8
ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันนั้นนี่ก็ล่วงเลยมาเกินอาทิตย์นึงแล้ว ไอ้ฝรั่งที่หายหัวไปตั้งแต่หลังวันที่เกิดเรื่องยังหายเงียบจนน่าหงุดหงิด มีแค่ข้อความที่ส่งมาบอกว่าธุรกิจของมันมีปัญหา ช่วงนี้ไม่ว่างเท่านั้น
ตอนนี้ผมกำลังลงจากดูคาติคู่ใจ (ducati monster 1200R) เพื่อเดินเข้าไปในสถานที่อโคจรสุดหรูแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพ ที่เพื่อนๆผมโทรจิกจนผมต้องออกมาตามคำเรียกร้องเนื่องในโอกาสฉลองวันเกิดย้อนหลังให้นาย
วันก่อนผมให้หนังสือมันไปแล้วครับ แน่นอนว่ามันดีใจจนแทบจะกระโดดขี่คอผม
กว่าผมจะหลบพวกลูกน้องของไอ้ซีนอนที่เฝ้าอยู่ด้านล่างคอนโดได้ก็ต้องใช้ความสามารถอยู่พอสมควร
คิดแล้วก็ขำ
ไม่รู้ว่าคนในคอนโดจะกลัวพวกบอดี้การ์ดนั่นกันขนาดไหน
ผมเดินถือหมวกกันน็อคสีดำสนิทเหมือนตัวรถเข้ามาในร้านก่อนจะเดินก้าวยาวๆไปหาพวกนายที่นั่งกันอยู่ก่อนแล้วจัดแจงนั่งลงบนโซฟาโค้งตัวใหญ่ก่อนวงหมวกของตัวเองลงบนโต๊ะ
“นายหล่ะ?” ผมถาม
“เอ่อ..ห้องน้ำ ครับ?” ฟีฟ่าตอบผมงงๆก่อนจะหน้าแดง
“ว่าแต่ นี่ใครอะครับ เพื่อนไอ้นายหรอ” คำถามมันแทบจะทำให้ผมหลุดขำ ฟีฟ่าหน้าแดงยิ่งกว่าเก่า จะว่าไปพวกมันยังไม่เคยเห็นผมแต่งตัวอย่างนี้นี่หว่า
ร่างโปร่งวันนี้อยู่ในเสื้อยืดสีขาวล้วนคอกว้างเข้ารูปสีขาวทับด้วยแจ็คเก๊ตหนังสีดำ กับกางเกงสกินนี่สีเดียวกัน รอยขาดที่กางเกงไม่มากไม่น้อยกำลังดูดีบวกด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาว แต่ที่ทำให้ฟีฟ่าจำไม่ได้มากที่สุดน่าจะเป็นหน้าคมที่ตอนนี้เส้นผมนุ่มสีดำสนิทถูกเซทอย่างเป็นธรรมชาติตาที่มันควรจะเป็นไม่มีทรงรังนกมาบังให้รำคาญตา บริเวณคิ้วและใบหูมีจิวแบบต่างๆประดับ
“ก็ใช่นะ” ผมตอบบวกกลั้นขำ แทนคุณยังนั่ง งงๆเอ๋อๆมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้าดูท่าไอ้ห่านี่ก็จะจำผมไม่ได้เหมือนกัน ซันที่ดูเพิ่งได้ที่สุดวันนี้ก็ดันไม่ว่าง
“หมอกมึงก็ไปแกล้งมัน” ผมหันไปยิ้มให้นายที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนมันจะเดินมานั่งที่ฝั่งตรงข้าม ฟีฟ่ากับแทนมองผมกับไอ่นายสลับกันงงๆ
"เอ้า งงห่าไร ก็เนี่ยไอ้หมอก" ไม่พูดเปล่ามันยังชี้มือชี้ไม้มาที่ผมส่วนผมก็ได้แต่แอบเสียดายที่ไม่ได้แกล้งต่อ หันไปยักคิ้วให้สองคนที่ยังงง
พอมันเริ่มรู้เรื่องก็เริ่มมองมาที่ผมแบบไม่เชื่อสายตา
"ไอ้เหี้ย บทมันอยู่ๆจะหล่อแม่งก็หล่อว้อย ไปแดกอะไรผิดสำแดงมารึไง" ผมไม่ได้ตอบฟีฟ่าได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดมัน
"ไปทำอีท่าไหนมาวะ" แทนพูด
"นั่นดิ กลับมาไว้ลายเสือแล้วหรอวะ" นายเสริมอีกเสียง ผมส่ายหน้า
"กูแอบหนีออกมา เลยต้องยุ่งยากนิดหน่อย" ผมตอบเหลือบตาไปมองนายที่มัวทำหน้าล้อเลียน
"กูก็นึกว่ามึงอยากคืนสังเวียนออกหาเหยื่อตอนกลางคืนสะอีก ว่าแต่มึงหนีใครวะ"
จะว่าไปก็ตามที่นายมันพูดแหละ เมื่อก่อนผมชอบบออกมาเที่ยวคนเดียวส่วนมากก็นั่งดื่มนี่แหละไม่ได้ไปจีบใครที่ไหนหรอกแต่นายมันไม่รู้ก็ดันนึกว่าผมมาเที่ยวผู้หญิงไปเรื่อย ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมานั่งแก้ตัวอะไรหรอกมันคิดอย่างนี้ก็ตลกดี
"บอดี้การ์ดหน่ะ" ถึงมันจะทำหน้างงเป็นคำตอบกลับมาแต่ผมก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่ม ยกแก้วที่แทนผสมให้เรียบร้อยขึ้นมาจิบ
ไอ้แทนกันฟีฟ่ายังบ่นเรื่องหน้าตาของผมไม่หยุด จนมีสาวๆเริ่มเข้ามาทำความรู้จักมานั่งด้วยเท่านั้นแหละถึงหุบปากเงียบ
"พี่ชื่ออะไรหรอคะ ทำไมกวางถามหลายรอบแล้วไม่ยอมบอกสักทีหล่ะคะ" เสียงแหลมๆที่ดังอยู่ข้างหูผมมาได้สักพักเอ่ยขึ้นแทบจะเป็นรอบที่สิบ จนผมรำคาญ เริ่มด้วยจากการที่เจ้าหล่อนเดินมาขอเบอร์ผมถึงโต๊ะกับเพื่อนอีกสองคนที่ตอนนี้นั่งอ้อล้ออยู่กับฟีฟ่า ตอนแรกผมก็ทำนิ่งไม่สนใจแต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเพราะเธอเปลี่ยนจากยืนมาเป็นทำท่าจะนั่งตักจนตอนนี้คือมานั่งเบียดอยู่ข้างๆ
"ชื่อพาย เป็นเกย์ ผัวดุมากด้วย" ในที่สุดผมก็ตัดสินใจตัดบทจบด้วยสีหน้านิ่ง แรงกอดรัดที่แขนผมชะงักนิ่งไปก่อนจะค่อยๆคลายออกท่าทางเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพื่อนผมทั้งโต๊ะนั่งอ้าปากค้างก่อนจะเป็นแทนคุณที่เริ่มขำ
ผมยังคนไม่สนใจเธอต่อไปหยิบแก้วข้างหน้าที่ตอนนี้เป็นแค่น้ำเปล่าเพราะผมนึกได้ว่าต้องขับรถกลับ นั่งฮึดฮัดอยู่สักพักเธอก็ยังไม่ยอมลุกกลับโต๊ะไปสักที
ชื่อพาย มันมีที่มานะครับ มาจาก พระพาย ชื่อจริงของผม เป็นชื่อที่ผมเอาไว้ใช้เวลาออกมาเที่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ ผมไม่ค่อยอยากให้ใครรู้จักผมเยอะเกินไปนัก แถมชื่อพายก็ดูน่ากิน เหมาะมากที่จะเอาไว้จับเหยื่อ
"ไปเข้าห้องน้ำ" พูดเสร็จผมก็ลุกแล้วเดินออกมาทันที
ผมเดินก้าวฉับไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนมาถึงห้องน้ำแล้วจัดการธุระส่วนตัว เช็คความเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาด้านนอก แต่เพราะผมยังไม่อยากกลับไปที่โต๊ะ เลยเดินตรงไปที่เคาท์เตอร์บาร์แทน สั่งน้ำเปล่ามาหนึ่งแก้ว
ก่อนนั่งมองบรรยากาศรอบร้านไปเรื่อย
จนสายตาไปเจอกับคนหนึ่งเข้า
คนตาสีฟ้า ที่เคยเจอในร้านหนังสือ
ไวกว่าความคิดเจ้าของตานั่งก็เดินดุ่มๆมายืนอยู่ข้างๆผมเสียแล้ว ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่คนตรงหน้าจะพูดทักทายผม
“ไฮครับ คุณพระพาย”
เขารู้จักผม?
“คุณเป็นใคร”
ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนนี่ไม่น่าไว้ใจ สัญชาตญาณป้องกันตัวของผมทำงานทันที
ผมถอยห่างจากเขาอย่างไม่ปิดบัง
“ไอเดน คลิฟฟอร์ด”
ไม่พูดเปล่ามือนั่นยังเอื้อมมาจับผมสีดำสนิทของผม ยกมือขึ้นปัดมือนั้นออกอย่างไม่ลังเล
“มีอะไร”
แต่อีกคนดูไม่ได้ใส่ใจ ยังขยับเข้ามาใกล้จนผมทำท่าจะลุกขึ้น มือนั่นเลยยกมาจับบ่าผมและกดให้นั่งลงที่เดิม ผมขืนตัวออกแต่ก็ต้องหยุดเมื่อแรงบีบนั่เริ่มเปลี่ยนเป็นจิกไหล่ผมจนรู้สึกเจ็บ
“ผมแค่จะมาขอโทษ ที่ส่งลูกน้องไปทำร้ายคุณเมื่อคราวก่อน”
“มึง..”
“ถ้าผมรู้ว่าพระพายสวยขนาดนี้ ผมไม่ปล่อยให้ตายไปเฉยๆหรอกครับ”
ผมพูดอะไรไม่ออก อยู่ๆก็รู้สึกว่าหมดแรงเอาดื้อๆ มือของอีกคนเลื่อนมาจับที่หน้า
น้ำนั่น
แม่งเอ้ย
“แต่เสียดาย ที่มีคนจองแล้ว” มันพูดแล้วเหลือบมองไปที่ข้อมือของผมก่อนยิ้มเหยียด
ผมโมโหจนตัวสั่นไปหมดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พยายามล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหาโทรศัพท์
“หืม คิดหรอว่าผมจะปล่อยเพื่อนคุณเข้ามาหาได้ง่ายๆหน่ะ”
ผมมองไปด้านหลังก็เห็นว่ามีคนยืนเฝ้าอยู่เป็นจุดๆ ก็ได้แต่กัดฟัน มือนั่นยังไม่ปล่อยไปจากหน้าของผม แถมพอผมยิ่งขัดขืนมันก็ยิ่งยิ้มแบบได้ใจ
ทำไมแม่งไม่มีใครสังเกตเลยวะ ผมโดนไอนี้ทำร้ายอยู่นะว้อย
“ฟ้องไอ้ซีนอนสิ มันจะได้รู้ว่าคนของมัน...กำลังทรมาณ” ยิ้มที่สะอิดสะเอียนนั่นผมอยากจะผลักออกไปให้ไกล แต่มือทีหมายจะผลักอีกคนออกนั้นกลับมีแรงแค่เพียงสะกิดไหล่อีกคนเบาๆได้เท่านั้น
“มึง”
“แจคพอตจังเลยน้า ที่พระพายรู้จักกับซีนอน ผมเลยจะได้ทั้ง AOSCO ทั้งเด็ดหัวไอ้จีโอวานี่ไปพร้อมๆกัน”
AOSCO คือบริษัทขนส่งหรือบริษัทโลจิสติกที่พ่อของผมเป็นเจ้าของ บริษัทให้บริการตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีเครดิตดีมากบริษัทหนึ่ง แถมยังมีเส้นสายในหลายๆประเทศ ทำให้การขนส่งจะไม่โดน Blacklist หรือถูกเพ่งเล็งมากนัก ตู้คอนเทนเนอร์แทบจะทุกตู้ไม่ว่าจะท่าเรือหรือสนามบินก็จะมีเครื่องหมายตราบริษัทนี้ให้เห็นอยู่ทั่วไป มันเลยกลายเป็นช่องทางที่พวกธุรกิจใต้ดินต้องการเป็นอย่างมาก พ่อผมจึงมักโดนขู่หรือblackmail ด้วยสาเหตุนี้บ่อยๆ
“ปล่อย”
ผมพูดอีกครั้งพยายามแกะมือที่มันจับหน้าผมออกแต่มันก็ยังไม่เป็นผล แถมมืออีกข้างก็ยังล้วงมาหยิบโทรศัพท์ของผมแบบหน้าตาเฉย
“เรามาดูกันดีกว่า ว่าจีโอวานี่นั่นจะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการมาช่วยพาย”
เจ้าตาฟ้าพิมพ์อะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้ม
“And…sent! อืม งั้นเรามาหาอะไรทำฆ่าเวลากันดีไหม”
“ไม่! ปล่อย”
เหมือนเดิมคือยิ่งผมดิ้นมันก็ยิ่งเพิ่มแรงจับ จนตอนนี้คางผมระบมไปหมด ไอเดนยังมีสีหน้ายิ้มแย้มดูไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนเดิม
แต่นั่นยังไม่น่ากลัวเท่าสายตา มันเป็นสายตาที่ปกติจนเกินไปดูพอใจกับเหตุการณ์แบบนี้มากเกินไปและยิ่งผมต่อต้านหรือเจ็บเขาก็ยิ่งดูพอใจขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ชอบคนนี้เลย สัญชาตญาณของผมมันฟ้องเต็มที่ คนๆนี่อันตราย ไม่ควรเข้าใกล้เด็ดขาด
เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนผมต้องหลับตา ลิ้นร้อนๆลากผ่านใบหูทำเอาผมขนลุก พยายามจะผลักคนตัวใหญ่นี่ออกอย่างเต็มที่ ก่อนที่ผมจะโดนกระชากเข้าตัวเขาอย่างแรง
ไอเดนโอบเอวผมพามาจนถึงห้องน้ำด้านหลัง ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ไม่ต้องกลัว ผมไม่ฆ่าหรอก แค่อยากจะให้จีโอวานี่มันตกใจเล่นๆหน่ะ”
ผมโดนดันเข้าไปในห้องน้ำเล็กๆจนล้มลงไปนั่งบนชักโครก เสียงหัวเราเบาๆดังมาจากเจ้าตาฟ้า ยิ้มสะอิดสะเอียนนั่นทำให้ผมขยะแขยง บวกกับมือของมันที่เริ่มมาจับตัวผมอีกรอบ
ผมสะบัดมือนั่นทิ้ง
มันทำท่าไม่พอใจแว้บนึงก่อนจะกลับมายิ้มเหมือนเดิม หน้าของผมโดนล็อคด้วยมือนั้นไว้อีกรอบ
"ดุได้ใจจริงๆให้ตายสิ"
ผมจ้องตามันอย่างไม่ยอม ผมไม่อ่อนแอและผมก็จะไม่ยอมโดนทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว
ตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการสะบัดหน้าออกจากมือนั่น ก่อนจะกัดข้อมือนั้นเต็มแรง
"Shit!!"
ไอ้นั้นรีบดึงมือออก ผมเห็นรอยฟันตัวเองอยู่เด่นชัดบนข้อมือนั่นส่วนในปากผมก็ได้กลิ่นคาวเลือด
'เพี้ยะ!!'
ดวงตาของมันวาวโรจน์ก่อนจะใช้มืออีกข้างตบลงมาที่หน้าผมอย่างเต็มแรง ผมหันไปตามแรงตบนั้น
ผมของผมถูกกระชากทำให้สายตาผมจ้องกลับมาที่หน้ามันที่ตอนนี้อยู่ห่างเพียงไม่กี่เซนต์
"แรงๆอย่างนี้แหละดี" ยิ้มเย็นๆนั่นยังคงฉายอยู่บนหน้านั้นตลอดเวลาและมันยิ่งทำให้ผมไม่ชอบ
'ถุด!!'
ผมถุยเลือดที่อยู่ในปากใส่เต็มแก้มของไอ้ตาฟ้าจนคิ้วของมันกระตุกก่อนที่จะสบถด่าผมเบาๆ มือใหญ่นั้นเอื้อมเช็ดคราบนั้นออกอย่างใจเย็น
"You like it hardcore baby?"
ว่าแล้วมันก็กระชากคอผมไปอีกทางก่อนจะก้มลงมาฝังเขี้ยวเข้าเต็มไหล่
"อึ่ก" ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ
"You bite ,I bite that's sound fair"
(คุณกัดผม ,ผมกัดคุณ ก็ฟังดูยุติธรรมนะ)
ไม่พูดเปล่าลิ้นสากๆนั้นยังลากวนไปรอบแผลทำให้รู้สึกแสบ ก่อนจะไล้ขึ้นมาที่คอเรื่อยๆจนมาถึงหู
"ผมว่าผมชักจะชอบคุณขึ้นมาจริงๆแล้วหล่ะ พระพาย"
มือที่ดึงหัวผมอยู่เปลี่ยนมาบีบคอ หน้าของไอ้บ้านั่นเลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่ผมจะโดนกัดเข้าที่ปากอีกรอบ ริมฝีปากนั้นพยายามจะทาบทามลงมาผมหันหน้าหนีอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเริ่มหายใจไม่ออก แรงบีบที่คอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับริมฝีปากของผมที่ยังคงโดนบดเบียดและพยานามรุกล้ำ
ภาพเหตุการ์ณเก่าๆ ฉายเข้ามาในความคิดนั้นเริ่มทำให้ผมสั่นและความคุมตัวเองไม่ได้
ไม่
ต้องไม่เป็นอย่างนี้
รับเรื่องราวอย่างนี้ไม่ไหวอีกแล้ว
ใครก็ได้ พาผมออกไปที..
ตึงงง!!
เสียงตึงตังด้านนอกประตูห้องน้ำทำให้ไอเดนผละออก ก่อนร่างนั้นจะยกยิ้มประจำตัวที่น่าสะอิดสะเอียน
"โอ๊ะโอ หมดเวลาสนุกแล้วสิ"
เสียงเปรี้ยงดังขึ้นพร้อมประตูห้องน้ำที่กระชากออก ผมเห็นเงาที่คุ้นเคยกำลังเดินมาข้างในด้วยท่าทีโมโห ในมือของเขากำคอเสื้อผู้ชายคนหนึ่งที่เดาได้ว่าน่าจะเป็นลูกน้องของไอ้คนตาสีฟ้าคนนี้ เมื่อเข้ามาถึงในห้องน้ำร่างในมือนั่นก็โดนเหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ไยดี
ผมสบตากับเขา ดวงตาสีเฮเซลนัทที่คุ้นเคย
วินาทีนั้นทุกอย่างในใจผมก็สงบลงอย่างประหลาด
"หมอก!!"
ซีนอนร้องเรียกชื่อผมก่อนจะมองหน้าเจ้าคนตาฟ้าอย่างเอาเรื่อง ผมไม่เคยเห็นสายตาซีนอนแบบนี่มาก่อน มัน ..น่ากลัว มันเป็นสายตาที่ดูเหมือนสามารถที่จะกระชากวิญาณให้ออกจากร่างหรือแม้แต่ทำลายทุกอย่างจนเหลือแต่ซากได้
"20 นาที คุณทำให้ผมผิดหวังนะจีโอวานี่"
สันกรามของซีนอนถูกขบจนนูนอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ เช่นเดียวกับมือที่กำจนสั่น
"ไอเดน แก..!!"
"คนสำคัญของคุณ ยังมาสายขนาดนี้ ผมนี่เสียใจแทนพระพายจริงๆ"
ไม่ต้องรอให้จบประโยคดี ซีนอนก็พุงตัวเข้ามาประเคนหมัดให้จนไอเดนหน้าหัน มันยกมือขึ้นมาแตะมุมปากตัวเองที่มีเลือดซิบก่อนจะหัวเราะ
หึหึหึ
น้ำเสียงยียวนอย่างนั้นขนาดผมยังอยากเข้าไปเตะ ไม่ต้องนับซีนอนที่พร้อมจะพุ่งใส่เจ้าตาฟ้าตลอดเวลา เสียงอึกทึกข้างนอกดังอีกครั้งก่อนจะมีคนใส่สูทดำกรูเข้ามาจนเต็ม ทั้งหมดแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด
"มัวแต่เสียเวลากับผม ถ้าพระพายหลับไปจะแย่เอาน้า"
ไอเดนยังคงหัวเราะ ทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ทำให้ซีนอนมองมาหาผมอย่างร้อนรน ก่อนมันเดินออกไปแบบหน้าตาเฉยโดยที่มีลูกน้องควักปืนออกมาทางผมเป็นเชิงขู่ไว้
เมื่อไอเดนออกพ้นประตูไปแล้ว ซีนอนก็รีบถลามาหาผม ก่อนจะดึงเข้าไปกอด
"ขอโทษ หมอก ผมขอโทษ..."
เสียงพรรณนาขอโทษอย่างไม่ขาดสายจากซีนอนทำให้ผมค่อยๆฝืนยกแขนกอดตอบ คำพูดพวกนั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย มันกลับทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปเสียอีก
“อย่าขอโทษ มึงไม่ผิด”
ผิดที่ผมเองที่หนีออกมาตั้งแต่แรก ผมก้มลงเอาใบหน้าซุกกับอกแกร่ง เริ่มรู้สึกว่าร่างกายล้าไปหมด และสติที่มันเริ่มรางเลือนลงเรื่อยๆ
“พากูออกไปจากที่นี่ที”
________________________________________
มาช้าแบบไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้นค่า
เพื่อเป็นการขอโทษเลยตัดจบตอนแบบไม่ให้ค้างเท่าไหร่55555
ขอบคุณทุกคนและทุกความเห็นที่ติดตามนะคะ /ปลื้มใจ
-ดราฟ