เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 40
เดินออกจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ ก่อนหน้านี้ผมก็จัดการอาบน้ำให้ไอ้ตัวเล็กแล้วพาไปส่งที่ห้องพ่อกับแม่เรียบร้อย คาดผ้าขนหนูไว้ที่เอวตอนที่เดินเอาร่างชุ่มน้ำออกมาปะทะแอร์เย็นๆ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดไปเต็มฟอดด้วยความฟินระดับสิบ แบบชนิดที่ไม่ได้รู้สึกมานานในช่วงอาทิตย์นี้
“ อื้อหื้ออ นี่คิดจะยั่วยวนกูรึเปล่าว้า วิ้ดวิ้ว~ " เสียงทุ้มที่เอ่ยทักพลางผิวปากดังมาจากเตียง ผมก้มลงมองร่างตัวเองทันทีตอนที่ได้ยินแบบนั้น ยกมือปิดหน้าอกตัวเองเป็นอย่างแรกแบบอัติโนมัติ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่วินาทีหลังจากนั้นผมวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะตะโกนออกมา
“ ไอ้เชี้ยภาพ!! มึงแม่ง!! ”
“ ฮ่าๆ เขินหร๊าตะเองงง มีปิดนง ปิดนม ด้วยอะ มีนมคัพดีเหรอจ๊ะ ไหนเอาออกมาให้พี่ดูหน่อย " ไอ้ภาพเอ่ยแซว ผมก็ได้แต่ยืนขมวดคิ้วกับตัวเองอยู่ในห้องน้ำ
“ ไอ้สัดเอ้ย กวนตีนกูจริง "
“ ไอ้ขม "
“ อะไร ? " ผมตะโกนถามไปเสียงเซ็งๆ แต่อีกคนกลับถามกลับด้วยเสียงปนหัวเราะ
“ มึงไม่กล้าออกมาจากห้องน้ำเหรอวะ "
“ ก็.. ก็มึงแม่ง กวนตีนกูอะ " ผมตะโกนบอก อีกฝ่ายก็ขำเสียงลั่น " มึงคงความสุขมากสินะ แต่ความสุขของมึงมันต้องอยู่กับความทุกข์ของกูโว้ย ไอ้สัด "
“ โอ๋ๆ ออกมาน่านะ " มันว่าเสียงปลอบๆ " กูจะไม่ดูนมมึงแล้ว กูสัญญา "
“ กูไม่มีนมให้มึงดูเว้ย!! "
“ แต่มีหัวนมให้กูบี้อยู่น้า~ "
" K " สบถออกมาสั้นๆตอนที่ฟังคำพูดนั้นของมัน ขนแขนของผมลุกชันรู้สึกสยองกับคำพูดของมันแปลกๆ เอื้อมมือขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูอีกผืนมาคลุมท่อนบนไว้น่าแปลกเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกมาหวงเนื้อตัวขนาดนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนให้เดินแก้ผ้าต่อหน้ามันยังได้เลย ไม่มีความเขินอายสักนิด
“ มึงเป็นคนแบบนี้เองเหรอวะภาพ แม่งหื่นสัด "
“ ตอนแรกกูก็ไม่หื่นหรอก แต่จะหื่นเพราะมึงนี่แหละ " มันบอกผมก็ได้แต่กรอกตามองบนแล้วผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆก็เท่านั้น " ออกมาเร็วๆน่า กูจะเข้าไปอาบต่อ นี่กูจะนับหนึ่งถึงสามนะถ้ามึงยังไม่ออก มึงเตรียมตัวอาบน้ำใหม่ได้เลย "
“ อาบน้ำใหม่ คือ ..”
“ มึงไม่รู้ งั้นต้องลอง "
“ กูออกมาแล้ว!! ” เปิดประตูห้องน้ำแล้วก้าวออกมายืนอยู่หน้าห้องด้วยความรวดเร็ว ขยับตัวให้ออกห่างห้องน้ำและเตียงให้มากที่สุด ผมไม่ได้กลัว แต่ก็ไม่กล้าถึงขั้นลองเสี่ยงอยากรู้ว่าคำตอบนั้นคืออะไร เหลือบมองไอ้ภาพที่นั่งอยู่บนเตียงผมเองก็กระชับผ้าขนหนูทั้งบนทั้งล่างไว้แน่น มันก็หลุดหัวเราะ " ขำเหี้ยอะไรของมึงวะ "
“ มึงอะ เป็นอะไรของมึง ทำไมมึงต้องหงุดหงิดอะไรกูขนาดนั้น " มันถามยิ้มๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาใกล้ผมที่ก็ได้แต่ถอยหลังให้ออกห่างมัน " ถามจริง มึงกลัวอะไร "
" ไม่นี่ " ปฎิเสธเสียงสูงอีกคนก็ถอนหายใจ ภาพเหล่ลงต่ำ " มึงอะ มองเหี้ยอะไรวะ! "
“ ถามจริงๆ มึงคิดเหรอ ว่ามือของมึงจะจับทั้งผ้าคลุมไหล่ ทั้งผ้าคลุมตัวได้แน่นพอ " กูไม่ได้คิดอย่างงั้นหรอก แต่จะให้กูตอบมึงออกไปเห็นทีว่าจะไม่ได้ กูเงียบดีกว่า " กูจะบอกอะไรให้นะ แค่ครั้งเดียวกูกระตุกหลุดได้ทั้งสองผืนนั่นแหละ ไม่ได้ขู่ด้วย "
“ เออ กูรู้ว่ามึงเก่งมากๆ งั้นก็เข้าไปอาบน้ำได้แล้วไป " เชิดหน้าให้อีกคนเข้าไปในห้องน้ำ แต่มือหนาที่ยังกวนตีนก็ยังทำทีเป็นเอื้อมมือมาใกล้ " กูบอกว่าอย่าไง ไอ้เชี้ยภาพพพพ อย่าแกล้งกู ไอ้ห่า! กูกลัวแล้ว “ แผดเสียงออกมา อีกคนก็หัวเราะลั่น
“ ฮ่าๆ ไอ้บ้า มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึงไอ้ขม ทำไม มึงคิดว่ากูจะปล้ำมึงทำเมียเหรอ " เม้มปากว่าไว้แน่นทั้งๆที่อยากจะตอบว่า เออ ไอ้สัด กูกลัวเรื่องนั้นแหละ แต่ถ้าขืนตอบมันออกไปแบบนี้มีหวังว่า เรื่องนั้นต้องได้เกิดขึ้นจริงๆแน่นอน ใช้หลักความเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาทั้งชีวิต คนอย่างมันจะเริ่มจากแกล้งกันก่อน แล้วหลังจากนั้นถ้าอารมณ์ตามมาอิสรภาพของกูต้องถูกโจมตีค่ายแตกแน่ๆ ต้องไม่รอดชัวร์ๆ อย่าว่าแต่ไอ้ภาพอดใจไม่ไหวเลย ลำพังตัวเองผมยังไม่ไว้ใจมันเลย
“ เปล่า ไม่ได้คิดงั้นหรอก " ส่ายหน้าเป็นคำตอบให้มัน ใบหน้าคมที่เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ ผมก็ได้แต่เหลือบมองไปทางอื่น " มึง มึงไปอาบน้ำเถอะกูว่า เดี๋ยว เดี๋ยวไอ้หัวหอมมันเข้ามา จะได้นอนกันเลยไง พรุ่งนี้ก็ไปเรียนอีก ต้อง ตื่นเช้าน่า "
" อ้อ จริงสินะ ลืมไปเลย " มันพยักหน้ารับตอนที่เลื่อนใบหน้าออกห่างกัน ผมก็ถอนหายใจโล่ง ภาพหันหลังเหมือนจะเดินไปในห้องน้ำ แต่ทว่าโดยไม่ทันตั้งตัวมือหนาก็เอื้อมมือมาจับผ้าขนหนูผืนล่างของผมก่อนจะกระตุกลงให้หล่นลงพื้น " ว๊ายยยยยย โป๊~ " เสียงแซวกวนตีนของมันดังขึ้นใสตอนที่ผมกำลังตกใจและคิดจะตอบโต้อะไร ไอ้สัดนั้นก็วิ่งเข้าไปในห้องน้ำเสียแล้ว
“ ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย "
“ ฮ่าๆ " ไอ้ภาพหัวเราะออกมาดังลั่นห้องน้ำ " แหมมม โตขึ้นนะเรา "
“ มึงเงียบไปเลยนะ " บอกมันเสียงนิ่งๆ ก่อนจะเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนมาใส่แบบรวดเร็ว
“ มึงเขินอะไรนักหนาวะ มันก็ไม่ได้โตขึ้นจากตอนเป็นเด็กหรอก ก็ว่าทำไมไม่ค่อยมีเมีย นิ้วก้อยนี่เอง "
“ มึงแม่ง ใหญ่นักอ๋อสัด! “ ตะโกนถามมันด้วยความหงุดหงิดที่โดนหยาม แต่คนในห้องน้ำก็เงียบก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมา
“ แล้วอยากดูมั้ยละ "
