ตอนที่ 11 ความเข้าใจวันศุกร์โชคดีที่เรามีเรียนกันแค่ตอนเช้า ผมกับภีม และเพื่อนของผมอีกสามคนอย่างไอ้กิต ไอ้บอย และไอ้ชาย ก็พร้อมที่จะไปบ้านผมแล้วคับ
“กูอยากคุยกับมึงหน่อยได้เปล่าวะ” ไอ้บอยเดินมาบอกผม ผมงงๆ แต่ก็เดินมาคุยกับมันสองคน
“เมื่อวันก่อน มึงกับหมอก เป็นไงบ้าง” ผมมองมันอย่างงงๆว่ามันมาถามเรื่องนี้ทำไม แต่สมองก็ประมวลผลว่าที่ผมเจอหมอกคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“มึงหลอกกูไปเจอหมอกหรอ” ผมถามด้วยความตกใจ
“กูขอโทษ หมอกเขาบอกกูว่าอยากขอโทษมึง กูก็เห็นใจเขา” มันบอกพร้อมทำหน้าสำนึกผิด
“มึงมีอะไรกับหมอกเปล่าเนี่ย ปกติถ้าไม่ใช่คนที่มึงหลงรัก กูก็ไม่เคยเห็นมึงตามใจใครมาก่อน โดยเฉพาะหมอกมันเคยทำร้ายกู ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมึง มึงไม่มีทางเห็นมันดีกว่ากูแน่ถ้ามึงกับมันไม่มีอะไรกัน” ผมบอกพลางจับผิด
“กูเปล่านะเว้ย กู...กู...กูแค่สงสารจริงๆ” แค่คำพูดมันก็มีพิรุธละ
“เกิดอะไรขึ้นระหว่างมึงกับมัน บอกกูมา กูไม่ได้โง่นะเว้ย”
“กู...โธ่เว้ย มึงนี้แม่งเซ้นท์แรงจริงๆ”
“เล่ามา”
“เรื่องเกิดวันที่เราไปผับกัน” แค่เกริ่นผมก็รู้ละคับ วันนั้นก็โดนยากันหมด มันน่าจะโดนไม่ใช่น้อยเหมือนกัน
“แต่วันนั้นมึงออกไปกับผู้หญิงที่เจอกันนี่หว่า แล้วไปกับหมอกได้ไงวะ” ผมรีบถามอย่างสงสัย
“เฮ้ย แค่ประโยคแรกมึงก็รู้แล้วหรอว่าเกิดอะไรขึ้น” มันมองผมอย่างตกใจ
“กูฉลาด” ผมไม่ได้เล่าให้มันฟังเรื่องที่เราโดนยาปลุกกัน
“เออ...ก็วันนั้นแหละ ระหว่างที่กูจะได้พี่ผู้หญิงคนนั้น ผัวเขาดันมาเจอซะก่อน กูเกือบโดนซ้อม พอดีหมอกมาช่วยไว้พอดี และพามาส่งที่หอ ตอนแรกกูก็โกรธที่มันใส่ร้ายมึง แต่มันช่วยกูอะ แล้วคืนนั้นกูก็เป็นบ้าอะไรไม่รู้พอมันพามาส่งถึงเตียงกูก็เสี่ยนจนทนไม่ไหว และก็...” มันเงียบไป
“ได้กัน” ผมเสริมต่อ
“เชี่ย...แบบนั้นแหละ กูไม่คิดว่าจะทำแบบนั้นกับผู้ชาย แต่กูอดไม่ไหวจริงๆ ตอนเช้ากูก็ขอโทษเขานะเว้ย กูไม่เจอกับเขาได้วันสองวัน เขาก็ส่งข้อความมาหากู ขอให้กูช่วยพามึงมาเจอเขา เขาอยากขอโทษมึง แล้วเรื่องคืนนั้นเขาจะยกโทษให้กู”
“มึงก็เชื่อหมอกมัน”
“ก็กูทำผิดกับเขาไว้ กูก็อยากทำอะไรให้เขาบ้าง แล้วเขาไม่ได้ขอโทษมึงหรอ” มันถามด้วยความซื่อของมัน
“หมอกมันบอกว่าชอบกู อยากให้กูไปคบกับมันอะไรประมาณนี้แหละ”
“เห้ยยย ได้ไง เขาจะไปขอคบมึงทำไม มึงก็มีแฟนแล้ว” มันทำท่าทางไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด
“ไอ้บอยเดี๋ยวกูตบหัวคว่ำ มึงดูท่าจะหลงไอ้หมอกเข้าซะแล้วมั้งเนี่ย”
“เปล่านะเว้ย กูแค่ไม่คิดว่าเขาจะหลอกกู” มันพูดอย่างผิดหวัง ผมเข้าใจมันนะคับ ไอ้บอยเป็นคนซื่อ รักเพื่อน และถ้ามีแฟนก็โคตรรักแฟน มันถึงโดนผู้หญิงหลอกให้เสียตังค์บ่อยๆ
“ไปกันเหอะ ภีมจะหึงกูกะมึงแล้วเนี่ย” ผมบอก เพราะผมเห็นภีมมองมาทุกสิบวินาทีได้ แต่ภีมก็มองผมบ่อยอยู่แล้ว ถ้าผมอยู่ในรัศมีที่เขาเห็น ผมแทบจะสบตาภีมทุกครั้งที่มองไปที่เขา เรื่องหึงผมแค่แกล้งไอ้บอยเฉยๆ 55555
“ผัวมึงหล่อกว่ากูเป็นล้านเท่าจะมาหึงอะไรวะ”
“มึงดู” ผมพยักเพยิดให้มันมองไปทางภีม
“เออว่ะ มองมาตลอดเลย” มันทำหน้าเหมือนตัวเองทำผิด
“เลิกทำหน้าเศร้าได้แล้ว ปะไปกัน” ผมบอกพลางพามันมาที่รถ
“ภีม พี่ไม่ได้คิดอะไรกับพายเลยนะเว้ย มันเป็นแค่เพื่อนพี่เท่านั้น อย่าคิดมากนะ” ไอ้บอยมันบอกภีมก่อนตบไหล่ภีมเบาๆ ภีมหันมามองผมแบบงงๆ ผมได้แต่หัวเราะกับความซื่อของไอ้บอย ไอ้ชายกับไอ้กิตก็แอบขำด้วยเหมือนกัน
วันนี้ภีมขับรถเบ็นซ์มา ไอ้ชาย ไอ้บอย ไอ้กิตนั่งหลัง ภีมเป็นคนขับ ส่วนผมก็นั่งข้างเขา พอภีมออกรถ ไอ้บอยก็เอาแต่มองผมกับภีม ตอนนี้เรื่องที่มันกังวลคงเป็นเรื่องที่ผมแกล้งว่าภีมหึงมันกับผมแน่ๆ
“ภีมอย่าโกรธพายนะเว้ย พี่รู้สึกผิดถ้าทำให้ภีมเข้าใจพายผิด พายมันรักภีมนะ กับพี่มันไม่คิดอะไรแน่นอน” อยู่ดีๆไอ้บอยมันก็พูดขึ้นมา คราวนี้พวกผมสามคนฮากร๊ากเลย 555555
“กูล้อมึงเล่นไอ้บอย ภีมไม่ได้หึงมึงกับกูหรอก มึงนี่ก็เชื่อ 55555” ผมบอกมัน
“อ้าว ไอ้พาย ไอ้หลอกลวง” ไอ้บอยทำหน้าเหลอหล้ายิ่งทำให้ผมขำ 555555
“พวกมึงก็รู้ทำไมไม่บอกกู” ไอ้บอยหันไปว่าไอ้กิตกับไอ้ชาย
“ภีมมันเป็นโคตรเดือนนะเว้ย มึงมันแค่หล่อพอใช้จะไปเทียบได้ไง 5555” ไอ้ชายบอก
“พวกมึงแม่งมาแกล้งกู น้องมันจะคิดว่ากูเป็นบ้าอะไรมาบอกมันแบบนั้น”
“ตอนแรกผมก็งงคับ แต่เห็นพี่พายแอบหัวเราะผมก็รู้ว่าแกล้งพี่เล่น” ภีมพูดยิ้มๆ
“ร้ายทั้งผัวทั้งเมีย” มันว่าก่อนจะแย่งขนมในมือผมไปกินแก้อาย 555555
ระหว่างทาง ภีมก็แวะปั้มให้เราเข้าห้องน้ำหรือไปหาอะไรกินเพิ่มที่เซเว่น กลุ่มผมก็ดันมีแต่ผู้ชายหล่อๆยกเว้นผมมั้งคับที่ไม่ได้หล่อจนสาวเหลียวแบบนั้น
“น้องชื่ออะไรค่ะ คือเพื่อนพี่อยากขอไลน์ได้ไหม” มาอีกแล้วคับสาวใจกล้าที่มาขอไลน์ภีม
“ไม่ได้คับ ผมมีแฟนแล้ว” ภีมบอกกลับไปหน้านิ่ง ก่อนจะจูงมือผมมาที่รถ ทำเอาผู้หญิงคนนั้นยืนอึ้งไปเลย
“เสน่ห์แรงนะเนี่ย แค่แวะปั้มสาวๆก็มาหาละ” ผมพูดแซวเขา
“พี่ก็ใช่ย่อย ไอ้กลุ่มเด็กนักเรียนที่แวะปั้มนั้น มองพี่จนตาจะถลนออกมาอยู่แล้ว” ภีมบอกก่อนทำหน้าให้ผมมองไปที่รถทัวร์ที่จอดไม่ไกลนัก
“โรงเรียนชายล้วนมาเที่ยวหรือไงเนี่ย” ผมพูดตามที่เห็น ก็ทั้งรถทัวร์ไม่เห็นผู้หญิงเลยสักคน
“หยุดมองได้แล้วคับ เดี๋ยวเด็กพวกนั้นคิดว่าพี่อ่อย ได้ใจแตกกันพอดี” ภีมบอกพลางจับหน้าผมหันมาหาเขา
“ชายล้วนแบบนั้นน่าจะแตกกันหมดละมั้ง” ผมยิ้มทะเล่นให้ภีม
“พี่พายทะลึ่ง” เขาบอกก่อนจะจูบผม
“เฮ้ยๆๆๆ ไอ้พาย” ไอ้บอยมาถึงก็เรียกผมเสียงดัง จนผมกระเด้งออกจากภีมโดยอัตโนมัติด้วยความตกใจ
“อะไรมึงเสียงดังเชียว” ผมว่าไอ้บอย
“มึงดูนั้น ไอ้ชายมันยืนคุยกับดาวคณะวิทย์” ไอ้บอยรีบชี้ให้ผมดู ผมก็มองตามก็ต้องร้องอ๋อ เพราะผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ไอ้ชายหิ้วออกจากพับวันยาปลุกเซ็กซ์นั้น ไอ้ชายมันล่ำลาดาววิทย์ก็เดินหน้ายิ้มมาหาเราเลยคับ
“มึงวนัดน้องเขามาหรอวะ” ไอ้กิตถาม
“เปล่าบังเอิญ” ไอ้ชายตอบ
“บังเอิญซะหน้าบานเลยนะมึง” ไอ้กิตบอกเสียงติดจะหมันไส้ไม่น้อย
โป้กกก...โป้กกกก
“มึงตบกูไม” ไอ้บอยว่า
“ใช่กูด้วย” ไอ้ชายก็โดนไอ้กิตตบหัวไปเหมือนกัน
“ไอ้บอยมึงผิดที่ทำกระตายตื่นตูมจนไอ้พายมันไม่ได้จูบกับภีม ส่วนไอ้ชายกูหมันไส้เฉยๆ” ไอ้กิตบอกก่อนจะนั่งกินขนมที่มันซื้อมา
“กูมีความสุขกูจะไม่ทำร้ายมึง” ไอ้ชายพูดอย่างอารมณ์ดี
“กูขอโทษนะเว้ยไอ้พาย กูไม่รู้ว่ามึงอยากจะมาผสมพันธ์อะไรกันตอนนี้” ไอ้บอยพูดจากวนบาทาผม ผมเลยทำท่าจะโบกกะบาลมัน
“อย่านะเว้ย กูยิ่งไม่ค่อยฉลาดอยู่ ถ้าโดนมึงตบอีกทีสมองกูคงหายไปเลย” มันทำท่าขอร้องอย่างตลกๆในสไตล์ของมัน ผมเลยยอม กลัวเพื่อนไม่ฉลาด 55555
ในที่สุดเราก็มาถึงบ้านผมสักที บ้านผมเป็นบ้านเรือนไทยแบบโบราณ มรดกตกทอดมาจากปู่ทวด บ้านหลังใหญ่พอตัว ความจริงครอบครัวผมก็ไม่ได้รวยนักหรอกคับ แค่ทางต้นตระกูลเป็นพวกเจ้าขุนมูลนายเลยทำให้ลูกหลานมีที่ซุกหัวนอนที่ดีได้ พอมาช่วงท้ายๆตระกูลก็เรียกว่าเหลือแค่นามสกุลกับบ้านที่ใหญ่โต แต่ข้างในว่างเปล่า ยังโชคดีที่ยังเหลือที่ดินเก่าของต้นตระกูลอยู่บ้าง เลยเอามาต่อยอดทำเป็นรีสอร์ท อยู่ไกลจากบ้านประมาณสองกิโล
“สวัสดีคับแม่” ผมพูด ก่อนจะโผเข้ากอดแม่เข้าเต็มตัว
“แม่แก่ละนะ เดี๋ยวก็ล้มพอดี ไหนมาให้แม่ดูสิ แกไม่ได้กลับบ้านมาตั้งสองปี สวยขึ้นเป็นกองเลยนะ”
“สวยอะไรละแม่ ผมหล่อจะตาย” ผมอดทำเสียงงอนแม่ไม่ได้
“กล้าพูดนะ มีแต่คนบอกแกเหมือนแม่ แต่ดูตอนนี้สิสวยกว่าแม่อีก ว่าแต่คนไหนแฟนแกละ” แม่ถามผมอย่างอารมณ์ดี
“ผมไงคับแม่” ไอ้กิตเสนอหน้าขึ้นมาทันที
“เจ้ากิตนี่ ถ้าพายจะเป็นแฟนแก พายมันเป็นไปนานแล้ว 55555” แม่ผมยิ้มอย่างชอบใจ ก็ไอ้กิตมันเป็นเพื่อนสนิทผมนี่คับ มันแทบจะเป็นลูกอีกคนของแม่ด้วยซ้ำ
“แม่อะ ผมเหมาะกะพายสุดละนะ” ไอ้กิตทำงอน
“คนนั้นตะหากที่ดูเหมาะกะพาย” แม่ผมบอกพลางชี้ไปที่ภีม เล่นเอาภีมยิ้มจนหน้าแดงเลยคับ
“แม่นี้เดาเก่งสุดๆ” ผมบอก
“พ่อหนุ่มนี้จริงสิ? โอ้ยลูกเขยแม่หล่อขนาดนี้เชียว” แม่ผมพูดอย่างมีความสุข
“คับคนนี้แหละแฟนพาย”
“เรียกว่าผัวพายดีกว่าคับแม่” ไอ้กิตเอาอีกละคับ
“ตากิต แกนี้ เดี๋ยวมีผัวบ้าง แม่นี้แหละจะหัวเราะให้ดังไปถึงสยามเลย” แม่ผมเป็นคนหัวสมัยใหม่พอสมควรคับ เล่นเอาซะไอ้กิตหน้าจ๋อยเลย 5555
“มาๆเข้าบ้านเอาข้าวของไปเก็บ แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่งกินข้าวกันลูก” แม่ผมเดินนำพาทุกคนเข้าบ้าน
“แล้วพ่อละคับ” ผมถาม
“พ่อแกก็นู้นดูต้นไม้อยู่หลังบ้านนั้นแหละ” พ่อผมท่านชอบปลูกต้นไม่คับ เป็นคนใจเย็น แต่เวลาโกรธก็น่ากลัวสุดๆ
“นี้ห้องลูก” แม่ผมบอกผมยิ้มๆ
“ทำไมผมถึงมานอนห้องพ่อแม่ละคับ” ผมถามเพราะห้องเก่าผมจะอยู่อีกฝั่งของบ้าน ติดกับห้องพี่พล
“พ่อกับแม่ย้ายไปนอนห้องพายแล้วละลูก ห้องพายลมดี พ่อกับแม่ย้ายไปตั้งแต่พายไปอยู่หอหน่ะ” แม่บอกผมพร้อมรอยยิ้มที่ดูฝืนๆพิกล
“อ่อคับ ขอบคุณมากคับที่ยกห้องใหญ่ให้พาย” ผมกอดแม่เพื่อแสดงความขอบคุณที่ท่านยกห้องที่ไม่มีความทรงจำแย่ๆให้ผม
“พายสบายใจ แม่ก็ดีใจลูก ภีมก็อยู่กับพายนะ ส่วนที่เหลือตามแม่มา แม่กับพ่อช่วยกันจัดห้องว่างห้องใหญ่ให้นอนกันแล้ว” แม่ผมบอกก่อนจะเดินนำพวกไอ้กิตไป
“มาเก็บของกันเถอะคับ” ผมบอกภีม
“แม่พี่ใจดีจัง ให้ผมนอนกับพี่ด้วย” เขาบอกพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“อย่าคิดทะลึ่งเชียว นี้บ้านไม้นะ ทำอะไรก็ได้ยินหมดแล้ว” ผมทำท่าดุเขาเล็กน้อย
“แค่กอดก็ได้คับ ไม่น่ารุนแรงเท่าไหร่” เขาบอกก่อนจะกอดผมเอาไว้
“ผมมีความสุขจัง”
“พี่ก็มีความสุขที่แม่พี่ไม่ว่าเรื่องของเรา”
“ผม...” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะใช้จมูกซุกไซร้ไปทั่วแก้มผม
“ไปเปลี่ยนชุดได้แล้ว เดี๋ยวจะได้ไปกินข้าว” ผมปรามเขาก่อนจะเปิดกระเป๋าเลือกเสื้อผ้าให้เขาใส่
“สวัสดีคับพ่อ” ผมทักพ่อตอนมาถึงโต๊ะอาหาร
“ไม่เจอกันนาน แก่ก็ยังสวยเหมือนแม่ไม่มีผิด” พ่อเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบแซวเรื่องความสวยของผม
“พ่ออะ”
“นี่แกจำน้องหวานได้ไหม ลูกคุณอานนท์ไง” พอผมบอกพลางพยักหน้าไปทางผู้หญิงที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว คุณอานนท์ที่ว่านี้เป็นเพื่อนพ่อผมคับ
“เธอคือดาวคณะวิทย์” ผมอุทานออกมา
“ใช่ค่ะพี่พาย พี่พายน่าจะจำหวานไม่ได้ ตอนเด็กๆหวานชอบมาเล่นตุ๊กตากับพี่พายบ่อยๆ” หวานบอกพลางยิ้มให้ผมอย่างชื่นชม
“เล่นตุ๊กตา?” ทำไมผมจำไม่ได้
“ก็หวานเห็นพี่พาย แล้วนึกว่าเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนกัน ตอนนั้นหวานยังเรียกพี่พายว่าพี่สาวเลยนะคะ” เธอยังคงยิ้มหวานเหมือนชื่อของเธอ
“หวาน!!!” ไอ้ชายมาถึงก็เรียกหวานซะดังเลย
“พี่ชาย หวานว่าแล้วว่าพี่ชายต้องอยู่ที่นี้ด้วย” เธอพูดสียงอ่อนเสียงหวาน
“หนูหวานรู้จักเพื่อนพายด้วยหรอจ๊ะ” แม่ผมถาม
“ใช่คะ พี่ชายเป็นแฟนหวานเอง” เธอตอนอย่างภูมิใจ ดูท่าเธอจะชอบไอ้ชายจริงๆ
“อ้าวหวานเป็นแฟนกับเพื่อนพายหรอ พ่อก็นึกว่าเป็นแฟนพายซะอีก เห็นตอนแรกบอกจะพาแฟนมา พอพ่อเห็นหนูหวานพ่อเลยเข้าใจผิดเลย แล้วนี่ใครแฟนพายละ" พ่อผมถามก่อนจะทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย
“ผมเองคับ” ภีมพูดขึ้นมาทันที
“นายหรอ!!!” พ่อผมมองเขาอย่างตกใจ ผมเองก็ตกใจที่พ่อเรียกเขาเสียงดังแบบนั้น
“คับ ผมเป็นแฟนพี่พายคับ” ภีมตอบอย่างฉะฉาน
“สมกันดี” พ่อผมพูดแค่นั้น และก็กินข้าวต่อ ผมมองแม่แบบงงๆ แต่แม่ก็แค่ยิ้มให้ผมเฉยๆ
“พี่พายกับภีมเป็นคู่รักที่ดังมากเลยนะคะ หวานกับเพื่อนตั้งหลายคนลงชื่อเป็นแฟนคลับจนมีเพจในเว็บของมหาลัยด้วย” หวานพูดอย่างชื่นชม
“จริงหรอจ๊ะ” แม่ผมดูสนใจขึ้นมาทันที
“หวานกับเพื่อน และพี่ๆที่คณะที่เป็นสาววายปลื้มพี่พายมากเลยคะ นี้มีรุ่นพี่หวานคนหนึ่งคลั้งไคล้เรื่องชายรักชายมากจนทำหนังสือยื่นขอทุนทดลองที่ต่างประเทศเรื่องการทำให้ผู้ชายท้องได้ด้วยนะคะ นี้ก็ได้ทุนไปทำการทดลองมาได้หลายปีแล้ว” ผมนี้สำลักข้าวเลยคับ แม่คุณเรียนวิทยาศาสตร์แล้วจะทดลองอะไรแบบนั้นได้หรอ ภีมยิ้มก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อยแล้วลูบหลังให้ผม
“ถ้าพี่มีลูกกับผม คงน่ารักไม่น้อย” ภีมแซวผม
“ทานข้าวไปเลย” ผมว่าเขาแก้เขิน
“ถ้าพี่พายอยากมี เดี๋ยวหวานบอกพี่เขาให้นะคะ เห็นพี่ที่คณะคุยกันว่าการทดลองเป็นไปได้ด้วยดีในสัตว์ทดลอง ใกล้ได้ทดลองกับคนละคะ” หวานเธอพูดอย่างภูมิใจ ผมเห็นรอยยิ้มเธอแล้วเสียวสันหลังขึ้นมาเลย
“อย่าเลยหวาน พี่เป็นผู้ชายปกติดีแล้ว” ผมว่า
“แม่ว่าก็น่าสนใจดีนะ” แม่ผมพูดแล้วก็หัวเราะเหมือนแกล้งผม
“แช๊ะๆ” ผมมองไปที่ต้นเสียงก็เห็นหวานถ่ายรูปผมกับภีมอยู่
“ถ่ายไปลงเพจคะ พี่พายกับภีมเหมาะสมกันจริงๆ” หวานมองรูปในโทรศัพท์อย่างชอบใจ ในขณะที่ไอ้ชายก็ตักนู้นตักนี้ให้น้องเขากินตลอด
มืออาหารที่วุ่นวายก็จบลง ผมกับไอ้กิตช่วยกันล้างจาน ส่วนภีมช่วยแม่ผมเก็บโต๊ะ และทำความสะอาด ไอ้ชายก็นั่งสวีทอยู่กับน้องหวานที่ดูจะเล่นโทรศัพท์อยู่ ส่วนไอ้บอยก็เอาแต่จองโทรศัพท์เหมือนกัน แต่มันทำหน้าหงุดหงิดตลอดเวลา
“สบายใจขึ้นแล้วสิมึง” ผมถามกับไอ้กิต
“อืม ดีขึ้นเยอะเลยวะ ขอบใจมึงที่เป็นห่วงกู” มันบอกพลางยิ้มให้ผม
“มึงมีอะไรก็บอกกูได้เสมอ แต่มึงจะทำยังไงต่อไปตอนกลับไปมหาลัย”
“กูยังไม่รู้วะ”
“ถ้าอยากตัดก็เข้มแข็งไว้ ยังไงมึงก็เลี่ยงการเจอน้องเขาไม่ได้”
“กูจะพยายาม” มันพูดหน้าเศร้า
“มึงคงเคยรักมันมาก”
“ใช่ กูเคยรักมันมาก”
“แต่มึงไม่เคยทำให้กูรู้เลยว่ามึงมีความรัก”
“ชีวิตมึงมันเศร้าอยู่แล้ว กูไม่อยากเอาอะไรไปรบกวนมึง”
“กูอยากให้มึงรบกวนกูมากกว่า ตอนกูแย่มึงก็ช่วยกูไว้ พอมึงแย่มึงจะเก็บไว้คนเดียวหรอวะ กูเป็นเหมือนคนในครอบครัวมึงนะเว้ย” ผมบอกพลางจับไหลมันเบาๆ
“กูรู้ มึงเป็นคนเดียวที่กูพูดด้วยได้ทุกอย่าง แต่กูไม่อยากให้มึงมาเครียดด้วยจริงๆ ในตอนนั้นกูแอบคบเชน กูทั้งรักทั้งทุ่มเท เพราะน้องมันก็ดีกับกู ทำให้กูรู้ว่ามันแคร์กูที่สุด แต่...” มันเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้
“กูคบผู้ชายที่เจ้าชู้ ทั้งๆที่ดูก็รู้ว่ามันเป็นคนแบบนั้น กูก็ยังมองแต่สิ่งดีๆที่มันทำให้กู กูเชื่อที่มันสัญญาว่าจะเลิกเจ้าชู้ กูเกือบจะแนะนำมันกับมึงแล้วเพราะกูมั่นใจในตัวมัน แต่ในที่สุดคำสัญญาที่มันเคยให้ไว้ก็พังทลายลงเหมือนกับใจกูที่แตกสลาย กูเสียใจมาก แต่กูก็ต้องเข้มแข็ง คำพูดของมึงช่วยเตือนสติกูไว้” มันพูดพลางดึงผมไปกอด ผมทำได้แค่ลูบหลังมันขณะที่ไอ้กิตมันเล่าทั้งน้ำตา ผมไม่เคยเห็นมันเศร้าขนาดนี้ คงเพราะมันรักเชนมาก และยังคงรักอยู่ แต่เก็บซ่อนเอาไว้
“คำพูดกูหรอ” ผมถาม
“มึงเคยบอกว่า ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าที่พี่พลทำกับมึงแล้ว ประโยคนี้ของมึงทำให้กูคิดได้ว่าปัญหาที่กูเจอมันน้อยกว่ามึงมาก เรื่องแค่นี้ทำร้ายกูไม่ได้หรอก กูคิดแบบนั้น และเก็บความรู้สึกทั้งหมดกับเชนไว้ในส่วนที่ลึกที่สุด...”
“ตอนนี้มึงก็ไม่ได้อ่อนแอ ปัญหาของมึงมันต้องมีทางออกแน่นอน” ผมลูบหลังมันอย่างให้กำลังใจ
“ขอบใจมึงมาก กูไปละกูนัดจะไปซื้อเหล้ากับไอ้บอยสักหน่อย” มันบอกก่อนจะเดินออกไป ผมหันมาก็เจอภีมมองอยู่จากลานนั่งเล่นกลางบ้าน ก่อนจะเดินมาหาผม
“ไปเดินเล่นกับผมไหมคับ ผมอยากให้พี่พาไปดูรอบๆบ้าน” ภีมบอกพลางจับมือผมไปจูบเป็นการออดอ้อน
“อ้อนเป็นเด็กเลย” ผมว่า
“ฝึกไว้อนาคตจะได้เลี้ยงลูกคล่องๆไง”
“งดแตะต้องตัวพี่หนึ่งวัน พูดไม่เข้าหู” ผมว่า
“ผมล้อเล่น อย่าโกรธนะคับ” เขาทำท่าขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
“555555 ตลกดี สโนว์บอลเด็กน้อย” ผมแค่แกล้งเขาเล่น
“ปะไปเดินเล่นกัน” ก็เป็นผมเองเนี่ยแหละคับที่จูงเด็กโข่งอย่างภีมมาเดินเล่นข้างล่าง เราเดินไปจนถึงหลังบ้านที่ติดแม่น้ำสายใหญ่ ก่อนจะนั่งพักที่ศาลาริมน้ำ ที่ยกพื้นไม้สูงเหมือนเรือนนั่งเล่นขนาดเล็ก ผมนั่งพิงหมอนสามเหลี่ยม ส่วนภีมก็นอนลงมาหนุนตักผม ลมพัดมาตลอดทำให้เราไม่ร้อนเท่าไหร่นัก
ครืด---ครืด ภีมหยิบโทรศัพท์มาคุยขณะนอนหนุนตักผมอยู่
“ฮัลโหล”
“พี่เช็คหุ้นแล้วหรอคับ ถ้าตัวนั้นขึ้น พี่ก็ขายเลยก็ได้ ถ้าไม่ขายตอนนี้พรุ้งนี้มันต้องตกแน่คับ”
“คับ ตอนนี้ผมอยู่บ้านแฟนคับพี่”
“ใช่คับ คนที่เคยเล่าให้ฟัง”
“555 ก็แฟนผมน่ารัก”
“พอกลับไป จะแวะเข้าบริษัทคับ ฝากบอกพ่อกับแม่ด้วยว่าผมจะพาแฟนไปหา” ภีมพูดกับพี่เขาอย่างสบายใจ
“คับผม สวัสดีคับพี่ภี” และว่างสายไป ก่อนจะมองผมแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ผมละชอบที่เขายิ้มแบบนี้จริงๆ
“พี่ชายผมบอกอยากเจอพี่ด้วยคับ ผมอยากให้พี่ไปเจอครอบครัวผมไวๆจัง” ภีมบอกผม ก่อนจะจับมือผมไปจูบเล่น
“พี่ชายภีมอายุห่างกันมากไหม” ผมถาม เพราะผมไม่ค่อยได้รู้เรื่องเขาเลย ทั้งที่คบกันมาขนาดนี้แท้
“หกปีคับ พี่ภีเป็นคนเก่งมากตอนนี้เขาก็ขึ้นเป็นประธานบริษัทในเครือของครอบครัวทั้งหมด” ภีมพูดอย่างชื่นชม
“พี่ชายภีมชื่อภีหรอ”
“ชื่อเต็มๆก็ภีมะ ผมเลยเรียกว่าพี่ภี”
“ชื่อคล้ายกันจังเลย”
“ใช่คับ พ่อชอบความหมายของชื่อ พอมีผมเลยตั้งชื่อว่าภีม”
“แล้วชื่อหมายความว่าอะไร”
“น่าเกรงขามคับ”
“น่าเกรงขามจริงๆนั้นแหละ” ผมพูดลอยๆขึ้นมา
“อืมมมม” เขาลุกมาจูบผมอย่างดูดดื่ม ก่อนจะผลักผมนอนลงไปกับพื้นไม้ แล้วเอาลิ้นเข้ามาในโพรงปากผม ลิ้นเราเกี่ยวพันกันจนผมรู้สึกลุ่มร้อนไปหมด และเขาก็ถอนปากออก
“หึหึ พี่ชอบยอมผมแบบนี้ ถ้าผมมีอะไรกับพี้ตรงนี้จะทำยังไง” เขาถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
“ก็ยอมไง” ผมบอกก่อนจะยิ้มให้เขาเป็นเชิงยั่วเล่น
“งั้นผมจะกินละนะ” ภีมทำท่าจะโผเข้ามาหาผม
“เฮ้ยยยย พวกมึงอยู่นี้เอง ไอ้กิตให้มาชวนไปนั่งชิลกันที่ใต้ถุนบ้าน” ไอ้บอยบอกตอนที่วิ่งมาถึง มันดูตกใจเหมือนกัยที่เห็นภีมคร่อมผมแบบนี้ตอนที่มันพูดจบ
“กูมาขัดจังหวะรึเปล่า” มันพูดเสียงอ่อย พลางยิ้มแห้งๆ
“เปล่า ไปกัน” ผมบอกก่อนจะรีบลุก และเดินนำไปที่ใต้ถุนเรือน
“โทษนะเว้ยภีม อดปล้ำไอ้พายเพราะพี่เลย”
“ไม่เป็นไรคับ เวลาปล้ำพี่พายผมมีเยอะ” ภีมพูดเสร็จก็รีบเดินมาจับมือผม และเดินไปด้วยกัน ผมได้แต่ส่ายหน้าในความทะเล้นของเขา
“มาๆๆๆ ชนเหล้ากับกูสักแก้วไอ้พาย” เสียงไอ้กิตฟังก็รู้ว่ามันดื่มไปหลายแก้วแล้ว ผมละกลัวพ่อแม่ว่าจริงๆ เพราะนี้ก็เริ่มค่ำแล้ว เดี๋ยวพ่อแม่ผมก็นอนละคับ
“กูไม่ชอบเหล้ามึงก็รู้ กูแพ้ด้วย” ผมว่า
“แค่แก้วเดียว แล้วมึงก็แพ้ไม่มาก กินเป็นเพื่อนกูนะๆๆๆๆ” มันเริ่มทำท่าจะอ้อน
“เออๆ ก็ได้ เอามา” ผมบอกอย่างจนใจ
“ให้ผมกินแทนก็ได้นะคับ” ภีมมากระซิบบอกผม
“ไม่ได้โว้ยยย” ไอ้กิตเหมือนมันจะรู้ทัน
“กูกินเอง มึงเลิกโวยวาย เดี๋ยวพ่อแม่กูว่า นี้มันเริ่มมึดแล้ว” ผมบอกไอ้กิต ก่อนจะดื่มแก้วที่มันยื่นมาให้
“โอเคๆ มึงก็กินด้วยไอ้โคตรเดือน” ไอ้กิตหันไปส่งแก้วเหล้าที่ไอ้บอยชงให้กับภีม
เรานั่งกินกันจนดึก ผมกินไปสองแก้ว ก็เมาจนจะเสียสติละคับ ส่วนไอ้บอยก็หลับไปแล้วรายนั้นโดนกรอกไปเป็นสิบแก้ว ไอ้ชายก็นอนหนุนตักหวานที่ดูท่านคืนนี้เธอคงอยากจะนอนบ้านผม ไอ้กิตก็คิแข็งเกินไปมันยังนั่งสลึมสลืออยู่เลย และคนสุดท้ายแฟนผมก็สภาพเดียวกับไอ้กิตเลยคับ
“พี่พายคับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำนะคับ” ภีมเมา แต่ก็ยังรักษาบุคลิกความหล่อไว้ได้อย่างดี ไม่เหมือนไอ้เพื่อนผมสามคนสภาพดูไม่ได้เอาซะเลย
“เดินดีๆนะ” ผมบอกพลางตั้งสติมองเขา เพราะตอนนี้ผมเริ่มเวียนๆ งงๆแล้ว ผมเลยเอนตัวนอนลงข้างๆไอ้กิต ที่น่าจะสลบแล้ว เมื่อกี้ยังมองหน้าผมอยู่เลย
“พี่พายค่ะ” เสียงหวานเหมือนจะปลุกผม เพราะเธอสะกิดตัวผมด้วย
“อือ” ผมตอบได้แค่นี้จริงๆคับ พอนอนลงแล้วเหมือนตัวเองพร้อมจะหลับตลอดเวลา
“หวานชอบพี่พาย” เธอพล่ามอะไรของเธอก็ไม่รู้ ก่อนจะเปิดเสื้อผมขึ้น ผมพยายามปัดป้องมือของเธอออก แต่ก็ไม่มีแรงเลย ผมอยากตะโกนให้ไอ้ชายมันมาลากเมียมันออกไปแต่ก็ทำไม่ได้
“แล้วหวานก็ชอบพี่ภีมด้วย หวานเลยทำแบบนี้” เธอปัดแขนผม แล้วถอดเสื้อผมได้สำเร็จ เพราะตัวผมไม่ได้ใหญ่นัก นี่เธอจะปล้ำผมหรอ ไม่เอานะ ผมไม่อยากมีอะไรกับแฟนเพื่อน
“หวานอยากเห็นพี่มีครอบครัวแบบนิยายที่หวานอ่าน” สิ้นคำของเธอ ผมก็รู้สึกถึงบางอย่างจิ้มเข้ามาที่ท้องน้อยผม เหมือนจะเป็นเข็ม ผมมองลางๆเหมือนจะเป็นเข็มฉีดยา ก่อนที่เธอจะฉีดบางอย่างเอามาในท้องน้อยผม แค่เธอฉีดเข้ามาผมก็รู้สึกแสบแปลกๆที่ท้องน้อย มันเย็นและร้อนวูบวาบไปหมด นี้เธอทำอะไรผมเนี่ย!!!
TBC...