ชมนาดเย้าภุมริน [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนพิเศษ๐๒-๐๓ ๑๖.๐๕.๖๑ หน้า ๐๗
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ชมนาดเย้าภุมริน [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนพิเศษ๐๒-๐๓ ๑๖.๐๕.๖๑ หน้า ๐๗  (อ่าน 105538 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ namtan15

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ๑๕



“กรี๊ดๆๆๆๆๆ”การะเกดหวีดร้องจนเรือนใหญ่แทบจักแตก ท่านเศรษฐีตามไปดูอาการบุตรอยู่ที่เรือนเล็ก ที่เรือนใหญ่เพลานี้ก็มีเพียงสุพจน์แลบ่าวที่ต้องมานั่งฟังเสียงแหลมหวีดร้องของหญิงสาว

“จักหวีดร้องทำไมหนักหนาน้อง!!....”

“เงียบไปหนาเจ้าคะคุณพี่...กรี๊ดดดดด”หวีดร้องระบายอารมณ์เกรี้ยวกราด เจ้าชมนาดบังอาจนัก

“......”ส่ายหน้าแลลงจากเรือน ข้าไปดูอาการพระชายาเห็นจักดีกว่ามานั่งฟังเสียวหวีดร้องแหลมราวกับเปรตเยี่ยงนี้



   สุพจน์เดินไปยังเรือนเล็กอันเป็นที่ประทับขององค์ภุมรินแลพระชายาชมนาด สุพจน์เข้าไปนั่งข้างพ่อตาเฒ่าที่มีสีหน้ากังวล

“คุณพ่อขอรับ..เอ่อ พระชายาทรงเป็นอย่างไรบ้างหรือขอรับ”

“ข้าก็ยังมิรู้ดอก หมอหลวงแลฝ่าบาทท่านยังมิออกมาเลย”


แกร๊ก


“ท่านเศรษฐี”

“ฝะ ฝ่าบาท..พระชายาทรงเป็นกระไรหรือพะย่ะค่ะ ทรงเป็นอย่างไรบ้าง”

“ใจเย็นๆเถิด..เจ้าชมนาดมิได้เป็นกระไรก็แค่แพ้ท้องธรรมดานั่นแล หายไปนานแล้วหนา แต่วันนี้กลับมาแพ้อีก เจ้าตัวน้อยคงมิชอบหน้าใครเข้ากระมังจึงเกเรเยี่ยงนี้”ตรัสแขวะบุตรชายท่านขุนเข้าให้

“เยี่ยงนั้นหรือพะย่ะค่ะ”

“ท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเถิดท่านเศรษฐี เจ้าชมนาดมิเป็นกระไรดอก”

“อ่า..เยี่ยงนั้นกระหม่อมทูลลาหนาพะย่ะค่ะ ไว้วันพรุ่งหม่อมฉันจักมาเยี่ยมพระชายา”

“อืม...”


.
.
.


“เสด็จพี่...ฮึก”เจ้าชมนาดงอแงเมื่ออาการแพ้ท้องกลับมาอีกครา แลอีกทั้งยังมีไข้อ่อนๆอีก

“ไม่ร้องหนาคนดี”ลูบกลุ่มผมนุ่มปลอบ พลางใช้พระดรรชนีปากน้ำตาให้น้องแผ่วเบา

“ฮึก...น้องเจ็บหน้าอกพระเจ้าค่ะ”หมอหลวงผู้ทำการรักษาทูลว่า การที่ทรงเจ็บพระถันนั้นเป็นผลมาจากการตั้งครรภ์ มิได้มีอันตรายใดๆ ก็พอจักทำให้องค์ภุมรินทรงเบาพระทัยไปได้บ้าง

“หืม...ไหนมาพี่นวดให้หนา”ทรงยันพระวรกายตะแคงข้างเข้าหาเจ้าชมนาด ท้าวพระกรกับพระยี่ภู่ ตรัสแลปลดผ้าแถบคาดอกสีหวานของเมียออก เผยให้เห็นหน้าอกเป็นกระเปาะ เม็ดบัวสีหวานบวมตึง พระหัตถ์อุ่นกอบกุมบัวงามดอกเล็กแลออกแรงคลึงเบาๆที่ฐานบัว

“อึก...เสด็จพี่เจ็บพระเจ้าค่ะ ฮึก ไม่เอาแล้ว น้องเจ็บ”ปัดพระหัตถ์ออกก่อนจักพลิกตัวซุกหน้ากับพระอุทร แขนเล็กกอดพระภัสดาไว้แน่น

“เยี่ยงนั้นนอนหนาคนดี..ประเดี๋ยววันพรุ่งตื่นมาก็คงทุเลา”ขยับพระวรกายลงนอนข้างกายบาง

“ฮึก...พระเจ้าค่ะ”มินานเจ้าชมนาดก็เข้าสู่นิทรารมณ์

“อย่าเกเรนักเลยเจ้าภุชงค์...แม่เจ้าไม่สบายเยี่ยงนี้ พ่อใจมิดีหนา”ตรัสกับคนในครรภ์เบาๆ แย้มพระโอษฐ์น้อยๆอย่างมีความสุข ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์ตามเจ้าชมนาดไป


.
.
.


“ทรงเป็นเยี่ยงไรบ้างหรือพะย่ะค่ะ”รุ่งเช้าเศรษฐีเฒ่ารีบรุดมาเยี่ยมบุตรชายแต่เช้า พร้อมสำรับที่มีแต่อาหารบำรุงครรภ์

“ข้ามิเป็นไรแล้วขอรับท่านพ่อ...ต้องขอโทษด้วยที่เมื่อวานทำให้ท่านตกใจ เจ้าตัวน้อยเกิดเกเรกระไรขึ้นมาข้าก็มิรู้”ว่าแล้วยิ้มให้คนเป็นพ่อ

“หากมิเป็นกระไรแล้วหม่อมฉันก็ค่อยเบาใจพะย่ะค่ะ”

“จ้ะ...แลท่านพ่อทานข้าวหรือยังขอรับ”

“ยังเลยพะย่ะค่ะ...หม่อมฉันรีบมาเข้าเฝ้าพระองค์ก่อน แลค่อยกลับเรือนไปกินพะย่ะค่ะ”

“เยี่ยงนั้น ทานกับข้าซะที่เรือนเล็กนี่เลยสิขอรับ”

“หม่อมฉันมิกวนพระองค์แลฝ่าบาทดีกว่าพะย่ะค่ะ ประเดี๋ยวจักกลับไปกินที่เรือนใหญ่”

“กวนที่ไหนกันท่านพ่อ ว่าไปนั่นหนาขอรับ”

“อ่า...”

“เยี่ยงนั้นข้าตามใจท่านหนาขอรับ หากจักกลับไปกินที่เรือนใหญ่ข้าจักให้ข้าหลวงแบ่งกับข้าวให้”

“ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”

“จ้ะ...”


   เมื่อพ่อตากลับเรือนใหญ่ไปแล้ว องค์ภุมรินก็หันมาเอาอกเอาใจเมียรัก เจ้าชมนาดคนงามของพระองค์นั่งเอนหลังพิงหมอนสามเหลี่ยมใบโต มือบางลูบครรภ์ตนไปมา

“เจ้าชมนาด”

“พระเจ้าค่ะ”

“พี่ว่าครรภ์เจ้าโตขึ้นหรือไม่หนาน้อง”

“น้องก็ว่าโตขึ้นพระเจ้าค่ะ ย่างเข้าเดือนที่ห้าแล้ว ลูกคงจักตัวใหญ่ขึ้นกระมังพระเจ้าค่ะ”

“ลูกพ่อคงจักแข็งแรงน่าดู”

“คิกๆ คงเป็นเยี่ยงนั้นแลพระเจ้าค่ะ”

“ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันคิดว่าครรภ์ของพระชายาทรงใหญ่กว่าหญิงที่มีท้องแรกทั่วไปหนาเพคะ”ข้าหลวงสาวคนหนึ่งเอ่ยทูล

“เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน”

“หญิงที่มีท้องแรกสี่ ห้าเดือนท้องหรือก็ยังเล็กนิดเดียว แต่ครรภ์ของพระชายาทรงใหญ่ราวกับคนท้องหกเดือน ทั้งๆที่ทรงตั้งครรภ์ได้เพียงสี่ย่างห้าเดือนหนาเพคะ”

“เจ้าว่าครรภ์ข้ามันผิดปกติหรือ”เจ้าชมนาดเบ้หน้าเมื่อได้ฟังที่ข้าหลวงสาวว่า

“ใจเย็นๆก่อนหนาน้อง”รั้งร่างเมียเข้ามาปลอบ ก่อนจะมีรับสั่งให้ตามหมอหลวง


.
.
.


“ทูลฝ่าบาท องค์รัชทายาทในครรภ์ของพระชายานั้นแข็งแรงดีแน่นอนพะย่ะค่ะ”

“แน่หรือ ตรวจแน่แล้วหนา”

“พะย่ะค่ะ หม่อมฉันเอาหัวเป็นประกันเลยว่าองค์รัชทายาทในครรภ์ แลพระวรกายของพระชายานั้นแข็งแรงดีพะย่ะค่ะ”

“แลเหตุใดท้องข้าถึงได้ใหญ่กว่าหญิงท้องแรกคนอื่นเยี่ยงนี้เล่าท่านหมอ”เจ้าชมนาดว่า มือบางคอยโอบประคองครรภ์ตนไม่วางมือ

“เรื่องนี้หม่อมฉันก็มิทราบพะย่ะค่ะ..ขอทรงอภัย หม่อมฉันสมควรตายนัก”หมอหลวงกล่าวก่อนจะหมอบกราบแนบพื้น

“เสด็จพี่...”

“มิเป็นไรหนาน้อง...แลแน่ใจใช่ไหมว่าทั้งเจ้าชมนาดแลลูกข้าแข็งแรง”ตรัสปลอบเมียรัก แลผินพระพักตร์พระปุจฉากับหมอหลวง

“พะย่ะค่ะ หม่อมฉันแน่ใจ”

“อย่าทรงกังวลพระทัยไปเลยเพคะ คงจักมิใช่ทุกคนดอกที่จักท้องเล็ก..หมอหลวงท่านว่าแข็งแรงทั้งแม่แลลูกเยี่ยงนี้คงจักมิมีกระไรดอกเพคะ”อุ่นว่าปลอบพระชายา

“จริงหรืออุ่น”

“เพคะ...อย่าทรงกังวลไปเลยหนาเพคะ ประเดี๋ยวจักกระทบองค์รัชทายาทในครรภ์ได้”

“นั่นสิน้อง...ลูกคงตัวใหญ่กระมังท้องเจ้าจึงใหญ่เยี่ยงนี้”

“คิกๆๆๆ”หัวเราะเสียงใสเมื่อได้ฟังที่พระภัสดาตรัส ลูกคงตัวใหญ่จริงๆกระมัง


.
.
.


   หลังจากให้หมอหลวงตรวจครรภ์แล้ว องค์ภุมรินก็พาเจ้าชมนาดนอนพักภายในห้องนอน พระหัตถ์ลูบกลุ่มนุ่มจนน้องหลับก่อนจะบรรทมตามเมียรักไป หากแต่เพียงไม่นานเจ้าชมนาดก็ลืมตาตื่นขึ้น นัยน์ตากวางทอดมองพระพักตร์งามของพระภัสดา ริมฝีปากนุ่มกดจูบแผ่วเบาบนพระนลาฏ ก่อนจักขยับลุกจากพระเตียงนอน เจ้าชมนาดคว้าผ้าไหมสีหวานคลุมไหล่ตน แลออกจากห้องนอนตน

“พระชายาจักทรงเสด็จไปไหนเพคะ”อุ่นรีบเอ่ยถามเมื่อเจ้าชมนาดก้าวพ้นบานประตู

“พระภัสดาทรงบรรทมอยู่ ข้าว่าจักไปเดินเล่นรอบๆเรือนเสียหน่อย”มือเล็กผลักบานประตูให้ปิดลงเบาๆ ก่อนจักหันมากล่าวกับบ่าวคนสนิท

“ให้บ่าวไปเป็นเพื่อนหนาเพคะ”อุ่นว่าพลางประคองร่างบางท้องโย้ลงบันได

“มิต้องดอกข้าจักไปเอง เจ้าไปเตรียมของว่างถวายฝ่าบาทเถิด หากทรงตื่นบรรทมจักได้เสวยกระไรรองท้องเสียหน่อย”สั่งก่อนจะค่อยเดินประคองท้องตน เดินชมนกชมไม้รอบๆเรือนเล็ก  รอยยิ้มหวานจุดประกายขึ้นเมื่อได้เห็นต้นลำไยที่เมื่อครั้งอดีตได้ออกคำสั่งให้พระภัสดาปลูก ผ่านไปไม่นานเท่าใด แต่ต้นลำไยนี้กลับโตวันโตคืน

“หึ...”เสียงขึ้นจมูกที่ดังขึ้นด้านหลังทำเอาเจ้าชมนาดหุบยิ้ม แลผินกายหันไปมอง

“คุณพี่การะเกด”เอ่ยนามพี่สาวต่างมารดาเบาๆ มือน้อยประคองท้องตน พลางแย้มริมฝีปากยิ้มให้

“ไม่น่าเชื่อเลยหนาว่าเจ้าจักไปไกลขนาดได้เป็นพระชายาของเจ้าหลวง”เอ่ยเสียงแข็งพลางมองน้องชายต่างมารดาหัวจรดเท้าด้วยความริษยา

“นั่นสิขอรับ..ข้าไปไกลได้ถึงตำแหน่งพระชายาของเจ้าหลวง เจ้าแห่งแผ่นดินนี้ แต่คุณพี่ยังย่ำอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนเลยหนาขอรับ แลดูท่าจักลดต่ำลงกว่าเดิมอีกต่างหาก”ว่าเสียงหวานพร้อมรอยยิ้ม

“เจ้า!! ชมนาด!!”

“อย่าได้เรียกข้าเยี่ยงนี้ต่อหน้าพระภัสดาเชียวหนาขอรับคุณพี่ ประเดี๋ยวจักโดนลงหวายเอาได้ ข้าหวังดีจึงได้เตือน”

“มึง!! เหอะ...คิดหรือว่าฝ่าบาทท่านจักรักตัวประหลาดเยี่ยงมึงแท้...น่าขันนักเป็นชายหรือกลับท้องได้เยี่ยงสตรี”

“แล้วอย่างไรขอรับ...อย่างไรเสีย ณ ตอนนี้ ข้าก็สูงส่งกว่าคุณพี่หลายชั้นฟ้านัก”

“....”ขบเคี้ยวฟันด้วยความคับแค้น

“ตัวประหลาดเยี่ยงข้ากลับมีฐานะสูงกว่า ภริยาบุตรชายท่านขุนเยี่ยงคุณพี่...ใครน่าขันกว่ากันหนา”

“อีชมนาด!!”

“แผดเสียงร้องเยี่ยงนี้ จักเรียกให้ใครมาชมกริยาต่ำตมเสียยิ่งกว่าบ่าวในตลาดทาสของคุณพี่หรือขอรับ”วาจาเผ็ดร้อนทำเอาการะเกดเงื้อมือขึ้น

“....”

“คิดดูให้ดีหนาขอรับ หากคุณพี่ทำร้ายข้าครานี้ ฝ่าบาทคงจักไม่ลงหวายเช่นคราก่อนเป็นแน่ เยี่ยงนี้คุณพี่สุพจน์คงได้ถึงคราเชิดหน้าชูตาเมียบ่าวแทนคุณพี่เป็นแน่หนา”

“อีชั่ว!! กูขอแช่งให้มึงถูกทิ้งเยี่ยงหมาตัวหนึ่ง กูขอให้ลูกมึงพิกลพิการ”หญิงสาวแผดเสียงด่าทอน้องชายต่างมารดาอย่างเกรี้ยวกราด โดยมิได้สนใจสิ่งรอบข้าง หรือ บุรุษที่ยืนอยู่หลังตน ส่วนเจ้าชมนาดเมื่อได้ยินคำสาปแช่งลูกในครรภ์ดังนั้น ก็ตัวชาวาบด้วยความโกรธมือน้อยกำแน่นจนเล็กเล็กจิกฝังเข้าไปในเนื้อ หยาดน้ำตาไหลอาบแก้ม ฟันขาวขบกัดริมฝีปากบางจนห้อเลือด

“บังอาจนัก!!!”ราวเสียงกัมปนาท การะเกดเบิกตากว้าง ตัวชาวาบ ขนอ่อนลุกตั้งแต่หัวจรดเท้า

“ฝะ ฝะ ฝ่าบาทเพคะ หมะ..”

“บังอาจนักหนา กล้าสาปแช่งลูกเมียข้าเยี่ยงนี้ จงเตรียมตัวเสียเถิด กูจักสั่งกุดหัวมึง!!”ตรัสด้วยความกริ้ว พระวรกายกำยำเสด็จผ่านการะเกดราวธาตุอากาศ เข้าไปรั้งน้องน้อยเข้ามากอดปลอบในอ้อมพระกร เจ้าชมนาดสะอื้นตัวสั่น ซบใบหน้าหวานกับพระอุระ แขนเล็กกอดรอบพระกฤษฎี

“ฝะ ฝ่าบาท”ร่างบางทรุดลงกับพื้น น้ำตาไหลนองหน้า

“เสด็จพี่ ฮือออ ละ ลูกเรา..ฮือออ”

“ชู่ววว..ลูกมิเป็นไรหนา มิเป็นไร”ทรงตื่นบรรทมมาไม่เจอเมียรักจึงได้รีบเสด็จตามคำที่อุ่นกราบทูลว่าเจ้าชมนาดออกมาเดินเล่นรอบเรือน หากแต่เมื่อเจอเมียรักกลับได้ยินถ้อยคำที่ทำให้พระองค์พระทัยร้อนกริ้วโกรธจนพระวรกายสั่น

“ฮึก ฮือออ”เจ้าชมนาดปล่อยเสียงสะอื้นจนน่าสงสาร หากแต่ใบหน้างามกลับเหยียดยิ้มให้คนเป็นพี่





ข้ามิลืมดอกหนาว่าคุณพี่เคยทำให้ข้าเจ็บช้ำแค่ไหน เรื่องใดบ้าง แลยังจักกล้ามากล่าวถ้อยคำสาปแช่งลูกข้าเยี่ยงนี้อีก...คงเป็นคุณพี่กระมังที่จักต้องพิกลพิการ หาใช่ลูกข้าไม่!!!



















****************************************************************








ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
เจ้าชมนาดแซ่บมาก  :laugh3:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
อู๊ยยย...ขุ่นแม่เธอร้ายยยย  :katai2-1:  เยี่ยม  o13
 :pig4:  :3123:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตามอ่านทันแล้ว ชอบสำนวนการเขียนจังค่ะ
เจอคำราชาศัพท์นี่ต้องเปิดหาความหมายเลย แต่ชอบค่ะ เป็นกำลังให้นะคะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ใครดีมาดีตอบ ใครร้ายมาร้ายตอบ นี่ซินะเจ้าชมนาด รักเลยไม่ใช่นายเอกแบบเอาแต่เจ้าน้ำตา อ่อนแอ แต่แอบร้ายแบบมีการวางแผน จัดให้เฉพาะคนที่ทำผิดคิดร้ายกับตัวเอง o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1





.

.

.

เจ้าชมนาดนั่งสะอื้นไห้กับพระอุระของพระภัสดา ในขณะที่เศรษฐีเฒ่าแลบุตรชายท่านขุนนั่งพับเพียบหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กับพื้นเรือน ส่วนการะเกดหมอบกราบสะอื้นไห้เสียงดัง

"เอ่อ...ทูลฝ่าบาท ทรงอภัยให้บุตรีโง่เขลาของหม่อมฉันด้วยเถิดพะย่ะค่ะ...พระชายาทรงอภัยให้การะเกดด้วยเถิด"

"จักให้ข้าอภัยให้นังผู้นี้งั้นรึ บังอาจกล่าวแช่งองค์รัชทายาท ลูกของข้า!! จักให้ข้าไม่เอาความนังนี่งั้นหรือท่านพ่อตา"

"หามิได้พะย่ะค่ะ...หากเพียงอย่าทรงกุดหัวนางเลยหนาพะย่ะค่ะ...พระชายา พ่อขอหนาลูก เว้นโทษตายการะเกดเถิด"

"ฮึก...เสด็จพี่"

"หืม..คนดี"เช็ดน้ำตาให้น้องแลหอมหน้าผากมนเบาๆ

"ทรงเว้นโทษตายคุณพี่หนาพระเจ้าค่ะ ฮึก"เสียงหวานเจือสะอื้นเอ่ยออดอ้อนพระภัสดา

"....."

"หนาพระเจ้าค่ะ...ลูกกำลังจะเกิด หม่อมฉันมิอยากให้พระองค์ทำบาป"

"...เห็นแก่ลูกแลน้องหนา พี่จักเว้นโทษตายนังนี่"

"เป็นพระมหากรุณาธิคุณเหลือเกินพะย่ะค่ะ"เศรษฐีเฒ่าหมอบกราบ ท่ามกลางเสียงร้องห่มร้องไห้ของหญิงสาว

"ขะ ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท ฮือออ"

"เจ้าควรจักขอบคุณเจ้าชมนาด!! หาใช่ข้าไม่"

"ฮึก..."การะเกดมองน้องชายต่างมารดาด้วยความคับแค้น

"ดูเอาเถิดท่านพ่อตา ขนาดนี้แล้วบุตรีของท่านก็ยังมิสำนึก"

"การะเกด!! กราบขอบพระทัยพระชายาเสียประเดี๋ยวนี้"เศรษฐีเฒ่าสั่งเสียงกร้าว

"อึก ฮือออ..ขะ ขอบพระทัยเพคะ"กัดฟันกล่าว น้ำตาไหลนองใบหน้างาม

"อึก...ฮึก จ้ะ ขอให้อภัยคุณพี่ขอรับ อึก"เสียงหวานสะอื้น ซบหน้ากับพระอุระ แขนเล็กกอดพระกฤษฎีพระภัสดา

"แม้ข้าจักเว้นโทษตายเจ้า...แต่อย่างไรเสียก็ต้องโทษ ว่าอย่างไรท่านพ่อตา"โอบร่างแน่งน้อยมิปล่อย ตรัสกับพ่อตาพระสุระเสียงเรียบห้วน

"เพียงพระองค์เมตตาเว้นโทษตายบุตรีหม่อมฉันก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นพะย่ะค่ะ...จักทรงลงโทษนางอย่างไร หม่อมฉันมิเกี่ยง"เศรษฐีเฒ่าท่านว่า

"ท่านพ่อ!!"

"เงียบเสียการะเกด กี่ครั้งกี่คราแล้วที่เจ้าก่อเรื่องใหญ่โตเช่นนี้!!"ตวาดบุตรี

"หึ...เยี่ยงนั้น สุธี"

"พะย่ะค่ะฝ่าบาท"

"สั่งทหารตบปากนังนี่สองร้อยครั้ง แลลงหวายชุบน้ำเกลืออีกร้อยที!!"

"ไม่หนาเพคะ โฮ!! หมาอมฉันขอประทานอภัยเพคะ ฝ่าบาท!! ฮือออ"

"หากคราหน้าเจ้ากล้าอวดดีกับเจ้าชมนาดอีก ข้าจักไม่เว้นโทษตายเจ้า"ตรัสแลประทับยืนช้อนร่างเจ้าชมนาดแนบพระอุระ เสด็จเข้าห้องนอนในเรือนเล็ก

หลังจากองค์ภุมรินอุ้มเจ้าชมนาดกลับเข้าห้องแล้วเศรษฐีเฒ่าก็หันมาเล่นงานบุตรี ที่ร่ำไห้เสียจนตาแดงก่ำ

"กี่ครั้งกี่คราแล้วหนาที่เจ้าก่อเรื่องใหญ่โตเยี่ยงนี้ คราก่อนก็คิดอุตริวางยาหญ้าเสน่ห์เจ้าหลวงท่าน ครานี้ยังจักปากพล่อยแช่งชักองค์รัชทายาทในครรภ์พระชายาอีก!! ไม่คิดบ้างหรือว่าองค์รัชทายาทก็หลานเจ้าหนา"

"ไม่เจ้าค่ะท่านพ่อ!! ข้ามินับอีตัวประหลาดนั่นเป็นน้องดอก แลลูกมันออกมาคงจักมิพ้นลูกผีลูกมาร!!"พ่นคำด่าทอด้วยความโกรธแค้นที่สุมเต็มอก



เพี๊ยะ



มืออวบอูมฟาดลงบนแก้มนวลของบุตรีเต็มแรง โลหิตไหลซึมที่มุมปาก

"การะเกดนั่นน้องเจ้าหนา!! เหตุใดจิตใจเจ้าจึงได้อุบาทว์เยี่ยงนี้!!"

"ฮึก ฮือออออ"

"หึ่ย!!"ฟึดฟัดกลับเรือนใหญ่ทิ้งให้บุตรีแลบุตรเขยอยู่ที่โถงเรือนเล็ก

"...อีเอื้องแม้จักเป็นเพียงบ่าว แต่ก็หาได้ชั่วเช่นเจ้าไม่"กล่าวแลหนีทิ้งเมียตามพ่อตาไป

"กรี๊ดๆๆๆๆ"เมื่อได้ฟังสามีเอาตนไปเปรียบกับเมียบ่าวก็กรีดร้องคับแค้นใจ



.

.

.




ร่างระหงของหญิงสาวยับเยินด้วยรอยแตกจากการลงหวาย หวายชุบน้ำเกลือโดนเพียงครั้งก็เจ็บแทบลงไปนอนแดดิ้น แต่ฝ่าบาททรงสั่งถึงร้อยที ไหนจักถูกทหารตบปากอีกสองร้อยครั้ง ริมฝีปากบางสวยบัดนี้บวมเจ่อแตกจนเลือดกลบปาก แค่จักร้องขอความเห็นใจยังทำมิได้ ความเจ็บปวดร้าวระบมแล่นพล่านตั้งแต่หัวจรดเท้า



แกร๊ก



เสียงผลักบานประตูดังขึ้นเรียกให้การะเกดค่อยๆผินหน้าไปมอง เจ้าชมนาดแลข้าหลวงคนสนิท ก้าวเข้ามายืนชิดเตียงที่นางนอนอยู่

"เป็นอย่างไรบ้างขอรับคุณพี่"เอ่ยเสียงหวานพร้อมรอยยิ้ม แม้จักสาแก่ใจ แต่ลึกๆก็อดสงสารมิได้จึงต้องมาเยี่ยมเยียน

"....."

"คุณพี่คงจักพูดมิได้สิหนาขอรับ"นิ้วเรียวเล็กไล้เบาๆที่แก้มช้ำม่วงชื้นน้ำตา ก่อนจะมาหยุดที่มุมปากบวมเจ่อที่มีเลือดแห้งกรังติด ออกแรงกดเพียงนิด การะเกดก็สะดุ้งเฮือกน้ำตาไหลพราก เจ้าชมนาดกระตุกยิ้ม ก่อนจักหันไปรับตลับยาจากข้าหลวงสาว

"....."การะเกดจับจ้องน้องชายต่างมารดาด้วยความหวาดกลัวปนระแวง

"ยานี่ เป็นยาของหมอหลวงในวัง สรรพคุณดีนักคงจักช่วยให้อาการคุณพี่ทุเลาเร็วขึ้นหนาขอรับ"นิ้วเล็กไล้เนื้อยาลงบนบาดแผลคนเป็นพี่เบาๆ

"....."

"ข้าโกรธคุณพี่มากหนาขอรับ ที่บังอาจแช่งชักลูกข้า องค์รัชทายาทขององค์ภุมริน"พูดเสียงเรียบหน้าตาเฉยราวกับพูดเรื่องดินฟ้า แต่เมื่อการะเกดได้ยินว่าทรงโกรธตนก็เกร็งตัวแข็งด้วยความกลัว

"....."

"แต่ข้าจักให้อภัย ไม่ถือโทษคุณพี่ดอกขอรับ...ประเดี๋ยวจักเป็นบาปติดตัว ท้องไส้เช่นนี้ข้ามิใคร่ทำบาปนัก แลมิใคร่อยากให้พระภัสดาทำบาปด้วย"

"....."

"...เอาล่ะขอรับ เสร็จแล้ว ส่วนยาในตลับที่เหลือนี่ก็เก็บไว้ใช้ต่อแล้วกันหนาขอรับ"ยิ้นหวานให้ก่อนจะวางตลับยาไว้ที่หัวเตียง ร่างบางท้องนูนลุกขึ้นโดยมีข้าหลวงสาวช่วยประคอง

"ขอบใจหนา"กล่าวขอบคุณข้าหลวงสาว ก่อนจักปรายตามองพี่สาวแลเสด็จออกจากห้อง

เมื่อออกจากห้องนอนของพี่สาว ก็พบพี่เขย บุตรชายท่านขุนนั่งพับเพียบอยู่หน้าตั่งไม้ตัวใหญ่รอเข้าเฝ้า

"คุณพี่สุพจน์มีกระไรหรือขอรับ"นั่งลงบนตั่ง กระชับผ้าคลุมไหล่สีหวานให้มิดชิดก่อนจะกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม มือบางลูบประคองครรภ์ตนไปมา

"หมะ หม่อมฉันมากราบขอประทานอภัยแทนการะเกดพะย่ะค่ะ แลมากราบขอบพระทัยพระชายาที่ทรงเว้นโทษตายการะเกด"

"ฝ่าบาทต่างหากที่เมตตาเว้นโทษตายนาง ข้าหรือมิมีอำนาจขนาดจักเว้นโทษหรือลดโทษให้ผู้ใดดอก"

"กระนั้นก็เถิดพะย่ะค่ะ หากมิได้พระชายาทรงช่วยตรัสกับเจ้าหลวงการะเกดคงมิรอด"

"หึหึ...ข้าบอกแล้วไงขอรับว่าข้ากำลังท้องมิอยากทำบาป แลก็มิใคร่ให้พระภัสดาทำบาปด้วย"

"...เอ่อ ทรงเป็นอย่างไรบ้างหรือพะย่ะค่ะ องค์รัชทายาทในครรภ์แข็งแรงดีหรือพะย่ะค่ะ"

"จ้ะ...หมอหลวงท่านว่าแข็งแรงนัก"กล่าวก่อนนัยน์ตากวางจักเหลือบไปเห็นพระภัสดาที่กำลังเสด็จมาทางตนพร้อมองครักษ์หลวงสุธี เจ้าชมนาดผุดลุกแลก้าวเข้าไปหาองค์ภุมริน เจ้าหลวงหนุ่มเมื่อเห็นว่าเมียรักอุ้มท้องเดินมาหาก็รีบรุดเสด็จเข้ารั้งร่างบางมาประคอง

"จักเดินมาใกล้กระไดทำไมหนาคนดี"ตรัสเสียงดุ ก่อนจะประคองร่างนุ่มนิ่มไปประทับที่ตั่งไม้

"มิเป็นไรดอกพระเจ้าค่ะ แค่นี้เอง"ว่าแลยิ้มหวาน

"แลเจ้ามาทำกระไรตรงนี้กัน มิไปดูแลเมียหรือ"ตรัสถามสุพจน์

"เอ่อ...การะเกดนอนอยู่พะย่ะค่ะ หม่อมฉันจึงมาเข้าเฝ้าพระชายา"

"หึ...แต่ตอนนี้ข้ามีเรื่องจักพูดกับเจ้าชมนาด ใคร่พากลับเรือนเล็ก"

"เอ่อ..พะย่ะค่ะ"

"....."

"เสด็จพี่มีกระไรจักพูดกับน้องหรือพระเจ้าค่ะ"

"กลับไปพูดที่เรือนเล็กหนาน้อง"

"พระเจ้าค่ะ...เยี่ยงนั้นข้าขอตัวก่อนหนาขอรับคุณพี่สุพจน์"

"พะย่ะค่ะพระชายา"



.

.



"เสด็จพี่มีกระไรหรือพระเจ้าค่ะ"เอ่ยถามเมื่ออยู่ในห้องบรรทมแล้ว เจ้าชมนาดนั่งลงบนขอบเตียง

"เจ้าชมนาด...พี่ว่าเราควรกลับวังหลวงกันได้แล้วหนาน้อง"

"...นั่นสิพระเจ้าค่ะ เรามาอยู่ที่นี่ก็หลายวันเข้าให้แล้ว ที่วังหลวงคงวุ่นวายนักเมื่อขาดพระองค์ ไหนจักราชกิจมากมายอีก น้องขอประทานอภัยพระเจ้าค่ะ น้องเห็นแก่ตัวนัก พอได้เจอพ่อก็ลืมไปเสียสนิท น้อง..."

"โถ คนดี ว่ากระไรเยี่ยงนั้นหนา"กอดร่างแน่งน้อยแนบพระอุระ พระหัตถ์ลูบกลุ่มผมนุ่มปลอบ

"ก็จริงนี่พระเจ้าค่ะ...แลเราจักกลับวังหลวงเมื่อใดหรือพระเจ้าค่ะ"

"อีกห้าวันจ้ะ"เจ้าชมนาดท้องใหญ่เยี่ยงนี้ การเดินทางคงจักต้องตระเตรียมให้พร้อมที่สุด









*********************************************************************************










ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
ติดตามมมมมมมมม

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
สมน้ำหน้าการะเกด ช่างไม่เคยเข็ดหลาบ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อยากเห้นเด่กๆล้าวว

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
การะเกดก็คงยังไม่สำนึกแน่ๆ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อิการะเกดไม่สำนึกเลย!

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ๑๖



               ผ่านไปสามเดือนแล้ว หลังกลับจากบ้านของเศรษฐีเฒ่า ครรภ์ของเจ้าชมนาดก็ย่างเข้าเดือนที่แปด ขนาดครรภ์นั้นใหญ่เสียจนเจ้าชมนาดเดินเหินลำบาก องค์ภุมริมทรงมีรับสั่งให้หมอหลวงถวายการตรวจครรภ์แทบจักเว้นวัน

“เฮ้อ…”

“ทรงเป็นกระไรไปเพคะพระชายา...มิสบายพระวรกายตรงไหนหรือเพคะ”อุ่นเอ่ยถามเมื่อได้เสียงถอนพระปัสสาสะ

“มิได้เป็นกระไรดอก..ข้าเพียงแต่รู้สึกเบื่อหน่ายก็เท่านั้น”มือเล็กลูบครรภ์ตนไปมา

“ทนหน่อยหนาเพคะ อีกเพียงแค่เดือนเดียวก็จักประสูติกาลแล้ว”

“หวังว่าข้าจักคลอดง่าย แลลูกข้าคงมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์หนา”

“แน่นอนเพคะ องค์รัชทายาทต้องแข็งแรงแน่นอนเพคะ”

“จ้ะ…”

 
.
.
.
 

คืนนี้ระหว่างที่รอพระภัสดาเข้าบรรทม ความรู้สึกปวดจี๊ดๆที่หน้าท้องก็เกิดขึ้นจนเจ้าดอกข้าวใหม่ต้องกัดปากข่มความเจ็บเอาไว้

“อ๊ะ...ซี๊ด”เจ้าชมนาดนิ่วหน้า มือเล็กกุมหน้าท้องกลมโตของตน พลางค่อยๆระบายลมหายใจ อาการเจ็บท้องเยี่ยงนี้เป็นมาได้หลายวันแล้ว เป็นๆ หายๆ แต่ก็มิได้บอกให้พระภัสดา หรือข้าหลวงคนสนิท เพราะทุกวันนี้องค์ภุมรินก็แทบจักให้หมอหลวงตรวจครรภ์เมียรักเช้า กลางวัน เย็นสามเวลาเข้าให้แล้ว

“เจ้าชมนาด””พระสุระเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียกเมียรักด้วยความตกพระทัยเมื่อเจ้าชมนาดมีสีหน้าเหยเก แลมือบางก็กอบกุมครรภ์ตนไว้แน่น

“...เสด็จพี่”เสียงหวานสั่นเครือ

“เป็นกระไรไปเจ้าเจ็บท้องหรือ”ตรัสถามพลางประคองเมียรักไว้แนบพระอุระ

“...มิได้พระเจ้าค่ะ น้องเพียงแต่เจ็บท้องเล็กน้อยเท่านั้น แลก็เจ็บมาหลายวันแล้…”

“เจ็บมาหลายวันแล้ว แล้หตุใดจึงมิบอกพี่หนา!!”ตรัสดุพระสุระเสียงกร้าว

“...ฮึก หมะ หม่อมฉัน”เจ้าชมนาดตกใจเสียจนน้ำตาหยด

“ชู่ว..พี่ขอโทษคนดี”รั้งร่างอุ้ยอ้ายเข้ามากอดปลอบ

“อึก..”

“พี่เป็นห่วงเจ้าแลลูกหนาคนดี”

“หม่อมฉันมิได้เป็นกระไรพระเจ้าค่ะ ฮึก จริงๆหนาเสด็จพี่”

“ถึงกระนั้นก็เถิด ให้พี่ตามหมอหลวงหนาคนดี”

“ไม่พระเจ้าค่ะ ฮึก ไว้วันพรุ่งค่อยให้ท่านหมอมาตรวจหนาพระเจ้าค่ะ”

“แต่..”

“น้องใคร่หลับพระเจ้าค่ะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยตรวจหนาพระเจ้าค่ะ”

“ก็ได้ๆ แต่ต่อไปหากเจ็บปวดที่ใดให้รีบบอกพี่เข้าใจไหม”

“พระเจ้าค่ะ”รับคำแลทอดกายลงนอนตะแคงให้พระภัสดาโอบกอด
 

.
.
 

ยามสี่ของคืน

“อึก...อะ โอ๊ย”เจ้าชมนาดส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แม้จักปวดเยี่ยงนี้มาหลายครั้ง แต่ครานี้มันกลับรุนแรงเสียจนเจ้าชมนาดใจเสีย น้ำตาเม็ดโตไหลเป็นสายอาบปรางนวล

“...เจ้าชมนาด!!”องค์ภุมรินทรงตื่นบรรทมเนื่องจากได้ยินเสียงร้องของเมียรัก

“ฮึก..เสด็จพี่”ใบหน้างามชื้นน้ำตาเหยเกด้วยความเจ็บปวด มือบางสั่นระริกประคองท้องตนแน่น

“เป็นกระไรไปน้อง เจ็บที่ใด!!”ตรัสถามพลางประคองร่างอุ้ยอ้ายเข้ากอดปลอบ

“ฮือออ น้องเจ็บท้องพระเจ้าค่ะ ฮึก ฮือออ”เสียงหวานสั่นเครือ โจงกระเบนที่นุ่งเปียกจนชุ่มไปด้วยน้ำคร่ำ

“....มีใครอยู่หรือไม่!! นางข้าหลวง!!”

“เพคะฝ่าบาท”

“ตามหมอหลวงมาประเดี๋ยวนี้”

“เพคะ”
 

.
.
.


“ฮือออ อึก โอ๊ย”เจ้าชมนาดนอนร้องครวญครางด้วยความทรมานอยู่ในตำหนักประสูติกาล  ขณะที่คุณท้าวแลนางข้าหลวงเตรียมการสำหรับการประสูติกาลองค์รัชทายาทในองค์ภุมริน

“ทนหน่อยหนาเพคะ พระชายา”อุ่นกล่าวปลอบพลางใช้ผ้าซับเหงื่อบนใบหน้าหวาน

“ฮือออ อุ่น ข้าเจ็บ ฮึก โอ๊ย”

“น่าจักได้แล้ว พระชายาทรงจับผ้าไว้หนาเพคะ”คุณท้าวกล่าวก่อนจะจับมือเล็กให้จับยึดผ้าที่ห้อยลงมาจากคาน ข้าหลวงเฒ่าคลายผ้าโจงกระเบนของเจ้าชมนาดออกจนเป็นซิ่น แลจัดวางให้เรียวขาเล็กตั้งชันกับพระยี่ภู่

“ฮึก..คุณท้าว”

“พระทัยเย็นก่อนหนาเพคะ สูดพระปัสสาสะเข้าลึกๆเพคะ”เจ้าชมนาดทำตามแม้จักยังสะอื้นอยู่

“ฮึก...ขะ ข้าอยากเจอฝ่าบาท”

“ฝ่าบาททรงประทับรอพระชายาอยู่ที่หน้าตำหนักนี้เองเพคะ”

“ตะ ตามฝ่าบาทให้ข้าที ฮึก”

“ตะ แต่…”

“ตามฝ่าบาทให้ข้า!!! ฮือออ”ตวาดเสียงดัง จนคุณท้าวต้องให้นางข้าหลวงไปเชิญองค์ภุมริน

“เจ้าไปตามฝ่าบาทให้พระชายาทีเถิด”

“เจ้าค่ะคุณท้าว”
 

 
เพียงมินานเกินรอพระวรกายสูงใหญ่ก็เร่งรุดเข้ามายังตำหนักประสูติกาล

“ฮือออ เสด็จพี่”เมื่อเห็นพระพักตร์ของพระภัสดา เจ้าชมนาดก็ปล่อยโฮออกมาทันที

“เจ้าชมนาด...คนดี เป็นเยี่ยงบ้างหนาน้อง”ทรงตรัสถามแลเข้าลูบหัวเมียปลอบ

“ฮือออ น้องเจ็บพระเจ้าค่ะ”ว่าพลางซุกใบหน้างามกับพระหัตถ์อุ่น

“พระชายาเพคะ ออกแรงเบ่งหน่อยหนาเพคะ”

“ทนหน่อยหนาน้อง ประเดี๋ยวก็จะได้เห็นหน้าลูกแล้ว”

“พระเจ้าค่ะ”

“สูดพระปัสสาสะเข้าลึกๆแลเบ่งแรงๆหนาเพคะ”

“...อึก...อื้อออออออ….ฮึก แฮ่กๆๆ”ออกแรงเบ่งพลางดึงผ้าที่ห้อยลงมาจากคานจนมือขึ้นสีขาว

“ดีเพคะ...ออกแรงเบ่งอีกคราหนาเพคะ”

“แฮ่กๆๆ….อะ อึก...อื้อออออออออ ฮึก ฮือออ อะ อึก อื้อออออออ”นิ้วเท้าเกร็งจิกพระยี่ภู่จนยับยู่

“เก่งมากคนดี อีกเดี๋ยวก็จักได้เห็นหน้าลูกแล้วหนา”ตรัสปลอบพลางหอมหน้าผากชื้นเหงื่อ พระหัตถ์ถือซับพระพักตร์คอยเช็ดน้ำหูน้ำตาของเจ้าชมนาด

“เอาล่ะ เบ่งอีกหนาเพคะ”

“อึ อื้ออออออ”

 
.
 

“อื้อออออ อ๊าาาา...แฮ่กๆๆ น้องเหนื่อยเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”

“ทนหน่วยหนาคนดี พี่รักเจ้าหนาชมนาด”

“เบ่งอีกเพคะ”

“ฮึก อื้อออออออ”
 

.
 

“อื้อออออออ แฮ่กๆๆ”
 

.
 

“อื้อออออออออ”
 

.
 

“อีกครั้งเพคะ ใกล้แล้วเพคะพระชายา”

“ฮึก ฮือออออ แฮ่กๆๆ”

“คนดีทนหน่อยหนา อีกครั้งหนาคนเก่ง”

“อะ อึก อื้อออออออออ อ๊าาาาาาา อื้ออออออออ”เจ้าชมนาดเบ่งสุดแรงจนใบหน้าหวานแดงก่ำ

“ออกแล้วเพคะ หม่อมฉันเห็นพระเศียรองค์รัชทายาทแล้ว เบ่งสุดแรงอีกครั้งเพคะ”

“อึก อื้อออออออ อ๊าาาาาาา อึก อื้อออออ กรี๊ดดดดด”เจ้าชมนาดหวีดร้องพร้อมๆกับเสียงแรกของชีวิตใหม่ที่ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับแสงใหม่ของวัน

“อุแว้ๆๆๆ”ทารกเพศชายกรีดร้องเสียงดัง องค์รัชทายาทในองค์ภุมรินถือกำเนิดขึ้นพร้อมแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆพ้นขอบฟ้าขึ้นมาเป็นเช้าวันใหม่

“ทรงได้พระโอรสเพคะฝ่าบาท”คุณท้าวว่าอย่างยินดี พลางจัดการกับพระสกุล แลสายพระสกุล

“ชมนาดคนดี”พระนาสิกกดที่ขมับชื้นเหงื่อ

“ฮึก อะ โอ๊ย  ฮือออออ”พระโอรสประสูติแล้ว เจ้าชมนาดก็ยังเจ็บท้องมิคลาย

“ทรงเจ็บท้องอยู่หรือเพคะ”

“ฮึก อือ...ฮืออออ”เจ้าชมนาดพยักหน้าทั้งน้ำตา

“หมายความว่าอย่างไรคุณท้าว”องค์ภุมรินทรงตรัสถามด้วยความกังวลพระทัย

“อึก ฮึก...อื้อออออออออ”

“ยังมีเด็กอยู่ในครรภ์พระชายาอีกคนเพคะฝ่าบาท”ข้าหลวงเฒ่ากล่าวด้วยความตื่นเต้น

“อีกคนหรือ?”

“เพคะ...พระชายาทรงเบ่งอีกคราหนาเพคะ”

“อึก อื้อออออออ”

“เบ่งสุดแรงอีกครั้งเพคะ”

“ทนหน่อยหนาคนดี”

“อึก อื้อออออออ ฮ้าาาาาา”

“สูดพระปัสสาสะลึกๆแลเบ่งอีกคราเพคะ”

“อื้ออออออออออ”

“อีกเพคะ”

“ข้าเหนื่อย! อึก ฮือออออ”

“ชมนาดทนหน่อยหนาคนดี พี่รักเจ้าหนา”

“อึก อื้อออออออออ”

“อีกครั้งเพคะ เบ่งสุดแรงเลยเพคะพระชายา”

“ฮึก ฮือ อะ..อึก อื้ออออออ อื้อออออออ ฮ้าาาาาาาา”

“อุแว้ๆๆๆๆๆๆ”

“พระโอรสเพคะ”

“ละ ลูกข้า...เจ้าชมนาด ลูกเรา…เก่งมากคนดี พี่รักเจ้าหนา”

“ฮึก แฮ่กๆๆๆ”เจ้าชมนาดหลับตาลงก่อนจะหมดสติไป

“เจ้าชมนาด!! ชมนาด!!!”
 

.
.


หลังจากพระชายาให้ประสูติกาลโอรสทั้งสองก็หมดสติไป จนกระทั่งเช้าวันใหม่ของอีกวัน

“อึก อืม”เสียงหวานครางเครือในลำคอ พร้อมเปลือกตาสีมุกที่ค่อยๆลืมขึ้น

“เจ้าชมนาด...เป็นเยี่ยงไรบ้างคนดี….เจ้าไปตามหมอหลวงมา”องค์ภุมรินกอบกุมมือบางขึ้นจูบหอมพลางตรัสถามอย่างห่วงใย แลมีรับสั่งให้ตามหมอหลวง

“เพคะ”นางข้าหลวงสาวรับพระบัญชาก่อนจักออกจากตำหนักหลวง

“เสด็จพี่...ลูก ลูกเล่าพระเจ้าค่ะ”

“ลูกแข็งแรงปลอดภัยดีทั้งสองคนจ้ะ...แต่เจ้าคนน้องตัวเล็กกว่าเจ้าภุชงค์มากนัก กระนั้นหมอหลวงท่านก็ว่าแข็งแรงดี...เจ้าคนน้องพี่ยังมิได้ตั้งชื่อ รอให้เจ้าฟื้นเสียก่อน”

“น้องใคร่อยากเห็นหน้าลูกพระเจ้าค่ะ”

“ประเดี๋ยวให้หมอหลวงตรวจก่อนหนา แลพี่จักให้นางข้าหลวงพาลูกมาหาเจ้า”

“พระเจ้าค่ะ”
 

หลังจากหมอหลวงตรวจพระวรกาย แลจัดพระโอสถบำรุงให้พระชายาแล้ว องค์ภุมรินจึงมีรับสั่งให้นางข้าหลวงพาโอรสน้อยทั้งสองเข้าเฝ้า

“น่าเกลียดน่าชังนักลูกแม่”เจ้าชมนาดจ้องทารกน้อยคนพี่ในห่อพาด้วยความตื้นตัน นี่หรือคือลูกที่ข้าค่อยฟูมฟักทนุถนอมมาแปดเดือน จมูกโด่งรั้นกดที่ใบหน้าเล็กยับย่นของลูกอย่างรักใคร่ ก่อนจักส่งพระโอรสในอ้อมแขนให้พระภัสดา แลรับทารกคนน้องจากนางข้าหลวงมาเชยชม เจ้าคนน้องตัวเล็กกว่าพี่นัก ใบหน้ายับย่นแดงก่ำ นัยน์ตากวางคล้ายคนเป็นแม่หลับพริ้มขนตางอนยาวน่าทะนุถนอม

“เสด็จพี่ใคร่อยากตั้งชื่อลูกว่ากระไรพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดเอ่ยถามพลางก้มคลอเคลียเจ้าตัวน้อย

“....บัว...เจ้าตัวน้อยดูแล้วน่าทะนุถนอม อ่อนโยน แต่เป็นลูกข้าต้องไม่อ่อนแอ..ต้องงามแลสง่า เฉกเช่นบัวบูชาพระ”

“น้องชอบพระเจ้าค่ะ...เจ้าบัว”

“ทูลฝ่าบาท แลพระชายาแม่เฒ่าขอเข้าเฝ้าเพคะ”

“แม่เฒ่าหรือ?...เชิญเถิด”


หญิงชราผมสีดอกเลา ปากแดงเพราะเคี้ยวหมาก หน้าตาดุดันน่าเกรงขามทำเอาเจ้าชมนาดกลัวมิน้อย ตั้งแต่เข้าวังหลวงถวายตัวให้องค์ภุมริน จนได้รับแต่งตั้งเป็นพระชายาชมนาดมิเคยพบแม่เฒ่าเลยสักครั้ง เคยก็แต่ดื่มโอสถที่แม่เฒ่าปรุงเท่านั้น

“หนึ่งนั้นแข็งแกร่ง แลยิ่งใหญ่เปรียบพระบิดา”ว่าพลางเอื้อมมือลูบพระเศียรพระโอรสคนพี่ที่นอนคู่กับคนน้องบนพระยี่ภู่ โดยมีพระบิดา พระมารดาประทับอยู่ข้างๆ

“.....”เจ้าชมนาดเงียบฟัง

“อีกหนึ่งงดงาม อ่อนโยนคล้ายมารดร...แต่”

“แต่กระไรหรือแม่เฒ่า”ทรงตรัสถามพลางกุมมือเจ้าชมนาดไว้มั่น

“แต่เมื่อใดที่โตสะพรั่งเต็มวัยจักต้องพลัดพรากจากอกพ่ออกแม่ เพราะศิวเศขร”

“ศิวเศขร?...ดวงจันทร์เยี่ยงนั้นหรือหรือ”

“เพคะ...แต่อย่าได้กังวลพระทัยไป ศิวเศขรผู้นั้นจักเป็นคู่แท้แน่ชัดไม่แปรผัน”

“ศิวเศขรผู้นั้น?”

“หึหึหึ...หม่อมฉันขอตัวเพคะเจ้าหลวง พระชายา”หมอบกราบก่อนจะออกจากตำหนักหลวงโดยมีข้าหลวงประคอง


.
.
.


   ผ่านไปสามวันหลังมีประสูติกาลพระโอรสในองค์ภุมรินทั้งสอง พระชายายังคงประทับอยู่ในตำหนักหลวงมิได้ออกไปไหน เจ้าหลวงเองก็ออกว่าราชการทุกวันตามเดิมหากแต่จักรีบเสด็จกลับตำหนักหลวงทันทีที่ราชกิจเสร็จสิ้น แลอีกสองวันข้างหน้าทางวังหลวงก็ได้จัดพิธีรับขวัญพระโอรสน้อยทั้งสอง โดยเจ้าภุชงค์คนพี่จักได้รับการแต่งตั้งจากพระบิดาให้เป็นองค์รัชทายาท แลเจ้าบัวงามคนน้องจักได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าน้อย

“ค่อยๆเถิดลูก ประเดี๋ยวจักสำลักเอาหนา”เสียงหวานเอ่ยกับลูกน้อยที่กำลังดูดกลืนเม็ดบัวงามของตนอย่างหิวกระหาย ปากเล็กดูดดึงรีดน้ำนมจากอกคนเป็นแม่เสียจนเสียงดัง

“เจ้าบัวเบาหน่อยลูก ประเดี๋ยวถันแม่เจ้าก็ช้ำกันพอดี”องค์ภุมรินที่โอบประคองเจ้าภุชงค์อยู่ตรัสกับเจ้าบัวงามอย่างเอ็นดู ส่วนเจ้าบัวน้อยนั้นหาได้สนไม่ ปากเล็กยังคงดูดกลืนน้ำนมไม่หยุด นัยน์ตากวางคล้ายมารดาปรือปรอย มินานยอดถันแดงช้ำก็หลุดออกจากปากน้อยเมื่อเจ้าน้อยแห่งภุมริกาได้เข้าสู่ห้วงนิทราเรียบร้อยแล้ว เจ้าชมนาดส่งเสียงในลำคอขับกล่อมลูกน้อยเบาๆ มือบางตบก้นเล็กเป็นจังหวะ เมื่อเห็นว่าลูกน้อยหลับสนิทดีแล้วจึงค่อยๆวางร่างเล็กลงบนพระยี่ภู่ก่อนจะรับเจ้าภุชงค์จากพระภัสดาเข้ามาในอ้อมกอด ประคองให้ปากเล็กตรงกับยอดถันคนละข้างกับที่เจ้าบัวทำช้ำ ภุชงค์น้อยอ้าปากงับยอดถันของมารดาไว้แล้วออกแรงดูดกลืนน้ำนมที่ไหลออกมา

“เจ้าภุชงค์ แลเจ้าบัวทำยอดถันแม่เจ้าช้ำหมดแล้ว นี่ของพ่อหนา”องค์ภุมรินว่าพลางตบก้นเจ้าบัวเบาๆ มือที่เคยจับแต่ศาสตราวุธ บัดนี้ต้องมาทะนุถนอมทารกน้อยวัยสามวัน มิใช่เรื่องง่ายเลย กังวลพระทัยเหลือเกินด้วยเกรงว่าจักทำลูกเจ็บเข้าให้

“เสด็จพี่ว่ากระไรหนาพระเจ้าค่ะ ลูกยังเด็กนัก”ใบหน้างามขึ้นริ้วสีแดง

“หึหึหึ ประเดี๋ยวลูกกินแล้วพี่คงต้องขอกินบ้างแล้วล่ะเจ้า”

“เสด็จพี่”จักเอ็ดเสียงดังก็กลัวลูกน้อยทั้งสองจักสะดุ้งตื่น เจ้าภุชงค์ดวงตาปรือปรอย แต่ปากเล็กยังคงดูดกลืนน้ำนม เด็กน้อยหลับตาลงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ปากเล็กค่อยๆคายยอดถันออก เจ้าชมนาดกล่อมลูกให้หลับสนิทดี ก่อนจะวางลงเคียงข้างเจ้าบัวที่หลับอย่างน่าเอ็นดู

“มาน้อง พี่ช่วยหนา”ตรัสแล้วคว้าผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด ค่อยๆเช็ดที่ยอดถันแดงช้ำทั้งสองข้าง พระเนตรจับจ้องเม็ดบัวช้ำ พระหัตถ์ไล้วนผ้ารอบๆฐานบัว

“อื้อ...เสด็จพี่”เจ้าชมนาดหลุดเสียงครางหวานพลางตะครุบพระหัตถ์พระภัสดาไว้ ปลายพระองคุลีแกล้งสะกิดปลายถันบวมเสียจนเมียรักสะท้านเสียว

“หืม คนดี”ตรัสถามเสียงอบอุ่น พระพักตร์เคลื่อนเข้าใกล้เม็ดบัวบวมช้ำสีหวาน พระชิวหากวาดเลีย แลดูดดึงราวกับเจ้าภุชงค์แลเจ้าบัว แต่กลับทำให้เจ้าชมนาดสะท้านตัวสั่น แอ่นอกบางให้พระภัสดารังแก แขนเรียวโอบรอบพระอังสะ ใบหน้างามแหงนเงยอ้าหอบ ครางเครือ

“เสด็จพี่มิได้หนาพระเจ้าค่ะ”ร้องห้ามแลดันพระพักตร์ออก

“ฟู่ว...”ถอนพระปัสสาสะอย่างอดกลั้นอารมณ์ พระโอษฐ์แนบกับกลับปากนุ่มป้อนจุมพิตให้เจ้าชมนาด พระหัตถ์ลูบผิวนุ่มไปมา

“ขอประทานอภัยเพคะฝ่าบาท กระโจมอยู่ไฟของพระชายาเสร็จแล้วเพคะ คุณท้าวให้มากราบทูลเชิญพระชายาเพคะ”เสียงข้าหลวงที่อยู่นอกห้องบรรทมทำให้องค์ภุมรินต้องผละออกจากเมียรักอย่างเสียมิได้

“น้องต้องไปอยู่ไฟแล้วพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดว่าพลางยกมือลูบพระปรางขาวของพระภัสดา

“พี่จักอยู่เฝ้าลูกให้เองหนา”ตรัส

“พระเจ้าค่ะ”ยิ้มหวานให้ก่อนจะคว้าผ้าแถบคาดอกมาพันรอบแผ่นอกบาง ขมวดปมปล่อยชายทิ้งระเอวบางก่อนจักคว้าผ้าไหมสีหวานขึ้นคลุมไหล่บาง

“รีบไปรีบมาหนาเจ้า”

“พระเจ้าค่ะ”


.
.


   เมื่อเจ้าชมนาดออกจากห้องบรรทมในตำหนักหลวงไปแล้ว องค์ภุมรินก็เอนพระวรกายตะแคงข้าง พระกรท้าวกับพระยี่ภู่ วางพระพักตร์บนพระหัตถ์ทอดพระเนตรมองลูกน้อยทั้งสองพลางแย้มพระโอษฐ์ แม้จักเป็นแฝดก็จริงอยู่ หากแต่เจ้าภุชงค์กลับมีใบหน้าคมคาย ฉายแววหล่อเหลา ส่วนเจ้าบัวงามของพ่อกลับมีโครงหน้าสวยหวานดังคนเป็นแม่ แลยิ่งนัยน์ตากวางคู่นั้นที่ถอดแบบเจ้าชมนาดมาทำให้ใบหน้าหวานขึ้นไปอีก เมื่อพิจารณาลูกน้อยทั้งสองก็พาลคิดถึงศิวเศขรที่แม่เฒ่าว่า

“ฮึก...อะหึ”เสียงเล็กๆดังขึ้นพร้อมท่าทีกระสับกระส่ายของเจ้าบัวงามทำให้องค์ภุมรินต้องเอื้อมพระหัตถ์ไปตบก้นเล็กเบาๆ แต่เจ้าบัวกลับเบะปากจนใบหน้าเล็กยับย่น จนคนเป็นพ่อลุกลี้ลุกลน ประคองร่างเล็กของลูกขึ้นพาดพระอังสะ พระหัตถ์ใหญ่ตบแผ่นหลังเล็กเบาๆ พลางเขย่ากายเล็กน้อย เจ้าบัวงามผงกหัวขึ้นแต่เนื่องด้วยเพิ่งเกิดได้เพียงสามวันทำให้คอยังมิแข็งเลยทำให้ใบหน้าเล็กฟุบลงกับพระอังสะกว้างของพระบิดา



ฟุบ!!!



องค์ภุมรินชะงักนิ่งเมื่อใบหน้าเล็กกระแทกกับพระอังสะกว้าง กลั้นพระปัสสาสะ

“ฮึก งะ แง!!!!”ปากเล็กจิ้มลิ้มแผดเสียงร้องออกมาจ้า

“โอ๋ เจ้าบัวงามทูนหัวของพ่อ” พระสุระเสียงตรัสปลอบคนตัวเล็กให้คนตัวเล็กหยุดแผดเสียงร้องแต่ก็มิเป็นผลเมื่อเจ้าบัวยังคงร้องจ้าอยู่ แลเสียงที่ดังทั่วทั้งห้องบรรทมนั้นก็ทำให้เจ้าภุชงค์ตื่นจากห้วงนิทรา

“อะหึ...ฮึก ..หึ...แง!!!”เมื่อได้ยินเสียงน้องแผดเสียงร้องคนพี่ก็แผดเสียงร้องตาม

“เจ้าภุชงค์ โอ๋ๆ ลูกพ่อ เป็นกระไรกันไปหนาลูก”พระหัตถ์ข้างหนึ่งโอบประคองเจ้าบัวงามไว้ แลอีกข้างเอื้อมไปตบก้นเล็กของเจ้าภุชงค์ ลูกน้อยทั้งสองแผดเสียงร้องเสียจนคนเป็นพ่อทำกระไรมิถูก

“ฝ่าบาทเกิดกระไรขึ้นเพคะเหตุใดองค์รัชทายาทแลเจ้าน้อยจึงได้กรรแสงเยี่ยงนี้”ราวกับเสียงจากสวรรค์

“คุณท้าว!! ช่วยข้าทีเถิด”

“โอ๋...องค์รัชทายาททรงเป็นกระไรไปเพคะ”ข้าหลวงเฒ่าช้อนร่างน้อยขึ้นแนบอกเขย่าเบาๆพลางส่งเสียงในลำคอขับกล่อมทารกน้อยให้เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง มินานนักเจ้าภุชงค์ก็สิ้นฤทธิ์หลับคอพับอยู่ในอ้อมอกข้าหลวงเฒ่าเหลือก็เพียงเจ้าบัวงามคนน้องที่ถึงแม้จะเงียบเสียงลงแล้วแต่ก็ยังสะอื้นอยู่ องค์ภุมรินโยกกายน้อยๆกล่อม พระนาสิกกดเบาๆที่หน้าผากเล็กยับย่น

“เสด็จพี่”เจ้าชมนาดที่ได้ยินเสียงลูกร้องไห้แว่วๆจากกระโจมอยู่ไฟ ก็รีบกลับมาที่ห้องบรรทมทันที แม่คนงามนุ่งผ้าแถบคาดอกแลซิ่นสีขาว เหงื่อไคลไหลอาบผิวนุ่ม กลิ่นสมุนไพรคลุ้งทั่วกายบาง เมื่อมาถึงก็พบพระภัสดาอุ้มลูกน้อยอยู่ แลอีกคนก็อยู่ในอ้อมกอดของคุณท้าว

“เจ้าชมนาด”

“ลูกเป็นกระไรหรือพระเจ้าค่ะน้องได้ยินเสียงร้องไห้จ้าเชียว”เอ่ยถามพลางตบแผ่นหลังเล็กของทารกในพระกรองค์ภุมริน

“เจ้าบัวร้องไห้ เลยทำให้เจ้าภุชงค์ตื่น มิมีกระไรดอกน้อง”

“พระเจ้าค่ะ..อ๊ะ เจ้าบัว...หน้าผากลูกโดนกระไรพระเจ้าค่ะ เหตุใดจึงมีรอยแดงเยี่ยงนี้!!”เอ่ยถามเสียงเข้มมิรู้ตัว

“อึก...อะ เอ่อ..คะ คือ ลูก..เอ่อ”เสือแม่ลูกอ่อนน่ากลัวแค่ไหน พระองค์มิกล้าเสี่ยง

“ลูกโดนกระไรพระเจ้าค่ะ”

“คือลูกคอยังมิแข็ง...ก็เลยกระแทกกับบ่าพี่...เจ้าชมนาด”ตรัสพระสุระเสียงอ่อย

“...เสด็จพี่”เจ้าชมนาดตาโต

“ชู่ว...เบาเถิดคนดี ประเดี๋ยวลูกจักตื่นอีกรอบหนา”

“ทรงทำอิท่าไหนให้ลูกหน้ากระแทกพระเจ้าค่ะ!!”ตวัดนัยน์ตากวางใส่เสียจนพระภัสดาสะดุ้ง

“พี่ขอโทษเจ้า...แต่ลูกมิเป็นไรหนา”ตรัสบอก เจ้าบัวงามตอนนี้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคุณท้าวหลังจากที่วางองค์รัชทายาทไว้บนพระยี่ภู่ตามเดิมก็ออกจากห้องบรรทมเงียบๆ ทิ้งให้องค์ภุมรินรับมือกับเสือแม่ลูกอ่อนเพียงลำพัง










**********************************************************







ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โถ่ สู้ๆ นะเพค่ะ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
แม่เสือ  :katai3:  เอาแล้วไง จะรอดมั้ยนั้น
แหมะเจ้าบัวมีคู่แต่แรกคลอดเชียว  :mew1:

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อย่าเคืองพระทัยไปเลยนะเพคะ ประเดี๋ยวองค์ภุมรินทำการง้อแล้วพระชายาจักมิได้หลับมิได้นอนนะเพคะะะะะะ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อยากอ่านรุ่นลูกด้วย~

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งุ้ยยย!!! กะไว้แล้วต้องเปงงี้ แต่น่ารักจิงๆเด้กๆ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
เจ้าภุชงค์เหมือนพ่อ เจ้าบัวเหมือนแม่ งั้นรอสินสอดมาสู่ขอเจ้าบัวได้เลย :laugh: ลูกร้องไห้แปลงร่างเป็นแม่เสือ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
เป็นเรื่องที่สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ๑๗




   
วันนี้ ณ วังหลวงแคว้นภุมริกาต่างคลาคล่ำไปด้วยอาคันตุกะต่างเมืองที่มาร่วมแสดงความยินดีในพิธีรับขวัญพระโอรสน้อยในองค์ภุมรินทั้งสอง  ภุชงค์น้อยนอนกระพริบตาปริบๆ อยู่ในอ้อมแขนมารดา ในขณะที่เจ้าบัวงามคนน้อง...

“เจ้าบัวงาม ใยจึงขี้เซาปานนี้หนาลูก”องค์ภุมรินตรัสกับพระโอรสคนเล็กที่นอนหลับอุตุในพระกรพระบิดาอย่างน่าเอ็นดู

“คิกๆ น่าเอ็นดูนักพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดว่าพลางก้มลงหอมหัวทุยของโอรสคนโต ภุชงค์น้อยอ้าปากหาวเบาๆ

“หึหึหึ”พระสรวลเบาๆ พระนาสิกกดลงบนแก้มนุ่มของลูกจนหนาโย้

“เจ้าบัวตื่นได้แล้วหนาลูก ประเดี๋ยวออกไปเจอเจ้าหลวง เจ้าชายแคว้นอื่นจักไม่งามหนาเจ้า”เจ้าชมนาดว่ายิ้มๆ แต่องค์ภุมรินกลับพระขนงกระตุก มิได้การล่ะ...แม้นแรกเกิดยังฉายแววงามหยดย้อย แลโตขึ้นข้ามิต้องเลี้ยงเสือ เลี้ยงจระเข้ไว้หน้าวังเลยหรือ

“น้อง...”

“พระเจ้าค่ะ”

“เจ้าว่าพี่ไว้หนวดดีหรือไม่”

“หา?... กระไรหนาพระเจ้าค่ะ”

“พี่จักไว้หนวดดีหรือไม่...เจ้าบัวหากโตขึ้นจักต้องงามกว่านี้เป็นแน่ มิได้การล่ะ”

“เสด็จพี่...ลูกเพิ่งจักห้าวันเองหนาพระเจ้าค่ะ..ทรงกังวลพระทัยมากไปหรือไม่”

“โธ่...เจ้าบัวงามของเรางามปานนี้จักให้พี่นิ่งนอนใจได้อย่างไร”

“ทรงลืมที่แม่เฒ่าท่านพยากรณ์ไปแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”

“.....”

“อย่ากังวลไปเลยพระเจ้าค่ะ โชคชะตาของลูกเราฝืนมิได้ดอก...ดูแลเจ้าบัวให้ดีที่สุดก็พอแล้วพระเจ้าค่ะ”

“เฮ้อ...นั่นสิ”พึมพำก่อนจะก้มลงทอดพระเนตรดวงหน้าเล็กของเจ้าบัวงามที่หลับอุตุมิสนใคร

“ทูลฝ่าบาทได้เวลาแล้วเพคะ”อุ่นคลานเข้ามาหมอบกราบทูลความแก่นายเหนือหัวทั้งสอง

“อืม...ไปเถิดน้อง”องค์ภุมรินว่าก่อนจะเดินเคียงข้างเจ้าชมนาดออกพบปะอาคันตุกะ เจ้าบัวในห่อผ้าสีหวานดิ้นเล็กน้อยแล้วหลับต่อเรียกรอยยิ้มจากพระบิดามารดา

“หึหึหึ...”






   เมื่อออกมาที่โถงรับรอง องค์ภุมรินก็ต้องทรงทำหน้าที่ใหญ่หลวงเสียยิ่งกว่าการออกรบ ออกสงคราม นั่นก็คือการปลุกเจ้าบัวงามจากห้วงนิทรา

“เจ้าบัวเอ๋ย...ตื่นเถิดลูก”เขย่าร่างเล็กเบาๆ พระหัตถ์สะกิดท่อนแขนเล็ก ทารกน้อยดิ้นแต่มิยอมตื่น

“.....”เจ้าชมนาดที่อุ้มภุชงค์คนพี่ก็มองอย่างเอาใจช่วยพระภัสดา 

“เจ้าบัวงามลูกพ่อ ตื่นเถิดคนดี...หืม”นัยน์ตากวางคู่เล็กปรือขึ้น ริมฝีปากจิ้มลิ้มเบะเตรียมแผดเสียงร้อง

“อะหึ..”

“ชู่ว...คนดี ตื่นแล้วหรือเจ้า”เขย่ากายเล็กปลอบเบาๆ

“เจ้าบัวงามของแม่ ไม่งอแงหนาจ๊ะคนดี”มือบางเอื้อมไปลูบแก้มยุ้ยของเจ้าตัวน้อยเบาๆ นั่นทำให้เจ้าบัวสงบลงได้ คงเป็นเพราะสัมผัสจากมารดา




   เมื่อเจ้าน้อยตื่นบรรทมก็เป็นอันว่าเริ่มพิธีรับขวัญได้ บายศรีปากชามสองที่สำหรับทารกสองคน เครื่องสังเวย อาทิ หัวหมู แลเป็ด ไก่ ถูกจัดเต็มโต๊ะ  บัตรพลีเครื่องเซ่นใส่เบี้ยไว้ ๓๓ เบี้ย แลน้ำอุ่นใส่ขันทองพร้อมช้อนเล็ก ๑ คัน แม่เฒ่าเป็นผู้ทำพิธีกล่าวคำรับขวัญให้ทารกน้อยทั้งสอง มือหยาบเหี่ยวย่นผูกด้ายสายสิญจน์ที่ข้อมือเล็กของเด็กทั้งสองคน เจ้าบัวซุกหน้าก็พระอุระของพระบิดา ในขณะที่เจ้าภุชงค์นอนมองพระพักตร์มารดานิ่ง หากเทียบกันแล้วเจ้าภุชงค์นั้นเลี้ยงง่ายกว่าเจ้าบัวงาม มิค่อยร้องงอแงสักเท่าใด แต่เจ้าบัวหากมิขัดใจจริงๆก็มิร้องงอแงให้รำคาญใจ เพียงแต่จักร้องง่ายกว่าคนพี่นัก

“เสร็จแล้วเพคะฝ่าบาท”แม่เฒ่าว่าหลังจากใช้กระแจะหอมจุณเจิมที่หน้าผากให้ แลตักน้ำให้พระโอรสน้อยทั้งสองเสวยคนละ ๕ ช้อนเป็นอันเสร็จพิธีรับขวัญเด็กน้อยทั้งสอง

“ขอบใจแม่เฒ่าหนา”ตรัสพลางกระชับร่างเล็กของลูก

“มิได้เพคะ”



   

เมื่อเสร็จพิธีรับขวัญทารกน้อยแล้วก็ถึงเวลาที่องค์ภุมรินจักได้อวดความน่ารักน่าชังให้เหล่าเจ้าหลวง เจ้าชาย พระชายาต่างเมืองได้เชยชม พระกรโอบประคองร่างน้อยไว้ มีพระชายาคนงามโอบประคองโอรสคนโตเคียงพระวรกาย พระโอษฐ์แย้มยิ้ม

“เจ้าน้อยน่าเกลียดน่าชังนักพระเจ้าค่ะ”พระชายาแห่งแคว้นศศิมณฑลเอ่ยขึ้น

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“ขอหม่อมฉันอุ้มเจ้าน้อยได้หรือไม่พระเจ้าค่ะ”

“ได้สิ”องค์ภุมรินว่าพลางส่งเจ้าบัวงามให้พระชายาแคว้นศศิมณฑล

“เสด็จแม่”องค์รัชทายาทแห่งศศิมณฑลร้องเรียกมารดาตน

“หืม...เจ้าจันทร์ น้องน่ารักไหมลูก”

“พะย่ะค่ะ”เจ้าชายน้อยวัยแปดพรรษาทอดพระเนตรทารกน้อยหน้าหวานในอ้อมพระกรมารดา ก่อนจักยื่นมือไปจับแก้มยุ้ยเบาๆ เจ้าบัวดิ้นเบาๆแลขยับปากยิ้มจนเห็นเหงือกสีสด องค์ภุมรินผู้เป็นพ่อเห็นดังนั้นจึงได้แต่พระพักตร์ตึง พระขนงกระตุก พ่อควรจักเป็นคนแรกที่เจ้ามอบรอยยิ้มให้หนาลูก เหตุใดจึงยิ้มให้รัชทายาทศศิมณฑลเป็นคนแรกเยี่ยงนี้หนาเจ้าบัวงาม...

“หึหึหึ...แลดูเจ้าน้อยจักชอบเจ้าจันทร์ของหม่อมฉันหนาพะย่ะค่ะ”เจ้าหลวงแคว้นศศิมณฑลตรัสพร้อมรอยยิ้ม

“หึหึหึ”องค์ภุมรินทำได้เพียงแค้นพระสรวลในพระศอ

“ขอพี่อุ้มเจ้าน้อยหน่อยหนาน้อง”ตรัสกับพระชายาของตนแลรับเจ้าบัวงามเข้ามาอ้อมพระกร

“ทรงอยากอุ้มเจ้าภุชงค์หรือไม่พระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดเอ่ยถามพระชายาศศิมณฑล

“พระเจ้าค่ะ”ยิ้มรับพลางรับเจ้าภุชงค์น้อยมาอุ้ม ทารกน้อยซบหน้ากับไหล่บาง เรียกความเอ็นดูจากผู้ใหญ่

“น่ารักน่าชังทั้งคู่เลยหนาพระเจ้าค่ะ”

“องค์รัชทายาทคล้ายองค์ภุมริน แลเจ้าน้อยก็คล้ายพระชายาเหลือเกินพะย่ะค่ะ”

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันใคร่อยากเห็นน้องพะย่ะค่ะ”องค์รัชทายาทศศิมณฑลกล่าวกับพระบิดา

“หึหึหึ”พระสรวลแลย่อกายให้ลูกทอดมองเด็กน้อยในอ้อมพระกร


ฟอด


องค์รัชทายาทน้อยยื่นหน้าเข้าใกล้ทารกน้อยก่อนจักกดพระนาสิกกับแก้มนุ่มสูดกลิ่นบัวหอมฟอดใหญ่ องค์ภุมรินมือไม้กระตุกเสียจนเจ้าชมนาดรีบคว้าพระหัตถ์พระภัสดาไว้

“หึหึหึ...หากเจ้าจันทร์โตขึ้นคงมิแคล้วได้ดองกับภุมริกาเป็นแน่หนาพะย่ะค่ะ”เจ้าหลวงศศิมณฑลตรัสพลางพระสรวล

“หึหึหึ”แต่องค์ภุมรินหาได้สรวลด้วยไม่ หวงลูกเสียจนอยากจักอุ้มเข้าตำหนักซะเดี๋ยวนี้ แลเจ้าองค์รัชทายาทนี่กระไร เหตุใดจึงมาจูบแก้มลูกคนอื่นเขาเยี่ยงนี้ มันน่านัก!!!

“หวาย...หาวซะแล้วพระเจ้าค่ะ”เจ้าภุชงค์อ้าปากหาวเบาๆ

“คงจักง่วงแล้วกระมังพะย่ะค่ะ”

“เยี่ยงนั้นหม่อมฉันขอตัวพาลูกทั้งสองกลับตำหนักก่อนหนาพระเจ้าค่ะ”เจ้าชมนาดว่าพลางรับเจ้าบัวจากเจ้าหลวงศศิมณฑลมาอุ้มไว้

“ค่ำนี้ค่อยพบปะกันใหม่หนาพะย่ะค่ะ”หลังจากรับภุชงค์จากพระชายาศศิมณฑลแล้วจึงตรัส

“พะยะค่ะ”

“พระเจ้าค่ะ”





   เมื่อกลับมาที่ตำหนักหลวงองค์ภุมรินก็ได้แต่ตรัสคาดโทษเจ้าบัวงามที่ตอนนี้หาสนใจพระบิดาไม่ ปากเล็กงับยอดถันของมารดาแลดูดกลืนน้ำนมอย่างหิวกระหาย

“เจ้าบัวหนาเจ้าบัว...เหตุใดจึงไปยิ้มให้องค์รัชทายาทศศิมณฑลเยี่ยงนั้นหนาลูก”

“โธ่เสด็จพี่..ลูกยังเล็กนัก มิรู้เดียงสาดอกพระเจ้าค่ะ”

“แลเจ้ารัชทายาทนั่น บังอาจนัก กล้ามาหอมลูกข้าได้อย่างไร...ใคร่อยากให้ข้ายกทัพไปตีเมืองเจ้าเยี่ยงนั้นรึ”เจ้าชมนาดที่ได้ฟังก็ได้แต่ส่ายหน้ากับความหวงลูกของพระภัสดา

“ทรงกังวลมากไปแล้วพระเจ้าค่ะ”

“มิได้การล่ะ...ข้าจักต้องสั่งให้สุธีนำเสือ แลจระเข้มาเลี้ยงไว้ที่หน้าวัง”

“ไปกันใหญ่แล้วพระเจ้าค่ะ”

“โธ่...น้องก็ มิหวงลูกบ้างหรือ”

“หวงพระเจ้าค่ะ แต่พระองค์ทรงกังวลเกินไปแล้ว”

“.....”

“พระทัยเย็นก่อนหนาพระเจ้าค่ะ...เจ้าบัวยังเล็กนักอย่าเพิ่งกังวลไปเลย”

“เฮ้อ...”

“พระทัยเย็นไว้พระเจ้าค่ะ”

“ก็ได้จ้ะ”





   จากวันรับขวัญพระโอรสน้อยแห่งภุมริกาทั้งสองก็ผ่านมาแล้วเดือนกว่า สองพี่น้องยิ่งทวีความน่าเกลียดน่าชังจนกลายเป็นขวัญใจของคนทั้งวังหลวง เหล่าข้าหลวงสาวหรือต่างแย่งกันถวายงานพระโอรสน้อยทั้งสองเสียจนเจ้าชมนาดแทบมิต้องทำกระไร

“เจ้าภุชงค์ ใยจึงขมวดคิ้วเยี่ยงนี้เล่าลูก”เจ้าชมนาดว่าเมื่อเห็นโอรสองค์โตของตนนอนขมวดคิ้ว


ปุ๋ง


เสียงลมที่เจ้าตัวน้อยปล่อยออกมาทำเอาแม่แลน้องชะงักก่อนเจ้าบัวงามจะสะดุ้งแผดเสียงร้องออกมาเพราะตกใจกับเสียงผายลมของพระเชษฐา

“อะหึ...แง”

“อ๊ะ..เจ้าบัวลูก โอ๋ๆ”จักขำก็ขำ สงสารเจ้าบัวหรือก็สงสาร ส่วนตัวการอย่างเจ้าภุชงค์นั้นเมื่อสบายท้องแล้วก็นอนแสยะยิ้ม ดูดปากจุ๊บๆมิสนใจใคร

“คิกๆ”

“ขำกระไรอุ่น...อึก...ฮ่าๆๆ”แม้นจักเอ็ดให้บ่าวคนสนิทแต่ก็มิวายขำตาม เจ้าบัวสะอื้นตัวสั่นซบหน้ากับอกมารดา

“เกิดกระไรขึ้นกันน้อง”พระภัสดาที่เสร็จจากว่าราชการ เมื่อกลับมาที่ตำหนักหลวงจึงได้ตรัสถาม อุ่นเมื่อเห็นนายเหนือหัวกลับตำหนักมาแล้วก็ออกจากห้องบรรทมให้ครอบครัวอยู่กันตามลำพัง

“มิมีกระไรดอกพระเจ้าค่ะ...เจ้าบัวเพียงแต่ตกใจเสียงผายลมของภุชงค์ก็เท่านั้น”เจ้าชมนาดว่าพร้อมยิ้มกว้าง

“หึหึหึ...โธ่ เจ้าบัวงามของพ่อ”ทรงพระสรวลแลหอมแก้มยุ้ยของโอรสคนเล็ก ก่อนจักช้อนเจ้าภุชงค์คนโตขึ้นอุ้ม

“เสด็จพี่”

“หืม...ว่าอย่างไนคนดี”

“...น้องมีความสุขเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ พี่ก็มีความสุข”ตรัสก่อนจักโน้มพระพักตร์จุมพิตที่กลีบปากนุ่มของเมียรัก





   วันเวลาผ่านไปล่วงเลยมาสามปีเศษ โอรสน้อยทั้งสองแห่งภุมริกาต่างเติบโตขึ้นเสียจนวิ่งอ้อมบ้านอ้อมเมือง และในขณะที่องค์ภุมรินกำลังซ้อมดาบกับทหารในกองทัพอยู่นั้น ร่างเล็กของโอรสองค์เล็กก็วิ่งเข้ามาในลานฝึกซ้อม โดยมีสุธีพี่เลี้ยงจำเป็นวิ่งตามไม่ห่าง ใบหน้าหวานงดงามถอดแบบคนเป็นแม่ นัยน์ตากวางกลมโต จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากเป็นกระจับแดงระเรื่อ แลกลุ่มผมยาวสีน้ำตาล ทำให้แม้จักมีพระชนมายุเพียงสามปี ก็งดงามดังเทวดาตัวน้อยๆ

“เฉด็จพ่ออออออออ~~~~~”เสียงใสที่ดังมาก่อนตัวทำให้เหล่าชายฉกรรจ์ที่กำลังคร่ำเครียดกับการฝึกซ้อมหยุดชะงัก

“เจ้าบัวงาม”องค์ภุมรินยื่นดาบไม้ให้ทหารนำไปเก็บก่อนจะย่อพระวรกายลง เจ้าบัวงามยิ้มแฉ่งอวดฟันกระต่ายสองซี่อย่างน่าเอ็นดู เจ้าตัวน้อยสวมเสื้อคอกระเช้าสีมอครามกับโจงกระเบนสีดินแดง แลผมยาวก็ถูกรวบเก็บครึ่งหัว ยาวระแผ่นหลังบอบบาง

“ฝึกฉ้อมมาทั้งวัน ชงเหนื่อยไหมพระเจ้าค่ะ”เอ่ยถามก่อนจะใช้ซับพระพักตร์ที่มารดาให้มาซับพระเสโทบนพระพักตร์งามของบิดา

“หึหึหึ...ได้เห็นหน้าเจ้าพ่อก็หายเหนื่อยแล้วเจ้าบัวเอ๋ย”ตรัสพลางจับมือเล็กของโอรสน้อยขึ้นหอม

“คิกๆ..เฉด็จแม่ แลภุชงค์อยู่ที่ฉาลาลิมฉะหยวง ชงเฉด็จไปที่นั่นกันหนาพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะๆ”

“อุ้มลูกหนาพระเจ้าค่ะ”ชูแขนให้พระบิดา

“พ่อเหงื่อเต็มตัวเช่นนี้อุ้มเจ้ามิได้ดอก ประเดี๋ยวเจ้าจักเหม็นเหงื่อ”

“....”นัยน์ตากวางหลุบลง ริมฝีปากจิ้มลิ้มเบะออก

“เจ้าบัว”

“...ท่านฉุธี อุ้มบัวหน่อยเจ้าค่ะ”เจ้าน้อยผินกายหันหลังให้พระบิดา แขนชูขึ้นให้องครักษ์หลวงสุธีอุ้ม

“เอ่อ..พะย่ะค่ะเจ้าน้อย”เกรงเจ้าหลวงหรือก็เกรง แต่ใครเลยจักกล้าปฏิเสธนัยน์ตากวางออดอ้อนนั่นได้ กายแกร่งสูงใหญ่ช้อนใต้พระกัจฉะ อุ้มร่างน้อยขึ้นแนบอกกว้าง เจ้าบัวงามวาดแขนกอดรอบคอแกร่ง ใบหน้างามซบลงบนไหล่กว้าง

“บัวใคร่อยากหาเฉด็จแม่แลภุชงค์ ท่านฉุธีพาบัวไปทีเจ้าค่ะ”

“เอ่อ...หม่อมฉันทูลลาพระเจ้าค่ะฝ่าบาท”ค้อมศีรษะเคารพนายเหนือหัวที่ตอนนี้พระพักตร์บึ้งตึง ใครๆก็รู้ว่าทรงหวงเจ้าน้อยเสียยิ่งกว่ากระไร แลเห็นลูกอ้อนคนอื่นเยี่ยงนี้คงขุ่นพระทัยน่าดูแล


.


“หืม..เจ้าบัวงาม ใยจึงให้ท่านสุธีอุ้มมาเล่าจ้ะ”เจ้าชมนาดที่นั่งพับเพียบร้อยมาลัยอยู่ริมสระหลวงเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นองครักษ์หลวงคนสนิทของพระภัสดาอุ้มร่างน้อยของโอรสคนเล็กเข้ามา ไหนว่าจักไปตามพระบิดา ไฉนจึงให้ท่านสุธีอุ้มกลับมาเยี่ยงนี้หนอ

“เฉด็จแม่”ลงจากอกท่านสุธีเดินเตาะแตะเข้าไปหามารดา ที่วางเข็มร้อยมาลัยลงบนพานทองก่อนจักช้อนร่างเล็กของลูกน้อยขึ้นนั่งตัก

“เป็นกระไรไปจ๊ะ”ก้มหน้าถามลูกน้อยที่ซุกหน้ากับอกมารดา

“บัวเป็นกระไรไปหยือเจ้า”เจ้าภุชงค์ที่วิ่งเล่นกับนางข้าหลวง เมื่อเห็นน้องน้อยก็วิ่งกลับมาเกาะไหล่บอบบางของมารดา

“ภุชงค์...”นัยน์ตากวางแดงระเรื่อช้อนมองพระเชษฐา

“ใครกันบังอาจมาทำลูกแม่ร่ำไห้ หืม”

“เฉด็จพ่อ”

“เสด็จพ่อหรือ...ทรงทำกระไรเจ้ากันจ๊ะ”

“ฮึก...เฉด็จพ่อมิอุ้มบัว”

“แลพ่อเจ้าทรงทำกระไรอยู่หรือ”

“ชงฉ้อมดาบอยู่พระเจ้าค่ะ”

“อืม...พ่อเจ้าคงมิอยากให้เจ้าเปรอะพระเสโทกระมังลูก ทรงซ้อมดาบพระเสโทหรือก็คงออกมาก พ่อเจ้าคงมิอยากให้เจ้าตัวเปรอะนั่นแล”ว่าปลอบเสียงหวาน มือบางปาดน้ำตาบนแก้มนุ่ม

“ฮึก...พระเจ้าค่ะ”พยักหน้าเบาๆ

“หึหึ”ยิ้มเอ็นดูก่อนจะกดจมูกโด่งรั้นกับแก้มนุ่มของโอรสคนงาม


จุ๊บ


เมื่อเห็นมารดาจูบแก้มน้อง องค์รัชทายาทแห่งภุมริกาก็ยื่นหน้าเข้าไปกดจูบแก้มน้องตาม เจ้าบัวหัวเราะคิกคัก ก่อนจะนั่งเล่นดอกบัวหลวงอยู่บนตักมารดา มินานองค์ภุมรินก็เสด็จเข้ามาในศาลาริมสระหลวงในฉลองพระองค์ชุดใหม่ ทรงสรงน้ำชำระพระวรกายก่อนจะรีบรุดมาง้อลูก พร้อมนางข้าหลวงที่หอบพานทองบรรจุขนมหวานจนพูนมาด้วย

“เฉด็จพ่อ”เจ้าภุชงค์น้อยเมื่อเห็นพระบิดาก็ผุดลุกก่อนจะวิ่งเข้าไปเกาะพระชงฆ์

“ว่าอย่างไรเจ้านาคน้อยของพ่อ”ช้อนลูกขึ้นอุ้มแนบพระอุระ พระนาสิกกดจูบแก้มแลหน้าผากโอรสคนโต

“เสด็จพี่”เรียกพระภัสดาก่อนจะหลุบตามองโอรสคนเล็กที่นั่งเล่นดอกบัวในมือ ทำท่ามิสนใจคนเป็นพ่อ

“หึหึหึ”พระสรวลอย่างเอ็นดู ทรงเสด็จประทับข้างพระชายา เจ้าบัวน้อยเหลือบตามองพระบิดาเมื่อเห็นว่าทรงมองอยู่ก็มุดหน้ากับอกบางของมารดา

“เจ้าบัวงาม พ่อเจ้ามีขนมมาด้วยหนาลูก ใคร่อยากหรือไม่”เจ้าชมนาดเอ่ยถามเจ้าตัวน้อย

“...พระเจ้าค่ะ”ตอบมารดาเสียงแผ่ว

“หึหึหึ เจ้าภุชงค์มานี่มาเจ้า แม่จักป้อนขนม”ว่าพลางดึงโอรสองค์โตเข้ามาในอ้อมกอด องค์ภุมรินเห็นดังนั้นจึงช้อนเจ้าบัวน้อยเข้ามานั่งบนพระเพลา

“เจ้าบัวงามใคร่อยากกินกระไรก่อนดีเจ้า พ่อจักป้อน”ตรัสพลางลูบผมยาวนุ่มของบุตร พระกรกอดประคองร่างเล็กอย่างทะนุถนอม

“บัวใคร่กินอันนั้นพระเจ้าค่ะ”ชี้ไปที่ทองหยอดสีเหลืองทองฉ่ำน้ำเชื่อม

“ได้สิเจ้า”ทรงตักขนมหวานป้อนใส่ปากเล็กช้าๆ เมื่อได้ลิ้มรสขนมหวานเจ้าบัวงามก็อารมณ์ดีขึ้นทันตา เงยหน้ายิ้มหวานให้พระบิดา คนเป็นพ่อจึงแย้มพระโอษฐ์ให้พลางจูบเบาๆที่หน้าผากเล็ก พระหัตถ์ที่จับแต่ด้ามอาวุธประคองขนมหวานบรรจงป้อนลูกน้อยอย่างอ่อนโยน

“เฉด็จพ่อพระเจ้าค่ะ”

“หืม ว่าอย่างไร”

“บัวใคร่อยากเที่ยวพระเจ้าค่ะ”ว่าพลางอ้าปากรับขนมหวานจากคนเป็นพ่อ ริมฝีปากเล็กบวมตุ้ยเพราะทองหยอดเม็ดโต

“ใคร่อยากเที่ยวหรือ จักไปไหนเล่าเจ้าบัวงาม”

“ภุชงค์ใคร่ไปตลาดในเมืองพะย่ะค่ะ”คนพี่ผุดลุกจากตักมารดาเดินเตาะแตะไปหาบิดา พลางนั่งลงบนพระเพลาอีกข้าง กลาเป็นว่าตอนนี้องค์รัชทายาท แลเจ้าน้อยประทับอยู่บนพระเพลาของพระบิดาคนละข้าง โดยมีพระมารดาคอยป้อนขนมหวานให้ทั้งสองคน

“ตลาดในเมืองหรือเจ้านาคน้อย”

“พะย่ะค่ะ”

“คงจักได้ฟังมาจากนางข้าหลวงกระมังพระเจ้าค่ะ ลูกจึงใคร่เห็นตลาดนอกวังหลวง”หลายวันก่อนนางข้าหลวงที่กลับไปเยี่ยมบ้าน ได้เล่าเรื่องตลาดนอกวังหลวงให้เจ้านายน้อยทั้งสองฟัง เด็กๆจึงใคร่อยากเห็นตลาดนอกวังหลวง มากเสียจนรบเร้าให้มารดาขอประทานนุญาติจากพระบิดาให้พาออกไปเห็น

“บัวก็ใคร่ไปพระเจ้าค่ะ”

“เยี่ยงนั้นหรือ...เยี่ยงนั้น อีกสองวันพ่อจักออกไปตรวจราชการนอกวังหลวงจักพาพวกเจ้าไปด้วยก็แล้วกันหนาลูก”

“เย้ๆ บัวใคร่ซื้อขนมด้วยพระเจ้าค่ะ”

“ภุชงค์ก็ใคร่ได้ของเล่นพะย่ะค่ะ”

“หึหึหึ ได้ๆ พวกเจ้าใคร่อยากได้กระไรพ่อจักหามาให้ทุกอย่างเลย”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ บัวยักเฉด็จพ่อที่ฉุดพระเจ้าค่ะ”

“ภุชงค์ก็ยักเฉด็จพ่อที่ฉุดพะย่ะค่ะ”

“ว้า...มิมีใครรักแม่เลยหรือนี่ รักพ่อเจ้ากันหมดแม่เสียใจนัก”เจ้าชมนาดแสร้งทำเสียงตัดพ้อ ตีหน้าเศร้าทำเอาลูกน้อยทั้งสองรีบเข้ากอดเอาอกเอาใจมารดา

“บัวก็ยักเฉด็จแม่พระเจ้าค่ะ”

“ภุชงค์ก็ยักพะย่ะค่ะ เฉด็จแม่มิเสียใจหนา”

“บัวปลอบหนาพระเจ้าค่ะ”ว่าแล้วก็จับมือบางของมารดาขึ้นจูบเอาใจ

“หึหึหึ จ้ะๆ แม่แค่หยอกพวกเจ้าดอก”เจ้าชมนาดกอดลูกน้อยทั้งสองพลางหอมหน้าผากมนฟอดใหญ่ องค์ภุมรินทอดพระเนตรลูกเมียด้วยความรักใคร่





“เฉด็จแม่บัวตื่นเต้นพระเจ้าค่ะ”กระซิบข้างใบหูขาวของมารดาที่อุ้มตนอยู่ แขนเล็กโอบรอบลำคอระหงแน่น

“อู้หู เฉด็จพ่อพะย่ะค่ะ”ภุชงค์น้อยที่อยู่ในอ้อมพระกรขององค์ภุมรินดูตื่นตาตื่นใจกับตลาดชาวบ้านนอกวังหลวงเป็นอย่างมาก มิต่างกับเจ้าบัวงามคนน้อง

“หึหึหึ”พระสรวลในลำคอด้วยความเอ็นดูลูกทั้งสอง

“เสด็จพี่น้องมีความสุขเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”กระซิบบอกพระภัสดาขณะที่เดินไปตามทางเดินของตลาด

“พี่ก็มีความสุขเจ้าชมนาด แค่มีเจ้า แลลูกๆก็พอแล้วสำหรับชีวิตพี่”สำหรับพระองค์ลูกๆทั้งสองก็เปรียบแก้วตาทั้งสองข้าง แลเจ้าชมนาดก็เปรียบดวงใจหนึ่งเดียวของพระองค์ มิคิดเลยว่าการเสด็จประพาสล่าสัตว์ป่าครานั้นจักทำให้ได้ประสบพบเจอกับรักแท้ แลแม่ของลูก

“น้องก็เช่นกันพระเจ้าค่ะ”สบตากันก่อนจักเผยรอยยิ้มเป็นสุข เจ้าตัวน้อยโซ่ทองคล้องใจทั้งสองเมื่อเห็นพระบิดา แลมารดายิ้มกว้างให้กันก็ยิ้มหวานประจบ เรียกเสียงหัวเราะเอ็นดูจากบุพการี








ชมนาดเย้าภุมรินจบบริบูรณ์
[/color]








« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2018 20:59:27 โดย Thichadad3938 »

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
คู่พ่อแม่จบแล้ว คราหน้าคงต้องรอคู่เจ้าจันทร์แลเจ้าบัวงามใช่หรือไม่
จะนานไหมหนา
 :pig4:  :3123:  :pig4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
จบแล้ว สนุกมากเลยรอตอนพิเศษนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด