►►►แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ @ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ@ (แฟนตาซี) (19/3/2019) P.23
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►►►แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ @ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ@ (แฟนตาซี) (19/3/2019) P.23  (อ่าน 127484 ครั้ง)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
วสุเป็นใคร
ทำไมพี่ไซต้องเศร้า พี่ไซรอดินมานาน หรือเป็นวสุที่รอ?

มาเร็ว ๆ นะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
หูยๆๆ เท่อะ ><

มันจะน่ารักมากแน่ๆเวลาได้ขี่หมาตัวใหญ่ๆ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
แต่ละตัวน่ารักๆทั้งนั้น ^^

ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
วสุ?!
ใครอ่ะ โอ้ยยยลุ้น
ความทรงจำในนั้นจะมีอะไรบ้างงงง

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ว่าแล้วเชียววววว ชื่อแต่ละคนนี่สายพันธุ์หมาๆทั้งนั้น 555555555555

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
บาอัลน่าจะเป็นน้องแมว รุคน่าจะเป็นนกค่ะ ถูกไหมเอ่ย

ถูกต้ม เอ๊ย! ถูกต้องแล้วค่าาาาาาาาา  :mc4: :mc4: :mc4:
มารับมง เอ๊ย! รับก้อนหินไปหนึ่งตัว ล่อลวงเอาเองนะคะ  :laugh:

ดินแดนไวเวิร์น = ดินแดนมังกร
อาณาจักรเคลเบรอส = อาณาจักรน้องหมา
อาณาจักรบาอัล = อาณาจักรน้องแมว
อาณาจักรรุค = อาณาจักรน้องนก

ปรบมือ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

อยู่ท่ามกลางหมาทั้งฝูง โอยยยย สวรรค์! ขอใช้คำของพี่เป็ดแคนหน่อย เอิ้กกกก

 :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ Ryu7801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
วสุ คือสัตว์เลี้ยงของดินหรือเปล่า

ออฟไลน์ prangasia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากรู้เรื่องราวในอดูด เอร้ย อดีต :z3:
มาต่อเร็วๆนะ :hao5:
น้องหินนับวันยิ่งน่ารัก :กอด1:
ขโมยไรท์ได้มั๊ยเนี่ย :mew2:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
เกิดอะไรขึ้นกับดินอะ

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
บทที่ 23 แรกพบ

   เมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อก้อนดินด้วยน้ำเสียงตกใจ ข้าจึงรีบหันไปมอง

ภาพที่เห็นก้อนดินค่อยๆ ล้มลงทำให้ข้าแทบหยุดหายใจ ยังดีที่ชเนาเซอร์ปราดเข้าไปรับร่างของก้อนดินไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะล้มลงกระแทกกับพื้น ภาพที่เห็นทำให้ข้าเสียสมาธิจึงถูกลิฟฟ่อนตะปบเข้าที่ด้านหลัง ถึงจะตั้งตัวหลบได้ แต่ยังไม่พ้น จึงโดนปลายเล็บเฉี่ยวเข้าที่แผ่นหลังจนรู้สึกแสบขึ้นมาทันที

   ข้าต้องดึงสมาธิกลับมาเพื่อต่อสู้กับฝูงลิฟฟ่อนให้จบเร็วที่สุด เมื่อลิฟฟ่อนตัวสุดท้ายถูกมาสทิฟฟ์กัดจนล้มลง ข้าก็รีบเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์แล้ววิ่งไปหาก้อนดินอย่างรวดเร็ว

   “ก้อนดิน”

   ข้ารับร่างก้อนดินจากมือของชเนาเซอร์แล้วประคองลงให้นอนหนุนบนตักของข้าอย่างเบามือ

   “เกิดอะไรขึ้น ดินเป็นอะไร” ข้าถามพินช์เชอร์กับชเนาเซอร์อย่างร้อนรน

   “ข้าก็ไม่ทราบครับท่านไซเลอร์ อยู่ๆ พี่ดินก็กุมศีรษะ ยืนเซๆ แล้วก็ล้มลงไปเลย” พินช์เชอร์ตอบก่อนที่จะจับชีพจรที่ข้อมือของก้อนดินเพื่อตรวจอาการ ส่วนชเนาเซอร์ส่ายศีรษะ คงจะมองไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะยืนอยู่ด้านหน้าของก้อนดิน

   ข้าก้มลงมองก้อนดินที่นอนหน้าซีดอยู่บนตักด้วยความกังวลและห่วงใย

   “ก๊าสสสส”

   เสียงร้องของก้อนหินทำให้ข้าละสายตาจากก้อนดินไปมอง มันนั่งเกาะแขนก้อนดินไว้ เอาหัวถูกับตัวก้อนดินสลับกับส่งเสียงร้องเรียกไม่หยุด น้ำตาหยดลงเป็นทางอย่างน่าสงสาร ข้าเอื้อมมือไปลูบหัวมันเบาๆ

   “ก้อนดินต้องไม่เป็นไร” ข้าพยายามเอ่ยปลอบใจมันและปลอบใจตัวเองไปด้วย

   “ก๊าส” มันเงยหน้ามาจ้องเหมือนต้องการความมั่นใจ

   “ข้าสัญญา ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นข้าจะทำให้ดินตื่นมาให้ได้”

   “ก๊าส” มันร้องเหมือนรับรู้ก่อนจะหันกลับส่งเสียงร้องเรียกก้อนดินเหมือนเดิม

   “ชีพจรพี่ดินสับสน นอกจากนั้นก็ปกติทุกอย่างครับ เหมือนแค่หลับไปเฉยๆ แต่ถ้าจะให้ดี ข้าขอตรวจให้ละเอียดกว่านี้อีกสักหน่อย” พินช์เชอร์บอกขึ้นหลังจากคลำชีพจรและสำรวจร่างกายของก้อนดินคร่าวๆ แล้ว

   “ข้าว่าเราไปจากตรงนี้กันก่อนดีกว่า ฤทธิ์ของยาชาจากเขี้ยวของพวกเราอยู่ได้ไม่นานนัก” พรีซาพูดขึ้นหลังจากมายืนมองด้วยสายตาห่วงใยได้สักพัก

   “นั่นสิ อีกอย่าง ข้ากลัวว่าจะมีตัวอะไรโผล่มาอีก ดูท่าแล้วน่าจะมีใครสักคนจ้องเล่นงานเราด้วยเหตุผลบางอย่าง แถมน่าจะเป็นคนที่มีพลังเวทย์สูงด้วย ถึงขนาดที่บังคับลิฟฟ่อนเพศผู้ที่ไม่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงมาพร้อมกันได้นี่คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน” มาสทิฟฟ์เสริมขึ้นหลังจากเดินตรวจสภาพของลิฟฟ่อนกับร็อตเรียบร้อยแล้ว

   “งั้นไปจากตรงนี้ก่อนเถอะ หาที่ที่ปลอดภัยกว่านี้ก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที” ชเนาเซอร์ผละสายตาที่มองก้อนดินด้วยความห่วงใยมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

   “อืม” ข้ารับคำอย่างเห็นด้วยก่อนจะช้อนร่างก้อนดินขึ้นอุ้ม ส่วนร็อตเข้าไปลูบหัวก้อนหินอย่างอ่อนโยนและเห็นใจ ก่อนจะอุ้มมันขึ้นมากอดไว้ แล้วเราก็เริ่มเดินทางออกจากตรงนั้นอย่างเร่งรีบ


   หลังออกมาจากจุดเกิดเหตุในระยะที่น่าจะปลอดภัยพอสมควรแล้ว พินช์เชอร์ก็ตรวจร่างกายก้อนดินอย่างละเอียด ข้าอุ้มก้อนหินที่ยังคงสะอื้นนั่งบนตักเพื่อไม่ให้ไปรบกวนพินช์เชอร์ เราทั้งคู่ต่างเฝ้ารออย่างกระวนกระวาย

ส่วนเพื่อนๆ ข้า ก็ออกไปลาดตระเวนดูความปลอดภัยอยู่รอบๆ บริเวณที่พัก โดยวางตำแหน่งเป็นชั้นขยายวงออกไปเรื่อยๆ มีร็อตอยู่ชั้นในที่ใกล้ที่สุด ถัดไปก็เป็นชเนาเซอร์ พรีซา และมาสทิฟฟท์ที่อยู่รอบนอกสุด

   ก่อนจะออกไปเพื่อนๆ เข้ามาตบบ่าข้าอย่างให้กำลังใจ ทุกคนมีสีหน้ากังวลและห่วงใยไม่ต่างกัน ข้ารู้ดีว่าในตอนนี้ทุกคนถือว่าก้อนดินเป็นเสมือนคนในครอบครัวเรียบร้อยแล้ว

   พอตรวจร่างกายก้อนดินเสร็จพินช์เชอร์ก็ถอนหายใจแล้วทำสีหน้าโล่งใจก่อนจะบอกอาการให้ข้าและก้อนหินที่หูตั้งจ้องพินช์เชอร์เขม็งพร้อมกับตั้งใจฟัง

“พี่ดินแค่สลบไปครับท่านไซเลอร์ เหมือนจิตใจได้รับความกระทบกระเทือนจากเรื่องอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้เป็นอะไรมาก พักอีกสักพักก็น่าจะดีขึ้น แล้วคงจะฟื้นได้เอง เดี๋ยวข้าออกไปหาสมุนไพรมาบำรุงสักหน่อย พี่ดินจะได้แข็งแรงมากขึ้น ชีพจรจะได้มั่นคงขึ้นด้วยครับ”

   เมื่อได้ฟังคำอธิบายแล้วข้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะที่ก้อนหินก็หยุดร้องไห้แล้วดิ้นลงจากตักเดินไปร้องเรียกก้อนดิน พอเห็นว่าก้อนดินยังคงไม่ตื่น มันก็นั่งลงกับพื้นแล้วเกาะแขนจ้องหน้าเฝ้ารออยู่อย่างนั้น

   “ขอบใจมากพินช์เชอร์”
 
   “ไม่เป็นไรครับ พี่ดินก็เหมือนพี่ของข้า ข้าก็เป็นห่วงพี่ดินเหมือนกันครับ”

   “อืม เดี๋ยวข้าเรียกร็อตให้พาเจ้าออกไปหาสมุนไพรก็แล้วกัน”

   “เอ่อ... ไม่เป็นไรครับ ข้าไปคนเดียวได้” พินช์เชอร์ปฏิเสธด้วยสีหน้าเกรงใจ

   “ไม่ได้ สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ เพื่อความปลอดภัยให้ร็อตไปคอยคุ้มกันเจ้าดีกว่า”

   “ครับ” พินช์เชอร์รับคำแล้วยิ้มเขิน คงดีใจที่จะได้ไปกับร็อต ข้าได้แต่ขำในใจ เด็กเอ๊ย!

พินเชอร์หุบยิ้มแล้วเหลือบมองไปทางด้านหลังข้าแล้วถาม

   “เอ่อ... ท่านไซเลอร์ ข้าขอดูแผลที่หลังท่านหน่อยได้ไหมครับ”

   “ไม่เป็นไรหรอก โดนแค่ปลายเล็บเฉี่ยวๆ เดี๋ยวก็หาย” พอเห็นสีหน้าเป็นกังวลของพินช์เชอร์ ข้าก็เลยต้องยอมให้เขาดูแผลให้ เมื่อเห็นว่าแผลที่หลังข้าไม่ลึกมากสีหน้าพินช์เชอร์ก็ดีขึ้น ก่อนจะนำยาพี่พกมาด้วยออกมาทาแผลให้ข้า เพื่อความสบายใจของเขาข้าเลยยอมให้ทายาแต่โดยดี

   เมื่อทำแผลเรียบร้อยแล้ว ข้าก็ออกไปเป่าขลุ่ยหยกขนาดเท่านิ้วก้อยเป็นสัญญาณเฉพาะของกลุ่มเราเรียกร็อตที่อยู่แถวๆ นั้นให้กลับมาแล้วพาพินช์เชอร์ออกไปหาสมุนไพร

   หลังจากร็อตไปแล้ว ชเนาเซอร์ก็ขยับเข้ามาตระเวนรอบในแทนร็อต พอได้รับสัญญาณแจ้งจากชเนาเซอร์ ข้าก็กลับมานั่งเฝ้าก้อนดินได้อย่างวางใจ

   ข้าลูบหัวก้อนหินอย่างเอ็นดู ซึ่งมันก็ยอมให้ลูบแต่โดยดี ไม่ได้ต่อต้านหรือเล่นเหมือนอย่างเคย ในหัวข้าก็นึกถึงสิ่งที่น่าจะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อจิตใจก้อนดิน

   ข้าพยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ในช่วงนั้น ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้าง หัวใจเริ่มเต้นกระหน่ำขึ้น เมื่อนึกได้ว่า ก่อนที่จะได้ยินเสียงเรียกด้วยความตกใจของคนอื่นๆ มีคำๆ หนึ่งที่หลุดออกมาจากปากของก้อนดินเพียงเบาๆ แต่ด้วยความที่ประสาทหูเผ่าพันธุ์ของเราดีมากจึงทำให้พอที่จะสามารถจับใจความได้

   วสุ

   เจ้าจำได้แล้วเหรอก้อนดิน

   เจ้าจำวสุของเจ้าได้แล้วใช่ไหม

   ดวงตาข้าไหววูบไปชั่วครู่ก่อนจะกลับมามั่นคงเช่นเดิม ข้าก้มลงจูบหน้าผากก้อนดินอย่างแผ่วเบา ทั้งรู้สึกยินดีและหวั่นใจหากก้อนดินจะจำเรื่องราวในครั้งนั้นได้

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน เมื่อครั้งที่ข้าและเพื่อนๆ ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจแรก หลังจากพวกเราได้รับการแต่งตั้งเป็นทีมเฮดีส

(มีต่อค่ะ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
   6 ปีก่อน

   ข้าก้มลงมองแผลที่ขาอย่างกังวล ข้ากับเพื่อนทั้งสี่ได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติภารกิจแรกที่มิติแห่งนี้ โดยท่านมอลทีสบอกให้พวกเราเดินทางมาในร่างแปลง เพื่อให้สะดวกต่อการปฏิบัติภารกิจมากกว่าร่างมนุษย์ที่จะยุ่งยากต่อการผ่านทาง และอาจเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มมนุษย์ที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในแต่ละดินแดน

   ก่อนจะออกมาท่านมอลทีสเข้ามาตบบ่าข้าแล้วเอ่ย

   “อดทนหน่อยนะไซเลอร์”

“ครับ”

ถึงจะไม่ทราบว่าท่านมอลทีสหมายถึงอะไรแต่ข้าก็รับคำอย่างหนักแน่น เพราะคำที่ออกมาจากปากจอมปราชญ์ของอาณาจักรนั้นคงจะเป็นคำทำนายที่เกี่ยวกับตัวข้า แต่ข้าไม่จำเป็นต้องกลัว ไม่ว่าจะพบเจออะไรข้ามั่นใจว่าจะไม่มีวันยอมแพ้ต่อโชคชะตาเด็ดขาด

   ภารกิจครั้งนี้เป็นภารกิจสำคัญและค่อนข้างละเอียดอ่อนเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวพันระหว่างอาณาจักร เป็นภารกิจในการตามหาหนึ่งในทายาทของตระกูลฟินซ์ ซึ่งเป็นตระกูลสำคัญของอาณาจักรรุคที่หลงมิติมา ทุกคนเกรงว่าจะเกิดเหตุประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนเมื่อหลายปีก่อน จึงต้องเร่งค้นหาและนำตัวกลับไปที่คืนคนของตระกูลให้เร็วที่สุด

   นอกจากทีมของเราแล้วจึงมีอีกหลายทีมที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ด้วย แต่มีแค่คนของอาณาจักรเคลเบรอสเท่านั้นที่ถูกส่งมา เพราะร่างแปลงของอาณาจักรรุคและบาอัลไม่เหมาะที่จะปฏิบัติภารกิจในมิตินี้ เนื่องจากจอมปราชญ์ของทั้งสามอาณาจักรบอกว่ามีความเสี่ยงต่ออันตรายยิ่งกว่าร่างแปลงของคนอาณาจักรเรา

เพื่อความรวดเร็วในการปฏิบัติภารกิจ แต่ละทีมจึงแบ่งเขตในการค้นหาและแยกย้ายกันไป เมื่อได้รับขอบเขตที่รับผิดชอบเรียบร้อยแล้ว เราทั้งห้าจึงตกลงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ เพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกตและเป็นที่เพ่งเล็ง

ข้ากับชเนาเซอร์รับหน้าที่เข้ามาในตัวเมือง เพราะท่านมอลทีสบอกว่าร่างแปลงพวกเราดูเป็นมิตรมากกว่า ส่วนมาสทิฟฟ์นั้นร่างแปลงที่ใหญ่โตจะดูน่ากลัวมากไปสำหรับมนุษย์ในมิตินี้ จึงให้รับหน้าที่เข้าไปในป่าแล้วเจ้านั่นก็ลากพรีซาติดไปด้วย ร็อตรับหน้าที่ตระเวณตามเขตรอยต่อระหว่างป่ากับเมืองเพราะร่างแปลงของร็อตก็ดูน่ากลัวไม่แพ้กัน

   ทีมของเรามีระยะเวลาในการปฏิบัติภารกิจนี้แค่ 2 เดือน นี่ก็ผ่านไปเกือบเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบเป้าหมาย ข้ากับชเนาเซอร์จึงตกลงแยกย้ายกันแทนที่จะอยู่ใกล้ๆ กันเหมือนอย่างเคย แล้วค่อยนัดเจอกันอีกทีที่เดิมถ้าภารกิจเสร็จสิ้น หรือถึงช่วงเวลาที่กำหนด

   แต่เมื่อเช้าข้าก็พบปัญหาเข้าซะก่อน...

ในระหว่างที่ข้าเดินตามหาเป้าหมายอยู่ ก็มีเด็กมนุษย์อายุไม่กี่ขวบเดินมาหา แม้ว่าข้าจะพยายามเดินหนี แต่เด็กคนนั้นก็ยังเดินตามมาไม่หยุด

   “น้องหมา อย่าไป มาเล่นกัน”

   ในขณะที่คิดว่าจะวิ่งหนีไป สายตาข้าก็เหลือบไปเห็นกระถางต้นไม้บนระเบียงกำลังจะตกลงมาใส่ศีรษะเด็ก ข้าเลยกระโจนเข้าใส่แล้วใช้ขาหน้าข้างหนึ่งผลักเด็กออกให้พ้นจากอันตราย

   “แงๆๆๆๆ” เด็กคนนั้นร้องไห้เพราะล้มหงายหลังนั่งลงกับพื้น ข้าถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นกระถางตกลงมาแตกอยู่ห่างๆ แทนที่จะโดนศีรษะเด็ก โชคดีที่ข้าเข้าไปผลักออกทัน

   “เกิดอะไรขึ้น ว๊าย! ไอ้หมาบ้า แกทำอะไรลูกฉัน” แม่ของเด็กที่โผล่มาจากด้านในตึก พอเห็นว่าเด็กร้องไห้ก็เข้าใจผิดคิดว่าข้าเป็นผู้ทำร้ายเด็ก

   “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย หมาบ้ามันทำร้ายลูกฉัน” นางร้องขึ้นเสียงดัง ทำให้มีผู้คนออกมาดูหลายคน เมื่อเห็นข้ายืนอยู่ใกล้ๆ เด็ก มนุษย์ผู้ชายก็หาอาวุธออกมาถือไว้แล้วเดินตรงมา

   ข้าเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามที่จะวิ่งหนี เพราะตามกฎแล้วพวกเราไม่สามารถตอบโต้หรือทำร้ายสิ่งมีชีวิตต่างมิติได้ แต่ด้วยความที่คนออกมาสกัดข้าไว้มีหลายคน ทำให้ข้าหนีไม่พ้น จึงโดนมีดฟันที่ขาขวาจนเป็นแผล ซ้ำยังโดนไม้ตีตามร่างกายอีกหลายจุด ข้าต้องกัดฟันกระเสือกกระสนหนีไปที่จุดนัดพบเพื่อตั้งหลักก่อน

   เนื่องจากจุดนัดพบอยู่ไกลพอสมควรกว่าจะมาถึงก็แทบจะหมดแรง ข้าล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนล้า นอกจากได้แผลแล้วขาข้างขวาน่าจะหักด้วย เพราะมีคนใช้ไม้ตีซ้ำไปตรงจุดนั้นหลายครั้ง ข้าได้แต่มองแผลอย่างหนักใจ

   “เหรียญสิบรอพี่ก่อน โอ๊ย! หายไปไหนวะ ค่ารถกลับบ้านกู”

   เสียงบ่นของมนุษย์ที่ใกล้เข้ามา ทำให้ข้าพยายามจะลุกหนีเพราะรู้สึกไม่ไว้วางใจ กลัวว่าจะเจอเหตุการณ์เหมือนเมื่อเช้า แต่เพราะขาที่หักและอาการเจ็บปวดที่รุมเร้าไปทั่วร่างทำให้ข้าลุกไม่ไหว แค่พยายามฝืนร่างกายจนมาถึงที่นี่ก็คงเกินขีดจำกัดมากแล้ว ข้าได้แต่ล้มลงไปนอนเหมือนเดิมแล้วทอดถอนใจ

   อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโชคชะตาก็แล้วกัน

   เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตามมาด้วยเสียงแหวกพุ่มไม้ แล้วข้าก็ได้สบตากับเด็กผู้ชายผมเกรียนแนบศีรษะที่อยู่ในชุดเสื้อแขนสั้นสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วคู่นั้นกำลังจ้องมาที่ข้าเขม็ง

   “น้องหมา มาทำอะไรตรงนี้เนี่ย คลอดลูกเหรอ” พูดจบก็กวาดตามองหาลูกๆ ที่ว่า อยากจะค้านไปว่าข้าเป็นตัวผู้ ไม่ใช่สิ! ข้าเป็นผู้ชาย ไม่สามารถตั้งท้องหรือคลอดลูกได้หรอก

   “เอ๊ะ! ขาเจ็บนี่” คนตรงหน้าอุทานเมื่อเห็นแผลที่ขาข้า ข้านึกถึงคำสอนของท่านมอลทีส ที่บอกให้เราทำหูลู่แล้วส่งเสียงให้น่าไว้วางใจ

   “งืดๆๆ” และคงจะได้ผลเพราะเจ้าตัวค่อยๆ เดินเข้ามาหาอย่างระแวดระวัง พอเข้ามาใกล้ก็ยื่นมือมาให้ดม ข้าดมดูสักพักก็รู้เลยว่าเขาเป็นมนุษย์จิตใจบริสุทธิ์ จึงเผลอกระดิกหางให้อย่างยินดี

   “น่ารักกกก ว่าแต่พันธุ์อะไรเนี่ยตัวอย่างใหญ่” ถ้าได้เจอกับร่างแปลงของมาสทิฟฟ์คงไม่พูดอย่างนี้

   “ว่าแต่ใครทำร้ายน้องหมาได้ลงคอเนี่ย ใจร้ายจริงๆ” เขามองข้าด้วยแววตาสงสาร มือลูบเบาๆ ลงบนหัวข้า

   “รอพี่ตรงนี้ก่อนนะน้องหมา เดี๋ยวพี่ไปหายามาทำแผลให้” พูดจบก็ตบหัวข้าเบาๆ ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

   เด็กคนนั้นหายไปนานมากจนข้าคิดว่าเขาคงจะไม่กลับมาแล้ว แต่แล้วข้าก็ได้กลิ่นของเขาก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่เข้ามา พร้อมกับหอบของพะรุงพะรังมาด้วย

   “ขอโทษนะที่ไปนาน พอดีพี่ติดเรียน แต่ไปขออุปกรณ์ทำแผลมาแล้วนะ มาๆ เดี๋ยวพี่ทำแผลให้” มนุษย์ตรงหน้ากำลังรื้อของออก เจ้าตัวยังคงหอบน้อยๆ เพราะวิ่งมา เหงื่อผุดพรายทั่วใบหน้า พอรื้อของเสร็จก็หันมาจ้องตา

   “ที่จริงพี่ก็อยากจะพาไปหาหมอนะ แต่พี่ไม่มีตังค์ จะบอกครูก็ไม่กล้ากลัวครูจะให้คนมาจับไป แต่ไม่ต้องกลัวนะพี่ทำแผลเก่งมาก เพราะพี่ทำแผลเองบ่อยๆ แล้วก็เคยทำให้ลุงๆ ป้าๆ ที่บ้านด้วย พี่มือเบา เจ็บนิ้ดดดเดียว” พูดเหมือนจะปลอบจบก็เริ่มลงมือทำแผลให้เบามืออย่างที่อวด ข้ามองสีหน้าตั้งอกตั้งใจนั้นอย่างอ่อนโยน

   มนุษย์ดีๆ ก็มีสินะ

   “เสร็จแล้วละ เก่งมากเลยไม่ร้องสักนิด” พูดจบก็ตบหัวข้าอย่างเอ็นดูพร้อมฉีกยิ้มสดใสจนข้ารู้สึกตาพร่า

   “พี่ซื้อแซนด์วิชกับน้ำมาฝากด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะมาทำแผลให้ใหม่แล้วจะเอาข้าวมาเผื่อ ทนหิวหน่อยนะ” ปากพูดไป มือก็สาละวนแกะขนมจากห่อแล้วเอามาจ่อให้ที่ปากข้า

   “มาพี่ป้อน อ้าปากสิ” ข้าอ้าปากกินอาหารที่เขายื่นมาให้อย่างว่าง่าย

   “เก่งมาก กินเรียบร้อยเชียว ทีนี้ก็กินน้ำ เออ... แล้วจะกินยังไงวะ หมาน่าจะดูดน้ำจากหลอดไม่ได้ ชามก็ไม่มี”

   “อืม...” เขาทำหน้าครุ่นคิด

   “งั้นกินแบบนี้แล้วกัน” พอทำท่านึกออก พูดจบปุ๊บ เจ้าตัวก็วิ่งออกไปข้างนอกคงจะออกไปล้างมือเพราะมือเปียกกลับมา พอมาถึงก็นั่งลงเทน้ำใส่ฝ่ามือที่พยายามกักน้ำไว้แล้วยื่นมาให้กิน ข้าก้มลงเลียน้ำจากฝ่ามืออย่างเต็มใจ คนป้อนยิ้มอย่างดีใจเทน้ำใส่ไปเรื่อยๆ จนข้าผละออกถึงได้หยุด พอเก็บของเสร็จแล้วก็ยื่นมือมาลูบหัวข้าแล้วเอียงคอมองด้วยสีหน้าสงสัย

   “พันธุ์อะไรเนี่ย จะว่าไซบีเรียนก็ไม่ใช่สีขนแปลกๆ สีทองๆ น้ำตาลๆ ตาก็สีเขียว ไซมันตาสีฟ้าไม่ใช่เหรอ พันทางแน่ๆ ว่าแต่หมาพันธุ์อะไรตาสีเขียวหว่า นึกไม่ออกแฮะ รึว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่” มือเล็กๆ นั่นยังคงลูบหัวให้อย่างอ่อนโยนจนข้าแทบจะเผลอหลับ

   “ช่างมันเถอะ ว้า! ถึงเวลาที่พี่ต้องไปเรียนมวยแล้วอะ เสียดายจัง อยากอยู่ด้วยกันอีกสักนิด” เขาทำสีหน้าเสียดายอย่างจริงจัง หน้ามุ่ยๆ ลงอย่างขัดใจ

   “เฮ้อ! พี่ต้องไปแล้วละ เป็นเด็กดีรอพี่ตรงนี้อย่าไปไหนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะรีบมาหาแต่เช้า ไปก่อนนะ” พูดจบก็ตบหัวข้าเบาๆ แล้วก็แหวกพุ่มไม้วิ่งจากไป โดยที่ข้าไม่สามารถทักท้วงได้เลย


   เช้าวันต่อมา เด็กคนนั้นก็มาหาแต่เช้าอย่างที่เจ้าตัวบอกไว้ พอทำแผลให้ข้าเสร็จ ก็หยิบกล่องข้าวออกมาจากกระเป๋าสองกล่องเปิดออกแล้วเอามาวางไว้ตรงหน้าข้าหนึ่งกล่อง

   “วันนี้พี่เอาข้าวมาให้ พี่ทำเองกับมือเลย กินด้วยกันนะ” ข้าเงยขึ้นมองหน้าคนที่กำลังมองมาแล้วยิ้มกว้างอย่างซาบซึ้ง ก้มลงกินข้าวจนหมดกล่องก็กระดิกหางให้อย่างขอบคุณ

   “อิ่มไหมเนี่ย กินน้ำก่อน” เจ้าตัวก็กินหมดกล่องพอดี พอพูดจบก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบชามออกมาเทน้ำใส่ให้ พอข้ากินน้ำเสร็จเงยหน้ามาก็พบกับสายตาที่มองมาอย่างอ่อนโยน

   “น่ารักจังเลย เดี๋ยวพี่ไปเรียนก่อนนะ ตอนพักเที่ยงพี่มาใหม่ เดี๋ยวเทน้ำทิ้งไว้ให้” พูดจบก็ตบหัวข้าอีกที ก่อนจะเก็บกล่องข้าวที่หมดแล้ว แล้วก็เดินจากไป

   ข้ามองดูขาที่ได้รับการทำแผลให้เป็นอย่างดี ถ้าไม่ขยับ ปล่อยให้แผลและกระดูกติดกัน ใช้เวลาไม่นานก็คงจะหายดี เพราะร่างนี้ใช้เวลาในการสมานแผลเร็วกว่าร่างมนุษย์มาก

   ข้าจ้องมองทางเข้าตรงพุ่มไม้อย่างใจจดใจจ่อ จมูกคอยสูดกลิ่นของเด็กคนนั้น เผลอรอคอยอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกว่าเวลาเดินช้ากว่าที่เคย พอถึงเวลาเที่ยงกว่าๆ กลิ่นที่เริ่มจะคุ้นเคยก็ลอยมาตามลม ก่อนที่ร่างเล็กๆ จะกระหืดกระหอบผลุบเข้ามาในพุ่มไม้

   “รอนานไหม พอดีรอเพื่อนมันแบ่งงานอยู่เลยช้าไปหน่อย” พูดไปมือก็หยิบกล่องข้าวออกมาเปิดมาวางให้แล้วแล้วยิ้มให้อย่างสดใส

   “กินข้าวกันเถอะ” แล้วก็เป็นอาหารอีกมื้อที่ข้ากินอย่างมีความสุขที่สุด

   พอกินข้าวเสร็จเด็กนั่นก็เก็บข้าวของแล้วก็นั่งลงกอดเข่าจ้องข้ายิ้มๆ

   “เรายังไม่รู้จักชื่อกันเลย พี่ชื่อก้อนดิน เรียกพี่ดินก็ได้ ว่าแต่น้องหมาชื่ออะไรอะ” ถามเสร็จก็หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว
   ก้อนดินเหรอ? ชื่อน่ารักเหมาะกับตัวดี

   “ท่าจะบ้าแฮะเรา ถามอย่างกับมันจะตอบได้” ก้อนดินบ่นงึมงำอยู่คนเดียว

   “ปลอกคอไม่มี แต่ดูมีสกุลรุนชาติอะ ถ้าอาบน้ำดีๆ น่าจะสวยมาก หลงเจ้าของมาป่ะเนี่ย” ปากพูดไปมือเล็กๆ ก็ลูบตามตัวไปเรื่อยๆ

   “จะเรียกแต่น้องหมาก็ยังไงอยู่ เดี๋ยวพี่ดินตั้งชื่อให้นะ อืม... ชื่ออะไรดีน้า” ‘ก้อนดิน’ กอดอกมองข้าแล้วทำหน้าครุ่นคิด

   “เขียว ไม่ดีๆ เชยไปอะ” แล้วก็ทำท่าคิดต่อ

   “โกลด์เด้น ฮื้อ ไม่เข้าท่า”

   “อืมมมม คิดชื่อเหมาะๆ ไม่ออกอะ เดี๋ยวพี่ขอเวลากลับไปคิดก่อน เดี๋ยวค่อยมาตั้งชื่อให้ใหม่แล้วกันนะ ฮ้าว! ง่วงอะ เมื่อคืนนอนดึก แล้วต้องตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้าอีก วิชาช่วงบ่ายอีกนานอะ ขอพักสักงีบนะ” พูดจบก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ ตัวข้า อย่างไม่กลัวเปื้อน    

   สักพักก็เหมือนเจ้าตัวนึกอะไรขึ้นได้ เลยค้นอะไรสักอย่างมากดแล้วก็วางไว้บนกระเป๋า ยกแขนขึ้นมาปิดหน้าแล้วก็เงียบไป

   ข้าได้แต่มองตาปริบๆ หลับง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ ข้าเลยนั่งจ้องด้วยความเอ็นดู พอสายลมเย็นๆ พัดมาก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายจนเผลอหลับตามไป

   ตื่นๆ มีเรื่องแล้ว ตื่นๆ มีเรื่องแล้ว ตื่นๆ มีเรื่องแล้ว

   ข้าสะดุ้งตื่นเพราะเสียงแปลกๆ จากสิ่งของที่ก้อนดินวางไว้บนกระเป๋า

   “ฮื้อ ถึงเวลาแล้วเหรอ” พร้อมกับเจ้าของที่ตื่นขึ้นมาเหมือนกัน มือเล็กๆ นั่นควานหาที่มาของเสียง ก่อนจะหยิบออกมาแล้วกดให้เสียงนั้นจะหายไป ก้อนดินลุกขึ้นขยี้หูขยี้ตาพร้อมหาวหวอดๆ พอเห็นข้ามองอยู่ก็ฉีกยิ้มให้

   “พี่ไปเรียนก่อนนะ เดี๋ยวก่อนเลิกเรียนจะแวะมาหา” พูดจบก็ตบลูบหัวข้าอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะหยิบสัมภาระทั้งหมดขึ้นมาแล้ววิ่งจากไป


   เช้าวันต่อมาก้อนดินก็แวะมาหาข้าตั้งแต่เช้าเหมือนเดิม วันนี้เขาใส่เสื้อแขนสั้นสีฟ้ากับกางเกงขาสั้นเลยเข่า หลังจากเอาอาหารให้ข้าเสร็จเรียบร้อยก็ปูเสื่อที่พกมาด้วยแล้วนอนหงายแผ่หลาอย่างหน้าตาเฉย

   วันนี้ไม่มีเรียนรึไง? ระหว่างที่ข้านึกด้วยความสงสัย จู่ๆ คนที่นอนหงายก็พลิกตัวมานอนคว่ำ เท้าคางมองข้า แล้วก็เริ่มพูดคนเดียวอย่างเคย

   “เมื่อวานท่านทูตเรียกพี่ไปพบด้วยละ ท่านถามว่าอยากเปลี่ยนชื่อไหม ท่านหาชื่อเพราะๆ มาให้หลายชื่อเลย พี่ได้แต่ปฏิเสธเพราะเกรงใจ อีกอย่าง ถึงก้อนดินจะเป็นชื่อธรรมดาๆ แต่มันก็เป็นชื่อที่พี่ใช้มาตั้งแต่เด็ก ถึงมันจะไม่เพราะมากมาย แต่พี่ก็ชอบนะ มันไม่เหมือนใครดี ฮะๆๆ” เสียงหัวเราะนั้นดูไม่สดใสอย่างที่เคย

   “ท่านถามย้ำๆ ว่าแน่ใจใช่ไหม พี่ก็บอกไปว่าแน่ใจ ท่านก็เลยยอมแพ้ ท่านทูตเป็นคนที่ใจดีมาก นอกจากย่ากับลุงๆ ป้าๆ คนรับใช้ในบ้านแล้ว ก็มีท่านทูตนี่แหละที่ดีกับพี่ ที่พี่มาเรียนพิเศษช่วงปิดเทอมได้นี่ก็เพราะท่านทูตเป็นคนออกค่าเรียนให้ คุณหญิงโกรธแทบแย่ พี่รู้ว่าคุณหญิงท่านไม่ชอบพี่ เวลาที่ท่านทูตไม่อยู่คุณหญิบชอบตีพี่อยู่เรื่อยเลย” ก้อนดินพูดเบาๆ ตาใสๆ คู่นั้นเหม่อลอย เหมือนแค่ต้องการระบายความรู้สึกของตัวเองออกมามากกว่าจะตั้งใจเล่าให้ข้าฟัง

   “แต่ย่าบอกให้พี่ทน เพราะครอบครัวของเราทำผิดกับคุณหญิง” ตาเศร้าๆ คู่นั้นหันมาถามข้า

   “แล้วพี่ผิดอะไร พี่พยายามนึกแล้วว่าเคยทำอะไรผิดต่อคุณหญิงบ้างหรือเปล่า แต่นึกแล้วก็นึกไม่ออก ทั้งๆ ที่พี่ไม่เคยทำผิดต่อท่านเลยสักครั้ง แล้วทำไมคุณหญิงถึงเกลียดพี่ล่ะ” เสียงละห้อยนั้นน่าสงสารจนข้าอยากจะกอดปลอบใจ ก้อนดินถอนหายใจเหมือนระบายความอึดอัดในหัวใจ ก่อนจะกลับไปนอนหงายเหม่อมองยอดต้นไม้แล้วพูดต่อ

   “คุณไฟก็ชอบแกล้งพี่แรงๆ ให้พี่เจ็บตัวมาตั้งแต่เด็ก คุณไฟบอกว่าคุณหญิงไม่ชอบพี่ แล้วบอกให้คุณไฟไม่ชอบพี่ด้วย เพราะท่านทูตรักพี่มากกว่าคุณไฟ ไม่จริงสักหน่อย พ่อที่ไหนจะรักลูกคนอื่นมากกว่าตัวเอง ท่านทูตรักคุณไฟจะตาย กลับมาทีไรซื้อของที่คุณไฟอยากได้มาให้ตลอด คอยถามพี่ตลอดเวลาว่าคุณไฟสบายดีไหม อยากได้อะไรรึเปล่า เพราะคุณไฟไม่ค่อยคุยกับท่านทูต แถมยังฝากให้พี่คอยดูแลคุณไฟให้ด้วย กับพี่ท่านทูตก็แค่สงสารที่พี่ไม่มีพ่อแค่นั้นเอง” ก้อนดินเงียบไปสักพักเหมือนตกอยู่ในภวังค์เพียงลำพัง ก่อนที่จะกลับมานอนคว่ำมองหน้าข้าเหมือนเคย

   “พี่ชอบหมามาก แล้วก็อยากเลี้ยงหมาอะ อยากเลี้ยงหมามากเลย” น้ำเสียงของก้อนดินละห้อยอย่างน่าสงสาร ถ้าเป็นข้าแค่เห็นสีหน้าแบบนี้คงยอมให้เลี้ยงตั้งแต่ยังไม่ขอแล้ว

   “แต่คุณไฟแพ้ขนสัตว์ แค่โดนขนแมวขนหมานิดเดียวภูมิแพ้ก็กำเริบแล้ว ดีนะช่วงนี้คุณไฟไม่อยู่บ้าน เพราะคุณหญิงส่งไปเรียนพิเศษกับญาติที่ต่างประเทศ ไม่งั้นต้องรู้แน่ๆ ว่าพี่มาเล่นกับน้องหมา ถ้าคุณไฟอยู่บ้านล่ะคงโดนคุณไฟบ่นหูชาแถมคงโดนคุณหญิงตีแน่เลย”

   ร่างเล็กๆ ตรงหน้าเงียบไปสักพัก ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเหมือนนึกอะไรขึ้นได้

   “เออ... แต่พี่ชอบชื่อที่ท่านทูตเอามาให้ดูอยู่ชื่อหนึ่งมากๆ เลย” ก้อนดินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

   “ชื่อ ‘วสุธา’ เพราะไหม?” ก้อนดินถามข้าด้วยดวงตาเป็นประกาย ข้าเห็นแล้วอดจะขำไม่ได้ เด็กหนอเด็ก เศร้าได้ครู่เดียวก็กลับมาร่าเริงได้เหมือนเดิมแล้ว แต่ข้าตอบคำถามไม่ได้ เลยได้แต่กระดิกหางให้

   “ชอบเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ตอนที่พี่ได้ยินครั้งแรกก็รู้สึกชอบมากเลย ท่านทูตบอกว่าความหมายของวสุธาหมายถึงแผ่นดินหรือผืนดิน คล้ายๆ ชื่อพี่เลยใช่ไหมล่ะ” พูดจบเด็กตรงหน้าก็ทำหน้าฝันๆ

   “ถ้าพี่เรียนจบมหา’ลัยแล้วมีงานทำเมื่อไหร่นะ พี่จะเก็บเงินสร้างบ้านของตัวเอง เสร็จแล้วพี่จะพาย่าไปอยู่ด้วย ย่าเคยบอกพี่ว่าย่ามีที่ดินอยู่แปลงหนึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเลย พี่จะสร้างบ้านสวยๆ ริมน้ำ ทำชานกว้างๆ ไว้นอนดูดาว ทำห้องสีเขียวแต่งข้างในสวยๆ แล้วตั้งชื่อว่า ‘เรือนวสุธา’ แข่งกับเรือนนมยุรา ละครที่ย่าชอบดู ย่าต้องชอบแน่ๆ เลย” สายตาเป็นประกายคู่นั้นหันมาจ้องตาข้า

   “เอาไว้ตอนนั้น เราไปอยู่ด้วยกันนะ” ก้อนดินยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่สดใสจนข้าอยากยิ้มตาม แต่ทำได้เพียงมองอย่างอ่อนโยนเท่าที่สายตาสุนัขจะสื่อได้แล้วสะบัดหางไปมา

   “อืม... งั้นพี่ใช้ชื่อนี้ตั้งให้น้องหมาไปก่อนก็แล้วกัน ชื่อ ‘วสุ’ ดีไหม? เพราะอะ เอาชื่อนี้แหละ” ก้อนดินพูดเองตอบเองผงกหัวหงึกหงักไปด้วยอย่างพออกพอใจ

   ข้ากระดิกหางให้อย่างยินดีถึงข้าจะมีชื่ออยู่แล้วแต่ชื่อ ‘วสุ’ ก็ฟังดูเพราะดี

   “แต่ระหว่างที่รอบ้านใหม่ ตอนนี้พี่คงต้องหาที่อยู่ให้วสุไปก่อน เพราะคงพาไปอยู่ที่บ้านคุณไฟไม่ได้ ตอนแรกพี่ว่าจะไปฝากไว้ที่บ้านพี่แคน แต่บ้านพี่แคนก็ลำบากน่าจะเลี้ยงไม่ไหว พี่ถามเพื่อนๆ ดูแล้วก็ไม่มีใครเลี้ยงได้ พี่เลยไปปรึกษากับครูเทพ ครูอนุญาตให้เอาวสุไปฝากไว้ที่ค่ายมวยก่อนได้ละ พี่ดีใจมากเลย เอาไว้ครูว่างเมื่อไหร่พี่จะพาครูเอารถมารับที่นี่นะ รอพี่ได้ไหม?” ก้อนดินหันมามองอย่างคาดหวัง

   ข้าอยากรับปากใจจะขาด แต่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าคงเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้รู้สึกโชคดีที่ก้อนดินคิดว่าข้าตอบไม่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าคงลำบากใจมากกว่านี้แน่ แค่นึกถึงวันที่ต้องจากกันข้าก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก

(มีต่อ)

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา


   หลังจากวันนั้นก้อนดินก็แวะมาหาข้าทุกวัน ถ้าวันไหนไม่ว่างก็แวะเอาอาหารมาวางไว้กับน้ำเททิ้งไว้ให้ เมื่อได้รับการดูแลอย่างดี ผ่านไปได้ไม่นาน แผลของข้าก็ดีขึ้นมาก

   พอเห็นว่าแผลเริ่มดีขึ้นแล้ว ด้วยความที่ห่วงหน้าที่ วันไหนที่ก้อนดินไม่ว่างมาหาข้า ข้าจึงแอบออกไปปฏิบัติภารกิจเพื่อไม่ให้ก้อนดินเป็นห่วง ซึ่งวันนี้ก้อนดินมาหาข้าแต่เช้า มาทิ้งอาหารกับน้ำไว้ให้แล้วบอกว่าติดธุระ จะมาใหม่ในวันพรุ่งนี้ ข้าจึงออกไปตามหาคนในบริเวณใกล้ๆ ต่อ

   แต่ช่วงนี้ดวงข้าคงตก เพราะเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ก็เจอกับปัญหาอีกครั้ง

   “หมาขาเป๋ว่ะ” วัยรุ่นที่นั่งมั่วสุมอยู่ในบ้านร้างแถวนั้นเห็นข้าเข้าก็ร้องเรียกให้เพื่อนในกลุ่มดู

   “เรามาเล่นอะไรสนุกๆ กันไหม” ได้ยินคำพูดแล้วข้ามีลางสังหรณ์ว่าเรื่องสนุกๆ ของพวกมันน่าจะไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสำหรับข้าสักเท่าไหร่ ข้าเลยตัดสินใจรีบวิ่งหนีไปก่อน

แต่ขาของข้ายังไม่หายดีจึงทำให้ไม่สามารถวิ่งได้เร็วอย่างใจ ข้าเลยโดนพวกมันสี่คนล้อมไว้พร้อมกับท่อนไม้ใหญ่ๆ ในมือ

   ข้าพยายามทำใจเย็น มองหาทางรอด พอพวกมันพุ่งเข้ามาก็พยายามหลบหลีกให้ได้เร็วที่สุด แต่ก็ไม่พ้นจึงโดนท่อนไม้ตีไปหลายครั้ง จนสุดท้ายก็โดนใครสักคนตีถูกบริเวณขาที่ยังเจ็บทำให้ข้าทรุดลงทันที ข้าพยายามกัดฟันไม่ร้องให้พวกมันได้ใจ ในขณะที่พวกมันหัวเราะชอบใจ และช่วยกันตีซ้ำไปตรงจุดที่ทำให้ข้าล้มลงได้

ข้าได้แต่นอนหอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า พอหนึ่งในนั้นเงื้อไม้ขึ้นมาบริเวณหัวก็หลับตาลงเตรียมรับชะตากรรม

หวังแค่ว่ามันจะไม่ทำให้ถึงตาย ได้แต่ภาวนาขอให้ชเนาเซอร์ตามมาช่วยได้ทันก่อนข้าจะสิ้นลมหายใจ หรืออย่างน้อยก็ขอให้เพื่อนได้นำศพข้ากลับไปให้กับครอบครัวของข้าก็ยังดี

และสุดท้ายภาพของก้อนดินที่มีน้ำใจคอยช่วยเหลือดูแลข้าอย่างดีมาโดยตลอดก็ผุดขึ้นมาในหัวใจ

   ขอโทษนะก้อนดิน ขอโทษที่ไม่ได้รอเจ้าอยู่ที่เดิม

   “โอ๊ย!”

   เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของมันทำให้ข้าลืมตาขึ้นมา ภาพที่ได้เห็นคือคนที่กำลังเงื้อไม้จะตีข้าล้มลงไปร้องโหยหวนกับพื้น

   “ทำเหี้ยอะไรวะ”

   ก้อนดิน!!!

เข้ามาทำไม! อันตราย! ออกไป!

   ข้าพยายามรวบรวมแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดเพื่อลุกขึ้นไปปกป้องก้อนดิน แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่นอนหอบหายใจมองก้อนดินด้วยความเป็นห่วง

   “ไอ้เด็กเวร ยุ่งอะไรด้วยวะ หลบไปนะเว้ย ไม่งั้นจะโดนไม่ใช่น้อย”

   “ไม่ยุ่งได้ไงนั่นหมากู” ก้อนดินโต้ตอบด้วยความโมโห แตกต่างจากยามที่อยู่กับข้าเพียงลำพังมากนัก

   “หนอย ไอ้เด็กนี่ วอนซะแล้ว จัดการมันเลยพวก”

   พูดจบพวกมันก็พุ่งตรงเข้าหาก้อนดิน ข้าได้แต่ใช้แรงเฮือกสุดท้ายพยายามลุก ใช้ขาหน้าถัดไปหาก้อนดินอย่างยากลำบาก อย่างน้อยขอเพียงก่อนตายหากร่างของข้าพอจะช่วยกันไม่ให้พวกมันทำร้ายก้อนดินได้บ้างก็ยังดี

   ตุ่บ!!

   แต่ภาพที่เห็นทำให้ข้าชะงักไปอย่างไม่รู้ตัว เมื่อไอ้คนที่กำลังพุ่งเข้าไปหมายจะตีก้อนดิน กลับโดนก้อนดินที่ตัวเล็กกว่าขยับเข้าประชิดตัว ขัดขาก่อนจะจับทุ่มลงพื้นอย่างรวดเร็ว!

พวกมันที่เหลือมองหน้ากันเลิกลัก ก่อนที่จะกระโจนเข้าหาดินพร้อมๆ กัน

   “ย้ากกกก”

   “มอญยันหลัก” ก้อนดินยกขาขึ้นยันคนที่พุ่งเข้าไปก่อน ตามด้วยไม้ที่แย่งมาจากคนที่ล้มลงไปแล้ว ฟาดตามลงไปที่ขาของมัน

   “หักงวงไอยรา” มือข้างหนึ่งจับขาที่มันยื่นมาแล้วใช้ไม้ฟาดเต็มแรง

   “นาคาบิดหาง” ก้อนดินจับขามันได้ก็ใช้เข่ากระแทกลงที่น่องแล้วใช้ไม้ฟาดซ้ำ

   หนึ่งในนั้นสลบเหมือดไปเลย ที่เหลือก็ร้องโอดครวญอยู่บนพื้น

   “เหอะ! นี่ศิษย์ครูเทพนะเว้ย ให้มันรู้ซะมั่งว่าใครเป็นใคร ขี้ยาผอมๆ แห้งๆ แรงน้อยๆ แถมยังขี้ก้างอย่างพวกแกต่างหากที่จะโดนไม่ใช่น้อยๆ บังอาจมาทำร้ายหมากู” ก้อนดินพูดจบก็รีบเดินเข้ามาหาข้า

   “วสุเป็นไงมั่ง” เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่พอเห็นสภาพข้าก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว

   “แม้แต่หมาก็ยังไม่เว้น จิตใจทำด้วยอะไรวะ ดีนะที่วันนี้ครูยกเลิกนัด ไม่งั้นคงมาช่วยไม่ทันแน่ โอ๋ๆๆ ไม่ต้องกลัว ไม่เป็นไรแล้วนะ มาเดี๋ยวพี่จะพากลับเอง”

   แต่ระหว่างที่ก้อนดินมัวแต่สนใจข้าอยู่ก็มีหนึ่งในนั้นที่ลุกขึ้นมาได้ มันหยิบมีดพกออกมากางเกงแล้ววิ่งมาตรงเข้ามาหาก้อนดิน ข้าจึงรีบร้องเตือน

   “โฮ่ง!”

   “โอ๊ย!”

   ก้อนดินหลบแต่ไม่พ้น เลยโดนปลายมีดเฉี่ยวจนได้เลือด แต่พอเขาตั้งตัวได้ก็ศอกกลับทันที

   “ดับชวาลา” แล้วหันไปชกหน้าซ้ำจนมันหงายหลังสลบเหมือด

   ดินลุกขึ้นสำรวจคนที่เหลือ เมื่อดูแล้วทุกคนน่าจะลุกขึ้นไม่ไหวก็เข้ามาซ้อนข้างหลังตัวข้าสอดมือตรงซอกขาหน้า ประสานมือไว้จนมั่น แล้วพยายามลากข้ากลับไป

   ข้าได้แต่ซึมซับไออุ่นและความเข้มแข็งจากก้อนดินผ่านอ้อมกอดของเขา นี่น่ะเหรอคนที่เก่งอันดับต้นๆ ของรุ่น ขนาดจะปกป้องผู้มีพระคุณก็ยังทำไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้เด็กตัวแค่นี้เป็นฝ่ายคอยปกป้องมาตลอด ทำไมข้าถึงน่าสมเพชขนาดนี้นะ

   ก้อนดินลากข้าไปอย่างทุลักทุเล ถึงแม้จะเป็นร่างแปลง แต่ก็ใกล้จะเป็นตัวเต็มวัยเต็มที ตัวของข้าจึงเกือบจะพอๆ กับก้อนดินซะด้วยซ้ำ  แต่ก้อนดินยังพยายามระมัดระวังอย่างถึงที่สุด พอเหนื่อยก็หยุดพักแล้วค่อยเดินต่อเพื่อให้ข้าได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด เมื่อไปถึงพุ่มไม้พุ่มเดิมก้อนดินก็วางข้าลงบนพื้นอย่างเบามือ

   “แฮ่กๆๆ ตัวหนักมากวสุ ลดความอ้วนบ้างนะ ฮ่าๆ แฮ่กๆๆ เหนื่อยแฮะ”

   เจ้าตัวหอบแฮ่กแต่ยังหัวเราะออกมาได้ ก่อนจะล้มลงนอนหงายอย่างหมดสภาพเคียงข้างกับร่างโทรมๆ ของข้า

   พอเริ่มจะหายหอบก้อนดินก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วสำรวจสภาพข้า

   “โหย แผลน่าจะปริด้วยอะ เดี๋ยวพี่ไปหาอุปกรณ์ทำแผลก่อน”

   “อ๊ะ!” ข้าพยายามขยับไปงับเสื้อก้อนดินไว้

   “มีอะไรหือ” สายตาของข้ามองไปที่มือ บอกให้รู้ว่าเป็นห่วงแผลของเขา

   “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า แผลถากๆ แค่นี้ จิ๊บๆ ปกติพี่ก็โดนมีดทำครัวเฉือนนิ้วประจำ”

   ข้าพยายามขยับตัวลุกขึ้น พอก้อนดินเห็นก็ขยับมาประคอง

   “อย่าเพิ่งลุกสิ เจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ”

   ข้าผงกหัวจากอ้อมแขนของก้อนดินแล้วก้มลงไปที่มือ เลียเลือดที่แผลของก้อนดิน

   “เฮ้ย! อย่าสิ พี่ไม่อยากฉีดยา ฮือออ วสุ ทำไมทำกับพี่แบบนี้”

   ข้าเงยขึ้นสบสายตากับก้อนดินและตั้งจิตอย่างแน่วแน่
   

ข้า ‘ไซเลอร์’ จาก ‘เคลเบรอส’
ขอผูกจิตไว้กับเจ้าของเลือดนี้
และให้สัตย์สาบานว่า
จะขอเป็นทาสที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของเลือดนามว่าก้อนดิน จนกว่าชีวิตจะหาไม่
ชีวิต หัวใจ และจิตวิญญาณของข้า ขอยกให้เขา แต่เพียงผู้เดียว
ตลอดกาล...


   “จะ... จ้องทำไมอ่ะวสุ อูย.. อยู่ๆ ก็ขนลุก” ก้อนดินลูบแขนตัวเองเบาๆ

   “เอ้าๆ นอนก่อนนะ อย่าดื้อลุกขึ้นมาอีกล่ะ พี่จะไปหายาทำแผลกับยารักษาอาการช้ำในจากคลินิกสัตว์มาให้ ถ้าดื้อพี่ตีจริงๆ ด้วย” ก้อนดินขู่ แต่กลับวางข้าลงอย่างเบามือก่อนจะวิ่งหายไป

   ต่อไปนี้ชีวิตและหัวใจข้า ยกให้เจ้าแล้วนะก้อนดิน ข้าบอกกับเขาในใจก่อนจะหลับตาลงด้วยความอ่อนล้า


   ข้ารู้สึกตัวอีกครั้ง เมื่อก้อนดินกลับมาพร้อมกับยากินและยาทำแผลตามที่บอกไว้

   “พี่ว่าจะไปขอให้พี่สัตวแพทย์ที่คลินิกมาดูแผลให้ แต่พี่ผู้ช่วยบอกว่าพี่เค้ารีบไปทำธุระ กำลังจะปิดคลินิกพอดีเลย พี่เลยทำได้แค่ซื้อยามาให้กินก่อน หวังว่าพอจะช่วยได้ ทนเอาหน่อยนะวสุ”

   ก้อนดินพูดด้วยสีหน้ากังวล แล้วลงมือทำแผลให้ข้าอย่างเบามือ หลังทำแผลเสร็จก็ป้อนอาหาร ป้อนน้ำ ป้อนยาให้ข้ากิน ก่อนจะกลับบ้านก็ย้ำนักย้ำหนา ไม่ให้ข้าไปไหนอีก ถึงไม่บอก ด้วยสภาพในตอนนี้แล้ว ถ้าเพื่อนๆ ไม่กลับมาพบก่อน ข้าคงไม่มีปัญญาจะไปไหนได้อีก ข้าได้แต่มองก้อนดินที่มองมาอย่างละล้าละลัง สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่เขาจะลูบหัวข้าอย่างอ่อนโยน แล้วตัดใจกลับบ้านไป

พอรุ่งเช้าก้อนดินก็รีบวิ่งมาหาข้าตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี พอเห็นข้ายังไม่ตายหรือยังไม่หายไปไหนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก จนข้าอดจะกระดิกหางให้ไม่ได้


   หลังจากวันนั้นข้าก็เลยต้องยอมพักฟื้นอยู่นิ่งๆ แต่โดยดี เพราะต้องรอให้แผลที่ได้มามากกว่าเดิมประสานกันจนกว่าจะหายดีซะก่อน ข้าไม่กล้าจะออกไปที่ไหนในสภาพนี้อีก เพราะกลัวจะทำให้ก้อนดินลำบากยิ่งกว่าเดิม

   วันนี้เป็นวันหยุด ก้อนดินไม่มีเรียนพิเศษ เขาจึงมานอนคว่ำกางหนังสืออ่านอยู่ข้างๆ ข้า ตอนนี้แผลเริ่มสมานตัวดีขึ้นเพราะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ข้าได้แต่มองก้อนดินอย่างหนักใจ เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ต้องกลับไปแล้ว

   ถ้าข้าจากไปก้อนดินจะเป็นยังไง

   เฮ้อ!

   “ถอนใจอะไรฮึ เป็นหมามันมีเรื่องให้หนักอกหนักใจขนาดนั้นเลยรึไง” ก้อนดินพูดขำๆ มือเล็กๆ นั่นยกมายีหัวข้าเล่น ก่อนจะลูบเบาๆ ด้วยสายตาเอ็นดู

   “เออ... ลืมบอกไปเลย ครูเทพบอกว่าเสาร์หน้าครูว่างแล้วนะ เดี๋ยวครูจะเอารถมารับ วสุไปอยู่กับครูก่อนนะ พี่สัญญาว่าจะไปหาทุกวันเลย ค่ายมวยครูอยู่ไม่ไกลจากบ้านคุณไฟด้วย ฝึกมวยเสร็จแล้วเราก็เล่นกัน เล่นกันเสร็จค่อยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับบ้าน แบบนี้ต่อให้คุณไฟกลับมาก็คงไม่แพ้แน่นอน” ก้อนดินบอกอย่างร่าเริง

   วันเสาร์หน้า...

   วันเดียวกับกำหนดนัดกลับไวเวิร์น

   ข้าจะทำยังไงดี?

   ข้ามองหน้าก้อนดินแล้วถอนหายใจด้วยความหนักใจ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

มาฟังคำแก้ตัว เอ๊ย! มุมมองของทางฝั่งพี่ไซแกดูค่ะ ตอนหน้าก็ยังเป็นในมุมของไซเลอร์อีกนิดนะคะ จะลงให้จบก็ดูจะยาวไป
ช่วงนี้ก้อนดินก็จะประมาณเกือบจะ 11 ขวบ สูงๆ เกือบ 150 ได้ ส่วนไซเลอร์ย่าง 16 ขวบ ถึงความคิดจะดูเป็นผู้ใหญ่ยังไง แต่ก็ยังถือว่าเป็นวัยรุ่นที่ยังไม่โตเต็มที่

ส่วนก้อนดินถึงจะเด็กกว่าแก๊งขี้ยา แต่ก้อนดินแข็งแรงกว่ามาก แถมพื้นฐานการต่อสู้ยังได้เปรียบกว่ามากเวลาต้องสู้เลยไม่มีปัญหาอะไร

จากตอนที่แล้วมีคนตอบถูกด้วยค่ะ ปรบมืออออ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ดินแดนไวเวิร์น = ดินแดนมังกร
อาณาจักรเคลเบรอส = อาณาจักรน้องหมา
อาณาจักรบาอัล = อาณาจักรน้องแมว
อาณาจักรรุค = อาณาจักรน้องนก


จะลงให้หลายวันแล้วค่ะ แต่ไฟล์พัง ฮือออออออออ พังพินาศเลย แล้วดันแต่งพิมพ์ต่อกันยาวมาเรื่อยๆ เป็นไฟล์เดียวไม่ได้ตัดเก็บเป็นตอนๆ ไป
นอยด์หนักมากกกก จนอยากจะเทเลยค่ะ  :hao5:
แต่... นิยายเรื่องโปรดจบพร้อมกัน ทำให้ฮึดขึ้นมาใหม่ อยากจะให้ลูกของเราจบบ้าง เอาใหม่ก็ได้วะ
ก้อนดิน&ก้อนหิน Come back
ยิ่งกลับมาอ่านคอมเม้นท์ยิ่งทำให้รู้สึกว่าดีแล้วละที่ไม่เท
ขอบคุณทุกๆ คนที่คอยติดตามเสมอนะคะ มันเป็นกำลังใจที่ทำให้เราสามารถฮึดขึ้นมาใหม่ได้  :pig4:
อย่างที่บอก ถึงจะไม่ใช่นิยายที่ดีที่สุด แต่เราจะพยายามให้ถึงที่สุดค่ะ ฮึบๆๆๆๆ  :katai4:

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

#ommanymontra  :L2: :กอด1: :L1: :pig4:
#Gamemy รักกกเหมือนกันค่ะ เอร๊ยยย ดีใจ แค่มีคนชอบบ้างก็ปลื้มมากแล้วค่ะ  :กอด1:
#kratair มาแล้วค่า  :กอด1:
#mild-dy  :L2: :กอด1: :L1: :pig4:
#ซีเนียร์  :L2: :กอด1: :L1: :pig4:
#♥►MAGNOLIA◄♥ ทีมหมา ทาสหมาค่ะ 5555 มีความอยากเลี้ยงมาก แต่อยู่หอ เลี้ยงไม่ได้ ถถถ มาเลี้ยงในจินตนาการเอาแล้วกัน ทั้งหมาทั้งมัง(กร) เลย มาแล้วนะคะ  :L2:
#Billie  :L2: :กอด1: :L1: :pig4:
#suikajang 55555 เค้าขอโทษ ไม่ดราม่าหรอกค่ะ จริงจริ๊งงงงงง แม่มันก็โดนวางยาเหมือนกันค่ะ ไฟล์พัง ถถถ กว่าจะกลับมาเขียนใหม่ได้ต้องใช้เวลาทำใจ นอยด์หนักมาก แต่ก็มาแล้วน้าาาา  :mew1:
#MayA@TK 5555555 มาแล้วค่า ไม่ต้องลุ้นแล้ววว (มั้ง)  :L1:
#shoi_toei เอร๊ยยย ยังมีให้ลุ้นอีกกก แค่กๆๆ  :katai5:
#HISY มันคือ.... โปรดติดตามตอนต่อไป๊ // โดนตบ 5555  :katai5:
#mayamay มอบมงให้เลยค่ะ เก่งมากกกกกกกกกกกก  :L2: :L2: :mc4: :mew1:
#DeShiWa 55555 ดินหมดสติ คงไม่ให้แปลงร่างแล้วค่ะ เหนื่อยกับการคิดสายพันธุ์ 55555  :really2:
#alternative วสุมาแล้วค่ะ หุๆๆๆ  :hao3:
#•♀NoM!_KunG♀• ความใฝ่ฝันเลยค่ะ อยากขี่เหมือนกัน อยากกอด อยากฟัดดดดดดด  :impress2:
#Yara คิดดูสิคะ ได้ฟัดทั้งฝูง โอ๊ยยยย ฟินนนน  :impress2:
#duck-ya วสุมาแล้วค่ะ ไฟล์น้องดินงอแง ฮือออ งอนลูก  :ling1:
#poppycake อยากกอดทั้งฝูงเล้ย 5555555555555
#Ryu7801 เกือบได้เป็นค่ะ ถถถ  :hao5:
#prangasia มาแล้วค่า ขโมยได้ แต่ก้อนหินจะยอมไปด้วยไหมอีกเรื่องค่ะ 5555  :laugh:
#takara ดินโดนพี่มันรังแกค่ะ ถถถ  :ling1:

รวบกอดด้วยฟามร๊ากกกก แล้วกระดึบต่อไป

 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ก้อนดินน่ารักน่าฟัดมากกกกกกกกกก
จิตใจดี กล้าหาญ

พี่ไซตกหลุมรักระดับฝังกลบเลยจ้ะ

มิน่าล่ะ พี่ไซถึงห่วงและหวงขนาดนี้


ปล. คุณนักเขียน maneetewa ที่รัก

อย่าค่ะ อย่าเทน้องหมา น้องแมว น้องมัง(กร) น้องนก และคนอ่านตาดำ ๆ เลย
ส่งกำลังใจให้เสมอ ๆ ๆ ๆ ๆ ชอบเรื่องนี้มาก ๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ที่แท้จุดเริ่มต้นความรักก็มาจากตอนนั้น...
คนเขียนเข้าใจคิดค่ะ ชื่อกับร่างที่แปลงเข้ากันม๊ากมาก (หัวเราะ)

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :L2:  สู้ๆ จร้า เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ  :L1:
พอได้มาอ่านในมุมของพ่อไซ ก็เข้าใจแล้วละ เขาผูกพันธ์กันมาอย่างนี้นี่เอง
แหมะชื่อเรือนคุ้นๆ เน๊าะ พ่อไซน่ารักมากอะ  :mew1:

 :pig4: ขอบคุณมากๆ สำหรับการแต่งนิยายมาให้เราอ่าน สำหรับเรานะ ถือว่าเป็น
นิยายที่สนุก มีรอยยิ้ม ตัวหนังสือที่บรรรยายออกมาทำให้เราจิตนาการตาม
เห็นภาพ สนุกร่วมไปกับตัวละคร ทำให้เรารู้สึกรักตัวละคร อยากติดตามต่อ
ว่าจะเป็นยังไงต่อ มีเรื่องให้เราลุ้น คิดตาม มโนไปก่อนอีก 555+
เนื้อเรื่องก็ผูกกันได้สุดยอดมาก ทั้งเรื่องชื่ออาณาจักร ชื่อตัวละคร แล้วโรค
ประหลาด วิธีการรักษา โอ้...เธอคิดได้อย่างไร  :m20: รายละเอียดไม่ทิ้งเลย
เราไม่รู้นะว่านิยายที่ดีที่สุดต้องเป็นยังไง แต่สำหรับเราขอแค่อ่านแล้วสนุก
ไปกับตัวหนังสือที่ผู้แต่งทุกคนแต่ง ทำให้เราอยาก ติดตาม ลุ้นว่าจะเป็นไงต่อ
มียิ้มตาม ร้องไห้ตาม หัวเราะจนลั่นได้ มีความสุข ทุกครั้งที่ได้อ่าน
บางเรื่องก็อ่านซ้ำๆ ได้ไม่มีเบื่อ  :katai3:
แหมะพล่ามซะยาวเลย เก็บกดไรป่าวหว่า  ไม่มีไรหรอกแค่อยากเป็น
อีกหนึ่งกำลังใจ และหนึ่งแฟนคลับน้องหิน อิอิ  :L1:

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ที่แท้ไซเลอร์นั่นเอง ถึงว่าทำไมทำหน้าเศร้าตอนแปลงร่างแบบเพื่อน
แต่แหมพี่แกเล่นผูกจิต จับจองขนาดนี้ 55555
ถ้าน้องไม่เป็นผู้ถูกเลือกก็ไม่ได้เจอกันนะสิ หรือพี่แกรู้ว่าน้องถูกเลือก(?)
รอติดตามตอนต่อไปค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-07-2017 20:12:32 โดย badbadsumaru »

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 o13 ขอใหักำลังใจคุณนักเขียน maneetewa  และขอบคุณมากครับสำหรับนิยายคุณภาพ.  o13


 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
โห ก้อนดินถูกจองตัวมาตั้งนานแล้วนี่เอง นึกถึงตอนที่ไซเลอร์ต้องกลับแล้วสงสารก้อนดินอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
รักจริงหวังแต่งมากเลย ไซเลอร์ถึงขนาดผูกจิตไว้ ทำเรือนวสุธาไว้รอ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะเจอกันอีกมั้ย สุดๆอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไซเลอร์ ผูกจิตกับก้อนดินนี่เอง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ก้อนดินสลบเลย ก้อนหินร้องไห้ เป็นห่วงก้อนดินมากเลยสินะ
ก้อนดินจิตใจดีงามมากๆเลย
อยู่ที่นี่ไม่มีใครที่ร้ายๆ มาทำร้ายก้อนดินเหมือนตอนอยู่บ้านไฟ

คุณหญิงแม่ไฟ ก็ร้ายกาจนะ  ผู้ใหญ่ใจร้าย
เกลียดก้อนดิน ทุบตีเด็กแบบไม่มีเหตุผล
คุณหญิงก็เหมือนพวกติดยา ใจร้ายรังแก คน สัตว์
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
นี่คงไม่ใช่ภารกิจที่ต้องกลับมาหรอกนะ ก้อนดินจะบินได้หรา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Ryu7801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ดีใจที่มาต่อ รออ่านอยู่นะ :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาให้กำลังใจ

เรื่องสนุกมากๆ


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จุดเริ่มต้นของความร้ากกก

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
 :monkeysad: ตอนรู้ว่าวสุหายไปดินต้องเสียใจมากแน่เลย ฮรือออ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อื้อหือ มีที่มาาาาที่แท้นางจองของนางไว้นานล่ะ

ขอบคุณ คนสวย ที่ไม่สวยที่ไม่เทเด็ก ๆ น้าาา

รออ่านเสมอจ้า ไฟท์ Y

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด