•20•
“ไม่”
สิ้นเสียงคำตอบ ใจเราดิ่งไปถึงตาตุ่ม
“ยังไม่ต้องรีบตอบก็ได้...”
“ไม่เอาอ่ะ ยังไงปายก็ไม่อยากคบกับพี่คราม”
ยิ่งปายยืนยันยิ่งหายใจไม่ออกหนักกว่าเก่าอีก เหมือนโลกทั้งใบล่มสลาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีที่ให้ไปอยู่ดี ถึงต้องค่อยๆ จมสลายหายไปกับโลกพังๆ เบอร์นั้นเลยนั่นแหละ
เรารู้ว่าเราก็งี่เง่า เราหึง...เป็นใครบ้างจะไม่หึง เพื่อนปายที่ชื่อเมลล์แอดเฟสเราไว้สักพักแล้ว จู่ๆ วันนี้มันก็ส่งข้อความมาบอกว่าให้รีบไปรับปายด่วน ไม่ทันได้อธิบายเหตุผลอะไร ถามไปก็ไม่ตอบ จะโทรหาก็แบตมือถือเราหมดอีก เพราะนั่งรถมาค่อนวัน ไม่มีอะไรทำเลยเปิดเพลงฟังระหว่างทางกินแบตไปเรื่อยๆ อย่างนั้น
ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรถึงได้ไม่เผื่อแบตไว้ พอขาดการติดต่อกับปายก็ได้แต่รีบแจ้นมาหา เร่งไอ้ฟุ้งให้มันรีบๆ มาส่งที่หอเราจนไม่รู้ว่าไงดี รู้จักร้านที่ปายอยู่เลยไม่ยากที่จะหา กังวลก็แต่ปาย กลัวปายเป็นอะไร
เหนื่อยก็เหนื่อย ฝนก็ตกแต่ก็เป็นห่วงปาย กว่าจะหาที่จอดรถได้ก็ปาไปเป็นสิบนาที พอวิ่งตากฝนพรำๆ มาถึงหน้าร้านก็เห็นใครที่ไหนไม่รู้จูบหน้าผากที่แสนหวงของน้องมัน
ใครทำแมวกู!
อารมณ์ตอนนั้นเรียกได้ว่าขึ้นสูงชนิดที่หยุดไม่อยู่ โคตรหัวร้อน คิดถึงปายแทบบ้ากลับต้องมาเจออะไรแบบนี้หรอวะ แทบเข้าไปต่อยไอ้คนลามปาม กว่าจะใจเย็นลงได้ก็ตอนเห็นคนตัวเล็กตาแดง กัดปากอย่างข่มอารมณ์ตอนขึ้นเสียงดุ ตัวปายเปียกซ่ก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องมายืนตากฝน แต่พอคิดได้ว่าอาจจะเพราะน้องมารอเราก็รู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิม
รู้อยู่แล้วว่าปายต้องไม่พอใจที่เราต่อว่าขึ้นเสียงใส่ เห็นหน้าน้องตอนโดนดุ ครางเรียกชื่อเราก็รู้ตัวแล้วว่าทำผิด ปายคงอยากจะโมโหเราเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรน้องถึงกลับเรียกชื่อเราเสียอ่อนแรง
ราวกับหมดแรงโมโห
เห็นอย่างนั้นใจก็อ่อนยวบ พอโกรธแล้วมองอะไรก็ให้ทุกอย่างเป็นฝ่ายผิดไปหมด แต่กับปาย...เราใจอ่อนให้กับคนๆนี้เสมอ
ทั้งรู้สึกผิดทั้งหงุดหงิดทำให้เงียบใส่ปายแบบนั้น รู้ว่าน้องต้องเสียใจมากแน่ๆ กลัวก็แต่คำพูดในช่วงที่อารมณ์แปรปรวนจะทำให้ปายเสียใจยิ่งขึ้น จึงเลือกที่จะเงียบ
พอโมโหแล้วอะไรๆ ก็แย่ เสียใจที่ทำให้น้องเสียใจเหมือนกัน ปายนั่งเงียบมาตลอดทางจนใจแป้ว นั่งก้มมองพื้น ไม่จ้องเราเหมือนทุกที น้องคงตกใจที่เราไปขึ้นเสียงตวาดใส่ แต่ก็พยายามใจเย็นแล้วถึงได้เงียบใส่ปายเช่นนี้
กว่าอะไรๆ จะดีขึ้นก็ต้องมาพึ่งสีเทา ดีใจที่น้องยิ้มออก รู้ทั้งรู้ว่าที่ปายไปกับเพื่อนเก่าไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น แต่ก็อดห่วงไม่ได้ ดูมันดิ น่ารักขนาดนี้ ผู้ชายด้วยกันเองยังมองว่าน่ารัก และคงไม่ได้มีแค่เราคนเดียวแน่ๆ ที่มองปายอย่างนั้น คนอย่างปายจะมีคนอื่นเข้ามาหาก็ไม่แปลกถึงได้พยายามทำตัวเป็นเจ้าของเขาไว้
แต่ทำไมแม่งต้องมาในตอนที่กูไม่อยู่ด้วยวะ
ช่วยไม่ได้ อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป คำพูดแย่ๆ ที่เราพูดใส่น้องก็ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้เหมือนกัน พอคิดว่ามีคนเข้าหาน้องอย่างนี้แล้วจึงตัดสินใจทำอะไรให้มันชัดเจนเสียที
บอกตรงๆ ว่าระหว่างปายกับเรามันผ่านมาแค่เดือนกว่าๆ จำช่วงเวลาที่แน่นอนไม่ได้แล้วเหมือนกัน ไม่ใช่เวลาที่นานเท่าไหร่สำหรับเราหากคิดจะคบกัน แต่เพราะเป็นปาย เวลาสั้นยาวไม่สำคัญ แค่อยากเป็นเจ้าของเขาไปนานๆ ต่อจากนี้มากกว่าเท่านั้นเอง
ไม่คิดว่าคำตอบของน้องจะทำให้เราทรุดได้ขนาดนี้
เมื่อปายยืนยันว่าไม่อยากคบก็เป๋เลยกู ไปไม่เป็นเลย ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าน้องก็ชอบเราหรอวะ คลายอ้อมกอดก่อนลุกขึ้นยืน กะจะเดินไปนั่งพักที่เตียงไปทำใจ อยู่ห่างจากน้องก่อน แต่ไม่คิดว่าพอลุกขึ้นแล้วปายจะพุ่งมากอดอย่างนี้
“พี่คราม...”
“หืม”
“จะไปไหนอ่ะ ไม่กอดต่อหรอ”
“ปายหักอกพี่ขนาดนี้...” ให้ทำยังไงล่ะ ขอไปทำใจแปบดิ
“ปายเปล่านะ” คนน้องว่าร้องปฏิเสธ แต่มันก็เห็นๆ อยู่มาปงมาเปล่าอะไรเล่า “ปายไม่อยากคบกับพี่ครามไม่ได้หมายความว่าปายไม่รักพี่ครามซะหน่อย”
หืม?
“...”
เหมือนน้องก็เพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป จึงแสดงออกด้วยใบหน้าขึ้นสีทีหลัง ดวงตากลมเสหลบเรา จ้องพื้นกวาดสายตาไปมาแต่มือน้องยังยึดเราไว้เช่นเดิม
“คือ...” สปายว่าเสียงแผ่ว เรารอให้น้องว่าต่อ ไม่พูดขัดอะไร
“ปาย...ไม่อยากเป็นแฟนพี่ครามอ่ะ เป็นอย่างอื่นไม่ได้หรอ...”
“...อย่างเช่นอะไรล่ะ?”
“...แฟนคุณเกรย์งี้?”
“ไม่ได้ นั่นตัวผู้นะ”
“พี่ครามก็ตัวผู้”
“แต่พี่เป็นคนนะเห้ย” อะไรวะ ไม่อยากคบกับเราแต่อยากคบกับแมวงี้หรอ ใครมันจะไปยอม
“ก็...ไม่อยากถูกบอกเลิกหรือโดนไล่นี่...” ปายว่าเสียงแผ่ว และนั่นทำให้เราเลิกเถียงกับน้อง แม้น้ำเสียงจะเบาแต่ก็ได้ยินชัดเจนว่าปายพูดว่ายังไง
“ที่ว่าไม่อยากถูกบอกเลิกคือ?”
“ถ้าเป็นแฟนมันบอกเลิกกันได้นี่ ปายไม่อยาก..”
“แล้วคิดหรอว่าพี่จะบอกเลิก”
“ไม่รู้ ปายกลัว...”
“งั้นอยากเป็นอะไรดีล่ะ หืม?” เราว่า ให้โอกาสน้องเลือกใหม่
“ถ้าเป็น...ผู้ช่วยเลี้ยงแมว...แบบนี้ได้มั้ย”
“ทำไมล่ะ”
“จะได้ไม่ถูกบอกเลิกไง”
“แต่ผู้ช่วยเลี้ยงแมวก็ถูกเลิกจ้างได้นะ”
“แต่เลิกจ้างไม่ได้ห้ามให้เลิกรัก...”
ยอมเลย ยอมปายแล้ว ไหนใครบอกไม่ได้อ่อย นี่เล่นมาบอกรักกันถึงสองครั้งขนาดนี้ พี่จะบ้าตายแล้วปายเอ้ย อยากกัดให้จมเขี้ยว เรารวบรวมความคิดสติ ประมวลผลถึงสิ่งที่น้องพูดมาก่อนหน้านี้
“สรุปคือ...ปายไม่อยากเป็นแฟนเพราะไม่อยากถูกบอกเลิกใช่มั้ย”
“อืม”
“แล้วงี้ถ้าปายมีคนมาจีบหรือพี่ไปคุยกับใครก็ไปได้หรอ”
“ไม่ได้ดิ”
“อ้าว”
“พี่ครามอย่าจำกัดสถานะสิ เอาความรู้สึกเป็นตัวตั้งไม่ดีกว่าหรอ”
“ถึงอย่างนั้น ปายเองก็จำกัดสถานะไม่ใช่หรือไง ไม่ได้คบกัน ไม่ได้เป็นแฟนแต่ให้ทำทุกอย่างเหมือนคบกันอ่ะ”
“ก็ไม่เชิง...แต่บอกเลิกไม่ได้นะ เพราะไม่ได้คบ”
เออ เอากับเขาสิ
“ปายไม่รู้...ปายแค่...กลัวว่าถ้าวันหนึ่งปายยังรักพี่ครามอยู่ แต่พี่ครามไม่อยากอยู่กับปายแล้วจะทำยังไง พี่ครามจะบอกเลิกปาย ทิ้งปายให้อยู่คนเดียว ห้ามให้ปายไปหาอีกมั้ย
แต่ถ้าเป็นสถานะอื่น ถ้าพี่ครามเบื่อปายแล้วปายก็ยังรักพี่ครามได้อยู่ดี ปายยังมาหาพี่ครามในสถานะอื่นก็ได้ ไม่ใช่คนรักเก่าหรือแฟนเก่า ปาย...อยากให้เป็นความสัมพันธ์แบบนั้นแหละ”
เอ้า สามรอบ บอกรักกูไปสามรอบแล้วนะครับน้องปาย แม่งเอ้ย จะทำให้เขินทำไม จะทำให้ยุ่งยากทำไมด้วย ไอ้เด็กขี้อ่อยนี่
“พ่อแม่ปายหย่ากันเพราะหมดรัก ถึงเขาจะไม่ได้เกลียดปาย ติดต่อกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เคยกลับมาหากันอีกเลย ไม่เคยมาเจอกันอีก ปายไม่อยาก...ให้พี่ครามกับปายเป็นแบบนั้น...”
“โอเคครับพี่เข้าใจแล้ว”
พอปายอธิบาย เราก็เข้าใจแล้วทุกอย่าง ทุกอย่างที่ว่านั่นหมายถึงเรื่องที่ปายรักเรามากขนาดนี้ด้วย... น้องต้องรู้สึกกับเรามากขนาดไหนถึงขั้นคิดเผื่ออนาคต ไม่อยากห่างตัวเราขนาดนี้
คิดแล้วจั๊กจี้หัวใจเป็นบ้า
“แล้วอย่างนี้ถ้ามีคนถามว่าปายกับพี่เป็นอะไรกันจะต้องตอบว่าไง”
“อะไรก็ได้...แต่ให้พี่ครามรู้ไว้เฉยๆ ว่าไม่ได้คบกับปายนะ” จะได้ไม่ถูกบอกเลิกใช่มั้ย เข้าใจแล้ว
“งั้นให้พี่บอกว่าเป็นความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่สนิทและผูกพันเอาป่ะ”
“อย่ากวนดิ้”
เราหัวเราะขำ รวบตัวสปายไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง ไม่คบก็ไม่คบ ไม่ได้จริงจังกับชื่อเรียกความสัมพันธ์เหมือนกัน คิดว่าถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบมีชื่อเรียกจะทำให้อุ่นใจมากกว่า แต่เพราะปายสารภาพเช่นนั้นทำให้เรารู้ว่าบางอย่างใช้ความรู้สึกคงดีกว่าหาคำมาจำกัดความ ยังไงก็ไม่ได้ไม่พอใจกับความสัมพันธ์ตอนนี้ อยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ ก็ดีเหมือนกัน ขอแค่น้องไม่ได้เกลียดเราก็พอ
แม้จะกลายมาเป็นความสัมพันธ์ไม่มีชื่อเรียกเหมือนเดิม แต่เราก็มีคำตอบให้กับสถานะของปายหากมีใครสงสัย
กับปาย เรายอมให้ทุกอย่างนั่นแหละ
เสื้อเราชื้นน้ำจากน้องนิดหน่อย เห็นอย่างนั้นก็คิดว่าควรให้น้องไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอา พลางคิดอะไรได้บางอย่าง เพียงแต่ครั้งนี้เราไม่ได้เอ่ยบอกน้องจากปาก
ยกอุ้มปายเข้าห้องน้ำแม่งเลย
“พี่คราม!! พี่คราม!!!” แมวปายร้องโวยวายอย่างที่คิด พอปิดประตูห้องน้ำได้ก็วางน้องลงบนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า สอดตัวเข้าไปมอบจุมพิตให้สาแก่ใจ
อดใจไม่ไหวที่จะเอาคืนกับทุกสิ่งที่ปายทำมา ทั้งไปหาเพื่อนเก่าในที่อโคจร ทำให้เราเป็นห่วง ทั้งอ่อยเราก่อนหน้านั้นด้วย ที่เอาเข้าห้องน้ำเพราะน้องจะได้ไม่ต้องมาอ้างสีเทาอีก คนอะไรเขินแมว
“อือ...”
“พี่ก็รักปายนะครับ”
ว่าครั้งสุดท้ายก่อนเผด็จศึก ปล้ำจูบกับปายอยู่อย่างนั้น สอดใส่ลิ้นเข้าไปเชยชิมรสน้ำหวาน ตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กที่ไม่อาจหาทางหนี รุกล้ำเข้าอาณาเขตหวงห้าม กดจูบอย่างหนักย้ำซ้ำๆ บดคลึงริมฝีปากบางจนบวมแดง จูบซับหยาดน้ำใสที่ไหลออกมาจากปากเล็ก ไล่ไปจนถึงลำคอ อ้าปากงับต้นคอเขาจนปายสะดุ้ง สองมือขย้ำเสื้อเราเสียแน่น
“พี่คราม..” ทันทีที่ปล่อยให้ริมฝีปากแดงเป็นอิสระ น้องก็ร้องเรียกชื่อเรา ไม่ต้องการจะรู้ประโยคถัดจากนั้นจึงจัดการประกบจูบปากปิดปากสีเชอร์รี่นั่นเสีย คราวนี้สปายส่งเสียงร้องอื้ออึงในลำคอ หมดทางร้องต่อต้าน
ขยับมือเข้าไปในสาบเสื้อ วาดผ่านหน้าท้องขาว ปายเกร็งตัว เริ่มดิ้นขัดขืน แต่เพราะยังคงสาละวนอยู่กับปากน้องทำให้ร้องห้ามอะไรออกมาไม่ได้ ปายเองก็ดูจะไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้มากเท่าไหร่ ถึงได้ปล่อยให้เราลูบคลำตัวน้องต่อไป
ตัวปายเย็นจัด คงเพราะไปตากน้ำฝนมาทำให้ผิวเนื้อนุ่มอุณหภูมิต่ำเสียขนาดนี้ หรือไม่ก็...เป็นมือเราเองที่ร้อนเกินไป กดคลึงหน้าท้องลามไปถึงเอวบาง นวดเฟ้นจนปายบิดตัวเร่า ไล้ผ่านจุดอ่อนไหวจนปายต้องส่งเสียงร้องออกมาในลำคอ ใบหน้าหวานหลับตาปี๋ เกร็งไปทั้งตัว เห็นแล้วโคตรเอ็นดู
“พี่...” น้องว่าเสียงสั่น พยายามจะเอื้อนเอ่ยประโยคอะไรสักอย่างที่ไม่สำเร็จ เมื่อเราจัดการถอดเสื้อตัวเปียกของปายออก ก้มหน้าไปจุมพิตคนน่ารักก่อนฝังใบหน้าลงบนไหล่ขาว ละเลียดชิมผิวเนื้อขาวนวลอีกครั้ง ขบเม้มจนเกิดรอยจ้ำไปทุกพื้นผิว ไล่ลิ้นผ่านซอกคอขาววนไปจนถึงหน้าอก
ปายตัวกระตุกเมื่อสัมผัสโดนจุดอ่อนไหวสีสวยอีกครั้ง ร้องครางไม่เป็นภาษา ความรู้สึกไวไม่ต่างจากแมวเลย สองมือยังคงทำหน้าที่นวดเฟ้นร่างบางอย่างดี บดคลึงสะโพกเนียนไล้ลูบไปตามกระดูกสันหลัง ปายตัวอ่อนปวกเปียกซบลงไหล่เราอย่างหมดแรงต่อต้าน ไล่มือลงมาต่ำเรื่อยๆ จนถึงจุดโป่งพองกลางลำตัว
ปายสะดุ้งสุดแรง
“พี่คราม...ไม่...ไม่เอา”
น้องร้องเสียงสั่น น้ำเสียงเหมือนเชื้อเชิญยิ่งกว่าร้องห้ามอีก เสียแต่มือทั้งคู่ที่เคยขยุ้มเสื้อเราจนยับเลื่อนลงมากุมมือเราไว้ หมายจะดันออก
“พี่คราม ไม่เอา...ไม่ทำนะครับ...นะ”
“ทนไหวหรอ...”
“ปายทำ...ปายทำเอง” น้องร้องเสียงแผ่วเหมือนคนหมดแรง “พี่คราม...ออกไปก่อนนะ”
“นะ...” เพราะเป็นปายถึงรู้ว่าน้ำเสียงเหมือนเชิญชวนนี่เป็นการอ้อนวอนของจริง ดวงตากลมโตเคลือบไปด้วยหยาดน้ำใส เอ่อล้นด้วยไปด้วยแรงอารมณ์ ใบหน้าขาวในตอนนี้กลับขึ้นสีแดงเป็นปื้น เม็ดเหงื่อผุดตามใบหน้าหวาน ปากเจ่อบวม ร่างขาวนวลหอบสั่นระริก เห็นแล้วใครจะทนไหว
เออ เราไง
จุมพิตที่ปลายจมูกน้องก่อนผละตัวออกมา
“รีบๆ อาบน้ำนะครับ”
ว่าก่อนหนีออกจากห้องน้ำไป
...มากกว่ากูก็พระแล้วไอ้สัด!! กูควรไปบวช ไอ้แม่งเอ้ย!
เสียงกรีดร้องดังก้องอยู่ในหัว ร้องด่าตัวเองที่ปล่อยโอกาสดีๆ ไป ไอ้โง่ มึงนี่มัน! เป็นคนดีเกินไปมั้ย เนื้อชั้นดีวางอยู่ในปากขนาดนี้ยังคายทิ้ง ไอ้เวรคราม!
ใส่อารมณ์ลงที่หมอน อึดอัดกับส่วนกลางลำตัวเหมือนกันแต่ทำไงได้ น้องใช้ห้องน้ำอยู่ กะจะสั่งสอนทำโทษปายไม่คิดว่าจะโดนเสียเอง ฮือ โคตรโง่ เกือบจะได้บูบีอยู่แล้วไง
แง้ว
ไอ้แมวนี่เหมือนมาร้องด่าอ่ะ เราหยิบตัวสีเทาขึ้นมาไว้ข้างๆ ตัว สีเทาดมตัวเราฟุดฟิด ก่อนร้องแง้วง้าวอีกครั้ง
“ร้องไมวะ ข้าวก็ให้แล้วไง ปายก็ไม่ได้ทำอะไรไง ด่าทำไมล่ะโว้ะ”
คุยกับแมวเสียงเบา เหมือนบ่นงึมงำให้มันฟังมากกว่า ฮือ อยากกินสปาย สำนึกชั่วดีในหัวตีกันให้วุ่น กลอนห้องน้ำพังอย่าที่เคยบอก จะเปิดเข้าไปกินน้องให้มันจบๆ ไปเลยก็ได้ เสียแต่อีกใจก็ยังไม่อยากบังคับ โวยวายในใจจนเวลาผ่านไปสักพักน้องถึงออกจากห้องน้ำมา หันหน้าไปมองพบว่าปายยังหน้าแดงอยู่เลย โว้ย น่าฟัด
ปายยึกยักอยู่สักพักเหมือนไม่รู้จะทำหน้ายังไง ทนมองหน้าน้องมันนานๆ ไมได้เลยเข้าไปในห้องน้ำบ้าง ปล่อยให้น้องอยู่ข้างนอก สลับที่กันก่อนที่อารมณ์จะเตลิดไปมากกว่านี้ กลิ่นกายหอมฟุ้งของสปายหลังอาบน้ำเสร็จนี่ยั่วยวนน้อยเสียที่ไหน
หลังจากที่จัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยรวมถึงอารมณ์เย็นขึ้นแล้ว ก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาเผชิญหน้ากับปาย...ที่ไปทำอะไรไม่รู้อยู่ที่โซฟา
สปายจัดแจงเอาหมอนรองเบาะมาตั้งเป็นป้อม เอาหมอนหนุนมาวางไว้เป็นกำบัง มีสีเทาเป็นทหารเอกคอยเฝ้าอยู่ในป้อมปราการ...
“วันนี้ปายนอนนี่” ยัง...ยังมีหน้ามาพูดอีก ขนหมอนทั้งห้องมาวางไว้อย่างนั้นจะนอนยังไงเล่า
“ปายออกมานี่”
“ไม่เอา...”
“ปาย..” เราเริ่มส่งเสียงขู่
“ไม่เอา ไม่เอา เดี๋ยวพี่ครามหน้ามืดจะปล้ำปายอีกทำไง”
สะอึกเล็กน้อยเมื่อมีความผิดติดตัวอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้ “...ไม่ทำแล้ว ออกมาเถอะ มานอนดีๆ นี่”
“ไม่เชื่อ...”
“ไม่ทำจริงๆ ถ้ายังไม่ออกมาจะเปลี่ยนใจแล้วนะ” ว่าพลางเดินเข้าใกล้
แมวปายหลอกโคตรง่าย พุ่งพรวดออกมาจากป้อมปราการหมอนนุ่ม ขนหมอนหนุนโยนใส่เตียง จัดเบาะที่นั่งให้เข้าที่เข้าทาง อุ้มสีเทาก่อนมานั่งข้างๆ เรา
“ไม่ทำแล้วนะ”
ข่มอารมณ์ตอบ “เออ”
ทำไมน่ารักขนาดนี้นักนะ ตอนเด็กแม่ให้กินคิตตี้หรือไง
พอได้ยินคำยืนยันน้องถึงค่อยวางใจ ยอมปล่อยสีเทาในอ้อมกอดที่คิดว่าจะปกป้องหรือช่วยอะไรได้งั้นหรอถ้าเราคิดจะทำจริงๆ น่ะ หา ปายจัดแจงตัวเองให้เข้าที่พร้อมเข้านอน เพราะกว่าเรื่องวุ่นวายจะจบก็ดึกเข้าเสียแล้ว พรุ่งนี้แมวน้อยต้องไปเรียน
เลยลุกไปปิดไฟจัดแจงตัวเองให้เข้าที่บ้าง ล้มตัวนอนก่อนคว้าคนตัวเล็กมาซุกกอด สูดดมกลิ่นหอมที่คุ้นเคยให้ชุ่มปอดหลังจากที่ไม่ได้เจอตั้งสองคืน คิดถึงเป็นบ้า
“ฮื้อออ ไม่ทำนะ”
รู้แล้วน่า ให้คำตอบเป็นการกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้น
⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹
ไม่...ไม่มีอะไรหรอกจริงๆ หนูปายแค่ขี้กลัวไปหน่อยเอง555
สำหรับปายแล้วเราว่าปายต้องการความรักก็จริง แต่ก็ไม่ได้ต้องการสถานะ
น้องมีตัวอย่างจากพ่อแม่อยู่แล้วเลยไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
ยังไงตอนหน้าปายจะมาบอกเรื่องนี้ให้ชัดเจนอีกครั้ง
แต่เพราะพี่ครามต้องมาเสนอหน้าทุกๆ ห้าตอนเลยต้องให้เป็นฝั่งพี่ครามบรรยายไปก่อน
คนพี่นกอีกแล้ว สงสารเค้านะคะ5555
เป็นอีกตอนที่เขียนแล้วกังวลไม่น้อย
คิดเห็นอย่างไรติชมกันได้นะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะ