ห า กั น จ น เ จ อ // ตีพิมพ์กับสนพ.เฮอร์มิทค่ะ [4.10.61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ห า กั น จ น เ จ อ // ตีพิมพ์กับสนพ.เฮอร์มิทค่ะ [4.10.61]  (อ่าน 194251 ครั้ง)

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 12 [18/07/17] P.5
«ตอบ #150 เมื่อ19-07-2017 21:34:38 »

รณ น่ารักกหห ดีนนี้ชักเนียนเก่งละ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 12 [18/07/17] P.5
«ตอบ #151 เมื่อ19-07-2017 23:39:49 »

ลืมไปแล้วว่าติดเรื่องนี้ >< ดีใจที่มาต่อค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 12 [18/07/17] P.5
«ตอบ #152 เมื่อ20-07-2017 19:18:57 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 12 [18/07/17] P.5
«ตอบ #153 เมื่อ20-07-2017 21:22:32 »

 :o8: :-[

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 12 [18/07/17] P.5
«ตอบ #154 เมื่อ16-08-2017 15:26:57 »

 :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #155 เมื่อ16-08-2017 19:28:25 »


ห า กั น จ น เ จ อ



ตอนที่ #13
   
   






หลายวันมานี้สภาพพนักงานในบริษัทไม่ต่างจากซากศพเดินได้นัก ชั่วโมงงานที่เกินเวลาทำการไปเยอะถึงสามคืนแล้วคือหลักฐานชั้นดีของการพิจารณาเพิ่มเงินพิเศษให้ในสิ้นเดือนนี้ ไม่ใช่แค่ทุ่มเวลาให้กับงานเพียงอย่างเดียว แต่ผลงานก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจด้วย ช่วงสายของวันนี้ต้นฉบับเข้าโรงพิมพ์ของบริษัทไปเรียบร้อยแล้ว หลังมื้อกลางวันนี้ดีนก็คงได้รับรูปเล่มตัวอย่างมาดูก่อนจะอนุมัติพิมพ์รวดเดียวหลายพันเล่มเพื่อให้ทันส่งในสุดสัปดาห์นี้พร้อมกับมีปาร์ตี้เล็ก ๆ ฉลองการปิดเล่มประจำเดือนด้วย

   
โต๊ะอาหารสำหรับผู้บริหารในห้องกระจกใสเป็นที่แปลกตาของพนักงานในบริษัทมาหลายวันแล้ว ปกติจะเห็นบรรณาธิการหนุ่มรูปหล่อนั่งทานอาหารกับหัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษรแค่สองคน แต่ช่วงนี้มักจะเห็นท่านประธานมาร่วมโต๊ะด้วยแทบทุกวัน ทั้งที่ปกติเห็นควงกันออกไปข้างนอกกับแฟนสาวหัวหน้าแผนกคอลัมน์

   
เสียงซุบซิบนินทาเดากันไปต่าง ๆ นานาดังเข้าหูรณณ์ที่นั่งทานอาหารร่วมโต๊ะอยู่กับทศและรุ่นพี่อีกหลายคนในแผนกไม่ไกลจากห้องกระจกนั่นนัก บ่อยครั้งที่อดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองคนที่อยู่ในสถานะ ‘กำลังพัฒนา’ ซึ่งนั่งหันหน้ามาด้านนอกและทำให้สบตากันบ่อยครั้งด้วยเช่นกัน

   
“ท่านประธานกับพี่ดาวเลิกกันแล้วจริงเหรอวะพี่” ใครสักคนบนโต๊ะอาหารถามทศขึ้นมาหลังจากที่เก็บข้อมูลจากการฟังสาว ๆ โต๊ะข้างหลังคุยกันมานาน

   
“ไม่รู้เว้ย เรื่องของนาย”

   
“แล้วที่เขาว่าเลิกกับพี่ดาวแล้วมาคบคุณผิง”

   
“เห้ย! ใช่เหรอวะ แล้วคุณดีนอ่ะ?”

   
ชื่อของคนถูกพาดพิงทำเอานักศึกษาฝึกงานสำลักน้ำซุบที่กำลังซดเงียบ ๆ ระหว่างแอบฟังบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร

   
ทศยื่นกระดาษทิชชูให้ รณณ์พึมพำขอบคุณพลางสนใจฟังต่อไปด้วย


“บอกออาจจะเป็นพ่อสื่อให้ก็ได้นะ อย่าลืมสิว่าบอกอแสดงออกชัดขนาดนั้นว่าไม่ชอบพี่ดาว”


“อยากรู้กันมากนักก็เดินเข้าไปถามเลยสิวะ สามตัวละครนั่งอยู่ในห้องนั้นไง ถามเสร็จแล้วก็กลับขึ้นไปเก็บของให้เรียบร้อยด้วยล่ะ อย่าให้ท่านประธานต้องเอ่ยปากไล่” ทศพูดขึ้นเรียบ ๆ ติดรำคาญก่อนจะชักชวนรณณ์ให้ลุกออกไปเก็บจานด้วยกัน


เด็กหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย นันย์ตาใสทอดมองไปยังคนทั้งสามที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาก่อนจะหยุดสายตาไว้ที่บรรณาธิการหนุ่ม ยกยิ้มบาง ๆ ให้ในยามที่สบตากันในเสี้ยววินาทีโดยที่ไม่อาจรับรู้ได้ว่าภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวชวนปวดหัวมากแค่ไหน

.

.

.

“จะเห็นแก่ตัวไปถึงไหน” ดีนกล่าวตำหนิพี่ชาย เขาเป็นคนเดียวที่นั่งในฝั่งที่หันหน้าออกนอกห้องกระจกใส ด้วยสีหน้าเรียบเฉยเป็นปกติอยู่แล้วจึงไม่เป็นจุดผิดสังเกตมากนัก พนักงานภายนอกที่แอบมองเข้ามาที่พวกเขาเป็นระยะ จึงไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าสิ่งที่พวกเขาคุยกันไม่ใช่เรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป


“ไอทำอะไร?”


“จะต้องให้สาธยายเรื่องที่ยูทำทั้งหมดตอนนี้ไหม”


“ดีน…” ผิงเรียก ส่งสายตาบอกให้หยุดแค่ตรงนี้ แต่ดีนไม่สนใจ เขาตั้งใจแล้วว่าอย่างไรเสียวันนี้ก็จะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เพื่อนสาวของเธอตกเป็นขี้ปากลูกน้องว่าแย่งแฟนคนอื่นมามากพอแล้ว เธออาจจะไม่ได้สนใจ แต่เขาไม่ยอมเด็ดขาด


“จะคุยกันด้วยภาษาฝรั่งเศสก็ได้นะ”


ดีนเบ้หน้าเมื่อเพื่อนสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามเตะเข้ามาที่ขาเป็นสัญญาณให้เขาหยุดพูดเรื่องนี้อีกครั้ง แม้จะเจ็บแต่ก็ไม่หลุดเสียงร้องออกมาสักนิด


“เธอจะกลับขึ้นไปก่อนก็ได้นะ”


คริสถอนหายใจหนัก ๆ ใคร ๆ อาจมองว่าดีนมีความเป็นผู้ใหญ่ แต่สำหรับเขา น้องก็ยังคงเป็นน้อง เป็นดีนที่ดื้อรั้นจะเอาคำตอบให้ได้ในทันทีที่ตั้งคำถาม “การที่ไอมากินข้าวกับยูและผิงนี่ผิดมากเลยเหรอ” เขาไม่ได้พูดภาษาฝรั่งเศสอย่างที่คนเป็นน้องเสนอ ไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องปิดบังผิง ในเมื่อเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับหญิงสาวอยู่ไม่น้อย


“ผิด” ดีนตอบกลับแทบจะในทันที “กลับไปทำตัวเหมือนเดิมซะ ถึงจะเลิกกับเธอแล้ว แต่คนอื่นเขาไม่รู้ โอเค อาจจะระแคะระคายกันแล้ว แต่การที่ยูมานั่งกินข้าวกับพวกเรา ทำตัวสนิทสนมด้วย มันทำให้พวกเขามองผิงไม่ดี เพื่อนไอกลายเป็นมือที่สามระหว่างยูกับผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว”


“แต่มันไม่ใช่ความจริง จะต้องไปสนใจทำไม” ผิงเถียงขึ้นมา


ดีนพรูลมหายใจ “ถามพี่ชายฉันสิว่าจริงรึเปล่า” จะมีเหตุผลอะไรให้ผู้ชายบอกเลิกผู้หญิงที่คบกันมานานและหมายมั่นว่าจะแต่งงานกันให้ได้จนถึงขั้นทะเลาะกับน้องชายตัวเอง ไม่มีทางเป็นเรื่องดวงที่ชินแสบอกเล่าแน่ เหตุผลเดียวที่ดีนคิดว่าสมเหตุสมผลที่สุดคือปันใจ


ผิงส่ายหน้า ไม่หันมองสบหนุ่มรุ่นพี่ข้างกาย เธอพร้อมจะแย้งแทนคริสทุกอย่างเพราะเธอรู้ดีว่าคริสไม่ได้ทำแบบที่ถูกกล่าวหา “พี่คริสไม่ได้คิดหรือทำอะไรอย่างที่นายเข้าใจนะดีน”


“แล้วเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนนั่นไม่ใช่เพราะว่าเขาทำหรอกเหรอ!”


“เกิดอะไรขึ้น?” คริสมองดีนสลับกับผิงไปมาจนมาหยุดสายตาคาดคั้นที่ผิง จะถามหาความจริงจากดีนนั้นยาก เว้นเสียแต่เจ้าตัวจะอยากเล่าออกมาเองและก็มักจะเล่าเท่าที่ต้องการ อย่างเช่นเมื่อครู่นี้


“ไม่มีอะไรค่ะ” ผิงปฏิเสธเสียงแผ่ว ลุกขึ้นยืนเตรียมจะออกไปจากตรงนี้ แต่คนที่ยังคาใจไวกว่า ชายหนุ่มคว้าข้อมือบางพร้อมกระตุกให้เจ้าของมันนั่งอยู่ก่อน “เรื่องมันผ่านไปนานแล้วค่ะพี่คริส และนายเองก็ไม่ควรจะรื้อฟื้น มันไม่มีประโยชน์อะไร” ประโยคหลังเธอหันไปบอกเพื่อนชายด้วยน้ำเสียงตำหนิ


“แต่เรื่องมันกำลังจะซ้ำรอยเดิม”


“แล้วจะให้ทำยังไง คราวนี้นายจะคบกับฉันกลบข่าวลือบ้า ๆ พวกนี้ไหมล่ะ” ผิงไม่ได้ขึ้นเสียงใส่ เธอถามดีนเสียงเรียบทว่าซ่อนความเจ็บปวดไว้มากมาย “ให้ทุกคนเข้าใจว่าที่ฉันสนิทกับพี่คริสเพราะเป็นแฟนนาย แฟนน้องชายกับพี่ชายจะสนิทกันก็คงไม่แปลก นายว่าไหมล่ะ”


“ไปกันใหญ่แล้วผิง”


ผิงส่ายหน้า ตาแดงจนเกือบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ “ไม่หรอก ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างเรายังไม่ชัดเจน คนอื่นก็จะคิดว่าฉันกับพี่คริสเป็นมากกว่าพี่น้อง”


“โอเค พี่พอเข้าใจแล้ว ผิงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ส่วนดีน เราจะคุยกันคืนนี้ที่บ้านอาม่า บ่ายนี้พี่มีประชุม ขอตัวก่อนนะ” ดีนร้องเหอะไล่หลังผู้บริหารใหญ่ เย็นนี้ที่บ้านอาม่าจัดงานวันเกิด แน่นอนว่าวงศาคณาญาติต้องมากันครบ สาเหตุของการเลิกราของหลานชายคนโตคงถูกบอกเล่าในค่ำคืนนี้


“สนใจไปงานวันเกิดอาม่าฉันไหม” ดีนถามผิงยิ้ม ๆ แต่อีกคนกลับยื่นมือมาฟาดไหล่จนรู้สึกแสบผิวแล้วก็เดินออกไปอีกคน


。。。。。


ดีนมาถึงบ้านอาม่าซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองในช่วงพลบค่ำ ชายหนุ่มทักทายพี่ ๆ น้อง ๆ และลุงป้าน้าอาไปตลอดทางตั้งแต่เหยียบย่างผ่านประตูรั้ว กว่าจะถึงตัวอาม่าที่นั่งอยู่ในบ้านได้ เขาก็ทักทายญาติไปเกือบหมดแล้ว จะขาดก็แต่คนในครอบครัวของเขาเอง ใบหน้าหล่อคมฉาบยิ้มบางเมื่อเห็นว่าทั้งเตี่ย มัม และพี่ชายของตัวเองนั่งอยู่กับอาม่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาเชื่อว่าเรื่องที่คุยค้างกันไว้เมื่อตอนกลางวันคงถูกบอกเล่าให้ทุกคนในที่นี้ทราบเรื่องแล้ว


“อาดีนหลานม่า” น้ำเสียงยานคางของผู้หญิงวัยแปดสิบพอดิบพอดีทำให้ดีนยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม ดูเหมือนทุกคนจะปรับโหมดอารมณ์ทันทีที่เขาโผล่หน้ามา ชายหนุ่มคุกเข่าคลานเข้าไปใกล้ยกมือไหว้งาม ๆ อย่างที่คนสอนเห็นแล้วยิ้มแฉ่งจนถูกลูกหลานละแวกนั้นแซว แล้วยิ่งยิ้มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อหลานชายสุดที่รักโผเข้ากอดเอวเธออย่างออดอ้อน


“หลานคนนี้นี่ใช้ไม่ล่าย เลิกอ้อนม่าแล้วไปอ้อนสาวได้แล้ว ม่าอยากมีหลานสะใภ้แล้วนา” ดีนแทบสะดุดลมหายใจตัวเองกับคำกล่าวนั้น หลานสะใภ้น่ะคิดว่าหาให้ได้แล้ว แต่อาม่าจะถูกใจรึเปล่า ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยจริง ๆ


“สุขสันต์วันเกิดครับอาม่า” ผละออกมาได้ก็รีบล้วงเอากล่องของขวัญในกระเป๋าเสื้อออกมายื่นให้อาม่าทันที ผู้หลักผู้ใหญ่มองแล้วก็อมยิ้ม เป็นอย่างนี้เสียทุกที อาม่าพูดเรื่องแต่งงานทีไรดีนเป็นหลบเลี่ยงเบี่ยงประเด็นอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครรบเร้าจะเอาคำตอบอะไรอีกเพราะต่างรู้กันว่าดีนรักอิสระขนาดไหน


ไม่มีใครอยากรู้ว่าในกล่องใบเล็กนั้นมีอะไร คล้ายจะเป็นการซื้อสัมปทานของขวัญวันเกิดอาม่าอย่างไรอย่างนั้น เพราะนอกจากดีนแล้วก็ไม่มีใครที่จะซื้อของสะสมโบราณมาให้อาม่าอีกแล้ว บ้านทั้งหลังเต็มไปด้วยตู้โชว์สมบัติพวกนั้น แรก ๆ อาม่าก็หาเอง พอดีนโตขึ้นหน่อย สองสามตู้ให้หลังมานี้ก็เต็มไปด้วยของที่เขาสรรหามาทั้งสิ้น


มัมกับคริสออกไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ ข้างนอกแล้ว เหลือแค่เตี่ยกับดีนที่ยังนั่งเป็นเพื่อนอาม่าท่านรับไหว้ลูกหลาน รอจนพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วก็พากันย้ายไปยังโต๊ะอาหารตัวใหญ่กลางบ้านที่รองรับผู้ร่วมมื้ออาหารได้เยอะถึงยี่สิบคน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่เพียงพอกับตระกูลคนจีนที่มีลูกหลานเยอะแยะ แค่รุ่นหลานก็เกินโหลครึ่งเข้าไปแล้ว เด็กหนุ่มสาวทั้งหลายจึงจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ กันตามลำพังที่สวนหน้าบ้าน


“เฮียดีน ทางนี้ ๆ” หนุ่มน้อยในชุดนักศึกษาคือลูกคนเล็กของอาอี๊โบกไม้โบกมือเรียกให้เขาเข้าไปหาด้วยความดีใจ ดีนยิ้มมุมปาก ได้ยินคำเรียกแบบนี้ก็พาลให้นึกถึงเด็กฝึกงานที่บริษัท ถ้ารณณ์ได้ยินคนเรียกเขาว่า ‘เฮียดีน’ คงไม่พ้นเป็นต้องโดนแซวว่าไม่เข้ากันสักนิดอีกอย่างแน่นอน

จะว่าไปแล้วก็คิดถึง


มือไวเท่าความคิด ดีนล้วงเอาสมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วเดินเลี้ยวไปอีกทางแทนที่จะตรงไปหาญาติผู้น้องที่ตะโกนเรียกตนอยู่


ดีนกดโทร.เบอร์ที่ช่วงนี้กดบ่อยเป็นพิเศษ รอสายไม่กี่อึดใจปลายทางก็รับก่อนกรอกเสียงสดใสมาให้หายคิดถึง


“ผมอยู่งานวันเกิดอาม่า”


เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคัก [คุณเพิ่งพูดประโยคนี้เมื่อชั่วโมงที่แล้วเองนะครับ] เมื่อชั่วโมงที่แล้วที่รณณ์หมายถึงคือตอนที่ดีนขับรถออกจากบริษัท


“ตอนนั้นแค่บอกว่าจะมา”


รณณ์ยิ้มเอ็นดูให้กับคำแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนโตกว่า  [ครับ แล้วคุณจะโทร.มาบอกแค่นี้น่ะเหรอครับ]


“เปล่า…อยากได้ยินเสียง”


[…]


“…คิดถึง”


[…]


“เอ่อ…พอดีได้ยินน้อง ๆ เรียกว่าเฮียน่ะ เลยคิดถึงคุณขึ้นมา”


[หืม?] เหมือนว่าเรื่องเล่าที่ดังขึ้นมาดื้อ ๆ ท่ามกลางเสียงเงียบจะดึงสติคนฟังกลับมาสนใจคู่สนทนาได้หลังจากที่ล่องลอยไปกับคำว่า ‘คิดถึง’ ที่ไม่คาดคิดนั้น


“คิดว่าคุณต้องล้ออีกแน่ว่าผมไม่เหมาะกับคำว่าเฮีย”


คราวนี้ปลายสายหัวเราะเต็มเสียง [ผมอยากได้ยินจัง เฮียดีน อย่างนี้เหรอครับ]


ดีนส่ายหน้ายิ้ม ๆ นับวันเด็กคนนี้จะยิ่งแกล้งเขามากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ใกล้คงมันเขี้ยวจนทนไม่ไหวต้องบีบแก้มทำโทษเป็นแน่ แต่ตอนนี้คงทำได้แค่คาดโทษด้วยคำพูดเท่านั้น “เด็กไม่ดี”


สิ้นคำตำหนิไม่จริงจังนั้นดีนก็ได้รับเสียงหัวเราะชอบใจที่หนักขึ้นกว่าเดิม ทว่าแทนที่จะนึกโกรธ เขากลับพบว่าตัวเองยิ้มกว้างเสียอย่างนั้น

.

.

.

[ฝันดีครับ]


อยากจะเย้ากลับอีกสักรอบว่านี่ยังไม่ดึกพอที่จะเข้านอนเสียหน่อย แต่รณณ์ก็พบว่าคำกล่าวปิดท้ายบทสนทนากว่าสิบนาทีในช่วงพลบค่ำก็ทำให้รู้สึกอิ่มเอมจนพร้อมเข้านอนเสียเลยจริง ๆ


รณณ์เอนกายลงนอนบนเตียงใหญ่ มองเพดานเปลือยด้วยแววตาเปี่ยมสุขราวกับมันกำลังฉายภาพของคนที่เพิ่งวางสายไป นึกย้อนไปถึงทุกถ้อยคำของอีกฝ่ายแล้วก็รู้สึกใจฟูฟ่องอย่างบอกไม่ถูก


นี่หรือเปล่าที่เรียกว่าความรัก?


ช่วงไม่กี่วันมานี้เขาค้นพบว่าตัวเองโรคจิตอยู่อย่างหนึ่ง จากที่เคยรู้สึกชอบคำว่า ‘เด็กดี’ จากปากคุณดีน แต่พอได้รับคำตำหนิว่า ‘เด็กไม่ดี’ บ่อยเข้าก็เริ่มรู้สึกว่าชอบคำนี้มากกว่าคำชมแรกเสียอีก มิหนำซ้ำยังหาเรื่องหยอกเอินอีกฝ่ายให้ได้รับคำตินั้นบ่อยขึ้นอีกเสียด้วย


นับตั้งแต่วันที่เหมือนจะยินยอมให้อีกฝ่ายจีบกลาย ๆ พวกเขาก็โทร.คุยกันบ่อยขึ้น บทสนทนาสั้นบ้างยาวบ้าง มีสาระบ้างเรื่องทั่ว ๆ ไปบ้าง และ ‘ฝ่ายจีบ’ ก็เป็นฝ่ายโทร.มาเสียทุกครั้ง เขาเคยคิดว่าคนอย่างคุณดีนจะคุยไม่เก่ง แต่เปล่าเลย ถึงแม้จะไม่ได้พูดคุยอะไรมาก แต่ก็ดูไม่ขัดหรือฝืนยามเปิดประเด็น ไม่ได้พยายามจะหาเรื่องชวนคุยอะไรขนาดนั้น แต่ทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติไปเสียหมด มิหนำซ้ำยังไม่มีถ้อยคำในเชิงเกี้ยวพากันอีกด้วย คุณดีนแค่พูดเรื่องทั่วไปเชิงบอกเล่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเท่านั้นเอง จะมีคำหวานที่สุดก็คำว่า ‘คิดถึง’ ที่หลุดออกมาให้ตกใจเมื่อต้นบทสนทนาเมื่อครู่นี้เอง


แม้จะเปิดใจแต่รณณ์ก็ยังไม่ถลำลึกในห้วงความรู้สึกที่ดีนสร้างขึ้นมามากไปกว่าการตามน้ำด้วยการแหย่กลับไปบ้างในบางครั้ง สถานะของพวกเขาตอนนี้จึงยังหยุดอยู่ที่เจ้านายและลูกน้อง เด็กหนุ่มมีความสุขกับการศึกษาคุณดีนไปเรื่อย ๆ มากกว่าที่เคยศึกษาผู้หญิงคนไหน คุณดีนไม่เคยทำให้เขารู้สึกอึดอัด ไม่งอแงให้ตามใจหรือใช้มาบังคับกันทางอ้อม คุณดีนมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอพวกนั้น เป็นที่ปรึกษาที่ดี ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเหมือนคุยกับ advisor โปรเจคจบ แต่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายใจมากกว่านั้น


นอนคิดเรื่องคุณดีนไปเพลิน ๆ จนมาสะดุดความคิดตัวเองตอนที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากโปรแกรมดังถี่รัวติดกันจนผิดปกติ รณณ์หยิบมาไล่ดูผ่าน ๆ ที่หน้าจอ จับใจความได้ว่ากลุ่มเพื่อนนัดเจอกันเย็นหลังวันงานประจำปีที่จะถูกจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ เด็กหนุ่มกดเข้าไปหน้าต่างห้องแชทก่อนพิมพ์ตอบตกลงกลับไปสั้น ๆ แล้วกดออก คิดได้ในตอนนั้นว่าคืนนี้ตนควรรีบนอนตามคำอวยพรของคุณดีน


。。。。。


ดึกดื่นค่อนคืนแล้วปาร์ตี้ของหนุ่มโสดก็ยังไม่เลิกรา ฝ่ายหลานสาวของเจ้าของวันเกิดแยกย้ายกันกลับบ้านไปหมดแล้ว เหลือก็แต่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ยังนั่งสังสรรกันต่อ ขณะที่สองพี่น้องลูกเสี้ยวพากันปลีกตัวออกไปนั่งคุยกันตามลำพังที่หลังบ้าน


พื้นที่ริมสระว่ายน้ำคือที่หมายที่คนเป็นพี่ชายเลือก  แสงสว่างเดียวที่มีตรงที่นี้คือแสงรำไรจากดวงจันทร์ในคืนที่ใกล้เต็มดวงหรือเพิ่งผ่านคืนเต็มดวงมาหนุ่มลูกเสี้ยวอย่างดีนก็ไม่แน่ใจ บรรยากาศดูโรแมนติกเกินความจำเป็น ก็พี่น้องจะคุยกันไม่จำเป็นต้องมีบรรยากาศชวนสารภาพรักอะไรแบบนี้เสียหน่อย สิ่งที่ต้องการคือแสงสว่างที่มากพอที่จะทำให้มองเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายยามสารภาพบาปเสียมากกว่า


คริสทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้ริมสระก่อนที่ดีนจะทำตาม ในมือมีเบียร์กันคนละกระป๋อง พวกเขาไม่ได้ดื่มกันเยอะ เพราะต่างก็ต้องขับรถกลับกันทั้งนั้น ท้องฟ้ามืดสนิทจนไม่เห็นแม้ดาวสักดวง แต่ถึงอย่างนั้นสองพี่น้องก็ยังจ้องมองราวกับจะค้นหามันให้เจอให้ได้ ไม่มีถ้อยคำใดระหว่างพวกเขา แม้กระทั่งจากคนที่ส่งสัญญาณให้เดินตามมา ดีนคิดว่าหากเบียร์หมดกระป๋องนี้แล้วตนจะกลับคอนโดทันที


“ทำไมถึงเลิก”


คริสกระตุมยิ้มมุมปากให้กับความใจร้อนของน้องชาย แต่สำหรับดีน เขาไม่มีทางยอมให้นี่เป็นแค่การเดินมาย้ายที่จิบเบียร์แล้วปล่อยให้มันหมดก่อนได้รู้ความจริงเป็นแน่


“ไหนว่าจะแต่งกับคนนี้ ยังไงก็จะเอาคนนี้” …ถึงขนาดทะเลาะกับไอ


ดีนละประโยคท้ายให้เป็นความเข้าใจของกันและกัน ไม่อยากจะเอ่ยถึงมันบ่อยนัก เพราะแม้เรื่องราวมันจะผ่านมาพักใหญ่แล้ว แต่ดีนก็ไม่มั่นใจว่าตนจะสามารถพูดถึงความบาดหมางครั้งนั้นได้อย่างสนิทใจ


“เคยได้ยินคำว่ารักคงยังไม่พอไหม”


“…” …ข้ออ้างของคนหมดใจน่ะหรือ?


“สำหรับคำว่าคู่ชีวิต คำว่ารักอย่างเดียวมันไม่ได้หรอกนะ”


“ก็ตอนแรกยูบอกเองว่าจะแต่งกับคนนี้ ยังไงก็ต้องเป็นเธอ แล้วอะไรคือรักอย่างเดียวไม่พอวะ” ดีนยังคงวนอยู่ที่ประเด็นเดิม ประเด็นที่คาใจเขาเสมอมาว่าความรู้สึกหรือความคิดแบบไหนกันที่ทำให้คน ๆ หนึ่งตัดสินใจที่จะแต่งงานกับใครสักคน แล้วทำไมต้องเป็นคน ๆ นี้ ไม่ใช่คนอื่นทั้งที่ผ่านมาและอาจจะเจอกันในอนาคต


“หรือต้องมีดวงด้วย” ท้ายประโยคติดเสียงขึ้นจมูกคล้ายจะเย้ยหยัน โชคชะตาน่ะหรือ? ตลกสิ้นดี!


“ยูไม่ได้รู้จักดาวเหมือนที่ไอรู้จัก”


“อ้อ ยูเองก็ไม่ได้รู้จักเธอเหมือนอย่างที่ไอรู้เหมือนกัน”


คริสคิ้วขมวด อยากจะถามถึงประเด็นนี้อยู่หลายทีแล้วเหมือนกัน แต่น้องชายตัวดีกลับส่งสัญญาณตัดความหวังแล้วให้เขาเล่าเรื่องของตัวเองต่อไป


“ครอบครัวดาวจะนำพาความเดือดร้อนและเรื่องวุ่นวายมาให้ไออีกมากมาย ถ้าเราแต่งกันไป”


ความจริงข้อนี้เขารู้มาจากมัมแล้ว จึงไม่ตกใจมาก ที่อยากจะรู้คือทั้งที่พี่ชายก็น่าจะรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่ทำไมตอนนั้นถึงคิดที่จะแต่ง


ดีนกระดกเบียร์เข้าปากอีกหนึ่งอึก คำนวนปริมาณคร่าว ๆ แล้วคิดว่าน่าจะเหลือให้ซดได้อีกไม่ถึงสี่ครั้งก็น่าจะหมด


“ครอบครัวดาวเขาไม่ได้มั่งมีแบบบ้านเรา”


“สำคัญตรงไหน ยูรวยนี่” ดีนแซวขำ ๆ ไม่อยากจะเข้าข้างบ้านนั้นสักเท่าไหร่ว่าคงไม่ได้ยากจนอะไรนัก ดาวเองก็ขยันขันแข็ง ใช่จะรอเกาะพี่ชายเขาอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่


“แต่กับคนที่ไม่รู้จักทำมาหากินอย่างพ่อแม่เขา มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะเข้าไปเป็นลูกเขยเขาไม่ใช่เหรอ”


ดีนเงียบ กระดกเบียร์ขึ้นจิบอีกครั้งเป็นสัญญาณว่ากำลังรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ


“ดาวเป็นลูกคนโต น้องคนกลางเกเรไม่เอาถ่าน คนสุดท้องก็ยังเรียนอยู่ไฮสคูล ไอเคยให้เงินทุนพ่อเขาไปเริ่มธุรกิจเล็ก ๆ อย่างเปิดร้านอาหาร แต่ก็พังไม่เป็นท่าเพราะเกียจคร้านจะทำกิน ซ้ำยังขยันสร้างหนี้ด้วยการเป็นผีพนัน นี่ถ้าดาวไม่เรียนดีจนได้ทุน ไอก็ไม่อยากจะคิดว่าเธอจะเป็นยังไง”


“ไอรู้มาว่าเธออยู่เพ้นเฮ้าส์โครงการ xxx” ไม่ต้องพูดถึงข้อมูลเรื่องราคาก็รู้กันว่าสูงมากแค่ไหน เห็นแบบนั้นแล้วดีนนึกถึงพื้นเพข้างหลังของเธอไม่ออกจริง ๆ ว่าเป็นอย่างไร


“ดาวเป็นคนทะเยอทะยาน จนบางครั้งก็เหมือนคนไม่ประมาณตน”


“แล้วทำไมตอนแรกถึงจะแต่งด้วย”


“ดาวเขาเป็นคนดี เป็นเด็กดี ยูก็เห็นว่าเธอขยันทำงานแค่ไหน ไอสงสารเขา เคยคิดว่าแต่งเข้าบ้านแล้วจะให้มาอยู่ด้วย คอยส่งเงินให้บ้านเขาเป็นรายเดือนไป แต่อาม่ากับเตี่ยก็บอกว่าเราทำแบบนั้นไม่ได้หรอก ไม่มีทางที่เราจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาแบบนั้นได้ นั่นก็พ่อแม่เธอ ยังไงเธอก็ต้องเลือกพวกเขา ต้องรับผิดชอบพวกเขา แล้วยูคิดเหรอว่าอย่างดาวจะรับผิดชอบคนเดียวไหว”


“ยูกลัวว่าพวกเขาจะมารบกวนยู?”


“มันเคยเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว และพวกเขาไม่เคยคิดที่จะจำเป็นบทเรียน ไอมีเงินเยอะก็จริงนะดีน แต่เราจำเป็นจะต้องเอาเงินที่หามาแทบตายไปให้คนอื่นผลาญเล่นเหมือนเป็นเศษกระดาษเพียงเพราะว่าเป็นหน้าที่เหรอ”


“พอโดนชินแสทักมาแบบนั้นมันเลยทำให้ไอได้คิด และก็ไม่ได้คิดแล้วตัดสินใจง่ายในทันทีด้วยนะ ไอปรึกษาผู้ใหญ่ไปทั่ว บวกลบผลดีผลเสียแล้วกว่าจะทำแบบนี้ลงไป”


“คุยกับใครอยู่ด้วยรึเปล่า” ดีนไม่ได้หมายถึงในแง่ของการ ‘ปรึกษา’ อย่างที่คริสเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ และคริสก็รู้จุดประสงค์ดี


“ไอไม่ได้ชอบผิง”


คำตอบร้อนตัวชะมัด


ดีนพอจะรู้ความรู้สึกของพี่ชาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดว่าจะได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาตรง ๆ “ไอรู้”


“ไอรักผิงเหมือนน้องสาว”


“ก็บอกว่ารู้ไง”


และรู้ด้วยว่าบ่อยครั้งที่อีกฝ่ายแสดงออกเหมือนหวงผิงหนักหนานั่นก็เป็นเฉพาะแต่เวลาที่เธออยู่กับเขาคนเดียว


ความรู้สึกของพี่ชายน้องสาวต่างสายเลือดเป็นอะไรที่ดีนเข้าใจยากเสียจริง


“ไอไม่ได้คุยกับใคร เลิกด้วยตัวของคนสองคน”


“อืม”


“เข้าใจไอใช่ไหม”


“แน่นอนสิ” ทั้งคำตอบและท่าทางไหวไหล่ไม่แยแสนั้นทำให้คนพี่ต้องถอนหายใจ ดีนกระดกเบียร์ขึ้นดื่มอีกครั้งแล้วก็พบว่ามันเป็นครั้งสุดท้ายพอดี เขาวางกระป๋องลงกับพื้นตรงเท้า


“ดีน ความรักเป็นเรื่องของคนสองคนก็จริง แต่คู่ชีวิตมันไม่ใช่แค่นั้น คนรอบข้างเราก็มีความสำคัญเหมือนกัน”



ฟุบ!!



ส้นรองเท้าผ้าใบราคาแพงเหยียบลงบนกระป๋องจนมันบี้แบนลงแทบเท้า


“ไว้วันหนึ่งที่ยูมีความรู้สึกแบบนี้ ยูจะเข้าใจที่ไอพูด”


“เบียร์หมดแล้ว ไอคงต้องกลับก่อน”


ดีนหยิบกระป๋องเบียร์ติดมือเดินออกไปด้วย เพื่อที่จะทิ้งรวมกับขยะในงานที่หน้าบ้านโดยมีคริสมองตามหลังไปพร้อมกับส่ายหน้าด้วยหลากหลายความรู้สึก เขาก็ได้แต่หวังว่าน้องชายที่ไม่ประสาเรื่องความรักจะเข้าใจความคิดของเขาบ้างสักนิดก็ยังดี


。。。。。


(มีต่อข้างล่างนะคะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2017 23:34:07 โดย ธัญญ์ »

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #156 เมื่อ16-08-2017 19:29:20 »


หากทุกคนไปทำงานด้วยสีหน้าสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าเหมือนอย่างที่กำลังเดินเข้างานเลี้ยงปิดเล่มอย่างตอนนี้ ผู้บริหารคงจะชื่นใจขึ้นมาบ้าง ร้านที่บริษัทจองปิดโซนเพื่อฉลองกันเล็ก ๆ เป็นร้านเดียวกับที่จัดงานปาร์ตี้สละโสดเมื่อต้นเดือนซึ่งตอนนี้กลายเป็นเรื่องต้องห้ามไปเสียแล้ว


วันนี้ร้านถูกจัดเป็นโต๊ะกลมและเก้าอี้ทรงสูงทั้งนั้น โต๊ะแต่ละตัวก็มีเก้าอี้มากน้อยต่างกันไป อย่างโต๊ะตัวที่รณณ์นั่งอยู่ก็มีที่นั่งอยู่ห้าที่ ซึ่งน่าจะเยอะสุดแล้ว


“บริษัทจัดปาร์ตี้ให้ทุกเดือนเลยเหรอครับพี่” รณณ์ถามขึ้นด้วยความสงสัย อยากจะถามอยู่หลายครั้งแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสเหมาะเสียที พอมานั่งอยู่โต๊ะหน้าสุดตามคำชวนของทศแล้วไม่มีอะไรทำจึงเปิดประเด็นขึ้นมา


“เพิ่งเคยเดือนนี้เดือนแรก ปกติแค่เลี้ยงอาหารกลางวันที่บริษัท” ทศตอบพลางรับแก้วเหล้าจากรุ่นน้องในแผนกที่ชงส่งมาให้


“ดูก็รู้ว่าอยากเลี้ยงเพื่อไถ่โทษ” คนชงเหล้าพูดขึ้นเสียงเบาราวกับกระซิบ ด้วยกลัวว่าใครจะมาได้ยินเข้าแล้วพาลจะต้องถูกไล่ออกขึ้นมาจริง ๆ อย่างที่ทศเคยขู่เอาไว้เมื่อวันก่อน


รณณ์ขมวดคิ้วมุ่นจนถูกหยอกว่าเป็นไก่อ่อน “ก็ที่สั่งเปลี่ยนเมนทอปิคกระทันหันไงละวะ ตบหัวแล้วลูบหลังชัด ๆ”


“แต่มึงก็ยอมให้เขาลูบไม่ใช่เหรอ” ทศเอ่ยเสียงเรียบ สีหน้าไม่ยินดียินร้ายทั้งที่ก็เคยหงุดหงิดกับการตัดสินใจครั้งนั้นของบรรณาธิการหนุ่มลูกเสี้ยวอยู่เหมือนกัน


“ผมจะแดกให้คุ้มเลยพี่”


“หึ เก็บชีวิตไว้ทำงานต่อด้วยก็แล้วกัน อย่าเพิ่งแดกจนตาย”


รณณ์นั่งฟังเงียบ ๆ รับแก้วที่รุ่นพี่ชงให้มา ยกขึ้นจิบตามมารยาทแล้ววางทิ้งไว้ ตั้งใจจะรอให้มันเจือจางกว่านี้สักเล็กน้อย คืนนี้เขาไม่อยากเมา เพราะต้องเดินทางกลับด้วยรถไฟฟ้าเหมือนเดิม


พนักงานจากทุกแผนกเริ่มจับจองพื้นที่กันเป็นโซน ๆ ที่แยกกันเองอย่างรู้กัน โดยจะเว้นโต๊ะตัวกลางไว้หนึ่งตัวที่วีไอพีเสียจนยังไม่มีใครมานั่งเลยสักคน


คุณดีนส่งข้อความมาบอกแล้วว่าคงถึงช้าสักหน่อย รณณ์เข้าใจได้ เพราะอีกฝ่ายไม่ชอบงานสังสรรแบบนี้สักเท่าไหร่ อีกอย่างหนึ่ง มาแล้วก็ใช่ว่าจะได้นั่งด้วยกัน เพราะฉะนั้นคงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรอ


“ขอนั่งด้วยสิ”


ชายหนุ่มกว่าห้าคนที่ครองโต๊ะอยู่ก่อนถึงกับตาโตด้วยความตกใจเมื่อเจ้านายสาวเอ่ยปากขอแล้วลากเก้าอี้จากโต๊ะข้าง ๆ มาแทรกแล้วถือวิสาสะนั่งลงเลย


“พี่ดาวไม่นั่งโต๊ะวีไอพีเหรอครับ” ทศเป็นตัวแทนถามขึ้นเพื่อไขข้อสงสัยของน้อง ๆ


“เป็นคนธรรมดา จะมีสิทธิอะไรไปนั่งวีไอพี” ดาวตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ทั้งหม่นและหมอง แต่เหมือนเจ้าตัวจะฝืนให้มันสดใสเต็มทน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรเธออีกเลย บรรยากาศครึกครื้นตามประสาโต๊ะหนุ่มโสดก็พลันหมดความสนุกไปพร้อมกับความอึมครีมที่หญิงสาวหนึ่งเดียวสร้างขึ้นมาแทนที่


ค่อนคืนแล้วกว่าที่คริส ดีน และผิงจะเข้ามาในงาน ทั้งสามคนมาด้วยกันหรือไม่ ไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่ต่างก็เม้าท์กันว่าผิงมาพร้อมคุณดีนแน่ รณณ์หันไปสบตากับดีนแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปสนใจพี่ ๆ ที่กำลังร้องเพลงกันอยู่บนเวที


ดีนนั่งหันหน้าเข้าเวที ขวามือเป็นพี่ชายที่นั่งจิบเหล้าด้วยใบหน้าเรียบตึง ซ้ายมือเป็นเพื่อนสาวที่ค่อนข้างบังทัศนียภาพอันรื่นรมณ์ซึ่งก็คือใบหน้าของรณณ์ที่นั่งหันหลังให้เวทีแล้วหันหน้ามาทางเขา เพียงแต่ว่าตอนนี้อีกฝ่ายหันไปมองเวทีจนเกรงว่าคอจะเคล็ดเอาเสียก่อนจบงานทั้งที่เก้าอี้ก็หมุนได้


ยิ่งดึกทุกคนก็ยิ่งสนุกกัน จะมีก็แต่โต๊ะวีไอพีเท่านั้นที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด หญิงสาวหนึ่งเดียวของโต๊ะอึดอัดจนอยากจะเดินออกจากงานเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ที่ทำได้ก็แค่นั่งดื่มไปเงียบ ๆ เท่านั้น


“เราสนุกกันมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่หัวหน้าแผนกจะต้องผลัดกันออกมาร้องเพลงบ้างแล้วล่ะครับ” เสียงพิธีกรจำเป็นพูดขึ้นบนเวทีเรียกเสียงเกรียวกราวจากคนข้างล่างได้เป็นอย่างดี


“อยากฟังแผนกไหนก่อนดีครับทุกโคนนนนนนนน” การซาวน์เสียงได้รับการตอบรับดีเกินคาดเมื่อชื่อแผนกต่าง ๆ ถูกเสนอขึ้นมาจนฟังแทบไม่เป็นศัพท์


“ฉันขอก่อนได้ไหม”


เสียงเสนอตัวของใครบางคนดังขึ้นท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ หลายคนหันมองที่มาของเสียงแล้วเริ่มกลืนน้ำลายหนืดลงคอ เพราะไม่รู้ว่าหัวหน้าแผนกคอลัมนิสต์สาวจะมาไม้ไหน แต่ในเมื่อเปิดโอกาสขึ้นมาแบบนี้แล้ว อย่างไรเสียก็ต้องยอม พิธีกรจำเป็นมองมายังโต๊ะวีไอพีด้วยสายตาสำนึกผิดราวกับคนใกล้จะร้องไห้แต็มแก่ก่อนจะยกไมค์และเวทีให้ดาว


แค่ดนตรีที่บรรเลงขึ้นก็ทำเอาทุกคนเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไรออกมากแม้แต่จะปรบมือให้กับนักร้องสมัครใจบนเวทีจนเธอต้องแกล้งร้องขอเสียงปรบมือ ในตอนนั้นถึงได้มีเสียเปาะแปะดังขึ้นอย่างจำยอม



ฉันมายินดีให้กับรักที่สดใส
ยินดีที่เธอได้พบเจอ
คนที่ดี คนที่ควรคู่รักของเธอ
คนที่เข้ากันมากว่าฉัน




หลายคนแทบจะก้มหน้างุด ไม่มีใครเงยขึ้นมาเพราะกลัวจะมองไปยังโต๊ะวีไอพีตามสายตาของเจ้าของเสียงร้อง ดาวร้องเสียงยานเล็กน้อยตามระดับแอลกอฮอล์ในเส้นเลือด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังตามดนตรีทัน


ผิงกระดกเครื่องดื่มดีกรีแรงที่เพิ่งชงเองตอนที่ดาวขึ้นเวทีไปจนหมดแก้วแล้วหันมองเพื่อนชายคนสนิทอย่างขอความช่วยเหลือ เรื่องระหว่างเธอกับคริสไม่ได้มีอะไรอย่างที่ดาวเข้าใจ เมื่อสองปีก่อนคริสไม่ได้ชอบเธออย่างไร จนตอนนี้ก็ยังไม่ใช่อย่างนั้น เธอไม่เคยเป็นปัจจัยให้คริสรักดาวน้อยลงเลยสักนิด ไม่ว่าจะตอนนั้นหรือตอนนี้ ดาวเข้าใจผิดจนทำให้เรื่องมันพาลจะใหญ่โตเสียทั้งนั้น



ขอให้ความรัก…ไม่มีความสุขใจ
ไม่ว่าสิ่งไหนพังให้หมดทุกอย่าง
ขอให้ความรักเขาและเธอมีแต่จืดจาง
เมื่อเขาเคียงข้างมีแต่ความทุกข์ใจ



ดีนมองเพื่อนสาวที่เอาแต่ก้มหน้า คงอยากจะลุกไปจากตรงนี้เสียที แต่ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับยอมรับผิด แต่การยังนั่งอยู่ตรงนี้ก็ไม่ต่างจากทำให้ลูกน้องนับสิบตราหน้าว่าเธอหน้าด้านหรอกหรือ ชายหนุ่มมองเลยเธอไปยังใครอีกคนที่นั่งในตำแหน่งที่ตรงกับสายตาพอดี รณณ์กำลังมองมาที่เขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ใจเขากำลังว้าวุ่นเป็นกังวลไปเสียหมด อยากจะรู้ว่าตอนนี้เด็กนั่นกำลังคิดอะไร เข้าใจเรื่องราวไปถึงไหน



ขอให้คาดหวังแล้วก็ต้องผิดหวัง
ไม่มีเปลี่ยนผันไม่มีวันสมใจ
ขอให้เธอนั้นต้องจากลากันตลอดไป




แต่ถึงอย่างนั้นดีนก็ยังคว้าตัวเพื่อนเข้ามาซบอก ใบหน้าหล่อคมก้มลงกระซิบข้างหู “อยากร้องก็ร้อง เสร็จแล้วเราจะกลับกัน”



ทำฉันช้ำใจสักเท่าไร
ก็ขอให้เธอปวดใจไม่แพ้กัน


.

.

.

รณณ์หลบสายตาของคนที่มองมาด้วยหลากหลายความรู้สึกที่ตีรวนอยู่ในอก คุณดีนดึงพี่ผิงเข้าไปกอด กระซิบพูดบางอย่างและลูบแผ่นหลังบางของเธอด้วยความอ่อนโยน แต่ถึงอย่างนั้นนัยน์ตาแน่วแน่คู่นั้นก็ยังไม่ละไปจากเขา


เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นทั่วทั้งบริเวณนับตั้งแต่ที่ได้เห็นฉากนั้น หลายคนเริ่มสรุปว่าเรื่องของท่านประธานกับพี่ผิงว่าไม่มีอะไรอย่างที่คิด และคุณดีนก็ได้ทำการเปิดเผยความสัมพันธ์อันคลุมเครือของตนกับหัวหน้าแผนกพิสูจน์อักษรแล้ว


เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าตนควรรู้สึกอย่างไร รู้แต่มันแน่น มันอึดอัดข้างในไปหมด คล้ายมีใครเอาอะไรมารัดอกไว้ เหมือนจะหายใจติดขัดแต่ก็ยังไม่ขาดใจเสียทีเดียว เพราะแววตาคู่นั้น จะบอกว่าสิ่งที่เห็นชวนให้คิดไปในทางเดียวกับคนอื่นอย่างไร แต่เพราะนัยน์ตาคู่นั้นที่มองมาด้วยความมั่นคงแน่วแน่ทำให้เขาสับสนและยังคงเชื่อว่าความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้จากอีกฝ่ายมาโดยตลอดคือเรื่องจริง


คุณดีนไม่ได้โกหก


แต่จะให้นั่งมองอยู่อย่างนี้ก็ไม่ไหว


รณณ์บอกลาทศและพี่คนอื่นในโต๊ะ อ้างว่าใกล้หมดเที่ยวรถไฟฟ้าแล้ว ตนต้องรีบกลับ ไม่ลืมที่จะฝากทศลาดาวให้อีกด้วย เด็กหนุ่มเดินออกมาจากร้าน น่าแปลกทั้งที่ไม่ได้เมาแต่ร่างกายกลับคล้ายจะหมดแรงเอาเสียดื้อ ๆ คงเป็นเพราะไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจมาเจอกับภาพนั้น พอไม่มีสายตาของคุณดีนจ้องมองมาก็เหมือนว่าความคิดแง่ลบที่ถูกสะกดไว้ด้วยสายตาคู่นั้นก็พรั่งพรูออกมา เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าที่ผ่านมาตนอาจจะถูกหลอก คนเพรียบพร้อมอย่างคุณดีนจะมาสนใจนักศึกษาฝึกงานธรรมดาอย่างเขาจริงหรือ มิหนำซ้ำเขายังเป็นผู้ชายอีกด้วย อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือถึงความสัมพันธ์ของคุณดีนกับพี่ผิง ทำไมถึงหลงไปกับคารมของเขาจนลืมเรื่องนี้ไปได้


รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาอีกก็ตอนที่นึกขึ้นได้ว่าอาการที่ตนเป็นอยู่ตอนนี้มันฟ้องว่าความรู้สึกของตนเองที่มีต่อคุณดีนนั้นถลำลึกไปเกินกว่าที่คิดเสียแล้ว


ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย


…ไม่อยากแพ้ราบคาบขนาดนี้…


“รณณ์” เสียงเรียกไม่ดังนักจากทางด้านหลัง แต่เพราะว่าเจ้าของชื่อจำได้ดีว่าเป็นเสียงของใคร หัวใจไม่รักดีจึงทรยศเจ้าของด้วยการหันไปตอบรับแทบจะในทันที

   
“จะกลับแล้วเหรอ?”

   
“ครับ”

   
“ไปขึ้นรถสิ เดี๋ยวไปส่ง” รณณ์เหลือบมองหญิงสาวที่หมดสติในอ้อมกอดของคุณดีนแล้วก็รู้สึกปวดหนึบขึ้นมาอีก

   
“แต่…”

   
“ง่วงรึยัง ผมขอแวะส่งผิงก่อนนะ”

   
คุณดีนก็ยังเป็นคุณดีนที่อ่อนโยนเหมือนเดิม
   
   
ไม่ง่วงนักหรอก หรือต่อให้ง่วง สุดท้ายรณณ์ก็ยอมขึ้นรถมากับดีนตามคำชวนอยู่ดี

   
หญิงสาวที่หมดสตินอนหลับเงียบ ๆ อยู่เบาะหลังขณะที่รณณ์นั่งเบาะหน้าขนาบคู่ดีน มีเพียงดีนเท่านั้นที่รู้ว่าผิงไม่ได้เมา อย่างน้อยก็ไม่ได้มากจนถึงขนาดสลบแบบนี้ เขาแค่วางอุบายให้อีกฝ่ายแสร้งเป็นเมามากจนสลบเพื่อให้เขาพาตัวออกมาจากร้านได้โดยไม่มีใครตั้งคำถามว่าเขาพาหนีสายตาแง่ลบของคนอื่น

   
และก็เพื่อจะให้ทันรณณ์ด้วย

   
“พี่ชายนายน่ะ…ใจร้ายที่สุด ฮึก” ผิงพึมพำออกมาพร้อมเสียงสะอื้นที่แม้จะเบามากแต่ในห้องโดยสารที่เงียบจนได้ยินแต่เสียงแอร์ก็ทำให้อีกสองคนที่มีสติครบได้ยินมันชัดเจน

   
แม้จะเป็นเพียงประโยคกำกวมแต่รณณ์กลับพบว่าตัวเองสบายใจขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ขึ้นมาเล็กน้อย

   
รถคันหรูขับมาจอดเทียบหน้าคอนโดหรูก่อนที่เจ้าของรถจะลุกออกไปแล้วโผล่ตรงเบาะหลัง ดีนสะกิดปลุกผิงให้ตื่น หญิงสาวสะลึมสะลือปรือตาขึ้นมองดู พอเห็นว่าถึงที่พักของตัวเองแล้วก็พยุงตัวเองขึ้นนั่งนิ่ง ๆ

   
“ไหวไหมเนี่ย ให้ฉันโทร.ตามใครมาอยู่เป็นเพื่อนไหม”

   
ผิงส่ายหน้า “มีสิทธิอะไรจะไปขอให้เขามาอยู่ด้วยล่ะ” ตอบออกไปแบบนั้นโดยไม่ทันสนใจด้วยซ้ำว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่ในรถด้วย

   
ดีนยืนรอจนเพื่อนสาวคนสนิทเดินเข้าคอนโดไปเรียบร้อยแล้วถึงได้เข้าประจำที่คนขับอีกครั้ง

   
ระยะทางจากคอนโดของผิงกับหอพักของรณณ์ไม่ไกลกันนัก แต่เพราะมีแต่ความเงียบที่ไม่มีใครคิดจะทำลายจึงดูเหมือนจะไกลกว่าที่ควรจะเป็น

   
“ขอบคุณนะครับ” รณณ์เอ่ยขอบคุณแผ่วเบา


“รณณ์…” ดีนเรียกรั้งไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้ลงจากรถ


“…วันอาทิตย์นี้ว่างไหม?”

   
ไม่อยากให้เข้าใจผิดนาน

   
“คุณดีนมีอะไรรึเปล่าครับ?”

   
อยากชวนไปดูหนัง


“เปล่าไม่มีอะไร”


แต่คิดอีกที รณณ์จะมาใช้ชีวิตแบบเขาได้หรือ?


   
“ฝันดีครับ”


   
คงต้องอยู่ในโลกที่มีแต่ตัวเองไปก่อน

















TBC.
------------------------------------------------------
หายไปนานเกือบหนึ่งเดือนเต็มๆ แหะๆ
ด้วยความมาช้า คนอ่านน่าจะเลิกอ่านกันไปละ ฮ่าๆๆ

เรื่องที่เกิดขึ้นกับคนรอบข้างอาจไม่ใช่เรื่องของตัวเองก็จริง
แต่มันก็ส่งผลถึงเราได้เหมือนกัน คุณดีนกับรณณ์ต้องพึงระลึกไว้ค่ะ

เรื่องดูหนังของคุณดีน อย่าเพิ่งด่าฮีป๊อดกันนะคะ เขามีเหตุผลของเขาค่ะ

ติดแฮชแท็คในทวิตเตอร์กันได้ค่ะ #ไม่ดิ้นรนหา

ด้วยรักและขอบคุณ

ธัญญ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2017 23:43:42 โดย ธัญญ์ »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #157 เมื่อ16-08-2017 20:20:50 »

ได้กลิ่นดราม่า แต่ก็ต้องรอดูต่อไปนั่นละ ว่าแต่บ้านผิงเป็นยังไงเหรอ ที่ว่าจะพาปัญหามาให้ถ้าคริสแต่งด้วยอะ

ออฟไลน์ blue colour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #158 เมื่อ16-08-2017 20:38:31 »

เย้ๆๆๆๆจุดพลุในที่สุดก็มาต่อแล้ววววเรายังรออยู่นะคะ5555
ตอนนี้เป็นอารมณ์เทาๆอึมครึมๆ สงสารน้องรณณ์คิดไปไหนต่อไหนแล้วคุณดีนรีบอธิบายให้น้องฟังเน้ออย่าปล่อยไว้นานนะ
เราไม่อยากกินมาม่า :mew6:

ป.ล. แอบสงสัยประโยค “ครอบครัวผิงจะนำพาความเดือดร้อนและเรื่องวุ่นวายมาให้ไออีกมากมาย ถ้าเราแต่งกันไป” ต้องเป็นดาวรึเปล่าคะ หรือเราพลาดตรงไหนไป55555

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #159 เมื่อ16-08-2017 23:36:11 »

ได้กลิ่นดราม่า แต่ก็ต้องรอดูต่อไปนั่นละ ว่าแต่บ้านผิงเป็นยังไงเหรอ ที่ว่าจะพาปัญหามาให้ถ้าคริสแต่งด้วยอะ

ตรงนี้พิมพ์ผิดค่ะ จริงๆต้องบอกว่าครอบครัวดาว ขออภัยด้วยค่าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
« ตอบ #159 เมื่อ: 16-08-2017 23:36:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #160 เมื่อ16-08-2017 23:39:50 »

เย้ๆๆๆๆจุดพลุในที่สุดก็มาต่อแล้ววววเรายังรออยู่นะคะ5555
ตอนนี้เป็นอารมณ์เทาๆอึมครึมๆ สงสารน้องรณณ์คิดไปไหนต่อไหนแล้วคุณดีนรีบอธิบายให้น้องฟังเน้ออย่าปล่อยไว้นานนะ
เราไม่อยากกินมาม่า :mew6:

ป.ล. แอบสงสัยประโยค “ครอบครัวผิงจะนำพาความเดือดร้อนและเรื่องวุ่นวายมาให้ไออีกมากมาย ถ้าเราแต่งกันไป” ต้องเป็นดาวรึเปล่าคะ หรือเราพลาดตรงไหนไป55555

ตรงนี้พิมพ์ผิดจริงๆค่ะ เราพลาดเอง ขอบคุณสำหรับการตักเตือนกันนะคะ จริงๆต้องบอกว่าเป็นครอบครัวดาว
ขออภัยด้วยนะคะ
ปล.ขอบคุณที่ยังติดตามกันค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #161 เมื่อ17-08-2017 00:39:48 »

 :a5:

 :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #162 เมื่อ17-08-2017 01:06:25 »

ติดตามนะคะ สนุกมากเลย เราชอบบรรยากาศมากเลยอะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #163 เมื่อ17-08-2017 01:26:53 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ saccarrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #164 เมื่อ17-08-2017 16:24:36 »

บรรยากาศหม่นๆ ส่อเค้าดราม่า  :ling3:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #165 เมื่อ17-08-2017 22:53:36 »

 :katai1:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #166 เมื่อ31-08-2017 07:42:09 »

ฮือออ ชอบจังเลยค่ะ  :-[  ละมุนละไมที่สุด
ชอบคุณดีนกับรณณ์มาก ๆ ช่างเหมาะสมกัน
ถึงคิดว่ายังมีปัญหาตามมาอีกมากมายแน่ ๆ
แต่ก็เอาใจช่วยทั้งคู่ อุตส่าห์หากันจนเจอแล้ว
ติดตามตอนต่อไปนะคะ ชอบเรื่องนี้มากเลย
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 13 [16/08/17] P.6
«ตอบ #167 เมื่อ01-09-2017 02:37:45 »

ชอบมากเลยค่ะ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่รีบร้อน ค่อยๆเป็นไป ดีต่อหัวใจ  :hao5:

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #168 เมื่อ24-09-2017 17:35:26 »


ห า กั น จ น เ จ อ

ตอนที่ #14









กิจกรรมดูหนังที่ดีนอยากชวนรณณ์มาด้วยคืองานเผยแพร่สารนิพนธ์หนังสั้นของนักศึกษาเอกภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่งออกสู่สายตาประชาชน เขาตั้งใจว่าจะตามดูทุกเรื่องเหมือนทุก ๆ ปี ซึ่งใช้เวลายาวนานตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงเกือบสามทุ่มเลยทีเดียว

   
แล้วจะมีใครอยากเอาเวลาทั้งวันมาใช้ที่โรงหนังกับเขากัน

   
หลายครั้งที่เอ่ยปากชวนใครต่อใครออกไปตามมารยาท และคนถูกชวนก็รับรู้ถึงเจตนารมณ์ของเขาดี คำปฏิเสธที่ได้รับจึงมาตามมารยาทด้วยเช่นกัน เพราะอย่างนั้น  ดีนจึงไม่อยากเอ่ยชวนรณณ์ให้อีกฝ่ายต้องตอบรับด้วยความกระอักกระอ่วนใจตามมารยาท นอกจากจะไม่ช่วยให้ความสัมพันธ์พัฒนาไปในทางที่ดีแล้ว มันอาจจะแย่ลงเสียด้วยซ้ำ

   
ดีนมาก่อนเวลาฉายหนังครึ่งชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนว่าทีมงานจะเพิ่งเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อตอนที่เขามาถึงนี่เอง มีเด็กวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ยืนออกันอยู่หน้าโต๊ะลงทะเบียน ดีนมองแล้วพิจารณาไปด้วย ดูอย่างไรเด็กพวกนี้ก็ดูเด็กกว่าเขามาก ทั้งที่ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองแก่เสียหน่อย อายุยี่สิบห้าก็แค่คนที่เพิ่งเรียนจบมาสองปีเอง ไม่น่าจะดูต่างวัยกันขนาดนี้ ดีนคิดด้วยความสงสัย ก้มลงดูการแต่งกายของตัวเองแล้วก็คิดว่าเสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีดขาดเข่าแต่พองามก็ดูน่าจะกลมกลืนไปกับเด็กพวกนี้ได้ ทั้งที่เด็กผู้ชายบางคนใส่เชิ้ตเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมมองแล้วยังทำให้รู้สึกว่าตัวเองดูโตกว่าอยู่ดี

   
แล้วเวลาที่เดินกับรณณ์ จะดูเหมือนเสี่ยมากับเด็กรึเปล่า

   
ดีนสะบัดหัวไล่ความคิดที่เริ่มจะเลยเถิดก่อนจะรับปากกาจากนักศึกษาสาวมาบรรจงเขียนชื่อเต็มตัวเองลงไปบนกระดาษพร้อมขีดถูกที่ช่อง ‘บุคคลทั่วไป’ นัยน์ตาคมกวาดมองรายชื่อเกือบสิบคนก่อนหน้าเขาซึ่งล้วนเป็นนักศึกษาของคณะนี้ทั้งนั้นแล้วก็ได้แต่ปลงตก คิดเอาไว้แล้วว่าต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่เพราะอย่างนี้ เขาถึงได้อยากมาอีกในทุก ๆ ปี

   
บรรยากาศการเผยแพร่สารนิพนธ์หนังสั้นของนักศึกษาคณะนิเทศฯ เอกภาพยนตร์ ที่คับคั่งไปด้วยรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะมากกว่าคนทั่วไปทั้งที่ก็มีการโปรโมทในพื้นที่สาธารณะ และคนแบบดีนก็จัดเป็นคนกลุ่มน้อยชนิดที่อาจจะมีไม่ถึงสองเปอร์เซ็นต์เสียด้วยซ้ำ แต่ดีนก็ยังชอบบรรยากาศแบบนี้ คล้ายกับตอนที่ไปดูละครเวทีของคณะสักคณะหนึ่งในรอบสุดท้าย เกือบทั้งโรงละครจะมีแต่รุ่นพี่รุ่นน้องที่มาร่วมกันแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง เป็นบรรยากาศที่ทำให้คนนอกอย่างเขารู้สึกอยากเป็นคนในเสียเหลือเกิน

   
งานถูกจัดขึ้นที่หอศิลป์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นต่างสถาบันกับที่ดีนจบมา ในช่วงที่เหลือเวลาอีกยี่สิบนาที แต่ทีมงานก็ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในห้องฉายหนัง ดีนจึงตัดสินใจไปเดินดูงานศิลป์อื่น ๆ ที่ถูกจัดแสดงไว้ทั่วทั้งบริเวณเพื่อฆ่าเวลา
   
.
   
.
   
.
   
“เฮ้ยพี่รณณ์!”

   
เจ้าของชื่อหันตามเสียงเรียกหลังจากที่เขียนชื่อในใบลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าอ่อนใสระบายยิ้มยินดี ไม่คิดว่าจะได้เจอโอมอิน หนุ่มรุ่นน้องที่สนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายก่อนได้เจอเพื่อนสนิทที่ตนตั้งใจมาหาในวันนี้เสียอีก

   
“ไงมึง มากับเขาด้วยเหรอ”

   
“ไม่มาได้ไงล่ะพี่ ผมมีส่วนช่วยกับหนังสั้นปีนี้ด้วยนะ” เจ้าตัวพูดราบเรียบ ไม่ได้แสดงท่าทีอวดให้ชวนหมั่นไส้ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ไอ้หมอนี่หน้านิ่งอย่างไรก็ยังอย่างนั้น

   
“นี่พี่มาดูหนังพี่เอกอ่ะดิ แล้วพี่ ๆ คนอื่นล่ะ”

   
“อือ มันชวนมา คนอื่นไม่มีใครว่าง พี่เลยต้องเป็นตัวแทนทุกคน”

   
โอมอินพยักหน้ารับทราบ “แล้วพี่ใกล้จบยัง”

   
“จบปีนี้แหละ แต่ยังติดฝึกงานอีกช่วงนึง พอดีพี่เก็บช้ากว่าชาวบ้านเขาหน่อย”

   
“อ้าว ไมงั้นวะพี่” ใคร ๆ ก็รู้ว่ารุ่นพี่คนนี้ขยันแค่ไหน เรื่องเรียนเรื่องกิจกรรมไม่เคยมีปัญหา การเรียนล่าช้าจึงเป็นเรื่องเกินคาดสำหรับโอมอินไปสักนิด

   
“ก็รอฝึกงานที่ไลฟ์ เขาว่างให้ฝึกแค่ช่วงนี้ กูจะทำไงได้ละวะ” รณณ์บอกเล่าอย่างอารมณ์ดี ไม่กังวลสักนิดแม้ว่าคนอื่น ๆ ในรุ่นหรือต่างมหาวิทยาลัยจะใกล้จบกันหมดแล้ว เพราะเขาวางแผนไว้แล้วว่ายังพอช่วงเวลาให้ฝึกงานได้อยู่

   
“ไลฟ์? นิตยสารอ่ะเหรอพี่”

   
“เออ” รณณ์ตอบรุ่นน้องก่อนจะหันไปเห็นเพื่อนสนิทเข้าพอดี เขาจึงร้องเรียกอีกฝ่ายให้เข้ามาหา โอมอินอยู่พูดคุยกับทั้งสองคนอีกเล็กน้อยก่อนปลีกตัวออกไป

   
“กูไม่มีอะไรมายินดีกับมึงนะเว้ย”

   
“เออหน่า ใครเขาให้กันวันนี้ อย่าเด๋อ” เอกผลักหน้าผากรณณ์เบา ๆ “แค่เลี้ยงข้าวเย็นกูก็พอ”

   
“หาเรื่องแดกฟรีตลอดเลยมึงอ่ะ”

   
“จะไม่เลี้ยง?”

   
รณณ์ไม่ได้ตอบ เขาเพียงแค่หัวเราะในลำคออีกฝ่ายก็ยกยิ้มพอใจออกมา


“จริง ๆ มึงไม่ต้องรีบมาก็ได้นะ ค่อยมาช่วงเย็น ๆ ทีเดียว หนังกูฉายเกือบสุดท้ายโน่นแหนะ” รณณ์รู้ตารางฉายหนังล่วงหน้าแล้ว หนังสั้นมีทั้งหมดสิบสองเรื่อง จะถูกแบ่งฉายเป็นสี่เซต เซตละสามเรื่อง ซึ่งเรื่องของเอกเป็นเรื่องที่สิบ ดูตามเวลาแล้วก็ฉายตอนหกโมงเย็นเลยทีเดียว


“กูมาดูหนังคนอื่นด้วยเหอะ ลืมรึไงว่ากูชอบดูหนังนะ”


เอกหัวเราะ “กูรู้ แต่นี่ไม่ใช่หนังโรงไง นี่มันหนังเด็ก ๆ ไม่น่าดึงดูดเท่าหนังในตลาดหรอก”


“ดูถูกตัวเองนะมึง คนทำหนังในอุตสาหกรรมหนังก็ล้วนผ่านช่วงเวลาแบบนี้กันมาทั้งนั้นหน่า”


“เออ ๆ เขาเปิดให้เข้าข้างในแล้ว ไป ๆ เข้าไปหาที่นั่ง ตอนเลิกงานเจอกัน อ้อ! มื้อเที่ยงกูไม่ได้ไปกินด้วยนะ”


“เออหน่า มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก นี่ใคร? รณณ์นะครับ ดูแลตัวเองได้สบายมาก” รณณ์ตบอกตัวเองด้วยความภูมิใจ


“รณณ์”


นัยน์ตาโตเบิกกว้างทันทีเมื่อหันไปตามเสียงเรียกอีกครั้งของวันแล้วพบว่าใครคือเจ้าของเสียงนั้น


“คุณดีน!” เด็กหนุ่มระบายยิ้มยินดีก่อนสาวเท้าเข้าไปหาด้วยความแปลกใจ “มาได้ไงครับเนี่ย” ไล่สายตามอง ‘เจ้านาย’ ในภาพลักษณ์แปลกตาแล้วอดชมในใจไม่ได้ว่าแต่งตัวแบบนี้แล้วก็เท่ไม่หยอกทีเดียว


“ผมมางานนี้ทุกปีอยู่แล้ว” มาตั้งแต่สถานะในใบลงทะเบียนยังเป็น ‘นักเรียน’ เลยด้วยซ้ำ “คุณล่ะ”


“ผมมาดูงานเพื่อนครับ” เหมือนว่าพอตอบคำถามนั้นของดีนแล้วทำให้รณณ์นึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่ตนยังยืนคุยกับเพื่อนสนิทอยู่ เด็กหนุ่มจึงหันกลับไปดึงแขนเพื่อนให้มายืนข้างกันพร้อมแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน “นี่เพื่อนผมชื่อเอก คนที่คุณเจอวันที่ไปบริจาคเลือดไงครับ”


“คุณดูสนิทกับเด็กฝึกงานดีนะครับ” เอกมองดีนอย่างไม่ไว้วางใจ เขาสังเกตความสัมพันธ์ของสองคนนี้ตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งนั้นแล้ว ดีนเพียงแค่ยิ้มบางขณะที่รณณ์ตัดบทด้วยการบอกว่าจะรีบเข้าไปหาที่นั่งข้างในพร้อมชวนดีนเข้าไปพร้อมกัน
.

.

.

“ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่นี่” ดีนพูดขึ้นเมื่อเข้ามานั่งรอในห้องฉายหนังได้ครู่หนึ่งแล้ว ห้องนี้เป็นห้องสโลปสองชั้น ดีนกับรณณ์เลือกนั่งตรงกลางแถวแรกของชั้นบนซึ่งจัดเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ดีที่สุด


“ผมต่างหากละครับที่ต้องเป็นฝ่ายแปลกใจ หืม? ที่คุณถามเมื่อวานนี้…อย่าบอกนะครับว่าจะชวนมางานนี้”


“อืม แต่ไม่กล้าชวน” รณณ์มองใบหน้าด้านข้างของคุณดีนที่มีริ้วแดงจาง ๆ ซับระเรื่อแล้วก็อมยิ้ม จะแซ็วว่าเขินเป็นด้วยก็เกรงจะถูกกลบเกลื่อนด้วยการตำหนิเล็ก ๆ แต่การที่คุณดีนเอาแต่มองจ้องจอยักษ์ทั้งที่มันยังเป็นแค่ผืนผ้าใบว่างเปล่า รณณ์ก็ไม่อาจแปลเป็นอย่างอื่นได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังเขินเขาอยู่


“ทำไมไม่กล้าชวนละครับ”


“ก็ตั้งใจจะมานั่งดูทั้งวัน แล้วใครกันจะอยากมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ด้วยกัน”


รณณ์ยิ้ม “ผมนี่ไงครับ”


คราวนี้ดีนยอมหันมามองหน้ากันตรง ๆ หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน “ผมน่ะ ไม่ชอบให้ใครฝืนใจหรือจะยอมฝืนใจเพื่อใครหรอกนะครับ อย่ากลัวว่าผมจะทำแบบนั้นให้คุณรู้สึกไม่ดีเลยนะ ต่อให้ผมไม่ชอบดูหนัง แต่ถ้าคุณชวน ผมก็อยากจะตอบตกลง ไม่ได้ตอบตามมารยาทหรืออยากรักษาความสัมพันธ์ในฐานะคนกำลังศึกษากันหรอกนะครับ แต่ผมจะตอบรับเพราะอยากใช้เวลาอยู่กับคุณ


“…”


“เพราะฉะนั้น…คราวหลัง ถ้าคุณอยากไปไหนหรือทำอะไร กรุณาชวนผมด้วยนะครับ” 


“หึ เอาแต่ใจน่าดูเลยนะ” ดีนยื่นมือไปโยกศีรษะอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู ยิ่งเด็กมันยิ้มทะเล้นกลับมาก็ยิ่งมันเขี้ยวเสียจนเผลอบีบแก้มใสนั่นเข้าให้ ยิ่งพอเห็นว่าอีกฝ่ายแค่ชะงักไม่ได้เบี่ยงหลบหรือปัดมือออก ดีนก็ยิ่งย่ามใจทำต่ออย่างนึกสนุก


ดีนมองเข้าไปในหน่วยตาคู่นั้นนิ่ง ค่อย ๆ คลี่ยิ้มบางพร้อมกับปล่อยแก้มใสให้เป็นอิสระ “เรื่องเมื่อคืน…”


ดีนไม่รู้จะเริ่มพูดที่ตรงไหน แต่เพียงแค่เกริ่นไปแค่นั้นก็ดูเหมือนว่ารณณ์จะเข้าใจได้ในทันทีว่าเขากำลังจะพูดเรื่องอะไร “เรื่องพี่ผิงน่ะเหรอครับ”


ดีนหยักหน้า “ผมไม่แน่ใจว่าคุณกำลังเข้าใจว่ายังไง”


“คุณดีนอยากให้ผมเข้าใจว่ายังไงละครับ”


“ผมกับผิงเป็นแค่เพื่อนกัน ระหว่างเราไม่มีใครแอบชอบใครทั้งนั้น”


รณณ์ยิ้มกว้าง เป็นยิ้มที่ทำให้ดีนคลายความกังวลใจได้เป็นปลิดทิ้ง “ครับ ผมเชื่อ
.

.

.

ก่อนหนังจะเริ่มฉาย ดูเหมือนว่าการปรากฎตัวของใครบางคนจะเรียกเสียงฮือฮาจากบรรดา ‘คนใน’ ได้เป็นอย่างดี ดีนกับรณณ์เองก็หันไปมอง ได้ยินเสียงแซ็วกันก็พอรู้ว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นคนดังของมหาวิทยาลัย และเมื่อหนังเรื่องที่สองฉาย ก็ทำให้ได้รู้ว่าอีกฝ่ายยังเป็นถึงพระเอกที่มีรอยยิ้มสดใสจนทำเอาคนดูแทบหยุดหายใจกันทั้งโรง รณณ์เพิ่งมารู้ในตอนที่คอมเม้นไตเตอร์ถามถึงหลังจากจบหนังเซตแรกนี่เองว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนรักของรุ่นน้องที่ตนเพิ่งทักทายไปก่อนเข้างาน


โอมอินมีแฟนเป็นผู้ชายอย่างนั้นหรือ?


การที่รุ่นน้องมีคนรักเป็นผู้ชายเป็นสิ่งที่รณณ์ให้ความสนใจมากกว่าคำวิจารณ์หนังเสียแล้ว เด็กหนุ่มหันมองคนข้างกายแล้วก็ได้แต่คิดเปรียบเทียบกับโอมอิน


รณณ์ยอมรับว่าตัวเองมีความรู้สึกดีกับคุณดีน แม้ไม่แน่ใจว่าลึกซึ้งถึงขั้นรักหรือยัง แต่จากที่รู้สึกหนักหน่วงในใจตอนที่สงสัยในความสัมพันธ์ของดีนกับผิง เขาก็มั่นใจว่ามันเกินคำว่า ‘ชื่นชอบ’ ไปมากแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นรณณ์ก็ยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์อย่างที่โอมอินทำ เด็กนั่นแมนกว่าเขาเยอะ แมนในแบบฉบับที่ใกล้กับคำว่าเถื่อนหรือโหด หรืออะไรก็ตามที่จะนิยามความเป็นผู้ชายแบบ ‘โคตรแมน’ ได้ แต่ยังกล้าเปิดเผยตัวว่าคบกับผู้ชายด้วยกัน แฟนโอมอินเองก็ดูเป็นผู้ชายที่แมนมากไม่แพ้กัน ไม่ได้มีท่าทีตุ๊ดแต๋วเลยสักนิด พอย้อนกลับมามองดูตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนใจ ตนก็ใช่ว่าจะแต๋ว ยิ่งคุณดีนยิ่งไม่ใช่ใหญ่ ทำไมถึงไม่กล้าเผยความรู้สึกครั้งนี้ให้ใครรู้


ในตอนที่เอกถามถึงความสนิทสนมที่มากเกินกว่าเจ้านายกับลูกน้อง รณณ์รีบเบี่ยงประเด็นทันทีเพราะยังไม่พร้อมให้เพื่อนคลางแคลงใจในความสัมพันธ์ จริงอยู่ที่เขาเปิดกว้างเรื่องคบเพศเดียวกัน แต่ลึก ๆ แล้วกลับไม่กล้าที่จะชัดเจน


เขากำลังกลัวอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ?


รณณ์ไม่รู้…


ไม่รู้ว่ากลัวคนรอบข้างรู้แล้วจะรับไม่ได้แล้วความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นอันต้องจบลง


หรือแค่กลัวว่าตัวเองยังไม่พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้


“เป็นอะไร นั่งถอนหายใจใหญ่เลย”


รณณ์ไม่ตอบคำถาม เขามีสติพอจะได้ยิน แต่เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายถามว่าอย่างไร เขาจึงได้แต่นั่งมองหน้าคุณดีนแล้วคลี่ยิ้มบางออกมา คุณดีนใส่ใจเขาเสมอ แม้อีกฝ่ายจะตั้งใจฟังคำวิจารณ์หนังแค่ไหน แต่สิ่งที่ไม่เคยลืมก็คือเขา คุณดีนรับรู้และสนใจตลอดว่ารณณ์กำลังทำอะไรหรืออยู่ในอารมณ์แบบไหน นั่นยิ่งทำให้รณณ์รู้สึกผิด


“หืม? ดีนส่งเสียงในลำคอแทนการถามซ้ำ มือหนายกขึ้นเกลี่ยปอยผมหน้าม้าที่เริ่มยาวลงมาบดบังนัยน์ตาสุกใส การกระทำอุกอาจที่แสนอ่อนโยนทำให้รณณ์ชะงักจนดีนเผลอคิดไปว่าอีกฝ่ายคงไม่สะดวกใจจะให้เขาแสดงความรักโจ่งแจ้งในที่สาธารณะแบบนี้


“ขอโทษ” ดีนดึงมือกลับมากอดอกไว้แล้วตั้งใจฟังคำวิจารณ์หนังต่อ


ระหว่างเขาสองคนมีความเงียบเข้าครอบงำเหมือนหลาย ๆ ครั้งที่อยู่ด้วยกัน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนทำให้รณณ์รู้สึกอึดอัดใจอย่างครั้งนี้มาก่อน รณณ์ไม่คิดว่าท่าทีของคุณดีนในตอนนี้คือการไม่พอใจเขา อีกฝ่ายคงแค่กำลังเว้นช่องว่างระหว่างกันเพื่อให้เขาสบายใจเท่านั้นเอง แต่ทำไมคนที่ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยอย่างเขาถึงกำลังรู้สึกเหมือนกำลังถูกเพิกเฉย


เหมือนคุณดีนกำลังหันหลังให้


หนังสั้นเซตแรกจบลงแล้วพร้อมกับการเบรกพักกลางวัน ดีนหันมาหมายจะถามคนข้างกายว่าจะไปพักด้วยกันหรืออยากไปกับเพื่อน แต่พอเห็นอีกฝ่ายเอาแต่นั่งกุมมือก้มหน้าเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา มือหนายกขึ้นตั้งใจจะเลื่อนไปกุมมือคู่นั้นด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ต้องชะงักเพราะคิดถึงเรื่องเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ จากที่เป้าหมายเป็นมือคู่นั้นกลับต้องเปลี่ยนไปวางลงบนไหล่เล็กแทน

 
“เป็นอะไรรึเปล่า?”


คนถูกทักสะดุ้งตัวเล็กน้อย “ปะ เปล่าครับ”


แม้ไม่เชื่อแต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ให้อีกฝ่ายรำคาญใจ “อืม ไปทานข้าวด้วยกันไหม”


คนเด็กกว่ามองตาแป๋วก่อนจะตอบรับด้วยการพยักหน้างึกงักรัวเร็ว


สองหนุ่มยืนขึ้นในตอนที่คนส่วนใหญ่กำลังทะยอยกันออกจากโรง ผู้คนเบียดเสียดกันจนดีนต้องรอให้มีพื้นที่ว่างสำหรับตนก่อนที่จะก้าวเดินบ้าง


คุณดีนเริ่มเคลื่อนตัวออกห่างไปแล้ว ในตอนนั้นเองที่รณณ์ตัดสินใจยื่นมือออกไปคว้าอีกฝ่ายเอาไว้ และตำแหน่งที่เลือกก็คือมือขวา สัมผัสอุ่นชื้นที่ได้รับแบบคาดไม่ถึงทำให้ดีนหันกลับมามองคนที่ยังเอาแต่ก้มหน้ามองพื้น ทว่าริ้วแดงระเรื่อที่พาดบนแก้มใสนั่นไม่อาจปิดบังความรู้สึกไว้ได้


ดีนมองภาพนั้นแล้วเผยยิ้มด้วยความเอ็นดู ตัดสินใจกระชับมือบางให้เข้าที่เข้าทางและแนบแน่นมากขึ้น เมื่ออีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะปฏิเสธก็ใจชื้น


“ผมถือว่าคุณตัดสินใจที่จะเดินไปด้วยกันแล้วนะ”
ดีนพูดเย้าทว่าไร้แววล้อหลอก คนฟังช้อนตามองก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่นไม่แพ้กันพร้อมยิ้มกว้าง “ครับ”


ดีนชอบที่รณณ์ยิ้มแบบนี้ เขามองว่ามันเป็นรอยยิ้มที่สวยและทำให้โลกของเขามันสว่างไสว แม้ว่าวันนี้จะมีพระเอกหนังสั้นคนหนึ่งยิ้มได้สวยกว่า แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เขารู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองไม่ได้หลงรักรอยยิ้มของใครง่าย ๆ หรือหลงรักผู้ชายทุกคนที่ยิ้มสวย





แต่เขาหลงรักรณณ์แค่คนเดียวต่างหาก


















TBC.
--------------------------------------------------------------------------------
หายไปนาน เค้าขอโทษ~~~~~
นอกจากจะไปเที่ยวมาแล้วยังงานเยอะอีกด้วย
ดีใจที่ยังมีคนรอคุณดีนกับน้องรณณ์นะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ที่ทั้งติและชมรวมถึงให้กำลังใจกัน
ตอนนี้อาจจะสั้นไปนิดเพราะไม่อยากให้รอนาน
ใครอยากรู้ว่าโอมอินและแฟนของเขาคือใคร ตามไปอ่านกันได้ที่ 「โรคประจำใจ」 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61653.msg3695501#msg3695501

ฝาก #ไม่ดิ้นรนหา ด้วยนะคะ

ด้วยรักและขอบคุณ

ธัญญ์


ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #169 เมื่อ24-09-2017 17:47:27 »

ขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
« ตอบ #169 เมื่อ: 24-09-2017 17:47:27 »





ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #170 เมื่อ24-09-2017 17:49:55 »

ฮือออ ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #171 เมื่อ24-09-2017 18:04:44 »

ยบ้างทีโลกก็หมุนไป แต่จะมีใคร ที่เข้าใจตัวเอง แล้วทำตามใจตัวเอง

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #172 เมื่อ24-09-2017 18:08:28 »

 :L2: :L1: :pig4:

ค่อยๆศึกษาใจตัวเอง

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #173 เมื่อ24-09-2017 19:40:20 »

เดินไปด้วยกันให้ยาวๆเลยนะ

ออฟไลน์ ravyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #174 เมื่อ24-09-2017 19:53:25 »

งือออออ พี่ดีนน้องรณณ์ดีกับใจมากเลยค่ะ เยียวยากาอนสอบมิดเทอมมาก 555555555555555555
เอ็นดูทั้งคู่เว่ออออ ไม่รู้จะอิจฉาใครระหว่างพีาดีนกะน้อง อยากได้ทั้งคู่เลย 5555555

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #175 เมื่อ24-09-2017 20:04:52 »

ในที่สุดก็มา ละมุนละไมมมมม

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #176 เมื่อ24-09-2017 20:18:46 »

คุณดีนน้องรณณ์ ละมุนละไมเหลือเกิน พร้อมเดินไปด้วยกันแล้วน้า  :-[
ชอบที่คุณดีน พูดเรื่องผิงชัดเจนไปเลย ดีที่ไม่ปล่อยให้น้องเข้าใจอะไรไปเอง
เรื่องของสามคนนั่น ก็ให้เขาไปจัดการกันเองเถอะ
ตอนนี้คุณดีน แค่ดูแลหัวใจน้องรณณ์ก็พอแล้ว
รอตอนต่อไปค่า ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #177 เมื่อ24-09-2017 20:53:20 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #178 เมื่อ24-09-2017 22:37:06 »

นึกว่าจาฝาด อหหหหห ดีใจที่มาต่อ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 14 [24/09/17] P.6
«ตอบ #179 เมื่อ24-09-2017 23:55:24 »

 :man1:

 :L2: :pig4: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด