บทที่ 15 ความแตก
ผมวิ่งออกกำลังกายอยู่ริมน้ำหน้าบ้าน มีก้อนหินวิ่งตามหลังมาติดๆ อย่างกับลูกเจี๊ยบวิ่งตามแม่ไก่ อากาศยามเช้าเย็นสบายทำให้รู้สึกสดชื่นแจ่มใส สมองปลอดโปร่งมาก
หลังจากที่กลับมาจากฝึกวันแรก เช้าวันถัดมาผมก็ลุกไปวิ่งออกกำลังกายเพื่อให้ปอดแข็งแรงขึ้น เวลาฝึกจะได้ไม่เหนื่อยง่าย วันแรกๆ นี่หอบเหมือนหมา แต่หลังๆ มาพอเริ่มชินก็เริ่มวิ่งได้สบายๆ พอเริ่มชินอีกก็เพิ่มระยะทางในการวิ่งให้มากขึ้น เพื่อให้ถึก เอ๊ย! อึดมากกว่าเดิม นอกจากนี้บางวันก็จะบริหารกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ เพื่อให้ร่างกายยืดหยุ่นและแข็งแรงพร้อมต่อการฝึกมากขึ้นด้วย
แรกๆ ผมลุกออกมาวิ่งคนเดียว แต่ก้อนหินตื่นขึ้นมาทีไรก็รีบวิ่งมาหาแล้วตกบันไดทุกที ทีหลังเลยต้องอุ้มมันออกมาด้วย แล้วให้มันนอนรอตรงศาลาริมน้ำ พอมันตื่นก็วิ่งมาหา แล้วยืนเอียงคอมองเหมือนสงสัยว่าผมกำลังทำอะไร ก่อนจะวิ่งตามหลังต้อยๆ หลังๆ มาคงจะเริ่มชินเหมือนกัน พอผมตื่น มันก็ตื่นด้วย แล้วก็ลงมาวิ่งพร้อมกันเลย
พอวิ่งจนครบรอบแล้ว ผมก็แกล้งเร่งฝีเท้าขึ้นให้ก้อนหินวิ่งเร็วขึ้นตาม ก่อนจะหยุดกะทันหันจนมันวิ่งมาชนขา แล้วล้มหงายลงกับพื้น
“ฮ่าๆๆๆๆ” ผมหันกลับมาแล้วนั่งลงหัวเราะขำมันที่ลุกขึ้นมานั่งแล้วร้องประท้อง
“ก๊าส” ร้องเสร็จก็ลุกขึ้นกระโดดพุ่งมาชนจนผมแทบจุก หงายหลังล้มลงนอนบ้าง
โอย! มึงจะฆ่ากูเหรอหิน!
“ก๊าสสส” มันขึ้นมาอยู่นั่งอยู่บนตัวผมทั้งตัว หางกระดิกไปมาเหมือนชอบใจ ผมเลยเอื้อมมือไปจับมันลงมากอดแล้วฟัดกลิ้งไปกลิ้งมากับพื้นหญ้า แล้วหัวเราะอย่างสนุกสนาน พอเหนื่อยกันทั้งคู่ก็นอนหงายปล่อยให้มันนอนซบอยู่บนตัวต่อไป
เอ... รู้สึกว่าก้อนหินมันหนักขึ้นแฮะ
“หิน... มึงอ้วนขึ้นรึเปล่าเนี่ย”
“ก๊าส” มันกระดิกหางแล้วเงยหน้าขึ้นจากตัวผม ผมจับเข้าที่ซอกแขนมันแล้วยกขึ้นดู
“หนักขึ้นจริงๆ ด้วย” ผมจับมันวางให้มันยืนข้างๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิแล้วพิจารณาตัวมัน
“หือ... ดูจะสูงขึ้นด้วย โตขึ้นรึเปล่าเนี่ย” ผมตาวาวอย่างยินดี
“ก๊าสสส” น้ำเสียงเหมือนจะอวดๆ น่ามันเขี้ยวจนอยากจะฟัดอีกที
“ดูแต่ตาเปล่ามันดูไม่ออกอ่ะ... เอายังไงดีหว่า”
“เออ.... วัดส่วนสูงไว้ดีกว่า มานี่มา”
ผมจับมันขึ้นอุ้ม แล้วเดินกลับไปที่บ้าน หยิบตลับหมึกกับพู่กันเล็กๆ มาหนึ่งอัน เดินกลับลงมาที่หน้าบ้าน แล้วจับก้อนหินวางให้ชิดติดกับเสา ก่อนจะเอาพู่กันแต้มสีขีดเป็นเส้นบนหัว เพื่อวัดส่วนสูงให้มัน ผมมองผลงานอย่างพอใจ
“โอเค... เดือนหน้าค่อยมาดูกันว่ามึงสูงขึ้นจริงๆ รึเปล่า”
“ก๊าส” มันร้องแล้วหันไปมองขีดบนเสาอย่างสนใจ
“ทำอะไรกันอยู่”
ไซเลอร์ที่อยู่ในสภาพตัวเปียกเหงื่อชุ่มไปตัวถามขึ้น สงสัยเพิ่งจะกลับจากฝึก พี่แกขยันมากครับ ถ้าวันไหนไม่มีภารกิจ ทุกเช้าจะตื่นไปฝึกกับหน่วยพิเศษก่อนหนึ่งรอบ ก่อนจะกลับมาอาบน้ำ กินข้าว แล้วก็ออกไปฝึกพร้อมกับผมอีกรอบ
แต่ถ้าวันไหนมีภารกิจ ก็จะให้ผมไปกับท่านอลาสกัน ท่านไซรีนหรือไม่ก็พี่ไซรอส ถ้าคนในบ้านไม่ว่างก็จะให้เพื่อนๆ คนอื่นมารับผมไปที่โรงฝึกแทน ทำอย่างกับผมเป็นเด็กอนุบาล ต้องมีคนไปรับไปส่ง โธ่! วันไหนที่เป็นวันพักของผม ผมก็จะอยู่บ้าน เข้าไปช่วยงานในครัวบ้าง ช่วยทำสวนบ้าง จนโดนท่านไซรีนบ่นประจำ ก็มันน่าเบื่อนี่ครับ บางทีไซเลอร์กับเพื่อนๆ ไปทำภารกิจหลายวันก็ยิ่งรู้สึกว่าบ้านมันเงียบๆ เหงาๆ พิกล เลยหาอะไรทำแก้เบื่อบ้าง
“วัดส่วนสูงให้ก้อนหินครับ เหมือนมันจะสูงขึ้นแต่ข้าไม่แน่ใจ เอ่อ... ลืมขออนุญาต ข้าขีดหมึกตรงเสาเลอะไปแล้ว แหะๆ”
“ที่นี่ก็เป็นเหมือนบ้านของเจ้า อยากจะทำอะไรก็ทำได้เลยไม่ต้องขออนุญาตหรอก”
“ขอบคุณครับ” ผมได้แต่บอกขอบคุณเบาๆ แล้วหลบสายตาอ่อนโยนคู่นั้นมามองก้อนหินแทน
หลังจากวันนั้นมาพี่แกก็ดูเป็นปกติดี ไม่มีอาการแปลกๆ อะไรให้เห็นอีก สงสัยวันนั้นจะเมาฝนจริงๆ
“วิ่งเสร็จหรือยัง ไปอาบน้ำแล้วไปทานอาหารกัน เห็นท่านแม่บอกว่าทำของโปรดของเจ้าด้วย” ไซเลอร์ก้มลงจับหัวก้อนหินโยก
“หิวรึยังหือตัวยุ่ง”
“ก๊าส” มันขยับตัวหลบมือของไซเลอร์ แล้วแกล้งอ้าปากงับมือเล่น ไม่โดนหรอกครับ แค่งับๆ ลม รู้สึกเหมือนจะเป็นวิธีเล่นของทั้งคู่ เพราะเล่นกันแบบนี้ประจำ เห็นแล้วอดจะอมยิ้มไม่ได้ทุกที
หลังจากส่งก้อนหินเข้าโรงฝึกมังกรเรียบร้อยแล้ว ผมกับไซเลอร์ก็มาที่โรงฝึกตามปกติ แต่ละวันผมต้องฝึกทั้งดาบทั้งการต่อสู้มือเปล่าอย่างหนักตั้งแต่เช้าจนพระอาทิตย์ตกดิน แต่การวิ่งออกกำลังกายช่วยได้มาก เพราะมันทำให้ปอดขยาย ไม่เหนื่อยง่ายเหมือนแต่ก่อน
ปกติผมจะฝึกกับไซเลอร์เป็นหลัก ถ้าไซเลอร์ไม่ว่างคนในแก๊งที่เหลือก็จะสลับกันมาฝึกให้ (ที่จริงชอบมาหาเรื่องแกล้งผมมากกว่าครับ ไซเลอร์ไม่อยู่ทีไรโดนแกล้งตลอด ฮึ่ย!) แต่จะเจอชเนาเซอร์บ่อยกว่าคนอื่น สงสัยจะว่างงานจัด พรีซากับมาสทิฟฟ์นี่ชอบมาพร้อมกัน ส่วนร็อตนานๆ จะเจอทีเพราะชอบไปฝึกมังกรมากกว่า วันไหนว่างพร้อมกันก็จะมากันยกแก๊ง แต่ถ้าวันไหนมีภารกิจทั้งแก๊ง ผมก็จะไปฝึกกับคนอื่นๆ แทน ตอนนี้รู้จักกันเกือบทุกคนแล้วครับ แต่ละคนใจดีมาก แต่ตอนฝึกนี่โหดสัสกันทุกคน เอาจริงเอาจังเหมือนจะฆ่าให้ตายกันไปข้าง ฝีมือผมเลยก้าวหน้าขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย
“ดิน”
พอผละตัวออกจากการปะทะฝีดาบกับไซเลอร์ ยังไม่ทันได้หายเหนื่อยผมก็ได้ยินเสียงคุ้นหูเรียก พอหันไปดูก็เห็นร็อตทำหน้าเคร่งเครียดยืนอุ้มก้อนหินที่มีผ้าพันแขนมันไว้อยู่
“หิน!” ผมร้องอย่างตกใจแล้วรีบวิ่งไปหา
“เกิดอะไรขึ้น มันบาดเจ็บเหรอครับ เป็นอะไรมากรึเปล่า เจ็บมากไหมหิน” ผมถามอย่างร้อนรนยื่นมือไปจับผ้าที่พันแขนมันทำท่าจะดึงออกดูแผล
“ก๊าส” ก้อนหินตะปบผ้าที่พันแขนเอาไว้
“อย่า! ดิน สีมันลอก” ผมชะงักกึก ตัวแข็งทื่อ เข้าใจความหมายในทันที ผมเงยขึ้นมองร็อตที่จ้องมาอย่างจริงจัง หัวใจเต้นระทึกจนเหมือนจะทะลุออกมานอกอก
“พอจะอธิบายให้ข้าฟังได้ไหม?” ผมเม้มปากแน่น รับก้อนหินมาอุ้มไว้ มันหันมากอด เอาหัวถูตัวผมแล้วเงยขึ้นมองหน้าเหมือนจะปลอบใจ ผมถอนหายใจ หันไปมองไซเลอร์ที่มองปฏิกิริยาของเราอย่างแปลกใจ
“ไปหาท่านมอลทีสกันเถอะครับ”
“ใครเห็นบ้าง” ท่านมอลทีสถามขึ้นหลังจากพาเรามาที่ห้องทำงานห้องหนึ่งในคฤหาสต์ของท่าน ร็อตเปิดผ้าที่พันแขนก้อนหินไว้ออก เผยให้เห็นเกล็ดสีเขียวบริเวณข้อมือของมันขนาดพอๆ กับเหรียญๆ หนึ่ง ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็คงมองไม่เห็น
“ข้าไม่แน่ใจ ตอนที่เรากำลังฝึกอยู่ ท่านคานาริโอและคณะทูตพาแขกที่มาประชุมร่วมกันจากอาณาจักรรุคและอาณาจักรบาอัลมาดูการฝึก ข้ากับครูฝึกบางคนได้รับคำสั่งให้พาแขกไปเดินดูในจุดที่สนใจและคอยตอบคำถาม พอแขกกลับไปแล้ว ข้าก็กลับไปหาก้อนหินที่เดิมที่ปล่อยให้มันฝึกอยู่กับเพื่อนๆ พอไปถึงก็เห็นมังกรตัวอื่นๆ ยืนล้อมมันไว้ จะแหวกเข้าไปก็ไม่ได้ เพราะไอ้พวกตัวเล็กที่ไม่เคยดื้อมาก่อนมันไม่ยอม จนก้อนหินร้องขึ้นมาแล้วเดินออกมาเองนั่นแหละมันถึงได้ยอมแหวกทางให้ แต่พอเห็นก้อนหินซ่อนแขนไว้ข้างหลัง ข้าตกใจกลัวมันได้รับบาดเจ็บก็เลยจับแขนมันมาดู ก็เป็นอย่างที่เห็น เลยรีบเอาผ้ามาพันแขนมันไว้แล้วพาไปหาก้อนดินนี่แหละครับ” ตั้งแต่เจอกันมานี่น่าจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่ได้ยินจากปากร็อตเลย
“คณะทูตอย่างงั้นเหรอ” ท่านมอลทีสทำหน้าครุ่นคิด ก่อนที่จะหันมามองก้อนหินที่นั่งอยู่บนตักผมนิ่งๆ แล้วเงยหน้ามามองผมที่มีสีหน้ากังวล
“มาถึงตอนนี้แล้วก็คงต้องให้รู้กันแล้วละ จะได้ช่วยคุ้มกันก้อนหินกับก้อนดินให้มากขึ้น เพราะไม่แน่ใจว่ามีใครเห็นบ้าง ถ้าเป็นคนดีก็แล้วไป แต่ถ้าคนที่มีเจตนาร้ายจะได้ป้องกันได้ทัน เดี๋ยวข้าจะปรึกษาคิงและควีนก่อนว่าควรจะบอกใครบ้าง จะได้ช่วยกันวางแผนว่าจะเอายังไงต่อไป” ท่านมอลทีสหันไปมองร็อตกับไซเลอร์ที่มองตอบท่านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“รู้ใช่ไหมว่าก้อนหินเป็นอะไร”
“ทราบครับ จำได้ว่ามีสอนในวิชาประวัติศาสตร์พื้นฐานของเคลเบรอส” ไซเลอร์ตอบ
“แต่ไม่คิดว่าจะเจอตัวจริง” ร็อตต่อและมองก้อนหินนิ่งๆ
“เจ้าเล่าให้ร็อตกับไซเลอร์ฟังไปก่อนก็ได้ เพื่อนอีกสามคนของเจ้าก็บอกได้ ข้าอนุญาต ข้าไว้ใจในตัวลูกศิษย์ของข้า” ท่านมอลทีสหันมาบอกผม ไซเลอร์เคยเล่าให้ฟังว่าท่านมอลทีสเป็นอาจารย์ของพวกเขาด้วย
“ครับ” ผมรับคำ
แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็ได้ยินเสียงเคาะประตู แล้วก็ได้ยินเสียงพี่ไซรอสดังมาจากด้านนอก
“ขออนุญาตครับท่านมอลทีส ข้ามีเรื่องด่วนมารายงาน”
“เข้ามาได้”
พี่ไซรอสเดินอย่างเร่งรีบเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พอเห็นพวกเราก็ชะงัก ก่อนจะทำความเคารพท่านมอลทีสแล้วเอ่ยต่อ
“คิงให้มาเชิญท่านมอลทีสไปพบด่วนครับ”
“อืม เฮ้อ! เริ่มแล้วสินะ” ท่านมอลทีสตอบรับ คำหลังพึมพำเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
“พวกเจ้ากลับไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวข้าจะเรียกมาคุยอีกที ไปกันเถอะไซรอส”
“ครับ” พวกเรารับคำพร้อมกัน ก่อนจะคำนับท่านมอลทีสที่รีบเร่งเดินจากไป
ผมนั่งหูลู่หางตกอยู่ที่โต๊ะรับแขกในเรือนวสุธา ต่อหน้าแก๊ง F5 ที่นั่งหน้าสลอนฟังเรื่องที่ผมเล่าอย่างตั้งใจกันพร้อมหน้าพร้อมตา พอเล่าเรื่องทั้งหมดจบ ผมก็หันไปสบตาคนที่อยู่ด้วยกันแทบทุกวันด้วยความรู้สึกผิด ถึงจะมีความจำเป็น แต่ก็อดจะรู้สึกผิดไม่ได้ กลัวจะหาว่าไม่ไว้ใจ กลัวจะถูกโกรธ กลัวจะไม่เข้าใจเลยเอ่ยขอโทษเสียงละห้อย
“ขอโทษนะไซเลอร์ที่ข้าปิดบังมาตลอด” ไซเลอร์หันมายิ้มให้อย่างที่เคยจนผมใจชื้นขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเจ้าใจ แค่เจ้ายังอยู่ตรงนี้ ข้าก็พอใจแล้ว เรื่องอื่นไม่สำคัญเลย”
“อะแฮ่ม แค่กๆๆ” อยากจะกลอกตามองบนจริงๆ ยังไม่วายจะแซวกันอีก แต่รู้สึกว่ามีความผิดติดตัวอยู่เลยไม่กล้าออกอาการอะไรนอกจากทำหน้าหงอยๆ แล้วขอโทษอย่างจริงจัง
“ขอโทษนะครับ” ผมหันไปสบตาทุกคนอย่างรู้สึกผิด โดยเฉพาะร็อตที่เป็นคนคอยดูแลก้อนหินให้
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าก็เข้าใจเหมือนกัน ที่จริงก็สงสัยมาตั้งแต่ต้นแล้วละ เพราะจากที่สังเกต ลักษณะของก้อนหินไม่เหมือนมังกรดำที่เคยเลี้ยงมา ปกติมังกรดำจะโตเร็วกว่ามังกรขาว แต่นี่มันแทบจะไม่โตขึ้นเลย หางก็ไม่เหมือนมังกรทั่วไป ต่อให้ฝึกหนักล้มลุกคลุกคลานแค่ไหนก็ไม่เคยเป็นแผล ทั้งฉลาด ทั้งแสนรู้มากกว่ามังกรรุ่นเดียวกัน ถึงจะเก่งแต่ก็ไม่เคยรังแกตัวอื่นๆ แถมยังคอยปกป้องตัวที่อ่อนแอกว่าด้วย” ร็อตตอบในขณะที่คนอื่นๆ ก็พยักหน้ายิ้มๆ ไม่ได้มีแววโกรธเคืองอะไร ทำให้ผมยิ้มออกมาได้
ฟังแล้วก็อดจะภูมิใจในตัวมันไม่ได้ ตั้งแต่ร็อตบอกว่ามันแข็งแรงและเก่งขึ้น ผมก็สอนไม่ให้มันรังแกสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่า ว่าแล้วก็ชักอยากจะไปดูว่าเขาฝึกมังกรกันยังไงถึงขนาดต้องลุ้มลุกคลุกคลาน แต่อย่าดีกว่า ถ้าเกิดไปดูแล้วเห็นมันล้มผมคงทนไม่ไหวไม่ยอมให้มันไปฝึกต่อแน่ ปล่อยให้มันได้ฝึกให้แข็งแกร่งขึ้นจะได้ปกป้องตัวเองได้จะดีกว่า
“แต่ข้าสงสัย ลุงเซเรสบอกว่าสิ่งที่จะทำให้สีจากเปลือกไม้นี่หลุดออกได้คือน้ำมันที่สกัดจากดอกสโนว์
ฟ็อกซ์อย่างเดียวเท่านั้น ในโรงฝึกมันต้องใช้ด้วยเหรอครับ” ผมหันไปถามร็อตด้วยความสงสัย
“ไม่มีนะ” ร็อตนึกสักพักก่อนจะตอบ
“แล้วมันมาได้ยังไง แล้วไปโดนแขนก้อนหินได้ยังไง” ผมจับก้อนหินขึ้นมาตรงหน้าแล้วจ้องตามัน
“เล่ามาซิหิน พูด!”
“ก๊าสสส” มันยื่นแขนข้างที่สีลอกมาให้ แล้วคิดว่ากูจะเข้าใจไหม ว้อยยยย! ตอนนี้อยากได้วุ้นแปลภาษาจริงๆ ให้ตายสิ!
“น้ำมันจากดอกสโนว์ฟ็อกซ์เหรอ” พรีซาทำหน้าครุ่นคิด
“ที่จริงพ่อค้าน้ำหอมนิยมเอามาเป็นส่วนผสมของน้ำหอม เพราะจะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นติดทนนาน แต่เพราะมันออกดอกเฉพาะช่วงหน้าหนาวบนหิมะที่ภูเขาไฟไวเวิร์นปีละครั้งเท่านั้น จึงเป็นของหายากและราคาแพง มีแต่พวกชนชั้นสูงเท่านั้นแหละที่จะมีกำลังซื้อมาใช้ได้” ผมหันไปมองพรีซาอย่างสงสัยว่าทำไมถึงได้รู้เรื่องน้ำหอมดีจัง ที่บ้านเป็นเอเย่นต์ค้าน้ำหอมเหรอ?
“ท่านแม่กับพี่สาวข้าชอบใช้ แถมยังคลั่งไคล้น้ำหอมมากด้วย มีทุกกลิ่น ไปซื้อทีไรชอบลากข้าไปด้วยทุกที” พรีซาอธิบายต่อ เมื่อเห็นสีหน้าของผม
ผมก้มหน้าลงไปดมแขนที่ก้อนหินยื่นมาให้
“มีกลิ่นหอมจริงๆ ด้วยครับ”
“ก๊าส” อ้อ... เข้าใจละ ที่ยื่นมาให้นี่คงตั้งใจจะให้ดมสินะ ผมลูบหัวมันด้วยความเอ็นดู พรีซาขยับมาจับแขนมันขึ้นดมบ้าง
“กลิ่นดอกไอริส” พรีซาบอกด้วยสีหน้ามั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องสืบต่อว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นของใคร ข้าได้ยินจากท่านพ่อว่าอีกไม่กี่วันการประชุมก็น่าจะสิ้นสุด แขกจากทั้งสองอาณาจักรก็คงจะเดินทางกลับเลย ถ้าเป็นคนของอาณาจักรอื่นเราจะตามสืบต่อลำบาก” มาสทิฟฟ์ว่า
“แยกย้ายกันสืบดีไหม เผื่อจะได้เรื่องเร็วขึ้น” ไซเลอร์เสนอขึ้นมา
“ตกลง” ดูเหมือนว่าทุกคนจะเห็นด้วยเลยรับคำอย่างพร้อมเพรียง
“ว่าแต่นอกจากพวกเราแล้วมีใครรู้เรื่องก้อนหินอีกบ้าง” พรีซาถามขึ้น
“จากที่ฟังท่านมอลทีสพูด ก็น่าจะมีแค่คิงกับควีนที่รู้เรื่องนี้ คนอื่นๆ นอกเหนือจากนี้น่าจะยังไม่มีใครรู้หรอก” ไซเลอร์ตอบ
“เห็นท่านมอลทีสบอกว่าจะปรึกษากับคิงและควีนก่อนว่าควรจะให้ใครรู้เรื่องนี้บ้าง จะได้วางแผนคุ้มครองก้อนหินกับก้อนดินให้ดีกว่านี้” ร็อตต่อให้
“งั้นตอนนี้เราคงต้องทำหน้าที่คุ้มกันทั้งคู่ไปก่อน ต้องไม่ปล่อยให้ก้อนหินกับก้อนดินอยู่ตามลำพัง ควรจะมีเราคนใดคนหนึ่งอยู่ด้วยตลอด ตกลงตามนี้นะ” มาสทิฟฟ์เสริม
“ได้” เสียงรับคำอย่างพร้อมเพรียงกันของแก๊ง F5 ทำให้ผมทั้งรู้สึกซาบซึ้งและอุ่นใจ
“ขอบคุณมากนะครับทุกคน” ผมรู้สึกว่าโชคดีจริงๆ ที่หลงมาที่นี่ เพราะคนที่นี่ดีกับผมมาก ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่พี่น้อง ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ผมก็ได้รับการดูแลอย่างดีมาโดยตลอด ทำให้ผมอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข และเริ่มรู้สึกว่าถ้าต้องอยู่ที่นี่ต่อไปก็คงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะน้องดิน เดี๋ยวข้าจะปกป้องเจ้าเอง” ชเนาเซอร์อ้าแขนทำท่าจะขยับเข้ามากอด แต่ไซเลอร์ดึงคอเสื้อเอาไว้ก่อน
“ให้มันน้อยๆ หน่อย”
“หึๆ / ฮ่าๆๆๆๆ” คนที่เหลือหัวเราะออกมาพร้อมกัน ผมหันไปสบตากับไซเลอร์ที่ยังคงส่งยิ้มมาให้อย่างอ่อนโยนเหมือนทุกครั้งแล้วยิ้มตอบด้วยความรู้สึกขอบคุณ
ขอบคุณจริงๆ ที่เข้าใจและคอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ
“อะแฮ่ม แค่กๆๆๆ” แต่จะไม่ดีก็ตรงเนี๊ยะ! แซวกันจริงโว๊ยยยย!
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
พ่อลูกเค้าเล่นกันน่ารักเนอะ 55555

ตอนนี้เขียนแล้วแก้ไปหลายตลบมากค่ะ ได้สั้นๆ แค่นี้เอง ฮือออออออ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านและให้กำลังใจค่า

เจอกันตอนต่อไปนะคะ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
#suikajang อีกหน่อยจะได้เผือกสมใจค่ะ รอไปก่อย มีเรื่องให้เผือกเยอะแยะเลย

#duck-ya ดินของหินค่ะ หินไม่ให้ใคร 555555
#ommanymontra

#ซีเนียร์

#B52 หลงจนไม่กล้าเทน้องหินเลยค่ะ ฮืออออออ
#mild-dy ขอบคุณเช่นกันค่า

#แฟนตาเซีย

คลานแข่งกันค่ะ 555555 บ้าไปแล้วววว
#MayA@TK เป็นคนที่เรอทัก วรั๊ยยยยย
#♥►MAGNOLIA◄♥ แวะมาให้กำลังใจดินบ่อยๆ นะคะ คนเขียนจะได้เข้มแข็งด้วย

#•♀NoM!_KunG♀• ตอนนี้ยังเด็กค่ะ หวงแม่อย่างเดียว 555555
#alternative พี่แกเป็นคนชัดเจนค่ะ หนักแน่น มั่นคง ออกตัวแรงมากกกก
#DeShiWa มันมีที่มาค่ะ รอภาคพี่ไซนะคะ หุๆ
#angel_Z4 55555 พี่ไซคงจะหลอนแทนดีใจนะคะ แค่นึกถึงก็ขนลุก แงงงงง
#poppycake ช่วงเปิดเทอมพอดีค่ะ ได้ฟีลมาก เห็นแม่ๆ แต่ละคนหัวปั่นแล้วปวดหัวแทนเลยค่ะ
#พิศตะวัน

#kratair ขอบคุณมากค่า ฝากน้องดินกับน้องหินด้วยนะคะ

#KARMI 55555 ใช่ค่ะ พี่ไซมันร้ายยยย กัดมันเลยยยยย
#Ryu7801 นี่แค่กับไซเลอร์นะคะ กับคนอื่นละก็ หึๆๆๆๆ
#prangasia มันมีเหตุให้เศร้าค่ะ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
รักทุกโคนนนนนนนนนนนน
ขอไปร้องเพลงกล่อมก้อนหินนอนก่อนนะคะ ฝันดีค่า
