•23•
โคตรหื่น คนอะไร คนเราจำเป็นต้องหื่นตลอดเวลาขนาดนี้มั้ย พี่ครามพุ่งตัวเข้าใส่ผมทันทีที่แสดงความเป็นเจ้าของเสร็จ กว่าผมจะแงะพี่ครามออกจากตัวได้ก็แทบหมดแรง เหงื่อออกจนแทบจะหายไข้เลย พี่ครามก็โดนผมใช่น้อย ทั้งผลักทั้งข่วนไปขนาดนั้นแล้วยังไม่ยอมหยุดอีก สุดท้ายผมก็มีรอยประหลาดนี่เยอะกว่าเดิมอีก ไอ้เมลล์ได้มองผมแรงกว่าเดิมแน่ๆ
ถึงจะเกิดเรื่องแบบนั้น สถานการณ์สุ่มเสี่ยงแค่ไหนพี่ครามก็ยังหยุดให้ผมอยู่ดี จะว่าไงดีล่ะ ผมสู้แรงพี่ครามไม่ไหวอยู่แล้ว เหมือนมวยคนละรุ่น ถ้าพี่ครามคิดจะ ‘ทำ’ จริงๆ ขึ้นมาล่ะก็ยังไงผมก็สู้ไม่ไหวแน่ๆ พี่ครามเองก็น่าจะรู้ ถึงอย่างนั้นพี่ครามก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปกว่าการกอดกัดผมเลยสักครั้ง
ชอบก็ตรงนี้…
ไม่ได้รังเกียจพี่คราม แต่ยังไม่กล้าที่จะให้พี่ครามทำในตอนนี้ ไม่รู้เหตุผลอย่างอื่นนอกจากคำว่าเขิน
หลังจากวันนั้น ชีวิตระจำวันผมเริ่มกลับเข้าสู่วงจรปกติ ตื่นไปเรียนกลับมากอดคุณเกรย์ มีบ้างบางวันที่กลับไปนอนหอตัวเองเพราะต้องทำงานกลุ่ม แวะไปเยี่ยมพี่ฉางเป็นครั้งคราว แมวส้มยังคงนอนหน้าง่วงอยู่ตรงขอบรั้วบ้านเหมือนที่ผ่านมา ชีวิตประจำวันที่ไม่มีอะไรพิเศษ แค่ได้อยู่กับคนพิเศษผมก็มีความสุขมากๆ แล้ว
และหวังไว้ว่ามันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
จนกระทั่งผมตื่นมาไม่พบคุณเกรย์ในห้อง...วันนี้เป็นวันเสาร์ พี่ครามคุยกับผมเมื่อวานว่าจะกลับบ้านไปเยี่ยมครอบครัว เหตุเพราะไม่ได้กลับไปเจอหน้าพ่อแม่นานแล้ว ผมเองก็ไม่ขัดอะไร พี่ครามฝากฝังให้ผมดูแลคุณเกรย์ให้เหมือนทุกที ผมรับปากตามคำขอของคนตัวโต ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
หากแต่ตอนนี้ผมกลับไม่เจอคุณเกรย์
หาจนทั่วห้องแล้วก็ยังไม่เจอ ผมตื่นมาตอนสายๆ ไม่ได้ยินเสียงคุณเกรย์ร้องแง้วเลยสักนิด ไม่รู้ว่าเพราะผมหลับลึกหรือเพราะคุณเกรย์...หายไป
หายไปไหน? เมื่อคืนผมยังนอนกอดคุณเขาอยู่เลย
ผมค้นหาก้อนขนสีเทาจนทั่ว ทั้งห้องน้ำ ระเบียง ตู้เสื้อผ้า ใต้โต๊ะ ใต้เตียง ในเคาท์เตอร์ ทั่วห้องแล้วจริงๆ พอหาจนทั่วแล้วไม่เจอแม้แต่วี่แวว ใจผมเริ่มดิ่งลงเหว
“คุณเกรย์...อยู่ไหน ออกมาเถอะนะ”
ร้องอย่างใจเสีย ส่งเสียงเรียกคุณเกรย์เมี้ยวๆ ไม่หยุด ทว่าไม่มีอะไรออกมาหาผม เขย่าอาหารเม็ดก็แล้ว ดูตรงกระบะทรายก็แล้ว ไม่มีแม้แต่เงาของคุณเกรย์
หายไปตอนไหน?
เป็นปกติที่ทุกเช้าพอพี่ครามตื่นมักจะเปิดระเบียงเพื่อระบายอากาศ รวมถึงให้คุณเกรย์ออกไปทำธุระที่กระบะทรายข้างนอก ปิดไว้เพียงแต่บานมุ้งลวดที่สามารถสไลด์เปิดได้ และแน่นอน..คุณเกรย์สามารถเปิดประตูตรงนี้ออกไปนอกระเบียงได้หากต้องการทำธุระ
ผมไม่แน่ใจว่าตอนตื่นมาบานมุ้งลวดแง้มอยู่หน่อยๆ รึเปล่า
คิดได้ดังนั้นก็ใจหล่นวูบ หรือว่าคุณเกรย์จะเปิดประตูแล้วแอบออกไปไหน
ผมใจเสีย ใจเต้นระส่ำอยู่ข้างใน ทำอะไรแทบไม่ถูกแล้ว โทรหาพี่ครามปรากฏว่าโทรไม่ติด ไม่รู้ว่าสัญญาณไม่ดีหรือแบตหมด แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ผมใจไม่ดีเอาเสียเลย ผมรีบแต่งตัวออกจากห้องไปทันที
ค้นหาตามหอพี่ครามทั่วทุกมุม ค้นหาตามชั้นล็อบบี้ ออกไปตามที่จอดรถ ลานซักผ้า จุดทิ้งขยะ ในมือกดโทรหาพี่ครามไม่หยุดทว่าไม่เป็นผล ผมยังคงติดต่อพี่ครามไม่ได้
ครั้นจะไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิด พี่ยามก็ขอแลกบัตรประชาชนเพื่อดูว่าตรงกับชื่อเจ้าของห้องมั้ย แน่ล่ะ ผมไม่มีบัตรประชาชนของพี่คราม ทำเรื่องขอดูกล้องวงจรปิดไม่ได้ โทรหาก็ไม่ติด
ใจผมสั่นระรัว ความหวาดกลัวคืบคลานเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ผมไม่มีเบอร์ติดต่อคนอื่นๆ ทั้งเพื่อนพี่ครามหรือพี่บัว แม้กระทั่งเฟสบุ๊คพวกเขาผมก็ไม่มี พอคิดได้อย่างนั้นจึงรีบค้นหาเพื่อนในเฟสของพี่ครามทันที จนสุดท้าย...ผมหาใครไม่เจอเลย ไม่เจอเฟสพี่ฟุ้ง ไม่เจอเฟสพี่บัว ใจผมแป้วทันทีเมื่อรู้ตัวว่าเสียเวลามากขึ้นกว่าเดิมไปเสียแล้ว
ได้แต่โทรหาพี่ครามที่ยังไงก็ยังเป็นระบบฝากข้อความ ผมส่งข้อความไปหาพี่ครามในเฟสบุ๊ค ไม่ขึ้นคนอ่าน เมื่อทำอะไรไม่ถูก ความกังวลได้แต่ถาโถมเข้ามาใส่ ผมลุกขึ้นออกตามหาคุณเกรย์อีกครั้ง ส่งเสียงร้องเมี้ยวๆ ไปทั่ว ทั้งถามหาคนแถวนั้นว่าเห็นแมวเทาผ่านมาทางนี้ไหม ไม่มีคำตอบที่ผมต้องการ
จนหมดบริเวณรอบหอพี่คราม ผมขยายบริเวณค้นหาให้ไกลขึ้นไปอีก เดินตามทางฟุตบาท ฝ่าดงหญ้า เหยียบย่ำน้ำโคลน ฝ่าแดดจากแสงอาทิตย์ที่ร้อนระอุ เที่ยงกว่าแล้วแต่ผมก็ยังไม่พบคุณเกรย์ ระหว่างทางโทรหาพี่ครามไม่หยุด พอๆ กับสอบถามคนรอบข้างเรื่องแมวเทาขนฟู ไม่มีใครเคยเห็น
จินตนาการเลวร้ายต่างๆ กระหน่ำเข้ามาในหัวผมไม่หยุด คุณเกรย์จะเป็นอะไรมั้ย ตอนนี้จะไปอยู่ที่ไหน จะโดนใครทำอะไรหรือเปล่า อาจจะมีคนไม่ดีทำร้าย หรืออาจจะเจอหมาจรจัดไล่กัด หรืออาจจะโดนรถ...
คิดไปถึงขั้นนั้นจริงๆ
พอนึกถึง น้ำตาก็พาลจะไหลออกมาดื้อๆ
ผมกลั้นน้ำตา ออกตามหาคุณเกรย์ไม่หยุด ครั้งนี้ลองหาฝั่งถนนตรงข้าม แดดประเทศไทยยังคงร้อนอบอ้าวจนแทบจะเป็นลม แต่ผมจะเป็นอะไรไม่ได้ถ้าไม่เจอคุณเกรย์ ค้นหาต่อไปตามซอกซอย ริมเสา ข้างถังขยะ เปิดหาจนหมด สอบถามคนเดินไปมา ร้องเรียกหาคุณเกรย์จนเสียงแหบ แต่ยังหยุดไม่ได้
คุณเกรย์อยู่ที่ไหน
สูดน้ำมูกเข้า ไม่ใช่เวลามาร้องไห้ ผมเดินตามหาต่อไป ส่งรูปในมือถือให้คุณลุงคุณป้าที่ขายของแถวนั้นดู บอกว่าถ้าเจอแมวลักษณะนี้ให้ช่วยจับไว้ ไม่ก็ช่วยบอกผมว่ามันไปทางไหน ผมให้เบอร์ติดต่อ วิ่งพล่านหาคุณเกรย์ไปทั่วจนเหนื่อยหอบ ตอนนี้ผมมีแค่น้ำเปล่าตกถึงท้องแค่นั้น แต่กลับไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด
จนกระทั่งติดสินใจนั่งรถไฟฟ้าไปแถวหอผม เคยเจอคุณเกรย์หลงแถวนั้น ไม่มีอะไรแน่นอนว่าผมจะไม่เจอคุณเขาที่นั่นอีก เมื่อมีจุดหมาย ใจผมเริ่มชื้น ออกเดินทางตามหาทันที
เลี้ยวเข้าซอกซอยที่คุ้นชิน ตรวจสอบทุกแยกทุกหัวมุม ซื้อปลาทาโร่มาไว้ในกำมือ เผื่อว่าคุณเกรย์จะได้กลิ่นที่คุ้นเคยแล้วออกมาหากันเหมือนครั้งแรกที่ได้เจอ รอบหอจนทั่ว ไม่มีวี่แวว
ผมเดินผ่านบ้านพี่ฉาง ครั้งแรกไม่เจอพี่ฉางอยู่ประจำ แต่ครั้งนี้ผมเจอพี่ฉางนั่งหลับตาพริ้มอยู่บนรั้วบ้านสีขาว ผมเดินตรงเข้าไปหา รู้ทั้งรู้ว่าแมวไม่เข้าใจภาษาคนแต่ก็ยังอดถามไม่ได้
“พี่ฉางเห็นคุณเกรย์มั้ย”
“พี่ฉางถ้าเห็นแมวสีเทาช่วยบอกปายได้มั้ย”
“ตอนนี้ปายไม่รู้จะทำยังไงแล้ว...”
สุดท้าย ผมก็ยืนน้ำตาไหลอยู่ตรงนั้น กำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น ติดต่อพี่ครามไม่ได้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพี่ครามกลับมาไม่เจอคุณเกรย์เขาจะต่อว่าผมแค่ไหน จะเกลียดผมมั้ยที่ดูแลคุณเกรย์ไม่ดี แล้ว...เขาจะไล่ผมให้ออกไปไหม หรือพี่ครามอาจจะบอกว่าไม่เป็นไรแล้วช่วยผมตามหา ผมไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้เป็นห่วงคุณเกรย์ ผมต้องเจอเขาให้ได้
ทว่าตอนนี้จิตใจอ่อนแอเหลือเกิน ทุกอย่างถาโถมกระหน่ำเข้าใส่ผม ทั้งความคิดร้ายๆ จินตนาการแย่ๆ กัดเซาะสมองและจิตใจผมอย่างไม่มีชิ้นดี ภาพคุณเกรย์บาดเจ็บลอยอยู่ในหัวผมเต็มไปหมด รวมไปถึงภาพพี่ครามที่มองผมอย่างผิดหวังและหมดเยื่อใย
น้ำตาผมไหลหนักมากขึ้น
เมี้ยว...
เสียงแมวส้มตรงหน้าร้องขึ้นทำให้ผมเงยหน้ามาสบตากับพี่ฉาง แน่ใจว่าเสียงร้องแผ่วเบานั้นต้องเป็นของแมวตรงหน้าผมแน่ๆ
“ปายควรทำยังไงดี...” ผมร้องเสียงสั่น คุยกับแมวตรงหน้าอย่างอับจนหนทาง พี่ฉางไม่ตอบกลับอะไรแล้ว เพียงแค่เหม่อมองผมนิ่งๆ
ผมอุ้มพี่เขาขึ้นมากอด ซุกหน้าพร้อมน้ำตาลงบนขนสีส้มสักพักก่อนผละออก
“ขอบคุณนะพี่ฉาง ปายไปหาคุณเกรย์ต่อนะ” ว่าพลางอุ้มพี่ฉางไว้บนรั้วสีขาวที่เดิม แมวส้มแค่ขยับตัวจัดท่า มองหน้าผมนิ่งๆ ไม่เอ่ยอะไร ผมลูบหัวพี่เขาอีกครั้งก่อนจากไป
ตามหาคุณเกรย์อีกครั้ง
แถวหอผมไม่เจอแม้แต่วี่แววเช่นกัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนแล้วจึงเลือกเดินหาแถวหอผมต่อไป แดดร้อนจนแทบไหม้ แต่ตอนนี้ใจผมร้อนยิ่งกว่า
ผมตัดสินใจกลับหอพี่ครามอีกครั้ง เผื่อว่าอาจจะมีใครเจอคุณเกรย์แล้วก็ได้ ทว่าเมื่อถึงหอพี่คราม ผมเดินถามหาทุกคนที่ผมฝากมองหาแมวสีเทา คำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เห็น
ผมทรุดตัวอยู่หน้าซอยนั้น
พี่ครามรับสายปายหน่อย…
ตอนนี้ ต่อให้พี่ครามต่อว่าผมรุนแรงแค่ไหนก็ไม่สนใจแล้ว ชีวิตหนึ่งกำลังจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่รู้ ผมขอแค่คุณเกรย์ปลอดภัย แค่นั้นจริงๆ ผมลุกขึ้นยืนใหม่ ค้นหาบริเวณหอพี่ครามอีกรอบ
ตะวันเริ่มตกดินแล้ว ไม่มีวี่แววของคุณเกรย์
ทั้งเหนื่อยและล้า แต่ยังหยุดไม่ได้ ผมยอมแพ้แค่นี้ไม่ได้ คุณเกรย์จะเป็นยังไงไม่รู้ ผมยังกลับห้องไม่ได้ ค้นหาต่อไปอย่างไม่ลดละ
จนกระทั่งแสงสว่างหมดวัน ท้องฟ้ามืดสนิท ผมไม่สามารถค้นหาคุณเกรย์ต่อได้ในเวลาแบบนี้ ผมรู้ว่ามืดขนาดนี้คงยากที่จะเจอตัว ใจหมดหวังท้อแท้ เดินขาลากกลับห้องพี่ครามอย่างจำใจ เหมือนรับรู้ความรู้สึกของพี่ครามตอนคุณเกรย์หายได้เลย ต้องกระวนกระวายแค่ไหนตอนนี้ผมรู้ซึ้งมันดีแล้ว
ก้าวขึ้นบันไดอย่างเหนื่อยล้า ทั้งวันผมไม่ได้ทานอะไรเลย หิวจนเลิกหิวเมื่อคิดว่าอาจจะมีใครที่หิวกว่า เสียใจที่ตัวเองไม่ยอมตื่นเช้า เกลียดตัวเองที่สุดท้ายก็หาคุณเกรย์ไม่เจอ
ผมก้าวมาถึงหน้าห้องพี่คราม แสงสว่างจากประตูห้องลอดผ่านช่องว่างทำให้ผมรู้ว่าพี่ครามกลับมาแล้ว
“พี่คราม”
ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป ตั้งใจว่าจะบอกเรื่องคุณเกรย์ทันที แต่ทว่าน้ำตาที่กลั้นไว้ทั้งวันกลับไหลออกมาไม่หยุดเมื่อเห็นหน้าพี่คราม เจ้าของห้องกำลังเสียบที่ชาร์ตมือถือ ก่อนทำหน้าตกใจเมื่อเห็นผม เดาว่าพี่ครามคงเพิ่งกลับ
“ปาย เป็นอะไร พี่พึ่งมาถึงไม่เจอปายนึกว่าหายไปไหน”
คนตัวโตว่าพลางก้าวเข้ามา
“ปาย ปายร้องไห้ทำไมครับ ใครทำอะไรแมวพี่”
“พี่คราม...ปายขอโทษ” ผมว่า พยายามกลั้นเสียงสะอื้นแต่ทำไม่ได้ เสียงผมสั่นจนแทบจับใจความไม่ได้แล้ว
“ปาย เป็นอะไร ชู่ว” พี่ครามดึงผมเข้าไปในอ้อมกอดใหญ่ กอดแน่นพร้อมกับลูบหลังผมไม่หยุด ถ้าพี่ครามรู้ว่าผมทำแมวหายพี่ครามจะว่ายังไงกันนะ...
ผมร้องไห้หนักกว่าเดิม
“พี่คราม...คุณ...คุณเกรย์..หายไป ปาย...”
“หืม?”
“คุณเกรย์ ฮึก...ปาย หาจนทั่วแล้ว ไม่เจอ...หาทั้งวัน...คุณเกรย์..”
ผมสะอื้นไม่หยุด น้ำตาไหลออกมาราวกับน้ำตก ปล่อยโฮจนพูดไม่เป็นภาษา สะอึกสะอื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกอารมณ์ตีกันเมื่อเจอหน้าพี่คราม ผมเสียใจ เสียใจมากจริงๆ กับเหตุการณ์ในวันนี้ ผมผิดเอง
“ปาย ใจเย็นๆ นะ คุณเกรย์ทำไม?”
“คุณเกรย์...หายไป ตั้งแต่เช้า...ปายไม่เจอ ฮึก พี่คราม...ปายขอโทษ...”
คนตัวโตกระชับอ้อมกอดแน่น ลูบหลังไม่หยุด ส่วนผมเองก็สะอื้นไม่หยุดเช่นกัน หายใจหอบแรงจนพูดไม่เป็นภาษา
“พี่คราม...เราขอดูกล้องวงจรปิดได้มั้ย...ปายไม่รู้ ฮึก..ว่าคุณเกรย์อยู่ไหน...ออกไปไหน”
“ปาย...ที่ว่าคุณเกรย์หาย...?”
“อือ...ปายไม่เจอตั้งแต่เช้า โทรหาพี่ครามไม่ติด...ตามหาแล้ว...แต่ไม่เจอ ฮึก ปายขอโทษ...ปายดูแลไม่ดี”
“ปาย...ฟังพี่นะครับ คือว่า คุณเกรย์...สีเทาน่ะ”
“ปายขอโทษ..”
“ไม่ๆ ปายฟังพี่ สีเทาไม่ได้หายไปไหนนะ...”
“แต่ปาย...ไม่เจอ”
“ปายครับ ฟังพี่ก่อน พี่ครามขอโทษนะ พี่ไม่ได้บอกปายว่าพี่เอาสีเทาไปเยี่ยมแม่ด้วย...”
“...”
“คือว่า...แม่พี่เพิ่งมาบอกเมื่อเช้าว่าอยากเจอหน้าสีเทา เพิ่งมาบอกตอนพี่กำลังจะออกจากหอแล้วพี่เห็นปายหลับอยู่เลยไม่ได้ปลุก...”
“....”
“เลย...พาสีเทาไปหาแม่ คือพี่ก็รีบด้วย แล้วมือถือพี่ก็ไม่ได้ชาร์ตไว้...แบตหมด ทั้งวันก็มัวแต่ยุ่งกับที่บ้านจนไม่ได้หาที่ชาร์ตแบต ไม่ได้รับสายปาย ขอโทษนะครับ”
“....”
“ปาย พี่ขอโทษ...”
“แล้วตอนนี้คุณเกรย์...”
“อยู่กับแม่พี่ครับ แม่ขอสีเทาค้างที่บ้านคืนนึง เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปรับกลับ”
“...”
“ปาย พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ ขอโทษนะครับ มันกะทันหันมากจริงๆ ไม่ได้บอกเราก่อน”
ผมไม่ตอบ ยืนนิ่งเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เข้าใจแล้ว
โคตรโกรธอ่ะบอกเลย
ไม่เคยเสียใจอะไรขนาดนี้ พอๆ กับไม่เคยโกรธใครมากขนาดนี้มาก่อน
ผมสะบัดตัวออกจากพี่คราม เดินเลี่ยงไปยังเตียงนอน ค้นหาเป้ตัวเองก่อนเริ่มเก็บของ
“ปาย จะไปไหนครับ”
“กลับหอ”
“ไม่ๆ ปาย ไม่กลับนะ พี่ขอโทษ ขอโทษมากๆ ขอโทษนะครับ ปาย...ปายครับ”
พี่ครามว่าเสียงอ่อน จนผมหันไปตวาด อย่างห้ามอารมณ์ไม่ได้
“พี่ครามไม่บอกปายแล้วยังจะแบตหมด ปายติดต่อไม่ได้ ตื่นมาคุณเกรย์ก็หายไป ใครจะไปรู้ว่าพี่ครามเอาไปด้วย”
“ปาย...พี่..”
“ปายหาคุณเกรย์ทั้งวัน หาจนทั่ว ไม่ได้กินข้าว ตากแดดหาคุณเกรย์จนไปถึงแถวหอปาย ปายไม่เจออะไรเลย พี่ครามคิดว่าปายต้องรู้สึกยังไง ฮึก” ไม่ไหว น้ำตาผมตีขึ้นมาอีกแล้ว
“ขอโทษนะครับ พี่ขอโทษ”
“ทั้งกลัว กังวลไปหมดว่าคุณเกรย์จะเป็นอะไร...ฮึก หาแล้วหาอีก ไม่เจอ ติดต่อพี่ครามไม่ได้ ฮึก...ถามหาทุกคนจนทั่ว” ผมปาดน้ำตา ว่าต่อ
“มันลำบากนักหรอที่จะบอกปายสักนิดอ่ะ แปะโน้ตก็ได้ ทำไมไม่คิดวะ”
“ปายพี่ขอโทษ...”
“พี่ครามแม่งเหี้ย”
จนสุดท้าย ผมกลับหลุดต่อว่าพี่ครามด้วยคำหยาบคาย ไม่เคยว่าใครรุนแรงเท่านี้มาก่อนเลย ว่าจบ น้ำตาผมไหลไม่หยุดกว่าเดิมจนไม่สามารถพูดออกมาให้เป็นคำได้ สะอึกสะอื้นจนพี่ครามเข้ามากอดไว้เสียแน่น พร่ำบอกคำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผมทั้งดีใจและโล่งใจที่คุณเกรย์ไม่เป็นอะไร ถึงอย่างนั้นก็โกรธพี่ครามมากจนแทบจะแหกอกให้ตายไปข้าง ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ความรู้สึกต่างๆ ในวันนี้มากเกินกว่าผมจะรับไหว ทั้งตกใจ กลัว เสียใจ ดีใจ โล่งใจ ตีรวนกันมั่วไปหมด
จนกระทั่งผมสงบจิตสงบใจได้แล้ว ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองนั่งจมอยู่ในอ้อมแขนคนตัวโตที่ทั้งกอดทั้งลูบผมไม่หยุด ฮึ่ย โกรธมากนะ แต่ทำไงได้ พี่ครามคงไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ ถึงอย่างนั้นก็โกรธพี่ครามอยู่ดีที่ไม่ยอมพยายามบอกผม
พี่ครามจูบซับน้ำตาผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือใหญ่กุมแก้มผมไว้อย่างอ่อนโยนแผ่วเบา ราวกับกลัวผมจะเป็นรอย รับรู้ได้ว่าพี่ครามสำนึกผิด แต่ความผิดที่ก่อมันมากเกินกว่าที่ผมจะให้อภัยได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
ปาดน้ำตา ถอนตัวจากอ้อมกอด ลุกไปหาอะไรกินในตู้เย็น ไม่สนใจทำเรียกทักของเจ้าของห้อง หาอะไรกินเป็นอย่างแรกของวันก่อนจะเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวออกมาล้มนอนบนเตียง อยากจะล้มตัวนอนเลยเหมือนกันแต่เพราะเหงื่อท่วมตัวจนเหนอะหนะไปหมดถึงได้อาบน้ำก่อน
ในตอนแรก ผมโกรธพี่ครามจนอยากจะกลับหอตัวเองทันที แต่พอคิดว่าคุณเกรย์ปลอดภัยแล้วผมก็โล่งใจขึ้นมาก อาการเหนื่อยเพลียทั้งวันเริ่มจู่โจมใส่จนคร้านที่จะหนีเขากลับหอตัวเอง
“ปาย..”
พี่ครามเรียกผมเป็นครั้งที่หลายร้อยในรอบชั่วโมง เมื่อผมจงใจเมินพี่คราม
สอดตัวเข้ากับผ้าห่มผืนใหญ่ จัดแจงท่าทางหมายจะเข้านอน ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ขยับตัวมากที่สุดเท่าที่จำความได้เลยมั้ง เพลียทั้งแดดทั้งควัน เจอคนเยอะแยะจนเหนื่อย ไหนจะไม่ได้กินข้าวสักมื้ออีก พอแล้ววันนี้ เหนื่อยทั้งวันแล้ว ขอพัก
พี่ครามขยับเข้ามาหาผม ก่อนที่มือใหญ่จะคว้าถึงตัว ผมรีบบอก
“คืนนี้ไม่ต้องนอนกอดปาย”
⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹
คนร้ายที่แท้จริงก็คือ...
พี่ครามนั่นแหละ!!
แฮ่
น้องเกือบจะยอมอิพี่อยู่ร่อมๆ แล้ว
ทำตัวนิสัยไม่ดีแบบนี้ถูกน้องแบนไปนานๆ เลย555555
ให้เป็นดราม่าที่หนักที่สุดของเรื่องนี้แล้วค่ะ(?)
น้องร้องไห้หนักขนาดนี้ ไม่เจอที่ไหนแล้ว งือ