“ ไม่อะ คงไม่เท่าที่อวดไว้หรอก ก็มึงแม่งขี้อวด " ผมบอกปัดมันถึงจะโดนมันดูถูกของส่วนตัวของตัวเองแต่ก็ไม่ได้คิดอยากจะดูของมันหรอก เหมือนในใจมันรู้อยู่แล้วว่าก็คงใหญ่พอควร แต่คนอย่างไอ้ภาพไม่สมควรเกทับอวดดีว่าอยากดูเด็ดขาด เพราะคนอย่างนั้นคงเปิดประตูออกแล้วเอามาให้ผมดูแบบไม่อายแน่นอน หนังหน้ามันหนากว่าถนนคอนกรีตซะอีกมั้ง
“ งั้นเปิดประตูให้ดูนะ "
“ หยุดนะเว้ย!! ใครอยากดูของมึงวะ รีบๆอาบน้ำสักทีเถอะ จะปั่นทอนหัวจิตหัวใจกูไปเถอะไหนวะ ไอ้ห่า " ตะโกนบอกมัน คนในห้องน้ำก็หัวเราะออกมาด้วยความถูกใจ ส่วนผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาตอนที่ได้ยินเสียงน้ำถูกเปิด
ผมเดินไปที่หน้าโต๊ะกระจก จัดการทาครีมลวกๆแบบคนหงุดหงิด ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อย แทนที่พอรู้ว่าหัวหอมเป็นลูกไอ้ภาพ ผมจะได้เหนื่อยน้อยลงเพราะคนเป็นพ่ออย่างมันคงดูแลลูกมากขึ้น แต่ไหงสุดท้ายกลายเป็นว่า ผมเหนื่อยมากขึ้นวะ นี่นอกจากต้องดูแลลูกให้มัน คล้ายๆตอนนี้เหมือนว่าผมยังต้องคอยรับมือกับความกวนตีนของคนเป็นพ่ออีก " เห้อออ ชีวิตกู "
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้ผมที่นอนเล่นมือถืออยู่เด้งตัวเองขึ้นจากเตียงทันที หลับตาลงอยู่เป็นนาทีรู้สึกปวดตาแล้วก็ปวดหัวยังไงแปลกๆ สะบัดหัวไปมาเรียกพลังชีวิตก่อนเดินไปเปิดประตูห้อง ที่ยังไม่ทันเห้นเลยว่าใครมาแต่ทว่าเด็กน้อยก็วิ่งพุ่งเข้ามากอดผมไว้แล้ว
“ อาขมมมม "
“ อ้าว กลับมาแล้วเหรอ " ก้มหน้าลงถามมันแต่อีกคนก็แค่พยักหน้ารับลงกับเอวของผมที่มันกอดเอาไว้
“ แม่เห็นว่าท่าทางแกเริ่มงอแงแล้วน่ะ เลยพามาส่ง คงอยากจะอยากนอนแล้ว "
“ เหรอครับ " ผมยิ้มให้คนตรงหน้า ก่อนจะก้มลงแซวอีกคน " งอแงกับคุณปู่คุณย่าเหรอหัวหอม เด็กงอแง เด็กงอแง "
“ ไม่ใช่น้าาา อาขม " มันว่าพลางบี้หน้าลงกับตัวของผม ท่าทางที่ดูขัดแย้งกับคำพูดอยู่หน่อยๆ
“ งั้นแม่กลับไปนอนละ เด็กคนนี้ก็นอนเร็วๆนะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน " เธอย่อตัวลงก่อนจะจับเอวหัวหอมไว้ " ไหนหันมาให้ย่าหอมแก้มหน่อย จะนอนแล้ว "
“ หอมมม " มันหอมแก้มแม่ แม่เองก็หอมแก้มมัน
“ ฝันดีนะกาลิค "
“ ฝันดีครับคุณย่า " ปิดประตูลงเรียบร้อย ใบหน้าของเด็กน้อยก็เงยมองผม " อาขมอุ้ม~ อุ้มกาลิคหน่อย~ "
“ มา อุ้ม อึ้บ! “ อุ้มมันขึ้นมาใบหน้าน่ารักนั่นก็ซบลงที่ไหล่ แล้วแบบนี้ก็ยังมาบอกว่าตัวเองไม่งอแงอีกนะ ไอ้ตัวแสบ " งั้นเรามานอนกันดีกว่า ดึกแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน "
“ อาขม แล้วพรุ่งนี้อาขมก็ต้องไปโรงเรียนใช่มั้ย " หัวหอมเงยหน้าถามผมที่ก็พยักหน้ารับ พลางหย่อนตัวเองลงนั่งบนเตียงแล้วเอนตัวลงนอนหนุนหมอนพร้อมๆกับมัน จัดร่างของเด็กน้อยให้นอนบนหมอนของตัวมันที่ตั้งอยู่ตรงกลาง แต่ทว่าอีกคนกับขืนตัวเองเข้ามาซุกกับตัวผมไว้ แขนเล็กที่เอื้อมกอดผมที่ก็แอบยิ้มกับท่าทางขี้อ้อนแบบนั้น ผมเองก็เลยกอดมันไว้เหมือนกัน
“ ไปสิ อาขมนะอยากไปโรงเรียนมากกกกก " ไปเคลียร์กับอาจารย์ประจำวิชาที่ห้ามขาดแต่ กูเสือกขาดแบบชนิดโนวแคร์โนวสน เพราะงั้นเห็นทีว่าต้องรีบเข้าไปคุยกับอาจารย์จะได้รู้ว่าต้องดรอปวิชานี้แล้วลงเรียนใหม่เทอมหน้ารึเปล่า
“ แล้วพอตอนเย็นๆ อาขมก็จะกลับมารับกาลิคพร้อมกับป๊าใช่มั้ยครับ "
“ ใช่แล้ว "
“ แหมม นอนกอดกันกลมเชียวน้าาาา " เสียงแซวที่ดังออกมาจากหน้าห้องน้ำ ไอ้ภาพที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาหยิบชุดนอนของตัวเองก่อนจะหายกลับเข้าไปแต่งตัว แล้วเดินออกมานั่งลงบนเตียงก่อนล้มตัวลงนอนข้างไอ้ตัวเล็กที่ก็กอดผมไว้แน่นกว่าเดิม ในตอนที่คนเป็นพ่อเริ่มเลื้อยมือเข้ามากอดเอวมันไว้ " ไหน มาให้ป๊ากอดหน่อย กอดๆ หอมๆ "
“ งื้อออ ป๊าอย่าทำกาลิค "
“ ทำไมอะ ทำไมไม่ได้ อาขมยังกอดได้เลย งั้นก็ขอป๊ากอด ขอป๊าหอมหน่อยน้าา หอมๆ " ว่าแบบนั้นก่อนจะก้มลงหอมไปทั่วตัวของลูกชายที่ตอนนี้ก็คงจะรำคาญพ่อมันอยู่ไม่ใช่น้อย
“ งื้ออออ ป๊าอย่าน้าาาาพอแล้วว เลิกหอมกันก่อน " เสียงพูดงอแงที่เบียดตัวเองเข้าซุกกับอกผมมากขึ้น ใบหน้าที่กำลังหงุดหงิดของมันผมเอื้อมมือไปดันไหล่ไอ้ภาพให้ถอยออกไปพ้นตัวหัวหอม
“ มึงพอได้แล้วน่าไอ้ภาพ มันจะนอนแล้วมันหงุดหงิด เดี๋ยวมันร้องไห้ขึ้นมากูให้มันปลอบมึงเลย " เอ่ยขู่อีกคน ร่างสูงก็นิ่งไป
" โอเค ยอมก็ได้ งั้นก็ฝันดีนะครับ " ภาพก้มลงหอมแก้มเด็กน้อยอีกครั้งก่อนจะหันไปนอนเล่นมือถือนิ่งๆ มือเล็กที่กอดผมไว้ลูบหลังมันเบาๆ ผมบอก
“ หัวหอม หลับตาลงได้แล้ว "
“ หลับตา " แววตากลมหลับลงจนเห็นแพขนตายาวๆ ผมก้มลงหอมแก้มมัน แล้วในตอนนั้นหัวหอมมันก็ลืมตาขึ้นยิ้มๆ " อาขม หอมแก้มกาลิค "
“ แอบมองเหรอเรา เดี๋ยวเถอะ! "
“ ไม่ทำอะไรกาลิคน้า~ กาลิครักอาขม " พอขู่เข้าหน่อยก็ดึงตัวเองเข้ามาอ้อน มันส่ายหน้าไปมากับอกผมที่ก็ได้แต่ยิ้ม แพ้ท่าทางแบบนี้ของมันตลอด น่ารักจนอยากจะฟัดแก้มแรงๆนัก ไอ้ตัวแสบ
“ รักกาลิคเหมือนกัน " กอดมันแน่นอยู่สักพักตอนที่คลายออก ผมก็ก้มลงถาม " หัวหอม อาขมถามหน่อยสิ หัวหอม โตขึ้นอยากจะเป็นอะไร "
“ อื้มมม " มันทำท่าคิด " โตขึ้นเหรอ โตขึ้นกาลิคก็อยากจะอยู่กับขมแบบนี้ เพราะกาลิครักอาขม กาลิคก็เลยจะอยู่กับอาขมตลอดไปเลย "
“ โอ๊ยยย " ช่างเป็นคำตอบที่ทำให้คนอย่างผมหัวใจพองโตจริงๆ " ก็น่ารักแบบนี้ จะไม่ให้รักหัวหอมได้ยังไงละ หื้มมมมมม รักจริงๆเลยคนนี้น่ะ รักๆ " หอมแก้มมันไปเต็มฟอดด้วยความหมั่นเขี้ยว เด็กน้อยในอ้อมกอดก็ยิ้มกว้าง ผมเงยหน้าเหลือบมองไอ้ภาพที่คิดว่ากำลังเล่นมือถืออยู่แต่ทว่าก็ไม่ใช่แบบนั้น มันที่กำลังชูกล้องมือถือมาทางผมเหมือนกำลังถ่ายภาพอยู่ " ไอ้ภาพถ่ายรูปเหรอวะ "
“ วิดีโอเลยแหละ " มันบอก
“ ถ่ายทำไมวะ "
“ ก็ถ่ายไว้ให้มันดูตอนมันโต ถ้าเกิดว่ามันงอแงกับกูว่าจะไปเรียนนู้น เรียนนี่ กูจะได้เอาคลิปนี้ให้มันดู แล้วบอกว่า ไหนบอกว่าโตขึ้นอยากจะอยู่อาขมไง ถ้าแบบนั้นก็ไม่ต้องไปหรอกอยู่บ้านนี่แหละ "
“ นี่งอนเหรอวะ ลูกไม่บอกรัก " ผมแซวอีกคนก็แบะปากใส่ ลูบหลังไอ้ตัวเล็กอยู่สักพักในห้องที่เงียบเชียบนั้น ไม่นานหัวหอมก็หลับสนิท ดึงมันที่ซุกตัวอยู่กับผมให้นอนหนุนหมอนของตัวเองบนเตียงดีๆ ภาพห่มผ้าห่มให้มัน ผมเองก็ลูบหัวมันเบาๆ ไอ้ภาพก็ยิ้ม " ยิ้มอะไรของมึง "
" ก็เปล่า " มันส่ายหน้า ก่อนจะมองหัวหอม " จะว่าไปกาลิคมันก็หล่อนะมึง "
" โหยย ไรวะ ชมลูกตัวเองก็ได้ด้วยคนเรา "
“ ก็นิดนึง มันหล่อเหมือนกูไง "
“ กูไม่อยากจะบอกว่ามันเหมือนใคร เดี๋ยวมึงกระโจนเข้าตบ " ผมว่า ไอ้ภาพก็ถอนหายใจเซ็งๆ เพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าผมหมายถึงใคร
“ เออ ไม่ต้องพูดก็ดีแล้ว "
“ แต่จะบอกว่าเหมือนเค้าทั้งหมดก็ไม่ใช่หรอก กูว่ามันเหมือนมึงผสมอเล็กซ์อะ จริงๆนะ " ผมรู้สึกแบบที่บอกอีกคนไปจริงๆ ก็ตั้งแต่แต่ก่อนแล้วตอนที่หัวหอมมาอยู่กับเราใหม่ๆ บางมุมของมันก็คล้ายไอ้ภาพอยู่ บางนิสัยก็ด้วย ส่วนหน้าตาโดยรวมผมคิดว่าผสมกันมากกว่าไม่ได้เหมือนใครมากที่สุดหรอก แต่ก็ต้องยอมรับว่า บางมุมมันก็เหมือนแม่ และบางมุมมันก็เหมือนพ่อ แต่นั่นก็ธรรมดาก็คนเป็นพ่อแม่ลูกกัน มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
“ อื้ม " ท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจของมัน ผมเอื้อมมือไปขยี้พุงมันเล่นๆ
“ น่าๆ แต่ลูกมึงก็หล่อจริงๆนั่นแหละ กูไม่เถียงหรอก ทั้งหล่อทั้งน่ารักเลย "
“ อื้ม "
“ อย่ามาทำท่าทางงอนกูดิวะ นี่ไม่พอใจที่กูไม่ตอบรับว่าหัวหอมหน้าเหมือนมึงเหรอไง ก็บอกแล้วไงว่าเหมือนอยู่ นิสัยก็คล้ายๆนะเว้ย "
“ กูไม่ได้โกรธเรื่องนั้น " ภาพบอกผมก็ยกยิ้ม แหมมม เชื่อไม่ค่อยได้เลย ไอ้เสียงอ่อนๆแบบนั้นน่ะ
“ อ๋อหราาาาา "
“ จริงๆ แค่กำลังคิดว่า พอมันโตขึ้นกูจะตอบไอ้กาลิคเกี่ยวกับเรื่องแม่มันยังไงดี กูไม่อยากจะให้มันเจอกันอีก เพราะกูกลัวว่า ต่อไปมันอาจจะมาดึงกาลิคกลับไปก็ได้ แม้กูจะมีสัญญาพวกนั้นอยู่แต่ยังไงแม่ก็คือแม่ถูกมั้ยละ กาลิคมันคงไม่ใจดำหรอกถ้ารู้ว่าแม่ตัวเองกำลังลำบาก " ภาพเว้นเสียงมันยกยิ้มก่อนจะถอนหายใจ " จริงๆกูมันก็แค่ขี้เหนียวอะ เห็นแก่ตัวด้วย กูไม่อยากจะให้กาลิคมันเอาเงินกู เอาเงินพ่อกู ไปให้คนแบบนั้น แม้จะเป็นแม่มันก็เถอะ "
“ ถ้ากูเป็นมึง กูก็กลัว " ผมบอก " มันก็น่ากลัวอยู่เพราะโอลิเวียเป็นยังไงเรารู้ดีและจะไม่มีวันลืมด้วย แต่หัวหอมมันไม่ใช่แบบนั้น มันจำว่าแม่มันไม่ดีก็จริงแต่ถ้าแม่มันตอแหลอะไรสักอย่างมันอาจจะเชื่อก็ได้เพราะอีกคนก็เป็นของแม่มัน "
" อื้ม "
" แต่ว่าโอลิเวียอาจจะไม่กลับมายุ่งกับกาลิคอีกแล้วก็ได้ " ลุกขึ้นจากที่นอนมานั่งมองหน้าอีกคนที่ก็หันมามองผมทันที ไอ้ภาพหลุดยิ้ม
" แล้วทำไมอยู่ๆ มึงต้องจริงจังขนาดนั้น "
" ก็มึงดูเครียดๆอะ " ผมบอกไอ้ภาพก็ยิ้ม
" มึงก็เป็นซะอย่างงี้อะ " ร่างสูงลุกขึ้นนั่งก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวผม " เป็นห่วงกูมากเกินไปอีกแล้ว "
" จริงๆนะมึง กูคิดว่าคนแบบนั้นรักตัวเองมากกว่าจะกลับมายุ่งเรื่องนี้แล้วทำให้ตัวเองต้องมีปัญหา ส่วนหัวหอมเองถ้าเราเลี้ยงมันด้วยความรักมากๆ มันก็คงไม่อยากจะเจอแม่ของตัวเองหรอก มึงไม่ต้องกังวลหรอกนะ " บอกมันด้วยท่าทางจริงจัง แต่ทว่าคนฟังก็ได้แต่ก้มหน้าลงแล้วยิ้ม
“ รู้มั้ย ตอนนี้มีเรื่องมากมายให้กูคิดก็จริงอยู่แต่ที่กูไม่กังวลอะไรเลย ก็เพราะตัวกูมีมึงอยู่ข้างๆนี่แหละ " ภาพหันมามองหน้าผมก่อนจะยิ้ม " มึงแม่งเป็นคนที่ให้พลังบวกกับกูมากจริงๆ ขอบใจนะที่อยู่ข้างๆกูตลอด กูแม่งโชคดีจริงๆนะ ที่มีมึงอยู่ " แอบยิ้มกับคำพูดของอีกคน ผมก้มหน้าลงก่อนจะถอนหายใจออกมา เหลือบไปมองข้างตัวเพราะรู้ว่ามันมองอยู่ก็เลยไม่กล้าสบตาแกล้งทำเป็นล้มตัวลงนอนด้วยท่าทางไม่รู้ไม่ชี้สำหรับคำพูดซึ้งๆของมัน ผมพูดบอกปัด
" ฟังมึงพูดแล้วจะอ้วก กูนอนดีกว่า " เสียงหัวเราะในคอดังออกมา ภาพปิดไฟในห้องจนมืดสนิท มันบอก
" งั้นก็ฝันดี "
" อื้ม ฝันดี " ตอบรับมันเสียงเบาๆก่อนจะพูดขึ้นท่ามกลางความมืดนั้น สำหรับความรู้สึกของผมที่อยากจะบอกมันเหมือนกัน " กูว่า กูตังหากที่โชคดีที่ได้มาเจอมึง การที่ได้มีมึงเป็นเพื่อน มันเป็นความโชคดีของกูจริงๆนะ "
จากคนที่ไม่มีเพื่อน ตัวคนเดียว ได้มาเจอกับมันที่ตอนแรกก็เป็นแค่เด็กข้างบ้านที่มาชวนเล่นด้วย แต่นับจากวันนั้นภาพก็คอยอยู่ข้างๆผมตลอด มันอยู่ในทุกช่วงเวลาของชีวิตผม แล้วหลังวันนั้นผมก็ไม่เคยรู้จักกับคำว่าเหงาอีกเลยตั้งแต่นั้น เพราะภาพมันไม่เคยไปไหนไกลจากผมจนทำให้รู้สึกถึงคำนั้นได้เลยสักครั้ง
เราเป็นเหมือนต้นไม้สองต้นที่ปลูกอยู่ข้างกัน ในบางทีเราก็เจอสังคมที่ต่างกันบ้าง บางครั้งก็มีโลกส่
วนตัวของตัวเองบ้าง แต่ถ้าหันมามอง ผมก็เจอมันอยู่ข้างๆเสมอ มันเองก็เช่นกัน
“ อยากจะพูดแซวมึงเหมือนกันว่า ต่อไปคงโชคดีกว่านี้อีก เพราะนอกจากจะได้กูเป็นเพื่อนแล้ว อนาคตจะได้กูเป็นผัวด้วย แต่เกรงใจ นานๆทีจะซึ้ง " ภาพพูด ผมก็ถอนหายใจออกมาพลางพลิกตัวหนี นอนหันไปอีกฝั่งร่างสูงก็หัวเราะ
" งั้นนอนเถอะไอ้เหี้ย " ผมบอกมัน อีกคนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง แอบยิ้มกับคำพูดกวนตีนของมันก่อนที่ตัวผมจะค่อยๆหลับตาลงช้าและหลับสนิทไป
.....................................................
ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยแรงมือเล็กๆที่เขย่าปลุก ไอ้ตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆเขย่าปลุกผมที่ก็เอื้อมมือขึ้นลูบหัวมัน ตอนที่หันไปคว้ามือถือตัวเองมาดูเวลาตอนนี้ยังเพิ่งตีสี่อยู่เลย ยังไม่ถึงเวลาตื่นด้วยซ้ำ แถมตอนนี้ผมยังรู้สึกปวดหัวอีก
“ หัวหอม ทำไมตื่นเร็วจัง "
“ อาขม กาลิคกลัว~ อาขม " เด็กน้อยบอกผมก็ลุกขึ้นนั่ง มันก็ดึงตัวเองมานั่งตักแล้วแล้วก็กอดไว้
“ กลัวอะไร ไม่ต้องกลัวนะอาขมอยู่นี่ " ลูบหลังมันเบาๆอีกคนก็ซุกลงกับอก ท่าทางที่ดูแปลกๆ ผมอ้าปากหาวออกมาก่อนจะเอ่ยถาม " ทำไมเหรอ ฝันร้ายเหรอ "
“ ม่ายยยยย " เสียงงอแงที่บอกผมแบบนั้นพลางกอดผมไว้แน่น
“ เป็นอะไรไปวะหัวหอม " ผมพยายามถามแต่อีกคนก็ยังนิ่ง เอื้อมมือขึ้นอังที่หน้าผากแต่อนุหภูมิก็ยังปกติดี " ตัวก็ไม่ได้ร้อนนี่หว่า นี่หัวหอมนอนลงดีๆมั้ย ยังนอนต่อได้อีกชั่วโมงนึงเลยนะ " เอนหลังนอนลงบนเตียงแต่คนที่กอดผมไว้ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยไปไหน ก้มลงดูหัวหอมหลับตาอยู่แต่ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยผมเลย " อาขมง่วงน้าาา อาขมเพิ่งหลับเอง " ดึงตัวเองขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียงถ้าขืนนอนลงไปตัวผมก้จะหายใจไม่ออก แต่ถ้าให้นอนแบบเอียงตัวก็จะกลายเป็นว่า ตัวผมจะทับมือของมันที่กอดเอวผมอยู่อีก เพราะงั้นจะล้มลงไปนอนท่าไหนก็คงไม่ได้ " แล้วกูจะนอนยังไงวะเนี้ย " พิงตัวเองกับหัวเตียงบ่นไปก็แค่นั้น ไอ้ตัวแสบไม่ปล่อยซะด้วย ผมหลับตาลงช้าๆเพราะฝืนร่างกายตัวเองไม่ไหวจนในที่สุดก็หลับไปในท่านั่งแบบนั้น คล้ายกับลิงที่มีลูกลิงกอดอยู่นั่นแหละ
“ ขม.. ขม.. " เสียงที่เอ่ยเรียกผม ตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาไอ้ภาพก็ขมวดคิ้วมองอยู่ " เป็นอะไรวะ ทำไมมึงนอนท่านั้น ไอ้กาลิคเป็นอะไรรึเปล่าวะ ทำไมมึงเอามันมาอุ้มไว้อะ "
“ ก็ไอ้หัวหอมอยู่ๆก็ตื่นขึ้นมากลางดึก บอกให้นอนต่อมันก็ไม่นอน มันจะกอดกูไว้แบบนี้ กูก็เลยต้องนั่งหลับน่ะสิ "
“ เหรอ " มันว่าก่อนจะเอียงหน้ามองไอ้เล็กที่ตอนนี้ก็ตื่นมองทุกคนแบบตาแบ๋วอยู่แล้ว น่าเขกหัวซะจริง ทำเอากูต้องนั่งหลังขดหลังแข็งเป็นชั่วโมง " แล้วทำไมตื่นเร็วจัง " ภาพถามก่อนจะดึงเจ้าตัวเล็กให้ขึ้นมาจากตักผม ความชาแล่นริ้วไปทั่วร่างกาย ผมพยายามขยับขายืดเข้าออกคลายกล้ามเนื้อ หัวหอมก็ยื่นมือกางออกจะให้ผมอุ้มอีก
“ เป็นอะไรวะ ทำไมท่าทางมึงดูงอแงไม่สบายเหรอ แต่เมื่อคืนก็จับหน้าผากดูแล้ว ไม่เห็นจะป่วยนะ " จับหน้าผากมันอีกที อนุหภูมิก็ยังปกติ " ปวดหัวมั้ย หรือว่าปวดท้อง เป็นอะไรรึเปล่า "
“ กาลิิคแค่อยากจะกอดอาขมเฉยๆ " คำตอบที่ได้รับชวนผมนิ่งไปก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาทั้งๆที่ถ้าทำให้กูอยากจะวิ่งไปกรี๊ดให้โลกแตก มึงจะเกิดความรักอะไรกับกูตอนตีสี่ละไอ้หัวหอมมมมม หันมองภาพที่ก็ยกยิ้มก่อนจะขยี้หัวมัน
“ จริงๆเลย ทีหลังเรียกป๊าก็ได้ กอดกับป๊าดีกว่านะ "
“ ไม่ดีกว่า " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองมานั่งตักผม " กาลิคอยากจะกอดอาขม ไม่ได้อยากกอดป๊าสักหน่อย "
“ นี่รักพ่อมั้ยเนี้ย " ภาพถาม ไอ้ตัวเล็กก็พยักหน้ารับ
“ รักนะ "
“ แต่รักอาขมมากกว่า " ภาพต่อคำพูดของมัน หัวหอมก็นิ่งไปก่อนจะซบลงที่ไหล่ผม
“ ถูกต้องเล๊ย "
“ ไอ้ตัวแสบบบบ " มือหนาเอื้อมมือหยิกแก้มอีกคนที่ก็หัวเราะออกมาเสียงใส พวกมึงมีความสุขกันดีนะ แต่เห็นกูมั้ย กูยังไม่ได้นอนเนี้ย แล้วตอนนี้ก็ชักจะปวดหัวแล้วด้วย ไมเกรนแม่งจะแดก!
จัดการอาบน้ำ กินอาหารเช้าก่อนจะขับรถพาหัวหอมไปส่งที่โรงเรียนเรียบร้อย ท่าทางดีใจของมันที่ได้เจอเพื่อนเปลี่ยนจากไอ้ลูกลิงที่เอาแต่กอดผมมาตลอดทางเป็นอีกคนนึงไปเลย
“ พอเจอเพื่อน มึงก็เป็นหมาหัวเน่าไปเลยนะ " ก็อย่างที่ไอ้ภาพบอก ไม่มีคำไหนอธิบายได้ชัดกว่านี้อีกแล้วละ ผมผ่อนตัวเองลงพิงหลังกับเบาะรถคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยก่อนจะหลับตาลงทันทีด้วยความง่วง
“ ขม ขม " แรงมือหนาที่เขย่าตัวผม บรือตาตื่นขึ้นมาทั้งๆที่รู้สึกว่าเพิ่งหลับไปไม่นานเท่าไหร่ ทำไมถึงมหาลัยเร็วจังวะ
“ ถึงแล้วเหรอ " มองไปรอบๆตอนที่ถามมัน แต่กลับพบว่าภายนอกรถบรรยากาศมันไม่ใช่มหาลัยอย่างที่คุ้นตาแต่กลับเป็นคอนโด " ยังไม่ถึงนี่ "
“ กูว่ามึงน่าจะป่วยนะ " ภาพบอกก่อนจะยื่นมือมาอังที่หน้าผากผม " ตัวมึงร้อนมากเลย โอเครึเปล่า "
“ ไม่โอเคอะ กูง่วงมากเลย จะอ้วกด้วย "
“ เมื่อเช้าโจ๊กที่กินเข้าไปก็น้อยนะ ไม่อิ่มจนจะอ้วกหรอก " ร่างสูงว่าผมก็พยักหน้ารับ " ไปหาหมอมั้ย "
“ ไม่อะ นอนสักพักคงหาย " ผมบอกก่อนจะยันตัวเองขึ้นมาจากเบาะรถ " มึงขับกลับคอนโดก็ดี กูจะนอนพักเอาแรงหน่อย วันนี้คงไม่ไปเรียนอะ ค่อยไปเรียนอาทิตย์หน้าเลยก็แล้วกัน "
“ ไม่ไปหาหมอหน่อยละ "
“ กูไม่เคยป่วยจนไปหาหมอนะ มึงจำไม่ได้เหรอ ว่ากูนอนแค่แปปเดียวก็หายแล้ว " บอกมันแบบนั้นอีกคนก็ถอนหายใจออกมา เมื่อก่อนเวลาป่วยผมพยายามจะนอนให้เยอะ แล้วกินยาแก้ไข้ให้หายไปเองเท่านั้น ถ้าไปหาหมอแน่นอนว่าแม่ต้องพาไปซึ่งเราก็ไม่มีเวลาขนาดนั้น ครั้นจะพาตัวเองไปเองก็หอบสังขารไปไม่ไหวอีก ผมไม่อยากจะลำบากบ้านไอ้ภาพ ร่างกายมันก็เหมือนรู้ตัว เลยไม่ค่อยป่วยหนักกับเค้าสักเท่าไหร่
“ ทำไมอยู่ๆถึงป่วยว่ะ ฝนก็ไม่ตกนี่หว่าช่วงนี้ "
“ เครียดมั้ง ตอนที่โอลิเวียมา กูนอนไม่หลับเลย ข้าวก็ไม่ค่อยได้กิน วันนั้นที่เล่นน้ำกันกูก็อยู่จนแห้งไม่ได้รีบเข้าไปอาบน้ำด้วย อากาศข้างนอกก็ร้อน แถมพอเข้ามาข้างในบ้าน บ้านมึงก็ดันเปิดแอร์ทั้งหลังอีกแล้วแม่งก็ยังเย็นมากไปอีก ร้อนๆหนาวๆหลายๆครั้งก็เลยป่วยละมั้ง " ผมบอกมันแบบเดาๆแบบคุณหมอมาเอง ไอ้ภาพก็พยักหน้ารับมันเอื้อมมือมาลูบหัวผมก่อนจะขยี้เบาๆ
“ งั้นก็ขึ้นไปนอนซะ "
“ แล้วมึงจะไปเรียนรึเปล่า " เอียงหน้าถามมันอีกคนก็นิ่งไปสักพัก ก่อนจะยกยิ้ม
“ จะอ้อนให้กูอยู่ด้วยเหรอ ถ้าจะอ้อนขอน่ารักๆกว่านี้ได้มะ แบบ พี่ภาพอยู่กับน้องขมนะ น้องขมไม่อยากจะอยู่คนเดียว กอดน้องขมนะ จับมือน้องขมไว้ อย่าไปไหนนะ " มันว่า ผมก็เอียงหน้ากลับมาที่เดิม ผ่อนลมหายใจออกมาเปิดประตูรถก่อนจะบอกมัน
“ งั้นจะไปตายที่ไหนก็ไปเถอะไป "
“ อ้าวเฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่น่าา อ้อนกูสิ อ้อนพี่~ "
“ ไปอ้อนแม่มึงนู้นไป กูขึ้นห้องละ ไม่ไหวแล้ว โคตรจะปวดหัวเลย " ปิดประตูลง รถที่นิ่งไม่ขยับแต่ก็ไม่มีการดับเครื่อง ถึงแม้ว่าอยากจะให้มันอยู่เป็นเพื่อน แต่บอกไปตรงๆ ก็คงจะเสียฟอร์มหน้าดู แล้วอีกอย่างคำพูดพวกนั้นก็ไม่มีทางที่คนอย่างผมจะพูดออกไปหรอก ' อยากให้อยู่ด้วย อยู่เป็นเพื่อนกันนะมึง ' เหอะ.. ฝันไปเถอะ กูไม่พูดหรอกน่า
.......................................................
คือว่า ลืมเช็คนิยาย มานึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เช็คไฟล์ ก็ตอนทุ่มนึงแล้ว
ทั้งๆที่ปกติจะนั่งทำทั้งวัน เตรียมไว้เลย แต่วันนี้ลืมมมมม มัวเขียนนิยายอยู่
โปรดให้อภัยหนมคนนี้ด้วยนะคะ ผิดไปแล้ว~
เราเชื่อว่า ทุกคนต้องเคยผ่านโมเม้นท์แม่ป่วย แล้วชีวิตที่อยู่กับพ่อ มันมีความวุ่นวายเล็กๆซ่อนอยู่
เพราะงั้นเรามาดูกันว่า ความวุ่นวายที่ว่า จะเกิดขึ้นในรูปแบบไหนกับครอบครัวเน้~~~~
เจอกันตอนหน้าเน้อออ
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า