ตัวร้าย
38
“ขวัญเอ๊ยขวัญมานะลูก”
แม่บีสท์ลูบหัวปลอบผม ตอนนี้พวกเรามากองกันอยู่ในห้องผู้ป่วยวีไอพี ผมเพิ่งทราบว่านี่คือโรงพยาบาลของที่บ้านบีสท์กับสกายแล้วก็เพิ่งรู้อีกเหมือนกันว่าบีสท์กับสกายมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกันเพราะแม่ของเขาทั้งสองคนเป็นญาติสนิทกัน บีสท์ตื่นขึ้นมาได้สามวันแล้วหลังจากนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเกือบหนึ่งอาทิตย์
เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่แสนยาวนานกับผมมาก เฝ้ารอทุกวันอยู่ข้าง ๆ เขาเพราะกลัวว่าถ้าบีสท์ตื่นมาจะไม่เห็นใคร พวกเพื่อนเขาก็ผลัดเปลี่ยนเวรกันมาเฝ้าทุกวันเพราะถ้ามากันหมดเกรงว่าโรงพยาบาลจะแตกดังเช่นตอนนี้
"แม่ ๆ ผิดหรือเปล่าครับไปปลอบซันมันทำไมอ่ะ โน่นลูกชายแม่นั่งหน้างอเป็นตุ๊ดอยู่โน่นครับ"
สกายบุ้ยปากไปทางบีสท์ที่กอดอกด้วยมือข้างเดียว (อีกข้างใส่เฝือกอยู่) บึนปากทำหน้างอใส่แม่ของเขาอยู่สาเหตุเพราะว่าประโยคข้างต้นนั่นท่านพูดกับผมแถมยังกอดโอ๋อีกต่างหาก คุณแม่หัวเราะชอบใจแล้วเอ่ยปากบอกกับลูกชายคนเล็กของตัวเอง
"ไม่น่ารักเหมือนซันหรือพวกหนู ๆ ผู้หญิงอย่าทำสิบีสท์มันทุเรศลูกตาแม่"
"แม่!!! นี่ลูกนะ"
"เออก็ลูกไงแม่ถึงเตือนด้วยความรัก"
พอแม่เขาตอบคืนเท่านั้นแหละทุกคนในห้องก็หัวเราะก๊ากชอบใจกันเป็นแถว บีสท์พยายามมองหาตัวช่วยแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเลย พ่อกับพี่แบทหัวเราะนำเพื่อนคนอื่นเสียด้วยซ้ำ ผมหัวเราะก่อนจะเดินเข้าไปหาเขานั่งลงบนเตียงคนไข้
“หมาหัวเน่าเลยกู”
“มึงต้องรู้ตัวให้ไวนะน้องชาย”
พี่แบทหัวเราะบอกน้องชายตัวเอง บีสท์ยิ้มบางส่ายหัวทำท่าจะขยับตัวผมจึงรีบลุกขึ้นช่วยเขา สภาพบีสท์ตอนที่ถูกเข็นออกจากห้องไอซียูดูแย่มาก ผ้าพันแผลถูกพันอยู่แทบทุกส่วนของร่างกาย ใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา เห็นทีไรน้ำตาผมก็ไหลทุกครั้ง
“ดูแลกันดีเหลือเกิน เห็นแล้วหมั่นไส้!”
พี่แบทพูดเสียงสะบัดแล้วเดินออกไปตามด้วยเปา เชนและยู บีสท์หรี่ตามองพวกเขาจนลับประตูก่อนจะถอนหายใจออกมา ผมเลิกคิ้วถาม
"เป็นอะไรหรือเปล่า"
"กูไม่ค่อยไว้ใจพวกนั้นเท่าไหร่"
"หืม?"
