เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 33
อาบน้ำแต่งตัวหลังจากเล่นน้ำทะเลกันเสร็จเรียบร้อย เราออกเดินทางจากโรงแรมตรงไปที่ฟาร์มแกะตามที่จีพีเอสบอก จอดรถที่ลานจอดรถของฟาร์ม แสงแดดที่สาดลงมาชวนให้ผมหรี่ตาตัวเองลงก่อนจะสวมหมวกให้ไอ้หัวหอมที่ก็ยังร่าเริงท้าลมร้อนแบบชนิดสู้ตายหายห่วง
“ ร้อนจังเลยวะ " ผมพูดออกมาตอนที่หยิบหมวกขึ้นมาปกให้ตัวเองบ้าง ส่วนไอ้ภาพก็เดินลงจากรถมาพร้อมแว่นดำพร้อมทั้งมือถือที่เตรียมจะถ่ายรูปเด็กน้อยเต็มที่ " นี่มึงเตรียมถ่ายรูปเต็มที่เลยนะไอ้ภาพ "
“ แน่นอน เมื่อเช้าแม่กูหวีดโทรศัพท์แทบแตก โทษฐานไม่มีภาพไอ้หัวหอมตอนเล่นน้ำทะเลครั้งแรกในชีวิตส่งไปให้ " ผมหลุดยิ้มออกมาร่างสูงก็ส่ายหน้า " พอบอกว่าถ่ายไม่ได้มือถือใส่ซองกันน้ำแล้วตัวกูก็เล่นน้ำด้วยแม่ก็ยิ่งวีนใหญ่ บอกว่า รู้มั้ยว่านี่คือความทรงจำที่ดี ต้องถ่ายเก็บไว้ กูละเชื่อเค้าเลย "
“ แต่ก็จริงของเค้านะ ไม่ผิดไปจากที่เค้าพูดหรอกกูว่า " เพราะถ้าผมย้อนกลับไปได้ก็อยากจะถ่ายรูปมันเก็บไว้เหมือนกัน ท่าทางตื่นเต้นกับรอยยิ้มแบบนั้น รู้สึกว่าหนหน้าถ้าได้มาอีกครั้งก็คงไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบในวันนี้แล้วละ
“ นี่มึงก็บ้าจะถ่ายรูปไอ้กาลิคเหมือนกับแม่กูอีกคนแล้วเหรอ " ภาพถาม ก่อนจะเปิดมือถือแล้วยื่นกล้องไปตรงหน้าไอ้ตัวเล็ก " กูไม่เห็นจะชอบเลย ไม่เคยได้ยินเหรอ กูเลยอ่านกระทู้ในพันทิปนะ เด็กคนนึงไม่ยอมถ่ายรูปกับเพื่อนเลยเพราะเกลียดกล้อง สาเหตุมาจากแม่ตัวเองชอบถ่ายรูปบ่อยๆ "
“ กูว่า ท่าทางการถ่ายรูปของมึงดูจริงจัง ต่างจากคำพูดที่บอกว่าไม่อยากจะถ่ายรูปมันนะ " ขมวดคิ้วมองมันงงๆ อีกคนก็ถอนหายใจแล้วหันมามองหน้าผม
“ ก็กูกลัวคุณหญิงแกวีนไง " มันบอกก่อนจะยื่นมือให้ผม " มึงดูภาพนี้ ถ่ายแบบเผลอๆ มันน่ารักเนอะ ภาพนี้ก็น่ารักดูๆ "
“ อื้ม.. น่ารัก " ผมพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มแห้งๆ ให้คนที่บอกว่าไม่ชอบถ่ายภาพแต่ก็ยังคงกดชัตเตอร์รัวๆ
“ อาขมๆ " มือเล็กๆเอื้อมมือมาเขย่าเสื้อผม " ไหนคุณแกะละ "
“ คุณแกะเลยเหรอ " ผมยิ้มกว้างกับคำพูดของมัน หัวหอมก็พยักหน้ารับ " สุภาพเหลือเกินลูกเอ้ย เอ็นดู~ "
“ พูดว่าคุณแกะไม่ได้เหรอ " มันเอียงหน้าถามผมก็ส่ายหน้า
“ ได้สิ น่ารักดีออก แต่ว่าคุณแกะน่ะ จะต้องเดินเข้าไปดูข้างในนะ "
“ งั้นไปกันไป ไปเลย ไปปปปป " มันคว้ามือผมกับไอ้ภาพให้เดินเข้าไปข้างใน แต่ผมกลับดึงมือมันให้หยุดอยู่ที่ร้านขายบัตรเสียก่อน ไอ้หัวหอมหันมามองหน้า " อาขมไปปป ไปดูคุณเกะได้แล้วนะ "
" ยังเข้าไปไม่ได้ ต้องต่อคิวซื้อบัตรก่อนนะ " ก้มลงบอกมันอีกคนก็นิ่ง
" ถ้าเราไม่ซื้อ เราก็จะไม่ได้เข้าไปใช้มั้ย พี่ๆจะไม่ให้เราเข้าไปพบคุณเกะใช่มั้ยครับ "
" ใช่แล้ว เพราะงั้นต้องซื้อบัตรก่อนนะ " ผมบอกอีกคนพยักหน้ารับเข้าใจ " จะว่าไปคนก็เยอะเหมือนกันนะ กูคิดว่าคนน้อยๆ "
" อื้ม จริง ทั้งๆที่ร้อนขนาดนี้คนยังเยอะเลย " ภาพเสริม เรายืนต่อคิวอยู่สักพักก่อนจะได้ตั๋วแบบเด็กหนึ่งผู้ใหญ่สองจากคนขายที่ก็ไม่ค่อยจะยิ้มแย้มสักเท่าไหร่
" อันนี้ตั๋วของหัวหอมนะ อะ เอาไป " ยื่นตั๋วให้มันอีกคนก็พยักหน้ารับ " ส่วนอันนี้ของมึงแล้วก็ของกู ไว้ที่กูแล้วกัน " ผมบอกภาพอีกคนก็พยักหน้ารับ " แล้วเราควรซื้อน้ำ เข้าไปกินหน่อยมั้ย มึงว่าไง ระหว่างเดินเผื่อร้อน "
“ ไม่อะ อากาศแบบนี้น้ำเปล่าไม่น่าช่วย นาทีนี้กูอยากจะกินแป็ปซี่มากกว่า "
“ ไม่ได้อะ กูไม่ให้กิน " ผมบอกก่อนจะเชิดหน้าไปที่ไอ้ตัวเล็ก คนฟังก็พยักหน้ารับ
“ ก็เพราะรู้ว่าไม่ได้ไง กูเลยบอกว่า ไม่อะ " มันว่าก่อนจะย่อตัวลงถ่ายรูปไอ้ตัวเล็กที่ก้มองรอบๆด้วยความสนใจ " ถ่ายรูปกันดีกว่า ไหน กาลิคยิ้มสิ "
“ ยิ้ม~ "
“ น่ารักจังเลย " ภาพบอกก่อนจะที่หัวหอมจะเงยหน้าขึ้นถาม
“ อาภาพพพ เข้าไปได้รึยัง ไปกันเถอะ ไปปป ไปกันได้แล้วนะ คุณแกะคอยกาลิคอยู่ " มือเล็กคว้าทั้งมือผมแล้วก็มือของไอ้ภาพลากเข้าไปตรงทางเข้า ยื่นบัตรที่ซื้อมาเราเดินผ่านเข้าไปข้างใน เด็กน้อยที่ตื่นเต้นกับฝูงแกะแต่ถ้าอย่างงั้นก็ไม่ลืมหยุดถ่ายภาพกับป้ายชื่อสถานที่ให้สมกับที่มาทัวร์ต่างจังหวัดโดยแท้จริง
“ กาลิคดูนั่นดิ ม้าแคระๆ มีม้าแคระด้วย "
“ ไม่ใช่น้า " มือเล็กโบกปฎิเสธไปมา " ไม่ใช่น้าอาภาพ นั่น นั่นคือลูกม้าาา~ ม้าที่ยังตัวเล็กๆอยู่ " หัวหอมเถียงไอ้ภาพ ผมก็หลุดยิ้มออกมากับความไร้เดียงสาของมัน
“ เค้าแต่งสถานที่แบบคันทรี่มากอะ " ผมมองไปรอบๆก่อนจะเอ่ยบอก " แต่ก็เข้ากับบรรยากาศดีนะ ฟาร์มแกะฟาร์มม้ามันก็ต้องมีอะไรแบบนี้แหละ "
“ กูว่าก็ไม่เห็นมันจะมีอะไรเลย "
“ มีนะ มีแม่น้ำด้วย นั่นไง " หัวหอมพูดขัดไอ้ภาพเสียงดังพลางชี้ไป ขาเล็กออกแรงดึงเราให้ไปที่แม่น้ำในความคิดของมันทั้งๆที่เอาจริงๆ สระน้ำในมหาลัยกูยังใหญ่กว่า เรียกให้ถูกก็คงแค่ บ่อปลาเท่านั้นแหละ " อาขมดูๆ มันมีปลาด้วยนะ " หัวหอมย่อตัวลงก้มดูปลาที่แปวกว่ายไปมาอยู่ในนั้น
“ ใช่แล้ว ในน้ำก็ต้องมีปลาสินะ "
“ แล้วในนาก็ต้องมีข้าวใช่มั้ยละ " ไอ้ภาพเสริมพลางหันมายิ้มให้ผมที่ก็ผ่อนลมหายใจออกมากับมุขเกรดต่ำของมัน ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วหัวเราะเบาๆ.. เอาวะ รับมุขพี่แกหน่อย
“ นู้นๆ หัวหอมคุณแกะแหละ เราไปดูคุณแกะกันดีกว่าเนอะ ไป " สะกิดอีกคนที่ตั้งใจดูปลาอยู่ในตอนนั้น ผมคว้ามือเล็กเดินจูงไปที่ให้อาหารแกะ ตรงเข้าไปในคอกแกะที่เราต้องสามารถให้อาหารมันได้ แต่ทว่าคนที่ดูสนใจอยากจะเจอคุณแกะยิ่งกว่าใครก่อนหน้านี้กลับหยุดนิ่ง แล้วเอาสองมือเล็กๆนั้นกอดผมไว้ทันที
“ อาขม~ อาขม~ อุ้ม~ อุ้ม อุ้มกาลิค~ "
“ อ้าว อุ้มทำไมละ " ก้มลงถามอีกคนที่ก็ยังกอดผมไว้แน่น " ไม่ดูคุณแกะละ นี่คุณแกะไง มาใกล้ๆมันสิ " ชี้ชวนให้อีกคนมองไปที่คุณแกะแต่ก็ไม่ได้ผล หัวหอมยังเอาแต่ยกมือขึ้นสูงแล้วงอแงให้ผมอุ้มมันก็เท่านั้น
“ ไม่เอา ไม่เอา อุ้ม~ อุ้ม~ อาขมอุ้มกาลิคหน่อย อุ้มกาลิคน้า~ "
“ กาลิคเอานี่ ดูนี่ " ภาพเอ่ยชี้ชวนให้หัวหอมหันไปมองมันที่ก็ยืนอาหารของแกะไว้เต็มมือ แต่ทว่ามันที่ยืนอยู่หลังผมทำให้พวกแกะที่ยืนห่างออกไปเข้ามาใกล้เรามากขึ้น ใบหน้าน่ารักแสดงสีหน้ากลัวอย่างเห็นได้ชัดมือที่กำชายเสื้อของผมไว้แน่น แล้วในวินาทีต่อมา เสียงร้องไห้ก็ดังขึ้นทันที
" ฮืออออออ ฮือๆ อาขม~ อุ้มกาลิค ม่ายอาววว ม่ายอาวคุณแกะแย้ว ม่ายเอาาแย้ว อึก ฮือๆ " ก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวเล็กที่กำลังงอแงขึ้นมากอดไว้ หัวหอมซบหน้าลงที่ไหล่ แขนเล็กกอดคอผมไว้แน่นด้วยความกลัว ขาเล็กที่กอดเอวนั่นก็ด้วย สงสัยมันคงจะกลัวมากจริงๆ
" ร้องไห้ทำไม ไม่เห็นน่ากลัวเลยคุณแกะออกจะน่ารักนะ ดูสิ " ลูบหลังมันปลอบๆ แต่อีกคนก็ยังคงหลบหน้าอยู่กับไหล่ผมแบบนั้น " หัวหอมครับ ไม่ร้องไห้สิ หันมามองคุณแกะกันดีกว่า "
" อาขมมมม อึก ฮือๆ "
" ไม่ต้องร้อง ร้องไห้ทำไม มันไม่น่ารักเหรอ " ผมดึงอีกคนให้ผละตัวออกจากไหล่ผม เช็ดน้ำตาที่อาบสองแก้มของมัน
" กาลิค อึก ไม่ชอบคุณแกะตัวโต คุณแกะ ไม่เหมือนในรูปเลย นี่มันไม่ใช่แบบที่กาลิคอยากเจอ " หลุดหัวเราะออกมากับคำพูดเจือน้ำตาของมัน ในจินตนาการมันคงคิดถึงแกะตัวเล็กๆ ขมฟูๆ น่ารักๆ อยู่ในพื้นหญ้ากว้างๆตามในหนังสือในทีวีที่มันชอบดู แต่ที่นี่มันไม่ใช่ไง มันไม่ได้น่ารักอย่างที่มันคิดขนาดนั้น “ อาขม~ “
" คร๊าบบ " หยิกแก้มยุ้ยๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปมองไอ้ภาพ ที่ก็ไม่รู้ว่าเริ่มถ่ายภาพเราสองคนไว้ตั้งแต่ตอนไหน
" ไอ้เด็กกลัวแกะ " มันว่าอีกคนก็ซบลงที่ไหล่ผม เหมือนไม่อยากจะรับความจริงนั่นเลยสักนิด
" คงเพราะแกะมันอยู่ระดับสายตามันมั้ง พอเดินมาใกล้ๆมันเลยกลัว คิดว่าแกะพวกนั้นจะเอามาทำอะไรมัน "
" ก็อาจจะอย่างงั้น " ภาพพยักหน้ารับ ก่อนที่ผมจะคว้าเอาอาหารแกะในมือของมันที่ถูกอยู่มาถือไว้เอง
" หัวหอมให้อาหารคุณแกะกัน ช่วยอาขมถือหน่อยอะ " ยื่นอาหารแกะให้มันถือครึ่งนึง ส่วนผมก็ถืออีกครึ่งนึง " อาขมจะให้อาหารคุณแกะ คุณแกะจะได้อิ่มๆ " แกะในคอกที่เริ่มทยอยเดินเข้ามาใกล้เรา ผมยื่นอาหารให้มันเจ้าตัวเล็กที่ผมอุ้มก็ได้แต่มองดู เหลือบมองมันที่ก็ตั้งใจมองนิ่งๆผมยิ้ม " ดูคุณแกะเคี้ยวสิ งั่มๆ ไม่น่ากลัวเลย น่ารักออกเห็นมั้ย "
" อาขม คุณแกะเคี้ยวแบบงั่มๆ น่ารัก "
" ใช่มั้ยละ เคี้ยวเหมือนหัวหอมเลย " ผมว่าก่อนจะหอมแก้มมันอีกคนก็ยิ้ม " คราวนี้หัวหอมก็ให้อาหารคุณแกะได้แล้วนะสิ ไหนมาลองดูสิ " ย่อตัวลงนั่งยองกับพื้น หัวหอมที่ยืนอยู่ในตักผมมันยื่นอาหารให้แกะด้วยทีท่ากล้าๆกลัวๆ แต่ก็ยืนให้จนหมด
" อาขม กาลิคให้คุณแกะหมดแล้ว"
" เก่งจังเลย ไม่กลัวคุณแกะแล้ว " เอื้อมมือเช็ดคราบน้ำตาให้มันก่อนจะดึงหมวกที่หัวหอมใส่อยู่นั้นขึ้น ลูบผมที่มีแต่เหงื่อขึ้นไปให้มันก่อนจะใส่หมวกให้อีกครั้ง
" เอานี่ ให้อีกเอา " ภาพยื่นอาหารแกะให้หัวหอม แต่อีกมือก็ไม่ยอมปล่อยกล้องที่ตัวเองกำลังถ่ายอยู่เลยสักนิดสงสัยคงจะเป็นวิดีโอแล้วละ ไม่ใช่ภาพถ่าย
“ ตรงนี้พอแล้วมั้งไปดูตรงอื่นบ้างมั้ย ไปดูกันข้างในมีอะไร " ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับอุ้มอีกคนไว้ ผมเดินเข้าไปข้างใน ผ่านโซนถ่ายรูปที่ก็หยุดถ่ายกันอยู่สักพัก ก่อนจะเดินตรงเข้าไปข้างในที่มีทั้งของกินแล้วก็กิจกรรมอื่นๆอีกเยอะแยะ " มีให้นมลูกแกะด้วย ให้มั้ย ๆ "
“ ให้ กาลิคอยากให้นมลูกแกะ แต่อาขมจะต้องช่วยด้วยน้า " คนที่ผมอุ้มพยักหน้ารับตกลงไอ้ภาพก็จ่ายเงินก่อนที่เราจะได้นมมาขวดนึง ซึ่ง..น้อยมาก น้อยจนผมคิดว่านี่ทำนมหกลงไปใส่ขวดรึเปล่า ทำไมมันน้อยอย่างงี้ น้อยจนไอ้หัวหอมยังเอ่ยพูดออกมาด้วยความใสซื่อของมัน แต่ติดตรงที่.. มึงจะมาพูดต่อหน้าคนขายไม่ได้!! " พี่สาวให้แค่นี้น้องแกะจะอิ่มเหรอครับ "
“ เอิ่อม..” ผมยิ้มเกร็งๆให้คนขายนม เธอก็ทำหน้านิ่งๆ
“ งั้นก็ซื้ออีกสิค่ะ น้องแกะจะได้กินอิ่มๆ " ผมเบิกตาขึ้นตอนที่เธอพูดแบบนั้น กูไม่แบะปากมองบนใส่ก็บุญละ ขายโคตรเคี่ยวนมในขวดดูดจ๊วบเดียวก็หมดละ แล้วดูสภาพลูกแกะที่โหยหานมกัน แม่ง เบียดจนนัวเนีย น่าสงสารจะตาย นี่ถ้าไม่ติดว่าอยากจะพาไอ้หัวหอมมาเรียนรู้ผมไม่พามาหรอกที่แบบนี้หรอก ดูรังแกสัตว์จะตายไป
“ เรามาให้นมแกะกันดีกว่านะ อะ " ผมเดินพามันไปใกล้กรงลูกแกะที่ก็พยายามแย่งนมกันแบบสุดฤทธิ์
“ อย่าแย่งกัน อย่าแย่งกันนะ ไม่เอาอย่าแย่งกัน " หัวหอมเสียงดังขึ้นมา ผมหลุดหัวเราะออกมา ตอนจะหันไปบอกไอ้ภาพให้มาดู ก็เห็นว่าอีกคนกำลังยิ้มแล้วถ่ายคลิปอยู่ด้วยความสุข " งื้ออ หมดแล้ว หมดแล้วอาขม " มันหันมาบอกผม ขวดนมเปล่าถูกยื่นให้ผมก็ส่งคืนให้พนักงาน
“ งั้นเราไปหาขนมกินกันดีกว่านะ ไปหาของกินอร่อยๆกัน "
“ แต่ว่า น้องแกะยังกินไม่ครบทุกตัวเลย " มันเงยหน้าขึ้นบอก " น้องแกะยังหิวอยู่ ขอเงินซื้อนมให้น้องแกะกินอีกได้มั้ย อาภาพ "
“ พอแล้วนะ เดี๋ยวแบ่งให้คนอื่นๆเค้ามาให้บ้าง ถ้าเราให้หมดน้องแกะอิ่ม คนอื่นก็ให้ไม่ได้นะสิ " ผมบอกปัดมันทันที เพราะเห็นทีแบบนี้ไอ้ภาพน่าจะไม่รอด แววตามันดูสงสารน้องแกะเหลือเกิน ไอ้ภาพต้องใจอ่อนจ่ายให้อีกแน่ๆ และผมก็รู้สึกไม่อยากจะจ่ายเงินให้กับนมจิ๊ดนึงนั่นอีกแล้ว
“ แล้วถ้ากาลิคไปกินขนม แล้วกาลิคก็ซื้อขนมมาฝากน้องแกะได้มั้ย "
“ หัวหอมจิตใจดีจังนะ รู้จักสงสารน้องแกะแล้วก็เป็นห่วงน้องแกะด้วย " ผมลูบหัวมันอีกคนก็หันไปมองน้องแกะของมัน
“ ก็มันดูหิวนี่น่า “
" นั่นนะสินะ " ยิ้มให้มันที่ก็มองผมด้วยสายตาอ้อนๆเพราะสงสารน้องแกะเสียเหลือเกิน " แต่ว่านะ น้องแกะยังกินขนมไม่ได้หรอก น้องแกะยังเด็กอยู่ เลยต้องกินแต่นมเท่านั้นนะ "
“ แต่ว่าน้องแกะยังหิวอยู่เลยนะอาขม "
“ นั่นไง มีคนมาซื้อให้น้องแกะกินแล้ว คราวนี้น้องแกะจะได้กินอิ่มๆละ ถ้าเราซื้อให้อีกน้องแกะอิ่มคนอื่นเค้าก็ไม่ได้ให้นะสิถูกมั้ย เพราะงั้นเราก็ไปซื้อขนมกินดีกว่านะ " โชคดีที่มีคมาซื้อนมป้อนมันพอดี ไม่งั้นกูแม่งต้องยืนอธิบายมันอีกนานแน่ๆกว่าจะยอมไป หัวหอมหันมองคนที่เอานมมาป้อนจนแน่ใจแล้วว่าน้องแกะของมันได้กินจริงๆ ถึงจะยอมเดินออกมาตามแรงจูงของผม " กาลิคหิวรึยัง "
“ กาลิคหิวน้ำ " มันเงยหน้าบอก ผมก็เดินพามันไปซื้อนมเย็นใส่แก้วมาให้มันแก้วนึง
" กินไปก่อนนะ " ก้มหน้าลงดูนาฬิกาที่เลยเวลาเที่ยงมาเยอะแล้ว ผมหันไปหาไอ้ภาพ " เอาไงต่อดีมึง "
" กลับไปเล่นน้ำทะเลกันมั้ย อย่างอื่นก็ดูไม่มีอะไรน่าสนใจแล้วนี่ ที่อื่นเท่าที่กูดูในเว็บ เค้าบอกก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ที่น่าสนใจก็มีพวกสวนน้ำอะ ที่น่าจะสนุกอยู่ "
" หรือว่าคืนนี้ เราไปเดินตลาดกลางคืนกัน ลองหาที่ชิวๆมั้ย "
“ กาลิคมันคงอยากจะชิวกับเรานะมึง ให้กาลิคนั่งกินน้ำแล้วเราก็นั่งกินเบียร์งี้เหรอ ชวนกันคุยเรื่องที่โรงเรียนงี้ โหยยย " ไอ้ภาพพูดประชด
“ ส้นตีน "
“ มึงพูดเหมือนชีวิตเราตอนนี้มีโมเม้นท์นั่งชิวตอนมันตื่นได้ เราชิวได้อย่างเดียวอะ คือ นั่งอยู่หลังระเบียงแล้วกินเบียร์ตอนมันหลับแล้ว " ผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ
" ก็จริงของมึง กูไม่เถียงหรอก "
" กูว่าเราไปหาร้านอร่อยๆกิน จากนั้นก็กลับโรงแรมไปเล่นน้ำที่สระน้ำโรงแรม ตกเย็นนั่งกินข้าวที่โรงแรมสักมื้อ แล้วก็ขึ้นห้องมานอนดูทีวีกัน เช้าตื่นขึ้นมากินอาหารเช้าอร่อยๆ เช็คเอ้าท์ กลับบ้านจ้า "
“ ทำไมกูรู้สึกว่าไม่คุ้มเลยวะ แพลนที่มึงบอก ถ้าจะนอนดูทีวีในห้อง กลับบ้านมั้ย พรุ่งนี้กูทอดไข่ให้กินก็ได้ "
“ แล้วการที่มึงต้องทำเอง นั่นเรียกว่า การพักผ่อนเหรอวะ " มันเอ่ยถาม " การพักผ่อนคือ การที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย มีอาหารให้กิน โดยไม่ต้องล้างจาน จะสั่งมากินในห้องก็ได้ นั่งนิ่งๆ นั่นคือการพักผ่อนเว้ย "
“ มึงจะเอาแบบนั้น " ผมหันไปถาม อีกคนก็พยักหน้ารับ
“ งั้นก็จัดไป กูก็เห็นด้วยนิดหน่อยตรงที่ว่า มึงควรได้พักผ่อนเต็มที่บ้าง เพราะว่าพรุ่งนี้ต้องขับกลับเดี๋ยวขับไม่ไหว "
“ งั้นก็เอาตามนั้น "
ขับรถรถออกจากฟาร์มแกะแวะกินอาหารริมทะเลร้านดัง ก่อนจะขับกลับมาที่โรงแรมวินาทีแรกที่เปิดประตูเข้ามาในห้องพักไอ้ภาพก็ล้มตัวเองลงนอนบนเตียงทันที ตามด้วยไอ้หัวหอมที่วิ่งขึ้นไปล้มตัวทับอีกคนก่อนจะก้มลงหอมแก้ม
“ อาภาพไปเล่นน้ำกัน "
“ จะไปเล่นเลยเหรอ " มันเอ่ยถามก่อนจะดึงอีกคนมานอนกอดข้างๆ
“ ไปเลย ไปตอนนี้เลย " เสียงใสๆบอกแบบนั้น คนฟังก็ยกยิ้มขึ้นมา
“ โอเคค งั้นก็ไปกันเลย "
“ อ้าว แล้วมึงไม่นอนพักหน่อยเหรอ " ผมถาม อีกคนก็โบกมือปฎิเสธ
“ ไม่ละ " มันว่า " กูค่อยมานอนคืนนี้ ถ้าตอนนี้ เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับ "
“ งั้นก็ตามใจ "
เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดว่ายน้ำก่อนที่มันทั้งคู่จะลงไปว่ายน้ำที่สระของโรงแรม ส่วนผมขอผ่านแล้วทำหน้าที่แค่ถ่ายภาพเก็บความประทับใจส่งไปให้ที่บ้านไอ้ภาพน่าจะดีกว่า พอมานั่งคิดๆพ่อแม่ไอ้ภาพก็รักหัวหอมมากจริงๆเลยนะ ตามใจทุกอย่าง ทั้งรักทั้งหอม แม้จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นลูกของไอ้ภาพจริงๆรึเปล่า แต่ก็อย่างว่าละ เด็กกับผู้ใหญ่รุ่นพ่อแม่เรามันก็เป็นของคู่กันละนะ ก็ฝ่ายนึงชอบอ้อน ส่วนอีกฝ่ายก็ชอบให้อ้อนนี่น่า
" จะว่าไปก็สองเดือนแล้วสินะที่ หัวหอมมาอยู่ที่นี่ " ผมพูดกับตัวเองตอนที่มองเด็กตรงหน้าที่กำลังมีความสุขกับการเล่นน้ำแบบสุดๆ " ถ้าครบสามเดือนแล้วแม่เด็กยังไม่มารับ เราต้องตรวจดีเอ็นเอ ถ้ามันเป็นลูกไอ้ภาพก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก พ่อแม่มันเต็มใจทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ถ้ามันเป็นลูกผมขึ้นมาจะทำยังไงดีวะ จะบอกแม่ยังไง จะเริ่มต้นพูดด้วยคำพูดไหน "
“ อาขมมมม " เสียงเล็กๆจากสระน้ำตะโกนขึ้นมาทัก มันที่โบกมือบ๊ายบายให้ ผมก็โบกกลับไป
“ แต่ถ้าถึงตอนนั้นจะทำยังไงได้อีก ก็แค่ยอมรับความจริงแล้วก็บอกแม่ไป จะได้ช่วยกันแก้ปัญหาเพราะถ้ามันเป็นลูกผม คงต้องเริ่มใหม่ อันดับแรกที่รู้คือโรงเรียน บ้านผมคงไม่มีปัญญาส่งมันไปเรียนในที่แพงๆแบบนั้นหรอก ไม่รู้ว่าพอถึงเวลาจริงๆอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง " ถอนหายใจออกมาเซ็งๆผมเอนตัวเองลงนอนบนเก้าอี้ข้างขอบสระ หลับตาลงแล้วเอ่ยปลอบตัวเองปลงๆ " อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดอยู่แล้วละนะ ต้องเผชิญหน้ากับมัน "