ps. แนะนำให้ฟังเพลงขอร้องตอนอ่านไปด้วย แล้วจะอินมาก
ตัวร้าย
37
ภาพของคนรักที่นอนเลือดท่วมร่างปรากฏอยู่ตรงหน้า ราวกับหัวใจถูกกระชากออกไปจากอกและแตกสลายไปอย่างช้า ๆ ผมดิ้นสุดแรงไม่สนแล้วว่าร่างกายตัวเองจะเป็นอย่างไร ผมคิดเพียงแค่ว่าผมต้องไปให้ถึงตัวของบีสท์
ภาพตรงหน้าพร่าเลือนเพราะม่านน้ำตา เดินเข้าไปเกือบจะถึงตัวของบีสท์แล้วแต่ยูคว้าเอวของผมไว้ ผมดิ้นแต่ยิ่งดิ้นยูก็ยิ่งรัดแน่น หูของผมอื้ออึงจนไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น
“ปล่อย บีสท์...จะไปหาบีสท์”
“ซันอย่าเพิ่ง...”
“บีสท์”
“ซัน!!!! มองหน้ากู ฟังกูนะซัน อย่าเพิ่งเข้าไปให้สกายปฐมพยาบาลก่อน ซันได้ยินที่กูพูดไหม”
ยูจับไหล่ผมให้หันหน้าไปมองเขา สองมือของเขาตบหน้าผมเบา ๆ เพื่อเรียกสติ ผมส่ายหัว ผมไม่รู้ ผมแค่อยากไปหาบีสท์
“โทรเรียกรถพยาบาลหรือยัง!!! อย่ามุง!! ไม่ต้องเสือกกูเป็นหมอ!!!”
เสียงของสกายดึงสติผมกลับเข้าร่าง ยูดึงผมออกมาเล็กน้อย สกายตะโกนไล่กลุ่มไทยมุง พวกคริษฐ์ต่อสายเรียกรถพยาบาล ยิ่งเห็นภาพสกายน้ำตานองหน้าพร้อมทั้งปฐมพยาบาลบีสท์ไปด้วยน้ำตาผมก็ยิ่งไหล
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้แต่สำหรับผมมันยาวนานเหมือนชั่วนิรันดร์กว่ารถพยาบาลจะมา ผม สกาย ยูขึ้นมากับรถพยาบาล พวกเขาใส่ที่ช่วยหายใจให้บีสท์ที่นอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนมีเพียงเสียงชีพจรดังเท่านั้นที่ทำให้ผมรู้ว่าเขายังอยู่กับผม
“คนไข้ไปทำแผลก่อนนะคะ”
พยาบาลคนหนึ่งวิ่งมาดักหน้าผมไว้ขณะที่ผมกำลังวิ่งตามบีสท์ไปยังห้องฉุกเฉิน ผมส่ายหัวปฏิเสธแต่เธอพยายามรั้งผม
“ไม่เป็นไรครับผมสบายดีแค่หกล้มครับ”
ผมรัวคำพูดและรีบวิ่งตามบีสท์ไปจนเตียงเขาถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน สกายคุยโทรศัพท์สักครู่พี่คุณก็วิ่งหน้าตื่นมาในชุดกาวน์ เขาวิ่งเข้าไปหาพี่คุณทันที
“พี่คุณ...บีสท์...ช่วยบีสท์”
“ครับ ๆ ที่เหลือพี่จัดการต่อเองนะ เก่งมากคนเก่งนั่งรอนะ”
“บีสท์จะไม่เป็นไรใช่ไหม...”
“พี่จะช่วยเต็มที่ครับ”
แผ่นหลังกว้างของพี่คุณหายลับเข้าไปในห้องฉุกเฉินสกายทิ้งตัวนั่งร้องไห้บนพื้นอย่างหมดแรง ผมเดินเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าเขา
“ขอ...โทษ”
หมับ!!
สกายคว้าผมเข้าไปกอด ไหล่ของเราสองคนสั่นสะท้านต่างคนต่างปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา ผมสะอื้นไห้เสียงดัง ไม่ไหวแล้วจริง ๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ ผมกลัวเหลือเกิน ถ้าบีสท์เป็นอะไรไปผมจะอยู่อย่างไร
โลกที่ไม่มีบีสท์...ผมจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร
“กูขอโทษ”
ผมกล่าวขอโทษจากใจ เพราะผมร้องตะโกนหาบีสท์เรียกให้เขาช่วย เพราะผมเป็นเพราะผมคนเดียวบีสท์ถึงต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนได้ให้คนที่อยู่ในห้องนั้นเป็นผมยังดีเสียกว่า คนอย่างผมไม่ควรมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ตั้งนานแล้ว
“กึก...อย่าโทษ...ตัวเอง”
“ฮึก”
“บีสท์ต้องไม่...เป็นอะไร”
“ขอโทษ กูขอโทษ”
ผมซุกตัวในอ้อมกอดของสกายเรากอดกันร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่วิ่งตรงมา พวกเพื่อนของบีสท์วิ่งหน้าตื่นกันเข้ามาโดยมียูวิ่งนำหน้าผมกับสกายลุกขึ้นยืนเชนเดินเข้ามากอดผมนาฟพุ่งตัวไปกอดสกายตามด้วยคนอื่น ๆ พวกเขากอดกันร้องไห้ทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิด
“บีสท์ต้องไม่เป็นอะไร” ยูเดินเข้ามาลูบหัวปลอบผมแล้วจ้องมองไปยังประตูห้องฉุกเฉิน
“มึงควรไปทำแผลก่อนนะ” ผมส่ายหน้า
“ไม่เอา ไม่อยากไปไหน”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเราไปขออุปกรณ์พยาบาลมาทำแผลให้”
นาฟยกมือเช็ดน้ำตายิ้มบอกผมอย่างใจดีก่อนแผ่นหลังบางจะเดินเร็ว ๆ หายไป ไม่นานเธอก็กลับมากับกล่องปฐมพยาบาลในมือและ...ครอบครัวของบีสท์ ผมลุกพรวดยืนตรงมองไปยังครอบครัวของเขาที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นผมก็รีบตรงเข้ามาหาและสิ่งที่ทำให้ทำนบน้ำตาของผมแตกอีกรอบก็คืออ้อมกอดของพ่อและแม่ของบีสท์
“ฮึก...ขอโทษครับ...เพราะผม”
“ชู่ว ไม่ใช่ความผิดซันหรอกลูกมันเป็นอุบัติเหตุ” พ่อของบีสท์กอดปลอบผมแม่เขาและพี่แบทเองก็เช่นกัน ถึงสีหน้าทุกคนแสดงความเป็นกังวลอย่างชัดเจนแต่ก็ไม่มีใครแสดงท่าทีโกรธผมเลยสักคน เพื่อนของบีสท์ก็เหมือนกัน
ปัง!
“อาจารย์หมอคะ
คนไข้หยุดหายใจค่ะ!” พยาบาลคนหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องฉุกเฉินบอกกับแม่ของบีสท์ ท่านพยักหน้าแล้วหันมากอดผม พี่แบทและพ่อเร็ว ๆ แล้วผละออก
“ฝากลูกด้วยนะคุณ”
“เชื่อมือฉันเถอะค่ะ” แม่บีสท์เดินตามพยาบาลคนนั้นเข้าไปอย่างรวดเร็วพวกผู้หญิงทุกคนพากันร้องไห้โฮ พวกผู้ชายบางคนหันหน้าหนีร้องไห้กันเงียบ ๆ บางคนก็กอดปลอบพวกเพื่อนผู้หญิงอยู่
ผมทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินข้าง ๆ คือพ่อของบีสท์นั่งกอดไหล่ผมอยู่ไม่ห่าง สกายลุกขึ้นเช็ดน้ำตาลวก ๆ แล้วเดินไปเอากล่องปฐมพยาบาลจากนาฟเดินมานั่งลงทำแผลตรงหน้าผมอย่างเบามือ พ่อของบีสท์ยิ้มแล้วยกมือข้างที่ว่างอยู่ไปลูบหัวสกาย
“เก่งขึ้นเยอะเลยนะกาย ยูบอกพ่อว่ากายมีสติดีมากปฐมพยาบาลให้บีสท์จนรถพยาบาลมาถึง พ่อขอบคุณมากนะลูก” สกายส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับพ่อ ผมเลือกเรียนหมอเพราะพวกเขา ผมไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว” พ่อบีสท์ยิ้มใจดีเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้สกาย
“บีสท์โชคดีมากที่มีเพื่อนที่ดีแบบนี้”
“ผมก็โชคดีที่มีบีสท์เป็นเพื่อนครับ”
ผมนั่งนิ่งให้สกายทำแผลจนเสร็จ เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ทุกครั้งที่ประตูบานนั้นเปิดหัวใจผมก็เต้นรัวด้วยความหวัง เนิ่นนานจนความกลัวจะเสียบีสท์ไปกัดกินหัวใจผมไปทีละน้อย เฝ้าแต่ภาวนาให้เขาปลอดภัย บุญไหนที่เป็นของผมพรข้อใดที่เป็นของผม ผมขอยกให้บีสท์ทั้งหมด ขอแค่ให้เขาปลอดภัย ขอแค่ให้บีสท์กลับมาหาผมก็พอ
แม่ครับช่วยบีสท์ด้วย อย่าเพิ่งพรากบีสท์ไปจากซันเลยนะ
“ซัน...ไหวไหมหน้ามึงซีดมากเลย”
ผมเงยหน้ามองเพื่อนตัวเองที่เพิ่งมาถึง ซานย่อตัวลงตรงหน้าผมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ผมได้แต่ส่ายหน้า ผมไม่ไหวจริง ๆ ทุกอย่างมันหนักอึ้งและถาโถมเข้ามาในคราวเดียว ภาพที่บีสท์ถูกรถชนยังติดตาผมไม่สามารถลบออกไปได้ ภาพของคนรักที่นอนอยู่บนเตียงเสื้อผ้าชุ่มโชกไปด้วยเลือด
ผมเจ็บ เจ็บเหมือนกำลังจะตาย หลังประตูบานนั้นบีสท์จะเป็นอย่างไรบ้าง กำลังสู้อยู่ใช่ไหมทรมานมากหรือเปล่ากลับมาหากูไหวไหม กลับมารักกูอีกครั้งได้หรือเปล่า
ปัง!
พวกเราทุกคนหันขวับไปมองประตูที่เปิดออก พยาบาลคนหนึ่งเดินออกมาหน้าตาเคร่งเครียด เธอกวาดตามองพวกเราแล้วประกาศถามเสียงดัง
“ทางเราต้องการเลือดกรุ๊ปบีโดยด่วนค่ะ คนไข้ช็อคเพราะเสียเลือดมาตอนนี้เลือดสำรองของทางโรงพยาบาลใกล้จะหมดแล้ว ท่านใดมีเลือดกรุ๊ปนี้และสุขภาพร่างกายแข็งแรงรบกวนตามดิฉันมาด้วยค่ะ”
พ่อ พี่แบท ยู เชน เปา แพรว เมเปิ้ลและซานลุกขึ้นวิ่งตามพยาบาลไปผมได้แต่มองตามพวกเขาอย่างมีความหวังเพราะตัวเองเลือดคนละกรุ๊ปกับบีสท์ไม่สามารถให้เลือดเขาได้ มาร์คนั่งลงแทนที่พ่อของบีสท์เขาคว้ามือผมไปกุมและบีบให้กำลังใจเบา ๆ คริษฐ์ยืนอยู่อีกข้างบีบไหล่ให้กำลังใจผมอยู่เช่นกันส่วนคิงนั่งอยู่ตรงข้ามกับสกาย สักครู่เมเปิ้ลก็เดินกลับมาเพราะเลือดจางไม่สามารถบริจาคเลือดได้
“ได้ถามพยาบาลไหมว่าอาการบีสท์เป็นไงบ้าง” แจมถามขึ้น เมเปิ้ลยกมือปิดหน้าร้องไห้โฮออกมา
“ฮึก...เขาบอกว่าบีสท์อาการโคม่า หยุดหายใจไปสองครั้งเสียเลือดมาก ฮึก...กูจำได้แค่นี้”
ผมก้มลงมองฝ่ามือตัวเองแล้วหลับตาด้วยความอ่อนล้า ไม่รู้ว่าต้องคิดอะไรแล้วตอนนี้ กลับมาหากูไหวหรือเปล่า กำลังพยายามอยู่ใช่ไหม พยายามอีกนิดนะแต่ถ้าไม่ไหวก็ไม่เป็นไร เพราะกูตัดสินใจได้แล้วเหมือนกัน โลกที่ไม่มีมึงมันก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ถ้าเลือกที่จะไปกูจะไม่ห้าม
เพราะกูจะเป็นฝ่ายตามมึงไปเองโลกที่ไม่มีมึงกูอยู่ไม่ได้หรอกนะ ไม่เอาอีกแล้วถ้าต้องกลับไปอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกครั้ง ไม่เอาอีกแล้ว ตายตามไปด้วยยังดีเสียกว่า
“มึงยังมีหน้ามาที่นี่อีกหรือไงไอ้เหี้ย!!!”
ผมสะดุ้งกลับมาสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้งเมื่อเสียงของสกายเปล่งออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด เขาพุ่งตัวไปต่อยอินจนล้มกองกับพื้นรัวหมัดใส่คนข้างใต้ไม่ยั้ง อินได้แต่ปัดป้องหาจังหวะสวนคืนไม่ได้ ไม่มีใครคิดจะห้ามสกายจนกระทั่งการ์ดสองคนที่ผมจำได้ว่ามันคือคนที่จับตัวผมมาแยกสกายออกจากอิน พวกผู้ชายวิ่งเข้าไปเอาตัวสกายออกมาได้ทันก่อนที่อินจะสวนหมัดใส่เขา
“มึงกล้ามากที่มาที่นี่” พี่แบทชี้หน้าอิน
“...” อินเงียบเขายกมือเช็ดคราบเลือดบนใบหน้าแล้วเงยหน้ามองผมด้วยสายตาปวดร้าวและหันหลังกลับไปมองคนที่กำลังเดินเข้ามา ผมปรายตามองคนที่เดินเข้ามาในกรอบสายตา ผมกำมือแน่นลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเขา
“มาทำไม จะเอาใครไปจากผมอีก!! ต้องพรากคนที่ผมรักไปอีกซักกี่คนคุณถึงจะพอใจ!!!!! ตอบผมสิเงียบทำไม!!! ตอบผม!!!!!”
ผมทุบไหล่เขาอย่างแรงตะคอกถามทั้งน้ำตา ผมไม่สนว่าใครจะมองอย่างไร พวกพยาบาลวิ่งเข้ามาห้ามตั้งแต่สกายต่อยอินร้องขอให้ผมหยุด คริษฐ์กอดเอวแล้วดึงผมออกมา ผมสะบัดตัวออกสูดลมหายใจแรงจ้องมองเขาพอดีกับพ่อบีสท์ที่กลับมาจากการให้เลือด
“ซันเกิดอะไรขึ้นลูก”
“ลูก?” เขาทวนคำพ่อของบีสท์แล้วมองหน้าผม พ่อของบีสท์เดินเข้ามากอดผมแล้วมองไปที่เขาเช่นกัน
“คุณเป็นใคร” เขาถามพ่อบีสท์
“ผมเป็นพ่อของบีสท์แฟนลูกชายคุณ” ผมเงยหน้ามองพ่อบีสท์ด้วยความแปลกใจที่ท่านรู้ว่าคน ๆ นี้เป็นใคร
“ผมมีเรื่องจะคุยกับลูกชายผม”
“แต่ผมไม่มี!!” ผมสวนเขาทันควัน ไม่อยากคุย ไม่อยากเห็นหน้าทั้งเขาทั้งอิน
“ซัน...
พ่อแค่อยากคุยด้วย สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว” ผมหัวเราะเหยียดยิ้มมองเขา
“ก็ทำอีกสิ สาบานได้เลยว่าคราวนี้คนที่อยู่ในห้องนั้นจะเป็นผม!”
“ซันมาคุยกันดี ๆ ก่อนดีไหม พ่อก็เสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“เสียใจ? ผมต้องเชื่อคุณอีกไหม ตั้งแต่คราวแม่ที่คุณทำเป็นเสียใจจะเป็นจะตายแล้วเป็นไง สามเดือนแค่สามเดือนหลังงานศพแม่คุณก็เอาผู้หญิงคนนั้นเข้ามา!!!! ลูกในท้องของเธอกี่เดือนกันล่ะ นานเท่าไหร่แล้วที่หลอกแม่กับผม! คุณตอบมาสิ!!!”
“พ่อขอโทษ”
“ผมไม่ต้องการ เก็บคำขอโทษของคุณกลับไปแล้วอย่ามายุ่งกับชีวิตของผมอีก คุณทั้งสองคนเลย!”
“คุณคนเล็ก...”
“ไม่ต้องมาเรียก! เพราะคุณคนเดียวเรื่องทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ ทำไมครับแค่ผมไม่รักนี่มันทำให้คุณเจ็บมากหรือไงถึงต้องลงทุนทำอะไรแบบนี้”
“อะไรนะ” เขามองผมสลับกับอิน ผมพ่นหัวเราะออกมาเหยียดยิ้มมองเขาอย่างสมเพช
“ที่เขาไปเป่าหูคุณไงครับ ว่าไงนะผมกำลังเดินทางผิด พระเจ้าเถอะถ้าผมเดินผิดก็คงผิดมาเป็นสิบปีแล้วและคนที่เลือกเส้นทางผิด ๆ ให้ผมก็อนาตคลูกเขยคุณนี่ไง!”
“หมายความว่าอย่างไรอิน”
“ผมขอโทษครับ ผมกับน้อง
เราเคยรักกันครับ”
“ว่าอะไรนะ!” เขาดูตกใจเมื่ออินพูดจบ
“หึ บอกเขาไปสิครับว่าที่ไปยุยงจะเอาผมกลับไปเพราะอะไร เพราะตัวเองไม่ได้ไงคนอื่นเลยต้องไม่ได้ด้วย เพราะผมไม่ได้รักอินแล้วไง!!เมื่อไหร่จะยอมรับซักที!!! ผมไม่ได้รักอิน
กูไม่ได้รักมึง!!!”
“ครับ พี่ได้ยินแล้ว...แต่ก็ยังทำใจให้ยอมรับไม่ได้ในเมื่อน้องเคยเป็นของพี่”
“ผมไม่เคยเป็นของอิน”
“พี่รู้...แต่พี่ทำไม่ได้”
“แล้วจะให้ผมทำยังไง ให้ตาย ๆ จากกันไปเลยไหมอินถึงจะพอใจ”
อินส่ายหน้าเม้มปากแน่น ผมจ้องหน้าเขาเพื่อให้รู้ว่าผมเอาจริง เอาสิตอนนี้ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นให้ตายไปเลยก็ทำได้ถ้าการมีอยู่ของผมมันทำให้คนอื่น ๆ พากันเดือดร้อนไปหมดอย่างนี้
“พี่ยอมแล้ว อย่าทำอะไรแบบนั้นเลยนะ พี่จะไปเอง ผมขอโทษทุกคนนะครับ โดยเฉพาะคุณ” อินยกมือไหว้พ่อของบีสท์ พ่อบีสท์รับไหว้แต่พี่แบทไม่ยอม
“มึงคิดว่าน้องกูเป็นอย่างนี้แล้วกูจะยอมหรือไง กูจะไม่ให้มึงเหลืออะไรเลยคอยดู!” พี่แบทตะคอกบอกอินอย่างเคียดแค้น พ่อหันไปปรามแต่ดูเหมือนพี่แบทจะไม่ฟัง
“พ่อยอมก็เรื่องของพ่อแต่ผมไม่ยอม
น้องผมเจ็บมันต้องเจ็บกว่า!”
“ผมไม่ได้อยากให้มีใครต้องเป็นอะไรไป เรื่องที่ทำไม่ดีกับยูเพราะผมรู้ว่ามีคนคอยตามคนของผมอยู่ ผมจึงสั่งให้เขาไปทำเพื่อเป็นการขู่และบอกเป็นนัย ๆ ว่าให้เลิกยุ่งกับซันซะ แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างที่ผมหวัง น้องไม่กลับมา น้องที่เคยอยู่ในสายตาผมออกห่างออกไปเรื่อย ๆ ผมทนไม่ได้ ผมรู้ว่าผมเห็นแก่ตัวไม่เลือกอะไรสักอย่าง ผมขอโทษครับทุกอย่างที่ผมสร้างผมขอรับผิดไว้เองคนเดียว ขอโทษนะครับคุณอาถ้าอยากจะถอนหมั้นผมจะยอมรับครับ”
อินก้มหัวขอโทษทุกคน ใบหน้าบวมช้ำยิ้มขื่นส่งมาให้ผมก่อนจะหันไปยกมือไหว้เขาแล้วหันหลังเดินจากไป พวกเพื่อนผู้ชายทำท่าจะตามออกไปหาเรื่องแต่พ่อของบีสท์ขอเอาไว้พวกเขาถึงยอมกลับไปนั่งกันเฉย ๆ ผู้ชายคนนั้นมองตามหลังอินจนสุดสายตาแล้วหันกลับมามองผม
“พ่อไม่เคยรู้”
“แน่สิคุณไม่เคยรู้อะไรอยู่แล้วนี่”
“ซันคุยกับพ่อเขาดี ๆ สิลูก” พ่อของบีสท์ปรามผม ผมหันไปยกมือไหว้ขอโทษท่านและหันมาไหว้เขา
“ขอโทษครับ”
“พ่อเป็นพ่อที่แย่มากเลยใช่ไหม” ผมเม้มปากหันหน้าหนีสายตารู้สึกผิดของเขา
“คุณมีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะครับ”
“อินมาปรึกษาพ่อบอกว่าเหมือนเราจะมีแฟนเป็นผู้ชายแถมยังเป็นพวกนักเลงหัวไม้เที่ยวมีเรื่องกับคนอื่นเขาไปทั่ว พ่อเป็นคนให้เขาคอยดูเราตั้งแต่ที่เราออกไปอยู่คนเดียว ช่วงหลังเขามาบอกเรื่องของเรากับแฟนเราบ่อยมาก มีรูปที่แฟนเราไปต่อยตีกับคนอื่นรวมทั้งที่ตามไปต่อยเขาใต้ตึกคณะอีก พ่อรู้ว่าพ่อเป็นพ่อที่ไม่ดีแต่พ่อก็รักเรามากนะ พอเขามาบอกพ่อแบบนี้พ่อก็โกรธพาลไปโกรธถึงตายายแกที่ทำไมถึงยอมรับและให้คบกันแล้วก็คิดว่าถ้าเราอยู่กับพ่อคงไม่เป็นแบบนี้”
“ก็เลยทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้น่ะหรือครับ” ไม่ใช่เสียงของผมแต่เป็นพ่อของบีสท์ ท่านเอ่ยปากหลังจากที่เงียบฟังอยู่นาน
“คนเป็นพ่อแม่ต่อให้ลูกจะเลวแค่ไหนก็ยังรักกับอีกเรื่องแค่ที่ลูกตัวเองเป็นแต๋วเป็นเกย์นี่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเลยนะครับถ้าเทียบกับสิ่งที่เขามอบให้ผมคือการเป็นคนดีตั้งใจเรียนและซื่อสัตย์กับตัวเอง คุณพูดถูกลูกผมอาจเป็นนักเลงหัวไม้อย่างที่คนอื่นพูดกันแต่นั่นคือสิ่งที่คนอื่นพูด ลูกของผมผมเลี้ยงมาเองกับมือทำไมผมจะไม่รู้ว่าลูกตัวเองเป็นอย่างไร ตอนที่บีสท์มาบอกว่าชอบซันขอคบกับซันผมกับภรรยาตกใจนะแต่เหนือสิ่งอื่นใดคือผมรู้ว่าลูกต้องตัดสินใจมาดีแล้วจริง ๆ ถึงกล้ามาพูดกับผมและซันก็เป็นเด็กน่ารักนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงยอมรับการคบกันของพวกเขาเพราะสิ่งที่พ่อแม่ทำได้คือการให้กำลังใจชี้แนะบอกสิ่งที่ถูกที่ผิดและคอยสนับสนุนพวกเขาแม้สังคมภายนอกจะไม่เห็นด้วยก็ตาม”
“คุณคิดว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันจะไปรอดอย่างนั้นหรือ” พ่อของบีสท์ยักไหล่กับคำถามนี้
“ผมไม่รู้หรอกแต่ในเมื่อพวกเขาอยากจะลองผมก็จะให้พวกเขาได้ลองพิสูจน์ ปัญหามีไว้แก้อุปสรรคมีไว้ข้ามผ่านนี่ครับถ้าไม่ลองทำด้วยตัวเองแล้วจะใช้ชีวิตให้โตขึ้นได้อย่างไร วันข้างหน้าเขาสองคนอาจจะเลิกกันแยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเองแต่ผมเชื่อนะว่าเขาสองคนจะไม่เสียใจที่วันนึงพวกเขาเคยรักกัน”
“อะไรทำให้คุณเชื่ออย่างนั้น” พ่อของบีสท์หัวเราะเล็กน้อยแล้วหันมาลูบหัวผม
“ก็ลูกผมนี่นาผมเลี้ยงมาเองกับมือ เนอะซันเนอะ”
“ครับ จนถึงวันนี้ผมไม่เคยเสียใจเลยสักครั้งที่เลือกรักบีสท์ ขอโทษนะครับถ้าการที่ผมเป็นแบบนี้แล้วทำให้คุณผิดหวัง ช่วยลืมว่าผมเป็นลูกคุณไปเลยก็ได้”
“ซัน...”
“ผมรู้สึกอย่างที่พูดไปจริง ๆ นะครับ อาจจะดูอกตัญญูแต่ความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณมันพังไปนานแล้วมันฝังรากลึกจนผมไม่สามารถลบมันไปได้ ถ้าคุณรักผมจริงอย่างที่ปากคุณพูด กรุณาปล่อยผมไปตามทางที่ผมเลือกเถอะครับ ทุกวันนี้ผมมีความสุขดีมีความสุขมาก ๆ จนกระทั่งวันนี้ที่คุณกลับเข้ามาอีกครั้งและผมก็ต้องขอโทษอีกครั้งที่ต้องพูดออกมาว่า ผมไม่อยากให้คุณกลับเข้ามาเลย”
“เกลียดพ่อมากเลยใช่ไหม” ผมใช้ความเงียบแทนการตอบคำถามของเขา เขายิ้มขื่นดวงตาของเขาแดงก่ำ
“ขอพ่อกอดเราหน่อยได้ไหมแค่ครั้งเดียวแล้วพ่อจะไม่มายุ่งกับเราอีกเลย แต่ขอให้เรารู้ไว้นะว่าสำหรับพ่อซันคือลูกที่พ่อรักเสมอไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” ผมเม้มปากแน่นยกมือปาดน้ำตาแล้วเดินเข้าไปกอดเขาเงียบ ๆ ผมจะจดจำอ้อมกอดนี้เอาไว้ว่ามันอบอุ่นแค่ไหน จะจดจำเขาในฐานะของ
พ่อที่ผมเคยรัก
“ขอโทษนะครับ”
“โชคดีนะลูก ขอให้เขาปลอดภัย” เขาเดินกลับออกไปแล้ว ผมสูดลมหายใจยาวหันหลังกลับไปมองพ่อของบีสท์ที่ยืนยิ้มใจดีส่งมาให้ท่านอ้าแขนรับผมเข้าไปในอ้อมกอด
“แล้วสักวันอคติของซันที่มีต่อพ่อก็จะค่อย ๆ จางลงไปแค่วันนี้การกลับมาของเขามันตอกย้ำความเจ็บในอดีตของเราเฉย ๆ แต่ซันก็สัมผัสได้ใช่ไหมว่าเขารักซันมาก”
“ครับ ผมก็หวังว่าอย่างนั้น” เพราะผมเองก็ไม่อยากเกลียดเขาเช่นกัน
กึง!!!
ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับร่างสองร่างที่เดินออกมาพร้อมกัน แม่ของบีสท์และพี่คุณ แม่ถอดมาร์กปิดปากออกและหันมองพ่อ พี่แบทผมและพวกเราทุกคนก่อนจะระบายยิ้มออกมา
“บีสท์ปลอดภัยแล้วจ๊ะ”“ขอบคุณครับแม่!!”
“โฮฮฮฮฮฮฮฮ ขอบคุณค่ะแม่”
“ขอบคุณครับที่ช่วยลูกของเรา”
เราทุกคนต่างร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ พ่อคว้าตัวผมลากไปหาแม่กับพี่แบทและกอดพวกเราไว้ ผมดีใจเหลือเกินขอบคุณทุก ๆ อย่างที่นำพาบีสท์กลับมาหาผมและต้องขอบคุณคนที่เพิ่งปลอดภัยอีกเหมือนกันที่ยอมกลับมาหาผมให้ผมได้รัก
ขอบคุณนะบีสท์
อย่าทิ้งกันไปได้ไหม เธอรู้ฉันอยู่ไม่ไหว
โลกคงแตกสลายนาทีที่ไม่เหลือเธอ
คนที่รักทีสุดคนทีรักเสมอ
หมดชีวิตที่เห็นเมื่อใดก็เป็นของเธอ
อย่าไปจากตรงนี้อย่าไปจากคนนี้
ฉันกลัว ฉันกลัวพรุ่งนี้...จะไม่มีแรงหายใจ
ขอร้อง – แดน วรเวช
tbc
talk. เฮ่ออออออออ ดราม่ากันเบา ๆ ตอนสองตอนพอเนอะ มากกว่านี้ไม่ไหว สงสาร 555555555555555 เอาจริงเราสงสารพี่อินนะ เขารักแต่เขาก็ไม่ยอมรับความจริงซักทีอ่ะ จนโดนน้องพูดแสกหน้าเข้าไป หน้าชาไปเลยทีเดียว อีกอย่างคงไม่พ้นโดนพี่แบทกระทืบ 5555 เตรียมตับไตม้ามสำรองไว้เลยนะคะ ส่วนเรื่องพ่อซันเราจะไม่พูดถึงมาก อย่างที่ซันบอกคือความรู้สึกน้องพังไปหมดแล้ว ถามว่าเกลียดไหมเกลียดนะ รักหรือเปล่า ก็รักอีกนั่นแหละ มันเป็นอารมณ์ที่ทั้งรักทั้งเกลียด ให้เวลาเยียวยาทุกสิ่งแล้วกัน สุดท้ายนี้น้องกายลูกหนูเก่งมากเลยนะคะ เป็นคุณหมอที่ดีในอนาคตได้แน่ ๆ น่ารักที่สุดลูกรักของขุ่นแม่
อีกสามตอนจบแล้วอ๊าาา มีใครรอเล่มมั้ย 5555 เราเตรียมตอนพิเศษไว้เยอะมากเลยทั้งลงในนี้แล้วก็มีที่ไม่ได้ลงเลย แล้วเจอกันตอนหน้าค่า เป็นกำลังใจให้เราด้วยพรุ่งนี้สัมพาษณ์งาน 55555
#นิยายตัวร้าย