"เดี๋ยวถ้ากลับมาแล้วแบทมีแผลก็รู้เรื่อง"
บีสท์กระซิบบอกผม พ่อกับแม่มานั่งคุยด้วยอยู่พักใหญ่แล้วก็กลับไปทำงาน พวกเพื่อนเองก็เช่นกันตอนนี้เหลือแค่ สกาย มาร์คและแจม
"อ่ะ กินเยอะ ๆ จะได้หายไว ๆ"
แจมเดินมาพร้อมกับยื่นจานกีวี่ที่ปอกเรียบร้อยมาให้ผมบุ้ยปากให้ป้อนบีสท์ ผมยื่นให้เขาจิ้มกินเองแต่แฟนที่ตอนนี้แปลสภาพเป็นเด็กโข่งยื่นปากงอนไม่ยอมรับไป
"กูเจ็บอยู่นะ"
"ก็ใช้มืออีกข้างสิ"
"โอ๊ย เจ็บจังเลยอีกมือนึงก็ยกไม่ไหว"
ผมยิ้มส่ายหัวเห็นท่าทางออเซาะที่นาน ๆ ทีบีสท์จะทำก็ใจอ่อนนั่งป้อนเขาจนหมด นี่รวมทั้งอาหารทุกมื้อที่ผมต้องเป็นคนป้อนเขาด้วยนะให้คนอื่นมาทำก็ไม่ยอม
"กูเกลียดอาการอ้อนเมียของมันจริง ๆ ให้ตาย" สกายกลอกตาทำหน้าเหม็นเบื่อมีมาร์คเป็นลูกคู่ส่วนแจมหัวเราะน้อย ๆ แล้วหันไปสนใจทีวีต่อ
"ช่วงกอบโกยเว้ย"
บีสท์ยักคิ้วสลับข้างบอกเพื่อน สกายจิ๊ปากก้มลงอ่านหนังสือต่อส่วนมาร์คกดเกมในมือถือเล่นซักพักใหญ่พ่อกับแม่ก็กลับเข้ามา แม่เช็คอาการของบีสท์อีกรอบแฟนผมได้ทีเลยงอแงใส่แม่ตัวเองว่าอยากกลับไปพักฟื้นที่บ้าน
"ขอแม่รอดูอาการอีกซักอาทิตย์ได้ไหม"
"โถ่แม่ครับ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว"
"ใช่สิตอนนี้ตื่นแล้วก็พูดว่าไม่เป็นอะไรได้นี่ ตอนที่เรายังไม่ตื่นมาล่ะเห็นใจพ่อแม่ พี่แบท ซันแล้วก็เพื่อนเราบ้างไหมบีสท์ว่าทุกคนเขาเป็นห่วงขนาดไหน"
แม่พูดกับบีสท์เสียงเข้มจนคนงอแงหน้าหงอลงไปก่อนเขาจะก้มหัวกล่าวขอโทษแม่ตัวเองเบา ๆ พ่อกับแม่ยิ้มแล้วลูบหัวปลอบบีสท์
"ขอแม่ดูอาการอีกหน่อยนะ แม่อยากมั่นใจว่าเราไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ"
"ครับแม่"
คุยเล่นเรื่องอื่นกันอยู่สักครู่พี่แบทกับพวกผู้ชายที่หายออกไปก็เดินกลับเข้ามาผมมองสภาพแต่ละคนแล้วได้แต่ขมวดคิ้ว ไปฟัดกับหมาที่ไหนกันมาเนี่ย โดยเฉพาะพี่แบทผ้าพันแผลที่พันอยู่ที่มือเขาบ่งบอกได้ดีว่าไปทำอะไรกันมา
"สารภาพบาปมา" แม่กอดอกพูดเสียงเข้ม พี่แบทเกาหัว
"คิดว่ากลับไปทำงานแล้วนะเนี่ย โอ๊ยแม่ ๆ แบทเจ็บ"
พี่แบทบ่นงึมงัมเหมือนพูดคนเดียวแต่ถ้าผมที่ยืนอยู่ข้างหลังแม่ได้ยินคาดว่าแม่ก็ต้องได้ยินและก็อย่างที่เห็น พี่แบทโดนบิดหูจนร้องโอดโอยมีบีสท์หัวเราะขำอยู่บนเตียง โดนคนพี่ขึงสายตาดุใส่แต่คนน้องเขาสนที่ไหนแลบลิ้นปลิ้นตาเยาะเย้ยพี่ตัวเองสบายอารมณ์
"น้องเวรมาเยาะเย้ยกู กูไปเอาคืนให้มึงมานะเว้ย"
"ว่าละ ที่กูบอกแหละซันว่าพวกมันมีพิรุท" บีสท์หันมาบอกกับผม
"สารภาพกับแม่มา ยูเราก็เป็นไปกับเขาด้วยหรือไง" แม่เอ่ยเสียงดุหันไปมองยูที่นั่งยิ้มแหยอยู่ข้างแจม
"ก็...ครับแม่ ใครทำเพื่อนผมเจ็บเขาก็ควรเจ็บเหมือนกันไม่ใช่หรือครับคล้าย ๆ แอ็คชั่นเท่ากับรีแอคชั่น"
"แม่ล่ะปวดหัวกับพวกเราจริง ๆ แล้วฝั่งนั้นเขาเป็นอย่างไรบ้าง"
แม่เอ่ยถามด้วยความอ่อนใจ ผมเดาว่าท่านคงรู้จักนิสัยลูกชายและเพื่อนลูกชายตัวเองเป็นอย่างดีถึงไม่ได้ดูตกใจอะไรมาก หันไปมองพ่อท่านก็นั่งอมยิ้มไม่พูดไม่จาแถมยังชูนิ้วโป้งให้พวกนั้นอีก ผมหันไปมองแฟนตัวเองบีสท์ยิ้มส่ายหัวแล้วกวักเรียกให้ผมไปนั่งข้าง ๆ
"ไม่เป็นอะไรมากครับแม่ จิ๊บ ๆ" เชนรีบบอกแถมยิ้มเอาใจตาหยี แต่พอแม่ง้างมือเหมือนจะตีเขาก็รีบย่นคอแล้วพูดรัว
"น่าจะแขนหักครับจากสภาพภายนอก ภายในต้องรอหมอเอ็กซเรย์ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉินครับ!!!"
"ไอ้เชน!!!" พี่แบทและพวกเพื่อนตะโกนเรียกเชนที่ได้แต่ยิ้มแหยเกาหัวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
"โทษทีลืมตัว แหะ ๆ"
"ไม่ต้องมาแหะ ๆ เลยพวกเรานี่จริง ๆ เลยนะ ถ้าเขาเอาเรื่องขึ้นมาจะว่าอย่างไร" แม่ว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ แต่แบทยิ้มแผล่รีบลุกขึ้นมากอดเอวอ้อนแม่ตัวเอง
"โถ่แม่ ผมซ้อมมันผมก็พามันมารักษานะไม่ได้ปล่อยทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ซะหน่อยส่วนถามว่าเอาเรื่องไหมบอกได้เลยว่าไม่แน่นอนทำไมน่ะหรือแม่ถามแฟนแม่ดูสิ" พี่แบทบุ้ยปากไปทางพ่อที่คราวนี้สะดุ้งโหยงทำหน้าเหรอหราเมื่อแม่หรี่ตาจ้องจับผิด
"คุณไปทำอะไรพวกเขา" พ่อชูมือขึ้นทั้งสองข้างแล้วส่ายหัว
"ผมเปล่า...อ่า...จริง ๆ ก็ทำนิดเดียว"
"ทำอะไรคะ สารภาพมาเดี๋ยวนี้"
"ก็ ก็แค่ปั่นหุ้นเล่น ๆ"
"เล่น ๆ ของพ่อคือแทบล้มละลายเลยแม่"
"ไอ้แบท!" พ่อตะโกนเรียกพี่แบทขี้ฟ้องแล้วทำท่าจะเข้ามาตีแต่โดนคุณผู้หญิงของบ้านชี้หน้าคาดโทษ
"ไหนว่าจะไม่ทำอะไรเขาไงคะ" พ่อเกาหัวถอนหายใจเฮือก
"โถ่คุณครับ อดได้ที่ไหนกันล่ะลูกผมเจ็บนะพวกเขาก็ควรจะได้รับผลที่เขาก่อหน่อยสิ" พี่แบทและพวกเพื่อน ๆ บีสท์พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับพ่อไม่เว้นแม้แต่แจม แม่ถอนหายใจเหนื่อยหน่ายแล้วหันไปมองพวกที่ออกไปก่อเรื่องเรียงตัว
"ตามแม่ออกไปทำแผลเดี๋ยวนี้"
"ครับแม่..."
พวกเขายิ้มหน้าบานกันตามหลังแม่ออกไปในห้องจึงเหลือแค่ บีสท์ ผม สกาย มาร์ค แจมและพ่อของบีสท์ บีสท์ถอนหายใจ สกายเลิกคิ้ว
"เป็นไรวะ ไม่โอเคที่พวกกูทำแบบนี้หรือไงใจจริงกูอยากไปด้วยมากแต่พวกนี้ไม่ยอม"
"ก็พรุ่งนี้มึงต้องสอบนะกาย" มาร์คพูดขึ้นน้ำเสียงสบาย
"เปล่าหรอกกูแค่คิดว่าเขาก็ได้รับกรรมที่เขาทำไว้แล้ว" พวกเพื่อนเขาขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับสิ่งที่บีสท์พูด
"สำหรับกู กูว่ากูเข้าใจพี่อินมันนะ
แค่ซันไม่รักกูว่าเขาน่าจะเจ็บปวดพอแล้ว"
"มึงมันก็แบบนี้ พอเป็นเรื่องของตัวเองทีไรก็สงสารเขาไปเรื่อยลองเปลี่ยนคนที่นอนอยู่ตรงนั้นเป็นกูสิ" สกายบอก บีสท์หัวเราะหึหึ
"ถ้าตรงนี้เป็นมึง กูก็คงเดินตามพวกนั้นออกไปทำแผล" สิ้นคำบีสท์พวกเราก็หัวเราะกัน พ่อเขาเดินเข้ามาลูบหัวลูกชายคนเล็กของตัวเอง
"แค่อีกฝั่งไม่ถึงตายพ่อว่าก็โอเคแล้ว" พ่อเขายักคิ้วขยิบตาใส่ผมแล้วเดินผิวปากอารมณ์ดีออกไป
"พี่แบทได้พ่อมึงมาเต็ม ๆ เลย" มาร์คหัวเราะบอก แจมกับสกายพยักหน้าเห็นด้วย
สักครู่พวกที่ออกไปทำแผลก็กลับเข้ามาคุยเล่นด้วยซักพักก็ขอตัวกลับกันไปตอนนี้เหลือแค่ผมกับสกายแล้วก็บีสท์ที่นอนหลับไปเพราะฤทธิ์ยา สกายนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโซฟารับแขกด้านนอกผมนอนอยู่บนเตียงข้างบีสท์ ไม่ได้อยากเอาเปรียบคนป่วยหรอกนะ แต่เป็นเขาเองต่างหากที่ร้องให้ผมอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลาเรียกแต่ผมจนสกายหมั่นไส้ย้ายตัวเองจากโซฟาในห้องออกไปนั่งตรงห้องรับแขก
"อ้าวมากันได้ไง" ผมเงยหน้าเอ่ยทักผู้มาใหม่ด้วยความแปลกใจ พวกเพื่อนผมครบทีมพ่วงด้วยฟี่เพื่อนในคณะบีสท์ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงประตูโดยมีสกายเบะปากหมั่นไส้ผมอยู่ไม่ไกล
"ขับรถมา" คิงเป็นคนตอบ สกายหัวเราะคิกคัก
"กวนตีน"
"หึหึหึ ผัวมึงเป็นไงบ้าง" คริษฐ์หัวเราะแล้วส่งตะกร้าผลไม้ให้สกายเดินไปเก็บที่โซนครัว ห้องวีไอพีก็ดีอย่างนี้ทุกอย่างแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างกับคอนโดไม่มีผิดเตียงก็ใหญ่นอนกันได้สองคนเหมือนกับเตียงที่บ้าน
"ดีขึ้นมากแล้ว" ผมตอบเสียงเบาเพราะบีสท์ยังหลับอยู่แต่สักครู่เขาก็ขยับและเปิดเปลือกตาขึ้น
"อ่าว หวัดดี" บีสท์เอ่ยทักพวกเพื่อนของผมและเพื่อนเขา
"ซันขอน้ำหน่อย"
"อื้อแปบนะ" ผมขยับตัวลงจากเตียงไปรินน้ำให้เขาแล้วกลับไปนั่งบนเตียง
"ทำไมมึงต้องไปนั่งเบียดมันบนเตียงวะซัน ลงมานั่งดี ๆ มา"
ซานตบที่ว่างข้างโซฟาให้ผมไปนั่งแต่เสียงสกายดังขึ้นพร้อมกับแขนข้างที่ไม่เจ็บของบีสท์กอดรอบเอวของผมไว้อย่างหวงแหนแถมยังส่งสายตาไม่เป็นมิตรใส่ซานด้วย
"เด็กติดแม่มึงอย่าไปแยกเดี๋ยวโดนกินหัว ผัวมันยอมให้ห่างตัวที่ไหนแค่เดินไปเข้าห้องน้ำเรียกแล้วเรียกอีกกูนี่รำคาญ!"
"ฮ่า ๆ เออกูเชื่อแล้ว ขอโทษครับพี่ ๆ" ซานยกมือไหว้บีสท์งก ๆ ฟี่เดินมานั่งลงบนเตียงตรงขาข้างที่เข้าเฝือกของบีสท์
"โอเคแล้วใช่ไหมมึง กูตกใจมากเลยตอนที่ได้ยินข่าว"
"อือ ดีที่ตื่นขึ้นมาได้"
"คนชนว่าไงอ่ะ" ฟี่ถาม
"เขาก็รับผิดชอบนะแต่เหมือนแม่กูเขาไม่เรียกร้องอะไร"
"อย่างว่า รักษาฟรี หมอเจ้าของไข้ก็แม่มึง โรงพยาบาลก็ของมึงแม่มึงคงไม่รู้จะเรียกร้องอะไร" ฟี่ว่าขำ ๆ บีสท์หัวเราะส่ายหัว
"ของกูที่ไหน โน่นของสกายโน่น" บีสท์บุ้ยปากไปทางสกาย คนถูกโยนให้ยักไหล่
"อีกนานกว่าจะเป็นของกูเผลอ ๆ แม่งพี่คุณฮุบสมบัติกูไปหมดแน่ ทั้งแม่มึงแม่กูปลื้มเขาแทบจะยกโรงพยาบาลให้อยู่แล้ว"
สกายว่าเสียงหน่าย ผมกับบีสท์หัวเราะจริงอย่างที่เขาพูดเมื่อเช้าพี่หมอคุณเข้ามาตรวจอาการบีสท์กับแม่ของสกายท่านดูปลื้มพี่เขามากอยู่ประมาณว่าทำอะไรก็ดูดีในสายตาไปหมดแถมยังบอกสกายให้ดูตัวอย่างพี่เขาไว้อีก มันถึงพูดถึงพี่เขาด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยแบบนี้ไง
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูเลี้ยงมึงเอง"
เสียงคิงดังขั้นพวกเราในห้องโห่ร้อง ไอ้เพื่อนคนนี้เปิดช่องให้ไม่ได้เลยหยอดตลอดสกายจากมันเฉย ๆ ตอนนี้กลายเป็นหน้าแดงหูแดงยิ่งเพื่อนแซวมันยิ่งอาย ตลกดีเหมือนกัน
"กูไปหาขนมกินดีกว่า" สกายลุกขึ้นเดินดุ่ม ๆ ออกไปจากห้อง คิงหัวเราะน้อย ๆ แล้วลุกเดินตามออกไป
"มีลุ้นไหมวะเพื่อนกู" ซานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หันมาถามบีสท์ แฟนผมยักไหล่โคลงหัว
"เรื่องนี้ไม่รู้เลยว่ะ ต้องถามไอ้เชนมันอยู่กับสกายบ่อยแถมยังเป็นสายให้พี่คุณอีก" คริษฐ์เลิกคิ้ว
"พี่คุณที่สกายพูดถึงเมื่อกี้อ่ะนะ"
"อือ"
"ยากแล้วเพื่อนกู" คริษฐ์ยิ้มพูด ผมเองก็ได้แต่ยิ้มไม่ได้ออกความเห็นอะไร
"จะหายทันเปิดเทอมไหมวะมึง" ฟี่ถามแล้วเคาะเฝือกที่ขาบีสท์เบา ๆ
"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ถ้าไม่ทันก็ใช้มึงทำงานเอา" ฟี่หัวเราะชอบใจแล้วพยักหน้า
"เออไอ้เพื่อนห่า เห็นแก่มึงช่วยกูมาตลอดนะเออนี่พวกเพื่อน ๆ น้อง ๆ ฝากมาให้มึงพวกเขาอยากมาเยี่ยมนะแต่ก็กลัว ๆ"
ฟี่เดินหายออกไปและกลับเข้ามาพร้อมกับตะกร้าผลไม้ใหญ่มาก ผมเดินไปช่วยเขาถือแล้วเอาไปวางไว้ในครัวแล้วกล่าวขอบคุณเขา
"ทำตัวให้น่ากลัวน้อยกว่านี้หน่อยสิมึงน่ะ" ซานว่า บีสท์เลิกคิ้ว
"ทำไมล่ะ"
"ก็จะได้มีคนกล้าเข้าหามากกว่านี้ไงเล่า" คราวนี้บีสท์ยิ้มน้อย ๆ แล้วยักไหล่ผมเดินไปตบหัวเพื่อนแล้วเดินกลับมานั่งข้างบีสท์
"พอเลย เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว"
"อะไรวะซัน"
"กูบอกว่าบีสท์เป็นแบบนี้ดีแล้วกูไม่อยากให้คนอื่นมายุ่งมาก"
"ว่ะ ๆ ๆ ๆ หวงผัวเว้ย ๆ"
พวกเพื่อนส่งเสียงล้อ บีสท์หัวเราะชอบใจยิ้มมองผมที่ทำหน้ามุ่ยอยู่ ก็ทำไมล่ะแฟนผมผมก็หวงเป็นนะ ผมรู้ว่าเขาที่เป็นแบบนี้มีคนสนใจตั้งมากมายแล้วยิ่งถ้าบีสท์เป็นมิตรมากขึ้นแน่นอนว่าคนที่แอบชอบเขาต้องกล้ามากขึ้น เรื่องนั้นผมยอมไม่ได้หรอก
"พี่มินโทรมาบอกว่าพี่อินโดนซ้อม" คริษฐ์เอ่ยออกมาน้ำเสียงเรียบเรื่อย ผมกับบีสท์พยักหน้ารับ
"เป็นไงบ้าง"
"เละ"
คริษฐ์บอกแค่นั้น ตั้งแต่เกิดเรื่องผมไม่ได้ถามเพื่อนตัวเองเลยว่ายังได้ติดต่อกับอินอยู่รึเปล่า ซานกับคิงไม่พูดถึงเลยแถมวันแรกที่บีสท์ฟื้นพวกเขายังพากันมาขอโทษที่เคยมองบีสท์ผิดและช่วยคนผิด
"ไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องในใหม่ใช่ป่ะ" บีสท์ถามติดตลก คริษฐ์หัวเราะส่ายหัว
"แค่เกือบ ๆ พี่มึงใส่ไม่ยั้งเลย"
"อือแบทก็เป็นแบบนี้แหละ"
"ไม่แค้นเขาหรือไง"
"ไม่ล่ะที่โดนไปก็น่าจะหนักมากพอแล้วแหละ"
"ขอโทษกับเรื่องที่ผ่านมาด้วยนะ" คริษฐ์บอก บีสท์เลิกคิ้วแล้วโบกมือไม่ถือสา
"มึงคอยอยู่ข้างซันมาตลอดในวันที่มันเจอเรื่องแย่ ๆ กูเข้าใจพวกมึงเพื่อนใครใครก็รัก" คริษฐ์กับซานยิ้ม
"เออดีแล้วเว้ยหมดทุกข์หมดโศกซะทีเพื่อนกู ต่อไปนี้ขอให้มีแต่ความสุขเข้ามาหามึงทั้งสองคนนะ" ซานลุกขึ้นเดินมาบีบไหล่ผมทั้งคู่ ฟี่เคาะเผือกบีสท์เบา ๆ คริษฐ์ยิ้มส่งมาให้เราทั้งสองคน ผมมองหน้าบีสท์จับมือเขาไว้ฟ้าหลังฝนมันงดงามเสมอผมเชื่ออย่างนั้น
When the sun shines, we'll shine together
Told you I'd be here forever
Said I'll always be a friend
Took an oath I'ma stick it out 'til the end
Now that it's raining more than ever
Know that we'll still have each other
You can stand under my umbrella
Umbrella – Rihanna
tbc
talk. อีกสองตอนจบแล้วอ่ะ ฮือออ เรารู้สึกโหวงมากเลย ตอนนี้นั้น หมั่นไส้คนอ้อนแฟนอ่ะ มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่พูดไรละหมั่นไส้!!! พี่แบทขารอน้องด้วยยยยย
ฝาก #นิยายตัวร้าย ด้วยน้าาา แล้วเจอกันตอนหน้าค่า