที่กำลังจะแบะปากเตรียมร้องไห้ออกมาทันทีที่ได้ยิน " ไม่ต้องเล่นมันแล้วน้ำทะเลน่ะ ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง ที่บอกว่าจะให้เล่นพรุ่งนี้ ก็ไม่ต้องเล่น "
“ ฮือออออ ไม่เอาาาาาา ฮือออออ ไม่กลับบ้านนนน ฮือๆ อาขมไม่กลับบ้านน้า อึก ฮือๆ กาลิคไม่กลับบ้านนน " ส่ายหน้าไปมาพลางร้องไห้งอแงออกมาอย่างหนัก มือเล็กที่โบกทำท่าปฎิเสธไปมา " ม่ายกลับบ้าน อึก ไม่กลับน้าา อาขมไม่กลับ "
“ ถ้าไม่กลับบ้านก็ต้องพูดกันให้รู้เรื่องสิครับหัวหอม ก็อาขมบอกว่าน้ำทะเลเล่นตอนนี้ไม่ได้แล้ว เพราะมันดึกแล้วอันตรายเดี๋ยวหัวหอมจะหายไป อาขมก็บอกว่าให้รอก่อนค่อยเล่นพรุ่งนี้ตอนเช้า " เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้มัน ลูบผมที่มีแต่เหงื่อขึ้นไป อีกคนก็ดึงตัวเองขึ้นมานั่งตักก่อนจะซบลงที่อก " ว่าไง ตกลงว่าจะกลับบ้าน หรือว่าจะเล่นน้ำทะเลพรุ่งนี้ดี "
“ อึก จะเล่นน้ำทะเลพรุ่งนี้ก๊าบ อึก ฮือๆ ไม่กลับบ้านนน "
“ โอเค เราจะเล่นน้ำทะเลกันพรุ่งนี้นะ ถ้าหัวหอมตกลงได้แล้วแสดงว่าเราคุยกันรู้เรื่อง เราก็ไม่ต้องกลับบ้าน " ก้มลงเช็ดน้ำตาให้เจ้าตัวเล็กก็กอดผมไว้แน่น " ไม่ต้องร้องไห้ น้ำทะเลน่ะได้เล่นแน่นอน เพราะงั้นตอนนี้ออกไปกินข้าวกันดีกว่าไป หิวรึยัง "
“ หิวแล้วก๊าบ " เสียงงอแงที่บอกชวนให้ผมยิ้ม กระชับมืออุ้มมันขึ้นมาพร้อมตัวเองที่ลุกขึ้นเต็มความสูง
“ งั้นก็ไปกัน " ผมบอกก่อนจะหันไปมองไอ้ภาพที่นั่งมองผมยิ้มๆ " มองไรวะ "
“ ก็มองมึง กูทึ่งให้ความสามารถของมึง " มันบอก " มึงแม่งเก่งอะ เอามันอยู่ด้วย นี่ถ้าเป็นกูคงต้องตามใจมันไปแล้วละ ไม่ก็หาอะไรมาล่อให้มันยอมทำตามกู แต่นี่มึงแม่งไม่ต้องล่อมันเลย โคตรเก่ง ข้าน้อยขอคาระวะ "
“ แล้วจะให้กูทำไงได้วะ ถ้ากูตามใจมันเพราะมันร้องไห้ เดี๋ยวครั้งต่อไปหัวหอมมันก็ต้องใช้วิธีบีบน้ำตามาบังคับเราอีก " แม้ว่าหน้าตอนร้องไห้ของมันจะน่าสงสารแล้วก็น่ารักมากๆจนชวนใจอ่อนทุกสองวินาทีที่อยู่ตรงนั้นก็เถอะ และผมก็ไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าทำไมเวลาปล่อยให้หัวหอมอยู่กับไอ้ภาพ ทำไมมันถึงได้ตามใจกันนัก นั่นคงเพราะไม่ภาพมันไม่เก่งพอจะอดทนกับสายตาของไอ้หัวหอมได้ แถมเสียงอ้อนๆนั่นอีก ภาพคงมีแต่ยอมกับยอม " มึงก็เหมือนกัน หัดใจแข็งซะบ้าง ไม่ใช่อะไรๆก็ตามใจมันไปหมด "
“ จ้าๆ พี่ทราบแล้ว " ไอ้ภาพว่าพลางก้มหัวลงซ้ำๆ " กลัวจ้า กลัวแล้ว อย่าทำไรพี่เลยนะจ๊ะ " หลุดยิ้มออกมากับประโยคนั้นของมัน ยกขาขึ้นเตะก้นมันด้วยความหมั่นไส้ร่างสูงก็หัวเราะ
“ ไปกันได้แล้ว จะได้กลับมานอนอีก "
“ จ้า แม่ ไปจ๊ะไป "
“ ไอ้สัด กวนตีน "