ชมนาดเย้าภุมริน [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนพิเศษ๐๒-๐๓ ๑๖.๐๕.๖๑ หน้า ๐๗
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ชมนาดเย้าภุมริน [ย้อนยุค,Mpreg] ตอนพิเศษ๐๒-๐๓ ๑๖.๐๕.๖๑ หน้า ๐๗  (อ่าน 105462 ครั้ง)

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1

ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ๐๗



“อืม...”องค์ภุมรินตื่นจากบรรทมเมื่อรู้สึกได้ถึงสัมผัสแผ่วเบาที่พระอุระ ลืมพระเนตรขึ้นภาพแม่วิฬารน้อยของพระองค์ก็เข้ามาในคลองจักษุ ชมนาดใช้นิ้วเล็กๆของตนเกลี่ยพระฉวีตรงพระทรวงเล่น น้องน้อยเนื้อตัวมีรอยแดงช้ำ แลผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงน่าเอ็นดูนัก นิ้วเล็กเกลี่ยพระฉวีไม่พอ ยังสะกิดยอดพระถันของพระภัสดาเข้าให้อีก

“คิกๆ...อ๊ะ”เสียงหัวเราะคิกคักราวกลั่นแกล้งนั่นช่างน่านัก พระหัตถ์อุ่นเลื่อนลงไปบีบแก้มก้นนุ่มจนเจ้าชมนาดสะดุ้งตกใจ

“จักทำอย่างไรกับวิฬารน้อยจอมซนดี หืม”ตรัสแล้วก้มพระพักตร์ลงมาหอมที่ผมนุ่มไม่เป็นทรง

“..ฝ่าบาท ตื่นแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”เอ่ยถามเสียงหวาน มือน้อยหยุดแกล้งพระภัสดา ย้ายมากุมพระหัตถ์ข้างที่มิได้กอบกุมก้นนุ่มของตน

“แล้วเจ้าเล่าตื่นนานแล้วหรือ”

“..สักครู่แล้วพระเจ้าค่ะ”

“....ค่ำนี้พี่จักต้องไปร่วมเสวยกายาหารเช้ากับเหล่าขุนนางแลบุตรธิดาที่ท้องพระโรงน้องต้องไปกับพี่หนา”

“พระเจ้าค่ะ”

“...แลเรื่องแม่นางปิ่น”ทรงเกริ่นลองเชิงพระสนม ชมนาดน้อยนิ่งชะงักดึงมือออกจากพระหัตถ์ ขืนกายบางออกจากพระภัสดา ยันกายลุกขึ้นนั่งหันหลังให้ องค์ภุมรินรีบลุกตามเมียรักพระกรโอบร่างนุ่มนิ่มอย่างเอาอกเอาใจ

“.....”

“...เล่าให้พี่ฟังได้หรือไม่ว่าเกิดกระไรขึ้น ต่อให้เจ้าผิดพี่ก็จักกลับเป็นถูก”

“ว่ากระไรเยี่ยงนั้นพระเจ้าค่ะ ทรงเป็นถึงเจ้าหลวงเจ้าแผ่นดิน”

“...ก็นี่เมียรักนี่จ๊ะ”

“...หม่อมฉันเรียนการบ้านการเรือนอยู่ที่ศาลาริมสระหลวง คุณท้าวท่านป่วยหม่อมฉันจึงอยู่ที่ศาลาริมสระหลวงผู้เดียว แลแม่ปิ่นนางขอเข้าเฝ้า.....”ใบหน้าหวานเอียงซบพระอุระเปลือย


.
.
.


“นางบอกกับหม่อมฉันว่าตำแหน่งพระชายาของพระองค์...มิใช่หม่อมฉันดอกพระเจ้าค่ะแลยังบอกอีกว่าให้ระวังตัวไว้ จักเสียใจไม่รู้ตัว....หม่อมฉันมิได้ใคร่อยากตำแหน่งพระชายาของพระองค์ แค่ตำแหน่งพระสนมเอกในตอนนี้ก็มากเหลือแล้ว แต่...หม่อมฉันคงขาดใจหากพระองค์รักใครอีกคน”เสียงหวานเศร้าสร้อย นัยน์ตากวางคลอน้ำจนพระภัสดาใจหาย

“....น้อง”พระกรโอบกอดไหล่เล็ก ลูบหัวลูบหางปลอบ

“ทุกวันนี้ที่พระองค์ประทานให้หม่อมฉันก็เป็นพระมหากรุณายิ่งแล้ว หม่อมฉันคงไม่มีสิทธิ์เรียกร้องหากพระองค์จักรัก หรือ รับนางสนมเพิ่ม แม้กระทั่งให้ผู้อื่นเคียงพระวรกายหม่อมฉันก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อ....”

“ไม่...พี่จักมิรับใครหน้าไหนมาเป็นเมียทั้งนั้น พี่จักมีแค่น้องแค่เจ้าผู้เดียวเจ้าชมนาด จักมีแค่เจ้าที่จักได้ยืนเคียงข้างพี่ มิร้องหนาเมียจ๋า”

“...ฮึก หม่อมฉัน”วาดแขนกอดพระศอ บีบน้ำตาให้ไหลนองปรางใสจนเปียกพระอุระ แม่นางปิ่นเจ้ามีมารยา ข้าก็มีเช่นกัน แลดูซิ...พระภัสดาจักทรงเชื่อใคร เจ้า หรือ เมียรักเยี่ยงข้า

“พี่รักเจ้าหนาชมนาด จักมิมีผู้ใดมาแทนที่เจ้าคนดี มิต้องกลัวไปดอก เชื่อพี่หนา”

“ฮึก หมะ หม่อมฉันจักเชื่อพระองค์พระเจ้าค่ะ ภุมริน”ขานนามพระภัสดาแลช้อนดวงตาคลอน้ำขึ้นสบพระเนตร พระพักตร์งามโน้มมาใกล้แนบพระโอษฐ์ประกบจูบปลอบประโลมพระสนม พระชิวหาเกี่ยวกระหวัดลิ้นนุ่ม จูบซับที่กลีบปากน้องอย่างรักใคร่ พระหัตถ์ก็ลูบแผ่นหลังเนียนปลอบ แลบทรักเร่าร้อนก็เริ่มดำเนิน ภมรภู่รังแกเจ้าดอกข้าวใหม่จนกลีบช้ำ ส่งกลิ่นยั่วเย้าอารมณ์ดิบ


.
.
.



               กว่าจักได้ออกจากห้องบรรทมอาทิตย์ก็อัสดงไปเสียแล้ว ชมนาดนั่งให้เหล่านางข้าหลวงช่วยแต่งกายให้ จมูกโด่งรั้นระบายลมหายใจยังมิหายเหนื่อย พระภัสดาทรงเอาแต่พระทัยนัก

“...เจ้าชมนาด”พระสุระเสียงเอ่ยเรียกเมียรัก

“....”แม่วิฬารน้อยทำเพียงปรายตามองพระวรกายสูงใหญ่ของพระภัสดา ก่อนจักเบือนหน้าหนีให้นางข้าหลวงทาชาดที่ริมฝีปากจิ้มลิ้มให้

“ยังเคืองพี่อยู่อีกหรือเจ้า”

“...หม่อมฉันบอกว่าพอ เหตุใดพระองค์จึงมิหยุด”

“..ก็ พี่อดใจมิไหวเจ้ามันน่ารังแกน้อยเสียเมื่อไหร่”บทสนทนาของสองพระองค์ทำเอานางข้าหลวงทั้งหลายหน้าแดงก่ำเห่อร้อน ใช่ว่าจักไม่เห็นร่องรอยรักที่องค์ภุมรินทิ้งไว้บนพระวรกายบอบบาง

“...เสร็จแล้วเพคะ”นางข้าหลวงสาวนางหนึ่งกล่าวเมื่อลงเครื่องพระสุคนธ์เรียบร้อยแล้ว

“ขอบใจจ้ะ”กล่าวขอบคุณพลางตบเบาๆที่หลังมือนางข้าหลวงสาวแลยิ้มให้

“พวกเจ้าออกไปก่อนเถิด”องค์ภุมรินรับสั่ง

“เพคะ”

“เจ้าชมนาดเคืองพี่มากหรือเจ้า”หลังจากที่นางข้าหลวงสาวออกไปจนหมด พระวรกายทรุดนั่งคุกเข่าโอบกอดเอวบางของน้องน้อย พระพักตร์งามซบที่หน้าท้องแบนราบ

“...ฝ่าบาทรังแกหม่อมฉัน”

“โธ่ พี่รักดอก”

“..เอาเถิดพระเจ้าค่ะ ทำเพราะรักหม่อมฉันก็มิเคืองดอก”แขนเล็กกอดรอบพระอังสะตอบ ซบใบหน้าสวยลงบนพระเศียร

“น่ารักกระไรเยี่ยงนี้”เงยพระพักตร์ขึ้นป้อนจูบให้พระสนมที่หัวเราะน้อยๆ


.
.
.


“เจ้าหลวงแลพระสนมเอกเสด็จ”เสียงนายทวารกล่าว บรรดาขุนนางแลบุตรธิดาต่างหมอบกราบขนาบสองฝั่งของท้องพระโรงยามสองพระองค์เสด็จผ่านขึ้นประทับบนแท่นประทับ

“..ฝ่าบาท ขุนนางมากเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”เป็นคราแรกที่เจ้าชมนาดได้เสด็จพร้อมเจ้าหลวงทำให้ตื่นกลัวไม่น้อย

“..ใจเย็นๆหนา มิมีกระไรดอก”ประคองร่างบางเสด็จไปตามพรมนุ่มที่ปูยาวจนถึงแท่นประทับ

“พระเจ้าค่ะ”

เมื่อองค์ภุมรินเสด็จขึ้นประทับพร้อมพระสนม ข้าหลวงก็ลำเลียงสำรับพระกายาหารขึ้นถวาย

“ฝ่าบาทเพคะ ประเดี๋ยวบุตรีของท่านเสนาบดีฝ่ายขวาจักร่ายรำประกอบดนตรีถวายเพคะ”คุณท้าวกราบทูล

“แม่ปิ่นน่ะหรือ”

“เพคะ”

“แลคุณท้าวหายไข้แล้วหรือจ๊ะ”เจ้าชมนาดไถ่ถามเมื่อเห็นคุณท้าวกลับมารับใช้ตามเดิม

“ทุเลาแล้วเพคะ”

“แล้วเหตุใดไม่พักให้หายขาดเสียก่อนเล่าจ๊ะ”

“มิได้เพคะ นี่ก็ดีขึ้นมากโขแล้ว หม่อมฉันใคร่อยากถวายงานรับใช้พระสนมเพคะ”

“โธ่ คุณท้าว”มือน้อยประคองมือคุณท้าวไว้บีบนวดเบาๆให้จนคนแก่ยิ้มแก้มปริ น่ารักน่าชังกระไรเยี่ยงนี้

“....”

“คุณท้าวต้องอยู่กับข้าไปนานๆหนาจ๊ะ”

“เพคะ หม่อมฉันจักอยู่รับใช้พระสนมไปอีกนานเพคะ”

“หึหึ เอาล่ะ น้องมาเสวยเถิด แลคุณท้าวก็ทานเยอะหนา”รับส่งพร้อมแย้มพระโอษฐ์อย่างพระทัยดี

“เพคะ”

“เจ้าชมนาด”ตรัสเรียกเมื่อน้องน้อยเริ่มลงมือปรนนิบัติพระองค์

“พระเจ้าค่ะ”เงยดวงหน้าหวานขึ้น

“ดื่มโอสถก่อนหนา”

“พระเจ้าค่ะ”รับโอสถกลิ่นฉุนถ้วยใหญ่มาจิบ ครั้นเสียงดนตรีดังขึ้นเรียกสายพระเนตรให้ทอดมองไปยังท้องพระโรงเบื้องหน้า ร่างอรชรของบุตรีเสนาบดีฝ่ายขวาขยับร่ายรำอย่างชดช้อย ใบหน้างามแย้มยิ้มสะกดทุกสายตา ช้อนดวงตางามขึ้นมองพระพักตร์ชายสูงศักดิ์ ออกท่าทางร่ายรำตามจังหวะดนตรี


“แค่กๆๆๆ”


“น้อง...ค่อยๆหนา”ผินพระพักตร์กลับมาทันทีที่ร่างบางข้างกายไอโขลกๆ โอสถในถ้วยแทบจักไม่พร่องลงไป

“แค่กๆๆ ฝ่าบาท ขมเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”เสียงหวานเอ่ยออดอ้อน เอนกายให้ใกล้พระภัสดายิ่งขึ้น ดวงตาแดงคลอน้ำ

“ฝืนดื่มหน่อยหนาชมนาดจ๋า”โอบร่างน้อยไว้หลวมแลประคองป้อนโอสถให้เมียรัก

“มันขมแลฉุนเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”

“ทนหน่อยหนา ดื่มให้หมด...หนาคนดี”ประเหลาะราวกับเด็กน้อย

“...ก็ได้พระเจ้าค่ะ”ว่าแล้วก็ค่อยๆดื่มโอสถจนหมดถ้วยโดยมีพระภัสดาช่วยประคองป้อน ลำพังโอสถรสขมฉุนนี่ ชมนาดดื่มได้สบาย เพราะมิใช่คนกินยายาก แต่มิใคร่อยากให้พระภัสดาสนใจสตรีที่ร่ายรำอยู่เบื้องหน้าต่างหาก ถึงได้เรียกร้องความสนใจทำเป็นว่าดื่มโอสถมิได้

“เก่งมากคนดี”กดจูบที่ขมับขาวเป็นรางวัล

“แต่รสโอสถยังขมติดในปากหม่อมฉันอยู่เลยพระเจ้าค่ะ”

“จริงหรือ หากอยู่ในห้องบรรทมพี่คงต้องขอชิมสักหน่อยว่าปากเจ้าขมจริงหรือไม่”หยอกเย้าจนชมนาดแก้มแดงระเรื่อ

“ฝ่าบาท ไฉนเลยจึงทะลึ่งตึงตังนักพระเจ้าค่ะ”

“ฮ่าๆๆ รักดอกจึงหยอกเล่น ทานขนมหวานล้างปากหน่อยหนาจักได้ดีขึ้น”

“พระเจ้าค่ะ”ขานรัตอบแลอ้าปากรับทองหยอดรสหวานฉ่ำ ก่อนจักดื่มพระสุธารสลอยดอกมะลิกลั้วปาก เมื่อเงยหน้าขึ้นการร่ายรำของบุตรสาวเสนาบดีฝ่ายขวาก็จบลงพอดี ชมนาดเหยียดยิ้มเมื่อพระภัสดามิได้ชมการแสดงเลยเพราะมัวแต่เอาอกเอาใจตน แม่ปิ่นเมื่อเห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยจากพระสนมที่ประทับเคียงพระวรกายเจ้าหลวงก็หน้าตึง มือบางกำแน่น ก่อนจักค่อยๆแย้มยิ้มเมื่อตนจักต้องขึ้นไปรับรางวัลสำหรับการร่ายรำที่จบไปกับมือเจ้าหลวง ร่างอรชรหมอบคลานเข้ามาใกล้แท่นประทับจนมาอยู่เบื้องหน้าเจ้าหลวง

“คุณท้าวช่วยเอาห่อรางวัลนี่ให้นางรำที”พระสุระเสียงกล่าวทำให้แม่นางปิ่นเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงไม่ประทานให้นางกับพระหัตถ์ แต่ก็ต้องคลายความสงสัยเมื่อเหลือบไปเห็นพระสนมที่จ้องมองลงมาพร้อยรอยยิ้มน้อยๆที่มุมพระโอษฐ์ คนอื่นอาจจะมองรอยยิ้มของเจ้าชมนาดว่าช่างพระทัยดีมีเมตตา แต่หากมองตรงมุมของแม่นางปิ่นก็จักเห็นได้ว่ารอยยิ้มนั่นมันเยาะเย้ยกันชัดๆ

“..ขะ ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท...พระสนม”

“มิเป็นไรดอก เจ้าร่ายรำได้งดงามนัก...เสียดายพระภัสดามิได้ชมเลย


.
.
.


“กรี๊ดดด! เจ้าชมนาด”กรีดร้องด้วยความคับแค้นใจ มือบางกำห่อรางวัลแน่น ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวด้วยความแค้น เอาเถิดคอยดูหนา เจ้าจักต้องเจ็บยิ่งกว่าข้า


.
.
.


“เป็นกระไรหรือเจ้าชมนาด อารมณ์ดีจริงหนา”องค์ภุมรินตรัสถามพระสนมที่มีรอยยิ้มที่มุมปากตลอดเวลา

“มิมีกระไรดอกพระเจ้าค่ะ อ่า ฝ่าบาทเสวยพระสุธารสร้อนลอยดอกมัลลิกาหน่อยหนาพระเจ้าค่ะ จักได้บรรทมสบาย”ประคองถ้วยน้ำร้อนถวายพระภัสดา ใบหน้างามแต่งแต้มรอยยิ้ม จนองค์ภุมรินยิ้มตาม

“ขอบใจจ้ะ”

“เป็นเยี่ยงไรพระเจ้าค่ะ”

“อืม หอมมากเลยน้อง ราตรีนี้พี่คงหลับสบาย”

“พระเจ้าค่ะ..อ๊ะ”เจ้าชมนาดนิ่วหน้า มือเล็กกุมท้องน้อยตัวเองพลางงอตัว

“เป็นกระไรน้อง!!”ผวาเข้าประคองเมียรัก

“หมะ หม่อมฉัน..จะ เจ็บท้องพระเจ้าค่ะ”ใบหน้าสวยเหยเก ริมฝีปากงามเม้มแน่นจนซีดขาว

“นางข้าหลวง!! นางข้าหลวง!! ตามหมอหลวงที”รั้งร่างคนเป็นเมียเข้ามากอด ไม่นานหมอหลวงสี่นายก็เข้ามาในห้องบรรทม

“ถวายบังค....”

“มิต้อง!! รีบมาดูเจ้าชมนาดประเดี๋ยวนี้”

“พะย่ะค่ะ”หมอหลวงสี่คนเข้าทำการตรวจพระวรกายของพระสนม องค์ภุมรินทำได้เพียงยืนประทับอยู่ห่างๆ ทอดพระเนตรมองแม่วิฬารน้อยที่นอนหน้าเหยเกอยู่บนพระแท่นบรรทม หมอหลวงจับชีพจรพลิกนู้น ตรวจนี่จนพระองค์ร้อนพระทัย ด้วยเกรงว่าสนมเมียรักจักเป็นกระไรร้ายแรง

“เป็นอย่างไรบ้างหมอหลวง”

“พระทัยเย็นก่อนหนาพะย่ะค่ะฝ่าบาท พระสนมมิได้เป็นกระไรพะย่ะค่ะ ที่ทรงเจ็บพระอุทรนั่นเกิดจากผลข้างเคียงของพระโอสถที่เสวยเข้าไปพะย่ะค่ะ”

“ผลข้างเคียงของโอสถหรือ”

“พะย่ะค่ะ”

“เยี่ยงนั้น..ยาที่แม่เฒ่าปรุงได้ผลหรือ”พระโอษฐ์เผยรอยยิ้มน้อย

“พะย่ะค่ะ พระวรกายของพระสนมจักค่อยๆปรับให้เหมาะสม มิมีกระไรอันตรายพะย่ะค่ะ”

“งั้นหรือ...โอสถได้ผลหรือ”

“พะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“หึหึหึ ขอบใจๆ ขอบใจมากหมอหลวง”

“มิได้พะย่ะค่ะ”

เมื่อหมอหลวงออกไป องค์ภุมรินก็เข้ามาประทับข้างร่างน้อยที่นอนตะแคงข้าง มือกุมท้องน้อย ใบหน้างามซีดขาวชื้นเหงื่อ

“เจ้าชมนาด....เจ้าชมนาด....เมียรักของพี่”ลูบผมนุ่มปลอบ พระโอษฐ์พรมจูบหอมใบหน้างาม ทรงดีพระทัยนัก


.
.
.



“เฮ้อ”เจ้าชมนาดพ่นลมหายใจด้วยความอ่อนเพลีย เข้าฤดูร้อนแล้วอากาศอบอ้าวนัก

“เป็นกระไรไป หืม เจ็บท้องอยู่อีกหรือ”ตรัสถามด้วยความห่วงใย

“มิเจ็บท้องแล้วพระเจ้าค่ะ แต่หม่อมฉันร้อนเหลือเกิน อากาศช่างอบอ้าวนัก”

“นั่นสิอากาศอบอ้าวนัก เยี่ยงนั้นเจ้าใคร่อยากไปน้ำตกหรือไม่”เอาอกเอาใจเมียเสียยิ่งกว่ากระไร

“ใคร่ไปพระเจ้าค่ะ พระองค์จักพาหม่อมฉันไปหรือพระเจ้าค่ะ”ถามด้วยดวงตาพราวแสงน่าเอ็นดู

“หากเจ้าใครไปพี่ก็จักพาไปจ้ะ”

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะฝ่าบาท หม่อมฉัน’รัก’พระองค์ที่สุดเลยพระเจ้าค่ะ”

“ว่ากระไรหนาเจ้าชมนาด”

“หม่อมฉันรักพระองค์ที่สุดเลยพระเจ้าค่ะภุมริน”

“ฮ่าๆๆๆ พี่รอคำนี้จากปากเจ้ามานานนักเจ้าชมนาด”ตวัดพระกรกอดรัดร่างบางอย่างดีพระทัย

“หม่อมฉันขอประทานอภัยโทษพระเจ้าค่ะที่ให้ฝ่าบาทรอ”

“ฝ่าบาทกระไรกัน เรียกพี่สิเจ้า”

“...เสด็จพี่”

“ฮ่าๆๆๆ นั่นแล อ่า..มีความสุขกระไรเยี่ยงนี้”พระหัตถ์วางทาบลงบนหน้าท้องแบนราบของพระสนม พระพักตร์แต้มรอยยิ้มจนเจ้าชมนาดยิ้มตาม

“หึหึหึ ทรงมีความสุขมากหรือพระเจ้าค่ะ”จักต้องเป็นหม่อมฉันคนเดียวเท่านั้นที่จักทำให้พระองค์มีความสุข

“แน่นอน อ่า..พี่มีกระไรจักให้น้อง”เสด็จไปที่โต๊ะเครื่องพระสุคนธ์เปิดลิ้นชักแลหยิบพระธำมรงค์ทองประดับนพรัตน์ออกมา แลเสด็จกลับมาหาพระสนมที่นั่งคอยอยู่ที่ปลายพระแท่นบรรทม

“กระไรหรือพระเจ้าค่ะ”

“ธำมรงค์นี่เป็นของที่พี่จักประทานให้แก่คนที่จักขึ้นเป็นพระชายา”ประทับข้างๆเจ้าชมนาดแลยกน้องน้อยให้นั่งบนพระเพลา ทอดพระเนตรมองใบหน้าด้านข้างของเจ้าชมนาดแลยื่นพระพักตร์เข้าไปจรดพระนาสิกกับปรางค์นวล

“นพรัตน์ แก้วเก้าประการ งามเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”

“...มันเป็นของเจ้า”

“ของหม่อมฉัน?”

“ใช่ ของเจ้าชมนาด”

“แต่ผู้ที่จักได้เป็นพระชายาเท่านั้นมิใช่หรือพระเจ้าค่ะที่จักได้ครอบครองธำมรงค์นพรัตน์วงนี้”

“พี่เคยบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ..ว่าเจ้าเท่านั้นที่จักได้ขึ้นเป็นชายาของพี่”

“...เสด็จพี่”ครางเครืออย่างตื้นตันใจ

“มาพี่จักสวมให้”ประคองมือน้องขึ้นแผ่วเบา ค่อยๆสวมธำมรงค์นพรัตน์ลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของเมียรัก ธำมรงค์นี้ช่างพอดีกับนิ้วของเจ้าชมนาดราวๆกับเป็นเจ้าของ

“ขอบพระทัยพระเจ้าค่ะ...พระมหากรุณาล้นพ้นนัก”พนมมือกราบลงบนพระอุระ ดวงตาจ้องมองแหวนงามบนนิ้วตนแลอมยิ้มอย่างตื้นตันแขนเล็กโอบกอดพระวรกายของพระภัสดาด้วยความรักที่แทรกซึมเข้ามาในใจ พระกรก็โอบกอดร่างแน่งน้อยตอบอย่างรักใคร่


.
.
.


“คุณท้าวไปกับข้าไหมจ๊ะ”เอ่ยถามคนแก่ ชมนาดในชุดเสื้อผ้าฝ้ายคอตั้งแขนกระบอกสีม่วงดอกตะแบกแลโจงกระเบนสีบัวโรยนั่งอยู่ที่ศาลาหลวงริมสระ มือน้อยจัดแต่งดอกไม้ใส่แจกันเตรียมถวายพระในตำหนักศาสน์

“หม่อมฉันก็ใคร่อยากจะตามไปถวายงานรับใช้หนาเพคะ แต่ร่างกายมิค่อยจักสู้ดีนักเพคะ”คุณท้าวตอบ

“นั่นสิ เยี่ยงนั้นคุณท้าวพักผ่อนอยู่ที่วังหลวงนี่ดีกว่า”

“ขอบพระทัยเพคะพระสนม”

“จ้ะ คุณท้าวก็ต้องรักษาตัวให้หายป่วยเร็วๆหนา อย่าลืมที่สัญญาว่าจักอยู่กับข้าไปนานๆหนา”เพราะไม่มีแม่มาตั้งแต่ยังน้อย เจ้าชมนาดถึงได้รักคุณท้าวที่เปรียบเสมือนญาติผูใหญ่มาก

“เพคะพระสนม”

“จักไปไหนกันหรือเพคะ”เสียงหวานเอ่ยแทรกขึ้นกลางปล้องมิต้องหันไปดูชมนาดก็รู้ว่าเป็นใคร

“บังอาจนักแม่ปิ่น ยังมิถวายความเคารพพระสนมอีก”คุณท้าวเอ็ดอย่างไม่พอใจ

“มิเป็นไรดอกคุณท้าว”

“มิได้เพคะ จักได้รู้ที่ต่ำที่สูง”คุณท้าวว่า

“หึหึหึ ปล่อยนางเถิด เรื่องเล็กๆน้อยๆเพียงนี้ยังคิดมิได้ ก็มิควรฝันเฟื่องถึงตำแหน่งพระชายาว่าไหมคุณท้าว”

“พระสนม!!”

“มันจะมากไปแล้วแม่ปิ่นกล้าขึ้นเสียงกับพระสนมเชียวหรือ”

“มิใช่กงการของคุณท้าว มิต้องสอดจักได้ไหม”หันมาตวาดใส่ข้าหลวงเฒ่า

“แม่ปิ่น คุณท้าวท่านแก่กว่าเจ้ามากนัก ระวังเถิดนรกจักกินกบาลเจ้า”

“หึ ก็แค่ขี้ข้าในวังหลวง หากข้าได้เป็นพระชายามันก็ต้องรับใช้ช้าอยู่ดี”

“หรือจ๊ะ เจ้าแน่ใจหรือว่าจักได้เป็นพระชายาของเจ้าหลวง โถ ข้าสงสารนางเหลือเกินคุณท้าว”

“ว่ากระไรนะ”

“แม้แต่สนมก็ยังมิได้เป็นเจ้าฝันเฟื่องถึงตำแหน่งพระชายาเชียวหรือ”

“...”

“หากเจ้าใคร่อยากจักขึ้นเป็นพระชายา ก็มาถอดเอาพระธำมรงค์นพรัตน์ที่นิ้วข้าไปให้ได้ก่อนเถิดแม่”เหยียดยิ้มพลางใช้มือข้างซ้ายหยิบดอกเบญจมาศส่งให้บุตรีท่านเสนาบดีฝ่ายขวา

“.....”แม่ปิ่นจ้องมองพระธำมรงค์นพรัตน์บนพระอนามิกาข้างซ้ายของพระสนมอย่างตกตะลึง พระธำมรงค์นพรัตน์ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นชายาเจ้าหลวงเท่านั้นที่จักได้ครอบครอง

“ดอกทองนี่ข้าประทานให้แม่หนา.....คุณท้าวไปกันเถิดจ้ะใกล้เวลาที่เสด็จพี่ภุมรินจักกลับจากว่าราชการแล้ว ข้าจักเตรียมถวายการปรนนิบัติ คุณท้าวให้ข้าหลวงเอาแจกันไปถวายพระที่ตำหนักศาสน์ให้ข้าทีหนา”จับเบญจมาศดอกโตใส่มือหญิงสาว แลสั่งงานคุณท้าวด้วยรอยยิ้ม

“.....เจ้าชมนาด”กัดฟันด้วยความแค้น เหตุใดข้าจักต้องพ่ายแพ้ให้แก่มัน


.
.
.


“ฝ่าบาทบุตรีท่านเสนาบดีฝ่ายขวาขอเข้าเฝ้าเพคะ”คุณท้าวกราบทูล เจ้าชมนาดที่ปรนนิบัติป้อนพระกายาหารพระภัสดาชะงักค้าง

“หากเจ้ามิใคร่โปรดพี่จักปฏิเสธนางเสีย”

“มิได้พระเจ้าค่ะ ให้นางเข้าเฝ้าเถิด”

“เอางั้นหรือ”

“พระเจ้าค่ะ...คุณท้าวให้นางเข้ามา”

“เพคะ”

“ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท...พระสนม”

“มาเข้าเฝ้าข้ามีกระไรหรือแม่”

“หม่อมฉันนำแกงสายบัวกะทิมาถวายฝ่าบาทเพคะ”

“คราหน้ามิต้องลำบากดอก กับข้าวกับปลาในวังมีเยอะแล้ว”

“มิเป็นไรเพคะ หม่อมฉันใคร่อยากถวาย”

“คุณท้าวยกมาสิจ๊ะ”เป็นเจ้าชมนาดที่สั่งให้ยกถ้วยแกงสายบัวขึ้นสำรับ

“เพคะ”คนแก่ว่าแลยกขึ้นถวาย

“อืม...อุ๊บ”มือเล็กเปิดฝาถ้วยแลสูดกลิ่นกะทิหอม ก่อนจะแสร้งปิดฝาลงแลยกมือขึ้นปิดปาก

“เจ้าชมนาดเป็นกระไรน้อง”

“เหม็นพระเจ้าค่ะ..หม่อมฉันเหม็นแกงสายบัว”

“เหม็นหรือ..พี่ก็ว่าไม่นี่จ๊ะ”

“อุ๊บ...”แสร้งทำท่าจักอาเจียน

“คุณท้าวนำแกงนี่ไปเททิ้ง”รับสั่งเสียงกร้าวเมื่อพระสนมตัวน้อยดูผะอืดผะอมนัก แม่ปิ่นเบิกตากว้างเจ็บปวดนัก ทั้งที่ยังมิได้แตะแกงของนางเลย

“..เสด็จพี่”เจ้าชมนาดแสร้งทำตัวอ่อนซบพระอุระ

“ให้พี่ตามหมอหลวงไหมเจ้า หืม”ตรัสถามอย่างอ่อนโยนใช้ผ้าซับพระพักตร์ซับเหงื่อตามใบหน้างามของเมีย

“มิเป็นไรพระเจ้าค่ะ คงเป็นผลข้างเคียงของโอสถอย่างที่เคย”

“งั้นหรือ เจ้าแน่ใจหนา”

“พระเจ้าค่ะ...แม่ปิ่นข้าต้องขอโทษจริงๆหนา เอาเยี่ยงนี้วันพรุ่งข้าแลพระภัสดาจักประพาสน้ำตก เจ้าก็ไปด้วยกันเถิดนะแม่ถือเสียว่าข้าไถ่โทษที่ทำให้แกงเจ้าถูกเทขว้าง”กล่าวแลยิ้มให้

“ให้นางไปกับเราหรือ”ตรัสถามในขณะที่พระหัตถ์ยังถือยาดมยาหอมจ่อที่จมูกเมีย

“พระเจ้าค่ะ ให้นางไปกับเราหนาพระเจ้าค่ะ น้องรู้สึกผิดเหลือเกิน”

“ว่ากระไรอย่างนั้น ก็เจ้าเหม็นแกง”

“เยี่ยงนั้นก็เถิด หนาพระเจ้าค่ะ”

“ก็ได้จ๊ะ ก็ได้พี่ตามใจเจ้า”

“เยี่ยงนั้นไปด้วยกันหนาแม่”

“เพคะ...ขอบพระทัยเพคะ”

“มิเป็นไรดอก...เจ้าไปด้วยข้าคงสนุกน่าดูแล”








**************************************************************************





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2017 21:19:41 โดย Thichadad3938 »

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เจ้าชมนาดสุดยอดๆๆๆ

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
ข้าว่าเเช้ว ว่านรงต้องเเสบยิ่งนัก555555 เป็นไงล่าาา

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
หึๆ ชอบเจ้าชมนาดมากเพคะ แซบจัง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
คิดผิดสินะที่หลงเป็นห่วงชมนาด  :laugh:
แต่กำลังแอบคิดว่าจะมียาเสน่ห์อะไรพวกนี้ไหม  :ling1:
ชมนาดทำกับแม่ปิ่นแสบเหลือเกินน

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
-..-* หวังว่าเรื่องนี้จักไม่มีพระเอกโดนมนต์แล้วนายเอกโดนไล่ออกจากวัง(ทั้งๆที่ท้อง)จากนั้นพระเอกก็เที่ยวตามหาเมียนะเพคะ ขอหวานๆดราม่าไม่ต้องเยอะนะะะะะะ แฮ่ๆ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อิปิ่นคงอกแตกตาย ฮ่าๆ

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
เดินเรื่องเร็วมาก แต่ก็สนุกดีค่ะ  หนูชมนี่ยังไงคะโอ้โห้   คือประสบการณ์เยอะเจอมาเยอะจากพี่สาวเหรอคะพอเข้าวังเเล้วหนูชมโปรมาก   ต้องขอบคุณที่มีพี่สาวแบบนั่นรึเปล่านะทั้งทำให้ได้เข้าวัง แข้วไหนจะนิสัยแบบนั้นหนูชมคงมีภูมิคุ้มกันสูงพอตัวเลยซินะ

ออฟไลน์ brave

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกมากๆๆเลยยย  :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ๐๘



อรุณนี้องค์ภุมรินแลเจ้าชมนาดออกประพาสน้ำตกซึ่งอยู่มิไกลจากวังหลวงนัก ทั้งสองพระองค์ประทับอยู่บนเกี้ยว ในขณะที่แม่ปิ่นนั่งอยู่บนเกี้ยวอีกตัวที่เล็กกว่า

“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าชมนาด เหนื่อยไหมเจ้า”

“มิเหนื่อยพระเจ้าค่ะ แลเสด็จพี่เล่าพระเจ้าค่ะเหนื่อยหรือไม่”เอ่ยถามพลางลูบพระปรางค์เกลี้ยงเกลา จูบซับที่พระหนุ

“มิเหนื่อยดอก ก็เจ้าปรนนิบัติพี่ดีเยี่ยงนี้”

“พระโอษฐ์หวานนัก”

“ลองแล้วหรือเจ้าถึงว่าหวาน”

“แลให้ลองได้หรือไม่พระเจ้าค่ะ”ว่าแล้วช้อนตามองพระภัสดาอย่างยั่วยวน เผยอปากรอพระโอษฐ์ที่กดแนบบดขยี้กลีบปากนุ่ม ลิ้นนุ่มกวาดชิมพระเขฬะของพระภัสดา

“อืม”

“...อื้อ หากมิได้อยู่บนเกี้ยวพี่จักรักเจ้าให้ช้ำเชียว”

“คิกๆ อดพระทัยไว้หนาพระเจ้าค่ะ”มือน้อยแนบอยู่ที่พระปรางค์

“หึหึหึ”กดจูบที่หน้าผากใส ตะกองกอดร่างน้อย


.
.
.



มินานขบวนเสด็จก็มาถึงน้ำตก ทหารแลข้าหลวงบางส่วนล่วงหน้ามาก่อนเพื่อเตรียมกระโจมแลความพร้อมสำหรับเจ้านายทั้งสอง เสียงน้ำไหลกระทบหิน ทำเอาเจ้าชมนาดอดไม่ได้ที่จะเปิดพระวิสูตรออกเพื่อมองทิวทัศน์ด้านนอก

“เสด็จพี่งามเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”

“ดีใจหนาที่เจ้าโปรด...ออกไปกันเถิด”ตรัสแล้วก็ประคองร่างบางออกจากเกี้ยว

“พระเจ้าค่ะ น้ำใสเหลือเกินพระเจ้าค่ะ อากาศก็ไม่ใคร่ร้อนอย่างที่คิด”สายลมเอื่อยๆ ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ แลเสียงน้ำที่ไหลจากที่สูงลงต่ำทำเอาเจ้าชมนาดยิ้มกว้าง ผ่อนคลายนัก มือน้อยยกขึ้นลูบหน้าท้องตนอย่างไม่รู้ตัว

“เข้าพักในกระโจมให้หายเหนื่อยก่อนเถิด รอให้แดดร่มลมตกค่อยออกมาหนาเจ้า”ตรัสแลประคองร่างน้อยเข้ากระโจมที่พัก

“ฝ่าบาทเพคะ”ไม่ทันที่สองพระวรกายจะเสด็จเข้ากระโจมที่พัก บุตรีท่านเสนาบดีก็ปรี่เข้ามาเสียก่อน

“มีกระไรหรือแม่”ทรงพระราชปุจฉา

“เอ่อ..หม่อมฉัน”

“อุ้บ!!”

“เจ้าชมนาด”

ท่าทางผะอืดผะอมของเมียรัก ทำเอาองค์ภุมรินรีบตะหวัดร่างน้อยเข้าแนบพระอุระ พระพักตร์งามฉายแววกังวล

“สะ เสด็จพี่”ครานี้มิได้เสแสร้งแต่เจ้าชมนาดรู้สึกจริง ดวงหน้าหวานซีดขาว ความรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนตีขึ้นจนมวนท้อง

“เป็นอย่างไรบ้าง ตามหมอหลวงไหม”พระราชปุจฉาพลางใช้พระหัตถ์ซับเหงื่อเม็ดเล็กที่ผุดขึ้นบนหน้าผากใส

“มะ มิเป็นไรพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันคงเหนื่อยจากการเดินทาง”ตอบพระภัสดาพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ มือเลกกุมพระหัตถ์ แลอีกข้างยกทาบอกตัว

“เยี่ยงนั้นเข้าไปพักก่อนหนา...แม่ปิ่นมีกระไรไว้ทีหลังก็แล้วกันหนา”ตรัสแลประคองร่างบางของสนมเอกเข้ากระโจม

“เพคะ”


.
.
.


“เป็นอย่างไรบ้างน้อง”

“เวียนหัวแลคลื่นไส้พระเจ้าค่ะ อาจจะเป็นผลข้างเคียงจากยา”

“ไม่ให้พี่ตามหมอหรือ”

“มิเป็นไรพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันขอนอนพักเสียหน่อยคงจักดีขึ้น”

“เยี่ยงนั้นก็นอนพักก่อนเถิดหนา”

“เสด็จพี่บรรทมเป็นเพื่อนหม่อมฉันหนาพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ”ตรัสแลล้มตัวลงนอนข้างๆสนม พระกรกอดร่างบางไว้แนบพระอุระ พระหัตถ์ลูบแผ่นหลังบางกล่อม พระโอษฐ์ก็กดจูบ หอมกลุ่มผมนุ่มจนเจ้าชมนาดผล็อยหลับไป จึงได้เข้าสู่ห้วงนิทราตามน้องน้อย


.
.
.


เป็นเจ้าชมนาดที่ตื่นขึ้นก่อนองค์ภุมริน ร่างบางค่อยยกพระกรพระภัสดาออกจากเอวบางแลขยับตัวออกจากพระอุระเบาๆ ริมฝีปากอิ่มกดจูบที่พระปรางค์ขาวเบาๆก่อนจะปล่อยให้พระภัสดาบรรทมต่อ เจ้าชมนาดออกจากกระโจมที่พักพร้อมพัดจีนสีหวานฉลุลายดอกบัวงามติดมือมาด้วยเพื่อใช้ไล่ความอบอ้าวของอากาศ เท้าเล็กเดินชมความงามของธรรมชาติ แลน้ำตกงาม นัยน์ตากวางกวาดมองภาพธรรมชาติงดงามพลางคลี่ยิ้มบางๆอย่างพึงใจ มือก็สะบัดพัดเบาให้เกิดลม น้ำตกใสนัก รอให้พระภัสดาตื่นบรรทมเสียก่อนจักลงเล่นน้ำเสียให้ชื่นใจ

“พระสนม”เสียงคุ้นหูทำเอาเจ้าชมนาดชะงัก ริมฝีปากอิ่มค่อยๆหุบยิ้ม ก่อนจะผินกายกลับไปเผชิญหน้ากับบุตรีท่านเสนาบดีฝ่ายขวา

“มีกระไรหรือ”เอ่ยถามก่อนจะยิ้มให้ มือบางก็ยกพัดส่ายไปมา

“...ทรงหยุดทำหน้าตาใสสื่อ ไร้เดียงสาเถิด คิดว่าหม่อมฉันมิรู้หรือว่าพระองค์คอยกลั่นแกล้งหม่อมฉัน”หญิงสาวพูดอย่างแค้นเคือง

“มันช่วยมิได้หนา ก็แม่ทำข้าก่อน คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้ามารยาใส่ผัวข้า”

“...ผัวพระองค์หรือ หึหึหึ มินานดอก ก็ต้องกลายเป็นผัวหม่อมฉัน”

“หึหึหึ ไว้ได้ผัวข้าก่อนหนา ค่อยมาโอ้อวด”

“..มินานดอก พระองค์จักต้องถูกเขี่ยออกนอกวังเป็นแน่”

“งั้นรึ เอ...หากข้ามีพระโอรสน้อย พระธิดาน้อย แม้พระองค์จะอยากเขี่ยข้าทิ้งเพียงใดก็คงจักทำมิได้ดอก”ยิ้มมุมปากพลางยกมือขึ้นลูบหน้าท้องจน แม่ปิ่นที่เห็นดังนั้นก็เบิกตากว้าง

“ทรงครรภ์รึ!!!”แม่ปิ่นถามด้วยสีหน้าตกใจ แต่เจ้าชมนาดทำเพียงยิ้มให้บางๆพลางลูบหน้าท้องตัวเองไม่ตอบคำถามใดๆทั้งสิ้น

“...”

ดวงตาสองคู่จ้องกันอย่างไม่ลดละ สายตาคู่หนึ่งฉายแววเคียดแค้นริษยา อีกคู่หนึ่งฉายแววลุ่มลึกยากที่จะคาดเดา เสียงย่างบนใบไม้ดังกรอบแกรบเรียกความสนใจจากทั้งสอง

“ทูลพระสนม เจ้าหลวงเรียกหาเพคะ”ข้าหลวงสาวหมอบกราบ พลางทูลข้อความแก่เจ้าชมนาด

“ทรงตื่นบรรทมแล้วหรือ”

“เพคะ ทรงตื่นบรรทมแลเรียกหาพระสนมเพคะ”

“งั้นหรือ ขอบใจเจ้ามากหนา...เห็นทีข้าคงต้องขอตัวก่อนหนาแม่ปิ่น พระภัสดาเรียกหาแล้ว”กล่าวพลางยิ้มให้ข้าหลวงสาว ก่อนจะหันมาเอ่ยกับบุตรีขุนนางสูงที่ยืนทำหน้าบูดบึ้ง

“.....”แม่ปิ่นไม่โต้ตอบ มือบางกำแน่น ริมฝีปากบางกัดแน่นสะกดกลั้นความแค้นเคือง เหตุใดมึงจึงชนะกูทุกครา!!! กูเกลียดมึงนัก เจ้าชมนาด!!!


.
.
.


“เสด็จพี่ ตื่นแล้วหรือพระเจ้าค่ะ”เสียงหวานเอ่ยถามพระภัสดาที่ประทับอยู่บนพระแท่นบรรทม ร่างอรชรย่างเข้าหาพระวรกายสูงใหญ่

“ไปไหนมาหนาน้อง ไม่สบายอยู่หนาเจ้าชมนาด”คว้าเอวบางเข้ามากอด พลางตรัสดุแววพระเนตรตำหนิติเตียน แต่เจือด้วยความเป็นห่วง

“มิเป็นไรดอกพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันดีขึ้นแล้ว เมื่อครู่ก็ออกไปรับลม เสด็จพี่...”นั่งลงบนพระเพลาพลางเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“หืม”

“หม่อมฉันใคร่อยากเล่นน้ำตกเหลือเกินพระเจ้าค่ะ น้ำใสน่าเล่นนัก”

“ประเดี๋ยวก็ไม่สบายเอาดอก”

“มิเป็นไรดอกพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันแค่เวียนหัว”

“แน่หรือ พี่ล่ะเป็นห่วงเจ้านัก”

“แน่สิพระเจ้าค่ะ ให้หม่อมฉันลงเล่นน้ำเถิดหนาพระเจ้าค่ะ”

“ก็ได้ๆ แต่พี่จักลงด้วย”

“หึหึหึ พระเจ้าค่ะ”

“แต่ว่ารอให้ให้แดดร่มกว่านี้ก่อนหนา”

“พระเจ้าค่ะ”


.
.
.



เจ้าชมนาดผลัดผ้าเป็นเสื้อแขนกระบอกคอกลมเนื้อบางสีดำเขม่าแลโจงกระเบนสีลูกหว้า ส่วนองค์ภุมรินนั้นนุ่งเพียงโจงกระเบนสีหมึกจีนแลเปลือยพระอุระ

“น้ำเย็นเหลือเกินพระเจ้าค่ะ”มือน้อยกวักน้ำเล่นอย่างตื่นเต้น รอยยิ้มกว้างประทับอยู่บนใบหน้าจนพระภัสดาแย้มพระโอษฐ์ตาม

“ชอบหรือไม่น้อง”ตรัสถามพลางวาดพระกรรวบร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด

“ชอบพระเจ้าค่ะ”เงยหน้ามอบยิ้มหวานให้องค์ภุมริน

“หึหึหึ”พระสรวลในลำคอแลกดจูบที่หน้าผากใส เจ้าชมนาดแย้มยิ้มซบใบหน้าลงบนพระอุระกว้าง แขนเล็กกอดรอบพระกฤษฎี

“เสด็จพี่ทรงชอบไหมพระเจ้าค่ะ”

“ชอบจ้ะ”ตรัสตอบแลเชยคางมนขึ้นประทับจูบอุ่นๆให้น้องน้อย

“อื้อ..ไม่ได้หนาพระเจ้าค่ะ อายเจ้าป่าเจ้าเขาท่าน”ผละออกพลางตำหนิ

“ก็เจ้ายั่วยวนเพียงนี้”

“เสด็จพี่รังแกหม่อมฉันจนช้ำไปหมดแล้วหนาพระเจ้าค่ะ”

“ดอกชมนาดหอมตอนค่ำ ยิ่งช้ำยิ่งเย้ายวนให้ภุมรินเข้าไปดอมดม”ตรัสพลางลูบไล้กายบางผ่านเนื้อผ้าที่แนบไปกับร่างกายน้องใต้ผิวน้ำ

“.....เจ้าบทเจ้าสำนวนนักพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ”พระหัตถ์ไล้วนที่ก้นกลมกลึง

“เสด็จพี่!! มิได้หนาพระเจ้าค่ะ”ตะครุบพระหัตถ์พระภัสดา ก่อนจะเงยหน้าทำตาดุใส่

“มิได้เลยหรือ สักเล็กน้อยก็มิได้หรือ”

“มิได้พระเจ้าค่ะ”

“โธ่ เจ้าชมนาด เมียจ๋า”

“อายเจ้าป่าเจ้าเขา เจ้าที่เจ้าทางเถิดพระเจ้าค่ะ”

“.....”

“เคืองหม่อมฉันหรือพระเจ้าค่ะ”

“.....”

“..เสด็จพี่”

“.....”

“ก็ได้ๆ หม่อมฉันยอมแล้วพระเจ้าค่ะ”

“.....”เหล่พระเนตรมอง

“แต่ต้องกลับเข้ากระโจมก่อนหนาพระเจ้าค่ะ”

“.....”

“เสด็จพี่”ประคองพระปรางค์ขาวแล้วเขย่งกายขึ้นป้อมจูบหวานให้พระภัสดา

“หึหึหึ”พระสรวลเจ้าเล่ห์ก่อนจะตวัดเอวบางเข้าแนบพระวรกาย

“เสด็จพี่ เจ้าเล่ห์นักนะพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ”ช้อนกายบางขึ้นจากน้ำเสด็จกลับกระโจม ระหว่างทางเจอบุตรีท่านเสนาบดีฝ่ายขวา

“ฝ่าบาท ถวายพระพรเพคะ”

“อืม”ครางรับในลำคอแลรีบผละไปอีกทาง แต่หญิงสาวหาได้ยอมไม่

“ฝ่าบาท หม่อมฉันทำแกงเลียงถวายพระองค์ กุ้งตัวโตเชียวเพคะ จัก...”ยังทูลมิทันจบความ

“เย็นนี้ข้าแลพระสนมจักมิเสวย เจ้าทานกันเถิด”

“ตะ แต่”

“เสด็จพี่ หม่อมฉันหนาวพระเจ้าค่ะ”

“จ้ะ...ข้ามิรับกายาหารเย็น”ตรัสแลรีบสาวพระบาทเข้ากระโจมที่พัก


.
.
.



มือบางกำแน่นอย่างเคียดแค้น มีบ่าวสาวคนสนิทคอยบีบนวดเรียวขาเล็กให้คลายอารมณ์แค้นเคือง

“คุณหนูจักทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ”

“...ข้าเกลียดมัน!! เกลียดจนข้ามิรู้จักทำอย่างไรดี เพราะ สมองข้าตอนนี้มันมีแต่ความแค้นจนคิดกระไรมิออกแล้ว”

“...คุณหนูรู้จักหญ้าเสน่ห์หรือไม่เจ้าคะ”บ่าวสาวเอ่ยถามคนเป็นนายพร้อมรอยยิ้มร้าย

“หญ้าเสน่ห์หรือ?...มันคือกระไรกัน”

“หญ้าเสน่ห์สรรพคุณของมันทำให้คนเกลียดกันได้กันมานักต่อนักแล้วเจ้าค่ะ”

“ทำให้คนเกลียดกันได้กันหรือ?..”บุตรีขุนนางเอ่ยอย่างสนอกสนใจ

“ผู้ใดที่ได้กินมันเข้าไปจักมีอาการร้อนรุ่มราวกับมีไฟสุมอยู่ในกาย ทางแก้คือจักต้องเสพสังวาสเท่านั้นเจ้าค่ะ”

“เจ้า!! บังอาจนัก หญ้าอุบาทว์เช่นนั้น...เจ้าจักให้ข้า...”

“ชู่ววว เย็นก่อนเจ้าค่ะคุณหนู ฟังบ่าวก่อน”

“ว่ามา..”

“คิดดูหนาเจ้าคะ หากท่านนำหญ้าเสน่ห์ใส่พระสุธารสให้ฝ่าบาทเสวย....”

“ให้ฝ่าบาทเสวยงั้นหรือ”

“เจ้าค่ะ...แลตำแหน่งพระชายาจะเป็นของใครไปได้ หากมิใช่คุณหนู”

“จริงหรือ มันจักได้ผลขนาดนั้นเชียว”

“เจ้าค่ะ คิกๆๆๆ”

“หึหึหึ แลข้าจักไปหาไอ้หญ้านั้นได้จากที่ไหนกัน”

“มิต้องห่วงดอกเจ้าคะ “ยิ้มร้ายให้คนเป็นนาย ก่อนจะหยิบห่อพกที่เหน็บเอวไว้ออกมา คลี่ห่อผ้าออก พืชใบเรียวสีเขียวสดปรากฏแก่สายตาหญิงสาว

“ข้าต้องทำอย่างไรกับมัน”

“นำหญ้าเสน่ห์ตำให้แหลกแลละลายพระสุธารสให้ฝ่าบาทเสวยเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ แลเจ้าว่าข้าควรจะลงมือเมื่อใดดี”

“ฝ่าบาททรงจักประพาสที่น้ำตกแห่งนี้อีกสองวันหนึ่งคืน  บ่าวคิดว่าคืนวันพรุ่งน่าจักดีที่สุดเจ้าค่ะ”

“คืนวันพรุ่ง มันไม่เร็วไปหรือ”

“หากทรงกลับไปประทับที่วังหลวงแล้วท่านจักหาโอกาสดีๆเยี่ยงนี้ได้หรือเจ้าคะ”

“ถูกของเจ้า”

“เชื่อบ่าวเถิดเจ้าค่ะ....”

“หึหึหึหึหึ”


.
.
.



อรุณนี้เจ้าชมนาดตื่นขึ้นมาด้วยอาการจับไข้ ดวงหน้างามซีดเซียว แต่นัยน์ตากวางแลริมฝีปากอิ่มกลับแดงก่ำ เนื้อตัวร้อนราวกับโดนไฟสุม ทำเอาองค์ภุมรินร้อนพระทัยนัก

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้หนาน้อง”พระพักตร์เคร่งขรึม คอยวนเวียนเช็ดผิวนุ่มไม่ห่าง

“...หม่อมฉันแค่จับไข้หนาพระเจ้าค่ะ แต่เสด็จพี่ทำราวกับข้าเป็นโรคร้ายอย่างนั้นแล”

“พูดกระไรนั้น”บีบปากนุ่มเบาๆเป็นการลงโทษ

“คิกๆๆ ก็ทรงรังแกหม่อมฉันหนักเองนี่พระเจ้าค่ะ”

“ทำอย่างกับว่าพี่มิเคยรังแกเจ้าหนักเยี่ยงเมื่อคืน หนักกว่าราตรีที่ผ่านมาก็เคยมิใช่หรือ”

“เสด็จพี่ เหตุใดจึงตรัสห่ามเยี่ยงนั้นพระเจ้าค่ะ”

“หึหึหึ ก็ห่ามกับเมียคนเดียวนั่นแล”

“คิกๆ”

“ทูลฝ่าบาท แม่นางปิ่นบุตรีท่านเสนาบดีฝ่ายขวาขอเข้าเฝ้าเพคะ”ข้าหลวงสาวกราบทูล

“...ให้นางเข้ามา”ตรัส เจ้าชมนาดค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งโดยมีพระภัสดาคอยพยุงกายบาง แผ่นหลังบางพิงอิงแอบกับพระอุระกว้าง พระกรโอบกอดรอบเอวบางทันที

“ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท...พระสนมเอก”

“มีกระไรหรือ”

“หม่อมฉันเห็นว่าวันพรุ่งพระองค์ก็ต้องกลับวังหลวงแล้ว ค่ำนี้หม่อมฉันจึงได้จัดเตรียมพระกายาหารค่ำที่ริมลำธารใกล้กับกระโจมหม่อมฉันถวายเพคะ หม่อมฉันเห็นว่าอากาศดีนักเพคะ”

“...แต่เจ้าชมนาดประชวรอยู่ เห็นทีจักออกไปตากลมเยี่ยงนั้นมิได้ดอก”

“...ต แต่ หม่อมฉัน..”

“เยี่ยงนั้นเสด็จพี่ทรงเสด็จไปเสวยพระกายาหารค่ำที่ริมลำธารเถิดพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันจักรับกายาหารในกระโจม”

“แต่..”

“เสด็จไปเถิดพระเจ้าค่ะ ทรงปฏิเสธนางมาหลายคราแล้ว”

“..ก็ได้”

“..เยี่ยงนั้น หม่อมฉันจักรอฝ่าบาทหนาเพะ”

“อืม”

“เพคะ”หญิงสาวยิ้มเต็มดวงหน้า แผนของนางเหตุใดมันช่างง่ายดายนัก บทจะง่ายก็ง่ายเสียเหลือเกิน หึหึหึ เจ้าชมนาด ครานี้แล เจ้าจักต้องร้องไห้เป็นเผ่าเต่าเชียว


.
.
.


“เอ่อ...ที่ริมลำธารลมแรงนัก หม่อมฉันจึงย้าย เข้ามาในกระโจมของหม่อมฉันเพคะ”

“มิเป็นไร”

“....เอ่อ...เป็นอย่างไรบ้างเพคะฝ่าบาท รสมือหม่อมฉันพระองค์เสวยได้หรือไม่เพคะ”

“รสมือเจ้าอร่อยนักแม่ปิ่น”

“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท”ก้มหน้าลง ยิ้มกว้างเสียเต็มดวงหน้า

“ข้าหลวง”ตรัสเรียกข้าหลวงสาวที่คอยถวายงานรับใช้อยู่ไม่ห่าง

“เพคะฝ่าบาท”

“พระสนมเสวยหรือยัง”

“กำลังเสวยเพคะ...”

“อืม...หากพระสนมเสวยแล้ว อย่าลืมถวายพระโอสถด้วย”

“เพคะฝ่าบาท”

“เอ่อ..ฝ่าบาทเพคะ”

“อืม..”

“ทรงเสวยน้ำจัณฑ์ก่อนหนาเพคะ”รินน้ำจัณฑ์ใส่จอกเล็กถวาย

“ขอบใจ...”รับจอกน้ำจัณฑ์จากหญิงสาวแลกระดกเข้าพระศอจนหมด แม่ปิ่นยิ้มกริ่มที่แผนการของนางเป็นไปด้วยดี ความฝันที่จักได้เป็นพระชายาอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว

“เป็นอย่างไรบ้างเพคะ น้ำจัณฑ์นี้หม่อมฉันได้มาจากแคว้นใกล้ๆนี้เพคะ”

“อืม รสดีจริงๆ...อึก”

“เป็นกระไรไปเพคะ”เอ่ยถามทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ บุตรีท่านเสนาบดีฝ่ายขวายิ้มกริ่มอยู่ในใจ

“..อึก ขะ ข้า อ่า”พระพักตร์เหยเก พระเสโทผุดขึ้นเต็มพระนลาฏ

“...ฝ่าบาท”

“อึก...”พระวรกายสูงใหญ่ลกจากที่ประทับ โซซัดโซเซ พระหัตถ์กวาดพระประทีปจนทั่วบริเวณมืดมิด คืนเดือนแรม 15 ค่ำ ไร้แสงศศิธร อนธการเข้าปกคลุม เสียงลมหวีดหวิว

“ฝะ ฝ่าบาท”ความกลัวเข้าครอบงำจิตใจของบุตรีเสนาบดีฝ่ายขวา ณ เวลานี้นางมิอาจมองเห็นสิ่งใด ทุกอย่างมืดมิดจนนางหวาดกลัว


สวบๆ


เสียงสวบสาบทำเอานางหวาดผวา

“อ๊ะ!!.....”แรงกระชากทำเอาหญิงสาวตกใจจนตาเหลือก แต่มิทันที่เสียงกรีดร้องได้พ้นกลีบปากสวย ริมฝีปากอุ่นก็แนบเคล้าคลึง บดเบียดจนเจ็บช้า มือหยาบใหญ่ลูบไล้ผิวกายนุ่มนิ่ม ก่อนจะกระชากสไบแลผ้าแถบขาดอกจนปทุมดอกตูมออกมาต้องอากาศ อุ้งมือหยาบประกบบีบขย้ำเต้าอวบอย่างหยาบโลน เสียงหอบหายใจฟังดูกักขฬะ ริมฝีปากร้อนซุกไซร้ซอกคอกรุ่นขบเม้มอย่างรุนแรงราวกับควบคุมตัวเองไม่ได้

“อ่า”เสียงแหบต่ำส่งเสียงในลำคอ

“อ๊ะ ฝะ ฝ่าบาท อือ ฝ่าบาทเพคะ อื้อ...”มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนปิดปากงาม แลอีกข้างกระชากซิ่นผืนงามออกจนร่างระหงเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ ค่ำคืนแรมสิบห้าค่ำ ไร้เงาศศิธร ความมืดมิดคลอเคล้าด้วยเสียงครางหยาบโลน แลกลิ่นไอกักขฬะ ดำเนินอย่างยาวนานจนย่ำรุ่ง


.
.
.


“ข้าทำเกินไปหรือไม่หนา”เจ้าชมนาดเผยสีหน้ากังวลใจ

“อย่าทรงคิดมากเลยเพคะพระสนม”

“ข้ารู้สึกกังวลใจนัก”

“....”

“เฮ้อ เอาเถิด กระไรจักเกิดมันก็ต้องเกิด”เสียงหวานกล่าวอย่างปลอบใจตัวเอง ทั้งๆที่ในใจยังขุ่นมัว ด้วยความกังวล

“อย่าทรงกังวลไปเลยเพคะ ประเดี๋ยวไข้จักกลับ”

“อืม...แลฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง”ถามหาพระภัสดา

“....ฝ่าบาทยังมิตื่นบรรทมเลยเพคะ”

“อืม..หากฝ่าบาทตื่นบรรทมแล้ว เรียกข้าด้วย ข้าจักไปเดินเล่นสูดอากาศตอนเช้าเสียหน่อย”

“เพคะ”

เจ้าชมนาดเดินลัดเลาะไปตามลำธาร อากาศบริสุทธิ์ยามเช้าแลเสียงน้ำตกพอจักทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นของร่างบางคลายความกังวลลงได้บ้าง

“หึหึหึ”เสียงหัวเราะจากด้านหลังทำเอาเจ้าชมนาดชะงักนิ่งก่อนจะค่อยๆผินกายกลับไปเผชิญหน้า ใบหน้างามเผยอรอยยิ้มให้น้อยๆ

“.....”

“หากพระองค์รู้ว่าเมื่อคืนเกิดกระไรขึ้นที่กระโจมของหม่อมฉัน จักยังทรงยิ้มออกไหมหนาเพคะ”หญิงสาวยิ้มเยาะ เจ้าชมนาดกวาดสายตามองร่างบางตรงหน้า เนื้อตัวของหญิงสาวเต็มไปด้วยร่องรอยแดง แลรอยรักที่ประปรายอยู่รอบลำคอระหง ก็ทำเอาเจ้าชมนาดหายใจติดขัด

“..เจ้า”

“หึหึหึหึ พระองค์เสียฝ่าบาทให้หม่อมฉันเสียแล้วพระสนม ฮ่าๆๆ”

“.......”

“หม่อมฉันตกเป็นของฝ่าบาทแล้ว แลบุตรีขุนนางระดับสูงเช่นหม่อมฉัน หากได้รับใช้ฝ่าบาทแล้วตำแหน่งที่ได้ก็คงมิพ้นพระชายา....หึหึหึ”

“.....”

“พระองค์แพ้หม่อมฉันเสียแล้วพระสนม!!!”







********************************************************************

ปล.ไม่มาม่าแน่นอน



ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เรื่องราวจะเป้นอย่างไรต่อรีบมาต่อน้าาาาร อยากอ่าน

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
โอ๊ยยย อยากอ่านต่อ  :ling1:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ brave

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
ไม่ใช่ฝ่าบาทแน่ๆอะ   R.I.P. นะจ๊ะเเม่นางปิ่นปั๊วเธอจะเป็นใครก็มิรู้หนา

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1



ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ๐๙



“อึก..อืม”พระสุระเสียงครางเครือด้วยความเมื่อยขบดังขึ้นในพระศอ เปลือกพระเนตรค่อยๆลืมขึ้น

“...ฝ่าบาท”เสียงหวานของเมียรักทำให้องค์ภุมรินกวาดสายพระเนตรหาร่างบาง มินานเกินรอร่างงามก็ปรากฏในห้วงสายพระเนตร

“เจ้าชมนาด...”พระสุระเสียงแหบเอ่ยเรียก ก่อนจักคว้ามือบางเข้ากอบกุม ยกมือนุ่มจรดพระนาสิกหอมมือบางอย่างรักใคร่

“เป็นอย่างไรบ้างพระเจ้าค่ะ”

“พี่...มิเป็นไรดอก แลเจ้าเล่า”

“...หม่อมฉัน..”ใบหน้างามซีดเซียว คิ้วเรียวขมวดผูกกันฉายแววกังวลใจ

“มิเป็นไรหนาคนดี มิต้องกังวลใดๆเลย”ยันพระวรกายขึ้นประทับนั่ง

“เสด็จพี่ หม่อมฉันกังวลนักพระเจ้าค่ะ...”ประคองพระหัตถ์เรียวแนบแก้มตน ขอบตาแลปลายจมูกโด่งรั้นแดงก่ำ หยาดน้ำตาคลอหน่วย

“เหตุใดหมู่นี้เจ้าจึงเสียน้ำตาง่ายนักหนาน้อง.....ชมนาดจ๋า...อย่ากังวลหนาคนดี เราจักผ่านมันไปด้วยกัน”พระดัชนีเกลี่ยน้ำตาเม็ดโตออกจากดวงหน้างาม

“หม่อมฉันห่วงพระองค์เหลือเกินพระภัสดา...”


“.....”


.
.
.


หลังจากกลับเข้าประทับที่วังหลวง ได้เพียงสองวัน เสนาบดีฝ่ายขวาก็เข้าเฝ้าองค์ภุมรินทันที

“ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้กับบุตรีหม่อมฉันมิได้หนาพะย่ะค่ะ”เสนาเฒ่าเอ่ยเสียงแข็ง

“...จักให้ข้าทำเช่นไรท่านเสนาว่ามาเถิด”

“แม่ปิ่นเป็นถึงบุตรีเสนาบดีฝ่ายขวา บุตรีขุนนางสูงเช่นหม่อมฉันจักถูกหมิ่นเกียรติเยี่ยงนี้มิได้”

“.....”

“โปรดทรงแต่งตั้งบุตรีของหม่อมฉันเป็นพระชายาในพระองค์ด้วยเถิดพะย่ะค่ะ...ได้โปรดรักษาเกียรติของบุตรีของหม่อมฉันที่ถูกพระองค์ย่ำยีด้วยเถิด”

“....”

“ได้โปรดพะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“.....”

“.....”

“.....อีกยี่สิบวันข้าจักแต่งตั้งพระชายา”

“ขะ ขอบพระทัยพะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“...."


.
.
.



“ฝ่าบาท หม่อมฉันเห็นควรว่า เอ่อ...ควรให้พระสนมชมนาดออกจากวังเสีย เพื่อความปลอดภัยของพระสนมพะย่ะค่ะ”องครักษ์หลวงสุธีกราบทูล

“..ให้ชมนาดออกจากวังเพื่อความปลอดภัยหรือ”

“พะย่ะค่ะ กระหม่อมเกรงว่า...”

“ได้ ข้าจักให้เจ้าชมนาดออกนอกวังหลวงเสีย”

“...พะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“ให้มาวินอารักขาคุ้มครองเจ้าชมนาดเสีย....ตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากวังหลวง”

“พะย่ะค่ะ”


.
.
.



“กระไรหนาพระเจ้าค่ะ สะ เสด็จพี่...”เสียงหวานขาดห้วง กลืนก้อนสะอึกลงคออย่างอยากลำบาก น้ำตาเอ่อคลอจวนเจียนจะไหล

“...เจ้าชมนาด”

“อึก...ให้หม่อมฉันออกจากวังหรือพระเจ้าค่ะ”เค้นเสียงถามอย่างยากลำบาก พยายามอย่างยิ่งที่จะบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเครือ

“...ใช่ พี่มีรับสั่งให้เจ้าออกจากวังหลวงวันพรุ่ง”ได้ยินพระสุระเสียงที่ตรัสแล้ว เหมือนหัวใจจักหยุดเต้น น้ำตาใสไหลอาบแก้มนวล ริมฝีปากแดงเม้มแน่นอย่างกลั้นเสียงสะอื้น

“ฮึก....”

“น้อง..”ก้าวพระพระบาทเข้าใกล้ หวังจะคว้าร่างของเมียรักเข้ามากอดปลอบ แต่เจ้าชมนาดกลับถอยหนีจนเจ้าหลวงพระทัยเสีย

“...รับ..อึก..ด้วยเกล้า ฮึก พระเจ้าค่ะ”ฟันขาวขบกัดริมฝีปากตัวเองกลั้นเสียงสะอื้นจนองค์ภุมรินกลัวว่ากลีบปากนุ่มที่โปรดจักช้ำได้เลือด

“ชมนาด...”

“ฮึก...หะ หากไม่มีอันใด...หมะ หม่อมฉันทูลลาพระเจ้าค่ะ..ฝ่าบาท”ร่างเล็กยอบกายลงหมอบกราบพระภัสดา ก่อนจะลุกขึ้นแลออกจากตำหนักหลวง

“ชมนาด”ครางเรียกอย่างเสียพระทัย

“ฮึก”ร่างเล็กซวนเซ จะทรุดลงกับพื้น

“ชมนาด!! น้องเป็นอย่างไร เป็นกระไรไปหนา”พระวรกายใหญ่ถลาเข้าประคองร่างน้อย พระเนตรกวาดทั่วร่างบางหาความผิดปกติ เจ้าชมนาดหอบหายใจ ใบหน้าหวานอาบน้ำตาแลดูมึนงง นัยน์ตากวางพร่ามัว

“...มิได้พระเจ้าค่ะ...อะ อุ่น”ขืนกายออกจากพระกร แลยื่นมือเรียกหาบ่าวคนสนิท

“ชมนาด”มิยอมปล่อยกายบางที่พยายามขืนกายออกจากพระองค์

“อะ อุ่น ฮึก..”ใบหน้างามซีดไร้สีเลือด ความรู้สึกมวนท้องใคร่อาเจียนตีขึ้นจนต้องข่มตาหลับ มือเท้าเล็กเย็นเฉียบ สติดับวูบ ทิ้งกายลงในพระกรพระภัสดา

“ชมนาด!!!...ตามหมอหลวง!!”


.
.
.



“เป็นอย่างไรบ้างหมอหลวง”

“...ทูลฝ่าบาท ชีพจรพระสนมเต้นเร็วนักพะย่ะค่ะ”

“หมายความว่าอย่างไร กล่าวมาให้หมด”

“...พระสนมอาจจะทรงครรภ์พะย่ะค่ะ”

“....ก กระไรนะ”มุมพระโอษฐ์กระตุกราวกับจักยิ้ม แต่ยิ้มมิออก

“พระสนมทรงครรภ์แล้วพะย่ะค่ะ”

“....เจ้าชมนาด”ประคองมือน้อยขึ้นจูบหอม

“ท่านราชเลขา”

“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

“ประทานรางวัลให้หมอหลวง”

“เป็นพระมหากรุณาธิคุณพะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”หมอหลวงหมอบกราบ

“...ข้าใคร่อยากอยู่กับเจ้าชมนาดตามลำพัง”รับสั่ง

“พะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

พระหัตถ์เรียวประคองมือน้อยไว้ไม่ปล่อย พระโอษฐ์มีรอยยิ้มน้อยๆแต่งแต้มตลอดเวลา กดพระนาสิกจรดปรางนวลสูดกลิ่นหอมของเมียรัก

“....เจ้าชมนาดเป็นอย่างไรบ้างน้อง”เงยพระพักตร์ขึ้นก็พบกับสายตาว่างเปล่าของเมียรักที่ทอดมองมา

“.....”

“เป็นอย่างไรบ้างน้อง เจ็บปวดตรงไหนหรือไม่”ตรัสถามพลางประคองร่างน้อยที่พยายามยันกายลุกนั่ง

“อุ่นอยู่ไหนพระเจ้าค่ะ”เอ่ยถามแต่ไม่ชายตาแลพระพักตร์พระภัสดาเลย

“...อุ่นอยู่ข้างนอก ให้พี่เรียกให้หรือไม่”

“พระเจ้าค่ะ”

“อุ่น...”

“เพคะฝ่าบาท”

“เจ้าชมนาดใคร่อยากพบเจ้า”

“เพคะ..พระสนมต้องการสิ่งใดเพคะ”

“...ไปเตรียมตัวให้พร้อม วันพรุ่งเราต้องเดินทางออกจากวังหลวง”

“พระสนม..”

“ชมนาด..”

“...อย่าลืมพุดจีบ มันกำลังตั้งท้องดูแลมันให้ข้าด้วย”

“เอ่อ..เพคะพระสนม”

“....เจ้าออกไปก่อนเถิดอุ่น”

“เพคะฝ่าบาท”

“เจ้าชมนาด...”

“หากจักเป็นพระมหากรุณาธิคุณ หม่อมฉันใคร่อยากอยู่คนเดียวพระเจ้าค่ะ”

“...ชมนาด ได้โปรดฟังพี่ก่อนเถิดหนา”ตรัสอ้อนวอน แลเข้าโอบกายบางจากด้านหลัง

“.....”

“...เพื่อความปลอดภัยของเจ้า.....กับลูก”

“.....”นัยน์ตากวางเบิกกว้าง

“ชมนาด..”

“ละ ลูกหรือพระเจ้าค่ะ...หมะ หมายความว่า..”

“...ลูกของเราอยู่ใท้องเจ้าหนา”พระหัตถ์อุ่นทาบลงบนหน้าท้องแบนราบที่กำลังฟูมฟักชีวิตน้อยๆของรัชทายาทในองค์ภุมริน

“ฮึก..ละ ลูก หรือ”มือบางสั่นน้อยๆ ค่อยๆวางลงบนหน้าท้องตัวเอง

“....เมียจ๋า ฟังพี่ก่อนหนา”พระสุระเสียงกล่าวเจือแววออดอ้อน พระหนุวางบนลาดไหล่เล็ก


.
.
.



“...หากเป็นเช่นนั้น หม่อมฉันห่วงเสด็จพี่เหลือเกินพระเจ้าค่ะ”ท่าทีเย็นชาเมื่อครู่หายไป เหลือกเพียงเสียงหวานที่เจือแววห่วงใย

“..สิ่งสำคัญตอนนี้ คือ เจ้าแลลูกหนา”

“ตะ แต่”

“....ลูกสำคัญที่สุดหนา”

“...พระเจ้าค่ะ”นัยน์ตากวางหลุกหลิกด้วยความกังวล ห่วงพระภัสดาเสียจนไม่ใคร่ทิ้งไปไหน แต่ลูกก็สำคัญที่สุดอย่างที่พระองค์ว่า


.
.
.



“มาวิน”

“พะย่ะค่ะฝ่าบาท”หากสุธีเปรียบเสมือนเงาในที่สว่างข้างพระวรกายองค์ภุมริน มาวินก็คงเปรียบเสมือนเงาในที่มืดที่คอยอารักขาเจ้าหลวงอย่างที่น้อยคนนักจะรู้จักองครักษ์หลวงผู้นี้

“...เจ้าชมนาดกำลังตั้งครรภ์”

“...กระไรหนาพะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“เจ้าชมนากำลังตั้งครรภ์รัชทายาท ลูกของข้า”

“.....”

“เจ้าคงรู้ว่าจักต้องป้องกันมากกว่าเดิมหลายเท่านัก”

“พะย่ะค่ะฝ่าบาท หม่อมฉันจักอารักขาพระสนมแลรัชทายาทในพระครรภ์ด้วยชีวิตของกระหม่อม”

“...ดี”


.
.
.


บนพระยี่ภู่สีหวานปักลายดอกไม้งาม สองพระวรกายตระกองกอดกันแนบแน่น สายลมบางเบาพัดผ่านพอให้พระวิสูตรลายลูกไม้พลิ้วไหว พระหัตถ์อุ่นลูบแผ่นหลังบางปลอบประโลมเมียรัก แลพระองค์เอง วันพรุ่งเจ้าชมนาดจักต้องออกจากวังหลวงพร้อมรัชทายทาขององค์ภุมรินในครรภ์น้อย แม้จักมีมาวินคอยอารักขาแต่ก็อดกังวลพระทัยมิได้ ยิ่งรักมากก็ยิ่งกังวลพระทัย ใบหน้างามชื้นน้ำตาแนบซบพระอุระอุ่นของพระภัสดา แขนเรียวเสลากอดพระกฤษฎี

“...เสด็จพี่”เสียงหวานแหบเอ่ยเรียกพระภัสดา

“จ๋า...”

“.....”

“...เจ้าชมนาดมิต้องห่วงพี่หนาคนดี”

“หม่อมฉันทำมิได้ดอกพระเจ้าค่ะ”

“...หากเจ้ากังวล เจ้าตัวน้อยในท้องเจ้าก็จักไม่แข็งแรงหนา”

“...ฮึก”

“...ห่วงลูกให้มากหนาน้อง”

“...พระเจ้าค่ะ...หม่อมฉันจักดูแลลูกให้ดีที่สุดจักปกป้องลูกด้วยชีวิต”

“...มินานดอก มินาน....พี่จักทำให้เจ้าแลลูกมีความสุขที่สุดในแผ่นดินนี้”

“เสด็จพี่”เงยใบหน้างามขึ้น ช้อนตามองพระพักตร์พระภัสดาก่อนจะหลับตาลงเมื่อพระโอษฐ์อุ่นแนบลงบนกลีบปากนุ่มแผ่วเบา จูบซับอ้อยอิ่ง


.
.
.



“อุ่น”

“เพคะ ฝ่าบาท”หมอบกราบรับพระราชโองการจากเจ้าหลวงหนุ่ม

“...จงปรนนิบัติ ดูแลเจ้าชมนาดให้ดีที่สุด...เข้าใจหรือไม่”

“เพคะ หม่อมฉันจักดูแล ปรนนิบัติพระสนมให้ดีที่สุด แลจักปกป้องพระสนมด้วยชีวิตของหม่อมฉัน”

“ดี..ดีมาก”

“..ทูลฝ่าบาทพระสนมเสด็จแล้วเพคะ”นางข้าหลวงหน้าพระทวารกราบทูล พร้อมร่างบางที่ก้าวย่างเข้ามาในท้องพระโรงของตำหนักทรงงานโดยมีนางข้าหลวงสาวประคองไม่ห่าง

“เจ้าชมนาด”เสด็จจากแท่นประทับเข้าประคองเมียรักด้วยองค์เอง

“...เสด็จพี่”ส่งยิ้มน้อยๆให้พระภัสดา

“ไหวหรือไม่คนดี”ตรัสถามอย่างนึกห่วง ใบหน้างามซีดเซียว

“ไหวพระเจ้าค่ะ อย่าทรงกังวลนักเลย”มือเล็กยกขึ้นไล้พระปรางค์เกลี้ยงแผ่วเบา

“.....”ถอนพระปัสสาสะ ก่อนจะกดพระนาสิกหอมขมับขาว

“...ทูลฝ่าบาท มาวิน มาแล้วพะย่ะค่ะ”สุธีกราบทูล ทำเอาทั้งสองพระองค์นิ่งค้าง เจ้าชมนาดทำหน้าราวกับจักร่ำไห้ ก่อนจักกลืนก้อนสะอื้นลงคอ เงยหน้ามองพระพักตร์พระภัสดาอย่างอาลัยอาวรณ์ องค์ภุมรินก็มิต่างกันทอดพระเนตรใบหน้างามของเมียรัก พระหัตถ์ประคองปรางค์นวลก่อนจักรั้งร่างบางเข้ามาในอ้อมพระอุระ

“เสด็จพี่..มิต้องกังวลหนาพระเจ้าค่ะ หม่อมฉันจักดูแลลูกให้ดีที่สุด”

“..รอหน่อยหนาเจ้า มินานพี่จักรับเจ้ากลับมาอยู่ด้วยกัน”

“หม่อมฉันกับลูกจักรอพระองค์หนาพระเจ้าค่ะ”

“....เอาล่ะ ออกเดินทางเถิดประเดี๋ยวจักถึงที่หมายค่ำเอา”ตรัสแลค่อยๆผละออกจากร่างบาง เจ้าชมนาดเม้มปากกลั้นหายใจ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

“...หม่อมฉันไปแล้วหนาพระเจ้าค่ะ”เอ่ยพลางแย้มยิ้มให้พระภัสดา

“...พี่รักเจ้าหนา”

“หม่อมฉันก็รักพระองค์พระเจ้าค่ะ”

“..เจ้าชมนาด”รั้งร่างบางเข้ามากอดอีกครั้ง กดพระนาสิกกับผมนุ่มสูดกลิ่นหอมก่อนจักต้องตัดใจผละออกจริงๆ เมื่อมาวินเอ่ยเย้าขึ้น

“เลื่อนการเดินทางไปวันพรุ่งดีไหมพะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“..ฮึ...จงอารักขา ปกป้องลูกเมียข้าด้วยชีวิตของเจ้า”

“รับด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ”

เจ้าชมนาดออกจากท้องพระโรงตำหนักทรงงานโดยมีอุ่นประคองกายบางไม่ห่าง แต่มิทันจักได้ขึ้นเกี้ยวพระที่นั่ง ขบวนเสด็จของพระสนมเอกในองค์ภุมรินก็ถูกขวางโดยบุตรีเสนาบดีฝ่ายขวาแลบ่าวคนสนิท

“หึหึหึ...น่าขันนักเจ้าว่าหรือไม่นังอ่อน”

“...เจ้าค่ะคุณหนู”

“พระสนมเอกทรงถูกขับไล่ออกจากวังหลวง ช่างน่าขายหน้านัก”

“เจ้าต้องการอันใดแม่ปิ่น”เจ้าชมนาดเอ่ยถามเสียงเรียบ

“หม่อมฉันมาแสดงความเสียพระทัยกับพระองค์เพคะ ช่างน่าสมเพชเวทนานัก”

“ฮึ...”

“หม่อมฉันมาแสดงความเสียพระทัยกับพระองค์แล้ว แลพระสนมจักไม่แสดงความยินดีกับหม่อมฉันหน่อยหรือเพคะที่จักได้สถาปนาขึ้นเป็นพระชายาขององค์ภุมริน”

“...คราแรกนั้น ข้าสงสารเจ้าจับใจ แต่ตอนนี้ข้าชังเจ้านัก รู้ไว้เถิดว่าเจ้าทำตัวเอง หาได้มีใครผิด”

“หึหึหึ แพ้แล้วพาลหรือ เอาล่ะ เพลานี้ข้ามีความสุขเกินกว่าจักเก็บวาจาของผู้แพ้มาใส่ใจ”หากเจ้าใส่ใจสักนิดหนาแม่ปิ่น...

“คุณหนูเจ้าขาบ่าวว่าคุณหนูไปเข้าเฝ้าเจ้าหลวงดีกว่าหนาเจ้าคะ อยู่ตรงนี้ประเดี๋ยว...กลิ่นหมาหัวเน่าจักติดตัวเอา”

“บังอาจ!!!! อีทาสชั้นต่ำ หากวันนี้ดาบของกูมิได้เลือดมึงมาล้างมันคงจักคลั่งเป็นแน่!!”สุธีที่ตามมาส่งขบวนเสด็จพระสนมว่าพลางชักดาบออกมาจ่อที่ปากของบ่าวสาวที่ตอนนี้ตาเหลือก หน้าซีดไร้สีเลือดด้วยความตกใจพอๆกับคนเป็นนาย

“...พอเถิดสุธี ข้ามิถือดอก...จงจำไว้หนาแม่ปิ่น หมาจนตรอกเมื่อมันหมดทางหนีทีไล่ มันจักหันมาแว้งกัดคนที่ล่ามัน...”ว่าทิ้งท้ายก่อนจะเดินผ่านร่างของสองนายบ่าวไปขึ้นเกี้ยว โดยมีอุ่นตามขึ้นไปคอยปรนนิบัตินาย

“หมาจนตรอกรึ..”หญิงสาวเอ่ยพึมพำ แต่ก็มิวายให้บ่าวข้างกายได้ยิน

“..อย่าไปสนใจเลยเจ้าค่ะคุณหนู เข้าเฝ้าเจ้าหลวงเถิด”

“...ไปสิ”ได้ยินบ่างสาวว่าเยี่ยงนั้นจึงเลิกใส่ใจแลเดินทางไปที่ตำหนักทรงงานเพื่อเข้าเฝ้าชายในดวงใจ


.
.
.



“...ทูลฝ่าบาท แม่นางปิ่นขอเข้าเฝ้าเพคะ”

“..เฮ้อ..ให้นางเข้ามา”

“ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท”

“มาเข้าเฝ้าข้ามีกระไรหรือ”

“หม่อมฉันมาเรื่องงานสถาปนาพระชายาเพคะ”

“...หืม”

“หม่อมฉันจักทอผ้าสำหรับตัดฉลองพระองค์ถวายใส่วันงานหนาเพคะ”กราบทูลด้วยความเขินอาย

“..มิต้องเหนื่อยดอก ให้ห้องตัดเย็บทำดีแล้ว เจ้ามิต้องทำอันใดดอก”..เจ้าชมนาดคงไม่โปรดแน่หากข้าจักใส่ฉลองพระองค์ที่ทำจากผ้าที่นางทอ

“..พระองค์กลัวหม่อมฉันเหนื่อยหรือเพคะ”เอ่ยถามด้วยหัวใจพองโต จนลืมสังเกตไปว่า บ่าวสาวคนสนิทของตนกำลังชม้ายตามองชายสูงศักดิ์อย่างให้ท่า ใครบ้างจักไม่ปรารถนาชายสูงศักดิ์เยี่ยงเจ้าหลวง

“....หากไม่มีเรื่องใดแล้วข้าคงต้องขอตัวก่อน ประเดี๋ยวงานราชกิจจักเสร็จไม่ทันงานสถาปนาพระชายา.”พระองค์ไม่ตอบแลเลี่ยงไปเรื่องอื่น

“..ยะ เยี่ยงนั้นหม่อมฉันขอทูลลาเพคะ”

“.....”


.
.
.


ภายในเกี้ยวเสด็จของพระสนมเอกในองค์ภุมริน เจ้าชมนาดประทับโดยมีอุ่นนั่งปรนนิบัติรับใช้อยู่แทบเท้าบาง บ่าวสาวบีบนวดปลีน่องเล็กให้คนเป็นนาย

“อุ่น”

“เพคะพระสนม”

“...ข้าจักอาเจียน”ใบหน้างามผะอืดผะอมจนบ่าวสาวกุลีกุจร คว้ากระโถนมารองที่ใต้คางแหลม



อะ อ้วกกก โอกก



เจ้าชมนาดอาเจียนจนหน้ามืด ใต้จมูกเล็กมียาหอมจ่ออยู่

“เป็นอย่างไรเพคะพระสนม”

“...อย่าเกเรหนาลูก”ส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเอ่ยเบาๆกับคนที่อาศัยอยู่ในท้องตน

“ทรงซนน่าดูหนาเพคะ ขนาดยังอยู่ในครรภ์องค์รัชทายาทยังออกฤทธิ์ออกเดชให้พระสนมลมแทบจับ”อุ่นเอ่ยเย้าจนเจ้าชมนาดยิ้ม

“นั่นสิ..เจ้าตัวน้อยร้ายน่าดู”มือบางลูบท้องตนเบาๆอย่างเอ็นดู

“ทูลพระสนม ทรงเป็นอย่างไรบ้างพะย่ะค่ะ”องครักษ์มาวินทูลถามจากนอกเกี้ยว

“..ข้ามิเป็นไรดอกท่านองครักษ์มาวิน องค์รัชทายทาเกเรเล็กน้อยเท่านั้น อย่ากังวลเลย”

“มิได้พะย่ะค่ะ องค์ภุมรินคงจักกุดหัวหม่อมฉันเป็นแน่หากพระสนมประชวร แม้เพียงปลายพระเกศา”เอ่ยเย้าให้พระพักตร์งามขึ้นสี

“.....”

“ทูลพระสนมหม่อมฉันมีกระไรมาถวายพะย่ะค่ะ”มาวินกล่าว

“กระไรหรือ”

“..ผลอัมพวาพะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงรับสั่งให้ห้องเครื่องจัดเตรียมเพื่อพระสนมด้วยเกรงว่าจักแพ้ท้องระหว่างทาง...แลก็จริงเยี่ยงตาเห็นหนาพะย่ะค่ะ”

“.....”เจ้าชมนาดไม่ตอบ กลีบปากสวยคลี่ยิ้มจนอุ่นยิ้มตาม มือบางประคองหน้าท้องตนอย่างรักใคร่

“เสวยหน่อยหนาเพคะจักได้รู้สึกดีขึ้น”อุ่นนำผลอัมพวาถวายให้คนเป็นนาย มือเล็กหยิบผลอัมพวาที่ฝานเป็นแว่นเข้าปาก รสเปรี้ยวทำให้ความวิงเวียนทุเลาหายไปเป็นปลิดทิ้ง ไม่นานผลอัมพวาก็หมด

“...ทรงเหนื่อยหรือไม่เพคะ”

“อืม..”

“เยี่ยงนั้น ทรงบรรทมก่อนดีหรือไม่เพคะ ประเดี๋ยวถึงแล้วหม่อมฉันจักปลุก”

“...ก็ดีหนา ฝากด้วยหนาอุ่น”

“เพคะ”








****************************************************************




ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เอ๊ะ...! ??? อะไรงะ ตกลงองค์ภุมรินได้กับนางปิ่นรึยัง? งงเด้ งงเด้!! เฮ้ออออ เลาเกลียดพล็อตโดนยาปลุกจริงจัง (ถ้ามีอะไรกับคนอื่นก่อนมารักกันนี่รับได้แต่มีหลังจากรักกันนี่ไม่ไหว 555 ถึงจะรู้ว่านิยายแนวพระเอกเป็นพวกเจ้าชาย พระราชาจะหลีกเลี่ยงเรื่องนั้นยากก็เถอะ -*- )T___T แต่ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ยังไง อะไร งงอะ  :serius2:
รอเรื่องคลี่คลายน้อ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ BloodyBlue

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กรี๊ดด ชอบเรื่องแนวนี้55555 ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
มาต่อไวๆหนอพระเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ชอบนายเอกแบบนี้ ดูแกร่ง สู้คนในเรืีองที่ควรสู้
ส่วนเรื่องนางปิ่นคิดว่าคืนนั้นคงมีอะไรกับคนอื่นแน่ๆ แต่เจ้าหลวงรอดมาได้ยังไงล่ะ

ออฟไลน์ goldentime

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
องค์ภุมรินปกปิดเรื่องอันใดไวแน่ๆ ไม่งันเจ้าชมนาคหรือจะยอมจากไป

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Thichadad3938

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1


ชมนาดเย้ายวนส่งกลิ่น...ภุมรินหลงใหลคะนึงหา ๑๐


“...ทูลฝ่าบาท มาวินส่งพิราบสื่อสารมาว่าพระสนมถึงที่ประทับแล้วพะย่ะค่ะ ทรงปลอดภัย”สุธีกราบทูลเมื่อได้รับสารจากสหาย

“ดี...แลเรื่องเสนาฝ่ายขวาที่ข้าให้เจ้าไปสืบได้ความว่าอย่างไร”

“ทูลฝ่าบาทเรื่องที่พระองค์สงสัย...เป็นความจริงพะย่ะค่ะ ท่านเสนาบดีฝ่ายขวาแลขุนนางฝ่ายขวาได้ซ่องสุมกำลังเพื่อทำการ...กบฏต่อองค์ภุมรินพะย่ะค่ะ”

“ฮึ...ข้านึกแล้ว”

“...แต่อย่าได้กังวลไปเลยพะย่ะค่ะฝ่าบาท พระองค์ทรงเป็นพระราชาที่มีกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งกว่าแคว้นใด หม่อมฉันแลกองกำลังทหารของพระองค์จักปกป้องพระองค์ แลเชื้อพระวงศ์มิให้ได้รับอันตรายพะย่ะค่ะ”

“.....เยี่ยงนั้นเตรียมกำลังทหารให้พร้อม วันสถาปนาพระชายาที่จักถึง ข้าจักล้างบางกบฏชั่วพวกนั้นให้ราบเป็นหน้ากลอง”

“รับด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ”


.
.
.



อุ๊บ อะ อ้วกกกกก


เจ้าชมนาดโก่งคออาเจียนอยู่ที่ชานระเบียงโดยมีอุ่นแลนางข้าหลวงคนสนิทในตำหนักหลวงที่ตามเสด็จคอยลูบแผ่นหลังบาง แลรวบผมยาวไว้ให้

“เป็นอย่างไรบ้างพะย่ะค่ะพระสนม”มาวินที่คอยเฝ้าอยู่ห่างๆร้องถาม

“ขะ ข้า..อ้วกกก”ชมนาดอาเจียนจนน้ำหูน้ำตาไหล กายบางคงทรุดไปแล้วหากไม่มีอุ่นแลนางข้าหลวงคอยพยุง

“ท่านองครักษ์หลวง ขอแรงท่านช่วยไปเก็บผลมะดันสด ต้นที่อยู่ใกล้ลำธารมาถวายพระสนมหน่อยเถิด”อุ่นว่าก่อนจะพยุงร่างคนเป็นนายมานั่งที่ตั่งตัวใหญ่  คนตัวเล็กพิงพระเขนยสามเหลี่ยมก่อนจะหลับตาสูดยาหอมที่ข้าหลวงสาวนำมาจ่อที่ใต้จมูก อุ่นแสดงสีหน้าห่วงใยคนเป็นนายพลางใช้ผ้าซับพระพักตร์ผืนสะอาดซับเหงื่อไคลบนใบหน้าหวานให้อย่างอ่อนโยน

“ได้สิแม่ รอประเดี๋ยวหนาข้าจักไปเก็บมาถวาย”ว่าก่อนจะลงจากเรือนไป

“เป็นอย่างไรบ้างเพคะพระสนม”บีบนวดปลีน่องเล็กแล้วไถ่ถามอย่างห่วงใย

“ข้าเวียนหัวเหลือเกินอุ่น..อึก”

“โถ ทูนหัวของอุ่น”


เมี๊ยววว เมี๊ยววว


“พุดจีบ ท้องโย้เชียวลูก”เจ้าชมนาดว่าแล้วเอื้อมมือไปลูบหัววิฬารหน้าดำตัวขาว ข้าหลวงสาวจึงอุ้มวิฬารท้องโย้ขึ้นถวาย เจ้าชมนาดรับพุดจีบขึ้นกอดแนบอก

“อีกไม่นานมันคงจักคลอดเพคะ”

“อีกหน่อยข้าคงเป็นเช่นมัน ท้องโย้ อุ้ยอ้ายนัก คิกๆๆ”ตรัสแล้วใช้พระดัชนีเกาเบาๆที่คางพุดจีบ

“คิกๆๆ”อุ่นแลนางข้าหลวงสาวหัวเราะตาม

“จนบัดนี้ข้ายังมิรู้เลยหนาว่าพ่อของลูกพุดจีบเป็นแมวผู้ใด”

“คงจักเป็นแมวในวังนั่นแลเพคะ”

“หึหึหึ คลอดออกมาเหมือนตัวใดก็คงลูกตัวนั้นแล”

“มิวายจักเป็นแมวของท่านสุธีหนาเพคะ”

“หืม...ท่านสุธีเลี้ยงแมวด้วยหรือ”

“เพคะ แมวขาวเพศผู้ ปราดเปรียวนัก วิ่งอยู่ในวังนั่นแลเพคะ”

“.....”

“เฮ้อ...ข้าคิดถึงฝ่าบาท”

“รอไม่นานหนาเจ้าคะ ประเดี๋ยวก็จักได้กลับไปเข้าเฝ้าแล้ว”

“เหตุการณ์ภายในวังหลวงไม่น่าวางใจนัก ข้าเป็นห่วงพระภัสดาเหลือเกิน”

“องค์ภุมรินเป็นราชาที่ได้ชื่อว่ามีกองกำลังทหารที่แข็งแกร่งกว่าแคว้นใด พระสนมมิต้องห่วงไปดอกเพคะ”ข้าหลวงสาวกราบทูล

“นั่นสิเพคะ อย่าทรงคิดมากไปเลย ประเดี๋ยวองค์รัชทายาทในพระครรภ์จักทรงไม่สบายพระวรกายหนาเพคะ”

“...ลูกข้ายังไม่ถึงสองเดือนดีด้วยซ้ำ ยังมิรู้เรื่องดอก”

“มิได้เพคะพระสนม มารดาของหม่อมฉันเล่าให้ฟังว่าแม่รู้สึกอย่างไรลูกก็จักรู้สึกเช่นนั้นเพคะ หากพระองค์ทรงกังวล รัชทายาทในพระครรภ์ก็จักทรงกังวลไปด้วยหนาเพคะ”

“เยี่ยงนั้นหรือ”

“เพคะ เพราะฉะนั้นทรงทำพระทัยให้สบายๆไว้หนาเพคะ เพื่อพระวรกายขององค์รัชทายาทในพระครรภ์”

“...ก็ได้ ข้าจักไม่คิดมากเพื่อลูก”

“ทูลพระสนมได้มะดันสดมาแล้วพะย่ะค่ะ”องครักษ์มาวินกลับมาพร้อมตะกร้าสานใบย่อมที่มีลูกมะดันสีเขียวอยู่เต็ม

“หม่อมฉันจักนำไปล้างถวายหนาเพคะ”อุ่นว่า

“ข้าขอเกลือด้วยหนาอุ่น”

“เพคะ”

ลูกมะดันสดสีเขียว ยั่วน้ำลายเจ้าชมนาดนัก แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าเปรี้ยวเสียจนเข็ดฟัน มือเล็กหยิบมะดันจิ้มเกลือเข้าปากเคี้ยวกรวมๆอย่างเอร็ดอร่อย ทำเอาอีกสามคนที่เหลือทำหน้าปั้นยาก

“อืม...พวกเจ้าเอาไหม มะดันต้นนี้อร่อยนัก”

“มิได้เพคะ พระสนมเสวยเถิดเพคะ”

“อืม..”ปากเคี้ยวมือก็คอยลูบหน้าท้องตัว

“ทรงเสวยพระสุธารสมะนาวหน่อยหนาเพคะ หม่อมฉันเติมน้ำผึ้งลงไปด้วยกลมกล่อมนักเพคะ”

“อื้ม..หอมน้ำผึ้งมากเลยอุ่น”ยกแก้วขึ้นจิบแลยกยิ้มอย่างพอใจรสชาติเปรี้ยวอมหวานกลมกล่อม



.
.
.



“อีอ่อน ผ้าผืนนี้งามหรือไม่”

“งามมากเจ้าค่ะคุณหนู”

“...แต่ข้าว่ามันยังงามไม่พอ ผ้าที่จักนำมาตัดชุดของข้าในงานสถาปนาพระชายาจักต้องงามกว่านี้!!”บุตรีเสนาบดีฝ่ายขวาว่าแลเหยียดยิ้ม หวนนึกถึงผ้ายกดิ้นทองของพระพันปีหลวงที่ทรงประทานให้เจ้าชมนาดแล้วแค้นนัก ชุดอภิเษกสมรสของนางจักต้องงามกว่าร้อยเท่าพันเท่า

“เจ้าค่ะ”

“...สั่งบ่าวไพร่ที่มีหน้าที่ตัดเย็บไปทอผ้ามาใหม่ ข้าต้องการผ้าที่งามกว่านี้!!!”

“เจ้าค่ะ”


.
.
.


ราตรีนี้เมื่อไร้ร่างเจ้าชมนาดเมียรักเคียงหมอน องค์ภุมรินก็เกิดอาการบรรทมมิหลับจนต้องเสด็จออกรับลมยามค่ำคืนที่สวนพฤกษา พระวรกายสูงกำยำเสด็จก้าวไปตามทางเดิน มีองครักษ์หลวงสุธีแลข้าหลวงตามถวายการรับใช้ ต้นชมนาดออกดอกส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณยิ่งทำให้องค์ภุมรินคิดถึงเจ้าชมนาด ป่านนี้จักเป็นเยี่ยงไรหนอน้อง จักแพ้ท้องหรือไม่ จักนอนสบายไหมหนา แลกำลังท้องกำลังไส้จักกินกระไรได้ไหม ลูกจักเกเรไหมหนอห่วงนัก

“เฮ้อ”ระบายพระปัสสาสะเสียงดังจนข้าหลวงที่ตายเสด็จลอบมองหน้ากัน

“เป็นกระไรไปหรือพะย่ะค่ะฝ่าบาท”สุธีทูลถามองค์เหนือหัว

“...ข้า...”

“.....”

“ข้าคิดถึงเจ้าชมนาดเหลือเกินสุธี”

“...มินานดอกพะย่ะค่ะ หากจัดการเรื่องกบฏเรียบร้อย ก็ทรงไปรับพระสนมกลับมาได้แล้ว”

“ป่านนี้ลูกเมียข้าจักเป็นเช่นไรหนา จักกินอิ่มนอนหลับหรือไม่ จักแพ้ท้องมากไหม”

“อย่าทรงกังวลไปเลยพะย่ะค่ะ หม่อมฉันเชื่อว่าอุ่นแลมาวินจักถวายการรับใช้อารักขาพระสนมแลองค์รัชทายาทเป็นอย่างดีพะย่ะค่ะ”

“.....”


.
.
.


   แลราตรีนี้ที่เรือนท่านเสนาบดีฝ่ายขวา ขณะที่คนเป็นลูกกำลังง่วนอยู่กับการขัดสีฉวีวันเพื่อชายอันเป็นที่รัก คนเป็นพ่อแลขุนนางฝ่ายขวาก็กำลังหารือกันอย่างเคร่งเครียด

“หากคุณหนูปิ่นได้สถาปนาเป็นพระชายา แลแผนโค่นบัลลังก์องค์ภุมรินของพวกเราเล่าขอรับท่านเสนา”

“.....นั่นสิขอรับ”

“...ข้าจักไม่มีวันล้มเลิกแผนกบฏเป็นแน่ ส่วนแม่ปิ่น...มิต้องสนใจนาง”

“.....”เหล่าขุนนางต่างมองหน้ากันกับคำสั่งของหัวหน้ากบฏ

“ใคร่คิดจักเป็นใหญ่ หากจำเป็นต้องตัดแขนขาตัวเองก็ต้องทำ”หากเจ้าเห็นชายอื่นดีกว่าพ่อตัว ข้าก็จำต้องตัดเจ้าทิ้งเสียแม่ปิ่น ความรักโง่งมของเจ้านั่นแลที่ฆ่าเจ้า!!


.
.
.


“เฮ้อ.....เฮ้อออ”

“เป็นกระไรไปหรือเพคะพระสนม”อุ่นที่ถวายการรับใช้อยู่ข้างพระแท่นบรรทมเอ่ยถาม เมื่อเจ้าชมนาดนอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา แลถอนหายใจเสียเฮือกใหญ่

“อุ่น...ข้า”

“เพคะ?”

“...ข้า....ข้าหิว”

“หา...หิวหรือเพคะ”

“อืม...ข้าหิวแลลูกข้าก็หิว”

“..เอ่อ..องค์รัชทายาทก็หิวหรือเพคะ”

“ใช่”

“อ่า...ตอนนี้ก็ยามสองแล้ว”

“ฮึก...ขะ ข้าหิว..ฮือ”

“หา..พระสนมทรงกรรแสงหรือเพคะ”


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


“เกิดกระไรขึ้นแม่อุ่น นั่นพระสนมกรรแสงหรือ มีเหตุอันใดเกิดขึ้น”องครักษ์หลวงมาวินที่ได้ยินเสียงไห้ของเจ้าชมนาดก็เร่งมาเคาะประตูไถ่ถามร้อนรน

“...ฮือออออ ข้าหิว!!!”

“หะ หา...พระสนมหิวหรือพะย่ะค่ะ”

“อ่า...เพคะๆ ประเดี๋ยวหม่อมฉันจักตั้งสำรับเสวยถวายหนาเพคะ ทรงหยุดกรรแสงก่อนเถิด ประเดี๋ยวจักประชวรหนาเพคะ”

“ฮึก...”
   

   เวลายามสองศศิธรขึ้นกลางนภา เจ้าชมนาดนั่งพับเพียบอยู่บนตั่งไม้สักขนาดใหญ่ ที่ไหล่เล็กมีผ้าคลุมไหล่ปกป้องกายบางจากน้ำค้างยามราตรี มือเล็กหยิบเครื่องเสวยเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ในขณะที่แพขนตาหนายังมีหยาดน้ำตาเกาะอยู่ จมูกโด่งรั้นแดงระเรื่อน่าเอ็นดู ดวงตาช้ำช้อนมองเหล่าข้าหลวง พี่เลี้ยงคนสนิท แลองครักษ์หลวงมาวินที่จ้องมองที่ตนไม่วางตาก่อนเสียงหวานจะเอื้อนเอ่ยถาม

“...พวกเจ้าหิวหรือ กินไหม”เอ่ยชวนพลางหยิบผักเข้าปากไปด้วย

“มิได้เพคะ พระสนมเสวยเถิดเพคะ”

“ทรงใคร่เสวยกระไรอีกหรือไม่พะย่ะค่ะ”

“...ไม่แล้ว”

“พะย่ะค่ะ”

“อุ่น...”

“เพคะ”

“ข้าอิ่มแล้ว”

“เยี่ยงนั้น ทรงเสวยนมโคหน่อยหนาเพคะ จักได้บำรุงองค์รัชทายาท”

“อื้ม...”รับแก้วนมจากพี่เลี้ยงคนสนิท ดื่มจนหมด

“เก่งมากเพคะ...ประเดี๋ยวทรงประทับให้พระกายาหารย่อยก่อนหนาเพคะ ค่อยขึ้นบรรทม”

“จ้ะ..”

“...”

“อุ่น...”

“...เพคะ”

“เจ้าว่าข้า...งี่เง่าหรือไม่”

“ว่ากระไรเยี่ยงนั้นเพคะ”

“ก็..ข้า ตั้งแต่ตั้งครรภ์ ข้าก็รู้สึกว่า...ข้าไม่รู้สิอุ่น..นี่ข้าเป็นกระไรไปหนา”

“...โถ่ พระสนมเพคะ นั่นคืออาการของคนตั้งครรภ์เพคะมิมีกระไรผิดแปลกดอก”

“หรือจ๊ะ..ข้ากินไม่เป็นเวลา หากมีกระไรขัดใจเพียงน้อยนิด น้ำตาข้ามันก็ไหลออกมา ทั้งๆที่ข้ามิใคร่อยากจะร่ำไห้”

“อย่าทรงกังวลไปเลยเพคะ”

“...หากข้าเป็นเช่นนี้ กว่าจักให้ประสูติองค์รัชทายาท ฝ่าบาทจักบื่อหน่ายข้าหรือไม่หนา”คิดแล้วขอบตาก็ร้อนผ่าว แสบจมูกยิบๆ มินานน้ำตาใสก็ไหลอาบปรางค์นวล

“...พระสนม ฝ่าบาททรงรัก ทรงหลงพระสนมยิ่งกว่ากระไร มิทรงเบื่อหน่ายพระองค์ดอกเพคะ”

“ขะ ข้า..”

“อย่าเป็นกังวลไปเลยเพคะ”

“ขะ ข้า..ข้าคิดถึงฝ่าบาทเหลือเกินอุ่น ฮึก ฮือออ”

“โถ ทูนหัวของบ่าว มิเอาหนาเพคะ มิร้อง ประเดี๋ยวจักปวดพระเศียร จักประชวรเอาได้หนาเพคะ”

“ฮึก..อึก”

“ไปเพคะ อุ่นพาขึ้นบรรทมเพคะ”ตรงเข้าไปประคองกายบอบบาง พลางกระชับผ้าคลุมไหล่ให้ ทูนหัวของบ่าวยังเด็กนัก เพิ่งจักสิบห้าได้มินาน ต้องมาท้องไส้คงจักวางตัวมิถูก

“ฮึก...”

“บรรทมหนาเพคะ อุ่นจักเฝ้าอยู่ข้างๆมิไปไหนดอก”ห่มผ้าให้จนถึงอกบาง

“อึก...อยู่ข้างๆข้าหนา”

“เพคะ...”



   เปลือกตาสีมุกค่อยๆปรือปิดลง มินานลมหายใจก็เข้าออกสม่ำเสมอ เจ้าชมนาดเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้วโดยมีพี่เลี้ยงคนสนิทค่อยเฝ้าอยู่มิห่าง









*********************************************************************





 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด