ตัวร้าย
33
“ใครจะไปซื้อของด้วยกันบ้าง”
แพรวแจมแตงกวาเดินเข้ามาในบ้านพวกผมที่นอนกลิ้งกันตามพื้นบ้างโซฟาบ้างและแน่นอนว่าพ่อคนดีศรีอยุธยาชายยูของเราลุกขึ้นเป็นคนแรก ก็แน่ล่ะแฟนเขาไปนี่แต่พวกที่เหลือคืออะไรครับหูตึงกันชั่วขณะหรือไง ผมได้แต่ผมยิ้มขำพวกมันก่อนจะสะกิดบีสท์ที่มัวแต่ไลน์ด่ากับพี่แบท เขาหันมาเลิกคิ้วให้
“ไปช่วยสาว ๆ ซื้อของกัน”
แฟนผมพยักหน้าว่าง่ายพอได้จำนวนผู้ชายพอแล้วไอ้พวกที่เหลือก็เปิดต่อมได้ยินขึ้นมาทันใดโห่ฮากันจนแพรวแทบเอารองเท้ามาปาหน้าพวกมัน พวกเราขับรถกันมาที่ห้างใกล้บ้านซึ่งผมก็เจอกับกลุ่มคนที่ไม่คาดคิดนั่นก็คือพวกคิวที่เป็นเพื่อนในคณะ เราทักทายกันเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะขอตัวกลับกันไป ได้แต่ภาวนาอย่าเพิ่งให้เพชรไปบอกพวกเพื่อนของผมเลย ถ้าจะบอกผมอยากเป็นคนที่บอกพวกมันเองมากกว่าให้มันฟังจากปากคนอื่น
“โทรบอกยายเรียบร้อยแล้วใช่ป่าว”
บีสท์ถามขึ้นมา ผมพยักหน้าไปด้วยหมักหมูไปด้วย วันนี้เราจะทำทั้งสุกี้ทั้งหมูกระทะกินกัน ถือว่าเป็นบุญของผมที่ลากบีสท์ไปช่วยสาว ๆ ซื้อของเพราะพวกเธอได้มีคำสั่งว่า ผู้ชายทุกคนยกเว้น ผม ยู บีสท์พวกที่เหลือจะต้องเป็นแผนกเก็บล้างทุกคนไม่มีข้อยกเว้น มาร์คกับสกายดิ้นแด่ว ๆ อยู่ที่พื้นผมนี่ยิ้มเย้ยมันด้วยความสะใจมากส่วนเปากับเชนนั้นแกล้งตายไปแล้ว
“พ่อแม่ตื่นเต้นกันใหญ่ เขาไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนกันน่ะ ว่าแต่อันนี้มันคือผักชีหรือตั้งโอ๋”
ท้ายประโยคบีสท์หันไปถามแพรวที่เท้าเอวส่ายหัวระอา คือแฟนผมเป็นโรคแยกชนิดผักไม่ค่อยได้ ถามว่าเขาทำอาหารได้อย่างไรข้อนี้ผมก็สงสัยเหมือนกัน ผมอมยิ้มเอ็นดูแฟนตัวเองที่กำลังถูกเพื่อนสาวบ่น บีสท์ยู่ปากเกาท้ายทอยส่ายหัวแล้วยื่นเจ้าพวกนั้นให้เพื่อนเขาจัดการเอง
“ผักมันก็เหมือนกันหมด”
คนตัวใหญ่เดินเข้ามากอดเอวผมทางด้านหลังวางคางบนไหล่ส่งเสียงอ้อน ผมเอียงแก้มแนบแก้มเขาเพราะมือเปื้อนอยู่
“จำแค่ว่าผักชีใบเล็ก ๆ ก็พอ อีกอย่างเราก็ไม่ค่อยได้กินตั้งโอ๋กันด้วย”
“ยาก”
เขากอดโยกผมเล่น ผมหัวเราะแล้วโขกหัวเขาเบา ๆ มือก็หมักหมูไปด้วยจนกระทั่งเสียงแพรวดังขึ้นมา
“โอ๊ยยยย เบาหวานขึ้นตาเว้ยยยย กูออกไปจากตรงนี้ดีกว่า! เหม็น!”
ว่าแล้วเธอก็เดินกลอกตาออกไปจากครัว แจมเบะปากหันไปหายู คุณชายเขายิ้มเอ็นดูแล้วโยกหัวแฟนตัวเองแล้วจูบหน้าผากเธอเบา ๆ คือเอาจริงนะพักหลังมานี้ยูดูหวานกับแจมมากขึ้นผมเห็นทีไรก็เขินทุกที มันดูคู่ควรกันมาก
“มึงจะยอมกูไม่ได้เลยใช่ไหมยู”
บีสท์หัวเราะถามเพื่อนตัวเอง ยูหันมายักคิ้วใส่
“ก็อยากโชว์หวานกันก่อนทำไมล่ะ กูก็ทำแข่งบ้าง”
“แล้วแจมมันก็โคตรเขินเลยนั่น”
บีสท์บุ้ยปากไปทางหญิงสาวที่แก้มขึ้นสีเรื่อ คนถูกแซวหันมาทางพวกผมถลึงตาใส่แล้วหันไปแหวแฟนตัวเองหน้าดำหน้าแดงก่อนจะกระแทกเท้าปึงปังออกไปจากครัวอีกคน
“ยูแม่ง! ไปเล่า!”
“ฮ่า ๆ เป็นไงล่ะมึง”
ยูยิ้มมองตามหลังแฟนตัวเองไปแล้วหันกลับมายักไหล่
“น่ารัก”
โอเคผมชักจะเข้าใจแล้วว่าอาการเหม็นความรักเป็นอย่างไร สักพักแตงกวา เจน เมเปิ้ล นาฟ ก็เข้ามาแทนสองสาวที่ออกไปพร้อมกับไล่พวกผมออกมาสาเหตุเดิมคือเหม็นความรัก ระหว่างรอพวกเธอทำอาหารผมสามคนก็เดินออกไปสมทบกับพวกที่เหลือที่สนามบาส
“แบ่งข้างเล่นกัน ๆ ใครเป็นกรรมการ”
ผมรีบยกมือรับอาสา ให้แข่งกับไอ้พวกบ้านี่ไม่เอาอีกแล้ว เหนื่อยลากไส้ประสบการณ์สอนให้ผมรู้ว่าเล่นขำ ๆ ของพวกมันไม่มีอยู่จริง!
“แพ้คนละพันนะคร้าบบบ”
เชนยักคิ้วทีละข้างลากเสียงยาวบอกทุกคน ทีมของเชนมีตัวเอง บีสท์และเปา อีกฝั่งมีมาร์คเป็นกัปตันทีม สกายและชายยู อย่างที่ผมบอกว่าปกติพวกเขาก็เล่นกันอย่างกับจะไปคัดตัวทีมชาติแล้วยิ่งพอมีการพนันเกิดขึ้นด้วยแล้ว โอ้โห! พวกมึงเอาเหรียญทองโอลิมปิกกันไปเถอะ! คิดดูสิตัวผมเป็นกรรมการยังหอบแฮ่กขนาดนี้ พวกคนเล่นนี่แทบนอนตายกันไปแล้วผมหยิบขวดน้ำเดินเอามาส่งให้บีสท์เลยโดนสกายมันถีบดีที่บีสท์รับผมไว้ทัน ผมนวดก้นตัวเองในอกบีสท์แล้วตวัดสายตาขวางไปให้สกายที่ทำหน้าตาไม่ทุกข์ไม่ร้อนแถมยังแลบลิ้นใส่ผมอีกต่างหาก
“เอ้า! ก็มึงอยากเอามาให้แค่ผัวตัวเองทำไมล่ะเพื่อนนั่งอยู่กันเต็มไปหมดไม่เห็นรึไง”
“ช่ายยยย รอบนี้กูเข้าข้างไอ้กายเว้ยนั่งหอบกันจะตายไม่มีดูดำดูดีกูสักนิด เห๊อะ!”
มาร์คเบะปากพยักหน้าเออออแถมยังพูดจาประชดประชันใส่ผมบีสท์ส่ายหัวระอาเพื่อนตัวเองแล้วก้มมองสำรวจผมว่ามีแผลตรงไหนหรือเปล่าแล้วหันไปมองดุสกาย
“ถ้าล้มลงไปแล้วได้แผลจะทำยังไง”
“กูถีบนิดเดียวเอง”
“แรงมึงอย่างกับช้างไอ้กายอย่ามาทำเป็นพูดดี”
สกายลอยหน้าลอยตาใส่บีสท์ ผมลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัวแล้วเดินไปเอาน้ำมาแจกทุกคนเห็นว่าทีมมันแพ้หรอกนะผมถึงยอม สกายยิ้มอย่างผู้ชนะแล้วเอ่ยชมผม
“ต้องอย่างนี้ ถ้ามึงทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกกูก็ไม่ถีบหรอกซันทีหลังจำเอาวรั้ย!”
ผมอมยิ้มขำกับภาษาวิบัติและสำเนียงของสกายมัน ไอ้บ้านี่ผมไม่อยากถือสา พวกเขานั่งพักคุยเล่นกันพักใหญ่เมเปิ้ลก็เดินมาตาม ที่ตั้งประจำของวงหมูกะทะคือหลังบ้านใกล้สระน้ำ เปากับสกายรับหน้าที่เอารักกับยมใส่กรงเพราะปกติพวกเราจะปล่อยให้วิ่งเล่นนอนเล่นอยู่บริเวณบ้านแต่วันนี้ทำของกินกันไง แล้วสองตัวก็ซนเหลือเกินนาฟจึงสั่งให้พ่อ(ซึ่งก็คือเปากับสกาย)พาลูก ๆ มันไปเก็บ
“ปีใหม่ปีนี้ไม่ได้เคาท์ดาวน์ด้วยกันเหมือนปีที่แล้วงั้นคืนนี้เรามาเคาท์ดาวน์เข้าสู่วันสุดท้ายของปีกัน”
เชนลุกขึ้นชูมือกลางวงหมูกระทะประกาศกร้าวน้ำเสียงขึงขังจนไม่มีใครกล้าท้วง บีสท์หันมาเลิกคิ้วถามผมเพราะว่าพรุ่งนี้เราไปเชียงใหม่กันไฟล์ทเช้าสุด คงกลัวผมจะตื่นไม่ไหว
“อยู่ได้กูจัดกระเป๋าเสร็จแล้ว”
“โอเค”
กว่าพวกเราจะกินเสร็จเก็บล้างเรียบร้อยก็สี่ทุ่มกว่า ๆ เหตุเพราะเหล่าสายแข็งเขาเก็บหมดจนเศษหมูชิ้นสุดท้ายชนิดที่ว่ารักกับยมน้ำตานองหน้าเพราะไม่มีเศษอาหารเหลือให้กินเลย คราวนี้พวกเรามานั่งล้อมวงกันในบ้านของผู้หญิง
บีสท์บอกกับผมว่าเป็นประจำทุกปีที่พวกเขาจะมานั่งเปิดใจพูดคุยถึงเรื่องราวปีที่ผ่านมากัน ผมนั่งลงข้างบีสท์อีกข้างเป็นสกายข้างสกายเป็นเชน เปา มาร์ค เมเปิ้ล นาฟ เจน แตงกวา แพรว แจมและสุดท้ายของวงกลมคือยูที่นั่งข้างบีสท์
“โอเค คราวนี้ใครเริ่มก่อน”
แตงกวาเอ่ยถาม ทุกคนมองหน้ากันก่อนที่เชนจะยกมือ พอทุกคนพุ่งความสนใจไปที่เขา เจ้าตัวก็เกาแก้มเขิน ๆ
“เค้าคิดว่าตัวเองกำลังมีความรัก”
“เฮ้ย!!”
“Oh-my-god!!!!”
ช้า ๆ เน้นทีละคำดังขึ้นพร้อมกันจากมาร์คกับแตงกวา เรื่องสำเนียงไม่ต้องพูดถึง อย่างกับเกิดและโตที่โน่นแน่ะ
“Seriously?”
“พายุเข้าแน่ ๆ”
และอีกหลาย ๆ คำสบถจากหลาย ๆ ภาษาปะปนกันไปเมื่อเชนพูดจบ พวกเขาดูตื่นเต้นกันมากเมื่อเชนบอกเรื่องนี้ ผมได้แต่มองคนโน้นทีคนนี้ที ก็เข้าใจนะว่าเชนมันกาก เกรียน แต่เห็นสกายก็บอกว่ามันมีแฟนนี่นาแล้วทำไมทุกคนถึงดูตื่นเต้นกันจัง
“อือ นั่นแหละก็คิดอยู่นานกับตัวเองนะว่ามันใช่ความรักจริง ๆ หรือเปล่า”
“ที่มาถามกูอ่ะนะ”
ยูพูดขึ้น เชนเกาแก้มพยักหน้าตอบรับ
“อือ”
“มาบอกแบบนี้แปลว่ามั่นใจแล้วสิว่ารัก”
นาฟกอดหมอนไว้ตรงอกอมยิ้มถาม เชนพยักหน้าอีกครั้ง
“อือ เค้ารู้สึกเป็นตัวของตัวเองเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน รู้สึกเป็นห่วงอยากดูแลอยากมีเขาไปในทุกวัน"
“ว่ะ! เสือเชนเมียรายวันถอดเขี้ยวเล็บแล้วเว้ย แล้วพร้อมบอกยังว่าเป็นใคร”
“เธอเป็นลูกเพื่อนแม่อ่ะ เจอกันที่บ้านตอนป้าดามาเยี่ยมแม่ชื่อมายด์แล้วก็บังเอิญเจออีกหลาย ๆ ครั้ง"
"แล้วอะไรที่ทำให้มึงสนใจในตัวเธอล่ะ"
"มายด์ดูไม่สนใจกูดีมั้ง แบบปกติผู้หญิงส่วนใหญ่ก็จะชอบผู้ชายหล่อ เปย์พวกเธอได้อะไรอย่างนี้ใช่ไหมล่ะ แต่มายด์อาจเป็นเพราะเธอมีหมดแล้วมั้งเลยไม่ได้สนใจกูในเรื่องนั้น อยู่กับมายด์แล้วสบายใจดีกูสามารถเกรียนได้เท่าที่ใจต้องการ"
ผมหลุดหัวเราะน้อย ๆ ตอนประโยคสุดท้ายของเชนมันนี่แหละ บีสท์กอดคอผมแล้วรั้งผมมาซบไหล่
"เชนมันเป็นพวกลอยไปลอยมา พอมาพูดอะไรแบบนี้ทุกคนเลยตกใจน่ะ"
บีสท์อธิบายให้ผมฟัง แล้วเชนก็เล่าหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงของเขาให้เราฟัง มาจนถึงเรื่องนาฟที่ระบายความเครียดเกี่ยวกับเรื่องเรียนเรื่องแฟนเรื่องทะเลาะกันเล็กน้อยกับเมเปิ้ลที่ตอนนี้เธอสองคนเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว แพรวบ่นสกายเรื่องงานที่ผับของเขาให้ลดลงบ้างได้แล้วเพราะเรียนปีสูงขึ้น เปาเปรย ๆ ว่าอยากจะเลี้ยงหมาเพิ่มอีกสักตัวสองตัวซึ่งมีสกายเป็นกองกำลังสนับสนุน พวกเขาจึงเปิดโหวตกันผลสรุปอนุมัติให้ซื้อหมาเพิ่มได้อีกสองตัวโดยให้ฝั่งผู้หญิงเลือกหนึ่งตัวพวกผู้ชายเลือกหนึ่งตัว
คร่าว ๆ สำหรับการประชุมของพวกเขาก็มีเท่านี้เรื่องอื่นเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขาผมไม่ขอพูดถึงแล้วกันนะครับ อ้อแถมเรื่องสกายให้นิดหน่อยเพราะพวกเพื่อนเขาหลายคนถามถึงบุคคลปริศนาในโทรศัพท์ซึ่งสกายมันก็บอกว่าเป็นแค่พี่น้องกันเฉย ๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ผมเชื่อตายแหละ อย่าให้แฉ
เช้าวันต่อมาพวกเราให้พี่เมษมาส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิผมกับบีสท์มาถึงก่อนครอบครัวเขาเล็กน้อย เช็คอินเสร็จเราก็พาพ่อกับแม่ไปทานของว่างกันที่เลาจน์โดยมีพี่แบทเดินผิวปากตามหลังมาบีสท์แยกเขี้ยวขู่พี่ชายตัวเองเป็นระยะเห็นแล้วก็ขำ
"แม่ซื้อของบำรุงมาให้คุณตาคุณยายเยอะแยะเลย"
"ขอบคุณมากครับแม่"
"ขอบคุณอะไรกันล่ะลูกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ"
"ครับ"
ผมนั่งยิ้มกว้างอยู่ข้างแม่ของบีสท์ แฟนผมถูกพี่แบทลากออกไปซื้อคริสปี้ครีมเพราะคุณนายของบ้านบ่นว่าอยากกินพ่อของบีสท์นั่งจิบกาแฟดูหุ้นอยู่ข้าง ๆ แม่
"นี่ครับคุณนาย"
พี่แบทวางถุงโดนัทถุงใหญ่ลงตรงหน้าแม่ตัวเอง แม่ยิ้มกว้างอย่างพอใจ พี่แบททิ้งตัวนั่งลงข้างผมไม่ถึงวินาทีก็ถูกแรงช้างกระชากออกมาทันที พ่อกับแม่หัวเราะชอบใจที่เห็นลูกชายคนเล็กของตัวเอง บีสท์เอาเท้าเขี่ยพี่ตัวเองแล้วแทรกตัวมานั่งกอดเอวผมไว้ พี่แบทอมยิ้มกลอกตานั่งลงตรงโซฟาอีกตัว
"ไอ้ขี้หวง"
"หวงสิวะนี่แฟนนะเว้ย"
"แค่แฟนเรอะ?"
"จิ๊! แบทอย่ากวนตีนดิก็รู้ว่าพูดคำอื่นมันไม่สุภาพ"
พ่อกับแม่เขายิ้มมองลูกชายคนเล็กตัวเองด้วยความภูมิใจผมเองก็ยิ้มมองเขาเช่นกัน บีสท์เป็นเช่นนี้เสมอเวลาอยู่ข้างนอกเขาจะไม่ทำอะไรให้ผมรู้สึกอึดอัดกับสายตาคนรอบข้างเราพูดจากันปกติอยู่แล้วเพียงแต่เราจะไม่จับมือถือแขนกันมากจนเกินไป เราไม่ได้ปิดแต่เราก็ไม่ได้อยากแสดงตัวอะไรขนาดนั้น
"ว่ะ! น้องกูนี่มันหล่อจริง ๆ"
"หล่อเหมือนพ่อ"
"ใจดีเหมือนแม่"
บีสท์ยิ้มกว้างส่ายหน้ากับคำบอกกล่าวของครอบครัวตัวเอง สักพักก็ได้ยินเสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องพวกเราทั้งหมดจึงพากันเดินไปยังเกท กลับมาเหยียบเชียงใหม่ในรอบสองเดือนตากับยายยืนยิ้มรออยู่ ผมเดินเข้าไปกอดยายตามมาด้วยครอบครัวของบีสท์
"สวัสดีค่ะ//สวัสดีครับ//สวัสดีครับ//สวัสดีครับ"
"สวัสดี ๆ ทุกคน ยินดีต้อนรับสู่เชียงใหม่นะ"
แล้วทริปปีใหม่ของครอบครัวใหม่ของผมก็เริ่มขึ้น จริง ๆ เราก็ไม่ได้ไปไหนไกลกันหรอก มาถึงตากับยายก็พาครอบครัวของบีสท์ไปไหว้พระ เอาของมาเก็บที่บ้านพักผ่อนกันครู่ใหญ่ ตากับยายก็ชวนพ่อแม่บีสท์ไปทัวร์ไร่ ทำให้ตอนนี้ทั้งบ้านเหลือแค่สามคนคือ ผม บีสท์และพี่แบท ซึ่งตอนนี้สองพี่น้องกำลังจะเปิดศึกกัน
"กูไม่ให้ไป!"
"อะไรวะบีสท์แค่นี้ก็หวงหรือไง"
"เออสิ! มึงก็นอนบ้านนี้ไปสิแบท บ้านเล็กเป็นของซันซึ่งซันมันก็อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว"
พี่แบทดีดนิ้วเสียงดังแล้วชี้มาที่ผม
"ถูกเผงเลย! เพราะฉะนั้นซันพี่ขอไปนอนกับเราที่บ้านเล็กด้วยนะ บ้านสวยพี่ชอบ"
"แบท!!!!"
"อะไรเล่าไอ้น้องหวงทำไมแค่บ้าน"
"อย่ามาแถ มึงแม่งก็รู้ว่ากูหวงยังจะแกล้งอีก"
"ฮ่า ๆ โอ่ย แกล้งมึงแล้วสนุกมากเลยน้องชาย ซันดูแล้วจำเอาไว้ดี ๆ นะไอ้นี่มันเป็นเด็กขี้หวงและจะหวงมาก ๆ กับ
ของที่มันรัก"
"อ่ะ...ครับ"
ผมเกาท้ายทอยแก้เก้อเมื่อถูกพี่แบทมองด้วยสายตาล้อเลียนและบีสท์ยิ้มเชิดหน้าอย่างภูมิใจเดินมากอดผมจากด้านหลังเอาคางเกยไหล่ยิ้มเย้ยพี่ชายตัวเองอยู่ พี่แบทยกมือยอมแพ้หิ้วเป้ตัวเองเดินผิวปากเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนแขกทางด้านบนที่ผมบอกไว้ก่อนหน้า
"แบทแม่งขี้แกล้ง"
บีทส์มองตามหลังบ่นพี่ชายตัวเองผมบีบแก้มเขาเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
"ก็มึงยุขึ้นนี่นา รู้กันอยู่ว่าพี่แกแกล้ง"
"ก็กูรักของกูนี่"
ผมยิ้มกว้าง
"ครับ ๆ กูก็รักมึงเหมือนกัน"
ฟอด~~~ "รักมึงที่สุดเลย"
วันปีใหม่ครอบครัวเราตื่นแต่เช้าไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านกัน ชาวบ้านเขาดูแปลกใจกันมากที่เห็นคนแปลกหน้ามากับตายาย ผมตกใจมากที่ตากับยายพูดได้อย่างปกติธรรมดามากว่านี่คือครอบครัวของแฟนผมแถมพ่อแม่บีสท์ก็ยังยิ้มรับกันอีก รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยกับสายตาที่มองมาแต่พ่อของบีสท์ลูบหัวผมแล้วบอกว่า
"ไม่ต้องสนใจนะซัน เรื่องนี้มันไม่ใช่ปัญหาของเราอย่าเอามาใส่ใจ เขาจะพูดอย่างไรก็ปล่อยเขาไปมันเป็นปัญหาของเขาเข้าใจไหมลูก"
"ครับพ่อ"
ผมไหว้ขอบคุณพ่อของบีสท์ คิดอยู่แล้วว่าอย่างไรก็ต้องเจอคนมองด้วยสายตาแบบนี้แต่พอเอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้หนักหนาอย่างที่คิดส่วนหนึ่งอาจมาจากความเข้าใจจากครอบครัวของผมกับบีสท์ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาก บีสท์หันมามองผมด้วยความเป็นห่วงผมจึงพยักหน้าแล้วส่งยิ้มกลับไปให้เขา
"โอเคนะ"
"อื้อ ดีกว่าที่คิดเยอะเลย"
พวกเราพาพวกผู้ใหญ่ตระเวนเที่ยวกันในสถานที่ท่องเที่ยวภายในเชียงใหม่ ตากับยายดูมีความสุขมากเพราะพวกท่านไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไหนนาน ๆ ครั้งและนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ผมพาตากับยายออกมาเที่ยวโดยไม่มีคนอื่นในครอบครัว
"ยิ้มกว้างอีกนิดปากจะฉีกแล้วนะซัน"
"ก็กูมีความสุขนี่ ดูสิกูไม่เคยเห็นตากับยายยิ้มกว้างขนาดนี้มาก่อนเลย"
"เขามีความสุขเพราะมึงมีความสุขไง"
"อื้อกูก็ว่าอย่างนั้น"
"เด็ก ๆ มาถ่ายรูปกัน"
แม่บีสท์กวักเรียกพวกเราให้ไปรวมตัวกันถ่ายรูป ผมกับบีสท์เดินมานั่งคุกเข่าด้านหน้าผู้ใหญ่ทั้งสี่ พี่แบทตั้งกล้องอยู่ส่งสัญญาณโอเคมาให้ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งมานั่งอีกด้านของบีสท์
"รูปสวยจังเลยพี่แบท ส่งให้ผมบ้างสิครับอยากเอาไปลงเฟส"
ผมหันไปบอกพี่แบทหลังจังที่ขอกล้องพี่เขามาดูรูปกับบีสท์ พี่แบทยักคิ้วให้
"หนึ่งรูปหนึ่งหอมนะ เฮ้ย! ไอ้บีสท์ ไอ้น้องเวรกล้องกูเป็นแสนนะเว้ยถ้าตกขึ้นมาจะทำยังไง"
พี่แบทโวยวายลั่นรถเมื่อจู่ ๆ กล้องตัวเองก็ลอยคว้างขึ้นบนอากาศดีที่พี่แกคว้าเอาไว้ได้ทัน เขากอดกล้องลูกรักตัวเองไว้แนบอกมองน้องชายตัวเองตาขวาง บีสท์เอี้ยวตัวมายักคิ้วเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มกวน
"ว้าเสียดายไม่ตก ซันไม่ต้องไปขอมันกูบลูทูธเข้าเครื่องกูแล้วเดี๋ยวกูส่งให้"
"มึงมันงูพิษ!!!"
และอีกหลายคำที่พี่แบทเขาจะสรรหามาด่าน้องชายตัวเองได้ พวกผู้ใหญ่หัวเราะขำการตีกันแบบเด็ก ๆ ของสองพี่น้อง ไม่นานรูปที่ผมอยากได้ก็ถูกส่งเข้ามาในเครื่องตัวเอง ผมเปิดดูแทบจะไม่ต้องแต่งรูปอะไรเลยเพราะพี่แบทถ่ายสวยมากจริง ๆ จัดการเปิดแอปพลิเคชั่นเฟสบุ๊คขึ้นมาแล้วอัพโหลดรูปลงไปอย่างรวดเร็ว
Darin Dejchamethadol with Thotsalan Setthirakul and 2 others.
My love and my family...Happy New Year
**รูปภาพบีสท์ซันและครอบครัวของทั้งคู่**
Tawin Yanothai, Sky Thaofah and 13 others.
Sky Thaofah ลำไยคนอวดผัว
Tawin Yanothai
happy new year
Nissorn C. Athipobpokin เหม็นความรัก!
Isika Methakijanan เหม็นด้วยคน
Surakarn Piyasopol หูยวันครอบครัว อิจฉาอ่ะ
Vetaka Jane ทำไมภาพมันสีชมพูแปลก ๆ
Nafta Yada โอ้โห เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวเจอกูมั่งจะลงแข่งไปเรียกพี่แน็กมาแปบ
Jam Nora **รูปภาพตัวเองกับครอบครัวยู** อวดบ้าง แบร่!
Tawin Yanothai @Jam Nora น่ารัก
Praya Bhumphatthanakul เดี๋ยวนะ กูเกลียดอีสองคนบนมาก!
PaoPao Kritsanakosol เป็นกองกำลังสนับสนุนแพรว!
Nissorn C. Athipobpokin ชายยูแม่งแย่งซีนสัด ๆ ฮ่า ๆ
Thotsakan Setthirakul เดี๋ยวจะบอกให้ซันลบคอมเม้นแจม ในนี้ห้ามใครหวานกว่าคู่กู
Surakarn Piyasopol มึงมันร้ายไอ้พี่บีสท์!
Darin Dejchamethadol ลบไงอ่า
Kris Teeratorn อย่าลืมของฝาก
King Phanithan ...
San Sivanart กูขอคำอธิบายและกูคิดว่าเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกันนะซัน ผมนิ่งมองข้อความล่างสุดของเพื่อนสนิทตัวเอง ลงรูปไปไม่ถึงห้านาทีงานก็เข้าผมอย่างจัง คือก็ตั้งใจให้รู้นั่นแหละแต่ไม่คิดว่าลงปุ๊บจะเห็นปั๊บแต่ก็เอาเถอะถึงอย่างไรไม่ช้าก็เร็วก็ต้องคุยกันอยู่แล้ว ผมจึงส่งข้อความไปบอกซานและคิงว่ากลับไปจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง เขาสองคนกดอ่านแต่ไม่มีใครตอบผมกลับมาสักคน
หวังว่าพวกเขาจะเข้าใจ
I'm at the point of no return
So afraid of getting burned
but I wanna take a chance
Oh, please give me a reason to believe
say you're the one
that you'll always be
Before I fall in love – Coco Lee
tbc
talk. จะเริ่มเข้าสู่ความมืดที่แท้ทรูเมื่อเขาเปิดตัวกัน

นี่คือสาเหตุที่ไม่ค่อยอยากเปิดตัวเพราะเราจะแย่งพี่บีสท์ 5555555555 เราจะไม่รักชายยูสามวัน กระซิก ทำร้ายหัวใจน้องงงง

แล้วเจอกันตอนหน้าจ้าาา

#นิยายตัวร้าย