◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│  (อ่าน 25344 ครั้ง)

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
เป็นกำลังใจให้นะคะ แต่แอบโมโหเหมือนกันนะเนี่ย เป็นเราเราก็ไม่เอาชะนีแบบนางค่ะ เกิดมาถูกเพศแต่จิตใจสกปรก  :m16:

ออฟไลน์ qDraftman

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0



7






Xenon





“อืม นี่กำลังอ่อยคืนไง”






นัยน์ตาสีดำนั่นวันนี้ดูมาชีวิตชีวามากกว่าทุกวัน ผมชอบมองตาเขามันจะแสดงออกในสิ่งที่เขาคิดในตอนที่เผลอ

อย่างที่ว่าต่อให้จะหน้าตายขนาดไหนแต่แววตายังจะสื่อความคิดของเราเสมอ
วันนี้มีเหตุการณ์ประหลาดคือหมอกเหมือนหลีกเลี่ยงที่จะสบตาผมแต่มันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนโดนรังเกียจกลับกันมันทำให้ผมรู้สึกดีชอบกล ปฏิเสธไม่ได้ว่าสีหน้าท่าทางและการวางตัวของหมอกถือเป็นเสน่ห์ดูน่าค้นหา





อีกอย่างคือ เขาชอบยั่ว





อย่างเมื่อกี้ก็บอกว่า กำลังอ่อยผมคืน ถ้าพวกคุณเจออย่างนี้บ้างล่ะต่อให้ตายด้านหรือเสื่อมสมรรถภาพก็เถอะมันก็ต้องมีร้อนกันบ้างแหละ


บางทีผมก็แอบคิดเหมือนกันว่าเขาอาจจะแค่แกล้งผมจริงๆก็ได้ แค่มาปั่นหัวกันเล่น หลอกให้อยากแล้วก็จากไป คิดได้อย่างนี้ก็เริ่มหงอย


เกิดมาเคยต้องจีบใครอย่างนี้ที่ไหน





หมอกปล่อยให้ผมคลอเคลียอ้อนอยู่สักพักก่อนผมจะโดนเฉดหัวอีกเหมือนเดิม ขายาวนั่นลุกเดินเข้าไปในห้องนอนเหมือนว่าจะไปเปลี่ยนชุด

ปล่อยให้ผมยังเคลิ้มอยู่กับกลิ่นหมอกที่ยังติดจมูก เห็นไหมว่าวันนี้มันดูใจดีแปลกๆจนเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายจากปากบางนั่นแวบนึง ถึงกับต้องกลืนน้ำลายอึกคิดว่าต่อไปต้องเจออะไร





มันเกือบจะเป็นวันที่ดีอยู่แล้วถ้ามันไม่มีเรื่องเกิดขขึ้นที่ร้านอาหารนั่น ดันมีมารผจญที่ตอนแรกผมก็นับถือความกล้าของเธอที่เดินเข้ามาหาผม เพราะผมตั้งใจแผ่รังสีอำมหิตเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาใกล้แล้ว

แต่เรื่องความกล้าก็ส่วนนึงแต่นิสัยที่เธอมาดูดถูกคนอื่นผมรับไม่ได้จริงๆ แล้วนี่คือหมอก

ทุกอย่างที่เธอพูดมันไม่ใช่ความจริงสักอย่างนั่นยิ่งทำให้ผมโกรธ ตอนที่หมอกโดนทำร้ายยอมรับว่าผมฟิวส์ขาด


ถ้าหมอกไม่เข้ามาห้ามผมคงได้ลงมือกับเธอไปจริงๆ เวลานั้นจะผู้หญิงหรือผู้ชายผมก็ไม่สนใจหรอก ผมโมโหขนาดที่ไม่มีอารมณ์จะพูดโต้ตอบอะไรกับหมอกด้วยซ้ำ ได้แต่คิดว่าหมอกทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปได้ไง



นั่งเชคอีเมลล์เพลินๆระหว่างรอหมอก เริ่มรู้สึกว่ามันชักจะนานแปลกๆ เริ่มเป็นห่วงขึ้นมานิดนึงเลยคิดว่าจะเดินไปตาม เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เห็นใครแต่ได้ยินเสียงน้ำและประตูห้องน้ำก็แง้มอยู่


หมอกกำลังล้างหน้าแต่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆอยู่ผืนเดียว พอมองอีกทีก็เห็นว่ามีหยดน้ำเการะพราวตามตัวผมก็เปียกลู่

เหมือนยังไม่รู้ถึงการมีตัวตนของผม ผมจึงได้ถือโอกาสมองสำรวจร่างกายสมส่วนนั้นอยู่นาน

ยิ่งมองผมก็ยิ่งเหมือนจะจมดิ่งลงไปในห้วงความคิด เสียงกระทบกันของจี้รูปนกอินทรีย์กับอ่างล้างหน้าช่วยให้สติผมกลับมา

สร้อยของผม


พอคิดได้ว่าควรเลิกเสียมารยาทจึงกระแอมขึ้นเบาๆ



“เชี่ย..” หมอกสะดุ้งก่อนที่หูจะแดง รอบนี้ยังไงก็ดูเหมือนเขาเขินผมแน่ๆ ผมเลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ นั่นทำให้หมอกหันขวับและส่งค้อนดุๆให้ผมหนึ่งที ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กอีกผืนมาเช็ดหน้า


“สัด…มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง”


หมอกทำเสียงเข้มแต่ยังไม่ยอมมองหน้าผมยังคนสาละวนอยู่กับการเช็ดหัว

ความเงียบเกิดขึ้นสักพักก่อนหมอกจะทนไม่ไหวเดินชนผมออกไปนอกห้องน้ำ รีบเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วจัดแจงสวมกางเกง


จะว่าตาผมมันไม่รักดีก็ได้ที่เอาแต่คอยจ้องขาขาวๆตอนมันยกขึ้นมาใส่ชุด

หมอกส่งเสียงหึออกมาดังๆ เหมือนจะหัวเราะเยาะผม



มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่ตรงกันข้ามผมอยากเข้าไปฟัดคนขี้อ่อยนี่มากกว่าเดิมอีก


เมื่อผมเห็นว่าหมอกไม่มีทีท่าว่าจะหยิบเสื้อมาสวมก็ได้แต่ยิ้มอยู่ในใจ คิดไปว่าหมอกจะทำอะไรต่อ

ไม่นานหมอกเปิดลิ้นชักและหยิบกล่องสีดำขนาดไม่เล็กมากกล่องนึงออกมา ก่อนจะเดินมาที่หน้ากระจกซึ่งอยู่ข้างๆผม หมอกวางกล่องนั่นลงบนโต๊ะ พอเปิดออกก็เห็นพวกเครื่องประดับซึ่งส่วนมากจะดูเหมือนจิวและพวกต่างหู มีหลายสีแต่ที่เยอะที่สุดดูจะเป็นสีเงินและสีดำ หมอกหยิบกล่องพลาสติกใสออกมาสามกล่องก่อนจะยื่นมาข้างหน้าผม


“เลือกมากล่องละอัน”


พูดนิ่งๆไม่สนใจสายตางงๆของผม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ผมมองโลหะสีต่างๆที่วางอย่างเป็นระเบียบอยู่ในนั้น ในแต่ละกล่องมีกว่าสิบอันแต่ละอันก็มีรูปร่างน่าตาแตกต่างกันไป

ผมเลือกแต่แบบเรียบๆออกมา มีสีเงินสองอันและสีดำอีก 1 อัน ก่อนจะส่งให้หมอกที่ยืนแบมือรออยู่
หมอกยิ้มเหมือนชอบใจ

“เลือกดีหนิ ทีนี้มาเล่นเกมส์กัน” หมอกกระตุกยิ้มชั่วร้ายแต่ยังพูดอกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ ผลักผมให้นั่งลงบนเตียง ก่อนตัวเองจะเลื่อนเก้าอีกมานั่งตรงข้าม


“สามอัน อันละที่ เลือกอันที่ชอบที่สุดมา”

“แล้ว?” ตัวเลือกสามอันวางเรียงอยู่บนมือหมอก ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรอยู่เหมือนเดิมทั้งไอ้สามอันนี้คืออะไร แล้วหมอกกำลังเล่นอะไร

“เลือกอันไหนจะให้ ลอง อันนั้น”



หึ


ไม่รู้หมอกคิดอะไรแต่ที่แน่ๆยังไงดูเหมือนผมก็จะได้เปรียบ แต่ก็ยังไม่รู้หน้าที่ของสามอันนี้อยู่ดีมันดูเหมือนจิวต่างหูเหมือนกันทั้งสามอัน

แต่ในที่สุดผมก็ชี้เลือกอันสีเงินที่ยาวที่มีลูกกลมๆปิดหัวท้าย หมอกมองหน้าผมแปบนึงก่อนจะยิ้มมุมปาก

“อืม..แปบนึง” หมอกหยิบทั้งสามอันนั้นไปทำความสะอาดค่าเชื้อก่อนมานั่งที่เดิม วางของปริศนาพวกนั่นไว้บนทิชชู่

“อันที่มึงไม่ได้เลือกก่อนแล้วกัน” ว่าแล้วหมอกก็หยิบอันสีดำที่มีอยู่อันเดียวขึ้นมาก่อน มันเป็นรูปสามเหลี่ยมดูแปลกๆแต่ผมว่าสวยดี แกะๆแงะๆอยู่สักพักนึงก็เอามาใส่ที่หู ผมมองอย่าสนใจ แสดงว่าถ้าผมเลือกอันนี้ผมก็จะได้





ไซร้





อืม






คลอเคลีย




อืม...





โอ้ย แค่คิดก็หื่น ไม่ๆ ผมต้องจับตาดูอันที่ผมเลือกเริ่มจะลุ้นว่ามันคืออะไร สายตาหมอกแสดงออกแบบชัดเจนว่าชอบใจก่อนจะหยิบแท่งสีเงินอีกชิ้นที่คล้ายกับอันที่ผมเลือกเพียงแต่ว่ามันเล็กกว่า สายตาหมอกยังคงจ้องผมไม่วางตาเพียงแต่ตอนนี้มันเจือไปด้วยความสนุกเพิ่มเข้าไปอีก


และผมก็ได้รู้สาเหตุที่หมอกยังไม่ใส่เสื้อ







เอาเลย










ฆ่าผมเลย




ผมแทบจะนั่งไม่ติดเตียงอยากเข้าไปช่วยใส่ให้รู้แล้วรู้รอด มือขาวๆที่กำลังง่วนอยู่กับหน้าอกตัวเอง



มันน่า...




เริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพวกตาแก่ตัณหากลับเข้าไปทุกที จากครั้งนั้นที่เคยเห็นเพียงแค่แวบๆตอนหมอกเปลี่ยนเสื้อ ตอนนี้ผมได้เห็นชัดๆละครับ สีเงินของจิวเข้ากับผิวขาวๆและจุดแต้มสีสวยนั้นมากๆ

แถมครั้งนี้ยังมีเจตนาอวดให้มองชัดๆแบบไม่ต้องแอบ หมอกยักคิ้ว ก่อนหยิบอันสุดท้ายขึ้นมาชู แต่แทนที่หมอกจะใส่เลยกลับเดินเข้าห้องน้ำแต่แค่แปบเดียวก็เดินออกมา ผมมองหาความเปลี่ยนแปลงแต่ก็ไม่พบ จน...









“ส่วนอันนี้ที่มึงเลือก ตรงใจกูมาก”



เดี๋ยวนะ..








แวบๆ





เหมือนเห็นอะไรบางอย่าง




สีเงินๆ



.



.

.
ในปาก...




ไม่รอให้ผมงงนาน หมอกก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างนึกสนุก ทำให้ผมเห็นแท่งสีเงินที่ผมเลือกเมื่อกี้อย่างชัดเจนที่ ลิ้น แววตาเป็นประกายวิบวับ เอาละผมเชื่อแล้วว่าวันนี้หมอกแปลกไปจริงๆ แต่มันก็ดีสำหรับผมอยู่แล้ว


“เคยไหม” หมอกถามยั่ว พลางเล่นกับจิวที่อยู่ที่ลิ้น ดุนไปดุนมา



“หึ” ผมปฏิเสธ มองคนช่างยั่วไม่วางตา



“อืม รับรองติดใจ”







หมอก








เป็นเพราะสลัดเรื่องบ้าๆเมื่อคืนไม่ได้สักที ตอนแรกก็ว่าจะแค่เข้ามาเปลี่ยนเสื้อแต่พอเห็นห้องน้ำเห็นห้องนอนแล้วมัน..

คงไม่ต้องบอกนะว่าเรื่องอะไรที่วนเวียนจนพาลจะปวดหัว พอเผลอเข้าไปอาบน้ำกะให้หายฟุ้งซ่านแม่งก็ฟุ้งกว่าเดิมซะอีกกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ก็คงนานไปจนมีคนเข้ามาตาม


จะไม่อะไรเลยถ้าเป็นเวลาอื่นจะแกล้งให้คอหดเลยด้วยซ้ำ นี่เหมือนโดนเข้ามาตอกย้ำ




อย่าถามว่าไอ้เกมส์นี้คิดขึ้นมาได้ไง


เพราะอยากรู้ล้วนๆ


อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกเหมือนที่จินตนาการเมื่อคืนรึเปล่า




บ้าไหมละ







ปกติชอบแกล้งก็จริงแต่ก็ไม่เคยต้องเปลืองตัวจริงๆแถมครั้งนี้เสนอเองอีกต่างหาก

ไอ้ควายหมอก เป็นไรของมึง อยากจะทุบหัวตัวเองซะหลายๆทีแต่มันก็ค้านกับความตื่นเต้นในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิด ผมชอบแววตาของคนตรงหน้ามากๆ มันวิบวับมีสายตาท้าทายแบบปิดไม่มิด





ดูเหมือนผมต้องไม่ทำให้ผิดหวังซะแล้ว




มือสวยดันไหล่อีกคนให้ขยับเข้าไปนั่งลึกอีกนิดด้วยสัมผัสเพียงเล็กน้อยก็ยอมตามโดยง่าย ไล้มือไปตามโครงหน้าคม ตาประกายสีเฮเซลนัทจับจ้องไม่วางตา


เจ้าของผิวขาวไร้การปกปิดท่อนบนค่อยๆแทรกตัวลงไปนั่งบนฟูกที่ว่างระหว่างขาแกร่ง นิ้วเรียวค่อยๆไล้เบาๆจากใบหน้าลงมาไหล่และจบลงด้วยการโน้มคอคนตัวใหญ่ลงมาใกล้


“เอาละนะ”


อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรเพียงอยู่นิ่งๆให้คนตัวเล็กว่าเริ่มก่อน รอยยิ้มเหมือนเจอของถูกใจยังไม่เลือนไปจากใบหน้า เพียงชั่ววินาทีที่ริมฝีปากทั้งสองแตะกันเหมือนต่างคนก็ได้คำตอบบางอย่างของตัวเอง

ปากบากหยอกล้ออีกฝ่ายอย่างยั่วยวน ขบเบาๆเหมือนขออนุญาติ จากผิวเผินกลายเป็นลึกซึ้งอดยอมรับไม่ได้ว่าเจ้าเหล็กสีเงินนั่นเพิ่มความตื่นเต้นได้มากทีเดียว

สัมผัสเย็นๆกวาดต้อนไปทั่วปาก จากที่ตั้งใจว่าจะให้อีกคนเป็นฝ่ายนำกลับทนการรุกล้ำนี่ไม่ไหวเร่งจังหวะจากหยอกเย้าให้ร้อนแรงขึ้น กดแผ่นหลังที่เปลือยเปล่านั่นเข้ามาให้ชิดและอดไม่ได้ที่จะสัมผัสผิวลื่นและกล้ามเนื้อที่สมส่วนนั่น

อีกคนก็ไม่ได้น้อยหน้ามือที่โอบรอบคอย้ายไปกำผมนิ่มของร่างโปร่งอย่างระบายอารมณ์ส่งเสียงครางอือในลำคอเหมือนถูกใจ ตอบรับลีลาเร้าร้อนอย่างไม่ยอมแพ้



ไม่รู้ว่ากลายเป็นโดนคร่อมตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะกว่าจะผละริมฝีปากออกจากกันก็ตอนที่ต้องการอากาศเท่านั้น ร่างสูงยังกดจูบซ้ำๆบนริมฝีปากบางที่ตอนนี้เห่อขึ้นสีชมพูระเรื่อไม่ต่างกับใบหน้า

ไม่จำเป็นต้องอาศัยนัยน์ตาสีดำนั่นเพื่อคาดเดาความรู้สึกของออีกฝ่าย เพราะตอนนี้มีรอยยิ้มน้อยๆปรากฎชัดพอให้ได้คำตอบอยู่แล้ว




"ไม่เบานี่"



ประโยคแรกหลังจากความเงียบออกมาจากผมเอง ซีนอนยิ้มรับอย่างภูมิใจจนน่าหมั่นไส้ ผมผละออกจากซีนอนและกลับมาอยู่ในท่านั่งปกติ อืม จะว่าไงดี จูบเมื่อกี้ทำให้ผมรู้สึกหลายอย่าง ทั้งตื่นเต้น รู้สึกหวิวรวมถึงสับสน มันไม่ได้แย่แต่กลับตรงกันข้าม มันทำให้ผมรู้สึกดีมากจนเหมือนว่าตัวเองรู้สึกดีเกินไป ผมควานหาของที่ต้องการในลิ้นชักหัวเตียง



"ไม่ต้องตามมานะ"


อีกคนที่อยู่ข้างหลังดูจะมีสีหน้ากังวลนิดหน่อย แต่ตอนนี้ผมอยากเคลียอารมณ์คุกกรุ่นของตัวเองมากกว่า เมื่อได้ของที่ต้องการก็เดินออกไปที่ระเบียงติดห้องนอน นั่งลงบนม้านั่งเล็กๆ มองพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า












จากที่คิดว่าจะได้ลูกไก่ในกำมือ กลายเป็นได้นกยักษ์ซะงั้น                                                                                                                                                                                                                                               




________________________________________





เล่นอะไรอะหนูลูก55555
เอาตอนเบาๆมาฝาก ฉลองสงกรานต์ค่ะ
ไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านไหมหรือไปเที่ยวสงกรานต์กันหมด /ส่วนดราฟอยู่เฝ้าบ้านยาวๆไปค่ะ เศร้า

สวัสดีปีใหม่ไทย(ย้อนหลัง)กันด้วยนะคะ ♥♥♥










ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สนุกๆๆ. มาต่ออีกนะครับ,,,,

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ต่างคนต่างเจอสิ่งที่ถูกใจ
หมอกเองก็นะ ทำเป็นไม่สนใจเท่าไหร่ แต่ติดใจจนนึกถึงอยู่บ่อยๆเลยนะ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ้าาาาาาาา.~~ กลับมาอ่านอีกยาวเลย  ชอบนายเอกแบบหมอก หาอ่านยากอ่ะะ แนวนายเอกงี้  ชอบเนื้อเรื่องด้วยดูมีความลับอีกเยอะเลย  ฮืออออ รักคนแต่งง
ปล.เราจะรออ่านตอนสองคนนี้ได้กันนะ5555
..รักเรื่องนี้เลย..จากใจ5555

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ชอบมากเลยค่า หมอกดูมีเสน่ห์มาก มาต่อบ่อยๆนะคะ สู้ๆค่า

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
มาต่ออีกนะจร้า ^^

ออฟไลน์ qDraftman

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0



8






ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันนั้นนี่ก็ล่วงเลยมาเกินอาทิตย์นึงแล้ว ไอ้ฝรั่งที่หายหัวไปตั้งแต่หลังวันที่เกิดเรื่องยังหายเงียบจนน่าหงุดหงิด มีแค่ข้อความที่ส่งมาบอกว่าธุรกิจของมันมีปัญหา ช่วงนี้ไม่ว่างเท่านั้น




ตอนนี้ผมกำลังลงจากดูคาติคู่ใจ (ducati monster 1200R) เพื่อเดินเข้าไปในสถานที่อโคจรสุดหรูแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพ  ที่เพื่อนๆผมโทรจิกจนผมต้องออกมาตามคำเรียกร้องเนื่องในโอกาสฉลองวันเกิดย้อนหลังให้นาย


วันก่อนผมให้หนังสือมันไปแล้วครับ แน่นอนว่ามันดีใจจนแทบจะกระโดดขี่คอผม


กว่าผมจะหลบพวกลูกน้องของไอ้ซีนอนที่เฝ้าอยู่ด้านล่างคอนโดได้ก็ต้องใช้ความสามารถอยู่พอสมควร


คิดแล้วก็ขำ

ไม่รู้ว่าคนในคอนโดจะกลัวพวกบอดี้การ์ดนั่นกันขนาดไหน


ผมเดินถือหมวกกันน็อคสีดำสนิทเหมือนตัวรถเข้ามาในร้านก่อนจะเดินก้าวยาวๆไปหาพวกนายที่นั่งกันอยู่ก่อนแล้วจัดแจงนั่งลงบนโซฟาโค้งตัวใหญ่ก่อนวงหมวกของตัวเองลงบนโต๊ะ




“นายหล่ะ?” ผมถาม




“เอ่อ..ห้องน้ำ ครับ?” ฟีฟ่าตอบผมงงๆก่อนจะหน้าแดง




“ว่าแต่ นี่ใครอะครับ เพื่อนไอ้นายหรอ” คำถามมันแทบจะทำให้ผมหลุดขำ ฟีฟ่าหน้าแดงยิ่งกว่าเก่า จะว่าไปพวกมันยังไม่เคยเห็นผมแต่งตัวอย่างนี้นี่หว่า




ร่างโปร่งวันนี้อยู่ในเสื้อยืดสีขาวล้วนคอกว้างเข้ารูปสีขาวทับด้วยแจ็คเก๊ตหนังสีดำ กับกางเกงสกินนี่สีเดียวกัน รอยขาดที่กางเกงไม่มากไม่น้อยกำลังดูดีบวกด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาว แต่ที่ทำให้ฟีฟ่าจำไม่ได้มากที่สุดน่าจะเป็นหน้าคมที่ตอนนี้เส้นผมนุ่มสีดำสนิทถูกเซทอย่างเป็นธรรมชาติตาที่มันควรจะเป็นไม่มีทรงรังนกมาบังให้รำคาญตา บริเวณคิ้วและใบหูมีจิวแบบต่างๆประดับ




“ก็ใช่นะ” ผมตอบบวกกลั้นขำ แทนคุณยังนั่ง งงๆเอ๋อๆมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้าดูท่าไอ้ห่านี่ก็จะจำผมไม่ได้เหมือนกัน ซันที่ดูเพิ่งได้ที่สุดวันนี้ก็ดันไม่ว่าง




“หมอกมึงก็ไปแกล้งมัน” ผมหันไปยิ้มให้นายที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนมันจะเดินมานั่งที่ฝั่งตรงข้าม ฟีฟ่ากับแทนมองผมกับไอ่นายสลับกันงงๆ




"เอ้า งงห่าไร ก็เนี่ยไอ้หมอก"  ไม่พูดเปล่ามันยังชี้มือชี้ไม้มาที่ผมส่วนผมก็ได้แต่แอบเสียดายที่ไม่ได้แกล้งต่อ หันไปยักคิ้วให้สองคนที่ยังงง




พอมันเริ่มรู้เรื่องก็เริ่มมองมาที่ผมแบบไม่เชื่อสายตา






"ไอ้เหี้ย บทมันอยู่ๆจะหล่อแม่งก็หล่อว้อย ไปแดกอะไรผิดสำแดงมารึไง" ผมไม่ได้ตอบฟีฟ่าได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดมัน




"ไปทำอีท่าไหนมาวะ" แทนพูด




"นั่นดิ กลับมาไว้ลายเสือแล้วหรอวะ" นายเสริมอีกเสียง ผมส่ายหน้า




"กูแอบหนีออกมา เลยต้องยุ่งยากนิดหน่อย" ผมตอบเหลือบตาไปมองนายที่มัวทำหน้าล้อเลียน




"กูก็นึกว่ามึงอยากคืนสังเวียนออกหาเหยื่อตอนกลางคืนสะอีก ว่าแต่มึงหนีใครวะ"


จะว่าไปก็ตามที่นายมันพูดแหละ เมื่อก่อนผมชอบบออกมาเที่ยวคนเดียวส่วนมากก็นั่งดื่มนี่แหละไม่ได้ไปจีบใครที่ไหนหรอกแต่นายมันไม่รู้ก็ดันนึกว่าผมมาเที่ยวผู้หญิงไปเรื่อย ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมานั่งแก้ตัวอะไรหรอกมันคิดอย่างนี้ก็ตลกดี


"บอดี้การ์ดหน่ะ" ถึงมันจะทำหน้างงเป็นคำตอบกลับมาแต่ผมก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่ม ยกแก้วที่แทนผสมให้เรียบร้อยขึ้นมาจิบ




ไอ้แทนกันฟีฟ่ายังบ่นเรื่องหน้าตาของผมไม่หยุด จนมีสาวๆเริ่มเข้ามาทำความรู้จักมานั่งด้วยเท่านั้นแหละถึงหุบปากเงียบ


"พี่ชื่ออะไรหรอคะ ทำไมกวางถามหลายรอบแล้วไม่ยอมบอกสักทีหล่ะคะ" เสียงแหลมๆที่ดังอยู่ข้างหูผมมาได้สักพักเอ่ยขึ้นแทบจะเป็นรอบที่สิบ จนผมรำคาญ เริ่มด้วยจากการที่เจ้าหล่อนเดินมาขอเบอร์ผมถึงโต๊ะกับเพื่อนอีกสองคนที่ตอนนี้นั่งอ้อล้ออยู่กับฟีฟ่า ตอนแรกผมก็ทำนิ่งไม่สนใจแต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเพราะเธอเปลี่ยนจากยืนมาเป็นทำท่าจะนั่งตักจนตอนนี้คือมานั่งเบียดอยู่ข้างๆ


"ชื่อพาย เป็นเกย์ ผัวดุมากด้วย" ในที่สุดผมก็ตัดสินใจตัดบทจบด้วยสีหน้านิ่ง แรงกอดรัดที่แขนผมชะงักนิ่งไปก่อนจะค่อยๆคลายออกท่าทางเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพื่อนผมทั้งโต๊ะนั่งอ้าปากค้างก่อนจะเป็นแทนคุณที่เริ่มขำ




ผมยังคนไม่สนใจเธอต่อไปหยิบแก้วข้างหน้าที่ตอนนี้เป็นแค่น้ำเปล่าเพราะผมนึกได้ว่าต้องขับรถกลับ นั่งฮึดฮัดอยู่สักพักเธอก็ยังไม่ยอมลุกกลับโต๊ะไปสักที


ชื่อพาย มันมีที่มานะครับ มาจาก พระพาย ชื่อจริงของผม เป็นชื่อที่ผมเอาไว้ใช้เวลาออกมาเที่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ ผมไม่ค่อยอยากให้ใครรู้จักผมเยอะเกินไปนัก แถมชื่อพายก็ดูน่ากิน เหมาะมากที่จะเอาไว้จับเหยื่อ


"ไปเข้าห้องน้ำ" พูดเสร็จผมก็ลุกแล้วเดินออกมาทันที


ผมเดินก้าวฉับไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนมาถึงห้องน้ำแล้วจัดการธุระส่วนตัว เช็คความเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาด้านนอก แต่เพราะผมยังไม่อยากกลับไปที่โต๊ะ เลยเดินตรงไปที่เคาท์เตอร์บาร์แทน สั่งน้ำเปล่ามาหนึ่งแก้ว


ก่อนนั่งมองบรรยากาศรอบร้านไปเรื่อย




จนสายตาไปเจอกับคนหนึ่งเข้า






คนตาสีฟ้า ที่เคยเจอในร้านหนังสือ


ไวกว่าความคิดเจ้าของตานั่งก็เดินดุ่มๆมายืนอยู่ข้างๆผมเสียแล้ว ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่คนตรงหน้าจะพูดทักทายผม


“ไฮครับ คุณพระพาย”




เขารู้จักผม?



 “คุณเป็นใคร”




ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนนี่ไม่น่าไว้ใจ สัญชาตญาณป้องกันตัวของผมทำงานทันที



ผมถอยห่างจากเขาอย่างไม่ปิดบัง 



“ไอเดน  คลิฟฟอร์ด”


ไม่พูดเปล่ามือนั่นยังเอื้อมมาจับผมสีดำสนิทของผม ยกมือขึ้นปัดมือนั้นออกอย่างไม่ลังเล




“มีอะไร”




แต่อีกคนดูไม่ได้ใส่ใจ ยังขยับเข้ามาใกล้จนผมทำท่าจะลุกขึ้น มือนั่นเลยยกมาจับบ่าผมและกดให้นั่งลงที่เดิม ผมขืนตัวออกแต่ก็ต้องหยุดเมื่อแรงบีบนั่เริ่มเปลี่ยนเป็นจิกไหล่ผมจนรู้สึกเจ็บ


“ผมแค่จะมาขอโทษ ที่ส่งลูกน้องไปทำร้ายคุณเมื่อคราวก่อน”




“มึง..”



“ถ้าผมรู้ว่าพระพายสวยขนาดนี้ ผมไม่ปล่อยให้ตายไปเฉยๆหรอกครับ”




ผมพูดอะไรไม่ออก อยู่ๆก็รู้สึกว่าหมดแรงเอาดื้อๆ มือของอีกคนเลื่อนมาจับที่หน้า


น้ำนั่น




แม่งเอ้ย


“แต่เสียดาย ที่มีคนจองแล้ว”  มันพูดแล้วเหลือบมองไปที่ข้อมือของผมก่อนยิ้มเหยียด


ผมโมโหจนตัวสั่นไปหมดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พยายามล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหาโทรศัพท์


“หืม คิดหรอว่าผมจะปล่อยเพื่อนคุณเข้ามาหาได้ง่ายๆหน่ะ”


ผมมองไปด้านหลังก็เห็นว่ามีคนยืนเฝ้าอยู่เป็นจุดๆ ก็ได้แต่กัดฟัน มือนั่นยังไม่ปล่อยไปจากหน้าของผม แถมพอผมยิ่งขัดขืนมันก็ยิ่งยิ้มแบบได้ใจ


ทำไมแม่งไม่มีใครสังเกตเลยวะ ผมโดนไอนี้ทำร้ายอยู่นะว้อย



“ฟ้องไอ้ซีนอนสิ มันจะได้รู้ว่าคนของมัน...กำลังทรมาณ” ยิ้มที่สะอิดสะเอียนนั่นผมอยากจะผลักออกไปให้ไกล แต่มือทีหมายจะผลักอีกคนออกนั้นกลับมีแรงแค่เพียงสะกิดไหล่อีกคนเบาๆได้เท่านั้น



“มึง”




“แจคพอตจังเลยน้า ที่พระพายรู้จักกับซีนอน ผมเลยจะได้ทั้ง AOSCO ทั้งเด็ดหัวไอ้จีโอวานี่ไปพร้อมๆกัน”


AOSCO คือบริษัทขนส่งหรือบริษัทโลจิสติกที่พ่อของผมเป็นเจ้าของ บริษัทให้บริการตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีเครดิตดีมากบริษัทหนึ่ง แถมยังมีเส้นสายในหลายๆประเทศ ทำให้การขนส่งจะไม่โดน Blacklist หรือถูกเพ่งเล็งมากนัก ตู้คอนเทนเนอร์แทบจะทุกตู้ไม่ว่าจะท่าเรือหรือสนามบินก็จะมีเครื่องหมายตราบริษัทนี้ให้เห็นอยู่ทั่วไป มันเลยกลายเป็นช่องทางที่พวกธุรกิจใต้ดินต้องการเป็นอย่างมาก พ่อผมจึงมักโดนขู่หรือblackmail ด้วยสาเหตุนี้บ่อยๆ



“ปล่อย”


ผมพูดอีกครั้งพยายามแกะมือที่มันจับหน้าผมออกแต่มันก็ยังไม่เป็นผล แถมมืออีกข้างก็ยังล้วงมาหยิบโทรศัพท์ของผมแบบหน้าตาเฉย




“เรามาดูกันดีกว่า ว่าจีโอวานี่นั่นจะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการมาช่วยพาย”


เจ้าตาฟ้าพิมพ์อะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้ม


“And…sent!  อืม งั้นเรามาหาอะไรทำฆ่าเวลากันดีไหม”


“ไม่! ปล่อย”


เหมือนเดิมคือยิ่งผมดิ้นมันก็ยิ่งเพิ่มแรงจับ จนตอนนี้คางผมระบมไปหมด ไอเดนยังมีสีหน้ายิ้มแย้มดูไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนเดิม




แต่นั่นยังไม่น่ากลัวเท่าสายตา มันเป็นสายตาที่ปกติจนเกินไปดูพอใจกับเหตุการณ์แบบนี้มากเกินไปและยิ่งผมต่อต้านหรือเจ็บเขาก็ยิ่งดูพอใจขึ้นเรื่อยๆ




ไม่ชอบคนนี้เลย สัญชาตญาณของผมมันฟ้องเต็มที่ คนๆนี่อันตราย ไม่ควรเข้าใกล้เด็ดขาด




เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนผมต้องหลับตา ลิ้นร้อนๆลากผ่านใบหูทำเอาผมขนลุก พยายามจะผลักคนตัวใหญ่นี่ออกอย่างเต็มที่ ก่อนที่ผมจะโดนกระชากเข้าตัวเขาอย่างแรง



ไอเดนโอบเอวผมพามาจนถึงห้องน้ำด้านหลัง ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น


“ไม่ต้องกลัว ผมไม่ฆ่าหรอก แค่อยากจะให้จีโอวานี่มันตกใจเล่นๆหน่ะ”


ผมโดนดันเข้าไปในห้องน้ำเล็กๆจนล้มลงไปนั่งบนชักโครก เสียงหัวเราเบาๆดังมาจากเจ้าตาฟ้า ยิ้มสะอิดสะเอียนนั่นทำให้ผมขยะแขยง บวกกับมือของมันที่เริ่มมาจับตัวผมอีกรอบ


 ผมสะบัดมือนั่นทิ้ง


มันทำท่าไม่พอใจแว้บนึงก่อนจะกลับมายิ้มเหมือนเดิม หน้าของผมโดนล็อคด้วยมือนั้นไว้อีกรอบ


"ดุได้ใจจริงๆให้ตายสิ"


ผมจ้องตามันอย่างไม่ยอม ผมไม่อ่อนแอและผมก็จะไม่ยอมโดนทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว

ตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการสะบัดหน้าออกจากมือนั่น ก่อนจะกัดข้อมือนั้นเต็มแรง

"Shit!!"


ไอ้นั้นรีบดึงมือออก ผมเห็นรอยฟันตัวเองอยู่เด่นชัดบนข้อมือนั่นส่วนในปากผมก็ได้กลิ่นคาวเลือด

'เพี้ยะ!!'

ดวงตาของมันวาวโรจน์ก่อนจะใช้มืออีกข้างตบลงมาที่หน้าผมอย่างเต็มแรง ผมหันไปตามแรงตบนั้น

ผมของผมถูกกระชากทำให้สายตาผมจ้องกลับมาที่หน้ามันที่ตอนนี้อยู่ห่างเพียงไม่กี่เซนต์

"แรงๆอย่างนี้แหละดี" ยิ้มเย็นๆนั่นยังคงฉายอยู่บนหน้านั้นตลอดเวลาและมันยิ่งทำให้ผมไม่ชอบ

'ถุด!!'

ผมถุยเลือดที่อยู่ในปากใส่เต็มแก้มของไอ้ตาฟ้าจนคิ้วของมันกระตุกก่อนที่จะสบถด่าผมเบาๆ มือใหญ่นั้นเอื้อมเช็ดคราบนั้นออกอย่างใจเย็น

"You like it hardcore baby?"

ว่าแล้วมันก็กระชากคอผมไปอีกทางก่อนจะก้มลงมาฝังเขี้ยวเข้าเต็มไหล่

"อึ่ก"  ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ

"You bite ,I bite that's sound fair"
(คุณกัดผม ,ผมกัดคุณ ก็ฟังดูยุติธรรมนะ)

ไม่พูดเปล่าลิ้นสากๆนั้นยังลากวนไปรอบแผลทำให้รู้สึกแสบ ก่อนจะไล้ขึ้นมาที่คอเรื่อยๆจนมาถึงหู

"ผมว่าผมชักจะชอบคุณขึ้นมาจริงๆแล้วหล่ะ พระพาย"

มือที่ดึงหัวผมอยู่เปลี่ยนมาบีบคอ หน้าของไอ้บ้านั่นเลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่ผมจะโดนกัดเข้าที่ปากอีกรอบ ริมฝีปากนั้นพยายามจะทาบทามลงมาผมหันหน้าหนีอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเริ่มหายใจไม่ออก แรงบีบที่คอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับริมฝีปากของผมที่ยังคงโดนบดเบียดและพยานามรุกล้ำ




ภาพเหตุการ์ณเก่าๆ ฉายเข้ามาในความคิดนั้นเริ่มทำให้ผมสั่นและความคุมตัวเองไม่ได้



ไม่



ต้องไม่เป็นอย่างนี้



รับเรื่องราวอย่างนี้ไม่ไหวอีกแล้ว



ใครก็ได้ พาผมออกไปที..









ตึงงง!!



เสียงตึงตังด้านนอกประตูห้องน้ำทำให้ไอเดนผละออก ก่อนร่างนั้นจะยกยิ้มประจำตัวที่น่าสะอิดสะเอียน

"โอ๊ะโอ หมดเวลาสนุกแล้วสิ"

เสียงเปรี้ยงดังขึ้นพร้อมประตูห้องน้ำที่กระชากออก ผมเห็นเงาที่คุ้นเคยกำลังเดินมาข้างในด้วยท่าทีโมโห ในมือของเขากำคอเสื้อผู้ชายคนหนึ่งที่เดาได้ว่าน่าจะเป็นลูกน้องของไอ้คนตาสีฟ้าคนนี้ เมื่อเข้ามาถึงในห้องน้ำร่างในมือนั่นก็โดนเหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ไยดี

ผมสบตากับเขา ดวงตาสีเฮเซลนัทที่คุ้นเคย


วินาทีนั้นทุกอย่างในใจผมก็สงบลงอย่างประหลาด



"หมอก!!"

ซีนอนร้องเรียกชื่อผมก่อนจะมองหน้าเจ้าคนตาฟ้าอย่างเอาเรื่อง ผมไม่เคยเห็นสายตาซีนอนแบบนี่มาก่อน มัน ..น่ากลัว มันเป็นสายตาที่ดูเหมือนสามารถที่จะกระชากวิญาณให้ออกจากร่างหรือแม้แต่ทำลายทุกอย่างจนเหลือแต่ซากได้

"20 นาที คุณทำให้ผมผิดหวังนะจีโอวานี่"

สันกรามของซีนอนถูกขบจนนูนอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ เช่นเดียวกับมือที่กำจนสั่น

"ไอเดน แก..!!"

"คนสำคัญของคุณ ยังมาสายขนาดนี้ ผมนี่เสียใจแทนพระพายจริงๆ"

ไม่ต้องรอให้จบประโยคดี ซีนอนก็พุงตัวเข้ามาประเคนหมัดให้จนไอเดนหน้าหัน มันยกมือขึ้นมาแตะมุมปากตัวเองที่มีเลือดซิบก่อนจะหัวเราะ



หึหึหึ



น้ำเสียงยียวนอย่างนั้นขนาดผมยังอยากเข้าไปเตะ ไม่ต้องนับซีนอนที่พร้อมจะพุ่งใส่เจ้าตาฟ้าตลอดเวลา เสียงอึกทึกข้างนอกดังอีกครั้งก่อนจะมีคนใส่สูทดำกรูเข้ามาจนเต็ม ทั้งหมดแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด



"มัวแต่เสียเวลากับผม ถ้าพระพายหลับไปจะแย่เอาน้า"



ไอเดนยังคงหัวเราะ ทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ทำให้ซีนอนมองมาหาผมอย่างร้อนรน ก่อนมันเดินออกไปแบบหน้าตาเฉยโดยที่มีลูกน้องควักปืนออกมาทางผมเป็นเชิงขู่ไว้




เมื่อไอเดนออกพ้นประตูไปแล้ว ซีนอนก็รีบถลามาหาผม ก่อนจะดึงเข้าไปกอด

"ขอโทษ หมอก ผมขอโทษ..."

เสียงพรรณนาขอโทษอย่างไม่ขาดสายจากซีนอนทำให้ผมค่อยๆฝืนยกแขนกอดตอบ คำพูดพวกนั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย มันกลับทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปเสียอีก

“อย่าขอโทษ มึงไม่ผิด”

ผิดที่ผมเองที่หนีออกมาตั้งแต่แรก ผมก้มลงเอาใบหน้าซุกกับอกแกร่ง เริ่มรู้สึกว่าร่างกายล้าไปหมด และสติที่มันเริ่มรางเลือนลงเรื่อยๆ





“พากูออกไปจากที่นี่ที”




________________________________________

มาช้าแบบไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้นค่า  :hao5:
เพื่อเป็นการขอโทษเลยตัดจบตอนแบบไม่ให้ค้างเท่าไหร่55555

ขอบคุณทุกคนและทุกความเห็นที่ติดตามนะคะ /ปลื้มใจ :-[
-ดราฟ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2017 21:09:52 โดย qDraftman »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Jinglering

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาลงชื่อติดตามค่ะ หมอกน่ารักมาก

  :pig4:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0

ออฟไลน์ qDraftman

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

9


        โมโหตัวเองเป็นบ้า ที่เจอเรื่องพวกนี้กี่ครั้งก็ไม่เคยจะจำเป็นบทเรียน ผมตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้น ของใช้ทุกอย่างที่มีในห้องนี้ไม่เป็นสีดำก็สีขาว ทั้งห้องเงียบสนิทมีเพียงเสียงแอร์เบาๆให้พอได้ยินเท่านั้น มองออกไปนอกหน้าต่างท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำสนิท ผมคงจะสติแตกไปแล้วถ้าหากที่หัวเตียงไม่มีโน้ตแผ่นหนึ่งวางไวh


‘ถ้าตื่นแล้ว กดปุ่มที่หัวเตียงเรียกนะครับ
จะไปหาภายใน 3 วิฯเลย
ซีนอน’



ผมยิ้มออกมาบางๆให้กับลายมือภาษาไทยที่เกือบจะอ่านไม่ออกนั่น แต่จะว่าๆผมแอบไม่กล้าสู้หน้าไอ้ฝรั่งนั่นได้รึเปล่าก็ไม่รู้ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ผมผิดเองเต็มๆที่หนีออกมาโดยที่ไม่ได้บอก เพราะคิดว่าจะดูแลตัวเองได้




ซึ่งมันผิด




ผมรู้สึกว่ามันเป็นความผิดของผมที่ทำให้ซีนอนต้องทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้น




ครั้งนี้เกือบไปแล้วนะพระพาย


พูดเตือนสติตัวเองในใจอีกครั้ง เผื่อมันจะช่วยให้ผมระวังตัวมากขึ้นกว่านี้ได้บ้าง


ผมอยู่ในชุดนอนผ้าซาติสีดำ ตัดกับผ้าปูเตียงสีขาวสะอาด นั่งนิ่งๆอยู่สักพักผมจึงค่อยๆลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ กล้ามเนื้อทั้งตัวรู้สึกเจ็บแปลบ โดยเฉพาะบริเวณไหล่ เดินมาจนหยุดที่หน้ากระจกก็พบว่า ปากของตัวเองแตกและมีรอยช้ำเป็นจ้ำ พอปลดเสื้อตัวเองก็เห็นว่าแผลที่ไหล่ถูกปิดด้วยผ้าก๊อซอย่างดี


เอาเถอะ


ขอแค่อย่าเป็นแผลเป็นก็พอ


ใส่เสื้อกลับตามเดิมพลางถอนหายใจ



อย่างน้อยผมก็ต้องไปขอบคุณ



เพราะไม่อยากลำบากที่ต้องเรียกให้ซีนอนเป็นฝ่ายมาหา ขาสองข้างจึงก้าวไปที่ประตูห้องนอนซึ่งเป็นจุดหมายถัดไป ประตูไม้สีดำถูกแง้มออก ผมมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครเลยตลอดระเบียงทางเดินที่ยาวหลายเมตร


บ้านหลังนี้ใหญ่พอสมควรแต่ไม่ยักกะเห็นใครสักคน ผมเดินไปเรื่อยๆกำลังจะลงไปชั้นล่าง ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายใส่สูทสามคนกำลังจะเดินขึ้นมา เมื่อพวกเขาเห็นผมทุกคนก็ดูนิ่งไปครู่หนึ่ง



“เดี๋ยว อย่าเพิ่งบอกซีนอน” ผมรีบร้องห้ามเมื่อรู้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไร และรีบเดินเข้าไปใกล้สามคนนั้น


“พาผมไปหาเขาที” ทั้งสามทำหน้าอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค้อมหัวและผายมือให้เป็นสัญญาณว่าให้เดินตาม


คนในบ้านทั้งหมดแทบจะมากระจุกกันอยู่ที่ชั้นล่าง ทั้งแม่บ้านและบอดี้การ์ดมากมายหันมามองผมตลอดทางที่เดินผ่าน นั่นทำให้ผมประหม่านิดหน่อย เพราะตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมีคนในบ้านเยอะขนาดนี้ ยิ่งตัวเองอยู่ในชุดนอนด้วยแล้ว


เดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่ด้านหน้าประตูบานหนึ่ง ที่มีบอดี้การ์ดหน้าถมึงทึงอีกสองคนยืนเฝ้าอยู่ ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าไอ้ฝรั่งต้องอยู่ในห้องนี้เป็นแน่ คนที่อยู่ด้านซ้ายเคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะได้รับอนุญาตในเวลาเดียวกับประตูไม้ที่แง้มเปิดออกมาจากข้างใน


ใบหน้าที่คุ้นเคยนั่นทำให้ผมประหลาดใจอยู่นิดหน่อย ก่อนจะยิ้มบางๆตอบรับรอยยิ้มอบอุ่นจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็น หมอ


"สวัสดีครับ"


"ตื่นแล้วหรอครับน้องหมอก" ผมพยักหน้าหงึกเบาๆพร้อมมองเข้าไปในห้อง เห็นเจย์เลนยืนอยู่ที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำอยู่นิดหน่อย ข้างๆเจย์เป็นผู้ชายอีกคนหนึ่งที่มีรูปร่างแทบจะตรงข้ามกับเจย์ ทั้งตัวใหญ่แถมหน้าก็ยังดุ แต่ทั้งสองคนไม่แม้แต่กระทั่งจะมองมาทางผม กลับยืนก้มหน้าอยู่ในห้องเงียบๆ




"มีอะไรวะหมอ" เสียงเข้มจากด้านในห้องดังขึ้น เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนตรงหน้าผม ก่อนที่ร่างนั้นจะกระเถิบออกให้คนด้านในได้เห็นแขกแบบถนัดตา


หมอไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่ดันหลังให้ผมก้าวเข้ามาข้างในแทน ไอ้ฝรั่งที่นั่งอยู่บนโต๊ะประชุมเล็กๆที่มีเอกสารวางกระจายอยู่เป็นกองพะเนินเงยหน้าขึ้นมา


“หมอก! ลงมาทำไม ไม่เรียกผมให้ไปหาล่ะครับ” หน้าไอ้ฝรั่งดูตื่นๆนิดหน่อย มือรีบพับเก็บเอกสารก่อนขายาวๆนั่นจะก้าวพรวดเดียวมาถึงตัวผม สองมือนั่นเอื้อมมาจับแขนผมแล้วเขย่าเบาๆ

“ใจเย็นได้ไหมเนี่ย” ผมพูดปรามแบบไม่ได้จริงจังนัก เจย์เลยกับอีกคนที่ยืนก้มหน้า แอบมองมากทางผมเป็นพักๆจนผมแอบเห็นยิ้มกลั้นขำจากเจย์เลน

“ราฟ เจย์ พวกนายออกไปก่อน มึงด้วยไอ้หมอ”  สามคนที่อยู่ในห้องก่อนหน้า โดนไล่ออกไปจนเหลือแค่ผมกับซีนอน หมอเซนต์ยักไหล่แบบไม่คิดอะไรก่อนปิดประตูให้เมือทุกคนออกไปแล้ว


“ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมครับ” ไม่ว่าเปล่าผมโดนคว้าหมับเข้าไปกอด ผมส่ายหน้า ซีนอนกอดผมอยู่พักหนึ่งก่อนคลายออก มือยังจับไหล่ผมไว้


“มึง..กูขอโทษนะ”


“วันหลังก็อย่าทำให้ต้องเป็นห่วงแบบนี้อีก เข้าใจไหมครับ เล่นเอาผมเกือบบ้าแหน่ะ”


ซีนอนยิ้มตอบกลับมา ผมเบาใจไปเปราะหนึ่งที่เขาไม่โกรธผม โดนพามานั่งบนเก้าอี้โต๊ะประชุมตัวเดียวกับที่อีกคนเพิ่งลุกมา  เอกสารบนโต๊ะยังคงโดนกองไว้จนแทบไม่เหลือพื้นที่ คนตัวใหญ่นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ หันหน้ามามองผม


“ขอโทษที่ไปช้า” คำขอโทษที่ทำให้ผมจ้องอีกคนตาเขม็ง


“มึงมาช่วยกูทัน..”


“นั่นแหละ ผมไม่ชอบเลย ผมไม่คิดว่าจะเป็นมัน ไอเดนอันตรายมากนะครับหมอก” เรื่อราวของไอเดนถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของซีนอน พร้อมหยิบแฟ้มบนโต๊ะเล่มหนึ่งที่ด้านในมีรูปและประวัติคร่าวๆของเจ้าตาฟ้ามาให้ผมอ่าน

ไอเดน คลิฟฟอร์ด  อายุ 32 ปี สัญชาติอังกฤษ เป็นบุคคลไม่ธรรมดาด้วยการขึ้นดำรงตำแหน่งกิจการคาสิโนและการค้าอาวุธเถื่อนตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี ไอเดนไม่มีญาติพี่น้อง ครอบครัวเขาเพียงคนเดียวคือแม่ที่มอบกิจการทั้งหมดให้ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ข่าวลือบางข่าวก็ว่าเขาเป็นคนฆ่าแม่ตัวเอง ไอเดนควบคุมคนในปกครองด้วยความหวาดกลัว เขามีชื่อเสียงในด้านความเจ้าเล่ห์และโรคจิต ในแฟ้มยังมีหัวข้อข่าวจากหนังสือพิมพ์หลายๆหัวข้อที่ต้องสงสัยว่าพัวพันกับไอเดน มีจำนวนไม่น้อยเลยที่เป็นข่าวที่เขาเคยเห็น ฉากหน้าของไอเดนคือนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางเท่านั้น มาดนักธุรกิจของมันขัดกับยิ้มเย็นที่ยังติดอยู่ในหัวผมมาก


ที่สำคัญคือไอเดนกับจีโอวานี่ซึ่งเป็นครอบครัวของซีนอนไม่ถูกกัน เนื่องด้วยทั้งเรื่องผลประโยชน์ และการทำธุรกิจในแวดวงเดียวกัน ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมามากันตั้งแต่รุ่นก่อน


“เห็นไหมครับว่ามันน่าเป็นห่วง ผมไม่รู้ว่าตอนแรกมันต้องการอะไรจากหมอก แล้วยิ่งพอมันรู้วาหมอกเป็นคนของผม ผมก็ไม่รู้ว่าต่อไปมันจะมาไม้ไหนอีก” ซีนอนจะไม่ลำบากใจเท่านี้เลยถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ไอเดน สร้อยที่เขาให้หมอกไปถ้าเป็นคนอื่นเห็นคงไม่กล้ายุ่งไปแล้ว แต่นี่มันดันเป็นไอ้หมอนั่นที่คอยจองล้างจองผลาญกันมาหลายปี ตามจริงจากรูปประโยคที่ไอเดนพูดกับผมก็พอจะเดาได้แล้วว่าเขาไม่ชอบซีนอน


คำว่า คนของผม ทำให้หน้าแอบร้อนไม่ได้ แต่ประโยคที่ซีนอนพูดมาก็ทำให้ผมต้องถอนใจยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ซีนอนฟัง ทั้งเรื่องธุรกิจของที่บ้านและเหตุการณ์ตั้งแต่เจอไอเดนครั้งแรกที่ร้านหนังสือ

ซีนอนโทษตัวเองหนักกว่าเดิมที่ไม่ระวังตัวถึงขนาดที่ศัตรูตัวเองอยู่ด้านหน้าแต่ก็ยังมองไม่เห็น บวกกับเรื่องที่เขาคิดว่าเขาไปช่วยผมช้า จนต้องเปลืองน้ำลายอธิบายไปยกใหญ่ว่าผมไม่ได้โดนทำร้านอะไรมากไปกว่าแผลที่เขาเห็น


“ห้ามโทษตัวเอง ห้ามโทษลูกน้องมึง เพราะกูหนีออกมาเองแต่แรก” ผมพูดดักคอ ซีนอนมองหน้าผมทำตาละห้อยเหมือนลูกหมาโดนทิ้ง


“ขอบคุณนะ”


รอยยิ้มที่สดใสนั่นเริ่มฉายชัดบนใบหน้า ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น แต่เหมือนอีกคนจะไม่ยอมหยุดแค่ที่ยิ้มหน้าหล่อๆนั่นเริ่มโน้มเข้ามาใกล้เรื่อย

“ลามปาม”

ผมผลักหัวนั่นออกพลางขำในใจ ซีนอนทำหน้าบูด


“อ้อ ใช่ ต่อไปนี้หมอกย้ายมาอยู่บ้านผมนะ ของใช้ส่วนตัวหมอกผมให้ลูกน้องไปขนมาแล้วจากคอนโด เวลาไปเรียนผมจะให้เจย์ไปเฝ้า แต่ทางที่ดีไม่ต้องไปมันเลยดีกว่า แล้วอีกอย่างเวลาไปไหนมาไหนต้องไปกับผมหรือมีคนติดตาม...”

 “หยุดก่อน” ผมรีบขัดประโยคที่อยู่อีกคนอยู่ๆก็พูดออกมา เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันพูดว่าอะไร ให้ผมย้ายมาอยู่ที่นี่? ต้องมีคนคอยตาม? แล้วมันจะต่างอะไรกับการที่ผมหนีพ่อมาอยู่คนเดียวเนี่ย


“ไม่อยู่ ไม่ให้ตามด้วย” ค้านเสียงแข็ง แต่ก็ได้เพียงสายตาที่ไม่ยอมเปลี่ยนใจกลับมาเหมือนกัน


“ต้องอยู่ต้องให้ตาม ผมเป็นห่วง”


“บ้านมึงคนเยอะ อีกอย่างกูไม่ชอบที่ต้องมีคนมาคอยเฝ้า” เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมง่ายๆซีนอนก็ถอนหายใจพรืด จ้องตาผมอีกรอบก่อนจะค่อยๆอธายอย่างใจเย็น


“มันไม่ใช่เวลาเอาแต่ใจนะหมอก รู้ไหมว่ามันอันตรายขนาดไหน ปกติบ้านนี้มีแค่ผมอยู่คนเดียว กับการ์ดอีกแค่ไม่กี่คน ที่วันนี้เห็นคนเยอะเพราะผมเรียกมาบรีฟเรื่องไอเดน ส่วนเรื่องคนติดตาม ยังไงผมก็ยืนยันว่าต้องมียกเว้นจะให้ผมไปคอยเฝ้าเอง”

ผมยอมแพ้ ถึงจะกอดอกทำท่าไม่พอใจอะไรต่อไปก็ดูจะไม่ได้ผล


“ได้ แต่ถ้าจะให้คนมาเฝ้าก็ขอให้อยู่เงียบๆอย่าให้กูรู้”


“น่ารักที่สุด” ครั้งนี้ผมหลบไม่ได้เลยโดนกอดเข้าไปเต็มรัก ในใจก็อยากจะบอกว่าเจ็บแผลนะ




แต่หยวนๆให้ก็ได้









________________________________________
ขอฝากไอเดนไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ555555
ตอนนี้หมอกของเรามีความสำนึกบุญคุณเลยทำตัวน่ารักขึ้นมานิดนึง(?)
ถือว่าเป็นตอนเบาๆคลายเครียดจากตอนที่แล้วเนอะ

ช่วงนี้ดราฟน่าจะมาอัพได้ประมาณอาทิตย์ละตอนค่ะ
งานเยอะหนักมาก :hao5: ดีใจที่ทุกคนชอบหมอกค่ะ  :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและทุกเม้นค่ะ อ่านเลยยิ้มตามเลย ♥
ปล.เราว่าพอตอนแต่งในwordมันก็ดูเยอะนะแต่พอเอามาลงเล้าทีไรร้สึกว่ามันสั้นๆทุกทีเลย เศร้า

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
มาต่ออีกนะครับ,,,,

ออฟไลน์ Jinglering

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ชอบบบบบบ รอตอนต่อไปคร้าบบ :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ qDraftman

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
10



Xenon





   เงียบจนไม่มีใครกล้าหายใจ น่าจะเป็นคำอธิบายที่เหมาะสมที่สุดแล้วสำหรับสถานการณ์นี้ ชายฉกรรจ์ท่าทางน่ากลัวกว่า 20 คนต่างยืนก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตาคนที่ยืนหลังตรงอยู่ด้านหน้าที่กำลังมองลงบนพื้นที่มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่


“ผมขอโทษครับนายน้อย ทั้งหมดเป็นเพราะผมเองที่ไม่ได้แจ้งเรื่องไปในทันที”


เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลไม่ได้ตอบอะไรกลับมา นั่นยิ่งทำให้บรรยากาศภายในนั้น เย็นยะเยือกลงไปอีก


“นายน้อยครับ” คนที่ได้ชื่อว่าเป็นมือซ้ายได้แต่เว้าวอน เขารู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่เมื่อคืนเขาไม่ได้ไปเฝ้าด้วยตัวเองเหมือนวันปกติเพราะมัววุ่นวายกับเรื่องด่วนที่ทางอิตาลีส่งมา แถมยังเลินเล่อไม่ได้เน้นย้ำเรื่องอีกบุคลิกหนึ่งของคุณหมอก นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาเห็นนายน้อยโมโหขนาดนี้

   ซีนอนในตอนนี้นั่นไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไร เขาต้องแสดงความเฉียบขาดต่อลูกน้อง แต่อีกใจหนึ่งก็รู้ว่ามันไม่สามารถโทษเจย์เลนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ การที่เจย์ไม่รู้ว่าหมอกหนีออกไป ไม่แย่เท่าการที่มีคนรู้แล้วนำไปบอกกับไอเดน อย่างน้อยในห้องนี้ก็มีคนที่ไว้ใจไม่ได้ เจย์เลนดูจะเป็นคนที่เข้าใจมากที่สุด จากสายตาเขาที่ต้องการให้ผมลงโทษ เขารู้ เขาจงใจพูดว่าตัวเองเป็นคนไม่ได้แจ้งเรื่อง และจะรับความผิดนั้นไว้ เพื่อไม่ให้ไอ้คนทรยศนั้นไหวตัวทัน ทั้งๆที่เจย์ก็เพิ่งรู้เรื่องที่หมอกหายไปก่อนข้อความนั่นเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

‘ผลั่ก’

เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าของเจย์เลนเป็นเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบในห้องนั้นคนตัวเล็กหน้าหันไปตามแรงตบ ปากที่แตกจนมีเลือดไหลซิบนั่นยิ้มขอบคุณออกมาบางๆ ผมกำหมัดตัวเองแน่น ไม่ได้พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมากนัก


“ราฟ จัดการต่อด้วย”


พวกลูกน้องที่อยู่ด้านหลังต่างตกใจกับการกระทำของผู้เป็นนาย พวกเขาไม่เคยเห็นซีนอนลงมือกับเจย์เลนคนที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายเอ็นดูจนเหมือนน้องชายเพราะทั้งยังเด็กและมีนิสัยตรงไปตรงมา ยอมรับว่าถึงแม้นายของพวกเขาจะไม่ได้โหดเหี้ยมถึงขนาดฆ่าคนเป็นผักปลาเท่ามาเฟียคนอื่นๆ แต่ก็มีความน่ากลัวและความเด็ดขาดอยู่เสมอ รวมถึงบรรยากาศน่าเกรงขามและไอของความเย็นชาจากบุคลิกที่นิ่งเฉยอยู่เสมอนั่น แต่น้อยครั้งที่เจ้านายของตนจะลงมือกับลูกน้องของตัวเอง อย่างมากก็คือใช้ให้ราฟจัดการ ยิ่งนี่คือเจย์เลนลูกน้องคนสนิท เจย์เลยถูกราฟพาออกไปที่ห้องด้านหลังห้องทำงานซึ่งไม่มีใครรู้ว่าห้องนั้นมีอะไร คนที่เหลืออยู่ได้แต่หน้ายืนซีดแล้วหน้าซีดอีก ในใจก็ภาวนาให้เจ้านายไม่โหดร้ายกับหัวหน้าเขานัก


“พวกนายออกไปได้แล้ว”



น้ำเสียงไล่กลายๆนั่น ทำให้บางคนแปลกใจเพราะเตรียมใจรับการลงโทษเอาไว้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ยิ่งจิตตกเข้าไปอีกเพราะไม่สามารถเดาอารมณ์ของเจ้านายตัวเองได้ พวกเขาต่างเดินออกจากห้องกันอย่างเงียบเชียบ
ผมไม่ใช่พวกใช้กำลังกับลูกน้องตัวเองถ้าไม่ใช่เหตุจำเป็น เพราะบางทีการลงโทษแบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นซ้ำดีไม่ดีอาจจะพาลให้พวกนั้นมีความรู้สึกด้านลบกับเจ้านนายอย่างเขาไปเสียอีก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะปล่อยให้พวกเขาเดินออกไปเฉยๆโดยที่ไม่ได้รับความผิด คาลตันพยักหน้ารับคำสั่งของผมโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เขาเป็นคนที่อาวุโสที่สุดในบ้านเป็นคนที่คุณปู่ของผมวางใจและให้มาช่วยผมดูแลงานที่นี่



หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนเดินไปนั่งหลังโต๊ะทำงานของตัวเอง




‘Going to fuck your bitch
@Nitro come save him Little Giovani’




ข้อความจากเบอร์ของหมอกเมื่อคืนถูกส่งมาพร้อมกับเจย์ที่โทรมาว่าหมอกหายไปจากคอนโด ผมแทบจะขว้างมือถือทิ้งรีบออกจากบ้านในใจเต็มไปด้วยความร้อนรน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใครที่ส่งข้อความมา โรคจิตแบบนี้มีอยู่คนเดียว ไอระยำไอเดน ผมรีบมากแต่มันก็ใช้เวลากว่า 20 นาทีกว่าที่ผมจะไปถึงที่นั่น มีเพียงราฟและลูกน้องอีกเพียง 4-5 คนที่อยู่ในบ้านเท่านั้นที่ออกมาพร้อมกับผม

ผมเจอหน้าไอ้คลิฟฟอร์ดนั่นยิ้มกวนประสาทก็พาลจะให้สติผมขาดผึ่ง ดูก็รู้ว่าที่มันทำแค่ตั้งใจจะปั่นประสาทผม ถ้ามันเอาจริงไม่เอาลูกน้องแค่ 7-8 คนมาให้ผมฆ่าเล่นหรอก แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่หมอก อย่างที่ผมบอกไอเดนเป็นพวกโรคจิตตัณหากลับ ชอบทรมานคนอื่นจนเรียกได้ว่าเป็นพวกซาดิสม์

   ตัวใหญ่ๆของมันบังหมอกที่นั่งเหมือนคนหมดแรงอยู่ด้านในห้องน้ำทำให้ผมใจหล่นวูบ คิดอยากจะสับไอ้ตาฟ้านี่ออกเป็นชิ้นๆ เสื้อยืดสีขาวของหมอกมีรอบเลือดซึมจางๆที่ไหล่ ผมพยายามจะเดินเข้าไป แต่ก็ต้องหยุดเมื่อ ลูกน้องของอีกฝ่ายยกปืนขึ้นมาเล็งคนนี้กำลังนอนหอบเหมดแรง ไอเดนหัวเราะก่อนจะเดินออกไปแบบไม่สะทกสะท้าน ไม่สนใจแม้แต่ลูกน้องตัวเองที่หมดสติอยู่ในห้องน้ำ หรือคนที่ลูกน้องของผมจัดการไปตั้งแต่ด้านนอก

ผมเข้าไปประคองหมอกที่ดูเหมือนใกล้จะหลับลงไปเต็มที ก่อนจะอุ้มออกมาจากที่นั่น คนในร้านมีบ้างที่จะสนใจพวกผมแต่ก็ไม่ได้มีใครกล้าเข้ามารวมถึงการ์ดของผับคนส่วนใหญ่จึงได้แต่มองอยู่ห่างๆโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไร



‘จัดการที่เหลือให้หมด’


ราฟพยักหน้ารับคำ ขณะที่ผมอุ้มหมอกให้นอนลงในรถก่อนจะขับออกมาอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางผมผมโทรหาไอ้เซนต์เพื่อให้มาดูหมอกอีกรอบจนเจ้าตัวแอบบ่นว่ามีเรื่องให้ยุ่งไม่เว้นอาทิตย์ หมอกไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแค่โดนยาคลายกล้ามเนื้อผสมกับยานอนหลับแต่ที่ทำให้ผมหงุดหงิดก็คือรอยกัดจมเขี้ยวที่ไหล่ขวานั่น



อยากเอาเลือดหัวมันออกโว้ย



ผมกดอินเตอร์คอมบนโต๊ะทำงานก่อนเรียก ราฟ เจย์ แล้วก็ไอ้เซนต์ที่ผมให้เข้าไปช่วยทำแผลให้เจย์ ทั้งสามคนออกมาจากประตูบานเดิม


“โทษทีนะเจย์” เจ้าตัวยิ้มรับดูจะไม่ได้ถือสาอะไร

“ผมเข้าใจสถานการณ์ครับ แล้วนายน้อยพอจะจับพิรุธใครได้ไหมครับ”

ผมพยักหน้า “ให้คาลตันไปดูแล้ว”

ผมย้ายตัวเองมานั่งที่โต๊ะประชุมเจย์เลนและราฟเดินขนเอกสารมากมายว่ากองไว้บนโต๊ะ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเบาะแสและประวัติต่างๆเกี่ยวกับไอเดนและข้อมูลเรื่องสายของมันที่มาแทรกซึมอยู่ฝั่งผม ไอ้หมอนั่งลงข้างๆก่อนจะเปิดอ่านเอกสารเหล่านั้นผ่านๆ

“กูว่ามันชักจะเอาใหญ่แล้วนะ วันก่อนก็ระเบิดคาสิโนมึงที่เวกัส นี่ยังมาหมอกอีก” หมอพูดสาเหตุที่ทำให้อาทิตที่แล้วผมหัวหมุนไปทั้งอาทิตย์ ทั้งบินไปกลับอิตาลี-เวกัส-ไทย แต่ยังดีที่วันนั้นไม่มีลูกค้าเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเพราะมันจงใจระเบิดแค่ส่วนด้านหลังหรือส่วนพนักงานไม่มีใครเสียชีวิตแต่ก็เจ็บกันนับสิบ

“มันยังไม่เอาจริง เหมือนเข้ามากวนประสาทมากกว่า แต่ปัญหาหนักที่สุดตอนนี้คือพวกคนทรยศ”

ผมนั่งคุยงานและเรียกบรีฟลูกน้องของผมเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยและเรื่องไอเดน ก่อนสั่งให้ลูกน้องเดินขึ้นไปเช็คอาการหมอกเพราะเห็นว่านี่ก็เกือบวันแล้ว ท้องฟ้ากลับมาดำสนิทอีกครั้ง ผมยังไม่ได้นอน ถ้าจะพูดให้ถูกทั้งอาทิตย์นี้ผมนอนรวมกันไม่ถึง 20 ชม.ด้วยซ้ำ

แต่ที่แปลกใจคือหมอกลงมาหาผมเองหน้าขาวๆนั่นยังเหลือร่องรอยความเหนื่อยล้าอยู่ชัดเจนแต่แค่ได้เห็นยิ้มบางๆนั่นก็ทำให้ผมชื้นใจเหมือนความเครียดทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นแค่เรื่องโกหก ประเด็นที่หมอกเป็นลูกชายบริษัทโลจิสติกรายใหญ่ระดับโลกนั่นไม่ได้ทำให้ผมตกใจมากนัก เพราะจากเหตุการณ์ก่อนหน้าผมก็พอจะเดาได้อยู่แล้วว่ามันต้องมีบางอย่างที่ทำให้คนอันตรายพรรคนั้นเข้ามาทำร้าย



ดื้อ



คือคำที่เหมาะจะอธิบายอากับกริยาตอนนี้ของคนตรงหน้ามากที่สุดใบหน้าคมงอง่ำไม่พอใจที่ผมจะให้มีคนคอยติดตามเขา 24 ชม. แถมยังโดนบังคับกลายๆให้หมอกมาอยู่กับผมอีก และผมมีเหตุผลนะ คนระดับไอเดนความปลอดภัยของคอนโดหมอกแค่นั้นมันไม่พอหรอก แต่สุดท้ายแล้วคนน่ารักของผมก็ยอมใจอ่อนเหมือนทุกครั้ง


“หิวไหม” ผมถามหลังจากที่นั่งตอบคำถามนู่นนี่เกี่ยวกับไอเดนให้หมอกฟังอยู่สักพัก

“ไม่ ง่วง” คนตรงหน้าตอบพร้อมทำหน้าเหมือนจะหาว ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตาเล็กน้อยทำให้หมอกยิ่งน่าหมั่นเขี้ยวจนผมอดใจไม่ไหวชิงหอมแก้มไปอีกที ก่อนจะโดนหยิกแขนกลับมาทีหนึ่งเป็ค่าตอบแทน หมอกขยี้หัวตัวเองแล้วหาวอีกรอบทำให้ผมขำ เลยอาสาเดินมาส่งหมอกจนถึงห้องซึ่งตามจริงแล้วมันก็คือห้องของผมนั่นแหละ


“ฝันดีนะครับ” แต่หมอกกลับจ้องหน้าผมเขม็งพลางขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ไม่เข้าใจว่าอีกคนคิดอะไร


“ยังไม่ได้นอนไม่ใช่หรอ” เสียงนั้นถามขึ้นมา


“อือฮึ” ผมตอบ สายตานั่นยิ่งจ้องจนปากบางๆนั่นพูดบางคำที่ทำให้ผมยิ้มไม่หุบ


“ถ้าอย่างนั้นก็ไปอาบน้ำ แล้วมานอน จะรอ”


….พระเจ้าครับ ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม….

ผมรีบอาบน้ำด้วยความรวดเร็วก่อนเปลี่ยนเป็นชุดนอน ออกมาก็พบหมอกที่ยังนั่งรอผมอาบน้ำอยู่จริงๆ เพียงแต่ตาสวยนั่นเต็มไปด้วยความง่วงผมอดไม่ได้ที่จะขำด้วยความเอ็นดู ก่อนเดินไปปิดไฟและล้มตัวนอนลงบนเตียง ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาเริ่มทำให้ผมรู้สึกง่วงแทบจะทันทีที่ได้สัมผัสกับเตียงนิ่มๆ มือคว้าร่างอีกคนเข้ามากอดแทนหมอนข้างก่อนจะก้มลงหอมผมนิ่มที่โชยกลิ่นหอมอ่อนๆประจำตัวของอีกคน หมอกส่งเสียงจิ้จ้ะนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร นอนให้ผมกอดอยู่นิ่งๆอย่างนั้น


   ความเครียดและความกังวลต่างๆนาๆหายไปจนหมดเหลือแต่บรรยากาศที่น่าซึมซับในคืนนี้ ผมไม่เคยอยู่กับใครแล้วสบายใจแบบนี้มาก่อน ทุกอย่างที่ผมทำกับหมอกออกมาโดยธรรมชาติ ไม่ต้องใส่หน้ากากหรือต้องวางฟอร์มมากมายเหมือนตอนอยู่กับคนอื่น พ่อผมยกผมให้ปู่เลี้ยงตั้งแต่เด็กทำให้ผมเป็นที่เคารพ เป็นคนที่ไม่มีใครอยากมีปัญหาด้วย จนกลายเป็นผมเองที่รู้สึกว่าคนที่เขานับถือนั้นไม่ใช่ผม แต่เป็นปู่  ปู่ของผมเป็นคนมีอำนาจ และมีชื่อเสียงในวงการใต้ดินเป็นอย่างมาก การที่ผมย้ายมาอยู่ไทยซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของแม่ผมนั้น หนึ่งก็เพื่อพิสูจน์ตนเองและทำตนเองให้เป็นที่ยอมรับโดยพึ่งพาบารมีของปู่ให้น้อยที่สุด สองก็คือการได้มาใช้ชีวิตในประเทศที่แม่ที่เสียไปตั้งแต่ผมเด็กๆของผมเติบโตขึ้นมา เขาจำได้เพียงแต่ว่าแม่ของเขาเป็นคนใจดี อ่อนโยน และรักเขามาก

   ความทรงจำวัยเด็กที่รางเลือนนั่นยังทำให้เขายิ้มได้อยู่เสมอ นึกแล้วก็อยากให้แม่ได้เห็นว่าตอนนี้มีคนหนึ่งที่ทำให้เขามีความสุขได้ไม่แพ้กัน

   “ขอบคุณอีกครั้งนะ ซีนอน” เสียงหวานดังอูอี้อยู่ที่อกทำให้ผมยิ้ม กระชับอ้อมกอดแน่น จรดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนนั่นอย่างรักใคร่
“ยินดีเสมอครับ ที่รักของผม”




________________________________________
ตอนใหม่มาแล้วค่ะ ตอนนี้แอบรีบมาลงหน่อยนึงเลยอาจจะมีคำผิดอยู่บ้าง
ตอนต่อไปน่าจะมาประมาน วันที่ 15-16 ค่ะ จะพยายามไม่ให้เกินวันที่ 17
เนื่องจากติดโปรเจต/สอบ
ขอบคุณทุกการติดตามทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าเลยค่ะ กอดด  :กอด1:
เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ Readyaoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ Jinglering

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ qDraftman

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0


11






   เขาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง อาจเป็นเพราะเมื่อวานหลับไปเกือบทั้งวัน แถมยังเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ต่างกับคนที่นอนอยู่ข้างๆที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น  ความเหนื่อยล้าทั้งหมดของผมหายไปแล้วจะเหลือก็แต่แผลที่ไหล่ที่ยังติดจะปวดๆอยู่นิดหน่อย ส่วนแผลที่โดนแทงครั้งแรกตอนนี้แห้งดีแล้ว ผมค่อยๆขยับตัวลุกจากเตียงเพราะเกรงว่าคนตัวใหญ่จะตื่น ก่อนเดินตรงไปที่หน้าต่างระเบียงกว้างที่สุดในสุดของของ
   

   ลมเย็นๆกับท้องฟ้าสีอมส้มที่แสดงให้เห็นว่ายามเช้าใกล้เข้ามาทุกที ผมมองภาพนั้นอย่างหลงใหล นานเท่าไหร่แล้วที่รอบตัวไม่ได้เงียบอย่างนี้ ทิ้งตัวลงนั่งแล้วหลับตาพริ้มเพื่อซึมซับบรรยากาศ รอบรั้วบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องมลพิษ กระทั่งเสียงรบกวนจากภายนอกก็แทบไม่ได้ยินเพราะตัวบ้านอยู่ลึก ถือได้ว่านับตั้งแต่เรื่องวุ่นวายมานี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับความสงบที่ตัวเองชอบ


...ถ้าหยุดเวลาได้ก็ดี


   เขารู้ตัวว่าตอนนี้เรื่องราวมันชักจะใหญ่จนเกินกำลังของตัวเองไปแล้ว จากที่คิดว่าเป็นเรื่องต่อยตีธรรมดาทั่วไปกลายเป็นแก๊งค์มาเฟียข้ามชาติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขาถูกไอเดนหมายหัวตั้งแต่ยังไม่รู้จักกับซีนอน คิดภาพไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าผมไม่ได้มารู้จักกับเขาวันนี้ตัวเองจะเป็นยังไง อาจจะตายไปแล้วก็ได้ คิดแล้วก็ขำกับชีวิตตัวเอง เขา คนที่ต้องการวิ่งหนีเรื่องวุ่นวายให้ได้มากที่สุด กลับต้องเจอเรื่องวุ่นวายตลอกเวลา

   ควันสีขาวประจำตัวลอยฟุ้งไปในอากาศ ก่อนจะต้องหยุดกึกเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ชิบหาย ลืมเพื่อนไปเลย

   คิดได้อย่างนั้นผมก็เลยรีบดับบุหรี่ในมือแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน มองหาโทรศัพท์ของตัวเองที่น่าจะอยู่ในห้องนี้ ซึ่งมันก็วางอยู่ข้างหัวนอนเลยด้วยซ้ำไป ผมรีบกดดูโทรศัพท์ก็พบว่ามันดับสนิท แบตคงจะหมด ได้แต่ถอนใจเพราะสายชาร์ตก็ไม่รู้ว่าจะหาได้จากที่ไหน


“ตื่นนานแล้วหรอครับ” เสียงัวเงียดังขึ้นมาจากบนเตียง ตัวใหญ่ๆนั่นเริ่มมุดออกมาจากผ้าห่มก่อนจะจัดแจงตัวเองให้นั่งพิงหัวเตียง ผมที่ติดจะฟูนิดหน่อยเพราะเพิ่งตื่นไม่ได้ดูน่าเกลียดตรงกันข้ามผมคิดว่ามันออกจะน่ารักดีด้วยซ้ำ

“ทำให้ตื่นหรอ” ตาสีอ่อนมองมาสบก่อนที่จะตอบออกมากยิ้มๆ

“อืม ได้กลิ่นอะ”

“บุหรี่หรอ โทษที” ผมตอบยกแขนเสื้อตัวเองขึ้นมาดม

“ไม่เหม็นนะ หอม” ไม่ว่าเปล่าซีนอนยังคว้าแขนผมไปดมเสียจนเสียงดังฟึดฟัด

“มากด้วย” ไอ้ฝรั่งยิ้มยิงฟันจนน่าหมั่นไส้ผมเลยได้แต่ตบหัวเบาๆไปหนึ่งทีแก้อาการสะดีดสะดิ้งจนเกินเหตุของอีกคน


“รีบตื่นทำไม ยังไม่เจ็ดโมงเลย”

“ก็มันหนาวอะ ไม่มีคนให้กอดอุ่นๆ” ผมขำ ลองนึกภาพคนตัวใหญ่ๆทำท่าทางหนาวสั่นอย่างกับตัวเองเป็นลูกนกอย่างนี้ แล้วอยู่ๆไอ้ซีนอนก็จับผมเหวี่ยง เน้นนะว่าเหวี่ยงไม่ใช่ดึง จนผมล้มลงไปนอนบนเตียงตามเดิม ส่วนไอ้ตัวดีก็ทำเป็นนอนยิ้มอยู่ข้างๆ

“มามะๆ ขอป๋าปล้ำหน่อย” ว่าเสร็จมือไม้ก็เริ่มมาป้วนเปี้ยนรอบตัวผมตามเสต็บผมแสร้งทำหน้าเบื่อๆแล้วผลักหัวคนน่าหมั่นไส้ไปอีกหนึ่งที

“ทะลึ่ง อยู่นิ่งๆบ้างเหอะ” คนที่ควรจะสลดก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรอย่างเคย จัดแจงเอาหัวใหญ่ๆของตัวเองมานอนเกยที่ตักผมเฉย ซีนอนคงไม่รู้สึกอะไรกับการปั้นหน้าดุของผมไปแล้วสินะถึงได้นอนหลับตาหัวเราะสบายใจอยู่อย่างนี้ อือ..จะว่าไปผมอาบน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เนี่ย ดีที่ผมไม่ใช่คนมีกลิ่นตัวแต่ยังไงได้อาบน้ำมันต้องดีกว่านี้แน่ๆ คิดแล้วก็พาลจะเหนียวตัว

“อยากอาบน้ำอะ” ผมร้องเรียกคนที่นอนอยู่ ผมรู้ว่าซีนอนไม่ได้หลับแต่อีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีจะตอบสนองคำพูดของผมตรงกันข้ามยังซุกเข้ามาที่หน้าท้องผม พร้อมพูดเสียงอู้อี้พอให้จับใจความได้ว่า ‘ขออีกสิบนาที’ ผมไม่ได้ว่าอะไรแต่จำเป็นต้องจับหัวยุ่งๆนั่นให้ขยับออกห่าง ‘ตรงนั้น’ ป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ซีนอนหัวเราะหึหึแต่ก็ไม่ได้ขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม ผมทิ้งตัวนั่งพิงหัวเตียง สิบกว่านาทีที่ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรแต่ก็ไม่ได้ทำให้อึดอัด เหมือนทั้งสองคนได้ดื่มด่ำกับความเงียบที่ชวนผ่อนคลายนี้

“อ่า..” สำเนียงแปร่งเป็นฝ่ายทำลายความสงบนั่นก่อน ตาสีน้ำตาลที่เป็นเอกลักษณ์นั่นมองขึ้นมาสบกับตาสีดำของผม พร้อมกับคลี่ยิ้มอ่อนโยนประจำตัว ซีนอนดีดตัวลุกขึ้นนั่ง

“ปะ อาบน้ำกัน อ่า จริงสิ” ประโยคแรกซีนอนพูดกับผมส่วนคำหลังเหมือนพึมพำกับตัวเองก่อนเอื้อมตัวไปคุ้ยของบางอย่างในลิ้นชัก ก่อนหยิบกล่องปฐมพยาบาลเล็กๆออกมากล่องหนึ่ง

“ล้างแผล แล้วก็เปลี่ยนเป็นพลาสเตอร์กันน้ำก่อน”  นั่งมองอีกคนที่ดูกำลังง่วนกับการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆนาๆ ผมยิ้มในใจก่อนตั้งใจจะถอดเสื้อรอให้อีกคนทำแผลให้ ซีนอนก็เหมือนจะรู้ดีเงยหน้าขึ้นมามองตอนที่ผมกำลังจะปลดกระดุมเสื้อพอดี ผมยักคิ้วบวกกับยิ้มกวนไปให้ แอบรู้สึกหนาวนิดหน่อยเพราะในห้องยังเปิดแอร์เย็นเฉียบเลยได้แต่นั่งกอดอกรอให้ซีนอนทำแผลให้
   สัมผัสเย็นๆเมื่อมือหนานั่นค่อยๆลอกผ้ากอซอันเก่าออกทำให้ผมสะดุ้งเบาๆ แต่ไอ้ฝรั่งคงเข้าใจว่าผมเจ็บ เลยกลายเป็นค่อยๆทำช้าๆเข้าไปอีก ผมแทบจะไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบอะไรเลยเพราะแผลนี้แห้งเร็วกว่ามาก แต่รอบๆยังมีรอยช้ำเป็นจ้ำม่วงๆให้เห็นอยู่ ล้างแผลเสร็จซีนอนก็ค่อยๆบรรจงแปะพลาสเตอร์ขนาดกำลังดีลงบนไหล่ของผมแตะดูความเรียบร้อยอีกสองสามทีก็ถือเป็นอันเสร็จ

“เออใช่ อยากได้ที่ชาร์ตโทรศัพท์อะ แบตหมด”

จบคำซีนอนก็หยิบสายชาร์ตที่อยู่ในลิ้นชักหัวเตียงอันเดิมพร้อมจัดการเสียบชาร์ตให้เสร็จสรรพ ก่อนจะเอื้อมมาดึงมือผมให้ลุกขึ้นเดินตามไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนหยิบเสื้อยืดสำดำกับกางเกง sweatpants ที่ดูใส่สบายยื่นมาให้

“แต่ชั้นในไม่มีให้ยืมนะครับน่าจะคนละไซส์” ไอ้ฝรั่งพูดขำๆผมได้แต่ถลึงตาไปให้จนเจ้าตัวต้องเสริมทีหลังว่ากำลังให้ลูกน้องไปเอาของใช้ส่วนตัวของผมมาให้ น่าจะได้ไม่เกินเย็นนี้ระหว่างนี้ก็ต้องยอมใส่แบบโล่งๆไปก่อน สุดท้ายที่ส่งมาคือผ้าเช็ดตัว

“ไม่มีทาง” ผมพูดดักก่อนที่อีกคนจะพูดประโยคที่ผมก็รู้ว่าอะไร รีบชิงเดินเข้าห้องน้ำพร้อมล็อคประตู ได้ยินเสียงหัวเราะดังเข้ามาแว่วๆ ผมรีบจัดการทำธุระส่วนตัวจนเสร็จบวกกับแต่งตัวจนเรียบร้อยเหลือก็แต่ผมที่ยังไม่แห้งดี เปิดประตูห้องออกมาก็เจอกับไอ้ฝรั่งที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาข้างเตียง ก่อนจะลุกและเดินเข้าห้องน้ำบ้างและยังบอกผมว่าให้รอมันก่อนจะได้ลงไปกินข้าวพร้อมกัน
   ผมจัดแจงหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมที่ยังชื้นของตัวเอง อยู่ๆก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาแบบตะหงิดๆโดยที่ไม่มีสาเหตุ ตอนนี้เวลาราวแปดโมงครึ่งท้องฟ้าข้างนอกสว่างดีแล้วได้ยินเสียงคนคุยกับเบาๆดังมาจากด้านล่างคิดว่าน่าจะเป็นบรรดาลูกน้องของไอ้เจ้าพ่อฝรั่งนี่ เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกทำให้ผมหันไปมองก็เห็นว่ามีคน ‘จงใจ’ เดินอาดๆนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาตัวก็ไม่ยอมเช็ดให้แห้ง

คงคิดว่าเซ็กซี่มากมั้ง


ผมส่ายหัวใช่ว่ามันจะดูไม่ดีนะแต่ติดที่มันดูน่าหมั่นไส้มากกว่า ซีนอนทำหน้าบูดที่ผมไม่ยอมเล่นด้วย

“ไม่คิดจะสนใจหน่อยหรอ”

“รีบๆแต่งตัวเถอะ”  ผมแกล้งไม่หันไปมองปิดไดร์เพราะผมแห้งแล้วก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ก็เห็นว่าแบตขึ้นมาประมาน30%แล้ว พร้อมข้อความมากมายทั้งจากนาย ฟีฟ่า แทน ซัน คนละไม่ต่ำกว่าสิบข้อความทั้งนั้น รวมถึงจำนวนสายที่ไม่ได้รับอีกเป็นร้อย และ 1 ในนั้นก็มีเบอร์คุณพันนทีพ่อของผมอีกประมาณ 10 สาย ผมถอนหายใจ ที่รู้สึกไม่ดีเพราะอย่างนี้เองสินะ ผมรีบส่งข้อความตอบกลับทุกคนว่าตัวเองปลอดภัยดี

“อย่าทำหน้าเครียดสิครับ ไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า” หันไปตามเสียงก็เห็นว่าซีนอนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่เจ้าตัวดันอยู่ในชุดเหมือนพร้อมที่จะออกไปทำงานอย่างไงอย่างนั้น

“ลูกน้องเยอะแยะก็ต้องแต่งตัวแบบนี้แหละ” ผมพยักหน้ารับเมื่ออีกคนตอบรับข้อสงสัยของผม ก่อนจะเดินตามออกจากห้อง ชั้นสองยังคงเงียบเชียบไร้วี่แววผู้คนเหมือนเคย ต่างกับเสียงคุยจอแจที่ดังเบาๆมาจากชั้นล่าง ลงบันไดมาก็พบกับบรรดาชายโฉดกับแม่บ้านอีก เกือบสิบคนยืนรออยู่เป็นแถว ถ้ามองบนตอนนี้จะโดนคนในบ้านหมั่นไส้ไหมครับ ก็ดูสิมายืนรับกันอย่างกับว่าใครจะเสด็จ

   แต่จะยังไงก็เถอะครับผมก็ได้แต่เดินตามมาเงียบๆแบบไม่มีปากไม่มีเสียงจนมาถึงโต๊ะทานข้าว ที่มีอาหารประมาณ 4 อย่างวางอยู่กับข้าวสวยร้อนๆชวนให้เริ่มหิวขึ้นมานิดๆ เมื่อจัดแจงทุกอย่างจนเสร็จทุกคนก็ออกจากห้องไปทิ้งให้เหลือแต่ซีนอนกับผมเหมือนเดิม

“พรุ่งนี้จะไปเรียนไหมครับ”

“ไป หยุดบ่อยแล้ว”

“ไปส่งนะ”

“เอาสิ”

   จะปฏิเสธไปทำไมในเมื่อไม่ว่ายังไงมันก็ต้องให้มีคนไปรับไปส่งผมอยู่ดีตามที่ตกลงกันไว้

“แต่ขอรถธรรมดาๆพอนะ”


‘ครืด...’

หน้าจอโทรศัพท์ส่องแสงวาบก่อจะโชว์เบอร์คุณพ่อบังเกิดเกล้าเป็นสายที่โทรเข้า ผมใช้เวลาสามวิในการเตรียมตัวก่อนรับโทรศัพท์

“ครับ”

‘พระพาย ทำไมหนูติดต่อยากขนาดนี้ล่ะ’ เสียงบ่นลอยมาตามสายอย่างที่ผมคิดไว้นึกภาพออกเลยว่าตอนนี้พ่อกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่

“ขอโทษครับ พอดีผมยุ่งๆ”

‘เราเคยตกลงกันไว้แล้วนี่ว่าลูกต้องติดต่อกลับมาทุกวัน อย่างน้อยก็ต้องมีสักข้อความ’ นี่คือข้อตกลงที่พ่อยอมให้ผมบินกลับมาอยู่ไทยคนเดียวติดต่อไปอย่างน้อยวันละ1ครั้ง

“ก็ผมลืมอะ มันยุ่งจริงๆนะ”
‘ไม่รู้หละ ตอนนี้พ่ออยู่บ้านที่กรุงเทพมาหาด้วย’

“ห๊ะ! อยู่บ้าน มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

‘เครื่องลงเมื่อเช้า ให้เวลาชั่วโมงนึงพ่อต้องเห็นหน้าหนูที่บ้าน’ พูดจบคุณพันนทีก็ตัดสายหนีไม่รอให้ลูกได้ตอบปฏิเสธ เงยหน้ามองซีนอนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่แต่ผมรู้ว่าเขาได้ยินแต่แค่ไม่อยากเสียมารยาท

“พ่อมาไทย ต้องไปหา” ผมสรุปสั้นๆให้อีกคนฟัง

“ครับ เดี๋ยวพาไป กินข้าวให้เสร็จก่อนนะ”

   คิดแล้วก็พาลจะปวดหัว ไม่น่าเลยไอ้หมอก ถามว่าทำไมถึงต้องเครียดขนาดนี้เดี๋ยวก็คงได้รู้เมื่อตอนเจอพ่อผม แล้วจะได้เห็นว่าคนบ้านนี้มันเป็นยังไง นี่ผมต้องเตรียมโดนกอดโดนหอมจนช้ำ แถมยังต้องนั่งฟังคุณพันนทีบ่นจนก้นจมลงไปในพื้นเลยแน่ๆ




________________________________________



ตอนนี้หมอกเรียบร้อยแปลกๆนะ55555
เพิ่งมีเวลาว่างมาต่อค่ะ ขอโทษที่มาช้านะ
ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ ตามอ่านกันเรื่อยๆนะ  :pig4: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ PKT

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คุณพ่อแลดูน่ารัก

ออฟไลน์ maekkun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ถ้าเจอกันจะเป็นยังไงนะ???

ออฟไลน์ Jinglering

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด