❤ค่ายสร้างรัก❤ [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ค่ายสร้างรัก❤ [END]  (อ่าน 624863 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ Mariinariiz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ GAZESL

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
ซึ้งอ่ะ ซึ้งมากมายเลยตอนนี้  :monkeysad:
ยินดีกับพี่ปืนน้องแรกด้วยนะ

ออฟไลน์ [Karnsaii]

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +523/-17





- ไปค่ายตอนที่ยี่สิบสี่ : จากพี่ปืนถึงเมียพี่ปืน(1) -





         ผมชื่อปืน!!

         แต่ชื่อในบัตรประชาชนที่ใช้มาตั้งแต่เกิดคือ ‘กัน อิสระวรวณิต’

         เอาจริงๆ นะ สำหรับชื่อผมเนี่ยดูจะเป็นประเด็นปัญหามาตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ ไอ้ปัญหาขัดแย้งที่ว่าเนี่ยเกิดจากพ่อและปู่ของผมที่ทะเลาะกันอย่างจริงจังในการตั้งชื่อ พ่อผมเป็นคนที่คลั่งไคล้เกี่ยวกับกีฬายิงปืนเป็นอย่างมาก ได้ยินจากแม่ว่าพ่อผมเนี่ยคืออดีตนักกีฬายิงปืนที่เกือบได้ติดทีมชาติแล้วถ้าหากว่าปู่จะไม่ลากคอมามาดูแลกิจการที่บ้านต่อ พ่อผมเลยจำใจทิ้งความฝันนั้นแล้วตั้งชื่อผมเป็นอนุสรณ์ถึงสิ่งที่ท่านรัก แต่นั่นเป็นเหตุให้บ้านแตกเพราะปู่ดันหลงใหลทุกอย่างที่เป็นไทยๆ ไม่ยินยอมหากจะใช้ชื่อ ‘กัน’ เป็นชื่อจริงของผม

        สุดท้ายทั้งคู่พบกันคนละครึ่งทางโดยปู่ยินยอมให้มีชื่อเล่นว่า ‘ปืน’ และใช้ชื่อจริงที่มีความหมายเดียวกับชื่อเล่นว่า ‘กัน’ ผมเลยมีทั้งชื่อเล่นและชื่อจริงที่มีความหมายเดียวกันให้คนทั่วไปงุนงงสงสัยเล่นๆ นั่นแหละจึงเป็นที่มาของชื่อผม

        ชีวิตผมตั้งแต่เด็กจนโตของผมไม่มีอะไรมาก ผมใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปโดยที่มีสายตาจับจ้องจากคนภายนอก ตอนเด็กๆ ผมไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกว่าเวลาไปไหนหรือทำอะไรทำไมคนทั่วไปถึงสนใจชีวิตผมนัก เพิ่งจะมารับรู้เอาตอนที่รู้ความนี่แหละว่าบ้านผมค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงสังคม แต่ก็นั่นแหละ ผมทำอะไรสนใจใครที่ไหนเล่าไม่งั้นจะโดนแม่หมายหัวแบบนี้หรอครับ

        ในบรรดาพี่น้องสามคนที่ผมเป็นพี่ชายคนโตและมีน้องชายและน้องสาวอย่างละคน ผมว่าผมเป็นคนที่ค่อนข้างหัวดื้อที่สุดในบรรดาพี่น้องเลยโดนแม่ซึ่งค่อนขอดพ่อประจำว่าเพราะตั้งชื่อให้ผมดุดันแบบนี้ไง ผมถึงโตขึ้นทำตัวไม่สนโลกแบบนี้

        โธ่แม่ครับ! มันไม่เกี่ยวกับชื่อหรอกมันเป็นที่สันดานผมเอง

        ผมมีเพื่อนสนิทที่มองตากันก็เห็นถึงสันดานข้างในอยู่สามคน และไอ้สามตัวที่ว่าเนี่ยสนิทกันมาตั้งแต่ประถมเลยรู้นิสัยรู้สันดานกันแบบปิดยังไงก็ไม่มิด ไอ้ห่าเม่นนี่คือตัวขี้หลีลูกเจ้าของร้านทองเยาวราชที่กลัวมาม๊ามันจนขี้ขึ้นสมองแต่พอได้แท็คทีมกับไอ้นะโมนี่พูดเลยว่ามันแซวกันจนคนถูกแซวอายจนไปไม่เป็น ใครจะคิดว่าไอ้แว่นท่าทางซื่อๆ อย่างไอ้นะโมมันจะปากดีได้ขนาดนี้  ส่วนคนสุดท้ายที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยที่แคะขี้มูกออกแล้วหยิบใส่ปากคือไอ้ไกด์

        ผมกับไอ้ไกด์รู้จักกันตั้งแต่เกิดก็ว่าได้เพราะพ่อผมกับพ่อมันเป็นเพื่อนสนิทกัน พ่อมันเป็นอดีตกัปตันก่อนจะผันตัวเองมาเป็นผู้บริหารสายการบินพาณิชย์ชื่อดังระดับประเทศ และเพราะพ่อมันกับพ่อผมเคยหนีเมียไปซ้อมยิงปืนกันเป็นประจำโดยหนีบเอาพวกผมไปด้วย ดังนั้นผมกับมันเลยสนิทกันมาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ที่มันตัดผมสกิดเฮดมาทีเดียวสาวมองกันจนตากลับ

         ชีวิตของผมยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงวันหนึ่ง วันที่ผมถูกไอ้สามตัวนั่นลากไปเล่นสงกรานต์ที่สยามหลังจากที่ผมเพิ่งเลิกกับแฟนสาวไปหมาดๆ ตอนปิดเทอมใหญ่หลังกลับจากค่าย ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันสงกรานต์วันแรกในเวลาราวบ่ายแก่ๆ  ขณะที่นั่งมองไอ้พวกห่านั่นป้อสาว เด็กผู้ชายตัวขาวท่าทางขี้ก้างคนหนึ่งที่ถูกแปะแป้งจนขาววอกทั้งตัวทั้งหน้ากำลังหันรีหันขวางเพื่อหาช่องทางหนีวัยรุ่นแก๊งใหญ่ที่ไล่ปะแป้งมาแต่ไกล

         ผมนึกภาพสีหน้าของเด็กนั่นไม่ออกหรอกแต่ถ้าให้คาดเดาคงกำลังทำหน้าเบ้เหมือนจะร้องไห้อยู่เต็มแก่ วินาทีนั้นผมคิดยังไงไม่รู้เข้าไปช่วยไอ้เด็กนั่นและถามจนได้ความว่ามาเที่ยวสงกรานต์กับเพื่อนผู้ชายอีกสองคนก่อนจะพลัดหลงกันระหว่างทาง ไม่นานหลังจากนั้นเด็กพวกนั้นก็ตามหากันจนเจอ ก่อนจะจากลาไป ผมบังเอิญหันไปเห็นใบหน้าขาวผ่องที่เพื่อนๆ น้องมันช่วยกันเอาน้ำเปล่ามาล้างจนสะอาด

        หน้าตาน่ารักดีนี่หว่า!!

         เรื่องราวในวันนั้นผ่านเลยไปจนผมเกือบลืมมันไป และผมเชื่อว่าเด็กนั่นก็คงจะจำผมไม่ได้เช่นกันก็วันนั้นผมเล่นไว้เคราเสียยาว ผมเผ้าก็รุงรังเพราะเพิ่งกลับมาจากการไปทำค่ายมาหมาดๆ เรียกว่าสภาพผมในตอนนั้นอย่างกะมหาโจรเหมือนที่ช่วงนั้นแม่ค่อนขอดผมทุกวี่วัน

         และสภาพอย่างนั้นใครจะไปจำกันได้!

         เวลาผ่านไปไม่นานผมได้มีโอกาสวนกลับมาเจอเด็กนี่อีกครั้ง ช่วงที่รอเปิดเทอมขึ้นปีสองเหลือเวลาว่างราวๆ สัปดาห์กว่าๆ แม่ผมสั่งไปรับไปส่งน้องสาวที่ไปเรียนพิเศษที่สยามทุกวัน และบังเอิญยิ่งไปกว่านั้นคือไอ้เด็กนั่นกับเพื่อนสนิทผู้ชายอีกสองคนก็เรียนที่เดียวกับน้องสาวของผม ในตอนแรกที่เห็นก็เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเพราะเด็กนั่นก็เหมือนใช้ชีวิตวัยรุ่นแบบปกติทั่วไป

         ...จนกระทั่งวันหนึ่งในร้านกาแฟที่ผมมานั่งรอน้องสาวเป็นประจำ...

         “อ๊ะ”

          ผมหันขวับไปมองเจ้าของมือที่กำลังจับที่คีบขนมปังมาชนกับอันที่ผมถืออยู่ นั่นหมายความว่าเรากำลังเล็งขนมปังเนยสดชิ้นสุดท้ายในถาดเหมือนกัน ผมเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายที่หน้าเหยเกดูจะทั้งตกใจและแอบผิดหวังไม่น้อยเพราะผมคีบไอ้ขนมปังนั่นได้ก่อน

          เด็กนั่นแบะปากเล็กน้อยก่อนจะยิ้มจืดๆ ให้ผมท่าทางเหมือนหมาหงอย หางลู่หูตกดูน่าเอ็นดูไม่หยอกถึงแม้จะเป็นเด็กผู้ชายก็เถอะ แต่ไอ้เด็กนี่คงเป็นตัวแทนของผู้ชายหน้าตาน่ารักผิดเพศ ซ้ำสัดส่วนยังดูสันทัดไม่เข้ากับเพื่อนมันแม้แต่น้อย คิดดูนะว่าไอ้หล่อสองคนนั้นคนหนึ่งสูงล่ำท่าทางเหมือนนักรักบี้ อีกคนสูงโปร่งขาวอย่างกะเกาหลี ส่วนเด็กนี่เวลายืนอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนมันแล้วเหมือนหลุมอากาศยังไงยังนั้น

          “เอ่อ ขอโทษครับ”

         ฝ่ายตรงข้ามถอยมือออกไปก่อนจะก้มศีรษะขอโทษขอโพยผม แต่แววตาที่ทอดมองขนมปังนั่นตาละห้อยดูตลกดี ผมว่าเด็กนี่แม่งหน้าตาโคตรน่าแกล้งให้ร้องไห้ฉิบหาย ตอนนั้นผมเลยทำหน้านิ่งไม่ได้พูดได้จาอะไร ยิ่งวันนั้นผมสวมแมชปิดปากเพราะไม่สบายตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน ท่าทางไม่เป็นมิตรของผมคงทำให้เด็กนั่นกลัวเลยเตรียมล่าถอยไป

         พอได้ลองแหย่มันจนพอใจแล้วหยิบขนมปังอย่างอื่นมาชำระเงินด้วย ก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วสะกิดเรียกมันก่อนจะยื่นขนมปังเนยสดเมนูของหวานที่ผมเกลียดที่สุดแต่ต้องจำใจมาซื้อให้น้องสาวทุกวัน แต่วันนี้เห็นทีน้องผมคงต้องกินขนมปังรสอื่นที่ผมซื้อมาเผื่อแล้วล่ะ

         “ครับ?”

        เด็กนั่นทำตาโตมองผมก่อนจะเอียงคอแล้วทำตาปริบๆ เมื่อเห็นขนมปังในมือผมที่ยื่นอยู่ตรงหน้า

         “เอาไปสิ”

         “แต่ว่า”

         “ให้”

         “หือ?”

         ผมไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับเลยวางขนมปังนั่นไว้บนโต๊ะมันก่อนจะเดินกลับมาโต๊ะตัวเองที่อยู่อีกมุม แล้วเริ่มเปิดหนังสืออ่านรอน้องสาว โดยที่ไม่ได้คิดว่านั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจไอ้เด็กนั่นที่วิ่งดุ๊กๆ ตามมานั่งโต๊ะเดียวกับผม

         “ผมขอนั่งด้วยนะครับ”

         “......”

          มันยังไม่ทันรอให้ผมตอบด้วยซ้ำ ก่อนหย่อนตูดลงนั่งแล้วยิ้มแป้นแล้นให้ เท่านั้นไม่พอยังอุตส่าห์แบ่งขนมปังต้นเหตุนั่นเป็นสองส่วนโดยยื่นส่วนหนึ่งของผม วินาทีนั้นผมถึงกับเผลอยิ้มกับท่าทางของเด็กนั่น

          “แบ่งกันครับ”

          “......”

          ผมส่ายหน้าปฏิเสธตอนที่ฝ่ายตรงข้ามเลื่อนส่วนแบ่งมาให้ เด็กนั่นหน้ายู่ไปเล็กน้อยก่อนจะพยายามคะยั้นคะยอให้ผมกินด้วย สุดท้ายตื้อผมยังไงก็ไม่ได้ผลเลยเอาขนมส่วนนั้นไปนั่งกินเองเลย

          เด็กน้อยเอ้ย!

          เรื่องราวมันไม่ได้จบอยู่แค่นั้นผมคิดว่าหลังชวนกินขนมเสร็จแล้วมันจะยอมล่าถอยกลับไป ที่ไหนได้ดันนั่งชวนคนแปลกหน้าที่นั่งปิดแมชตรงปากอย่างผมคุยเฉย ผมได้แต่ตอบอือๆ อาๆ ไปตามเรื่องตามราวแต่เสียงเจื้อยแจ้วนี่ก็ไม่หยุดสักทีราวๆ เกือบครึ่งชั่วโมงนั่นแหละที่เด็กนั่นยอมล่าถอยออกไปเพราะเพื่อนโทรตาม

         ถึงอย่างนั้นตลอดเวลาครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาผมได้รู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเด็กนี่หลายอย่าง อาทิว่ามันมาเรียนพิเศษช่วงปิดเทอมทุกวันกับเพื่อนสนิทสองคนซึ่งวันนั้นเพื่อนมันสองคนมาช้าพอดี ไอ้เด็กหน้าขาวนี่ชอบกินขนมทุกชนิดเป็นชีวิตจิตใจเลยมารอเพื่อนมันที่ร้านนี้ และมันยังมีเป้าหมายว่าจะสอบเข้าคณะและมหาวิทยาลัยที่เดียวกับผมให้ได้ มันเป็นครึ่งชั่วโมงที่เด็กประหลาดคายความลับส่วนตัวให้คนแปลกหน้าอย่างผมซึ่งถามคำตอบคำ

         ทุกถ้อยคำที่ถูกถ่ายทอดออกมานั่นทำให้ผมรู้จักเด็กคนนั้นพอสมควร แต่น่าเสียดายที่แม้จะรู้พื้นฐานของมันทุกอย่าง แต่ก็มีข้อยกเว้นที่ผมดันลืมถามคือ ‘ชื่อ’ เจ้าตัวมัน แต่ก็นั่นแหละเพราะมีน้องสาวเรียนพิเศษที่เดียวกันผมเลยไปหลอกถามจนได้คำตอบ ทีแรก ‘ปิ่น’ น้องสาวผมก็สงสัยเล็กน้อยว่าทำไมผมถึงสนใจเด็กจากโรงเรียนชายล้วนคนนั้น

           เด็กเด็กประหลาดที่มีรอยยิ้มน่ามองที่ชื่อ ‘แรกพบ สิทธิวัจน์’

           ผมถามตัวเองมาตลอดว่าเพราะมีอาการข้างเคียงจากการเลิกรากับแฟนเก่าหรือเปล่าถึงได้รู้สึกว่าอยากประชดชีวิตด้วยการเบี่ยงเบนหันมาสนใจเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก แต่ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นเพียงแค่สนใจเพราะยังไม่เคยเจอใครที่มีบุคลิกน่าเอ็นดูขนาดนั้น

           “กูเจอเฟสน้องเขาแล้ว”

          ไอ้เม่นยิ้มกริ่มก่อนจะโบกโทรศัพท์ในมือมันเป็นเชิงล้อเลียน ไม่นานหลังจากนั้นไอ้พวกห่านั่นก็มุงดูเฟสบุ๊คส่วนตัวของใครบางคนที่เปิดเป็นสาธารณะ ผมคลึงขมับถอนหายใจแรงๆ ให้ตายเถอะ อุตส่าห์ทำเฉยไม่ปริปากเล่าให้พวกมัน พวกแม่งยังเสือกไปขุดคุ้ยจนเรื่องมันแดงและไอ้เม่นกับไอ้นะโมก็ไม่รอช้าทั้งเสือกทั้งสืบเรื่องของเด็กนั่นทันที

          “พวกมึงนี่ขี้เสือกจังวะ”

          “เอ้าๆ” ไอ้เม่นพูดขำๆ “พูดดีๆ ไอ้ห่าปืนกูอุตส่าห์ไปสืบหาเฟสน้องเค้ามาได้แทนที่จะขอบคุณกู”

          “ขอบคุณเหี้ยอะไร”

          “อย่ามาไขสือก็เห็นมองเหม่อบ่อยๆ กว่าจะหลอกถามน้องปิ่นว่าทำไมช่วงนี้มึงดูมีอะไรแปลกๆ รึเปล่า และกว่าน้องสาวมึงจะเปิดปาก นี่ไม่รวมที่กูแอบสังเกตอาการมึงพร้อมๆ กับสืบเรื่องไอ้น้องน่ารักนั่นอีก”

          “ถ้าไม่ใช่ก็เถียงสิ”

          ไอ้นะโมมันท้าเย้วๆ ผมเลยหันไปสบตาไอ้ไกด์ที่แค่ไหวไหล่ทำเฉยไม่คิดจะช่วยอะไรกูเลยไอ้เพื่อนห่า

           “ไร้สาระ”

           “น้องแรกพบ แหมะ! แค่ชื่อก็กินขาดแล้วว่ามั้ยไอ้ปืน”

           ไอ้ห่าเม่นทำตาพราวระยับ

           “หน้าตาโคตรน่ารัก ยิ้มทีละลายเลยสัดเอ้ย”

           “โอโห โพสว่าอยากสอบติดคณะเราด้วย”

           “เออเว้ยหรือจะเป็นพรหมลิขิต”

           “พอ! ไอ้สัด!”

           ผมชี้หน้าพวกมันที่พร้อมใจกันปิดปากหัวเราะร่วนท่าทางโคตรกวนตีน

           “ถ้าน้องมันน่ารักขนาดนี้ต่อให้เป็นผู้ชายพวกกูก็สนับสนุนให้มึงจีบนะ”

           “ลองดูไอ้ปืน..นี่คือโลกใบใหม่ที่รอให้มึงค้นพบ”

           ไอ้ห่านะโม!

          “หุบปากเลยสัดแล้วเลิกดูเฟสน้องเขาได้แล้วกูไม่ได้คิดห่าอะไรทั้งนั้นแหละ”

          “เอาความจริง?”

          ผมถอนหายใจในตอนนั้นผมแค่รู้สึกว่าเด็กนี่ประหลาดดี ไม่ได้คิดอะไรไปในแนวนั้นด้วยซ้ำ แต่ไอ้พวกตัวชงเนี่ยแหละที่เปิดประเด็นแซวผมอยู่ทุกวี่วัน

          “กูไม่เคยเห็นมึงสนใจใครนอกจากอันนามาก่อน” ไอ้ไกด์พูดขึ้น “พวกกูเลยอดแปลกใจไม่ได้ที่ได้ยินว่ามึงให้น้องปิ่นไปตามหาชื่อเด็กนั่น”

          “เด็กนั่นน่าสนใจ”

          “แล้วมึงชอบใจรึเปล่า?”

          ไอ้เม่นสอดขึ้น ผมเลยมองมันตาเข้ม

          “ตอนนี้ไม่”

          “แล้วอนาคตล่ะ”

          “ก็ไม่แน่”

          “โห่ๆๆๆ ไอ้ห่าปืน”

          “ไอ้ขี้เก๊กเอ้ย”

          “กูแนะนำให้อย่างเอามั้ย”

          “อะไร?”

          “คิดจะเป็นชายเหนือชาย ต้องเรียนรู้สไตล์ ‘คนข้างหลัง’ นะเฮ้ย”

          พูดไม่ตอบมันยังตบตูดตัวเองแล้วทำตาปริบๆ ใส่ผมที่เห็นแล้วนึกอยากจะอ้วก

          “กูจะอ้วก”

          “ฮ่าๆๆๆๆๆ”



*******************************



          Reakpop Sitthiwat shared a link
          เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ -  ไอซ์ ศรัณยู

                                                                                                     
Meawnaka
                                                                                                      อะไรยังไง!!


                                                                                                      BirdBird_Kub
                                                                                                      แอบรักกูเหรอ??


                                                                                                      นั่นณเดชแต่กูเศษหญ้า
                                                                                                      วดฟ.คือมึงเรียนชายล้วนไง?


              Reakpop Sitthiwat
              @Meawnaka @ BirdBird_Kub @นั่นณเดชแต่กูเศษหญ้า
             ไอ้พวกห่ากูแค่แชร์เพลง

นั่นณเดชแต่กูเศษหญ้า
ใจหายวาบจนเผลอขมิบตูดเลยสัด


Dol.Sontaya
ยิ่งเธอวางใจ ยิ่งสนิทกันมากเพียงใด
ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนไกลออกไป ทั้งที่อยู่ใกล้ๆเธอ


Bank265_
แล่วๆๆๆๆๆๆๆๆ


Kam.kantapat
ร้องให้กูเหรอจ๊ะน้องแรก


           Reakpop Sitthiwat
           @Kam.kantapat เหอะ!!


นั่นณเดชแต่กูเศษหญ้า
@Reakpop Sitthiwat @Kam.kantapat
เหยทำไมตอบแต่ไอ้เขมคนเดียวอ่ะ นี่พวกมึงสองคนเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อกันเอ่อ???


          Reakpop Sitthiwat
          @นั่นณเดชแต่กูเศษหญ้า ไม่เสือกดิ






          ทั้งๆ ที่บอกแค่ว่าสนใจเพราะเด็กนั่นประหลาดแต่ทำไมไม่รู้ผมถึงเผลอกดเข้าในหน้าเฟสบุ๊คส่วนตัวของใครบางคนจนเห็นมันแชร์เพลงๆ หนึ่งแล้วมีเพื่อนๆ เข้ามาแซว และที่น่าเอะใจคือมีใครสักคนที่ดูเหมือนจะมีประเด็นกันมาเม้นท์ตอบจนเพื่อนมันแซวเข้าให้ ผมเลยเผลอกดเข้าไปที่ชื่อคนที่ถูกชี้เป้าแล้วต้องถอนหายใจเมื่อเห็นมีหลายภาพที่สองคนนั้นแท็กหากันแทบจะทุกรูป นั่นแหละที่ทำให้เพิ่งสังเกตว่าเฟสบุ๊คของเด็กนั่นมีภาพของเพื่อนคนนั้นมากกว่ารูปตัวเองซะอีก

          ท่าทางว่าเค้าลางเรื่องนี้จะเป็นจริง!

          ทำไมไม่รู้ถึงรู้สึกโหวงในใจบอกไม่ถูก เอาจริงนะผมไม่ควรมารับรู้เรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่พอว่างทุกครั้งเป็นต้องเผลอกดเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวเด็กนั่น เฮ้ย พอรู้ตัวผมก็ส่องมันมาเป็นปีแล้วให้ตายเถอะ

           ผมปิดโทรศัพท์มือถือแล้วเหม่อมองไปเบื้องหน้าอย่างไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ของตัวเองได้อย่างไร นี่ไม่ใช่ตัวตนผมเลย ไม่ใช่เลย ผมไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยเฝ้ามองใครบางคนอยู่ข้างเดียวในมุมเงียบๆ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นว่ะ?

           ทำไมถึงปล่อยให้รอยยิ้มของเด็กนั่นมีอิทธิพลกับผมขนาดนี้วะ!

           ผมสะบัดศีรษะตัวเองแรงๆ

           “เป็นไรวะปืน”

           ผมยักไหล่เมื่อไอ้เม่นมันจ้องจับผิด

           “เออวันนี้พวกเฮียๆ ชวนไปDemo”

           “เชร้ดด ล้างท้องรอแดกของฟรีเลย”

           “อืม”

          ผมพยักหน้ารับไปท่าทางไม่ตื่นเต้นกับของฟรีที่ไอ้เม่นเล่าให้ฟังว่ารุ่นพี่เอามาล่อเพราะอยากให้เขามาช่วยงานเฟรชชี่ที่คณะแลกกับเหล้ามื้อหนึ่ง

          เอาวะ!

          ไปปลดปล่อยตัวเองซะบ้างเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองดูจะจมอยู่เรื่องของเด็กนั่นมากนานเกินพอแล้ว ผมไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้สุดท้ายเลยพยายามเลิกสนใจเด็กนั่นที่เหมือนหลังๆ มาจะทำตัวติดกับเพื่อนสนิทคนนั้นจนเพื่อนในเฟสแซวกันอย่างสนุกสนาน

          มันก็แค่ความสนใจในช่วงเวลาหนึ่งพอมีเรื่องราวต่างๆ ผ่านเข้ามาไม่นานก็จะเลือนราง เหมือนกับไม่นานหลังจากนั้นผมเริ่มไปใช้ชีวิตแบบวันไนท์สแตนด์แล้วหลงลืมเรื่องนี้ไปในที่สุด

         งั้นเหรอวะ!

         “เชี่ยปืน”

         “........”

         “น้องคนนั้น ไอ้น้องน่ารักของมึงแม่งสอบติดคณะเราวะ”

         “อืม”

         “ไม่ดีใจเหรอวะ”

         ดีใจสิ แต่ในความดีใจแม่งกลับโหวงบอกไม่ถูกว่ะ เวลาเกือบสองปีที่ผมไม่ติดตามไม่ส่องมันเลย แต่ดูเหมือนวันเวลาที่ผ่านมาจะไม่มีค่าเลยจนเมื่อถึงวันนี้



Reakpop Sitthiwat
ติดแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ฮือ เว็บล่มจนกูจะร้องไห้ แม่งเอ้ย ผมสอบติดแล้วครับ
#ดีใจพ่อแม่ไม่อายส่งควายเรียน


         เด็กนั่นสอบติดจริงๆ แล้วไม่ได้ติดแค่มันนะแต่ยังอุตส่าห์พ่วงเอาเพื่อนสนิทสองคนนั่นมาด้วย เฮ้ย ผมถอนหายใจแรงๆ เมื่อเห็นรายชื่อของนิสิตใหม่ที่ไอ้เม่นไปขอจากนายกสโมสรนิสิตเอามายืนยันและตอกย้ำกับผมอีกครั้ง

         “แล้วไง?”

         “กูว่ามันถึงเวลาแล้วมั้ง”

         “เวลาอะไร?”

         “มึงส่องมันมาตั้งหลายปีแล้วเดินหน้าจีบสักทีสิวะ”

         “ใครบอกกูชอบไอ้เด็กนั่น”

         “โอ้ยไอ้ห่าเอ้ย ปากมึงนี่ทำจากคอนกรีตเหรอถึงทั้งปากหนักปากแข็งขนาดนี้”

         “ปากกูมันก็อยู่กับกูไม่ได้ไปขึ้นอยู่บนหน้ามึงหรอกไอ้ห่าเม่น”

         “ไอ้ห่านี่กูเบื่อจะพูดกับมึงแล้ว”

         “เอองั้นมึงก็รอให้น้องมันโดนหมาคาบไปแดกก่อนแล้วค่อยสำนึก”

         พูดไม่พอไอ้นะโมยังสะบัดหน้าใส่ผมอีก

         “เอาน่าพวกมึง”

         ไอ้ไกด์พูดแทรกขึ้น “ปล่อยมันไปเถอะ ไอ้ปืนน่ะมันชอบแดกหญ้าแทนข้าว”

         “อ้าวไอ้สัด”

         ผมชี้หน้าพวกมันที่พร้อมใจกันหัวเราะร่วน พอเห็นผมไม่หือไม่อืออะไรหลังจากนั้นพวกแม่งก็เลิกพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นผมกับเด็กนั่นจึงใช้ชีวิตอยู่ในรั้วคณะเดียวกันโดยที่นานๆ จะเดินสวนกันที เพราะปีหนึ่งอย่างมันมีวิชาหลักส่วนใหญ่ที่ประจำอยู่ที่คณะ ขณะที่ปีสามอย่างผมเรียนนอกคณะเป็นหลักบางทีเป็นเดือนด้วยซ้ำถึงได้มาเหยียบคณะสักที

          ดังนั้นวิถีชีวิตของผมกับเด็กนั่นเลยเหมือนอยู่กันคนละโลกทั้งที่ใกล้กันขนาดนี้ และมันคงจะเป็นอย่างนั้นตลอดไปถ้าหากว่า ‘ค่ายปลายปี’ ของคณะจะไม่เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ช่วงสอบปลายภาคเทอมสองจะเป็นช่วงที่เริ่มสมัครน้องๆ ในคณะให้ไปทำค่าย และพอสอบเสร็จสักอาทิตย์ก็จะเริ่มนัดประชุมและเตรียมออกค่ายอาสากัน

          ผมและเพื่อนสนิทจะออกเดินทางล่วงหน้าไปเตรียมค่ายก่อน วันนั้นเราเลยมีประชุมกันก่อนที่ประธานจะจัดประชุมกับน้องๆ ที่ไปค่ายครั้งนี้ด้วยและนั่นทำให้ผมเห็นรายชื่อของมัน

          ...แรกพบ สิทธิวัจน์...

          วันนั้นแหละที่ทำให้ผมแอบได้ยินว่าเด็กนั่นไปค่ายเพราะหลงรักเพื่อนสนิทคนที่ผมคาดเดาเอาไว้ไม่มีผิด จริงๆ ไม่ได้จะแอบตั้งใจฟังหรอกผมมาที่นั่งเงียบๆ ใครจะไปคิดว่าจะเห็นฉากสำคัญของใครบางคนและนั่นทำให้ผมได้ยินเต็มสองหูว่ามันไม่เต็มใจไปค่าย

          “มึงก็รู้ว่ากูไปค่ายเพราะมัน กูไม่เคยอยากไปที่ทุรกันดารแบบนั้น กูไม่อยากจะเสียสละเวลาไปทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นด้วยซ้ำ”

          “....”

          “ช่างเถอะถึงยังไงกูก็ไม่อยากไปแล้ว ปิดเทอมทั้งทีนอนอยู่บ้านมีความสุขจะตาย ไม่รู้จะไปค่ายทำไมให้ลำบาก ถ้ามึงอยากไปก็ไปเถอะ ต่อให้พูดยังไงกูก็ไม่พาตัวเองไปลำบากในที่ทุรกันดารแบบนั้นหรอก”

          ผมในฐานะคนในทำค่ายที่เตรียมงานมาเป็นเวลาปีๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่มันพูดออกมาก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เวลาเกือบสองปีที่ไม่ได้เจอหน้ากันและพูดคุยกันตรงๆ ทำให้เด็กน่ารักในวันวานเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เพราะความรักเหรอวะ เด็กที่มีแต่รอยยิ้มหวาน พูดจาน่ารักวันนั้นไม่มีเค้าลางเหลืออยู่เลย ในวันนี้ผมเห็นกับตาว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว

         ไม่อยากไปค่ายงั้นเหรอ?

         เรื่องไร้สาระงั้นเหรอวะ?

         “เฮ้ย”

         ผมเดินออกมามุมหนึ่งแล้วจงใจเหยียบผ้าเช็ดหน้าของมันซึ่งปลิวมาทางนี้พอดี

         “นี่”

         เกือบสองปีที่ไม่ได้สบตากันในระยะประชิดขนาดนี้ มันดูโตขึ้นมากแต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือแววตากลมโตที่ดูดื้อดึง

         “เหี้ย”

         มันด่าผมและทำให้นึกอยากจัดการกับเด็กปากดีแบบมันจริงๆ

         “หมายถึงหน้ามึงอ่ะเหรอ”

         “หน้ากูขาวกว่าหน้ามึงแล้วกัน”

         “แต่ส้นตีนกูขาวกว่าหน้ามึง”

         “เฮ้ยกัน”

         ผมคงได้ต่อปากต่อคำกับมันมากกว่านี้ถ้าหากว่าเพื่อนร่วมรุ่นบางส่วนที่ชอบเรียกชื่อจริงผมมากกว่าชื่อเล่นจะไม่ร้องเรียก ผมผละจากมันออกมาโดยไม่ทันไปดูใบหน้าขาวที่บึ้งตึงพร้อมจะกระโจนใส่ผมขนาดนั้น

         เวลาเปลี่ยนคนเราก็ย่อมเปลี่ยนไป

         เด็กน่ารักในวันนั้นคือเด็กที่ดูกวนตีนในสายตาผม

         ..แรกพบ...

         ผมบอกตัวเองในใจว่าถ้าหากว่าเจอเด็กนี่ในค่ายผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อสั่งสอนเจ้านั่น ในเมื่อมันกล้าพูดว่าจะไปเผชิญหน้ากับความยากลำบากและถิ่นทุรกันดาร ผมก็พร้อมจะจัดสิ่งเหล่านั้นให้มันได้พบเจอแบบของจริง
ผมแสยะยิ้มแล้วบอกตัวเองว่างานนี้สนุกแน่

        “เฮ้ยปืน”

        “อะไร?”

        “คอนเฟิร์มแล้วนะเว้ย”

       “เรื่อง?”

       “แรกพบ สิทธิวัจน์ เช็คชื่อเรียบร้อยแล้วอยู่บนรถบัสพร้อมออกเดินทาง”

       ไหนบอกว่าจะไม่มาเหยียบในค่ายนี้ไง กูอุตส่าห์ภาวนาให้มึงไม่มานะไอ้น้องแรก แต่ในเมื่อมึงมาค่ายนี้กูบอกเลยว่ามึงจะไม่มีทางลืมค่ายนี้แน่ๆ

       กูจะทำให้มึงจำมันไม่ลืม

       กูจะทำให้มึงลืมเพื่อนสนิทที่มึงคิดไม่ซื่อได้จนหมดหัวใจ

       กูจะทำให้มึงจำกูได้ทุกลมหายใจเข้าออก

       มึงจะต้องรู้สึกกับกูเปลี่ยนไป

       .

       .

       .


        ...และสุดท้าย...

        กลับจากค่ายครั้งนี้ผมจะต้องมีแฟนที่ชื่อ ‘แรกพบ’

        มันถึงเวลาแล้ว เวลาที่ผมต้องลงมือ ‘จีบ’ มันสักที ถ้าไม่อยากให้ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมันต้องสูญเปล่า

        ระวังตัวและหัวใจของน้องให้ดี...เพราะพี่ปืนคนนี้จะ ‘เอาจริง’








 
เมื่อผัวเอาจริงและ....เอาแรงด้วย เดี๋ยวๆๆ ใช่เหรอ? 555555555+++++

แจ้งข่าวดีคือ #ค่ายสร้างรัก ผ่านพิจารณาสนพ.แล้วนะ ตอนนี้เรากำลังเขียนตอนพิเศษส่งน้า
อาจจะได้เล่มมากอดภายในปีนี้ถ้าทุกอย่างเสร็จเร็วเด้อ
หวีดในทวิตติด #ค่ายสร้างรัก และ #ทีมเมียพี่ปืน

ออฟไลน์ MonKeez

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ปืนเอาจริงงงง

งุ้ยยยยย รอออ่านนน

ออฟไลน์ Dealta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อร๊ายยยยยยย พี่ปืนรู้จักน้องก่อนนี่เอง อะโถ่วเอ๊ยยยยยย อะกริ้วๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ puifaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao7: :hao7:
 #ทีมเมียพี่ปืนนนนนนนนน๊าาาาา

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เป็นอย่างนี้นี่เอง พี่ปืนเค้าก็รักของเขามาตั้งนานนี่เน๊อะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
พี่ปืนแอบมองน้องมานาน
ได้น้องเป็นแฟนสมใจแล้วนะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
พี่ปืนแอบมองน้องแรกมานานมากกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
กรีดร้องพี่ปืนคนจริงงง

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
พี่ปืนเอาจริงล่ะเหวยย คนจริงต้องแบบนี้! 5555

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
น้องไม่ได้ตั้งใจพูดน้าาาาา :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
 :-[ :-[ :-[
เรื่องราวความรักของพี่ปืนต่อน้องแรก โคตรน่าร้ากกกกก
โอ๊ยๆหัวใจ พี่ปืนคนจริงจริงๆและทำได้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้อีกต่างหาก
พี่ปืนมีแฟนชื่อแรกพบบบบบบ ❤️

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
แอบสนใจมานานแล้วสินะพี่ปืน~  :hao3:

ออฟไลน์ Ramnoii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
wtffff เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

อีพี่ปืนมันร้าย มันมีแผน แอบชอบเขาตั้งนานแล้วก็ไม่ยอมบอก  :o8: :-[

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่ปืน เอาแรกจริงซะที คอยมานานและ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mariinariiz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ TaemyG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai1: :katai1: อีพี่ปืนมันร้าย ถึงว่าช่วงแรกๆ เหมือนแรกจะโดนหมายหัวยังไงไม่รู้ ฮ่าา :z1: แอบบสงสารแรกนะเนี่ย

รีบมาต่อนะ พลีสสสสส คนรอใจจะขาด :call:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ครึ่งแรกเหมือนเกริ่นความเป็นมาเลยยังไม่ฟินเท่าไหร่เพราะอันนี้เหมือนพี่แกแค่อยากแกล้งน้อง ต้องรอดูครึ่งหลังว่าจะยังไง แต่ที่แน่ๆอิพี่ปืนมันร้ายยย

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เอาแรงไม่ว่าแต่ขอให้เอาจริงๆเถอะ หุหุ :hao6:

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ก็ตะหงิดนะว่าพี่มันต้องรู้จักน้องมาก่อน
แต่ไม่คิดว่าจะนานขนาดนั้น :hao6:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อุ้ยๆ.. น่ารักๆ.. #ทีมเมียพี่ปืน ตั้งแต่ล้อรถยังไม่หมุน จนจบค่าย.. 55+

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เขินพี่ปืน แอบชอบน้องมาตั้งหลายปีด้วย  :-[

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่านตอนเอาจริงแล้ว
ก็อยากอ่านตอนเอาแรงด้วย
อยากรู้ว่าคนจริงเอาแรงมันจะเป็นยังไง :oo1: :laugh:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ก็แอบคิดอยู่ว่าพี่ปืนต้องรู้จักน้องแรกมาก่อนแน่ๆ
แต่ไม่คิดว่าจะเคยส่องเยอะและนานขนาดนี้
มิน่าทำทุกทางเพื่อตอดแรกขนาดนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด