►►►แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ @ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ@ (แฟนตาซี) (19/3/2019) P.23
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►►►แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ @ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ@ (แฟนตาซี) (19/3/2019) P.23  (อ่าน 126966 ครั้ง)

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
นิยายสนุกมากเลยค่ะ  อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว
ชอบนิสัยนายเอกมาก ชิวๆ มองโลกในแง่ดี

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
เป็นนิยายที่น่าอ่าน

น่าติดตามที่สุดแล้วนะคับ

ตอนหน้ามีไรให้ตื่นเต้นอีกไหม

พระเอกเผยตัวแล้วใช่ไหม

คนนั้นคือพี่เทพ...


ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ชอบความฮาของก้อนดินมากมายย
อยู่ที่นี่ก็ดีนะดินเอยย ไม่ต้องกลับแหละ 555555
ชอบก้อนหิน แอบขโมยมาเลี้ยงได้ปะ 555555


ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ออฟไลน์ FaiiFay_Elle

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
ตอนที่ 9 F5


             ผมนั่งพิงต้นไม้กอดก้อนหินที่นั่งหันหน้าเข้ามาหาแล้วเอาหัวซุกลำตัวหลับไป สายตาก็มองกองไฟและเหลือบไปดูคนทั้งห้ากระซิบกระซาบกันอยู่อีกฝั่งเป็นระยะ ไม่รู้จะทำลับๆ ล่อๆ ทำไม ไม่รู้หรือไงว่ามันกระตุกต่อมเผือกคนอื่นเขา ไปคุยกันไกลๆ เลยดีกว่าไหม?

             หลังจากเดินทางออกจากจุดเกิดเหตุแล้ว พรีซาก็นำมาหาที่พักใต้ร่มไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ กับลำธาร ทั้งห้าแบ่งหน้าที่กันทำนั่นทำนี่อย่างรวดเร็ว ผมกับก้อนหินได้รับหน้าที่ให้ช่วยชเนาเซอร์หาฟืนเพื่อมาก่อกองไฟ ไม่นานพี่เทพ เอ๊ย! ไซเลอร์ก็ยื่นเนื้อตัวอะไรสักอย่างที่ย่างสุกแล้วมาให้ ส่วนของก้อนหินเป็นเนื้อดิบๆ ที่เสียบไม้มาให้เหมือนรู้ว่าปกติมันกินอาหารแบบไหน แสดงว่าคนที่นี่คุ้นเคยกับมังกรดี พอกินเสร็จแล้วทั้งห้าก็ไปนั่งจับกลุ่มคุยกันเบาๆ อยู่อีกฟากของกองไฟให้ผมอยากรู้อยากเห็นอยู่อย่างที่เป็นนี่แหละ

             แต่มองไปสักพักตาก็ชักจะเริ่มปรือจนฝืนไม่ไหวก็ถอดเสื้อออกปูพื้นหยิบผ้าออกมาจากเป้ แล้วก็ขยับเอนตัวลงนอน ห่มผ้ากันหนาวให้กับตัวเองและก้อนหิน ก่อนจะเคลิ้มหลับไป


             ผมลืมตาตื่นขึ้นมาตามเวลาเดิมของนาฬิกาชีวิต ก่อนจะสะดุ้งโหยงสุดตัว เกือบจะแหกปากร้องออกมาแต่มันร้องไม่ออก เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า โว๊ยยยยย! เวลาหลับเวลานอนมึงไม่ถอดผ้าคลุมกันรึไงงงงงง

             เข้าใจผมไหมครับมันใส่ผ้าคลุมสีดำสนิทแถมยังมีผ้าคาดปิดหน้า แทบจะไม่เห็นแม้แต่ลูกกะตา แล้วเสือกมานอนอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ พอนอนตะแคงแล้วลืมตาตื่นมาเห็นแล้วหัวใจแทบจะวาย ขวัญเอ๊ยยยย ขวัญมา ถ้าเอารองเท้าปาใส่หน้านี่ผมจะโดนฆ่าไหม ฮึ่ยยยย!!!

             เมื่อผมขยับตัวก้อนหินที่นอนซุกอยู่ที่พุงก็พลอยตื่นไปด้วย มันลุกขึ้นมานั่งขยี้หูขยี้ตาแล้วขยับมากอดเอาหัวถูพุงอย่างออดอ้อนจนผมอดจะยิ้มและลูบหัวมันด้วยความเอ็นดูไม่ได้ อืม... สีจากเปลือกไม้ของลุงเซเรสนี่ติดทนนานดีจริงๆ ถูหนักแค่ไหนก็ยังไม่ลอก

             “ก๊าส” ก้อนหินร้องประท้วงเมื่อรู้สึกว่าผมถูแรงเกินไป

             “ขอโทษๆ ลืมตัวไปหน่อย” เผลอตัวนึกว่าช่วยถูต้นไม้ขอหวยให้พวกป้าๆ ที่บ้านคุณไฟ แหะๆ

             “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทักทายจากไซเลอร์ที่เดินมาจากในป่าดังขึ้น พร้อมกับที่เจ้าตัวถือสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ถอนขนเรียบร้อยแล้วมาด้วย นอกจากความสูงแล้วผมยังแยกคนทั้งห้าได้จากเสียงด้วย ก็จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่เห็นหน้าท่านๆ เลยครับ เพราะทุกคนใส่ผ้าคลุมสีดำสนิทไว้เหมือนกันเดี๊ยะแถมยังไม่ยอมถอด ไม่รำคาญกันรึไง แค่เห็นผมยังรำคาญแทนจนอยากจะกระชากออกให้พ้นๆ ถ้าไม่กลัวโดนฆ่าก่อนอ่ะนะ

             “อื้อ” จะตอบครับก็ฟังแตกต่างไป เพราะตั้งแต่เดินคุยกันมายังไม่ได้ยินใครสักคนพูดคำนี้ออกมาเลย ผมหันมามองคนที่นอนอยู่ข้างๆ ซึ่งน่าจะเป็นชเนาเซอร์ เพราะอีกสามคนน่าจะไม่มานอนใกล้ๆ ผมแน่ พอไซเลอร์เดินมาถึงก็มานั่งข้างๆ ผมเลิกคิ้วมอง อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนนอนอยู่ตรงนี้ เคลื่อนไหวกันได้เงียบมาก ผมไม่รู้สึกตัวเลยว่าแต่ละคนมานอนกันตอนไหน ถ้าเป็นคนร้าย คงโดนปาดคอตายไปแล้วครับ เฮ้อ!

             “หลับสบายดีไหม?” เจ้าตัวถามต่อเมื่อเห็นผมเงียบไป มือก็หยิบกิ่งไม้มาหักแล้วเริ่มก่อไฟเพื่อย่างอาหาร

             “สบาย... ครับ” อยากจะตบปากตัวเอง จะไม่ใช้มันก็ไม่ชินแถมฟังดูหยาบคายพิกล พอใช้ก็แปลกๆ อยากจะบอกเฮียแกไปเหลือเกินว่าหลับเหมือนซ้อมตายเลยครับ ถ้าโดนฆ่าคงไปรู้ตัวอีกทีตอนอยู่สวรรค์หรือไม่ก็นรกแล้วโน่นแหละ

             “หึ” หัวเราะได้ประหยัดมากพี่ ไม่รู้จะหวงไว้ทำไม ผมหันไปมองแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าจะหึทำไม คือ มันสั้นจนไม่แน่ใจว่าพี่แกหัวเราะหรือกลืนน้ำลาย

             “พูดตามที่เจ้าเคยชินเถอะ” กลายเป็นผมที่เป็นฝ่ายกลืนน้ำลายซะเอง อยากจะเห็นสีหน้าของคนข้างๆ จริงๆ เผื่อจะอ่านออกบ้างว่ารู้สึกยังไงกันแน่ มึงถอดผ้าคลุมออกได้ไหม กราบละ

             “แล้วมันจะ... ไม่แปลกเหรอครับ” ผมถามอย่างไม่มั่นใจ

             “อะไรที่ว่าแปลกล่ะ เจ้าหรือข้า” เอ๊า! ผมถามก่อนก็ตอบก่อนสิครับอย่าเพิ่งย้อน ผมงง!

             “หึ” คนตรงหน้าส่งเสียงมาอีกทีเมื่อเห็นผมทำหน้าเอ๋อใส่

             “สำหรับที่นี่ไม่มีอะไรแปลกหรอก ทุกอย่างคือเรื่องปกติ” อ้อ มีแต่เรื่องแปลกจนกลายเป็นปกติสินะ ผมเข้าใจถูกใช่ไหม?

             “ถ้าไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไร ทุกอย่างถือว่าไม่แปลก” โอเค ฟังดูเหมือนจะงง แต่ก็เข้าใจ

             “ครับ” ผมจ้องอาหารตรงหน้าอย่างสนใจเมื่อมันเริ่มจะส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ขนาดก้อนหิน ยังผละจากพุงมาทำจมูกฟุดฟิดแล้วนั่งจ้องแข่งเลียนแบบผมอย่างกับฝาแฝด

             สักพักสามคนที่เหลือก็เดินออกมาจากป่าพร้อมเนื้อสัตว์ เห็ดกับผลไม้อีกสองสามอย่าง ผมก็มองอย่างสนใจเพราะจะได้จำไว้ว่าชนิดไหนมันกินได้บ้าง เผื่อต้องเดินทางคนเดียวจะได้ไม่ลำบาก

             “ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา” มาสทิฟฟ์เดินไปจะเอาขาสะกิดชเนาเซอร์ที่นอนอยู่ แต่ยังไม่ทันได้แตะเจ้าตัวก็ลุกพรวดพร้อมกระชับดาบไว้แน่น อืม ประมาทฝีมือไม่ได้จริงๆ เห็นร่าเริงอัธยาศัยดีอย่างนั้น ดูท่าแล้วน่าจะเก่งพอตัว พอบิดขี้เกียจได้สองสามทีชเนาเซอร์ก็หันหน้ามาทางผมแล้วเอ่ยทักทาย

             “อรุณสวัสดิ์ก้อนดิน ก้อนหิน เราไปล้างหน้าล้างตากันเถอะ” พูดจบก็ลุกขึ้นยืนรอ ผมเลยลุกขึ้นตาม ก้อนหินที่นั่งจ้องเนื้ออยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองก่อนจะลุกขึ้นมายืนเหมือนจะตามไปด้วย

             เราทั้งสามเดินมาถึงลำธาร ชเนาเซอร์ก็บอกว่าขอไปทำธุระส่วนตัวก่อน ปล่อยให้ผมกับก้อนหินล้างหน้าล้างตาอยู่ด้วยกัน น้ำเย็นๆ ทำให้สดชื่น แดดอ่อนๆ ทำให้ผืนป่าดูเขียวขจีสดใส ดอกหญ้าสีขาวบานสะพรั่งในยามเช้า สัตว์ป่าตัวเล็กๆ ออกมาหาอาหารกิน ว่าแต่ ไอ้พวกนั้นมันจับตัวอะไรไปให้แดกวะ เห็นตัวเป็นๆ อย่างนี้แล้วกินไม่ค่อยลงแฮะ มีแต่ตัวที่น่ารักๆ ทั้งนั้นเลย ไอ้พวกโหดดดดด อืม แต่มันก็อร่อยดีนะ...

             “หินกินปลากันไหม” เจ้าตัวดีมันเงยขึ้นมองหน้าก่อนจะกระโดดลงน้ำไปจับปลา คือ กูแค่ถาม มันไม่ใช่คำสั่งนะหิน สงสัยมันจะอยากกินด้วยละมั้งถึงได้ไวขนาดนี้ มันจับปลามาได้สี่ตัวผมก็บอกให้พอ พอมันขึ้นน้ำมาก็เอาผ้ามาเช็ดตัวให้ก่อนจะหาอะไรห่อปลาไว้พอดีกับที่ชเนาเซอร์เดินกลับมา

             “ล้างหน้าไหมชเนาเซอร์”

             “ข้าเรียบร้อยแล้ว จับปลาไปด้วยเหรอ”

             “อื้อ อยากกินปลาน่ะ ปลาในลำธารนี่อร่อยดี”

             “อีกตัวนั่นเผื่อข้าใช่ป่ะ” รู้สึกเหมือนโดนกระดิกหางใส่พิกล

             “ได้สิ ก้อนหินจับไปเผื่ออยู่แล้ว” ผู้ชายตัวควายๆ หกคนกินอาหารกันธรรมดาที่ไหน ยัดหาย ยัดหายเหมือนตายอดตายอยากกันทุกคน เอาไปเผื่อก็ไม่เสียหายอะไร

             “แล้วไม่ถอดผ้าคลุมเหรอชเนาเซอร์ ไม่อึดอัดรึไง” ผมกล้าถามเพราะรู้สึกสนิทใจกับชเนาเซอร์ที่สุดในกลุ่มเนื่องจากเจ้าตัวมาตีสนิทชวนคุยตั้งแต่แรก

             “ฮ่าๆๆ ไม่หรอก ชินกันแล้วละ” เอาที่สบายใจเถอะ จะทำอะไรก็ทำไปแค่ไม่คิดจะทำร้ายกันก็พอแล้ว แต่ถ้าจะทำก็คงทำไปนานแล้วแหละ ฝีมือขนาดพวกนี้ แค่ดาบเดียวผมก็ตายสนิท

             “งั้นกลับกันเถอะ ก้อนหินน่าจะหิวแล้ว”

             กลับมาถึงเนื้อที่ย่างอยู่ก็สุกพอดี ผมเลยเอาปลาเสียบไม้ลงย่างสองตัว อีกสองตัวก็เสียบไม้แล้วส่งให้ก้อนหินกิน เพื่อจะได้ไม่เลอะมือ มันนั่งรอจนปลาผมสุกและเริ่มกินมันถึงได้กินของตัวเองบ้าง พอปลาหมดร็อตที่นั่งอยู่เงียบๆ ก็ยื่นเนื้อเสียบไม้ให้ก้อนหิน ซึ่งมันก็รับไปกินแต่โดยดี ก้อนหินกินจุขึ้นแฮะ ดูเหมือนตัวมันจะโตขึ้นกว่าเดิมอีกหน่อยด้วย

             “ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณแทนก้อนหิน

             “อืม” ประหยัดคำพูดกันจริงๆ แต่ละคน

             พอกินอิ่มแล้วเราก็ช่วยกันดับไฟแล้วออกเดินทางต่อ โดยมีมาสทิฟฟ์กับพรีซาเดินนำหน้าเหมือนเดิม ผมเดินคู่ไปกับชเนาเซอร์ที่ยังคงชวนคุยไม่เลิก ส่วนไซเลอร์ก็เดินคู่กับร็อตตามหลังมา รู้สึกเหมือนโดนประกบ ถ้าคิดจะหนีก็คงหนีไม่ได้แน่ๆ


             เราเดินทางกันไปเรื่อยๆ ค่ำไหนก็นอนนั่น ผ่านไปหลายวันก็ยังไม่ถึงจุดหมายซะที ใกล้ตรงไหนของมึงฮึชเนาเซอร์ ผมรู้สึกเหมือนกับคนทั้งห้าจงใจเดินช้าลงเพื่อให้ผมตามทัน สังเกตดูว่าบางทีคนนำก็จ้ำพรวดๆ อย่างลืมตัว จนได้ยินเสียงกระแอมจากด้านหลังนั่นแหละถึงได้ผ่อนฝีเท้าลง ส่วนไอ้ตัวข้างๆ ก็หัวเราะคิกคักสนุกสนานอยู่คนเดียว

             “ดีจังที่ดินมาด้วย” ผมหันไปมองผ้าคลุมข้างๆ ด้วยความสงสัย

             “ทำไมล่ะ”

             “ก็จะได้เดินช้าๆ แบบนี้บ้างไง ปกติพรีซารีบอย่างกับจะตามล่าเสือ”  โห... บ้านผมนี่แค่เดินตามควายว่าเก๋แล้วนะ นี่เล่นเดินล่าเสือเลยเหรอ โคตรเจ๋งว่ะ

             “แบบนี้จะได้ดูอะไรบ้าง ปกติรีบจนเห็นแค่เงาวูบวาบข้างทาง” เอ่อ นั่นเดินหรือเหาะ ถามจริง

             “เย่ย” เพราะมัวแต่คุยเลยต้องกระโดดโหยงถอยกลับมาเมื่อเกือบจะชนกับคนข้างหน้าที่หยุดกะทันหัน ผมกลัวพรีซามากครับบอกตรงๆ คนอะไรแค่อยู่นิ่งๆ ก็แผ่ออร่าความน่ากลัวมาข่มขวัญกันได้

             “ตรงนี้เรียกเมืองครอส เป็นเมืองชายขอบของเคลเบรอส เพราะติดกับป่าไวท์ที่เราเพิ่งจะออกมาที่สุด” ชเนาเซอร์อธิบายให้ฟังระหว่างที่พรีซาปรึกษาอะไรกันสักอย่างกับคนที่เหลือ ผมมองไปข้างหน้าก็เห็นว่าเริ่มจะมีผู้คนเดินขวักไขว่ ข้างๆ ทางมีแผงวางขายของอยู่ เดาว่าตรงนี้คงจะเป็นท้ายตลาด เพราะคนไม่เยอะมากนัก ผู้คนแต่งตัวกันด้วยเสื้อผ้าที่ตัดเย็บง่ายๆ ผู้ชายก็เป็นเสื้อแขนสั้นหรือแขนยาวกับกางเกงขายาว ส่วนผู้หญิงก็นุ่งกระโปรงเลยเข่าสีสันสดใส หน้าตาและสีผมก็หลากหลาย แต่ดูกลมกลืนอย่างประหลาด

             “จะเข้าเมืองแล้ว ถอดผ้าคลุมออกเถอะ จะได้ไม่สะดุดตา” ผมละสายตาจากผู้คนตรงหน้ามาสนใจคำพูดของพรีซาแทน ทั้งห้าไปยืนใกล้ๆ กัน พรีซาท่องอะไรสักอย่างสั้นๆ ก่อนทั้งห้าจะปลดผ้าปิดปากและปลดผ้าคลุมออกมา

             ผมได้แต่มองตาค้าง

             อื้อหือ...

             หล่อแสบตา ออร่าจับทั้งห้าตัว สลัดคราบแก๊งทวงหนี้เป็นโอปป้าได้ทันที กูว่าพวกมึงๆ ใส่ผ้าคลุมไว้แบบเดิมดีกว่านะ แบบนี้มันสะดุดตายิ่งกว่าเดิมอีกสัด! คนมองแทบทั้งเมืองโดยเฉพาะสาวๆ

             เหอะ! นี่ผมไม่ได้อิจฉาเลยนะครับ พูดจริงๆ...

             ในที่สุดก็ได้เห็นหน้าค่าตากันซะที หลังจากที่อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายวัน

             ไล่จากชเนาเซอร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด ผมสั้นๆ สีแดงเพลิงหยิกยุ่งกับตาโตๆ สีน้ำตาล ผิวขาวจัด รอยยิ้มสดใสเหมือนเด็กซนๆ ทำให้รู้สึกเอ็นดูได้ไม่ยาก

             ร็อตที่ยังคงทำหน้านิ่งๆ เหมือนบุคลิกมีผมสีดำสนิทยาวประบ่า แต่มัดเป็นจุกเล็กๆ อยู่ที่ท้ายทอย ผิวเข้มคร้ามเหมือนโดนแดดเป็นประจำ ตาสีดำสนิทสีเดียวกับสีผม

             พรีซามีผมสีเงินเป็นเงาเรียบยาวเกือบถึงเอวแต่มัดรวบไว้ง่ายๆ ตาสีฟ้าเข้มจัดคมเฉี่ยว ผิวขาวจัด บุคลิกสง่างามและดูมีชาติตระกูลที่สุดในกลุ่ม (แต่ก็ดูน่ากลัวที่สุดในกลุ่มด้วยในความรู้สึกของผม)

             มาสทิฟฟ์ที่ตัวใหญ่ที่สุดตัดผมซะเกรียนแทบจะติดหนังหัว ใบหน้ามีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ลากพาดจากแก้มฝั่งซ้ายเฉียงลงมาถึงแก้มขวา ทำให้ใบหน้าที่น่าจะดูหล่อเหลากลับดูดุและดิบเถื่อนแทน ยิ่งคอยมองถลึงตาใส่คนที่มองมาที่กลุ่มเราโดยเฉพาะคนที่อยู่ข้างๆ ก็ยิ่งดูน่ากลัวจนคนที่มองหลบตากันวูบวาบ เอ่อ... ทำไมมันทะแม่งๆ พิกลหว่า

             ส่วนไซเลอร์ พี่เทพของผมก็ไม่น้อยหน้า พี่แกมีผมสีทองเข้มไล่ระดับความเข้มจากโคนไปจนถึงปลายผมคล้ายสีทองไหม้ สงสัยจะโดนแดดเลีย... ผมตัดสั้นๆ เข้ารูปกับหัวทุยๆ ตาสีเขียวเข้ม จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหยักเต็มที่กำลังอมยิ้ม หือ ยิ้ม? ผมขยับสายตาขึ้นไปสบกับดวงตาสีเขียวระยับที่กำลังจ้องกลับมา แล้วเลิกคิ้วถามว่ามองอะไร มองหน้าหาเรื่องกันอีกแล้วใช่ไหม? พี่แกก็แค่หัวเราะหึแล้วก็หันกลับไปเก๊กหน้าขรึมทำหน้าเย็นชาเมื่อมีคนมอง จะเก๊กเพื่อ???

             ผมกวาดสายตามองคนทั้งห้าอีกครั้ง ก็ไม่แปลกหรอกที่ผู้คนจะสนใจ เพราะทั้งห้ามีออร่าบางอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่คนธรรมดา ก็นั่นสินะ คนธรรมดาที่ไหนฝีมือการต่อสู้ดีขนาดนั้น ถ้าอยู่ด้วยกันต่อไปก็คงได้รู้สักวันว่าพวกเขาเป็นใครกันแน่

             “หิว หาอะไรกินก่อนได้ไหมพรีซา” ชเนาเซอร์ถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง มองรอบๆ ตัวตาวาว พอๆ กับก้อนหินที่อยู่ในอ้อมแขนของผมที่ทำจมูกฟุดฟิดกระดิกหางและมองรอบๆ ตัวอย่างสนอกสนใจ

             “ก็ดีเหมือนกัน กินเสร็จแล้วจะได้ขึ้นมังกรกลับเมืองเลย ไม่ต้องเสียเวลาแวะกลางทางอีก” มาสทิฟฟ์ออกความเห็นบ้าง หือ ขึ้นมังกร ผมหันไปมองอย่างงงๆ

             “งั้นไปร้านใกล้ๆ ที่ฝากมังกรไว้ก็แล้วกันจะได้ไม่เสียเวลา” ชเนาเซอร์บ่นเสียดายอยู่คนเดียว เพราะอยากจะเดินเตร่เที่ยวตลาดซะมากกว่า แต่ก็ยอมเดินตามไปบ่นไปอยู่ดี ส่วนผมก็เดินตามไปต้อยๆ อย่างใจง่าย เพราะยังงงกับบทสนทนาของทั้งคู่อยู่

             “เดี๋ยวไปถึงก็จะเข้าใจเอง” ไซเลอร์เดินมาข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้บอกขึ้น ผมก็ผงกหัวรับ โอเค ผมเข้าใจ ถ้าเห็นเดี๋ยวก็รู้เองแหละ

             ระหว่างทางชเนาเซอร์ชวนดูนั่นดูนี่ข้างทางตลอด เผลอๆ ก็ลากแวะไปดูใกล้ๆ โดยมีไซเลอร์คอยอธิบายในสิ่งที่ผมสงสัยและคอยต้อนกลับเข้าทางเป็นระยะ

             ผมมองผู้ชายกับผู้หญิงหลายๆ คู่ที่เดินมาด้วยกัน ถ้าแค่เดินด้วยกันมันไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่หรอก แต่นี่เดินจับมือกันมาบ้าง โอบเอวกันมาบ้างนี่สิ แถมยังมองตากันด้วยสายตาที่ปกติถ้าเป็นเพื่อนกันคงไม่มองแบบนี้แน่ๆ เพราะมันดู เอ่อ... ลึกซึ้งจนเกินไป ผมเหลือบมองดูมาสทิฟฟ์ที่จับมือพรีซาลากไปดูแผงขายมีดและคอยส่งสายตาเหมือนจะแดกหัวให้คนที่มองพรีซาแล้วคิ้วกระตุกยิกๆ หรือผมจะคิดมากไป คนที่นี่อาจจะดูแลเพื่อนแบบนี้เป็นเรื่องปกติ? รึเปล่า?...

             “หึๆ” ผมละสายตาจากสี่หนุ่มที่ยืนดูแผงมีดมามองคนที่ยังยืนอยู่ข้างๆ แทน ขำอะไรไม่ทราบ ผมเลิกคิ้วถาม

             “ใช่” หือ... หมายถึงอะไร อยู่ๆ ก็มาใช่เฉยเลย

             “ก็สิ่งที่เจ้าคิดนั่นแหละ ข้าบอกว่าใช่” ผมอ้าปากค้าง จริงดิ? ใช่เหรอ???

             “ปกติเหรอ” ผมหันไปมองผู้ชายที่เดินโอบเอวกันมาแล้วถามเหมือนละเมอ

             “ใช่ เป็นเรื่องปกติ” อะ... โอเค เข้าใจ ว่าผู้ชายกับผู้หญิงเป็นคนรักกันที่นี่ถือเป็นเรื่องปกติ อาจจะเป็นเพราะอยู่ใกล้ป่าด้วยรึเปล่านะ คนแถวนี้ถึงได้นิยมไม้ป่าเดียวกัน...

             “ละ... แล้ว” ผมมองไปมาสทิฟฟ์กับพรีซาที่ยืนเลือกมีดกันอยู่ ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองไหมว่ามาสทิฟฟ์ดูอ่อนโยนขึ้น ส่วนพรีซาก็ดูผ่อนคลายขึ้น ไม่แน่ใจว่าเพราะมีด หรือเพราะคนที่ยื่นมีดให้กันแน่

             คนที่โคตรจะโหดอย่างนั้นน่ะเรอะ จะเป็น เอ่อ เป็น... ฮื้อ ไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะ... กับมาสทิฟฟ์ได้ ที่จริงเป็นกับผู้ชายคนไหนก็ไม่น่าเชื่อทั้งนั้นแหละ ถ้ากับสาวๆ สวยๆ จะไม่แปลกใจเลย หล่อสะดุดตาซะขนาดนั้น

              “ปกติ” ครับพี่ ปกติก็ปกติ ผมจะทำใจให้ชิน ผมก็แค่แปลกใจแค่นั้นแหละ เพราะโลกที่จากมาถึงความรักของเพศเดียวกันจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้โจ่งแจ้งแบบนี้ นี่คนรอบข้างก็มองแบบเฉยๆ เหมือนกับเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครแสดงท่าทีรังเกียจหรือแปลกใจ มันก็ดีนะ ดูอิสระเสรีฟรีดอมดี
 
             ผมยืนมองทั้งคู่มีโมเม้นท์มุ้งมิ้งท่ามกลางกองมีด เอ่อ... ก็ดูโรแมนติกแบบ... น่าขนลุกดี ผมเผลอลูบแขนก่อนจะล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมานั่งลงเช็ดมือให้ก้อนหินเมื่อมันกินผลไม้สดที่ร็อตซื้อมาให้หมด นอกจากไซเลอร์แล้วดูร็อตจะเอ็นดูก้อนหินมากกว่าคนที่เหลือ เพราะคอยส่งอาหารให้ แล้วก็คอยมองแล้วทำหน้าครุ่นคิดตลอดเวลา ไม่รู้สงสัยอะไรนักหนา

             “อยากได้มีดบ้างไหม” ไซเลอร์ถามก่อนจะเดินนำไปที่แผงมีด ผมก็อุ้มก้อนหินเดินตามไปอย่างสนใจ เพราะจากที่ยืนดูก็เห็นว่าปลอกมีดแต่ละอันทำได้สวยมาก บางเล่มมีอัญมณีประดับตรงฝัก ด้ามหรือไม่ก็ทั้งสองที่ ดูน่าสะสมมากกว่าจะเอามาใช้ แต่เชื่อเลยว่าถ้าคนพวกนี้ซื้อคงไม่ซื้อไว้เก็บแน่ น่าจะเอาไว้เสียบ เอ่อ หมายถึงน่าจะเอาไปใช้ประโยชน์แน่นอน

             ผมยืนดูมีดที่วางไว้บนถาดอย่างหลากหลาย ยื่นมือไปรับมีดปลอกไม้สลักลายสีดำสนิทประดับด้วยอัญมณีสีเขียวฝังไว้ที่ด้ามมาพลิกดูอย่างชอบใจ ผมลูบหัวก้อนหินที่อยู่ในอ้อมแขนแล้วยิ้ม ตั้งแต่ได้ก้อนหินมาก็รู้สึกชอบสีเขียวมากขึ้นซะอย่างงั้น อยู่ๆ สมองก็นึกถึงลูกกะตาสีเขียวๆ ของคนข้างๆ จนต้องสะบัดหัว เย่ย! คิดอะไรของมึงฮึก้อนดิน

             “ไม่ชอบเหรอ” ผมชะงักกึก เหลือบมองคนที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจ้องมาอย่างจริงจัง

             “เปล่า... มะ หมายถึง ก็ชอบครับ” แล้วกูจะติดอ่างทำไม วุ้ย! ตบปาก ไซเลอร์มองผมอย่างแปลกใจก่อนจะหยิบมีดในมือไป

             “งั้นเอาด้ามนี้ก็แล้วกัน”

             “แต่ผมไม่มีเงินนี่ครับ” ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเงินซักกะบาท แต่ถึงจะมีก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้ไหม

             “ไหนดิน เอาด้ามนี้เหรอ” ชเนาเซอร์หันมามองอย่างสนใจ

             “เปล่าหรอก แค่เห็นมันสวยดี ผมไม่มีเงินซื้อหรอกครับ”

             “ข้าซื้อให้เอาไหม” ชเนาเซอร์เสนอตัวอย่างกระตือรือร้น

             “ไม่ต้อง” ไซเลอร์ปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

             “ครับ ไม่ต้อ...”

             “คนของข้า ข้าซื้อให้เอง” หือ??? ชเนาเซอร์หัวเราะหึๆ แบบมีเลศนัยแล้วก็ยักไหล่หันกลับไปเลือกมีดต่อเมื่อถูกคนตาเขียวมองตาเขียว ส่วนผมก็มองตาปริบๆ ฟังแล้วแปลกๆ พิกล มันเป็นคำพูดแบบปกติๆ ของพี่แก ผมไม่ควรคิดมาก...ใช่ไหม? มัวแต่งงจนไม่ทันได้ทักท้วง ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวมองไซเลอร์หยิบเงินจ่ายให้กับเจ้าของร้านแล้วเอามีดเล่มเดิมมายื่นให้

             “เก็บไว้ป้องกันตัว” แล้วจะชักออกจากฝักทันอีกไหม ถามใจดู เดี๋ยวๆ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น

             “เอ่อ แต่ผมไม่มีเงิน”

             “ข้าซื้อให้”

             “ตะ...แต่ว่า”

             “ไม่มีแต่ ถ้าไม่รับจะถือว่าเจ้ารังเกียจ” ทำไมต้องทำหน้าดุใส่ด้วย กะ... กลัวแล้วครับ

             “ขอบคุณมากครับ ราคามันเท่าไหร่ครับ ถ้ามีเงินเมื่อไหร่ผมจะคะ..คืน” ยังไม่ทันได้พูดจบ คนฟังก็เดินหนี ตาสีเขียวๆ ขุ่นคลั่ก ทำท่าเหมือน...

             งอน???

             ใช่เหรอ? แต่ไอ้ท่าทางแบบนี้มันเหมือนเวลาคุณไฟงอนชัดๆ เอ่อ... ไม่มั้ง เพิ่งจะรู้จักกัน พี่แกจะมางอนผมทำไม แล้วงอนเรื่องอะไร? พี่มึงครับ อย่าเพิ่งเดินหนี มีอะไรก็คุยกันได้ อย่าให้ผมตีความเอง กูมีปัญหากับเรื่องการตีความหนักมากครับ ไม่งั้นคงไม่โดนคุณไฟฟาดงวงฟาดงาใส่บ่อยๆ หรอก เฮ้อ!

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
            ผมได้แต่ยืนละล้าละลัง ทำอะไรไม่ถูก หันไปมองคนที่เหลือก็ต้องสะดุ้ง เมื่อเจอกับสายตาล้อเลียนของคนทั้งสี่ที่เลือกมีดเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ยืนกอดอกมองด้วยความบันเทิง โว๊ะ! แทนที่จะช่วยกันบ้าง มองอะไรกันครับ...

             “เอ่อ...”

             “ไปกันเถอะ” ชเนาเซอร์พูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ขณะที่อีกสามคนก็หัวเราะหึๆ กันทุกคน ขำอะไรกัน บอกกูบ้าง กูตามไม่ทันครับ

             พอออกจากแผงมีดแค่นั้นแหละ พรีซาเดินจ้ำอย่างกับจะรีบไปตามควาย ยิ่งไม่มีคนคอยรั้งเหมือนแต่ก่อนก็ยิ่งเดินเร็วกว่าเดิมมาก พี่ครับนี่มันตลาด ไม่ใช่ป่า ไม่มีเสือให้พี่ล่าหรอกนะครับ โธ่! ขนาดเดินตามควายแถวบ้านบ่อยแล้วยังเดินตามแทบไม่ทัน ยังดีที่มีชเนาเซอร์กับร็อตคอยคว้าแขนไว้เวลาผ่านฝูงคนแน่นๆ ไม่งั้นได้หลงแน่ๆ

             ผมพยายามชะเง้อหาคนที่เดินหนีมาก็ไม่เห็นแม้แต่เงา จะเห็นได้ยังไงล่ะครับ คนแถวนี้ตัวสูงใหญ่มิดหัวทั้งนั้น ไม่รู้ว่าแดกอะไรเป็นอาหารกัน ยิ่งมองก็ยิ่งพาล ฮึ่ย!

             หลุดจากตลาดมาได้ผมก็แทบจะหอบแฮ่กเหมือนหมาหอบแดด ต่างจากสี่คนที่เหลือที่มีท่าทางสบายๆ เหมือนเพิ่งเดินผ่านทุ่งดอกไม้มา เพิ่งรู้ว่าก่อนหน้านี้พี่ๆ แกปราณีผมมาก ถ้าพาเดินแบบนี้ตั้งแต่แรกมีหวังขาลากหมดแรงก่อนจะเข้าเมืองแน่นอน

             เรามายืนอยู่หน้าอาคารไม้ที่น่าจะเป็นร้านอาหาร เดินเข้าไปก็เห็นคนที่เดินหนีมานั่งรอพร้อมอาหารอยู่ที่โต๊ะแล้ว อ้อ... ที่แท้ก็มาสั่งอาหารรอนี่เอง ไม่ได้งอนอะไรหรอกมั้ง ค่อยโล่งใจหน่อย ว่าแต่ทำไมถึงรู้สึกกังวลใจนักเวลาที่พี่แกทำท่าเหมือนจะงอนหว่า ยังไม่ทันได้นึกอะไรต่อ ชเนาเซอร์ก็ลากลงนั่งลงข้างๆ ไซเลอร์แล้วมองอาหารบนโต๊ะตาวาวๆ

             “หูย ไซเลอร์รู้ใจที่สุด สั่งของโปรดมาให้ด้วย” พูดจบก็คว้าอาวุธมาตักเข้าปากทันที

             “ตะกละ” มาสทิฟฟ์ค่อน

             “ก็หิวนี่” ตอบทั้งที่เนื้อยังเต็มปาก

             “กินดีๆ” พอพรีซาพูดจบ แต่ละคนก็เริ่มกินอาหารกันเงียบๆ แสดงว่าไม่ใช่ผมแค่คนเดียวหรอกที่กลัว เอ๊ย! เกรงใจพรีซา คนอื่นๆ ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ บอกแล้วไงครับว่าพี่แกน่ากลัว

             คนข้างๆ เลื่อนชามเนื้อปลาที่หั่นเป็นชิ้นแล้วนึ่งใส่เห็ดมาให้เหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งผมก็รับมาแต่โดยดี

             “ขอบคุณครับ” ผมมองอาหารบนโต๊ะหาอาหารให้ก้อนหิน คนข้างๆ ก็เลื่อนชามเนื้อดิบที่หั่นเป็นชิ้นมาให้อย่างรู้ใจ

             “ขอบคุณมากครับ” พอเลื่อนให้ก้อนหินหยิบกินได้ถนัดๆ แล้ว ก็เริ่มชิมอาหารของตัวเองบ้าง อร่อยแฮะ มีรสเปรี้ยวนิดๆ อย่างที่ชอบเลย ผมหันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นกำลังมองมาอยู่พอดีก็เลยบอกไปแก้เก้อ

             “อร่อย”

             “อร่อยก็กินเยอะๆ”

             “ครับ” ดีจัง บรรยากาศแบบนี้ดีกว่าตั้งเยอะ อาจจะเป็นเพราะเริ่มชินกับการที่มีไซเลอร์อยู่ข้างๆ แล้วก็ได้ เมื่อกี๊พอไม่เห็นเลยรู้สึกใจเสียพิกล ถึงจะบอกว่าชเนาเซอร์เป็นคนที่เข้ามาชวนคุยด้วยมากที่สุดก็เถอะ แต่คนที่คอยช่วยเหลือระหว่างเดินทาง คอยใส่ใจทั้งยามกินยามนอน คอยอธิบายทุกสิ่งที่สงสัยอย่างใจเย็นตั้งแต่อยู่ในป่าจนมาถึงตอนนี้ก็คือไซเลอร์ คนที่เหลือมักจะดูอยู่ห่างๆ จึงทำให้สนิทใจกับชเนาเซอร์ แต่รู้สึกอุ่นใจเวลาที่ไซเลอร์อยู่ใกล้ๆ มากกว่า

             ผมเลื่อนอาหารให้คนข้างๆ บ้าง เจ้าตัวก็กินอย่างอารมณ์ดี สังเกตจากตาสีเขียวๆ ที่พราวระยับ พอเงยหน้าก็สบกับสายตายิ้มๆ ของคนอื่นๆ ในโต๊ะ ก็รู้สึกร้อนๆ ที่หน้าพิกล สงสัยจะร้อนแดด? แค่เลื่อนอาหารให้กันจะมองกันทำไมครับ

             “เลี้ยงยังไงให้มังกรเสียนิสัย แทนที่จะให้ไปอยู่ที่โรงเก็บมังกรกลับพามานั่งกินด้วย” เสียงพูดจากคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ ทำให้ผมชะงักแล้วหันไปมองคนที่พูดทันที

             เอ๊ะ! มันเรื่องของกูไหม ไม่เผือกสิครับ!

             อันนี้คิดในใจไม่กล้าพูดออกไป โธ่! ใครจะกล้าครับ คนพูดหน้าโคตรโหด ตัวก็ใหญ่ยิ่งกว่าหมีควาย สะกิดทีนี่กระเด็นได้เลย ยังซ่าไม่ได้ครับ

             แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรออกไป คนบนโต๊ะทั้งห้าก็วางช้อนลงแล้วหันไปมองคนพูดพร้อมแผ่รังสีอำมหิตใส่อย่างพร้อมเพรียงกัน แม้แต่ก้อนหินยังหยุดมาจ้องคนพูดเขม็งใช้เล็บขูดกับขอบถ้วยขู่จนขอบถ้วยบิ่น เอ่อ หิน กูไม่มีตังค์จ่ายนะเฮ้ย! คนที่พูดหน้าซีดก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วกินเงียบๆ ไป หึ ไม่รู้ซะแล้วว่ากูมากับใคร ขนาดตัวกูยังไม่รู้เลย ถุ้ย!

             พอเจอคนทักผมก็ชักจะสงสัยและอิ่มไปโดยปริยาย เดินออกมาจากร้านได้ ก็หันไปถามไซเลอร์ที่เดินข้างๆ ทันที

             “โรงเก็บมังกรคืออะไรครับ”

             “กำลังจะพาไป ถ้าไปถึงเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง” ผมกอดก้อนหินอย่างกังวล ชื่อมันเหมือนเกี่ยวข้องกับก้อนหินจนกลัวว่าจะเป็นสถานที่ที่ทำให้เราต้องแยกจากกัน บอกแล้วไงว่าถ้าใครมาแยกเราออกตอนนี้ผมคงไม่ยอม ยังไงก็ต้องลองสู้ดูสักตั้งแหละครับ สงสัยความกังวลของผมจะส่งถึงมัน ทำให้มันเงยหน้ามามองแล้วร้องเบาๆ ก่อนจะเอียงคอเอาหัวมาถูอย่างปลอบใจ

             “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ไม่มีใครแยกพวกเจ้าได้หรอก ข้าสัญญา” นี่ก็อีกคน พูดเหมือนกับรู้ใจ แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นจนคลายอ้อมกอดที่รัดก้อนหินไว้แน่นลง แล้วเดินตามแผ่นหลังของคนที่ก้าวนำหน้าไปอย่างวางใจ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

(F5 = รีเฟรช ได้หมดถ้าสดชื่น 55555 อันแรกชื่อตอน อันหลังนี่ความรู้สึกของพี่เอง วรั๊ยยยย บ้าไปแล้ว)
 :hao6:

ว่าจะลงให้ทันก่อนสงกรานต์เพราะอยากจะสวัสดีปีใหม่ไทย และขอให้เดินทางไปกลับโดยสวัสดิภาพ ถถถ แต่ก็งานเข้าไม่ว่างเว้นค่ะ เลยได้ลงหลังสงกรานต์แทน ยังสวัสดีปีใหม่ทันไหมคะ แหะๆ

ลงแต่ละทีกลับมาอ่านคอมเม้นท์แบบลุ้นๆ ว่าจะมีคนชอบบ้างไหม พอเห็นคนชอบก็ชื่นใจมากเลยค่ะ ดีใจที่มีคนติดตามบ้าง ทำให้มีแรงฮึดแต่งต่อ ขอบคุณนะคะ รวบกอดทุกๆ คนหลายๆ ที
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

#ommanymontra ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ  :L2:
#sirin_chadada มาแล้วค่าาาาาาาาาา  :katai5:
#B52  :impress2: กอดดดดดด
#Zetnezz ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่า  :L2:
#mild-dy ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะคะ  :L2:
#rivayu ถ้าเป็นแก๊งนี้ยกให้ทั้งตัวและหัวใจเลยค่ะ 55555
#suikajang ขอบคุณที่ชอบค่า ปลื้มมมม ก้อนดินมองโลกในแง่ดีมากกกกกกกกกค่ะ 55555
#oilzaza001 อยากเก็บเธอไว้ทั้งห้าคน หุๆ
#•♀NoM!_KunG♀• มาแล้วค่า ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ
#zuu_zaa ขอบคุณที่แวะมาเช่นกันค่า  :L2:
#prangasia ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะคะ กำลังพยายามแต่งให้จบเหมือนกันค่ะ 5555 พอมีคนกระตุ้นแล้วทำให้คึกเรื่อยๆ  รู้สึกดีเวลาคนเข้ามาอ่าน อยากจะถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในจินตนาการออกมาให้ดีที่สุด มันต้องจบสิน่า เรามาพยายามด้วยกันเถอะค่ะ
#♥►MAGNOLIA◄♥ ยอมรับว่าสั้นจริงๆ ค่ะ ถถถ แต่ตอนนี้ยาวขึ้นแล้วนะคะ พยายามเขียนเรื่องที่ไม่ทำให้เราเครียดค่ะ ไม่งั้นจะไปไม่เป็น ถถถ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
#♥lvl♀‘O’Deal2♥ มาแล้วค่า ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ
#milky way ขอบคุณที่ชอบค่า หน้าบานทุกครั้งที่มีคนชอบลูกสาว เอ๊ย ลูกชาย ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
#DeShiWa ขอบคุณที่ติดตามค่า ปลื้มมมมมม พระเอกน่าจะเดาไม่ยากค่ะ ออกจะออกตัวแรง 5555
#papapajimin ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่า รักก้อนหินเหมือนกัน หวงยิ่งกว่าก้อนดินอีกนะคะขอบอก
#ซีเนียร์ ขอบคุณมากค่า  :L2:
#Celestia พระเอกไหม ลองอ่านตอนล่าสุดดูค่ะ 5555
#FaiiFay_Elle ขอบคุณค่ะก๊าสสสสส
#pare_140 ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2017 01:43:55 โดย maneethewa »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ชอบสิค่ะ ชอบมากเลยด้วยฮาดี ก้อนหินก็น่ารัก ตอนนี้พยายามสร้างความคุ้นเคยกับเหล่าหน้ากากดำอยู่ ยังจำไม่ได้เลยว่ามีใครบ้าง  :ruready

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไฟไม่ใช่พระเอกสินะ ดีแล้ว  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ หญิงกล้วย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากให้ไฟเป็นพระเอกอยู่นะ :mew2:

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
วันนี้บอสให้มาทำงาน เฮ้อ... อิจฉาคนหยุดอะ หงุดหงิดๆ ๆ ๆ  :ling1:
แต่พอแอบแว๊บก่อนบอสเข้ามาอ่าน รมณ์ดีเลย ดินเป็นไรที่สุดยอดมาก  :pigha2:
ยิ้มได้จริงๆ กะคนๆ นี้ แหมะพี่ไซเลอร์ยังไงคะ อย่าให้น้องดินคิดมาก
อร๊ายยยยย....ตายสนิทเลย คนของข้า ข้าซื้อให้เอง อั้ยย๊ะ   :impress2: พี่แก่นิดาเมจแรงจริงๆ
ชื่อตอนนิคิดว่าเอามาจากพวก F4 แต่พอดีพี่ๆ แก๊งค์ทางหนี้มากัน 5 เลยเป็น F5 หุหุ
รอการผจญภัยในแดนมหัศจรรย์ของก้อนดินในตอนต่อไปว่าจะเจออะไรให้น้องดินปากอ้า ตาค้างได้อีก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Thank you na  :pig4: :กอด1:

ก้อนหินดูมีความน่าเอ็นดูมากก เห็นแล้วอยากเอามาเลี้ยง หุหุ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อยากได้ก้อนหิน อ่ะ

ติดตามจ้า  :L2:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ก้อนดินรั่วแล้วรั่วอีก (แต่รั่วในใจนะ) ฮา เหมือนตบตีกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
โรงเก็บมังกร..ฟังดูแปลกๆ

ว่ามันคืออะไร

ไม่เอาอย่าให้ก้อนหินไปที่โรงเก็บมังกรนะ

ก้อนหินไม่ใช่มังกรธรรมดานะ

ติดตามเสมอจ้า


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
หลงรักก้อนหิน อยากให้ก้อนดินมีความสามารถ พูดกับมังกรได้ โดยไม่รู้ตัว 5555

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ชอบก้อนหินมากกก น่ารักมากเลย ติดตามค่า :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตอนนี้ไม่สั้นแล้ว ยาวแล้ว
ขอบคุณไรท์ มากกกก  :pig4:

ไซเลอร์ ก้อนดิน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ไซเลอร์ แสดงออกชัดเจนว่าชอบดิน
ขนาดบอกออกมาเลย “คนของข้า ข้าซื้อให้เอง”
เพื่อนๆรู้กันหมด  :hao3:
ก้อนหินน่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
โรงเก็บมังกร น่าจะเหมือนคอกม้า โรงม้า ที่เอาม้ามารวมกัน
งั้นโรงเก็บมังกร ก็เป็นที่เอามังกรไปเก็บไว้ด้วยกัน
ที่ว่าขี่มังกรกลับ แสดงว่าทุกคนมีมังกรกันสินะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ไซเลอร์ช่างรู้ใจดินยิ่งนักๆ ยกขันหมากมาขอเลยดีไหมคะ (มืดที่ให้คือ ของหมั้น??)
ก้อนหินน่าร๊ากกกกกก >\\\\\<

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พึ่งเข้ามาอ่าน แบบว่า น่ารักมากอ่ะ 

รอตอนต่อไปค่ะ  o13 o13

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
จะฝากก้อนหินไว้ก่อนหรืออะไรยังไง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
 :o8: :o8: :o8: :o8: 
    บอกตามตรง เรานึกหน้าก้อนหินไม่ออก

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ชิวดี อย่างง่าย สบายท้อง?
ชอบนิสัยดิน หินน่ารักตอนแรกคิดว่าหนูเป็นพระเอกซะอีก 555

ติดตามค่ะ
 :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด