❤One Night with My Boss รักข้ามคืน ❤☆บทส่งท้าย☆ (05-05-2017)(END)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤One Night with My Boss รักข้ามคืน ❤☆บทส่งท้าย☆ (05-05-2017)(END)  (อ่าน 66987 ครั้ง)

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
ดีใจ แทนคุณพ่อ คุณแม่ หาว่าที่ลูกสะใภ้ได้ดีเสียนี่กระไร



 :laugh:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เห้อ คราวเคราะห์ของบุญ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โลกกลมจริง พะแพง  :m16:
ยังไม่ทันฝ่ายชายยอมรับ ชีก็แสดงตัวมาเฝ้าที่บริษัท
แล้วผลักนักบุญตกบันได  พยายามฆ่าเลยนะ
นักบุญ ประสาทกลับหรือไง ไปปลอบชีเพื่ออะไร  :z3: :z3: :z3:
อยากวีนก็วีนไป เป็นคนดีกับชีเพื่ออะไร
ไม่ใช่หน้าที่ตัวเองเลย  อย่างกับเขาดีกับตัวเอง
ฟื้นมาความจำจะหายหรือเปล่า
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
คันจนลืมไปว่าหล่อนไม่ใช่คนของพี่ดิน
หน้าด้านจริงๆเขาไม่เอายังจะเสนอหน้า  :fire:
และก็คุณพ่อค่ะคู่หมั้นดีไหมละคะ  :katai2-1:
ทำตัวเหมือนมารยาทไม่มีและก็มีคดีติดตัวอีก
ดีมากๆเลยดีแต่เรื่อง curry อะคะ  :angry2:
โอ๊ยอยากแร๊พรัวๆคะ  :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ Vammas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
One Night with My Boss รักข้ามคืน



ตอนที่ 17  นิดๆหน่อยๆ

รถพยาบาลแล่นเข้ามาจอดในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว คนเจ็บถูกนำตัวส่งเข้าห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วนเพราะอาการบวมของศีรษะคล้ายกลับมีเบือดคั่งในสมอง

"ผู้บาดเจ็บ เพศชาย รับแจ้งว่า ถูกทำร้ายโดยการถูกผลักตกบันไดค่ะ" นางพยาบาลแจ้งให้สาเหตุให้กับคนเป็นหมอทราบ

"มีอาการอย่างไรบ้าง"

"ตั้งแต่หน้าผากและกระหม่อมมีบาดแผลขนาดใหญ่ มีเลือดไหลซึมออกมาจากศีรษะเพียงเล็กน้อย ไม่ทราบว่าจะมีอาการเลือดคั่งอยู่ภายในหรือเปล่าค่ะ ตั้งแต่ลำตัวมามีบาดแผลใหญ่อยู่2แห่ง แขนขวาหัก"

"รีบทำการเอ็กซเรย์โดยด่วนเลยนะ"

"ค่ะ"

.

.

"ดูจากผลเอ็กซเรย์แล้ว ผู้บาดเจ็บมีเลือดคั่งในเยื่อหุ้มสมองชั้นนอก โอเค เดี๋ยวผมจะผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองเขาออกก่อน" คุณหมอพูดขึ้นกับเหล่าผู้ช่วยและนางพยาบาล . . สักพักไฟส่องสว่างบนเตียงผ่าตัดก็สว่างขึ้น ร่างกายนักบุญถูกสายอะไรต่อมิอะไรระโยงระยางเต็มตัวในปากเองก็มีท่อบางอย่างสอดเข้ามาคล้ายเครื่องช่วยหายใจ

"วางยาสลบเรียบร้อยแล้วค่ะ"

"งั้นเราเริ่มเปิดกระโหลก ระบายเลือดจากเยื่อหุ้มสมองก่อน ขอมีด...สว่านไฟฟ้า...ท่อเจาะกระโหลก...เอาเลือดที่คั่งออกเรียบร้อยแล้ว ผมจะทำการปิดบาดแผลละนะ..." 

"คุณหมอคะ คนไข้ความดันเลือดลดต่ำลงมากค่ะ"

"ให้ยากระตุ้นไป"

ช่วงเวลาในห้องผ่าตัดช่างยาวนานและกินแรงของผู้เป็นหมอและเหล่าผู้ช่วย พยาบาลอย่างมากหลายต่อหลายชั่วโมงกับการผ่าตัด สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี . . . ปฐพีเดินวนเวียน เดี๋ยวนั่งเดี๋ยวลุกอย่างกระวนวายใจ เขาโทรติดต่อน้ำ ให้ส่งข่าวให้กับกาวได้รับรู้เรื่องราว เมื่อกาวรับรู้แล้วจึงรีบตรงมาโรงพยาบาลที่ปฐพีบอกอย่างรีบร้อนไม่แพ้กัน

"ดิน ไอ้อ่อนเป็นอย่างไรบ้าง" ปฐพีส่ายหัวไปมา เขาเองก็อยากรู้เช่นเดียวกันว่านักบุญเป็นอะไรมากหรือเปล่า ผ่านไปหลายชั่วโมง คุณหมอที่ทำการรักษานักบุญก็ออกมาจากห้องฉุกเฉิน พร้อมกับแจ้งผลการรักษาให้ทราบ

"คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่ต้องดูอาการในห้องฉุกเฉินสักระยะ เพราะตอนมาถึงคนไข้ยังมีอาการเลือดคั่งในสมองผมได้ทำการผ่าคัดให้เขาเป็นที่เรียบร้อยร้อยแล้ว"

"ผมเข้าไปเยี่ยมได้ไหมครับ" ปฐพีร้อนรนอยากจะเข้าไปดูคนเจ็บใจจะขาด

"ตอนนี้อย่าเพิ่งดีกว่าครับรอไว้พรุ่งนี้จะดีกว่า ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนนะครับ" คุณหมอกล่าวลาแล้วเดินจากไป

"พี่ดินกลับบ้านก่อนเถอะ ผมทำเรื่องย้ายบุญไปห้องพิเศษแล้ว ถ้าบุญได้ออกจากห้องฉุกเฉิน" น้ำพยายามปลอบพี่ชายตนเองเพื่อให้เขาพักผ่อน

"แต่พี่อยากเฝ้าบุญ"

"บุญยังไม่ฟื้นหรอกพี่ ตอนนี้หมอก็ยังไม่ให้เยี่ยมยังไงพี่กลับไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่า ตรงเดี๋ยวน้ำ กับกาว เฝ้าให้เอง" น้ำบอกกบ่าวพี่ชายที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด

"งั้นพี่ฝากบุญด้วยนะเดี๋ยวพี่กลับมา"

"อืม ไปเถอะ" . . . ปฐพีกลับไปที่บ้านใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลมากกว่าคอนโดของเขา  เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน เขาเห็นผู้เป็นพ่อหน้านิ่วคิ้วขมวดเป็นปมอยู่ที่โซฟากลางโถงรับแขกของบ้าน จ้องมองมาที่เขา ส้วนผู้เป็นแม่สีหน้าเรียบนิ่งแต่ในแววตากับแฝงความกังวลเข่นเดียวกัน เมื่อเห็นลูกชายจึงรีบร้องเอาไว้

"ตาดิน แม่ได้ข่าวหนูพะแพงผลักพนักงานบริษัทของเราตกบันไดเหรอลูก"

"ใช่ครับ ว่าที่ลูกสะใภ้คนดีของคุณพ่อ คุณแม่ พยายามจะฆ่าคนในปกครองของผม" ปฐพีเอ่ยด้วยน้ำเสียงประชดประชัน แต่แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

"ลูกน้องแกไปทำอะไรหนูพะแพงหรือเปล่า" คุณวิฑูรย์เอ่ยแก้ต่างให้คนผิด

"ที่ทำคงเป็นผม" ปฐพีนิ่งเงียบ

"แกหมายความว่าไง" คุณวิฑูรย์ถามซ้ำ

"ก็บอกว่าคนที่ทำคือผม! แแล้วทำไมคนโดนผลักตกบันไดต้องเป็นนักบุญด้วย!" ปฐพีคล้ายหมดความอดทนขึ้นเสียงใส่ผู้เป็นพ่อ ก่อนปัดเอาแจกันที่อยู่แถวนั้นหล่นแตก

เพล้ง!!!

ปฐพียืนกำหมัดแน่นก่อนเดินหนีขึ้นห้องไป ในใจสั่นไหว รู้สึกเจ็บแปลบในอก ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะคำพูดเขา จึงทำให้ผู้หญิงคนนั้นผลักนักบุญตกบันได เสียงก้อนสะอื้นจุกอยู่ในลำคอ คล้ายคนอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก มันรู้สึก...จนไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาปล่อยหมัดหนักๆใส่กับกำแพงหลายครั้งจนกำปั้นมือเลือดออก แต่มันก็ไม่คลายความโมโหของตัวเอง

ความโมโหยิ่งทวีมากขึ้นเข้าไปอีกเมื่อลูกน้องที่บริษัทโทรมาบอกว่าพะแพงถูกประกันตัวออกไปแล้ว เห็นว่าทางพ่อแม่ของฝ่ายนั้นเดินเรื่องปิดข่าวทำเรื่องส่งตัวไปเมืองนอก ท่าทางจะเส้นใหญ่น่าดู ถึงได้ทำเรื่องเสร็จภายในเวลาอันสั้น คนผิดลอยนวล ส่วนคนเจ็บก็รับกรรมไป งั้นเหรอ

ปฐพีได้แต่เก็บความโกรธ ความครุ่นเคืองไว้ในใจ ก่อนรีบอาบน้ำแต่งตัว เพื่อออกไปทำอะไรบางอย่าง เพื่อเป็นการตอบแทนคนที่ทำให้นักบุญต้องเจ็บตัว

"แกจะออกไปไหน" คุณวิฑูรย์มองผู้เป็นพ่อด้วยหางตา ก่อนจะตอบออกไปลอยๆว่า

"ไปหาว่าลูกสะใภ้พ่อ" คุณวิฑูรย์นิ่งงันมองลูกชายอย่างประหลาดใจ เพราะตั้งแต่ได้ยินข่าวว่า พะแพง ผลักคนตกบันได เขาก็ไม่คิดที่จะอยากได้มาเป็นสะใภ้แล้ว 

"ไหนแกว่าไม่ชอบ" 

"แต่พ่อชอบนี่" คุณวิฑูรย์ลอบกลืนน้ำลายหลายอึก

"ตอนนี้ผมชักชอบขึ้นมาแล้วสิ โดนใจเลยล่ะ" ปฐพีส่งสายตายิ้มหยันให้ผู้เป็นพ่อ ชอบสิทำไมเขาจะไม่ชอบ ดีออก ผู้หญิงแบบนี้

.

.

.

.

บ้านโชติรัตนทิศ

"สวัสดีครับคุณวสันต์" ชายหนุ่มกล่าวทักทายผู้เป็นเจ้าของบ้าน

"อ้าว...ดิน มาได้ยังไง" คุณวสันต์หน้าเจื่อนส่งยิ้มฝืดๆให้ผู้มาเยือน เนื่องจากลูกสาวตัวดีไปสร้างวีรกรรมเอาไว้ที่บริษัทของอีกฝ่าย "

อุ๊ย...พี่ดินมาหาแพงเหรอคะ" พะแพงยังคงทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวเดินเจ้ามากอดแขนปฐพีหน้าตาเฉย

"สวัสดีครับน้องแพง" ปฐพียิ้มจนเห็นฟันขาว

"ออกจากคุกไวจังนะครับ" ชายหนุ่มออกไปอย่างสุภาพแต่แฝงคำประชดประชัน

"แหม่...ก็คุณลุงแพงเป็นถึง...."

"ยัยแพง!!!" เสียงคุณวสันต์ตะคอกลูกสาว

"อะไรคะคุณพ่อ" หญิงสาวตวัดสายตาใส่ผู้เป็นพ่อ แต่ผู้เป็นเป็นพ่อไม่ตอบกลับหันมาพูดกับปฐพีแทน

"ว่าแต่...ดินมาทำอะไรที่นี่ล่ะ"

"ผมแค่...จะมาตอบตกลงเรื่องจะหมั้นกับพะแพง" ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ แต่ทำให้คนเกาะแขนถึงกับตาโต เช่นเดียวกับคนเป็นพ่อ

"แล้ว ดินไม่โกรธเหรอที่ ยัยแพงไปผลักคนของดินตกบันใด" คุณวสันต์อึกอักลังเลที่จะถามเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

"ครับ" ปฐพียังคงส่งยิ้มโชว์ฟันขาวเหมือนเดิม

"พี่ดินจะหมั้นกับแพงจริงๆเหรอคะ แล้วพี่ไม่ได้ชอบพอกับบุญเหรอคะ" คำถามของพะแพงทำเอาปฐพี ชะงัก ก่อนคลี่ยิ้ม เพื่อบอกกับเธอว่า

"พี่กับบุญเราเป็นแค่เจ้านาย กับลูกจ้างและอีกอย่าง ที่ให้ถามบุญเขาว่าจะไปไหนกินอะไรนั้น เพราะตารางงานพี่อยู่กับเขา" พะแพงพยักหน้าเข้าใจ ก่อนส่งยิ้มหวาน ซบหน้าลงกับแขนของปฐพี ชายหนุ่มได้แต่เยาะในใจการขอตัวกลับ เพราะเขามีธุระต่อ ทางฝ่ายคุณวสันต์จึงไม่ได้รั้งเขาไว้

.

.

.

.

ผ่านมาได้หลายวันแล้วในโรงพยาบาล นักบุญถูกย้ายเข้ามาในห้องพิเศษ อันแสนจะหรูหรา นักบุญฟื้นขึ้นมาแต่ก็อยู่ใน **ภาวะผัก** และนั่นก็คือสิ่งที่หมอบอก เมื่อนักบุญฟื้นขึ้นมาแต่ไร้การตอบสนองใดๆ คล้ายคนเหม่อลอย

"คุณหมอครับแบบนี้น้องผมจะหายไหมครับ" กาวเอ่ยปากถามคนเป็นหมอ

"หายครับแต่ก็ขึ้นอยู่กับคนไข้ด้วยว่าจะฟื้นตัวได้ไวแค่ไหน"

"ไวสุดนี่กี่วัน กี่เดือน กี่ปีกันครับ" ปฐพีถามด้วยความร้อนใจ

"อย่างไวสุดก็ 3เดือนครับ ช้าสุดก็ 1ปี หรือไม่หายเลยก็มีครับ" คุณหมอพูดทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป

ปฐพีนั่งลงข้างๆเตียงมองดูนักบุญที่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย เหมือนไม่รับรู้ว่ามีเขาคนนี้นั่งอยู่ข้าง มือหนึ่งคว้าเอามือของนักบุญมาแนบแก้ม ดวงตาแดงกล่ำคล้ายคนร้องไห้ แต่ไม่มีแม้หยดน้ำตาเพียงหยดเดียว แต่จู่ๆก็ถูกแรงเหวี่ยงกระชากออกไปจากข้างเตียงด้วยฝีมือกาว

"แกออกไปให้พ้นห้องนี้เลยนะ" กาวกัดฟันกรอดด้วยความโมโห เมื่อครู่เขาไปคุยโทรศัพท์กับน้ำมา ได้ข่าวมา ปฐพีจะหมั้นกับพะแพง คนที่ผลักนักบุญ ตกบันได เขารู้สึกโกรธจนเลือดขึ้นหน้า อยากจะชกคนตรงหน้าสักหมัดสองหมัด

"กูไม่คิดเลยว่าพอน้องกูเป็นแบบนี้มึงก็คิดทิ้งน้องกูไปหาอีคนที่มันผลักน้องกูตกบันได" กาวไม่เคยคิดจะเรียกใครแบบนี้มาก่อนแต่มันอดไม่ได้จริงๆที่จะเรียกผู้หญิงคนนั้น

"เดี๋ยวสิกาว ฟังกันก่อน" ปฐพีพยายามจะอธิบายเรื่องราว แต่ก็ต้องจนใจเมื่อกาว ไม่ยอมฟัง

"กูไม่ฟัง มึงออกไปให้พ้นหน้ากูกับน้องกูเลย" ปฐพี เหลือบมองนักบุญอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนเดินคอตกกลับบ้าน

หลายวันหลังจากนั้นเขาก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมนักบุญอีกเลย ใจเขาพะว้าพะวง แต่ในเมื่อตัดสินใจที่จะทำแล้วเขาจะมาถอนตัวกลางคันไม่ได้

.

.

.

.

ตลอดระยะ 1เดือน นักบุญเริ่มมีปฏิกิริยามากขึ้นเริ่มรับรู้มากขึ้น เขาตอบสนองดีขึ้นจนน่าตกใจทั้งๆที่หมอบอกว่าต้องใช้เวลาถึง 3เดือนก็ตาม มันเป็นอะไรที่ทำให้ทุกคนดีใจเป็นอย่างมาก กาวยังคงปิดยังเรื่องที่ ปฐพีกำลังจะหมั้น หากนักบุญเอ่ยถามจะตอบเพียง ปฐพีงานยุ่งมาหาไม่ได้ นักบุญจึงได้แต่นั่งเหม่อมองไปทางนอกหน้าต่าง เฝ้ารอ ว่าเมื่อไหร่ปฐพีจะมา

ทางปฐพีแม้อยากมาเยี่ยมแต่ก็ทำไม่ได้ เขาถูกกาวกีดกันออกจากนักบุญนับตั้งแต่รู่ว่าเขากำลังจะหมั้นกับพะแพง ส่วนน้ำเองก็ทำท่าหมางเมินเขา ไม่ยอมพูดไม่ยอมคุยกับเขา ทางพ่อกับแม่เองก็ไม่ค่อยปลื้มกับว่าที่ลูกสะใภ้สักเท่าไหร่นับแต่ที่ทราบข่าวหญิงสาวผลักพนักงานของตนตกบันได

"แกคิดดีแล้วเหรอ ดิน" คุณวิฑูรย์ถามลูกชายด้วยสีหน้าลำบากใจ

"แน่ใจสิครับ" ปฐพีตอบยิ้มๆ

"...เฮ้อ...แล้วแต่แกแล้วกัน" ผู้เป็นพ่อมีสีหน้าที่แย่มากเมื่อลูกชายยังคิดจะหมั้นกับผู้หญิงแบบนั้น.....นั่นอาจเป็นความผิดที่ดันไปทาบทามผู้หญิง

ที่มีใจโหดร้ายแบบนั้น ปฐพีจึงยอมหมั้นเพื่อประชดเขาอย่างแน่นอน

"พ่อเป็นคนเลือกมาเองแท้ๆทำไมจะไม่ดีล่ะ" ปฐพีพูดพลางประชดประชันผู้เป็นพ่อไปในตัว

คุณวิฑูรย์เดินคอตกเข้ามานั่งบนโซฟากับภรรยา ก่อนจะเอ่ยคำบางคำกับผู้เป็นภรรยาว่า

"ถ้าเจ้าดินมันไม่ได้หมั้นกับหนูพะแพงก็คงดี"

"เฮอะ...เป็นคุณเองไม่ใช่เหรอที่บังคับตาดิน" คุณประกายพูดประชดสามี เพราะเธอก็ไม่ได้เห็นด้วยตั้งแต่แรกอยู่แล้วที่จะบังคับลูกชายให้หมั้นกับคนที่ไม่ได้ชอบพอกัน

"โธ่...คุณ ผมแค่หวังดี แต่...ผมบอกไว้เลยนะ ถ้างานหมั้นของเจ้าดินล่มได้ในอาทิตย์ผมจะดีใจมาก และจะยอมรับคนที่เจ้าดินมันเลือกเลย...เอ้า...เจ้าพระคู๊ณ ของานล่มด้วยเถิ๊ด ผมจะยอมรับคนที่ลูกชายเลือกด้วย จะไม่จัดขวางคนทั้งเลย เพี๊ยง..." คุณวิฑูรย์ยกมือไหว้ท่วมหัวจอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย คนเป็นภรรยาถึงกับส่ายหัวไปมา

.

.

.

.

ในที่สุดงานหมั้น ก็มาถึงผู้คนมากมายต่างมาร่วมยินดี แต่ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ฝ่ายชายกับมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก ใครอยากจะได้ว่าที่ถูกสะใภ้ที่คิดจะฆ่าคนบ้างล่ะ ทั้งคู่ได้แต่ยิ้มขืนให้กับแขกที่มา งานหมั้นค่อนข้างใหญ่โต ผู้คนไฮโซมากันมากมาย นักข่าวก็เยอะเช่นกัน เสียงเพลง เสียงโห่ร้องด้วยความยินดี สินหลายสิบล้านวางเรียงรายมากมาย ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายนั่งเคียงคู่กันพร้อมรอยยิ้ม โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่ดูจะปลื้มใจมากกว่าฝ่ายชาย เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กำลังรอคอยให้ฝ่ายชายสวมแหวนหมั้นให้

"ขออนุญาตนะน้องแพง" ปฐพีเอ่ยยิ้มๆ ยื่นมือไปจับอีกฝ่ายเพื่อเตรียมสวมแหวนหมั้นให้ พะแพงทำท่าเอียงอาย ส่งยิ้มหวานให้ฝ่ายชาย ระหว่างที่กำลังจะสวมแหวนให้นั้น มีผู้ชายประมาณ 4-5คน เดินเข้าพร้อมกันจนกลายเป็นจุดสนใจขึ้นมา แม้แต่ฝ่ายหญิงฝ่ายชายเจ้าของงานยังต้องหันไปมอง แต่คนที่มีปฏิกิริยามากสุดคงเป็นฝ่ายหญิง ที่ตอนนี้สองตาเบิกกว้างจนแทบถลนออกมาจากเบ้า

"คิดจะทิ้งพวกพี่งั้นเหรอแพง" ผู้ชายหนึ่งกลุ่มคนที่มาใหม่พูดขึ้น

"พวกพี่อุตส่าห์เชื่อใจแพงแต่แพงกับหนีมาหมั้นงั้นเหรอ" ผู้ชายอีกคนช่วยเสริมอีก พะแพงส่ายหัวไปมาด้วยความหวาดกลัวผู้ชายเหล่านี้ ความจริงผู้ชายมั้งหมดล้วนเป็นคนที่เธอเคยคบ และมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เธอคบกับทุกคนและยังไม่ได้เลิกกับคนเหล่านี้เลยสักคน

"นี่มันเรื่องอะไรกันครับ พวกคุณเป็น" ปฐพีถามด้วยท่าทางร้อนรน แต่ในใจกลับยิ้มเยาะกับเรื่องนี้ แน่ล่ะเขารู้เรื่องนี้ทุกอย่างเป็นอย่างดี เขาวางแผนทุกอย่าง สืบเรื่องราวของพะแพงทุกเรื่องจนรู้ว่าพะแพงแอบคบกับผู้ชายพวกนี้และยังไม่ได้เลิกกัน พวกคุณคอยดูละกันผลสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร นี่แค่เอาคืนนิดๆหน่อยๆ ของเขาเท่านั้น ถือว่าเป็นการเตือนเบาะๆ เธอจะได้รู้ว่าการตกจากที่สูงมันอย่าไร หึหึ...

​___________________________________________________________________

****ภาวะผัก (The vegetative state)**​ หรือ เจ้าชาย-เจ้าหญิงนิทรา เป็นอาการที่ผู้ป่วยไม่รับรู้ใดๆ แต่ยังมีวงจรการหลับ-ตื่นอยู่ เพราะสมองส่วนไฮโปธาลามัส และก้านสมองยังพอทำงานได้ ผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการที่บ่งบอกความหมายหรือท่าทีว่าสื่อสารได้ แต่เส้นประสาทสมองบางส่วน และ spinal reflexes ยังมีการทำงานเหลืออยู่บ้าง จึงอาจลืมตา ยิ้มเอง เคี้ยวหมุบหมับ น้ำตาไหล ส่งเสียงคราง อย่างไม่มีความหมาย ขยับตัวเล็กน้อย ถอยหนีความเจ็บทั้งที่สมองไม่รับรู้ความเจ็บ จึงอาจทำให้ญาติเข้าใจว่าผู้ป่วยยังสื่อสารได้หรือยังรู้สึกตัวอยู่​**

ออฟไลน์ goldentime

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ค้างเน่อ น้องบุญจงตื่นพี่่ดินสู้ตาย!! :ling1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Timber Huang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตอกหน้ายัยพะแนงเน่า ให้หงายไปเลย  :laugh:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ดูแล้ว เรื่องนิดหน่อยจริงๆ จะเชื่อจ๊ะ พี่ดิน

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เรื่องนิดหน่อยมาก แต่ยิงปืนทีเดียวได้นกสองตัว พ่อยอมรับนักบุญด้วยเลย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เหอะๆ แต่ก้อไม่รู้จะอายมั่งไหมยัยเน่าเอ๊ย
สงสารน้องบุญ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
สภาวะค้างเติ่ง รีบมาต่อเลย  :mew5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พะแพง นางช่างกล้า นางคบทีเดียว 4-5 คน  :katai1: :katai1: :katai1:
แล้วพวกเขา พากันมางานหมั้นนาง
งานหมั้นคงลือลั่นทั้งเมือง
นาง อยากหมั้นกับปฐพี
แต่ทำร้ายผลักนักบุญตกบันไดสลบ
แขนหัก สมองบวม นอนเป็นผัก
นี่คือผู้หญิงที่พ่อดินอยากได้เป็นสะใภ้
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
รอบนี้นิดๆหน่อยๆ รอบหน้าคงต้องฝังตัวเองแล้วล่ะ
ยัย :L2: ทองสีส้มเอ๊ย!  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Vammas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
One Night with My Boss รักข้ามคืน


ตอนที่ 18 ความทรงจำในความคิดถึง

"กรี๊ดดดดดดดดกรี๊ดดดดดดดดด" เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นจนหลายคนต้องเอามือปิดหู ถ้าถามว่าทำไมเธอถึงกรีดร้องขนาดนี้ คงเป็นเพราะคำพูดของปฐพี

ประมาณ 15 นาทีก่อน

"ไหนว่าแพงบอกพวกพี่ว่าญาติป่วยกลับต่างจังหวัด" ชายร่างสูงเดินมาฉุดมือหญิงสาวให้ลุกขึ้น ญาติฝ่ายหญิงรีบลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อช่วยเหลือลูกสาวตน

"นี่มันเรื่องอะไรกัน" คุณวิฑูรย์ถามขึ้นด้วยสีหน้าแววตาไม่ค่อยพอใจ แต่ในใจกลับยิ้มกริ่ม ดีจริงๆงานตะได้ล่มสมใจ

"เดี๋ยวผมจัดการเรื่องให้ครับ" คุณวสันต์ก้มหัวขอโทษก่อนหันไปจ้องหน้าแขกไม่ได้รับเชิญทั้ง 5คน

"ไม่ต้อง!!! ผมแค่อยากรู้ว่าคนพวกนี้เกี่ยวอะไรกับลูกสาวคุณ" คุณวิฑูรย์ตวาดเสียงดังถามขึ้น

"ผมเป็นผัว" ทั้ง5 คนพูดพร้อมกัน แล้วทั้งหมดก็หันมาจ้องตากันหมายกินเลือดกินเนื้ออีกฝ่าย พวกเขาถูกผู้ชายคนหนึ่งโทรเรียกให้มาที่นี่ พวกเขาทั้ง 5ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเรียกพวกเขาออกมา แต่ทางผู้ชายเล่าว่าคนรักของตนถูกบังคับหมั้น พวกเขาจึงรีบมาโดยไม่ได้นัดหมายรถไฟหบายขบวนจึงชนกันแบบนี้ ทั้งที่หวังจะมาล่มงานหมั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่มาพร้อมกับพวกเขากลับแสดงตัวว่าเป็นมากกว่าคนรักกันทุกคน พวกเขาจึงเกิดความไม่พอใจ หันไปมองพะแพงหญิงสาวตัวต้นเหตุ เพื่อขอคำตอบ

"นี่มันหมายความว่าอย่างไรครับน้องแพง" ปฐพีที่ยืนนิ่งเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินผู้ชายทั้งอ้างตัวว่าเป็นสามีของเธอ หญิงสาวหันกลับไปมองปฐพี ด้วยหน้าตาตื่นพลางจะแก้ตัวก็ไม่รู้จะพูดอะไร

"พี่ดินคะ คือว่า...คือ....แพงอธิบายได้นะคะ"

"อธิบาย?" ปฐพีทวนคำ

"ค่ะใช่ค่ะ แพงโดนใส่ร้ายค่ะ ไอ้คนพวกนี้แพงไม่รู้จักนะคะ" พะแพงพยายามแก้ตัวสุดฤทธิ์แต่มันก็ฟังไม่ขึ้น

"น้องแพงไม่รู้จักพวกพี่จริงเหรอครับ"ชายร่างสูงหนึ่งในนั้นพูดขึ้นก่อนหยิบโทรศัพท์เปิดภาพถ่ายคู่ให้ทุกคนดู คนอื่นๆก็เช่นกัน ในภาพมีทั้งภาพ กอด จูบ หอมแก้ม และอื่นๆนานาที่แสดงให้เห็นว่าพวกเจาเป็นอะกับเธอ

"น้องแพงมีอะไรจะอธิบายเพิ่มอีกไหมครับ" ปฐพีถามซ้ำ

"ก็แค่คบกันเฉยๆไม่ได้เป็นผัวเป็นเมียอะไรแบบนั้นนะคะ" พะแพงยังคงแก้ตัวให้ตัวเองอีกครั้ง

"งั้นคนในคลิปนี้จะบอกไม่ใช่น้องแพงใช่ไหม" ชายหนุ่มอีกคนรูปร่างหน้าตาสมส่วนกดเปิดคลิปบางอย่าง ยื่นให้พะแพงดู

"ว๊าย...พี่ถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่" พะแพงหลุดพูดออกมา จะแก้ตัวก็ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดี

"สรุปยังไงครับน้องแพง" ปฐพีถามขึ้นด้วยใบหน้าราบเรียบแฝงความเย็นชา

"ไม่ใช่ นะคะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ พี่ดิน ฟังแพงก่อนนะคะ" หญิงสาวรีบวิ่งไปเกาะแขนปฐพีเพื่อให้ปฐพี ฟังตนแก้ตัว

"ขอโทษนะครับหลักฐานชัดขนาดนี้คงไม่ต้องแก้ตัวแล้วมั้งครับ พอดีพี่ค่อยชอบใช้ของมือสอง แต่นี่น้องแพงผ่านมาไม่รู้กี่มือต่อกี่มือพี่ว่า พี่รับไม่ได้นะครับขอโทษด้วย พี่ไม่อยากได้ของเหลือจากคนอื่น ขอตัวนะครับ" ชายหนุ่มพูดยิ้มๆแต่ทำเอาหลายคนรู้สึกขนลุกคนพองเมื่อมองรอยยิ้มนั้น พอพูดจบเขาจึงออกจากงานหมั้นไปทิ้งให้หญิงสาวอ้าปากค้างกับคำพูดของอีกฝ่าย

"คือคุณวสันต์ผมกับภรรยาเองก็รับไม่ได้เหมือนกันนะครับที่จะได้สะใภ้หลายมือแบบนี้ ผมคงต้องขอยกเลิกงานหมั้นในครั้งนี้นะครับ" คุณวิฑูรย์กล่าวเสียงสุภาพแต่แฝงการจิกกัดไว้นิดหน่อย จนทำให้คุณวสันต์หน้าเจื่อนลงเพราะต้องยอมรับชะตากรรมที่ลูกสาวก่อขึ้น แม้แต่ชายหนุ่มทั้ง  5 รู้ความตริวก็พากันขยาดในตัวเธอ ขอเลิกกับเธอไปทุกคน

เหล่านักข่าวต่างกรูกันเข้ามาถ่ายภาพเก็บข้อมูลไว้เขียนข่าวกัน ส่วนพะแพงได้แต่กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บใจ แล้วข่าวฉาวของพะแพงกระจายไปทั่วหน้าหนังสือพิมพ์และโลกโชเชียล จนสาวเจ้าต้องหนีไปต่างประเทศในคืนนั้นเมื่อข่าวออกมา

.

.

.

.

ก้าวเข้าสู่เดือนที่ 2 นักบุญรู้สึกขึ้นและดีขึ้นกว่าเดือนก่อนเป็นอย่างมาก นักบุญเริ่มพูดจาสื่อสารได้คล่องขึ้นกว่าเดิม กาวเองได้ปล่อยให้ปฐพีเข้ามาเยี่ยมนักบุญได้ตามเดิมหลังรู้ว่าทุกอย่างเป็นแผนการที่ปฐพีต้องการเอาคืนพะแพง ปฐพีมาเฝ้านักบุญทุกวันหลังเลิกงาน กาวถูกใจกับการหักหน้าพะแพงมาก   

"ไม่คิดเลยนะว่าคุณจะคิดแผนแบบนั้นได้"

"ก็นะ" ปฐพียังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า เอื้อมมือไปกุมมือนักบุญด้วยความรัก แต่จู่ๆ นักบุญก็ปัดมือเขาออก ปฐพีทำหน้างงๆ อยู่บ้าง แต่คิดว่ามันเป็นอาการกระตุกธรรมดา เขาจึงเอื้อมมือไปจับมือนักบุญอีกรอบ นักบุญก็สะบัดมือออกอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง จนเขาแปลกใจ

"ฮะ เฮียย กะ กาว" นักบุญออกเสียงเรียกผู้เป็นพี่ชาย 

"มีอะไรเหรอไอ้อ่อน อยากได้อะไร" 

"คะ ใคร" นักบุญถามขึ้น แม้การพูดจะติดขัดอยู่บ้างแต่ก็ยังอยากจะรู้ว่าคนที่มานั่งกุมมือตนเป็น

"อ้าว ไอ้นี่ ก็ผัวมึงไง แค่นี้จำไม่ได้ หรือมึงจำไม่ได้จริงๆ" กาวภลถามก่อนหันไปมองหน้าปฐพี

"ฮะ เฮีย พะพูด อะ อะไร" นักบุญทำหน้าฉงนมองไปยังปฐพี

"บุญ นี่พี่ดินไงครับ"

"ดะ ดิน นะ ไหน มะ ไม่ ระ รู้ จะ จัก" สิ้นสุดคำพูดของนักบุญ ปฐพีรีบกดออดเรียกพยาบาลเพื่อให้ตามคุณหมอมาตรวจนักบุญทันที . .

"หลังจากที่ผมตรวจอาการแล้ว คนไข้น่าจะความจำเสื่อมชั่วคราว เพียงหาอะไรมาคอยกระตุ้นความจำเดี๋ยวความจำก็กลับมาเองครับ อาจใช้เวลาสักหน่อย" คุณหมอพูดยิ้มๆแล้วเดินจากไป

ปฐพีหน้าเครียด มองไปยังนักบุญที่นั่งส่งยิ้มให้คนอื่นๆที่เข้ามาเยี่ยมตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น น้ำ กาว คุณแข เลขาของเขา กิ๊ฟ เลขาของน้ำ และอีกหลายคน รวมทั้งนพนันท์ด้วย ช่วงนี้นักบุญพูดคบ่องขึ้นมากคล้ายกับชินที่จะพูดแล้ว

"มาทำไม" ปฐพี ถามนพนันท์ที่มาเยี่ยมนักบุญ

"ถามแปลกๆ ก็มาเยี่ยมนักบุญ" นพนันท์ยิ้มส่งฟันขาวให้ปฐพีก่อนหันมาพูดกับปฐพีอีกครั้ง

"จริงสิ น้องบุญ ลืมเรื่องแกแบบนี้ ฉันก็มีสิทธิ์สินะ"

"ไอ้..." ปฐพีกัดฟันกรอดอยากจะชกคนตรงหน้าแต่ก็ต้องหักใจเพราะที่นี่คือโรงพยาบาล ทนไว้ ทนไว้ อย่าเผลอนะมึง ฮึ่ย!!!

"อ๊ะ..."เสียงนักบุญอุทานออกมาเมื่อนพนันท์เดินเข้าไปใกล้ๆเตียงคนไข้

"จำพี่ได้เหรอครับ" นพนันท์ยิ้มหน้าบานก่อนหันมายักคิ้วลิ่วตาให้ปฐพี

"หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน"

"แน่สิครับเขาเจอกันที่งานวันเกิดน้องพิงค์ไงครับ"

"อ่อ...คนที่หน้าด้านเดินมาจีบผมตอนอยู่กับแฟน"

"พรืด..." ปฐพีพยายามกลั้นหัวเราะแต่ก็หลุดออกมา จนทำเอาหบายคนหันมามองโดยเฉพาะ นพนันท์

"ขำอะไร"นพนันท์หรี่ตามองปฐพีอย่างไม่ชอบใจนัก

"ฮะ ฮ่าๆ ปะ เปล่า เปล่า ไม่ได้ขำ ฮ่าๆ" ปฐพีกลั้นไม่อยู่จึงขำออกมาจริงๆ

"ไอ้ดิน!!!" นพนันท์เรียกชื่อปฐพีเสียงเขียว

"เออๆ ไม่ขำก็ได้" ปฐพีไหวไหล่เพียงเล็กน้อยเดินหันหลังตรงไปที่ระเบียงห้อง

ผ่านไปเกือบ30นาที ทุกคนต่างพากันกลับหมดแล้วเหลือเพียงปฐพีที่ยังคงอยู่กับนักบุญ นักบุญมองอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกบางอย่าง แต่เขาก็ไม่อาจจำได้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร

"บุญอยากได้อะไรหรือเปล่า เดี๋ยวพี่หยิบให้" นักบุญส่ายหน้าแต่ยังคงจ้องมองอีกฝ่ายตาเขม็ง

"มีอะไรกับพี่หรือเปล่า" ปฐพีพูดยิ้มๆ ก่อนเดินตรงมาที่เตียงคนไข้

"ผมรู้สึก...คุ้นเคยยังไงไม่รู้...มันให้ความรู้สึกแปลกๆ จนยากจะอธิบาย" นักบุญหลุบสายตาลงด้วยความรู้สึกขัดเขิน

"ถ้างั้น..." ปฐพีเชยคางของนักบุญขึ้น ก่อนประทับริมฝีปากลงไปเบาๆ ค้างไว้ ก่อนผละออก

"คุณ!!!" นักบุญใข้สองมือปิดตัวเองด้วยความตกใจ แต่แปลกเขากลับไม่รู้สึกรังเกียจการกระทำของอีกฝ่าย แต่กับคุ้นเคยกับมันจนรู้สึกแปลกใจ (ไม่คุ้นได้ไงล่ะจ๊ะ จูบกันไปตั้งกี่ครั้งแล้ว โอ๊ะ! ลืมไปว่าจำไม่ได้)

"ถ้าจำได้ไวๆพี่จะดีใจมากเลยนะ" ปฐพียิ้มขื่นให้กับคนตรงหน้า เขาถอยหลังออกไปนิดหน่อย แต่นักบุญกับคว้าชายเสื้ออีกฝ่ายไว้โดยไม่รู้ตัว

"นั่งอยู่ข้างๆผมก่อนได้ไหม" ความรู้สึกเก้เก้กังกังทำอะไรไม่ถูกแต่ก็อยากให้อีกฝ่ายนั่งอยู่ใกล้ๆ มันทำให้หัวใจของทั้งสองคนรู้สึกพองโตขึ้น ปฐพีระบายยิ้มหวานออกมาก่อนนั่งลงข้างๆนักบุญ

ปฐพีเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายที่เกาะกุมชายเสื้อของตนไว้ เขาดึงมือขึ้นมา ซบใบหน้าลงบนฝ่ามือของอีกฝ่าย

"ขอแค่นี้พี่ก็ดีใจแล้ว"

นักบุญจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาห่วงหา ก่อนหน้านี้ที่เขาเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแล้วเขาสะบัดมือออกนั้น ความจริงแล้วเขาแค่รู้สึกแปลกๆกับมือคู่นั้น มันมีความอบอุ่น และอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้รู้สึกใจสั่น แม้เขาจะลืมอีกฝ่ายเหมือนคนไม่รู้จักกัน แต่ในจิตใจกับรู้สึกไม่อยากอยู่ห่างเขาคนนี้ เวลาเขาคิดถึงคนๆนี้เขามีชอบอาการปวดหัวแปลบๆ แต่มันก็พอทนได้...แต่....ในใจสิที่คล้ายกับมีไฟฟ้าเข้ามาช๊อตให้เขาเจ็บแปลบๆตลอดเวลาที่เขาเข้ามาใกล้ แต่ถึงอย่างนั้นทุกคร้งที่เจอกันหัวใจเขาก็จะขยายใหญ่จนใกล้จะแตกเลยทีเดียว

"โอ๊ย!!!" อาการปวดหัวจู่ๆก็วิ่งผ่านเข้ามากระตุ้นให้เขาเจ็บปวด เพราะเขาคิดถึงเรื่องคนๆนี้มากเกินไปใช่ไหมเขาถึงได้ปวดหัวแบบนี้ นักบุญกุมศีรษะตัวเองจนยุ่งเยิง 

"บุญ! บุญเป็นอะไรบุญ! ให้พี่เรียกหมอไหม" ปฐพีเห็นนักบุญทำท่าเจ็บปวดจึงรีบเข้าไปประคอง แต่ถูกอีกฝ่ายผลักออกมา

"ไม่ต้อง!!...คุณกลับไปเถอะ ผมอยากพัก"

"แต่..."

"กลับไป!!!" นักบุญตวาดเสียงดังไล่อีกฝ่ายกลับไป

แอ๊ด เสียงประตูห้องเปิดออกพร้อมกับสองคนก้าวเข้ามาใหม่และคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกไปเสียจาก กาวกับน้ำ

"เกิดอะไรขึ้น" กาวถามเมื่อเห็น นักบุญเสียงดังใส่ปฐพี

"กาวกับน้ำมาก็ดีแล้ว งั้นฉันขอตัวก่อนนะ" ปฐพียิ้มขื่นให้ทั้งสองคนก่อนเดินออกจากห้อง กาวจึงหันไปถาม นักบุญ

"เกิดอะไรขึ้นไอ้อ่อน"

"ก็ไม่มีอะไรนี่" นักบุญเซตามองไปทางอื่น

"น้องบุญเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ" น้ำพูดเสียงอ่อนเผื่อนักบุญจะยอมพูดออกมา

"ผมแค่...ไม่อยากเห็นหน้าเขา" จะบอกได้อย่างไรว่าทั้งสมองและหัวใจเมื่อพบเจอกับปฐพีมันจะทำให้เขาเจ็บ เขาจึงไล่อีกฝ่ายออกไป

"หา!!!" ทั้งกาวทั้งน้ำต่างส่งเสียงออกมาพร้อมกันด้วยความแปลกใจ เพราะปกติแล้ว เวลาปฐพีไม่มาหานักบุญจะรู้สึกอารมณ์แปรปรวนง่ายมาก แล้วจู่ๆวันนี้ก็มาบอกว่าไม่ต้องการพบหน้า มัน...คือ...อะไร...เขาสองคนไม่เข้าใจกับความคิดของคนความจำเสื่อมเลยแม้แต่น้อย

หลายวันมานี้หลังจากนักบุญไล่ปฐพีกลับบ้านไปนั้น เขาไม่ได้มาเยี่ยมนักบุญ อีกเลย ถึงมา ก็แค่คอยมองอยู่ห่างๆสอบถามน้ำกับกาวแทน เขากลัวเข้าไปแล้วนักบุญจะไล่เขาออกมาเหมือนวันนั้นอีก เขาไม่เข้าใจ ว่านักบุญเป็นอะไร เขาเห็นท่าทางเจ็บปวดนั่นเขาก็รู้สึกไม่ดีไปด้วยแล้ว ดังนั้นเขาจะรอจนกว่าอีกฝ่ายจะเรียกหาเขาเองดีกว่า เฝ้ามองอีกฝ่ายอยู่ห่างๆ เห็นอีกฝ่ายสบายดี อาการดีขึ้น เขาก็พอใจที่สุดแล้ว เมื่อใดที่นักบุญความทรงจำกลับมาเมื่อนั้นเจาจะเข้าไปสวมกอดอีกฝ่ายให้แน่นๆ จนหายใจไม่ออกเลย คอยดูเถอะ 

.

.

.

.

หลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางด้านนักบุญนั้น เมื่อปฐพีไม่มาเยี่ยมไม่มาให้เห็นหน้าเลยสักครั้ง ก็เริ่มเกิดอาการหงุดหงิด งุ่นง่าน เห็นอะไรก็น่าเบื่อไปเสียหมด เขาอยากออกจากโรงพยาบาลไวๆ อยากไปลากคอคนที่ไม่ยอมมาเยี่ยมเขา ทำไมเขาถึงได้ทำตัวย้อนแยงกับคำพูดตัวเองซะขนาดนี้นะ

"หายไปไหน ทำไมไม่มาเยี่ยม" นักบุญนั่งเม้มปากตัวเองอยู่บนเตียง น้ำตาใสๆเอ่อล้นขึ้นมา ใจเขามีคำเดียว คือ คำว่าคิดถึง อีกฝ่ายอย่างห้าม ตัวเองไม่รู้ เพราะ กลัวปวดหัว ปวดใจ จึงไม่อยากให้เขามา แต่พอเขาไม่มาในใจก็ทนแทบไม่ได้ มันร้อนอกร้อนใจจนเขาทำอะไรไม่ถูก

"เมื่อไหร่จะมา" นักบุญนั่งพึมพำกับตัวเอง จนทำให้น้ำที่วันนี้มานั่งเฝ้าไข้แทนกาวต้องเงยหน้ามอง 

"คิดถึงพี่ดินล่ะสิ ไหนบอกไม่อยากเห็นหน้าเขาไง" เห็นนักบุญพึมพำออกมาแบบนั้นจึงอดที่จะแซวไม่ได้ แหม่...มันช่างได้ผลดี เสียนี่กระไร เมื่อนักบุญหันมามองด้วยสายตาสับสน

"ใครคิดถึง ผมเปล่า คิดถึง"

"ปากแข็ง ระวังเขาจะหนีไปหาคนอื่น"

"เขากล้าเหรอ...เอ๊ะ?..." นักบุญประหลาดใจกับคำพูดของตัวเองที่แสดงออกมา เขาหึงอีกฝ่ายเหรอ เขา....

"อืม เขาคงไม่กล้าหรอกมั้ง เอางี้ไหมเดี๋ยวพี่เรียกเขาให้ เขาอยู่แถวๆนี้แหละ"

"จริงเหรอ" ด้วยความดีใจจึงแสดงออกมาจนเก็บอาการไม่อยู่

"ไม่ค่อยอยากเจอเลยนะ" น้ำเอ่ยแซว พลางกลั้นขำไปกับท่าทางของนักบุญ

จะว่าไปแล้วตั้งแต่ปฐพีไม่มาเยี่ยมเขาความจำเขาเริ่มทยอยกลับมาบ้างแล้วเพียงเล็กๆน้อยเพราะความคิดถึงเพียงคำเดียวที่ทำให้ความทรงจำที่ขาดหายไปนั้นเริ่มกลับมา มันคล้ายกับการต่อจิ๊กซอร์ยังไงยังงั้น เวลาเขาคิดถึงอีกฝ่ายมากเท่าไหร่ความทรงจำมันก็เป็นรูปเป็นเป็นร่างมากขึ้นเท่านั้น หากให้อีกฝ่ายสัมผัสตัวความจำเขาอาจกลับมาหมดก็เป็นได้.....



*******************************************************

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-04-2017 22:38:59 โดย Vammas »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Vammas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
สวัสดีค่าา ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกันนะคะ
ไรท์เข้าใจว่าอาจมีข้อผิดพลาดเยอะอยู่บ้างโดยเฉพาะคำผิด แฮะๆ
เพราะเป็นเรื่องแรกที่ไรท์ตั้งใจเขียนอย่างจริงจัง
ยังไงก็ฝากเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
สามารถคอมเม้น กล่าวติชมนิยายเรื่องได้นะคะ
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2017 21:18:53 โดย Vammas »

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ต้องให้ดินรื้อฟื้นด้วยร่างกาย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ Vammas

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
One Night with My Boss รักข้ามคืน



ตอนที่ 19 พะแพง&กิ่งแก้ว

บ้านของ พะแพง โชติรัตนทิศ

"ยัยแพงแกกลับมาไทยอีกทำไม แค่นี้ยังอับอายไม่พอหรือไง" คุณวสันต์ต่อว่าลูกสาวที่เขาอุตส่าห์ส่งไปต่างประเทศเมื่ออาทิตย์ก่อน เรื่องที่ลูกสาวของตนทำเอาไว้เป็นข่าวใหญ่โต แม้แต่เขายังไม่กล้าออกสังคมเพราะข่าวฉาวของลูกสาว

"อะไรกันคะคุณพ่อ กะอีแค่ข่าวแค่นี้แพงไม่ได้อับอายอะไรสักหน่อย คนมันสวย ก็ต้องมีคนมาชอบเยอะอยู่แล้วนี่คะ" ความจริงที่เธอกลับมาในครั้งนี้เธอตั้งใจจะมาเอาคืนปฐพีโดยเฉพาะ โดยใช้อาการความจำเสื่อมของนักบุญให้เป็นประโยชน์

เมื่อตอนที่เธอไปต่างประเทศและกลับมาไวนั้น เธอบังเอิญไปเจอกับกิ่งแก้วที่ไปเที่ยวที่นั่นด้วย เธอสองคนคุยถูกคอกันและเธอสองคนก็มีความคิดแบบเดียวกันคือการเอาคืนปฐพี ที่ไม่เห็นค่าเธอสองคน

"คุณพ่อคะ นี่กิ่งแก้ว เพื่อนพะแพงค่ะ"

"สวัสดีค่ะ" กิ่งแก้วยิ้มหวานยกมือไหว้คุณวสันต์ คุณวสันต์ยิ้มรับก่อนพูดว่า

"เป็นเพื่อนกับแพงทำไมพ่อไม่เคยเห็นหน้า"

"เราเจอกันตอนไปเที่ยวเมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะหนูไม่ได้มาหลอกแพงแน่นอน พอดีเรามีความชอบคล้ายๆกันเลยสนิทกันไวค่ะ"

"งั้นก็ตามสบายละกัน จะค้างนี่หรือเปล่า" คุณวสันต์ยิ้มกริ่ม

"ไม่ค่ะ เดี๋ยวกิ่งก็กลับแล้วค่ะ กิ่งแค่แวะมาส่งแพงเฉยๆ" เธอยังคงส่งยิ้มหวานให้คุณวสันต์

"งั้นลุงขอตัวก่อนนะพอดีมีธุระ"

"ค่ะ" เธอส่งยิ้มมองคุณวสันต์จนลับตาไป

"นี่ หล่อน ห้ามยุ่งกับพ่อฉันนะ" พะแพงพูดขัดขึ้นเมื่อเห็นกิ่งแก้วมองพ่อตัวเองตาไม่กระพริบ เพราะเธอรู้ว่าพ่อของเธอเองก็เจ้าชู้พอตัว ไม่เช่นนั้นแม่ของเธอคงไม่ขอหย่าพ่อของเธอหรอก

"แต่พ่อเธอ หล่อนะเนี่ย ขนาดอายุเยอะแล้วยังดูดีอยู่อะ" 

"ห้าม!!!" พะแพงขึ้นเสียงใส่อีกฝ่าย

"เออน่า พรุ่งนี้ฉันมารับไปโรงพยาบาลนะ" กิ่งแก้วตอบส่งๆ เพื่อตัดความรำคาญ "อือ" หลังกล่าวร่ำลากันเรียบร้อยกิ่งแก้วขับรถตรงกลับบ้าน

.

.

.

.

โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่นักบุญกำลังพักรักษาตัวอยู่ในขณะนี้ นักบุญมองออกนอกหน้าต่างพลางคิดเรื่องถึงเรื่องราวที่มันไหลย้อนเข้ามาในสมอง แม้เพียงเล็กน้อยแต่มันก็ทำให้เขายิ้มได้ ตอนนี้กาวออกไปทำธุระข้างนอกเขาจึงในห้องเพียงลำพัง ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น เสียงหวานๆแสนคุ้นเคยก็ดังขึ้นมา

"บุญ บุญเป็นอย่างไรบ้าง แพงเพิ่งกลับมาจากอเมริกาพอได้ข่าวแพงก็รีบมาเยี่ยมเลยนะ" หญิงสาวเดินเข้ามาโอบกอดนักบุญแสร้งอาลัยอาวรณ์อีกฝ่ายสุดฤทธิ์

"แพง มาได้ไงเนี่ย" นักบุญถามด้วยความแปลกใจ มองดูดูหญิงสาวด้วยท่าทางอึดอัดใจ เธอทิ้งเขาไปแล้ว แล้วกลับมาทำไมอีก

"แพงเป็นห่วงบุญ บุญรู้ไหมที่แพงเลิกกับบุญมันมีเหตุผลนะ"

"เหตุผล? เหตุผลอะไร"

"แพงโดนบังคับ ให้หมั้นกับพี่ดิน แพงเลยโดนพี่ดินบังคับให้เลิกกับบุญ" พะแพงบีบน้ำตาซบหน้าลงกับอกของนักบุญ

"จริงเหรอ"

"จริงสิ ฉันเป็นพยานได้นะ" กิ่งแก้วที่ดูต้นทางอยู่เดินเข้ามาเพื่อยืนยันอีกคน แม้สายตาจะไม่เชื่อแต่ผู้หญิงสองคนเอ่ยปากขนาดนี้คงจะเป็นเรื่องสินะ

"นี่ขนาดแพงจะเข้ามาเยี่ยมยังต้องรอพี่กาวออกไปก่อนเลย เพราะแพงโดนสั่งไม่ให้มาเยี่ยมบุญ ดูสิเจาร้ายกาจขนาดไหน เขาร้ายกาตกับแพงมากเลยนะ" พะแพงร้องห่มร้องไห้จนนักบุญใจอ่อน เริ่มยอมเชื่อ

"นี่บุญ ดูความร้ายกาจของเขาสิ" กิ่งแก้วเปิดข่าวฉาวของพะแพงให้นักบุญดู

"เขาจ้างคนมาใส่ร้ายแพง ให้แพงอับอายขายหน้าจนเป็นข่าวฉาวแบบนี้"

"เขาทำกับแพงแบบนั้นเหรอ เลวมาก"

"บุญ แพงเสียใจ" พะแพงกอดเอวนักบุญแน่น นักบุญจึงกอดปลอบหญิงสาวเอาไว้ จากเคยมีความรู้สึกดีๆให้อีกฝ่าย ตอนนี้ความรู้สึกนั้นได้หายไปแล้ว มีความรู้สึกเกลียดเข้ามาแทนที่ 

"บุญอย่ายอมให้ใครมาทำร้ายแพงอีกนะ" พะแพงก้มหน้าบีบน้ำตาแต่มุมปากกับยกขึ้นเหยียดยิ้มอย่างร้ายกาจ

ระหว่างนั้น ปฐพีถูกน้ำเรียกมาเนื่องจากนักบุญบอกว่าคิดถึง เขาระบายยิ้มมาตลอด แต่พอเดินเข้ามาในห้องก็ถึงกับนิ่งอึ้งใบหน้าที่มีรอยยิ้มหุบฉับลงเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงเมื่อเห็น พะแพงกับกิ่งแก้ว อยู่ในห้อง แล้วยังพะแพงที่โอบกอดนักบุญเอาไว้อีก มันทำคิ้วเขากระตุกจนทนไม่ไหว

"พวกเธอยังมีหน้ามาอีกเหรอ" ปฐพีเอ่ยเสียงเหี้ยม

"บุญ แพงกลัว" พะแพงแสร้งทำตัวสั่นเสียงสั่นหันไปกอดนักบุญไว้

"บุญดูสิ พวกเราแค่มาเยี่ยมบุญ พูดอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน" กิ่งแก้ว ช่วยเสริมเพื่อให้ดูหน้าเชื่อถือ พวกเธอขอแค่นักบุญมองปฐพีในแง่ร้ายนั้นถือว่าดีที่สุด

"ใครมันจะไปพูดดีด้วยกับผู้หญิงที่ผลักนักบุญตกบันไดจนเป็นแบบนี้" ปฐพีรีบเดินไปดึงตัวพะแพงออกให้ห่างจากตัวนักบุญ หญิงสาวก็แสร้งร้องห่มร้องไห้ จนนักบุญสงสาร

"แพงเปล่านะบุญ แพงไม่ได้ตั้งใจผลักบุญนะ" เธอพยายามจะเดินเข้าหานักบุญอีกครั้ง แต่ก็โดนปฐพีกันไว้ 

"ไม่ได้ตังใจอะไรกันไปดูกล้องวงจรปิดไหม"

"ก็ตอนนั้นแพงทะเลากับพี่ดินนี่ค่ะ บุญมาห้าม มาปลอบแต่ตอนนั้นแพงเสียใจมากที่โดนพี่ดินบังคับหมั้นเลยพาล ทำให้พลั้งมือผลักบุญตกบันได บุญเชื่อแพงนะ ฮือๆ" พะแพงพยายามร้องไห้ให้ดังขึ้นเพื่อเรียกคะแนนสงสาร

"อย่าไปฟังนะบุญ มันไม่ใช่ความจริง พี่ไม่ได้บังคับเขาให้มาหมั้นกับพี่"

"บุญ ไม่เชื่อก็ดูข่าวนี่สิ เพราะแพงไม่ยอมหมั้นเขาก็แจ้งคนมาใส่ร้ายแพงจนทำให้แพงอับอาย ฮือๆ"

"จริงๆนะบุญ เราเป็นพยานได้" กิ่งแก้วที่นิ่งอยู่นานเอ่ยกล่าวสมทยเพื่อให้คำพูดพะแพงดูน่าเชื่อขึ้น

นักบุญมองปฐพีสลับกับพะแพงไปมาจนขมวดตคิ้วมุ่น แล้วอาการปวดหัวของเขาก็กำเริบขึ้นมาอย่างกะทันหัน

"โอ๊ย! ปวดหัว โอ๊ยๆ ปวดหัว"

"บุญ บุญปวดหัวเหรอเดี๋ยวพี่ตามหมอให้นะ" ปฐพีรีบกดปุ่มฉุกเฉินเรียกพยาบาลทันทีเมื่อพยาบาลเข้ามาก็รีบฉีดยาคลายประสาทให้ นักบุญจึงเริ่มสงบ ลงด้วยอาการอ่อนเพลียแล้วหลับไป แต่สิ่งที่ปฐพีไม่เข้าใจทำไมกิ่งแก้วถึงมาอยู่ที่นี่ได้

พะแพงกับกิ่งแก้วเห็นท่าทางนักบุญไม่ค่อยดีเท่าไหร่จึงพากันหนีกลับมาอย่างรวดเร็ว พวกเธอหวังว่านักบุญจะจงเกลียดจงชังปฐพี ให้มากๆ ให้สมกับละครที่เธอเล่น พวกเธอสองคนแอบหัวเราะกันในใจ

.

.

.

ตกเย็นวันนั้น นักบุญลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปสดจี๊ดที่หัว เขามองไปรอบๆ เห็นปฐพี นั่งหลับอยู่ข้างๆก็รู้สึกดีแปลกๆ แต่พอนึกถึงคำพูดของพะแพง ในใจก็เจ็บแปลบขึ้นมา เขาจึงเบือนหน้าหนี หันไปมองนอกหน้าต่างแทนที่จะมองหน้าคนๆนี้ ปฐพีรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกถึงการขยับตัวของคนบนเตียง

"ขอโทษทีนะพี่เผลอหลับไป" ปฐพีส่งยิ้มยิงฟันขาวให้นักบุญ นักบุญเบ้ปากก่อนพูดออกไปว่า

"กลับได้แล้วมั้งครับ"

ปฐพีมองปฏิกิริยาคนตรงหน้าที่ดูแปลกๆไปก่อนเอื้อมมือไปเกาะกุมมืออีกฝ่ายแล้วถามนักบุญว่า

"บุญเชื่อสิ่งที่พวกนั้นเล่างั้นเหรอ"

"ถ้าไม่มีมูลเขาคงไม่พูด ผู้หญิงสองคนยืนยันขนาดนั้น ทั้งยังร้องห่มร้องไห้ พี่ว่าน่าเชื่อถือไหมครับ" นักบุญส่งสายตาดูแคลนให้อีกฝ่าย

"พี่เป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้เลยเหรอ บุญไม่เชื่อใจงั้นเหรอ"

"ขอโทษนะครับ กลับไปเถอะผมอยากอยู่คนเดียว" นักบุญล้มตัวนอนตะแคงหันหลังให้กับปฐพี

"บุญ..." เสียงเรียกชื่ออันแผ่วเบา เอื้อนเอ่ยออกมาคล้ายการตัดพ้อต่อว่า แต่ก็ไม่มีคำใดหลุดออกมนอกจากการเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ปฐพีเดินออกจากห้องด้วยอารมณ์ที่หดหู่ เศร้าหมอง ไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกอีกฝ่ายเข้าใจผิดด้วยเรื่องที่แต่งขึ้นมา หากนักบุญ ไม่ความจำเสื่อมก็คงเชื่อใจเขามากกว่านี้หรือเปล่า...

.

.

.

.

เดือนที่ 3ของการรักษาตัวของนักบุญ นักบุญหายดีแล้ว เฝือกที่แขนถูกเปลี่ยนเป็นเฝือกอ่อนที่ใส่ไว้ชั่วคราว

"อาทิตย์หน้าจะได้กลับบ้านแล้ว ดีใจจัง" นักบุญยิ้มร่าให้เฮียกาว กับน้ำ เขาอยากออกจากโรงพยาบาลแทบแย่อยู่โรงพยาบาลมาตั้ง3เดือน รู้สึกคิดถึงบ้านเอามากๆเลย

"บุญ ให้พี่ดินมารับกลับหรือเปล่า" น้ำถามขึ้น

"ทำไมผมต้องให้เขามารับด้วยล่ะ" นักบุญหันมาถามด้วยความสงสัย

"อ้าวไอ้นี่ มึงอยู่คอนโดเดียวกันแล้วทำไมไม่ให้เขามารับล่ะ" เฮียกาวเอ่ยทักท้วง

"บ้าเหรอ ผมอยู่ที่ร้านเฮียไม่ใช่เหรอ" นักบุญตีหน้ามึนใส่ บอกตัวเองอาศัยอยู่ที่ร้านเฮียกาว ระหว่างนั้นพะแพงก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมส่งเสียงหวานจนขัดหูขัดตา กาวกับน้ำ

"บุญญญ แพงมาเยี่ยมจ้า แพงซื้อผลไม้มาฝากด้วยน้า มีแต่ของชอบของบุญทั้งนั้นเลยนะ" พะแพงเอ่ยยิ้มๆชูตะกร้าใส่ผลไม้ให้ดู

"เธอมาที่นี่ทำไม" กาว ถามพะแพงด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์พอๆกับน้ำ

"แพงแค่มาเยี่ยมบุญค่ะพี่กาว" หญิงสาวยิ้มร่าเหมือนกับเธอไม่ได้ทำผิดอะไร

"ทุกคนเป็นอะไรไปครับ ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนั้นล่ะ" นักบุญเห็นสีหน้าไม่พอใจของทุกคนยกเว้นพะแพง จึงได้ถามขึ้น กาวกับน้ำแต่ทำสีหน้ากระอักกระอ่วนใจไม่รู้จะพูดกล่าวอะไรออกมา จึงได้แต่ส่ายหน้าไปมา

"ถ้าไม่มีอะไร  งั้นเดี๋ยวแพงปอกสาลี่หวานๆให้ทานนะ" พะแพงเปลี่ยนประเด็นดึงความสนใจนักบุญ นักบุญได้แต่พยักหน้าน้อยๆเพื่อรับคำ พะแพงจัดแจงหยิยสาลี่สองสามลูกไปที่อ่างล้างจาน ค่อยปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำมาให้นักบุญ ทำราวกับว่ากบับมาเป็นคนรักของนักบุญเหมือนเดิมแล้วอย่างไรอย่างนั้น

"บุญ"

"ครับ" นักบุญขานรับพี่ชายตน

"พี่กับน้ำขอไปทำธุระกันก่อนนะ มีอะไรโทรหาพี่นะ"

"อืม" นักบุญรับคำมองส่ง กาวกับน้ำเดินออกนอกประตูห้องไป

"บุญทานสิแพงป้อน" พะแพงยื่นสาลี่มาจ่อที่ปากของนักบุญ แต่เป็นนักบุญเองที่ปัดมือที่ยื่นสาลี่ออกไปเบาๆ

"พอเถอะ เราไม่อยากทาน"

"ทำไมล่ะ บุญไม่ชอบเหรอ แต่แพงจำได้นะว่าบุญชอบทานสาลี่มากๆ"

"ใช่เราชอบ แต่ตอนนี้เราไม่อยากทาน"  แม้พะแพงพยายามทำดีสักเท่าไหร่ นักบุญกับแน่ใจว่าสิ่งที่เธอที่ทำนั้นไม่ได้มาจากใจจริงแม้แต่น้อย

"ทำไมล่ะ"

"พอเถอแพง ไม่ต้องฝืนทำหรอก ความจริงเราจำทุกอย่างได้หมดแล้ว แค่ไม่อยากพูดเท่านั้น" พะแพงหน้าซีดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดแต่เธอก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงจ้องมองนักบุญด้วยสายตาไม่เป็นมิตร

"แกจำได้ตั้งแต่เมื่อไหร่" 

"เมื่อวาน ตอนที่พวกเธอมาเยี่ยมแล้วเล่าเรื่องโกหกพวกนั้น"

"อ่อ ที่แท้การที่จะทำให้แกโกรธไอ้ย้านั้นแต่กลายเป็นทำให้ฟื้นความจำงั้นสิ"

พะแพงกัดฟันกรอดเพราะไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำจะไปกระตุ้นความจำของนักบุญ จนฟื้นกลับมา นี่มันความผิดพลาดชัดๆ นักบุญมองมาที่เธอด้วยสายตาเรียบเฉย

"ความจริงเราต้องขอบคุณแพงนะ ที่ทำให้เราความจำกลับมา" นักบุญเผยรอยยิ้มให้พะแพงด้วยความขอบคุณ แต่อีกฝ่ายกับมองว่ารอยยิ้มคือรอยยิ้มแห่งการเยาะเย้ยเธอ มือบางฟาดเข้าที่หน้าของนักบุญจนเกิดเสียงดัง

เพี๊ยะ!!!

"นี่แก...กำลังยิ้มเยาะเย้ยฉันอยู่ใช่ไหม" พะแพงหวีดเสียงใส่นักบุญ 

"เปล่านะ แพงใจเย็นสิ แพง สงบอารมณ์หน่อย"

"ไม่! เพราะแก ฉันถึงเป็นแบบนี้ ถ้าไม่มีแก ถ้าไม่มี เขาอาจสนใจฉันก็ได้" พะแพงคล้ายคนเสียสติ มองซ้ายมองขวา หาอะไรบางอย่าง เมื่อสายตาเธอไปชะงักอยู่ที่อ่างล้างจานแล้วยิ้มอย่างน่ารังเกียจออกมา ก่อนเดินไปที่อ่างล้างจาน นักบุญมองตามสายตาของเธอ เขาก็ต้องหน้าซีดขึ้นมา  พะแพงคิดจะใช้มีดปอกผลไม้กับเขา

นักบุญเอื้อมมือไปกดสัญญาณฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนปลดสายน้ำเกลือที่แขนตัวเอง เลือดสีแดงไหลหยดออกมาจากรอยเข็มที่ดึงเขากุมแขนแน่น พยายามดันตัวเองลงจากเตียงแต่ด้วยความที่ไม่ขยับขาตัวเองเป็นเวลานานพอสองเท้าเหยียบลงพื้นเข่าเขาอ่อนทรุดฮวบลงกับพื้นเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง พะแพงเดินกลับมาแล้วในมือกำมีดปลายแหลมเอาไว้แน่นเดินตรงมาทางนักบุญที่นั่งกองอยู่ที่พื้น พยายามดันตัวให้ลุกยืน แต่ปลายแหลมของมีดก็เฉียดเข้าที่ขาจนเสียวแปล๊บ เชี่ย เอ๊ย แม่ง ดีนะแค่เฉียดๆ ถ้าไม่เฉียด ขากูเหวอะแน่ๆ

"คิกคิก บุญจะรีบไปไหนอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับแพงก่อน คิกคิก" ใบหน้าพะแพงเปื้อนยิ้ม แต่ปลายมีดกลับมีหยดเลือดหยดลงพื้น โอ๊ย...มึงจะโรคจิตไปไหนเนี่ย นักบุญถอยร่นจนติดประตู ทำไมพยาบาลมาช้าจังวะ แม่ง มาไวๆหน่อยเถอะ กูไม่อยากกลายเป็นศพนะเว้ย! นักบุญยันตัวขึ้นใช้มือบิดลูกเพื่อเปิดประตู แต่ยังไม่ทันได้เปิด พะแพงก็ใข้มือตะปบขาเขาไว้ ออกแรงดึงจนเขาล้มจนเกิดเสียงดัง

พลั่ก!!!

"โอ๊ย!!!" นักยุญร้องโอดโอยเมื่อหน้าของตัวเองกระแทกเข้ากับพื้นห้อง

"คิดจะหนีงั้นเหรอ" นักบุญพยายามพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับพะแพงเมื่อเห็นหญิงสาวง้างมีดจะแทงตัวจึงใช้เท้าถีบอีกฝ่ายจนกระเด็นออกไปเขารีบลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตู เมื่อเปิดประตูออกมาได้ ตัวเขาก็ถูกรวบเอาไว้โดยใครบ้างคน

"เจ็บตรงไหนไหมบุญ" เสียงกระซิบข้างหูแสนคุ้นเคย

"พี่ดิน ระวังนะระวัง" นักบุญเหลือบไปเห็นพะแพงที่พุ่งตัวออกมาจากห้อง หมายจะแทงนักบุญให้ตายคามือ ปฐพี ผลักนักบุญออกจากทิศทางของปลายมีด

นักบุญหลบได้อย่างหวุดหวิดแต่ปฐพีกับโดนปลายมีดบาดเข้าที่แขนจนเลือดออก เขาคว้าข้อมือพะแพงล็อคตัวหล่อนไม่ให้ขยับ นักบุญรีบวิ่งไปจอความช่วยเหลือจากคนอื่น เมื่อพยาบาลและคนอื่นๆเห็นสภาพนักบุญที่วิ่งเข้ามาขอความข่วยเหลือก็พากันตกใจ บุรุษพยาบาลตามไปช่วยปฐพีจับพะแพง แต่ก็รั้งตัวเธอไว้ไม่อยู่ ทั้งๆที่เธอตัวนิดเดียวและพะแพงหนีไปได้ ทางโรงพยาบาลจึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตามจับพะแพง

"บุญไม่เป็นอะไรนะ" ปฐพีถามด้วยความเป็นห่วง

"พี่ดินต่างหากไม่เป็นไรใช่ไหม" 

"อืม ไม่เป็นไร แค่จิ๊บๆไกลหัวใจ" ปฐพีส่งยิ้มละไมให้นักบุญ

"ดีจังที่ไม่เป็นอะไร ฮึกๆ ฮือๆ" นักบุญปล่อยโฮออกมา เข้าสวมกอดปฐพีจากด้านจ้างด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งกลัว ทั้งดีใจ

.

.

.

.

ทางด้านพะแพงคล้ายคนเสียสติขับรถกลับมาบ้านด้วยความเร็ว เมื่อจอดรถ ก็รีบเดินเข้าบ้านในมือยังคงกำมีดเปื้อนเลือดไว้แน่น เธอเดินตรงขึ้นชั้นสองของบ้าน แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของผู้หญิงที่คุ้นหูออกมาจากห้องพ่อของเธอเอง เธอเดินมาหยุดหน้าห้อง เห็นประตูเปิดแง้มไม่ได้ล็อค เมื่อรอดเข้าไปจึงเห็นผู้เป็นพ่อโอบกอดหญิงสาวรุ่นลูกเอาไว้ เธอจำได้แม่นว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร มีดในมือร่วงหล่นจากมือ เธอไม่คิดว่าเพื่อนที่เธอพามาช่วยเรื่องปฐพีกับนักบุญจะกล้ามายุ่งเกี่ยวกับพ่อของเธอ

เคร้ง!!!

"กรี๊ดดดด....ยัยกิ่งแก้ว!!! แก...มายั่วพ่อฉันทำไม" 

"อุ๊ย...ดูสิใครมา" กิ่งแก้วยังใช้สองมือคล้องคอคุณวสันต์แน่น ฉีกยิ้มให้กับพะแพง

"แกเอามือออกจากพ่อฉันเดี๋ยวนี้นะ" พะแพงดึงตัวกิ่งแก้วออกจากพ่อตัวเอง

"ยัยแพง!!! หยุดนะ" คุณวสันต์เดินเข้ามาดึงกิ่งแก้วไว้ในอ้อมอก ผลักพะแพงให้ล้มลงไปบริเวณหน้าประตู

"คุณพ่อ!!! ปกป้องมัน" พะแพงล้มลงมือทาบเข้ากับมีดที่ตัวเองทำหล่นเอาไว้ 

"พ่อแค่อยากให้แกสงบความบ้าเอาไว้"

"ไหนคุณพ่อบอกว่าจะไม่พาใครมาทำเรื่องแบบนั้นที่นี่ไงคะ" พะแพงเสียงสั่นเครือมองพ่อของตัวเองด้วยความผิดหวัง

"อุ๊ย! แพงเรายังไม่ทันทำอะไรเลยนะ จริงไหมค่ะคุณพี่ อุ๊ยไม่ใช่ คุณลุง"

"ใช่ๆ แพงอย่าเข้าใจผิด" คุณวสันต์รีบแก้ตัว 

"ไม่!...แพงไม่ฟัง คุณพ่อโกหก คุณพ่อโกหก" สองมือกุมมีดแน่น

"ถ้ายังไงกิ่งขอตัวก่อนดีกว่านะคะ" ก่อนไปกิ่งแก้วยื่นหน้าไปกระซิบอะไรบ้างอย่างกับคุณวสันต์ ในขณะที่ไม่มีใครสนใจพะแพงนั้น พะแพงจึงใข้มีดในมือแทงเข้ากลางหลังกิ่งแก้ว

"นี่คือการตอบแทนที่แกบังอาจมายุ่งกับพ่อฉัน"
พะแพงยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูกิ่งแก้วก่อนบิดปลายมีดให้แทงเข้าไปให้ลึกยิ่งกว่าเดิม

"ยัยแพง แกทำอะไรลงไป!" คุณวสันต์ตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นร่างของกิ่งแก้วรูดลงเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง เขาไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะกล้าทำอะไรแบบนี้ พะแพงดึงมีดออกจากร่างของกิ่งแก้วที่ตอนนี้หอบหายใจรวยริน เธอหันมีดเข้าหาพ่อตัวเอง แล้วพูดขึ้นว่า

"คุณก็ควรเป็นแบบผู้หญิงคนนี้" พะแพงว้างมีจะแทงผู้เป็นพ่อ แต่ก็โดนเพียงถากๆ คุณวสันต์คว้ามือพะแพง ก่อนตบหน้าลูกสาวไปหนึ่งที พะแพงที่ยังกำด้ามมีดแน่น หันมามองผู้เป็นพ่อก่อนวิ่งหนีออกจากห้อง ผู้เป็นพ่อเองก็ตามเธอไปติดๆ หวังจะแย่งมีดจากลูกสาว

"ยัยแพงหยุดเดี๋ยวนี้นะ ยัยแพง!!!" คุณวสันต์ตะโกนเสียงลั่น พะแพงหันมามองเพียงเสี้ยววิทำให้เธอสะดุดตกบันใดลงมาปลายมีดที่ถือหันเข้าหาตัวพอเมื่อตกลงถึงขั้นสุดท้ายปลายมีดแทงเข้าที่ลำคอทะลุไปถึงท้ายทอยพอดี คุณวสันต์เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างได้แต่ยืนนื่งอึ้ง เมื่อเห็นลูกสาวตัวเองตายต่อหน้าต่อตา คุณวสันต์เสียสติสุดๆเดินเข้าห้องคว้า ปืนในลิ้นชักเหนี่ยวไกตายตามลูกสาวไปอีกคน

หลังจากนั้น เรืองการตายของครอบครัว โชติรัตนทิศ ก็ดังจนเป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะตำรวจไม่สามารถจับคนร้ายได้เพราะคนร้ายดันมาตายในที่เกิดเหตุเหมือนกัน ข่าวจบแบบคุมเครือ ไม่ได้ข้อที่เท็จจริง หลายคนจึงสรุปว่า พะแพงเสียสติเพราะถูกแฉเรื่องข่าวฉาวเลยไปแก้แค้นคู่หมั้นแต่พลาดจึงหันไปทำร้ายครอบครัวตัวเองจนตัวเองต้องตกตายอย่างอนาจเช่นนี้.....ขออโหสิกรรมด้วยนะ พะแพง กิ่งแก้ว และคุณวสันต์....

***********************************************************

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2017 21:27:40 โดย Vammas »

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :hao7: น่ากลัวจริงๆ ตอนนี้

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
จุดจบตัวร้ายโหดมากกกกก

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ ashbyipcet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
โหยตายง่ายจัง อยากให้นางค่อยๆตายอย่างช้าๆจะสะใจกว่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด