...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53  (อ่าน 695490 ครั้ง)

ออฟไลน์ wijii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
น้องโซ่่่่ โอ้ยลูกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก55555555

โจ๊กพาโซ่เข้าบ้านแล้วก็จัดพิธียกน้ำชาคำบับฟ้าดินไปเลยนะ เอาให้หนีไปไหนไม่ได้ เอาใหม่ไม่ต้องมีใครมายุ่งได้เลย
เคมีสาธารณะดีนัก ต้องรีบตีตราจองแล้วนะ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตัลลั๊ค ชอบฟีลแบบนี้ ขอให้โซ่บื้อไปนานๆนะจ้าา 5555

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
กลัวโจ๊กเป็นลมตายจังเลยค่ะ นวดๆ

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
โอ้ยยยยย...เราว่าโซ่ไม่ได้บื้อคนเดียวแล้วละ
โจ๊กนี้อะโคตรบื้อเลย จะรุกก้รุกไปสุด
ขนาดโซ่บอกว่าอยากอยุ่ด้วย
คุณพี่โจ๊กยังไม่เดินหน้าต่ออีก
 :katai1: :katai1:

หวังว่าเชียงคานจะเปนทริปเผยความในใจนะโจ๊ก
เอาใจช่วยๆ ชอบพระเอกไบโพลาร์เหมือนกัน ตลกดี
 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
แสดงว่าการเอาตัวเองเข้ามาอยู่ใกล้ๆ โซ่ของโจ๊กนั้น...ไม่ไร้ผลเสียทีเดียว เพราะตอนนี้โซ่ได้เริ่มเอนเอียงและเริ่มเคยคุ้นกับความมีอยู่ของโจ๊กแล้วด้วย ดิฉันลุ้นจนจิกแทบฉีก...นี่วันไหนสองคนนี้สมหวังกัน จะกรี๊ดลั่นบ้านทีเดียว

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ ^____^

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
เขินๆ

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
โซ่น่ารักจัง

ออฟไลน์ FHUNWHAN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารโจ๊ก 5555555555555555555555
อยากจะส่งยาพาราไม่ก็ยาไบโพล่าร์ไปให้เลย
โซ่จะซื้อไปไหน ซื่อจนเหนื่อยใจแทนคนจีบ 5555555555555

ออฟไลน์ MOMAMi_96

  • เรื่อยๆ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
เนี่ยก็อยากอ่านทุกวันเลยร้อรออออ เหมือนตอนอ่านbustop กับยากนักรักนี้เลยทั้งที่รู้ว่าจะอัพวันไหนแต่ก็ยังมารอทู้กวันนนนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
สุดยอดความซื่อ ความบื้อ รวมไว้ในตัวโซ่เลย
สงสารโจ๊ก อารมณ์เหวี่ยงขึ้น-ลงเพราะน้องโซ่นี่เอง
ว่างๆ คงต้องให้โจ๊กไปรับยาช่อง 2  :hao7:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มีแววว่าจะไม่นกแล้วนะโจ๊ก  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ไอ้ฉิบหายเป็นตัววุ่นวายในใจโจ๊กจริงๆ โจ๊กถึงขั้นเพ้อ มโนหนักมาก อารมณ์สวิงเป็นมนุษย์เมนเลย 55555

โซ่คนซื่อก็ยังงงกับโลก และใจคนเรา ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมอยากอยู่ด้วย ทำไมอยู่แล้วสุข
ต้องให้ใครเทรนด์ดี แต่มีหรือโจ๊กจะปล่อย

ตลกโจ๊ก จะบ้าหรอ หึงไม่เลือก หวงไปหมด 55555

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เอาใจช่วยให้โซ่รู้ใจตัวเองไวๆ เพราะถ้านานเกินไปอาจได้สามีเป็นบ้านะคะ 555

ออฟไลน์ HuskyLover

  • นิยาย "วาย" ละมุน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
พยายามนึกว่าเคยเจอคนซื่อขนาดไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจีบขนาดนี้ที่ไหน แต่ก็นึกไม่ออกนะ
ผมที่ว่าซื่อๆ ก็ยังพอรู้สึกได้ถ้าเกิดมีใครเข้ามาทำอะไรแบบนี้ด้วย
น่าจะเป็นเพราะโจ๊กเองก็รุกไม่หนักมาก
การมารับส่ง ซื้อของให้กิน ฯลฯ แต่ไม่พูดตรงๆ ปล่อยให้เดา บางทีก็เดายาก หรืออาจไม่ใช่ก็ได้
เป้าหมายของโจ๊กต่อไปคือต้องส่งสัญญาณที่จริงจังกว่านี้ เช่น จูบ อิๆ ถ้าจะไม่พูดตรงๆ นะ
ไปเที่ยวเชียงคานแล้วก็อย่าลืมหาโอกาสเหมาะๆ ล่ะ :)

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
สนุกมากๆๆๆ เอาใจช่วยโจ๊กจ้า

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
โจ๊กเอ้ยย นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนนะ
ยังขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นแฟนแล้วคงได้มัดโซ่ในอยู่แต่ห้องแน่ๆ
เนียนๆเข้าไว้ๆ อย่าเพิ่งกระโตกกระตากนะโจ๊ก
เหมือนเค้าจะเริ่มมีใจว่ะ ฮ่าาา

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
โจ๊กนี่น่าสงสารจริงๆนะ
บุญมีแต่กรรมบังแท้ๆเลยอะ555555
ได้อยู่ใกล้ ได้ใกล้ชิด แต่ก้ได้แค่นั้นนน5555
เหมือนเทวดาช่วงแค่ครึ่งทางแล้วแต้มบุญหมดอะไรแบบนี้
555555555555555
น่าวงวารรรรจริงๆ
ส่วนโซ่นี่ก้ซื้อ อึน มึนไปอีกกกก
ซื่อจนสงสารคนรอบข้างเลยอะ
รอค่าาาา สนุกกก

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
น่ารักไปแล้วววว

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :hao7:  สนุกมากกกก อยากบีบ ๆๆๆๆ โซ่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
โจ๊กเป็นพระเอกที่อ่านแล้วรู้สึกว่านางคือโคตรของโคตรไบโพล่า :m20:

ออฟไลน์ nongyo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามมาจากนาบูแชร์ :hao7:  :L1:

ออฟไลน์ ichnuan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
มาปูเสื่อรอพี่โจ๊กไบโพลาร์ค่าาา

ออฟไลน์ MOMAMi_96

  • เรื่อยๆ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
จะมาตอนไหนน้อ

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนที่ 7


   พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของสิตางศุ์ที่มารับพวกเขาที่สนามบินประจำจังหวัดเลยเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง มนุษยสัมพันธ์ดี ยิ้มง่ายเหมือนกัน และติดสำเนียงการพูดแบบภาษาอีสานอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่เคอะเขินที่จะพูดกับหนุ่มภาคกลางหน้าตาจีนแท้ๆซึ่งเพิ่งเจอกันครั้งแรกอย่างเจียระไนเลย ซ้ำยังชวนคุยสนิทสนมอย่างรวดเร็ว


   “ชื่อโจ๊กเรอะ ไม่เคยได้ยินไอ้โซ่พูดถึง แล้วไอ้สองคนนั้นล่ะ พวกมันเลิกคบมึงไปแล้วเหรอโซ่ ชื่ออะไรนะ ที่เคยมาเที่ยวบ้านกู” พี่อาร์ตหรือชื่อเต็มๆว่าอาติยะชวนคุยขณะเดินนำไปที่รถยนต์ของตนเองซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลจากอาคารผู้โดยสาร


   “กตกับแพท”


   “เออๆ นั่นแหละ ไอ้สองคนนั่นเคยมาเที่ยวที่อุดรฯ ทะเล่อทะล่ามาเล่นไพ่กับพวกกู หมดตูดกลับกรุงเทพฯกันแทบไม่ทัน” อาติยะหัวเราะดังๆ แต่ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถือสาความทะเล่อทะล่าใดๆของเพื่อนสนิทน้องชาย ก่อนจะหันมาหลิ่วตาให้เจียระไน


   “คราวหน้า มึงมาอุดรฯด้วยล่ะ เดี๋ยวกูพาเข้าวง รับรองถูกแดกเรียบ”


   “พี่อาร์ตอย่าขู่พี่โจ๊ก เดี๋ยวอดแดกกันหมด” ทัศน์พูดแล้วหัวเราะ เป็นอันว่าตระกูลฝั่งนี้นิยมเล่นไพ่ เจียระไนเหลือบมองคนผิวขาวจัดหน้าตาซื่อๆที่ไม่น่าจะเล่นไพ่เป็น อาติยะเห็นสายตานั้นพอดีถึงกับหัวเราะอีกรอบ


   “อย่าเชื่อหน้าซื่อๆของไอ้โซ่ล่ะ ไอ้นี่น่ะ ตั้งตัวได้เพราะวงไพ่มาตั้งแต่สามขวบ” หนุ่มรุ่นพี่พูดแล้วชวนทุกคนขึ้นรถ เขาประจำตำแหน่งคนขับ ส่วนทัศน์กระโดดขึ้นนั่งหน้าคู่ ในขณะที่เบาะหลังตกเป็นของเจียระไนและสิตางศุ์ แล้วหลังจากนั้นรถยนต์ของอาติยะก็เคลื่อนตัวออกจากสนามบิน


จุดหมายต่อไปของทริปนี้คืออำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย


...ริมฝั่งโขง ตรงข้ามฝั่งลาว...

..........................

ถนนขนาดสี่เลน บางช่วงเป็นสองเลน มีเนินสลับกับทางโค้ง แต่ก็นับว่าเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างดี ไม่มีหลุมบ่อหรือจุดทำถนน เพื่อนร่วมทางมีไม่มากนัก และมีรถบรรทุกอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าสะดวกสบาย ใช้เวลาเพียงชั่วโมงนิดๆพวกเขาก็มาถึงปลายทาง


คนทำหน้าที่จองห้องพักคืออาติยะผู้ถือตัวว่าเป็นเจ้าถิ่น แถวนี้ไม่มีโรงแรมหรูหราห้าดาวอย่างที่เจียระไนคุ้นเคย มีแต่บ้านที่ปลูกติดๆกันริมแม่น้ำโขง บางหลังสองชั้นบ้าง สามชั้นบ้าง บางหลังเปิดเป็นที่พักของนักท่องเที่ยว บางหลังก็เป็นบ้านของคนในพื้นที่จริงๆ ระหว่างบ้านกับริมโขงกั้นด้วยระเบียงทางเดินที่ถูกสร้างยาวเลาะไปตามแม่น้ำ มองเห็นอีกฟากฝั่งเป็นสปป.ลาว


อาติยะคนรับหน้าที่จัดการที่พักจัดแจงแบ่งห้องให้สิตางศุ์และเจียระไนพักด้วยกัน ส่วนเขานอนกับทัศน์ ห้องพักของพวกเขาอยู่ชั้นบนของตัวบ้าน มีระเบียงหันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง


“สวยเนอะ” คนต้นคิดอยากจะมาเดินไปเปิดประตูระเบียงมองวิวทิวทัศน์ เจียระไนเดินตามออกไปดู แม่น้ำโขงกว้างขวาง น้ำสีขุ่นไหลเอื่อย ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่เขียวขจีของอีกประเทศหนึ่ง


...ภาพที่คิดว่าสวยกว่านี้ก็เคยเห็นมาแล้ว...แต่...พอได้มายืนดูอะไรสักอย่างกับคนข้างกาย กลับมีความหมายมากกว่า...


“น่าจะเอากีต้าร์มา จะได้เล่นไปด้วย ดูวิวไปด้วย” เจ้าของผิวขาวจัดพูดแล้วหันมายิ้มให้ เจียระไนเกือบจะเคลิ้มไปกับรอยยิ้มหวานๆนั่นแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคว้าสติเอาไว้ทัน


“มึงพูดอย่างกับเล่นเป็น” เขามองเมินไปทางอื่นแล้วพูดชวนหาเรื่องเพราะกลัวจะเคลิ้มไปกับความโรแมนติกของบรรยากาศและรอยยิ้มของคนตรงหน้า


“ก็มึงไงเล่นเป็น เพลงที่เล่นให้ฟังคราวก่อนชื่อเพลงอะไรนะ กูว่าจะลองหาดู เพราะดีอ่ะ”


“ลืมไปแล้ว” ปากว่าอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพลงนั้นซ้อมเล่นตั้งนานกว่าจะเอามาเล่นให้มันฟังได้ ใครจะไปลืมลง


“งั้น...เนื้อหาเป็นไง ประมาณเอาก็ได้” คนอยากรู้ยังพยายามหาตัวช่วยอื่น ในเมื่อชื่อเพลงไม่ได้ เนื้อเพลงก็ยังดี แต่เรื่องอะไรเจียระไนจะบอก


“ไม่รู้!”


สิตางศุ์ทำหน้าหงอยลงเล็กน้อย


“เสียดาย กูว่าดนตรีเพราะดี จะหามาฟังซะหน่อย”


แล้วร่างโปร่งก็ทำหน้านิ่งคิด “...อืม...คุ้นๆว่าตอนนั้นมึงบอกว่าชื่อเพลง Wherever you are หรืออะไรทำนองนี้มั้ยอ่ะ” แล้วนิสิตหัวแถวของคณะเกิดความจำดีขึ้นมาเดี๋ยวนั้น


“ก็กูบอกแล้วไงว่ากูลืมไปแล้ว!” คนเคยเล่นกีต้าร์ให้ฟังบอกปัดพร้อมหน้าตาเหมือนจะอารมณ์เสีย ทั้งที่...ในใจน่ะหรือ?...


...ไอ้ฉิบหาย! มันบอกว่าเพลงที่กูเล่นให้ฟังเพราะเว้ย!!...


“งั้นเดี๋ยวกูลองหาเองก็ได้” เจ้าตัวล้มเลิกที่จะถามเอากับอีกฝ่าย ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือขึ้นมาอีกต่างหาก ทว่ามือใหญ่คว้าเอามาไว้ก่อน


“อยู่กับกูไม่เล่นมือถือ!” ดุด้วยน้ำเสียงและดวงตาเรียวคมกริบที่จ้องเขม็ง แต่สิตางศุ์ไม่ได้กลัวจนหงอ เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนจะปลอบความขึงขังของอีกฝ่าย


“กูแค่จะหาชื่อเพลงเอง”


“แล้วมันต้องทำเดี๋ยวนี้รึไง?!” ร่างสูงดุอีกหน แล้วถือวิสาสะยัดโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋ากางเกงคืน พร้อมกับชี้หน้า


“อย่าให้กูเห็นหยิบขึ้นมาเล่นนะ! นู่นดูวิว!” แล้วนิ้วชี้ยาวๆของเจียระไนก็กวาดไปที่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโขง สิตางศุ์มองคนสั่ง เห็นร่างสูงดูท่าจะดุจริงเลยยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะหาเพลง ร่างโปร่งทอดสายตามองธรรมชาติตรงหน้า ความเขียวขจีของป่าจากแผ่นดินอีกฝั่งโขงทำให้เขาปล่อยตัวตามสบายให้กับลมเย็นๆ อากาศบริสุทธิ์ และความเงียบสงบ


เจียระไนเหลือบมองคนข้างกายที่ดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับธรรมชาติไปแล้วก็ถอนหายใจเบาที่เรื่องเพลงนั้นไม่กลายมาเป็นประเด็นอีก สิตางศุ์เวลานี้กำลังดื่มด่ำกับธรรมชาติจนไม่ได้สนใจอย่างอื่น และปล่อยให้เขาแอบมอบได้ตามสบาย


ร่างสูงอดยิ้มออกมาไม่ได้ คนตรงหน้าเขาเป็นคนเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด ไม่ได้ดูสนุกสนาน ไม่ขี้เล่น เป็นคนกลางๆ ติดไปทางเงียบๆ ใจดีและยิ้มง่าย แต่ก็ไม่ใช่คนที่สร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่นตลอดเวลา ทว่า...น่าแปลกที่เวลาอยู่ใกล้ๆ กลับให้ความรู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดี...ดีจน...อยากเก็บเอาไว้ข้างกายอย่างนี้ตลอดไป


“โซ่...” เสียงทุ้มดังเบาๆ ทำเอาดวงหน้าขาวต้องหันมามอง เจียระไนหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา


“...ถ่ายรูปกัน”


“เดี๋ยวไปตามทัศน์มาถ่ายให้ มันถ่ายสวย” ร่างโปร่งจะเดินไปตามน้องชายลูกมือลูกน้องที่ขนกล้องตัวใหญ่มาด้วย ทว่ามือใหญ่กลับดึงแขนเขาไว้เสียก่อน


“กูอยากถ่ายกับมึงสองคน”


คำพูดเรียบๆของชายหนุ่มลูกคนจีนหน้าดุทำเอาอีกฝ่ายนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะถูกดึงให้ยืนชิดเพื่อให้เข้ามาอยู่ในเฟรมเดียวกันโดยมีฉากหลังเป็นแม่น้ำโขง


แผ่นหลังของสิตางศุ์แนบกับอกหนาของคนที่ยืนซ้อนหลัง มันร้อนผะผ่าวจนรู้สึกเหมือนความร้อนจะลุกลามขึ้นมาที่ใบหู


“โซ่ เป็นอะไร” เพราะใบหน้าขาวที่ปรากฏบนโทรศัพท์นั้นไม่มีรอยยิ้มแม้แต่นิด ร่างสูงเลยก้มลงถาม ยิ่งทำให้คนถูกถามในระยะประชิดรู้สึกเหมือนหัวใจสั่นยิ่งกว่าอยู่ในเครื่องปั่นเสียอีก


“ป...เปล่า”

“ถ้างั้นก็มองกูสิ”


ไม่ใช่ให้มองกล้อง แต่ให้มองคนพูด สิตางศุ์พาซื่อหันมองตามคำร้องขอนั้น และนั่นทำให้เขารู้ตัวว่าไม่ควรทำตามคำขอของเจ้าของดวงตาคมกริบคู่นี้เลย


...นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นี้ บางครั้งก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น บางครั้งก็ให้ความรู้สึกสงบ แต่บางครั้ง...มันก็ดึงดูดให้ดำดิ่งลงไปในนั้น ยิ่งมอง...ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจหวิวไหว...

...คนคนนี้ทำให้รู้สึกแปลกไป...


“สองคนนั้นน่ะ ลงมาได้แล้ว ไปถ่ายรูปกัน”


เสียงตะโกนจากข้างล่าง ทำเอาคนสองคนที่ตกอยู่ในภวังค์ของความรู้สึกถูกฉุดกระชากออกมาจากโลกที่มีเเค่พวกเขา


เจียระไนหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อระงับอารมณ์บางอย่างในอก ส่วนสิตางศุ์ชะโงกหน้ามองลงไปใต้ระเบียงซึ่งเป็นทางเดินเลาะริมฝั่งโขง ทัศน์กับอาติยะยืนรออยู่แล้ว โดยเฉพาะน้องชายลูกพี่ลูกน้องของเขานั้นมีกล้องตัวใหญ่ห้อยคออยู่ด้วย


“เดี๋ยวลงไป” ร่างโปร่งตะโกนบอก ก่อนจะหันมาทางคนที่ยืนอยู่ข้างเขา


“ไปเดินเล่นกัน” เจียระไนโบ้ยหน้าให้คนชวนเดินนำออกไปก่อน เขามองตามแผ่นหลังของคนที่เดินนำออกจากห้อง ก่อนจะเหลือบตาลงมองที่ชั้นล่างใต้ระเบียง ทัศน์กำลังยืนคุยกับอาติยะอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าทำให้เขาพลาดโอกาสสำคัญไป


...ถ้ายังขัดคอกูอีกล่ะก็...กูจะจับพี่มึงทำเมียคืนนี้เลย ไอ้หอก!!!...

............................


เส้นทางเลาะริมโขงเป็นทางยาว อากาศยามบ่ายแก่ๆไม่ร้อนมากนัก ลมเย็นๆพัดมาจากแม่น้ำพอจะทำให้เดินได้เรื่อยๆโดยไม่เหนื่อย นอกจากนั้นยังมีคนสร้างบรรยากาศสนุกสนานอย่างอาติยะและทัศน์ที่แม้จะเป็นเพียงญาติที่ดองกัน แต่ก็สนิทสนมกันดี ไม่แปลกใจเลยที่เจียระไนเคยถูกขู่ว่าคนอย่างสิตางศุ์นั้นเป็นคนที่เพียบพร้อม


...เพียบพร้อมเพราะมีครอบครัวอบอุ่น เพียบพร้อมเพราะมีญาติที่สนิทสนม เพียบพร้อมเพราะมีเพื่อนที่ดี...


คนแบบนี้ หากเขาแทรกตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไม่ได้ ก็จะเป็นได้เพียงส่วนเกินไปตลอดทั้งชาติ


มือใหญ่ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา ในขณะที่ดวงตาคมกริบยังจับจ้องแผ่นหลังบางของคนที่เดินอยู่ข้างหน้า เสื้อแขนยาวสีขาวที่ถกแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ สิตางศุ์เป็นคนแต่งตัวง่ายๆแต่น่ามอง...น่ามองจนอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพแบบนี้เอาไว้


ปลายนิ้วกดถ่ายรูปแผ่นหลังของคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้า เป็นภาพแผ่นหลังของคนที่เขาเฝ้ามองมาเกือบสองปี ภาพแบบนี้เขามีเป็นร้อยรูป แต่...ภาพนี้เป็นภาพแผ่นหลังของสิตางศุ์ที่ถ่ายใกล้ที่สุด


‘ถึงไหนแล้วครับมึง ถึงสวรรค์รึยังเอ่ย’


ข้อความจากแอพลิเคชั่นทางมือถือปรากฏบนหน้าจอในขณะที่เจียระไนกำลังเลื่อนดูรูปที่เขาแอบถ่าย ปลายนิ้วกดเข้าไปอ่านข้อความนั้นอย่างรวดเร็ว


‘ใกล้แล้ว ถ้ามันยอม’ อวดอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอะไรคืบหน้า ได้มโนเอาเองก็ยังดี


‘เชี่ยยยยยย ไอ้โซ่ไม่มีทางยอมง่ายๆ’


‘ยอมง่ายไม่ง่าย กูก็ได้มากับมันแล้วกัน’


‘แล้วมันรู้มั้ยว่ามึงไปกับมันเพราะอะไร’


คำถามจากคู่สนทนาทำเอาเจียระไนชะงักกึก เขาเหลือบตามองคนที่หยุดยืนถ่ายรูปกับญาติผู้พี่แล้วก็ถึงกับพิมพ์โต้ตอบอะไรไม่ออกอีก


...มันไม่รู้...


ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว เขามาอยู่ตรงนี้เพราะอะไร เพราะอยากมาเชียงคานอย่างนั้นหรือ? เปล่าเลย ไม่ได้อยากมา ไม่มีความคิดจะมาแม้แต่นิดเดียว แต่พอได้ยินว่ามันจะมา ใจก็สั่งว่าต้องมากับมัน


‘เมื่อไรจะบอก’


คำถามตอบยากมาอีกระลอก เจียระไนได้แต่ขบริมฝีปากตัวเอง เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกสิตางศุ์เมื่อไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะบอกอย่างไร


‘มึงว่าไงล่ะ’ เขาถามกลับไป

‘กูว่าควรรีบบอก แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ด้วย’

‘สรุปว่าควรรีบบอกหรือควรดูสถานการณ์?’

‘แล้วแต่มึงสิ’

‘เชี่ย ช่วยเหลืออะไรไม่เคยได้’

‘แหมมมมม ถ้ากูไม่ช่วยมึงนะครับ ป่านนี้มึงไม่ได้แม้แต่จะคุยกับมันด้วยซ้ำ สำเหนียกในบุญคุณกูด้วย’

‘เออๆ กูจะซื้อของไปฝากแล้วกัน’

‘มะพร้าวแก้วเกรด A สองถุง’


เจียระไนกำลังจะพิมพ์ด่ากลับไป แต่เสียงของทัศน์ตะโกนขึ้นเสียก่อน


“พี่โจ๊ก เลี้ยวทางนี้พี่” เขาเดินตามสามพี่น้องนั่น ทะลุจากเส้นทางเดินริมฝั่งโขงมายังถนนคนเดินซึ่งเริ่มมีร้านรวงขายของทั้งของกินและของที่ระลึก ผู้คนเริ่มหนาตาเพราะเริ่มเย็นมากแล้ว


เจียระไนก้มลงมองโทรศัพท์ในมือ คิดไม่ตกว่าควรจะถามอะไรดี และเขาควรจะขอความช่วยเหลืออย่างไรดี อันที่จริงแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองควรจะทำอะไรต่อไป ควรให้สิตางศุ์รู้ไปเลยดีไหม หรือควรแค่ให้ระแคะระคายดี หรือจะใช้วิธีตีเนียนแบบนี้ไปก่อน


‘มึงอยากบอกมันรึยังล่ะ’ คำถามปรากฏขึ้นบนหน้าจอที่เขาไม่ได้พิมพ์อะไรตอบกลับไป ร่างสูงขบริมฝีปากคิดหนัก

‘ก็อยาก แต่กูกลัวมันไม่เข้าใจ’

‘กลัวมันไม่ยอมรับมากกว่าม้างงงงง’

‘มึงว่ามันจะรับได้มั้ย’


สิ่งที่กลัวยิ่งกว่าอะไรคือถ้าสิตางศุ์รู้ แล้วไม่ยอมรับ ทุกอย่างจะพังลงจนแทบไม่เหลือแม้แต่เศษซาก แย่ยิ่งกว่าให้มันไม่รู้อะไรเลยเสียอีก


‘ไอ้โซ่ใจกว้างอยู่นะ’ เจียระไนกำลังจะพิมพ์ตอบกลับไป แต่อีกฝ่ายกลับส่งข้อความกลับมาอย่างรวดเร็ว

‘แต่ไม่รับประกันว่าถ้าเป็นเรื่องของมันเอง มันจะใจกว้างมั้ย’

‘ไอ้หอก แล้วมึงจะบอกให้กูมีความหวังทำไม’

ร่างสูงพิมพ์ด่ากลับไปอย่างรวดเร็ว และคงจะด่าตามไปอีกสักสองประโยค ถ้าไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆเสียงอาติยะก็ดังขึ้นมา


“เฮ้ย! ไอ้โซ่หายไปไหนวะ”


เจียระไนเงยหน้าจากมือถือของตัวเองทันที แล้วก็ถึงได้รู้ตัวว่าเขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่แต่กับโทรศัพท์จนสิตางศุ์พลัดหลงไปจากกลุ่ม


ดวงตาคมกวาดมองไปรอบตัวที่มีผู้คนมากมายแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนร่างโปร่งผิวขาวจัด แล้ววินาทีนั้น...ร่างสูงก็ได้รู้ว่าการที่หัวใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แท้จริงแล้วมันตกลงกับพื้น แล้วหายไปเลย หาไม่เจอด้วยซ้ำ!

...................................

เขาว่ากันว่ามาเชียงคาน จะได้ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ตอนนี้เจียระไนอยู่ที่เชียงคาน แต่ชีวิตไม่มีความสโลว์เลยแม้แต่นิดเดียว!!


…ไอ้โซ่มันหายไปไหนวะเนี่ย!!...


หลังจากสั่งให้อาติยะและทัศน์รออยู่กับที่ เขาก็วิ่งล่กหาคนที่หายไป ถนนคนเดินของเชียงคานเป็นถนนยาวๆเส้นเดียว แต่มีซอกซอยเยอะแยะ และตอนเริ่มค่ำแบบนี้ มองเข้าไปซอกไหนซอยไหนก็เห็นแต่ความสลัวของไฟไม่กี่ดวง ตามตรอกเหล่านี้แทบไม่มีคนเดิน แตกต่างจากเส้นหลักที่คนพลุ่กพล่านอย่างเห็นได้ชัด


เจียระไนใจคอไม่ดี  เขาพยายามกวาดสายตามองเร็วๆในทุกๆจุดที่ผ่าน และใช้สติทั้งหมดในการตามหาคนหายท่ามกลางฝูงคนมากมายที่รายล้อม ในขณะที่มือใหญ่ถือโทรศัพท์แนบหู แต่ไม่ว่าจะโทรหาสิตางศุ์สักกี่ครั้ง ก็ไม่มีแม้แต่สัญญาณ คนไม่เคยกลัวอะไร มาตอนนี้ความกลัวจากที่ไหนก็ไม่รู้ไหลบ่าท่วมหัวใจจนแทบคลั่ง



“โจ๊ก” เสียงคุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง เจ้าของชื่อหันขวับไปมองทันที


“โซ่!!” เขาเรียกชื่อเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่หน้าร้านขายเสื้อร้านหนึ่งที่เพิ่งเดินผ่านเมื่อครู่นี้ ร่างสูงก้าวเท้าไวๆเข้าไปหาแล้วเอื้อมมือไปคว้าแขนขาวมาจับหมับอย่างรวดเร็ว


...ไม่ได้ตาฝาด เขาจับแขนมันได้จริงๆ!!...


ความโล่งอกทะลักเข้ามาในใจแทนที่ความกังวลอย่างรวดเร็วจนต้องพรั่งพรูลมหายใจออกมา


“มีอะไรเหรอ” คนพลัดหลงแต่ไม่รู้ตัวว่าหลง ตั้งคำถามอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เจียระไนเลยเคาะมะเหงกลงกับหน้าผากขาวๆทีหนึ่งโทษฐานที่ทำให้เขาต้องตามหาจ้าละหวั่น


“โอ๊ย!”


“มึงหลงกับคนอื่น!! รู้ตัวรึเปล่า?!! แล้วทำไมกูโทรหามึงไม่ติด?!!!”


สิตางศุ์ยิ้มแหยแล้วชี้เข้าไปในร้านขายเสื้อที่ตัวเองเพิ่งออกมา


“กูซื้อเสื้ออ่ะ แล้วมือถือก็แบทฯหมด…” เพราะเมื่อคืนโทร.คุยกับทางบ้านแล้วหลับไปโดยไม่ได้ชาร์จแบทฯ เมื่อเช้าตอนก่อนขึ้นเครื่องมาก็ต้องรับสายจากญาติๆอีก แบทฯที่ไม่ได้ชาร์จมาตั้งแต่เมื่อคืนก็เลยหมดเอาตอนนี้


เจียระไนรู้สึกเหมือนตัวเองมาเที่ยวกับเด็กอายุสามขวบ ดูแลตัวเองไม่ได้ไม่ว่า แต่นี่อะไร ไม่รู้จักเตรียมพร้อมอะไรเลยสักนิด! คนประเภทนี้มีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ได้ยังไง เขาอยากจะรู้!


“แล้วพี่อาร์ตกับทัศน์ล่ะ” เจ้าตัวถามเมื่อมองซ้ายขวาแล้วเห็นแค่เจียระไนเพียงคนเดียว ร่างสูงเหลือบตามองเจ้าของคำถามแล้วพยายามระงับอารมณ์


“กูให้รอที่ร้านขายขนมครก แล้วมึงซื้อเสร็จรึยัง”


“เสร็จแล้ว”


ร่างสูงไม่พูดอะไรอีก เขาเลื่อนมือที่จับแขนขาวลงไปจับมือสิตางศุ์เอาไว้


“จับมือกูด้วย จะได้ไม่หลงอีก” เจ้าของดวงตาเรียวที่ฉายแววดุสั่งเสียงเรียบก่อนจะก้าวเดินนำ แต่มือที่ถูกเขาจับกลับไม่ยอมจับมือเขาตอบ ดวงตาเรียวแบบลูกคนจีนเลยต้องตวัดมามอง สิตางศุ์มองรอบตัวที่มีผู้คนมากมาย และเพราะรอบกายมีแต่คน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆถ้าผู้ชายอย่างพวกเขาจะมาเดินจับมือกัน


“เอ่อ...คนจะมองนะโจ๊ก…” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองไปมาแล้วกระตุกแขนตัวเองเบาๆเป็นเชิงให้อีกฝ่ายปล่อยมือ ทว่าคนอย่างเจียระไน ลองว่าพลัดหลงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง ย่อมไม่มีครั้งที่สอง


มือใหญ่กระชับมือขาวแน่นกว่าเดิม


“ตอนมึงหาย ไม่มีคนไหนจะช่วยกูหา แล้วตอนนี้ที่กูเจอมึงแล้ว ทำไมกูต้องสนใจว่าใครจะมองด้วย?! จับมือกู! แล้วเดินตามมา!” หรือต่อให้สิตางศุ์ไม่จับ เจียระไนก็จับมือขาวไว้แน่นอยู่แล้ว เขาก้าวเท้าเดินจับจูงร่างโปร่งไปตามทางโดยไม่สนใจเสียงประท้วงใดๆอีก


ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยมองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าก่อนจะลดสายตาลงมองมือใหญ่ที่จับมือของเขาอยู่ ความอบอุ่นระหว่างสองมือนั้นไม่ใช่แค่ความรู้สึกดีๆที่ค่อยๆแผ่ซ่านเข้ามาที่หัวใจ แต่มันให้ความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย...ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แต่ถ้ามือของเจียระไนจับมือเขาอยู่อย่างนี้ สิตางศุ์รู้สึกว่าอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เขาคลาดสายตาอีก


มือขาวที่เดิมทีถูกจับแน่นด้วยมือใหญ่ สุดท้ายแล้วปลายนิ้วทั้งสี่ก็ค่อยๆกระชับเข้าหาฝ่ามือของเจียระไน ดวงตาคมกริบเหลือบมามองเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่อีกฝ่ายจับมือเขาตอบ ก่อนจะดึงมือคนที่เดินตามหลังให้ขึ้นมาเดินเคียงกัน ร่างสูงปล่อยให้คนข้างกายทอดสายตามองสองข้างทางได้ตามสบาย เพราะแน่ใจแล้วว่าสิตางศุ์จะไม่พลัดหลงจากเขาอีก


   ...และจากนี้ จะไม่มีวันที่เขาจะปล่อยมือนี้อีกต่อไป...

...................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-04-2017 20:24:12 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8


สองหนุ่มมาสมทบกับทัศน์และอาติยะที่ร้านขายขนมครก ร่างโปร่งถูกญาติผู้พี่บ่นเล็กน้อยเรื่องที่แวะร้านไหนโดยไม่บอกกล่าว แถมยังติดต่อไม่ได้


“ไม่หลงแล้ว ไอ้โจ๊กไม่ปล่อยไปไหนเลย ดูสิ” สิตางศุ์พูดแล้วก้มลงมองมือตัวเองที่ถูกเจียระไนจับอยู่ ทำเอาญาติทั้งสองคนของเขาต้องมองตาม


งานนี้เจียระไนทำหน้าไม่ถูก เพราะเขายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเปิดเผยความรู้สึกของตนเองให้อีกฝ่ายรับรู้ดีไหม แต่ไอ้คนบื้อมันโชว์ให้โลกเห็นเรียบร้อยว่าเขาจับมือมันอยู่ ตัวมันไม่รู้ ไม่คิด ไม่เข้าใจอะไรก็จริงอยู่หรอก แต่ญาติมันอีกสองคนท่าจะคิดมาก แล้วถ้าคิดมาก อาจจะพูดอะไรให้สิตางศุ์คิดไปด้วย ไอ้ที่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจจะกลายเป็นความแตกดังโพละก็ตอนนี้


...แต่...บางที...ญาติมันก็อาจจะไม่คิดอะไรมากเหมือนมันนั่นแหละ...


“ดีๆ จะได้ไม่หายอีก ถ้ามึงหายอีกนะไอ้โซ่ กูโดนด่าเช็ดแน่” อาติยะสนับสนุนอย่างขันแข็ง


“จริงงงงง ดีไม่ดี ผมโดนหางเลขไปด้วย ญาติๆอุตส่าห์ไว้วางใจให้ผมมาเป็นเพื่อนพี่โซ่ ดันทำพี่โซ่หาย เดี๋ยวคราวหน้าถ้าจะไปไหนกัน ผมเอาเชือกจูงเด็กมาด้วยดีกว่า จะได้สบายใจกันทุกภาคส่วน” ทัศน์ก็อีกคน เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ชนิดที่เจียระไนถึงกับถอนหายใจแรงๆ ไม่รู้จะโล่งอกหรือเซ็งกับสมาชิกตระกูลนี้ดี


...สรุปว่าไม่มีใครคิดมากทั้งนั้น...


แล้วหลังจากนั้น พวกเขาก็เดินเล่นที่ถนนคนเดินกันต่อ ยิ่งค่ำก็ยิ่งดูเหมือนคนจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ร้านค้าริมสองข้างทางของถนนมีทั้งของทำมือ เสื้อที่ระลึก โปสการ์ด ที่มีมากหน่อยคืออาหารการกินที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นอาหารท้องถิ่นอย่างกุ้งแม่น้ำโขงตัวเล็กๆเสียบไม้ย่าง ปาท่องโก๋สอดไส้มีทั้งไส้หวานอย่างกล้วยและสังขยา หรือไส้เค็มอย่างหมูแดง แล้วก็มีข้าวจี่ซึ่งเป็นข้าวเหนียวทาไข่แล้วนำไปปิ้ง


สิตางศุ์ผู้ซึ่งไม่กินของทอดเลยได้ข้าวจี่มาหนึ่งไม้ ทานง่ายด้วยมือเดียวเพราะอีกมือถูกจับจองโดยคนที่เดินข้างกาย


“อร่อยนะ ชิมมั้ย” กัดไปหนึ่งคำร้อนๆ ร่างโปร่งก็หันมาถามคนที่เดินข้างกัน ก่อนจะยื่นให้เจียระไนรับไปถือ ทว่าใบหน้าหล่อเหลาที่มีโครงหน้าชัดกลับก้มลงมาหา


“ยกขึ้นสูงหน่อยสิ” สิตางศุ์ได้แต่ทำตาปริบๆ เพราะไม่ได้คิดจะป้อน แต่เมื่อถูกสั่งให้ยกขึ้นสูงพอดีกับปาก เขาก็ยอมยกขึ้นอีกหน่อย คราวนี้เจียระไนก้มลงมากัดไปหนึ่งคำ การก้มลงมาใกล้ เป็นอีกครั้งที่ดวงตาของพวกเขาสบกัน และเป็นฝ่ายสิตางศุ์ที่รีบหลบสายตาก่อน


“หลบตากูทำไม” เสียงทุ้มตั้งคำถาม แต่คนถูกถามกลับส่ายหน้าไม่ยอมตอบอะไร


“โซ่...” เจียระไนเรียกอีก แต่เจ้าของชื่อก็ยังไม่กล้าหันมอง สิตางศุ์ไม่รู้ว่าเสียงทุ้มๆแบบนี้ทำไมถึงทำปฏิกิริยากับหัวใจของเขามากนัก ใจมันสั่น แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากหันไปมอง อยาก...แต่...ไม่ว่ายังไงก็ไม่กล้าหันไปมองเด็ดขาด ไม่มองเด็ดขาด...


“ไม่มองกู แล้วจะป้อนกูถูกมั้ย” เสียงนั้นดังขึ้นอีก คราวนี้ไม่ได้สร้างความไหวหวิวให้หัวใจแล้ว มันฟังดูเหมือนหยอกเอินจนตอนแรกคนที่ตั้งใจจะไม่ยอมหันไปมอง ต้องยอมเหลือบสายตากลับไป และพอเหลือบกลับไปสบตากับดวงตาสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน สิตางศุ์ก็รีบหลบสายตากลับไปทางเดิมอีกหน


“เนี่ย...มึงแกล้งกูอ่ะ” คนหลบสายตาบ่นหน้ามุ่ย ทำเอาร่างสูงหัวเราะในคอ มุมปากยกขึ้นจนพานให้เห็นโหนกแก้มชัด ในขณะที่ดวงตาเรียวมีประกายระยิบ


“แกล้งตรงไหน”


“ก็มึงมอง...” มองอะไรไม่รู้ มองแบบไหนก็บอกไม่ได้ แต่ที่บอกได้คือมองแบบนี้แล้วทำให้รู้สึกใจไม่อยู่กับตัวยังไงไม่รู้


“ไม่มองก็ได้ แต่เอามากินอีกที” คนถือข้าวจี่ยื่นให้โดยไม่หันมอง และเพราะไม่หันมอง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือข้างที่ถือไม้เสียบข้าวจี่นั้นถูกกุมเอาไว้ด้วยฝ่ามือร้อน


คนถูกกุมมือหันมองทันที ภาพที่เห็นคือมือของเขาถูกมือของเจียระไนกุมเอาไว้แล้วบังคับให้ป้อนข้าวจี่เข้าปาก ในขณะที่มืออีกข้างก็ถูกมือของเจียระไนอีกนั่นแหละที่จับเอาไว้ไม่ปล่อย


ไม่รู้ว่ามือข้างไหนร้อนกว่ากัน แต่ที่รู้ๆคือมือของเขาทั้งสองข้างถูกครอบครองโดยมือของเจียระไนเพียงคนเดียว


ร่างสูงเห็นสีหน้าตกตะลึงของคนข้างกายก็ได้แต่หัวเราะในคอเบาๆขณะที่เคี้ยวข้าวจี่ในปากอย่างมีความสุข และยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีกเมื่อคนที่ถูกเขากุมมือทั้งสองข้างด้วยสองมือของเขารีบหันหน้าหนีไปทางอื่นแล้วสบถด่าเบาๆ


“เชี่ยโจ๊ก”


“ด่ากู กูไม่ปล่อยมือมึงนะ” เขาหยอก แต่พอมือขาวข้างที่ถือข้าวจี่พยายามดึงให้หลุดจากการกอบกุมของเขา เจียระไนก็ยอมปล่อยมือนั้นให้เป็นอิสระแต่โดยดี แต่...ก็เพียงแค่ข้างเดียวเท่านั้น เพราะมืออีกข้างของเขายังคงจับมือของอีกฝ่ายไม่ปล่อย


“ข้างนี้กูไม่ปล่อย...” เขาพูดดักไว้ก่อน ก่อนที่เจ้าของมือขาวที่จับกับมือของเขาจะพยายามดิ้นรนให้หลุด


“...และจากนี้กูจะไม่ปล่อยมึงไปไหนอีก” น้ำเสียงนั้นจริงจัง และที่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือการที่มือของเขากระชับมือของสิตางศุ์แน่นกว่าเดิม ราวกับเป็นสัญญาว่าจากนี้ไป เขาจะไม่ปล่อยมือนี้อีกแล้ว จะไม่ปล่อย...ให้หายไปจากสายตาอีก


ร่างโปร่งก้มลงมองมือของพวกเขาที่ยังจับอยู่ด้วยกัน ความรู้สึกบางอย่างพอกพูนขึ้นในอก


แต่...ก็ยังไม่รู้เสียที...ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร

...........................

หลังจากเดินกลับจากถนนคนเดินก็ถึงเวลาพักผ่อน แต่ก่อนจะแยกย้ายเข้าห้อง พวกเขาตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะตื่นก่อนอาทิตย์ขึ้น ไปภูทอกซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเพื่อดูทะเลหมอก แล้วกลับมาทานอาหารเช้าและเช็คเอ้าท์ ให้อาติยะไปส่งที่สนามบินเพื่อกลับกรุงเทพฯ


สองวันหนึ่งคืนของทริป ‘เชียงคานชั่ววูบ’ ของเจียระไนกำลังจะหมดลง แต่...นี่จะเป็นคืนแรกที่เขาได้นอนห้องเดียวกับสิตางศุ์


ร่างสูงเนื้อเต้น รู้สึกว่าตัวเองควรจะทำอะไรสักอย่าง ทว่า...สิ่งหนึ่งที่เจียระไนลืมคือคนอย่างสิตางศุ์นั้น...นอนไวมาก...


“โซ่ ทำไมหน้ามึงเป็นยังงั้น” ร่างสูงใหญ่ตั้งคำถามเมื่อปิดประตูลงกลอนแล้วเรียบร้อย และหันมาพบว่าผู้ที่จะต้องร่วมห้องกับเขาในคืนนี้ ตาปรือคล้ายง่วงนอนเต็มแก่


“กูง่วงแล้วอ่ะ” เจียระไนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแทบไม่ทัน


...สองทุ่มครึ่ง!!...เด็กปีสี่ไม่ควรง่วงนอนตอนสองทุ่มครึ่ง!!!...


“มึงไปอาบน้ำไป”


“นอนสักงีบก่อนได้มั้ย” คนง่วงหันมาต่อรอง ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่อยู่แล้ว ช่วงนี้เขานอนดึกเพราะอ่านหนังสือเตรียมทำเปเปอร์ แล้ววันนี้ก็เดินทางไกล ทั้งนั่งเครื่องบิน ทั้งนั่งรถยนต์ ไหนจะเดินที่ถนนคนเดินตั้งหลายกิโลฯอีก คนง่วงง่าย นอนง่ายอย่างสิตางศุ์เลยชักจะเปิดตาต่อไปไม่ไหว


“ไม่ได้ ไปอาบน้ำ” เจียระไนไม่ได้คิดจะให้อีกฝ่ายอาบน้ำแล้วมานอนสบายๆหรอก เขาอยากให้มันได้น้ำเย็นๆแล้วสติสตังกลับมามากกว่า


...คืนแรกของเรา มึงจะมาหลับไวหลับเร็วใช้ชีวิตเหมือนปกติแบบนี้ไม่ได้!!...


คนอยากนอนแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้นอนทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองคนตรงหน้า


“มึงไม่ใจดีเลยว่ะ”


“ไป-อาบ-น้ำ” เจียระไนย้ำอีกครั้ง ร่างโปร่งเลยได้แต่เดินไปเปิดกระเป๋าเป้หยิบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป พอประตูห้องน้ำปิดเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ถึงกับทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างคิดไม่ตก เขาเหลือบมองเตียงเดี่ยวที่ตั้งคู่กัน เตียงหนึ่งเป็นของเขา อีกเตียงเป็นของสิตางศุ์ โอกาสแรกที่พวกเขาได้ร่วมห้องเดียวกัน แต่...ไม่มีโอกาสได้นอนเตียงเดียวกัน


...แล้วโอกาสจะมาอีกเมื่อไร?...

เวลาของชีวิตนิสิตปีสี่น้อยลงทุกที อีกไม่นานจะจบเทอมหนึ่งแล้ว และอีกไม่กี่เดือนพวกเขาก็จะเรียนจบ ต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง โอกาสที่พวกเขาจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ได้ร่วมห้องเดียวกันอีกครั้ง อาจจะไม่มีอีกเลย...


...กูควรจะทำยังไงดี?...


‘กูถามอีกครั้ง มึงว่ากูควรบอกไอ้โซ่ได้รึยัง’


ตัวช่วยเพียงหนึ่งเดียวคือที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทางแอพลิเคชั่นในโทรศัพท์ เจียระไนพิมพ์ส่งข้อความอย่างรวดเร็ว และเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อที่อีกฝ่ายจะตอบกลับมา แต่...ข้อความของเขาไม่ถูกอ่านด้วยซ้ำ


‘เฮ้ย ตอบเร็วๆหน่อย กูรออยู่’


ส่งไปกระทุ้งอีกรอบก็ยังเงียบ คนขี้หงุดหงิดเริ่มจะไม่สบอารมณ์


‘ไอ้เชี่ย มึงหลับรึไง ตอบกู’


ครั้งที่สาม เลขสวยสำหรับความอดทนที่มี เจียระไนกดออกจากหน้าแชทอย่างรวดเร็ว แล้วกดโทร.ออกหาปลายสาย เขารอจนสัญญาณตัด ถึงได้รู้ตัวว่าตอนนี้ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์รับสายเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ


...ไอ้หอกเอ๊ย!! เวลาแบบนี้เสือกไม่อยู่ใกล้โทรศัพท์!!!...


เมื่อหมดตัวช่วย ทางเดียวที่เหลือคือช่วยเหลือตัวเอง เจียระไนหงายหลังผึ่งลงกับเตียง ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตดี จะปล่อยเอาไว้แบบนี้ไปก่อน หรือทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงดี


เสียงกลอนประตูห้องน้ำถูกปลด ตามมาด้วยเสียงประตูถูกเปิด แล้วร่างโปร่งผิวขาวจัดในชุดเสื้อยืดเก่าๆกับกางเกงเลก็ก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ เจียระไนผงกศีรษะขึ้นมามองตาแทบค้าง


ค้างแรก เพราะชุดนอนง่ายๆ เก่าๆของไอ้โซ่ ไม่อยู่ในหมวดหมู่ชุดนอนแสนเซ็กซี่เลย แต่พอชุดแบบนี้มาอยู่บนตัวมัน กลับทำให้เขาต้องกวาดตามองตั้งแต่คอขาวๆลงมาที่เสื้อยืดเนื้อบาง กางเกงเลที่ยาวเลยเข่ามานิดหน่อย และลงมาที่ปลีน่องขาว ขาวซะจนตาตุ่มยังเป็นสีชมพู แล้วถ้าตาตุ่มยังสีชมพู หัวนมมันจะสีอะไร


เจียระไนกลืนน้ำลายเอื้อกแล้วตั้งสติ เพราะสิ่งที่ทำให้เขาตาค้างไม่ได้มีแค่เรื่องชุดนอนของมัน แต่เป็นการที่มันอาบน้ำเร็วฉิบหาย!


“มึงอาบเสร็จแล้วเหรอ”


“ก็กูบอกแล้วไงว่ากูง่วง” คนง่วงตอบเสียงเอื่อยๆ ก่อนจะเดินไปพาดผ้าขนหนูกับราวแขวน ตามด้วยการเก็บเสื้อผ้าเก่าลงกระเป๋าเป้ เจียระไนมองร่างโปร่งบางจากทางด้านหลัง


ภาพแบบนี้ไม่รู้เมื่อไรจะได้เห็นอีก หรือบางทีอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นอีกเลย ถ้าหาก...เขายังคงสถานะเดิมต่อไป...


“โซ่...” ไวเท่าความคิด เสียงทุ้มก็ดังขึ้น


“หืม?” คนถูกเรียกเพียงขานรับ ไม่ได้หันไปมอง เพราะกำลังพยายามยัดกางเกงยีนส์ลงในกระเป๋าเป้ใบเล็กของตัวเอง แต่พอง่วง เรื่องง่ายๆอย่างการเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าก็ยากไปหมด ยัดตั้งนานก็ยังไม่ได้สักที


“ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน มึงคิดถึงคนอื่นบ้างรึเปล่า” คำถามของเจียระไนทำเอาอีกฝ่ายหันมามองด้วยความงุนงงผสมความง่วง


“คิดถึงคนอื่น? หมายถึงใครเหรอ”


“นิตา...” สิตางศุ์ถึงกับนิ่งงันกับคำตอบของร่างสูง


“มึง...ถามทำไม...” ริมฝีปากสีจัดบนใบหน้าขาวย้อนถาม ความง่วงที่แม้แต่น้ำเย็นยังสลัดออกจากหัวไม่ได้ แต่พอชื่อของนิตาโผล่เข้ามาในบทสนทนา ก็ดูเหมือนสมองจะตื่นในพริบตา


“กูอยากรู้ว่าตอนที่กูอยู่กับมึง มึงคิดถึงนิตามั้ย”


ไม่มีคำตอบจากสิตางศุ์ เพราะร่างโปร่งเองก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะคิดถึงนิตาหรือไม่ยามที่อยู่กับเจียระไน เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไรกับหญิงสาวคนนั้น ไม่รู้แม้แต่นิดเดียว


เพราะความเงียบระหว่างพวกเขา และสีหน้าครุ่นคิดของคนตรงหน้า ทำเอาเจียระไนใจไม่ดี เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วตัดสินใจวัดดวงอีกครั้ง


“กูถามใหม่”


นี่จะเป็นการวัดดวงครั้งสุดท้าย ว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป ระหว่างคงสถานะเดิมเอาไว้ก่อน หรือทำให้มันพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ


“ตอนที่มึงอยู่กับกู มึงรู้สึกยังไง” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองคนถาม แววใสซื่อและบริสุทธิ์ที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นี้บอกความจริงข้อหนึ่งคือหากสิ่งใดที่สิตางศุ์พูดต่อจากนี้ มันล้วนออกมาจากใจจริง


“ก็...สนุก”


“แล้วมีความสุขมั้ย”


“อืม”


“เวลากูพูดไม่ดีกับมึงล่ะ”


“มึงพูดไม่ดีตอนไหน” เจียระไนดุนลิ้นกับกระพุงแก้มเพราะนึกไม่ออกเหมือนกันว่าตัวเองพูดจาไม่ดีกับอีกฝ่ายบ้างหรือไม่ แต่โดยพื้นฐานก็พอรู้ตัวว่าตนเองไม่ใช่คนสุภาพนักและในหลายๆครั้งก็ปากไม่ดีด้วย


“เปลี่ยนคำถาม แล้วถ้าไม่มีกูล่ะ มึงรู้สึกยังไง”


สิตางศุ์นิ่งไป พักหลังมานี้ เขาพบหน้าเจียระไนแทบทุกวัน พูดคุยกันทุกวันทั้งแบบเห็นหน้าและทางโทรศัพท์ ห้านาทีบ้าง สิบนาทีบ้างแล้วแต่วัน บางทีก็กินข้าวด้วยกัน บางครั้งวันเสาร์อาทิตย์ ก็ไปเดินซื้อของด้วยกัน รู้สึกเหมือนได้ใครสักคนเข้ามาในชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งคน ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองมีคนรอบข้างครบถ้วนแล้วแท้ๆ


“อืม?...ไม่รู้สิ คงจะ...เหมือนขาดอะไรไป...”


คำตอบของร่างโปร่งผิวขาวจัดเหมือนระดมกำลังใจคนฟังให้ลุกฮือ เจียระไนสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วตัดสินใจเด็ดขาด เขาก้าวเข้าไปหาสิตางศุ์ ดวงตาคมกริบจับจ้องคนที่ยังเอาแต่ก้มหน้า


“ถ้างั้นมึงก็ไม่ต้องคิดเรื่องจีบนิตาแล้ว...”


ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบขึ้นมองคนพูดด้วยความไม่เข้าใจ


“จากนี้ไป กูจะจีบมึงเอง”


ประโยคต่อมาของร่างสูงทำเอาคนกำลังงุนงงถึงกับชะงัก ดวงตาคู่สวยเหลือกโตด้วยความตกตะลึงพอๆกับที่อ้าปากค้าง


ท่าทีทั้งตกใจทั้งตื่นตระหนกของคนตรงหน้าบอกให้รู้ว่าเจียระไนไม่ควรรุกไล่มากไปกว่านี้ เขาเบนสายตามองไปทางอื่น เพราะขืนมองหน้าขาวๆปากแดงๆระยะใกล้ๆแบบนี้อีกสักหนึ่งนาที ตบะอาจจะแตกได้ง่าย


“กูไปอาบน้ำก่อน มึงก็นอนซะ แล้วอย่าลืมชาร์จแบทฯด้วย เดี๋ยวก็โทร.หาไม่ได้อีก”


แล้วร่างสูงใหญ่ก็หันไปคว้าเสื้อผ้าเดินหนีเข้าห้องน้ำไปดื้อๆ ทิ้งให้คนกำลังใจตกใจได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับเสียงทุ้มๆที่มั่นคงและแน่วแน่ยังคงดังก้องอยู่ในหัว


‘จากนี้ไป กูจะจีบมึงเอง’


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


เชียงคานชั่ววูบ แต่โจ๊กไม่วูบนะคะ ที่ทำนี่ทำตามหัวใจด้วยสติครบถ้วนล้วนๆค่ะ (เน่ามากกกกก...) ใครว่าเรื่องนี้พระเอกกาก มันกากจริงก็ยอมรับอยู่ แต่เวลามันจะกลายร่างเป็นคนจริงขึ้นมา เอาแรดมาฉุดก็เอาไม่อยู่นะคะ กร๊ากกกกก


มีหลายคนถาม(และห่วงใย) ว่าซื่อ(บื้อ)อย่างโซ่ มีชีวิตอยู่ได้ยังไง จริงๆแล้วโซ่ไม่ได้ซื่อมาก แต่เป็นลักษณะแบบคนที่ไม่รู้และไม่คิดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แล้วก็เลยมองข้าม(อย่าบอกโจ๊กว่าโซ่มองข้ามโจ๊ก เดี๋ยวมันไบโพลาร์อีก กร๊ากกกก) เพราะงั้นพอโจ๊กเข้ามา ก็เห็นเป็นเพื่อนอย่างเดียวเลยค่ะ ซึ่ง...อีเพื่อนโจ๊กก็ทำตัวสมเพื่อนมากกกกก ฮาฮา


แต่ยังไงก็ตาม สรุปว่าตอนนี้โจ๊กเดินหน้าแล้วนะคะ ใครที่สงสารโจ๊กมาตั้งแต่ตอนที่แล้ว ก็...สงสารโจ๊กกันต่อไปค่ะ กร๊ากกกกกก


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ พื้นที่บอร์ดและทุกกำลังใจเช่นเคย
เจอกันพฤหัสหน้า

ป.ล. เขียนถึง wherever you are เพราะมือกีต้าร์เท่ล้วนๆเลยค่ะ เอ้ยๆ เพราะเนื้อเพลงสิ เพราะเนื้อเพลงงงงงงง


ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เหนื่อยแทนโจ๊ก

อารมณ์เหวี่ยงประหนึ่งขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา

โซ่คนซื่อ อย่าฉลาดเร็วนักนะ ฉันชอบที่เขาจีบกันมึน ๆ ฮ่า ๆ ๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ดีมากโจ๊ก บอกไปเลย ลุยเต็มที่ สู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ wijii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
กรี๊ดดดดดดด ต้องแบบนี้สินังโจ๊ก เยี่ยมๆๆๆ

บางทีโจ๊กก็อาจจะต้องปล่อยให้โซ่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน อย่าลืมว่าโซ่ไม่เคยรักใครจริงจัง แต่อยู่ด้วยกันทัเงคืนนี้ขนาดนี้จะเป็นไงมั่งน้อ55555

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
โจ๊กไม่กากแล้ว โจ๊กคนจริง ฮ่าๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด