รุ่งเช้า หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว พรีซาก็ถอนเขตแดนป้องกันออก เพื่อจะได้ให้สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ผ่านเข้าออกได้ตามปกติ
หลังจากเก็บของเสร็จ เราก็เริ่มเดินทางต่อได้ทันที เพราะอาการของผมเป็นปกติดีแล้ว
ระหว่างเดินทางกัน ทุกคนมีอาการระแวดระวังกันมาก ผมนี่เกร็งจนตะคริวจะกิน ตามองรอบตัวจนแทบจะกลอกตาได้ครบ 360 องศา รู้สึกเคร่งเครียดจนเหมือนไมเกรนจะกำเริบ ลุ้นมันแทบทุกย่างก้าว แม้แต่ก้อนหินที่ผมอุ้มไว้ยังตื่นตัวตลอดเวลาเหมือนกัน
เราเดินทางไปต่อไปเรื่อยๆ จนผมรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวเริ่มอึมครึมลง บ่งบอกว่าถึงเวลาใกล้มืดแล้ว พรีซาก็ส่งสัญญาณให้เราหยุด ผมหยุดตามอย่างงงๆ จะว่าถึงจุดหมายก็ไม่น่าจะใช่ เพราะบริเวณรอบๆ ตัวเรามีแต่ต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นไม่ต่างจากที่เราผ่านมาสักนิด ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเจอถ้ำสักถ้ำเลย
พรีซาแหงนหน้ามองขึ้นไปบนต้นไม้ต้นหนึ่ง ผมแหงนขึ้นไปมองตามก็เห็นนกฮูกตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ จ้องมองมาที่เราตาแป๋ว
นะ... น่ารักจังเลย เห็นแล้วอยากเลี้ยงชะมัด!
“ก๊าส” ก้อนหินมันร้องขึ้นมาขัดความคิดของผม ก่อนที่มันจะแหงนหน้าเอาหัวกระแทกกับตัวผมเบาๆ พอก้มลงไปมองมันก็พ่นลมอย่างเคืองๆ เหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
โธ่เอ๊ย! ลูกมังกรขี้อิจฉา!
ผมยิ้มด้วยความรู้สึกขำและเอ็นดู อดไม่ได้ที่จะจับมันหันเข้าหาตัวแล้วกอดแน่นๆ ก่อนที่จะกระซิบบอกมันเบาๆ
“รักก้อนหินที่สุด”
“ก๊าส” มันร้องอย่างพอใจ แล้วให้หัวถูอ้อนๆ
“แฮ่ม!” เสียงกระแอมจากไซเลอร์ทำให้ผมแทบจะกลอกตา นอกจากตัวลูกจะขี้อิจฉาแล้ว ตัวพ่อมันก็ดูจะขี้หวงไม่แพ้กัน
เพลียใจจริงๆ
“หึๆๆๆๆ” ส่วนเพื่อนๆ พ่อมันก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมอย่างเหนียวแน่น ถ้าไม่ได้ล้อไม่ได้แซวสักวันพี่ๆ แกคงจะนอนไม่หลับ เอาที่สบายใจกันเลยครับ
“พรีซา” เสียงเรียกหนักๆ ของไซเลอร์ ทำให้พรีซายักไหล่ด้วยท่าทางกวนประสาท ก่อนจะหยิบหยกที่รับมาจากองค์ราชาฟอลคอนแห่งรุคออกมาจากอกเสื้อ
พรีซาจับเชือกที่ร้อยหยกไว้แล้วปล่อยให้ตัวหยกห้อยลงมา แล้วหลับตาลงเหมือนกำลังรวบรวมสมาธิ สักพักหยกก็เริ่มเรืองแสงสีทองออกมาจนสว่างเจิดจ้า ก่อนที่จะก็มีนกขนสีขาวบริสุทธิ์บินออกมาจากหยก ตอนแรกที่ออกมาตัวมันเล็กแค่นิดเดียว สักพักขนาดของมันก็ขยายขึ้นเรื่อยๆ จนตัวเท่าห่านหรือหงส์ตัวเต็มวัยตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ผมได้แต่มองด้วยความทึ่ง โลกนี้นี่มีเรื่องให้ประหลาดใจได้ตลอดจริงๆ
นกสีขาวบินไปหานกฮูกที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้แล้วส่งเสียงร้องกังวานใส นกฮูกตัวนั้นร้องรับ ก่อนที่จะขยับตัวและออกบินนำไป นกสีขาวตัวนั้นโฉบลงมาที่เราแล้วร้องเหมือนจะเรียกก่อนบินตามนกฮูกไป
“ตามไป” พรีซาที่ลืมตาขึ้นมาแล้วเก็บหยกไว้เหมือนเดิม
พวกเราเร่งฝีเท้าตามนกทั้งคู่ไป ไม่ต้องกลัวว่าจะคลาดกันเลย เพราะนกสีขาวตัวนั้นปล่อยละอองสีรุ้งไว้ตามทางที่มันบินผ่านเป็นทาง ก้อนหินยื่นมือไปรับละอองที่โปรยปรายมา แต่เหมือนมันเป็นแค่ภาพลวงตา เพราะพอถึงมือมันก็จางหายไป
เดินมาได้ไม่นานพวกมันสองตัวก็หยุด แล้วนกฮูกก็ร้องแล้วบินกลับไปทางเดิม ส่วนนกสีขาวตัวนั้นก็บินวนๆ โปรยละอองสีรุ้งอยู่สักพักก่อนที่ภาพป่าตรงหน้าจะเปลี่ยนไปกลายเป็นถ้ำหินขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาแทน
เมื่อถ้ำปรากฏแล้วพรีซาก็หยิบหยกออกมา นกตัวนั้นก็บินกลับเข้าไปในหยกเหมือนเดิม เราทั้งหมดเดินตรงไปที่หน้าปากถ้ำซึ่งมีคนที่ยืนเฝ้าถ้ำอยู่สี่คน ยืนเว้นระยะห่างกันอยู่คนละฝั่งของปากถ้ำ แบ่งเป็นฝั่งละสองคน เมื่อเดินเข้าไป หนึ่งในผู้ที่เฝ้าถ้ำก็ก้าวออกมาต้อนรับ เขาโค้งให้อย่างนุ่มนวล ซึ่งพวกเราต่างก็โค้งรับกันอย่างสุภาพเช่นกัน
“ยินดีต้อนรับทุกท่าน ข้าชื่อพีเจียน รับหน้าที่นำทางพวกท่านตามคำสั่งขององค์ราชาที่ส่งสาร์นมาแจ้งให้ทราบแล้วว่าพวกท่านจะมาเยือน เชิญด้านนี้ครับ” เขาผายมือไปยังปากถ้ำก่อนจะเดินนำไป
เราทั้งแปด (นับก้อนหินด้วย) เดินตามไปเงียบๆ เมื่อเดินผ่านปากถ้ำคนที่เฝ้าถ้ำที่เหลือก็โค้งคำนับให้ เราคำนับตอบก่อนจะเดินตามท่านพีเจียนเข้าไปต่อ
ทางเข้าถ้ำกว้างเพียงพอแค่ให้คนสองคนเดินเท่านั้น เราจึงเดินตามกันไปเป็นคู่ๆ มีพรีซาเดินนำหน้าคู่กับท่านพีเจียน ตามด้วยผมกับไซเลอร์ มีร็อตกับพินช์เชอร์ตามมา ปิดท้ายด้วยชเนาเซอร์กับมาสทิฟฟ์
ระหว่างทางมีคบไฟจุดให้แสงสว่างเป็นระยะ ดูแล้วน่าจะเป็นไฟเวทย์ เพราะมีแค่แสงสว่าง แต่ไม่ทำให้ร้อนเหมือนไฟปกติ ตั้งแต่ปากถ้ำเข้ามาอุณหภูมิในถ้ำออกเย็นๆ ชื้นๆ เส้นทางที่เราผ่านมามีทางแยกไปอีกหลายแยก มีสองแยกบ้าง สามแยกบ้าง บางจุดมีถึงสี่แยก นี่ถ้ามาคนเดียวไม่มีคนนำทางนี่ได้หลงตายอยู่ในนี้แน่ๆ
ท่านพีเจียนนำเราเดินไปเรื่อยๆ คะเนดูระยะทางน่าจะเป็นระยะทางกิโลกว่าได้ เส้นทางที่แคบถึงจะค่อยๆ ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงจุดที่เป็นห้องเหมือนโถงกว้างๆ ห้องหนึ่ง ท่านพีเจียนนำหยกในอกเสื้อของท่านออกมาร่ายเวทย์เบาๆ กำแพงใสที่กั้นทางเข้าห้องก็กระเพื่อมขึ้นแล้วหายวับไป
เมื่อเดินเข้าไปในห้อง ผมสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่กำลังอุ่นสบาย ผมมองรอบๆ ถ้ำด้วยความอึ้ง บริเวณผนังของถ้ำ จะมีช่องกว้างประมาณ 2 ตารางฟุต เรียงรายตั้งแต่พื้นถ้ำขึ้นจนสูงไม่เกินศีรษะ เว้นระยะกันจุดละประมาณ 1 เมตร ในช่องจะมีไข่ขนาดประมาณ 6 นิ้ววางอยู่ด้านใน บางช่องมีแค่ฟองเดียว บางช่องมีสองฟอง ดูจากสายตาแล้วน่าจะมีเป็นร้อยๆ ช่อง แต่ที่มีไข่อยู่จริงๆ มีเพียงไม่กี่สิบช่องเท่านั้น
ท่านพีเจียนเดินนำไปทางขวามือของเรา แล้วไปหยุดลงที่ช่องเก็บไข่ช่องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับพื้น ด้านในช่องนั้นมีไข่วางอยู่ 2 ฟอง ฟองหนึ่งเปลือกสีขาวบริสุทธิ์จนแทบจะเรืองแสงออกมา
อ้อ... ลืมไป ไขหงส์ฟินซ์ที่มีชีวิตมันเรืองแสงได้นี่หว่า
ไข่สีขาวฟองนี้ตั้งอยู่บนขนนกสีขาวดูนุ่มๆ รองเป็นฐาน ส่วนอีกฟองเปลือกเป็นสีเทาเข้มขนาดเล็กกว่าฟองสีขาวเล็กน้อย ตั้งอยู่บนพื้นหินเปล่าๆ
จากที่ฟังมา ไข่สีขาวคือไข่ที่มีตัวอ่อนของนกหงส์ฟินซ์อยู่ภายใน ส่วนไข่สีเทาจะเป็นไข่ที่ไม่มีตัวอ่อน ด้านในจะมีแค่ไข่ขาวไว้สำหรับเป็นอาหารให้ลูกนกที่จะฟักออกมาเท่านั้น ซึ่งไข่ที่ออกมาก็ใช่ว่าจะมีไข่แฝดทุกอัน มีเพียงสายหลักของตระกูลฟินซ์เท่านั้นที่จะมีไข่แฝดออกมาด้วย
ตอนแรกลุงเซเรสอธิบายรายละเอียดไว้เท่านี้ ผมเพิ่งมารู้ในภายหลังจากไซเลอร์และคนอื่นๆ ว่าไข่ในถ้ำแห่งนี้หลังจากถึงเวลาที่กำหนดก็จะฟักออกมาเป็นลูกนก ทางตระกูลเจ้าของไข่ก็จะมารับลูกนกไปเลี้ยงดู เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด ลูกนกเหล่านี้ถึงจะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ ไม่เหมือนกับตระกูลอื่นๆ ที่ตอนคลอดออกมาตอนแรกจะเป็นมนุษย์แล้วจึงแปลงร่างเป็นนกได้ในภายหลัง
กว่าเราจะได้รับอนุญาตให้ใช้ไข่สีเทาใบนี้ได้ องค์ราชาแห่งรุคต้องเรียกประชุมผู้นำสำคัญของตระกูลฟินซ์เพื่อขอความสมัครใจของตระกูลเจ้าของไข่แฝดก่อน เพราะต้องได้รับอนุญาตจากผู้นำตระกูลเท่านั้น ถึงจะสามารถนำหยกสัญลักษณ์ของตระกูลมาเปิดช่องเก็บไข่ได้
ท่านพีเจียนรับหยกที่พรีซาส่งให้ แล้วนำไปวางที่ด้านบนของช่องซึ่งมีรอยตราตามรูปหยกประทับอยู่ เมื่อเอาหยกวางลงไปในช่องแล้วกำแพงใสๆ ที่กั้นอยู่เหมือนกับตรงทางเข้าห้องนี้ก็หายไป ท่านพีเจียนนำผ้านุ่มๆ จากอกเสื้อเข้าไปหยิบเอาไข่สีเทาออกมาจากช่องนำไปวางที่ช่องว่างข้างๆ ให้ ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วถอยออกมา
“เชิญครับ”
ผมค้อมศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการขอบคุณ ก่อนที่จะส่งก้อนหินไปให้ไซเลอร์ แล้วขยับเข้าไปนั่งลงหน้าช่องเก็บไข่ สาเหตุที่ต้องใส่ไว้ในช่องตามเดิม เพราะอุณหภูมิในช่องนั้นจะอุ่นกว่าอุณหภูมิภายนอก ซึ่งอุณหภูมิด้านในเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับฟักและเก็บไข่ได้พอดี ถ้านำออกมาอาจจะทำให้ไข่เสียหรือเน่าได้
พินช์เชอร์ขยับมานั่งลงข้างๆ ผม ก่อนที่เราจะช่วยกันนำอุปกรณ์ที่เตรียมมาออกมาวางไว้เพื่อเตรียมพร้อมในการสกัดตัวยาจากไข่
ผมหยิบอุปกรณ์ที่เตรียมไว้มาประกอบเป็นฐาน เพื่อยกไข่ขึ้นไปตั้งไว้ ก่อนที่จะนำถ้วยไปวางไว้ด้านล่างของฐานที่ขยายกางด้านล่างออก ใช้ไม้ที่เหลาเหมือนตะเกียบแต่เหลาให้ปลายแหลมมากๆ ค่อยๆ เจาะด้านล่างของเปลือกไข่ที่อยู่บนฐาน ปล่อยให้ไข่ขาวด้านในค่อยๆ ไหลลงมาในถ้วย
ระหว่างที่รอไข่ไหลลงมา ผมก็ส่งไม้ให้พินช์เชอร์ถือไว้ ส่วนผมก็หยิบตัวยาที่บดเป็นผงเตรียมไว้มาโรยลงไปในถ้วย แล้วให้พินช์เชอร์ใช้ไม้คนให้เข้ากันต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ช่วงนี้จะพักไม่ได้ไม่งั้นตัวยาจะแข็งตัวก่อนที่จะผสมกันได้สม่ำเสมอ แต่เนื่องจากช่องมันค่อนข้างแคบทำให้หัวเราโขกกันเป็นระยะ
อื้อหือ... พินช์เชอร์หัวแข็งใช้ได้เลย คิดว่าน้องก็คงจะรู้สึกไม่ต่างกัน เพราะระหว่างที่คนยามือเป็นระวิงน้องก็หน้าเหยเกเมื่อหัวของเราโขกกันหลายรอบขึ้น เสร็จงานนี้เราสองคนคงมีหัวปูดกันมั่งละ
เมื่อไข่หยดสุดท้ายหยดลงสู่ถ้วย ผมก็โรยผงยาหมดพอดี ผมขอไม้จากพินช์เชอร์แล้วมาตีเร็วๆ เหมือนตีไข่ก่อนจะเจียว เพื่อให้ตัวยาเข้ากันดีๆ เมื่อแน่ใจว่าน่าจะผสมกันดีแล้วก็วางไข่ไว้ในช่องเหมือนเดิมเพื่อปล่อยให้มันแข็งตัว เพราะในตัวยาที่ใส่ไปมีส่วนผสมของสารที่ทำให้ตัวยาแข็งตัวอยู่
ผมหันออกมาเพื่อจะเตรียมอุปกรณ์สำหรับบดยา แต่พอเห็นสายตาของคนอื่นๆ ที่จ้องเขม็งมาก็เกือบสะดุ้ง
ขวัญเอ๊ย! ขวัญมา! ตกใจหมด! จ้องกันขนาดนี้ไม่สิงกันเลยค่ะ แหม่!
เมื่อครู่มัวแต่มีสมาธิในการสกัดยาเลยไม่ได้สนใจ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคนอื่นๆ มานั่งมายืนล้อมวงดูกันอย่างสนอกสนใจแบบนี้ พอทุกคนเห็นท่าทางของผมก็พากันกลั้นหัวเราะแล้วกระแอมไอกันแทน สงสัยจะกลัวผมเสียสมาธิ ผมได้แต่หรี่ตามองก่อนจะส่ายหัวแล้วหันไปเตรียมอุปกรณ์บดยาต่อ
ครกบดยาหลอมมาจากแร่ธาตุที่แข็งแรงและทนทานแต่น้ำหนักเบาอย่างไม่น่าเชื่อ ตำให้หนักแค่ไหนก็ไม่แตก เห็นแล้วอยากจะได้กลับไปฝากป้าๆ ในครัวตำส้มตำจริงๆ
เดี๋ยวๆ ดิน กลับมาที่เรื่องยาก่อน
แต่ตัวสากบดนี่แหละที่มีน้ำหนักหน่อย เพื่อให้เป็นการทุ่นแรงในการตำ ตอนหล่อช่างถึงได้ใส่ปูนลงไปที่ก้นด้านในของสากก่อนขึ้นรูปเพื่อให้มีน้ำหนักมากขึ้นด้วย
ผมเอาน้ำยาที่เตรียมไว้มาเช็ดอุปกรณ์เพื่อป้องกันการปนเปื้อน พอเตรียมอุปกรณ์เสร็จ ไข่ที่อยู่ในช่องก็แข็งพอดี ตอนนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเสียแล้ว สามารถยกออกมาจากช่องได้
ผมนำมีดที่เตรียมไว้ตัดยาที่แข็งตัวเป็นก้อนเป็นชิ้นๆ เท่าๆ กัน ก่อนจะขอให้ไซเลอร์มาช่วยบดให้ โดยให้พินช์เชอร์คีบลงใส่ครกทีละนิด ไซเลอร์ส่งต่อก้อนหินไว้ที่ร็อตแล้วขยับมาบดยาให้ผม
ระหว่างที่ไซเลอร์บดยา ผมก็นำผงยาอีกตัวค่อยๆ เทลงไป เมื่อตัวยาละเอียดพอก็บอกให้ไซเลอร์หยุด ก่อนที่จะใช้ช้อนตักใส่กระปุกสำหรับเก็บตัวยาแบบผงโดยเฉพาะ เราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนยาในถ้วยหมด ผมใช้ผ้าเคลือบสารกันชื้นปิดปากกระปุกแล้วเอาฝาปิดลงไปให้แน่น เป็นอันเสร็จขั้นตอนในการสกัดไข่
เมื่อผมปิดฝาแล้วนำกระปุกยาเก็บเรียบร้อยแล้ว ทุกๆ คนต่างถอนหายใจเฮือกออกมาพร้อมกัน ก่อนที่จะชะงักมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะลั่นออกมา
“ฮ่าๆๆๆๆ”
ผมก็พลอยหัวเราะไปด้วย ภารกิจเสร็จไปอีกหนึ่งอย่าง ส่วนผสมที่ได้มายากเย็นเสร็จซะที ที่เหลือก็แค่เดินทางกลับอาณาจักรเคลเบรอส เพื่อปรุงยาถอนพิษรักให้ควีนก็เป็นอันเรียบร้อย! ผมคิดอย่างมุ่งมั่น
“ก๊าส” ก้อนหินร้องขัดความมุ่งมั่นผม มันดิ้นเพื่อให้ร็อตคลายอ้อมกอดลงก่อนที่มันจะปีนลงจากตักร็อต แล้วโผเข้ามากอดผม ผมได้แต่หัวเราะแล้วลูบหัวมันด้วยความเอ็นดู แค่ห่างกันแป๊บเดียวเองนะหิน ขี้อ้อนจริงๆ! เลยจับมันฟัดด้วยความมันเขี้ยวทันที
หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว ท่านพีเจียนก็นำทางเรากลับมาทางเดิม เมื่อใกล้จะถึงทางออก ก็พาเดินไปยังห้องห้องหนึ่งซึ่งมีโต๊ะอาหารตั้งอยู่
“เชิญทุกท่านรับประทานอาหารกันก่อน หลังรับประทานเรียบร้อยแล้วข้าจะพาไปยังห้องที่องค์ราชาทรงให้เตรียมไว้ให้พวกท่านได้พักผ่อน เพื่อความปลอดภัยพรุ่งนี้เช้าค่อยออกเดินทางต่อดีกว่าครับ”
“ขอบคุณครับ” เราโค้งขอบคุณก่อนจะขยับเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ ซึ่งมีอาหารง่ายๆ อย่างเนื้อสัตว์และผลไม้ป่าตั้งอยู่
หลังจากรับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ท่านพีเจียนก็พาเดินออกจากห้องอาหารไปยังห้องนอนซึ่งมีฟูกหนาๆ ปูเรียงไว้ครบตามจำนวนคนของเรา
“เชิญพวกท่านพักผ่อนได้ตามสบาย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าข้าจะเข้ามารับออกไปนะครับ ราตรีสวัสดิ์” ท่านพีเจียนบอกก่อนจะเดินกลับออกไป
หลังจากท่านพีเจียนไปแล้วเราก็เดินสำรวจห้อง ซึ่งเป็นแค่ห้องโล่งๆ ห้องหนึ่ง เรื่องจะอาบน้ำนี่เลิกคิดไปได้เลย เพราะดูแล้วไม่มีวี่แววแหล่งน้ำสักนิด อากาศภายในห้องกำลังดี ไม่เย็นและไม่ร้อนจนเกินไป
ไซเลอร์ให้ผมนอนตรงฟูกกลาง มีไซเลอร์กับพินช์เชอร์ขนาบคนละข้าง พี่ๆ แกตกลงเรื่องเวรยามกัน แม้ดูแล้วที่นี่น่าจะมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ทุกคนก็ไม่ประมาท
ทุกคนสั่งให้ผมกับพินช์เชอร์นอนไปก่อน แม้ผมจะบอกว่าผมช่วยเฝ้ายามไหวก็ไม่มีใครยอม บอกให้พักผ่อนไป ผมเลยวางสัมภาระไว้ใกล้ๆ ฟูก ก่อนจะนั่งลงแล้วทิ้งตัวลงบนที่นอน จับก้อนหินที่เริ่มตาปรือๆ มากอดไว้ สบตากับพินช์เชอร์ที่นอนอยู่ด้านซ้ายมือของผม
“ฝันดีนะพินช์เชอร์” ส่วนคนอื่นๆ ก็ปล่อยให้คุยกันต่อไป
“ฝันดีครับพี่ดิน” ผมยิ้มให้พินช์เชอร์ก่อนจะหลับตาลง
หลังจากพักผ่อนได้เพียงพอ ผมก็ตื่นขึ้นมาตามเวลาของนาฬิกาชีวิต เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เห็นร็อตกำลังปลุกพินช์เชอร์อยู่พอดี ผมแอบยิ้ม ทำเป็นไม่เห็นสายตาอ่อนโยนที่ร็อตใช้มองน้อง ล้อเยอะไปคงไม่ดี เดี๋ยวจะไม่มีความคืบหน้า หึๆๆๆ
พอทุกคนตื่นกันครบแล้ว ท่านพีเจียนก็เข้ามานำทางพวกเราไปยังห้องอาหารห้องเดิม หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ท่านพีเจียนก็นำทางออกมาจากถ้ำ เมื่อเดินมาถึงปากถ้ำเราทุกคนก็โค้งขอบคุณท่านอย่างเรียบร้อยที่สุด
“ขอบคุณมากท่านพีเจียน”
“ขอบคุณนะครับท่านพีเจียน”
“ด้วยความยินดี เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว อีกอย่างได้เห็นวิธีการสกัดไข่เพื่อรักษาพิษรักในตำนานนี่ถือเป็นบุญตาข้ามาก” ท่านพีเจียนหันมายิ้มให้และมองอย่างชื่นชม จนผมอดจะเขินไม่ได้
“แฮ่ม” แหม่... นี่ก็ช่างขัดจริงๆ ชาติที่แล้วเกิดเป็นฝอยขัดหม้อรึไง ผมเหลือบมองไซเลอร์ด้วยความเพลีย
“หึๆๆ เช่นนั้นข้าขออวยพรให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ”
“ขอบคุณครับ” เราทั้งหมดโค้งให้ท่านพีเจียนและคนที่เฝ้าหน้าปากถ้ำคนอื่นๆ อีกครั้ง ก่อนจะเดินห่างมาจากถ้ำเรื่อยๆ
ผมหันไปมองท่านพีเจียนที่อยู่ไกลๆ อีกครั้ง ก่อนที่ภาพถ้ำด้านหลังจะหายวับไป กลายเป็นภาพต้นไม้น้อยใหญ่ปรากฏขึ้นมาแทน เมื่อหันกลับมาก็เห็นไซเลอร์มองมาด้วยสายตาอ่อนโยน
“กลับบ้านกันเถอะ”
“ครับ กลับบ้านเรากันเถอะ”
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
เห็ดพร้อมมมมมมมมม ไข่พร้อมมมมมมมมมม เจียวได้ค่ะ เอร๊ยยยยย 
กลับมาแล้วค่า หลังจากตันมาเนิ่นนาน ถถถ 
พอดีช่วงนี้อีไม่เว้นเยอะ งานก็เข้าเป็นยะละ เอ๊ย! ยะระ เอ๊ย! ละยะ เอ๊ย! ระยะ เอ๊ย! ถูกแล้ว แหม่! 
ก็เลยทำให้บันเทิงไม่ค่อยออกค่ะ แง่มมมมมม
อีกไม่กี่ตอนก็จบละ - อันนี้ปลอบใจตัวเอง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ #suikajang

รีบค่ะ แต่จินตนาการมันไม่รีบตามด้วยยย ฮอลลลล ตันเป็นระยะค่ะ แต่ว่ามาแล้ววววววววว ส่วนคุณไฟอีกสักพักกกกกกกกกกก เดี๋ยวพาไปเยี่ยมค่ะ

#mild-dy

#Yara คนที่นี่ชอบแกล้งกันทุกกกกคนค่ะ แม้แต่กับเพื่อนก็ไม่เว้น

#♥►MAGNOLIA◄♥ สมควรให้ไซเลอร์เตะเรียงตัวค่ะ

บอกแล้วว่าพี่ไซแกหนักแน่นเสมอออออออ ร๊ากกกหินเหมือนกันค่า
#duck-ya หินหวงดินหนักม๊ากกกกก คาดว่าจะขัดแม้ว่าจะโตแค่ไหนก็ตาม

#alternative สำลักน้ำตาลตายกันไปข้างเลยค่ะ

#ommanymontra

#เก้าแต้ม เอร๊ยยยย นั่นสิคะ จะได้หวานกันซะที
#Billie

#badbadsumaru หินหลับค่ะ ไม่งั้นอย่าหวังจะได้แตะ

#KARMI

นอกจากไซเลอร์ฆ่าแล้ว อาจโดนก้อนหินงับหัวด้วยค่ะ
#MayA@TK เอาเพื่อนๆ ไปเก็บบบบบบ

#•♀NoM!_KunG♀• เอร๊ยยย ขอบคุณค่า ชมเค้าใช่ไหม

#shoi_toei อยากให้จบมากกกกกค่า แต่เคลียร์ยังไม่หมด

#HISY วงวารพี่ไซ มีแต่ตัวขัด

#prangasia มันจะดีนะ

#sinyou ส่งก้อนหินให้

#aiyuki แวะมาดู้ววววเลยค่า

#cookie_

กอดดดดแม่ยกทุกคนนนนนนนนน

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ

คลานต่อ
